ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    สหรัฐฯ เผยเกาหลีเหนือลงโทษ “จำคุกตลอดชีวิต” เด็กอายุเพียง 2 ขวบ หลังไปค้นเจอว่าพ่อแม่ของเขามี “คัมภีร์ไบเบิล” อยู่ในครอบครอง
    .
    รายงาน International Religious Freedom Report ประจำปี 2022 ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประเมินว่าน่าจะมีชาวคริสต์ถูกจำคุกในเกาหลีเหนือมากถึง 70,000 คน บ่งชี้ให้เห็นว่าระบอบ คิม จองอึน ยังคงใช้มาตรการลงโทษที่ป่าเถื่อนกับกลุ่มผู้นับถือศาสนาต่างๆ
    .
    มาตรการจำกัดการเดินทางในช่วงโควิด-19 ทำให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องทำงานร่วมกับเอ็นจีโอ องค์กรสิทธิมนุษยชน และยูเอ็น เพื่อสรุปยืนยันข้อกล่าวอ้างเกี่ยวกับการล่วงละเมิดเหล่านี้
    .
    การครอบครองคัมภีร์ไบเบิลในเกาหลีเหนือนั้นอาจมีโทษถึงประหาร ขณะที่ครอบครัวของผู้กระทำความผิด แม้กระทั่งเด็กเล็กๆ ก็จะพลอยมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต
    .
    รายงานได้อ้างถึงกรณีพ่อแม่ชาวโสมแดงซึ่งถูกจำคุกตลอดชีวิตพร้อมลูกวัย 2 ขวบเมื่อปี 2009 ในความผิดฐานทำกิจกรรมทางศาสนา และครอบครองพระคัมภีร์ไบเบิล
    .
    “สิทธิที่จะมีเสรีภาพทางความคิด ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และการมีศาสนา ยังคงถูกปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีระบบความเชื่อทางเลือกใดๆ ที่รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับ” อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุเมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว
    .
    กูเตียร์เรส ได้เขียนเล่าถึงสถานการณ์ในเกาหลีเหนือว่า “ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย” นับตั้งแต่มีการเผยแพร่รายงานด้านสิทธิมนุษยชนครั้งล่าสุดเมื่อปี 2014 ซึ่งพบว่าทางการเกาหลีเหนือ “ปฏิเสธเสรีภาพในทางความคิด ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และการมีศาสนา” และยังพบว่ารัฐบาลโสมแดงกระทำการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
    .
    รายงานฉบับนี้ยังอ้างว่า รัฐบาลเปียงยางยังคงมีการ “ประหารชีวิต ทรมาน จับกุม และทำร้ายร่างกายประชาชนที่ถูกพบว่าทำกิจกรรมทางศาสนา”
    .
    ชาวคริสต์ส่วนใหญ่เล่าว่า สภาพความเป็นอยู่ภายในค่ายกักกันของเกาหลีเหนือนั้น “ยากลำบากมาก” และผู้ที่ถูกคุมขังมักตกเป็นเหยื่อ “การล่วงละเมิดทางกายหลากหลายรูปแบบ”
    .
    เจ้าหน้าที่ระบุว่า แม้จะมีสถาบันทางศาสนาที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องอยู่บ้างในเกาหลีเหนือ รวมถึงโบสถ์หลายแห่ง ทว่าองค์กรเหล่านี้ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยรัฐ และมีหน้าที่หลักแค่เอาไว้ “โชว์” นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
    .
    เมื่อเดือน ต.ค. ปี 2021 กลุ่มเอ็นจีโอ Korea Future ได้เผยแพร่รายงานว่าด้วยการละเมิดเสรีภาพทางศาสนาในเกาหลีเหนือ โดยได้สัมภาษณ์เหยื่อทั้งหมด 244 ราย แบ่งออกเป็นผู้นับถือพ่อมดหมอผี (Shamanism) 150 ราย, ชาวคริสต์ 91 ราย, ลัทธิชอนโด (Cheondoism) 1 ราย และความเชื่ออื่นๆ อีก 1 ราย
    .
    เหยื่อเหล่านี้มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบจนถึง 80 ปี และเป็นผู้หญิงและเด็กมากกว่า 70%
    .
    ที่มา: New York Post

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    จีนปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ขอให้จัดการประชุมหารือระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของทั้ง 2 ฝ่ายระหว่างการประชุมด้านความมั่นคงที่สิงคโปร์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สะท้อนสัมพันธ์อันมึนตึงระหว่าง 2 มหาอำนาจ
    .
    หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลอ้างคำแถลงจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า “เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้แจ้งมายังสหรัฐฯ ว่า พวกเขาขอปฏิเสธคำเชิญให้รัฐมนตรีกลาโหม (ลอยด์) ออสติน พบกับรัฐมนตรีกลาโหม หลี่ ช่างฝู (Li Shangfu 李尚福) ที่สิงคโปร์”
    .
    เพนตากอนย้ำว่า สหรัฐฯ ยังคงเชื่อมั่นว่าการสื่อสารอย่างเปิดกว้าง “จะช่วยให้การแข่งขันไม่บานปลายกลายเป็นความขัดแย้ง”
    .
    จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กระทรวงกลาโหมอยู่ระหว่างนัดหมายให้ ออสติน ได้พบปะกับ หลี่ ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของจีนเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
    .
    ความเป็นไปได้ในการพบกันระหว่างบิ๊กกลาโหมของทั้ง 2 ชาติในการประชุมด้านความมั่นคง แชงกรี-ลา ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue) ซึ่งจะจัดขึ้นที่สิงคโปร์ระหว่างวันที่ 2-4 มิ.ย. เป็นที่จับตามองอย่างมาก ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคและข้อพิพาทการค้าซึ่งทำให้จีนและสหรัฐฯ แทบจะมองหน้ากันไม่ติด
    .
    สัปดาห์ที่แล้ว จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้หยิบยกปัญหาด้านการค้า การลงทุน และนโยบายส่งออก ขึ้นมาหารือกับ หวัง เหวินเทา รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีนที่วอชิงตัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีหนแรกของทั้ง 2 ชาติในรอบหลายเดือน
    .
    เอียน สตอเรย์ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงในสิงคโปร์ มองว่าการที่จีนปฏิเสธไม่ยอมพูดคุยกับ ออสติน ไม่ใช่สัญญาณที่ดีนัก
    .
    “ในห้วงเวลาที่ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ การที่ พล.อ. หลี่ ปฏิเสธไม่ยอมพบกับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะยิ่งสร้างความระส่ำระสายในภูมิภาคมากขึ้น” สตอเรย์ กล่าว
    .
    เจ้าหน้าที่จีนยังไม่ออกมาอธิบายถึงเหตุผลที่ หลี่ ปฏิเสธการพบปะ แต่นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงบางคนเชื่อว่า น่าจะเป็นเพราะปักกิ่งยังตะขิดตะขวงใจเรื่องที่สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำนายพลผู้นี้
    .
    พล.อ. หลี่ ช่างฝู ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการยกระดับพัฒนากองทัพจีนสู่ความทันสมัย ถูกสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรมาตั้งแต่ปี 2018 จากกรณีการสั่งซื้อเครื่องบินโจมตีและเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ จากบริษัท Rosoboronexport ผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ของรัสเซีย
    .
    หลี่ ยังเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลางของจีน หน่วยงานสูงสุดด้านกลาโหมซึ่งมีประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นผู้บัญชาการใหญ่
    .
    ที่มา: รอยเตอร์

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    ศาลชั้นต้นในจังหวัดนาโกยาของญี่ปุ่นมีคำพิพากษาวันนี้ (30 พ.ค.) ว่าการไม่อนุญาตให้คนเพศเดียวกันจดทะเบียนสมรสเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่นักเคลื่อนไหวชี้ว่าเป็นก้าวสำคัญสำหรับญี่ปุ่นซึ่งเป็นชาติเดียวในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ที่ยังคงไม่มีกฎหมายคุ้มครองการสมรสเพศเดียวกัน
    .
    คำพิพากษาของศาลแขวงนาโกยาถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ระบบศาลของญี่ปุ่นได้ตัดสินให้การแบนสมรสเพศเดียวกันขัดรัฐธรรมนูญ จากที่มีการไต่สวนกันมาทั้งหมด 4 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
    .
    ปัจจุบันรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นยังคงให้นิยามการสมรสว่าหมายถึงการแต่งงานระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงเท่านั้น
    .
    “คำพิพากษานี้ช่วยเราให้พ้นจากความเจ็บปวด หลังจากที่ศาลอ้างเมื่อปีที่แล้วว่าการแบนไม่ได้ผิดอะไร และความเจ็บปวดจากสิ่งที่รัฐบาลแถลงมาโดยตลอด” โยโกะ มิซูชิมะ หัวหน้าทีมทนายความ ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ด้านนอกศาล โดยอ้างไปถึงคำตัดสินของศาลโอซากาเมื่อปีที่แล้วที่ยืนยันว่าการแบนสมรสเพศเดียวกัน “ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ” แต่อย่างใด
    .
    ต่อมาศาลกรุงโตเกียวก็ได้ประกาศ “ยืน” คำตัดสินแบนสมรสเพศเดียวกัน แต่ยอมรับว่าการที่ญี่ปุ่นยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองคู่รักเพศเดียวกันถือว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนของพวกเขา
    .
    แม้ผลสำรวจความคิดเห็นจะพบว่าคนญี่ปุ่นราว 70% สนับสนุนสมรสเพศเดียวกัน แต่พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ยังคงคัดค้านการแก้กฎหมายเพื่อยอมรับเรื่องนี้
    .
    เมื่อเดือน ก.พ. คิชิดะ ได้สั่งปลดผู้ช่วยรายหนึ่งที่ออกมาพูดว่า “คนจะหนีออกจากญี่ปุ่นกันหมด หากสมรสเท่าเทียมเป็นที่อนุญาต” กระนั้นก็ตาม ผู้นำญี่ปุ่นยังปฏิเสธที่จะแสดงจุดยืนชัดเจนในเรื่องนี้ และกล่าวว่าถกเถียงอภิปรายควรดำเนินไปอย่าง “ระมัดระวัง”
    .
    ปัจจุบันเทศบาลกว่า 300 แห่งในญี่ปุ่น ซึ่งครอบคลุมประชากรราว 65% เริ่มมีการอนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันทำข้อตกลงเป็นคู่ชีวิตกันได้ (partnership agreements) แต่ยังคงมีสิทธิที่จำกัด เช่น ไม่สามารถรับมรดกของกันและกัน ไม่ได้สิทธิในการเป็นผู้ปกครองบุตรของอีกฝ่าย ส่วนสิทธิในการเข้าเยี่ยมที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้รับการการันตี
    .
    ที่มา: รอยเตอร์

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    การครองอิทธิพลของดอลลาร์ในการค้าและระบบการเงินโลก จะคงอยู่ต่อไปอีกหลายทศวรรษ แม้เผชิญการท้าทายต่งๆนานา เนื่องจากในเวลานี้ยังไม่มีทางเลือกอื่นที่พอจะใช้การได้ จากความคิดเห็นของบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส์ เซอร์วิส

    "เราคาดหมายว่าระบบสกุลเงินหลายขั้วโผล่ขึ้นมาเพิ่มเติมในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า แต่มันจะนำโดยดอลลาร์อยู่ดี เพราะว่าผู้ท้าทายเหล่านั้นจะประสบปัญหาในการเลียนแบบขนาดและความปลอดภัยของมัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนได้อย่างคล่องตัว" พวกนักวิเคราะห์ของมูดีส์ ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    อย่างไรก็ตาม มูดีส์ อินเวสเตอร์ส์ เซอร์วิส ยอมรับว่าประเด็นธนาคารกลางประเทศต่างๆ ลดสัดส่วนการถือครองดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศ จนแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่คุกคามการครองโลกของดอลลาร์

    จากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่งประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) พบว่าสัดส่วนของดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศ ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี เหลือ 58% ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2022 ลดลงจากระดับราวๆ 78 % ครั้งที่เข้าสู่ศตวรรษปัจจุบัน

    "อันตรายใหญ่หลวงที่สุดในระยะสั้น ที่มีต่อสถานะของดอลาร์ มีบ่อเกิดมาจากความเสี่ยงความผิดพลาดทางนโยบายที่กัดเซาะความเชื่อมั่น จากตัวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเอง ยกตัวอย่างการผิดนัดชำระหนี้ของอเมริกา" มูดีส์ อินเวสเตอร์ส์ เซอร์วิส ระบุในรายงานซึ่งเผยแพร่ออกมาก่อนทำเนียบขาวและสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ "สถาบันต่างๆที่กำลังอ่อนแอลงและการปักหมุดทางการเมืองเพื่อกีดกันทางการค้า คุกคามบทบาทระดับโลกของดอลลาร์"

    รายงานฉบับนี้เน้นว่าแม้ภาวะผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว แต่มันจะกระทบถาวรต่อการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เคยถูกมองในฐานะสินทรัพย์ปราศจากความเสี่ยง

    เมื่อวันเสาร์(27พ.ค.) ทำเนียบขาวและรีพับลิกัน ในท้ายที่สุดก็บรรลุข้อตกลงในหลักการ สำหรับขยายเพดานหนี้ออกไป 2 ปี พร้อมกับปรับลดการใช้จ่ายของรัฐบาลลงบางอย่างในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะจากการผิดนัดชำระหนี้มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ของประเทศ

    ทั้งสองฝ่ายติดอยู่ในทางตันมานานหลายเดือนเกี่ยวกับบางประเด็นในข้อตกลง ก่อความกังวลว่าตลาดโลกอาจพังครืน อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน บรรลุข้อตกลงงบประมาณกับ เควิน แมคคาร์ที ประธานสภาผู้แทนราษฏสหรัฐฯ ในการขยายหรือระงับเพดานหนี้ปัจจุบันที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2025 และข้อตกลงดังกล่าวพร้อมเข้าสู่สภาคองเกรสเพื่อทำการลงมติแล้ว

    (ที่มา:อาร์ทีนิวส์)
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    เรื่องจริงจากหนัง Saving Private Ryan ครบรอบ 25 ปี

    ภาพยนตร์เรื่องSaving Private Ryan ฝ่าสมรภูมินรกมาแล้ว ซึ่งเป็นภาพยนตร์ระดับตำนานที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องไรอัน 4 คน ซึ่งเป็นทหารด้วยกันทั้งหมด แต่น้องคนสุดท้องนั้นกลับถูกตามหาในแนวหลังข้าศึกโดยทีมของร้อยเอกมิลเลอร์ เพราะพี่ชายทั้งสามคนเสียชีวิตหมดแล้ว ซึ่งถูกรังสรรค์โดยพ่อมดแห่งฮอลลิวูด สตีเวน สปีลเบิร์ก เป็นผลงานที่ไม่มีวันตายโดยแท้จริง

    แต่หลายท่านอาจยังไม่เคยรู้ว่า เหตุการณ์ในภาพยนตร์นั้นได้รับแรงบัลดาลใจจากเรื่องจริงของ4 พี่น้องชาวไอริชจากนิวยอค

    นั่นคือพี่น้องตะกูลนิแลนด์ ซึ่งประกอบด้วย

    1.) สิบเอกด้านเทคนิค เอ็ดเวริด นิแลนด์ ผู้เป็นพี่ชายคนโต เขาประจำการอยู่ในกองทัพอากาศ ฝูงบินที่434 แห่งกองทัพบกสหรัฐ ซึ่งเป็นลูกเรือเครื่องB-25 ปฏิบัติหน้าที่ในพม่า

    2.) ร้อยตรีเพิสตัน นิแลนด์ พี่ชายคนรอง ประจำการอยู่ในกรมทหารราบที่ 22 แห่งกองพลทหารราบที่ 4

    3.) สิบเอกโรเบิร์ต บ๊อบ นิแลนด์ ประจำการอยู่ในกรมพลร่มที่ 505 แห่งกองพลพลร่มที่ 82 และคนสุดท้าย

    4.) ฟริดิกค์ (ฟริทซ์) นิแลนด์ สิบเอกประจำการกองร้อยH ของกรมพลร่มที่ 501 แห่งกองพลพลร่มที่ 101ในตำนานนั่นเอง นอกจากนี้ ฟริทซ์ยังเป็นเพื่อนคนสนิทของโดนัล มาลาคีย์ และสคิป มัค อีกด้วย

    ซึ่งพี่น้อง 3 คนหลัง ทั้งฟริทซ์ บ๊อบ และเพิสตัน ต่างร่วมปฎิบัติการโอเวอร์ลอร์ดพร้อมกันในวันที่ 6 มิถุนายน 1944 ส่วนเอ็ดเวริด พี่คนโต ถูกยิงตกในพม่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว โดยไม่รู้ถึงชะตากรรม โดยพี่คนรอง เพิสตัน ถูกฆ่าในวันที่ 7 มิถุนายน 1944 รอบๆหาดยูทาร์ ส่วนบ๊อบ ถูกฆ่าในการรบที่ Neuville-au-Plain ในวันที่ 6 มิถุนายน ส่วนฟริทซ์ ยังคงรบต่อไปอีกหลายวันหลังจากD-DAY จนเขาไปพบเข้ากับกองพลที่ 82 จึงคิดจะไปหาพี่ชาย แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงอันแสนปวดร้าวว่า บ๊อบกับเพิสตันถูกฆ่าไปเมื่อหลายวันก่อนแล้วทางกองทัพสหรัฐรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว จึงส่งฟริทซ์กลับไปยังอังกฤษ เพื่อให้เป็นบุตรชายแม้จะคนเดียวก็ตามในครอบครัวนิแลนด์ แต่เขาก็ยังคงรับราชการต่อไป

    ในฐานะสารวัตรทหารในอังกฤษ และถูกส่งกลับไปยังบ้านของตนที่นิวยอค จนกระทั่งจบสงคราม และได้รับเหรียญบรอนซ์สตาร์ ในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ฟริทซ์ก็ได้รับข่าวดี ว่าพี่ชายคนโต เอ็ดเวริดยังไม่ตาย หลังจากเขาโดดร่มลงในป่าในพม่าจนถูกทหารญี่ปุ่นจับเป็นเชลยในญี่ปุ่น จนเขาได้รับอิสรภาพในวันที่ 4 เดือนพฤษภาคม 1945 และกลับไปยังนิวยอคเพื่อไปพบกับน้องชายและครอบครัวของเขา ฟริทซ์ เสียชีวิตอย่างสงบในปี 1983 ในวัย 63 ปี ที่ซรานฟานซิสโก ตามด้วยเอ็ดเวริด ในปีถัดมาในวัย 72 ปี เรื่องราวของพี่น้อง 4 คนนี้น่าจะจบตั้งแต่จุดนั้น จนกระทั่งสตีเวน สปีลเบิร์ก นำเรื่องราวของทั้ง 4 มาดัดแปลงให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ในเรื่อง Saving Private Ryan โดยนำนักแสดง อย่างแมท เดม่อน มาแสดงเป็น เจม ไรอัน ตัวละครผู้สวมบทเป็นฟริทซ์นั่นเอง ซึ่งบทบาทนี้ ทำให้แมทโด่งดังเป็นพลุแตกในช่วงที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย

    ที่มา:soccersuck
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    พระธาตุตาดทองและนิทานก่องข้าวน้อยฆ่าแม่

    ประวัติของการสร้างธาตุแห่งนี้แตกต่างไปจากธาตุอื่น ๆ ที่มักเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา โดยเป็นนิทานพื้นบ้านเล่าว่า มีชายหนุ่มชาวนา (บ้างว่าชื่อ ทอง) ที่ได้ทำนาทั้งชีวิต วันหนึ่งเขาออกไปไถนา ในเวลาเที่ยงเขาเหนื่อยล้า รู้สึกเกิดอาการร้อนรนและหิวโซ มารดาของหนุ่มชาวนามาส่งข้าว แต่มาช้ากว่าเวลาปกติ ชายหนุ่มเห็นว่าก่องข้าวที่มารดาถือมาให้นั้นก่องเล็กมาก เขาโกรธมารดามาก จึงทำร้ายมารดาด้วยความหิวแลโมโห จึงเอาคันไถนาฟาดไปที่มารดา จนมารดาล้มและเสียชีวิต หลังจากนั้นเขากินข้าวที่มารดานำมาให้ แต่ก็กินเท่าไรข้าวก่องน้อยนั้นก็ไม่หมดก่อง ลูกชายเริ่มได้สติ หันมาเห็นมารดานอนเสียชีวิตบนพื้น จึงรู้สึกเสียใจมากที่ได้ทำผิดไป จึงได้สร้างธาตุก่องข้าวน้อยแห่งนี้ขึ้นมาด้วยมือเพื่อชดใช้บาปกรรม

    พระธาตุตาดทอง หรือ พระธาตุถาดทอง หรือที่นิยมเรียกกันว่า ธาตุก่องข้าวน้อย ตั้งอยู่ในกลางทุ่งนาของบ้านตาดทอง ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 9 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 23 (สายยโสธร-อุบลราชธานี) กิโลเมตรที่ 194 เลี้ยวซ้ายไปอีก 1 กิโลเมตร

    บ้านตาดทองเป็นชุมชนโบราณตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงสมัยทวาราวดี ตามตำนานอุรังคนิทาน (พระธาตุพนม) มีข้อความว่า ชาวสะเดาตาดทองได้นำของมาช่วย พบหลักฐานการอยู่อาศัยเป็นแหล่งฝังศพและมีเศษภาชนะแบบที่พบในทุ่งกุลาร้องไห้ มีเนินดินขนาดราว ๕๐๐ X ๖๕๐ เมตรรูปวงรี มีคูน้ำล้อมรอบ แต่ปัจจุบันทางหลวงตัดผ่านกลางเนิน จนแบ่งออกเป็นสองฟากและมีบ้านเรือนตั้งอยู่หนาแน่น
    พระธาตุตาดทองจากรูปแบบสถาปัตยกรรมสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 24 และอาจจะมีความเกี่ยวเนื่องกับนิทานพื้นบ้านเล่าสืบกันมาว่า เมื่อผู้คนในแถบอำเภอรัตนบุรีทราบข่าวการบูรณะพระธาตุพนม จึงพร้อมใจกันรวบรวมวัตถุมงคลสิ่งมีค่าเพื่อนำไปบรรจุไว้ในพระธาตุพนม แต่เมื่อเดินทางถึงบ้านตาดทองได้พบกับชาวบ้านสะเดา ตำบลตาดทอง ที่ไปช่วยบูรณะพระธาตุเดินทางกลับมาบ้านเพราะการบูรณะพระธาตุพนมได้เสร็จสิ้นแล้ว ผู้คนเหล่านั้นจึงพร้อมใจกันสร้างเจดีย์บรรจุของมีค่าที่ตนนำมา ชาวบ้านสะเดาจึงนำถาดทองที่ใช้อัญเชิญของมีค่านำไปบรรจุในพระธาตุพนม มารองรับของมีค่าที่ชาวอำเภอรัตนบุรีที่จะนำไปบรรจุไว้ในเจดีย์ที่กำลังสร้าง จึงเรียก พระธาตุตาดทอง หรือ พระธาตุถาดทอง

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    ประวัติเพลงอมตะ "น้ำตาแสงไต้"

    อันเป็นที่รู้จักันอย่างกว้างขวาง แพร่หลายมานานหลายสิบปี

    ครูสง่า อารัมภีร เล่าถึงความเป็นมาของเพลงน้ำตาแสงไต้ นี้ไว้อย่างน่าสนใจยิ่งว่า

    "ผมจำได้แม่นยำว่า "วันนั้น" ในราวเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2487 ศิวารมณ์กำลังซ้อมละครเรื่องพันท้ายนรสิงห์อยู่ที่ห้องครูเล็กศาลาเฉลิมกรุง ดูเหมือนจะเข้าโปรแกรมวันที่ 10 พฤศจิกายน เราซ้อมกันอย่างหนักเพราะเป็นสมัยที่เริ่มงานกันใหม่ๆ กำลังฟิต

    สุรสิทธิ์ จก สมพงษ์ และทุกๆ คนมาซ้อมตั้งแต่เช้าจรดเย็นทุกวัน

    เนรมิต มารุต สมัยโน้น เข้าคู่กันคร่ำเครียดกับบท และวางคาแร็กเตอร์ตัวละครเป็นการใหญ่ นาฏศิลป์ก็ซ้อมกันไป นักร้องก็ร้องกันไป เสียงแซดไปทั่วห้องเล็กเฉลิมกรุงตั้งแต่ 9 น. ถึง 15.30 น. ทุกวัน

    ตอนนั้นผมมีหน้าที่แต่เพียงดีดเปียโนสำหรับนาฎศิลป์เขาซ้อมและต่อเพลงนักร้องเท่านั้น ผู้แต่งเพลงศิวารมณ์คือ ประกิจ วาทยกร และ โพธิ์ ชูประดิษฐ์ ผมเป็นนักดนตรีใหม่ๆ ยังไม่ถึงปีเลย เพลงก็ยังแต่งกับเขายังไม่เป็น และไม่เคยคิดว่าจะแต่งกับเขาได้ยังไง ได้แต่ดูเขาแต่งเท่านั้น วันหนึ่งๆ ก็ได้แต่ดีดีดเปียโนจนเมื่อยนิ้วไปหมด..."

    เหตุการณ์ต่อมาก็คือเพลงเอกของเรื่องยังแต่งไม่เสร็จ แม้ครูเพลงทั้งสองจะแต่งมาให้แล้ว แต่เจ้าของเรื่องและผู้กำกับยังไม่พอใจ เพราะต้องการให้เพลงนั้นมีท่วงทำนองแบบไทยๆ หวานเย็นและเศร้า โดยที่ทำนองเพลงของครูประกิจออกไปทางฝรั่ง ส่วนของครูโพธิ์ก็เป็นไทยครึ่ง ฝรั่งครึ่ง ทุกคนต่างพากันอึดอัด เพราะเรกงว่าจะเสร็จไม่ทันวันเปิดการแสดง

    เย็นวันนั้นครูสง่า อารัมภีร ก็ไปนั่งดื่มเหล้ากับครูเวทางค์ที่ร้านโว่กี่ตรงข้ามศาลาเฉลิมกรุงและก็ปรารถถึงการแต่งเพลงน้ำตาแสงไต้ ซึ่งเป็นเพลงเอกในละครเรื่องพันท้ายนรสิงห์ที่ยังค้างคาอยู่ไม่แล้วเสร็จ

    ครูทองอินหรือเวทางค์ ก็บอกว่า
    "เพลงไทยนั้นมีแยะ แต่ไอ้รสหวานเย็นและเศร้าที่หง่าว่ามันมีน้อย ที่อั๊วชอบมากและรู้สึกหวานเย็นเศร้าก็เห็นจะมีแต่ เขมรไทรโยค และลาวครวญเท่านั้น"

    เมื่อพูดขาดคำ ครูเวทางค์ก็ร้องให้ฟัง เสียงดังลั่นร้านว่า
    "ร้อยชู้หรือจะสู้เนื้อเมียตน เมียร้อยคนหรือจะสู้พระแม่ได้..."

    ร้องไม่ทันจบก็ขึ้นเพลงใหม่
    "เสียงนกยูงทอง มันร้องโด่งดัง หูเราฟัง หูเราฟัง..." ทันที จนคนในร้านพากันขำ หัวร่อกันทุกคน

    ซึ่งคืนนั้นครูสง่า อารัมภีร เล่าว่า ตนเองได้ข้ามฟากมานอนที่เก้าอี้ยาวของแผนกฉาก แล้วหลับฝันไปว่า

    "...มีคนอยู่ 4 เป็นชาย 3 หญิง 1 แต่งกายแปลกมากเหมือนนักรบไทยโบราณ เขาถอดหมวกวางไว้บนเปียโน คนเล่นเปียโนผิวค่อนข้างขาว หน้าตาคมคาย อีกคนหนึ่งผิวคล้ำ นั่งอยู่ทางขวาของเปียโน คนที่ 3 อายุมากกว่า 2 คนแรก ผมหงอกประปราย ท่าทางเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ หน้าตาอิ่มเอิบ ปล่อยผมยาวปรกบ่า กำลังเอามือท้าวเปียโนอยู่ด้านซ้าย..."

    ในความฝันนั้นครูสง่า อารัมภีร เล่าว่า ชายคนแรกที่ชื่อเทพ เล่นเปียโนเพลงเขมรไทรโยค ส่วนผู้หญิงที่ชื่อธิดานั้น เล่นเพลงลาวครวญ และชายผิวคล้ำคนที่สามที่ชื่อว่า อมรนั้นนำเอาเพลงทั้งสองเพลงมาผสมกันอย่างไพเราะ และกลมกลืนกัน

    ครูสง่า อารัมภีร เขียนเล่าเอาไว้ว่า
    "...ท่านที่รัก เสียงที่ลอยมาจากเปียโนนั้น สำเนียงไทยแท้มีรส "หวานเย็นเศร้า"

    ศิษย์ทั้งสองของเขาจับมือกันอย่างเป็นสุข หน้าของผู้มีอายุยืนยิ้มละไม

    คุณครูอมรได้รวมวิญญาณของเขมรไทรโยคและลาวครวญ ให้เป็นเกลียวเขม็งเข้าหากันอย่างสนิทแนบ สำเนียงและวิญญาณถอดออกมาจากเพลงทั้งสองอย่างครบถ้วน โดยที่เพลงเดิมไม่ได้เสียหายอะไรแม้แต่น้อย ดูดุจสองวิญญาณเก่า เข้าเคล้ากันจนเกิดวิญญาณใหม่ที่สวยงามขึ้นอีกวิญญาณหนึ่ง..."

    เพราะเหตุที่ครูสง่า อารัมภีร เปงเป็นนักเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับผีๆ สางๆ และวิญญาณต่างๆ และมีแฟนติดตามอ่านกันมากมายหลายเรื่องถึงขนาดพิมพ์รวมเล่มในชื่อว่าหนังสือแจ๋วเจอผี โดยใช้นามปากกาว่า "แจ๋ว วรจักร" เช่นเรื่อง วิญญาณสุนทรภู่ แจ๋วเจอพี่เหม ฯลฯ การเขียนเล่าเรื่องในแนวแบบนี้จึงน่าอ่าน น่าติดตาม

    ครูสง่า อารัมภีร เล่าต่อไปอีกว่า

    "...บ่าย 3 โมงวันนั้น...เมื่อนาฎศิลป์และละครกลับกันไปแล้ว บนห้องเล็กเหลือ ผม เนรมิต มารุต สุรสิทธิ์

    เนรมิตและมารุตพากันบ่นถึงเพลงน้ำตาแสงไต้ว่า ทำนองที่คุณประกิจส่งมายังใช้ไม่ได้ ไม่ตรงกับความประสงค์ สุรสิทธิ์บ่นว่าเหลืออีก 3 วัน เดี๋ยวก็ร้องไม่ทันหรอก

    ผมนั่งฟังเขาสักครู่ ก็หันมาดีดเปียโน

    ท่านที่รัก ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกได้พานิ้วมือของผมบรรเลงๆ ไปตามอารมณ์ ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเพลงอะไร เพราะเคลิ้มๆ ยังไงพิกล ก็ได้ยิน เนรมิต ถามว่า

    "หง่า...นั่นเพลงอะไร?"

    ผมสะดุ้งพร้อมกับนึกขึ้นได้ และจำทำนองได้ทันทีว่าเป็นเพลงที่ครูอมรดีด เป็นเพลงที่ผมได้ฟังอย่างประหลาด ผมจำได้หมด

    ในบัดนั้น ผมหันไปถามเนรมิตว่า "เพราะหรือฮะ"

    เนรมิตพยักหน้า พลางบอกให้ผมเล่นใหม่ ผมก็บรรเลงอีกหนึ่งเที่ยว ทั้ง เนรมิต และมารุตก็พูดขึ้นว่า นี่แหละ "น้ำตาแสงไต้"

    ผมดีใจรีบจดโน้ตและประพันธ์คำร้องกันเดี๋ยวนั้น จากพล็อตขององค์ชายใหญ่เจ้าของเรื่อง มารุตเอ่ยขึ้น..."นวล เจ้าพี่เอย..." เนรมิตต่อ "คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ" แล้วก็ช่วยกันต่อ "ถ้อยคำดั่งเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย"

    พอจบประโยคแรก สุรสิทธิ์ก็ร้องเกลาทันที ร่วมกันสร้างจบคำร้องในราว 10 นาทีเท่านั้นเอง

    สุดท้ายเพลงก็ทันละครแสดง สมัยนั้นฉากสุดท้ายเมื่อทำนองน้ำตาแสงไต้พลิ้วขึ้น คนร้องไห้กันทั้งโรงแม้พันท้ายฯ จะสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็ยังใช้ "น้ำตาแสงไต้" เป็นเพลงเอกอยู่"

    เพลงผีบอก ที่มาของเพลง " น้ำตาแสงไต้ "
    คัดลอกมาจากหนังสือ เพลงผีบอก
    รวมเรื่องผีและที่มาของเพลง ..น้ำตาแสงไต้
    โดย ศิลปินแห่งชาติ สาขา ศิลปะการแสดงปี ๒๕๓๑ สง่า อารัมภีร
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    ทำไมปั๊มแบบจุ่ม Submersible Pump จึงเรียกว่า “ไดโว่”

    ปั๊มจุ่ม (Submersible pump) หรือ ไดโว่
    ซึ่งสรุปโดยรวมแล้วมันก็คือปั๊มน้ำประเภทเดียวกัน
    ทำหน้าที่สูบน้ำจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยการนำตัวปั๊มลงไปจุ่มไว้ในน้ำ
    ในขณะใช้งาน จนมีอีกชื่อหนึ่งว่า ปั๊มจุ่มหรือปั๊มน้ำแบบจุ่ม ส่วนคำว่า ไดโว่
    น่าจะเป็นคำที่ทางช่างส่วนใหญ่ใช้เรียก ปั๊มน้ำประเภทนี้ ( ไดโว่ เคยมีคนสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากแบรนด์ Divo ของ ปั๊มจุ่มจากประเทศญี่ปุ่น ที่ช่างไทยใช้กันมานานเมื่อหลายสิบปีแล้ว จึงเรียกติดปากกันว่า ไดโว่)

    อีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง ว่ามาจาก ผงซักฟอกไดรโว่ โลโก้การ์ตูนจอมเขมือบ คล้ายเกมส์แพ็คแมน จอมเขมือบ ความหมายคือไล่กินคราบสกปรกในเสื้อผ้าไม่เหลือหรอ ผ้าจึงสะอาด

    https://industrypro.co.th/submersible-or-divo/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    เกาหลีเหนือจะปล่อยดาวเทียมสอดแนมด้านการทหารดวงแรกของตนเองขึ้นสู่วงโคจรในเดือนมิถุนายน เป้าหมายคือสังเกตการณ์แบบสดๆ ความเคลื่อนไหวต่างๆ ของกองทัพสหรัฐฯ ตามรายงานของสำนักข่าวเคซีเอ็น สื่อมวลชนแห่งรัฐในวันอังคาร (30 พ.ค.)
    .
    ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านทางสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ นายรี พยอง ชอล รองประธานคณะกรรมาธิการทหารกลางแห่งพรรคแรงงาน พรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ ประณามการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ว่าเป็นการแสดงออกอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความทะเยอทะยานอันขาดความยั้งคิดเกี่ยวกับการรุกรานเกาหลีเหนือ
    .
    กองกำลังสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ได้ทำการซ้อมรบในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็นการซ้อมรบกระสุนจริงครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้การซ้อมรบจำนวนมากถูกลดระดับลงท่ามกลางข้อจำกัดสกัดโควิด-19 และความหวังสำหรับความพยายามทางการทูตกับเปียงยาง
    .
    รี กล่าวว่า การซ้อมรบเหล่านั้นบีบให้เปียงยางจำเป็นต้องมีวิถีทางต่างๆ ในศักยภาพรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางทหารของฝ่ายศัตรูแบบแบบเรียลไทม์
    .
    เกาหลีเหนือ ชาติที่ติดอาวุธนิวเคลียร์เผยว่าได้พัฒนาดาวเทียมสอดแนมทางทหารดวงแรกของประเทศเสร็จสมบูรณ์แล้ว และท่านผู้นำ คิม จองอึน ได้อนุมัติเตรียมการขั้นสุดท้ายสำหรับการปล่อยขึ้นสู่วงโคจร
    .
    ถ้อยแถลงไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงเกี่ยวกับวันเวลาของการปล่อยดาวเทียม แต่เกาหลีเหนือแจ้งกับญี่ปุ่นเกี่ยวกับแผนการปล่อยระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคมถึง 11 มิถุนายน กระตุ้นให้โตเกียวสั่งให้กองกำลังป้องกันขีปนาวุธของพวกเขาอยู่ในภาวะเฝ้าระวัง
    .
    อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาสื่อมวชนแห่งรัฐอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับอาวุโส ยืนยันว่าเกาหลีเหนือจะยิงดาวเทียมสอดแนมในเดือนมิถุนายน โดยบอกว่ามันมีความจำเป็นเพื่อสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ และพันธมิตรแบบเรียลไทม์
    .
    โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าการยิงใดๆ ของเกาหลีเหนือที่ใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธแบบทิ้งตัว ในนั้นรวมถึงใช้ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรจะเป็นการละเมิดมติของสหประชาชาติ
    .
    ญี่ปุ่นบอกว่าพวกเขาจะสอยร่วงจรวดที่เป็นภัยคุกคามต่อดินแดนของพวกเขา
    .
    การปล่อยดาวเทียมครั้งนี้จะเป็นก้าวย่างล่าสุดในการยิงขีปนาวุธและทดสอบอาวุธต่างๆ ของเกาหลีเหนือ ในนั้นรวมถึงการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเชื้อเพลิงแข็งรุ่นใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว
    .
    พวกนักวิเคราะห์มองว่าดาวเทียมจะช่วยยกระดับศักยภาพการสอดแนมของเกาหลีเหนือ จะช่วยให้พวกเขาโจมตีเป้าหมายต่างๆ ได้แม่นยำยิ่งขึ้นในกรณีที่เกิดสงคราม
    .
    (ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://mgronline.com/around/detail/9660000049608
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    เกียวโดนิวส์รายงาน (30 พ.ค.) ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์จะจัดการซ้อมรบทางทะเลไตรภาคีครั้งแรกนอกชายฝั่งของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์กล่าวเมื่อวันจันทร์ (15) ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการทำงานร่วมกันในน่านน้ำทะเลจีนใต้ ซึ่งปักกิ่งกำลังอ้างสิทธิเหนือดินแดนอย่างอหังการ
    .
    สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรหลักได้ยกระดับความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันชายฝั่ง การฝึกซ้อมนาน 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันพฤหัสบดี มีทั้งการฝึกอบรมการบังคับใช้กฎหมายทางทะเล กับการค้นหาและกู้ภัย โดยหน่วยยามฝั่งประมาณ 400 นาย จาก 3 ประเทศ
    .
    เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า "หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ และหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นได้ช่วยเหลือเราในโครงการพัฒนาบุคลากรของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการฝึกอบรมการบังคับใช้กฎหมาย นี่เป็นโอกาสดีที่จะขอบคุณและแสดงให้พวกเขา (สหรัฐฯ และญี่ปุ่น) เห็นว่าบุคลากรของเราได้เรียนรู้อะไรจากโครงการ"
    .
    การฝึกครั้งนี้จะ "ปรับปรุงความร่วมมือและความเข้าใจทางทะเล" ในกลุ่มทั้ง 3 ประเทศ เจ้าหน้าที่กล่าวเสริม
    .
    เจ้าหน้าที่ยามชายฝั่งที่เข้าร่วมจะสาธิตสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรือที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการล่วงล้ำน่านน้ำ หน่วยยามฝั่งทั้ง 3 จะดำเนินการตรวจสอบการขึ้นเรือ ตามด้วยปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย
    .
    ทั้งนี้ ทะเลจีนใต้เป็นเส้นทางการค้าสำคัญที่จีน ฟิลิปปินส์ และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ อ้างสิทธิทับซ้อนกัน
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    - https://mgronline.com/japan/detail/9660000049639
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    UK: สวนสัตว์กรุงลอนดอนในอังกฤษ เปิดโครงการรักแมงมุม เพื่อให้ผู้คนเรียนรู้การเอาชนะโรคกลัวแมงมุม

    เดฟ คลาร์ก ผู้ดูแลแมงมุมประจำสวนสัตว์กรุงลอนดอน เปิดเผยว่า บ่อยครั้งที่ผู้คนหวาดกลัวแมงมุม และมีบางครั้งกลัวจนร้องไห้ แต่ในที่สุดพวกเขาสามารถเอาชนะความกลัวนั้นได้ ซึ่งผู้คนต้องเรียนรู้การเอาชนะโรคกลัวแมงมุมในโครงการพิเศษของสวนสัตว์ลอนดอน เพื่อช่วยรักษาอาการหวาดกลัว

    คลาร์ก กล่าวต่อไปว่า ผู้คนมากมายกลัวแมงมุม แต่บางคนมีอาการหวาดกลัวแมงมุมขั้นรุนแรงที่สร้างอันตรายได้ เพราะอาจตกใจ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะถูกรถชน หรือแม้กระทั่งทิ้งลูกน้อย รวมถึงไม่ยอมเข้าไปในบ้านที่เพิ่งซื้อมาใหม่หลังพบแมงมุมอยู่ในบ้านของตนเอง ดังนั้น โครงการแมงมุมเป็นมิตรของสวนสัตว์ลอนดอนช่วยให้ผู้คนเอาชนะความกลัว โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องศึกษาเกี่ยวกับแมงมุมเป็นอย่างแรก ไปจนถึงการเข้ารับการสะกดจิตบำบัด เพื่อช่วยแก้ไขความกลัวที่อยู่ใต้จิตสำนึก

    นอกจากนี้ มีการทดสอบผู้เข้าร่วมโครงการโดยให้ผู้เข้าร่วมเดินผ่านอุโมงค์แมงมุมของสวนสัตว์ จากนั้นให้สัมผัสกับแมงมุมขนาดเล็ก จนมาถึงการทดสอบสุดท้าย คือ นำแมงมุมตัวใหญ่มาวางไว้บนฝ่ามือ ซึ่งพวกเขารู้สึกสบายใจเมื่อได้สัมผัสแมงมุมกินนก ทำให้พวกเขาตระหนักดีว่าความกลัวแมงมุมสามารถเอาชนะได้

    สวนสัตว์ลอนดอน บอกว่า โครงการนี้ มีอัตราการประสบความสำเร็จถึง 90% และดำเนินงานมา 30 ปีแล้ว
    ————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #อังกฤษ #แมงมุม #ลอนดอน
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

    ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
    Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
    TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    South Korea: เกาหลีใต้กล่าวเตือนเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง กรณีเกาหลีเหนือมีแผนการที่จะส่งดาวเทียมขึ้นไปในวงโคจรในอวกาศในช่วงอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ย้ำจะทำให้เกาหลีเหนือต้องจ่ายค่าเสียหายหากยังคงเดินหน้าปล่อยจรวดส่งดาวเทียมตามแผน

    สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวว่า เกาหลีใต้ของเตือนอย่างรุนแรงต่อประกาศของเกาหลีเหนือเกี่ยวกับการกระทำที่เป็นการยั่วยุ ซึ่งจะคุกคามต่อสันติภาพในภูมิภาคและขอให้เกาหลีเหนือยกเลิกแผนการปล่อยจรวดที่ผิดกฎหมายดังกล่าวในทันที พร้อมเตือนด้วยว่า เกาหลีใต้จะทำให้เกาหลีเหนือต้องจ่ายค่าเสียหายและต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดหากยังคงเดินหน้าตามแผน ขณะที่ก่อนหน้านี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ได้ประชุมเป็นการฉุกเฉินเรื่องนี้

    ด้านสำนักข่าวเกียวโด สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า เกาหลีเหนือได้แจ้งกับรัฐบาลญี่ปุ่นว่า จะปล่อยจรวดที่จะนำดาวเทียมไปวางไว้ในวงโคจรระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคมถึง 11 มิถุนายนนี้ การปล่อยจรวดลักษณะนี้เป็นเรื่องต้องห้ามตามมติของสหประชาชาติ เนื่องจากเป็นการใช้เทคโนโลยีด้านขีปนาวุธ กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงว่า จะทำลายขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธใด ๆ ก็ตามที่ได้รับการยืนยันว่าล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนของญี่ปุ่น โดยจะใช้ขีปนาวุธสแตนดาร์ด มิสไซส์-ทรี (SM-3) หรือแพทริออต มิสไซส์ แพกทรี (Patriot Missile PAC-3) ทำลายจรวดของเกาหลีเหนือ

    เกาหลีเหนือแจ้งว่า ดาวเทียมจารกรรมทางทหารดวงแรกของประเทศสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และแจ้งหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นว่า จะทำการปล่อยดวงเทียมระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคมถึง 11 มิถุนายน ขณะที่ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้อนุมัติการเตรียมการในขั้นสุดท้ายเพื่อปล่อยดาวเทียมดวงนี้เข้าสู่วงโคจร นักวิเคราะห์มองว่า ดาวเทียมจารกรรมดวงนี้จะเพิ่มศักยภาพด้านการสอดแนมของเกาหลีเหนือ และจะเพิ่มศักยภาพในการโจมตีเป้าหมายในกรณีที่เกิดสงคราม
    ————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #เกาหลีใต้ #เกาหลีเหนือ #ดาวเทียม
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

    ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
    Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
    TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    ท่องโลกกับ ‘สันติ สร้างนอก’: “ภาวะโลกร้อน หนึ่งปัญหาใหญ่ เวียดนามลดส่งออกข้าว”

    ◾️◾️◾️◾️

    เวียดนามเน้นส่งออกข้าวคุณภาพสูง

    รัฐบาลเวียดนาม ปรับยุทธศาสตร์การส่งออกข้าวของตนใหม่ ตั้งเป้าลดการส่งออกข้าวลงเหลือ 4 ล้านตันต่อปีภายในปี 2030 จาก 7.1 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว มุ่งเน้นส่งออกข้าวคุณภาพสูงแทน

    เวียดนามเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากอินเดียและไทย

    ตามเอกสารของรัฐบาลที่ลงวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม บอกว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการกำหนดเป้าหมายเพื่อ “ส่งเสริมการส่งออกข้าวคุณภาพสูง, สร้างความมั่นคงด้านอาหารภายในประเทศ, ปกป้องสิ่งแวดล้อมและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ” ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากการส่งออกข้าวของเวียดนามลดลงมาอยู่ที่ 2,620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 90,990 ล้านบาท ต่อปี ภายในปี 2030 จาก 3,450 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 119,818 ล้านบาท ในปี 2022

    “แม้ว่าพื้นที่ทำนาปลูกข้าวของเวียดนาม กำลังลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และเกษตรกรบางส่วนหันไปปลูกพืชชนิดอื่นและเลี้ยงกุ้ง แต่กลยุทธ์ดังกล่าวของรัฐบาลก็ดูเหมือนจะรุนแรงเกินไป” ผู้ค้าข้าวในนครโฮจิมินห์ แสดงทัศนะ

    ผู้ค้าข้าวกล่าวอีกว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวบางคนในพื้นที่แถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง กำลังเปลี่ยนพื้นที่นาของพวกเขาเป็นไร่ผลไม้, ปลูกมะม่วง, ส้มโอ, ขนุนและทุเรียน แต่ส่วนใหญ่ก็ยังพึ่งพาการปลูกข้าว

    แนวโน้มในการเพาะเลี้ยงกุ้งเกิดขึ้นในพื้นที่มานานหลายปี เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ความเค็มเพิ่มขึ้นอย่างมากในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง

    ◾️◾️◾️◾️

    เวียดนามเน้นกระจายตลาด ลดการพึ่งพาประเทศเดียว

    ในเอกสารยุทธศาสตร์ข้าวของเวียดนาม ระบุว่า เวียดนามจะหันมากระจายตลาดส่งออกข้าวเพื่อลดการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์ถือเป็นประเทศผู้ซื้อข้าวรายใหญ่สุดของเวียดนามมายาวนาน โดยคิดเป็น 45% ของการขนส่งในปีที่แล้ว

    นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝั่ม มิญ จิ๊ญ ได้แจ้งต่อประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ ในที่ประชุมระดับภูมิภาคในอินโดนีเซียเดือนนี้ว่า เวียดนามยินดีที่จะจัดหาข้าวให้กับฟิลิปปินส์ในระยะยาวในราคาที่เหมาะสม

    ภายในปี 2025 การส่งออกข้าวของเวียดนาม 60% จะกระจายอยู่ในตลาดเอเชีย, 22% ส่งไปตลาดในแอฟริกา, 7% ไปอเมริกา, 4% ไปยังตะวันออกกลาง และ 3% ไปยังยุโรป

    สมาคมอาหารของเวียดนาม ซึ่งเป็นต้วแทนผู้แปรรูปและส่งออกข้าว ยังไม่ได้แถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่รัฐบาลบอกว่า เวียดนามจะมุ่งเน้นไปที่การผลิตข้าวหอมและข้าวเหนียวคุณภาพสูง ขณะเดียวกัน ก็จะลดการผลิตข้าวคุณภาพต่ำเหลือ 15% ของผลผลิตทั้งหมดภายในปี 2025 และเหลือ 10% ภายในปี 2030

    “ผมสงสัยว่า ยุทธศาสตร์นี้จะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ เนื่องจากการผลิตข้าวขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทาน ไม่ใช่การตัดสินใจของรัฐบาล" ผู้ค้าข้าวรายอื่นในอานซาง จังหวัดสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง กล่าว

    ส่วนการส่งออกข้าวจากเวียดนามในช่วง 4 เดือนแกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 40.7% จากหนึ่งปีก่อน อยู่ที่ 2.9 ล้านตัน ตามข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรของรัฐบาล

    ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อน ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อภาคการเกษตร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพราะปลูกและความมั่นคงด้านอาหาร หลายประเทศพยายามปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่จะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันการขาดแคลน เป็นการล้อมคอก ก่อนวัวหาย แต่สถานการณ์ก็เลวร้ายลงในหลายภูมิภาคทั่วโลก
    ————
    แปล-เรียบเรียง: สันติ สร้างนอก
    ภาพ: AFP

    ข้อมูลอ้างอิง:
    https://www.channelnewsasia.com/asia/vietnam-cut-annual-rice-exports-2030-3519536

    #TNNWorldNews #EditorsPick #ท่องโลกกับสันติสร้างนอก #เวียดนาม #ข้าว #ส่งออก #อาเซียน #เศรษฐกิจ
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    อัพเดตข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt
    ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่

    Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
    Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
    TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    Kosovo: ผู้ประท้วงชาวเซิร์บ ปะทะกับทหารรักษาสันติภาพนาโตในโคโซโว ต่อต้านนายกเทศมนตรีชนกลุ่มน้อยเชื้อสายแอลเบเนียเข้าบริหารเมือง หลังชนะเลือกตั้ง

    ผู้ประท้วงชาวเซิร์บปะทะอย่างรุนแรงกับทหารของกองกำลังโคโซโว ฟอร์ซ (Kosovo Force) หรือ KFOR ซึ่งเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพที่นำโดยองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ในเมืองซเวชาน ซึ่งทหารต้องยิงแก๊สน้ำตาและระเบิดแสงเข้าใส่

    พร้อมกันนั้น ชาวเซิร์บ ยังปะทะกับตำรวจในเมืองซเวชานและพ่นสีใส่รถยนต์ของนาโตเป็นอักษร “Z” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรัสเซียที่ใช้ในปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

    เคฟอร์ ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 25 นายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตามถ้อยแถลงของอันโตนิโอ ตาจานี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิตาลี ระบุว่า มีทหารอิตาลี 11 นายที่ปฏิบัติภารกิจในเคฟอร์ ได้รับบาดเจ็บในการปะทะครั้งนี้ ซึ่งในจำนวนนี้มี 3 นายอาการสาหัส

    สถานการณ์โความตึงเครียดในโคโซโว รุนแรงขึ้นหลังจากนายกเทศมนตรีชนกลุ่มน้อยชาวแอลเบเนีย เข้ารับตำแหน่งในพื้นที่ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเซิร์บในโคโซโว หลังการเลือกตั้ง ซึ่งชาวเซิร์บคว่ำบาตร และเรียกร้องให้รัฐบาลโคโซโวปลดนายกเทศมนตรีเชื้อสายแอลเบเนียออกจากตำแหน่ง และอนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งได้รับเงินทุนจากเซอร์เบีย กลับเข้ามาทำหน้าที่

    ส่วนนาโตประณามเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เป็นการโจมตี “ที่ยอมรับไม่ได้” จากกลุ่มผู้ประท้วงในโคโซโว ซึ่งมีทหารรักษาสันติภาพ 25 นายได้รับบาดเจ็บ

    วิกฤตครั้งนี้ต้องย้อนกลับไปในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อชาวเซิร์บในโคโซโว คว่ำบาตรการเลือกตั้งท้องถิ่น ทำให้คนเชื้อสายแอลเบเนีย เข้าควบคุมสภาท้องถิ่นด้วยคะแนนเสียงที่มีผู้ใช้สิทธิ์ไม่ถึง 4%

    ทั้งสหภาพยุโรป หรืออียู และสหรัฐฯ ต่างวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลโคโซโว ทำให้สถานการณ์ในโคโซโวเหนือไร้เสถียรภาพ และเตือนอย่ากระทำการใด ๆ ที่อาจจุดชนวนให้เกิดความตึงเครียดขึ้นในพื้นที่

    ทั้งนี้ โคโซโวประกาศแยกตัวเป็นเอกราชออกจากเซอร์เบียในเดือนกุมภาพันธ์ 2008 หลังความสัมพันธ์ระหว่างชาวเซิร์บและชาวแอลเบเนียตึงเครียดนานหลายปี
    ————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #โคโซโว #ชาวเซิร์บ #นาโต
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    อัปเดตข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

    ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
    Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
    TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    America: กราดยิงบนชายหาดชื่อฮอลลีวู้ด รัฐฟลอริดา บาดเจ็บ 9 คน รวมผู้เยาว์หลายคน นักท่องเที่ยวเต็มชายหาดวิ่งหนีตายกันกระเจิง หาที่กำบังหลบกระสุน ยังมีผู้ต้องสงสัยหลบหนีลอยนวล

    สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น Hollywood Beach TV เผยภาพเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์กำลังทำการรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ณ จุดเกิดเหตุกราดยิง บนชายหาดในรัฐฟลอริดาเมื่อวานนี้ (29 พฤษภาคม) ตามเวลาในสหรัฐฯ ด้านตำรวจเตือนประชาชนให้อยู่ห่างจากชายหาดที่เกิดเหตุ

    รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวานนี้มีนักท่องเที่ยวอยู่กันเต็มชายหาดเนื่องจากเป็นวันหยุด ต่างตกใจวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันกระเจิง หาที่กำบังหลบกระสุน

    ทั้งนี้ ชายหาดฮอลลีวู้ด บีช เป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ห่างจากเมืองไมอามีเพียง 20 กิโลเมตร

    ด้านตำรวจฟลอริดา รายงานว่า มีผู้บาดเจ็บ 9 คนรวมผู้เยาว์ 2 คน จากการถูกยิงบริเวณชายหาดชื่อ ฮอลลีวู้ด บีช ในรัฐฟลอริดา แต่ยืนยันไม่มีผู้เสียชีวิต เตือนประชาชนให้อยู่ห่างจากที่ชายหาดเกิดเหตุ

    เหตุเกิดเมื่อวานนี้ ซึ่งตรงกับวันรำลึกผู้สละชีพเพื่อชาติในสหรัฐฯ หรือวัน Memorial Day ซึ่งเป็นวันหยุดของสหรัฐฯ ทำให้มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันเต็มชายหาด

    ผลสอบสวนเบื้องต้นของตำรวจ สาเหตุเริ่มจากการทะเลาะวิวาทกันของคน 2 กลุ่ม จนเกิดการยิงกันขึ้น ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 คน แต่มีผู้ต้องสงสัยอีก 1 คนยังหลบหนีลอยนวล
    ————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #สหรัฐฯ #กราดยิง #ปืน
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    อัปเดตข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

    ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
    Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
    TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    Canada: แคนาดาประกาศภาวะฉุกเฉินไฟป่าระดับท้องถิ่นเมืองฮาลิแฟกซ์ อพยพกว่า 16,000 คน หนีไฟป่าหลายร้อยจุดเผา 3 รัฐ ยังคุมไม่ได้หลายจุด ลามเผาบ้านเรือนประชาชน

    แคนาดาเกิดไฟป่าหลายร้อยจุดกำลังเผา 3 รัฐ คือ รัฐโนวาสโกเทีย รัฐบริติชโคลัมเบีย และรัฐนิวบรันสวิค ประกาศภาวะฉุกเฉินไฟป่าระดับท้องถิ่นนาน 7 วันที่เมืองท่าฮาลิแฟกซ์ เมืองเอกและเมืองใหญ่สุดของรัฐโนวาสโกเทีย หลังไฟป่าลามไปเผาบ้านเรือนประชาชน ทำให้ต้องอพยพประชาชนและเกิดไฟฟ้าดับ

    รัฐโนวาสโกเทียได้รับผลกระทบหนักสุด สถานการณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ ประชาชนราว 16,400 คนอพยพทิ้งบ้านเรือนในเมืองฮาลิแฟกซ์ ด้านฝ่ายทรัพยากรธรรมชาติรัฐโนวาสโกเทีย รายงานเกิดไฟป่า 6 จุดในรัฐนี้ ใกล้กับเมืองฮาลิแฟกซ์ ไฟยังลามหนักและยังควบคุมไม่ได้ ลามไปเผาบ้านเรือนเผาวอดไปอย่างน้อย 10 หลัง

    โชคดีที่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต คาดว่าต้องใช้เวลาทั้งสัปดาห์ในการดับไฟ เนื่องจากพยากรณ์อากาศคาดว่า จะยังไม่มีฝนตกลงมา จึงไม่มีตัวช่วยในการดับไฟป่า

    ด้านนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา ทวีตข้อความบน Twitter เมื่อวานนี้ เตือนไฟป่าในโนวาสโกเทียมีความร้ายแรงมากอย่างไม่น่าเชื่อ

    ทางโนวาสโกเทียรายงานด้วยว่า ในปีนี้ได้เกิดไฟป่าในโนรัฐนี้ จนถึงตอนนี้ 176 จุดแล้ว มากกว่าปีที่แล้วซึ่งเกิดไฟป่าเพียง 70 จุดในรัฐนี้ เนื่องมาจากสภาพอากาศในปีนี้มีความแห้งแล้งหนักผิดปกติ

    ส่วนที่รัฐนิวบรัสวิค ซึ่งอยู่ติดกับโนวาสโกเทีย มีการอพยพประชาชน 400 หลังคาเรือนหนีไฟป่า ขณะที่รัฐบริติชโคลัมเบีย เกิดไฟป่ามานาน 18 วันแล้วตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากยังคุมไม่ได้แล้ว ยังลุกลามไปอีกมาก

    ด้านฝ่ายทรัพยากรธรรมชาติของแคนาดา รายงานว่า มีพื้นที่ป่าวอดแล้วมากถึง 12.5 ล้านไร่ จากไฟป่าเกิดขึ้นในแคนาดาตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงขณะนี้ วัฏจักรอากาศร้อนจัดและยาวนานที่วนกลับมาหลายรอบ ซึ่งมีสาเหตุจากปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ได้ทำลายความชื้นไปจากพื้นดินและพืชพรรณธรรมชาติ
    ————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #แคนาดา #ไฟป่า #ไฟป่าแคนาดา
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    อัปเดตข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

    ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
    Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
    TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    China: จีนเปิดภาพนาทียานอวกาศ “เสินโจว-16” ฉายา “ยานสวรรค์” นำ 3 นักบินอวกาศ ทะยานขึ้นสู่อวกาศ ไปยังสถานีอวกาศจีน

    สถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีน เปิดภาพนาทียานอวกาศจีน “เสินโจว-16” ส่ง 3 นักบินอวกาศจีน ทะยานขึ้นสู่สถานีอวกาศจีนในช่วงเช้าวันนี้ (30 พฤษภาคม) โดยมีชาวจีนนำครอบครัวบุตรหลานมาชมการส่งยานขึ้นสู่อวกาศด้วยความตื่นเต้นยินดี

    นับเป็นภารกิจส่งยานอวกาศแบบที่มีมนุษย์อวกาศเดินทางไปด้วย เป็นภารกิจที่ 5 ของจีน เพื่อไปยังสถานีอวกาศจีนตั้งแต่ปี 2021

    ยานอวกาศเสินโจว-16 ได้รับฉายา “ยานสวรรค์” (Divine Vessel) พร้อมด้วยนักบินอวกาศ 3 คน ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด “ลองมาร์ช-2F” ของจีน ทะยานขึ้นจากศูนย์ปล่อยดาวเทียมจิ่วฉวนของจีน มณฑลกานซู ในทะเลทรายโกบี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมื่อเวลา 09.31 น. วันนี้ตามเวลาในจีน ตรงกับ 08.31 น. วันนี้ตามเวลาในบ้านเรา

    คณะนักวิทยาศาสตร์อวกาศของจีนในห้องควบคุมภายในศูนย์ปล่อยดาวเทียมจิ่วฉวน นับถอยหลังจาก 10 ถึง 1 พร้อมเปิดภาพนักบินอวกาศอยู่ภายในยานเสินโจว-16 ขณะเดียวกันนั้น นักบินอวกาศจีน 3 คนที่อยู่บนโมดูลเทียนเหอ โมดูลหลักของสถานีอวกาศจีน ได้ยืนชมการขึ้นสู่อวกาศของยานเสินโจว-16 อยู่บนสถานีอวกาศด้วย

    ภารกิจของนักบินอวกาศยานเสินโจว-16 ทั้ง 3 คน คือ การไปสับเปลี่ยนกับนักบินอวกาศ 3 คนของยานเสินโจว-15 ที่เดินทางไปยังสถานีอวกาศจีน และอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

    นอกจากนี้ จีนได้ประกาศแผนขยายสถานีอวกาศจีน โดยจะส่งโมดูลใหม่ขึ้นไปต่อเติมสถานีอวกาศจีน ที่ขณะนี้มีลักษณะเป็นรูปตัว T หลังการขยายสถานีอวกาศเสร็จสิ้น สถานีจะมีลักษณะเป็นรูปกากบาท คือรูปตัว T 2 ตัวไขว้กัน
    ————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #จีน #อวกาศ #เสินโจว16
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    อัปเดตข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

    ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
    Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
    TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    North Korea: เกาหลีใต้-สหรัฐฯ จับตาเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียม ญี่ปุ่นคาดจรวดบรรทุกดาวเทียมจารกรรมดวงแรกเกาหลีเหนือจะข้ามผ่านน่านฟ้าหมู่เกาะญี่ปุ่น เหมือนเมื่อ 7 ปีก่อน เกาหลีเหนือยืนยันกำหนดการปล่อยดาวเทียมจารกรรมดวงแรกของประเทศ พร้อมประณามการซ้อมรบร่วมเกาหลีใต้-สหรัฐฯ

    สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ หรือ KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานในวันนี้ (30 พฤษภาคม) ว่า เกาหลีเหนือจะปล่อยดาวเทียมสอดแนมทางทหารดวงแรกของประเทศในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อสอดส่องพฤติกรรมทางทหารของสหรัฐฯ แบบตามเวลาจริง

    เกาหลีเหนือไม่ได้ระบุวันที่ชัดเจนแน่นอนในการปล่อยดาวเทียมสายลับดังกล่าว แต่ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้แจ้งต่อญี่ปุ่นถึงแผนการปล่อยดาวเทียม ระบุกำหนดการระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึงวันที่ 11 มิถุนายนนี้

    ด้าน ฮัน ซองกึน ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมกองทัพเกาหลีใต้ หรือ JCS แถลงในวันนี้ (30 พฤษภาคม) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กำลังจับตาและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ติดตาม “การยั่วยุของเกาหลีเหนือ” คือ การปล่อยวัตถุที่เกาหลีเหนืออ้างว่าเป็นดาวเทียม หลังเกาหลีเหนือยันยันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการแล้ว

    ขณะที่ ญี่ปุ่นตื่นตัวเตรียมพร้อมระบบป้องกันภัยทางอากาศของประเทศที่ใช้ขีปนาวุธแบบทิ้งตัว และขู่จะยิงทำลายวัตถุบินได้ใด ๆ ก็ตามที่คุกคามดินแดนญี่ปุ่น

    ล่าสุด ทางด้านกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ว่า จะใช้ขีปนาวุธแบบสแตนดาร์ด-3 หรือ SM-3 และขีปนาวุธแพททริออต แพค-3 (Patriot Missile PAC-3) ยิงทำลายขีปนาวุธใด ๆ ของเกาหลีเหนือ หากเป็นที่ยืนยันแน่นอนว่า ขีปนาวุธเกาหลีเหนือจะตกลงในดินแดนของญี่ปุ่น

    กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น คาดการณ์ด้วยว่า เกาหลีเหนือจะปล่อยจรวดที่บรรทุกดาวเทียมจารกรรมดังกล่าว ข้ามผ่านเหนือน่านฟ้าหมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เหมือนที่เกาหลีเหนือเคยทำในปี 2016

    ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า ดาวเทียมจารกรรมดวงแรกของเกาหลีเหนือดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีสอดแนมของเกาหลีเหนือ ที่รวมถึงการใช้โดรนอากาศยานไร้คนขับหลายลำด้วย มีจุดประสงค์เพื่อยกระดับขีดความสามารถของเกาหลีเหนือ ในการโจมตีเป้าหมายในช่วงสงคราม

    นอกจากนี้ KCNA ยังเปิดแถลงการณ์ของ ริ พยอง ชอล รองประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง แห่งพรรคคนงาน พรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ ประณามการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ว่า เป็นการแสดงออกอย่างเปิดเผยถึง “ความทะยานอยากในการรุกรานอย่างไร้ความยั้งคิด”

    เกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ได้ซ้อมรบร่วมครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการซ้อมรบที่ใช้กระสุนจริงครั้งใหญ่ที่สุดของ 2 ประเทศ หลังจากหลายเดือนก่อนหน้านั้นในปีนี้ ทั้ง 2 ประเทศก็ได้ซ้อมรบร่วมกันมาแล้วหลายครั้ง
    ————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #เกาหลีเหนือ #ดาวเทียม #สหรัฐฯ #เกาหลีใต้
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ
    ————
    อัปเดตข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน LINE กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

    ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
    Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
    TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    เอาเข้าแล้ว! “กรุงมอสโก” ถูกโดรนไม่ต่ำกว่า 8 ตัวโจมตีเขตพลเรือน เสียหายเล็กน้อย บาดเจ็บ 2 “ไบเดน” ประกาศตั้ง “ปธ.เสนาธิการทหารคนใหม่” มีเป้าหมายไปที่ “จีน”
    .
    .
    .
    .
    .
    รอยเตอร์/เอเจนซีส์/เอพี - กรุงมอสโกเช้าวันอังคาร(30 พ.ค)ถูกโจมตีด้วยโดรนในย่านที่พักอาศัยที่เชื่อว่าอาจเป็นฝีมือจากเคียฟ พบทำอาคารเสียหายเล็กน้อย กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ มอสโกถูกโจมตีเกี่ยวข้องกับโดรน 8 ตัว เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ร้อนรับวันเมโมเรียลเดย์สหรัฐฯ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศชื่อพลอากาศเอก ซีคิว บราว์น จูเนียร์ (CQ Brown Jr) ขึ้นเป็นประธานเสนาธิการทหารสหรัฐฯคนใหม่แทนพลเอก มาร์ค มิลลีย์ มีภูมิหลังแน่นปึกด้านจีนและรู้ดีในเรื่องการจัดหายุทโธปกรณ์ป้อนยูเครนในสงครามสู้รัสเซีย
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(30 พ.ค)ว่า การโจมตีกรุงมอสโกเช้าวันอังคาร(30)ด้วยโดรนปริศนา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คนและอาคารส่วนหนึ่งเสียหายแต่ไม่มากนักในย่านที่พักอาศัย เป็นการตอบโต้ที่เคียฟโดนรัสเซียโจมตีครั้งที่ 3 ในรอบ 24 ชั่วโมง
    .
    อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ามีความเชื่อว่า โดรนดังกล่าวอาจจะเป็นฝีมือจากเคียฟที่ทำไปเพื่อตอบโต้ตีหลังโดนรัสเซียใช้โดรนโจมตีอย่างหนักแต่ทว่าฝ่ายเคียฟออกแถลงการณ์ปฎิเสธปัดไม่เกี่ยวข้อง
    .
    ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน มิคาอิโล โปโดลยัค (Mykhailo Podolyak) ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Breakfast Show ทางยูทูปกล่าวว่า “..เกี่ยวข้องกับการโจมตี แน่นอนที่สุดทางเรารู้สึกยินดีในการมองและการคาดการณ์จำนวนที่เพิ่มขึ้นของการโจมตี แต่แน่นอนที่สุดทางเราไม่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อสิ่งนี้”
    .
    NBC News ของสหรัฐฯกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ว่า มีโดรน 8 ตัวเกี่ยวข้องในการโจมตีครั้งนี้ พร้อมเสริมต่อว่า โดรนทุกตัวถูกฝ่ายทำลาย
    .
    ซึ่งจากทั้งหมดมี 3 ตัวติดขัดและสูญเสียการควบคุม ส่วนอีก 5 ตัวกระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า ได้ใช้ระบบต่อต้านอากาศยาน Pantsir-S ในภูมิภาคมอสโกทำลายทิ้ง
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า แต่อย่างไรก็ตามในการรายงานของ BAZA สื่อรัสเซียช่องเทเลแกรมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยความมั่นคงเปิดเผยว่า มีโดรนในการเข้าโจมตีทั้งหมด 25 ลำ ซึ่งวิดีโอที่เผยแพร่ทางโลกโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่า มีโดรนตัวหนึ่งถูกยิงควันดำคละคลุ้งที่เส้นขอบฟ้าของกรุงมอสโก
    .
    กระทรวงยังได้ยืนยันว่า การโจมตีโดรนนี้เป็นการโจมตีโดยผู้ก่อการร้าย รอยเตอร์รายงานว่า หนึ่งในนักการเมืองรัสเซียแสดงความเห็นว่า เป็นการโจมตีที่ร้ายแรงมากที่สุดต่อเมืองหลวงรัสเซียนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    ส.ส แม็กซิม อีวานอฟ (Maxim Ivanov) ยังชี้ไปว่า ไม่มีประชาชนรัสเซียคนใดสามารถหลีกเลี่ยงต่อความเป็นจริง “คุณสามารถที่จะเอาชนะศัตรูได้ด้วยกำปั้นเดียวของประเทศแม่ของพวกเรา หรือเป็นสิ่งที่น่าละอายที่ไม่อาจลบไปได้ของความขลาด การสมคบคิด และการทรยศจะสุมรุมเร้าครอบครัวของคุณ”
    .
    นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก เซอร์เก ซอบยานิน (Sergei Sobyanin) แถลงว่า การโจมตีจากโดรนนั้นสร้างความเสียหายเล็กน้อยต่ออาคารไม่กี่หลังในเมืองหลวง
    .
    ซึ่งในคำแถลงทางเทเลกราฟ เขากล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บ 2 คนต้องเข้ารับการรักษาตัวและไม่มีการบาดเจ็บขั้นร้ายแรง นอกจากนี้ยังกล่าวต่อว่า เพื่อความปลอดภัยเขาได้ออกคำสั่งให้มีการอพยพประชาชนในบางพื้นที่จากเขตที่กว้างขึ้นซึ่งในขณะเกิดเหตุของเช้าวันนี้(30)มีเสียงระเบิดดังไปทั่ว พร้อมกับกล่าวว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศในภูมิภาคมอสโกกำลังทำงาน
    .
    “ผมร้องขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ” เขากล่าว
    .
    NBC News รายงานโดยอ้างอิงจากสำนักข่าว TASS ของรัสเซียว่า ถึงแม้มีการโจมตีเกิดขึ้นในเมืองหลวงแต่กลับพบว่า สนามบินทุกแห่งในกรุงมอสโกยังเปิดทำการปกติ พร้อมรายงานว่ามีหญิงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเศษแหลมหลังจากที่อพาร์ทเมนท์ของเธอในกรุงมอสโกถูกโดรนโจมตี
    .
    สถานการณ์ร้อนในยูเครนเกิดขึ้นหลังก่อนหน้าวอชิงตันได้ประกาศชื่อว่าที่ประธานเสนาธิการทหารสหรัฐฯคนใหม่ที่กำลังจะมาทำหน้าที่แทนพลเอก มาร์ค มิลลีย์ ที่กำลังจะเกษียณอายุลงในตุลาคมนี้
    .
    ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน แถลงวันพฤหัสบดี(25) ตามการรายงานของเอพี ประกาศชื่อ พลอากาศเอก ซีคิว บราวน์ จูเนียร์ (CQ Brown Jr.) ที่มีความโดดเด่นในด้านภูมิหลังอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปักกิ่ง และอีกทั้งเขายังเกี่ยวข้องในทางลึกในความพยายามของเพนตากอนป้อนอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารช่วยยูเครนเพื่อสู้รบกับรัสเซีย
    .
    และหากบราวน์ได้รับการรับรองจากสภาคองเกรสสหรัฐฯเขาจะกลายเป็นประธานเสนาธิการทหารสหรัฐฯแอฟริกันอเมริกันคนที่ 2 หลังคนแรกพลเอก คอลลิน พาวเวลล์ ที่เป็นที่จดจำ
    .
    และอีกทั้งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯที่จะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายพลเมืองในระดับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯและฝ่ายกองทัพคือ ประธานเสนาธิการทหารสหรัฐฯ เป็นชาวแอฟริกันอเมริกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญในอเมริกาประเทศที่ยังคงมีความแตกต่างทางสีผิวอยู่สูง ซึ่งสหรัฐฯเพิ่งผ่านวันเมโมเรียลเดย์(Memorial Day)หรือวันทหารพลีชีพเมื่อวานนี้(29) โดยในงานนอกเหนือจากไบเดนที่สวมแว่นตาดำอ่านสปีชและรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสตินแล้ว พบว่าพลเอกมิลลีย์ได้ขึ้นกล่าวคำสุนทรพจน์เป็นครั้งสุดท้ายอย่างจับใจ
    .
    บราวน์นั้นมีประวัติเป็นนักบินขับไล่เครื่องบินรบ F-16 ตัวฉกาจ ซึ่งในระหว่างที่เขาทำหน้าที่ในฐานะผู้บัญชาการกองทัพอากาศประจำภูมิภาคแปซิฟิกที่เป็นคนผิวสีคนแรกที่รับตำแหน่งนี้ยังพบว่า เขาเดินยุทธศาสตร์ทางอากาศเพื่อตอบโต้ “จีน” ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่ปักกิ่งพยายาม่อสร้างที่ตั้งทางการทหารบนเกาะแก่งในเขตความขัดแย้งทะเลจีนใต้อย่างเร่งรีบและอีกทั้งปักกิ่งได้ทดสอบการโจมตีในรัศมีการบินใกล้กับเกาะกวม ดินแดนอาณานิคมสหรัฐฯในมหาสมุทรแปซิฟิก
    .
    ผู้สนใจสามารถชมคลิปได้ที่... https://mgronline.com/around/detail/9660000049821
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    223,146
    ค่าพลัง:
    +97,152
    May 30, 2023 ขึ้น 2 วัน! ราคาน้ำมันดิบโลกขึ้นต่อยืนเหนือ 77 ดอลลาร์ ปิดบวก 2 วันติดต่อกัน
    .
    ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 72.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.25 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.3% ส่งผลราคาปิดเพิ่มขึ้น 2 วันทำการติดกันที่ 1.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
    .
    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
    .
    ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 77.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.2% ส่งผลราคาปิดเพิ่มขึ้น 2 วันทำการติดกันที่ 0.81 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
    .
    ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
    .
    ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +1.6% และ +1.7% ตามลำดับ และนับเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันที่ราคารายสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้น
    .
    สาเหตุจากนักลงทุนคลายกังวลกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐอเมริกา หลังจากมีสัญญาณบวกในการเจรจาขยายเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกไปเป็นเวลา 2 ปี
    .
    ขณะที่นักลงทุนยังประเมินความชัดเจนจากรองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย นายอเล็กซานเดอร์ โนวาค กล่าวว่า ไม่คิดว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะตัดสินใจลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีก ขณะที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันดิบใหญ่ที่สุดในโลก ส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีก ทำให้นักลงทุนประเมินว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีกในการประชุมวันที่ 4 มิถุนายนนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://shorturl.at/fqCTW
    .
    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
    ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
    ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
    ติ้กต่อก: https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #น้ำมันดิบ #ราคาน้ำมันดิบ #ราคาน้ำมัน #ราคาน้ำมันวันนี้ #เศรษฐกิจ #สหรัฐ #จีน #ไอเอ็มเอฟ #ดอลลาร์สหรัฐ #ดอลลาร์ #BTimes

     

แชร์หน้านี้

Loading...