ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    G-7 ไฟเขียวฉลุยใช้ทรัพย์สินรัสเซีย 50 พันล้านดอลลาร์ช่วย “ยูเครน” ส่วน “ไบเดน” ลงนามข้อตกลงความมั่นคง 10 ปีกับ “เซเลนสกี” เดินมึนออกนอกวงระหว่างถ่ายภาพหมู่ต้องให้ “นายกหญิงอิตาลี” รีบพากลับ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ – กลุ่มผู้นำชาติ G-7 วานนี้(13 มิ.ย)ไฟเขียวร่างข้อตกลงอนุมัติให้สามารถใช้ทรัพย์สินยึดจากรัสเซียมูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์เป็นเงินกู้ให้แก่ยูเครน ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯพบผู้นำยูเครนนอกรอบลงนามข้อตกลงความมั่นคง 10 ปีแต่เจอโมเมนต์พูดไม่ออกปู่ไบเดนเดินมึนงงระหว่างถ่ายรูปหมู่ นายกฯหญิงอิตาลีรีบคว้าตัวพากลับเข้ามา
    .
    บีบีซีของอังกฤษรายงานวันนี้(14 มิ.ย)ว่า ที่ประชุมกลุ่มประเทศ G-7 ที่อิตาลีในวันพฤหัสบดี(13) ได้เห็นชอบสามารถใช้ทรัพย์สินรัสเซียที่โดนแช่แข็งเพื่อช่วยเหลือในการต่อสู้ขัดขวางรัสเซีย
    .
    ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่มีฉากโมเมนต์เดินเหมือนมีท่าทีมึนงงออกไประหว่างการถ่ายภาพหมู่ก่อนที่นายกรัฐมนตรีหญิงอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี อ้างอิงจากเดลีเมลของอังกฤษ จะอาศัยไหวพริบรีบดึงตัวกลับมาร่วมการถ่ายภาพหมู่ที่เห็นปู่ไบเดนดึงแว่นกันแดดคู่ใจขึ้นสวมอย่างอารมณ์ดี นั้นกล่าวยืนยันว่า
    .
    เป็นอีกหนึ่งการเตือนใจต่อ “รัสเซีย” ว่า “พวกเราจะไม่ยอมอ่อนข้อให้”
    .
    เดลีเมลรายงานว่า การถ่ายภาพหมู่วันพฤหัสบดี(13)ของบรรดาผู้นำ G-7 นี้ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่ บอร์โก อิกนาเซีย (Borgo Egnazia) ใน บรินดิซี (Brindisi) โดยมีการแสดงการโดดร่มเวหาโดยหน่วยทหารพลร่มอิตาลีที่มีธงชาติสมาชิกปรากฎในการแสดงเป็นที่ประทับใจไปทั่ว และระหว่างที่ผู้นำทุกคนรวมประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปกำลังรวมกลุ่มและปรบมือแก่ทหารหน่วยพลร่มที่ถึงพื้นต่อหน้า
    .
    แต่ทว่าปู่ไบเดนเหมือนเดินออกไปหันหน้าออกไปด้านนอกและชูมือให้กำลังใจแก่ทหาร และนายกรัฐมนตรีอิตาลีในขณะที่ยังคงพูดคุยกับผู้นำคนอื่นๆแต่เดินถอยห่างในเวลาเดียวกันเพื่อคว้าตัวไบเดนให้กลับมาร่วมการถ่ายภาพ และผู้นำสหรัฐฯได้เริ่มต้นดึงแว่นกันแดดสีดำคู่ใจเพื่อร่วมการถ่ายภาพหมู่ครั้งสำคัญ
    .
    บีบีซีชี้ว่า เงินจำนวน 50 พันล้านดอลลาร์เป็นเงินกู้ให้แก่ยูเครนนี้ไม่คาดว่าจะส่งไปได้เร็วก่อนสิ้นปีแต่ถูกมองว่าเป็นเหมือนการแก้ปัญหาในระยะยาวในการสนับสนุนยูเครนด้านการทหารและเศรษฐกิจ
    .
    และภายในการประชุมข้างเคียงของที่ประชุม G-7 นั้นประธานาธิบดีไบเดนได้พบประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี สำหรับการลงนามร่วมกันในข้อตกลงความมั่นคงระยะเวลา 10 ปี
    .
    ซึ่งเนื้อหาภายในข้อตกลงระดับทวิภาคีนี้วอชิงตันจะให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครนรวมไปถึงการฝึก แต่ข้อตกลงไม่ได้มีเนื้อหาครอบคลุมถึงการส่งกำลังทหารอเมริกันเข้ายูเครน โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างออกมาแสดงความชื่นชมว่า เป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์
    .
    บีบีซีรายงานว่า มูลค่าทรัยพ์สินรัสเซียที่ถูก G-7 พร้อม EU แช่แข็งมีราว 325 พันล้านดอลลาร์ และเงินก้อนหนี้เพิ่มดอกเบี้ยร่วม 3 พันล้านดอลลาร์/ปี
    .
    กลุ่มG-7ที่เป็นชาติอุตสาหกรรมร่ำรวยของโลกประกอบไปด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก ที่กำลังตกที่นั่งลำบากในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่จะมาถึงในวันที่ 4 ก.ค นี้ได้ออกมาแสดงความชื่นชมข้อตกลงอนุมัติใช้ทรัพย์สินรัสเซีย 50 พันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยยูเครนนี้ว่า “เป็นตัวเปลี่ยนเกมส์”
    .
    ผู้สนใจสามารถชมชุดภาพและคลิปเพิ่มได้ที่...https://mgronline.com/around/detail/9670000051013
    https://www.facebook.com/share/p/E1gG9uttizu2CFcC/?mibextid=oFDknk
     
  2. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘น้ำส้ม’ ราคาพุ่งกระฉูด หลังภาวะโลกร้อน-โรคพืช ทำผลผลิตน้อยสุดรอบหลายสิบปี
    .
    ราคา “น้ำส้ม” พุ่งสูงลิ่ว หลังจากส้มในบราซิลและฟลอริดา แหล่งปลูกส้มรายใหญ่ของโลกมีจำนวนลดลง เนื่องจาก “โรคกรีนนิ่งในพืชตระกูลส้ม” (Citrus greening disease) และ “วิกฤติสภาพภูมิอากาศ”
    .
    รายงานจาก Fundecitrus สถาบันพัฒนาการปลูกส้มอย่างยั่งยืน และ CitrusBR ผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำส้มรายใหญ่ของบราซิล กล่าวว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศและโรคในส้มที่เรียกว่า “โรคกรีนนิ่งในพืชตระกูลส้ม” ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกส้มชาวบราซิลเก็บเกี่ยวพืชผลได้น้อยที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
    .
    “บราซิล” เป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำส้มรายใหญ่ที่สุดของโลก รายงานคาดว่าในปีนี้บราซิล โดยเฉพาะในรัฐเซาเปาลูและรัฐมินาเจอร์ไรส์ ซึ่งเป็นพื้นที่หลักในการปลูกส้ม จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 2,323,800 ล้านลัง (แต่ละลังหนักประมาณ 40.8 กิโลกรัม) ลดลง 24.36% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
    .
    หากการคาดการณ์ผลผลิตนี้เป็นจริง ปี 2024 จะกลายเป็นปีที่มีปริมาณส้มน้อยที่สุดนับตั้งปี 1988-1989
    .
    รัฐฟลอริดา ผู้ผลิตน้ำส้มรายใหญ่อันดับสองของโลก ก็กำลังเผชิญกับการขาดแคลนอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยเป็นผลมาจากโรคในส้มระบาดและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
    .
    ผู้ผลิตน้ำส้มหลีกเลี่ยงปัญหาขาดแคลนน้ำส้มในระยะยาวด้วยการแช่แข็งสต็อกน้ำผลไม้ไว้จำนวนมาก ซึ่งเพียงพอต่อการผลิตได้นานถึง 2 ปี แต่ในตอนนี้สต็อกก็เริ่มร่อยหรอลงแล้ว เนื่องจากมีส้มน้อยลงลง 3 ปีแล้ว
    .
    ปัญหาสำคัญที่ทำให้ส้มขาดแคลนคือการระบาดของโรคกรีนนิ่งในพืชตระกูลส้ม ซึ่งเป็นโรคที่ยังไม่วิธีการรักษา เกิดจากแบคทีเรียในแมลงกินพืช ทำให้ผลผลิตลดลง ส่วนส้มที่ได้จะไม่มีรสชาติ บางทีก็มีรสขม และมีรูปทรงบิดเบี้ยว โดยแพร่ระบาดครั้งแรกในฟลอริดาตั้งแต่ปี 2008
    .
    โรคกรีนนิ่งยิ่งสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อปริมาณผลผลิต เมื่อเกิดวิกฤติสภาพภูมิอากาศควบคู่กันไปด้วย ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาปริมาณการผลิตน้ำส้มของฟลอริดาลดลงจาก 240 ล้านกล่องต่อปี เหลือเพียง 17 ล้านกล่องต่อปีเท่านั้น
    .
    ผู้ผลิตน้ำส้มอาจจะ “ลดปริมาณส้มลง” โดยการผสมน้ำลูกแพร์ น้ำแอปเปิ้ล และน้ำองุ่นในปริมาณที่มากขึ้นแทน แต่อาจจะไม่ได้แก้ราคาลดลงได้ในระยะยาว เพราะการผสมน้ำผลไม้ชนิดอื่นลงในน้ำส้ม จะต้องมีการแปรรูปเพิ่มเติม รวมถึงเพิ่มการขนส่งผลไม้ชนิดอื่น ๆ เท่ากับเป็นการเพิ่มต้นทุน ส่งผลให้ราคาน้ำผลไม้เพิ่มขึ้นอยู่ดี
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1131259?anm=
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจSustain #กรุงเทพธุรกิจEnvironment #กรุงเทพธุรกิจ
    https://www.facebook.com/share/p/w5ETcz843ERJQAy7/?mibextid=oFDknk
     
  3. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการ โครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ตามที่กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้เสนอ
    .
    โดยรัฐบาลจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรในการซื้อปุ๋ยครึ่งหนึ่ง และเกษตรกรออกเองอีกครึ่งหนึ่ง รวมวงเงินที่จะใช้ดำเนินการทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท มีปุ๋ยรวมทั้งหมด 14 สูตร ทั้งนี้ คาดว่าจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อให้โครงการสามารถเริ่มได้ทันฤดูการผลิตปี 67/68
    .
    ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายปัจจัยการผลิตในการลดต้นทุนการปลูกข้าวให้เกษตรกร โดยรัฐบาลจะสนับสนุนปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ ไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ ให้กับเกษตรกร ในปีการผลิต 67/68 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร ซึ่งมีเกษตรกรปลูกข้าวทั่วไปประมาณ 4.48 ล้านครัวเรือน พื้นที่ 54 ล้านไร่ และเกษตรกรที่ปลูกข้าวอินทรีย์ 0.20 ล้านครัวเรือน พื้นที่ 120 ล้านไร่
    .
    https://www.salika.co/2024/06/13/salika-news-vol-165-5/
    .
    Knowledge Sharing Space | www.salika.co
    https://www.facebook.com/share/p/dwopqx8j8pLsDiBv/?mibextid=oFDknk
     
  4. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รถไฟฟ้าสายสีเหลือง EBM แจ้งซ่อมเสร็จแล้ว เปิดให้บริการตามปกติตั้งแต่ 16 มิถุนายนนี้

    เดินรถ-คิดค่าโดยสารตามปกติ
    .
    อ่านต่อในคอมเมนต์
    .
    #รถไฟฟ้าสายสีเหลือง #เดินรถ #ค่าโดยสาร #EBM #ประชาชาติธุรกิจ

    https://www.facebook.com/share/p/T5JHfsALsPLzHvVT/?mibextid=oFDknk
     
  5. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บริษัทรายใหญ่ของจีนที่รัฐเป็นเจ้าของกำลังประสบกับความสูญเสียหลังจากการขนส่งทองแดงจากรัสเซียมูลค่าเกือบ 20 ล้านดอลลาร์สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย
    Wuchan Zhongda Group ซึ่งมียอดขาย 5.8 แสนล้านหยวน (8 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปี 2566 ได้ซื้อทองแดงกลั่น 2,000 ตันจากโรงถลุงของรัสเซียที่ควรส่งมอบเมื่อเดือนที่แล้ว มันไม่เคยไปถึงท่าเรือเลย
    https://www.bloomberg.com/news/arti...opper-puzzle?srnd=homepage-asia&sref=LCwSb83X
    https://www.facebook.com/share/j15bie864md8xZJf/?mibextid=oFDknk
     
  6. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนังสือ ธุดงควัตร หนังสือเก่า สอนการฝึก สมาธิ ภาวนา) ใช้โทรศัพท์สแกนเอกสาร น่าจะไม่มีเผยแพร่ที่ไหน ขอนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน เก่าจนผุ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 15, 2024 วงจรอุฯ! แบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อรถกระบะควงหนี้ครัวเรือน ฉุดผลิตรถยนต์ในไทยทรุดต่ำสุดในรอบ 10 ปี เลิกผลิตซูบารุ-ซูซูกิ สะเทือนบริษัทผลิตเบาะ ล้อ ยาง กระจก

    นายสุพจน์ สุขพิศาล ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัจจัยหลักในขณะนี้ที่กระทบอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในไทย คือ ธนาคารต่างๆไม่ปล่อยสินเชื่อให้ประชาชน หรือผู้ซื้อรถปิกอัพ เนื่องด้วยหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหาใหญ่คิดเป็น 90% ของจีดีพีไทย และยังมีหนี้นอกระบบอีกกว่า 10% ทำให้รายได้ที่ออกมาไม่พอกับการใช้หนี้ การจ่ายหนี้ขั้นต่ำก็เพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 5 ปี ยืดยาวเป็น 10 ปี ดังนั้น 1-2 ปีนี้ ก็ยังแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนไม่ได้ จึงมองว่าปัจจัยหนี้ครัวเรือนเป็นต้นเหตุมากที่สุด

    อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ดร.สาโรจน์ วสุวานิช กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ปีนี้ มีบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์หลายรายได้รับแจ้งการลดคำส่งการผลิตรถยนต์จากโรงงานผลิตรถยนต์หลายยี่ห้อ กลุ่มบริษัทผลิตชิ้นส่วนจึงปรับลดการผลิตตามไปด้วย หากมองยอดการผลิตรถยนต์ทั้งปีนี้ คาดการณ์ว่าจะลดลงประมาณ 20-25% เทียบกับปีผ่านมา คงต้องต้องรอดูช่วงครึ่งปีหลัง ถ้าเกิดอย่างนี้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จะอันตราย ขณะนี้ พนักงานส่วนใหญ่ไม่ต้องทำล่วงเวลา บริษัทบางแห่งลดวันทำงานของพนักงานลง เช่น ได้หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ จากเดิมต้องทำงานวันเสาร์ด้วย ทำให้ลดรายจ่ายประจำลงได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจ่ายเงินเดือนเต็มจำนวน

    นายสุพจน์ สุขพิศาล ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ หรือ ส.อ.ท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดรถยนต์ในไทย ประกอบด้วยรถยนต์นั่ง กับรถกระบะ 1 ตัน สัดส่วนการผลิตอยู่ที่ 30% กับ 70% ตามลำดับ จึงหมายปริมาณการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทยของรถปิคอัพจะอยู่ที่มากกว่า 90% ของทั้งหมด จากกรณี 2 ค่ายรถยนต์ซูบารุ กับซูซูกิ ประกาศยกเลิกการผลิตรถยนต์ในไทยนั้น มีกระทบแต่ยังน้อยอยู่ โดยซูบารุนำชิ้นส่วนมาจากญี่ปุ่น และมาเลเซีย เพื่อนำมาพ่นสีในประเทศไทย เนื่องจากใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศอยู่ที่ระดับ 30% ที่เห็นได้ชัด คือ จะกระทบธุรกิจซัพพลายเชนที่ผลิต เบาะ ล้อ ยาง และกระจก เป็นต้น

    นอกจากนี้ จากปัญหาดังกล่าวของ 2 แบรนด์ มองว่าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนแน่นอน โดยเฉพาะแบรนด์ที่จะเข้ามาใหม่ เพราะไม่รู้ว่า 2 แบรนด์นี้มีเหตุปัจจัยของแบรนด์ ทั้งในเรื่องของการปรับกลยุทธ์ในเชิงภูมิภาค แต่ต้องอย่าลืมว่านักลงทุนมองอนาคตไม่เห็น จึงมองเรื่องความเชื่อมั่น ซึ่งแน่นอนว่าไม่เห็นอนาคตว่าอีก 3 ปี จะเป็นอย่างไร จะดีหรือกลับไปที่เดิมหรือกลับไป 2 ล้านคัน

    ทั้งนี้ ยอดขายรถใหม่ลดลงถึง 40% โดยเฉพาะรถกระบะที่เดือนเมษายน หดตัวถึง 45.94% หนักสุดในรอบ 32 เดือนทำให้ทั้งปีคาดว่าจะทำได้แค่ 6-7 แสนคัน ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี

    #รถป้ายแดง #รถมือสอง #สินเชื่อ #เช่าซื้อ #หนี้รถยนต์ #เศรษฐกิจ #รถยนต์ #ไฟแนนซ์ #ธนาคาร #BTimes

    https://www.facebook.com/share/9U6MwafmxZ8aRnkT/?mibextid=oFDknk
     
  8. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ประกอบการโอดแบกต้นทุนหนักอึ้ง ดันสินค้าพาเหรดขึ้นราคา ต้องจับตาแค่ชั่วคราวหรือติดลมบน แพงตลอดไป?
    .
    ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนน่าจะได้เห็นข่าวคราวการปรับขึ้นราคาสินค้าหลายอย่าง และมีที่ทำท่าว่าจะขึ้นอีกหลายอย่าง ถ้าสถานการณ์ราคาน้ำมันยังแพงติดเพดาน ผู้ประกอบการขนส่งก็ออกมาขู่ ว่าจะขึ้นค่าขนส่งไปอีก ทีนี้พวกสินค้าที่มีต้นทุนค่าขนส่ง (ซึ่งก็เกือบจะทั้งนั้นล่ะนะ) ก็จ่อคิวรอปรับราคาแล้ว ดีไม่ไดีบางอย่างก็ขึ้นไปรออยู่แล้ว ในขณะที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
    .
    <ราคาไข่ไก่แพงนำไปก่อน แพงสุดเป็นประวัติการณ์>
    หากย้อนกลับไปปลายเดือนพฤษภาคม ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นไปแล้ว หลังจากที่ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มประกาศปรับขึ้นแผงละ 4 บาท ทำให้แม่ค้าไข่ไก่ตลาดชุมชนท่าเดื่อ ในจังหวัดเชียงใหม่ ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ว่าราคาไข่ไก่ปรับขึ้นมาประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยเบอร์ 0 ปรับขึ้นแผงละ 6 บาท เบอร์ 1 ปรับขึ้นแผงละ 5 บาท และเเบอร์ 2/3/4 ปรับขึ้นแผงละ 4 บาท ทำให้ราคาขายปรับขึ้นมาทันที และดันให้ไข่ไก่มีราคาแพงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ยกตัวอย่างราคาไข่ไก่เบอร์ 0 ปรับขึ้นเป็นแผงละ 145 บาท เบอร์ 1 ราคา 138 บาท และที่สำคัญราคาไข่ที่จำหน่ายเป็นฟองนั้นพุ่งสูงขึ้นมาอยู่ที่ฟองละ 4–6 บาทแล้ว เบอร์ 0 แพงสุดอยู่ที่ 6 บาท
    .
    <บ่นกันระงม ไก่แพงทั้งแผ่นดิน>
    ที่เพิ่งจะปรับขึ้นแพงกันได้ไม่นานก็คือราคาไก่สด ที่พ่อค้าแม่ค้าพากันออกมากระพือข่าวว่าราคาไก่ที่มันขึ้นมา ทำลูกค้าหายไปเยอะ ซึ่งล่าสุดราคาไก่สดสำรวจเฉพาะในตลาดในย่านสะพานใหม่ กทม. พบว่า ราคาไก่สดและชิ้นส่วนไก่ปรับตัวสูงขึ้นเร็วมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5–10 บาท เช่น อกไก่ เดิม 80 บาท ขึ้นเป็น 85–90 บาท ที่หนักสุดคือปีกกลาง เดิม 130 บาท วันนี้ขึ้นมาเป็น 135 และ 140 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว
    .
    ขณะที่ในต่างจังหวัด อย่างเช่นที่ตลาดสดเทศบาล 2 จังหวัดอุทัยธานี ราคาไก่สดปรับราคาขึ้นเป็นรายวัน โดยแม่ค้าแผงไก่สด บอกว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาส่งไก่สดปรับขึ้นมารวมแล้วถึงกิโลกรัมละ 31 บาท จากเดิมราคาขายส่งอยู่ที่ 55 บาท ปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 81 บาท และยังทยอยปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาท แบบรายวันอีกด้วย ส่งผลให้ราคาขายปลีกขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 95–100 บาทแล้ว ส่วนชิ้นส่วนไก่ ทั้งปีก น่อง ขาไก่ ก็ขยับขึ้นตาม ซึ่งก็ยังไม่ทราบสาเหตุพาลทำให้บรรยากาศค้าขาย เงียบเหงาลงมาก เพราะลูกค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าแพง
    .
    ขณะเดียว ยังมีลูกเพจของ BTimes ได้แจ้งข่าวสารมายังแฟนเพจเฟซบุ๊กของเราอีกด้วยว่าราคาไก่แพงขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะในห้างแพงกว่าในตลาดมาก และบนโซเชียลมีเดียยังได้มีการแชร์ข้อมูลและวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า ไก่แพง! เช่น ราคาไก่สดปรับขึ้นมาก ราคาสินค้าหลายๆ อย่างเช่น ผัก ราคาลงหมดแล้ว เมื่อเข้าฤดูฝน แต่ไก่สดยังราคาค้างฟ้า ไม่มีทีท่าจะลง กระทบประชาชนมากๆ แพงทุกอย่าง สินค้าหลักอย่างเช่น ไข่ ไก่ ขึ้นสูงมาก, บางร้านในนครปฐม กาญจนบุรีบางร้านขึ้นถึง 93 บาทแล้ว สำหรับสันในไก่, 85 ค่ะ ไข่ไก่ก็ขึ้น ทำกับข้าวขายหนักใจสุดๆ, ขึ้นมา 2–3 สัปดาห์แล้วขึ้นทีหน้ามืด, ซื้อกิโลกรัมละร้อยตั้งนานละนะ ในห้างโลละ 100 กว่าบาท, แพงทั้งแผ่นดิน เป็นต้น
    .
    <พาณิชย์นั่งไม่ติดเรียกผู้ประกอบการถกด่วน>
    กระทรวงปากท้องอย่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในก็นั่งไม่ติด เพราะประชาชนเดือดร้อน แถมร้องเรียนกันอย่างหนัก จึงได้มีการเรียกบรรดาผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ผู้ส่งออก ผู้ประการค้าปลีกระดับบิ๊กของประเทศ มาหารือถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น
    .
    โดยคุณกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่าจาการประชุมหารือร่วมกับผู้ที่ พบว่าสาเหตุที่ฟาร์มไก่ให้เหตุผลก็มาจากช่วงเดือนมีนาคม – เมษายนที่ผ่านมา เป็นช่วงอากาศร้อนและแล้งจัด ทำให้ผลผลิตไก่เนื้อออกสู่ตลาดลดลง จากเดิมเวลาเพาะเลี้ยงจะประมาณ 39–42 วัน อีกทั้งน้ำหนักไก่เป็นก็ลลงด้วย 5% ซึ่งกว่าจะได้ขนาด 2.4 กิโลกรัมตามขนาดมาตรฐานปกติ ต้องเลี้ยงเพิ่มอีก 3–5 วัน ทำให้ผู้ประกอบการมีภาระค่าใช้จ่ายต้นทุน ดังนั้นจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาเพื่อให้สอดคล้องกัน
    .
    ส่วนที่มีการมองกันว่าการส่งออกไก่เนื้อของไทยที่เพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ไก่ในประเทศขาดแคลนนั้น ไม่ได้มีผลเพราะปริมาณผลผลิตไก่มีเพียงพอ ไม่มีปัญหาขาดแคลน ทั้งการบริโภคในประเทศและการส่งออก ขณะเดียวกันสถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยผู้เลี้ยงไก่เนื้อได้เพิ่มจำนวนลูกไก่ และการเลี้ยงจนได้ผลผลิตใช้เวลา 39–42 วันเหมือนเดิม และเมื่อผลผลิตล็อตใหม่เข้าสู่ตลาด ราคาจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ คาดว่าจะเป็นปกติช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
    .
    สำหรับผลผลิตออกสู่ตลาดอยู่ที่วันละ 5.45 ล้านตัว คิดเป็นเนื้อไก่ ประมาณ 9,300 ตัน ปริมาณบริโภคในประเทศตกปีละ 2.2 ล้านตัน เฉลี่ยวันละ 6,000 ตัน ที่เหลือคือส่งออก
    .
    คุณกรนิจ ยังบอกด้วยว่าได้รับคำยืนยันทั้งจากผู้เลี้ยงจะเร่งเลี้ยงเพิ่ม และผู้ประกอบการได้มีการเปิดโรงเชือดใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนเรื่องราคา ทั้งผู้เลี้ยง ห้างค้าส่งค้าปลีก ยืนยันจะไม่มีการปรับขึ้นราคาไปกว่านี้อีกแล้ว โดยราคาถือว่าสูงสุด ณ ตอนนี้แล้ว ก็จะตรึงราคานี้ ไม่มีการขึ้นอีก และยังจะช่วยจัดโปรโมชัน โดยเฉพาะชิ้นส่วนสะโพก และเนื้ออก เพื่อลดราคาให้กับผู้บริโภคด้วย และจากนี้เมื่อสถานการณ์ผลผลิตดีขึ้น ก็จะปรับลดลงตามความเหมาะสม ขอให้ผู้บริโภคเบาใจลงได้ และกรมจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อีกทั้งจากการตรวจสอบตอนนี้ ราคายังอยู่ในโครงสร้างที่กำหนด
    .
    <ยังมีสินค้ารอปรับขึ้นอีก>
    จากการเปิดเผยของคุณสมชาย พรรัตนเจริญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมค้าส่ง–ปลีกไทย บอกด้วยว่า ล่าสุด ผู้ผลิตผงชูรสยี่ห้อหนึ่ง แจ้งในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะปรับราคาขายขึ้นอีกประมาณ 5% หรือประมาณ 3–5 บาทต่อถุง ซึ่งแต่ละขนาดจะปรับขึ้นไม่เท่ากัน เช่นขนาด 1 กิโลกรัม ปรับขึ้น 5 บาท ส่วนขนาดเล็กราคาขาย 5–10 บาท ไม่ได้ปรับราคาขายขึ้น แต่ลดปริมาณลง
    .
    คุณสมชาย ยังระบุด้วยว่าปัจจุบันสถานการณ์กำลังซื้อยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง จากการที่คนไม่มีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ ไม่มีรายได้เพิ่ม แต่กลับมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น สินค้าราคาสูงขึ้น ทำให้คนประหยัดในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
    .
    <ผู้เลี้ยงหมูขอโวยบ้าง>
    ย้อนกลับไปปัญหาหมูเถื่อนที่ระบาดหนัก ผู้เลี้ยงหมูไทยประสบปัญหาขาดทุนสะสมมานานกว่า 1 ปี หลังเผชิญวิกฤตราคาหมูตกต่ำในปี 66 ต้นทางจากประเทศบราซิลและประเทศทางยุโรปที่มีต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 40–50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าไทย 50% ทำให้ราคาหมูในบ้านเราถูกดัมพ์ราคา และจำยอมที่ต้องขายขาดทุน แม้ว่าตอนนี้ราคาจะทยอยกลับสู่ภาวะปกติ แต่ก็พบว่าบรรดาผู้เลี้ยงยังได้รับความเดือดร้อนจากขาดทุนสะสม แถมยังมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์ ค่าไฟฟ้า ค่าพลังงาน และปัจจัยการป้องกันโรค ล้วนทำให้ค่าใช้จ่ายในฟาร์มและต้นทุนการเลี้ยงหมูต่อตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สูงขึ้น
    .
    จากการเปิดเผยของคุณสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ที่บอกว่าราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มยังไม่สามารถปรับขึ้นข้ามเส้นคุ้มทุนไป สวนทางกับการบริโภคของประชาชนที่ยังชะลอตัวตามเศรษฐกิจ
    .
    ราคาล่าสุด ณ 14 มิถุนายน 2567 ราคาสุกรหน้าฟาร์มปรับขึ้น กิโลกรัมละ 2 บาท จากวันพระก่อนหน้า (30 พฤษภาคม 2567) ภาคตะวันตก 72 เป็น 74 บาท/กิโลกรัม, ภาคตะวันออก 68–74 เป็น 70–76 บาท/กิโลกรัม, ภาคอีสาน 74–76 เป็น 76–78 บาท/กิโลกรัม, ภาคเหนือ 73–76 เป็น 75–78 บาท/กิโลกรัม, ภาคใต้ 74 เป็น 76 บาท/กิโลกรัม
    .
    ส่วนราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 12 บาท สูงขึ้นจากเดือนที่แล้วที่ราคากิโลกรัมละ 10.30 บาท เพิ่มขึ้นถึง 1.70 บาท นับเป็นต้นทุนสำคัญในการเลี้ยงหมู เนื่องจากสัดส่วนการใช้ข้าวโพดในการผสมอาหารสัตว์นั้นเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดราว 30–40% การที่ข้าวโพดขาดตลาดและมีราคาแพงจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเลี้ยงสัตว์
    .
    ยังไม่นับรวมต้นทุนด้านอื่นๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊สฯ น้ำมัน กระทบลากยาวเป็นลูกโซ่ถึงต้นทุนขนส่ง บริหารจัดการ ค่าจ้าง ค่าแรง ต่างๆ นานา เพราะมันเกี่ยวโยงกันแทบจะทั้งหมด มองแค่ไม่กี่อย่างก็เห็นว่ามีราคา(แพง)ที่ต้องจ่าย ถึงแม้ว่าจริงๆ อาจจะแพงขึ้นไม่กี่อย่าง(หรือเปล่า) แต่มันก็แพงขึ้นตอนควักจ่ายหรือเทียบปริมาณกับแต่ก่อน คนที่ต้องซื้อกินซื้อใช้รู้สึกและสัมผัสได้ ถึงอย่างนั้น ประชาชนตาดำๆ ขาวๆ อย่างเราๆ ต่างก็เฝ้ารอว่าจะมีมาตรการอะไรก็ได้สักอย่างที่มาช่วยรีบูตเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นจริงๆ จังๆ สักที ไม่ใช่แค่เสือกระดาษอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้...
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3xhCloo
    .
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/c/MisterBan
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #เงินเฟ้อ #ต้นทุน #ราคาสินค้า #แพงทั้งแผ่นดิน #เศรษฐกิจไทย #ค่าครองชีพ #ราคาหมู #ราคาไก่ #ผงชูรส #ผัก #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/ToEtsrvc6tUyX2jY/?mibextid=oFDknk
     
  9. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 15, 2024 เมินปล่อยพุ่ง! ช็อกคนไทยหลังสถาบันการเงินดันยอดปฏิเสธสินเชื่อรถป้ายแดงแตะ 20% ยอดปฏิเสธรถมือสองพุ่ง 40% หวั่นฉุดเศรษฐกิจทรุดทั้งระบบ

    นายพิชิต จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส หรือ K-CAR (เค-คาร์) เปิดเผยว่า ได้รับเชิญจากแบงก์ชาติ ให้เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ในวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการพูดคุยถึงสถานการณ์ภาพรวมของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยที่ค่อนข้างมีปัญหา ทั้งกำลังซื้อและโครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่เปลี่ยนไป จากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งกำลังส่งผลต่อภาพรวมการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ

    โดยปัจจุบันเห็นได้ชัดว่า กำลังซื้อผู้บริโภคหายไป ขณะที่เกณฑ์ติดตามลูกหนี้ก็เข้มงวดเกินไป เช่น กำหนดให้ไฟแนนซ์ติดตามได้วันละครั้ง เสาร์-อาทิตย์ ติดตามไม่ได้ ข้อกำหนดที่ให้ลูกค้าคืนรถได้โดยไม่มีค่าปรับ แถมฟ้องไม่ได้ ทำให้ไฟแนนซ์ตั้งการ์ดสูง จนไม่กล้าปล่อยสินเชื่อ เพราะกังวลหนี้เสียที่จะเกิดขึ้น ส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อรถใหม่ ที่พุ่งไปที่ 20% แล้ว ส่วนรถยนต์ใช้แล้วสูงถึง 40% ส่งผลยอดขายรถ 4 เดือนแรก ทำได้แค่ 210,494 คัน ลดลงถึง 23.90% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

    #รถป้ายแดง #รถมือสอง #สินเชื่อ #เช่าซื้อ #หนี้รถยนต์ #เศรษฐกิจ #รถยนต์ #ไฟแนนซ์ #ธนาคาร #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/1f7A2FQATWHFM6pb/?mibextid=oFDknk
     
  10. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกร้อน น้ำทะเลขึ้นสูง มรดกโลกในกรีซ กำลังจะจม ภายในอีกไม่กี่สิบปี
    .
    แหล่งมรดกโลกอารยธรรมกรีกโบราณ อายุหลายพันปี บนเกาะดีลอส ในกรีซ กำลังจะจมน้ำ ภายในอีกไม่กี่ทศวรรษ และยังคงไร้ทางแก้
    .
    “ดีลอส” (Delos) เกาะเล็ก ๆ นอกชายฝั่งของกรีซ เป็นสถานที่สำคัญด้านตำนาน ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี ของประเทศกรีซ มีแหล่งโบราณสถานตั้งแต่สมัยอารายธรรมกรีกตั้งเรียงรายอยู่ทั่วเกาะ จนได้รับการคัดเลือกเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก แต่ในวันนี้เกาะทั้งเกาะกำลังจมลงช้า ๆ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    การค้นพบทางโบราณคดีบนเกาะดีลอสนับเป็นการค้นพบครั้งใหญที่สุดแห่งหนึ่งในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อาคารอายุกว่า 2,000 ปีตั้งเรียงรายอยู่ทั่วเกาะ แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอารายธรรมกรีก ตัดกับภาพผืนน้ำทะเลที่กำลังค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาใกล้ตัวอาคารขึ้นเรื่อย ๆ ภายในอีกไม่กี่สิบปี อาคารเหล่านี้จะหายไปตลอดกาล เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น อันเป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    ความเสียหายทางโครงสร้างจากน้ำทะเลกัดเซาะเริ่มแสดงให้เห็นแล้ว ในหมู่อาคารที่เชื่อว่าเป็นสถานที่ขายสินค้าและคลังสินค้าในช่วง 100-200 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้
    .
    ในช่วงฤดูหนาว น้ำจะเข้าท่วมโซนอาคารร้านค้า น้ำเหล่านี้จะกัดกินฐานกำแพง พอเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ กำแพงก็จะพังทลายลง ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในบางส่วนของเกาะมีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 20 เมตร
    .
    การศึกษาในปี 2023 จากมหาวิทยาลัยอริสโตเติล ในกรีซ พบว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นรวมกับความชื้นในระดับสูง อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อองค์ประกอบทางเคมีของวัสดุบางชนิดที่ใช้ในสิ่งก่อสร้างบนเกาะ ซึ่งถือเป็นอนุสรณ์สถานมรดกทางวัฒนธรรมของโลก
    .
    นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวมักชอบเข้าในเขตห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหามากกว่าเดิม และมีนักโบราณคดีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมาอยู่ดูแลโบราณสถานในช่วงหน้าร้อนที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
    .
    การกัดเซาะของน้ำทะเล ทำให้นักโบราณคดีต้องใช้คานไม้เพื่อยึดผนังอาคารอายุหลายพันปีบางส่วน แต่ด้วยความซับซ้อนและโครงสร้างของอาคารที่ค่อนข้างเปราะบาง การจะบูรณะจึงจำเป็นผ่านความเห็นชอบจากหลายฝ่าย
    .
    อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ เมืองชายฝั่งทั้งหมดในกรีซจะจมลงในทะเลจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
    .
    อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/environment/1131432?anm=
    .
    ที่มา:
    Phys: https://bit.ly/4cl3aHb
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจSustain #กรุงเทพธุรกิจClimate
    https://www.facebook.com/share/p/HnkUCeZoU5MWhQLc/?mibextid=oFDknk
     
  11. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ธุรกิจเทคโนโลยีกับการจ่ายค่าตอบแทนย้อนยุคด้วยระบบ บาร์เตอร์! อาร์เจนตินาจ่ายค่าสร้าง 5G ให้หัวเว่ยด้วยเนื้อวัวและไวน์ ขาดแคลนเงินสด-สกุลต่างชาติ บาร์เตอร์แลกเปลี่ยนสินค้ายุคใหม่มาแล้ว!
    เซอร์ไพรส์! อาร์เจนตินาจ่ายค่าสร้างเครือข่าย 5G ให้หัวเว่ย ด้วยเนื้อวัวและไวน์แทนเงินสด เหตุขาดแคลนเงินดอลลาร์-หยวน บาร์เตอร์ยุคใหม่มาแล้วจ้า! หัวเว่ยเลยกลายเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าเนื้อวัวใหญ่สุดในจีน พร้อมเปิดไซต์ "Huawei Mall" ขายเนื้อและไวน์แบบค้าส่ง-ปลีกไปด้วย
    ความขาดแคลนเงินดอลลาร์สหรัฐและหยวนของอาร์เจนตินา ผลักดันให้ต้องใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรงกับ Huawei ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีน เพื่อจ่ายค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระบบ 5G ในประเทศ โดยใช้เนื้อวัวและไวน์เป็นสินค้าแลกเปลี่ยนแทนเงินสด ทำให้ Huawei กลายเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าเนื้อวัวรายใหญ่ที่สุดในจีน และมีการเปิดไซต์อีคอมเมิร์ซ "Huawei Mall" เพื่อขายเนื้อวัวและไวน์ทั้งค้าส่งและปลีกด้วย นับเป็นการย้อนกลับไปสู่ระบบการค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรงเหมือนในอดีตอีกครั้ง #imctnews รายงาน (อ่านต่อในคอมเม้นต์)

    https://www.facebook.com/share/p/Sjxu78UE4Vke2CAm/?mibextid=oFDknk
     
  12. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ECB เผยธนาคารกลางกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเริ่มทิ้งยูโร สำรองเงินลดฮวบ 1% ขณะที่รัสเซียหวังดันรูเบิลขึ้นแท่นสกุลเงินโลกแต่ยังไม่สำเร็จ
    ธนาคารกลางยุโรป (ECB) รายงานตัวเลขน่าตกใจว่า นับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกได้ค่อยๆ ลดสัดส่วนเงินสำรองในรูปสกุลเงินยูโรลงราว 1% อย่างต่อเนื่อง โดยเลือกที่จะกระจายความเสี่ยงด้วยการถือครองทองคำและสกุลเงินทางเลือกอื่นๆ มากขึ้น ทั้งในฝั่งประเทศตะวันตก เช่น ดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์ออสเตรเลีย โครนาสวีเดน
    โครนนอร์เวย์ รวมถึงฝั่งเอเชีย อย่างดอลลาร์สิงคโปร์และวอนเกาหลี
    ในขณะเดียวกัน แม้รัสเซียจะพยายามฉวยโอกาสผลักดันสกุลเงินรูเบิ้ลของตัวเองให้ก้าวขึ้นมาเป็นเงินสกุลหลักในเวทีโลก แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างความโดดเด่นได้ อย่างไรก็ดี ECB ยังมองว่ายูโรมีเสถียรภาพในฐานะสกุลเงินสำหรับทำธุรกรรมการเงินระดับโลก แม้ในระบบ Swift จะมีสัดส่วนการใช้ที่ลดลงก็ตาม #imctnews รายงาน (อ่านต่อในคอมเม้นต์)

    https://www.facebook.com/share/p/AARkFXDTgVsnjYvu/?mibextid=oFDknk
     
  13. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    EUล้มเหลวคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ เยอรมนีคัดค้านแผนปราบปรามการหลีกเลี่ยงมาตรการลงโทษ หวั่นกระทบบริษัทในเครือ ด้านรัสเซียซัดประชุมสันติภาพยูเครนแค่มายากล
    ความพยายามของสหภาพยุโรปในการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ต้องพบกับอุปสรรคครั้งสำคัญ หลังเยอรมนีออกมาคัดค้านข้อเสนอที่จะลงโทษบริษัทที่ทำธุรกิจกับมอสโก
    เนื่องจากกังวลว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อบริษัทในเครือของตน ทำให้แผนที่จะห้ามขนส่ง LNG ของรัสเซีย และปราบปรามการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร
    โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการในอียูต้องรับผิดถ้าบริษัทลูกหรือหุ้นส่วนในประเทศที่สามมีการละเมิด ต้องถูกถอดออกจากการพิจารณาในนาทีสุดท้าย ทั้งที่สมาชิกอียูต่างหวังจะอนุมัติมาตรการนี้ก่อนการประชุมสุดยอดสันติภาพยูเครนในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะมีผู้แทนจาก 90 ประเทศเข้าร่วม แต่รัสเซียไม่ได้รับเชิญ โดยรัสเซียกล่าวว่าชาติตะวันตกใช้โอกาสนี้ "ยื่นคำขาด" มากกว่าจะเจรจาสันติภาพจริงๆ #imctnews รายงาน (อ่านต่อในคอมเม้นต์)

    https://www.facebook.com/share/p/uQVQXT6YQUvMwvbr/?mibextid=oFDknk
     
  14. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เผยแก๊งน้ำมันเถื่อนพยายามอำพรางสีเรือ พบน้ำมันของกลาง-ลูกเรือหายบางส่วน
    "บิ๊กก้อง"ยืนยันพบแล้วเรือขนน้ำมันเถื่อนของกลางทั้ง 3 ลำบริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลหลังถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่หลาย ๆ ชาติ เผยพยายามอำพรางสีเรือ ส่วนน้ำมันของกลาง และลูกเรือหายบางส่วน
    วันนี้ (16 มิ.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า ยืนยันว่าพบเรือน้ำมันทั้ง 3 ลำ พร้อมลูกเรือบางส่วนเรียบร้อยแล้ว ตำรวจน้ำกำลังนำเรือเข้าฝั่งที่อำเภอเมืองจังหวัดสงขลา โดยรายละเอียดได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. เป็นผู้แถลงข่าวที่กองกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จ.สงขลา เวลา 12.00 น. วันพรุ่งนี้ (17 มิย.)
    ด้าน พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ เปิดเผยว่า ตำรวจน้ำ ได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน จนล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พบเรือน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำแล้ว ที่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจำเพาะสามประเทศ คือ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าน้ำมันบางส่วนหายไปอยู่ไม่เต็มจำนวน และลูกเรือจากจำนวน 16 คน ตอนนี้เหลือเพียง 8 คนเท่านั้น และที่บริเวณตัวเรือพบว่ามีความพยายามที่จะอำพรางเปลี่ยนแปลงสีของเรือน้ำมันของกลางอีกด้วย
    จากการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่า เรือทั้งสามลำดังกล่าวเข้าเทียบท่าที่ประเทศกัมพูชามาก่อนหน้านี้แล้ว และมีลูกเรือบางส่วนลงจากเรือไป พร้อมทั้งน้ำมันบางส่วนก็หายไปด้วย อย่างไรก็ตามจากการที่ทางการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ทำการออกตรวจลาดตระเวนทางทะเล ทำให้เรือทั้ง 3 ลำ หลบหนีออกจากท่าเรือในกัมพูชา แล้วออกสู่น่านน้ำเพื่อที่จะหลบหนี แต่ทั้งนี้จากการประสานกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถค้นพบหรือทั้ง 3 ลำที่บริเวณดังกล่าว และจะนำเข้าฝั่งภายในวันนี้ (17 มิย.) โดยเรือหนึ่งใน 3 ลำไม่สามารถขับเคลื่อนได้ตัวเองจึงต้องทำการลากเข้าฝั่ง พร้อมกับอีกสองลำที่เหลือ ซึ่งสามารถขับได้ตามปกติ
    https://www.facebook.com/share/p/9daCmJ4JffFDjLFC/?mibextid=oFDknk
     
  15. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jun 16, 2024 ฟังชัดๆ! บิ๊กเอกชนธุรกิจสวนน้ำสยามอะเมซิ่งพาร์คพูดชัด ปี 68 บริษัทขนาดใหญ่ในไทยอาจปิดตัวราว 50 ราย สอดรับปีนี้ KKP Research ชี้ยอดเปิดโรงงานสุทธิในไทยวูบหนักกว่า 66% ยอดปิดพุ่ง 1,700 โรงงานใน 3 ปีกว่าผ่านมา แต่แบงก์ชาติยืนคนละมุม ยอดเปิดมากกว่ายอดปิด เปิดโรงงานเพิ่ม 8%

    นายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานที่ปรึกษา กลุ่มบริษัทสยามพาร์คซิตี้ ประกอบด้วยสวนน้ำสวนสนุก ‘สยามอะเมซิ่งพาร์ค’ และบางกอกเวิลด์ กล่าวว่า ปัจจัยมากมายที่กดดันสถานการณ์โดยรวมภาคธุรกิจ ซึ่งสะสมมาตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 กำลังซื้อประชาชนไม่ดีอย่างที่ควร เกิดการระมัดระวังการใช้จ่าย ภาระค่าใช้จ่ายทั้งภาคธุรกิจและประชาชนสูง ภาระหนี้สินจำนวนมาก ในแง่การเมือง คือ การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยเกินไป และมักเปลี่ยนนโยบาย จึงมีผลต่อการทำธุรกิจเอกชนที่ได้เตรียมให้สอดรับอย่างภาครัฐ

    ยกตัวอย่าง บางกอกเวิลด์ ของกลุ่มบริษัทสยามพาร์คซิตี้ ได้ตั้งใจเป็นจุดรองรับการผลิตและจำหน่ายสินค้าโอท็อป ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้ามาแหล่งค้าขายประจำและเพิ่มรายได้ แต่เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนแปลง โอท็อปวันนี้ก็ไม่ได้พูดถึง ยังดีมีซอฟต์พาวเวอร์ ก็ต้องใช้เวลา ปีนี้ถ้าไม่ดีขึ้น ปีหน้าจะหนัก ทำให้ผมมองว่าปีหน้ามีโอกาสบริษัทใหญ่ปิดตัวหรือเปลี่ยนมือ ไม่แค่ในไทย ต่างประเทศก็จะเกิดขึ้นเช่นกัน คาดในปี 2568 จะมีบริษัทขนาดใหญ่แบกรับภาระไม่ไหวและปิดตัวประมาณ 50 ราย ครอบคลุมในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ถือเป็นเรื่องน่ากังวล

    มุมมองและการยืนยันแนวโน้มการปิดตัวของธุรกิจในประเทศไทยจากภาคธุรกิจขนาดใหญ่ดังกล่าวนั้น สอดคล้องกับเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนผ่านมา ที่สำนักวิจัย KKP Research เปิดเผยต่อสัญญาณไปว่า สัญญาณถัดมาที่น่ากังวลกว่านั้น คือ ข้อมูลการปิดโรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่เร่งตัวขึ้นชัดเจนตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2023 โดยค่าเฉลี่ยการปิดโรงงานของไทยอยู่ที่ 57 โรงงานต่อเดือนในปี 2021 และ 83 โรงงานต่อเดือนในปี 2022 ในขณะที่พุ่งสูงขึ้นถึง 159 โรงงานต่อเดือนในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ส่งผลให้หากนับรวมตั้งแต่ต้นปี 2023 มาจนถึงไตรมาสแรกของปี 2024 มีโรงงานปิดตัวลงไปแล้วกว่า 1,700 แห่ง กระทบการจ้างงานกว่า 42,000 ตำแหน่ง (มีต่อหน้า 2/2)

    (หน้า 2/2) สำนักวิจัย KKP Research เปิดเผยต่อไปว่า ไม่ใช่แค่โรงงานปิด แต่โรงงานเปิดใหม่ก็ลดลงเช่นกัน การปิดตัวของโรงงานเพียงอย่างเดียวอาจไม่สะท้อนภาพทั้งหมด แต่ตัวเลขการเปิดตัวโรงงานใหม่ที่ลดลงกว่าในอดีตยังย้ำให้เห็นถึงสถานการณ์ในภาคอุตสาหกรรมไทยที่ไม่ดีนัก เพราะการเปิดโรงงานใหม่มีทิศทางที่ชะลอตัวลงเช่นกัน จึงทำให้ยอดการเปิดโรงงานสุทธิ (จำนวนโรงงานเปิดหักลบด้วยโรงงานปิด) ในภาพรวมชะลอตัวลงอย่างมาก จากค่าเฉลี่ยที่เป็นบวกสุทธิประมาณ 150 โรงงานต่อเดือน ลดลงเหลือเพียง 50 โรงงานต่อเดือน หรือกว่า -66%

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนผ่านมา นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า เกี่ยวกับยอดปิดโรงงานในประเทศไทยนั้น ควรมองให้ครบรอบด้าน ทั้งการเปิดและปิดกิจการ ช่วงที่ผ่านมาก็สะท้อนการเปิดมากกว่าปิดโรงงาน ซึ่งเป็นกลไกเศรษฐกิจ การย้ายโรงงานก็อาจจะเพื่อไปหาที่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเทิร์นโอเวอร์มีขึ้น อย่างไรก็ดี มองว่าตอนนี้ยังไม่ได้เป็นประเด็นปัญหาในภาพใหญ่ของการปิดโรงงาน

    หากดูตัวเลขปิดกิจการ พบว่าลดลงกว่าในช่วงที่ผ่านมา อัตราการเปิดธุรกิจสูงกว่า หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน การเปิดกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 8% และยังมีจำนวนพนักงานจ้างใหม่มากกว่าพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง เม็ดเงินการลงทุนยังคงเป็นบวกอยู่

    #ปิดโรงงาน #ตกงาน #ปลดพนักงาน #เศรษฐกิจ #ไทย #เอกชน #ลดผลิต #แบงก์ชาติ #ธปท #สวนสยาม #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/khApBno92vcvefVi/?mibextid=oFDknk
     
  16. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ได้ยื่นหนังสืออย่างป็นทางการกับ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ในการแสดงความประสงค์เข้าร่วมเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของกลุ่ม BRICS
    การส่งมอบเอกสารอย่าเงป็นทางการดังกล่าว มีขึ้นตามหลังการประชุมร่วมระหว่าง BRICS กับบรรดาชาติกำลังพัฒนา ซึ่งจัดขึ้นในเมืองนิจนีนอฟโกรอด สหพันธรัฐรัสเซีย เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน
    รัสเซีย รับหน้าที่ประธานหมุนเวียนของ BRICS ในปี 2024
    ระหว่างการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้กล่าวถ้อยแถลง แสดงความพร้อมในการเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS
    เขากล่าวว่า ไทยในฐานะเป็นสะพานเชื่อม (Bridge builder) กับกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในโลก จะสามารถส่งเสริมให้ BRICS เป็นกรอบความร่วมมือที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกับทุกฝ่ายมากยิ่งขึ้น และร่วมกับ BRICS ในการผลักดันผลประโยชน์ร่วมของประเทศกำลังพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น
    ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้เสนอแนะแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่าง BRICS กับประเทศกำลังพัฒนาเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงาน ความมั่นคงอาหาร การส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่น และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ
    BRICS คือกลุ่มที่มีความสำคัญ เป็นการรวมตัวกันของเศรษฐกิจเกิดใหม่หลักๆจากทั่วทุกมุมโลก ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ อิหร่าน อียิปต์ เอธิโอเปียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในนั้น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน อียิปต์ และเอธิโอเปีย เพิ่มเข้าเป็นสมาชิกใหม่ในปีนี้
    การประชุมซัมมิท BRICS ครั้งถัดไปจะมีขึ้นในเมืองคาซาน เมืองเอกของสาธารณรัฐตาตาร์สตาน ประเทศรัสเซีย ในเดือนตุลาคม

    (ที่มา:ดิอินเวสเตอร์/กระทรวงการต่างประเทศไทย)
    https://www.facebook.com/share/p/t4yVzAUzM4zvWa2z/?mibextid=oFDknk
     
  17. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FAA ตรวจพบ “โบอิ้ง-แอร์บัส” แอบใช้ "ไททาเนียมเอกสารปลอม" จาก "จีน" อาจทำเครื่องแตกเป็นเสี่ยงกลางอากาศ (ชมคลิป)
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ – สำนักงานกลางกำกับการบินสหรัฐฯ FAA ออกมาเปิดเผยว่า ไททาเนียมจีนที่มีเอกสารรับรองปลอมจากซัพพลายเออร์ใหญ่ Spirit AeroSystems รับซื้อต่อใช้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินให้ทั้งโบอิ้งจากอเมริกาและแอร์บัสของยุโรป หลังพบบริษัทซัพพลายเออร์รายดังกล่าวเป็นต้นตอประตูเครื่องโบอิ้ง 737 Max หลุดออกกลางอากาศเมื่อวันที่ 5 ม.ค
    .
    เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันศุกร์(14 ม.ค)ว่า บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินทั้งโบอิ้งจากสหรัฐฯและแอร์บัสจากยุโรปมีชิ้นส่วนที่ทำมาจากไททาเนียมที่รับรองโดยเอกสารปลอม
    .
    สำนักงานกลางกำกับการบินสหรัฐฯ FAA ทำการสอบสวนปัญหาเครื่องบินโบอิ้ง ซึ่งในเวลานี้ทาง FAA กำลังสอบสวนว่า ไททาเนียมที่มาพร้อมกับเอกสารปลอมสามารถเล็ดลอดเข้าสู่ซัพพลายเชนส์ของผู้ผลิตเครื่องบินระดับโลกได้อย่างไร
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สที่เป็นผู้เปิดเผยในวันศุกร์(14)ว่า เชื่อว่า ไททาเนียมไม่ได้มาตรฐานมาจากซัพพลายเออร์จีน Baoji Titanium Industry
    .
    อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการ บริษัทตั้งอยู่ที่มณฑลชานซี
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยกับนิวยอร์กไทม์สว่า ปัญหาโบอิ้งย้อนไปตั้งแต่ปี 2019 เมื่อซัพพลายเออร์วัสดุ Turkish Aerospace Industries ที่ซื้อโลหะไททาเนียมจำนวนมากมาจากซัพพลายเออร์จีนที่ภายหลังระบุว่าคือบริษัท Baoji Titanium Industry ชื่อดัง และได้ขายไททาเนียมต่อให้ซัพพลายเออร์เจ้าอื่นๆไป
    .
    อย่างไรก็ตามโฆษกของบริษัทไททาเนียมจีน Baoji Titanium Industry ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า “บริษัท Baoji Titanium ไม่รู้เกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้และไม่มีการติดต่อทำธุรกิจกับบริษัทแห่งนี้”
    .
    ซึ่งหนึ่งในซัพพลายเออร์ที่รับซื้อไททาเนียมจีนต่อคือบริษัทไททาเนียมอินเตอร์เนชันแนลกรุ๊ป TIG (Titanium International Group) ที่ชี้ว่ารู้สึกถึงความผิดปกติในเดือนธันวาคมปี 2023 ของสินค้าโลหะไททาเนียมที่รับมานั้นมีความแตกต่างจากไททาเนียมอื่นๆที่ได้มาตามปกติ
    .
    และชี้ว่าใบรับรองที่มาพร้อมกันนั้นดูเหมือนของจริง
    .
    และซัพพลายเออร์ TIG ได้ขายไททาเนียมบางส่วนไปให้กับซัพพลายเออร์ใหญ่ของโบิ้งและแอร์บัส Spirit AeroSystems หลังจากนั้น
    .
    ซึ่ง FAA กล่าวว่า พบว่าต้นตอปัญหามาจากซัพพลายเออร์ Spirit AeroSystems ที่ส่งไททาเนียมให้กับทั้งโบอิ้งและแอร์บัส โดยไททาเนียมดังกล่าวผ่านเข้ามาในระบบโดยใช้เอกสารปลอม
    .
    ในรายงานระบุว่า FAA กำลังสอบสวนความถูกต้องของไททาเนียมที่ใช้ในเครื่องบินแอร์บัสบางส่วน
    .
    ทั้งนี้โลหะไททาเนียมถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมอากาศยานที่ใช้ในการผลิตเกียร์ลงจอด(landing gear) ใบพัด และดิสก์กังหัน (turbine disc) สำหรับเครื่องบิน
    .
    เดลีเมลรายงานว่า ปัญหาถูกพบหลังชิ้นส่วนเครื่องบินผลิตจากซัพพลายเออร์ พบมีรูขนาดเล็กในไททาเนียมจากปัญหาการสึกกร่อน
    .
    ซัพพลายเออร์ใหญ่ Spirit ผู้ผลิตตัวเครื่องบินให้โบอิ้งและปีกเครื่องบินให้แอร์บัสกำลังทดสอบโลหะไททาเนียมว่าได้มาตรฐานและมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งพอหรือไม่
    .
    บริษัทซัพพลายเออร์แห่งนี้เป็นผู้ผลิตประตูเครื่องโบอิ้ง 737 Max ที่หลุดออกกลางอากาศเมื่อวันที่ 5 ม.คและเป็นที่ตกตะลึงไปทั่วโลก
    .
    FAA ชี้ว่า “นี่เกี่ยวข้องกับเอกสารเท็จ การปลอมแปลง และการทำเถื่อน” และเสริมต่อว่า “หลังจากที่พวกเราได้รู้ ไททาเนียมปลอมเข้าสู่ระบบซัพพลายเชนส์ พวกเราเราได้ทำการยึดชิ้นส่วนต้องสงสัยทั้งหมดเพื่อประเมินหาขอบเขตของปัญหา”
    .
    สื่ออังกฤษชี้ว่า บริษัทโบอิ้งอ้างว่า ได้ซื้อโลหะไททาเนียมส่วนใหญ่ที่ใช้โดยตรงมาจากแหล่งอื่นๆ และอีกทั้งสินค้าไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเอกสารปลอม
    .
    โบอิ้งอ้างต่อว่า การทดสอบชี้ว่าชิ้นส่วนต้องสงสัยนั้นผลิตมาจากไททาเนียมอัลลอยที่มีค่าความถูกต้องจึงเป็นคำถามว่าเหตุใดเอกสารรับรองจึงต้องเป็นเท็จ
    .
    ชิ้นส่วนต้องสงสัยที่ถูกประกอบเครื่องบินระหว่างปี 2019 - ปี 2023 รวมไปถึงโบอิ้ง 737 Max และโบอิ้ง 787 Dreamliner และแอร์บัส A220
    .
    ซัพพลายเออร์ Sprit ชิ้นส่วนต้องสงสัย ประตูทางเข้าผู้โดยสารเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 787 ประตูคาร์โก และส่วนประกอบที่เชื่อมเครื่องยนต์เข้ากับโครงเครื่องบิน ฉนวนกันความร้อนในเครื่อง 737 Max และรุ่น A220 ที่ปกป้องส่วนประกอบที่เชื่อมต่อ
    .
    อย่างไรก็ตาม Spirit แถลงว่ามาจนถึงเวลานี้ไม่สามารถประเมินได้ว่าโลหะไททาเนียมนั้นสามารถได้มาตรฐานการบินหรือไม่ โดยอธิบายว่า โลหะไททาเนียมเจ้าปัญหาสามารถผ่านการทดสอบบางส่วนแต่ไม่ผ่านการทดสอบในหลายการทดสอบ
    .
    FAA แถลงว่าทางสำนักงานกำลังสอบสวน บริษัทโบอิ้งว่า ทำการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วหรือพนักงานของบริษัทอาจปลอมแปลงการบันทึกเกี่ยวกับเครื่องบิน และโบอิ้งอาจเผชิญกับดำเนินคดีทางอาญาสำหรับการตกเครื่องบิน
    737 Max 2 ลำ
    .
    ผู้สนใจสามารถชมคลิปเพิ่มได้ที่...https://mgronline.com/around/detail/9670000051591
    https://www.facebook.com/share/p/HsjuBGqLUivjhzgS/?mibextid=oFDknk
     
  18. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ระบุในวันอาทิตย์(16มิ.ย.) รัสเซียไม่พร้อมสำหรับสันติภาพ และยืนยันเคียฟเปิดกว้างสำหรับการเจรจาในทันที หากว่ามอสโกถอนทหารทั้งหมดออกจากประเทศของเขา
    ผู้นำยูเครนกล่าวในเรื่องนี้ ในช่วงท้ายการประชุมซัมมิตด้านการทูตสำคัญในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งรัสเซียไม่ได้รับเชิญ และออกแบบมาเพื่อระดมเสียงสนับสนุนข้อเสนอของเคียฟในแนวทางยุติสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย
    "รัสเซียและผู้นำของพวกเขาไม่พร้อมสำหรับสันติภาพ นี่คือข้อเท็จจริง" เซเลนสกีบอกกับผู้สื่อข่าว ระหว่างการแถลงข่าวปิดการประชุม
    แถลงการณ์สุดท้ายที่เห็นพ้องโดยประเทศต่างๆราว 80 ชาติ เน้นย้ำพันธสัญญาที่้มีต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน และบอกว่าการเจรจาระหว่างทุกฝ่ายจะมีความจำเป็นสำหรับยุติความขัดแย้ง
    รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ปลดปล่อยความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เวลานี้กองกำลังของรัสเซียเข้ายึดดินแดนของยูเครน ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ ได้ราวๆ 1 ใน 5 ในนั้นรวมถึงแคว้นไครเมีย ซึ่งมอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนมาตั้งแต่ปี 2014
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันศุกร์(14มิ.ย.) เรียกร้องให้ยูเครน ถอนทหารออกจากทางใต้และทางตะวันออกของประเทศ ถ้าต้องการให้การรุกรานสิ้นสุดลง
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกระตุ้นให้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ประณามเสียงเรียกร้องนี้ว่า "การบีบบังคับให้ยอมจำนน" ส่วน เซเลนสกี ชี้ว่ามันเป็นการยื่นคำขาดคล้ายกับฮิตเลอร์
    ในวันอาทิตย์(16มิ.ย.) เซเลนสกี เรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกไปทั้งหมดและเคารพต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน "รัสเซียสามารถเริ่มต้นเจรจากับเราได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย โดยไม่ต้องรออะไร ถ้าพวกเขาออกจากดินแดนที่ชอบธรรมตามกฎหมายของเรา"
    เซเลนสกี บอกด้วยว่าเขาอยากเห็นจีนแสดงบทบาทมากกว่าที่เป็นอยู่ ในการพูดคุยหาทางออกต่อความขัดแย้งนี้
    ปักกิ่ง พันธมิตรใกล้ชิดทางการเมืองและเศรษฐกิจของรัสเซีย ไม่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยเป็นการประท้วงกรณีที่มอสโกไม่ได้ถูกเชิญเข้าร่วมการประชุม
    "ผมเชื่อว่าจีนอาจช่วยเราได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยากเห็นข้อเสนอบางอย่างที่ฝ่ายจีนมีมากๆ" เซเลนสกีระบุ "ยูเครนไม่เคยพูดว่าจีนเป็นศัตรูของเรา" เขากล่าว
    เมื่อถูกถามว่าเขาพิจารณาว่าจีนเป็นมิตรหรือไม่ เซเลนสกี ตอบว่า "ผมเชื่อว่าคำว่าเพื่อน คือคนที่ช่วยเรายามเผชิญเรื่องยากลำบากต่างๆ และผมอยากเห็นจีนเป็นเพื่อนกับยูเครน"
    (ที่มา:เอเอฟพี)
    https://www.facebook.com/share/p/CjyUuQZw11jTvjzf/?mibextid=oFDknk
     
  19. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ระบุสหรัฐฯพยายามยั่วยุกองทัพจีนให้เปิดฉากโจมตีไต้หวัน แต่ปักกิ่งไม่หลงกลฮุบเหยื่อ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สเมื่อวันอาทิตย์(16มิ.ย.)
    ไฟแนนนเชียลไทม์ส อ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดในเรื่องนี้ ระบุว่า สี แสดงความคิดเห็นดังกล่าว ระหว่างพบปะแบบลับๆกับนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เมื่อเดือนเมษายน 2023 ขณะเดียวกันประธานาธิบดีจีน ยังเคยถ่ายทอดความกังวลต่อคำกล่าวอ้างที่ว่าวอชิงตันพยายามหลอกล่อให้ปักกิ่งรุกรานเกาะปกครองตนเอง ให้บรรดาเจ้าหน้าที่ของเขาได้รับฟังด้วยเช่นกัน
    ปักกิ่งมองไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนอธิปไตยของจีน ภายใต้นโยบายจีนเดียว เกาะแห่งนี้ปกครองตนเองมาตั้งแต่ปี 1949 ครั้งที่พวกชาตินิยมหลบหนีออกจากแผ่นดินใหญ่ภายใต้ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองจีน แก่ฝ่ายคอมมิวนิสต์
    ไฟแนนนเชียลไทม์ส ให้คำจำกัดความความเห็นของ สี ที่มีกับ ฟอน เดอร์ เลเยน ว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนบอกกับผู้นำต่างชาติคนหนึ่งๆ ว่าอเมริกาพยายามยั่วยุให้ปักกิ่งรุกรานไต้หวัน ประธานาธิบดีจีนบอกด้วยว่าความขัดแย้งหนึ่งใดกับสหรัฐฯ จะก่อความเสียหายกับจีนและทำให้แผนการฟื้นฟูครั้งใหญ่ภายในปี 2049 ต้องสะดุดลง โครงการนี้มีชื่อเรียกว่า "ไชนีสดรีม" มีเป้าหมายสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ ที่มีความรุ่งเรือง เข้มแข็ง เป็นประชาธิปไตย มีความศิวิไลซ์และเป็นหนึ่งเดียวกัน
    จีน กล่าวหาสหรัฐฯมาช้านนาน ว่าพยายามโหมกระพือความตึงเครียดเกี่ยวกับไต้หวัน และประณามวอชิงตันต่อกรณีขายอาวุธแก่ไทเป นอกจากนี้แล้ว ปักกิ่ง ก็มักส่งเสียงประท้วงต่อการเดินทางเยือนเกาะแห่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงอเมริกา ในนั้นรวมถึงนางแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร อ้างว่ามันละเมิดอธิปไตยของจีน และภายใต้สถานการณ์นี้ ทางกองทัพจีนก็ทำการซ้อมรบเป็นประจำในช่องแคบไต้หวันเช่นกัน
    ในปี 2022 สี กล่าวว่าในขณะที่ปักกิ่งกำลังหาทางรวมชาติกับไต้หวันอย่างสันติ แต่ก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ของการใช้กำลังทหารเพื่อบรรลุเป้าหมาย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พลเรือเอก จอห์น อาควีลีโน ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก บ่งชี้ว่ากองทัพจีนอาจเตรียมพร้อมสำหรับรุกรานไต้หวันภายในปี 2027 แต่พวกเจ้าหน้าที่ในปักกิ่ง ปฏิเสธว่าไม่ได้มีแผนใช้กำลังกับเกาะในอนาคตอันใกล้ พร้อมกล่าวหาอเมริกากำลังเพ้อเจ้ออยู่ในนวนิยายภัยคุกคามจีน
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยบอกว่าวอชิงตันจะเข้าปกป้องไต้หวัน หากถูกจีนโจมตี แม้ต่อมาเขายอมรับว่าแนวทางการตอบโต้นั้น จะขึ้นอยู่กับกรณีแวดล้อมต่างๆ

    (ที่มา:ไฟแนนเชียลไทม์ส/อาร์ทีนิวส์)
    https://www.facebook.com/share/p/LeQ4pVHaU1ioDxCi/?mibextid=oFDknk
     
  20. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,685
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อุตสาหกรรมเหมืองทองคำกำลังประสบปัญหาในการรักษาไว้ซึ่งระดับการเติบโตด้านการผลิต เนื่องจากการค้นหาแหล่งโลหะมีค่าสีเหลืองชนิดนี้เริ่มยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ จากการเปิดเผยของสภาทองคำโลก(WGC) ตามรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันอาทิตย์(16มิ.ย.)

    ข้อมูลจากสภาทองคำโลก พบว่ากำลังผลิตเหมืองทองคำ เพิ่มขึ้นแค่ 0.5% ในปี 2023 เมื่อเทียบกับหนึ่งปีก่อนหน้านั้น ขณะที่ในปี 2022 อัตราการเติบโตอยู่ที่ 1.35% หากเทียบเป็นรายปี เช่นเดียวกับปี 2021 ที่มีอัตราการเติบโตถึงระดับ 2.7%

    "สิ่งที่เราพบเห็นคือกำลังผลิตเหมืองทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรกของปี 2024 เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี" จอห์น รีด หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของสภาทองคำโลกกล่าวกับซีเอ็นบีซี "แต่ถ้ามองในภาพกว้างๆ ผมคิดว่ากำลังผลิตเหมืองทองคำ อยู่บนจุดสูงสุดแถวๆปี 2016 ถึง 2018 และเราไม่พบเห็นการเติบโตนับตั้งแต่นั้น"

    รีด กล่าวว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะค้นพบแหล่งทองคำใหม่ๆทั่วโลก เนื่องจากหลายพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่าจะพบแร่ทองคำนั้น ก็ได้ถูกสำรวจไปหมดแล้ว

    "สิ่งที่น่ากังวลใจก็คือ ในช่วงเวลา 10 ปีหลังจากการผลิตทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ปี 2008 นั้น อุตสาหกรรมเหมืองทองคำประสบกับความยากลำบากในการรัษาอัตราการขยายตัวด้านการผลิตทองคำ เนื่องจากแหล่งแร่ทองคำใหม่ ๆ ทั่วโลกหายากขึ้น และหลายพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่าจะพบแร่ทองคำนั้น ก็ได้ถูกสำรวจไปหมดแล้ว" รีดกล่าว

    เขาชี้ว่าเหมืองทองคำขนาดใหญ่ต้องใช้เงินทุนที่สูงมาก อีกทั้งต้องมีการสำรวจและการพัฒนาซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ นอกจากนี้ ยังต้องใช้เวลาโดยเฉลี่ย 10-20 ปีก่อนที่เหมืองจะมีความพร้อมในการผลิต

    รีด กล่าวต่อว่า และต่อให้เหมืองเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการสำรวจ แต่โอกาสในการค้นพบแร่ทองคำที่จะนำไปสู่ขั้นตอนการพัฒนาได้นั้น อยู่ในระดับที่ต่ำมาก โดยรายงานระบุว่าทองคำทั่วโลกที่ถูกพบว่ามีแร่ทองคำในปริมาณมากพอที่จะได้รับการรับรองให้ทำเหมืองทองคำได้นั้น มีเพียงแค่ราวๆ 10% เท่านั้น

    ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทเหมืองทองคำทั้งหลาย อาจต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะได้รับใบอนุญาตต่างๆที่จำเป็นจากรัฐบาล ถึงจะเริ่มปฏิบัติการได้ ยังไม่นับรวมกรณีที่โครงการเหมืองจำนวนมาก มักตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ที่จำเป็นต้องมีการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อย่างเช่นถนน ไฟฟ้าและน้ำประปา เสียก่อน

    นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีการขุดทองคำไปแล้วประมาณ 187,000 เมตริกตัน อ้างอิงรายงานของสภาทองคำโลก ด้วยยังมีแหล่งทองคำสำรองที่ยังคงไม่ได้มีการขุดอีก 57,000 ตัน

    สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประมาณการว่าทองคำทั่วโลกเหลืออยู่ประมาณ 57,000 ตัน ซึ่งหากเทียบจากปริมาณการขุดทองคำเฉลี่ยปีละประมาณ 3,000 ตัน จะเท่ากับเหลือทองคำให้ขุดได้อีกเพียง 19 ปี หากไม่มีการสำรวจพบสายแร่ทองคำใหม่เพิ่มขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของ USGS เป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้น โดยอ้างอิงจากอัตราการขุดทองคำในปัจจุบันและปริมาณทองคำสำรองที่พิสูจน์แล้วเท่านั้น ในความเป็นจริง ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อระยะเวลาการหมดลงของทองคำ เช่น การค้นพบแหล่งแร่ทองคำใหม่ๆ การพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลทองคำจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และของใช้ต่างๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค

    (ที่มา:ซีเอ็นบีซี)
    ttps://www.facebook.com/photo/?fbid=872119671623362&set=a.645849364250395

     

แชร์หน้านี้