รออยู่ตั้งนาน ว่า จะมีใคร ยกถามไหม
เขาเรียกว่า " นานัตสัญญา "
นานัตสัญญา นั้น จะมีกิจ ทำให้ล่วงรูปสัญญา การล่วงรูปสัญญาคือ
เกิดการกระทบแต่ไม่ทันให้ค่าก็ปล่อยแล่นไปรู้รูปอื่นๆ
ทำให้เบลอ คล้ายๆ เห็นตัวทั่วพร้อม สำคัญว่า เป็น สักแต่ว่า แล้ว
คิดว่าตรงนี้เป็น "ธรรมะ"
นานัตสัญญา จะเกิด ตรงข้ามกับ เพ่งรูป (รูปปานํ อตินิชฌายิตัตตะ)
ทั้งสอง มีหน้าที่ ตัดกำลังจิต ทำให้ตกจาก สมาธิ
คนบางคนเจอเข้า ก็เลยคิดว่า อ๋อ เป็นทางมั้ง สุดท้ายต้องกลับมาอยู่
กับโลก พิจารณาต่อไม่ได้ ไปต่อไม่เป็น ก็เลยมาทำตัวเป็น จรจัด
อยู่แถวๆ นี้
วิธีภาวนาให้เป็น สัมมาปฏิบัติ ให้กำหนดรู้ สภาพธรรม นานัตตสัญญา
ว่ามันเกิดขึ้น เป็นของลวง ทำให้ตกจาก สัมมาสมาธิ
ต้องระวัง การเห็น " นานัตตสัญญา " แล้วไปยกเป็นอาการจิต ไม่ใส่
ใจ หากไปทำอย่างนั้นเข้า จะยิ่งหลงทาง จะอ้อมไปไกลมาก แก้ยาก
เข้าไปใหญ่
จะเห็นว่า แม้แต่ไอ้ตัวที่สาม ที่ได้จากการ เปรียบเทียบ ก้อนทุกข์
กับ ก้อนแข็ง แล้ว เออะอะว่า มันมีอีกตัวมั้ง เดาสุ่มส่งสวดไปเนี่ยะ
ไม่รอด กองสัญญาขันธ์เลย นะเว้ยเฮ้ย !! สัญญาล้วนๆ ไอ้สักแต่
ว่าขี้หมูขี้หมาเนี่ยะ
*********
หากสังเกตเป็น ตรงนี้จะเห็นเลยว่า ยังยก อุทัพยญาณ ยังไม่ได้เลย
ยังใช้ ตรรกศาตร์ คลำ ทางอยู่ หากพ้นตรงนี้ไปได้ จะเลิกถามว่า
มันเรียกว่า อะไรครับ แทบจะไม่ต้องฟัง ธรรมนอกตัวอีก
จิตคิดหรือจิตกับอารมณ์ตามที่เห็นมา
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ได้คับ, 8 เมษายน 2013.
หน้า 2 ของ 4
-
ธรรมะ มีอีกเยอะ ที่ เขายังเก็บๆ การกล่าวเอาไว้ เฉพาะ ยามที่น่าจะเกิดประโยชน์
ธรรมะ ก๊อปปี้ ก็งี้แหละ งง ต้องกลับไป ปรับผังล้มเจ้า ใหม่แล้วหละ
" นานัตตสัญญา " วิแคะให้ตาย ก็ไม่รู้เรื่องหรอก หากไม่มี วิหารธรรมใดๆ
ที่ประกอบอยู่ไม่วางเว้น
วิชาในโลก มาตันตรงนี้แหละ เจอนานัตสัญญา เข้าไป งง ไม่สามารถ
จะบรรยายออกมาได้ มันเกือบจะพ้น ตรรกศาตร์ ความเป็น วัตถุจับ
ต้องได้ เต็มทน แต่ก็จัดว่า เป็นของเศษเดนอยู่ ยังเป็นสิ่งที่ทำให้
ติดข้องในโลก
พอตันมากๆ ก็โน้น ไปคว้า คุณค่า(โอมมะปรัชญาฯ ) สำคัญว่าเป็นการพิจารณาเวทนา
หรือไม่ก็ไปคว้า ตรรกศาตร์ วิทยาศาสตร์ สำคัญว่าเป็นการพิจารณกาย
กาย ยังมีอีกตั้งเยอะ ให้พินา แค่นั้น มันเด็กๆ
สุกขวิปัสโก เนี่ยะ เขาพิจารณาได้ครบ ฐีติวิญญาณ เห็นกายทุกชนิดแหละ
แต่ จรจัด ธรรมะตัดแปะ สุดท้ายก็ต้อง กีดกัน เข้าว่า ไม่สามารถแจกแจงอะไรได้ -
-
-
ลองสังเกตเลยนะ
สักแต่ว่า หรือ หมดความคิด หมดกริยาปรุงแต่ง อะไรนั่น มันเข้าไปรู้
แล้วแต่เวลาออกมามันจะ " ว่างเปล่า " ไม่ให้ ดวงปัญญาอะไรเลย
นอกจากการ ปักใจเชื่อ
ที่นี้ ถ้าจะสังเกตุ สักแต่ว่า หมดกริยาปรุงแต่ง อะไรนั้น ดูยังไง ก็ขอ
แนะนำว่า ให้ดูตอนที่จะกล่าวธรรมะ
ร้อยละร้อย จะต้อง กระเดิดอัตตา กูรู้ กูเก่ง กำเริบกลับเข้ามาก่อน
แต่ขอโทษ มันจะว่างเปล่าอยู่ดี แล้วต่อไปทำไง ก็ โน้นแหละ ไป
คว้าปรัชญาบ้าง วิทยาศาตร์บ้าง ตรรกศาสตร์บ้าง ซึ่งทั้งหมดคือการ
หวลไปหา คำพูด หรือ ขี้ปากเก่าๆ ที่เคยผ่านตา เอามายก เอามาอม
เข้าปากไปเป็นของตน
เนี่ยะ หาก สักแต่ว่า ที่มันเป็นของจริง เป็นไปไม่ได้หลอก ที่จะกล่าว
ธรรมออกมาจากจิตของตนไม่ได้ ธรรมะตัดแปะ ธรรมะที่ต้องอาศัย
การกล่าวตามคนอื่น สัญญาล้วนๆ มันกุมจิตอยู่ ดูให้ทัน ดูไปตรงๆ
มันจะทุกข์ใจมาก แต่ ดีกว่า เอาความวิปลาสในกองสัญญา มาท่วมทับจิต
สักแต่ว่า ที่รู้เท่าเอาทัน นานัตตสัญญา จะได้อะไร จะได้ วิสังขาร
หากเมื่อไหร่ได้ วิสังขาร ธรรมที่เรียกชื่อไม่ได้ แต่ บรรยายออกมาได้
ว่าเห็นอะไร สักแต่ว่า ของแท้หนะ มันส์กว่า ไปเที่ยวหากระโถนมาอมตั้งเยอะ -
แล้วยังไงคือ เข้าไปรู้แล้ว ให้ดวงปัญญาล่ะท่าน แจกแจง เป็นธรรมทานหน่อย . -
แล้วต้องไม่ประมาท ถ้าประมาท จะเนิ่นช้า ทันทีเลยนะ
บอกละนะ
.................
" รู้ "
.................
จบ
**************
ถ้างง ก็หมายถึงว่า " เจออะไร ก็ รู้อันนั้นแหละ " อย่าเลยไปฉวยเอา เฉย -
หญ้าปากคอกจริงๆ รู้ กับ เฉย ... แต่มันเกิด ไวมาก ตอนที่รู้ แล้ว (ปรุง)ไปเฉย เมื่อไม่เคยภาวนา รู้ไป สุข ไป ทุกข์ ... การรู้ ในสติปัสสนาสติปัฏฐาน ถ้ารู้ อย่างเดียว จะเห็นไตรลักษณ์ ได้อย่างไร ต้องมีการพิจารณาด้วยหรือไม่... อย่างบทพิจารณาร่างกายเน่าเปื่อย ถ้าแค่รู้ในปัจจุบัน มันจะเน่าได้อย่างไร เป็นท่อน เน่าผุได้อย่างไร มันก็รู้แต่ว่านั่งอยู่ นอนอยู่ แล้วการพิจารณาอย่างนี้ย่อมอาศัย การคิด อยู่ แต่ตั้งมั่น เหมือนมีมิติที่รู้สึกตัวตั้งมั่น มีความคิด(เน่าเปื่อย) และตัวรู้ ใช่หรือไม่ แจกแจงด้วย ... บุคคลทั่วไป3คน :)
-
ต้อง มนสิการ เอาเอง
ถ้ายัง งง ให้หา " สงบ แต่ ร่างเริง " ให้เจอ ถ้าเจอ แล้ว " รู้ "
จะกลายเป็น ปฏิสัมภิทาฯ
" คิดเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ " -
จะลองไปปฏิบัติดู เพิ่งเคยได้ยินนี่ละ "สงบแต่ร่าเริง" ... อ้อ ผมเข้ามาเอาธรรมนะ ใครจะเป็นยังไง แค้นกับใคร แหย่กับใคร ผมก็พิจารณา ธรรมที่เขากล่าวทั้งนั้น ถ้ามันถูก ก็สมควรยกย่อง(ตรงธรรมนั้น) ท่านไรวะ55 ก็ตอบได้นะครับ ผมไปถามจำเพาะบุคคลเกินไป ผมไม่รอบคอบเอง เผื่อจะได้ทริค หลายๆอย่าง คุณบุคคลทั่วไป กับ raiwa55 ผมตามอ่าน(ธรรม)มีบางส่วนผู้ไม่ปฏิบัติจะรู้ไม่ได้เลย(เพราะความละเอียด รอบคอบ) ติดตรงที่ ชอบแซว กัน รู้สึกเบื่อนิดๆ หน่อยๆนะ ...
-
-
พระวจนะ" ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่เมื่อพระตถาคต ปรินิพพานแล้ว พระสัทธรรมจะไม่ตั้งอยู่นาน ? ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรเป็นเหตุอะไรเป็นปัจจัย ที่เมื่อพระตถาคตปรินิพพานแล้ว พระสัทธรรมจะตั้งอยู่นาน พระเจ้าข้า......................พราห์ม เพราะไม่มีการทำให้เจริญ เพราะไม่มีการทำให้มากซึ่งสติปัฎฐานทั้งสี่ ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว สัทธรรมย่อมไม่ตั้งอยู่นาน....แต่พราห์มเอ๋ย เพราะมีการกระทำให้เจริญ เพราะมีการกระทำให้มาก ซึ่งสติปัฎฐานทั้งสี่ ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว สัทธรรมย่อมตั้งอยู่นาน สติปัฎฐานสี่อย่างไรเล่า? พราห์ม ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีปรกติตามเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ(ข้อความต่อไปนี้ก็เหมือนในพระสูตรสติปัฎฐานสี่อื่นอื่น)---มหาวาร.สํ.19/232/778-779(อริยสัจจากพระโอษฐ์ท่านพุทธทาส):cool:
-
-
-
หายใจให้ถูกต้อง ปื็ดเดียว ก็เห็น บานตะไท แล้ว ยิบๆๆๆๆๆๆ ไปหมด -
..การดูที่ว่านี่ จะเอาสติไปตั้งไว้ที่ไหนครับ:cool: -
-
ปู่ กลับไป อมน้ำแข็ง ดูย้ำเย็น แบบที่ ปู่ ช๊อบ ชอบ มาบ้าง ปู่ก็พอ
เห็นแล้ว ยากส์ตรงไหน แค่ กลืนน้ำแข็ง เองนะนี่
เสียดาย โดนโอ่งทุ่มใส่ไม่ยั้ง ไม่งั้นป่านนี้ ปู่ อมน้ำแข็งได้หลาย
ก้อนจนพออยู่ตัวได้บ้างหละ -
..2-3 วันนี้ ผมเบลอกับข้อมูลมากจริงๆ..
หลวงพ่อ กล้วย..""ให้เอาสตินี่แหละค้นไปให้ทั่วกาย..จิตจะหยุดพักทำงาน..ให้สติทำงานแทน.."
พอมาเจอ พวกดูจิต..มักจะพูดคำที่ท่านไรวา ยกมาคือ ไม่แทรกแซง ดู รู้ เฉยๆ .
ชวนสนทนาครับ ไม่ได้จับผิดอะไร ท่านไรวา
..ส่วนตัวเครื่องกั้นความดี..(นิวรณ์) ปล่อยเขาพ่นไปอย่าไปสนใจครับ เดี๋ยวติดขี้กาก อิอิ -
^ปู่จะเตรียมเข้าอาเซียมเหรอปู่ งงจนลืมตัวซะแว้วว
หน้า 2 ของ 4