ตามรอยหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ (กลุ่มหลวงพ่อเงิน)

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย เจ๊ตุ้ม, 16 มกราคม 2013.

  1. ขุนขจร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +65
    และผมก็ยังได้สตางค์รูมาอีกจำนวนหนึ่ง สังเกตดูมีเนื้ออยู่หลายแบบ หลายสี แต่มีอยู่แบบหนึ่งข้างนอก ออกสีเทาเข้ม มีรอยร้าวรอยราน ผมลองสะกิดดูพบว่าข้างในเป็นสีออกชมพู เนื้อไม่แข็งมาก แต่มีอีกแบบ มีเนื้อออกเป็นสีชมพูเหมือนกันแต่ออกขาวมากกว่า แบบนี้มีความแข็งมากกว่า ไม่ค่อยขึ้นสนิม แต่ก็มีให้เห็นบางๆ ผมว่าสวยดี ผมเลยลองขัดซะเงาวับเลย จะเป็นสีขาวอมชมพู :cool:
     
  2. bhothale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,583
    ตาม คหสต.ผมมองว่ายุคเราปัจจุบันนี้แหละครับ...เพราะ เนื้อทองเหลืองเดี่ยวใหม่ พิมพ์ทรงพระสนาม ก้นอันตราย...ถ้าเป็นผมจะวางที่เดิม
     
  3. bhothale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,583
    คงต้องแยกเป็นสองขั้น...ขั้นแรกถ้าจะดูว่าเป็นพระเก่าหรือไม่..ผมว่าไม่เก่าแน่นอน เนื้อไม่ได้พิมพ์ไม่ใช่..ตะไบคม..ก้นอันตราย..ถ้าคิดจะเก็บพระเก่า เราต้องวาง...ขั้นที่สอง หากจะมองเป็นของทุ่งน้อย...ยุคต้นก็ไม่ใช่..ยุคกลาง(ปี2540-50) ก็ยังไม่เคยเห็นพิมพ์ทรงและเนื้อแบบนี้...ยุคปัจจุบันก็ยังไม่มีเนื้อแบบนี้...ดังนั้นหากจะเก็บเป็นของทุ่งน้อยก็ควรวาง...ทางเลือกสุดท้าย..ก็อาจมองในแง่ดีว่า..เป็นพระใหม่ไม่ทราบวัด(รอถาม..เผื่อมีเพื่อนๆท่านอื่นทราบ)..หลุดจากนี้ก็...มีโอกาสเป็นพระสนามสูงมาก..คหสต.
     
  4. Sillymanrx สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2016
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7
    รบกวนสอบถามหน่อยนะครับ พิมพ์ขี้ตา สร้อยสังวาลย์ พระแท้ไหมครับของพ่อตาครับ (ผมมือใหม่หัดเล่นพระครับ) แนะนำผมได้เต็มที่เลยครับ ขอบคุณมากครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. koaja Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +25
    ช่วยพิจารณาด้วยครับขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. bhothale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,583
    ของพ่อตาเนี่ย...หมายถึงพ่อตาให้คุณมาเลยหรือพ่อตาฝากถาม...แต่ผมขอเดาว่าคงเป็นพ่อตาให้คุณมาเลย...ถ้าขนาดพ่อตายังยอมยกลูกสาวสุดหวงให้ เขาก็คงหวังให้คุณช่วยดูแลลูกสาวแทนตัวพ่อ ก็คงอยากให้ทั้งคุณและลูกได้ปลอดภัย สุขใจ ร่ำรวย คงไม่ใจจืดใจดำให้พระเก๊แก่คุณ(เว้นเสียแต่ว่าท่านเองก็ไม่ทราบว่าเก๊)...ถ้าเป็นผมได้รับ ผมจะรีบคล้องคอทันทีเลย...แท้หรือไม่ ยังไม่สำคัญเท่าให้ความภูมิใจแก่ผู้มอบให้...
    เนี่ยถ้าผมเป็นพ่อตา ผมยึดลูกสาวคืนเลย โทษฐานไม่ไว้ใจพ่อตา...อิอิ
    เท่าที่เห็น...คล้ายๆจะเคยเห็นผ่านตาในแผ่นป้ายโฆษณางานบุญของวัดไหนสักแห่ง..ว่ามีการสร้างพระย้อนยุคพิมพ์แบบนี้...ผมมองว่าเป็นพระแท้ใหม่ งานบุญ สร้างย้อนยุคด้วยระบบฉีด...ไม่ใช่พระเก่าโบราณ...น่าๆนะ...ไหนๆก็ได้ลูกสาวเป็นหญิงแท้ๆแล้ว...พ่อตาคงไม่ให้พระเก๊มาคุ้มครองคุณและลูกสาวเขาหรอก...
     
  7. bhothale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,583
    ขอดู ภาพหลายๆด้านหน่อยซิครับ...ถ้าถ่ายได้ครบห้าด้านจะช่วยให้พิจารณาได้ง่ายขึ้น
    เพราะ พิมพ์นิยมแบบนี้มีเต็มสนามทุกแผง พบได้ทุกตู้ หาดูได้แทบทุกเวบ...เท่าที่เห็นแค่หน้ากับหลัง...ถ้าจะตีเป็นพระเก่า ผมว่ายังไม่ได้ครับ...ยังไม่เข้าพิมพ์..เนื้อยังดูสด...บางท่านอาจตีเข้าทางหลวงพ่อพิธสร้าง(ถ้าองค์เขื่องๆหน่อยราวๆหกสลึง)ก็ได้...หรืออาจเป็นพระใหม่งานบุญสร้างย้อนยุค..หรือเป็นพระเสริมสนาม...ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น...แต่ คหสต.แล้วผมยังไม่ชอบครับ ลองฟังท่านอื่นๆอีกที ที่อาจเห็นต่าง แต่ท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธาของแต่ละคน
     
  8. koaja Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +25
    คับผมลงรูปด้านข้างครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. Sillymanrx สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2016
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอบคุนมากครับพี่ bhothale พระพ่อตาให้ครับ พ่อตาผมพระเยอะครับ พ่อตาผมคนกำแพงเพชรมีซุ้มกอหลายองค์ครับ หลวงพ่อเงินนี่ก็แบ่งมาให้บูชาครับ
     
  10. krichthep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,389
    ค่าพลัง:
    +3,965
    ขอบคุณมากครับ ท่าน bhothale วางลงที่เดิมแล้ว ครับ

    **** ผมเตือนเพื่อนๆ สายหลวงพ่อเงินหน่อย นะครับ ช่วงนี้ผมเห็น หลวงพ่อเงิน ในตลาดแถวๆ บ้าน เยอะมาก ถามคนขายว่าอยากได้สวยๆ เขาเลยตอบกลับว่า จะเอาสีแบบไหน เก่าๆ สนิมแดงๆ คราบแดงๆ แล้ว ยกมาให้ดู ราวๆ 50 องค์ได้ 5555 สงสัย ต้องหยุดเดินหา แล้ว ละคราวนี้ รอบารมี หลวงพ่อมาวิ่งชนเองดีกว่า ****
     
  11. เจ๊ตุ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,607
    บทความของ คุณ wertex ขอบคุณมากครับ ผมก๊อปมาครับ

    เรื่องที่คนเล่นพระต้องรู้ แต่เซียนพระไม่อยากอ่าน(เมื่อสมันน้อยหาญกล้าวิจารณ์เซียน

    เมื่อสมันน้อยๆ หาญกล้าวิจารณ์เรียน(เรื่องที่คนเล่นพระต้องรู้แต่เซียนไม่อยากอ่าน)

    วันนี้เรามามองเซียนพระเครื่องกันดีกว่า แต่ขอออกตัวก่อนนะครับว่า เซียนที่ดีก็มีครับแต่น้อยมากๆเฉลี่ยร้อยละไม่เกิน 10 คนครับ

    บทความนี้เขียนขึ้นจากการที่ รู้เห็นการกระทำของคนในวงการพระทั้งที่เป็นที่ยอมรับและไม่ยอมรับของสังคมเป็นระยะมาหลายสิบปี ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ให้เพื่อนนักนิยมพระทั้งหลาย รู้จักการวางตัวและการคบหากับเซียนเล็กเซียนใหญ่ทั้งหลายให้ถูกต้องและอย่าได้ถลาลึก จะได้รอดจากปากเหยี่ยว ปากกา หรือสมควรเรียก เสือ สิงห์ กระทิง แรด จะถูกต้องกว่า....

    1.ความเป็นเขี้ยวลากดิน

    ความเป็นเขี้ยวลากดินนี้ในวงการพระก็เป็นเรื่องแปลก ไม่มีใครสอนหรือเปิดอบรมแต่มันเป็นขึ้นมาเองโดยสิ่งแวดล้อม เรียกตามแนวศิลป์อาจจะเรียกว่า สืบทอดกันมาโดยจิตวิญญาณ 55 อันนี้มองเป็นเป็นรูปธรรมได้ไม่ต้องใช้ความรู้สึก เช่น เวลาท่านนำพระแท้ๆไปแห่ขาย(ขอให้เป็นพระที่วงการเล่นหากัน เอาเป็นว่าพอนิยมกันนะครับ) จะได้คำวิพากวิจารณ์และการตีสีหน้าของเซียนเวลาส่องพระ ไม่รู้ท่านพวกนี้ทำไมต้องทำสีหน้าเครียดเหมือนเวลาญาติสนิทตัวเองป่วยไม่ทราบ พร้อมกับถามว่า “ตีไว้เท่าไร” (อันนี้คือเรียกว่ากฎหัวขาด ห้ามให้ราคาก่อนเผื่อคนเอาพระมาขายเป็นเอ๋อ) พอเราบอกไปจะได้ยินคำพูดต่อคือ “ลดได้เยอะมั้ย” พร้อมคำวิพากวิจารณ์แบบเรียกว่า เจ้าของพระได้ยินแล้วอยากจะขว้างพระตัวเองทิ้งตอนนั้นเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปซะเลย เมื่อพูดคุยถึงจุดสุดท้ายราคาที่ได้คือ ราคำที่ต่ำกว่าราคาขายท้องตลาด หาร 2 หาร 3 นู่น..........

    2.มาดเหลือแดรกกก....มากับเล่ห์เพทุบาย..

    อันนี้ก้อต่อเนื่องจากข้อแรก คือเวลาเจอพระก้ำกึ่งหรือพระที่ดูยาก หรือพระที่ มีการสร้างคล้ายกันหลายสำนักแต่ตีไม่ออกว่าที่ไหน จะมีการกวักหรือโทรเรียก(อันนี้ตัวผมเรียกว่า เซียนรับเชิญ) เซียนสายตรงเป็นท่อมา ฮาๆๆๆๆ คราวนี้เรารอสักแป๊ป ก็จะเห็นเซียนที่ถูกเชิญมา ทั้งท่าเดิน ที่บางคนก็เดินถ่างขา ดูเหมือนคนเป็นซิฟิลิส(โรคคนแก่รุ่นเก๋า)ยังไงยังงั้น พร้อมสีหน้าเครียดอีกเหมือนกัน(คราวนี้ตีสีหน้าเหมือนรู้ว่าเมียมีชู้) พวกนี้ดูดีๆก็น่าสงสารเหมือนกันนะครับ รูปร่างหน้าตาส่วนใหญ่มักผิดระเบียบส่วนใหญ่หน้าตาน่ากลัวทั้งนั้น ชะลอยจะเหมือนคนโบราณว่า บุญทำกรรมแต่งเมื่อทำชั่วมากๆหน้าตาก็จะเริ่มเปลี่ยนไปในด้านมืด ภาษาอังกฤษเรียกDark Side 55(มองดูไม่น่าคบแววตาจะระแวดระวังตัว แต่ก็คอยมองหาเหยื่อเช่นกัน(ก็กลัวงาบโดนกระดูกติดC-4) ดีอยู่อย่างพวกนี้ส่วนใหญ่ได้เมียหน้าตาดี อิอิ..แล้วก็เหมือนเดิมครับ..คำพูดคำวิจารณ์ไม่ต่างกับเซียนท่านแรกแต่ที่มาแปลก คือคำตัดสิน ผมเคยนำกริ่ง หม้อน้ำมนต์โต เจ้าคุณศรี(สนธุ์) วัดสุทัศน์ไปปล่อยที่ท่าพระจันทร์ อ้ายเซียนรับเชิญ กลับตีเป็น ล.พ.ห้อง วัดช่องลมซะฉิบ! ซึ่งราคาค่านิยมต่างกันริบ แต่มันคงเป็นสันดานที่เห็นแก่ได้ที่ขาดซึ่งความสำนึก ที่สืบทอดต่อกันมาเป็นรุ่นๆ ดีนะครับที่ไม่ได้ขายไป แต่นำมาลงหนังสือขายได้เงินหลายหมื่นพวกท่าพระจันทร์ตอนนั้นตีเป็น ล.พ.ห้อง วัดช่องลมให้สี่ห้าพัน...

    3.บุญคุณไม่ตอบแทน.....แต่ ถ้าม รึ งแร้นแค้นกรู..ไม่คบ

    เมื่อสมัยก่อน ประมาณปี2536-2540 ผมเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง พอมีเงินหมุนสบาย และชอบเช่าพระเก็บไว้ เช่น สาย ล.พ.พรหม, สาย วัดปากน้ำ, ล.ป.โต๊ะจนสนิทกับเซียนสายตรงท่านหนึ่งเพราะเช่าพระเขาเป็นเงินหลายๆแสน ในสาย ล.พ.พรหม ซึ่งตอนนั้นพระ ล.พ.พรหม ราคาไม่แพงมากเรียกว่าซื้อง่ายขายคล่อง มีพระ ล.พ.พรหม เป็นจำนวนมาก เมื่อตอนเซียนท่านนั้นจะซื้อบ้าน แต่ยังขาดสภาพคล่อง ได้เอ่ยปากขอยืมเงิน200,000.-เดือนกว่าจะให้คืน ผมหยิบเช็คเซ็นต์ให้ทันที โดยไม่คิดดอกเบี้ยและบอก มีเมื่อไรค่อยคืนก็ได้ แต่ประมาณเดือนกว่าก็ได้คืนครับ ก็นับว่าเครดิตเซียนท่านนี้ใช้ได้ทีเดียว จนมาถึงเมื่อพิษเศรษฐกิจ ปี2540 เกิด นักธุรกิจล้มระเนระนาด ผมก็เป็นผู้หนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เดือดร้อนมากที่สุด ได้นำพระ ล.พ.พรหม ที่มีเป็นกล่องๆไปขายให้เซียนท่านนั้นเพื่อนำไปจ่ายค่าวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงาน แต่คำตอบที่ได้คือ “ไม่อยากตีราคาให้คุณ..(ชื่อผม)..เลย ฝากที่ร้านขายให้ดีกว่านะ” อันนี้ผมเข้าใจครับเพราะถ้าเขาตีราคาให้ก็คงต่ำกว่าท้องตลาดเป็นครึ่งๆจึงไม่กล้าตีให้ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเคยเอ่ยปาก ขอยืมเงิน แค่ 3000บาท แต่คำตอบที่ได้คือ การปฏิเสธ อันนี้ขอเตือนเป็นข้อคิดนะครับว่า เซียนท่านนั้นคงเห็นผมตกอับ แล้ว ซึ่งผิดกับเมื่อก่อนก็เลยไม่กล้าให้ยืม ชะลอยจะคิดว่าแต่ก่อน กรูยืมมึงเป็นแสน มรึงมีให้ แต่ตอนนี้ มรึงกับมายืมกรูแค่สามพัน 55 เรื่องไรกรูจะให้ ยังมีอีกครับเคยกู้เงินผมๆก็คิดดอกร้อยละ3 โดยไม่มีสัญญาหรือสิ่งค้ำประกันใดๆทั้งสิ้น ไปเป็นเงินหลายหมื่น ไม่มีต้นให้ก็ส่งแต่ดอกมาครับ เรียกว่าไม่มีกำหนดส่งต้น คนนี้หลายเดือนครับกว่าจะได้ต้นคืนแต่ก็ได้ครบครับไม่มีปัญหาใดๆ แต่ในยามที่ผมเดือดร้อนและเซียนท่านนี้มีเงินทองมากมาย เฉพาะพระในตู้ที่มีทั้งเลี่ยมทองและตลับทองคิดแค่ทองคำอย่างเดียวก็น่าจะหลักหลายแสนขึ้นครับ วันนั้นผมถือพระชินราชอินโดจีนไปห้าองค์ มูลค่าตามท้องตลาดน่าจะสองถึงสามหมื่นขึ้น ผมยื่นให้เขาพร้อมพูดว่า “เราขอยืมเงิน12,000 เราวางพระห้าองค์นี้ไว้ เป็นประกันให้ คิดดอกเท่าไรคิดไป” แต่คำตอบที่ได้คือ “สมัยนี้ใครจะเอาเงินมารับจำนำพระ เงินจม เอาไว้ซื้อพระไม่ดีกว่าหรือ ทำไมไม่ขายไปเลย” นี่คือสันดานของเซียนที่เห็นแต่ผลประโยชน์ที่ยามเรามีเงิน กับไม่มีเงิน ความสัมพันธ์ย่อมไม่เหมือนกัน แต่ยังดีครับเมื่อคราวนั้นยังมี คุณ อุ๊ กรุงสยาม เมื่อคราวที่ เปิดสำนักงานอยู่ข้างวัดราชนัดดา แล้วตอนนั้นมีนิตยสารกรุงสยาม กับนิตยสารในเครือ หัวใหม่ชื่อ “ราคา&พระเครื่อง” ออกมาวางแผง..ได้ลงพิมพ์ว่ารับจำนำพระ โดยคิดดอกร้อยละ5 ซึ่งผมถือว่าไม่แพงเลยถ้าไปเทียบกับการที่เราจะเอาไปขายแล้วโดนกดราคา และบางครั้งมันก็ไม่ใช่ราคาเพียงอย่างเดียว ผมว่านักนิยมพระทุกคน จะต้องมีพระที่ตัวเองรักอยู่ ไม่องค์หนึ่งก็หลายๆองค์ แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องใช้เงิน การจำนำพระไว้กับร้านที่เชื่อถือได้ เพื่อเอาเงินมาแก้ขัด ก็ยังเป็นทางออกที่ดี ซึ่งตอนนั้นผมจำนำพระชุดนี้เป็นปีครับ ส่งดอกครั้งละเดือนบ้าง ถ้าไม่มีก็ขอส่งดอกครึ่งเดือนบ้างทางร้านก็ไม่ว่าอะไร โดยโทรบอกเสมียนผู้หญิง(น่าตาน่ารักดี โทษทีที่จำชื่อเธอไม่ได้แล้ว) ว่าโอนดอกเบี้ยมาให้แล้วนะ เรียกว่าความคิดที่จะยึดพระลูกค้าไว้ไม่มีแน่นอน ซึ่งก็ถือว่าคุ้มตอนหลังผมขายพระชุดนี้ให้เพื่อนได้เงินมาหลายหมื่น ถ้าตอนนั้นขายให้เซียนไปคงได้ไม่เท่าไร ผมไม่รู้ว่า เดี่ยวนี้ ทางคุณ อุ๊ ยังให้บริการด้านนี้อยู่อีกไหมเพราะมันผ่านมาหลายๆปีแล้ว แต่ถ้ามีผมว่าช่วงนี้ก็เป็นโอกาสดีนะครับ

    4.ไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร

    อันนี้เหมือนนักการเมืองน้ำเน่าปัจจุบันเป๊ะ....คนพวกนี้พอผลประโยชน์ร่วมกันก็กินเที่ยวด้วยกัน แต่พอผลประโยชน์ขัดกันก็โจมตีกันเอง เรื่องนี้ทุกท่านน่าจะเคยเจอ ถ้าสนิทกับตู้ไหน จนพอไว้เนื้อเชื่อใจก็จะได้ฟังเรื่องเล่าเค้ามหากาพย์ ไม่รู้จบ โจมตีกันไปมา

    5.องค์เดียวกัน 15 นาที เปลี่ยนเป็น รุ่นอื่น

    เคยเดินเล่นในบางลำพูงามวงค์วาน(ชื่อเมื่อก่อน)เผอิญเดินผ่าน ตู้หนึ่ง (มีชื่อเสียงในสายเครื่องรางพอสมควร) เห็นมีคนเอากะลาแกะ รูปราหูมาปล่อย ผมปาดตามองเห็นพระเลี่ยมพลาสติกอยู่ โดยจับขอบชิ้นกลางเป็นสีเหลือง ก็มองไว้ แต่ดูไม่เป็นหรอกครับ ได้ยินเสียงเซียนต่อรองกับผู้นำมาปล่อยว่าราคามันแรงไป แค่ ล.พ.ปิ่น ยุคต้น..ตอนนั้นผมยืนหันหลังให้เขาเพราะแกล้งทำเป็นส่องพระจากแผงขาจรอยู่ ซึ่งวันนั้นมีตลาดนัด ก็ฟังไป จนเขาตกลงราคาซื้อขายกันแค่ 800 บาท ในใจตอนนั้นผมก็อยากได้พระราหูมาใช้เสริมดวงอยู่เหมือนกัน คิดว่า ซื้อต่อคงไม่แพงมากแต่จะเข้าไปซื้อตอนนั้นเลยก็น่าเกลียด เลยแกล้งเดินไปที่อื่น รอบๆนั้น อีก 15 นาที เดินกลับมา ผมมายืนหน้าตู้ แล้วถามว่า “พี่ครับ ราหู องค์นี้ ของ ที่ไหนครับ” “องค์นี้กะลาแกะ ล.พ.น้อย ครับ”เซียนท่านนั้นตอบเล่นมาผมตัวชาไปเลย แต่ก็ยังรวบรวมสติท่ามกลางความตกตะลึง ถามกลับออกไปว่า“เท่าไรครับ”“22,000 ครับ” ตอนนั้นแทบล้มทั้งยืนเลยครับ ผมจำพระได้ครับ เลี่ยมกรอบพลาสติคจับขอบชั้นกลางเป็นสีเหลืองและในตู้มีองค์เดียวที่เลี่ยมแบบนี้ ไฉนจาก ล.พ.ปิ่น ผ่านไปไม่ถึง15นาที มันเป็น ล.พ.น้อย ได้ไง(วะ)แล้วราคานี่...อ่ะ มันพุ่งทะลุเพดานห้างไปชนโลกพระจันทร์จนต้องหาช่างมาซ่อมหลังคาห้างขนาดนั้นเชียวหรือ 800 เป็น 22000.-โอว์......อาร์....อูว์........

    6.เพื่อนช่วยเพื่อน น้อยกว่านี้ได้ไง (พระของเพื่อนข้า ใคร! อย่าแตะ)

    เมื่อหลายปีก่อน เซียนสายตรงเป็นท่อท่านหนึ่ง(ความจริงโดน2ถ้าไม่มีใครมานั้งมากกว่านี้) มีนิวาศสถานอยู่บนห้างๆนึง โดนพระสาย ท้องถิ่นตัวเอง(ถ้าบอกว่าเป็นพระกรุไหน จะรู้กันทั้งห้างเลย) ซึ่งเป็นหระหลักจัดอยู่ในความนิยมอันดับต้นๆ คราวนั้นโดนของยอดฝีมือปาดจนคอแทบขาด กว่าจะรู้เพราะคนที่นำมาปล่อย เอามาบ่อยอีกครั้งเลยชักเอะใจ เพราะซื้อขายกันครั้งแรกก็หลักหลายล้านไปแล้ว พอมารู้ก็ไม่รู้ทำไง เพราะพระที่ซื้อมาก็ปล่อยให้ลูกค้าไปหลายองค์แล้ว คราวนี้ปัญหามันอยู่ที่งานประกวดนี่ซี...เมื่อมีการนำพระกรุนี้(ซึ่งสุดท้ายคือพระเก๊นำมาส่งประกวด)กรรมการที่รับพระสายนี้ ท่านหนึ่งรู้ว่าพระองค์นี้ ซื้อมาจากที่ไหน(ก็ข่าวดังขนาดนั้น)จึงถามท่านประธานผู้จัดว่าจะทำไง สิ่งที่ได้ยินคือ “อ้าย.....มันโดนมา ช่วยรับหน่อยแล้วกัน”5555 น้ำใจช่างเป็นเลิศประเสริฐศรีดีแท้ทีเดียวเชียวนะมรึง......(กรณีนี้มีหลายครั้ง หลายเหตุการณ์ครับ จนเป็นเรื่องธรรมดาของกรรมการรับพระไปแล้ว)

    7.ขึ้นทำเนียบ จับตาย!!!

    เรื่องนี้แยบยลนิดหน่อย เพราะเกิดจากกลุ่มเซียนกลุ่มหนึ่ง จริงๆก็มีหลายกลุ่มแหละ เมื่อมีชื่อเสียง ก็ต้องทำหนังสือพระ(ที่เป็นปกแข็งหรือปกอ่อนแบบเฉพาะกิจ ไม่ใช่นิตยสารรายปักษ์หรือรายเดือน)ขึ้นมา อันถือว่า ขึ้นทำเนียบเซียนใหญ่ เพราะมีหนังสือปกแข็งในนามของตัวเองขึ้นมา เช่น เฉพาะกิจ ล.พ......... เฉพาะกิจ พระกริ่ง...... อะไรทำนองนี้ คราวนี้ได้การครับ กลุ่มตัวเองบางคนเห็นแก่ผลประโยชน์ โดยไม่เห็นแก่ความเดือดร้อนของชาวบ้าน ก็นำพระเก๊ยัดเข้ามาผสมโลง อาร์......คราวนี้พระเก๊ก็แทบเป็นพระแท้ไปโดยปริยายเพราะได้ลงหนังสือมีหลักฐานอ้างอิง แถม จัดทำโดยเซียนพระชื่อดังด้วย คนได้ซื้อพระไปก็อดที่จะภูมิใจไม่ได้ที่พระที่ตัวเองซื้อมาได้ลงอยู่ในหนังสือ....แต่คนขายก็ยิ้มอยู่ในใจเช่นกัน 555 8.งานบุญไม่อาราธนาศีล

    พวกนี้งานบุญที่ไหน จะเลี่ยงอาราธนาศีลในข้อ 4 เป็นส่วนใหญ่ ก็ไม่รู้เพราะอะไร (ท่านผู้อ่านไปคิดดูเอาเอง)เวลาไปร่วมงานบุญ พอพระสงฆ์ท่านท่องมาถึงข้อที่4นี้ พวกนี้จะเงียบกริบ ไม่ยอมรับศีล (ไม่เชื่อลองสังเกตดู)

    9.พระที่เซียนซื้อบางครั้งก็ไม่แท้เสมอไป(รู้ว่าเขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก)

    เพราะบางทีเซียนใหญ่ก็ซื้อพระเก๊ไป ทั้งๆที่รู้ว่าเก๊(ในราคาที่ไม่ถูกนะครับ) เพราะพระนั้นเป็นพระที่ทำออกมาดีเรียกว่า เล่นได้ อันนี้ไม่เรียกว่าโดนนะครับ แต่ต้องเรียกว่า เต็มใจมากกว่า ผมเคยถามทำไมถึงซื้อ แล้วได้คำตอบที่ดูดีว่า “เอาไว้ดู เป็นตัวอย่าง” แถมยังซื้อแพงซะด้วยยกตัวอย่าง เช่น พระกรุๆหนึ่งของแท้ซื้อขายกันองค์ละหลายแสน แต่พอเจอพระฝีมือที่มีคนนำมาจะยิง ก็ออกตัวล้อฟรีไว้ก่อนเลยครับ “ขอไปเล่นน่า เท่านี้ได้ไหม” บางทีงงครับราคาของเก๊ เซียนซื้อเป็นหมื่น(บางทีหลายหมื่นด้วยซ้ำ) เสี่ย เน๊กไท ทั้งหลายที่ชอบซื้อกับเซียนหย่ายก็พึงสังวรไว้บ้างนะครับ

    10.เซียนก็อยู่รูได้เช่นกัน (เมื่อเซียนกลายเป็นผีและผีกลายเป็นสาง นี่คือสุดยอดแห่งเซียน)

    เกือบ10ปีแล้วเห็นจะได้มั้ง เซียนริมน้ำชื่อดังท่านหนึ่ง มีฝีมือในการเล่นพระสายเกจิ ลึกๆ แต่ดวงดาวลิขิตให้มาต้องติดการพนัน เป็นหนี้ปั๊วบอลนับล้าน ต้องหนีหัวซุก หัวซุน จนเซียนท่านนี้กลายเป็นผี ต้องหลบๆซ่อนๆ แต่เขา เก่งทั้งในเรื่องพิมพ์พระ และเนื้อพระ ก็เลยเสกพระเกจิชุดนึงเป็นพระยอดฝีมือออกมา(ผมเคยเห็นทุกขั้นตอนในการพิมพ์พระและทำพระให้เก่า โดยเพื่อนที่คบกันมานานที่เป็นผีสนามพาเข้าไป) อาละวาดครั้งแรกในถิ่นของตัวเองเรียกว่า โดนกันระนาว เพราะชุดแรกให้เด็กหรือผู้หญิงถือไป(นัยว่า ถ้าเด็กหรือผู้หญิงถือไป เซียนใหญ่ น้อยทั้งหลายจะระวังตัวน้อยลงแต่ตอนนี้คงไม่แล้วมั้ง) ได้ผลชุดแรก ถล่มเซียนใหญ่น้อยจนยับ และทุกวันนี้จากผีกลายเป็นสาง ได้ส่งพระฝีมือ ออกมาเป็นระลอกๆ จนมีชื่อเสียงทางด้านนี้เป็นอย่างมากและเป็นที่ทราบกันว่า หากพระเก๊ยอดผีมือนี้ส่งไปยิงผู้ใด สางตนนี้มักจะ ทราบเรื่องราวเสมอ ว่ามาจากสายไหน (มีหลายกลุ่ม หลายสาย บางกลุ่มก็ผลิตของฝีมือออกมาตามใบสั่งของเซียนใหญ่ที่มีผู้นับหน้าถือตาด้วยซ้ำ อนิจจา.....)และนี่คือผีที่กลายเป็นสางที่เซียนกลัวที่สุดตนหนึ่งเลยทีเดียว

    บทสรุป

    ทั้งหมดที่ผมรวบรวมมานั้น เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เรื่องลึกกว่านี้ยังมีอีกเยอะถ้านำมาเล่า กลัวว่าสังคมพระส่วนใหญ่จะรับไม่ได้ แต่ก็น่าจะพอเป็นประโยชน์ในการวางตัว และคบหากับเซียนบ้างนะครับ แต่อย่างที่บอก เซียนดีๆก็มี แต่น้อยครับ จึงไม่มีตัวอย่างในทางที่ดีมาเล่าให้ฟังได้มากเท่าไร หากใครมีประสบการณ์ในด้านดีๆ ก็นำมาเล่าสู่กันฟังในเวปบ้างก็จะดี เซียนคนไหนที่อยู่ข่ายที่เล่ามาก็สมควรจะสำเหนียกปรับปรุงตนเองเสียใหม่ ให้วงการพระเครื่องเป็นที่พึ่งพาของผู้ที่เดือดร้อนได้อีกทางหนึ่ง โดยไม่ถูกริดรอนสิทธิ์และเอาเปรียบมากจนเกินไป ใจเขาใจเรา...ครับ

    อันนี้ผมพิมพ์เอง ช่วงนี้ลงรูปไม่ได้นะครับ ตามนั้น
    ช่วงก่อนหน้านั้นมาถึงตอนนี้ พระปลอมถ้าเทียบกับพืช ก็เท่ากับ GMO ตัดต่อพันธุกรรม
    แปลตามตัวย่อ ภาษานอกก็ต้อง
    bigmouth n. คนปากมาก,คนปากบอน,คนพูดปากมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. kunjar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2016
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +31
    สวัสดีครับ..สมาชิกใหม่ครับ.
    ขอทดลองลงรูปหน่อยครับ..ไม่รู้จะได้หรือปล่าว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. kunjar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2016
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +31
    ลงรูปได้แล้วครับ..
    งั้นขอรบกวนท่านผู้รู้ช่วยดูให้หน่อยครับ..ว่าวัดไหนครับ.รุ่นใหนครับ
    แท้มั้ยครับ.กำลังจะเอาขึ้นคอครับ..ขอบคุนครับ..


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. bhothale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,583
    เนื้อและพิมพ์ทรงมีเอกลักษณ์...แบบนี้ผมชอบครับ..แม้จะไม่ใช่พระเก่า แต่จะเป็นพระใหม่วัดใดก็ยากที่จะบอก เพราะไม่ตอกโค๊ด...นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ทำให้เป็นพระสนามได้...เดี๋ยวนี้พระสนามเนื้อสวยมีเยอะครับบางส่วนก็เป็นพระที่ทางวัดสั่งทำ...แล้วโรงงานทำเกินไม่ได้เข้าพิธี...(แล้วใครจะดูออก)...คหสต.ลองหาพระแท้(ใหม่)ดูง่ายๆขึ้นคอไปก่อนดีมั้ย...
     
  15. kunjar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2016
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอบคุณมากครับผม สำหรับคำแนะนำครับ...
     
  16. เจ๊ตุ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,607
    เมื่อก่อนผมจะพอพบพระวาระ ผ่านตาพอสมควร แต่ปัจจุบัน พบน้อยมากเลยแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ วันนี้มารื้อฟื้นกันหน่อยครับกับพระวาระเอาเฉพาะรูปหล่อนะครับ
    วาระที่ ๑ เทสร้างกันที่วัด ลักษณะเนื้อส่วนมากจะเป็นโลหะผสม ทอง บางองค์พบทองเป็นก้อน สาเหตุเกิดจากการคุมอุณหภูมิไม่แน่นอนโลหะต่างๆ มาจากชาวบ้านนำมาบริจาค หรือพบสีทองเหลืองสุก ทองเหลืองอมเขียว สร้างพิธีใหญ่ๆ จะพบว่ามีแร่ เม็ดเล็กดำด้าน ติดอยู่ในเนื้อองค์รูปหล่อ เป็นพิมพ์ขี้ตาทั้งสามพิมพ์

    วาระที่๒ พิมพ์นิยม เทที่บ้านช่างหล่อ ฝีมือแต่งหุ่นเทียนปรานีต พอหล่ออกมาแล้ว แทบไม่มีรอยตะเข็บ หรือไม่ต้องแต่งเลย วาระนี้มีเหรียญจอบใหญ่จอบเล็ก
    เนื้อทองดอกบวบ เพราะเป็นทองเหลืองแท่งจากเมืองจีน ยังไม่มีการ รีไซเคิล
    วรรณะจึงสุกปลั่ง แบบสีของดอกบวบ วาระนี้ แยกกันที่ความเรียบร้อยและกระแสโลหะครับ การคุมอุณหภูมิดีกว่าเพราะหล่อเป็นช่อๆ น้ำทองหลอมแยะเพราะต้องเทเป็นช่อ ต่างจากพิมพ์ขี้ตาที่เททีละองค์ บางครั้งหลอมทีละองค์โดยการชั่งน้ำหนักของโลหะที่จะหลอมจึงพบว่าเนื้อเกินจากพิมพ์น้อยมาก ขาดๆ เลยฐานต้องเป็นเม็ดสาคูจิ๋วๆ จึงจะเป็พระที่ดูง่าย

    วาระที่๓ มีการนำเอาวาระที่๑ และ๒ องค์สวยๆมาถอดพิมพ์ สร้างเพื่อแจกในงานประจำปี เชื่อว่าหลายปี มีการสร้างขึ้นจากแม่พิมพ์เดิม สำหรับพิมพ์ขี้ตา และพิมพ์หุ่นเทียนเดิมสำหรับพิมพ์นิยม สร้างกันหลายคณะ รวมทั้งการแกะแม่พิมพ์ใหม่ของพระอธิการแจ๊ะ
    บางคณะมีฐานะ ผสมทองคำจนแก่ทอง บางองค์เกือบ ๘๕% พระวาระ๓ มีจำนวนมาก และบางส่วนนำไปบรรจุกรุ ตามวัดที่หลวงปู่เป็นประธานอุปถัมย์การสร้าง ถาวรวัตถุ วาระที่๓ ก็ยังเป็นที่พึ่งของสาธุชน เพียงแต่ว่าต้องดูเนื้อเก่าให้เป็น
    และ แยกแยะให้ออกระหว่างเรื่องจริง กับตำนาน หรือคำโฆษณา ต้องค่อยๆศึกษาไปครับ วาระที่๑ และ ๒ ราคาหลักล้านยังไม่มีใครอยากจะคุยด้วย เพราะหายากมากๆ ค่อยๆศึกษา จะวาระไหนรุ่นไหน บางท่านแยกไปเป็นวาระ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ อะไรก็ว่ากันไป แต่ถ้าทันหลวงปู่มีแค่ ๓ วาระเท่านี้ครับ
    บางคนลงข้อมูลถูกต้องแต่ลงรูปพระปลอม มีให้เห็นโดยทั่วไป
    การพิจรณา หลักๆ ตอนนี้เหลือแค่ โลหะ อายุ คราบเบ้า สนิมขุม ใครโชคดีหน่อยมีแร่ติดมาถึอว่าโชคดี เป็นพระที่ดูง่ายขึ้น ต้องบวกพิมพ์ทรงด้วยนะครับ แต่ปัจจุบันพิมพ์ต่างๆก็ทำได้แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะสมบูรณ์ มีข้อผิดพลาดอีกแยะ พระเคมี พระเผาไฟ พระเอาแก๊สเป่าผิวระเบิด ก็แยกให้ออกนะครับ โชคดีในการสะสมครับ




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. เจ๊ตุ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,607
    พึ่งหาเจอองค์นี้เอาซะหน่อยครับ



    ส่วนลักษณะของงาแท้ จะเป็นตารางสี่เหลี่ยมเล็กแบบรูปฐานนะครับ คุณสมบัติพิเศษเฉพาะของงา
    ส่วน งาก็จะเป็นกลุ่มที่อยู่ในพระวาระที่ ๑ นะครับ ยังรวมไปถึง เครื่องรางต่างๆ ด้วยครับ ส่วนอายุจะถึงทันหลวงปู่หรือเปล่าก็แยกที่อายุ รูปทรงของพิมพ์ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. เจ๊ตุ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,607
    ท่านพี่โพทะเลได้กล่าวไว้ว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. bhothale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,583
    ของเก่า..ดูมุมไหน..ยังไงๆก็สวย..สมยุคของเก่า...
    สุดแท้แต่วาสนาจริงๆ...นะเจ้ฯ...
     
  20. bhothale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,583
    หวัดดีครับเจ้ฯ...ช่วงนี้ได้ท่องเฟสฟรีเลยตะเวนดูความเคลื่อนไหวพระหลวงปู่ฯ..พบเห็นบางเรื่องที่น่าเป็นห่วง...เช่นการเปิดกลุ่ม..ชมรมฯ...ให้ขายพระ..พวกขายพระเป็นอาชีพก็เลยเฮฮาปาร์ตี้...แท้บ้างบางองค์..เก๊บ้างหลายองค์..ยัดยุค..ยัดวัด..(รายการยัดยุคเนี่ย ขี้ตาของทุ่งน้อยมีมากที่สุด..)..เอะอะก็ยุคต้น..ๆ..ทองเหลืองเพิ่งฉีดใหม่ๆ..ขอบก้นมีรอยตะไบคมๆ..ยังเข็นเข้ายุค ขายกันหนุกหนาน...อยากจะเข้าไปขัดขาบ้างแต่ต้องเข้าร่วมกลุ่มเขา...เลยขอถอยห่าง...ก็แล้วแต่วาสนา..ชิมิๆ
     

แชร์หน้านี้