ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

ธรรมะจากเฟสบุ๊ควัดป่าสันติกาวาสครับ ^_^

 

หลังคุยๆกับท่าน ท่านคงเห็นเราติดเรื่องของขลัง จนเกินแก้แล้ว เจอหน้าท่านทีไร ท่านทักถามก่อนทุกทีๆ "ไรๆ มีอะไรให้เสกอีกมั่ย เอามานี่ เราจะทำให้ มาๆ." เห็นแล้วละอายกิเลศตนเองแท้ๆ ที่หนักที่สุด คือ แอบทำผงวิเศษกับหลวงตา 2 คน แหม่ท่านเสกมาจน 3 ปีแล้ว บอกให้เราไปเอา เีด่ยวจะหาย เสกจนยิ่งกว่าเต็ม สุดท้าย เราช้าไปหน่อย ไปขอท่าน ท่านบอก "หาย เราหายังไงก็ไม่เจอ เตือนแล้วหลายหนให้มาเอา ก็ไม่มาเอา เจอดีเรย"

อิอิ แต่โชคดีน้อง กุุ...ร หลวงตาเสกให้เป็นพิเศษ และให้ชื่อด้วย บอกว่า เสกให้ไว้ปลุกให้ภาวนาพุทโธ อิอิ

 

เอาภาพมาให้ชมกันบ้างนะครับ

 

ถูกต้องนะครับบบบบ ที่คุณฌานกรและทุกๆท่านทายได้ถูกต้องทุกคนเบย
เดี้ยวคืนนี้มีภาพสุดคลาสสิกมาลงอีก คุณฌานกรอย่าลืมเอามาขยายแบบนี้ด้วยนะ อิอิ

 

อีกหนึ่งภาพสุดคลาสิก 1 ในพระอาจารย์ของหลวงตาเรา
องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ครับ
ภาพนี้ตอนที่หลวงตามหาบัวท่านมาเป็นประธานงานละสังขารหลวงปู่บุญจันทร์ครับ สาธุ............

 

เนื่องจากไม่กี่วันที่ผ่านมานี้มีเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับวงการพระศาสนาของเราอีกครั้ง นั้นคือมีการลอบสังหาร พระอาจารย์บัณฑิต(ท่านเป็นอาจารย์หมอ ดูแล พระผู้ใหญ่) เจ้าอาวาสวัดป่าต่อสีเสียดอย่างอุอาจ(ท่านเป็นลูกศิษย์ ลป บุญจันทร์ ลต มหาบัว ลป อินทร์ถวาย ลต สมหมาย) แบบที่ยอมใจคนที่สั่งการและคนที่ลงมือฆ่าจริงๆ ถ้าใครรู้จักพวกมันเข้ามาอ่านฝากบอกพวกมันด้วยนะครับว่า ช่างชิตสาบแช่งให้มันวุ่นวายกับชีวิตและตายช้าๆแบบทรมานสุดๆแล้วค่อยๆลงนรกไปซะ เฮ้ออออ ข่าวความวุ่นวายในวงการพระอันเก่ายังไม่จบก็มีข่าวสลดให้ต้อง เสียจริตสภาพจิตใจแย่อีกแล้ว ยอมรับครับช่างชิตไม่ใช่พระอรหันต์อะไรมากระทบจิตใจก็พลอยรู้สึกแย่ไม่เจริญจิตเจริญใจอย่างบอกไม่ถูก เอาละเดี้ยวเรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังค่อยว่ากันเอาสถานะการณ์ปัจจุบันมาว่ากันก่อน วันนี้ช่างชิตนำภาพหลวงปู่อินถวายและหลวงตาสมหมายพร้อมพ่อแม่ครูอาจารย์ร่วมงานฌาปณกิจศพพระอาจารย์บันฑิตมาฝากครับ.....

 

ช่างชิตเอาประวัติคราวๆของพระอาจรย์หมอมาให้พวกเราได้อ่านกันครับ
อ่านแล้วก็เสียดายพระดีๆ เฮ้อออออ

*ขอขอบพระคุณข้อมูลประวัติ จาก FB ของ Jaruvat Chanposri ด้วยครับ

"วันนี้เป็นวันประชุมเพลิงของท่านพระอาจารย์บัณฑิต (พระอ.หมอ) สุปัณฑิโต วันอังคารที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๘ ณ เมรุชั่วคราววัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี (หมายเหตุ : พระที่ถูกดักยิงระหว่างกลับจากบิณฑบาต)

ประวัติพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต ท่านเป็นผู้ที่ใฝ่ใจในการศึกษาเล่าเรียนมาแต่เล็ก การเล่าเรียนทางโลกท่านเข้าเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนสวนกุหลาบ และมัธยมปลายที่เตรียมอุดม จากนั้นท่านสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ จากนั้นท่านได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลของอ.ไชยวาน จ.อุดรธานี

ชีวิตในวัยเยาว์ของท่าเนื่องจากบิดาของท่านมีศรัทธาในองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จึงทำให้ท่านมีโอกาสใกล้ชิดกับหลวงตาท่านมาแต่เด็ก ต่อมาวันหนึ่งบิดาของท่านตั้งใจจะให้ลูกได้บวชเณรอยู่กับองค์พระหลวงตามหาบัว แต่ปรากฏว่าองค์หลวงตาไม่รับพร้อมทั้งบอกว่าโน้นให้ไปโน้น ไปหาหลวงปู่เกล้า วัดถ้ำเกีย จ.อุดร เมื่อพ่อของท่านพาท่านไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่เกล้า หลวงปู่เกล้าก็ทักท่านว่า อดีตชาติเป็นหลานของหลวงปู่มาก่อน ส่วนแม่ของท่านเคยเป็นลูกสาวขององค์หลวงปู่และพ่อของท่านก็เคยเป็นลูกเขยมาแต่อดีตชาติ

ในตอนที่ท่านเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่อ.ไชยวาน มีโอกาสเข้ากราบหลวงปู่บุญจันทร์ กมโล แห่งวัดป่าสันติกาวาส จ.อุดรธานี คราวนั้นหลวงปู่บุญจันทร์กล่าวกับท่านว่า "ดูซิพ่อแม่ครูอาจารย์มีแต่ละสังขารลงไปทุกวัน น้อยลงไปทุกที ทางโลกสร้างเท่าไหร่ไม่จบ ให้มาสร้างทางธรรม ตบท้ายที่ว่าให้อาจารย์หมอมาออกบวชมาสร้างทางธรรมซะ"

ประโยคนี้ทำให้ท่านอาจารย์หมอบัณฑิตในขณะนั้นรู้สึกตื้นตันในหัวอกแต่ก็ยังไม่ตัดสินใจที่จะออกบวช ท่านเล่าให้ผมฟังว่าจิตใจมันเหมือนมีหอกมาปักคาอกไว้ วันที่คิดปลงได้ว่า "เราจะบวช" เหมือนกับว่าหอกเล่มนั้นหลุดจากอก

พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต ได้บวชกับองค์หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี หลังจากที่บวชแล้วมีโอกาสเข้าศึกษาธรรมกับหลวงปู่บุญ จันทร์ กมโล, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต , หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ, หลวงปู่ลี กุสลธโร ,พระอาจารย์อินทร์ถวาย เป็นต้น

ในพรรษาที่สามหลังจากที่ท่านได้ปฏิบัติภาวนามาอย่างยิ่งแล้ว ในเช้าวันหนึ่งท่านได้เทศนาธรรมให้โยมมารดาของท่านฟัง โยมมารดาของท่านนึกว่าท่านธรรมแตก ถึงกับร้องห่มร้องไห้รีบโทรแจ้งพระอาจารย์อินทร์ถวาย เช้าวันนั้นพระอาจารย์อินทร์ถวายรีบมาโดยยังไม่ได้ฉันเช้าเพราะเป้นห่วงพระอาจารย์บัณฑิตเข้าไปสอบอารมณ์อยู่นาน พอพระอาจารย์อินทร์ถวายสอบอารมณืเสร็จก็บอกกับโยมแม่ของพระอาจารย์ว่า ลูกโยมนะผ่านแล้วมีแต่โยมแหละที่ยังบ้าอยู่ !

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพระอาจารย์บัณฑิต มีโอกาสปรนนิบัติรับใช้องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนอย่างใกล้ชิดรวมทั้งองค์หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป ท่านเป็นผู้ดูแลการสร้างพระธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ และยังเป็นผู้ดูแลโครงการหอผู้ป่วยวิกฤติ ของโรงพยาบาลอุดรธานีอีกด้วย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาท่านได้ประพฤติพรหมจรรย์ได้อย่างเยี่ยมยอดเป็นครูบาอาจารย์ที่ดี เป็นผู้ที่มีเมตตาและให้คติเตือนใจแก่ทุกคนเสมอ

ขอไว้อาลัยแด่พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต พระสุปฏิปันโนที่กราบไหว้ได้สนิทใจพระแท้ที่หาได้ยากยิ่ง คำสอนของท่านจะคงอยู่ในใจของผมเสมอ...

.......สุดท้ายนี้ ช่างชิตเองไม่รู้จักท่านเป็นการส่วนตัวและจำไม่ได้ว่าเคยเห็นหน้าท่านไหม (แต่คิดว่าหน้าจะต้องเคยเห็นละ)ช่างชิตขอกราบขอขมาท่านพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ระลึกได้หรือระลึกไม่ได้ก็ดี ช่างชิตขอกราบขอขมาท่านพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต โปรดยกโทษให้ หากเคยมีกรรมร่วมกันมา อย่าถือเป็นทุกข์เป็นโทษตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

 

กราบพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต พระผู้ปฏิบัติดีแล้วผู้ปฏิบัติชอบแล้ว

ผมได้ดูข่าววันช่วงแรกๆ ผมยอมรับเลยว่าน้ำตาซึมเลย เหตุใดหนอ
สิ่งใดหนอ ทำให้คนมีจิตใจอันดำมืด กระทำกรรมอันเลวทรามต่ำช้าได้เช่นนี้
ไม่เห็นชีวิตแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่เห็นแก่ผ้าเหลืองสัญลักษณ์ผู้ระงับจากการทำบาปน้อยใหญ่

ช่างชิตครับอย่าได้สาปแช่งคนผู้นั้น ให้เกิดบาปกรรมเลยครับ
ผมเชื่อว่ากรรมทั้งหลายย่อมมีแก่ผู้นั้นแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว

ยํ กมฺมํ กริสฺสามิ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา
ตสฺส ทายาโท ภวิสฺสามีติ

เราทำกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป เราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้น ๆ สืบไป

 

สวัสดีครับท่านเจ้าของกระทู้ และพี่ๆ สมาชิกแฟนคลับทุกท่าน

ผมเองก็เกิดอาการหดหู่กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาของเราในช่วงนี้จริงๆ ครับ โดยเฉพาะเรื่องของพระอาจารย์บัณฑิต ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจและสะเทือนขวัญลูกศิษย์สายพระกรรมฐานมากครับ ผมเองก็ได้แต่หวังว่ากรรมที่คนสั่งการและคนลงมือกระทำก็คงจะติดตามเค้าไปเร็วๆ นี้ครับ
และสุดท้ายนี้ขอน้อมส่งดวงจิตพระอาจารย์บัณฑิต สู่แดนนิพพานครับ นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม กรรมอันใดที่ผมได้เคยประมาทพลาดพลั้งและเคยล่วงเกินต่อพระอาจารย์บัณฑิต ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ขอพระอาจารย์จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้นแก่ผมด้วยเถิด

 

ลงรูปใหญ่ให้พี่ช่างชิตตามคำขอหน่อยครับ น้อมกราบองค์หลวงตามหาบัว และหลวงตาสมหมายเหนือเศียรเกล้าครับ กราบ กราบ กราบ ​

 

สวัสดียามดึกครับทุกท่าน เนื่องในวันพระใหญ่วันมาฆบูชาที่ผ่านมาเมื่อวาน
หลวงตาก็ได้เมตตาพาญาติโยมนำ สมุนไพรเก่าแก่และองค์พระพุทธรูปเก่าขององค์หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล...และพระเครื่องจำนวน 84,000 องค์ เข้าเจดีย์ครับเสร็จแล้ว
หลวงตาก็น้อมอธิฐานจิตสวดมนต์เพื่อให้สิ่งของมงคลต่างๆเป็นวัตถุบูชาเพื่อการศาสนาในวันข้างหน้า ช่าชิตนำภาพมาฝากครับ สาธุ

 

อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ :cool::cool::cool:

 

พี่ช่างชิต น่าจะตั้งกลุ่มใน facebook. หรือ line มั่งนะครับ จะได้ติดตามสะดวกมากยิ่งขึ้น

 

ในเฟสมีกลุ่มลูกศิษย์ของหลวงตาทำแฟนเพจอยู่แล้วครับ ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะเปิดเป็นกลุ่มเฉพาะตั้งหากดีไหม

 

สวัสดียามดึกครับทุกท่าน ช่วงนี้ช่างชิตกลายเป็นนกฮูกแล้ว นอนไม่หลับเลย เพื่อไม่ให้เสียเวลาเปล่าๆ คืนนี้เอาภาพอัฐิของอาจารย์หมอ บัณฑิต มาให้ชมกันนะครับคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย หลวงปู่อินถวายท่านก็ได้เทศน์ออกวิทยุว่า"มันเป็นกรรมเก่าส่งผลพระอาจารย์หมอถึงต้องจากไปแบบนี้" แต่ถึงท่านจะละไปแบบนี้แต่ก็คงจะรู้ๆกันอยู่ว่า แดนที่ท่านไปนั้นท่านจะไปไหน คืนนี้ราตรีสวัสนะครับ

 

"ทำความดีมาวัดมาวาบ่แมนมาตั้งแต่หลวงตาอยู่เด้หลวงตาบ่อยู่ก็ไม่มามันบ่เป็นท่าเด้เคยทำยังไงก็ทำยังงั้นละทำไปเรื่อยๆบุญนะถ้ามันอิ่มเอิมในจิตในใจมันก็คือน้ำและก็จะเต็มคือน้ำเต็มแก้วหรือถ้ามันบ่หลุดบ่พ้นก็ให้มันเบาลงหรือลดน้อยทอยลงไปเราทำเรื่อยๆแล้วก็จะหลุดจะพ้นเองละให้ตั้งใจพากันทำเอาบุญบ่แมนพากันสร้างแต่บาบแต่กรรมให้งดเว้นลดละเลิกอบายมุขต่างๆเช่นการพนัน ก็เป็นบาบ ดื่มสุราก็เป็นบาบ ลักเล็กขโมยน้อยก็เป็นบาบ เล่นเมียคนอื่นหรือมีเล็กมีน้อยก็เป็นบาบ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็เป็นบาบ โกหกหลอกลวงเอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเองก็เป็นบาบ ฉะนั้นแล้วองค์ศาสดาและองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ท่านก็อบรมสั่งสอนให้เราประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีลห้านี้ละ....."
☆โอวาทธรรมหลวงตา☆

 

เข้ามาอ่านกระทู้นี้โดยบังเอิญ แต่พออ่านหน้าแรก ตามไล่อ่านจนถึงหน้าสุดท้ายเลยค่ะช่างชิต55 ขอบคุณที่แบ่งบัน อนุโมทนาบุญกุศล และ ความมีน้ำใจของช่างชิต เป็นคนกุมภวาปีค่ะ อยากไปกราบหลวงตา หากมีบุญวาสนาพอ เขียนต่อไปเด้อ คอยติดตามอยู่:cool:

 

คนบ้านเดียวกัน 5555 ขอบพระคุณมากนะครับที่อุตสาห์สละเวลามาอ่านกระทู้ผม ผมเองอาจเขียนได้ไม่ถูกใจ แต่อยากให้รู้ว่าผมเขียนเพราะผมอยากให้รู้ว่า ยังมีพระอริยะดีๆใกล้ๆตัวเรา ขอให้ไปกราบหลวงตาในเร็ววันนะครับ

 

สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากส่งจิตออกนอกไปนานในช่วงนี้ ทำให้ไม่มีอารมณ์มาเขียนเรื่องที่น่าสนใจให้ทุกๆท่านอ่านกัน คืนนี้จิตเริ่มกลับมาเข้าร่างละครับ 5555 ทำให้มีอารมณ์จะมาเขียนเรื่องราวดีๆละ เขียนไปฟังเพลง หยาด นภาลัย กุ้ง กิตติคุณ สุเทพ วงค์คำแหง ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ เรื่องที่จะเล่านี่จริงๆเกิดขึ้นมาได้หลายปีแล้วครับ ตั้งแต่ช่างชิตยังบวชอยู่(รอบสอง) ตอนนั้นที่ฟังเรื่องนี่ยอมรับครับว่าช่างชิตเฉยๆกลับมองว่า "พวกคุณคิดกันไปเองหรือเปล่า" ที่ช่างชิตมีความคิดแบบนั้นเพราะ เรื่องนี้เกิดก่อนเรื่อง "สายประคด" ครับ เลยยังไม่ลงใจในเรื่องแปลกๆแบบนี้เท่าไร เอาละมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ไม่ให้เสียเวลา

...........ตอนที่ช่างชิตบวชรอบสองนั้น ช่างชิตไม่ได้บวชคนเดียวนะครับมีนาคที่รอบวชด้วย 2 คน และเราสามคนก็บวชพร้อมกัน ในที่นี้ช่างชิตจะขอเรียกว่า ครูบาบี และ ครูบาอี แล้วกันนะครับ ช่างชิตและครูบาบี,อี บวชแล้วก็จะไปมาหาสู่กันประจำเพราะบวชพร้อมกันเป็นพระใหม่ทั้งสามคน แต่ไม่ได้หน้าใหม่ในวัดเพราะต่างก็เป็นลูกศิษย์ลูกหาวัดมาตั้งนมนานทั้งสาม แล้ววันหนึ่งช่วงเย็นได้เวลาลงกวาดตาดกวาดลานวัด วันนั้นช่างชิตไม่ได้ลงฉันจังหันเช้าเพราะอดอาหารภาวนา จึงไม่รู้ว่าเช้าเขามีอะไรกัน พอลงจากกุฏิช่างชิตก็เดินกวาดตาดมาเรื่อยๆ ก็เจอครูบาบีกับครูบาอีกำลังยืนคุยกันดูจากหน้าตา ทั้งสองหน้าตาแปลกอกแปลกใจยังไงไม่รู้ ช่างชิตจึงเข้าไปฟังร่วมวงด้วยเลยถามว่ามีอะไรกัน

ชช "ครูบามีอะไรกัน ดูน่าสนใจเล่าให้ฟังบ้างสิ"

คบบี "ฝันเห็นหลวงตา ฝันว่าหลวงตามาตาม" ครูบาบีหันมาบอกช่างชิตด้วยหน้าตาแบบคน งงๆ หรือเจออะไรที่มันแปลกๆ (คืออธิบายไม่ถูก 555)

ชช "อ้าวหรา แล้ว???" ช่างชิตทำหน้าตาแบบ คืออารายยยยอะ

คบอี "ผมเองก็ฝันเหมือนกัน" ครูบาอีส่งเสียงหนักแน่นมาทับ

ชช "ยังไงเนี่ย ทำไมฝันเหมือนกันเลยทั้งสองคน" ช่างชิตทำหน้าตาตั้งใจฟัง

คบบี "คืออย่างนี้ ตอนเช้าวันนี้ก่อนหลวงตาจะออกไปจังหันข้างนอกโยมนิมนต์ หลวงตาบอกว่าท่านกลับมาให้ ผมกับครูบาอี ไปช่วยท่านเก็บของหน่อยแล้วหลวงตาก็ออกไป ผมกับครูบาอีฉันเสร็จก็รอหลวงตากลับมา แต่เห็นหลวงตายังไม่มาก็เลยแยกย้ายกันกลับกุฏิ ผมพอมากุฏิก็เลยเผลอหลับไป ส่วนครูบาอีนั้นไปห้องสมุดและก็เผลอหลับไปเหมือนกันอีก พอหลับไปได้ซักพัก ผมฝัน ผมฝันว่าหลวงตากำลังตามหาผมอยู่ แล้วมาเรียกผมอยู่หน้ากุฏิ ผมเลยสะดุ้งตื่น นั่งซักพักตั้งสติได้เลยเปิดกุฎิไปดู ปรากกฏว่าเห็นหลวงตายืนอยู่หน้ากุฏิจริงๆ ผมตกใจมาก ก็รีบออกไปหาท่าน พากันเดินไปศาลาซักพัก ครูบาอี ก็มาสมทบ ผมเลยถามว่าใครไปตาม ครูบาอีบอกฝันว่าหลวงตาไปเรียกหน้าห้องสมุด นั้นละเลยคุยยาวจนบ่ายทั้งวันวันนี้" ครูบาบีเล่าเหตุการณ์โดยละเอียด

ชช "อั้ยยะ ขนาดนั้นเลยหรา จริงเปล่าครูบาอี ครูบาฝันว่าไง" คือ อย่าหาว่าช่างชิตกวนตีนเลยนะครับ จริงๆเป็นคนเชื่ออะไรยากมาก ทุกเรื่อง ขี้สงสัย ชอบถาม ชอบหาเหตุและผลมาประกอบ ดูความหน้าจะเป็น ดูบุคคลที่พูดว่ามีความน่าเชื่อถือขนาดไหน แล้วเอามาวิเคราะห์ว่าเป็นไปได้จริงหรือ(สันดานวิวะ 5555)

คบอี "จริงสิ ผมจะมาโกหกทำไม บวชเป็นพระแล้ว ผมไปห้องสมุดกะไปนั่งอ่านหนังสือรอหลวงตากลับมาก็ดันหลับ แล้วก็ฝันว่าหลวงตาตามหาแล้วมาเรียกผม ผมเลยสะดุ้งตื่น ก็รีบออกมาดูว่าหลวงตากลับมาวัดยัง ก็มาเจอกันที่ศาลาหลังครูบาบีนั้นละ"
ครูบาอี เล่าด้วยสีหน้าจริงจัง

ชช "หรา แปลกดีนะฝันเหมือนกันพร้อมกันทั้งสองคน"

คบบี "ที่คุยๆกันก็เพราะว่ามันแปลกนี่ละ เหมือนหลวงตามาตามในฝัน"

คุยกันอีกซักพัก แล้วช่างชิตก็ขอตัวออกมาเดินกวาดตาดไป ในใจก็ยังนึกว่าทั้งสองคนนั้นคิดมากจนเก็บเอาไปฝันมากกว่า แต่อีกใจก็คิดว่า อะไรมันจะประจบเหมาะขนาดนั้นพร้อมกันเรื่องเดียวกันทั้งสองคน คิดไปคิดมาก็เลยไม่คิด ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั้งมาเจอเรื่องอัศจรรย์ใจกับตัวเรื่อง "สายประคด" นั้นละครับ ความสงสัยจึงลดลงแบบเกือบหมดหน้าตัก และพอมีอีกหลายๆเรื่องตามมา ช่างชิตถึงได้สรุปคำตอบเรียบร้อยจนถึงบัดนี้ อ่านแล้วไม่เชื่อช่างชิตก็มาหาคำตอบเอาเองนะครับ ถ้าใครเข้ามากราบสัมผัสหลวงตาแบบพวกเรา คุณก็จะมีคำตอบที่ชัดเจนเองละ ขออย่างเดียว อย่าไปแบบท้าทาย ไปแบบลองของ ไปแบบไม่มีสัมมาคารวะ แบบนี้ไม่ดีครับ เพราะหลวงตาท่านไม่ได้อะไรกับเรื่องพวกนี้เลยจริงๆ กระทู้นี้ช่างชิตก็หน้าด้านเขียนเอง(เพราะเจตนาดีแต่เสนอในมุมอีกมุมหนึ่งเฉยๆ) หลวงตาท่านก็ยังเน็บๆอยู่ว่า เดี้ยวคนจะเข้าใจผิดว่าหลวงตาเป็นพระเกจิอาจารย์ พ่นน้ำหมาก สาดน้ำมนต์ มีฤทธิ์มีเดช อะไรแบบนั้น มันไม่ใช่แก่น ช่างชิตก็บอกท่านว่า ไม่หรอกครับ หลวงตาก็เป็นเหมือนเดิมละ เพียงแต่คนบางคนก่อนจะเข้าถึงแก่นบางทีก็ต้องเอาอะไรมาดึงให้เขาสนใจเปิดใจก่อน คนประเภทนี้มีเยอะ(เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน)และก็เชื่อว่า คนที่อ่านกระทู้ช่างชิตทุกท่านเป็นคนมีวิจารญาณ ทุกท่านก็ต้องเข้าใจที่ช่างชิตต้องการจะสื่อ ถ้าอ่านจริงๆคงไม่ตีความไปเป็นอื่นเพราะช่างชิตก็ย้ำตลอดตั้งแต่ต้นจนถึงทุกวันนี้ ฉะนั้นใครไปหาหลวงตาก็ไป ทำบุญ ฟังธรรม ไปปฏิบัติภาวนาละครับ เดี้ยวอะไรดีๆจะตามมาเอง

......เอาละ พอหอมปากหอมคอก่อนนะครับ พรุ่งนี้ก็วันจันทร์ละจะได้มีอะไรไปเล่าสู่กันฟัง ถ้าพลาดไม่ได้อ่านระวัง "เดี้ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง" นะครับ 55555 ฝันดีราตรีสวัสครับ

 

สงสัยผมจะคุยกับเขารู้เรื่อง ได้อ่านล่ะ 555
ขอบอกเลยครับ ช่างชิตเล่าเรื่องได้สนุกมาก :cool: