จิตพระอรหันต์ เป็นเช่นนี้หรือ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 31 ตุลาคม 2012.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ผู้มีมิจฉาทิฐิท่องไปในความเที่ยง ไม่หลุดพ้นวังวนแห่งความเที่ยงออกมาได้ ย่อมมีกระแสความคิด ตรึกไปเช่นนี้ว่า “กิเลสเที่ยงหนอ” ดังนี้ เราจึงต้องกระทำการดับ, การละ, การตัด ฯลฯ ซึ่งกิเลสนั้น ด้วยว่ากิเลสนั้นเที่ยง ไม่อาจดับสูญ จึงมีทิฐิว่าจะต้องกระทำกรรมใดๆ เพื่อเป็นไปตามประสงค์อันเกิดขึ้นจาก “ความคิดปรุงแต่ง” ดังกล่าวนานัปการนั้น
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ผู้มีสัมมาทิฐิหลุดพ้นแล้วจากความเที่ยง ไม่หลงวนจมปลักในความเที่ยงนั้น ย่อมมีกระแสความคิด ตรึกไปเช่นนี้ว่า “แม้กิเลสก็ไม่เที่ยงหนอ” พระศาสนาแสดงธรรมอันเป็นเช่นนั้นเอง เป็นสัจธรรมแท้มิต้องปรุงแต่งใดๆ เพิ่มเติม มิต้องกระทำกรรมใดๆ สืบต่อไปอีก “กิจจบแล้วหนอ, พรหมจรรย์สิ้นแล้วหนอ" มิได้มีประสงค์ใด หรือความคิดปรุงแต่งใดๆ หลังสดับธรรมนั้นอีก
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ผู้มิได้สดับฟังธรรมแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมไม่อาจมีปัญญาสว่างชัดว่าแม้กิเลสก็ไม่เที่ยง ทั้งยังไม่เกิดความคิดขึ้นว่า “ตนจักต้องกระทำการดับหรือตัดกิเลส” ย่อมไม่เคยได้สดับแม้คำว่า “กิเลส” ก็ดี, “ความเที่ยง-ไม่เที่ยง” ก็ดี ฯลฯ เขาย่อมแตกต่างจากบุคคลทั้งสองดังกล่าวข้างต้น แม้ไม่เคยสดับฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ย่อมกระทำกรรมดังเดิม มิได้ “กระทำกรรมใหม่” เพื่อความดับ, การตัด, หรือความสิ้นไปแห่งกิเลสแต่ประการใด


    เช่นนี้แลท่านทั้งหลาย พึงพิจารณาเองว่า “กิเลสเที่ยงหรือ?” ... (๑)
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ผู้มีมิจฉาทิฐิว่า “ความดับเที่ยง” ไม่หลุดพ้นวังวนแห่งความเที่ยงออกมาได้ ย่อมมีกระแสความคิด ตรึกไปเช่นนี้ว่า “ความดับแห่งกิเลสนี้เที่ยงหนอ” ดังนี้ เราจึงถึงซึ่งความเป็นพระอรหันต์ได้ด้วยการละ, การตัด, การดับไปซึ่งกิเลสนั้น ด้วยว่าความดับแห่งกิเลสนั้นเที่ยง ไม่อาจเกิดขึ้นได้อีก จึงมีทิฐิว่า “จิตอรหันต์นี้เที่ยงหนอ” ความผ่องใสแห่งจิตนี้เที่ยงหนอ, ความไร้กิเลสนี้เที่ยงหนอ “จิตอรหันต์” นี้เที่ยงหนอ มีลักษณะเที่ยงดังนี้ เป็นเช่นนี้ ดังนี้เองหนอ ...
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ผู้มีสัมมาทิฐิหลุดพ้นแล้วจากทิฐิว่า “ความดับเที่ยง” ไม่หลงวนจมปลักในความดับเที่ยงนั้น ย่อมมีกระแสความคิด ตรึกไปเช่นนี้ว่า “แม้ความดับแห่งกิเลสก็ไม่เที่ยงหนอ” เมื่อใดมีดับ เมื่อนั้นมีเกิด, เมื่อใดมีเกิด เมื่อนั้นมีดับ ไม่เกิด ไม่ดับ มีเพียงนิพพาน จึงมีทิฐิว่า “จิตอรหันต์นี้ก็ไม่เที่ยงหนอ” จิตอรหันต์นี้ มิใช่นิพพานหนอ จิตอรหันต์นี้มิใช่ธรรมให้ยึดมั่นได้หนอ ...
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ผู้มิได้สดับฟังธรรมแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมไม่อาจมีปัญญาสว่างชัดว่าแม้ความดับแห่งกิเลสก็ไม่เที่ยง ทั้งยังไม่เกิดความคิดขึ้นว่า “จิตอรหันต์เป็นเช่นนั้น เป็นเช่นนี้” ย่อมไม่เคยได้สดับแม้คำว่า “จิตอรหันต์” ก็ดี, “ความดับไปแห่งกิเลส” ก็ดี ฯลฯ เขาย่อมแตกต่างจากบุคคลทั้งสองดังกล่าวข้างต้น แม้ไม่เคยสดับฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ย่อมกระทำกรรมดังเดิม มิได้ “เกิดความรู้ใหม่” ว่าจิตอรหันต์นั้นเป็นเช่นนั้น เช่นนี้ เที่ยงแท้แน่นอน แต่ประการใด
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    เกิด-ดับ เป็นของคู่กัน เมื่อยังมีเกิด ก็ต้องมีดับ,
    เมื่อดับแล้ว ย่อมมีเกิด
    เมื่อใดพ้นแล้วจาก “วังวนเกิด-ดับ” นั้น
    เกิด ย่อมไร้, ดับ ย่อมไม่มี
    นั่นแหละ ธรรมที่เรียกว่า
    “ไม่เกิด – ไม่ดับ นิพพาน ...”


    เช่นนี้แล้ว “กิเลสจะดับเที่ยงได้อย่างไร?” ...(๒)
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746

แชร์หน้านี้

Loading...