ที่เห็นชัดๆเลยก็ อุทยานราชภักดิ์ พระบรมราชานุสาวรีย์บูรพกษัตริย์ 7 พระองค์ ค่ะ
ตามรอย "พระมหาชนก"
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 15 กรกฎาคม 2010.
หน้า 99 ของ 99
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
หลัง อิง เนินเขา
หันพระพักตร์ สู่ ท้องทะเล
ทรงศัตราวุธทุกพระองค์ -
โดยความเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณ
สำหรับ ส.ค.ส พระราชทาน พ.ศ. ๒๕๔๗ นั้น
ภาพสุนัข ที่ปรากฏด้านล่าง ทั้ง 7 ตัว
จากซ้ายมือผู้อ่าน (ฝั่งขวาของ ส.ค.ส)
อิริยาบถเปลี่ยนจาก ยืนเป็นหมอบ
ขนาดเปลี่ยนจาก ใหญ่ ไป เล็ก
หาก สุนัข แทนสัญลักษณ์ของ ความจงรักภักดี
หากตีความเชิงสัญลักษณ์ ก็อาจหมายถึง ความจงรักภักดี ที่ค่อยๆลดลง
สุนัขตัวแรก (ตัวใหญ่สุด) แทน ปี พ.ศ. 2547 (ตามปี ส.ค.ส พระราชทาน)
สุนัขตัวที่สอง แทน ปี พ.ศ. 2548
สุนัขตัวที่สาม แทน ปี พ.ศ. 2549
สุนัขตัวที่สี่ แทน ปี พ.ศ. 2550
สุนัขตัวที่ห้า แทน ปี พ.ศ. 2551
สุนัขตัวที่หก แทน ปี พ.ศ. 2552
สุนัขตัวที่เจ็ด แทน ปี พ.ศ. 2553
ไม่ทราบว่าเรายังพอจำเหตุการณ์ ปี 2553 กันได้บ้างมั๊ยครับ
ที่มาของภาพ : manager.co.th
หมายเหตุ : ยังมีข้อมูลในเรื่องราวปี 2553 ที่โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่า ปรากฏอยู่ใน พระราชนิพนธ์ พระมหาชนก ซึ่งหลายคนอาจจะพอทราบบ้างแล้ว -
ความเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณ
รื้อโพสเก่าๆของสมาชิกหลายๆคน คห ที่ 1402 , 1403
เป็นภาพส่วนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก ในหน้า 17
หากสังเกต ตรงวัตถุรูปร่างคล้ายจอทีวี ปรากฏรูป ดวงไฟสีเขียว
เข้าใจว่าน่าจะเป็น ดาวหาง
ซึ่งถ้าผมมองโดยอาศัยเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ่้นจริงเป็นหลัก เทียบกับวันเวลา
ดาวหาง ดวงนั้นน่าจะเป็น C/2009 R1 McNaught
ซึ่งปรากฏเห็นจนสามารถสังเกตได้ ในช่วงประมาณกลางปี 2553
ช่วงเดียวกับที่เมืองหลวงแห่งหนึ่ง ยังคุกรุ่นด้วยเปลวเพลิงกลุ่มควัน เกือบจะกลายเป็น Civil War เต็มรูปแบบ
-
ความคิดเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณ
สัญลักษณ์ ลูกศร
ชายบนหลังม้า สวมเสื้อสีม่วง ผ้านุ่งสีเขียว
สมมติว่าเป็นทหาร ทหารที่มีเครื่องแบบสีม่วง หรือใช้ ตราหรือเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสีม่วง
สมมติ(อีกครั้ง)ว่า ถ้าเทียบกับประเทศไทย ทหารคนดังกล่าว น่าจะอยู่หน่วยหรือสังกัดอะไรครับ -
ที่มาของภาพ : ทิงเจอร์แมน@pantip
ชายบนหลังม้า คงพอจะเดากันได้ใช่มั๊ยครับว่าเป็นใคร -
สำหรับบางท่านที่ไม่มี พระราชนิพนธ์ พระมหาชนก นั้น
พระองค์ท่านได้อธิบาย คำว่า มหาวิทยาลัยปูทะเลย์ ไว้ใน ภาคผนวก ใจความว่า
" มหาวิทยาลัยปูทะเลย์ ชื่อที่ถูกต้องคือ โพธิยาลัย หรือ โพธยาลัย หรือ โพธาลัย
แต่ สระโอ กลายเป็น สระอู " (หน้าที่ 145)
[ โพธิยาลัย --> โพธยาลัย --> โพธาลัย --> พูธาลัย --> ปูทะเลย์ ]
" โพธิยาลัย หมายความ ที่อาศัยแห่งแสงสว่าง
คำว่า มหาวิชชาลัย หมายความ ที่อาศัยแห่งความรู้อันยิ่งใหญ่ " (หน้าที่ 96)
หากท่านใดไม่มีพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก หรือหาอ่านตามห้องสมุดไม่ได้
ก็สามารถติดตามผ่านทาง การ์ตูนอนิเมชั่น พระมหาชนก
ซึ่งตอนนี้ทีวีหลายช่องได้นำมาออกอากาศ ก็ได้รับแก่นสาระความรู้ เช่นกัน -
เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต
ในอดีตก็เคยยืนเหยียบเต็มเท้าทั้ง2ข้างด้วยน้ำหนัก 70kg. แต่ปูตัวนั้นก็ยังสามารถยกตัวเคลื่อนตัวลงท่าน้ำได้ เจอกันโดยบังเอิญ ที่ท่าน้ำตำมะลังจัวหวัดสตูล เป็นครั้วแรก ที่ทำอะไรไม่ถูก ถ้าจะฆ่าเขาทำเป็นอาหาร ก็ใช้ก้อนหินก้อนพอเหมาะทุ่มใส่ก็คงพอทำให้กระดองแตกตายแล้ว ในตอนนั้น คิดแต่เพียงว่า อยากจับเป็น กล้ามปู ใหญ่เท้าข้อเท้าเลยทีเดียว ดูเขาก็ไม่ดุร้าย เขาเงื้อกล้ามมา เรากระโดดออกทัน
ท่าเรือตำมะลังสตูล ปี 53
หน้า 99 ของ 99