ชาติที่แล้วเป็นคนพม่า...ชาตินี้มาเกิดเป็นคนไทย

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 19 เมษายน 2006.

  1. koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,067
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ธรรมชาติของชีวิตย่อมประกอบด้วยดวงจิตวิญญาณ และกายสังขาร เมื่อตายไปแล้ว
    กายสังขารย่อมเน่าเปื่อยผุพัง แต่ดวงจิตวิญญาณนั้นเล่า ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ ตามบุญตามกรรม เป็นตัวกำหนด เรื่องหนึ่งที่แม่ชีทศพร ได้พบเห็นบ่อยมากคือ การที่ในปัจจุบันมีดวงจิตวิญญาณของคนพม่ามาเกิดในประเทศไทยเยอะมาก

    ทั้งนี้ดวงจิตวิญญาณของชาวพม่า ที่มาเกิดเป็นคนไทยนี้พบว่ามีอยู่มากรายด้วยกัน ที่เป็นคนดีของสังคมไทย รักในสาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของไทยเรา แต่คนเหล่านี้แม่ชีทศพรกล่าวว่า มักมีปัญหาในการเข้ากลุ่ม หรือต้องไปทำงานที่เกี่ยวข้องกับคนพม่า เป็นต้น เช่น กรณีของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลท่านหนึ่งที่ต้องคอยให้การดูแลช่วยเหลือคนพม่า มาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายงานถึงขั้นคิดจะลาออกจากงาน จึงเกิดคำถามว่าทำไมตัวเองต้องมาคอยบริการคนเหล่านี้?

    สำหรับกรณีนี้ แม่ชีทศพร ท่านกล่าวว่า คนเราหากไม่มีกรรมต่อกันแล้ว คงไม่ได้เจอกัน ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวเนื่องกับคนพม่าย่อมแสดงว่า ต้องเคยเกิดร่วมชาติกับเขาเหล่านั้นมาก่อน ไม่ว่าจะสภาวะใดก็ตาม อาจเป็นได้ทั้งเคยเกิดเป็นคนพม่า เช่นเดียวกับเขาเหล่านั้นมาในอดีตชาติ หรืออาจเคยเกิดมาเป็นคนไทยซึ่งมีความผูกพันกับคนพม่า ไม่ว่าจะลักษณะใดก็ตามทั้งดีและร้าย ชาตินี้จึงต้องมาพบเจอกับเขา มาใช้กรรมกัน จึงเห็นได้ว่านายจ้างบางคนถูกลูกจ้างพม่าฆ่าตาย ลูกจ้างพม่าบางคนก็ถูกนายจ้างทำร้ายกดขี่ ชาติไทยเรากับชาติพม่าแท้จริงแล้วเป็นพี่เป็นน้องกัน มีความเกี่ยวข้องกันมายาวนาน เป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งกันและกัน

    <O:p</O:p
    แต่ในระยะเวลาอันยาวนานนั้น ได้มีหลายต่อหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น ทั้งที่เป็นเหตุการณ์อันเชื่อมความสมานฉันท์ ซึ่งกันและกัน และเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความบาดหมางต่อกัน ดังนั้นดวงจิตวิญญาณมากมายหลายดวงจึงมีความผูกพันซึ่งกันและกัน ดวงจิตดวงวิญญาณของชาวพม่าที่มีความผูกพันกับแผ่นดินไทย ชาตินี้จึงมาเกิดในประเทศไทยก็มาก

    ดวงจิตดวงวิญญาณของคนไทยที่ผูกพันกับพม่าไปเกิดที่เมืองพม่าก็มาก ดวงจิตดวงวิญญาณทั้งหลายเวียนเกิดเวียนตายในสองแดนนี้สลับกันไปตามกฎแห่งกรรม และมีหน้าที่ต้องใช้กรรมกับแผ่นดินเกิดและตายมานับชาติไม่ถ้วน ดังนั้นหากผู้ใดที่มีลูกจ้างเป็นคนพม่าหรือต้องทำงานร่วมกับคนพม่า ก็ให้เข้าใจว่าเรามีกรรมร่วมกับเขามาแต่ก่อน เมื่อต้องมาผูกพันกันในชาตินี้ ก็อย่าได้จองเวรเขา เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลท่านไหนที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับแรงงานชาวพม่าก็อย่าได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอึดอัดใจ เพราะทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน

    มีความเท่าเทียมกัน หากเราไม่พอใจกับงานที่ต้องบริการคนพม่ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเท่ากับเป็นการผูกกรรมผูกเวรต่อกันมากขึ้นเท่านั้น หรือหากเป็นนายจ้างก็อย่าได้ทำการทารุณลูกจ้างด้วยความไม่เป็นธรรม ให้ปรนนิบัติต่อกันและกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ที่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนๆกัน การมีเมตตาต่อกัน มีความปรารถนาดีต่อกัน เป็นสิ่งที่จะทำให้เวรกรรมที่มีต่อทั้งสองแผ่นดินคลายตัวลงเป็นอโหสิกรรม แต่ตราบใดที่เรายังมีอคติต่อเขา ผูกใจเจ็บกับเขาก็เท่ากับว่าเราผูกเวรผูกกรรมกันต่อไป ไม่มีวันจบสิ้น ดังนั้นจึงควรที่จะแผ่เมตตาให้แก่กันและกันเพื่อความสุขของทั้งสองฝ่าย

    <O:p</O:p
    เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงมีคำถามตามมาว่า “แล้วทำไมดวงจิตดวงวิญญาณของคนพม่าจึงไม่ไปเกิดที่เมืองพม่า แต่กลับมาเกิดในเมืองไทย?” เรื่องนี้ แม่ชีทศพร กล่าวว่า สำหรับเหตุแห่งการมาเกิดของดวงวิญญาณชาวพม่าที่มาเกิดเป็นคนไทยนั้นก็เนื่องมาจาก อดีตชาติคนพม่าเหล่านั้นได้มาตายในประเทศไทยของเรานั่นเอง เมื่อมาตายที่เมืองไทย ดวงวิญญาณของชาวพม่าจำนวนมากเหล่านั้นก็จึงกลับมาเกิดเป็นคนไทยบนผืนแผ่นดินที่ตนเองตาย เมื่อมาเกิดแล้วก็จำภพภูมิไม่ได้ แต่อาจมีสัญญาเก่าบางอย่าง เช่น อยากไปเที่ยวเมืองพม่า ชอบศิลปะพม่า หรือมีเหตุให้ต้องพบปะกับคนพม่าเป็นประจำ เป็นต้น

    <O:p</O:p
    หากมีวิสัยของทหารติดตัวมามากก็มักชอบดาบ นิยมในความเก่งกล้าของพระเจ้าบุเรงนอง แต่สำหรับส่วนที่เป็นปมด้อยคือ คนเหล่านี้มักไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมสังคมด้วยกัน ยิ่งหากว่าเพื่อนๆเหล่านั้นต่างก็เป็นดวงวิญญาณที่เป็นชาวไทยในสมัยกรุงแตกกลับชาติมาเกิดด้วยแล้ว คนที่เป็นดวงจิตดวงวิญญาณของชาวพม่า ก็จะยิ่งถูกรังเกียจ ซึ่งอำนาจกฎแห่งกรรมก็มักบันดาลให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นมา จนหลายคนไม่เข้าใจตัวเองว่า ทำไมจึงเข้ากับคนอื่นไม่ได้ หรือไม่ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง ซึ่งผู้ที่มีปัญหาเช่นนี้ก็ใช่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นคนพม่ากลับชาติมาเกิดทุกคนไป แต่ว่าเป็นเพียงกรณีหนึ่งที่แม่ชีได้รับรู้มาเท่านั้น

    <O:p</O:p
    ในวิธีการแก้กรรมของกรณีนี้ แม่ชีท่านกล่าวว่า ให้ไปทำการอโหสิกรรมต่อดวงวิญญาณของมหาบูรพกษัตริย์ และต่อแผ่นดิน ถวายดาบให้แก่ พระเจ้าตากสินและสมเด็จพระนเรศวร ขอให้อโหสิกรรมแก่ท่าน อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับดวงจิตดวงวิญญาณของชาวไทย และดวงจิตดวงวิญญาณที่ตกหล่นของทหารพม่าที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด เพียงเท่านี้ บุคคลผู้นั้นก็จะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ไม่มีปัญหาในการเข้าสังคมรวมถึงในการทำงานอีกต่อไป.
     
  2. พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    แต่พี่ว่าส่วนมากจะเกิดเป็นรามัญ มากกว่าที่จะเกิดเป็นพุกาม
    และจะมีคนไทยที่ถูกพวกพุกามกวาดต้อนไป ก็มีมาก วิญญาณบรรพบุรุษ คือไทย และพุกามบางคนสมัยเป็นทหารก็มาเผา พระพุทธรูป ก็เลยต้องมาใช้กรรมวนเวียนอยู่ เราถือพุทธเหมือนกันแต่ต้องมาสู้รบกันเพราะกฎของกรรม
     
  3. poysian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,140
    ค่าพลัง:
    +2,422
    ....

    เมื่อเดือนสองเดือนก่อนไปทำบุญกับพี่คนนึง..โชคดีแกมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า
    ....มีหลวงปู่องค์นึง*ไม่ขอเอ่ยชื่อ*(ลูกศิษบ์หลวงปู่มั่น)...ในอดีตท่านเคยเกิดเป็นทหารพม่าแล้วก็รบจนตายที่เขตไทยพม่านี่แหล่ะ..และก็เคยเกิดมาเป็นนายพรานอีก...
    ...แต่มีอยู่ชาตินึงเมื่อไม่นานนี้เอง(พี่คนนี้เขาย้ำเลยว่า*เมื่อไม่นานนี้เอง*อาจจะหลายร้อยปีก่อนหน้านี้)...ท่านเคยร่วมบุญสร้างที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้..ด้วยอานิสงอันนี้มาส่งผลให้ท่านได้เข้าถึงความหมดทุกข์ในชาตินี้(ตอนนี้ท่านละสังขารไปแล้ว)....
    ....พอฟังเขาเล่าจบ..ใจมันก็ชื้นขึ้นมาหน่อยนึงว่า"เออ.ไอ้เราก็ยังมีร่วมบุญสร้างโบสสร้างศาลาและ ฯลฯ..หยั่งงี้อย่างเลวที่สุดเวลาตูจะผ่านสำนักพยายมตูยังตอบได้มั่งอะว่ะ ..ขอแค่ไม่ลงนรกก่อนก็เวิร์คหน่อย...แต่ถ้าใจดีๆขึ้นมาอีกหน่อยก็จะได้ไม่ต้องผ่านสำนักพยายมเลย.เอาแค่สวรรค์ก่อนก็ยังดีวะ"..
    เฮ้อ.ดูเอาความคิดผม(แย่มั้ยล่ะ)
     

แชร์หน้านี้