รูปหล่อลอยองค์ "รุ่นสมพรปาก"เนื้อทองแดงรมดำ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง ปี2537 ปิดรายการครับ
นับตั้งแต่หลวงปู่คร่ำอุปสมบท ในเพศบรรพชิตสืบทอดหลักพระธรรมคำสอนขององค์พระบรมศาสดาถึงขณะนี้ได้ 76 ปี แล้ว ได้ใช้พระธรรมคำสอนอบรมบรรดาลัทธิหาริกและสาธุชนผู้มีใจฝักใฝ่ในธรรมให้ยึดมั่นถือมั่นในหลักคุณธรรมแห่งความดี ตลอดระยะเวลาที่หลวงปู่ ได้ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ก็ปฏิบัติตนเป็นผู้สำรวมในศีลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่เหล่าบรรดาศิษย์ จะได้จดจำและปฏิบัติตนตามเยี่ยงของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นครูบาจารย์ในส่วนที่ดี ด้านลูกศิษย์ของท่านมีมากมายหลายอาชีพ ตั้งแต่ข้าราชการระดับบริหารเศรษฐีตลอดจน กระทั่งผู้ใช้แรงงาน แต่ท่านก็ให้ความเมตตาโดยเสมอภาคกัน มิได้มีการแยกหรือแบ่งชั้นวรรณะซึ่งก็ได้สร้างปิติและศรัทธาต่อบรรดาสาธุชนเหล่านั้น ที่มีอยู่ทุกภาคของประเทศ
เมื่อราวปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2536 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเมื่อมีกระทรวงใหม่เกิดก็ย่อมจะต้องมีเจ้ากระทรวงหรือรัฐมนตรีว่าการ บรรดา ส.ส.ผู้ทรงเกียรติต่างก็หมายมั่นปั้นมือเพื่อจะได้เป็นเสนาบดีกันสักครั้งหนึ่ง และก่อนหน้าที่จะมีการประกาศรายชื่อผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานไม่กี่วัน นายเสริมศักดิ์ การุณ ส.ส.ระยอง กับ นายไพฑูรย์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร ได้พากันไปกราบหลวงปู่คร่ำให้หลวงปู่เจิมหน้าผาก รดน้ำมนต์ เป่ากระหม่อมให้หลังจากนั้นไม่กี่วัน หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ไทยรัฐ พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเลยว่า "มนต์ หลวงปู่เฮี้ยน..." ปรากฏว่าท่าน ส.ส. ทั้งคู่ได้เป็นรัฐมนตรีเรียบร้อย
จนกระทั่งมาอีกครั้งหนึ่งก็การแต่งตั้งอธิบดีตำรวจที่ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ กระเด้งกระดอนออกมาจากมติ กตร. 2 ระรอกแล้ว ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการลงมติกันอีกครั้งวัดวังหว้าก็ปรากฏกายของท่าน พล.ต.อ. ประทินว่าที่อธิบดีตำรวจ เพื่อขอให้หลวงปู่คร่ำรอดน้ำมนต์ และเป่ากระหม่อมให้ เมื่อผลการแต่งตั้งออกมา ชื่อของ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพคือนัมเบอร์วันของกรมตำรวจจริงๆ ชื่อของลป.คร่ำ ก็ยิ่งตอกย้ำถึงบุญบารมี เพราะความศักดิ์สิทธิ์อย่างเหลือเชื่อ
ลป.คร่ำท่านเป็นพระที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตาอย่างไร้ขอบเขตจริงๆ ใครไปกราบไหว้ท่าน ท่านก็เมตตาเป่าหัวให้ ทำให้สารพัดผู้ที่ไปกราบท่านมีแต่ความปลื้มปิติซาบซึ้งในความเมตตาของหลวงปู่เป็นทวีคูณ หลวงปู่คร่ำ ท่านมีอายุ ๑๐๐ ปีบริบูรณ์เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๐ พรรษา ๘๐ นับเป็นพระเถระที่มีพรรษาสูงอีกรูปของเมืองไทย
ในวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๐ เวลาประมาณ ๑๔ นาฬิกา หลวงปู่ได้ละสังขารถึงแก่มรณภาพ ด้วยอาการสงบ ณ. โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา ท่ามกลางความเศร้าโศกอาลัยของสานุศิษย์และสาธุชนทั่วประเทศนับล้านคนที่ได้ทราบข่าวต่างหลั่งไหลมากราบไหว้ เคารพศพที่วัดวังหว้าตลอดเวลา ๑๕ วัน ที่บำเพ็ญกุศลนับเป็นบุญญาบารมีของหลวงปู่โดยแท้
พระสวยเดิมในกล่องราคาเบาๆครับ
ชนบท168 ศูนย์รวมวัตถุมงคล พระป่ากรรมฐานและพระบ้านเกจิขลังๆ
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ชนบท168, 16 มิถุนายน 2021.
หน้า 134 ของ 168
-
-
พระผงเจ้าสัว รุ่น1 หลวงพ่อโฉม วัดเขาปฐวี จ.อุทัยธานี ปี40 ปิดรายการครับ
พระผงเจ้าสัว รุ่น 1 ประสบการณ์ดี พิธีพุทธาภิเษก เสาร์ 5 มีพระที่เข้าร่วมพิธี คือ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่อเอ็น วัดดอนทอง หลวงปู่นะ วัดหนองบัว หลวงปู่สำราญ วัดปากคลองฯ หลวงพ่อเสน่ห์ วัดสว่างอารมย์ หลวงพ่อโฉม ฯลฯ
หลวงพ่อโฉม ฐิติญาโน เป็นที่ศรัทธาเสื่อมใสของชาว ต.ตลุกดู่ ทั่วจังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดใกล้เคียงอีกหลายจังหวัดและพร้อมที่จะเป็นพระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงระดับประเทศ สอบถามชาวบ้านในตำบลตลุกคู่ ชาวบ้านในอำเภอทัพทัน แม้ในจังหวัดก็ได้เสียงตอบรับเหมือนกันว่าเป็นพระดี เคร่งในพระธรรมวินัย วิชาดี มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ปลัดขิกดังมาก ค้าขายดีและเรื่องรถก็เก่ง ก็ขอทราบเกี่ยวกับที่ว่าวาจาศักดิ์สิทธิ์ ก็ได้มีเรื่องของผัวเมียคู่หนึ่งประพฤติผิดใจกันต่างก็ต่อว่าถกเถียงกันว่ามีชู้ ได้พากันไปสาบานต่อหน้าหลวงพ่อโฉมว่า ถ้าต่างก็ผิดทั้งคู่ก็ขอให้ตายไปพร้อมกัน หลวงพ่อโฉม ทัดทานห้ามไว้ว่า โยมทั้งสองอย่าเลย มันจะไม่เป็นผลดี ทั้งสองคน ก็ไม่เชื่อฟัง ยังยืนคู่กันแล้วกล่าววาจาว่าถ้าต่างก็มีชู้ ก็ขอให้มีอันเป็นไป ให้ตายไปพร้อมกันทั้งคู่แล้วต่อมาอีก 1 สัปดาห์ ผัวเมียคู่นั้นก็ถูกไฟฟ้าดูดตายในขณะที่ดึกลวดไปล้อมวัว ลวดได้ไปเกี่ยวถูกสายไฟ ลวดได้บาดสายไฟเป็นแผล ไฟรั่ววิ่งเข้าสู่ลวดไปช็อตผัว เมียเห็นกระโดเข้าช่วยเลยถูไฟช็อตตายทั้งคู่ ต่อมาผู้เขียนได้ติดตามไปจนพบว่า ผัวเมียคู่นี้อยู่บ้านเลขที่ 10 บ้านเกาะกลาง ต.ตลุกดู่ ชายชื่อนายเสริม เกตุสิน หญิงชื่อนางสังวาร เกตุสิน เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงชาวบ้านแถวนั่นทราบเรื่องนี้ดี
มีอีกเรื่องที่หลังวัดเขาปฐวี จะมีตลาดนัดสัปดาห์ละครั้ง พวกแม่ค้านับถือเรื่องน้ำมนต์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เอากระป๋องใส่น้ำมาคนละครึ่งถัง มาให้หลวงพ่อโฉมทำน้ำมนต์ไปพรหมสินค้าแล้วขายดิบขายดี มีแม่ค้าคนหนึ่งไม่ซื่อตรง รับธนบัตรจำนวน 500 บาทจากลูกค้าไปแล้วไม่ยอมทอน เกิดการเถียงว่าเป็นธนบัตรชนิด 20 บาท ถกเถียงกันไม่รู้จักจบ ก็ท้ากันว่าไปสาบานกันต่อหน้าหลวงพ่อโฉม ได้ไปสาบานว่าถ้าเอาธนบัตรใบละ 500 บาทไปจริง ขอให้รถชนตาย พอตลาดนัดเลิก แม่ค้าคนนั้นก็ขับรถกลับบ้านไปยังไม่ถึงบ้านก็ถูกรถชนตาย
เรื่องที่เกิดขึ้นในลักษณะอย่างนี้ยังมีอีกมาก ขอเขียนให้ทราบแค่เพียงบางราย ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่มาขายตลาดนัดที่วัดเขาปฐวีเชื่อในวาจาสิทธิ์ และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโฉม ส่วนใหญ่จะมาขอพรจากหลวงพ่อ เห็นแม่ค้าพ่อค้าต่างบอกว่าตั้งแต่ขอพรแล้วฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ชาวบ้านในตำบลตลุกดู่จะปลูกบ้านสร้างเรือน จะไปให้หลวงพ่อนั่งทางใน จับยามอบากองดูฤกษ์ จะออกรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ รถไถนา แม้รถอีแต่น ก็จะมาให้หลวงพ่อดูฤกษ์ให้ เสร็จแล้วจะนำมาให้ทานเจิมทุกรายไป ส่วนปลัดขิก ดีด้านค้าขายและคุ้มครองป้องกันอุบัติเหตุ ใช้รักษาปวดท้องได้โดยเอาปลัดขิกไปฝนกับน้ำมะนาวกินแก้วปวดท้องได้ หุงน้ำมันมนต์ใช้ทารักษากระดูหัก กระดูกแตก ซ้น เคร็ดขัดยอก ปวดเมื่อยได้ผล เอามือลงไปคนน้ำมันเดือด แล้วตักมาอมใส่ปากแล้วพ่นรักษาหรือขับคูณไสยได้ ผีเข้า พวกมึนงง ส่งเสียงร้องให้แล้ววิ่ง มีวิชาไสยเวทย์รักษาจะหายแทบทุกรายไป
พระกริ่งคัณฑราษฎร์ วัดเขาปฐวี สร้างในปีพ.ศ.2516 หลวงพ่อโฉมปลุกเสกเดี่ยวได้มีประสบการณ์ นายสงวน วินัยพาณิชย์ โดนยิงไม่ออก นายสงวน วินัยพาณิชย์ เจ้าของร้านขายปุ๋ยและของชำอยู่หน้าวัดเขาปฐวี ได้ขี่รถจักรยานไปธุระหลังเขาปฐวีขากลับได้ถูกคนร้ายดักยิงแบบประจันหน้าและหลัง มีคนร้ายถือปืนคนละ 1 กระดอก 4 คนรวม 4 กระบอก หน้า 2 หลัง 2 ได้ยิงนายสงวนด้านหน้าก่อน แต่กระสุนด้านยิงไม่ออก นายสงวนทิ้งรถจักรยานหันหลังจะวิ่งหนี ก็ไปเจออีก 2 คน ได้ยิงมายังตัวนายสงวน ก็ปรากฏว่ายิงไม่ออก นายสงวนตะโกนให้คนมาช่วย แล้วคนร้ายก็หนีไป เรื่องนี้รู้กันทั่ว สอบถามดูได้ นายสงวนเป็นกว้างขวาง และมีฐานะได้จับจองป่ายางในป่าสงวนไว้ 1,000 กว่าไร่ เกิดไปขัดผลประโยชน์กับผู้มีอิทธิพล ถูกสั่งฆ่า นายสงวนยังสงสัยว่าตั้ง 4 กระบอกทำไมถึงยิงไม่ออก น่าจะไม่ใส่กระสุนมาแสดงว่าขู่มากกว่า ก็ถอดเอาพระกริ่งคัณฑราษฎร์ไปลองยิงที่ข้างเขาหลังวัดดู ก็ปรากฏว่ายิงไม่ออกอีก เป็นเพราะพุทธคุณพระกริ่งคัณฑราษฎร์วัดเขาปฐวีของหลวงพ่อโฉมแน่นอน
พระสวยเดิมในกล่อง มีธรรมธาตุเหมือนพระหลวงปู่ดู่ ขึ้นทั่วองค์พระครับ
-
-
โอนแล้วครับ วันนี้ เวลา 21.36 จำนวน 1900 ผ่าน ktb
ขอฝากพระเอาไว้ก่อนนะครับ -
พระผงคำข้าวรูปสมเด็จองค์ปฐม รุ่นครบรอบ๑๐๐วันมรณะภาพ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ปิดรายการครับ
พระผงสมเด็จพระองค์ปฐมรุ่นครบรอบ๑๐๐วัน มรณะภาพ พระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง พุทธคุณครอบจักรวาล สามารถกันและแก้ได้ทุกอย่าง สุดแล้วแต่จะอาราธนา (จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในพระรัตนตรัยเท่านั้น)
มวลสุดยอดคนส่วนใหญ่ไม่ทราบ มวลสารในองค์พระ
- ดินสอพองที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพุทธาภิเษกตลอดไตรมาส ไว้ตั้งแต่สมัยปี 2517-2518
- ผงที่ปลุกเสกในพระอุโบสถทุกครั้ง
- ผงปลุกเสกพระคำข้าว รุ่น1 รุ่น2 รุ่น 3 รวมกัน
- เส้นเกศาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
- น้ำมันชาตรี เรียกได้ว่ารวมสุดยอดของสุดยอดไว้เลย
ต่อไปเป็นคำสนทนาขององค์หลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล (หลวงพ่ออนันอดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อนครับ)
พระนี่นะ ทำมาจากผงปลุกเสกครบไตรมาส 3 เดือน ตอนสมัยหลวงพ่อมีชีวิตอยู่พ.ศ. 2518 หลวงพ่อท่านลงกรรมฐานทุกวัน ท่านบอกว่า ต่อไปนี้จะไม่มีเวลาทำพระครบไตรมาสแล้วนะ เวลาท่านทำ กรรมฐานท่านก็นั่งทำพิธีทุกวัน ทำกรรมฐานเสร็จท่านก็เล่าให้ฟังว่า วันนี้พระที่มีความสำคัญมาทำ ทำเฉพาะพิเศษเลยเฉพาะจุดนี้ รุ่งขึ้นอีกวันท่านก็บอกพระองค์นี้มาทำเฉพาะจุดนี้เป็นเรื่องๆไป ท่านเล่าให้ฟังอย่างนี้ก็ให้ด๊อกเตอร์ปริญญาไปเอาดินสอพองมา เอามาเข้าพิธีกัน หลวงพ่อท่านบอกว่า นี่พวกแกเตรียมหากินกันแล้วนะ ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าท่านไม่มีเวลาทำครบไตรมาสอีก ท่านบอกว่า ต่อไปคนจะเยอะ ข้าไม่มีเวลาทำอีกแล้ว ทำครบไตรมาสอย่างนี้
พอหลวงพ่อมรณะภาพแล้วนี่ เราจะปลุกเสกพระบ้าง เราก็ไม่มีความรู้ ก็ไปเก็บผงทุกอย่างที่มีอยู่ มีผงคำข้าว มีเกศาหลวงพ่อแล้วก็ดินสอพองที่ครบไตรมาส เอามาผสมกันแล้วทำพระมาแจก เวลาทำเสร็จแล้วก็มาเข้าพิธีบวงสรวงบอกครูบาอาจารย์ บอกว่าเราขออนุญาติทำพระที่หลวงพ่อปลุกเสกแล้วเพื่อเอามาแจกแก่ญาติโยม บางคนก็บอกกลัวไม่ดังหรือไง ก็ไม่ใช่อยากดัง ความจริงหลวงพ่อท่านปลุกเสกไว้หมดแล้ว
วิธีอาราธนาระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย สวด"นะโมตัสสะ" 3 จบ อาราธนาตามต้องการ ปิดท้ายด้วยพระคาถา"อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด"
-
-
พระผงน้ำมัน พิมพ์ชินราชไม่มีซุ้ม หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู จ.ลพบุรี ปี2494 ให้บูชา450บ.
หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี ท่านเป็นหนึ่งในเกจิยุคสงครามอินโดจีน ตะกรุดของท่านได้รับความนิยมเสาะหากันมาก นอกจากนี้ท่านยังสร้างวัตถุมงคลแบบอื่นๆอีกหลายแบบ พระเนื้อผงน้ำมันท่านได้สร้างไว้เมื่อครั้งไปช่วยบูรณะเสนาสนะที่วัดโคกหม้อ เมื่อประมาณปี 2494 มี ด้วยกันหลายพิมพ์ พระรุ่นนี้ได้ถูกนำไปร่วมปลุกเสกที่วัดสุทัศเทพวราราม กทม.อีกด้วย ครั้งนั้นเจ้าคุณศรีฯได้นำเข้าพิธีพร้อมกับการเทพระพุทธชินราช รุ่น ม.ค.1 ในวันที่ 17 ก.ด. 2494 พระที่ผ่านพิธีแล้วได้นำกลับไปวัดโคกหม้อให้เช่าบูชาองค์ละ 5 บาท ก็ปรากฏว่าให้เช่าได้เป็นอย่างดีสร้างเสนาสนะที่จำเป็นได้ตามโครงการ ถือเป็นพระเครื่องยุคอินโดจีนที่มีราคาเยาว์ที่สุด
ประสบการณ์ที่นักสะสมรุ่นครูบาอาจารย์ต่างบอกกล่าว กันว่า พระของท่าน หนักไปทางด้านคงกระพัน โดยเฉพาะเหล่าทหารเมืองลพบุรี ได้รับแจกจากท่านเป็นส่วนใหญ่ ปรากฏว่าพระชุดนี้นอกจากคงกระพันชาตรีแล้ว ยังได้แฝงไว้ด้านความเมตตามหานิยมอีกด้วย
-
พระผงพิมพ์วัดปากน้ำ หลวงพ่อบุญชู วัดหัวว่าว จ.สิงห์บุรี ปิดรายการครับ
หลวงพ่อบุญชู มีลักษณะเฉพาะของท่านคือ พูดน้อย เอาจริงเอาจังและดุดัน จึงมีน้อยคนที่จะรู้จักและทราบประวัติความเป็นมาของท่าน ถึงท่านจะเก็บตัวเงียบสักเท่าใด ก็ปิดบังได้แต่คนธรรมดาเท่านั้นครับ แต่สำหรับสายตาอันเฉียบคมของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบด้วยกันนั้น ปิดยังไง ก็ไม่มิด ...เพราะเราจะสังเกตุเห็นว่า หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง พระสุปฏิปันโณ แห่งเมืองสิงห์ ยังมาขอผงของหลวงพ่อบุญชู ไปเป็นมวลสารในพระสมเด็จของท่านเลยครับ
หนึ่งในพระเวทย์วิทยาคมที่ท่านชำนิชำนาญเป็นพิเศษ คือวิธีการทำผงอิทธิเจ แบบพิเศษ ที่ท่านลบผงเอง พร้อมทั้งใส่ผงเถ้ากระดูกผีเจ็ดป่าช้า ลงไปในผงอีกด้วย..
ว่ากันว่า วัดหัวว่าวเป็นวัดที่ผีดุที่สุดในสิงห์บุรี...แต่หลวงพ่อกลับเอากระดูกผี มาผสมผงฯ ด้วย..จึงนับเป็นของที่เหนือธรรมดาแน่นอน..ผงฯ ของท่าน จึงเข้มขลัง และแรง...ด้วยพุทธคุณ (สายขาวมิใช่สายพราย)
ประสบการณ์มากมายครับ สำหรับคนในพื้นที่ ทั้งแคล้วคลาด ปลอดภัย ตีรันฟันแทง..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มหาเสน่ห์ มหานิยม....ที่ใช้แทน ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หรือ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ได้อย่างสบายใจ
องค์นี้พระยุคแรกๆ จัดเป็นรุ่นนิยมสุดของท่านเลยก็ว่าได้ครับ
-
พระประจำวัน เนื้อผงใบลานผสมว่าน หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว จ.สระบุรี ให้บูชา200บ.
วัตถุมงคลยอดขลัง พลังเวทสุดมหัศจรรย์ หลวงพ่อผินะ ปิยธโร วัดพระสนมลาววรวิหาร อ.หนองแค จ.สระบุรี วัตถุมงคลของท่าน มีรูปแบบที่แปลก ไม่เหมือนวัตถุมงคลของพระเกจิ อื่นๆ เช่นทำเป็นรูปดาว รูปดวงตา ฯลฯ สามารถบนบอกได้ รวดเร็วทันใจ วัตถุมงคลที่ท่านแจก ก็ล้วนนำมาใช้ได้ เห็นผลทั้งแคล้วคลาดจากอันตราย ค้าขาย โชคลาภ เมตตามหาเสน่ห์
-
พระผงสมเด็จ9ชั้น ปี2513 หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี ปิดรายการครับ
ครบศาสตร์การสร้าง ครบสูตรมวลสาร ปี พ.ศ 2513
หลวงปู่บุญ โสภโณ เคยไปพำนักอยู่ที่วัดระฆังโฆษิตาราม ( ต้นตำหรับพระสมเด็จวัดระฆังฯ จักรพรรดิ์พระเครื่องเบญจภาคี ) โดยอาศัยอยู่กับ หลวงปู่นาค วัดระฆัง ได้มีโอกาสเรียนวิชากับหลวงปู่หิน โดยเฉพาะการเขียนสูตรลบผงพุทธคุณตำหรับเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี ) อีกด้วย
ปี2513 หลวงปู่บุญ โสภโณ ได้เริ่มสร้างพระเครื่องพิมพ์สมเด็จฯหลายพิมพ์ด้วยกัน ครั้งนั้นท่านตั้งอกตั้งใจมากในการสร้างพระเครื่องโดยเฉพาะการเขียนสูตรลบ ผงตำหรับวัดระฆังฯ และผงปถมังตำหรับขุนนครเขต ท่านได้สร้างพระเครื่องย้อนตำนานการสร้างแบบโบราณทั้งเนื้อหามวลสารและวิธี การสร้าง เช่นแกะพิมพ์ด้วยหินมีดโกน กดพิมพ์ด้วยมือ เมื่อปลุกเสกแล้วได้มอบไปให้กับผู้มาทำบุญและคณะศิษย์ไปเกือบหมด
พระดีราคาเบาครับ
-
-
พระสมเด็จเกลียวเชือก ผสมผงกะลาตาเดียว หลวงพ่อทรัพย์ วัดบ้านงิ้ว จ.ชลบุรี(สร้าง3,000 องค์) ปี๒๕๑๕ ให้บูชา550บ.
หลวงพ่อทรัพย์ ท่านเป็นพระนักพัฒนาและปฏิบัติโดยทุก ๆ วัน ท่านจะใช้เวลาทุกนาทีให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ไม่เคยปล่อยเวลาให้สูญเปล่าโดยไร้ค่า ทุก ๆ เช้าท่านจะปลุกพระและชาวบ้านบริเวณใกล้วัดที่หน้ากุฏิท่านด้วยประโยคที่ว่า "ตื่นแต่ดึก ฝึกแต่หนุ่ม ย่อมคุ้มเมื่อแก่ แลก็กว้าง ทางก็มี ไม่ตื่นแต่ดึก ไม่ฝึกแต่หนุ่ม ย่อมไม่คุ้มเมื่อแก่ แลก็ไม่กว้าง ทางก็ไม่มี" ด้วยประโยคนี้ที่ท่านกล่าวทุก ๆ วัน
หลวงพ่อทรัพย์ท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2521หลังจากหลวงพ่อทรัพย์ท่านมรณภาพแล้ว กรรมการของวัดได้นำร่างของท่านมาให้ลูกศิษย์กราบไหว้และนำร่างหลวงพ่อเก็บใส่โลงไว้ที่กุฏิของท่านเป็นเวลานานหนึ่งปี จึงจะทำการฌาปนกิจในช่วงเวลาหนึ่งปีนี้ ทางคณะกรรมการได้เตรียมจัดงานและจัดทำหนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพโดยท่านองคมนตรี สัญญา ธรรมศักดิ์ ในสมัยนั้นเป็นพระประธานฝ่ายฆราวาส ก่อนถึงวันงานฌาปนกิจศพของหลวงพ่อคณะกรรมการได้ทำการย้ายโลงท่านจากกุฏิไปไว้ศาลา เพื่อให้ศิษยานุศิษย์กราบไหว้ และไว้อาลัยท่านเป็นครั้งสุดท้าย
ขณะที่เปลี่ยนโลงใหม่โดยย้ายร่างท่านออกจากโลงเก่า เมื่อเปิดฝาโลงออกคณะกรรมการต่างตะลึง เพราะร่างของหลวงพ่อทรัพทย์ท่านไม่เน่าเปื่อยและมีพระธาตุเกาะขาวทั่วตลอดร่างของท่านทั้งกลิ่นเหม็นก็ไม่มี ที่พิเศษกว่านั้นคือ ผมเล็บของท่านได้งอกออกมาด้วย เมื่อเห็นดังนี้แล้ว คณะกรรมการวัดรีบประชุมปรึกษา และได้ข้อสรุปโดยได้ไปนิมนต์พระธรรมโกษาจารย์ เมื่อเดินทางมาถึงวัดบ้านงิ้วท่านได้พิจารณาร่างของหลวงพ่อทรัพย์ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่าสมควรเก็บไว้ให้ลูกหลานบูชา
เมื่อร่างจริงเผาไม่ได้จึงต้องมีการเผาหลอกภายในวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2522 ท่านองคมนตรี สัญญา ธรรมศักดิ์ ได้มาเป็นผู้จุดไฟพระราชทานได้เกิดเหตุการณ์ปาฏิหาริย์เกิดฝนตกฟ้าร้องอย่างรุนแรง โดยฝนตกอยู่แต่ในบริเวณวัดเท่านั้น และเมื่อคณะกรรมการวัดได้จุดธูปบอกกล่าวหลวงพ่อทรัพย์ ทั้งลมฝนและฟ้าจึงสงบต่างเป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้ที่มาร่วมงานในวันนั้น
นับแต่วันที่หลวงพ่อทรัพย์ท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2521 จนถึงปัจจุบัน สังขารของหลวงพ่อก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมเป็นเรื่องแปลกที่ว่าบรรดา มด มอด และแมลงบางชนิดมิได้มารบกวน ทำลายชิ้นส่วนร่างกายของท่านเลยแม้แต่น้อย บรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อจึงเชื่อว่าท่านเป็นอริยสงฆ์ได้อภิญญาบรรลุธรรมชั้นสูงแน่นอน
พระปกติสร้างน้อยเพียง3,000องค์ แต่ที่พิเศษฝังข้าวสารดำแบบนี้ อยู่"นอกสารบบ"ครับ หายาก ตั้งใจให้พิเศษกว่าองค์อื่น
-
-
สมเด็จองค์ปฐมพุทธนิมิตร ครูบาชัยวงศ์ ปี2540(พิมพ์เล็ก เนื้อขาว) ปิดรายการครับ
พระพิมพ์นี้สร้างขึ้นตามนิมิตที่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่าท่านได้พบสมเด็จองค์ปฐมฯ ครั้งแรกเมื่อปี 2511 ซึ่งลูกศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ชลบุรี ได้จัดสร้างขึ้นหลังจากที่หลวงพ่อ ได้ละสังขารไปแล้ว มีทั้งเนื้อทองเหลือง ทองแดง ตะกั่วผสมแร่โคตรเศรษฐี และเนื้อผง
ด้านหน้า เป็นรูปสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐมท่านเสด็จดำเนินมาท่ามกลางหมู่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย โดยถือเอานิมิตของ หลวงพ่อฤาษีฯ ที่ท่านเล่าให้บรรดาลูกๆ ฟังด้านหลัง เป็นยันต์เกราะเพชร
มวลสารประกอบด้วย
1.ผงพระธาตุต่างๆ
2.ผงดินสอพองที่หลวงพ่อฤาษีฯท่านปลุกเสกไว้ทุกวันตลอด 1 ไตรมาส (พร้อมพระทุ่งเศรษฐี รุ่น 100 ปีเกิดหลวงปู่ปาน)
3.ผงคำข้าว (ที่นำมาทำเป็นพระคำข้าว)
4.เกศาหลวงพ่อฤาษีฯ ที่นำมาป่นละเอียด จะเห็นได้จากเนื้อพระมีเม็ดๆ สีดำๆ อยู่ นี่คือ เกศาหลวงพ่อฤาษีฯ
5.เนื้อพญากวางคำที่กลายเป็นหิน ฯลฯ
การอธิษฐานจิต ครูบาชัยวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน อธิษฐานจิตเดี่ยว
-
พระสมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้าพระพุทธโคดม ปี๒๕๕๒ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ จ.ปทุมธานี ให้บูชา250บ.
หลวงปู่บุญฤทธิ์ เป็นพระมหาสมณะเพราะที่มีกาลพรรษาสูง และเป็นหน่อแนวของพระกรรมฐาน ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพระวงศ์ พระกรรมฐานและประชาชนทั่วไป เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ก็กราบอาราธนาหลวงปู่บุญฤทธิ์ ไปจำพรรษาที่กุฏิหลังเขาพระตำหนักด้วย
ท่านได้อธิษฐานจิตวัตถุมงคลไว้ในหลายโอกาส ส่วนมากเป็นการรับนิมนต์ เมื่อมีการจัดสร้างวัตถุมงคลในสายพระกรรมฐาน เช่น การจัดสร้างวัตถุมงคลของวัดบรมนิวาสเนื่องในโอกาสครบ 100 ปี เจ้าคุณอุบาลี (จันทร์ สิริจันโท) วัตถุมงคลที่เป็นรูปองค์ท่านเองนั้นมีศิษย์สร้างเป็นล็อกเกตบ้าง และเหรียญบ้าง แต่ก็มีไม่มากรุ่นนัก
-
สมเด็จแหวกม่านหลังพระสิวลี หลวงปู่จ้อย วัดหนองน้ำเขียว จ.ชลบุรี ปิดรายการครับ
จัดสร้างราวปี ๒๕๔๙ หลวงปู่ได้ให้นำไปไว้ใต้ฐานพระประธานในโบสถ์ เริ่มนำมาแจกราวปี ๒๕๕๑ โดยไว้ในโบสถ์อย่างน้อย ๒ ปี จนกระทั่งหมดราวต้นปี ๒๕๕๓
...ประสบการณ์ส่วนตัวครับก่อนผมจะรู้จักหลวงพ่อจ้อยวัดหนองน้ำเขียว ผมได้ไปร่วมพิธีปลุกเสกจตุคาม ของวัดเขาคันทรงปีอะไรจำไม่ได้ครับพอเสร็จพิธีหลายๆคนก็เข้าไปให้พระประพรมน้ำมนต์ ผมเป็นหนึ่งในนั้นเริ่มจากหลวงพ่อโทน(ว.เขาน้อยคีรีวัน...แอดมิน)องค์แรกและก็องค์ต่อๆไปพอโดนน้ำมนต์ก็รู้สึกเย็นเป็นธรรมดาและเวียนไปจนถึงหลวงพ่อจ้อยที่ตอนนั้นผมไม่เคยรู้จักเลยว่าพระองค์นี้ชื่อหลวงพ่ออะไรพอโดนน้ำมนของท่านทำเอารู้สึกว่าขนลุกไปหมดทั้งตัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรับรู้ได้ถึงความเข้มขลังในตัวท่าน
หลังจากนันก็ได้สอบถามตามหาว่าพระองค์นั้นชื่ออะไรอยู่วัดไหนพอได้รู้ว่าท่านชื่ออะไรอยู่วัดไหนก็คิดว่าสักวันจะไปกราบท่านอีกครั้งและหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ไปหาท่านที่วัดของท่านก็ไปกราบท่านได้สมใจคิดและในวันนั้นเองผมก็ได้ลงไปจุดธูปไหว้พ่อปู่ฤาษีที่ศาลด้านล่าง ก็ได้พบพระองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นพระพุทธด้านหลังเป็นพระสิวลีเนื้อผง ก็จึงได้เก็บเอาไว้พอหลังจากนั้นมาก็เกิดความคิดแผลงๆลองอธิฐานดูก็ขอให้ได้โชคได้ทองคำหลังจากนั้นเจ็ดวันผมก็เก็บทองคำได้สลึงนึงซื่งตามหาเจ้าของแล้วไม่เห็นก็เลยเก็บเอาไว้เองแต่คราวนั้นก็ยังอยากจะลองอีกว่าจะขลังจริงป่าว ก็อธิฐานให้ได้ทองคำอีกในช่วงปีใหม่กินเลี้ยงที่บริษัทจัดขึ้นพอจับของรางวัลก็เกิดได้ทองคำขึ้นมาอีกสลึงนึง นั่นก็เป็นเรื่องอัศจรรย์แล้วแต่ก็ยังนึกสงสัยอยู่ดีทีนี้ก็เลยให้แฟนลองอธิฐานมั่งในปีเดียวกันงานเลี้ยงบริษัทเหมือนกันแฟนก็อธิฐานให้ได้ทองคำเหมือนกันแฟนผมก็เกิดได้ของรางวัลเป็นทองคำอีกสลึงนึง ทีเนี้ยครับผมรับรู้ได้ถึงความเมตตาและศักสิทธิ์ของหลวงพ่อจ้อยองค์นี้มากและหลังจากนั้นผมก็ได้ลาภลอยอยู่เรื่อยๆนี่ก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมครับแล้วเพื่อนๆมีประสบการณ์อะไรมาเล่าสู่กันฟังมั่งก็ได้นะครับ (๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
#ข้อมูลจากเฟสบุ๊คศิษย์หลวงปู่จ้อยวัดหนองน้ำเขียว
-
พระนางพญา หลวงปู่บุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข จ.อุบลราชธานี ปี๓๐ ปิดรายการครับ
สมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงเป็น สมเด็จสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตน์โกสินทร์ เสด็จสู่สวรรคาลัยเมื่อ 24 ตุลาคม 2556 ทรงมี พระชนม์ครบ 1 ศตวรรษกับ 3 สัปดาห์...
เมื่อต้นปี 2547...ในช่วงที่ สมเด็จพระสังฆราชฯย่างเข้า 91 พรรษา พระสงฆ์สูงอายุรูปหนึ่งเรียกตนเองว่า “พระบ้านนอก” เข้าเฝ้าฯใช้ ผ้าเช็ดลูบพระวรกายของพระองค์ฯ พร้อมท่องคาถาเบาๆแล้วก็ลากลับ...
อริยสงฆ์รูปนี้คือ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล หรือ “พระภาวนาวิศาลเถร” เจ้าอาวาสวัดสระประสานสุข (บ้านนาเมือง) ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี ขณะที่ย่างออกจากตำหนักฯ พระสักกอรรถ สักกอัตโถ วัดราชบพิธฯ ผู้เป็นศิษย์จะเข้าช่วยถือผ้าผืนนั้น หลวงปู่ไม่ยอมกำแน่นพร้อมสะบัดแขนออกแล้วพูดว่า...“...พระองค์ท่านมีคุณูปการต่อศาสนาอย่างยิ่งควรอยู่ต่อเพื่อเป็นสรณะแก่สงฆ์...”และ....ไม่ยอมให้ใครแตะต้องผ้าผืนนั้นเลยได้เก็บกลับไปที่อุบลฯด้วย ล่วงของกาลอีกราวๆ 2-3 เดือน “หลวงปู่บุญมี” ก็ละสังขาร รวมสิริอายุได้ 95 ปี 3 เดือน 9 วัน อายุพรรษา 74 พรรษา....
หลวงปู่บุญมีเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ตั้งแต่เป็นสามเณร เป็นศิษย์รับใช้ หลวงปู่มั่น ที่สกลนคร
เมื่อเป็นภิกษุ....เจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) รับช่วงต่อเป็นศิษย์และมาจำพรรษาอยู่ที่วัดบรมนิวาส กทม.ด้วย จากนั้นก็ได้ออกจาริกธุดงค์ไปในประเทศลาว เขมร เวียดนาม พม่าและจีน
ถึงปี 2480 จึงกลับมาถึงอุบลราชธานี ได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดสระประสานสุข...
หลวงปู่บุญมี...เป็นเถรในสายวิปัสสนาธุระที่เข้มขลังรูปหนึ่ง ซึ่งโด่งดังในเรื่อง แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม สยบสิ่งอัปมงคลใดๆได้ทั้งปวง ฯลฯ และชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย จำวัดอยู่ในกุฏิหลังเก่าๆจนวาระสุดท้าย...
หลวงปู่บุญมี มีวัตถุมงคลหลายรุ่น...พระสักกอรรถฯ เล่าว่า ครั้งหนึ่งมีการจี้ปล้นรถประจำทาง โจรได้เรียกทรัพย์สินจากผู้โดยสารเรียงตัว มีคนหนึ่งซึ่งห้อยเหรียญของหลวงปู่เลี่ยมทองทั้งองค์พร้อมทั้งสร้อยคอทองคำยื่นให้ โจรชุดนั้นได้ส่งกลับคืนบอกว่า สร้อยตะกั่วนี้เอามาทำไม ทำให้รอดจากการสูญเสียทรัพย์สิน
นายธนภณ สายะบุตร มัคนายกผู้ติดตาม พระพรหมมุณี ผช.เจ้า อาวาสวัดราชบพิธฯเป็นประจำ เล่าถึงประสบการณ์ว่า...เมื่อราวๆ 20 ปีที่ผ่านมาได้เดินทางไปพร้อมๆ กับพระธรรมกวี “วัดบวรนิเวศฯ” พระธรรมวรเมธี “วัดเทพศิรินทรฯ” พระเทพรัชมงคลเมธี “วัดสัมพันธวงฯ” พระเทพวรเมธี “วัดราชบพิธฯ” กับ พระเทพกวี “วัดราชบพิธฯ” เช่นกัน...ได้ไปเยือนหลวงปู่บุญมีที่กุฏิ
หลวงปู่ออกมาต้อนรับ...แล้วทักทายว่า... “นิมนต์ท่านสมเด็จ” ทำเอาสงฆ์ทั้ง 5 รูปทำหน้าเด๋อด๋ามองกันไปมา แล้วพูดแบบอ้อมแอ้มว่า “แค่เจ้าคุณนะหลวงปู่” ท่านก็บอกว่า....เออน่ะ
หลวงปู่บุญมี เรียกเข้าไปทำพิธีในกุฏิ เมื่อแล้วเสร็จคณะจะลากลับเพราะจวนเจียนเวลาเต็มที่ หลวงปู่ทัดทานว่า “อยู่ให้พระบ้านนอกกล่อม นอนก่อนยังไงก็ไปทัน” แล้ว หลวงปู่ก็กล่อมทั้งคณะหลับสนิท ไปกว่าชั่วโมง...จึงได้ สะกิด “พระ-ธรรมกวี” กับ “พระธรรมวรเมธี” พร้อมพูดว่า ...สมเด็จตื่นได้แล้ว..!!
..ปัจจุบันพระธรรมกวีได้เป็น “สมเด็จพระวันรัต” พระธรรมวรเมธีเป็น “สมเด็จพระธีรญาณมุนี” พระเทพรัชมงคลเมธีเป็น “พระพรหมเมธี” พระเทพวรเมธีเป็น “พระพรหมมุนี” และพระเทพกวีเป็น “พระพรหมวิสุธาจารย์ ” ได้ย้ายสำนักจากวัดราชบพิธฯไปรับตำแหน่งที่วัดเครือวัลย์...
-
-
-
หน้า 134 ของ 168