ตะกี้ย่าผมเป็นลม ผมนึกว่าย่าจะไปแล้ว

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย gently, 13 กรกฎาคม 2012.

  1. gently

    gently เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +262
    ย่าผมป่วยเป็นมะเร็งปอด ครับ ก็รักษามาเรื่อยๆ หมอก็บอกว่า ดีขึ้น ย่าผมอายุ 74 บอกว่าไม่ค่อยมีแรง แล้ววันนี้ผมไปทำงาน กลับมา ย่าบอกว่าเป็นลมในห้องน้ำ ไม่มีแรงลุก พอรู้สึกตัวก็ ลุกมานั่งได้ แล้วตอนประมาณเที่ยงคืนกว่า ผมก็คุยโทรศัพท์อยู่ในห้อง ก็เหมือนได้ยินเสียง ย่าเรียก เลยรีบออกไปดู ปรากฏว่า เป็นลม พับไปหน้าห้องน้ำ โดยที่มือนึงยัง รั้งโต๊ะข้างตัวไว้อยู่ แล้วพูดไม่รู้เรื่อง อุ้มก็ไม่ค่อยไหว ผมก็พยายามเรียก ตลอด เลยอุ้มไป นอนบนเตียง ย่าผมปากซีดเลย แล้วก็ไม่รู้สึกตัวอะไรเลยผมก็ เลยพาย่าขึ้นนั่งแล้วก็ พยายามเขย่าตัว + เรียก จนเริ่มหายใจ เป็นปกติ คล้ายๆคนเหนื่อยขึ้นมา ก็เลยโล่งอก แล้วก็ให้กินยาลม ผมกลัวจังเขา เป็นลมตอนลุกไปฉี่อะครับ ตอนนี้ผมก็อาจจะรอจนถึงเช้าแหละครับ แล้วก็ไม่รู้ว่า ถ้าผมไม่ได้ออกไป ตอนที่เขาเป็นลม จะเป็นยังไง ผมก็นึกว่า ย่าจะไปแล้วตอน นั้น ผมกังวลอย่างเดียวคือ เขาจะได้ไปสวรรค์ไหม


    เฮ้อ แย่จังเลยครับ T^T มีวิธีประกันไหมครับ ว่าย่าผมจะได้ไปสวรรค์ถ้าเป็นอะไรไป
     
  2. jamroll

    jamroll เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +295
    เคยได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่านมาตลอด ว่าวาระจิตสุดท้ายนั้นสำคัญที่สุดที่จะพาเราไปยังสุขคติภพหรือทุกข์คติภพ ก็อยู่ที่ก่อนลมหายใจสุดท้ายเราระลึกถึงอะไรอยู่ เขาถึงให้คนใกล้สิ้นลมระลึกถึงคุณพระคุณเจ้า บุญกุศลที่ทำมา หรือบริกรรมพุท-โธ ไว้ตลอด ใจเกาะความดีเข้าไว้ ถึงแม้ตลอดชีวิตคนคนนั้นจะทำอกุศลกรรมมามากกว่ากุศลกรรมก็ตาม หากก่อนสิ้นใจจิตยึดเหนี่ยวเรื่องของกรรมดีแม้น้อยนิดที่เคยได้ทำมา ก็จะส่งผลให้ไปเสวยบุญก่อน จวบจนหมดวาระของบุญนั้นก็ถึงเวลาที่จะไปเสวยกรรมอื่นตามที่ตนทำมา

    เปรียบเสมือนโคที่ถูกขังไว้ในคอกรวมกันหลายๆตัว มีตัวใหญ่แข็งแรงวิ่งเร็วปะปนกับตัวเล็กหรือผอมโซขี้โรค ท่านเปรียบเหมือนโคเป็นโรค คือมีกำลังอ่อน แต่พอดีไปยืนที่ปากคอก เมื่อจิตดับในภพเก่า ก็เลยถูกดันให้ออกจากคอกก่อน คือให้ผลก่อน และแม้จะขึ้นสวรรค์ด้วยวาระจิตสุดท้ายนั้นแล้ว กรรมอื่นที่มีอยู่ก็จะให้ผลต่อไปถ้ายังไม่ได้บรรลุธรรม

    ส่วนคุณย่า หากท่านมีจิตเป็นกุศลอยู่เป็นนิจ มีอกุศลกรรมปะปนบ้างตามวิสัยของปุถุชน คุณบอกท่านอย่าไปคำนึงถึงอกุศลกรรมที่ผ่านมาเหล่านั้น ให้ตั้งหน้าทำแต่ความดีระลึกถึงแต่บุญกุศลเข้าไว้ค่ะ

    แม้แต่เราๆ คนวัยหนุ่มสาวแข็งแรงไม่มีโรคภัย แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ครูบาอาจารย์ท่านจึงสอนไม่ให้ประมาทในชีวิต ให้เจริญสติอยู่เสมอ

    ขอให้บุญรักษาท่าน จขกท และคุณย่าจ้า
     
  3. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    ขออนุโมทนากับท่านจขกท อย่างยิ่งในกิจแห่งมหากุศลคือการดูแลคุณย่า...

    ไม่ทราบว่านอกจากท่านจขกทแล้วไม่มีคนอื่นดูแลท่านเลยหรือครับ? หากห้องน้ำอยู่ห่างจากที่นอนของคุณย่ามาก ลองหาซื้อกระโถนใบใหญ่สำหรับให้ท่านปัสสาวะ ตั้งใกล้ๆ ที่นอนน่าจะช่วยลดความเสี่ยงได้บ้างนะครับ...

    การจะไปสวรรค์ได้ก็เพราะทำเหตุคือกุศลไว้ หากคุณย่าเคยให้ทาน รักษาศีล สวดมนตร์ไหว้พระ มีเมตตาเอื้อเฟื้อ หรือเจริญบุญอื่นๆเนืองนิจ จิตใจฝักใฝ่ในกุศลเป็นประจำแล้ว โอกาสที่จะได้ไปเกิดในสวรรค์ย่อมมีมาก..

    แต่หากท่านยังกังวลวิตกห่วงใยใครๆหรือเรื่องใดๆที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับทานศีลหรือภาวนาเลย โอกาสไปสวรรค์ก็ย่อมน้อย...

    ท่านจขกท พึงขวนขวายชักชวนคุณย่าให้สวดมนตร์ ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะอันจะเป็นเครื่องนำทางที่ดี เพื่อให้เกิดในภพภูมิที่ดี มีมนุษย์ภูมิ แลสวรรค์ เป็นต้น แล้วกล่าวแนะนำให้ท่านเลิกห่วงใยกังวลในเรื่องทั้งหลาย ให้ท่านสมาทานศีล๕ ทุกวัน เป็นประจำและพยายามซักถามให้ท่านระลึกถึงบุญต่างๆที่ท่านเคยทำมา จิตใจท่านจะแช่มชื่นเบิกบานแจ่มใส..นี้จะเป็นบุญกุศลอย่างยิ่งยวดของท่านจขกท ที่จะช่วยสนับสนุนให้คุณย่าได้ประโยชน์ทั้ง๓คือ

    1. ประโยชน์ ในปัจจุบัน ทำให้ท่านได้รับความสุขสงบใจ
    2. ประโยชน์ ในภพหน้า คือได้เกิดในสุคติภูมิ
    3.ประโยชน์อย่างยิ่งคือได้ปัจจัยให้ได้พบพระพุทธศาสนาอันจะยังปัญญาให้เกิด และด้วยปัญญาเท่านั้นจึงสามารถพ้นสังสารทุกข์ได้แท้จริง..

    บุญเช่นนี้ทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะวิสัยของสัตว์โดยปรกติที่ไม่มีบุญเก่ารองรับมา ย่อมไม่นิยมยินดีที่จะรับเอาได้ ท่านจขกท พึงวางใจเผื่อไว้..ประคองมิให้ตกไปกับความวิตกกังวลอันเป็นบาปทางความคิดที่มีแต่โทษ..ให้ระลึกถึงพระพุทธพจน์ที่ตรัสสอนว่า"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของเฉพาะตน" แล้ววางอุเบกขาในยามที่ตนได้ขวนขวายจนเต็มที่แล้วแต่ไม่ได้ผลดังที่ตนคาดหวัง นะครับ..

    ขอชื่นชมท่านจขกทและขอให้บุญที่ท่านขวนขวายปกปักรักษา ให้ท่านมีความสุขเกษม เจริญในกิจอันดีงาม ทั้งปวง ความปรารถนาอันประเสริฐทั้งหลายจงสำเร็จโดยราบรื่นรวดเร็วพลันเทอญ..
     
  4. gently

    gently เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +262
    ขอบคุณทุกท่านด้วยครับ ย่าผมก็ ทำกุศล เป็นประจำแหละครับ แต่ กลัวถึงตอนนั้น เขา จะคิดเรื่องอะไรขึ้นมา หนะสิ
     
  5. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    คุณย่าเคยหล่อพระพุทธรูปบ้างไหมครับ ถ้าเคยให้คุณย่าลองอธิษฐานผลบุญจากการหล่อพระพุทธรูปว่า ขออำนาจแห่งผลบุญนี้จงส่งผลใหข้าพเจ้า้เห็นภาพพระพุทธนิมิตปรากฎสว่างไสวในวาระจิตสุดท้ายด้วยเทอญ

    ถ้ายังไม่เคยหล่อพระก็ให้คุณย่าอธิษฐานกันเหนียวไว้ว่าด้วยอำนาจแห่งผลบุญที่ทำมานับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
    จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าระลึกถึงบุญกุศลใหญ่ๆที่ข้าพได้เคยทำมาในวาระจิตสุดท้ายด้วยเทอญ
    เป็นไอเดียผมเอง ผมคิดว่าน่าจะช่วยได้นะครับ เพราะเป็นการตั้งโปรแกรมให้บุญส่งผลตามที่กำหนด ถ้าไม่เคยทำบาปที่ร้ายแรงอะไรก็คงไม่มีอะไรมาขวางคำอธิษฐานนี้ได้
     
  6. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    เรื่องของจิตใจนั้น ไม่มีใครควบคุมบังคับได้จริงๆ มีแต่การทำเหตุปัจจัยเพื่อให้ได้ผลตรงตามที่ปรารถนาเท่านั้น..

    เมื่อคุณย่าทำกุศลเป็นประจำ ท่านจขกทก็ไม่พึงกังวล เพราะกรรมที่ทำเป็นประจำเรียกวาอาจิณกรรมน่าจะเป็นเหตุปัจจัยที่มีกำลังพอที่จะนำท่านเกิดในสุคติภูมิได้ครับ..
     
  7. gently

    gently เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +262
    ขอบคุณทุกท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...