จับยายผีป่ายัดคุก...ซุกยาบ้าใต้ผ้าห่ม

ทองผาภูมิ เมื่อเวลาประมาณตีสองใกล้รุ่งของวันนี้ (๒๔ ธ.ค. ๒๕๕๑) เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิเศษได้ทำการตั้งด่านสะกัดตรวจจับชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและตรวจค้นการลักลอบขนส่งยาเสพติด ณ จุดตรวจแยกทองผาภูมิ-สังขละบุรี

ช่วงเวลาโพล้เพล้เช่นนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมกับการลักลอบขนส่งชาวต่างด้าวและยาเสพติด

จากการที่สายรายงานมาว่า จะมีรถปิคอัพติดประทุนสีดำขับมุ่งหน้าเพื่อมุ่งไปทางวัดท่าขนุน รถคันนี้มักเลี้ยวเข้าวัดท่าขนุนเป็นประจำ ทำให้ผิดสังเกตุว่าทุกครั้งที่เข้าออกมักมีการบรรทุกสิ่งต้องสงสัยมากมาย

เมื่อเป็นที่สงสัยของทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่จึงเฝ้ารอเจาะจงตรวจค้นรถคันดังกล่าว

พบว่า

 

รถต้องสงสัยสีดำติดประทุน ได้เลี้ยวผ่านสัญญาณไฟเขียวมาที่ตั้งของจุดสะกัด เจ้าหน้าที่ทำการแสดงตนและขอตรวจค้น พบในรถมีหญิงสาววัยกลางคน สวมชุดคล้ายทหารพรานหญิงเป็น คนขับ และภายในรถไม่มีผู้โดยสารมาด้วย มีเพียงสัมภาระระเกะระกะเต็มที่นั่งข้างๆ และเบาะเสริมข้างหลังคนขับ อีกทั้งเมื่อขอตรวจข้างหลังกระบะที่ปิดประทุนไว้ มีสัมภาระมากมาย เจ้าหน้าที่รื้อค้นทีละอย่าง ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง หญิงสาวคนขับผู้ต้องสงสัยรายนี้ ได้ชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ว่า ดิฉันกำลังจะไปวัดท่าขนุนเพื่อสมทบกับขบวนของเพื่อนๆ ชาวเวบพลังจิต.คอม ที่จะเดินทางมาเพื่อไปท่องป่าบึงน้ำทิพย์(ลับแล) เช้านี้ ที่อยู่ท้ายรถนั้น มีข้าวของที่จะมาทำบุญและเป็นเสบียงในการเดินทาง

เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจค้นต่อตามหน้าที่ เมื่อไม่พบสิ่งผิดกฏหมายอย่างที่คาดหวังว่าจะเจอนั้น ก็ทำการขอโทษและขอบคุณหญิงสาวที่ให้การร่วมมือเป็นอย่างดี

หญิงสาวกล่าวอวยพรเจ้าหน้าที่พร้อมเดินขึ้นรถเพื่อเตรียมขับออกไป ขณะที่ก้าวขึ้นรถนั้นอากาศเย็น หญิงสาวรายนี้จึงสบัดผ้าหุ่มข้างเบาะมาห่ม ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ก็ทำการขออนุญาตจับกุมเพราะพบว่ามียาบ้าหนึ่งเม็ดหล่นมาจากผ้าห่ม

หญิงสาวทำสีหน้าไม่ยอมรับว่าเป็นของตน แต่ด้วยจำนนต่อหลักฐาน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปให้สอบสวนและควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

อ่าวว ทำไมเปนแบบนั้นไปได้ ><

 

อ้าวยายผีป่าโดนจับซะแล้ว สงสัยโดนตำรวจยัดยาบ้าแล้วมั้ง

 

ผู้ต้องหาให้การว่า

ตนมีครอบครัวอยู่ที่ทองผาภูมิ และเป็นคนชอบทำบุญเพราะเคยทำบาปมานับไม่ถ้วน ไม่อยากจะเป็นคนบาปไปตลอดชีพ จึงมุ่งเน้นเปลี่ยนนิสัยมาทำตัวให้ดีขึ้น เรื่องยาบ้านี่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นของตน อาจเกิดการเข้าใจผิดหรือมีการแอบซุกเพื่อให้ตนเสื่อมเสีย หากอยากรู้ว่าตนตั้งใจทำดีมานานแล้ว ให้เข้าไปดูการตอบกระทู้ต่างๆ ของตนที่เวบพลังจิต.คอม อันเป็นที่รู้ดีว่าตนนั้นใช้ชื่อในเวบว่า ยายผีป่า

เจ้าหน้าที่ไม่สนใจที่จะตามเข้าไปดูในเวบ เพราะว่าไม่ใช่เหตุนำมาอ้าง จึงสั่งจำคุกที่สถานีตำรวจทองผาภูมิเพื่อรอการพิจารณาคดีชั้นศาลต่อไป

เวลา ๓.๓๐ น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดต่อให้ญาติของผู้ต้องหามาทำการประกันตัว แต่ไม่มีใครมาประกัน โดยสามีที่ผู้ต้องหาอ้างว่าอยู่กินด้วยกันมานานกว่าสิบปี มีลูกสาวด้วยกัน ๔ คน ก็รับรู้ว่าภรรยาโดนจองจำ แต่ปฏิเสธการมาประกันตัว อ้างว่าติดเลี้ยงวัวสองตัวและมีนัด

เมื่อผู้ต้องหารู้ว่าสามีและญาติไม่มาประกันตัวก็บอกว่า ดิฉันยินดีรับใช้กรรม แต่เมื่อใดที่ดิฉันพ้นโทษได้ ดิฉันจะนำคนที่ทำให้ดิฉันได้รับโทษครั้งนี้มารับโทษต่อไป

แต่ในอีกต่อมาไม่นาน ผู้ต้องหาก็ได้รับการประกันตัวออกมา แต่ยังคงอยู่ในการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อป้องกันการหลบหนี ผู้ที่มาประกันตัวออกไปไม่ขอระบุฉายาเนื่องจากอยู่ในเพศบรรพชิต ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการลงบันทึกประจำวันไว้

 

เพิ่มข้อหายายผีป่า นักบุญจอมเดือดเชือดคอผัวยัดท่อ!

เจ้าหน้าที่ตำรวจทองผาภูมิได้รับแจ้งจากผู้พบเหตุว่า ได้มีการฆาตรกรรมอำพรางที่บ้านเลขที่ ๒๙/๙ หมู่ ๖ ตำบลหินดาด อำเภอทองผมภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ขณะที่แจ้งนี้ ฆาตรกรเลือดเย็นได้ยืนรอการมาจับกุมของเจ้าหน้าที่อย่างละม่อม

 

คนไทยขณะนี้จิตใจย่ำแย่ไม่ค่อยอยู่ในร่องรอยเท่าไหร่ครับ คนที่บ้านลุงจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว นอนแล้วด้วย ได้ยินเสียงแมวมันทะเลาะกันหน้าบ้าน อุตส่าห์ลงมาไล่มัน เลยโดนกัดเสียเลือดพล่านเลย เวรกรรมไม๊ละ นอนเสียก็แล้วกันไป เรื่องของแมว ใช่เรื่องของตัวเสียเมื่อไหร่ เรื่องแปลกๆใหม่ๆเกิดขึ้นได้เสมอๆภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงเก่าๆดวงนี้ขอรับ สาธุ สาธุ

 

แหง่ว
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ถ้าโดนตร.ตรวจยาบ้า โดยตรวจค้นสิ่งของในรถ
เมื่อเค้าตรวจเสร็จ อย่าแตะต้องสิ่งของของเราที่ตร.เค้าได้ตรวจในทันที
ให้ 'ทำเนียน' ขับรถจากมาอย่างสงบ จนพ้นด่าน
แล้วให้หาที่จอดเหมาะๆ ปลอดภัย ไม่แนะนำให้ขับต่อไปถึงบ้าน เพราะอาจจะเจอด่านถัดไป

จากนั้น ลงมือค้นของของเราที่เค้าได้แตะต้องตรวจค้น ถ้าโชคดี(ประสงค์ร้าย)
เราจะพบ... สิ่งที่ตร.เฝ้าใฝ่หามานาน...

คำถาม คือ เราควรจะโยนมันทิ้งเดี๋ยวนี้หรือเก็บมันไว้เป็นที่ระทึกต่อไปดี

ถ้าเราเก็บมันไว้เป็นที่ระทึก
เมื่อเราขับรถมาเรื่อยๆ เจอตร.ตั้งด่านถัดไป อีก ขอตรวจค้นอีกครั้ง
เนื่องจากตร.ด่านที่แล้ว ว.มา ว่าให้ตรวจอีกที เพราะยังไม่หายสงสัย
คาดว่า เขาคงได้ตรวจพบ สิ่งที่เค้าเฝ้าใฝ่หามานาน... สมดังใจปอง
และขอตั้งข้อหาเรา ตามหลักฐานที่ได้พบ

หรือ ถ้าเราเลือกโยนมันทิ้งระหว่างทาง
เมื่อเราขับรถมาเรื่อยๆ เจอตร.ตั้งด่านถัดไป อีก ขอตรวจค้นอีกครั้ง
เนื่องจากตร.ด่านที่แล้ว ว.มา ว่าให้ตรวจอีกที เพราะยังไม่หายสงสัย
แต่เมื่อตร.ตรวจยังไงก็ไม่เจอสิ่งที่ต้องการ
สุดท้าย ตร.มาสารภาพว่า ด่านที่แล้ว ได้ ว.มา ว่า
ได้เผลอลืมของกลางที่ตรวจจับได้จากรถคันที่แล้วไว้ในรถเรา
แต่ตรวจไม่พบในรถเรา ดังนั้น นี่มันหมายความว่าไงฟระ!?
ตร.เค้าจึงเชิญเราไปตรวจฉี่ม่วง ....

 

เจ้าหน้าที่รุดไปยังที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา พบชาวบ้านยืนมุงที่หน้าบ้านหลังใหญ่สองชั้น จึงได้แหวกฝูงชนที่รุมประชาทัณฑ์ด้วยการปาก้อนหินใส่หญิงสาวผู้ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการเชือดคอสามีตนแล้วพยายามลากศพไปยัดท่อหลังบ้านเพื่ออำพราง
เมื่อเจ้าหน้าที่ผ่าวงล้อมชาวบ้านได้ก็พบว่าเป็นผู้ต้องขังที่เพิ่งผ่านการประกันตัวออกมาเมื่อเช้าตรู่วันนี้นี่เอง ชาวบ้านได้จับกุมด้วยการเอาแหครอบร่างกายฆาตรกรไว้ เนื่องด้วยชาวบ้านละแวกนี้เชื่อว่า เธอมีเวทมนต์ดำสามารถมีพละกำลังฆ่าผัวและลากผัวได้อย่างง่ายดาย
จึงเกรงว่าเธอจะใช้วิชาอาคมเขมรทำการล่องหนหนีไป
เจ้าหน้าที่จึงให้ชาวบ้านช่วยกันเอาเชือกมามัดล้อมแหให้แน่นเหมือนมัมมี่เหลือเพียงช่องให้หายใจได้เท่านั้น และเมื่อตรวจสอบบริเวณท่อระบายสิ่งปฏิกูลหลังบ้านที่เกดิเหตุแล้ว พบศพชายไทยร่างสันทัดผิวสีแดงดำวัยประมาณสามสิบปี นอนคอห้อยต๋องแต๋งหัวทิ่มลงบ่อ
เอวพาดเกยขอบท่อซีเมนต์ กลิ่นเลือดคลุ้งเหม็นปะปนกับกลิ่นสิ่งปฏิกูล ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำการบันทึกภาพและดึงศพออกมาเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพต่อไป
เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิพิทักกาญจน์ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คุ้นเคยกับผู้ตายดี เพราะเมื่อไม่นานมานี้ผู้ตายเพิ่งไปบวชหนึ่งพรรษาที่วัดท่าขนุน และเป็นคนอัธยาศัยดี แต่ก็เคยมีปรารภกับโยมและพระเณรที่วัดเช่นกันว่า อยากบวชตลอดชีวิตเพราะเบื่อเมีย

 

ยังไม่จบใช่มั้ยรออ่านอยู่น่าสนใจจัง

 

ยายผีป่า แกจะมาไม้ไหนเนี่ย

 

เมื่อนำตัว ยายผีป่า ฆาตรกรที่อ้างว่าเป็นนักบุญตัวจริงเสียงจริง มาทำการสอบสวน ว่าเหตุใดเมื่อได้รับการประกันตัวแล้วจึงไปก่อเหตุอุกฉกรรจ์อีกและโดยเฉพาะผู้ที่เธอฆ่านั้นคือสามีที่รักของเธอนั่นเอง
ยายผีป่าให้การว่า เมื่อกลับไปถึงบ้าน ด้วยความอ่อนเพลียจึงไม่ปลุกสามี แต่ขึ้นไปนอนที่ห้องพระชั้นบน เมื่อนอนได้สักพัก ได้ยินเสียงสามีคุยกับคนหนึ่งข้างล่าง เป็นเสียงผู้หญิงหัวเราะต่อกระซิกและเมื่อตนย่องลงมาเงี่ยหูฟัง ห้องนั้นเป็นห้องนอนของตนกับลูก
ทำให้เธอมีความรู้สึกว่า สามีเธอสวมเขาให้แล้ว แต่จากการปฏิบัติอบรมจิตมาเธอจึงสงบจิตใจได้ง่าย มองว่ามันเกิดขึ้นแล้ว มันเป็นไปแล้ว เขาเลือกที่จะเป็นเช่นนั้นเราห้ามไม่ได้แล้ว เราต้องมีสติ เจ้าหน้าที่จึงถามว่าเมื่อคุมสติได้ทำไมจึงฆ่าสามี ยายผีป่าจึงเล่าต่อว่า
เมื่อจะเดินออกมาเพื่อนอนต่อก็ได้ยินเสียงสามีพูดว่า ให้มันติดคุกได้นั่นแหละดี ยาบ้าที่โดนจับได้ ผมเอาไปซุกเอง ตอนแรกผมรับปากจะขับรถให้แต่ว่าทำเป็นเปลี่ยนใจขอเลี้ยงลูก นังนี่มันเชื่อคนง่ายโดยเฉพาะมีงานบุญที่ไหน มันไปคนเดียวก็ได้ สายก็ไม่ยอม ผมเองที่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจรถคันนี้
นี่เองที่เป็นเหตุให้ยายผีป่าเเดินเข้าไปห้องครัว หยิบเอายาพ่นกันยุงมาหนึ่งกระป๋อง และเดินไปหยิบกุญแจมาล๊อคหน้าห้องนอนเพื่อไม่ให้สองคนออกมาจากห้องได้ เธอรู้ว่าลูกจะไม่ได้รับอันตราย เพาะก่อนออกจากบ้านไปนั้นได้เอาลูกไปฝากไว้กับญาติแล้ว เมื่อค่อยๆ ย่องล๊อคประตูก็อ้อมออมาหน้าบ้านซึ่งมีหน้าต่างบานเกร็ดเผยอไว้เล็กน้อย
ตนจึงทำการพ่นยาฆ่าแมลงลอดผ่านทางช่องบานเกร็ด เมื่อผู้อยู่ในห้องได้กลิ่นยาฆ่าแมลงหันมาพบตน ตนจึงเอาปืนพก .๓๘ คู่ชีพจ่อทะลุบานเกร็ดและมุ้งลวดยิงไม่ยั้ง ทำให้กระสุนไปโดนหญิงสาวชู้รักของสามีตนล้มไปโดยไม่มีเสียงร้องโหยหวนใดๆ ทั้งสิ้น สามีตกใจพยายามที่จะวิ่งหนีทางประตูแต่ประตูโดนล๊อค จึงหันมาอ้อนวอนตนให้ไว้ชีวิตเพื่อเห็นแก่ลูก
ตนเห็นว่าการจะยิงให้ตายนัดเดียวนั้นมันไม่ทำให้เขามองเห็นกรรมที่เขาทำกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของลูก จึงได้พ่นยาฆ่าแมลงเพิ่มปริมาณ แม้ผู้ตายจะพยายามเอาผ้าห่มมาปิดปากจมูกแต่ก็ไม่สามารถทนการขาดอากาศได้นาน จึงโผล่หน้ามาหายใจ ทำให้สูดสารพิษเข้าไปได้มากขึ้น เกิดอาการหน้ามืดและเป็นลมล้มตึงไป ตนจึงรอให้สารพิษลดปริมาตรลงจึงเดินไปในบ้านและเปิดห้องนอน
ก่อนจะทำการเชือดคอสามี เจ้าพนักงานสอบสวนถามว่าทำไมจึงพบศพเพียงคนเดียว ศพหญิงสาวที่โดนยิงนั้นไปไหน ได้คำตอบว่า หายไปแล้ว เพราะเป็นผีของแฟนเก่าสามีที่โดนรถชนตายเมื่อก่อนที่จะได้กินอยู่กับสามี
ช่วงที่สามีบวชพระได้แผ่เมตตาไปให้จึงมีฤทธิ์เดช ปรากฏกายได้ยามราตรีบ้างบางเวลา และกระสุนที่ยิงนั้นร่ายมนต์กำกับ จึงปราบได้ผเพียงสามนัด
ฆาตรกรยอมให้เจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าห้องขังเพื่อรอการพิจารณาคดีโดยไม่ขอประกันตัวอีก แต่ก่อนจะเข้าห้องขังนั้น ฆาตรกรได้ตื่นเสียก่อน จึงได้รู้ว่า นี่คือความฝัน เมื่อยังเห็นสามีนอนกรนและลูกน้อยพลิกตัวไปมาข้างๆ

 

จบจ้า...ที่ต้องจบเพราะว่า..กลัวผู้อ่านต๊กกะจัยหัวใจวายเพราะห่วงยายผีป่าคิดว่าโดนจับเจงๆจ๊ะ

ช่วยผู้คว่ำหวอดทำนายฝันให้ด้วยจ้า

 

-*- นึกว่าเรื่องจริง อินไปด้วยเลย

 

นึกว่ายายฝีป่าแย่แล้ววววว

ที่ไหนได้ -*-

 

กินน้อยไปหน่อย

ธาตุเลยปรวนแปร ฝันตุตะ

ฝันนี้ มีความหมายในทางกึ่งกลับ

อันที่จริงจะมีเหตุให้ประสบ แต่จะพลิกภายหลัง

คนที่ร้ายจะกลับเข้าใจดีขึ้นภายหลัง

ทุกอย่างมาจากใจตนที่คิดไปก่อน

เรายังไม่หลุดพ้น ก็ยังมีสิ่งที่คิดผิดทางไปได้เหมือนกัน

เหตุจะเกิดในเวลาอันใกล้นี้

 

เข้าข่าย "เพ้อเจ้อ" หรือเปล่าครับ

 

เราก็ลุ้นตั้งนาน เฮ้อ เหนื่อยเลย

 

ช่างฝันไปด้าย...

 

แหะๆ...ยายผีป่าฝันเป็นเรื่องเป็นราว ชาวบ้านต๊กกะจัยอย่างว่าแหละน๊อ


มานึกลองย้อนไปดูเราแล้วทำให้เห็นว่า

จิตใจสำนึกของเรานั้นมันโดนกดไว้ เราเป็นนักปฏิบัติ เราฝึกจิตให้รู้เท่าทันอารมณ์ เรามองโลกอย่างที่มันเป็น แต่จากสิ่งที่มันซ่อนเร้นที่เราทำเหมือนมันไม่สำคัญ เหมือนลืมไปไม่แยแส มันจะเป็นตัวทดสอบอารมณ์เรา ฝันนั้นในความเป็นจริงมันไม่เหมือนกัน แต่ที่ต้องฆ่านั้นเพราะมันเหมือนกับว่าเราไม่เก็บไม่กดมันอีกต่อไป ให้เอาสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ มาพิจารณาให้มันดับไป