ติดตามสถานะการณ์

ดาว TikTok เขมรปากแจ๋วด่า "คนไทย" ดรามาซีเกมส์ โดนทัวร์ลงจนต้องตั้งไพรเวทหนี

จากกรณีความขัดแย้งระหว่างชาวไทย และชาวกัมพูชา เริ่มจากประเด็นดรามา "มวยไทย" กับ "กุนขแมร์" ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา จนทำให้มีการตอบโต้กันในโลกออนไลน์อย่างเผ็ดร้อนของสองชาติ

โดยมีดาว TikTok ชาวเขมรเจ้าของบัญชี kissman5t6 ที่ออกมาด่ากราดคนไทย ทั้งเรื่องประเด็นไม่ส่งแข่ง "กุนขแมร์" รวมทั้งเรื่องค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ ที่มีการขายให้ไทย แพงกว่าชาติอื่นๆ และยังระบุว่า หากไทยไม่ต้องการแข่งขันก็ไม่ต้องมาร่วม จนโดนทัวร์ลงอย่างหนัก

ล่าสุดเจ้าของบัญชี kissman5t6 ที่มียอดติดตามกว่า 5 แสนคน ได้ปิด TikTok เป็นแบบส่วนตัว จากประเด็นที่โดนชาวไทยถล่มอย่างหนักนั่นเอง

 

สุดท้ายก็ต้องขอโทษ เพราะยังต้องทำงานในไทย

ดราม่าระหว่างมวยไทย กับกุน ขแมร์ ของกัมพูชา ยังไม่จบง่ายๆ หลังจากก่อนหน้านี้มีคนกัมพูชารายหนึ่งออกมาอ้างว่า บัวขาว บัญชาเมฆ แท้จริงแล้วเป็นคนเขมรที่ปลอมตัวเข้ามาอยู่ในไทยแต่เขาไม่ยอมรับ แถมก่อนหน้านี้ยังเคยออกมาอัดคลิปท้าทายนายจ้างชาวไทยให้ไล่แรงงานต่างด้าวชาวเขมรออกไปให้หมด และเคลมว่าบรรดาตึกรามบ้านช่องเกิดจากฝีมือของคนเขมรทั้งสิ้น

ล่าสุดหนุ่มรายดังกล่าวได้ออกมาอัดคลิปขอโทษพี่น้องชาวไทยทุกคนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียส่วนตัวโดยระบุว่าที่ทำไปเพราะระบายความโกรธออกมาเท่านั้น และยอมรับว่าตัวเองผิดจริงๆ

"สวัสดีครับ ก่อนอื่นก็ต้องกราบขอโทษทุกคนด้วยนะครับ ที่ผมพูดไปเมื่อตอนนั้น เป็นด้วยความโมโห เขาทักมาส่วนตัว ด่าผม ไล่ผมด้วย ผมเลยต้องพูดไปแบบไม่มีสมองคิด ไม่มีอะไรคิดครับ ส่วนนี้ผมผิดจริงๆ ครับ"

"มีคนไทยจำนวนมาก ที่เขาทำแต่สิ่งดีๆ ทำเพื่อประเทศชาติ ไม่เหมือนกับคนบางกลุ่ม บางส่วน ชอบหาเรื่องชาวบ้าน แซวชาวบ้าน ชอบสร้างให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปหมด ด้วยตัวผมเอง ผมมาอยู่ในประเทศของพี่ มีจำนวนน้อยมากที่ไม่ซื่อสัตย์กับผม โกงค่าแรงผม ไม่จ่ายก็มี บางทียืมเงินสดของผมไปเติมน้ำมัน" หนุ่มเขมรรายดังกล่าว อัดคลิปขอโทษชาวไทย

 

เดี๋ยวโดนทัวร์ไทยลงอีก!!! เขมรห่วง "หมู่บ้านนักกีฬา-สนาม" เสร็จไม่ทันซีเกมส์

พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี, รมว.กลาโหม นำคณะตรวจสอการก่อสร้างหมู่บ้านกีฬาสำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 3-9 มิถุนายน 2566

โดยหมู่บ้านนักกีฬาซีเกมส์ 2023 ฝ่ายกัมพูชา เจ้าภาพ เผยว่าสามารถรองรับนักกีฬาได้ระหว่าง 6,000 ถึง 7,000 คน สำหรับเข้าพักและรับประทานอาหารในหมู่บ้านกีฬาได้วันละ 4,000 ถึง 5,000 ถึง 6,000 คน

ซึ่ง วัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติสำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 และอาเซียนพาราเกมส์ (CAMSOC-CAMAPGOC) เผยว่า

"วันที่ 31 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่จะมีการส่งมอบหมู่บ้านนักกีฬา จะมีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้สำหรับห้องรับแขก เพื่อต้อนรับคณะนักกีฬาจากชาติอาเซียน ที่มาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์"

นอกจากนี้ วัธ จำเริญ ยังระบุด้วยว่า พล.อ.เตีย บัญ ให้ความสำคัญ และเป็นกังวลกับการก่อสร้างในหมู่บ้านนักกีฬาเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดรวมพลังกันสนับสนุน ดำเนินการก่อสร้างตามแผนงาน ดังนั้นเราจะตรวจสอบและประเมินผลงานนี้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้

ขณะเดียวกัน ยังมีการหารือเรื่องการตรวจสนามกีฬา พร้อมจัดหาอุปกรณ์ ระบบเสียง ระบบไฟในแต่ละสนามให้เพียงพอและเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป จะมีการตรวจสนามกีฬาอื่นๆ เช่น กรุงพนมเปญ และพื้นที่ 4 จังหวัดรับหน้าที่จัดการแข่งขันซีเกมส์ 2023 ให้ครบทุกสนาม

ด้านสื่อมวลชนกัมพูชามีการเผยแพร่ภาพสนามแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ที่มีการติดตั้งเก้าอี้ และปรับปรุงสนาม โดยระบุว่า แล้วเสร็จเกือบ 100% แล้ว ทว่ามีชาวกัมพูชา ส่งข้อความแสดงความกังวลต่อการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งนี้ อาทิ

- เหมือนเดิม มองไม่เห็นเก้าอี้
- วางเก้าอี้เหมือนไม่ ไม่มีเงิน
- ใส่นิดเดียวก็พัง ใส่หมดก็พัง
- วางเก้าอี้แบบนั้น ใช้เงินนิดเดียว เงินเข้ากระเป๋าเท่าไหร่ เดี๋ยวโดนคนไทยหัวเราะ เขมรได้อายอีก
- ดูเหมือนจะมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่เรียบร้อย กลัวทําไม่ทัน เพราะใกล้วันแล้ว

 

BREAKING: ‘SVB Financial Group’ บริษัทแม่ของ SVB ยื่นล้มละลาย (Chapter11) แล้ว พร้อมเปิดเผยว่ามีสินทรัพย์และหนี้สินมากถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 3.4. แสนล้านบาท #TheStandardWealth

 

UPDATE: จีนปรับลดเงินสำรองขั้นต่ำของแบงก์ลงอีก 0.25% มีผล 27 มี.ค. นี้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
.
ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำ (Reserve Requirement Ratio) ของธนาคารพาณิชย์เกือบทุกแห่งลงอีก 0.25% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2023 โดยการปรับลดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งลดลงในอัตราเดียวกัน
.
กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมา แม้ว่าการเติบโตของภาคการผลิตอุตสาหกรรมจะไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
.
ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.6% สู่ระดับ 6.88 หยวนต่อดอลลาร์ หลังจากการประกาศดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของ GDP ในปีนี้ไว้ที่ 5%
.
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนระบุว่าต้องการที่จะรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลและเพียงพอ และต้องการรักษาการเติบโตของอุปทานของเงินให้สอดคล้องไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่าจะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการหว่านเงินลงไปในระบบ
.
อ้างอิง:
https://www.bloomberg.com/news/arti...uirement-ratio-to-boost-economy?sref=CVqPBMVg
.
#TheStandardWealth

 

นอนหลับฝันดีครับ

UPDATE: กบน. หั่นราคาน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 33.50 บาท มีผล 24 มี.ค. นี้ พร้อมจับตา Fed - รัสเซียลดกำลังผลิต
.
กบน. หั่นราคาดีเซล 50 สตางค์ เหลือ 33.44 บาทต่อลิตร มีผลวันที่ 24 มีนาคมนี้ หลังจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลง อีกทั้งรัฐต่อเวลาลดภาษีสรรพสามิตไปอีก 2 เดือน พร้อมจับตารัสเซียลดกำลังผลิตน้ำมัน 5 แสนบาร์เรล และผลกระทบแบงก์สหรัฐฯ ล้มที่อาจลามสู่ยุโรป ซึ่งจะกดดันให้เงินบาทผันผวน
.
วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ว่า กบน. เห็นชอบในการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงอีก 0.50 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ 33.44 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกดีเซลใหม่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมเป็นต้นไป ซึ่งการปรับลดครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 หลังจากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาปรับลดไปแล้ว 2 ครั้ง รวม 1 บาทต่อลิตร
.
โดยการปรับลดราคาขายปลีกดีเซลให้กับประชาชน นอกจากจะช่วยประคับประคองค่าครองชีพประชาชนแล้ว ยังมีส่วนช่วยไม่ให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม กบน. ยังเฝ้าระวังปัจจัยรุมเร้ารอบด้าน อาทิ การปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของรัสเซีย การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนหลังเปิดประเทศ ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
.
วิศักดิ์กล่าวว่า สาเหตุของการปรับลดราคาครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตลาดโลกโดยเฉพาะน้ำมันดีเซลลด โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึง 15 มีนาคม 2566 พบว่า ราคาน้ำมันดีเซลเดือนมกราคมเฉลี่ยอยู่ที่ 113.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เดือนกุมภาพันธ์ 103.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และวันที่ 1-15 มีนาคมเฉลี่ย 102.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาทออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม - 20 กรกฎาคม 2566 และสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มดีขึ้น มีฐานะติดลบต่ำกว่าหลักแสนล้านบาทแล้ว
.
โดยล่าสุดฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 12 มีนาคม 2566 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิติดลบ 99,662 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 53,290 ล้านบาท และบัญชีก๊าซแอลพีจีติดลบ 46,372 ล้านบาท โดยบัญชีน้ำมันมีรายได้จากการเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลเข้ากองทุน 5.05 บาทต่อลิตร ณ วันที่ 17 มีนาคม 2566 จากที่กองทุนเคยอุดหนุนสูงถึง 10 บาทต่อลิตร ส่วนความคืบหน้าการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กรอบวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ล่าสุดจากสถานการณ์ราคาโลกเริ่มปรับตัวลง คาดว่าอาจใช้ไม่ถึงตามกรอบ และเหลืออยู่ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท โดยกองทุนหวังว่าอาจน้อยกว่านี้หากไม่มีปัจจัยลบรุนแรง อาทิ สงคราม” วิศักดิ์กล่าว
.
“แต่ความผันผวนของราคาน้ำมันยังต้องจับตาเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงผันผวนปรับขึ้นลง อาทิ ประเทศรัสเซียปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 5 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือนมีนาคมนี้ หรือคิดเป็น 5% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนหลังเปิดประเทศ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก รวมทั้งกรณีวิกฤตภาคการเงินสหรัฐฯ และสถานะการเงินที่ต้องการความช่วยเหลือของธนาคารเครดิตสวิส ที่เป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งล้วนกดดันให้ค่าเงินบาทผันผวน” วิศักดิ์กล่าว
.
#TheStandardWealth

 

Russia-Ukraine War: ICC ออกหมายจับปูติน ต่อการก่ออาชญากรรมสงครามที่เกิดขึ้นในยูเครน ชี้ ผู้นำรัสเซียจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ออกหมายจับ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในวันนี้ (17 มีนาคม) โดยกล่าวหาว่า ปูตินจะต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามที่เกิดขึ้นในยูเครน

ในหมายจับแรกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน ศาล ICC เรียกร้องให้มีการจับกุมปูตินในข้อหาที่ว่า เขามีส่วนเกี่ยวข้องในการเนรเทศเด็ก และเคลื่อนย้ายผู้คนจากดินแดนยูเครนไปยังรัสเซียโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และ ICC กล่าวว่า มีเหตุผลอันสมควรที่เชื่อได้ว่า ปูตินมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการกระทำดังกล่าวโดยตรง และร่วมมือกับผู้อื่นในเรื่องนี้

นอกจากนี้ ICC ยังได้ออกหมายจับ มาเรีย ลโววา เบโลวา กรรมาธิการสิทธิเด็กของรัสเซีย ในข้อหาเดียวกันด้วย

คาริม ข่าน อัยการศาล ICC ได้เปิดการสอบสวนอาชญากรรมสงคราม, อาชญากรรมต่อมนุษยธรรม และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครนเมื่อปีที่แล้ว โดยเขาได้เน้นย้ำในระหว่างการเดินทางไปยูเครนถึง 4 ครั้ง ว่า เขากำลังพิจารณาคดีที่ถูกกล่าวหาว่า มีการก่ออาชญากรรมต่อเด็ก และมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า กองกำลังของตนได้กระทำการอันโหดร้ายในช่วงเวลาที่ดำเนินการปฏิบัติการทหารในยูเครนมาเป็นเวลากว่า 1 ปี

ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า หมายจับดังกล่าว ไม่มีความหมายใด ๆ ต่อรัสเซีย

"การตัดสินใจของศาลอาญาระหว่างประเทศ ไม่มีความหมายต่อประเทศของเรา รวมถึงมุมมองทางกฎหมายของรัสเซียด้วย" มาเรีย ซาโควา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเมื่อมีการออกหมายจับ

ทั้งนี้ แม้จะมีการออกหมายศาล แต่ ICC ไม่มีอำนาจในการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย และสามารถใช้เขตอำนาจศาลได้เฉพาะภายในประเทศที่ลงนามในข้อตกลงเท่านั้น ซึ่งรัสเซียไม่ได้เป็นประเทศที่ลงนามข้อตกลงดังกล่าว
—————
ภาพ: Reuters

ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.reuters.com/world/europ...nst-putin-over-alleged-war-crimes-2023-03-17/
https://www.bbc.com/news/world-europe-64992727

#TNNWorldNews #รัสเซีย #ยูเครน #สงคราม #ปูติน
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

ผลวิจัยล่าสุดเผย “จิ้งจอกแร็กคูน” จากตลาดอู่ฮั่นของจีน คือต้นตอแพร่เชื้อโควิด-19 สู่มนุษย์ ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ “เป็นไปได้มากที่สุด”
.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันนี้ (17 มี.ค.) ว่า ผลวิจัยล่าสุดนำเสนอหลักฐานที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือที่สุดในขณะนี้ว่า การแพร่ระบาดเริ่มต้นขึ้นเมื่อเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ติดต่อจากสัตว์สู่มนุษย์ แทนที่จะเป็นอุบัติเหตุเชื้อไวรัสรั่วไหลออกมาจากห้องแล็บของจีน
.
ในสัปดาห์นี้ ทีมนักไวรัสวิทยา นักพันธุศาสตร์ และนักชีววิทยาวิวัฒนาการระดับนานาชาติทำการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมใหม่ที่รวบรวมมาจากตลาดค้าส่งอาหารทะเลหัวหนานในเมืองอู่ฮั่นของจีน แสดงให้เห็นว่า จิ้งจอกแร็กคูน (raccoon dogs) ที่ถูกนำมาขายอย่างผิดกฎหมายในตลาด อาจเป็นตัวนำพาหะและแพร่เชื้อไวรัสเมื่อช่วงสิ้นปี 2562 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า “นี่ถือเป็นข้อมูลสนับสนุนที่เป็นไปได้มากที่สุด”
.
สีมา ลัคดาวาลา นักไวรัสวิทยาประจำมหาวิทยาลัยเอโมรี ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิจัยดังกล่าว ระบุว่า “ข้อมูลนี้ช่วยเสริมน้ำหนักในประเด็นที่ว่าสาเหตุมาจากธรรมชาติ”
.
ขณะที่แองเจลา รัสมุสเซน นักไวรัสวิทยาที่ร่วมการวิจัย กล่าวว่า “นี่เป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนมากว่าสัตว์ในตลาดมีการติดเชื้อ และไม่มีคำอธิบายอื่นใดที่เหมาะสมไปกว่านี้”
.
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า การค้นพบครั้งนี้อาจไม่ช่วยยุติการถกเถียงกันถึงแหล่งที่มาของโรคโควิด-19 ได้ เนื่องจากที่ผ่านมา ทางการจีนรายงานข้อมูลโรคดังกล่าวแบบไม่ชัดเจน ตลอดจนการที่โควิด-19 กลายเป็นวาทกรรมทางการเมืองภายในสหรัฐ และการคาดเดากันไปต่าง ๆ นานาทั่วทุกมุมโลก
.
อ้างอิง:
- https://www.theatlantic.com/science...ch-raccoon-dogs-wuhan-market-lab-leak/673390/
- https://www.bloomberg.com/news/arti...erge-as-possible-covid-source-in-new-analysis
- https://standardobservers.com/experts-find-genetic-data-linking-covid-19-outbreak-to-raccoon-dogs/
.
.
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจUpdate #กรุงเทพธุรกิจHealth
-------------------------------
ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Website: http://www.bangkokbiznews.com
Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
OpenChat: https://bit.ly/3ZgoMib
Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
Blockdit: https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
Tiktok: https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
Line: https://bit.ly/3ZgoMib

 

มีหลายธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นดอยช์แบงค์ หรือโซไซเต้ เจนเนอรัลไม่ทำธุรกรรมกับเครดิต ซูอิส

 

อังกฤษทุ่ม 120 ล้าน บ. ให้โรลส์-รอยส์ตะลุยสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์บนดวงจันทร์!? #สู่ฝัน #จันทรา

สร้างทำไม? ยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์จากดวงจันทร์? ไม่ใช่งั้นนะครับ ในที่นี้คือผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บนดวงจันทร์
เพื่อให้คนไปอยู่? ยัง ยังครับ ในที่นี้ไม่ใช่ให้คนขึ้นไปสร้างเมืองที่นั่น แต่เพื่อให้นักวิจัยได้อยู่ตรงนั้นได้ยาวขึ้น ไม่ต้องรีบกลับโลก (ซึ่งก็วิจัยเพื่อเป้าหมายให้อนาคตมวลมนุษยชาติได้ไปอยู่นั่นน่ะแหละ)
https://www.cnbc.com/2023/03/17/uk-...t-to-build-a-nuclear-reactor-on-the-moon.html

 

เอ๊ะ!? จีนแย้ม จ่อเปิดให้สถาบันการเงิน"ต่างชาติ"เข้าตลาดหุ้นจีน!? ..ออกมาบอกตอนเกิดแบงก์ล้ม/เทขายหุ้นแบงก์หนัก ที่ตะวันตก #ปริศนา

แปลว่าอะไร
นี่คือการเดินหมากตาหนึ่ง? หรือไม่ได้มีใดซับซ้อน แค่เผอิญจังหวะพอดีกัน?
ระยะหลัง ไม่กี่เดือนมานี้จะเห็นข่าวสถาบันทางการเงินหลายแห่งได้รับอนุมัติให้เปิดในจีนนะครับ มาเรื่อยๆ มากันเป็นพรวน จีนเริ่มเปิดให้มาดำเนินการได้
ล่าสุด อดีตรัฐมนตรีคลัง (ย้ำว่าอดีตนะครับ ไม่ใช่คนปัจจุบัน) ออกโรงสนับสนุน กระตุ้นให้มามากขึ้น พร้อมทั้งเปิดให้สถาบันทางการเงินพวกนี้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์จีน (แต่ไม่วายทิ้งท้ายกำกับว่า "เมื่อพร้อม")
ความเสี่ยง? นี่มันบริษัทต่างชาติ ไม่ใช่บริษัทจีนนิ? แต่เปิดในเมืองจีน คนที่จะหอบเงินมาลงทุนในบริษัทเหล่านี้ ก็คนจีน และต่อให้ไม่มีประเด็นนี้ หากบริษัทพวกนี้ล้มหรือร่อแร่ขึ้นมา ก็กระทบระบบการเงินในจีน และเสถียรภาพโดยรวมอยู่ดีนะครับ
แน่ล่ะ ระบบการเงินจีนจะพัฒนาได้ ต้องมีสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่จากต่างชาติเข้ามายกระดับ แต่นี่ก็คือสิ่งที่จีนพยายามควบคุมอย่างรัดกุมมาตลอดมิใช่หรือ?
แถมมาตอนไหนไม่มา ดันมาจะเปิดๆ ไอ้ตอนที่เกิดสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นวิกฤติในอเมริกาและยุโรปซะอีก
ดึงดูดบริษัทเหล่านั้น? ตลาดจีนไม่โหดฉกรรจ์อย่างตลาดตะวันตก ไม่เกิดเทขายรุนแรง ... เหรอ?
ไม่รู้สิครับ หมากตานี้มีนัยใด
https://www.reuters.com/business/be...ms-list-china-ex-finance-minister-2023-03-18/

 

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกจารึก --- พบลูกเสือขาวในถังขยะ!?!!!?!!!?!
{ แม่ใจทมิฬ ทิ้งลูกในถังขยะ } พาดหัวข่าวพรรค์นี้ เราเห็นกันจนชินตา
หากไม่ใช่คน จะเป็นทิ้งหมาทิ้งแมวก็ว่าไป --- มีให้เห็นดารดาษทั่ว จนไม่ใหญ่พอต้องมาออกข่าว
แต่นี่คือ “ชาติพยัคฆ์” อันน่ายำเกรง ไฉนประสบเคราะห์กรรมน่าอเนจอนาถปานนี้

คนงานทำความสะอาดสวนสัตว์ Attica Zoological Park ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก เจอลูกเสือขาววัย 3 เดือนในถังขยะตรงลานจอดรถของสวนสัตว์นี้เอง
สภาพอิดโรย หิวโซ ดูไม่ได้ เข้าขั้น “โคม่า” --- สัตวแพทย์เร่งกู้ชีพสุดกำลัง
คาดว่าเป็นเหยื่อของขบวนการค้าสัตว์ป่าเถื่อน

หน้าตาน่ารักน่าชัง น่าเอ็นดู น่าสงสาร
คนส่งใจให้เสือครับ

 

เผา
จับตานะครับ ฝรั่งเศส
สัญญาณแรงขึ้นแล้ว มีเผา มีปะทะ --- มันไม่ใช่แค่เรื่องของสไตรค์ (ประท้วงผละงาน) ซะแล้ว
สัปดาห์หน้าเสียวแรงมาก เตรียมดูด้วยความอกสั่นขวัญแขวนไว้เลย
เหิมเกริม? นั่นละครับ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ตัดสินใจใช้มาตราพิเศษ (มาตรา 49.3) ของรัฐธรรมนูญ ผลักดันกฎหมายปฏิรูประบบบำนาญ โดยไม่ผ่านรัฐสภา --- ไม่มีโหวต!
ประเทศต้นแบบ "ประชาธิปไตย" เขาทำกันแบบนี้เอง!
ใจความ { ขยายอายุเกษียณ จากเดิม 62 ปี ไปเป็น 64 ปี }
สั้นๆ ละกัน ทำไม? รัฐบาลตังค์ร่อยหรอ --- งั้นยิ่งยืดอายุเกษียณ จะได้ประหยัดจ่ายบำนาญไปหน่อย
ไม่ยอม? คนก็เดือดดาล ไม่ใช่แค่คนแก่เฒ่า แต่คนหนุ่มสาวก็รับไม่ได้
ประเด็นอยู่ตรงนี้ ที่ผ่านมากดดันรัฐบาลด้วยการสไตรค์ ยิ่งวันยิ่งแรง แต่แรงอย่างเป็นระบบ มีกำหนดวันและกำหนดส่วน
ปิดๆ เปิดๆ หยุดๆ ทำๆ --- ไม่ใช่ทิ้งงานโดยไม่มีกำหนด
หวังว่าจะสัมฤทธิ์ผล รัฐบาลจะยอมล้มเลิก
ที่ไหนได้ ล่าสุด เอ็มมานูเอล มาครงอหังการ์เหยียบสุดคันเร่ง ฝ่าด่านตรวจ
จบ
มีแล้วนะครับ มีเผา มีปะทะกันบนท้องถนน ตำรวจมียิงแก๊สน้ำตา
เริ่มแล้ว?
สิ่งที่ต้องเป็นไป
1.) ประท้วงผละงานต้องยกระดับ จากเป็นระบบแบบแผน อาจจะเป็นหลักการ "ช่างแ_ง" แล้ว เอาให้รัฐบาลไปต่อไม่ได้
2.) การปะทะกัน ถ้ามันเริ่มแล้ว มันไม่หยุดเองดื้อๆ นะครับ จนกว่าจะยับกันไปข้าง
สัปดาห์หน้า ฝรั่งเศสน่ากลัวครับ

https://www.reuters.com/world/europ...fter-violent-unrest-over-pensions-2023-03-17/

 

นับแล้ว 1!
พิษ SVB ล้ม ลากเฮดจ์ ฟันด์ใหญ่ Graticule ที่สิงคโปร์ต้อง"ปิดตัว" หลังเจ๊งยับ 25% (บริหารสินทรัพย์ 1 แสนล้าน บ.) #ลุ้นอย่าลาม

เป็นสิ่งที่ไม่ได้อยากเห็น
ใช่ครับ เฮดจ์ ฟันด์ เป็นประดาพวก "ให้เงินทำงาน"/"เงินต่อเงิน" อะไรเทือกนั้น --- ไม่ข้องเกี่ยวกับ real sector (คนเดินดินกินข้าวแกง ชาวบ้านร้านตลาด) ฉะนั้น จะล้มก็ล้มสิ ไม่กระเทือนนัก คนที่เจ็บเป็นพวกนักลงทุนทั้งนั้น
แต่ แต่ แต่ เราก็ไม่อยากเห็นโดมิโนสักชิ้นที่หล่นลงนะครับ ผลเป็นลูกโซ่มันมีทางใดทางหนึ่ง ชิ้นนี้ที่หล่นอาจไม่อยู่ในรัศมีหรือเหลี่ยมมุมไปชนหรือเฉี่ยวชิ้นอื่น แต่มันก็ทำให้กระบวนมันเสีย และใครจะรู้แรงลมที่กระทบพื้นจากการล้มจะส่งผลให้ชิ้นอื่นเซหรือเปล่าก็ตอบไม่ได้
สรุป Graticule Asia ไปแล้วนะครับ (ตัวเลข ณ สิ้นปีที่แล้ว มีสินทรัพย์ใต้การบริหารอยู่ 3 พันล้านดอลลาร์) เพราะ SVB (และก่อนๆ นี้นับแต่ต้นปีสะสมมา) ทำให้ขาดทุน 25%
เกินรับไหว
ยิ่งกว่านั้น เฮดจ์ ฟันด์ชื่ออื่นที่เสียวไม่น้อยก็ลิสต์รายนามได้ดังต่อไปนี้ Rokos Capital Management / Graham Capital Management / Brevan Howard Asset Management --- ขาดทุนเช่นกัน
ไหวไม่ไหว รอดไม่รอด ต้องลุ้น
* หมายเหตุ บลูมเบิร์กรายงานจากข่าววงในว่าจะปิด แต่ทาง Graticule Asia ยังไม่ได้ประกาศเป็นทางการ
https://www.bloomberg.com/news/arti...und-to-shutter-after-losses?srnd=premium-asia

 

BRIEF: นักวิจัยพบเชื้อราปรสิตชนิดใหม่ที่กิน-ยึดร่างแมงมุมในป่าบราซิล แต่ไม่พบว่าควบคุมร่างสิ่งมีชีวิตได้
.
เชื่อว่าการค้นพบในครั้งนี้ จะชวนให้หลายคนนึกถึงเชื้อราซอมบี้ใน The Last of Us อย่างแน่นอน เมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบเชื้อราปรสิตชนิดใหม่ที่สามารถฆ่าและยึดร่างแมงมุมประตูกลในป่าดงดิบแอตแลนติกที่ประเทศบราซิล
.
เชื้อราปรสิตตัวนี้ยังไม่มีชื่อเรียก แต่มันมีหน้าตาที่แปลกตาเลยทีเดียว เพราะมันมีสีม่วง ถือเป็นลักษณะของเชื้อราที่หายาก ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของเชื้อราที่ทำให้สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังติดเชื้อ และยังสามารถเข้ายึดร่างของสิ่งมีชีวิตได้
.
อย่างไรก็ดี เชื้อรานี้ถูกค้นพบเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยกลุ่มนักวิจัยที่เดินทางไปในป่าทางตอนเหนือของเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เพื่อบันทึกความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่และค้นหาสายพันธุ์ใหม่ของสิ่งมีชีวิตต่างๆ
.
แล้วพวกเขาก็เจอเข้ากับเชื้อราสีม่วงนี้ “มันเป็นสิ่งที่สวยงามมาก” ฌูเวา อาราอูโฆ (João Araújo) นักเห็ดวิทยาชาวบราซิลกล่าว ซึ่งเขาเป็นผู้ค้นพบเชื้อรานี้คนแรก “พวกมันสามารถแพร่เชื้อต่อแมงมุมประตูกล และยังเป็นหนึ่งในเชื้อราไม่กี่ตัวที่มีสีม่วง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม” เขากล่าวเสริม
.
“เราไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับเชื้อรากลุ่มนี้ เพราะมันยังได้รับการศึกษาน้อย และเชื้อรากลุ่มนี้มีน้อยมากในโลก ซึ่ง (เชื้อราในตระกูลนี้) ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในประเทศไทย นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เราเจอสายพันธุ์นี้ที่บราซิล”
.
เขายังย้ำว่า “เชื้อราชนิดนี้อยู่ในกลุ่มเชื้อราที่มีความหลากหลายมาก ซึ่งเรารู้เกี่ยวกับความหลากหลายของมันประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น" เขากล่าวปิดท้าย
.
ทั้งนี้ นักวิจัยกล่าวว่า ไม่มีหลักฐานว่าเชื้อราปรสิตชนิดใหม่นี้ สามารถควบคุมพฤติกรรมของแมงมุมประตูกลก่อนที่จะฆ่าพวกมันได้ เหมือนกับญาติของมัน นั่นก็คือเชื้อราซอมบี้หรือคอร์ดิเซปส์ (Cordyceps) ที่เป็นเชื้อราที่สามารถยึดร่างแมลงและหลอกให้พวกมันออกจากรังเพื่อไปยังสถานที่ที่สามารถแพร่สปอร์ของพวกมันได้ ซึ่งเชื้อราซอมบี้นี้โด่งดังเป็นอย่างมาก หลังจากซีรีส์เรื่อง The Last of Us ออกฉาย
.
อย่างไรก็ตาม ป่าฝนแอตแลนติก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ค้นพบเชื้อราปรสิตสีม่วง เป็นป่ามีความหลากหลายทางชีวภาพมาก แต่ก็เป็นป่าที่ถูกคุกคามมากที่สุดเช่นกัน ในขณะนี้ ป่าสูญเสียต้นไม้ไปกว่าร้อยละ 80 แล้ว เนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่าโดยมนุษย์
.
.
.
อ้างอิงจาก

https://www.theguardian.com/environ...ts-and-kills-spiders-discovered-in-brazil-aoe

https://theweek.com/animals/1021900/parasitic-fungus-that-kills-spiders-discovered-in-brazil

#เชื้อรา #เชื้อราปรสิต #วิทยาศาสตร์ #TheLastofUs #TheMATTER

 

BRIEF: ชายฮ่องกงถูกจับข้อหาครอบครองหนังสือเด็ก เพราะตำรวจระบุเนื้อหาปลุกปั่น ดูหมิ่นรัฐบาลจีน-ฮ่องกง
.
“การครอบครองสื่อสิ่งพิมพ์ที่ปลุกระดม เป็นอาชญากรรมร้ายแรง”
.
ถ้าให้นึกถึงประโยชน์ของหนังสือเด็ก เชื่อว่าหลายคนคงคิดเหมือนกัน อย่างเช่น ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และให้ความเพลิดเพลินแก่เด็ก อย่างไรก็ดี มีชายชาวฮ่องกงถูกจับกุมฐานครอบครองหนังสือเด็ก ที่ถูกอ้างว่ามีเนื้อหา ‘ปลุกระดม’
.
เมื่อไม่นานมานี้ ตำรวจความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกงจับกุมชาย 2 คนที่มีอายุ 38 และ 50 ปี ข้อหาครอบครองหนังสือเด็กที่ทางการมองว่า เป็นการปลุกระดมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของชาวฮ่องกงที่เน้นย้ำถึงสถานะของเสรีภาพพลเมืองที่พึงมี
.
โดยเหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อตำรวจและเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจค้นบ้านและสำนักงานของพวกเขา และพบสำเนาของ ‘สิ่งพิมพ์ที่ปลุกระดม’ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า หนังสือเหล่านี้ ‘ยุยงให้เกิดความเกลียดชังหรือดูหมิ่น’ ต่อรัฐบาลจีน ฮ่องกง และตุลาการ
.
“สิ่งพิมพ์สามารถยุยงให้ผู้อื่นใช้ความรุนแรงและไม่เชื่อฟังกฎหมายได้” เจ้าหน้าที่กล่าว
.
ขอเล่าก่อนว่า ก่อนหน้านี้ในปี 2565 หนังสือในลักษณะนี้เคยถูกตัดสินโดยศาลว่า เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาปลุกระดม และการตัดสินนี้ทำให้นักบำบัดการพูด 5 คนถูกจำคุกเป็นเวลา 19 เดือน ในข้อหา ‘สมรู้ร่วมคิดจัดพิมพ์ แจกจ่าย และจัดแสดงหนังสือ 3 เล่มด้วยเจตนาปลุกระดม’ หลังจากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้หนังสือเด็กที่มีเนื้อหาเข้าข่ายการปลุกระดมถูกแบน
.
เจ้าหน้าที่ยังระบุว่า ‘การครอบครองสื่อสิ่งพิมพ์ปลุกระดม เป็นอาชญากรรมร้ายแรง’ ซึ่งโทษจากการกระทำนี้อาจนำไปสู่การจำคุก 1 ปีในความผิดครั้งแรก และ 2 ปีในความผิดครั้งต่อๆ ไป
.
ไม่เพียงเท่านี้ ในเวลานั้นตำรวจยังเตือนผู้ปกครองให้ทำลายหนังสือเหล่านี้ทิ้ง โดยให้เหตุผลว่า “รุนแรงเกินไปและยังปลูกฝังให้เด็กมีความคิดต่อต้านรัฐบาล”
.
อย่างไรก็ตาม ชายชาวฮ่องกงทั้งสองได้รับหนังสือเด็กเหล่านี้ที่ถูกส่งมาจากอังกฤษ ซึ่งเนื้อหาภายในหนังสือเด็กจะมีภาพประกอบเป็นชาวฮ่องกงที่ประท้วงในช่วงปี 2019 โดยหนังสือเล่มนี้ก็คือ วีรบุรุษทั้ง 12 แห่งหมู่บ้านแกะ (The 12 Heroes of Sheep Village) จึงถูกมองว่า ต้องการสะท้อนถึงความพยายามของผู้ประท้วง 12 คน ที่ล้มเหลวจากพยายามหลบหนีออกจากฮ่องกงในปี 2020
.
ถึงกระนั้น ชายทั้งคู่ได้รับการประกันตัวแล้ว แต่ต้องไปรายงานตัวกับตำรวจในเดือนหน้า (เมษายน 2566) แต่หลายคนเชื่อว่า การจับกุมชายทั้งสองคนด้วยข้อหาดังกล่าวนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ตำรวจจับกุมประชาชนในข้อหา ‘ครอบครอง’ หนังสือที่ถูกกล่าวว่า มีเนื้อหาปลุกระดมอีกด้วย
.
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจทำการจับกุมผู้คนหลายครั้งที่กระทำสิ่งที่ทางการมองว่าเป็นการยุยง ปลุกปั่น อาทิ หญิงวัย 23 ปีคนหนึ่งถูกจับกุมเมื่อวันพุธ (15 มีนาคม) ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่ข้อความทางออนไลน์ที่ยุยงให้ฮ่องกงแยกตัวเป็นเอกราช
.
หรือกรณีของ เอลิซาเบธ ถัง (Elizabeth Tang) นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิแรงงานก็ถูกจับกุมเมื่อวานนี้ (16 มีนาคม) เพราะทางการสงสัยว่า เธอสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ หลังจากเดินทางกลับหลังไปเยี่ยมสามีของเธอ ลี ชุก-ยาน (Lee Cheuk-yan) สมาชิกสภาฝ่ายค้าน ในเรือนจำที่อังกฤษ
.
ทั้งนี้ กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งกำหนดโดยจีน เกิดขึ้นเมื่อปี 2562 เพราะต้องการยุติการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ยาวนานหลายเดือนของชาวฮ่องกง โดยการกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น เช่น การจำคุกตลอดชีวิตสำหรับคดีอาชญากรรม รวมถึงคดีที่เกี่ยวกับการโค่นล้ม การก่อการร้าย และการสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติอีกด้วย
.
.
.
อ้างอิงจาก

https://www.theguardian.com/world/2...ested-for-possessing-seditious-childrens-book

https://www.bbc.co.uk/news/world-asia-china-64985527

#การประท้วง #การประท้วงฮ่องกง #การเมือง #ฮ่องกง #จีน #จีนเดียว #หนังสือ #TheMATTER

 

BRIEF: UN ระบุ ตลาดน้ำดื่มโตขึ้น สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลล้มเหลวในการปรับปรุงแหล่งน้ำสาธารณะ
.
คงจะดีไม่น้อย หากประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดจากแหล่งน้ำสาธารณะได้ตามเป้าหมายของ องค์การสหประชาชาติ (UN) ที่ระบุว่า ทุกคนจะต้องเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัยได้ภายในปี 2030
.
แต่สถานการณ์ทั่วโลกในตอนนี้กลับไม่ได้เปลี่ยนไปในมุมนั้น
.
เมื่อวานนี้ (16 มีนาคม) สถาบันการวิจัยด้านน้ำของ UN (UNU Institute for Water, Environment and Health) มีรายงานว่า ในปี 2020 ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดเติบโตขึ้นถึง 73% จากเมื่อปี 2010 และคาดว่าการบริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดกําลังเพิ่มขึ้นจากประมาณ 350 พันล้านลิตรในปี 2021 เป็น 460 พันล้านลิตรภายในปี 2030
.
โดย UN ระบุว่า การที่ประชาชนต้องบริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดเพิ่มขึ้น กำลังสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาลในการปรับปรุงแหล่งน้ำสาธารณะ
.
ในรายงานฉบับดังกล่าว ยังคงมีตัวเลขที่น่าสนใจคือ ในปี 2021 ประเทศสิงคโปร์ มีผู้บริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดต่อหัวมากที่สุดในโลก โดยอยู่ที่คนละ 1,129 ลิตร ส่วนอันดับ 2 คือประเทศออสเตรเลีย ที่มีราคาน้ำดื่มบรรจุขวดแพงที่สุดในโลก โดยอยู่ที่คนละ 504 ลิตร นอกจากนี้ แม้แต่ในอเมริกา ประชาชนกว่า 1 ใน 3 ก็ยังซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดเป็นหลัก
.
ทั้งนี้ UN ก็คาดว่ามีประชาชนอีกประมาณ 2.2 พันล้านคนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัยได้ โดยตั้งแต่ปี 2016-2020 มีจำนวนผู้ที่เข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเพียง 4% เท่านั้น
.
อย่างไรก็ดี วลาดิมีร์ สมาคติน (Vladimir Smakhtin) ผู้ร่วมศึกษาในรายงานดังกล่าว ยังมองว่าน้ำดื่มบรรจุขวดเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา และยังได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่าน้ำดื่มในที่สาธารณะและน้ำประปาภายในบ้าน รวมไปถึง เขายังสังเกตเห็นว่ารัฐบาลมักปล่อยให้หน้าที่การจัดหาน้ำดื่มที่ปลอดภัย ตกไปอยู่แก่ภาคเอกชนมากเกินไปอีกด้วย
.
นอกจากการที่ตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดเติบโตขึ้น จะสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการจัดหาแหล่งน้ำสะอาดให้ประชาชนแล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังคงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกเช่นกัน
.
นั่นก็เป็นเพราะ ในปี 2021 อุตสาหกรรมนี้ผลิตขวดพลาสติกได้ทั้งสิ้น 6 แสนล้านขวด โดย 85% ของพลาสติกเหล่านี้ มีแนวโน้มที่จะลงเอยด้วยการถูกฝังในดิน
.
ไซเนบ บูห์ล (Zeineb Bouhlel) ผู้เขียนร่วมศึกษาในรายงานยังมีความเห็นว่า ในขณะที่ซีกโลกเหนือตระหนักถึงปัญหาขวดพลาสติกมากขึ้น แต่ตัวเลขน้ำของดื่มบรรจุขวดที่เติบโตขึ้นกลับไม่ได้แสดงให้เห็นแบบนั้น [ว่าคนจะเลิกใช้ขวดพลาสติก] เพราะสุดท้าย แคมเปญของบริษัทต่างๆ ก็ยังมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของคนทั่วไปว่าน้ำดื่มบรรจุขวดเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
.
ทั้งนี้ ยังมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า พลาสติกที่จะเข้าไปอยู่ในมหาสมุทร อาจเพิ่มขึ้นเกือบ 3เท่าภายในปี 2040 หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการตรวจสอบ
.
.
.
อ้างอิงจาก

https://www.reuters.com/business/en...safe-drinking-water-goal-is-under-2023-03-16/

https://www.usnews.com/news/world/a...ater-goal-is-under-threat-says-u-n-think-tank

https://www.theguardian.com/austral...ttled-water-despite-paying-the-highest-prices

#น้ำดื่ม #ขวดพลาสติก #UN #TheMATTER

 

UPDATE: อย. ย้ำ อย่านำยาทาเล็บไปใช้ทาฟัน มีสารเคมีหลายชนิดห้ามเข้าปากหรือกลืน
.
วันนี้ (18 มีนาคม) จากกรณีสื่อออนไลน์นำเสนอข่าวมีผู้นำยาทาเล็บมาทาฟันให้ฟันขาว ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ชี้แจงว่า ยาทาเล็บมีส่วนประกอบของสารที่ทำให้เกิดฟิล์ม สารให้ความยืดหยุ่น ตัวทำละลาย สี และสารต้านการเกิดฟอง เป็นสารเคมีสำหรับใช้ภายนอกร่างกาย
.
การใช้ทาเล็บแล้วปล่อยให้สีแห้งสนิทก่อนหยิบจับอาหารหรือใช้ชีวิตประจำวันสามารถกระทำได้ไม่เกิดอันตราย แต่หากใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น นำมาทาฟัน สารเคมีจะถูกดูดซึมเข้าทางเยื่อบุช่องปากที่สามารถดูดซึมสารเคมีได้ดีกว่าเล็บ จึงทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้หากใช้ผิดวิธี
.
ภก.วีระชัยกล่าวต่ออีกว่า การเลือกซื้อยาทาเล็บให้สังเกตฉลากบนบรรจุภัณฑ์ ต้องแสดงเลขที่ใบรับจดแจ้ง ชื่อเครื่องสำอาง ชื่อทางการค้า ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีใช้ คำเตือน ชื่อ ที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ปริมาณสุทธิ ครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ
.
ทั้งนี้ ยาทาเล็บที่ไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่ระบุผู้ผลิต อาจมีส่วนผสมของสารอันตราย เช่น ไดบิวทิลฟทาเลต (Dibutyl Phthalate) หรือสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่ปัจจุบันถูกกำหนดเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางแล้ว เนื่องจากเป็นสารก่อมะเร็ง สารก่อการกลายพันธุ์ และสารที่มีพิษต่อระบบสืบพันธุ์ (CMR Substances)
.
หากผู้บริโภคมีข้อสงสัยเรื่องความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือพบผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าผิดกฎหมาย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน LINE @FDAThai, Facebook: FDAThai
.
#TheStandardNews

 

ผ้าเช็ดตัว ใช้กี่วันถึงจะซัก? ยิ่งอับชื้นยิ่งเสี่ยงต่อเชื้อโรค
.
ศาสตราจารย์ Philip Tierno นักจุลชีววิทยาจาก New York school of Medicine ได้กล่าวว่า “เราสามารถใช้ผ้าเช็ดตัวติดต่อกันได้สูงสุดไม่เกิน 3 ครั้ง” คิดดูว่าถ้าเราใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนานติดต่อกันเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนๆ เชื้อโรคจะสะสมมากมายขนาดไหน แถมบางคนเผลอใช้เช็ดหน้าเช็ดตาอีก
.
การใช้ผ้าเช็ดตัวแต่ละครั้งจะมีเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเหล่านั้นสะสมอยู่ ทั้งเชื้อรา ปัสสาวะ เศษอุจจาระ รวมถึงแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของเรา ยิ่งผ้าเช็ดตัวเปียกมากเท่าไร ยิ่งสะสมเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ ก็เติบโตได้ดีมากขึ้นเท่านั้น เสี่ยงต่อโรคผิวหนังเสี่ยงต่อเชื้อแบคทีเรียโคลิฟอร์ม อันเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง ดังนั้นเราจึงไม่ควรใช้ผ้าขนหนูชื้นๆ ที่สำคัญไม่ควรตากผ้าขนหนูไว้ในห้องน้ำเพราะเป็นห้องที่อับชื้น ไม่มีอากาศถ่ายเท จะทำให้เชื้อแบคทีเรียขยายตัวได้เร็วขึ้น
.
การทำความสะอาดผ้าเช็ดตัวที่ถูกสุขอนามัย
https://mono29.com/life/health/398636.html

 

เวียดนามงัดศักยภาพ ‘พลังงานลมนอกชายฝั่ง’ ผลิตไฟฟ้ารักษ์โลก

สำนักข่าวเวียดนาม รายงานว่าเวียดนามกำลังพัฒนากรอบข้อบังคับสำหรับการใช้งานพลังงานลมนอกชายฝั่ง ขณะเริ่มดำเนินการตามแผนงานที่มุ่งลดการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

ธนาคารโลกระบุว่าเวียดนามมีศักยภาพด้านพลังงานลมนอกชายฝั่ง เนื่องจากมีกระแสลมแรงและน่านน้ำค่อนข้างตื้นใกล้กับพื้นที่ที่ประชากรอาศัยอยู่ โดยมีการประเมินว่าอุตสาหกรรมนี้จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้สุงสุดเกือบร้อยละ 30 ของการผลิตไฟฟ้าของเวียดนามภายในปี 2050

ร่างแผนการพัฒนาพลังงานฉบับล่าสุดระบุว่าเวียดนามกำหนดเป้าหมายผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่ง 7 กิกะวัตต์ และจากพลังงานลมบนบก 16.12 กิกะวัตต์ ภายในปี 2030 เพราะมองว่าพลังงานลมเป็นแนวทางที่จะช่วยเร่งการใช้งานพลังงานหมุนเวียน และรับรองความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

ทั้งนี้ เวียดนามมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมของพลังงานหมุนเวียนแตะ 20.7 กิกะวัตต์ เมื่อนับถึงสิ้นปี 2021 ซึ่งคิดเป็นกว่าร้อยละ 27 ของกำลังการผลิตติดตั้งรวมของระบบไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งพลังงานลมนอกชายฝั่งเป็น 64.5 กิกะวัตต์ ภายในปี 2045

#เวียดนาม #พลังงานลมนอกชายฝั่ง #ไฟฟ้ารักษ์โลก #ข่าว #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29