เรื่องเด่น ตำนานรักเลือด เรื่องผี ที่ดังเรื่องชื่่อที่สุดของยุโรป

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 3 ธันวาคม 2012.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ตำนานโกธิค

    [​IMG]ตำนานโกธิค ตอน [​IMG]


    เข็มขัดพรหมจรรย์ [​IMG]


    [​IMG]


    เข็มขัดพรหมจรรย์นั้น
    ปรากฏในตำนาน เทพนิยายสมัยยุคหลังซึ่ง
    กล่าวถึงเรื่องราวของบรรดาอัศวินในยุคกลาง
    ที่ต้องไปรบทัพกับพวกมุสลิมในสงคราม
    ครูเสตกันเป็นเวลาหลายปี จึงได้มรประเพณี
    การประดิษฐ์เข็มขัดพรหมจรรย์หรือ
    ประแจพรหมจรรย์ขึ้นมาให้ เลดี้ของตน
    ที่รอคอยการกลับมาอยู่ที่บ้านสวม เพื่อ
    เป็นการป้องกันมิให้นางประผิดผิดนอก
    ใจไปหาชายอื่นได้ ในขณะเดียวกันยัง
    เป็นการป้องกันมิให้พวงนางถูกข่มขืน
    โดยชายอื่นในระหว่างที่สามีไปรบ
    โดยการทำงานของ ประแจใจรักษา
    พรหมจรรย์นี้จะมีลักษณะกางเกงชั้น
    ในเหล็ก ที่มีเข็มขัดเหล็กรัดอยู่ที่เอว
    และเชื่อมต่อมายังกางเกงในเหล็ก


    [​IMG]


    โดยจะรูเล็กๆพอไว้ให้ปัสสะวะและ
    อุจจาระเท่านั้น โดย กางเกงชั้นใน
    พรหมจรรย์นี้จะบุด้านในด้วยผ้านวม
    นุ่มป้องกันไม่ให้เหล็กเสียดสีกับ
    ผิวหนังจุดซ้อนเล้นอันบอบบางของนาง
    และกางเกงชั้นในเหล็กนี้จะสามารถ
    ถอดออกได้เพียงแค่กรณีเดียวเท่านั้น
    คือการใช้ลูกกุญแจไข ซึ่งอัศวินหนุ่ม
    สามีของ เลดี้ผู้โชคร้ายจะเก็บกุญแจ
    นั้นไว้กับเขายามไปออกรบจนกลับมานั้นเอง


    [​IMG]



    หากแต่ว่าจากการค้นคว้าทางประวัติศาสตร์ได้พบว่า
    ความจริงแล้ว เข็มขัดพรหมจรรย์หาได้สร้างในสมัย
    ยุคกลางไม่ และเพิ่งจะมีการใช้จริงๆก็ในยุคหลัง
    คือยุคเรอเนซองฌ์ กล่าวกันว่า เข็มขัดพรหมจรรย์
    มีใช้มากทางประเทศอิตาลี โดยใช้กับทั้งสองเพศ
    ผู้หญิง และผู้ชาย แต่โดยมากจะเป็นการบังคับ
    ส่โดยพ่อแม่ ของเด็กวัยรุ่น เช่น เห็นแววว่า


    ลูกสาวเริ่มมีเพื่อนชาย หรือ ป้องกันลูกชาย
    จากการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ซึ่งในยุคนั้น
    ถือว่า เป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมอย่างรุนแรงที่พวก
    เด็กหนุ่มๆจะช่วยตัวเอง เพราะศาสนา และความ
    สะอาด บริสุทธิ์ สำรวมกิริยา และจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก



    [​IMG]


    เข็มขัดพรหมจรรย์บุผ้านวมเป็นซับใน เพื่อป้องกันมิ
    ให้แผ่นเหล็กอันใหญ่โตนั้นถูกเนื้อต้องหนังผู้สวม
    แต่นวมเหล่านี้ต้องเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยเหตุนี้
    ในทางปฏิบัติแล้ว จึงไม่สมควรใช้เข็มขัดต่อ
    เนื่องยาวนาน การใช้ต่อเนื่องยาวนานเช่นกล่าว
    นั้นก่อให้อวัยวะเพศถูกเสียดสีขัดถูจนกลายเป็น
    แผล ติดเชื้อ เกิดภาวะพิษเหตุติดเชื้อ และถึงตายได้



    [​IMG]


    ภาพพิมพ์ไม้ในประเทศเยอรมนีสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16
    ซึ่งเสียดสีว่า อันที่จริงเข็มขัดพรหมจรรย์นั้น
    ไม่ช่วยรักษาพรหมจรรย์ได้ดังชื่อ
    ภาพแสดงหญิงผู้อ่อนเยาว์นางหนึ่ง (กลาง)
    ถูกสามีเฒ่า (ซ้าย) จับสวมเข็ดขัดพรหมจรรย์
    ลงกุญแจแน่นหนา นางล้วงกระเป๋าสามีหยิบ
    เงินส่งให้ชายชู้ (ขวา) ซึ่งถือลูกกุญแจมาให้
    แล้วนางกล่าวขึ้นว่า

    "ประแจใดก็ไร้ค่า ฤๅสามารถกันสตรี
    มารยาบรรดามี อีกเล่ห์กลย่อมดลไป
    ไม่รักคือไม่รัก สุดจะหักใจภักดิ์ได้
    เงินทองผัวข้าไซร้ จึงใช้ซื้อลูกกุญแจ"

    ("Es hilft kain shloß für frauwen,
    kain trew mag sein dar lieb nit ist.
    Darumb ain slüssel, der mir gefelt.
    Den wöl ich kauffen umb dein gelt.")


    [​IMG]



    ปัจจุบันนี้ที่ ประเทศ ออสเตรีย ได้มีการขุดโรงศพ
    ของเด็กสาวผู้หนึ่งที่อาศัยอยู่ในราวศตวรรษที่18
    และนักโบราณคดีก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่าโครง
    กระดูกของเธอนั้นยังคงสวม เข็มขัดพรหมจรรย์

    [​IMG]เรื่องราวเข็มขัดพรหมจรรย์นี้แม้ว่าจะมามีการใช้
    จริงๆก็ยุคเรอเนซองฌ์ หรือ ยุคฟื้นฟูของยุโรป
    แต่จากตำนานของ ชาวอัสสิเรี่ยนโบราณกลับ
    มีการกล่าวถึง เทวี เซมิรามัส ผู้ซึ่งหวงลูกชาย
    และกลัวบรรดาสาวใช้สาวๆในเคหาสน์จะจับเขา
    นางจึงบังคับออกกฏให้บรรดาสาวใช้ทุกคนต้อง
    สวม กางเกงชันในพรหมจรรย์

    [​IMG]
    [​IMG]


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.2443298/[/MUSIC] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2013
  2. Talrae

    Talrae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +138
    ไม่ได้เข้ามานานเลย ><
    เข้ามาอ่านและให้กำลังใจค่ะ ^^

    ขอบคุณนะคะ
     
  3. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    แม็คเบธ [​IMG]เทพนิยายที่มาจากเรื่องจริง [​IMG]



    [​IMG]


    แม็คเบธ เป็นตำนานอาถรรพ์ ซึ่งเกิขึ้นจริงในยุคกลาง
    ของยุโรปราวปี 11cแต่ได้เป็นแรงบันดาลใจให้เชคสเปียร์
    นำมาเขียนเป็นบทประพันธุ์ในยุคหลัง เป็นเรื่อราว
    ของอัศวินหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งมีนามว่า แม็คเบธ
    เขาและสหายนามว่า เบนโคว ได้ขี่ม้าผ่าน
    ป่าแห่งหนึ่งทางเหนือของสกอตแลนด์
    หลังจากการออกรบ และก็บังเอิญไปเจอ
    กับหญิงชราผมขาวยาวลากพื้นสามพี่น้อง
    กำลังต้มอะไรกินอยู่ในป่าซึ่ง แม็คเบธ
    และเบนโควมารู้ทีหลังว่า หญิงแก่สามพี่
    น้องนั้นเป็นแม่มด [​IMG]ซึ่งสังเกตได้จากการที่
    พวกนางสามคนเป็นสตรีแต่มีหนวดยาวสี
    ขาวแบบชายแก่ ซึงตามโบราณกล่าวว่า
    ผู้หญิงที่มีหนวดคือแม่มด แม่มดทั้งสาม[​IMG]
    ได้พยากรณ์ต่อแม็คเบ็ทและเบนโคว์ว่า
    แม็คเบธในอนาคตเขาจะได้
    เป็นอัศวินแห่งคาวดอร์และกษัตริย์แห่ง
    สกอตแลนด์ในท้ายที่สุด
    ในขณะที่ เบนโควจะไม่ได้เป็นแต่จะ
    ได้หลานชายที่เป็นกษัตริย์

    [​IMG]



    ทันทีที่ได้ฟังคำพยากรณ์ กษัตริย์ดันแคนก็บังเอิญ
    ส่งสารประกาศแต่งตั้งให้แม็คเบธได้รับตำแหน่ง
    อัศวินแห่งคาวดอร์ ทำให้คำทำนายนั้นเป็นจริง
    ด้วยความทะเยอทะยานที่ซ่อนอยู่ทำให้
    แม็คเบ็ธคิดถึงคำพยากรณ์ข้อต่อไปที่ยังไม่
    เกิดขึ้น เขาจึงเล่าเรื่องนี้ให้เลดี้แม็คเบธ ภรรยาฟัง
    พร้อมๆกับข่าวที่ว่า ดันแคน กษัตริย์แห่ง
    สกอตแลนด์จะเดินทางไปพำนัก
    ที่ปราสาทของแม็คเบ็ธในคืนนี้


    [​IMG]

    เลดี้แม็คเบธรับฟังข่าวดีพร้อมด้วยความ
    คิดทะเยอทะยานอันชั่วร้ายที่พลุ่งพล่าน
    อยู่ในความคิด และตัดสินใจคิดการณ์ใหญ่ที่จะ
    ทำให้คำพยากรณ์ข้อต่อไปเป็นจริงโดยเร็วที่สุด
    ด้วยการฆาตกรรมคิงดันแคน ในคืนนี้

    [​IMG]


    แม็คเบ็ธแม้จะทะเยอทะยาน แต่จิตใจไม่เหี้ยมโหด
    พอ และตัดสินใจจะเลิกล้มแผนการ
    แต่เลดี้แม็คเบธผู้มีความชั่วร้ายฝังลึกอยู่ในจิตใจ
    ใช้ความเป็นภรรยา พูดจาหว่านล้อมจนกระทั่งแม็คเบธ
    เปลี่ยนใจ คิงดันแคนถูกลอบสังหาร และ ฆาตกร
    ถูกป้ายความผิดแก่ทหารยาม มัลคอล์มและ
    โดนัลเบน ลูกชายทั้งสองของคิงดันแคน
    กลัวชะตากรรมของตนจะเป็นเช่นเดียวกับ
    พ่อตัดสินใจหนีเอาตัวรอด และแม็คเบธก็
    ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนคิงดันแคนตามคำทำนาย

    [​IMG]


    คำพยากรณ์เป็นจริงสมประสงค์ แต่สิ่งที่คงอยู่
    คือ ความรู้สึกผิดบาปที่ตามหลอกหลอนแม็คเบธ
    เบนโควผู้ซึ่งมีส่วนร่วมรู้เห็นในคำพยากรณ์อัน
    วิเศษสุด สงสัยในตัวแม็คเบ็ธ และแน่นอนว่า
    ต่างฝ่ายต่างก็รู้กันดี แม็คเบ็ธเองก็หวาดระแวง
    ว่าคำพยากรณ์ต่อไปที่ว่า ลูกหลานของเบนโคว
    จะได้เป็นกษัตริย์สืบต่อไป และที่สุดเพื่อเป็น
    การปิดปากแบงโกวด้วย แม็คเบ็ธก็ตัดสินใน
    สังหารเบนโควและภรรยา แต่ฟรีออนซ์
    บุตรชายของเบนโกวหนีไปได้

    [​IMG]


    มัลคอล์มและโดนัลเบนที่หนีไปอังกฤษได้สมัคร
    พรรคพวกร่วมกับแมคดัฟฟ์ นักรบผู้กล้าอีกคน
    หนึ่งของอดีตคิงดันแคนวางแผนจะกลับมายึด
    อำนาจจากแม็คเบ็ธซึ่งได้กลายเป็นกษัตริย์ทรราชย์
    ในขณะที่แม็คเบธเอง แม้จะสมประสงค์
    ทุกอย่างและขจัดแบงโกวไปได้ แต่ตราบาป
    ที่ไม่มีใครรู้ก็ไม่สามารถหนีความจริงในใจของ
    เบธและพระราชินีได้ เบธมองเห็นวิญญาณ
    ของเบนโกวและภูติผีคนอื่นๆตามมาหลอกหลอน
    ในขณะที่เลดี้แม็คเบธซึ่งดำรงตำแหน่ง
    พระราชินีเริ่มมีอาการสับสนทางจิต
    เสียสติ และต้องล้างมืออยู่ตลอดเวลา
    เพราะคิดว่ามือตัวเองเปื้อนเลือด


    [​IMG]

    ซ้ำร้ายไปกว่านั้น แม่มด 3 พี่น้องปรากฏ
    ตัวอีกครั้งพร้อมกับคำทำนายถึงชีวิตอันหายนะ
    ของแม็คเบธโดยบอกว่า ให้ระวังแม็คดัฟฟ์
    แต่ก็ได้ให้คำสัญญาว่า[​IMG] มนุษย์ทุกคนที่ออก
    มาจากครรภ์มารดาจะไม่สามารถทำอันตราย
    ใดๆกับแม็คเบธได้ ซึ่งทำให้แม็คเบ็ธค่อยวาง
    ใจขึ้น [​IMG]แต่แม็คเบ็ธก็ยังคงต้องต่อสู้กับบรรดา
    ภูติผีปีศาจที่ปรากฏตัวให้เขาเห็นแต่เพียงผู้เดียว


    [​IMG]

    หลังจากนั้น แม็คเบธได้รับข่าวการรบชนะของ
    แม็คดัฟฟ์ที่อังกฤษ เพื่อเป็นการแก้แค้นแม็คเบธ
    ส่งคนไปปลิดชีพภรรยาและลูกๆของเขา
    สถานการณ์การรบยิ่งตึงเครียดขึ้น เมื่อมัลคอล์ม
    โดนัลเบน และแมคดัฟฟ์ตัดสินใจยกกองทัพมา
    ตีสกอตแลนด์เพื่อชิงราชบัลลังก์คืน
    พร้อมๆกันนั้นเอง[​IMG]แม็คเบ็ธก็ได้รับข่าวร้ายว่า
    พระราชินีได้สิ้นพระชนม์อันเนื่องมาจาก
    หลังจากแม็คเบธได้เป็นกษัตริย์ก็ไม่เคย
    สนใจนางมากมายอีกเลยนอกจากภาระหน้าที่
    กอปกับการมีประสาทหลอนเจอผี
    นางจึงมีอาการละเมอและเดินออก
    นอกห้องบรรทมตอนกลางคืนจนตก
    จากหอคอยของปราสาทจนถึงแก่ความตาย


    [​IMG]

    ชดใช้กรรมที่ได้ก่อ แม็คเบธเผชิญหน้ากับ
    แมคดัฟฟ์ในสนามรบอย่างประหวั่นพรั่นพรึง
    ด้วยคิดถึงคำทำนายที่แม่มด 3 พี่น้องบอก
    ให้หลีกเลี่ยงการพบกับแมคดัฟฟ์
    แต่แม็คเบทก็ยังลำพองใจว่า
    มนุษย์ที่เกิดจากครรภ์มารดาโดยธรรมชาติ
    (คลอดออกมาจากช่องคลอดโดยปกติทารกทั่วไป)
    จะทำอันตรายตนไม่ได้ แต่แล้วแมคแม็คเบธ
    ก็ได้รู้สิ่งที่คาดไม่ถึง เมื่อแมคดัฟฟ์บอกว่า
    เขา..ไม่ได้เกิดมาจากครรภ์มารดาโดยวิธิ
    ปกติธรรมชาติทั่วไป แต่ทว่าถูกผ่าออกมา
    จากช่องท้อง ก่อนจะถึงเวลาถือกำเนิด
    การต่อสู้เป็นไปอย่างสิ้นหวังและที่สุดแม็คเบธ
    ก็ถูกเด็ดชีพ ชดใช้ความทะเยอทะยานอันนำ
    มาสู่ความหายนะของชีวิตผู้คนจำนวนมาก

    [​IMG]



    ปัจุบันนี้ นักประวัตศาสตร์ทั้งหลายต่าง
    ให้เหตุผลว่าเชคสเปียร์ได้ เรื่องราวนี้มา
    จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับกษัริย์ ชาวไวกิ้ง
    สมัยที่เข้ามาตั้งรกรากทางเหนือประเทศ
    อังกฤษ คือ สกอตแลนด์
    และสามารถหาอ่านได้ในหนังสือของ
    ฟิโอน่า วัตสัน ชื่อ Macbeth a True story



    [​IMG]


    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2013
  4. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    เรื่องราวน่าสนใจมากครับ ไม่เคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้กับหญิงไทยเราในอดีตเลยและเพลงน่าฟังมากครับภาพก็สวยงาม
     
  5. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ขอบคุณสาวกผียุโรปทุกท่านที่ติดตามคะ
    บุญกุศลนี้ขอให้ผียุโรปในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ และที่ติดค้างเต้งอยู่จงได้ไปสู่สุขคติคะ
    วันนี้ว่างยาวนานคะ เดี๋ยวนำเรื่องใหม่มาลงให้อ่านกันอีกนะคะ



    :z9
     
  6. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    เพิ่งเข้ามาอ่านอีกรอบ มีตำนานเพิ่มอีกเพียบ
    ละก้อเพิ่งรู้ว่าเข็มขัดพรหมจรรย์มันมีจริงๆ รึนี่ ???
    ทีแรก นึกว่าเป็นแค่เรื่องโจ๊กที่พวกเพื่อนผู้ชายทะลึ่งๆ เล่าให้ฟังสมัยก่อน
    ที่มีอัศวินรายนึงมอบรางวัลให้ทหารรับใช้ผู้ซื่อสัตย์
    ในช่วงที่ต้องออกไปทำสงคราม ครั้งละนานๆ ต้องฝากเลดี้ไว้กับทหารรับใช้
    เมื่อกลับมา เจ้านายก้อตรวจพบว่าทหารเกือบทุกคน คิดไม่ซื่อกับตน จึงสั่งลงโทษ
    ปรากฎว่าพอมาถึงทหารคนสุดท้าย เจ้านายตรวจพบว่า
    เจ้าทหารคนนี้ยังมีอวัยวะสำคัญอยู่ครบถ้วน ไม่เหมือนคนอื่นๆ
    จึงมอบรางวัลให้ ในฐานะที่ไว้ใจได้ เป็นถุงทองรึถุงเงินเนี่ยแหละ
    เจ้าทหารรายนั้น พอยื่นมือมารับรางวัลเสร็จ
    ก้อ ลืมตัว เผลอกล่าวขอบคุณเจ้านายอย่างดีใจว่า
    แอ๊งค์อิ้ว ๆ ๆ อาย อวอด ( Thank you ๆ ๆ my lord)
     
  7. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    ขอคุณค่ะนั่งอ่านรวดเดียวจนจบเลย
    ขนาดเนตสะดุดไปหลายรอบ ถึงตอนนี้นั่งตั้งแต่ประมาณ10โมงเช้าค่ะ
    ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะรับรุ้ถึงความตั้งใจมากๆ ดิฉันเคยทุ่มเทแบบนี้ทราบเลยค่ะว่าทุ่มเทขนาดไหน อยากเป็นกำลังใจให้

    อยากบอกว่าอ่านชื่อกระทู้หลายวันแล้วคิดว่าค่อยอ่านทีหลังเพราะคิดว่าเหมือนที่อื่นๆที่เคยอ่านมา พอเข้ามาอ่านเพียงไม่กี่หน้าก็เห็นหลายๆอย่าง ทั้งภาพ เพลง การเน้นอักษร ท่านเอาใจใส่มากทีเดียวอยากบอกคุณเจ้าของกระทู้ว่าหายเหนื่อยได้เลยนะคะ
    มีคนนั่งรอบทความตรงนี้อีกคน

    อิอิ
     
  8. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    คุณเจ้าของกระทู้พักผ่อนด้วยนะคะ ดูจากเวลาโพสต์กับเนื้อหา
    น่าจะนอนน้อยอยู่นา ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
     
  9. paura

    paura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +251
    รูปสวยดี
     
  10. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ถ้าช่วงไหนมีเวลาก็โพสต์ได้คะ ประกอบกับ ดิฉันไม่ได้อยู่เมือไทย เวลาโพสต์เวลาอาจไม่ตรงกัน กับของไทย แต่ไม่มีปัญหาคะ......แต่ยอมรับเรื่องความยากของการโพสต์กระทู้นี้คะ อย่างแรกเลย ดิฉันไม่มีคีบอร์ดไทย ต้องพิมพ์โดยใช้เม้าส์กดใน
    กกูเกกิ้ลทีละตัว สอง เนื้อหาเรื่อง ก็เป็นสิ่งที่เรารู้มาแล้วแต่ต้องการความละเอียดคือ ต้องค้นข้อมูลอีกที;) ส่วนรูปดิฉันมีเวปประจำที่ค้นได้ ขออุ๊บไวนิดหน่อยคะ แต่ปัญหาคือ ทำยังไงให้ภาพไม่หายเวลาโพต์ การเก็บฟายด์เยอะๆ ต้องการพื้นที่นคอมเรา ก็ต้องมีการจัดการให้ดี ไหนจะต้องตัดย่อรูปให้เล็กด้วย ส่วนเพลงนี้ดิฉันชอบแนวนี้อยู่แล้ว ไทยอย่าสุนทราภรณ์ก็ชอบนะคะ แต่ปัญาการโพสต์เพลงคือ ต้องให้ความยาวไม่เกินที่เวปกำหนด ต้องมีโปรแกรมตัดเพลงให้พอดี กระทู้นี้งานหนักพอควร แต่ถ้าเราใจรักจะแบ่งปัน ก็ไม่มีอะไรเกินความสามารถ อิอิ
    :love:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2013
  11. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    ชอบใจคำตอบจริงๆค่ะ รออ่านต่อนะคะ
    ขอบคุณนะคะหายเหงาไปเยอะเลย
     
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    มารี ลาวู แม่มดวูดู แห่ง นิวออลีน

    มารี ลาวู แม่มดวูดู แห่ง นิวออร์ลีน


    [​IMG]


    มารี ลาวู เป็นตำนานเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในยุควิคตอเรีย
    ที่รัฐ นิวออร์ลีน ประเทศ สหรัฐอเมลิกา
    แต่เรื่องราวความเข้มขลังของ นางยังคงเรื่องชื่ออยู่
    จนแม้ทุกวันนี้ จะบ้านของเธอโดนจัดให้เป็นหนึ่งใน
    สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ผีสิงค์ ที่ทุกๆทัวร์ผี และบรรดา
    นักล่าผี ชื่อดังจะต้องเดินทางมาบนบานที่หลุมฝังศพของนาง


    [​IMG]

    มารี ลาวูนั้นเกิดในราวศตวรรษที่ 18 เธอเป็นลูกสาว
    ที่ถือกำเนิดจากบิดาซึ่งเป็นชาวไร่มีฐานะ ชาวผิวขาว
    เชื้อสายฝรั่งเศษ กับมารดา เมียเก็บซึ่งเป็นนางทาสชาวผิวดำ
    จากอัฟริกา ที่ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นบุคคลอิสระ
    หลังจากการให้กำเนิด มารี ลาวู ลูกสาวลูกครึ่งคน
    ผิวขาวที่เกิดจากนายจ้างของนาง



    [​IMG]

    มารี ลาวู นั้นเติบโตขึ้นมาด้วยชีวิตสังคมแบบคนขาว
    เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวมีหมวกปีกกว้างประดับ
    ลูกไม้ ดอกไม้และริ้บบิ้น กางร่ม แบบแบบสาวฝรั่ง
    สมัยวิคตอเรีย เป็นบุคคลอิสระ และไปโบสถ์ทุกอาทิตย์
    จนรู้จักบาทหลวงแคธอลิก นามว่า ปิแอร์ อังตวน
    ที่เป็นผู้นำของโบสถ์เซนต์ หลุยส์ ในการต่อต้านการมีทาส
    และกักขังทรมานนักโทษ.... ความฉลาดและใฝ่รู้เต็ม
    ไปด้วยหัวคิดทันสมัยผิดสตรีในยุคนั้นทำให้
    มารี ลาวูได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของบาทหลวงผู้นี้
    เป็นอย่างดี และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกมือ ช่วยงาน
    ในโบสถ์แต่กระนั้นเธอก็ชื่นชม
    วัฒนธรรมการเล่นคุณไสย์แบบวูดูของพวกทาส
    ชาวอัฟริกันเช่นกัน


    [​IMG]


    แม้ทุกเช้าเธอจะไปโบสถ์แต่ตกเย็น
    เธอจะเดินทางไปดูพวกคนผิวดำ ทั้งที่เป็นอิสระและ
    ไม่อิสระตลอดจน คนผิวสองสีอย่าง มารี ลาวู จะมา
    เล่น คุณไสย์แสดงกิจกรรมพื้นเมืองกันที่นี้ ที่จัตุรัส คองโก้


    [​IMG]


    ที่นั่นเองที่ มารี ได้รู้จักกับ หมอผีวูดูชราคนหนึ่งนามว่า
    หมอจอห์น เขาได้สอนมารี ให้รู้จักวิธีการทำคุณไสย์
    และสิ่งแรกที่เขามอบให้มารี เป็นของขวัญคือ ถุง กรีกรี
    ซึ่งเป็นถุงเสน่ห์ใบเล็กๆที่ทำจากหนังสัตว์มีส่วนผสม
    อาถรรภ์เช่นถั่วหลากสี ดอกไม้แห้ง และสิ่งต่างๆมาก
    มาย ยัดใส่ถุงใบเล็กนั้น ก่อนจะขอพรจากวิญญาณ
    วูดู ที่เชื่อกันว่าเป็นผีหรือ เทพของคนพื้นเมืองอัฟริกา
    ก่อนจะร้อยด้วยเชือกให้มารีนำคล้องคอต่าง
    สิ่งศักดิ์สิทย์เช่นไม้กางเขน



    [​IMG]



    หลังจากนั้นมารีได้ลองนำ วิธีการทำกรีกรีไปลองทำดู
    ที่บ้าน เธอได้ใช้ความเป็นเพื่อนสนิทกับบาทหลวง
    ในการ ทำคุณไสย์ผสมระหว่าง เวทมนตร์ขาว
    คือการขอพรจากพระคริตส์ และเวทย์มนตร์ดำ
    คือการใช้เวทมนตร์แบบวูดู ในการสร้างของอาถรรภ์
    และเครื่องรางต่างๆจน ชื่อของเธอดังกระฉ่อนเมื่อ
    มีลูกค้าชาวผิวขาวหลายคนมาขอให้เธอช่วยและ
    ผลปรากฏออกาในทางบวก หนึ่งในงานที่เธอรับ
    และทำสำเร็จจนเรื่องชื่อนั้น ก็คือ เรื่องที่มีอยู่ครั้งหนึ่ง
    คหบดีชาวผิวขาวคนหนึ่งมาร้องขอมารีให้ช่วย
    ลูกชายของเราที่โดนจำคุกและกำลังจะขึ้นศาล
    ข้อหาฆ่าคนตาย พ่อผู้รักลูกชายรายนั้นได้ตก
    รางวัล มารี ลาวู ด้วยกุญแจคฤหาสน์หลังนึงที่
    เขามี เขาจะยกคฤหาสน์นั้นให้แก่นางหาก
    มารี สามารถช่วยให้ผู้พิพากษาตัดสินให้
    ลูกชายของเขาได้รับการอภัยโทษ



    [​IMG]

    มารีรับปากทำงานนั้น ในวันต่อมาเธอได้เดินทาง
    ไปที่ที่จะมีการตัดสินคดีในเวลาที่ยัง
    ไม่มีคนมา พร้อมกับนำพริก สุรินัม สาม
    ลูก ที่ขึ้นชื่อว่าเผ็ดมากที่สุดในบรรดาพริก
    ทุกชนิด ไปด้วย
    (ผู้เขียนเคยลองกินดูแล้วรู้ว่าเศษนังพริก
    สุรินามเพียงน้อยนิดความเผ็ดนั้นมากกว่า
    พริกขี้หนูไทยเป็นอย่างยิ่ง)




    [​IMG]

    ตามความเชื่อแบบวูดูนั้นเชื่อว่า เทพ วูดูจะมีความ
    เมตตาต่อการร้องขอจากผู้ที่ได้รับการทรมาน มารี
    ใช้เวลา สามชั่วโมง อมพริกสุรินาม แต่ละลูก
    ลูกละหนึ่งชั่วโมง และภวานาให้เทพวูดูยอมช่วย
    ให้บุตรชายของลูกค้าได้รับการปล่อยตัว เธออม
    พริกจนน้ำหูน้ำตาไหล เมื่อครบสามลูกก็แอบนำ
    พริกที่อมนั้นไปวางไว้ใต้แท่นที่ตัดสินของผู้พิพากษา
    ครั้นพอวันตัดสินคดีมาถึง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกล
    ใดไม่อาจทราบได้ผู้พิพากษา ก็เกิดตัดสินให้ลูก
    ชายของลูกค้าที่จ้างมารี ลาวูให้ช่วยไม่ผิดและ
    ได้รับการปล่อยตัวออกมา หลังจากงานนั้นเอง
    ความดังของเวทมนตร์ที่มารี ลาวูทำก็ดังกระฉ่อนไปทั่ว



    [​IMG]


    หลังจากได้แต่งงานครั้งแรกกับชายผิวดำที่เป็นอิสระ
    ชาวเฮติ นามสกุล ปารีส ไม่นาน เขาก็เสียชีวิต มารี
    ลาวูได้แต่งงานใหม่กับชายอีกคนในขณะที่หันมาทำ
    อาชีพช่างทำผมใ้สตรีชั้นสูงชาวผิวขาว เธอได้ให้กำเนิด
    ลูกกับคนรักคนที่สองถึง 15 คน และมีลูกสาวหลาย
    คนที่มีชื่อนำหน้าตามเธอว่ามารี หนึ่งในนั้นคือ ลูกสาว
    ที่เธอสืบทอดวิชาวูดูให้ นามว่า มารี และมีชื่อเล่นว่า
    ปารีส ตามนามสกุล ของสามีคนแรกของมารดา เธอ
    คนนี้นี้เองที่ได้ขึ้นชื่อว่า มารี ลาวูที่ สอง
    โดยมีสัตว์เลี้ยงเป็นงูเหลือมยักษ์ชื่อว่า ซอมบี้
    อันเป็นชื่อเทพในภาษาอัฟริกัน



    [​IMG]


    เรื่องราวเวทย์มนตร์อันเข้มขลังของมารี ลาวูดูจะไม่หยุด
    ลง ง่ายๆ ในปีต่อๆมาชายหนุ่มผิวขาวสองคนนามว่า
    จีน อดัมส์ และ แอนโทนี่ โลวส์ โดนข้อหาฆาตรกรรม
    เด็กสาวทาสชาวผิวดำ โดยที่พวกเขาไม่ได้ทำจริง
    โดยจะมีการตัดสินให้แขวนคอทั้งสองคนในฤดูร้อน
    วันที่ท้องฟ้าและแดดออกแจ่มใสของวัน และแล้ว
    เรื่องแปลกก็เกิดขึ้นเมื่อ ในระหว่างที่ทั้งสองโดน
    แขวนคออยู่นั้นเอง ที่มีชาวบ้านมายืนดูทีตะแลง
    แกง พบมารี ลาวู อยู่ในบริเวณนั้นด้วย จู่ๆท้อง
    ฟ้าที่แจ่มใสก็กลับมืดมิดและมีฝนตกลงมาห่าใหญ่
    ก่อนที่อยู่ๆฟ้าจะผ่าตะแกงแขวนคอทำให้
    ชายหนุ่มทั้งสองหล่นลงมาจากเชือกที่รัดคอ
    และเชือกขาดหายวับไปต่อหน้าต่อตาชาวบ้าน
    ก่อนที่ชายหนุ่มทั้งสองจะปลอดภัยและวิ่งหนีไป
    ได้นั้นเอง เรื่องราวการช่วยเหลือชายหนุ่มทั้ง
    สองในวันนั้น ทุกคนในเมืองเชื่อตามๆกันว่าเป็น
    พลังวิเศษของ มารี ลาวู เพราะได้มีคนเห็นเธอไป
    ที่คุกและอวยพรทังสองให้รอดพ้นจากการประหาร



    [​IMG]


    เดี๋ยวเล่าต่อยังไม่จบ :boo::boo:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2013
  13. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    [​IMG]


    เรื่องราวความอาถรรภ์ของมารี ลาวูดู จะยังมีต่อไป
    เรื่อยๆในนิวออร์ลีน และหลุยส์เซียน่า จนกล่าวกัน
    ว่าแม้แต่เรื่องทางการเมืองก็ถูกควบคุมโดยความต้อง
    การของมารี ลาวู เธอมีอายุอยู่ต่อไปจนย่างเข้าวัยชรา
    และเสียชีวิตลงด้วยอายุ 87 ปี ในเวลาต่อมานั้น
    เองที่มีนักเขียนหนังสือชาวอเมลิกันผิวขาวคนหนึ่ง
    ที่ต่อต้านลัทธิวูดู และเวทมนตร์คุณไสย
    ได้เขียนหนังสือตีพิมพ์ชีวประวัตของมารี
    ลาวูไปในทางชั่วร้าย เช่นการหาว่า มารี ลาวู
    ทำมนตร์ดำใส่คนที่เธอเกลียด หรือ ทำแท้งทารก
    เอามา ห้อยย้างไว้เหนือปล่องไฟ หรือมนตร์
    ดำของเธอนั้นเกิดมาจากการใช้ของสกปรก
    และทำพิธีต่ำช้า เช่น เซ็กหมู่ หรือ ฆ่าเด็กทารก



    [​IMG]

    ซึ่งสิ่งที่ตามมาหลังจากการตีพิมพ์กล่าวร้ายมารี
    จนเกินจริงนั้นก็คือ ไม่กี่ปีให้หลังนักเขียนผู้นี้ก็เกิด
    เสียชีวิตลงอย่างลึกลับ หาสาเหตุไม่เจอ ในขณะเดิน
    ไปดื่มน้ำในครัว เขาก็ล้มลงตายคาพื้น ทั้งที่ไม่ได้
    เจ็บป่วยหรือโดนฆ่า ผู้คนเชื่อว่าวิญญาณของมารี
    ลงโทษคนเลวและให้คุณแก่คนดีและผู้ที่นับถือเธอ
    ความดังของเธอทำให้ปัจจุบันนี้ผู้คนต้องแห่มาบนบาน
    ขอให้เธอชวยที่หลุมฝังศพและบ้านของเธอนั่นเอง



    [​IMG]



    เรียกกันว่า "บลัดดี้มารีทัวร์"
    ทั้งนี้ ผู้ขอจะต้องปฏิบัติดังนี้ เริ่มจากเคาะ 3 ครั้งบน
    โลงศพของมารี แล้วหมุนกายทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ
    เซ่นเหล้ารัม ข้ามหลุมศพ 3 หน แล้วเปล่งชื่อของเธอ
    ออกมาดังๆ จากนั้นก็บอกกล่าวถึงจุดประสงค์ของคุณ



    :boo::boo::boo:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2013
  14. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    เข้ามาติดตามอย่างไว ขอบคุณค่ะ
     
  15. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ติดตามอ่าน...ครับ

    ผมชอบเรื่องที่คุณเจ้าของกระทู้นำมาลงมากๆ ทุกเรื่องเลย
     
  16. MR.Bean

    MR.Bean เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +298
    ตามอ่านอยู่เรื่อยๆ เป็นเรื่องราวที่แปลกใหม่และสนุกดีครับ
     
  17. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ของไทยถ้าเราไปค้นดีๆก็มีนะคะ เผลอๆจะโหดและเรียกร้องสิทธิได้น้อยกว่าระบบกฏหมายฝรั่งสมัยก่อนยังนับว่ารัดกุกว่าของไทย อย่างประเทศสยามนี้ก็มีการลงโทษโหดๆอย่างจับใส่ตระกร้อให้ช้างเต๊ะ, มีการจับคนใส่ตระกร้าแขวนประจานในที่สูงสำหรับพวกเล่นเพื่อน หรือพวกลักร่วมเพศ, ตลอดจนระบบโบยตีทาส, ตอกขมับ, ตอกเล็บ เป็นต้น ของฝรั่งในสมัยเดียวกันกับไทย ยังไม่มีการโบยตี ทรมานทาส ถ้ามีก็เกือบๆพันปีที่แล้ว....แต่ที่ในไทยเรื่องทำนองนี้ไม่สามารถเอามาพูดในที่สาธารณะหรือทำเป็นลายลักอักษรได้ ด้วยเพราะเหตุอันใดนั้น ก็รู้กันอยู่คะว่า เราห้ามแตะต้องระบบวรรณะหรือการเอามาพูดก็ถือว่าผิด ลองไปหาอ่านเรื่อง หม่อม ทับทิม หรือ บันทึกของ แหม่ม แอนนา เรียวโนเว้น ดูก็จะรู้ว่าเมืองไทยมีเรื่องแบบนี้เหมือนกัน และสมัยก็ทันสมัยกว่าฝรั่งด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2013
  18. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ตามคำเรียกร้องเด๋ยวจะเอามาลเพิ่มนะคะ เจอเรื่องใหม่เพิ่งไปอ่านมา แต่รอเรียบเรียงสำนวนและเตรียมหารูปแมชๆกับเนื้อเรื่องก่อน ยังมีอีกหลายเรื่องทีเดียวที่แปลกๆและดัง แต่ยังไม่ได้นำเสนอคะ:boo:
     
  19. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ขอบคุณนะคะที่มีหลายคนสนใจ;aa19
     
  20. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เคยอ่านของทั้งสามท่านเช่นกัคะ สนุกตื่นเต้นมาก

    ;aa57
     

แชร์หน้านี้

Loading...