ขออนุญาตแม่ชีครับ..
ตำรายาที่แม่ชีให้มา มีตัวยา ดังนี้
๑.อ้อยดำ ๒.ข้าวเย็นเหนือ ๓.ข้าวเย็นใต้ ๔. รางจืด
บางทีจดตามคำบอก ทำให้ออกเสียงไม่ตรงกัน จึงขอเสริมให้ครับ
ตำรับยารักษาโรคโลหิตเป็นพิษของท่านปู่ชีวกโกมารภัท
ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 16 กรกฎาคม 2007.
หน้า 2 ของ 2
-
-
ขอสอบถามเรื่องข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ ด้วยความไม่รู้ขอความอนุเคราะห์บอกด้วยครับ ว่าเป็นแบบไหนยังไง
ขอบคุณครับ -
ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะครับ ว่าแต่ตำรับนี้จะรักษา มะเร็งเม็ดเลือดขาว วัณโรค หรือเอดส์ได้บ้างไหมเนี่ย ถ้าได้จะได้เป็นประโยชน์กับคนหมู่มากเลยนะครับ
-
แล้วน่าจะแก้โรคเลือดจาง ทาลัสซีเมีย ได้มั้ยครับ
-
สาธุ ขอให้ทุกๆท่านที่เจ็บไข้ใด้ป่วยอยู่เมื่อทานยา2ขนานนี้แล้วให้หายวันหายคืน ขอบพระคุณท่านที่เผยแพร่ด้วยครับ สาธุ
-
ยายกับแฟนเคยไปแถวๆ เขาแห่งหนึ่งของทองผาภูมิขึ้นไปทางบ้านไร่ มันชอบขึ้นกับดินลูกรัง ดินปนหินปูน ขุดยากมาก หายากด้วย
มีคนเขาบอกรับซื้อหมด ให้เราไปหามา พอหามาไม่มาซื้อ เลยเอากองๆ ไว้ท้ายไร่ลุงเบี้ยว ทางไปถ้ำทะลุ ใครอยากได้ ถ้ายังไม่เน่าเสียก่อน บอกมานะ -
ให้ดวงตาเห็นธรรมก่อนวันลาโลก นี่เตือนทุกคน เพราะความตายไม่ได้เกิดกับคนที่เป็ฯโรคร้ายเท่านั้น -
วันนี้ไปที่ร้านขายดอกไม้ เห็ฯต้นไม้กระถางหนึ่ง แม่ค้าบอกเขาเรียกรางจืด แต่ต้นมันไม่เหมือนรางจืดที่ในป่าที่พรานเขาเอามาแก่พิษน่ะค่ะ รางจืดที่บ้านป่าจะเป็นเถา มีดอกเป็นพวงย้อยลงมายาวๆ สีม่วง
แต่ที่เห็นในร้านดอกไม้ คล้ายต้นฝรั่งแต่ใบอ่อนกว่า ลำต้นเปลือกไม่แข็ง ไม่ใช่ไม้เลื้อย ไม่ทราบว่า รางจืดมีกี่ชนิดคะที่ใช้ทำยา -
โดนส่วนตัวบูชาพ่อปู่อยู่แล้ว เลื่อมใสศรัทธาอยู่มาก
ใครป่วยไข้อะไร ไปกราบท่านแล้วขอให้ท่านช่วย อาการมักทุเลา -
ยาสำคัญ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทาน
ครั้งหนึ่งไข้ห่าลงเมืองตักศิลา เมืองไพศาลี ผู้คนล้มตายกันมาก พระพุทธองค์ประทานตำหรับยาบอกให้กับพระอานนท์ ให้บอกแก่ประชาชนทั้งหลาย
ท่านให้หาเอา
1. ลูกจันทน์ 1 สลึง
2. ดอกจันทน์ 1 สลึง
3. กระวาน 1 สลึงเฟื้อง
4. กานพลู 1 สลึง
5. ดีปลี 1 สลึงเฟื้อง
6.เกลือสินเธาว์ 3 สลึง
7.ลูกพิลังกาสา 3 สลึงเฟื้อง
8.ว่านน้ำ 1 บาท
9.โกฐสอ 1 บาทเฟื้อง
10.โกฐเขมา 1 บาทเฟื้อง
11.เทียนดำ 1 บาท 1 สลึง
12.เทียนแดง 2 บาท 3 สลึง
13.เทียนขาว 1 บาท 2 สลึงเฟื้อง
14.เทียนตาตั๊กแตน 1 บาท 3 สลึง
15.เทียนข้าวเปลือก 1 บาท 3 สลึงเฟื้อง
16.ขิงแห้ง 2 บาท
17.เจตมูลเพลิง 2 บาท 1 สลึง
18.ลูกสมอไทย 2 บาท 1 สลึง
19.สมอเทศ 2 บาท 1 สลึงเฟื้อง
20.บุกรอ 2 บาท 2 สลึง
21.หัสคุณ 2 บาท 2 สลึงเฟื้อง
22.กัญชา 2 บาท 3 สลึง
23.พริกร่อน 6 ตำลึง 2 บาท 2 สลึงเฟื้อง (พริกไทยร่อน)
24.มหาหิงค์ 6 บาท
25.ยาดำ 5 บาท
ยาทั้งหมดบดเป็นผง ละลายน้ำอ้อยแดงหรือน้ำผึ้งก็ได้ ทำเป็นเม็ด ขนาดเม็ดละ 1 สลึง
ยานี้แก้สารพัดโรคทั้งปวง 500 จำพวก แก้ท้องมาน 5 จำพวก แก้ไส้เลื่อน 4 จำพวก แก้หืดไอ 9 จำพวก แก้ลมบาทจิต 5 จำพวก แก้เสมหะ แก้ริดสีดวง 9 จำพวก แก้โดนคุณกระทำ 5 จำพวก แก้ตามืดตาฟาง แก้ลมออกหู หูหนวก หูตึง แก้ลมให้สติลืมหลง แก้เจ็บสะโพก แก้จุกเสียด แก้เมื่อยขบ แก้สลักในอก(เสียดแทง) แก้เรื้อนเกลื้อนกลาก เป็นฝี(มะเร็ง)ในคอ ในเพดาน ให้ไอ ให้จาม ให้ชัก ให้สะทก สะท้านทั่วสรรพางค์กาย แก้ลมบาดทะยัก แก้ลมหนาว แก้ลมเรอให้อาเจียน ให้เกิดลมอีลุ้ม อีแอ่น แก้ลมกุมภัณฑ์ แก้กษัยดาล 5 จำพวก แก้กล่อน 5 จำพวก แก้เลือดเป็นพิษในหญิง แก้ริดสีดวงม่องคล่อ แก้หืดไอหายสิ้น
ยานี้ข้าพเจ้า(ส. เปลี่ยนศรี พระครูวิทิตวรเวช เจ้าอาวาสวัดท่าราบ อ.บางแพ จ.ราชบุรี โทร 032-381157) นำไปทำยาบดให้เป็นผงผสมน้ำผึ้ง ทำเป็นเม็ดเท่าฝักมะแว้งเครือ ให้ผู้ป่วยและไม่ป่วยกินครั้งละ 2 เม็ดกับน้ำ เช้า-เย็น และก่อนนอน ได้ผลตามสรรพคุณที่กล่าวไว้ทุกประการได้ผลดีที่สุดเท่าที่รักษามา
-----------------------------------
ที่มา จากหนังสือตำรายาแพทย์แผนไทย หน้าที่ 82 โดย ส. เปลี่ยนศรี พระครูวิทิตวรเวช เจ้าอาวาสวัดท่าราบ อ.บางแพ จ.ราชบุรี
ซึ่งรวบรวมตำรายาสมุนไพรของวัดท่าราบ ตั้งแต่ เล่มที่1-13 ในโอกาสสร้างพระอุโบสถ สืบทอด พระพุทธศาสนา ตั้งแต่ปี2543
หากมีข้อสงสัย โปรดติดต่อกับพระอาจารย์ได้ครับ
-----------------------------------------------------
อนึ่งตำรายาและว่านมงคล ตำรับสำนักเขาอ้อ ซึ่งรวบรวมโดย เวทย์ วรวิทย์
ได้กล่าวถึง ยาของพระอานนท์ หน้า 49-51 ซึ่งมีสมุนไพรที่ใช้คล้ายกัน แต่สัดส่วนที่ใช้ต่างกันบ้าง แต่มีจำนวนสมุนไพรน้อยกว่า ซึ่งอาจจะเป็นได้เพราะถอดความจากคัมภีร์ใบลาน ซึ่งเขียนด้วยภาษาโบราณ ซึ่งได้ชำรุดไปบางส่วน
โดยความคิดเห็นของข้าพเจ้า การเก็บ-รักษา และการเลือกร้านค้าสมุนไพร มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ในปัจจุบัน เพราะหากสมุนไพรนั้นๆ ปลูกอยู่ใกล้แหล่งสารพิษ ก็จะดูดซับความเป็นพิษ มาด้วย หากนำมาปรุงยาแทนที่จะเป็นยาช่วยบรรเทา ก็จะไปซ้ำเติมอาการแก่คนไข้ด้วย หรือหากคนขายสมุนไพรให้เรา จัดสมุนไพรให้เราผิดเพราะมีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้ผลการรักษาผิดพลาดไปก็ได้
คนที่ปรุงยาหากเป็นผู้ที่มีบุญ ก็จะสามารถเพิ่มกำลังฤทธิ์ของยาได้ดังนั้น ควรจะรักษาศีลขณะปรุงยา หรือเตรียมเพิ่มบุญบารมีในตนก่อน เช่น ให้ทาน รักษาศีล ภาวนา เป็นต้น คนป่วยก็เช่นกัน หากไม่มั่นใจในยาก็อย่ากิน หากมั่นใจแล้วศรัทธา ก็ต้องคิดในลักษณะว่าตนกำลังหายวันหายคืน เพราะแรงสรรพคุณของยา แรงบิดามารดา-ครูบาอาจารย์ และเจ้ากรรมนายเวรที่อโหสิกรรมให้ และแรงบุญบารมีของตน ที่ได้สั่งสมไว้
ซึ่งเป็นการสั่งทุกอณูของตน ให้รับรู้รับทราบ กันทั้งมวล หากไม่แน่ใจว่าสั่งได้ทุกส่วนหรือยังให้นึกบ่อยๆ เมื่อเจ็บป่วยเราจะสามารถภาวนาได้ง่ายเพราะจะรู้จักตัวทุกข์ได้ดี
หากแก้ทุกข์ได้ ก็จะพ้นทุกข์ในที่สุด -
ผมอยาทราบเรื่องยาแก้ไวรัสตับอักเสบบีพอจะมีใครทราบบ้างครับ
-
ระยะนี้ไม่ได้ออนไลน์ ขอตอบรวบยอดเลยนะครับ
๑. ภูมิแพ้ ไปรักษาตัวที่สถาบันบัลวี แถว ๆ ซอยอารีย์ฯ สะพานควายครับ (ถ้าจำผิดก็ขออภัย) บางท่านเลิกดื่มนมวัวก็หายแล้ว
๒. ยาลดความดันสูง ให้ไปซื้อยาเก้าร้อย(ไม่ทราบว่ามีชื่อใหม่หรือเปล่า?) ที่บ้านสายลมมารับประทานได้เลยครับ
๓.รางจืด เป็นเถา ดอกสีม่วง แบบที่ยายว่านั่นแหละครับ
๔. เมล็ดลูกตาล ล้างสะอาด เหลือแต่กะลาที่เป็นขน ๆ แล้วผ่าสองซีกครับ -
มีคนถามหาตำรับยาแก้โรคโลหิตเป็นพิษ เลยดันกระทู้ขึ้นมาครับ
. -
รักษาโรคเลือดเจ้าค่ะ(+โรคอื่นๆครับ) ถาม : ไม่ทราบว่า ทำไมเกิดอาการขนลุกอยู่ตลอดเวลา ?
ตอบ: ผีหลอก (หัวเราะ) บางทีเรารับสัมผัสอะไรได้ หรือว่ามีบางสิ่งบางอย่างต้องการจะติดต่อเรา มันจะมี...การจะติดต่อเรา มันจะเกิดอาการขนลุกเป็นจังหวะ ๆ อยู่ถ้าเกิดอาการอย่างนั้น ให้กำหนดด้วยทิพจักขุญาน ดูว่ามีใครต้องการจะติดต่อมั้ย ? บางรายเขามีธุระด่วนจริง ๆ เขากดเราร่วงไปเลยนะ มันจะรู้สึกเหมือนง่วง จนลืมตาไม่ขึ้น ประเภทหัวไถพื้น นอนลงไปเลย แล้วเขาก็จะจัดการบอกเราเองว่าเขาต้องการอะไร ? ไม่งั้นติดต่อเท่าไหร่ ไม่สนใจ ต้องใช้วิธีกดคอบังคับกัน เคยโดนหลายทีเหมือนกัน เราเองก็มัวแต่เพลินกับงานอยู่ ไม่ได้สนใจเรื่องภายนอก เขากดร่วงไปเลย บอกเสร็จเรียบร้อย เขาถึงจะปล่อย เราก็เออ... ตื่นขึ้นมา ความจริงมันไม่ใช่หลับเพราะง่วง มันเป็นเพราะเขาต้องการกดเราให้อยู่ในอารมณ์ตรงจุดที่รับติดต่อกับเขาได้พอ ดี อาการเหมือนกับเคลิ้มจะหลับซะให้ได้ โดนไปกี่ครั้งแล้ว ?
ถาม : บ่อยเจ้าค่ะ ?
ตอบ: ระวังไว้ พอเกิดอาการให้รีบใช้ทิพจักขุญานดู อันนั้นมันเป็นสัญญานเตือนแล้วว่ามีใครต้องการติดต่อ ถ้าหากว่าไม่งั้นก็จะบ่อยอีกแหละ อยู่ ๆ ก็หลับเฉย ๆ ยืนอยู่บนรถเมล์ก็หลับ เดี๋ยวจะยุ่งกันไปใหญ่
ถาม : .........................................
ตอบ: ท่านถามว่าเมื่อไหร่จะยอมรักษาคนซะทีจ๊ะ ? (หลวงปู่ชีวกโกมารภัจ)
ถาม : ท่าน (หลวงปู่ชีวกฯ) ให้บอกตัวยา
ตอบ: ว่ามา อะไรบ้าง ? ทีละอย่าง
ถาม : รักษาโรคเลือดเจ้าค่ะ
ตอบ: โรคเลือด โรคเลือดนี่รักษาเอดส์ได้ด้วย อะไรบ้าง ?
ถาม : หญ้าหนวดแมว ๓ บาท ทองพันชั่ง ๓ บาท ตะไคร้ ๑๐ บาท ขิง ๑ บาท เอาต้มรวมกัน ใส่น้ำไป ๑ ลิตร ต้มเคี่ยวจนเหลือ ๑ แก้ว ทานให้ติดต่อกัน ๗ วัน ๆ ละ ๑ แก้ว ก่อนนอน
ตอบ: ตัวยาต้องเปลี่ยนมั้ย ? หรือว่าทั้ง ๗ วัน ใช้ตัวยาชุดเดียว ?
ถาม : ใส่ตัวยาใหม่ตลอด อย่าซ้ำของเดิม ทานไปอาการจะทุเลาลง
ตอบ: แก้โรคเลือด นี่แก้เอดส์ได้ด้วยนะ เพราะว่าเอดส์นี่เลือดมันเป็นพิษ ... อาการจะดีขึ้น... คำว่าดีขึ้น ไม่ได้แปลว่า ไม่ตายนะจ๊ะ... แล้วทำบุญอะไรก็ตั้งใจนึกถึงปู่บ้างนะ ท่านถึงจะไปนิพพานแล้ว ก็ยังเป็นห่วงพวกเราอยู่
สมัยนี้เป็นเอดส์กันเยอะ... เวลาต้มนี่ให้ใช้หม้อดินจะดีกว่า เพราะว่าโลหะบางทีทำให้ธาตุยาเสียไป กินก่อนนอนทุกวัน ๗ วันติดต่อกัน พอรุ่งขึ้นก็เปลี่ยนยาใหม่ ๆ เลยนะ ยานี่ใช้ได้ทีเดียว ๗ วันอาการต่าง ๆ จะดีขึ้น อย่าคิดว่าไม่ตายนะ... ดีขึ้น คนดี ๆ ยังตาย คนป่วยจะรอดไปนานได้อย่างไร แต่ว่าอย่างน้อย ๆ ก็บรรเทาอาการเวทนาได้ ปู่หมอชีวกโกมารภัจ บอก...เป็นวิทยาทาน ปู่ท่านถนัดภาษาสันสกฤตมากกว่า น้ำนี่ถ้าได้น้ำฝนยิ่งดีนะ ตัวยานี้ถ้าหาทั่วไปไม่ได้ ให้ไปที่ร้านเจ้ากรมเป๋ออยู่ที่จักรวรรดิ ของง่าย ๆ อย่างนี้หาง่ายอยู่แล้วล่ะ
ถาม : อันนี้เป็นของสดหรือของแห้ง ?
ตอบ: ของสด
ถาม : เจ้ากรมเป๋อไม่มีของสด
ตอบ: เจ้ากรมเป๋อไม่มีสดใช่มั้ย ? ถ้าอย่างนั้นหาเองเลย ก็ไม่ยากนี่ ที่จะยากนิดก็ทองพันชั่ง แต่ทองพันชั่งนี่ถ้าเจอ ๆ เป็นดงเลย เพราะมันขึ้นง่าย ถ้าหาไม่ได้โน่น ไปที่ศูนย์ต้นน้ำทองผาภูมิ มีเป็นปี๊บ
ถาม : หลวงปู่ยังบอกไม่หมดเจ้าค่ะ (หลวงปู่ชีวกฯ)
ตอบ: มีอะไรจ๊ะ ?
ถาม : คนที่เป็นความดันห้ามกินเจ้าค่ะ
ตอบ: อันตรายเหมือนกันจ้ะ ความดันสูงหรือต่ำจ๊ะ ?
ถาม : ความดันสูงเจ้าค่ะ
ตอบ: ความดันสูงห้ามกิน เพราะว่ามันอาจจะไปเพิ่มความดัน เพื่อให้เลือดมันวิ่งเร็วขึ้น การฟอกเลือดจะได้ดีขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าหากความดันสูงห้ามกินนะ ระวังด้วย
ถาม : ของที่ใช้ได้ทั้งสดทั้งแห้งเจ้าค่ะ
ตอบ: จ๊ะ สดก็ได้แห้งก็ได้ แต่สดมันจะคุณภาพดีกว่านะปู่นะ ?
ถาม : ใช่ เจ้าค่ะ สดคุณภาพดีกว่า ถ้าได้สดทุกอย่างมันจะดีที่สุดด้วย
ตอบ: ความดันสูงห้ามกินจ้ะ ใช้ของสดดีกว่าของแห้ง แต่ใช้ได้ทั้งคู่ เขาเรียกว่าคนดีผีรัก ยายเจี๊ยบ เขาไปที่ไหน โดนตลอด
ถาม : ไม่ไหวเจ้าค่ะ อายเขาจังเลยเจ้าค่ะ
ตอบ: อายเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าบางอย่างถ้าเราไปฝืน ท่านกดลงมามันเหนื่อย เหมือนจะขาดใจ
ถาม : หายใจไม่ออกเจ้าค่ะ
ตอบ: อาตมาเคยโดนมาหลายยกแล้ว ไปดื้อกับท่าน ท่านก็เอาเลย อีตอนนี้มีคนให้โดนแทนแล้ว (หัวเราะ) เราไม่เกี่ยวแล้ว
ถาม :ทำยังไงถึงจะหลบหน้าที่นี้ได้เจ้าค่ะ ?
ตอบ: ถ้ามันจำเป็นต้องสงเคราะห์คน ทำไปเถอะ เพราะว่าอย่างน้อย ๆ เป็นการเพิ่มบารมีของเราเอง แล้วอีกอย่างหมอสมัยนี้มันห่วยแตก อย่างของอาตมามันรักษาไม่หาย แล้วก็สรุปว่าเราไม่เป็นอะไรเลย เพราะตรวจหาโรคไม่เจอ คนจะตายแหล่ ไม่ตายแหล่ ไม่ต้องถามหายแล้วจ้ะ (หัวเราะ) อยู่ใกล้นี่หายเลยเรื่องโรคนี่ยาบรรเทาได้แค่ไม่เกินกฎของกรรมเท่านั้น ของเรามันรังแกเขาไว้เยอะ ต้องโดนอยู่แล้ว
จากกระโถนข้างธรรมมาสน์ ฉบับที่ ๕๕ หน้า ๒ -
ถาม : ....(ไม่ชัด)....ที่เคยให้ไป ไปตำทีเดียวเลยใช้ที ๓ วันอย่างนี้เลยได้มั้ย ?
ตอบ: มันค่อย ๆ ทำไม่ดีเรอะ เรื่องของยาถ้ามันสด คุณภาพมันจะดีกว่า โดยเฉพาะยาตัวหนึ่งที่กินเข้าไปแล้วแย่ไปตาม ๆ กัน ก็คือ มะเกลือ ที่ใช้ถ่ายพยาธิ เขาจะใช้ผลมะเกลือเท่าอายุ แต่ไม่เกิน ๒๕ หมายความว่า ถ้าคุณอายุเกิน ๒๕ ก็ใช้ได้แค่ ๒๕ ลูกเท่านั้น พอตำเสร็จเขาไปคั้นน้ำไปผสมกับกะทิ แล้วก็กินเข้าไปจะถ่ายพยาธิได้หมด
คราวนี้คนขี้เกียจ ตำเสร็จแล้วไปแช่ตู้เย็นไว้ กินเข้าไปตาบอดไปหลายคนเลย เพราะว่ามะเกลือคั้นแล้วทิ้งไว้ตกตะกอน มันจะเป็นพิษ ต้องคั้นสดกินสด
ถาม : ตกลงที่บอกว่า ที่เอาหญ้าแพรก....?
ตอบ: ควรที่จะทำครั้งหนึ่ง กินครั้งหนึ่ง จะได้ของสดและคุณภาพดีกว่า เอาไปคั้นคาตู้เย็นไว้ ถึงอันตรายมันไม่มีก็จริง คุณภาพมันคงจะด้อยลงไป
ถาม : แล้วน้ำที่คั้นในแต่ละครั้ง ต้องให้พอดีถ้วยหนึ่ง หรือว่าเกินได้มั้ยครับ ?
ตอบ: เกินหน่อยก็ได้ หรือว่าถ้าไม่รังเกียจฟาดมันซะแก้วใหญ่ ๆ ก็ได้ แต่ถ้าจะให้มีคุณภาพต้องไม่ต่ำกว่า ๓๐ ซีซี.
ถาม : ผมลองทำดูแล้ว ปรากฏว่าก็ไม่เห็น...คืออาจจะเป็นเพราะ...(ไม่ชัด).... ผมเข้าใจว่าได้น้ำเยอะ แล้วแบ่ง ๓ ถ้วย
ตอบ: ไม่ใช่ ครั้งละถ้วย กำมือหนึ่งกับขมิ้นเท่าหัวแม่มือนะคั้นถ้วยเดียว... หญ้า แพรกหนึ่งกำมือ ขมิ้นชันเท่าหัวแม่มือ โขลกให้ละเอียด ละลายด้วยน้ำปูนใส คั้นให้ได้หนึ่งถ้วยชา กินก่อนอาหารเช้าอย่างน้อย ๓๐ นาที ถ้ารักษาโรคมะเร็งต้องไม่เกินระยะที่สอง ให้กิน ๓ วัน เช้าละถ้วย ถ้าหากรักษาโรคเบาหวานให้กิน ๓ วัน เว้น ๗ วัน แล้วกินอีก ๓ วันเว้น ๗ วัน กินอีก ๓ วัน เว้น ๗ วัน รวมแล้ว ๙ วัน กิน ๓ ครั้ง ๙ วัน ระหว่างที่กินอยู่ ก็เท่ากับเดือนหนึ่ง ๓ เว้น ๗ มันก็ ๑๐ ใช่มั้ย ? ก็เท่ากับระหว่างที่กินเดือนหนึ่ง เขาห้ามกินของหวานกับกะปิ เพราะฉะนั้นจะรักษาโรคเบาหวานนี่ลำบากหน่อย ถ้าเป็นโรค อักเสบภายในประเภทตับอักเสบ กระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ อะไรพวกนี้ รักษาได้ทั้งนั้น กินลักษณะเดียวกับมะเร็ง ก็คือว่ากิน ๓ วันเท่านั้น
ถาม : แล้วจะมีอาการบอกมั้ยว่า กินถ้วยแรกแล้วจะมีอาการอะไรขึ้นมาแล้วมีสิทธิ์จะหาย ?
ตอบ: ไม่มี อาตมาเคยกินเข้าไป หวานเจี๊ยบเลย ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าตัวเองเป็นโรคอะไร มันหวานเหมือนยังกับใส่น้ำตาลเลย ลองทำกินดู เพราะเห็นว่ายามันไม่มีอันตรายอะไร กินเปล่า ๆ ก็ได้
ถาม : ทีนี้หญ้าแพรก กลัวว่าจะสกปรก ก็เลยเอาน้ำร้อนลวกหน่อย อย่างนี้เป็นอะไรมั้ยครับ ?
ตอบ: ล้างน้ำเปล่าก็พอ ไอ้ลวกน้ำร้อนนี้ วิตามินในผักในหญ้ามันยังไปซะหมดเลย
ถาม : ...มาโทษผมว่า แทนที่จะรักษาโรคมะเร็ง กลายเป็นเพิ่มท้องเสีย
ตอบ: ถ้าคนประเภทกลัวท้องเสียมากกว่ามะเร็งปล่อยมันตายไปซะดีกว่า เมื่อไม่นานนี้เอง ฝรั่งเพิ่งทำวิจัยว่า ขมิ้นชั้นชะลอความแก่ได้ หลวงพ่อท่านก็บอกถ้าไม่มีโรคอะไร ๓ เดือนทำกินครั้ง ๆ จะแก่ช้า ฝรั่งมันเพิ่งจะวิจัยเจอประกาศออกทางอินเตอร์เน็ตกันครึกโครมเลย
จากกระโถนข้างธรรมมาสน์ ฉบับที่ ๕๕ หน้า ๑ -
ปล.
1 ตามตำราแพทย์แผนโบราณ บางทีโรคหนึ่งโรค อาจมีตำรับยารักษาหลายขนานก็ได้
2 การรักษาคน บางที ก็มีเกี่ยวกับลางเนื้อชอบลางยา โบราณท่านจึงต้องมีสูตรยาหลายๆขนาน ผู้ที่พอรู้เรื่องแพทย์แผนโบราณมาบ้างจะรู้ดี -
หนูเป็นผื่นคันมาประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ หาหมอฉีดยาก็แล้ว ต้มยากินแบบยาบำรุงเลือดก็ยังไม่หาย ตอนนี้คันไปหมดทั้งตัวแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรดี พอจะมีใครแนะนำสูตรยาให้หนูหน่อยได้ไหมค่ะ หนูอยากหายเหลือเกิน
-
-
หน้า 2 ของ 2