ดูเวทนา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย NUI, 30 มิถุนายน 2009.

  1. NUI

    NUI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    389
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +983
    ดูเวทนา
    โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    การฝึกดูเวทนาเป็นหนึ่งในสติปัฏฐาน๔ ซึ่งผู้ฝึกสติปัฏฐานแต่ละท่านอาจจะถนัดการฝึกสติปัฏฐานไม่เหมือนกัน เช่นฝึกดูกาย(กายานุปัสสนา) ฝึกดูเวทนา(เวทนานุปัสสนา) ฝึกดูจิต(จิตตานุปัสสนา) หรือธัมมานุปัสสนา ก็แล้วแต่จริตของผู้ฝึกแต่ละท่านจะเลือกฝึกอย่างใดอย่างหนึ่งในสติปัฏฐาน๔ เพื่อเพาะปลูกปัญญาให้เฉลียวฉลาด ใน ณ ที่นี้ขอกล่าวถึงเรื่องเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน

    ซึ่งสติปัฏฐาน๔ มี กาย เวทนา จิต ธรรม นี่เป็นที่ตั้งของสติหรือเรียกว่าที่บำรุงสติ เป็นที่บำรุงปัญญา เป็นที่เพาะปลูกสติ เพาะปลูกปัญญาให้มีความเฉลียวฉลาดรอบตัว เมื่อเรายังมีความโง่(ความไม่รู้ความจริงของสัจธรรม) อาการทั้งหลายเหล่านี้ก็เป็นข้าศึกแก่เรา กายก็กลายเป็นข้าศึก เวทนาก็กลายเป็นข้าศึก จิตก็กลายเป็นข้าศึก ธรรมก็กลายเป็นข้าศึก

    เฉพาะอย่างยิ่งเราทุกท่านที่เป็นนักปฏิบัติ โปรดตรวจตรองสติปัฏฐาน๔และอริยสัจ๔ของตนให้รอบคอบ เพราะไม่กว้างยาวลึกซึ้งเลยกายกับใจและความสามารถของผู้สนใจใคร่รู้ไปได้เลย เพราะธรรมที่พระพุทธเจ้าประทานไว้ไม่เลยภูมิของมนุษย์ผู้ประสงค์อยากรู้ด้วยความสนใจไปได้

    ว่าด้วยเรื่อง เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นหนึ่งในสติปัฏฐาน๔ ซึ่งมี กาย เวทนา จิต ธรรม

    เวทนา หมายถึง ความรู้สึกหรือความเสวยอารมณ์ที่ปรากฏในขณะปฏิบัติทั้งทางกายและจิตใจ เช่น ความรู้สึกสุขสบายหรือทุกข์ที่ปรากฏขึ้นในทางร่างกายและทางใจ มี๓อย่าง คือ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง เฉยๆไม่สุขไม่ทุกข์ การพิจารณาโปรดแยกเวทนาออกและพิจารณาไปตามลักษณะของเขา แต่อย่าไปคว้าเอากายมาเป็นเวทนา กายให้เป็นกาย เวทนาให้เป็นเวทนา ทำนองเห็นเสือเป็นเสือและเห็นช้างเป็นช้าง แต่อย่าไปคว้าเสือมาเป็นช้าง จะเป็นการอ้างพยานไม่ตรงความจริง เรื่องจะลุกลามและลงเอยไม่ได้ตลอดกาล

    คือแยกเวทนาที่แสดงอยู่ในขณะนั้นออกพิจารณา ให้รู้ที่เกิด ที่ตั้งอยู่และที่ดับไป ฐานที่เกิดของเวทนาทั้ง๓ เกิดขึ้นและตั้งอยู่ที่กายและที่ใจ แต่ไม่ใช่กายไม่ใช่ใจคงเป็นเวทนาอยู่เช่นนั้น ทั้งการเกิดและการดับไปของเขา อย่าทำความเข้าใจว่าเป็นอื่นจะเป็นความเห็นผิด สมุทัย(สาเหตุแห่งทุกข์) จะแสดงตัวออกมาในขณะนั้นจะหาทางแก้ไขและหาทางออกไม่ได้ แทนที่จะพิจารณาให้เป็นปัญญาถอดถอนออกจากทุกข์ สมุทัย เลยกลายเป็นโรงงานผลิตทุกข์และสมุทัยขึ้นมาในขณะนั้น และเป็นการเสริมทุกข์ให้มีกำลังขึ้นมาทันที

    ผู้ปฏิบัติจึงทำความรอบคอบต่อเวทนาด้วยปัญญา คือไม่คว้าเวทนามาเป็นตนในขณะทำการพิจารณา เวทนาทั้ง๓จะปรากฏความจริงตามสติปัฏฐานและอริสัจขึ้นมาประจักษ์ใจ แม้เวทนาจะเปลี่ยนแปลงขึ้นๆลงๆประการใด จะเป็นทางเสริมสติปัญญาของผู้บำเพ็ญได้

    ความเศร้าใจ ทุกข์ใจ ท้อใจ หรือความเห่อเหิมเพลิดเพลินในขณะที่เวทนาทั้ง๓ แสดงตัวจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะการทำความเข้าใจกับเวทนาได้ถูกต้อง และทุกๆเวลาที่ผู้บำเพ็ญทำความเห็นกับเวทนาโดยถูกต้อง ชื่อว่าผู้มีเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานประจำใจ

    เวทนา มันเกิดขึ้นภายในร่างกายของเรา เอ้า..จับเอาจุดใดจุดหนึ่งซึ่งเป็นจุดเด่นขึ้นมาพิจารณา จุดไหนที่ว่าเป็น “ทุกข์”เด่นกว่าเพื่อนกำหนดจุดนั้นเป็นต้นเหตุก่อน แล้วก็ซึมซาบไปหมดในบรรดาเวทนาทั้งหลาย เพราะมันเกิดขึ้นที่ไหนมันก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับจิต พอพิจารณาเวทนา จิตมันก็วิ่งเข้าหากันทันทีและทำการแยกแยะกัน เพราะสติปัฏฐาน๔ กายานุปัสสนา เวทนา จิตตา และธัมมานุปัสสนาเกี่ยวข้องกันอย่างนี้

    “เวทนานอก” หมายถึง “กายเวทนา” ที่เกิดความสุข ความทุกกข์ เฉยๆ มีอยู่ตามร่างกายส่วนต่างๆ
    “เวทนาใน”หมายถึงทุกขเวทนาภายในใจ สุขเวทนาภายในใจ
    “อทุกขมสุขเวทนาภายในใจ” คือไม่ทุกข์ไม่สุข เฉยๆ ก็จัดเป็นเวทนาเหมือนกัน ซึ่งมีอยู่ในจิตของสามัญชนทั่วไป

    แม้ภาวนาใจเข้าสู่ความสงบแล้ว ก็มีสุขเวทนาอยู่ด้วยเหมือนกัน เวลาเราปฏิบัติธรรมจิตใจเรามีความสงบเย็นใจ นี่เป็น “สุขเวทนา” ถ้าจิตไม่รวมสงบลงได้ตามต้องการก็เกิดความ “ทุกขเวนา”ขึ้นมา บางทีเหมอลอยอยู่ภายในใจของผู้ปฏิบัติบ้าง ไม่ใช่เหม่อลอยแบบคนไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย มันเป็นภายในจิตเอง หรือ เฉยๆบ้าง นี้เป็น “อทุกขมสุขเวทนา”เหมือนกัน

    ท่านผู้บำเพ็ญถ้าหนักในสติปัฏฐานไม่ถอยหลัง นับวันจะรู้เห็นสิ่งต่างๆที่อัศจรรย์ขึ้นภายในใจเป็นระยะๆไป ถึงกาลอันควรจะได้รับ “ผล”ในธรรมขั้นใดที่เคยรับสนอง “เหตุ”ที่ผู้บำเพ็ญบำเพ็ญโดยถูกต้องแล้ว จำต้องปรากฎผลขึ้นมาเป็นขั้นๆ โดยเป็นพระโสดาบ้าง พระสกิทาคาบ้าง พระอนาคาบ้าง และพระอรหันต์บ้าง โดยไม่ต้องสงสัย
     
  2. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    เพราะธรรมที่พระพุทธเจ้าประทานไว้ไม่เลยภูมิของมนุษย์ผู้ประสงค์อยากรู้ด้วยความสนใจไปได้

    ขอให้มีความเพียรมากๆนะครับ อนุโมทนาสาธุครับ
     
  3. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    สรุปได้น่ารัก ฮะ
    อนุโมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...