ซูกระแท้ว....แซวกระทู้....

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 14 เมษายน 2014.

  1. THE SEVEN

    THE SEVEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +870
    แจ่มมากๆครับ อธิบายได้ประทับใจ
    ไม่ว่างแล้วเดี๋ยวต้อง DEJAVU ไปสนทนากับตัวเองที่แกนอดีต อนาคต หน่อย
    เผื่อจะหาทางหนีภัยพิบัติ..การเมือง
     
  2. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    คุยอะไรกันอยู่ครับ...มาตั้งชื่อกระทู้อะไรแปลกๆ
    กระทู้ที่เคยได้เรื่องได้ราวหน่อย...นั่นนน ลบออกซะเฉยงั้น


    มีใครพาดพิงถึงกระผมรึเปล่า...แมงเม่ามันมาบินวนฟ้องวิ๊งๆ

    ไม่อยากคุยอะไรมาก..เดี๋ยวโดนลบอีก ขอแอบอ่านอย่างเดียวพอ
     
  3. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    เอาแมงโม้มาบินผ่านหน่อยสิครับ...เรื่องเหล็กไหลที่เดี๋ยวนี้ใครๆทำไมหากันได้ง่ายดายนัก...
    มีขายมากมายในกระทู้ต่างๆ...ต่างจากเหล็กไหลที่ป๋ารู้มายังไงมั่ง...
    เอาแนวโม้ๆนี่แหละนะ...มีสาระไม่ได้...มีสาระทีไรเป็นโดน...
    :'(
     
  4. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    เคยสงสัยมั๊ยว่าโลกนี้ทำไม..นักวิทยาศาสตร์ คิดว่าสนามแม่เหล็กโลก แบ่งเป็นขั้วเหนือ-ขั้วใต้ ทำไมไม่เป็น ขั้วตะวันออก-ตะวันตก บ้างไม่ได้หรือ?

    เคยสงสัย เรื่อง มนุษย์ต่างดาว มั๊ย..จริงหรือไม่ ถ้ามีจริง.. แล้วมีกี่เผ่ากี่พันธุ์

    เหล็กไหลคืออะไร..นั่นสิ มันคืออะไร

    ประโยชน์ทำอะไรได้ แล้วมนุษย์ต้องไปยุ่งอะไรกับสิ่งเหล่านี้
    ...แล้วเขาอยากยุ่งกับมนุษย์ด้วยรึเปล่า?
    ในน้ำ ในทะเล ในมหาสมุทร ในลาวาหินร้อนใต้ดินมีมั๊ย?


    สำหรับผมถ้าจะให้อธิบายก็คงยากพอๆกับคำที่ว่า
    ..."วิญญาณ" มันคืออะไรบ้าง?เป็นแบบไหน? มีขบวนการอย่างไร? แบ่งเป็นกี่ชั้นภพภูมิ?

    มันก็น่าจะอธิบายยากพอๆกัน เพราะไม่รู้จริงๆซักเรื่อง
    แต่ก่อนนี้ขี้สงสัยมาก สงสัยไปหมด ศึกษาค้นคว้ามั่วแหลกราญไปหมด

    จนที่สุดก็โดนพระอาจารย์ท่านเอ็ด อบรมสอนเอาว่า
    "รู้แล้วเอ็งได้ประโยชน์อะไร...เพราะสิ่งเหล่านั้นมันก็ยังเป็นของมันอย่างนั้นๆ"

    "เสียเวลาไปค้นหาเรื่องอจิยไตย ที่มันไม่จบไม่สิ้น...แต่จิตวิญญาณของเราเองมันยังต้องทนทุกข์ในวัฏฏะสงสาร...ไม่เบื่อหน่ายหรือวนเกิด วนตายอยู่ร่ำไป.. จะพลาดผิดลงนรกภพภูมิไหนบ้างก็ไม่รู้


    มารีบเร่งใช้กรรมฐานเป็นกำลังปัญญาให้รู้รอบขันธ์ห้า ของที่อยู่ติดกับทุกข์เราง่ายๆก่อนไม่ดีกว่าหรือ?"


    พอท่านเล่นสังสอนมาถึงท่อนนี้เข้า ทำเอาลูกศิษย์ชั้นโง่กระจอกแบบ toplus99 น้ำตาคลอเบ้าเชียว
    ...จริงอย่างที่ท่านว่า


    ภายหลังพอปล่อยวางเข้า...ก็เริ่มมารู้เรื่องเหล็กไหลทีละนิดๆ ของมันไปเอง...

    แต่ช่างมันไม่ใช่สาระสำคัญ ถึงยังไงก็ได้ชื่อว่ายัง.. โง๊โง่ อยู่ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2014
  5. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,248
    ค่าพลัง:
    +68,026
    ขอเรียกอาจารย์คุณป๋า ตามยายล้อเล่นนะคะ

    อืม เรื่องเหล็กไหล ก็สงสัยเหมือนกับอาจารย์ค่ะ ผุ้น้อย อยากทราบความเห็นจากอาจารย์ป๋า เรื่องเพชรพญานาค ค่ะ

    มีความเป็นมาเยี่ยงไร
     
  6. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ท่านป๋าระมิค์เล่าไปเลยครับ...

    เรื่องเพชรพญานาคเนี่ย กระผมก็มีประสบการณ์เรื่องนี้พอประมาณอีกหล่ะ
    จะว่าเป็นเรื่องเหลวไหลก็อาจจะได้..หรือมันมีความพิเศษอย่างอื่นจริงๆ..ก็น่าลุ้น!!!

    ============

    ตั้งกะหลายปีก่อน เริ่มยุคแรกๆ ทำบุญบูชากันเม็ดละเป็นหมื่นบาทโน่นน่ะ.

    ..คนที่นำมาเผยแพร่จนโด่งดังครั้งแรกก็ คือท่าน อ.ศักดา...

    จนกระทั่งหลายปีต่อมา ตัวเองก็มาจ๊ะเอ๋..ในถ้ำ

    เป็นหินทรายดำๆหุ้มเพชรพญานาค 1ก้อน เพราะมีความรู้สึกแว๊บๆ ว่าน่าจะมีอะไรในบางบริเวณนั้น..แล้วก็มีจริงๆ พอออกมาทุบหินออกมาเป็นเม็ด สีแดง

    สุดท้าย..วันนี้นก็เลยมอบให้คนที่นำพุทธรูปปางนาคปรก มาถวายที่วัดซะเลย
    ไม่ยึดติดครับ...ไม่ยึดติด

    แต่แม้กระทั่งหินที่ห่อหุ้มเพชรพญานาค จริงๆก็มีคุณพิเศษบางอย่างนะครับ ผ่านกรรมวิธีแปรสภาพบางอย่าง
    แล้วนำมาเลี่ยมห้อยกับสร้อยคอ รวมกับองค์พระอื่นในเสื้อปิดมิดชิด

    เจอมาด้วยตัวเองก็ยังงงๆเลย...ว่ามัน ไปปรากฏรู้ในญาณของนักปฏิบัติธรรมบางคนที่เราไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน..
    อยู่กันก็คนละที่ และห่างเหตุการณ์นั้นตั้งนานได้ยังไง!!!

    ดันทักเรื่องราวถูกซะด้วย..อิย๊ะ น่าฉงงน มันจะเก่งเกินไปแล้วงี้




    ไม่พูดหล่ะ.. เดี๋ยวโดนลบกระทู้ เหนื่อยเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  7. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    เรื่องเหล็กไหลเนี่ย ที่จริงอยากเป็นผู้ฟังซะมากกว่า ป๋า toplus99 ท่านก็ไม่ยอมโม้ซะที...
    เหล็กไหลที่ผมเห็นมันไม่เหมือนที่เขาเอามาโฆษณาขายกันอยู่โดยทั่วไป

    ผมเห็นมันเหมือนสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งเสียมากกว่า เป็นธาตุที่อ่อนได้แข็งได้ เคลื่อนไหวได้เอง เหมือนมีจิตวิญญาณอยู่ภายในของมันเอง เรื่องที่อยากจะไปอยู่กับใครเพื่อไปบำเพ็ญบารมีด้วยนั้น ผมยังไม่ค่อยได้เห็นสักเท่าไร เพราะเหมือนกับว่าเหล็กไหลก็ไม่ได้สนใจเรื่องจะไปอาศัยบำเพ็ญบารมีกับใครสักเท่าไรเลย...ชอบที่จะอยู่อย่างสันโดษไม่ยุ่งกับใครเสียมากกว่า...

    ใครไปบังคับเอามาได้ก็ชั่วครั้งชั่วคราว ได้มาไว้ใกล้ตัวก็เหมือนจะมีโทษมากกว่ามีคุณ ดูๆไปแล้วก็ไม่เห็นว่าจะเอามาทำประโยชน์อะไรในการปฏิบัติธรรมหรือช่วยให้ร่ำให้รวยได้เลย กลับกันกลายเป็นว่าจะทำร้ายคนๆนั้นได้ง่ายๆ โดยคนผู้นั้นมีโอกาสที่จะไม่สามารถทำอะไรเหล็กไหลได้เสียด้วยสิ...
    บางทีผมยังคิดบ้าๆไปเลยว่า เหล็กไหลคือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งจากต่างดาว...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  8. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    เรื่องเพชรพญานาค ของจริงๆนั้นมีเหมือนกัน แต่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ ไม่ได้มีกันเยอะแยะอย่างทุกวันนี้หรอกครับ...

    ผมจึงจะเล่าถึงเพชรพญานาคของเก๊ดีกว่า ว่าเขามีวิธีการทำอย่างไร...
    เขาเอาพลาสติกมาอัด ทำเป็นเพชร กลมๆใสๆ มีสีต่างๆกัน อัดด้วยอุณหภูมิสูงและความดันสูง ผิวจะแกร่งมาก...

    จากนั้นก็ปั้นดิน ผสมปูนและผงหิน หุ้มเพชรพญานาคเอาไว้แล้วเอาไปเข้าเตาเผาอีกทีหนึ่ง จากนั้นก็เอาไปทิ้งไว้ตามลำธารที่ไม่ค่อยมีคนไปเล่นน้ำนัก...

    ต่อมาก็จะมีหน้าม้าคอยมาเชียร์ว่ามีแหล่งเจอเพชรพญานาคได้จริงๆ...จากนั้นก็ชวนให้พระสงฆ์และคณะลูกศิษย์ไปค้นหากัน เมื่อเจอแล้วก็ไปอุ้มมาทุบออก เจอเป็นเพชรพญานาคบ้าง เจอเป็นองค์พระบ้าง...

    อันนี้ก็ต้องขอนินทาหลวงพี่ชัยวัฒน์สักหน่อยนะครับ...
    ผมอยู่ด้วยพอดีตอนที่หลวงพี่พร้อมคณะพระหนุ่มๆร่วมกันมาทุบก้อนหินที่บรรจุเพชรพญานาคในวิหารสมเด็จองค์ปฐม...
    ประชาชนแห่กันมาดู ในนั้นก็มีศิษย์พี่ผมหลายคนอยู่ด้วย ต่างก็ลุ้นว่าในก้อนหินที่ทุบออกมาจะเจออะไรบ้าง...

    ตู้ในวิหารสมเด็จองค์ปฐมก็ตั้งโชว์เพชรพญานาคหลากหลายสีไว้ด้วย มีเป็นองค์พระพุทธก็มี มีเป็นพระขรรค์ก็มี...

    ให้ตายเถอะโรบิ้นส์...
    ผมรู้สึกกังวลว่าการทำเช่นนี้จะไปปรามาสองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจริงๆ
    พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่เคยสอนให้เลื่อมใสศรัทธาในสิ่งเหล่านี้...
    ก็ไม่เป็นไร...
    แต่ถ้าศิษย์พี่หลายๆคนตรงนั้น หากจะใช้อตีตังสญาณสักเล็กน้อย บวกกับเจโตฯอีกสักนิดหน่อย ก็น่าจะเห็นว่า เป็นบุคคลคณะหนึ่งพากันมาชักชวนหลวงพี่ไปพบกับเพชรพญานาค คนเหล่านั้นทำมันขึ้นมา เพื่อหวังอาศัยชื่อเสียงหลวงพี่เป็นช่องทางหารายได้จากการขายเพชรพญานาคที่ว่านี้...หน้าตามันเป็นอย่างไร มีกี่คนอายุเท่าไร ก็ต้องสามารถรู้ได้เห็นได้ทั้งหมด...

    แต่ว่าทำไมไม่มีใครรู้ หรือรู้แล้วไม่ยอมพูดอะไร แม้แต่ผมก็ไม่กล้าจะพูดออกไปเหมือนกัน .. หลวงพี่เองก็บอกว่าชอบสุกขวิปัสโกมากกว่า ไม่นิยมใช้ทิพยจักขุญาณ แม้เวลาถามเทวดา หลวงพี่ก็ใช้วิธีอธิษฐานแล้ววัดคืบเอาจากนิ้วมือบ้าง จากแขนบ้าง เป็นการเสี่ยงทาย โดยอาศัยวัดสั้นวัดยาว... อันนี้ก็ขอนินทาลับหลังละกัน...

    ว่าแล้วก็ต้องไปถามพญานาคว่าเพชรพญานาคของท่านนั้นมีอยู่จริงไหม?
    มีแล้วอยู่ที่ไหน...
    ท่านก็พาไปดูว่าอยู่ในถ้ำของพญานาค ไม่ได้มีอยู่ตามก้อนหินริมน้ำหรอกครับ...
    อาศัยเพชรพวกนี้ช่วยทำให้ถ้ำสว่างขึ้นได้ และก็มีจำนวนหลายก้อนภายในถ้ำ เป็นเหมือนเครื่องประดับตกแต่ง หรืออัญมณีชนิดหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีอะไร ส่วนเรื่องคุณวิเศษต่างๆของเพชรพญานาคนั้นพอมีอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เป็นสาระสำคัญสำหรับพวกนาค เพราะฤทธิ์ของพวกนาคทำได้อยู่โดยไม่ต้องพึ่งสิ่งนี้...
    ส่วนเพชรพญานาคที่เป็นรูปองค์พระพุทธเจ้านั้น ยิ่งแล้วกันไปใหญ่ เพราะในถ้ำพญานาคไม่มีให้เห็น มีเพียงก้อนกลมบ้าง รีน้อยๆบ้าง เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง แต่ไม่มีที่เป็นพระพุทธรูปเลย...

    เอางี้ก็ได้ ลองเอาเพชรพญานาคที่มีอยู่กันทั่วไปในเวปพลังจิต ไปทดสอบด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ จะรู้ว่าวัตถุดิบทำมาจากอะไรบ้าง...

    แต่ว่าแตกต่างกันกับหินที่หน้าถ้ำพญานาคนะ หินที่หน้าถ้ำพญานาคหลวงปู่คำพันให้ลูกศิษย์ที่เป็นพระไปเก็บมาทำปฐวีธาตุอันนั้นอีกอย่างหนึ่ง...ซึ่งก็มีอยู่จริง ไม่ได้มีใครทำขึ้นมา...เป็นอยู่ตามธรรมชาติ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  9. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    เคยได้ยินสำนวน ที่เขาว่า "ตาบอด คลำช้าง" มั๊ยล่ะครับ

    ไม่รู้ทั้งองค์รวม พอสัมผัสได้ยินได้ฟังมาอย่างไร ก็ประทับจำภาพความรู้สึกนั้น แล้วก็สร้างมโนภาพกันไปต่างๆนาๆในรูปแบบของตัวเอง


    ....หนักเข้าไปอีกเรื่องของเหล็กไหล นั่นคือกระผมได้ยินได้ฟังมาจากฤาษีประหลาด ตนหนึ่งที่เคยบำเพ็ญพรต เฝ้าถ้ำกลางป่านับสิบๆปี โดยแรกร่วม 2-3 ปีแทบไม่กินอะไร ไม่พูดไม่จามายาวนาน

    (ท่านว่า..เจ้าสังขารเดิมนี้แท้จริงได้ตายไปแล้ว เรามาแฝงอาศัยอยู่เท่านั้น คล้ายๆกับเรื่องของ...หลวงพ่อโอภาษี หรือตำนานอสูรปอบพันปีของท่านระมิงค์..นั่นแหละ) เคยพูดว่า

    "...เหล็กไหลบนโลกนี้แท้จริงจะเอาไปไม่ได้ดอก มีแค่ชิ้นเดียวอยู่ที่ใจกลางโลก
    ...ถ้าเอาไป โลกนี้จะระเบิดกลายเป็นจุล"

    เป็นไงครับ...งงหนักเข้าไปใหญ่!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  10. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    วันนี้วันพระ ก็ขอนินทาพระสักหน่อย...
    เพื่อนพาหุ้นส่วนทำร้านอาหารไปหาพระอาจารย์รูปหนึ่งทางเชียงราย...
    เพื่อจะไปหารือเรื่องแกะไม้มาถวายที่วัดพิชัยญาติ
    ตุ๊เจ้าก็ทำตัวเป็นพ่อสื่อให้สองคนมารักชอบกัน ทั้งที่ฝ่ายชายมีอายุแล้ว มีครอบครัวลูกเมีย
    ฝ่ายหญิงก็มีชายคนที่ตัวเองรักอยู่แล้ว...

    ตามพระวินัยนี่ต้องอาบัติสังฆาฑิเสส...โทษร้ายแรงก็แค่รองจากปาราชิก...
    หลังสงกรานต์แล้วก็เลยต้องฉะกันซะหน่อย เพราะพ้นช่วงเวลาของหลุมดำแล้ว...
    จึงต้องบอกไปเลยว่า ฤษีขาว ฤษีดำ นี่มันปอบ แล้วตุ๊เจ้านี้ก็ร่างทรงปอบ จะสร้างเจ้าแม่กวนอิมไว้ใหญ่แค่ไหน ข้างในก็มีแต่วิญญาณผีที่เป็นบริวารปอบทั้งนั้น...

    พิธีไหว้ครูที่ให้กินเกสรบัว เจิมหน้าผาก ก็เป็นการทำอาคมคุณไสยใส่ให้ตกอยู่ในอำนาจ ให้มาเป็นบริวาร และคอยช่วยเหลือเรื่องบริจาคเงินทองกันมาให้มากๆ...
    พิธีที่ผ่านมาจึงแนะนำว่าอย่ากิน อย่าไปครอบครู อย่าไปให้เจิมอะไรใดๆทั้งสิ้น...
    วันที่ตกอยู่ในหลุมดำ กำลังเราตก ซ่ามากก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย...
    แต่เวลานี้ซ่าได้นิดนึง...เพราะรู้สึกรำคาญ พวกที่อาศัยผ้าเหลืองมาประพฤติตนเยี่ยงมะเร็งร้ายต่อพระพุทธศาสนา...

    ใครเจอพวกนี้ก็ขอให้อยู่ให้ห่างๆไว้ ...
    แล้วก็พวกนี้อีกเหมือนกันที่นิยมชมชอบคุณไสย มนต์ดำ...
    ดังนั้นใครจะเข้าใกล้ ไม่เพียงแต่ไม่มีคุณ ยังจะมีโทษตามหลังมาอีกมากมาย...
    เฮ้อ...นินทาซะ..เหนื่อยเชียว...
     
  11. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    วันนี้ท่าทางจะเมาขี้ฟันซะแล้วเรา...
    พอป๋า toplus99 ว่าถึงเรื่องเหล็กไหล ก็เลยนึกไปถึงพญาเหล็กของหลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์...
    เพราะวันนี้มีคนโพสมาว่าไปหาอาจารย์โชติ วัดพุทไธฯพอดี..ก็เลยแนะนำให้ไปกราบหลวงพ่อหวล...
    หลวงพ่อหวลนี้ เป็นพระที่หลวงปู่ดู่เคยกล่าวไว้ว่าหากหลวงปู่สิ้นไปแล้ว ก็ให้ไปหาหลวงพ่อหวล...
    หลวงพ่อหวล สมัยหนุ่มๆท่านเป็นพระเอกลิเกคณะหอมหวล ประวัติว่ากันมาอย่างนั้น...

    หลวงพ่อหวลมีวิชาเรียกพญาเหล็ก ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆเหล็กไหล ทำให้ผมคิดไปเองว่า เมืองไทยและประเทศรอบๆข้างบ้านเรานี่ มีธาตุกายสิทธิ์หลายหลากจริงๆนะ...

    หลวงพ่อหวลท่านเล่าว่า ต้องปีนเขาไปกับลูกศิษย์หลายคน หอบเอาขี้ผึ้ง น้ำผึ้ง ขึ้นไปที่ถ้ำแล้วไปทำพิธี ขอพญาเหล็กจากยักษ์ที่เฝ้าอยู่ บางทีก็ให้มามาก บางทีก็ให้มาน้อย แล้วแต่ยักษ์ที่เฝ้าเขาจะให้...

    เมื่อตั้งขี้ผึ้งที่ปั้นเป็นรูปองค์พระขนาดใหญ่ๆ สูงสักศอกนึงได้ แล้วเอาน้ำผึ้งชะโลมไว้ ขี้ผึ้งนี้ยังตั้งอยู่บนถาด น้ำผึ้งที่ไหลลงมาก็ยังคงอยู่บนถาด มีสายสิญจ์ขึงโยงมาหาที่องค์พระที่เป็นขี้ผึ้ง

    จากนั้นหลวงพ่อหวลจะนั่งบริกรรม สักพักหนึ่ง หากยักษ์เขาให้พญาเหล็กๆก็จะวิ่งมาตามด้ายสายสิญจ์ มาเกาะกันอยู่ทั่วๆองค์พระขี้ผึ้ง เมื่อเกาะจนทั่วดีแล้ว หลวงพ่อหวลท่านจะเพ่งเผาให้พญาเหล็กแข็งตัว ซึ่งจะหดตัวลงเรื่อยๆ จนมีขนาดเล็กสักเท่าหัวแม่มือ ก็จะแข็งตัว...

    สีสันวรรณะของพญาเหล็กชั้นดี คือสีออกเป็นสีทอง ระดับรองลงมาเป็นสีเขียวปีกแมลงทับ และอันดับสุดท้ายเป็นสีเงินยวง...

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงพ่อหวลท่านว่าต้องใช้พลังมาก ดังนั้นเมื่ออายุเยอะขึ้นแล้วก็ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว
    บางครั้งไปขอพญาเหล็กก็ได้มาเป็นสะเก็ดเล็กๆเหมือนเม็ดข้าวสาร ท่านก็ให้เอามาตอกฝังไว้ที่ท้องแขนบ้าง
    เวลาโดนยิง แร่นี้จะวิ่งไปรับแรงปะทะกระสุนเอาไว้...
    อันนี้ผมก็ไม่เคยลอง แล้วก็ไม่อยากลองสักเท่าไร...
    แต่ก็อยากจะมีเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักชิ้นนึงเหมือนกัน...
    เอาไว้ระลึกถึงหลวงพ่อหวล...แห่งวัดพุทไธสวรรค์...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  12. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    เบื่อตัวเองจริงๆ...ที่ตัวเองดันเคยไปพักอาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดพุทไธสวรรค์ เมื่อร่วมเกือบยี่สิบปีก่อนซะด้วย

    จะเล่าละนะ...(โม้แถไปได้ทุกเรื่องสิน่าเรา)

    มีเพื่อนที่ทำงานสนิทอยู่คน ...เพื่อนตัวดีผมคนนี้มันเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดกับหลวงพ๋อหวล มาตั้งแต่มันตัวกะเปี๊ยก แก้ผ้ากระโดดเล่นน้ำป่าสักต้วมๆ ข้างวัดพุทไธฯโน่นแน่ะ

    แต่มันไม่เคยเล่าเรื่องเหล็กไหลนี้ให้ฟังเลย ดูน้ำใจมัน

    จนมาล่วงรู้เรื่องเหล็กไหลหลวงพ่อหวลนี้ หลังจากย้ายมาทำงานจันทบุรี 2-3 ปีแล้ว แล้วมันยังมีหน้าถามเราอีกนะ..

    "เอ็งรู้เรื่องนี้ได้ไง ปกตินี่ไม่ค่อยมีคนรู้เรื่องนี้นะ"

    จนที่สุดก็ได้ไอ้เพื่อนจอมงก..หามาให้จนได้ด้วยไฟล์บังคับ

    ขอบอกว่า เหล็กไหลหลวงพ่อหวลท่านมีพลังจริง...แต่ละองค์ก็มีองค์ญาณในต่างกัน แรงมาก-น้อยไม่เท่ากัน
    ที่สำคัญ พอไม่สบอารมณ์โก๋คนที่ครอบครองแร่นี้...
    องค์ญาณในเหล็กไหลก็ค่อยๆลดพลังลง...หอบพลังหนีหายไป
    จนที่สุดก็เหลือเพียงซากแร่โลหะที่ไม่มีพลังใดๆเลย... ห้อยต่องแต่งๆเปล่าๆ

    เชื่อหรือเปล่า หรือคิดว่ามั่ว...ไม่เชื่อก็แล้วไป!!

    ไปหาน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆกินดีกว่า..คอแห้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  13. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,248
    ค่าพลัง:
    +68,026
    ขอบพระคุณท่าน อาจารย์ระมิงค์ และท่าน Toplusค่ะ เรื่องเหล็กไหล ทั้งได้ยินได้ฟังมา ได้ดูทีวีด้วย

    ส่วนตัวคิดว่า ของจริงคงมีอยู่ แต่สมัยนี้ ที่เห็นกันเกร่อ เนี่ย มันน่าสงสัย

    และมากิก็คิดเหมือนกับอาจารย์ระมิงค์ค่ะ

    เรื่องเพชรพญานาค นี่ของจริงน่าจะมีอยู่ แต่ที่เห็นขายกันอยุ่ ก็ชวนสงสัยค่ะ

    ว่าทำไมมีเยอะจัง เคยดูในทีวี มาเหมือนกันค่ะ บางคนเขาก็บอกว่า

    มีการเอาหินที่ใส่ตู้ปลามาขายเป็นเพชรพญานาค เม็ดละ 100 บาท

     
  14. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    ช่วงนี้อากาศร้อน..หลายท่านเริ่มรู้สึกขี้เกียจหายใจขึ้นมา...
    หนึ่งในนั้นคือลุงตึ๋ง อายุก็ 82 ขวบเข้าไปแล้ว...
    ก่อนหน้านี้ไปเฝ้าดูอาการลูกชายที่เป็นหมอผ่าตัดหัวใจมือหนึ่งของ รพ.สรรพสิทธิ์ที่อุบล..
    คือว่าหมอป่วย แถมเป็นหมอหัวใจคนเดียวของภาคอีสาน หมอเกียรตินิยมจุฬาฯด้วยนะ ไม่ธรรมดา..ส่วนลุงตึ๋งนี่ก็เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง โยธา จุฬาฯ ..ธรรมดาซะที่ไหน...

    ไปพักบ้านพักลูกชาย ก็เห็นมีคนเดินกันมากมายอยู่ในบ้านพักทั้งกลางวันกลางคืน แถมยังไปอยู่ในห้องส้วมก็มี ทำให้ลุงได้รับความลำบากเวลาจะเข้าห้องน้ำ เพราะเรียกให้ออกมันก็ไม่ยอมออกมาเสียด้วย...

    หลายวันก่อน ก่อนจะเข้าโรงพยาบาล ลุงแกมาอยู่บ้านที่กรุงเทพฯแล้ว แกมาบ่นให้เลขาฯที่บริษัทฯฟังว่า เห็นคนเดินไปเดินมาเต็มบ้านที่กรุงเทพฯนี่แหละ ...
    แล้วไม่กี่วัน ลุงแกก็เข้าโรงพยาบาล ด้วยอาการอัลไซเมอร์อย่างแรง...
    ป้าก็เข้ามาดูแล ทั้งที่เป็นอัลไซเมอร์เหมือนกันอีก...หิ้วถุงใส่เครื่องเพชรมาเฝ้าไข้ด้วย เพราะกลัวว่าจะหาย...
    ต้องเดือดร้อนให้ลูกเต้าไปเอามาเก็บไว้ในเซฟเหมือนเดิม...
    เฝ้าไข้ไปก็ปรากฎว่า คุณลุง กรุงเทพฯ ไม่ใช่คุณลุงเชียงใหม่ ดังนั้นจึงไม่เกิดภัยพิบัติ แต่เกิดขี้เกียจหายใจขึ้นมา...ต้องปั๊มหัวใจ แล้วพาเข้าห้องฉันเห็นคุณ เวลานี้หากจะถอดเครื่องช่วยหายใจก็คงไม่ได้เสียแล้ว เพราะเกิดขี้เกียจหายใจเองขึ้นมา...
    นี่ก็เป็นอีกกรณีนึงที่เป็นอุทธาหรณ์ให้เร่งสร้างบุญสร้างกุศล เจริญภาวนา อย่าไปหวังพึ่งลูกเต้าหรือใครต่อใครจะมาช่วยจะมาดูแล...
    ธรรมดาคนทุกคนต้องตาย จะกลัวก็ตาม จะไม่กลัวก็ตาม ย่อมตายด้วยกันหมด
    ปัญหาเพียงแต่ว่า ตอนมีชีวิตอยู่ เตรียมพร้อมสำหรับการตายไว้ดีพอแล้วหรือยัง
    หรือว่ายังหลงระเริงไปกับกระแสโลก ปล่อยไป ปล่อยไป จนกระทั่งถึงวันที่ขี้เกียจหายใจขึ้นมา...
    ใครจะมาช่วยได้ล่ะ...ตายไม่ได้น่ากลัวหรอก..ที่น่ากลัวคือตายแล้วไปไหนต่างหากล่ะ..
     
  15. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    อีกรายหนึ่งอายุ 85 ขวบแล้ว หลายเดือนก่อนหกล้ม ก่อนที่ลูกชายจะไปทำบุญวางแผ่นศิลาฤกษ์เพื่อสร้างพระร่วมกับคนรู้ใจ...ก็คิดว่าจะไปไม่ได้แล้วเพราะพ่อเข้าโรงพยาบาล แต่ตอนนั้นก็บอกไปว่าน่าจะไปได้นะ เพราะไปทำบุญ ผลบุญย่อมเกื้อกูลให้พ่อมีอาการดีขึ้นได้...ผลก็คือ อาการไม่หนัก หมอให้พักแล้วก็กลับบ้านได้...ลูกชายก็ได้ไปทำบุญ มีความสุขดี

    แต่รอบนี้เกิดขี้เกียจหายใจไปเฉยๆซะงั้น เข้าโรงพยาบาลรอบนี้มันต่างจากรอบนั้น เพราะรอบนี้ทำท่าว่าตั๋วจะหมดอายุ...ครั้นจะบอกให้บริกรรมภาวนา พุทโธ ฯลฯ ก็ทำไม่ได้ คนไม่เคยทำมาก่อน ไม่ทำบ่อยๆ ถึงเวลาคับขัน จู่ๆจะมาทำเลย มันทำไม่ได้หรอก พระท่านถึงให้ทำจนชิน ชินนี่คือทำเป็นประจำ ทำจนเป็นอัตโนมัติ ทำจนชำนิชำนาญ ที่ท่านเรียกว่า วสี นี่แหละ...

    ทำจนองค์ภาวนานี่สามารถรักษาเราได้ จากที่เราต้องคอยระมัดระวังรักษาองค์ภาวนาไว้ให้ดี เมื่อทำจนชำนาญแล้ว องค์ภาวนานี่แหละจะรักษาเรา...

    คนทำบุญสุนทาน รักษาศีล ได้นี่ดีแล้ว แต่จะให้ดีเสมอด้วยภาวนาไม่ได้...
    เพราะคนที่ทำบุญสุนทาน รักษาศีล นี่เหมือนกับผ้าขาว ท่านเป็นผู้สะอาด เป็นผู้สะอาดนี่ก็เป็นเรื่องดีสิ...

    แต่อย่าลืมว่า จุดอ่อนของผ้าขาวก็คือรอยเปื้อนนั่นไง รอยเปื้อนแม้เพียงเล็กๆน้อยๆนี่มันเห็นชัด...ดังนั้นคนที่มุ่งทำบุญสุนทาน รักษาศีล เมื่อเกิดบาปขึ้นเพียงเล็กๆน้อยๆ มันจะติดอยู่ในใจได้ง่าย เอาออกยาก มองเห็นชัด มักไปปริวิตกกังวลกับมันอยู่เนืองๆ

    ครั้งจะไม่เผลอทำบาปใดๆขึ้นเลยแม้แต่น้อย มันก็ยังทำไม่ได้ เพราะขึ้นชื่อว่ามนุษย์ปุถุชน ให้ดีแค่ไหนมันก็ยังต้องมีการพลั้งเผลอสร้างบาปขึ้นบ้าง เป็นธรรมดา...

    แล้วไอ้บาปเจ้ากรรมนี่ก็ชอบจังเลยนะ บาปเล็กๆน้อยๆนี่มันชอบจะมาปรากฎเวลาที่ใกล้ๆจะตายเสียด้วย มาปัดทีเดียวเป๋ตกข้างทางไปเลย...ตกลงว่าบุญกุศลที่ทำมา มันจะไปพลาดกันตอนสุดท้ายที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มนี่แหละ...

    นี่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ไม่มีใครเขาพูดกัน เพราะขืนพูดแบบนี้แล้ว เดี๋ยวชาวบ้านพากันไม่ยอมทำบุญเสียแล้ว ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้นนะ ศีลก็ต้องรักษา เพื่อระงับชั่ว บุญก็ต้องทำ เพื่อสร้างสมความดี แต่ภาวนานั้นจำเป็นมาก เพราะทำใจให้บริสุทธิ์ได้

    คนภาวนาเวลามันจะตาย มันไม่รอให้หมดลม หรือหมดสติไปก่อนหรอกนะ เขาทำกำลังใจตัด จับองค์ภาวนาสักพัก แล้วก็จับภาพพระให้ดี ก็ไปกันก่อนแล้ว ไอ้ที่พะงาบๆก็ปล่อยมันไปแล้ว เพราะขืนไปรอให้มันหมดลม มันมีทุกขเวทนาจัด ดีไม่ดี ไปอบายภูมิเสียก่อน หมดท่ากัน ทำมาทั้งชีวิต เสียท่าเอาแค่นี้...

    แต่ว่าคนที่เขาภาวนากันเขาไม่เซ่อขนาดนั้นหรอก เขาหนีกันก่อนทั้งนั้น ไม่มีใครเขามารอลุ้นลมหายใจสุดท้ายซักคนนะ...

    งั้นเวลายังไม่ตายนี่ เป็นไปได้ให้ซ้อมตายไว้ก่อน ทำบ่อยๆ เวลาจะตายจริงๆก็หมูๆซะแล้ว ซ้อมมาดี...กลับมาเหนื่อยๆ ยังไม่ต้องอะไรจับองค์ภาวนาปั๊บ นิ่งปั๊บ สติ สัมปชัญญะ สมาธิ ทรงอยู่ครบถ้วน...

    เจ็บป่วยมาปั๊บ จับปุ๊บ เอาให้อยู่เดี๋ยวนั้นทันที...
    กำลังชุลมุนวุ่นวาย วิ่งไป แย่งกันไป แข่งกันมา จิตจับภาพพระปุ๊บ สติ สัมปชัญญะ สมาธิ มาพร้อมกันปุ๊บเดี๋ยวนั้นเลย..ร่างกายมันจะทำอะไรก็ทำไป แต่จิตมันทันกัน...

    พูดเป็นเล่นไปนะ ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าอาจจะโดนรถชนตาย พอรถจะถึงตัวปั๊บจิตมันจะรวมปั๊บ ไม่ใช่รวมปุ๊บ รวมปุ๊บมันช้าไป ปรากฎว่ารถกำลังจะชน เราชิงไปเสียก่อนแล้ว ชนจะตายไม่ตายไม่รู้ เราหนีก่อนแล้ว ...

    ทีนี้ถ้าไม่ฝึกเอาไว้บ่อยๆ ถึงเวลาคับขันมันจะไปใช้งานใช้การทันกันได้ยังไง...จะมามัวเนิบๆ ยกหนอ ย่างหนอ รถชนหนอ จะตายแล้วหนอ...มันจะไม่ทันเอาหนอ...

    งั้นมีเวลาหมั่นซ้อมๆเอาไว้ ซ้อมของเราเงียบๆคนเดียวนี่แหละ ไม่ต้องไปเที่ยวบอกใครเขา...
    เขาจะหาว่าเราบ้า...
    แต่จริงๆแล้วเราไม่บ้า แต่โลกเขาเรียกพวกนี้ว่าบ้า ส่วนพวกที่บ้ารัก บ้าโลภ บ้าโกรธ บ้าหลง แบบนี้ชาวโลกเขาเรียกว่าไม่บ้า แต่ชาวเราเรียกว่าบ้า อันนี้ก็สุดแท้แต่ละฝ่ายจะสมมติกันขึ้นมา...
    เอาบ้าก็บ้านะ..แต่ซ้อมเอาไว้เงียบๆดีกว่านะ..
    .ถึงเวลาขี้เกียจหายใจขึ้นมาจะได้ไม่ต้องให้ใครมาช่วย...
    ช่วยตัวเองนี่แหละ ประเสริฐสุดแล้วนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2014
  16. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,248
    ค่าพลัง:
    +68,026
    ตายแล้วไปไหน อยากทราบค่ะอาจารย์ระมิงค์

    แล้วที่มีข่าวว่า วิญญาณยังวนเวียนอยู่ ไม่ไปไหน นี่เป็นเพราะเหตุใดคะ

    ต้องขอประทานโทษอาจารย์ด้วยที่ ถามบ่อยค่ะ
     
  17. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    แซวด้วยครับ มีคนใจดีให้หินสีดำเขาบอกว่านี่คือเหล็กไหล ด้วยความเชื่อที่ว่า อาจจะมีอะไรดีในนี้เลยเอานำมาอารธนาดูสะเลย ตอนอยู่ที่กับเจ้าของเดิมสัมผัสอะไรไม่ได้เลยครับ ปรากฏว่า คืนนั้นมีนาคีมาหาบอกว่าอาศัยในหินนั้น เลยต้องรีบเอาไปไว้ที่อื่นครับ ไม่ไหวครับ เพราะว่านับตั้งแต่วันนั้นมาชอบมาก่อกวนครับ
     
  18. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    ลุงตึ๋งถึงแก่กรรมแล้วเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา...
    เช้าวันอาทิตย์เคลื่อนศพไปไว้วัดมกุฎกษัตริย์...
    ป้าหมอเองก็ยังงงๆ เพราะอัลไซเมอร์ด้วย ไปถึงวัดก็ยังไม่รู้ว่าที่นอนในโลงเป็นสามี คือว่า จำไม่ได้ แต่พอนึกออกก็ร้องไห้ออกมา...
    สักพักก็คงจะงงว่าร้องไห้ทำไม...จึงหยุดร้องไห้...
    น่าสงสารจริงๆครับ...
    ลูกชายที่เป็นหมอก็รีบมางานศพพ่อแต่พอมาถึงก็ต้องเข้าห้องไอซียู รพ.เดียวกันกับที่พ่อเพิ่งเสียไป...

    วันที่รู้ข่าวว่าลุงเข้าไอซียูอีกครั้งหนึ่ง ก็เห็นว่าวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว เข้าร่างไม่ได้ คือตายไปแล้ว แต่ว่าหัวใจยังทำงาน ยังหายใจได้เนื่องจากเครื่องปั๊มอากาศ...
    อาศัยบารมีพระ และครูบาอาจารย์หรอกนะ จึงพอจะรู้จะเห็นได้บ้าง...ตามแต่ท่านจะสงเคราะห์ให้เห็นได้...
    แม้จะรู้จะเห็นได้บ้าง แต่บางอย่างก็ยังไม่เข้าใจ

    อย่างแรกคือ เมื่อวิญญาณลุงออกจากร่างแล้ว ผลจากอัลไซเมอร์ก่อนตาย ยังคงให้ผลอยู่ คือลุงก็ยัง งงๆ จำอะไรไม่ได้เหมือนตอนยังมีชีวิตอยู่...

    วิญญาณลุงยังไม่ไปไหน แต่ถูกพาไปรวมกลุ่มอยู่กับวิญญาณที่ตามมาจากอุบลทั้งฝูงเลย วิญญาณกลุ่มนี้ส่วนมากยังเป็นหนุ่มเป็นสาว แต่งกายเหมือนคนทำงานในปัจจุบันทั่วๆไป เหมือนถูกใครบางคนที่ไม่ใช่คนควบคุมไว้ ...

    ลูกลุงจะเป็นรายต่อไป ทั้งที่ถ้าย้ายกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯก็จะรอด แต่ก็ไม่ยอมย้าย จะอยู่ที่อุบลต่อไป และนอนบ้านพักเดิมที่มีวิญญาณเหล่านี้เดินไปมาอยู่เต็มบ้าน ขนาดกลางวันแสกๆแกยังเห็นตาเปล่าได้...มันมีใครบางคนที่เกลียดแกจนกระทั่งอยากจะฆ่าให้ตายโดยใช้วิธีทางไสยศาสตร์...พี่แกไม่ใช่จะไม่รู้ เพียงแต่ไม่สนใจ...

    ป้าหมอเคยเชิญซินแสมาช่วยปัดเป่าทำพิธีให้แล้ว แต่ก็เหมือนเดิม แล้วยังตามลุงกลับมาที่บ้านที่กรุงเทพฯได้ โดยที่เจ้าที่ก็ให้เข้าบ้านได้ด้วย...ทำไม? ไม่เข้าใจเหมือนกัน...

    ลุงจากไปแล้ว รายต่อไปจะเป็นป้า และลูกชาย ใช่ไหม?

    ต้องตายเพราะวิชาแบบนี้ ตายแล้วนรกไปไม่ได้ สวรรค์ก็ยังไปไม่ได้ ยังต้องถูกควบคุมให้วนเวียนอยู่อย่างนี้..ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ก็รับไม่ได้...อย่างงี้จะแก้ยังไงดี...

    ก็ขอคั่นรายการเหล็กไหล กับตายแล้วไปไหนสักกระทู้นึงนะครับ...
    เนื่องจากเมืองไทยนับวันก็มีแต่เรื่องแปลกๆ ไม่น่าเข้าใจ เพิ่มมากขึ้นทุกที...
    ทำไงดี...
     
  19. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... กลับมาแล้วคะ .. จากเสียงเพรียกเรียกหาของท่านพี่ระมิงค์ ...

    .... ตามที่บอกไปแล้วคะ 2 ข้อนั้น แสดงว่า กาลีนะ เดาถูกหมดเลย 555555 ขอเสียมารยาทนะคะ สำหรับเรื่องเหล็กไหลเอาไว้ก่อน อยากฝอยเหมือนกัน .. แต่ไม่เคยเห็นของจริงกับเขาหรอกนะคะ เคยเห็นแต่ของปลอมที่พอ กาลีนะ เอามานั้งทำที่บ้านสมัยยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ... ครั้งหนึ่ง กาลีนะเคยได้เป็นเจ้าของ " ขี้เหล็กไหล " ยาวประมาณ 1 เซ็นต์ความจริงเป็นของพ่อ กาลีนะ แกให้ลูกชาย กาลีนะ มาคะเลยเอามาพกไว้ก่อนแต่ตอนนี้ " หายไปพร้อมกระเป่าเงิน " เห้อ ๆ ตอนไปกราบพระที่วัดสุทัศน์ .. ยังไม่กล้าบอกลูกชายเลยว่าทำหาย ... ตายแน่ ๆ กลัพ่อรู้อีกกว่าแกจะได้มาก็ยากเย็นอุตส่าห์ยกให้หลายชายคนเดียวแม่มันยังทำหาย .. ตาย ๆ ( นี้ขนาดจะไม่ฝอยแล้วนะ 555 )

    .... กลับมที่การบ้านที่พี่ระมิงค์ทั้งหน้าวอลล์ ทั้งข้อความมาให้ กาลีนะ ลองวิเคราะห์เล่น ๆ ความจริงตอนที่อ่านก็ว่าจะลองไปที่ ร.พ วิชัยยุทธ์ ที่พี่บอกเหมือนกันนะคะ แต่ด้วยช่วงนั้นยังเป็นช่วงวิกฤติเช่นกัน .. ซ่าเรื่องชาวบ้านมากไม่ได้เพราะเรื่องตัวเองยังเอาไม่รอดเลยคะ ..

    ... จากเรื่องราวที่พี่มิงค์บอกมาทำไม หนูถึงกล้าฟันธงว่าโดนของแน่ และ น่าจะมาจากการปากไม่ดี หรือ ไปเหยียบหางใครเข้าเลยโดนนั้น .. มันก็พอมีสาเหตุที่อธิบายได้อยู่คะ

    1. เคสคล้ายแบบนี้แฟนคนปัจจุบันก้เจอมาบ้าง

    2. การจัดหาคนไปเป็นผีบริวารก็มีอยู่หลายที่ที่ทำกัน .. เจอบ่อยคะ

    3. คนที่เจอแนวนี้เคยผ่านมาในชีวิตหนูให้ได้ปะลองความสามารถความบ้ามาหลายคน

    4. มันผิดธรรมชาติมากเกินไป .. เพราะถ้าจะโทษที่ฮวงจุ้ยมันก็ใช้ไม่ได้

    ... เอาไปแค่นี้ก่อนเยอะมากไม่ได้ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วง " หัวหดในกระดอง " คะ แถวหมู่บ้านมีสุภาษิตสอนใจวัยโจ๋อยู่ว่า " ทุกวันนี้ คนเก่ง มันตายหมดแล้ว ไอ้พวกที่เห็นนี้ก็มีแต่พวกไม่เก่งทั้งนั้นแหละ " ... กาลีนะ เลยยอมเป็นคนไม่เก่งคะ เพราะยังมีแม่ ลูก และ แฟน ให้ต้องดูแล ...
     
  20. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... โหหหห คือ เงียบแท้หนอกระทู้นี้หายไปไหนหมดดดดด ... โย่ ๆ วัยรุ่นหายไปไหน ...

    ..... สงสัยหายไปเพราะประเทศไทยมีปฏิวัติ ... กาลีนะโดนสั่งปิดร้านตั้งแต่สี่ทุ่ม .. ไม่ได้ขายของ ... นานไปกว่านี้คาดว่าจะได้กินแกลบแน่ ๆ ละ ..

    ... ขออนุญาติเอามาโชว์สักเล็กน้อย .. ถึงมันจะหายไปแล้วก็เหอะ ... ขอนำเสนอ " ขี้เหล็กไหล " แถวบ้านเรียกงั้นนะแต่คนอื่นไม่รู้เรียกไรกันคะ ... พุทธคุณตรวจสอบมาแล้วได้แนว คงกระพัน และ อายุ จร้า .. ไม่บอกว่าใครดูให้บอกไปรู้จักกันหมดแน่ ๆ อิอิ ไปแหละ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_1082.JPG
      SAM_1082.JPG
      ขนาดไฟล์:
      119.3 KB
      เปิดดู:
      107

แชร์หน้านี้

Loading...