สวัสดีครับพี่ตุ้ม สบายดีนะครับพี่
ตามรอยหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ (กลุ่มหลวงพ่อเงิน)
ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย เจ๊ตุ้ม, 16 มกราคม 2013.
หน้า 450 ของ 459
-
-
เปิดดูไฟล์ 4884949 สวัสดีเจ๊ตุ้มครับ จอบเล็กองค์องค์นี้เป็นอย่างไรบ้างครับ. -
-
รบกวนขอความรู้ด้วยครับ
เพิ่งได้หลวงพ่อเงินมาองค์นึง แต่ไม่ทราบรุ่น
พอมีท่านใดทราบบ้างหรือเปล่าครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
ผมมองเป็นออกวัดหลวง เนื้อพระบูชากรุเก่าพระจะคล้ายกับปืนแตกมากแต่ถ้าสังเกตุเรื่องพิมพ์ ในรายละเอียดจะแตกต่างกัน เช่นหน้าจะก้มลงมากกว่าปืนแตก และลักษณะขี้เบ้าการสันดาปที่ผิวของพระจะมีความแตกต่างจากปืนแตกต้องอาศัยการจดจำลักษณะและปริมาณโลหะโบราณที่เป็นส่วนผสม ยังมีอุณหภูมิที่ใช้ในการหล่อแตกต่างกันพระสร้างต่างพื้นที่ต่างเวลามักจะมีคุณสมบัติเฉพาะแตกต่างกันด้วย ครับผม -
แก้เบื่อกับรูปหุ่นเทียน(ขี้ผึ้งผสมชันน้ำหนัก ๓.๙ กรัม)พิมพ์นิยมก่อนนำไปเข้าช่อ (ของผมเอง) และรูปขาวมือเป็นบล๊อคแม่พิมพ์ต้นแบบ รูปจากหนังสือแจกงานฌาปนกิจ...... ในหนังสือจะมีรายระเอียดเกี่ยวกับรูปหล่อและแม่พิมพ์ นิยม จอบแล็ก บางท่านมีแต่ส่วนมากจะไม่เปิดเผยกัน
ส่วนมากจะกล่าวถึงหุ่นเทียนและแม่พิมพ์ แต่จะไม่เคยมีใครเห็นกัน
ข้อมูลทั้งหมดใช้วิจารณญาณ เอาเอง ครับ -
-
เคล็ดลับการเป็นจอมยุทธ ออกเดินทางไปสุดฟ้า
หวังเพื่อที่จะตามหา ยอดวิชาที่หายไป จะต้องเป็นเจ้ายุทธภพ ต้องยิ่งใหญ่เดินทางขึ้นเขา เพื่อไปตามหาอาจารย์ ตามหาคัมภีร์ เพื่อเป็นเจ้ายุทธภพ ระหว่างทางเสือก ตกเขา บังเอิญมีกิ่งไม้
บังเอิญจึงรอดตาย บังเอิญเจอทางเข้าถ้ำ บังเอิญคัมภีร์อยู่ที่นั่น จึงเริ่มฝึกตนตาม เคล็ดลับวิชา ด้วยความมุมมานะ ไม่นานตามมหากาพย์ มังกรหยก จึงโจนทะยานด้วยวิชาตัวเบา ซึ่งไม่มีอยู่จริงในโลกใบนี้ การท่องยุทธภพ พบสหายหลากหลาย พบมีการซื้อขาย(พระ) การประลองยุทธ ได้เริ่มขึ้น บางสำนักอ่อนด้อย บางสำนักเข้มแข็ง เจ้าสำนักบางตัวเล่นปาหี่หลอกแดกเงิน คนที่ด้อยกว่า ทั้งที่คนเหล่านั้นเรียกมันว่าอาจารย์ แต่มันไม่เคยสอนเคล็ดวิชาอะไรให้เลย (ไอ้ชั่ว) ประมือไปหลากหลายเจ้าสำนัก เสียเวลาไปหลายเพลา เดินทางนับพันนับหมื่นลี้ หรือว่าการต่อสู้ประลองยุทธ์ ฤ จะไม่ใช่หนทางที่ตามหา ตัดสินใจขึ้นเขาอีกครั้ง ระหว่างทางพบค่ายกล กับดักอีกมากมาย ลม ฝน ฟ้า โชคดีฟ้าไม่ผ่าเอาเพราะช่วงที่มีความรักใหม่ๆ ไม่ได้สาบานว่า ใครนอกใจให้ฟ้าผ่าตาย อิอิอิ ระหว่างทางขึ้นเขาพบโรงเตี้ยมอยู่มากมาย มองอีกทีแบบสายตาเฉียบคมดุจเหยี่ยว ตามประสาผู้มีวิทยายุทธแกร่งกล้า พบว่ามันไม่ใช่โรงเตี้ยม มันเป็นบ้านพักตุลาการที่ออกข่าวนี่หว่า นึกแล้วน่าอนาจใจกับผู้เป็นใหญ่ในยุทธภพที่อนุมัติการก่อสร้างที่ทำลายธรรมชาติเพื่อความสะดวกสบายของเหล่าขันที และเหล่าขุนนางต่างๆ บาปกรรมซ้ำซ้อน เหล่าสัพสัตว์ต่าง ช้าง เก้ง กวาง ลิง ไร้ที่อยู่อาศัย ไร้แหล่งอาหาร ต้องลงมาหาอาหารด้านล่างที่ราษฎรปลูกไว้ บางตัวโดนค่ายกล ลวดไฟฟ้าตายอย่างน่าอนาถ ระหว่างทางพบเจ้าสัว ซัดอาวุธลับซัดใส่เสือดำ นำมาเป็นอาหารเพื่อเพิ่มพลังยุทธ โถโถโถ ฟ้าดินลงโทษ แต่กฏหมายยังไม่ทำอะไรต้องสืบพยานก่อนก็ว่ากันไป ระหว่างทางพบเรื่องไร้สาระมากมายที่เรา ท่าน ได้สร้างกันไว้ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว เดินทางนับพันลี้ เสียเงินค้นหา นับแสนนับล้าน ไปโดยปล่าวประโยชน์ในเส้นทางที่จะเป็น ตามหาคัมภีร์ยุทธ์บนยอดเขาวันแล้ววันเล่ากับไม่พบสิ่งใดเลย มันอยู่ที่ใดกันแน่ ในใต้หล้าแห่งนี้ สูญสิ้นกำลังใจ กำลังกาย ทรุดนั่งใต้ต้นหลิวบนลานหินธรรมชาติ นั้งสมาธิเดินกำลังภายใน ทบทวนสิ่งที่ผ่านมาใช่ไม่ใช่ ถูกไม่ถูก ในสมาธิพบกับความนิ่ง ความสงบ ครุ่นคิดใคร่ควรตรึกตรอง เกิด แก่ เจ็บ จึงพบทางสว่าง ว่า ความดี มีน้ำใจไมตรีต่างหากที่จะทำให้ จอมยุทธทุกท่านพบกับความสุขทางกายและใจ เมื่อพบเจอบทสรุปของชีวิตที่สูงสุดแบบนี้ สู้ลงจากเขาไปใช้ชีวิตให้คุ้ม ตามอัตภาพจะดีกว่า จึงออกจากการฝึกกำลังภายใน แล้วรู้สึกพลังภายในต่อต้านร่างกายต้องไปขับพิษเหล่านั้นออกมาจากร่างกาย ก่อนลงเขาเลยไปเยี่ยวขับพิษที่ถูกวางในจอกสุราที่ยัดห่าเข้าไปตอนเด็กนั่งดริ๊งมันรินให้ตอนอยู่โรงเตี้ยม กำลังเยี่ยวอยู่สังเกตุพบศพสัตว์เลื้อยคลานมีพิษนอนตายละสังขาน เยี่ยวไปคิดไปจุดไคเมค อยู่ตรงนี้นี่เอง เก่งกล้าขนาดไหนก็ไยไม่พ้นความตาย ลงเขาดีกว่า ระหว่างทางพบผู้เยี่ยมยุทธต่างสำนักมากมายเดินขึ้นเขา สวนทางกัน มีท่านนึงถามว่าข้ามาจากไหน เลยตอบว่าบนยอดเขา เลยถามกลับไปว่าท่านจอมยุทธท่านไปตามหาอะไร จอมยุทธตอบว่ารูปหล่อศักสิทธิ์ ที่จะคุ้มครองข้าและจะได้ครอบครองความเป็นหนึ่งในยุทธภพ แล้วท่านพบอะไรบ้างจากยอดเขา ข้าพเจ้าเลยตอบว่า ข้าพเจ้าพบ แต่มันหาใช่อยู่บนยอดเขาไม่ สิ่งศักสิทธิ์นั้นอยู่ที่บ้านข้าเอง แล้วถูกถามสวนกลับว่าคืออะไร มีคำคอบในใจว่า มึงอย่าขึ้นไปเลยมันไม่มีอะไรหลอก พวกมึงคิดไปเองเออเอง สร้างจินตนาการหลอกตัวเอง สิ่งศักสิทธิ์ ที่ดีที่สุด เข็มแข็ง ทำให้พวกมึงสุขสบายเติบโต มีกินมีใช้ เติบใหญ่มีวิชาความรู้ ทุกวันนี้ แม่มึงไง พ่อมึงไง ศักสิทธิ์ที่สุด ขลังสุด อยู่กับพวกมึงมาตลอดแต่พวกมึงกลับลืมไปได้อย่างไร มึงจะขึ้นไปหาป้ามึงเหรอ นั่นคือคำตอบที่มิได้เอื้อนเอ่ยวจีออกจากปาก.....
จริงๆเคยลงแล้วแต่อยากลงอีก -
-
หาพระเก่าแท้้ๆทันยุคหลวงปู่ฯยาก..ลดความลำบากลองหาพระแท้ยุุุุุุคใหม่บูููชา แบบนี้ยังพอหาได้ ...ทุ่งน้อยปี 2551 ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ขออนุญาต ตามรอยหลวงพ่อเงินสักองค์นะครับ ดูให้หน่อยครับ ว่าเป็นยังไงบ้างคร้บ ขอบคุณนะครับ
เปิดดูไฟล์ 4928574 เปิดดูไฟล์ 4928574 -
เปิดดูไฟล์ 4929527 เปิดดูไฟล์ 4929384 เปิดดูไฟล์ 4929385 เปิดดูไฟล์ 4929386 เปิดดูไฟล์ 4929387 เปิดดูไฟล์ 4929388 เปิดดูไฟล์ 4929389 เปิดดูไฟล์ 4929390 เปิดดูไฟล์ 4929391 เปิดดูไฟล์ 4929392 เปิดดูไฟล์ 4929393 เปิดดูไฟล์ 4929394 เปิดดูไฟล์ 4929395 เปิดดูไฟล์ 4929397 -
ไม่ใช่รูปหล่อที่ทันยุคหลวงปู่ครับจากพิมพ์ที่มองเห็น เป็นการถอกพิมพ์ซ้ำๆ กันมาของพิมพ์ขี้ตาสามชาบ เป็นโลหะผสมหลากหลายชนิด ที่พอจะจับทางได้ก็จะมี เงินหรือโลหะที่คล้ายเงิน (จ้าวเงิน) เศษก้องทองเหลือง(ทองแดง+สังกะสี) โลหะโบราณ สังเกตุจากโลหะและคราบการสันดาปที่ปรากฎ รอยใต้ฐานที่มองเห็นไม่ใช่รอยตะไบแต่เป็นเครื่องเจียร์ไฟฟ้า จากใต้ฐานยาวต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณในแนวมุมตั้ง ไม่ทันหลวงปู่ครับ มองในแง่ดีก็เป็นการสร้างย้อนยุคของพิมพ์ขี้ตา ไม่ทราบเกจิที่สร้างครับ -
ขอบคุณเจ้ตุ้มมากครับ (องค์นี้เหมือนมีคราบเหงื่อเก่าๆใช้มาพอสมควรมีคราบช่วงด้านล่าง) ผมเลยถือโอกาศทำความสะอาดเล็กน้อย ทำความสะอาดสักพัก แล้วก็ถ่ายรูปมาให้ดูครับ เนื้อหามีคราบลักษณะแบบนี้ เป็นถอดพิมพ์มาไม่นาน หรือว่ามีอายุอยู่บ้างครับ.ขอบพระคุณครับ (ขออภัยแสดงภาพขนาดใหญ่จะได้เห็นคราบชัดๆ.)
ถอดพิมพ์มานานแล้วครับสำหรับองค์นี้ก็น่าจะไม่ตำกว่า 10 ปีครับ เรื่องเนื้อโลหะโทนสีของโลหะถึงจะถูกล้างมาโทนสีของโลหะ ยุคของโลหะทองเหลืองก็ยังไม่อยู่ในยุคของหลวงปู่ ส่วนคราบเบ้าลึกๆ ก็เกิดจากการสันดาปมาครับยังพบคราบเบ้าอยู่ กลุ่มสนิมที่เกิด ก็เกิดจากการห้อยใช้ การห้อยใช้ทำไมห่วงไม่สึกหรอ ถ้าเป็นจอบเล็กที่ทันหลวงปู่ภายในห่วงต้องสึกแน่ แต่ถ้าเป็นพระสมัยนี้มีกรอบสำเร็จใส่จึงไม่ทำให้สึก และน่าจะเป็นกรอบที่ไม่กันน้ำจำทำให้เกิดสนิมตามที่ต่างๆ เนื้อพระมองจากด้านหน้า ตึงแน่นเกินไป (ลองคิดถึงวิธีการหล่อโบราณ) รอยตะไบที่ใช้ละเอียดเกิน สำหรับเทคโนโลยีในสมัยนั้น เอาคล่าวๆ แค่นี้นะครับ จริงๆยังมีเอกลักษณ์เฉพาะ ในความเป็น พิจิตศิลป์ หยุมหยิมมากกว่านี้ยะ ครับ
ความเห็นส่วนตัวนะครับ ลองสอบถามจากหลายๆ ที่ดูครับ เผื่อได้ข้อมูลที่แตกต่าง -
-
ขอบพระคุณเจ๊ตุ้มครับผม.
หน้า 450 ของ 459