ตำนาน หลวงพ่ออุตตมะ และพระพุทธรูปหนัก ๙ ตันจากพม่า กรุยถนนผ่านอุปสรรคได้ คริสต์ร่วมมือ พุทธคุ้มกัน!!

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย montrik, 21 พฤศจิกายน 2019.

  1. montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
    พระพุทธรูปหนัก ๙ ตัน (หลวงพ่อขาว) เดินป่าข้ามประเทศ! กองกำลังติดอาวุธคริสต์กรุยถนน พุทธคุ้มกัน!!

    เผยแพร่: 20 พ.ย. 2562 11:31 โดย: โรม บุนนาค



    หลวงพ่ออุตตมะกับพระพุทธรูปในวันเดินทาง

    เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๔ หลวงพ่ออุตตมะได้สั่งช่างที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า แกะสลักพระพุทธรูปหินอ่อนองค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๕ ศอก ซึ่งจะหนักถึง ๕ ตัน ลักษณะเหมือนพระพุทธชินราชที่จังหวัดพิษณุโลก โดยส่งรูปพระพุทธชินราชไปให้ดูเป็นตัวอย่าง ที่ต้องใช้ช่างเมืองมัณฑะเลย์ ก็เพราะที่เมืองนี้มีภูเขาหินอ่อนสีขาว คุณภาพดี โดยตกลงราคากันเป็นทอง เพราะไม่สะดวกจะเทียบอัตราระหว่างเงินไทยกับพม่า ซึ่งขณะนั้นทองมีราคาบาทละ ๔๕๐ บาท แบ่งจ่ายเป็น ๓ งวด โดยงวดแรกจ่ายเมื่อเริ่มสร้างจ่ายทองหนัก ๑๐ บาท งวดที่ ๒ จ่ายเมื่อลงมิอไปแล้ว ๑ ปี อีก ๕ บาท จนเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงจ่ายให้อีก ๑๐ บาท

    พระพุทธรูปที่สั่งทำเสร็จในเดือนเมษายน ๒๕๑๕ แต่ถูกรัฐบาลพม่าสั่งห้ามเคลื่อนย้ายและตรวจสอบหาเจ้าของ หลวงพ่ออุตตมะจึงติดต่อพระในพม่าซึ่งเป็นลูกศิษย์ให้ช่วย เพราะหลายองค์ก็เป็นพระผู้ใหญ่เป็นที่เกรงใจของรัฐบาล ลูกศิษย์ของท่านไปติดต่อทั้งกรมการศาสนาและแม่ทัพ บอกแต่ว่าจะส่งไปให้หลวงพ่ออุตตมะ แต่ไม่ได้บอกว่าจะส่งไปเมืองไทย แม่ทัพจึงบอกให้หลวงพ่ออุตตมะทำหนังสือแจ้งมาว่าวัดอยู่ที่ไหน เรื่องนี้ได้ขึ้นไปถึง อูนุ นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯอูนุเป็นผู้เคร่งในพุทธศาสนาและรู้จักหลวงพ่อดี อีกทั้งมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลไทย จึงอนุญาตให้ส่งพระพุทธรูปมาให้หลวงพ่อที่เมืองไทยได้

    เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่และหนักมาก การขนส่งทางเส้นทางปกติคงจะมีปัญหามาก หลวงพ่อจึงเห็นว่าน่าจะใช้เส้นทางป่า โดยใช้ถนนจากเมืองมัณฑะเลย์มาเมืองมะละแหม่ง แล้วตัดตรงมาด่านเจดีย์สามองค์ แต่เส้นทางนี้ยังไม่มีถนน ทั้งยังอยู่ในย่านที่มีกองกำลังติดอาวุธของขบวนการกู้ชาติมอญและกะเหรี่ยง พระพุทธรูปจึงติดอยู้ที่เมืองมะละแหม่งจนถึง พ.ศ.๒๕๑๗

    พอออกพรรษาหมดฝนแล้ว หลวงพ่อจึงปรึกษามอญกู้ชาติ ให้ช่วยกรุยทางพอรถสิบล้อหรือรถลากไม้ไปได้ เพื่อขนส่งพระพุทธรูปมาที่ด่านเจดีย์สามองค์ มอญกู้ชาติปฏิเสธว่าไม่สามารถทำได้ เพราะต้องผ่านเขตอิทธิพลของกองกำลังกู้ชาติกะเหรี่ยง

    หลวงพ่อจึงเรียก ซวยชัย รองหัวหน้ากะเหรี่ยงกู้ชาติที่เป็นรองนายพลโบเมี๊ยะมาพบ รองหัวหน้ากะเหรี่ยงก็ว่า เส้นทางนี้ต้องผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยงถึง ๙ แห่ง ซึ่งล้วนเป็นหมู่บ้านเก่า มีต้นไม้ใหญ่ตัดไม่ได้อยู่มาก ที่สำคัญยังมีหมู่บ้านกะเหรี่ยงคริสต์อีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละพวกเพราะไม่ได้นับถือพุทธ คือหมู่บ้านกอสุเล

    หลวงพ่อจึงเชิญหัวหน้าหมู่บ้านกอสุเลมาขอความช่วยเหลือเรื่องทำถนน หัวหน้ากะเหรี่ยงคริสต์บอกว่าถ้าเป็นถนนของหลวงพ่อไม่มีปัญหา เขายินดีถวายชีวิตทำให้ ขอแต่ให้รอน้ำในแม่น้ำลดก่อน

    หลังจากนั้นไม่นาน พอน้ำลดหัวหน้าหมู่บ้านกะเฟรี่ยงคริสต์ก็เรียกประชุมลูกบ้านราว ๕๐๐ คน สั่งให้ทำถนนโดยแบ่งความรับผิดชอบเป็นเขตๆไป มีหัวหน้าดูแลแต่ละเขต ถนนผ่านไปที่ใดก็ให้ตัดต้นไม้ได้ เพราะถือว่าเป็นถนนพระพุทธ ภายในเดือนเดียวก็ตัดถนนจากถ้ำพระที่มะละแหม่งมาถึงด่านเจดีย์สามองค์ ชาวบ้านก็เข้าช่วยขุดตอไม้จนราบเรียบด้วยความศรัทธาหลวงพ่ออุตตมะ ทำเอาชาวมะละแหม่งทึ่งไปตามกัน และเมื่อไปถามชาวกอสุเลว่าเขานับถือคริสต์ เหตุใดจึงไหว้หลวงพ่ออุตตมะ ชาวกอสุเลก็บอกว่าเขาไหว้ผู้มีพระคุณ

    เมื่อถนนเสร็จหลวงพ่อก็ยกพลไปอัญเชิญพระพุทธรูปมาวัดวังก์วิเวการาม มีทั้งมอญและกะเหรี่ยงร่วมขบวนไปมาก มีผู้ศรัทธานำรถสิบล้อมาช่วยขนบุกป่าด้วยศรัทธา ๒ คัน หลวงพ่อขอให้ซวยชัยช่วยดูแลขบวนอัญเชิญพระพุทธรูปไปจนถึงด่านเจดีย์สามองค์ให้ด้วย กองกำลังกระเหรี่ยงพุทธก็มาอารักขา ชาวกอสุเลก็สมทบไปด้วย เดินทางกันทั้งวันทั้งคืนไม่พัก จนมาถึงด่านเจดีย์สามองค์เช้าพอดี

    “หลวงพ่อขาว” พระประธานในวิหารวัดวังก์วิเวการาม

    พระพุทธรูปหินอ่อนที่หลวงพ่ออุตตมะสั่งทำ โดยมีจุดประสงค์จะนำมาเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดวังก์วิเวการามนั้น ก็ไม่ได้เข้าไปอยู่ในโบสถ์ตามตั้งใจไว้ เพราะขณะนั้นในโบสถ์มีพระประธานที่เจ้าคุณพระธรรมโกศาจารย์อัญเชิญมาให้แล้ว จึงไปสร้างวิหารให้ประดิษฐาน ซึ่งพระพุทธรูปหินอ่อนองค์นี้ ก็คือพระพุทธรูปที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อขาว” พระประธานในวิหารวัดวังก์วิเวการามในปัจจุบัน

    ขอบคุณ ภาพและบทความจาก
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000111286
     
  2. montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,126
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,087
  3. อรูป สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2019
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
     
  4. อรูป สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2019
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    ครั้งหนึ่งเคยฝันว่าเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งแล้วเห็นพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ลักษณะไม่ใช่พระพุทธรูปศิลปะแบบไทย ในฝันถามเขาว่าพระพุทธรูปองค์นี้ชื่อว่่าอะไร เขาตอบว่าหลวงพ่ออุตตมะ ตอนนั้นไม่รู้จักท่านหรอกครับก็คิดว่าเป็นพระพุทธรูป ต่อเมื่อได้สืบถามดูจึงรู้ว่าเป็นคนจริงๆไม่ใช่พระพุทธรูป และได้รู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน ตอนนั้นก็คิดว่าไม่มีทางได้ไปแน่วัดนี้เพราะไม่เคยไปทางนั้นเลย แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็ได้ไป วันที่ไปนั้นไปถึงวัดก็บ่าย ท่านไม่อยู่ ก็ยังนึกเสียดายที่ไม่เจอท่าน จึงเดินดูวัดไปเรื่อยๆจนไปเห็นพระพุทธรูป ใกล้เคียงกับในความฝันมาก น่าแปลก พอเดินไปถึงห้องที่คล้ายโบสถ์ ก็เห็นเตียงคนไข้ กับชุดอ็อกซิเจนจึงเข้าใจว่าสุขภาพหลวงพ่อคงไม่สมบูรณ์ จากนั้นก็เดินออกมาตั้งใจว่าจะกลับ พอเดินมาถึงด้านหน้ามีรถตู้คันหนึ่งวิ่งเข้ามาค่อนข้างเร็วมาจอดตรงที่ผมเดินไปถึงพอดี ประตูรถเปิดออก มีพระภิกษุรูปร่างสูงใหญ่ก้าวลงมา ผมรู้ได้ทันทีว่าเป็นหลวงพ่ออุตตมะ แต่ไม่น่าเชื่อว่าท่านอาพาธ เพราะผิวของท่าน ใบหน้าของท่านเปล่งปลั่งสดใสมาก ผมก้มลงกราบท่าน ด้วยความเคารพ ถ้าวันนั้นผมไม่เดินไปตรงนั้นผมก็คงไม่ได้กราบท่าน หรือถ้าตัดสินใจกลัยเร็วกว่านั้นสักสองสามนาทีก็จะไม่ได้เจอท่าน หลังจากวันนั้นมาได้ข่าวอีกทีท่านก็ละสังขารไปแล้ว ความฝันทำให้ผมได้ไปกราบท่านจริงๆ
     

แชร์หน้านี้