ส่วนเรื่องยา อาจจะต้องรบกวนคุณลุงลองจัดชุดยาสามัญ เป็นชุด สำหรับพวกเราได้ซื้อหากันได้เป็นชุดๆครับ
-ชุดยาส่วนบุคคล
-ชุดยาสำหรับครอบครัว
-ชุดยาสำหรับกลุ่ม ที่อยู่ตามจุดต่างๆ
-ชุดปฐมพยายาล และชุดยาฉุกเฉินกรณีเกิดภัยพิบัติแบบทันทีทันใดสำหรับแต่ละคนครับ
ประมาณนี้ครับผม ผมเชื่อว่าหลายท่านคงสนใจสั่งซื้อไว้ครับผม รวมทั้งตัวผมเองด้วยครับ
ตั้งกองยารักษาโรค
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย chaimongkol2, 1 กุมภาพันธ์ 2007.
หน้า 2 ของ 3
-
ยาสามัญ...ที่บ้านตุนไว้บ้างแล้ว....ตุนไปใช้ไป....แต่ก็รู้สึกว่า...ไม่เพียงพอ เพราะในบ้านมีคนถึง 10 คน
ส่วนพวกสมุนไพร.... ไม่รู้จักและใช้ไม่เป็น
1. ไม่รู้จัก...หน้าตาของมัน การปลูก การเก็บ กลัวเข้าใจผิด หากเป็นสมุนไพรแบบแห้งๆยิ่งไปกันใหญ่ ดูไม่ออก เหมือนๆกันหมด
2. ใช้ไม่เป็น...คือใช้ภายนอก หรือใช้กิน ต้มกินทั้งเปลือกหรือต้องปอกเปลือก ปริมาณการใช้กินใช้ทา
ผมว่าใช้สมุนไพรนี่...หากกำหนดมาตรฐานการกินการใช้...จะดีมากเลย -
หนูขออาสา เป็นพยาบาลจำเป็นคะ หากมีเหตฉุกเฉิน หนูคงพอทำได้
แต่ หนูฉีดยาไม่เป็นคะ และไม่รังเกียจในสิ่งสกปรกของคนป่วย
หนูคงช่วยคุณลุง และพี่ ๆ ได้แค่แรงกายของหนูคะ -
ค่อยๆเริ่มฝึกสมาธิไปทีละน้อยก็ได้ครับ จะได้ช่วยได้มากขึ้น ที่จริงเข้ามาในเวบพลังจิต นี่ส่วนใหญ่มีวิสัยทางด้านสมาธิมาก่อนอยู่แล้วครับ
-
-
ซักผ้า หนูก็ทำได้นะพี่อักขรสัญจร จ๊ะ
แต่ เก็บศพ หนูคงไม่ไหว เพราะหนูยังกลัวผีอยู่ -
ศพเต็มท้องเลยนิ
อิอิ -
ภาษาแปลกจัง ไม่เข้าใจจ๊ะ
แปลให้หนูฟังหน่อยนะ พี่อักขรสัญจร -
ยาที่เป็นสมุนไพรควรใช้เป็นแบบแคปซูลน่าจะดีกว่า หากเป็นสมุนไพรแห้งอาจมีการชื้นและขึ้นรา แต่แคปซูลเองก็ดีควรพิจารณาด้วยว่าอายุของยานั้นเก็บได้นานเท่าไร การใช้สมุนไพรก็ต้องดูด้วยว่าตัวไหนเหมาะกับเราหรือไม่บ้างครั้งธาตุไม่ถูกกันก็อาจกลายเป็นผลเสียไปเลยก็มี
-
ยังไม่เห็นกลัวเลยง่ะ -
ยาแผนปัจจุบัน และยาสมุนไพร ต่างมีจุดเด่น และจุดด้อยที่แตกต่างกัน ไม่ควรพยายามนำสิ่งหนึ่งไปแทนที่อีกสิ่งหนึ่ง แต่ควรประสานกันเพื่อเสริมจุดเด่นและลดจุดด้อยซึ่งกันและกัน
โดยหลักนั้นปกติ เน้นการใช้งานที่ยาแผนปัจจุบันเป็นอันดับต้นๆ แต่....
ยาแผนปัจจุบันเป็นยาเฉพาะทางหรือเฉพาะอาการ สมุนไพรจะมีความครอบคลุมรักษาได้หลายอาการเพียงแต่สรรพคุณบางอย่างอาจจะเด่นเป็นพิเศษ ... ในกรณีเตรียมยาแผนปัจจุบันไว้ไม่ครอบคลุมอาการ อาจหาตัวเสริมจากสมุนไพรได้
ยาแผนปัจจุบันต้องพึ่งโรงงานในการผลิต แต่สมุนไพรผลิตจากธรรมชาติใกล้ตัว .. หากโรงงานเสียหายก็ไม่สามารถผลิตยาได้ หรือ อาจอยู่ไกล หรือ การคมนาคมถุกตัดขาด ไม่สามารถไปถึงได้
ยาแผนปัจจุบันเก็บไว้หมดอายุ แต่สมุนไพรหากอยู่กับต้นก็จะสดและไม่ต้องกังวลกับการเก็บรักษามากนัก
สมุนไพรต้องการพื้นที่พอสมควรในการปลุก กรณีทำจริงจังเพื่อให้คนจำนวนมาก ไม่ค่อยเหมาะนักหากเน้นปลุกไว้ที่บ้าน หากปลุกในที่สาธารณและกว้างๆ เช่น วัด จะเหมาะสมกว่า
และอื่นๆอีกครับ ลองช่วยๆกันเขียนสรุปดู -
สมุนไพรนอกจากการรักษาโรคแล้ว ยังสามารถเน้นไปทางป้องกันโรค หรือเสริมสุขภาพให้แข้งแรงได้ เช่น
การทำน้ำสมุนไพรดื่ม เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานโรค ไม่ให้เจ็บป่วยง่าย สามารถใช้สมุนไพรจำนวนน้อยแต่ทำน้ำดื่มสมุนไพรให้คนจำนวนมากดื่มได้ จะช่วยลดการใช้ยาแผนปัจจุบันเพื่อให้ใช้กับคนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ เพราะเชื่อว่าในภาวะคนมีจำนวนมากมารวมกันจะเกิดความเครียดและปวดหัวซึ่งอาจทำให้การใช้ยาแก้ปวดมากเกินที่ควรจะเป็น หรือมากกว่าที่ประมาณการเก็บstockไว้ -
ผมจะลองจัดดูครับส่วนตัวและครอบครัว....คุณคนานันท์ เอ็น 95 ที่ผมซื้อจากดีทแฮล์ม
ต้นทุน ประมาณ 53 บาทต่อชิ้นนะดูในซองมีชิ้นเดียวที่แมคโคร 2 ชิ้น 90 บาทหรือถ้าอย่างนั้น
ซื้อแมคโครดีกว่า...อนุโมทนากับหนู*44*ด้วยครับ
ขอบคุณความเห็นทุกท่านเดี๋ยวจะรวบรวมอีกทีครับ
เรื่องยาจริงๆเป็นเรื่องใหญ่มากและแพงด้วยอยากให้พวกเราจัดแค่ตัวเองและครอบครัวก่อน
เมื่อเรารวมกันเราช่วยคนอื่นได้บ้างคงมีกลุ่มอื่นๆทั้งของราชการด้วย -
ถ้างั้นหน้ากากสามเอ็มไปซื้อแมคโคร หรือ โฮมโปรก็ได้ครับ ใช้ได้ค่อนข้างเอนกประสงค์ครับ ดีกว่าใช้ผ้าปิดจมูกธรรมดาเยอะครับ
ส่วนยา พวกเราควรจัดชุดสำหรับตัวเองและครอบครัวก่อนครับ จัดการเรื่องสำหรับตัวเอง และครอบครัวให้เสร็จก่อนแล้ว จะได้หมดกังวล ทุ่มเทเพื่อส่วนรวมได้เต็มที่ครับ -
ยาใช้พื้นฐาน
1 ยาแก้ปวดลดไข้ พาราเซตามอล 100 เม็ด 2 เม็ด 4-6 ชม.เวลาปวดหรือไข้
2 ยาแก้ปวดลดไข้รุนแรง บลูเฟน 50 เม็ด 1 เม็ด 3-4 เวลาหลังอาหารทันที
3 ยาปวดแผล ทลามาดอล 50 มก. 50 เม็ด 1 เม็ด3เวลาหลังอาหาร
4 ยาลดน้ำมูก นาโซเรส 50 เม็ด 1 เม็ด3-4 เวลาหลังอาหาร
5 ยาแก้แพ้แก้คัน ไฮดร็อกซี่ซิน 10 มก. 50 เม็ด 1 -2 เม็ด3เวลาหลังอาหาร
6 ลมพิษ,แพ้รุนแรง เพรดนิโซโลน 10 มก. 50 เม็ด 1-2 เม็ด3เวลาหลังอาหาร
7 อักเสปเจ็บคอ อม็อกซีซิลิน500 มก. 50 เม็ด 1 เม็ด 4 เวลาก่อนอาหารก่อนนอน
8 อักเสปแผล คล็อกซ่าซิลิน 500 มก. 50 เม็ด 1 เม็ด 4 เวลาก่อนอาหารก่อนนอน
9 ฆ่าเชื้อท้องเสีย นอร์ฟล็อกซาซิน 400 มก. 50 เม็ด 1 เม็ด 2 เวลาหลังอาหาร เช้า,เย็น
10 โรคกระเพาะ โอมีพลาโซล 20 มก. 50 เม็ด 1-2 เม็ด2เวลาหลังอาหาร
11 ปวดท้อง บาโคเตน 10 มก. 50 เม็ด 1-2 เม็ด 3 เวลาหลังอาหาร
12 ยาใส่แผล เบต้าดีน 2 ขวด ล้างแผล,ใส่แผล
13 ยาทาแก้แพ้ เบทาเจน ครีม 1 หลอด แพ้,ผด,ผื่น,คัน
14 ยาทาเชื้อรา เดอมาฮิว ครีม 1 หลอด เชื้อรา,น้ำกัดเท้า
15 ยาช่วยย่อย มาเจสโต้ 50 เม็ด 2 เม็ด3เวลาหลังอาหาร
16 ยาขับลม,คลื่นไส้ โมติลุม 50 เม็ด 1 เม็ด3เวลาก่อนอาหาร
17 ยาทาถูนวด นีโอติก้า บาล์ม 1 หลอด ปวดเมื่อย
18 ก็อสม้วน 2" 3 ม้วน
19 ก็อสแผ่น 2" 3 ซอง
20 พลาสเตอร์ใสม้วน 2 ม้วน
21 พลาสเตอร์แผ่น 20 แผ่น
22 ผ้ายืด 2" 1 ม้วน -
- ไอโอดีน
- สาหร่าย สไปรูลิน่า
- คาลามายด์
- สำลี
- ฟ้าทะลายโจร
- ด่างทับทิม -
คุณลุงชัยมงคลค่ะ...ถ้าเราแพ้ยาทาน...จำพวกตระกูลของ...เพนนิซิลิน...หล่ะค่ะ....เราจะต้องใช้ยาตัวไหนทดแทนได้บ้าง....ที่มีสรรพคุณแรงพอ ๆ กัน...ขอบพระคุณค่ะ
-
ก่อนอื่นขอขอบคุณท่านเจ้าของบ้านทั้งคุณนายและคุณป้าใจดีทั้งสองท่าน
ทั้งอาหารที่อร่อยมากเพราะไม่ได้ทานนานแล้วไส้อั่วและน้ำพริกหนุ่มพูดแล้วยังคิดถึงอยู่เลย
และที่พักเพราะต้องการฝึกนอนเต้นท์ที่สนามหน้าบ้าน.แม่คุณเอ๋ย...มันหนาว..รุ่งเช้าซื้อเพิ่มเพียบเลย
ทีนี้มาเรื่องยาถ้าแพ้กลุ่มเพนนิซิลินก็ต้องเลี่ยงมาทาน
...ROXITHROMYCIN ชื่อการค้าคือ ..RULID 150 mg.เอาไว้ใช้เวลาเจ็บคอ 1 เม็ด 2 เวลา
เช้า,เย็น ก่อนอาหาร ถ้าเป็นแผลใช้ไม่ค่อยได้ผล
...BACTRIM..เจ็บคอเป็นแผลได้ผลดีแต่ต้องไม่แพ้ซัลฟา...2 เม็ด หลังอาหาร เช้า,เย็น
...ZITHROMAX ,KLACID ยาใหม่ดีแต่แพงหน่อยใช้ได้ติดเชื้อที่คอหรือแผล
ถ้าทางเดินปัสสาวะอักเสป เช่นฉี่ไม่สุดให้ใช้..BACTRIM หรือ OFLOXACIN 200 mg.
ทาน 1 เม็ด3เวลาหลังอาหาร ทานให้ครบ 5 วันผู้หญิงเป็นกันเยอะ
ถ้าแพ้ เพ็นนิซิลิน ยาอม็อกซี่ซิลินและคล็อกซ่าซิลินใช้ไม่ได้ทั้งสองตัวนะครับเพราะกลุ่มเดียวกัน
ส่วน ท้องเสียใช้ นอร์ฟลอก 400 มก.ใช้ได้เลย
ปรกติที่บ้านผมทาน BACTRIM เกือบทุกโรคติดเชื้อ
คุณนายมีข้อสงสัยอะไรถามมาได้นะครับเมืองนอกหาซื้อยากหน่อยนะ -
เพิ่มเติมการเตรียม..ผงชูรส.ไว้ห้ามเลือด
ยางเส้น(ยางรถจักรยานหรือมอเตอร์ไซด์)30 ซม.เอาไว้รัดเวลางูกัด
มะขามป้อมเวลาคอแห้ง..ได้ผลจริงๆ
ถ้าทางจะเยอะสำคัญไปเสียหมด -
ต้องขอกราบขอบคุณความรู้ด้านเภสัชจากคุณลุงชัยมงคลด้วยครับ
คุณลุงใจเด็ดจริงๆครับคุณนาย คืนแรกนอนเต้นท์ที่สนามหน้าบ้าน คืนที่สองนอนบนดอย คืนที่สามนอนในถ้ำ ถือว่าเป็นวาระที่เป็นการฝึกฝนตนเองไม่ยอมนอนสบายๆเลยทั้งที่ทำได้เลือกได้ นบว่าบารมีด้านขันติความอดทนต่อความยากลำบากของคุณลุงเต็มพร้อมอยู่จริงๆครับ
หน้า 2 ของ 3