ช่วยอธิบายให้เด็กคนนึงฟังด้วยค่ะ นี่มันเป็นการสร้างกรรมใช่ไหม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย parichatkreepat, 17 มีนาคม 2015.

  1. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    รบกวนด้วยค่ะ อยากรู้มากๆ มากจริงๆ สงสัยมาก

    การที่เรามีเครื่องรางของขลังต่างๆในด้านต่างๆ เช่น น้ำมันต่างๆนาๆ ที่เขาว่าดีนักหนาด้านเมตตามหานิยม รักๆใคร่ๆ ใช้ทาผิว ทาตัว ผสมให้อีกฝ่ายกิน บลาๆ นี่มันคือการสร้างกรรมไหม เห็นเขาพูดดีแบบนั้นได้แบบนี้ ของอย่างนี้มันคือการทำของใส่ให้เขารักหลงใช่ไหม หรือว่ามันคนละอย่าง

    และกุมารอีก บางที่บางถิ่นมีสายสินผูกมาด้วย และเขาบอกห้ามแก้ ถ้าแก้กุมารจะไป นี่มันเป็นการตรึงเขาไว้ใช่หรือไม่เขาไม่ได้อยากมาอยู่ด้วยความเต็มใจใช่รึไม่ แล้วจะเป็นการสร้างบาปอีกหรือป่าว

    ตอนแรกก็ไม่สงสัยมากมาย แต่พอเจอคำว่าให้ผสมให้กิน กับห้ามแก้สายสิน นี่มันสุดจะสงสัย

    ปล. ไม่ได้เอ่ยหมายถึงผู้ใดหรือว่าหรือประจานผู้ใด มันเป็นแค่ความสงสัยในตัวเด็กคนนึงที่อยากเรียนรู้เรื่องราวต่างๆจะได้ไม่ไปหลงผิดกับสิ่งต่างๆ
     
  2. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    เอาแบบง่าย ๆ อย่าใช้ของทำใส่ตัวคนอื่น ใช้ของที่ทำใส่ตัวเอง
    กินเอง ทาเอง อะไรงี้

    กุมารเราไม่ได้เป็นคนตรึง อย่าไปแก้สายสิญจ์
    ไม่สบายใจก็อย่าเอามา ห้ามแก้สายสิญจ์เด็ดขาด
    เหมือนสงสารเสือในสวนสัตว์ อย่าเปิดกรง
     
  3. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    อนุโมทนาครับ ของเหล่านี้เช่นของขลังบางอย่างเค้าเรียกว่าเดรฉานวิชาเช่นหมอผีต่างๆการทำคุณไสย์ต่างๆพวกนี้อย่าได้ไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลย เป็นอวิชชาครับ. ส่วนอีกอย่างที่พระสงฆ์ท่านทำจะใช้บุญคืออาจจะใช้วิญญาณเด็กหรือที่เรียกว่ากุมารมาช่วยแต่คนที่นำไปเลี้ยงนั้นก็ต้องหมั่นสร้างบุญอุทิศให้เค้าเพื่อเค้าจะได้ไปจุติยังภพภูมิที่สูงๆยิ่งๆขึ้นไป แบบนี้ไม่ได้บังคับครับเป็นการสมัครใจเอง ส่วนที่ท่านไปพบเจอมาน้้นน่าจะเป็นการโฆษณามากกว่าของจริงๆไม่ค่อยมีหรอกครับ และน่าจะเป็นประเภทแรกที่ผมบอกมากกว่าครับ ส่วนประเภทหลั้งส่วนใหญ่ต้องรับจากมือท่านแล้วท่านจะสอนจะบอกวิธีเลี้ยงให้ด้วยถ้าท่านให้นะครับ. เพราะฉะนั้น คำตอบคือถ้าเป็นการบังคับล้วนเป็นกรรมทั้งนั้น เหตุเพราะเค้าถูกบังคับด้วยวิชาอาคมมิได้เต็มใจหรือยินยอมพร้อมใจ เช่นเราถูกบังคับให้ต้องทำสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร คนที่บังคับล้วนก่อกรรมขึ้นแล้วครับ แถมหนักด้วย เพราะเป็นการทารุณจิตซึ่งเค้าต้องการบุญกุศลในการนำเกิด. แต่กลับไปบังคับให้เค้าทำกรรมชั่ว. ส่วนน้ำมันต่างๆเหมือนกันครับ เอาไปป่ายคนนั้นคนนี้เพื่อให้เค้ารักเราหลงเราด้วยมนต์ดำก็ก่อกรรมทั้งนั้นครับ แต่ถ้ามาทาตัวเองเพื่อให้คนอื่นรักเรา ผมว่าไม่ต้องหรอกครับแค่เราคิดดีทำดีมีศีลมีเมตตาจิตอย่าว่าแต่คนเลยที่จะรักแม้แต่เทวดาก็ยังรักยังมาอยู่ไกล้ๆเราเลยเพราะกลิ่นหอมของศีลจะส่งกลิ่นไปทั้ง3โลกธาตุและยังหอมทวนลมได้อีกเพราะฉะนั้นน้ำมันต่างๆที่ขายกันรึจะสู้กลิ่นหอมของศีลได้แถมไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียวอยากมีกลิ่นหอมก็แค่รักษาศีลครบก็พอ. การเลี้ยงกุมาร ไม่ใช่สิ่งดีนะครับถ้าเรามิได้รักเค้าเหมือนลูกคือเรารักลูกเรายังไงก็ต้องรักเค้ายังงั้น เราต้องคอยทำบุญอุทิศกุศลให้เค้าด้วยปราถนาให้เค้าได้ไปสู่ภพภูมิที่สูงๆยิ่งๆขึ้นไป. เหมือนเราต้องการให้ลูกเราได้สิ่งดีๆได้เรียนสูงๆ แต่ถ้าเลี้ยงเพื่อสนองตัณหาของเราคือขอไห้กุมารบอกหวย ไปเข้าสิงคนนั้นคนนี้ที่เราไม่ชอบ ไปแกล้งคนนั้นคนนี้ อย่างนี้ล้วนเป็นการสร้างกรรมทั้งนั้นทั้งตัวเราทั้งวิญญาณนั้นล้วนต้องรับกรรมท้้งนั้นครับ เพราะฉะนั้นก่อนจะคิดทำอะไรควรตั้งจิตตนก่อนถ้าเรามีเมตตาอยากช่วยดวงวิญญาณเล็กๆนั้นให้ไปจุติยังภพภูมิที่ดีก็จะเป็นบุญบารมี แต่ถ้าต้องการสนองตัณหาตนด้วยสิ่งนี้ก็อย่าทำเลยครับจะชดใช้กรรมกันทั้งเราทั้งวิญญาณเด็กน้อยนั้น. สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2015
  4. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    ทำใส่ตัวเองจะอันตรายไหมค่ะ ถ้าทำกับคนอื่นสร้างกรรมใช่ไหม

    กุมารที่ตรึงคือสายพรายรึป่าวโดนบังคับมาใช่ไหม
     
  5. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    แล้วถ้าน้ำมันเสน่ห์ต่างๆพระเปนคนทำละค่ะ มันจะดีหรอค่ะ
     
  6. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    อนุโมทนาคร้บ น้ำมันหรือสีผึ้งที่พระทำส่วนใหญ่วัตถุดิบคือสีผึ้งที่เรียกว่าหุงสีผึ้งแล้วผสมด้วยผงเกษรว่านต่างๆแล้วท่องมนต์ด้วยพุทธคุณ อ้นนี้ใช้ได้ครับไม่มีโทษครับ ส่วนน้ำมันต่างๆที่พระทำก็นำว้ตถุดิบมาจากว่านต่างๆมาเคี่ยวจนเป็นน้ำมันแล้วใช้พุทธคุณคือสวดตามบทสวดใช้ได้ครับไม่มีโทษ. แต่ถ้าเป็นการใช้วัตถุดิบที่ไม่ใช่เช่นน้ำมันพรายที่ไปเอามาจากผีตายต่างๆยังงั้นเป็นมนต์ดำครับ. ผมไม่รู้ว่าที่ท่านพบเจอเป็นแบบไหนครับ. แต่ถ้าสั่งว่าห้ามแกะหรือตัดที่รัดไว้ก็น่าจะสายมนต์ดำครับ เพราะถ้าของพระจะไม่ต้องมีอะไรผูกมาครับที่เจอๆมาไม่มีเช่นกุมารหลวงพ่อเต๋เป็นต้น (ขอขมาท่านที่เอ่ยนามครับ)ของท่านไม่มีสายสิณท์อะไรเลยแต่คนใช้เห็นผลมามากมาย. ส่วนปัจจุบันก็ไม่รู้แล้วครับเยอะมากครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2015
  7. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
    ทำดีได้ดี...ทำชั่วได้ชั่ว...ที่มีอยู่ผิด...ที่เป็นอยู่ก็ไม่ดีแก้...ที่ทำอยู่ก็ให้สร้างบารมี
    ปล. แล้วจะมีความสุข
     
  8. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    ไม่ได้มีหรือโดนอะไรนะค่ะคือด้วยความสงสัยนะค่ะ อยากรู้ไว้อันไหนดีไม่ดี ในใจมันรู้สึกแปลกๆค่ะเลยอยากถาม หนูก็เลี้ยงนะกุมารแต่ไม่ใช่แบบนั้นอ้ะเปนสายเทพอ้ะ มีของอาจารองค์ นึงกะของวัดอีกสององค์ คงไม่เปนอะไร

    ขอบคุณ คุณ VERAJAK ให้คำตอบชัดมากค่ะ อีกนิดค่ะ แล้วพระที่ทำกุมารโดยใช้ดินป่าช้า กระดูกผีนี่จะเปนสายไหนละค่ะมนต์ดำรึป่าว คืออย่างจะรุ้ให้ชัดละเอียดไปไม่อยากมาคิดเล็กๆน้อยๆให้คาใจค่ะ
     
  9. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538

    งงตรงนี้อ่า หนูเข้าใจยากนะค่ะ ขอโทษทีนะค่ะ
     
  10. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
    ไม่มีไรหรอกพูดให้งงเล่น ๆ....จะได้ไม่เครียด...(สร้างบารมีอย่างเดียวก็ดีนะ)
    กุมารส่งมาให้พี่ (บอกให้มาหาพี่) เดี๋ยวพี่ช่วยอุทิศบุญให้นะจ๊ะ...
     
  11. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    อนุโมทนาครับ ผมยกตัวอย่างนะครับ อย่างกุมารหลวงพ่อเต๋(ขอขมาท่านที่เอ่ยนาม). ท่านใช้ดินเจ็ดป่าช้ากับอย่างอื่นๆอีกเช่นกระดูกผี สีผึ้ง ฯลฯ แล้วเชิญดวงวิญญาณที่เค้าเรียกว่าเรียกธาตุนะครับ แบบนี้กุมารต่างๆก็จะให้คุณกับผู้เลี้ยงให้เค้ามีความเจริญรุ่งเรืองผู้เลี้ยงเองก็จะหมั่นทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กุมารตลอด หลวงพ่อจะสั่งกำชับตลอดเวลาว่าให้ทำบุญให้เค้าเยอะๆนะอย่าลืมทำบุญให้เค้าละ นี่แหละครับคนที่นำไปใช้จึงเห็นผลและเจ้าของจะหวงมากไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ส่วนอีกองค์คือหลวงปู่ทิม (ต้องขอขมาท่านที่เอยนาม)ท่านทำพระผงพรายกุมารดังทั้งประเทศคือท่านนำกระโหลกศรีษะเด็กมาให้สัปเหรอ ทำเพราะท่านเป็นพระทำไม่ได้บทสวดบางบทท่านสวดไม่ได้แต่ท่านคอยกำกับอยู่แล้วเชิญดวงวิญญาณกุมารตอนทำพิธีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่าตำจนไฟลุก แล้วท่านก็นำมาผสมกับมวลสารอื่นๆทำพระผงพรายกุมารดังทั่วประเทศสนนราคาตอนนี้เห็นว่าหลายแสนต่อองค์ คนที่นำไปใช้ล้วนเห็นผลมากมายนี่แหละครับท่าน ถ้านำมาโดยถูกต้องล้วนเป็นสิ่งดีทั้งนั้นใช้แล้วย่อมได้ผลตามปราถนาไม่มีโทษใดๆ แต่ถ้านำมาโดยผิดวิธีล้วนให้ผลตรงข้ามกันยังมีพระอีกหลายองค์ที่ทำนะครับ ก็ต้องดูว่าท่านทำยังไงแบบไหน ผมตอบไม่ได้ครับแล้วแต่วิชาของใครของใครมาสายไหนก็ว่ากันไปครับ. ส่วนท่านเลี้ยงกุมารก็ดีครับหมั่นทำบุญบ่อยๆอุทิศให้เค้าด้วยนะครับอย่าลืมเวลาอุทิศผลบุญนะครับต้องนึกถึงเค้าด้วยเค้าจะได้รับและสะสมเป็นทุนนำเกิดในภพภูมิสูงๆยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2015
  12. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    ทุกวันนี้กุมารหนีไปแล้วละท่านสมิง :cool: ขาดการดูแลไปสองอาทิตย์ ว่าจะสวดมนต์ทุกวันเหมือนแต่ก่อนละ ให้ใครดูให้ก็ดูแบบไหลไปเรื่อย เซ็ง เดะจะไปหาคนสื่ออยู่ไม่รู้ไปยัง อิอิ บอกให้ไปหาพี่สมิงน้องกลัวจะหลงทาง :boo:
     
  13. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    อ่อ จะได้เลิกคิดซะทีตอบตรงประเด็นเอามากๆขอบคุณค่า เข้าใจจริงๆสักที
     
  14. มหาเมตตา

    มหาเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +283
    ขอแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อยครับ (จากสิ่งที่ได้ฝึกฝนจิตมา)

    ส่วนตัวผมเห็นว่า ถ้าเราท่านปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนาญาณให้มากขึ้น เราก็จะเห็นความจริงที่เป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งตามคำตรัสสอนของพระพุทธองค์ คือ “เจตนาเป็นตัวกรรม” ชี้แจงได้ดังนี้ คือ ถ้ามโนกรรม,วจีกรรมและกายกรรมนั้นประกอบด้วยเจตนาที่เป็นกุศลแล้ว แต่ถึงแม้ผลที่ประจักษ์แสดงออกมานั้นมันจะส่งผลร้ายต่อผู้ใดหรือจิตวิญญาณใด ก็ขอให้เรานึกเสมอว่า มันย่อมมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดผลเช่นนั้น กล่าวคือ มันเป็นผลแห่งวิบากกรรมที่ผู้นั้นเคยได้กระทำไว้ส่งผลมาเช่นนี้ และไม่ว่าผู้นั้นจักเป็นพระสงฆ์หรือฆราวาสก็ย่อมได้รับผลตามที่ตนเองได้เคยกระทำไว้ไม่เป็นอื่นแน่นอน เช่น เราเจตนาจะกวาดขยะบนพื้นเพื่อเอาไปทิ้งในถังขยะ แต่ต่างหูเพชรถูกกวาดลงถังขยะและรถขยะเอาไปแล้ว แต่เราไม่เห็นขณะกวาด กรณีนี้ถือว่า เป็นวิบากกรรมของเจ้าของต่างหูเพชรที่จะต้องสูญเสียทรัพย์เพราะเคยโกงเครื่องประดับมีค่าของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นอดีตชาติหรือปัจจุบันชาติก็ตาม เรื่องนี้เราขอให้ความคิดเห็นประมาณนี้ครับ

    ส่วนเรื่องที่ว่า ผู้นั้นจะใช้ดินเจ็ดป่าช้าหรือกะโหลกศีรษะหรือน้ำเหลืองหรือว่านหรือสิ่งมงคลใดๆ นั้นในการนำมาประกอบพิธีกรรมหรือเป็นส่วนผสมของวัตถุที่จะทำนั้น ข้อนี้ เราปรารถนาจะให้ทุกท่านเข้าใจก่อนว่า พลังงานต่างๆ,วัตถุสิ่งของ,ซากศพ,โครงกระดูก,สิ่งอัปมงคลต่างๆ นั้น มันเป็นเพียงสมมติบัญญัติและการให้คำนิยามความหมายในทางกุศลอกุศลจากสิ่งที่มนุษย์และโลกทิพย์ทั้งหลายกำหนดบัญญัตินามขึ้นมาทั้งสิ้น ในทางกรรมฐานนั้น ทำไมพระพุทธองค์ทรงให้กำหนดอสุภกรรมฐาน เจตนาก็คือ ให้เราไม่ยึดมั่นถือมั่นในร่างกาย,โครงกระดูก,น้ำเหลือง,เลือดและอวัยวะอื่นๆ เป็นต้น โดยให้นำสิ่งเหล่านี้มาใช้จิตพิจารณา ในเบื้องต้นให้จิตเห็นถึงความเบื่อหน่ายความไม่สวยงามของสิ่งที่กำหนดให้คลายจากความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายเป็นการกำหนดสภาวะหยาบ แต่เมื่อกำหนดต่อจนถึงในเบื้องปลายแล้วนั้น พิจารณาให้จิตได้เห็นถึงสัจธรรมความจริงเรื่อง ความเกิดขึ้น,ตั้งอยู่และดับไปเป็นธรรมดาของทุกสรรพสิ่งทุกอารมณ์สภาวะที่ไม่เที่ยง(อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) เหตุเพราะพระพุทธองค์ทรงเห็นแจ้งแล้วว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนคือ “ธาตุ” ซึ่งมีความไม่เที่ยงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นมีการแปรเปลี่ยนสภาพสภาวะอยู่เสมอนั้นเอง จึงต้องฝึกจิตให้คลายจากความยึดมั่นถือมั่นจนจิตเคยชินและตั้งมั่นจนจิตเราถึงกาลหลุดพ้นทุกข์ในที่สุด(อริยผลตั้งแต่โสดาปัตติผลจนถึงอรหัตผล ผลที่แท้จริงนั้น ย่อมหมายถึง ผลที่เกิดขึ้นหลายครั้งจนผลนั้นมีอยู่แบบเคยชินและตั้งมั่นในตัวจิตไม่มีผลเป็นอื่น มิใช่ผลที่เกิดเพียงครั้งเดียวหลายครั้งแต่ผลนั้นไม่ตั้งมั่น ก็ถือว่า อริยผลแท้ยังไม่เกิด) จากการฝึกจิตเช่นนี้ ผลแท้ในที่สุด ก็คือ จักไม่มีอะไรสามารถมาเกาะติดจิตดวงนี้ได้ จิตสักแต่รู้แต่เห็น สักแต่รับรู้อารมณ์ความรู้สึกต่างๆ และคลายความยึดมั่นถือมั่น ณ ขณะจิตนั้นโดยทันที เช่นนี้แล้ว จิตจึงไม่เศร้าหมองไม่ขุ่นมัวและไม่ทุกข์ในที่สุด จิตจึงอยู่ในสภาวะหลุดพ้น

    สรุปคือ เรากระทำเช่นไรไว้ก็ได้รับผลเช่นนั้น หว่านพืชเช่นไรก็ได้รับผลเช่นนั้น เจตนาย่อมเป็นวิบากกรรมหรือกรรมดีเสมอ มิใช่ว่าเรานำสิ่งที่ทุกคนคิดเห็นบัญญัติขึ้นมาว่าเป็นกุศลอกุศล,ดีไม่ดี,สมควรไม่สมควร แล้วมาตัดสินว่ามันเป็นไสยดำไสยขาว,เป็นบุญเป็นบาป โดยที่ยังไม่เห็นแจ้งถึงแก่นแท้ในสัจธรรมความจริงในเรื่อง “สัตว์โลกและจิตวิญญาณทั้งปวงย่อมเป็นไปตามกรรม เจตนาก็คือตัวกรรม” เราทุกคนปรารถนาที่จะพบแต่ความสุขความเจริญ ดังนั้น เราก็ต้องกระทำแต่ความดีทำบุญทำกุศลไว้ ถ้ากระทำบาปชั่วก็ย่อมได้รับวิบากกรรมนั้นเอง สาธุ !

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:DoNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>ZH-TW</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <w:DontVertAlignCellWithSp/> <w:DontBreakConstrainedForcedTables/> <w:DontVertAlignInTxbx/> <w:Word11KerningPairs/> <w:CachedColBalance/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]--> ตัวอย่าง เช่นเรื่องของกุมารหรือผีต่างๆ เราไปตัดสินว่า เอากุมารหรือผีมาขังไว้ในตุ๊กตา เอาสายสิญจน์กักขังไว้นั้น ส่วนใหญ่คนเรามักจะมองแค่เปลือกนอกโดยไม่มองที่เจตนากุศลที่แท้จริง เราขังไว้เพื่อเจตนาใด ขังเพื่อให้เป็นที่สิงสถิตนั้นไม่ใช่เจตนาและประเด็นสำคัญ แต่ถึงไม่ขังไว้ เนื่องด้วยวิสัยของจิตวิญญาณทั้งปวงนั้นย่อมต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวเพื่อให้จิตเกาะเกี่ยวเพื่อเป็นสภาวะที่อาศัยของจิตวิญญาณ แต่ก็มีบางกรณีที่ผีหรือกุมารเหล่านั้นโดนกักขังเป็นเวลานานที่เป็นเหตุจากวิบากกรรมที่ผีตนนั้นเคยกระทำไว้ในอดีตจึงต้องได้รับผลแห่งวิบากกรรมนั้น และถ้าเราได้กุมารหรือผีต่างๆ มาในครอบครอง เพื่อเจตนากุศลเพื่อต้องการให้พวกเขาเหล่านั้นหลุดพ้น และระหว่างที่อยู่ร่วมกันนั้น มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็เป็นเรื่องธรรมดาของการสร้างบุญบารมีร่วมกันระหว่างมนุษย์กับผีหรือกุมารตนนั้น แต่ผู้ใดไม่อยากเลี้ยงกุมารหรือผี ก็เป็นเพราะผู้นั้นไม่มีกรรมสัมพันธ์ในเรื่องนี้ ผมเองก็ไม่ได้เลี้ยงผีหรือกุมาร แต่เวลาเจริญสมาธิก็เผื่อแผ่บุญกุศลให้ครับ เป็นเมตตาจิตที่มี สุดท้าย ผมไม่ได้สนับสนุนหรือแนะนำให้เลี้ยงผีหรือกุมารนะครับ แค่พูดตามความคิดเห็นเท่านั้น อีกอย่าง ทำไมโลกยุคปัจจุบันนี้ มีสิ่งแปลกๆ มากมาย มีทั้งเลี้ยงกุมารเลี้ยงผี,ไสยศาสตร์และผู้มีญาณรวมถึงพระโพธิสัตว์มาจุติช่วยเหลือคนมากมายและเปิดกว้างตามสื่อต่างๆ สมัยก่อนไม่ใช่ว่าไม่มี สมัยก่อนก็มีแต่อาจไม่เยอะขนาดนี้และไม่เปิดตัวอย่างเช่นทุกวันนี้ เป็นเพราะยุคนี้มันเป็นแบบนี้มีความเสื่อมมากจึงต้องมีสิ่งลี้ลับมาปรากฎมากเป็นธรรมดา เทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มาฉุดช่วยมนุษย์,มาสร้างบารมีเป็นธรรมดา มันมีเหตุปัจจัยครับ ขอบคุณที่อ่านครับ[FONT=&quot] ^_^[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2015
  15. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    อนุโมทนาครับผมพอจะรู้เพราะเคยผ่านมาก่อนตอนนี้ไม่มีแล้วครับเมื่อก่อนเคยเลี้ยงลูกกรอกครับ ฤทธิ์เยอะกว่ากุมารหลายเท่านัก ตอนที่ได้มาคือแม่เค้าคลอดลูกออกมาเป็นลูกกรอกเลยเป็นคนนี่แหละครับแต่ตัวจะยาวแค่5นิ้วมีอวัยวะสมบูรณ์ครบทุกอย่างแต่แม่เค้าเก็บมา10กว่าปีไม่เน่าแค่เหี้ยวเฉยๆสมบูรณ์มากแม่เค้าตั้งแต่มีลูกกรอกก็ร่ำรวยขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดมาก ต่อมาแม่เค้าเสีย พี่น้องต่างไม่มีใครเอาเพราะกลัวตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงวิ่งเสียงเล่นรถบังค้บ ทุกคนกลัวกันหมดผมเลยขอมาเลี้ยงเค้าก็ให้ตอนอยู่กับผมเงินไม่เคยขาดมือเลยมีอะไรจะรู้ล่วงหน้าเหมือนมีเสียงกระซิบบอกต่อมาไปกราบพ่อแม่ครูบาอาจารณ์ท่านบอกมีเด็กมาหาท่านจะอยู่ด้วยผมตกใจมากเลยจุดธูปบอกกล่าวยกให้ท่านไปเพราะอยู่กับผมบารมีผมน้อยสู้หลวงปู่ไม่ได้ลูกเราจะได้อยู่ช่วยหลวงปู่สร้างบุญบารมีจะได้ไปจุติยังภพภูมิสูงๆยิ่งๆขึ้นไป ทุกวันนี้ก็ไปเยี่ยมไปหาอยู่เรื่อยๆ เค้าคงสุขสบายแล้วละแต่เลิกซนแล้วเพราะหลวงปู่ห้ามซน. ผมเชื่อว่าพุทธคุณสูงสุดแล้วครับ มีศีล5ครบรับรองไม่ต้องแสวงหาอย่างอื่นอีกเลยผมเลิกมาหลายปีแล้วเรื่องหาสิ่งเหล่านี้ อ้อยังเหลือกุมารีของหลวงพ่อเต๋อีกองค์แต่เค้าไม่ยอมไปไหนผมเคยให้เพื่อนไป2ครั้งเพื่อนเอามาคืนทั้ง2ครั้งบอกมีเด็กผู้หญิงไปเข้าฝันว่าให้นำมาคืนไม่งั้นจะมาหักคอเพื่อนเลยกลัวรีบนำมาคืน ทุกวันนี้ก็อยู่ผมก็อุทิศบุญกุศลให้เค้าตลอดเพื่อให้เค้าได้สะสมบุญจะได้ไปจุติยังภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไป. หลวงปู่เองยังไม่เอาเลยครับเคยจะให้หลวงปู่บอกผู้หญิงไม่ได้แล้วเค้าก็ไม่มาด้วยเค้าจะอยู่กับผมไม่มีใครเอาไปได้หรอกครับหลวงปู่บอกไว้ สาธุ
     
  16. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    สาธุคร้าๆๆๆ ออกความเห็นได้เต็มที่ค่ะ อ่านตลอดค่ะ
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,674
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ฟังไปเรื่อยๆจะได้ข้อคิดดีๆค่ะ เจริญธรรม
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมบทที่ 1-10 นิยายธรรมะ หลวงพ่อจรัญ
    https://www.youtube.com/watch?v=kMlc8EzSVLQ
     
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ มาขอแจม เป็นข้อคิดนิดๆหน่อยๆครับ เรื่องแบบนี้ มันมี ๒ คือ ดี กับไม่ดี สิ่งที่ดี ก็เป็นมงคล สิ่งไม่ดี ก็เป็นอัปมงคล ดำกับขาว มันของคู่กัน อยู่คู่กับโลกนี้ มาช้านาน กุมารทอง หรือลักยม พวกนี้ เลี้ยงได้ ใช้ได้ ตามวิสัย พวกนี้เป็นพวกเทพ ใกล้หมดบุญ หรือ ผี สางนางไม้ ที่ตายไป มีฤทธิพอประมาณ ประเภท ลูกกอก คน สัตว์นาๆ ชนิด อันนี้ก็มีฤทธิ เกิดก่อนอายุกำหนด ถ้าคนที่มีวิชาหนือกว่า เขาสามารถ เรียกไปใช้ได้


    อันนี้ต้องดู ผู้สร้าง เป็นสิ่งสำคัญ นักบวชหรือ นัก เดรัชฉานนะคาถา มีหลายประเภท ส่วนพระที่ทรงคุณ จะทำให้คุณมากกว่าให้โทษครับ เรื่องนี้ถ้าพูดกันจริงๆ ต้องใช้เวลามากสักหน่อย แต่ด้วยวิสัย วันนี้อยากแวะมาแจม เป็นกระสายยาดองเท่านั้น และเรื่องของพุทธคุณ ก็อีกเรื่องหนึ่ง ที่พระท่านเมตตาทำให้ กรณีสายสิญนี่ ก็มีทั้ง แบบให้คุณ และโทษ ทั้งนี้ ทั้งนั้นอยู่ที่ผู้กระทำ ว่า ให้ใช้ทางไหนเท่านั้นเองเรื่องแบบนี้ ต้องดูคนทำเป็นสิ่งสำคัญ ในกรณี ตัวอย่างเช่น ทำคุณไสย คุณคน ฝังรูป ฝังรอย เสน่ ยาแฝด มันพราย ขี้ผึ้งปิดปากผี ผมขอบอกมีผลตามนั้นเลย ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว


    ทำได้เฉพาะกลุ่มบุคคลเท่านั้น คนที่เขามีของรักษา ทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่เสมอไป ถ้าคนที่ปฏิบัติธรรม จิตใจยังต่ำอยู่ ก็ยังมีสิทธิได้นะครับ ทุกอย่าง ต้องบอกว่า เท็จๆจริงๆ จริงๆเท็จ มันเป็นของคู่กันไงครับ โลกนี้ ยังมีอะไร ที่เราๆท่านทั้ง ไม่รู้อีกเยอะ นับประสาอะไรกับโลก อื่น ที่เรายังไม่เคยเห็นหรือรู้เลย ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้เสมอๆ และก็เป็นไปไม่ได้ก็มี ทุกอย่างต้องยกให้ กฎแห่งกรรม กรรมที่เราๆท่านๆทำไว้ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่เป็นอื่น กรรมที่ตนทำเป็นเครื่องจำแนกสัตว์ ให้เป็นให้ไปเกิดเป็นอย่างนั้นๆสวัสดี:cool:
     
  19. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    แล้วถ้าเป็น อิ่นคู่ทางเหนือละค่ะ แบบนี้ดีไหม ไปอ่านมาตามเน็ต เขาบอกต้องบูชามีคาถาท่อง ประมานนี้ คือแฟนเขาให้เพื่อนทางเหนือทำให้ ทำโดยเอาวันเดือนปีเกิดเรากับเขาไปทำ เขาบอกแค้นที่เราไม่เอาเขา ไม่ชอบเขา คือเราเกลียดเขามากเพราะเขามากร่างทำตัวเปนเจ้าของเรา เฮ้ออ เขาเลยให้เพื่อนทำให่้ เพื่อนเขาเปนหมอผี และทุกอย่างในชีวิตเราบีบจนเราต้องเอาเขา แต่ทุกวันนี้เราไม่เคยเห็นเขาท่องคาถาอะไร มันเป็นรูปชายหญิงนั่งกอดกัน มีสายสินจ์พันรอบตัว แล้วก็ยาวเป็นเชือกมัดเอว แล้วปีใหม่ปีก่อนู้นเราทะเลาะกันรุนแรงขั้นเลิกรา เรานี่จะเลิกให้ได้ แต่จู๋ๆกลับไม่เลิก ตัวเราเองก็งง และเขาก็มาบอกว่า วันที่จะเลิกกัน สายสินจ์มันขาดจากเอว แล้วหุ่นนั่นก็หาย พอมาเจอเขาก็เอามาคล้องเอว เหมือนจะขออ่ะค่ะแล้วจู๋ๆตัวเราก็รักเขาสะงั้น ของแบบนี้มันดีรึป่าวค่ะ พยายามหนี พยายามเลิกแต่ทำไม่ได้สักครั้ง ไม่รู้ว่ากรรมเรากับเขาจะอยู่อีกนานแค่ไหน ตอนนี้เราอายุสิบแปดจะสิบเก้า เขาอายุ สามเจ็ดจะสามแปด ห่างกันสิบเก้าปี อยากเอารุปให้ดูแต่ไม่มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มีนาคม 2015
  20. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    สิ่งเหล่านี้เป็นเดรัชฉานวิชาความเห็นผิดครับ และทำให้ไม่ได้ซึ่งความเป็นพระโสดาบัน

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังทำพีชคามและภูตคามให้กำเริบ, คืออะไรบ้าง ? คือพืชที่เกิดแต่ราก พืชที่เกิดแต่ต้น พืชที่เกิดแต่ผล พืชที่เกิดแต่ยอด และพืชที่เกิดแต่เมล็ดเป็นที่ห้า. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการทำพีชคามและภูตคาม เห็นปานนั้น ให้กำเริบแล้ว แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเป็นผู้ทำการบริโภคสะสมอยู่เนืองๆ, คืออะไรบ้าง ? คือสะสมข้าวบ้าง สะสมน้ำดื่มบ้าง สะสมผ้าบ้าง สะสมยานพาหนะบ้าง สะสมเครื่องนอนบ้าง สะสมของหอมบ้าง สะสมอามิสบ้าง. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการบริโภคสะสม เห็นปานนั้นเสียแล้ว แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเป็นผู้ดูการละเล่นกันอยู่เนืองๆ, คืออะไรบ้าง ? คือดูฟ้อน ฟังขับ ฟังประโคม ดูไม้ลอย ฟังนิยาย ฟังเพลงปรบมือ ฟังตีฆ้อง ฟังตีระนาด ดูหุ่นยนต์ ฟังเพลงขอทาน ฟังแคน ดูเล่นหน้าศพ ดูชนช้าง แข่งม้า ชนกระบือ ชนโค ชนแพะ ชนแกะ ชนไก่ ชนนกกระทา ดูรำไม้ รำมือ ชกมวย ดูเขารบกัน ดูเขาตรวจพล ดูเขาตั้งกระบวนทัพ ดูกองทัพที่จัดไว้. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการดูการเล่น เห็นปานนั้นเสียแล้ว แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือทายลักษณะในร่างกายบ้าง ทายนิมิตลางดีลางร้ายบ้าง ทายอุปปาตะ คือของตกบ้าง ทำนายฝัน ทายชะตา ทายผ้าหนูกัด ทำพิธีโหมเพลิง ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดโปรยแกลบ ทำพิธีซัดโปรยรำ ทำพิธีซัดโปรยข้าวสาร ทำพิธีจองเปรียง ทำพิธีจุดไฟบูชา ทำพิธีเสกเป่า ทำพิธีพลีด้วยโลหิตบ้าง เป็นหมอดูอวัยวะร่างกาย หมอดูภูมิที่ตั้งบ้านเรือน ดูลักษณะไร่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอทำยันต์กันบ้านเรือน หมองู หมอดับพิษ หมอแมลงป่อง หมอหนูกัด หมอทายเสียงนก เสียงกา หมอทายอายุ หมอกันลูกศร หมอดูรอยสัตว์. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว. แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือทำนายจันทรคราส สุริยคราส นักษัตรคราส ทำนายดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ดาวพระเคราะห์ ว่าจักเดินในทางบ้าง นอกทางบ้าง, ทำนายว่า จักมีอุกกาบาต ฮูมเพลิง แผ่นดินไหว ฟ้าร้องบ้าง ทำนายการขึ้น การตก การหมอง การแผ้วของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์และดาว จะมีผลเป็นอย่างนั้นๆ ดังนี้บ้าง. ส่วนภิกษุในศาสนานี้ เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว. แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือ ทำนายว่าจักมีฝนดีบ้าง จักมีฝนแล้งบ้าง อาหารหาง่าย อาหารหายาก จักมีความสบาย จักมีความทุกข์ จักมีโรค จักไม่มีโรคบ้าง ทำนายการนับคะแนน คิดเลข ประมวล, แต่งกาพย์กลอน สอนตำราว่าด้วยทางโลก ดังนี้บ้าง. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว. แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือ ดูฤกษ์อาวาหะ ดูฤกษ์วิวาหะ ดูฤกษ์ทำการผูกมิตร ดูฤกษ์ทำการแตกร้าว ดูฤกษ์ทำการเก็บทรัพย์ ดูฤกษ์ทำการจ่ายทรัพย์, ดูโชคดี โชคร้ายบ้าง, ให้ยาบำรุงครรภ์บ้าง ร่ายมนต์ผูกยึด ปิดอุดบ้าง, ร่ายมนต์สลัด ร่ายมนต์กั้นเสียง เป็นหมอเชิญผีถามบ้าง เชิญเจ้าเข้าหญิงถามบ้าง ถามเทวดาบ้าง ทำพิธีบวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงมหาพรหม ร่ายมนต์พ่นไฟ ร่ายมนต์เรียกขวัญให้บ้าง. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว. แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง,

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่ทายกถวายด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังสำเร็จการเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้อยู่, คืออะไรบ้าง ? คือ บนขอลาภผลต่อเทวดา ทำการบวงสรวงแก้บน สอนมนต์กันผีกันบ้านเรือน ทำกะเทยให้เป็นชาย ทำชายให้เป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำการบวงสรวงในที่ปลูกเรือน พ่นน้ำมนต์ บูชาเพลิงให้บ้าง ประกอบยาสำรอกให้บ้าง ประกอบยาประจุ ประกอบยาถ่ายโทษข้างบน ประกอบยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมัน หยอดหู ทำยาหยอดตา ประกอบยานัตถ์ุ ประกอบยาทำให้กัด ประกอบยาทำให้สมาน เป็นหมอป้ายยาตา เป็นหมอผ่าบาดแผล เป็นหมอกุมาร หมอพอกยาแก้ยาให้บ้าง. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เธอเว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตผิด เพราะทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนั้นเสียแล้ว. แม้นี้ ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    (ภาษาไทย) สี. ที. ๙/๕๙/๑๐๓.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...