จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
ยินดีต้อนรับเมมเบอร์
หรือสมาชิกสุขภาพจิตดี ช่วยกันออกมาแชร์ หรือให้กำลังใจกัน
โดยเฉพาะบุคคลที่จิตกำลังตก หรือขวัญเสีย
อันสืบเนื่องมาจากการรับข่าวสาร โดยเฉพาะเรื่องภัยธรรมชาติ การเมือง สังคม และเศรษฐกิจ เป็นต้น
บางท่านสุขภาพจิตยังไม่แข็งแรงพอ ก็อาจตกเป็นเหยื่อกันได้ง่ายๆ
เพราะด้วยภูมิรู้ ภูมิธรรม ภูมิปัญญาไม่เพียงพอ
เพราะฉะนั้นบทความนี้ฯ
อาจจะช่วยคนที่จิตกำลังตกต่ำอยู่ณ.ขณะนี้ก็ได้ ซึ่งมิอาจจะไปปรึกษากับใคร แม้นกระทั่งคนใกล้ชิด คนภายในครอบครัวก็ยังไม่สามารถปรึกษากันได้เลย เพราะอ้างว่าคนใกล้ชิดไม่เชื่อตามเรา เป็นต้น
บางท่านถึงกับลาออกจากงานกันเลยทีเดียว บางท่านก็เป็นเอามากคือ กินไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ เป็นมากกว่านั้นอีกก็คือ ไปปรึกษาจิตแพทย์กันแล้วก็มี เพราะหาทางหนี ทีไล่แบบคนอื่นๆกันไม่ได้ อันเนื่องมาจากสภาพการเงิน และความเป็นอยู่ไม่อำนวย ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ จิตอาจเกิดความเครียด อาจส่งผลเสียทั้งตนเอง และผู้อยู่รอบข้าง และที่ทำงาน ไปจนถึงระดับสังคม ประเทศชาติ เป็นต้น
พวกเรามาช่วยกันปกป้องพวกเขาเหล่านั้นร่วมกันด้วยเถิด เพราะอย่าถือว่าไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่พี่น้อง ไม่ใช่ลูกหลานของตนเลย นึกเสียว่าเขาเหล่านั้นก็คือ เพื่อนร่วมโลกกับเรามาชาตินี้ก็แล้วกัน และชาติอื่นอาจจะเป็นพ่อแม่ หรือพี่น้อง หรือลูกหลานของตนเองก็เป็นได้
วันนี้พวกเรามาช่วยยกจิตกันและกันให้สูงขึ้นตามกันไปด้วยเถิด เพราะพวกเขาเหล่านั้นที่เกิดมาแล้วก็ย่อมอยากจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ความหวังเหมือนกับทุกๆท่าน
พวกเรามาพร้อมใจกันมอบความรัก ความเมตตา ความอบอุ่นใจซึ่งกันและกัน เข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกันจะดีกว่าไหม๊???
จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.
หน้า 1 ของ 857
-
อย่าลืมนะ!
ร่างกายของคนเรานั้นเสื่อมทุกวัน เมื่อตายไปแล้วอย่างมากก็แค่เป็นปุ๋ยของโลก
แต่ก็ยังมีประโยชน์เสียกว่าจิตใจเสื่อมทราม
แต่จิตใจของคนเรานั้นเสื่อมไม่ได้ เพราะถ้าจิตคนเสื่อมเมื่อไหร่
นอกจากจะส่งผลร้ายกับตนเอง และผู้อื่นแล้ว ยังไปทำลายโลก และทำลายธรรมชาติตามไปด้วย
จริงอยู่เราไม่สามารถไปหยุดยั้งกับผู้อื่น หรือสิ่งอื่นๆได้ โดยเฉพาะภัยพิบัติธรรมชาติ
แต่มีอยู่สิ่งเดียวที่เราพอจะเปลี่ยนแปลง และทำกันได้ในตอนนี้ เดี๋ยวนี้ก็คือ
จิตใจของตนเอง
เพราะฉะนั้น วันนี้ เดี๋ยวนี้ วินาทีนี้เป็นต้นไป
เรามาสร้างภูมิต้านทานจิตกันก็คือ ฝึกจิตให้คิดบวกอย่างสม่ำเสมอ
หรือมีความรัก ความเมตตา ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจกัน การให้อภัยกันและกัน
ประการแรกเราจะต้องเข้าใจจิตของตนเองเสียก่อน
แต่ถ้าเราไม่พยายามทำความเข้าใจธรรมชาติแห่งจิตของตนแล้ว
ต่อไปเราก็จะไม่สามารถเข้าใจผู้อื่น ไม่เข้าใจโลก และไม่เข้าใจจักรวาล
นี่เป็นการสร้างความสมดุลย์ของธรรมชาติ โดยเริ่มต้นที่จิตของตนเองก่อน
ภูมิต้านทานของจิตจึงจะสร้างความอดทน หรือการยอมรับกับธรรมชาติที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง
และผู้ที่มีจิตวิญญาณที่สูงขึ้นเท่านั้น จะช่วยให้เราสามารถอยู่บนโลกในกลียุค หรือภัยพิบัติในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี
ปล. กระทู้นี้จึงเปิดกว้างสำหรับ (คนใจกว้าง) ทุกความเห็น ทุกสุขภาพจิตจะดีหรือไม่ดี จิตสูงหรือจิตตก ภูมิจิตสูงหรือต่ำ พวกเราอย่าไปมัวเปรียบเทียบกันเลย หรือดูหมิ่นดูแคลน ได้โปรดรักผู้อื่นเสมือนเรารักตนเองด้วยเถิด
เพราะพวกเราก็คือ คน หรือมนุษย์เหมือนทั้งหมด ทั้งสิ้น
กระทู้นี้จึงไม่มีการแบ่งชนชั้น วรรณะ เพศ วัย กศ. ศาสนา ชาติ อาชีพ.....
(ถ้าจิตดีเพียงอย่างเดียว ทุกอย่างจึงจะดีตามมาทั้งหมดเอง)
ขอขอบพระคุณอย่างสูง
และต่อไปนี้เราจะเข้าบทเรียนแห่ง ชีวิตจริงกันเสียที
-
สมเด็จองค์ปฐมฯ
ท่านเตรียมมาช่วยลูกหลานยกจิตแล้ว
โดยเฉพาะผู้ที่มีกำลังใจยังไม่มากพอ ขอให้จดจำภาพนี้ให้แม่นๆ และจำให้ขึ้นใจกันก่อนภัยพิบัติจะมาถึงตัวกันนะครับ
เราไม่ลืมพระ พระก็ไม่ลืมเรา
แต่ถ้าเราลืมพระ พระก็ไม่ลืมเรา เพราะพระเมตตากับพวกเราทุกคน
สำหรับผู้มาใหม่ หรือผู้ปฎิบัติใหม่ นาทีนี้กรรมฐานอื่นทำไม่ทันแล้วฯ
เรื่องจิตคนนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ฝึกกันได้ แต่ต้องใช้เวลานาน
กำลังจะเข้าเรื่องกันแล้ว
ก่อนจะเข้าเรื่องก็ให้นั่งดูรูปพระไปพลางๆก่อนนะครับ
แต่ถ้าจิตผู้ใดเกิดปิติขณะนั่งมองภาพนั้น ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
ขอให้กระทำด้วยความเคารพจริงๆนะครับ
ท่านกำลังอยู่ไม่ไกลจากทุกคนนะครับ
จุดเด่นก็คือ จิตจะเป็นสมาธิได้โดยง่าย และต่อเนื่อง
ข้อดีก็คือ สะดวกทั้งเวลาและสถานที่ ขณะกำหนดจิตไประลึกถึงพระ
ไม่ต้องเสียเวลา หรือลางานไปนุ่งขาวห่มขาวกันที่วัด หรือสำนักปฎิบัติธรรม กระทำได้ ระลึกถึงพระกันได้ทุกเวลา และทุกสถานที่ ทุกลมหายใจ ทุกขณะจิต สามารถกระทำกันได้ทุกอิริยาบถ เดี๋ยวนี้ วินาทีนี้ ลมหายใจนี้กันได้เลย
นี่คือ เรากำลังบวชใจ มิใช่บวชกายไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ปีที่แล้วช่วงน้องน้ำฮอตฮิตเริ่มลุกลามจะเข้าท่วมกรุงเทพ เพิ่งได้เข้าห้องภัยพิบัติเป็นครั้งแรกก ตกใจตาถลนนน เออหนอเราไปอยู่ที่ไหนมาหนอเป็นสมาชิกตั้งนานดันไม่เข้าห้องนี้ เค้าเตือนกันมานานแล้วเหรอเนี่ย ตายๆๆๆๆๆ ตัวร้อนหัวร้อนไปสามวันเจ็ดวันเพราะเสพข้อมูลสืบข่าว และคิดๆๆๆๆๆ
ปัญหาน้องน้ำเป็นปัญหาเบาหวิวของเราเพราะบ้านติดเจ้าพระยาเค้ามากันทุกปี แต่ภัยพิบัติอะไรที่พูดถึงกันเล่า อะไรจะเกิดขึ้นบ้างหนอ
วันผ่าน คืนผ่าน ตอนนี้จิตมันค่อนไปทางเฉย อะไรจะเกิด จะย้ายไปไหน จะไปที่ไหนดี หรือเราไม่มีที่ไป อิอิอิ
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
โมทนาสาธุในธรรมทานของคุณภูทยานฌาณ2 ด้วยค่ะ -
เจริญมรณานสติกรรมฐาน และพิจราณาด้วยสติปัญญาๆให้มากๆ
จะคลายความกลัว "เรื่องภัยพิบัติ" ครับ
http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=268 -
กราบสวัสดีพี่ภูค่ะ..
วันนี้ได้ดู คนอวดผี (ดูเป็นประจำ ตามประสาคนกลัวผี ชอบดูหนังผี)
ย้อนคิดได้ว่า
ถ้าเรา มีพระพุทธเจ้าในจิต เสมอ เสมอ เราย่อมพ้นภัย...
ภัย อะไรหล่ะน้อ...
ตอนดูคนอวดผี..ก็กลัวสัมภเวสีเำกาะมาแบบไม่รู้ตัว นั่นก็ภัยอย่างหนึ่ง..พุทธานุภาพ อันเกิดจาก จิต ระลึกถึงพระรัตนตรัย ย่อมสว่าง แผ่พลานุภาพแห่งพุทธคุณคุ้มครองเรา..ผีก็ไม่เกาะ..(อันนี้กลัวมาก ประสบการณ์ตรงย่อมกลัวมากหน่อย)
ตอนติดต่อกลับ คน (เน้น ๆ คน คน คน จริง ๆ นะ)
ก็กลัวว่าจะถูกหลอก ตามกิเลสเค้าไม่ทัน (ของตัวเองยังตามไม่ค่อยจะทัน แล้วจะให้มีปัญญาทันเล่ห์คนอื่น คงจมน้ำตาย ไม่ต้องข้ามฝั่งกันหล่ะฉัน)
ขอพระนำหน้า นำจิต นำสติปัญญา หากไม่ตรงตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ อันนี้ก็ไม่ต้องคบ หรือคบแค่ผ่าน ๆ เด๋วจะจมน้ำตายทั้งเรา และเค้า..
จิตเราคงปลอดภัย เพราะเกาะคำสอนของพระไว้...
เวลาจนปัญญา หมุนเงินไม่ทันในธุรกิจ..(เป็นบ่อยจนเบื่อ ถ้าโลกนี้ไม่มีเงิน คงจะดีเนอะ..เหนื่อยหาเงิน ตามจ่าย จ่าย จ่าย เฮ่อ)
หันหน้าหา พระ ตั้งจิตตรง เกาะพ่อแน่น (ขอเงิน)...
เด๋วก็มีทางออกมาให้ทุกที..ปลอดภัยจากเงินขาดมืออีกต่างหาก
ที่แชร์นี่..ส่วนตัวจ๊ะ..
ที่แชร์นี่..แบบชาวโลกจ๊ะ..เอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติแบบโลก ๆ..๕๕๕๕๕
ใครอยากนำไปใช้..ก็ได้นะ
ลองเอง รู้เอง เห็นผลเอง....ของใคร ของมัน...
แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ไหว้พระสวดมนตร์ กรรมฐาน ตามจริตตน ทำบ่อย ๆ ทำมาก ๆ สติมาปัญญาเกิด พระอยู่ในอกเมื่อไหร่ ก็ปลอดภัยรอบทิศจ้า...
เอาใจช่วยผู้ตื่นตระหนกทุกท่านให้พ้นภัยในใจตนเองให้ได้นะคะ
พ้นภัยภายในเมื่อไหร่ ภัยภายนอกก็กระจ่อยร่อยเมื่อนั้นค่ะ...
สู้ สู้ -
ตอนนี้โลกกําลังแย่
ใครมีดีอะไรก็มาแบ่งปันกันไป
สําคัญคือทุกอย่างที่ทํา ควรออกมาจากจิตที่ดี
รักในการให้และพร้อมเสียสละในสิ่งที่พร้อมเสียสละ
ขออนุโมทนากับสิ่งดีที่ทุกคนได้ทําด้วยครับ -
@diya
ตอนน้องน้ำมา ก็ห่วง เพื่อนสนิท ที่อยู่เมืองกรุงค่ะ..บอกให้ออกมา ก็ไม่ออกมา ติดคอนโด(ซื้อแล้ว) และติดงาน ถ้าไม่มีคำสั่งให้หยุด ก็หยุดและหนีน้องน้ำไม่ได้
คือถ้าปีที่แล้วน้ำท่วมแบบมีคนตายนะ แล้วรัฐบาลไม่ประกาศหยุดให้นะ ... ไอ้เพื่อนสนิทอันเป็นที่ีรักยิ่ง ต้องเสียสละชีวิตตายในหน้าที่เลยหล่ะ...(น่าขำเนอะ..)
แต่ก็เป็นธรรมดาของชีวิต ที่ต้องมีที่อยู่อาศัย ต้องทำงานเพื่อเงิน เพราะต้องกิน ต้องส่งบ้าน...และทุกอย่างต้องใช้เงิน นิ ทุกคนก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น
พอผ่านปีที่แล้วมาได้...ก็คิดได้ว่า (เพื่อนสนิทตัวเองจะคิดได้หรือเปล่าไม่รู้ แต่เราคิดได้ของเราเอง)
ถึงเวลา(ภัยมา) บุญที่ทำไว้และอุทิศช่วยเหลือญาติสนิทมิตรรักทุกคน คงส่งเสริมกันและกันให้รอดปลอดภัยได้เองหล่ะ..
ตอนนั้นนะ อาลัยอาวรณ์บ้านเมืองกรุงแค่ไหน ก็ต้องทิ้งหล่ะ(อยู่ไม่ได้ก็ทิ้งได้เองหล่ะวะ)
ตอนนั้นนะ รักงาน บ้างานแค่ไหน ห่วงเงินแค่ไหน ถ้าเค้าปิดโรงงาน ปิดกิจการ เด๋วมัีนก็ต้องกลับคืนบ้านนาเองหล่ะว่ะ (เพราะท้องต้องหิว ต้องหางานใหม่เองหล่ะ)
หลานก็จะไปเรียนเมืองกรุง มิถุนายน 2555 นี้แล้ว อันนี้ก็เตรียมใจ..อุทิศบุญรอไว้ให้เลย
ในใจสวดมนตร์ภาวนา ระลึกถึงพระ ฝากพระคุ้มครอง ทำทุกวันระลึกทุกวันให้ทุกวัน วันละหลาย ๆ รอบ แผ่เยอะ ๆ แผ่บ่อย ๆ เผลอ ๆ ฝากพ่อแผ่แบบอัตโนมัติด้วย..แฮะ ๆ (ขี้กลัว..ก็เลยต้องทำอะไร ๆ ให้เป็นออโตเมติก จะได้ไม่ลืมแผ่) บุญจะได้หนุนนำเนือง ๆ ภัยจะมาจะได้มีเหตุให้หนีรอดปลอดภัยได้เอง....
ว่าแต่...อีกตั้งหลายปี..เราค่อยมานั่งกลัวมิใช่หรือ...
ว่าแต่...อีกตั้งหลายปีที่ว่า...คงปฎิบัติไม่ถึงไหนถ้าใช้วิธีเดิม ๆ ในการปฺฏิบัติเพื่อให้พ้นภัยภายในของตัวเอง...
(เรียกได้ว่า มีเวลาในการเตรียมปัจจัย 4 อีกนานพอหล่ะ แต่การเตรียมจิต นี่เหลือน้อยแล้วว่างั้นเถอะ..ก็งานในการเตรียมจิตเป็นเรื่องสำคัญและมีเวลาไม่มากพอในแบบเดิมแล้ว)
และนำจิตเกาะพระ....ก็ส่งผลรวดเร็ว
(อันนี้รู้ในแบบของตัวเอง ทำเองก็รู้เองไม่ต้องถามว่ารู้ได้งัยนะ..ทำเองสิ เด๋วก็รู้สึกเองหล่ะ มัวแต่สงสัย อดรุ้นะ)
ตอนนี้ก็สบายใจนิด ๆ เพราะเร่งหนีทุกข์ทางใจ
แล้วพอใกล้ ๆ ระยะภัยภายนอกจะกระหน่ำ แบบจวนตัว แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะไปมุดรูอยู่ตรงไหนดีหว่า...(ว่าแต่ตอนขุดรูนี่ 2-3 ปี จะขุดทันมัยหล่ะเนียะ...)
มาเป็นกำลังใจให้กันและกัน นักปฏิบัติธรรม บุตรพระพุทธองค์ ทุกคนค่ะ
^____^ -
แง่คิดอีกมุมนึ่งเผื่อเป็นประโยชน์ครับ
ในอดีตเคยมีข่าวโรคระบาด หวัดนก หวัดหมู โรคต่างๆ แรกๆก็กลัว ระวังนู่นระวังนี่ ออกจะไปทางวิตกจริตไม่สบายใจ พอมีสติคิดไปคิดมา..ก็นึกขึ้นได้ว่า "อ้าว..ถ้าไม่ตายด้วยโรคนั้นก็ตายด้วยโรคนี้ แล้วยังมีการตายจากอุบัติเหตุ และภัยต่างๆ อีกมากมาย แล้วจะกลัวทำไม กลัวมันก็ตายอยู่ดี " ใจก็เบาสบายไม่ไปยึดถือความกลัวนั้น แต่เราก็ไม่ประมาทนะ ก็ต้องป้องกันสาเหตุที่จะทำให้เกิดโรคเกิดภัยนั้นด้วย แรกๆก็คิดถึงสิ่งอุปกรณ์ภายนอกเพื่อป้องกันโรคและภัยต่างๆ แต่สุดท้ายสิ่งที่ป้องกันโรคภัยที่ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง อย่าไปสร้างเหตุแห่งทุกข์อีก และให้พยายามสร้างเหตุแห่งสุขดีกว่า อันได้แก่ ทาน ศีล ภาวนาเพื่อให้มีสติ สมาธิ ปัญญา -
ธรรมสวัสดีครับ คุณภูทยานญาน2 ที่นับถือ
ขอโมทนา สาธุ ในจิตกุศลการให้ธรรมะเป็นทาน
เป้าหมายในโครงการกระตุ้นเตือนจิตสำนึกให้ทุกคนหันมาสนใจในการปฏิบัติธรรม เพื่อยกจิตให้สูงขึ้น เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจ ในการรับมือกับภัยธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมากหรือน้อย หนักหรือเบา เพื่อให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ให้เข้าใจในกฎไตรลักษณ์ ให้จิตเกาะติดพระพุทธเจ้า เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพวกเรา ให้มีชีวิตอยู่ได้โดยปกติสุข
คนเราเกิดมานั้น มาแต่ตัว เมือยามหมดบุญต้องละโลกนี้ไป เราก็ไม่สามารถจะเอาทรัพย์สมบัติใดๆติดตัวไปได้เลย สิ่งเดียวที่จะนำไปได้คือ บุญ หรือ บาป ที่เราได้กระทำไว้ยามมีชีวิตอยู่ แล้วท่านทั้งหลายจะเลือกอะไรดีล่ะ
ดังนั้น ในขณะที่ยังมีโอกาส ขอให้เรามาช่วยกันเร่งสร้างสะสมบุญ บารมี กันให้มากๆ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่เราสามารถจะนำติดตัวไปยังภพหน้าได้ ยิ่งสร้างบุญ บารมีมาก ก็ยิ่งได้ไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นมากขึ้นตามลำดับ และสุดท้ายคือ พระนิพพาน อันเป็นที่สุดของชีวิต เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิด หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร
แต่ในทางตรงข้าม ถ้ายังยึดติดในตัวกูของกู ยังมีกิเลส ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง ยังหลงงมงายกับอบายมุขต่างๆ ยังหลงบูชาเงินเป็นพระเจ้า ยังมีการเอารัดเอาเปรียบ ยังไม่เชื่อเรื่องบุญ บาป เรื่องกฏแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ศีล5 ก็ไม่ใส่ใจ แม้ถือศีลสักข้อเดียว ก็ยังทำไม่ได้ อนาคตของคนเหล่านี้ ย่อมตกสู่อบายภูมิ หรือนรกสถานเดียว ยิ่งบาปมากก็ยิ่งลึกมาก
อยากขึ้นสวรรค์ หรือลงนรก แน่นอน ทุกคนอยากขึ้นสวรรค์ ยกเว้นคนที่ยังไม่เชื่อ ดังนั้นในเมื่อยังมีโอกาส เรามาเร่งสะสมบุญ บารมี กันไว้ให้มากๆกันเถอะครับ มาเตรียมยกจิตให้สูงขึ้น ให้ดวงตาเห็นธรรม ถือศีลปฏิบัติธรรมกันอย่างเคร่งครัดมากขึ้น อย่างน้อยศีล5 เราควรจะถือปฏิบัติให้ได้ ขั้นต่ำก็ สวรรค์ชั้น จาตุมหาราชิกาแล้ว
เรื่องภัยพิบัติทั้งหลาย จะเกิดหรือไม่ หนักหรือเบา ยากที่ใครจะหยั่งถึงอย่างชัดเจน เพื่อความไม่ประมาท เรามาเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมจิตให้พร้อมที่จะรับมือกันเถอะครับ อย่างน้อยเมื่อเราทำใจได้ ปล่อยวางทางโลกได้ จิตเกาะติดพระ ติดอยู่กับธรรมะของพระพุทธเจ้า เราก็มีความสุขแล้ว
อยากให้คุณภู จัดหนักไปเลยนะครับ ผมพร้อมเป็นกองหนุนให้ครับ ลุยโลด....
ขอเจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มากๆ
-----------เป้าหมายสุดท้ายในชีวิต คือ พระนิพพาน---------------- -
โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ ^^
การที่จิตจับภาพพระจำเป็นไหมคะที่จะต้องเป็นภาพพระองค์เดิมตลอดอะคะ คือเวลาจิตนึกถึงพระแต่ละครั้งภาพที่ขึ้นมาอาจจะไม่เหมือนกันอะคะ รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ -
สวัสดีครับทุกๆท่าน
ขอขอบพระคุณทุกๆท่าน ที่มาร่วมโมทนา ร่วมวงแชร์กันเพื่อเป็นการช่วยยกจิตกันและกัน หรือให้กำลังใจกัน เพื่อเป็นธรรมาทานในครั้งนี้ด้วย
ผมจัดหนักไม่ได้หรอกครับ ต้องเข้าใจกันนะ เพราะถ้าขืนจัดหนัก มีแต่ธรรมะล้วนๆคนจะหนีไปหมดแน่ๆ...555
เพราะฉะนั้นผมจะพูดให้น้อยทีุ่สุด ต้องพูดเป็นกลางที่สุด แต่ผมไม่ได้เป็นห่วงสำหรับคนที่รอด จิตที่เข้มแข็ง จิตที่เป็นบุญกุศลแล้ว
แต่ผมอยากช่วยจิตคนดี แต่ยังเดินหลงทางกันอยู่ เช่น นักดื่ม แต่นิสัยดีก็ยังมีอยู่อีกเยอะแยะนะ ผมถึงอยากแนะเวลาที่ท่านไม่ดื่มกันน่ะ ให้นึกถึงพระกันได้ไหม๊? ท่านทำแค่นี้ก็เหมือนท่านทำเจริญกรรมฐานแล้ว เพราะขณะที่ท่านกำลังระลึกถึงพระอยู่นั้น จิตจะนิ่ง จิตเป็นบุญ เป็นกุศลอยู่แล้ว และถ้าระลึกเป็นประจำ ต่อไปจิตของท่านก็(อาจจะ)ละ เลิกสุราเมรัยไปโดยปริยาย
นี่ก็เป็นวิธีเลิกเหล้าได้เ็ด็ดขาดเหมือนกัน
ท่านถามผมสิ! เมื่อก่อนผมเอาหมดนะ เลวกว่าบางท่านเสียอีก แต่ตอนนี้ผมเลิกอบายมุขหมดแล้ว และท่านเชื่อไหมว่า เพื่อนผมยังไม่มีใครทราบเลย ว่าผมปฎิบัติ เพราะผมปฎิบัติภายในจิตของตน ไม่ได้ไปนั่งหลับตา หรือนุ่งขาวห่มขาวให้ใครเห็นที่ไหน แต่ผมบวชใจ มิได้บวชกาย โดยแค่ระลึกถึงพระ หรือจิตเกาะพระเพียงเท่านี้เอง จิตก็เข้าสู่ความนิ่งได้เหมือนกัน
เมื่อจิตคนเรานิ่งอย่างเดียว ภูมิต้านทานก็จะเิกิดตามไปด้วย และทำให้เราฉลาดมากขึ้นด้วย
เพราะคนฉลาดที่แท้จริงก็คือ ผู้ที่สามารถควบคุมจิตตนให้อยู่ในกำมือของตนเองได้เท่านั้น เขาถึงจะเรียกกันว่า เป็นคนเก่ง เป็นคนประเสริฐจริง
แต่มิได้หมายถึงไปเก่งเฉพาะกับคนในบ้านของตนเอง เช่น เก่งกับภรรยาตนเอง หรือเก่งกับสามีตนเอง หรือเก่งกับลูกหลานตนเอง หรือเก่งกับลูกน้องของตนเอง อันนี้มันไม่ถูก
เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ตามกระแสโลกเหมือนกับคนอื่นๆเขา
แต่ตอนนี้ผมกลับกลายกลับใจได้ทัน ก่อนที่จะหมดลมหายใจ ถ้าไม่อย่างนั้นผมคงจะแย่แน่ๆ
แค่นี้ก่อน วันหน้าผมจะมาเล่าธรรมะเบาๆ แต่ปฎิบัติได้ผลเกินคาด
ผมพอจะมองเห็นจิตท่านที่กำลังจะอยากเลิกเหล้าแล้ว อยากเลิกจริงๆ ค่อยมาถามผมนะ นั่นมีแฟนส่วนใหญ่อยากให้สามีเลิก แต่บางท่านไม่อยากดื่ม แต่ก็อ้างสังคม วันหน้าผมมีทางออกให้กันนะครับ
เพราะท่านรู้ไหม๊? เมื่อท่านเลิกดื่มเมื่อไหร่กันได้นะ ท่านจะดูดีขึ้นมาทันที ท่านเชื่อผมไหม๊? -
ตอนแรกๆ ขอให้เราช่วยจิตของตนกำหนดระลึกถึงพระก่อน แต่จะเป็นรูปภาพ หรือภาพจากในเน็ต หรือพระพุทธรูปที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่ไหนก็ตามแต่
ขอให้เป็นพระที่ใจเราชอบ เรารัก เราเคารพก็พอแล้ว
เพราะต่อไปจิตเขาจะเปลี่ยเองทีหลังได้ครับ หมายถึงจิตจะไปเกาะพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆก็เป็นไปได้นะครับ เพราะจิตแต่ละท่านจะไม่้หมือนกันสักทีเดียว เพราะอยู่ที่ดวงจิตเดิมแท้ของเขาว่ามีกรรมต่อเนื่องกันครั้งอดีตชาติ
สำหรับผู้สนใจ หรือผู้ปฎิบัติกันใหม่ๆ เราจะต้องขยันแค่หมั่นระลึกถึงพระบ่อยๆ จะหลับตา หรือไม่หลับตาก็ได้ทั้งนั้น เพราะหลักใหญ่ใจความมันอยู่ตรงที่จิตของเราต่างหากว่าจะจดจำพระได้มากน้อยเพียงไร
แต่ถ้ายังจำไม่ได้ก็ขอให้ไปนั่งดูพระบ่อยๆ เพ่งบ่อยๆ แต่ไม่เคร่งนะเดี๋ยวจะปวดตา เดี๋ยวจิตเราก็จะจำได้โดยอัตโนมัติ และต่อไปท่านก็ไม่ต้องช่วยจิตกำหนดระลึกถึงพระแล้ว เพราะจิตจะทำงานของเขาเองภายใน หลังจากที่จิตจำพระได้แล้ว
นี่ไง๊เกือบใกล้จะถึงจุดสุดยอดในการปฎิบัติกันแล้ว แต่ถ้าจิตจดจำพระได้อัตโนมัติ จิตจะเป็นสมาธิ จิตจะทรงฌานได้เองภายใน ตรงนี้คือจุดเด่นของจิตเกาะพระเลยนะครับ
เพราะนักปฎิบัติกำลังตามหาวิชานี้กันอยู่ก็คือ นอกจากจิตเป็นสมาธิง่ายดายแล้ว จิตยังทรงฌานง่ายด้วย และที่สำคัญอีกอย่างนึงก็คือ จิตเกิดสมาธิต่อเนื่องได้โดยง่ายดาย
อันนี้นับว่าเป็นประโยชน์กับนักภาวนา เพราะผมทำมาหลายกรรมฐาฯเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ถูกจริตตนเองก็เป็นได้
แต่อย่าลืมกันนะครับว่า พุทธานุสสติกรรมฐานนี้ จิตขึ้นพระนิพพานกันได้ง่ายดายเลยนะจะบอกให้ เพราะขณะที่จิตเกาะพระอยู่นั้น ถามว่าดวงจิตพระ(พระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์) ท่านอยู่ที่ไหนกัน?(บนพระนิพพาน)
เพราะฉะนั้นจิตที่พวกเรากำลังเกาะพระกันอยู่นี้ ก็เท่ากับจิตไปเกาะพระนิพพานกันด้วย คือจิตทรงพระนิพพานไปในตัวเลย
ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ โปรดอย่าเชื่อนะครับ ขอให้ไปลองปฎิบัติกันดูก่อน
เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน
และผมขอยืนยันว่า ผมมิได้ทำได้แค่คนเดียว ยังมีลูกหาบของผมอีก เดี๋ยวก็แสดงตนกันออกมาทีละคน สองคนเอง -
...บางคนจะเจอธรรมะได้ ต้องพบกับทุกข์อย่างหนักหนาสาหัสเสียก่อน เหมือนกับคำพระท่านว่า ไม่เห็นทุกข์ก็ไม่เห็นธรรม ผมผ่านสภาวะที่เห็นทุกข์ จนถึงขนาดที่คิดไปว่าหากตายไปได้จะทุกข์น้อยกว่ามีชีวิตอยู่ อาจจะด้วยบุญบารมีที่เคยสร้างสมมาแต่ปางก่อน ทำให้หันหน้าเข้าหาธรรมเพื่อแก้ไขทุกข์ จนได้เจอคำสอนพระอาจารย์ที่ถูกกับจริตเรา จนมีความคืบหน้าในการปฏิบัติธรรมได้พอสมควร จากเดิมที่เคยกิน เล่น เที่ยว อบายมุขต่างๆ ก็เลิกหมดแบบพลิกฝ่ามือ เป็นปฏิหารย์แห่งธรรมของพระพุทธองค์
กิเลสสิ่งยั่วยวนต่างในโลก เป็นสิ่งหอมหวลน่าเสพเสียเหลือเกิน การที่จะลดละ หรือทำให้เบาบางลงเป็่นสิ่งที่ยากมากๆ หากเราไม่มาถือศีล ปฏิบัติภาวนาด้วยการเจริญสติแล้ว สติของเราจะไม่ทันต่อผัสสะที่มากระทบอายตนะทั้ง6 สำหรับผู้ที่ฝึกแล้วถึงแม้ว่าสติจะไม่ทันต่อผัสสะที่มากระทบ แต่ก็จะสามารถระลึกได้ในวาระถัดไป ทำให้ไม่โดนกิเลสลากจูงไปมากกว่านี้ การปฏิบัติภาวนาด้วยการเจริญสติบ่อย กิเลสก็จะค่อยๆเบาบางลง ที่สังเกตุได้ชัด กล่าวคือจะไม่สามารถดูหนัง ดูละคร หรือสิ่งบันเทิงใจให้ลุ่มหลงต่างๆได้สนุกสนานเหมือนเดิม(มีแต่ความจืดชืดไร้สาระ) และไม่สามารถพูดนินทาว่าร้ายผู้อื่นได้อีก ฯลฯ..สติจะคอยสอดส่องใจ จิตใจจะมีแต่ความเมตตากรุณา ให้อภัยผู้อื่นได้ง่าย
ในวาระกาลที่จะถึงนี้ ภัยวิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้น หากเราไม่เตรียมใจให้พร้อม ความตื่นตกใจ ความตื่นตระหนก จะมีมาก ถึงกับมีคำกล่าวว่า ในวาระภัยพิบัติที่จะมาถึงคนจะไปที่ไม่ดีกันมาก เนื่องด้วยต้องตายด้วยความตระหนกตื่นกลัวอย่างสุดขีด ซึ่งหากเราอยู่ในสถานที่จะเกิดภัยพิบัติและหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว การมีสติอยู่กับตัวและระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยไว้ตลอดเวลา พุทธานุภาพจะนำพาให้เราปลอดภัยได้ หากแม้ว่าจะต้องเสียชีวิตตามวาระกรรม ก็จะไปตามที่หมายด้วยดี
เราต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่บัดนี้ ให้พร้อมทั้งทาน ศีล ภาวนา ศีลห้าเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่ต้องมีให้ได้ ประกอบกับการปฏิบัติภาวนา ซึ่งมีทั้งแบบสมถะและวิปัสนา ก็เลือกเอาตามภูมิธรรมของเรา ตามจริตของเรา รายละเอียดของการภาวนาได้นำเสนอโดยหลายๆท่านแล้ว ลองศึกษากันดู...
สำคัญคือต้องเริ่มกันตั้งแต่บัดนี้แล้ว เวลามีไม่มากแล้ว...ขอให้ทุกท่านโชคดี มีดวงตาเห็นธรรมกันทุกๆท่าน สาธุกับทุกความเห็นในกระทู้ท่านภูทยานฌาน2 ด้วยครับ -
......ขอให้เป็นพระที่ใจเราชอบ เรารัก เราเคารพก็พอแล้ว
เพราะต่อไปจิตเขาจะเปลี่ยเองทีหลังได้ครับ หมายถึงจิตจะไปเกาะพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆก็เป็นไปได้นะครับ เพราะจิตแต่ละท่านจะไม่้หมือนกันสักทีเดียว เพราะอยู่ที่ดวงจิตเดิมแท้ของเขาว่ามีกรรมต่อเนื่องกันครั้งอดีตชาติ........
ขอบคุณค่ะพี่ภู ได้คำตอบแล้วว่าทำไมถึงมีภาพพระพุทธชินราชในจิตมากกว่า -
ขออนุโมทนา กับทุกท่าน ทุกบทความดีๆ
ขอถาม คุณภูทยานญาน2 หน่อย (เนื่องจากไม่เข้าใจน่ะ)
ถ้าจิตจับภาพพระได้ตลอดเวลาแล้ว แล้วมีเหตุการณ์มากระทบใจแรงๆ ความโลภ โกรธ หลง ยังเกิด ขึ้นได้ไหม
ปล. จัดหนัดมากคนจนหาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า -
..............................................................................................
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ตามมาจากกระทู้คุณ อัญญาสิทธิ์ครับ อิอิ ^^
-
ท่านมีอะไรช่วยชี้แนะ หรือแชร์กันโดยเฉพาะเรื่องบุญ เรื่องจิต ยินดีเลยนะครับ
ถือว่าเป็นกระทู้พี่ๆน้องๆ กันเองนะครับ
เพราะที่นี่ไม่ความขัดแย้ง ขุ่นหมองอันใด มีแต่จิตบริสุทธิ์มามอบให้แก่กัน
เพราะจิตมีด้วยกันทุกท่าน แต่ไม่ค่อยมีใครดูแล บางทีจิตที่อยู่กับตัวเองยังไม่ดูแล หรือสนใจจิตของตนเองเลย ทั้งๆที่จิตนั้นสำคัญกว่ากาย หรือสิ่งใดๆเสียอีก แต่สำหรับบางท่านยังมองไม่เห็น แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของตนเองหรอก เป็นเพราะความไม่รู้นั่นเอง
แต่ถ้าไปถามนักภาวนา หรือพระอริยสงฆ์ด้วยแล้ว ท่านก็จะบอกแต่ว่าจิตสำคัญที่สุดเลย และสติก็สำคัญพอๆกัน เพราะทั้งสองอย่างต้องไปด้วยกันเสมอ ขาดอย่างเดียวไม่ได้เลย
แต่ถ้ามีสติกันดีแล้ว ศีลก็จะดีเอง เพราะสติถือว่าเป็นฝ่ายดี อยู่ดีๆจะมาให้คนเรารักษาศีลกัยนี้ยาก เพราะตามกำลังใจของตนนั้นสู้กิเลสฝ่ายต่ำของตนเองไม่ได้ เราต้องอาศัยกรรมฐาน หรือการภาวนา คือทำให้จิตใจตนเองนิ่งเสียก่อน ยิ่งผู้ใดทำฌานด้วยแล้วก็ยิ่งดี เพราะจะเป็นการชำระล้างกิเลสระดับกลางขึ้นไป เราก็สามารถละ ลด เลิกกิเลสได้้มากขึ้น
สติทำให้จิตนิ่ง ที่พวกเราพยายามทำให้สติเกิดบ่อยๆก็เพราะว่า เราพยายามที่จะทำให้จิตนิ่งกันนั่นเอง เพราะถ้าจิตเรานิ่งดีพอแล้ว จิตก็ละเอียดขึ้น ศีลก็จะดีหรือละเอียดขึ้นตามไปด้วย -
ขอโมทนาบุญด้วยนะครับ
ขอให้ท่านมีแต่ความสุข ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมนะครับ
หน้า 1 ของ 857