ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผู้นำพรรคก๊กมิ่นตั๋งทำเอา‘ไต้หวัน’ปั่นป่วน เมื่อประกาศหนุนการรวมชาติกับ‘จีน’ เผยแพร่: 9 มิ.ย. 2561 00:18: โดย: กองบรรณาธิการเอเชียไทมส์
    561000005964301.jpg

    ห่าว หลงปิน รองประธานพรรคก๊กมิ่นตั๋งของไต้หวัน (ซ้าย) กล่าวยืนยันขณะพบปะหารือกับ หวัง หยาง ผู้นำสูงสุดอันดับ 4 ของปักกิ่ง ในเรื่องที่พรรคของเขามีจุดยืนต่อต้านการแยกไต้หวันออกไปเป็นเอกราช (ภาพจากสำนักข่าวเซนทรัลนิวส์เอเจนซี ของไต้หวัน)
    (เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

    KMT leader creates storm by backing reunification with China
    By Asia Times staff
    07/08/2018

    ห่าว หลงปิน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงไทเป ที่ถูกจับตามองว่าอาจจะเหมาะสมเป็นคู่ท้าชิงของพรรคก๊กมิ่นตั๋งฝ่ายค้าน ลงแข่งขันในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันสมัยหน้าปี 2020 เดินทางไปประชุมกับฝ่ายแผ่นดินใหญ่และประกาศอย่างชัดเจนว่าต้องการเห็นการรวมชาติระหว่างไต้หวันกับจีน เรื่องนี้ทำให้พรรคเดโมเครติก โปรเกรสสีฟ ปาร์ตี้ ของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน เป็นเดือดเป็นแค้น บางคนถึงกับกล่าวหาว่าเขาทรยศกบฎชาติ

    ห่าว หลงปิน (Hau Lung-pin) รองประธานของพรรคก๊กมิ่นตั๋ง แสดงท่าทีที่แตกต่างตรงกันข้ามกับจุดยืนเอนเอียงมุ่งสู่การแยกตัวเป็นเอกราชของรัฐบาลไต้หวันชุดปัจจุบัน ในระหว่างการประชุมหารือกับผู้ปฏิบัติงานระดับท็อปคนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เมืองเซี่ยเหมิน เมื่อเขาประกาศว่าเขาต้องการเห็นการรวมชาติกับจีน

    อดีตนายกเทศมนตรีนครไทเปผู้นี้ยังส่งเสียงที่เป็นการสะท้อนการยืนกรานเสมอมาของปักกิ่งที่ว่า ไต้หวันต้องเคารพปฏิบัติตาม “ฉันทามติปี 1992” (1992 consensus) ซึ่งดูเหมือนเป็นเอกสารที่ทั้งไต้หวันและแผ่นดินใหญ่ยอมรับว่ามีจีนเพียงจีนเดียวเท่านั้น รัฐบาลไต้หวันในอดีตช่วงที่พรรคก๊กมิ่นตั๋งครองอำนาจต่างยืนยันว่ามีข้อตกลงนี้อยู่จริงๆ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบันของพรรคเดโมเครติก โปรเกรสสีฟ ปาร์ตี้ (Democratic Progressive Party หรือ DPP) ปฏิเสธไม่ยอมรับแม้กระทั่งว่าเคยมีการตกลงกันเรื่องนี้

    “ต้องขอบคุณการที่พรรคก๊กมิ่นตั๋งยึดมั่นอย่างแน่วแน่ไม่คลอนแคลนกับ ‘ฉันทามติปี 1992’ และคัดค้านเรื่องไต้หวันเป็นเอกราช ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ (cross-strait relations ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งอยู่คนละฟากของช่องแคบไต้หวัน) จึงกระเตื้องปรับปรุงดีขึ้นระหว่างช่วง 8 ปีแห่งการดำรงตำแหน่งของพรรคก๊กมิ่นตั๋ง นับตั้งแต่ปี 2008 ถึงปี 2016” ห่าวบอกขณะยกย่องสรรเสริญหลักนโยบายสนับสนุนการรวมชาติของพรรคของเขา ในการกล่าวปราศรัยซึ่งเป็นที่เฝ้าจับตามองทั้งจากจีนและจากไต้หวัน ห่าวยังกล่าวอีกว่าเขาหวังว่าไต้หวันกับจีนจะสามารถ “รวมกันอีกครั้งในฐานะเป็นสมาชิกของครอบครัวเดียวกัน”

    พวกสมาชิกพรรค DPP หลายคนรีบออกมาประณามคำพูดความเห็นเช่นนี้ของห่าวในทันที โดยบางคนกระทั่งกล่าวหาเขาว่า “ทรยศกบฎชาติ” “มันเป็นสิ่งซึ่งไม่สามารถคาดคิดจินตนาการได้อยู่แล้วที่จะมีอดีตนายกเทศมนตรีกรุงปักกิ่งสักคนหนึ่งแสดงความเอนเอียงมาทางไต้หวันและให้ความสนับสนุนแก่การเป็นเอกราชของไต้หวัน ทว่าสิ่งที่ห่าวทำไปนั้นได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์เป็นอะไรบางอย่างทำนองเดียวกันนี้แหละ และเป็นการทรยศต่อไต้หวัน” สมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งของพรรค DPP ตั้งข้อกล่าวหา

    ขณะเข้าร่วมเวทีการประชุมช่องแคบไต้หวันประจำปีครั้งที่ 10 (the 10th annual Straits Forum) ที่เซี่ยเหมิน คราวนี้ ห่าวได้พบหารือกับ หวัง หยาง (Wang Yang) ประธานของสภาปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน (Chinese People’s Political Consultative Conference) โดยที่เวลานี้ หวังอยู่ในอันดับ 4 ของ 7 สมาชิกถาวรแห่งคณะประจำของกรมการเมือง ที่เป็นผู้นำระดับวงในทรงอำนาจสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

    พรรค DPP มุ่งแสดงจุดยืนหนุนการแยกตัวเป็นเอกราช นับตั้งแต่ขึ้นครองอำนาจในปี 2016 จนกำลังทำให้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับจีนเสื่อมถอยลงสู่จุดต่ำเตี้ยจุดใหม่ ในการกล่าวปราศรัยต่อเวทีประชุมที่เซี่ยเหมินของเขาคราวนี้ หวังได้ย้ำชี้ให้เห็นจุดนี้ โดยกล่าวเตือนอย่างขึงขังคัดค้านแรงผลักดันเข้าสู่ “กระบวนการแห่งการถอยห่างจากความเป็นจีน” (desinicization) ของรัฐบาลไทเป และประณามพวกที่เรียกร้องผลักดันให้ไต้หวันแยกตัวเป็นเอกราชว่าคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดความชะงักงันและการเผชิญหน้ากันของทั้งสองฝ่ายขึ้นมาในปัจจุบัน

    ห่าวนั้นเป็นหนึ่งในบุคลากรทางการเมืองระดับอาวุโสที่สุดของไต้หวันซึ่งเดินทางไปเยือนจีนแผ่นดินใหญ่นับตั้งแต่สายสัมพันธ์ข้ามช่องแคบมีอันต้องขาดวิ่นรุ่งริ่ง นอกจากนั้นนี่ยังเป็นครั้งแรกนับแต่ที่พรรคของเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 ต่อพรรค DPP ที่มีบุคคลสำคัญระดับเฮฟวี่เวตของก๊กมิ่นตั๋งส่งสัญญาณออกมาอย่างไม่กำกวมคลุมเครือว่าเขาคัดค้านการแยกเกาะแห่งนี้ออกไปจากจีน นอกจากห่าวแล้ว คณะที่ติดตามเขาไปยังเมืองเซี่ยเหมิน ของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 350 กิโลเมตรทางด้านตะวันตกของกรุงไทเป ยังประกอบด้วยพวกสมาชิกพรรคก๊กมิ่นตั๋ง, สมาชิกรัฐสภา, และนักวิชาการ

    ถึงแม้เผชิญกับปฏิกิริยาตอบโต้กลับอย่างรุนแรงในไต้หวันจากการแสดงความเห็นของเขาครั้งนี้ แต่ห่าวก็ยังคงได้รับการกล่าวขานอย่างกว้างขวางว่าสามารถเป็นคู่แข่งขันที่อาจน็อกเอาต์ ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันคนปัจจุบัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในปี 2020 และลบล้างความทรงจำแห่งความพ่ายแพ้ปราชัยอย่างน่าอัปยศอดสูของก๊กมิ่นตั๋งในปี 2016 ปักกิ่งเองก็กำลังแสดงท่าทีตั้งความวาดหวังเอาไว้อย่างสูงต่อพรรคก๊กมิ่นตั๋งที่จะเสนอชื่อบุคคลซึ่งเป็นที่นิยมของประชาชนอย่างเช่นห่าว ลงแข่งขันในอีก 2 ปีข้างหน้า

    แต่เมื่อถูกซักไซ้เกี่ยวกับความมุ่งมาดปรารถนาในทางการเมืองของเขา ห่าวก็ให้คำตอบที่ก่อให้เกิดการโต้เถียงขัดแย้ง ด้วยการชี้ว่า เทอร์รี เกา (Terry Gou) ประธานของบริษัทฟอกซ์คอนน์ (Foxconn) กิจการรับจ้างทำการผลิตพวกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายยักษ์ มีคุณสมบัติทุกอย่างพรักพร้อมสำหรับการเป็นประธานาธิบดี รวมทั้งให้สัญญาว่าพรรคก๊กมิ่นตั๋งควรที่จะต้องสามัคคีกันให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่เกาในปี 2020

    กระนั้น พวกนักวิเคราะห์เชื่อกันว่าจากการที่เรตติ้งความนิยมของประชาชนซึ่งมีต่อห่าวกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาจะถูกมองว่าเป็นหนึ่งใน “ผู้แข่งขันที่สามารถคว้าชัยชนะได้” ที่มีอยู่น้อยคนเต็มที ซึ่งก๊กมิ่นตั้งอาจนำเอามาลงสู่สนามชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ถึงแม้ว่านี่เป็นสิ่งที่ตัวเขาเองเวลานี้ยังคงพูดปฏิเสธไม่เห็นด้วยก็ตามที

    https://mgronline.com/around/detail/9610000057219
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทรัมป์หัก G7 ไม่รับรองแถลงการณ์ร่วม จวกผู้นำแคนาดา-ขู่รีดภาษีรถยนต์นำเข้า เผยแพร่: 10 มิ.ย. 2561 19:20: ปรับปรุง: 10 มิ.ย. 2561 20:25: โดย: MGR Online
    561000005995701.jpg

    เอเจนซีส์ – ซัมมิต G7 ปิดฉากสุดอลเวงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 มิ.ย.) และสงครามการค้าระอุแรงอีกหน หลังทรัมป์เดินทางออกจากที่ประชุมก่อนกำหนดและสั่งให้ตัวแทนสหรัฐฯ ปฏิเสธการรับรองแถลงการณ์ร่วม ซ้ำโจมตีผู้นำแคนาดาประเทศเจ้าภาพแบบไม่ไว้หน้า

    ไม่กี่นาทีหลังการเปิดเผยแถลงการณ์ร่วมที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้นำ G7 ซึ่งจัดขึ้นที่ควิเบกของแคนาดา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็โพสต์ทวิตเตอร์จากเครื่องบินประจำตำแหน่ง หลังจากเดินทางออกจากที่ประชุมก่อนกำหนดเพื่อมุ่งหน้าสู่สิงคโปร์และเตรียมพร้อมสำหรับซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์กับคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในวันอังคาร (12 มิ.ย.)

    ในข้อความทางทวิตเตอร์ ทรัมป์ระบุว่า ที่สั่งให้ผู้แทนสหรัฐฯ งดรับรองแถลงการณ์ร่วม รวมทั้งเตรียมเรียกเก็บภาษีรถนำเข้าที่ท่วมตลาดอเมริกันอยู่ขณะนี้ เป็นเพราะการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา และข้อเท็จจริงที่ว่า แคนาดาเรียกเก็บภาษีศุลกากรเกษตรกร แรงงาน และบริษัทอเมริกันสูงลิบ

    “นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด อ่อนน้อมถ่อมตัวในการประชุม G7 แต่พอผมเดินทางออกมา เขากลับแถลงข่าวว่าจะไม่ยอมถูกขู่เข็ญ เขาช่างอ่อนแอและโป้ปดเหลือเกิน” ทรัมป์ ระบุทางทวิตเตอร์

    ก่อนหน้านั้น ทรูโดแถลงว่า การตัดสินใจของทรัมป์ในการใช้ความมั่นคงของชาติเป็นข้ออ้างในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเหล็กกล้าและอลูมิเนียมนั้น เท่ากับเป็นการดูหมิ่นทหารผ่านศึกแคนาดาที่ร่วมรบกับอเมริกามาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1

    “แคนาดาสุภาพและมีเหตุผล แต่เราจะไม่ยอมถูกขู่เข็ญ” ผู้นำแคนาดากล่าว พร้อมระบุได้บอกกับทรัมป์ว่าเสียใจแต่คงต้องประกาศชัดเจนว่า แคนาดาจะออกมาตรการตอบโต้ในวันที่ 1 กรกฎาคมด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าอเมริกันในระดับเดียวกับที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากแคนาดา

    หลังการทวิตข้อความของทรัมป์ สำนักนายกรัฐมนตรีแคนาดาออกแถลงการณ์ตอบว่า แคนาดามุ่งเน้นกับทุกสิ่งที่เป็นผลลัพธ์จากซัมมิต G7 และนายกรัฐมนตรีไม่ได้กล่าวอะไรเกินเลยไปกว่าที่เคยกล่าว ไม่ว่าจะเป็นในที่สาธารณะหรือในการหารือส่วนตัวกับทรัมป์

    การโจมตีทรูโดอย่างรุนแรงเป็นแค่กรณีล่าสุดที่ทรัมป์แตกหักกับพันธมิตรใกล้ชิดที่สุด และสะท้อนว่า ข้อตกลงใดๆ ในที่ประชุมล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ขณะที่การประกาศเตรียมแซงก์ชันรถยนต์นำเข้าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเยอรมนี แคนาดา และญี่ปุ่น

    พฤติกรรมดังกล่าวสร้างความกังวลอย่างยิ่งทั้งในและนอกอเมริกา หลังการทวิตอันร้อนแรงของทรัมป์ได้ไม่นาน จอห์น แม็กเคน วุฒิสมาชิกอาวุโสจากรีพับลิกันก็ทวิตว่า “ชาวอเมริกันที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนการค้าเสรี โลกาภิวัตน์ และพันธมิตรที่มีค่านิยมร่วมกันมายาวนานถึง 70 ปี และจะยังคงอยู่เคียงข้างพันธมิตร แม้ว่าประธานาธิบดีของเราจะทำในสิ่งตรงข้ามก็ตาม”

    ทั้งนี้ ตอนที่ทรัมป์เดินทางออกจากควิเบก เชื่อกันว่า G7 ตกลงกันได้แล้ว แม้ผู้นำจากยุโรปอย่างประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคล ของเยอรมนี คัดค้านการโจมตีระบบการค้าโลกของทรัมป์อย่างรุนแรงในระหว่างการหารือก็ตาม

    หลังจากที่มีการแจกจ่ายสำเนาแถลงการณ์ร่วมในห้องนักข่าวและมีการเผยแพร่ทางออนไลน์ ทรัมป์กลับทวิตโจมตีทรูโด ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพีที่อยู่บนเครื่องบิน "แอร์ ฟอร์ซ วัน" รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารสหรัฐฯ ว่า จริงๆ แล้วทรัมป์อนุมัติร่างแถลงการณ์ของ G7 ไปแล้ว แต่เพิ่งสั่งให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในที่ประชุมกลับลำปฏิเสธเพราะไม่พอใจการแสดงความคิดเห็นของทรูโด

    แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวที่มีขึ้นภายหลังการเจรจานาน 2 วันระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี และญี่ปุ่น เห็นพ้องถึงความจำเป็นของการค้าที่เสรี เป็นธรรม และมีผลประโยชน์ร่วมกัน และความสำคัญของการต่อต้านลัทธิกีดกันการค้า

    แถลงการณ์ดังกล่าวตรงข้ามอย่างชัดเจนกับจุดยืนของทรัมป์ที่ประกาศกร้าวว่า จะไม่ลังเลเลยในการกำจัดออกจากอเมริกา สำหรับประเทศที่ตอบโต้มาตรการภาษีของตน

    ทางด้านผู้นำฝรั่งเศสที่จะเป็นเจ้าภาพซัมมิต G7 ปีหน้า ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทวิตของทรัมป์ แต่กล่าวก่อนหน้านั้นแล้วว่า จะต้องพยายามกันต่อไปเพื่อหาฉันทามติในเรื่องการค้า

    นอกจากเห็นต่างจากพันธมิตรอื่นๆ ในประเด็นการค้าแล้ว ทรัมป์ยังเสนอว่า ควรรับรัสเซียกลับสู่ G7 อีกครั้ง

    https://mgronline.com/around/detail/9610000057620
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    344484.jpg
    600ขรก.เฮลั่น! คสช.จัดให้ ชงครม.ปูนบำเหน็จ'คนช่วยงาน' ได้ขึ้นเงินเดือน2ขั้นกรณีพิเศษ วันจันทร์ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 07.00 น.

    11 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.นครสวรรค์ ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ทางสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (สลธ.คสช.) จะเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติหลักการโควตาบำเหน็จประจำปี (2 ขั้น) นอกเหนือโควตาปกติ ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน คสช.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 (1 ต.ค.60 - 30 ก.ย.61) ในอัตราร้อยละ 3 ของจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ที่ปฏิบัติงานใน คสช.จำนวน 19,987 นาย คือ จำนวน 600 นาย โดยให้ใช้งบรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน และหากไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้เบิกจ่ายจากงบกลาง ในลักษณะเดียวกับการเบิกจ่ายงบประมาณให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ซึ่งหัวหน้า คสช.ได้เห็นชอบแล้ว

    ทั้งนี้ สลธ.คสช.เห็นว่าเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ และมีผลการปฏิบัติงานเด่นชัด


    http://www.naewna.com/politic/344484
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    1038.jpg
    ประชาไท ธนณรงค์

    อปท. เดือดร้อน!!!!!
    ประชาไท ธนณรงค์ วันจันทร์ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 02.00 น.


    ผมมีเรื่องที่จะแจ้งให้ นายกฯลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับทราบว่า ขณะนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)เขาเดือดร้อน เพราะการออกระเบียบของราชการ

    เรื่องของเรื่องมีดังนี้ครับ หลังจากที่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 แล้ว

    โดยเฉพาะบทบัญญัติในมาตรา 4 ที่บัญญัติว่า “งานก่อสร้างหมายความว่า งานก่อสร้างอาคาร งานก่อสร้างสาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด และการซ่อมแซมต่อเติมปรับปรุงรื้อถอน หรือการกระทำอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกันต่ออาคาร สาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว รวมทั้งงานบริการที่รวมอยู่ในงานก่อสร้างนั้นด้วย แต่มูลค่าของงานบริการต้องไม่สูงกว่ามูลค่าของงานก่อสร้างนั้น”

    นี่คือมาตรา 4 ที่ใช้บังคับ แต่ปรากฏว่า กรมบัญชีกลางได้ออกคำสั่งด่วนที่สุดมที่ กค (กวจ)0405.2/ว 112 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2561 เรื่อง ซ้อมความเข้าใจนิยามตามความหมาย “งานก่อสร้าง” ตามพ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างฯ 2560

    โดยกำหนดนิยามคำว่า “งานก่อสร้าง” เพิ่มเติมว่า การปรับปรุง การรื้อถอน การต่อเติม และการซ่อมแซม จำเป็นต้องมีรูปแบบรายการงานก่อสร้าง และที่สำคัญคือ ตลอดการก่อสร้างและการรับรองงานก่อสร้าง ต้องมีวิศวกร สถาปนิก คุมงานและให้การรับรอง

    นี่แหละครับคือปัญหา!!!!

    เป็นปัญหาที่ท้องถิ่นปฏิบัติได้ยากเพราะว่าท้องถิ่นขนาดเล็กไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหรืออบต. เขาไม่มีวิศวกรหรือสถาปนิกระดับวิชาชีพประจำ เนื่องด้วยรายได้และงบประมาณจำกัด จะมีก็เพียงนายช่างโยธาที่จบปวช.,ปวส. เท่านั้น

    ครั้นจะให้ปฏิบัติตามคำนิยามจะต้องไปจ้างวิศวกรหรือสถาปนิกจากข้างนอกซึ่งจะมีค่าจ้างราคาแพง ไม่มีเงินจ้าง พอไม่มีเงินจ้างก็ไม่สามารถ ปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซม หรือรื้อถอนอะไรได้เลย

    งานบริการสาธารณะทุกอย่างหยุดนิ่ง

    ผมไม่ทราบว่า นายกฯลุงตู่จะทราบหรือไม่ เขาเคยร้องเรียนมาแล้วมั้ง แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาให้ หรือฝ่ายที่เกี่ยวข้องเอาข้อร้องเรียนซึ่งเป็นปัญหานี้ไปหมกอยู่ใต้พรมหรือในลิ้นชักก็ไม่ทราบ

    ทั้งๆ ที่ตาม มาตรา 4 ของพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯไม่ได้ระบุเรื่องวิศวกรวิชาชีพตรวจงานเลย แต่พอไปออกคำสั่งคำนิยามตามมามันกว้างจนท้องถิ่นเขาไม่สามารถกระดุกกระดิกได้เลย

    ครั้นจะบอกว่าเพื่อป้องกันการฮั้วหรือการทุจริตก็ไม่ชัดเจน ครั้นจะบอกว่าเพื่อป้องกันอันตรายจากการก่อสร้าง ท้องถิ่นเขาก็มีนายช่างโยธา ปวช., ปวส. คอยดูอยู่

    เรื่องนี้เมื่อไม่ได้รับการเหลียวแล ท้องถิ่นเลยพึ่งบารมีศาลปกครอง โดยเทศบาลตำบลพระบุ ได้ยื่นฟ้องกรมบัญชีกลางต่อศาลปกครองที่ จ.ขอนแก่นแล้ว เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของกรมบัญชีกลางและขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวระหว่างที่คดียังไม่เป็นที่ยุติ เพื่อที่ท้องถิ่นจะได้ให้บริการสาธารณะ สร้างความเจริญให้ชุมชนต่อไป

    ถ้าลุงตู่แก้ปัญหาให้ รับรองจะได้คะแนนจากท้องถิ่นเยอะครับ

    http://www.naewna.com/politic/columnist/35715
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    344481.jpg
    แฉธุรกิจนำเข้าขยะพิษ! ใช้เงินฟาดหัวคนไทย เป็นนอมินี-ทำบัญชีฉ้อฉลภาษี วันอาทิตย์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 22.03 น.

    10 มิ.ย.61 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบริษัทที่นำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ว่า ยังไม่พบหน่วยงานใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย แต่เกิดจากกลุ่มบุคคลใช้ช่องว่างของกฎหมาย ซึ่งกรมศุลกากรเองก็ไม่สามารถตรวจตู้คอนเทนเนอร์ได้ทุกตู้ จึงมีการใช้ช่องว่างนี้เล็ดลอดเข้ามา

    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางอธิบดีกรมศุลกากรก็ได้มีการประสานในเรื่องของการตรวจผลิตภัณฑ์ขยะเม็ดพลาสติก และขยะอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด จะมีการเอกซเรย์ทั้งหมด ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งชื่อบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ขยะ หรือเศษพลาสติก ให้กรมศุลกากรได้ทำการตรวจสอบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพื่อไม่ให้มีการสำแดงเท็จและนำขยะเข้ามา

    รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในส่วนโรงงานอุตสาหกรรม ทางตำรวจได้ร่วมกับอธิบดีโรงงานอุตสาหกรรม เเละกรมควบคุมมลพิษ ในการตรวจสอบโรงงานถึงมาตรฐานและมลพิษทางน้ำ อากาศ และฝุ่นละอองให้ครบถ้วน รวมถึงรอบนอกโรงงาน ว่ามีการปล่อยน้ำเสียลงสู่สาธารณะหรือควันพิษ กรมควบคุมมลพิษจะเก็บตัวอย่างมาดำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่งต่อไป

    "กรมสรรพากรได้ให้ข้อมูลว่าทั้ง 12 บริษัท 26 โรงงาน ไม่พบว่ามีบริษัทไหนที่มีบัญชีภาษีที่ถูกต้อง แต่จะจ้างคนไทยที่เป็นนักบัญชีแต่งรายได้ว่าขาดทุน มีเพียงไม่กี่บริษัทที่จ่าย 90,000 บาทต่อปี จึงเป็นการฉ้อฉลเรื่องภาษีด้วย เมื่อขายสินค้าได้จะนำเข้าบัญชีส่วนตัวของชาวต่างชาติ และฟอกเงินโอนเงินไปต่างชาติ และคนไทยที่มีหุ้น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นนอมีนี โดยบริษัทพวกนี้จะขนย้ายเครื่องจักรมาจากประเทศที่ไม่อนุญาตให้นำเข้าขยะพลาสติก ย้ายมายังประเทศไทย ซึ่งเครื่องจักรที่ย้ายมาจะเป็นเครื่องจักรเก่าไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถควบคุมมลพิษได้" รอง ผบ.ตร.กล่าว

    ส่วนการดำเนินคดีกับนอมีนีที่ถือหุ้นนั้น พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบทางคดี และจะมีการดำเนินคดีกับนักบัญชีที่ไปช่วยทำการแต่งบัญชีฉ้อฉลภาษี จนทำให้เกิดความเสียหายบ่อนทำลายประเทศ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีอีกหลายแห่งที่ขยะพิษเหล่านั้นถูกนำไปทิ้งที่ห่างไกลความเจริญ ประชาชนไม่มีปากเสียง เรื่องนี้จึงต้องฝากผู้นำชุมชน และการปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ให้ปล่อยปละละเลย ให้มีการนำขยะไปไว้จนเกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนต่อไป

    http://www.naewna.com/local/344481
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    344479.jpg
    'พิชัย'ขย่มคสช. 4ปีนึกไม่ออกทำอะไรบ้าง นอกจากความสับสน วันอาทิตย์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 21.53 น.

    10 มิ.ย.61 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวในงานสัมมนา "แก้ปัญหาพลังงานอย่างไร ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน" จัดโดย คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และเครือข่ายตรวจสอบภาคประชาชน ว่า ราคาพลังงานในตลาดโลกยังมีความผันผวนสูง อาจจะขึ้นหรือลงก็ได้ แต่ตนขอตอกย้ำสิ่งที่ได้เสนอไว้แล้วเพราะไม่ว่าราคาพลังงานจะขึ้นหรือลง รัฐบาลก็ควรดำเนินการแก้ไขเรื่องเหล่านี้ให้ถูกต้องเพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชนผู้บริโภค ดังนี้

    1.การปรับราคาเอทานอลที่ใช้ผสมน้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ให้อยู่ในราคาตลาด ซึ่งเรื่องนี้ตนในฐานะคนยกเลิกเบนซิน 91 ทำให้มีการใช้เอทานอลมาก เคยปรึกษาด้วยเหตุและผลกับผู้ประกอบการผลิตเอทานอลรายใหญ่บางรายแล้วในช่วงที่ราคาน้ำมันลดลงมาก พวกเขายอมรับได้ รวมถึงการกำหนดราคาน้ำมันปาล์มที่ผสมในไบโอดีเซลให้เหมาะสมด้วย 2.การกำหนดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นให้เท่าสิงคโปร์โดยไม่ต้องรวมค่าขนส่งจากสิงคโปร์ และ 3.การกำหนดค่าการตลาดให้เหมาะสม

    นายพิชัย กล่าวว่า ส่วนเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่เริ่มกลับมาทยอยเก็บในรัฐบาลนี้ในช่วงที่น้ำมันตลาดโลกมีราคาลดลง ก็แล้วแต่รัฐบาลจะพิจารณาว่าถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกมีราคาสูงขึ้นมาก รัฐบาลควรจะลดหรือไม่ หรือลดเท่าไหร่ เพราะปัจจุบันจากที่ไม่เก็บเลยก่อนการปฏิวัติ มาเก็บสูงถึง 5.85 บาทต่อลิตร

    "ยังอยากให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบการทุจริตใน บมจ.ปตท.ทั้งในเรื่องการทุจริตโครงการสวนปาล์มในอินโดนีเซีย โครงการออยล์แซนด์ในประเทศแคนนาดา และโครงการท่อก๊าซอียิปต์ - อิสราเอล และอยากเห็นแนวทางนโยบายพลังงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ชัดเจน เพราะแนวทางปัจจุบันได้สร้างความสับสนให้กับประชาขนอย่างมาก อีกทั้งยังสวนกับทิศทางโลก โดยอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถามตัวเองกลับไปบ้างว่าได้ทำอะไรบ้างตลอด 4 ปีนี้ ในเรื่องพลังงาน เพราะประชาชนนึกไม่ออก" นายพิชัย กล่าว

    http://www.naewna.com/politic/344479
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    344352.jpg
    ล้วงย่ามพระ!พศ.เอาจริง ร่อนหนังสือด่วนถึงพศจ.ขอดูบัญชีวัดทั่วปท. วันอาทิตย์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 14.32 น.

    10 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่บันทึกข้อความของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ที่ 0001/06036 ออกเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561 โดย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ.ได้ลงนามในบันทึกข้อความ ด่วนที่สุด เรื่อง ขอข้อมูลวัดที่มีการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัด เรียนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัด (พศจ.) ใจความว่า

    ด้วย พศ.มีความประสงค์ที่จะขอข้อมูลจากวัดทั่วประเทศที่มีการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัด กรณีที่พระภิกษุสงฆ์มิต้องถือเงินสด แต่จะนำเงินเข้าบัญชีส่วนกลางของวัดทันทีเมื่อได้รับ

    ในการนี้ พศ.ขอให้ พศจ.ดำเนินการสำรวจข้อมูลโดยด่วน หากพบว่าวัดใดในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด มีการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น ขอให้ทำการสัมภาษณ์เกี่ยวกับขั้นตอน และวิธีการดำเนินการ โดยให้บันทึกเป็นวิดีโอ พร้อมสรุปข้อมูลขั้นตอน และวิธีการดำเนินการ และส่งให้ พศ.ผ่านโทรสาร และอีเมล ภายในวันที่ 11 มิถุนายน หาก พศจ.ใดได้ดำเนินการสำรวจทั้งพื้นที่แล้ว ไม่ปรากฎว่ามีวัดที่ดำเนินการดังกล่าว ขอให้มีหนังสือแจ้งให้ทราบด้วย


    http://www.naewna.com/local/344352
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    344461.jpg
    'มานะ'ยกตัวอย่างความเลวร้ายของระบบราชการไทย กับคำตอบทำไมไม่มีใครอยากยุ่ง! วันอาทิตย์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 20.25 น.

    10 มิ.ย.61 นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก แสดงความคิดเห็นกรณีศูนย์ดำรงธรรมสุราษฎร์ธานี ที่นำ "ชื่อ - ที่อยู่ ของผู้ร้องเรียน" กรณีโรงเรียนเลี้ยงเด็กอนุบาลด้วยขนมจีนคลุกน้ำปลา ไปเปิดเผยต่อสาธารณะ โดยระบุว่า ข้าราชการนี่แหละทำให้คนกลัวหรือกล้าที่จะพูดเรื่องโกง..

    ความผิดของศูนย์ดำรงธรรม สุราษฎร์ธานี ที่นำ "ชื่อ - ที่อยู่ ของผู้ร้องเรียน" กรณีโรงเรียนเลี้ยงเด็กอนุบาลด้วยขนมจีนคลุกน้ำปลาไปเปิดเผยต่อสาธารณะ คือตัวอย่างความเลวร้ายของระบบราชการที่ตอกย้ำให้คนดีๆ ไม่อยากยุ่งไม่กล้าพูดเมื่อรู้เห็นการโกง

    เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยแต่ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และชัดเจน จึงจำเป็นที่ ป.ป.ช. , มหาดไทย และรัฐบาล ต้องออกมาดำเนินการแก้ไขเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน

    ทุกวันนี้คนที่พบเห็นการโกงส่วนมากจะไม่ไปร้องเรียน เพราะคิดว่า "ร้องไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เดี๋ยวเขาก็ช่วยกัน" บ้างก็ว่า "อย่าไปยุ่งเลยเดี๋ยวเดือดร้อน" หลายคนท้อว่า เวลาจะร้องเรียนมันยุ่งยาก ต้องเสียเวลาเดินทางไกลๆ ต้องหาเอกสารหาหลักฐานให้เขา ต้องแจ้งชื่อเสียงเรียงนาม ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นบัตรสนเท่ห์ไปซะงั้น

    ถ้าจะเอาชนะคอร์รัปชันรัฐต้องสนับสนุนและคุ้มครองให้ประชาชนและข้าราชการดีๆ กล้าพูด กล้าเปิดโปง กล้าต่อต้าน ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 63

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เพจ "ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน" ซึ่งเกาะติดประเด็นข่าวเมนูขนมจีนคลุกน้ำปลาของโรงเรียนท่าใหม่อย่างต่อเนื่อง ได้ระบุว่า ใบแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงของศูนย์ดำรงธรรมสุราษฏร์ธานีได้เปิดทั้งชื่อ นามสกุล และที่อยู่ชาวบ้านที่ร้องเรียนจนโล่งโจ่ง ไม่มีปิดบัง ผิดหลักการและขัดมติ ครม.ที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลผู้ร้อง ให้ถือเป็นความลับทางราชการ การส่งต่อไปยังหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการในทางลับและปกปิดข้อมูลส่วนนี้

    โดยเพจดังกล่าว ระบุในตอนท้ายว่า เรื่องร้ายแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้ขนาดนี้ ใครเกี่ยวข้องกับใบแถลงข่าวนี้ ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ ต้องเร่งจัดการ

    79280.jpg

    79279.jpg


    http://www.naewna.com/local/344461
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    344465.jpg
    สารภาพบาป! 'พิสิฐชัย'โผล่ขออภัย ปูดข่าวจับ4วัดดังกทม. อ้างเข้าใจผิดคลาดเคลื่อน วันอาทิตย์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 20.44 น.

    10 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ที่ผ่านมา นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "แก้ไข ตามที่ข้าฯ ได้โพสต์เกี่ยวกับการดำเนินการวัดใหญ่ใน กรุงเทพฯ 4 วัด โดยข้าติดตามข่าวจากสื่อสารมวลชนต่างๆ แล้วเข้าใจผิดคลาดเคลื่อน จึงขอแก้ไขข่าวว่า ไม่มีการดำเนินการตามที่โพสต์แต่อย่างใด วัดที่โพสต์ไปมีวัดปากน้ำ วัดพิชัยญาตฯ วัดบวรฯ วัดราชสิทธิฯ จึงขออภัยมา ณ โอกาสนี้"


    79283.jpg

    http://www.naewna.com/local/344465
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สตง.ชำแหละสเปก “ส้วมศูนย์เด็กเล็ก” 92 ล้าน อปท.นครศรีธรรมราช 37 แห่ง พบติดตั้ง “สเปกไซส์ผู้ใหญ่” พรึบ! เผยแพร่: 7 มิ.ย. 2561 19:19: ปรับปรุง: 8 มิ.ย. 2561 09:45: โดย: MGR Online
    561000005918801.jpg

    สตง.ชำแหละ! งบอุดหนุนเฉพาะกิจ วงเงิน 92 ล้าน ปีงบ 59 โครงการสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อปท.นครศรีธรรมราช 37 แห่ง เฉพาะสเปก “ส้วม-ห้องอาบน้ำเด็กเล็ก” หลายแห่งสร้างผิดแบบ มองไม่เห็นเด็กจากภายนอก แถมบางแห่งพบติดตั้ง “โถส้วมผู้ใหญ่” ไม่เหมาะกับขนาดตัวเด็ก บางแห่งปรับห้องน้ำเด็กเป็นห้องน้ำครู เผยไม่พบหนังสือขอ “ผู้ว่าฯ” เปลี่ยนแปลงสเปก ชี้ขัดระเบียบ มท.

    วันนี้ (7 มิ.ย.) มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เผยแพร่รายงานการตรวจสอบการดำเนินงานเงินอุดหนุนเฉพาะกิจก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 จำนวน 37 แห่ง ที่ได้รับการจัดสรรจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) วงเงิน 92,236,000 บาท โดยเป็นแผนดำเนินการจัดจ้างก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามแบบมาตรฐานอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขนาดไม่เกิน 50 คน ตามแบบที่ สถ.ศพด.1 ขนาด 51-80 คน ตามแบบที่ สถ.ศพด.2 และขนาด 81-100 คน แบบที่ สถ.ศพด.3

    จากการตรวจสอบเงินอุดหนุนเฉพาะกิจฯ จำนวน 32 แห่ง พบว่า การก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่เป็นไปตามแบบมาตรฐานประเภทอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จำนวน 29 แห่ง “มีการติดตั้งประตูห้องน้ำ ห้องอาบน้ามีระดับความสูงจากพื้น ขนาดกว้าง ยาว ไม่ถูกต้องตามแบบรูปรายการ ไม่สามารถมองเห็นเด็กจากภายนอกได้ ติดตั้งโถสุขภัณฑ์เด็ก เป็นขนาดผู้ใหญ่ซึ่งไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมกับตัวเด็ก และไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการ การก่อสร้างห้องน้ำผิดวัตถุประสงค์การใช้งาน มีการปรับเปลี่ยนแปลงห้องน้าเด็กเป็นห้องน้ำครู”

    การดำเนินการข้างต้นไม่พบว่า มีการรายงานเหตุผลความจำเป็นเพื่อขอทำความตกลงกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2558 ข้อ 129 (2) และการปรับเปลี่ยนห้องเด็ก เป็นห้องน้ำครู ทำให้ห้องน้าเด็กมีไม่เพียงพอ และไม่เป็นไปตามสัดส่วนมาตรฐานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่กำหนดให้โดยเฉลี่ย 1 ที่ ต่อเด็ก 10-20 คน

    รายงานยังระบุว่า จากการตรวจสอบการก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 5 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 15.63 ไม่มีการติดตั้งครุภัณฑ์วัสดุอุปกรณ์ที่กำหนด ตามแบบรูปรายการงานก่อสร้างและใบแจ้งปริมาณงานและราคา และคณะกรรมการตรวจการจ้าง ได้ตรวจรับการจ้างโดยถูกต้องเรียบร้อยแล้ว รวมค่าความเสียหายของทางราชการ จำนวนเงิน 76,470.58 บาท ได้แก่ อบต. เขาพระทอง อ.ชะอวด ศพด.1 ไม่ติดตั้งสายฉีดชาระ คิดเป็นเงิน 1,527.12 บาท และ ศพด.2 ไม่ติดตั้งราวระเบียงบันไดสแตนเลสและสายฉีดชำระ รวมเป็นเงิน 26,470.08 บาท

    เทศบาลตำบลการะเกด อ.เชียรใหญ่ ไม่ติดตั้งโคมไฟฉุกเฉิน เป็นเงิน 9,547.88 บาท, เทศบาลตาบลหัวไทร อ.หัวไทร ไม่ติดตั้งถังดับเพลิงและกระจกเงา และไม่มีงานติดตั้งบัวเชิงผนังไม้เนื้อแข็ง 3/4 นิ้ว x 4 นิ้ว ปริมาณงาน 122 เมตร รวมเป็นเงิน 37,020.50 บาท อบต.ห้วยปริก อ.ฉวาง ไม่ติดตั้งประตูห้องอาบน้า คิดเป็นเงิน 1,905.00 บาท

    ข้อต่อมาพบว่า งานก่อสร้างโดยทั่วไปวัสดุที่ใช้มีความคงทนแข็งแรง มีคุณภาพพร้อมใช้งาน 16 แห่ง และงานก่อสร้างมีความชำรุดบกพร่อง แตกร้าว ติดตั้งไม่สมบูรณ์เรียบร้อย16 แห่ง เช่น ไม้ฝ้าระแนงใต้หลังคาชำรุด หลังคารั่วทำให้ฝ้าเพดานชำรุดเสียหาย ประตูห้องน้ำชำรุด ระบบไฟฟ้าห้องครัวไม่ทำงาน หลอดไฟฟ้าเสียใช้งานไม่ได้ เป็นการใช้จ่ายเงินงบประมาณไม่เกิดความคุ้มค่า เนื่องจากการก่อสร้างแล้วเสร็จแต่มีสภาพชำรุด ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์

    จากรายงานยังพบว่า เอกสารสัญญาจ้างไม่เป็นไปตามระเบียบฯ ที่กำหนด อปท. ในการก่อสร้าง ขนาด 51-80 จำนวน 9 แห่ง และ ขนาด 81-100 คน จำนวน 12 แห่ง รวม 21 แห่ง ตามสัญญาจ้างข้อ 2 กำหนดให้ใบแจ้งปริมาณงานและราคา เป็นส่วนหนึ่งของสัญญา พบว่า จำนวนเงินรวม ตามใบแจ้งปริมาณงานและราคา ของผู้รับจ้างไม่ถูกต้องตรงกันกับจำนวนเงินตามสัญญาจ้าง จำนวน 6 แห่ง

    พบว่า ผู้รับจ้างไม่กรอกจำนวนเงินของแต่ละรายการ ในใบแจ้งปริมาณงานและราคา ให้ถูกต้องตรงกันกับราคาที่เสนอไว้ จำนวน 7 แห่ง การไม่กรอกจำนวนเงินแต่ละรายการ ภายหลังการเสนอราคารายต่ำสุดที่เป็นคู่สัญญา หรือมีจำนวนเงินรวมไม่ตรงตามสัญญาจ้าง หากมีกรณีข้อโต้แย้งระหว่าง อปท.กับผู้รับจ้าง อาจจะเกิดความเสียหายต่อทางราชการได้ และเป็นการไม่ปฏิบัติ เรื่องการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการกาหนดเงื่อนไขต่างๆ ในเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

    “พบว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ยังไม่เปิดให้บริการการเรียนการสอน 11 แห่ง และในจำนวนนี้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 10 แห่ง ที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนานมากกว่า 5 เดือน ยังไม่สามารถ เปิดให้บริการด้านการเรียนการสอน ตามวัตถุประสงค์ได้ ส่งผลให้เด็กปฐมวัย ในพื้นที่ อปท. ไม่สามารถเข้ารับบริการ เนื่องจาก อปท.ขาดการเตรียมความพร้อมพื้นที่โดยรอบอาคาร ต้องมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ การก่อสร้างรั้วรอบอาคาร การปรับปรุงกั้นห้องเพิ่มเติม และบางแห่งยังไม่มีการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อประโยชน์ในการใช้สอย การเดินทาง ความปลอดภัย และขาดการติดตามประเมินผลด้านการใช้ประโยชน์”

    สุดท้ายพบว่า การบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ด้านอาคารสถานที่ สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย ไม่เป็นไปตามมาตรฐานศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2559 พบว่า ที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม 8 แห่ง โดยอยู่ใกล้กับฌาปนกิจสถาน 2 แห่ง อยู่ใกล้ถนนมากเกินไป 5 แห่ง และตั้งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมถึง 1 แห่ง พบว่า 15 แห่ง ไม่มีรั้วป้องกัน ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ ยังพบว่าประตู/หน้าต่าง เป็นไปตามมาตรฐานฯ 30 แห่ง และ 2 แห่ง ชำรุดผุพัง 2 แห่ง พื้นที่ใช้สอยภายใน เช่น ห้องส้วมเด็กมีไม่เพียงพอต่อจำนวนเด็ก ไม่เป็นไปตามสัดส่วนห้องส้วม 1 ห้อง ต่อเด็ก 10-12 คน จำนวน 24 แห่ง ห้องส้วมไม่แยกสัดส่วน สำหรับเด็กชายและเด็กหญิง มีการใช้ห้องส้วมร่วมกัน และติดตั้งโถส้วม ที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับตัวเด็ก จานวน 13 แห่ง

    ทั้งนี้ ด้านสิ่งแวดล้อมภายในอาคารเป็นไปตามมาตรฐานฯ ทั้งหมด แต่ภายนอกอาคารไม่มีรั้วกั้นบริเวณให้เป็นสัดส่วน เพื่อความปลอดภัยของเด็ก จำนวน 15 แห่ง และมาตรฐานการป้องกันความปลอดภัย กลับยังไม่ติดตั้งถังดับเพลิง ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานการป้องกันความปลอดภัย จำนวน 2 แห่ง โดยติดตั้งถังดับเพลิงจากพื้นถึงหัวถัง สูงเกินกว่า 1.50 เมตรที่กำหนด จำนวน 16 แห่ง และติดตั้งปลั๊กไฟสูงจากพื้นต่ำกว่า 1.50 เมตรที่กำหนด จำนวน 31 แห่ง นอกจากนี้มีหลุมหรือบ่อน้าที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็กในบริเวณโดยรอบตัวอาคาร จำนวน 6 แห่ง”

    “โดย สตง.มีข้อเสนอแนะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหาผู้รับผิดชอบตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และดาเนินการกับผู้รับผิดชอบ ตามควรแก่กรณีต่อไป รวมถึงสั่งการและกำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ บริหารจัดการให้เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งมาตรฐานด้านอาคาร สถานที่ สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย”

    https://mgronline.com/politics/detail/9610000056786
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “โภคิน” รอดคดีรถ-เรือดับเพลิง ศาลชี้ไม่ได้ละเลยหน้าที่ ไม่ต้องจ่าย 1.4 พันล้านให้ กทม. เผยแพร่: 7 มิ.ย. 2561 13:51: ปรับปรุง: 7 มิ.ย. 2561 15:23: โดย: MGR Online
    561000005897401.jpg

    นายโภคิน พลกุล (แฟ้มภาพ)
    “โภคิน” โล่ง ศาลปกครองสูงสุดสั่งไม่ต้องชดใช้ 1,434 ล้านบาทให้ กทม. เหตุไม่ได้ละเลยต่อหน้าที่ปมทุจริตจัดซื้อรถเรือดับเพลิง กทม.ตั้งแต่เมื่อปี 47

    วันนี้ (7 มิ.ย.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ให้นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในคดีทุจริตโครงการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยจำนวน 1,434,463,937.07บาท

    โดยศาลเห็นว่า โครงการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง รวมทั้งอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อครั้งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทย เข้าเสนอโครงการจัดหารถดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยในลักษณะรัฐต่อรัฐ ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. 2546 ต่อมาเมื่อนายโภคินได้เข้ารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ผู้ว่าฯ กทม.ได้มีหนังสือลงวันที่ 12 ต.ค. 2547 แจ้งถึงกระบวนการจัดซื้อดังกล่าวอาจดำเนินการมาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และแจ้งให้ทราบว่ามีผู้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการสืบสวนสอบสวนการจัดซื้อดังกล่าว

    ดังนั้น ด้วยอำนาจหน้าที่ของนายโภคินในขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีฯ ที่ต้องควบคุม ดูแลการปฏิบัติราชการของกรุงเทพมหานคร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อพบหรือมีเหตุอันควรสงสัยองค์กรที่อยู่ใต้การควบคุมดูแลว่าอาจมีการบริหารงานที่ส่อไปในทางที่ไม่สุจริตและอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือเสียประโยชน์อย่างใดๆ แล้ว นายโภคินย่อมมีอำนาจที่จะดำเนินการสั่งให้มีการตรวจสอบสอบสวนเรื่องราวตลอดจนข้อเท็จจริงที่ผ่านมาว่าได้ดำเนินการถูกต้องและชอบด้วยระเบียบกฎหมายหรือไม่ แต่นายโภคินไม่ได้กระทำเช่นนั้น จึงเป็นการไม่ดำเนินการควบคุมดูแลการบริหารราชการของกรุงเทพมหานคร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามมาตรา 123 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 อันถือได้ว่าเป็นการละเลยหรืองดเว้นการกระทำตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้

    อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาข้อความตามหนังสือลงวันที่ 5 พ.ย. 2547 ที่นายโภคินมีถึงผู้ว่าฯ กทม.ว่า “ควรดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขใน Agreement of Understanding (A.O.U.)” นั้น มิได้มีลักษณะเป็นการสั่งการให้ดำเนินการ คงเป็นเพียงการแจ้งตอบข้อหารือและให้ความเห็นประกอบ เนื่องจากนายโภคินมีอำนาจหน้าที่เพียงควบคุมกำกับดูแลการบริหารราชการของกรุงเทพมหานครเท่านั้น ไม่มีอำนาจสั่งยกเลิกเพิกถอนนิติกรรมใดๆ อันเป็นอำนาจโดยตรงของผู้ว่าฯ กทม.ได้ ดังนั้น หากผู้ว่าฯ กทม.ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของนายโภคิน ผู้ว่าฯ กทม. ก็ชอบที่จะใช้ดุลพินิจเป็นอย่างอื่นได้ ซึ่งข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่าภายหลังจากที่ผู้ว่าฯ กทม.ได้รับหนังสือลงวันที่ 5 พ.ย. 2547 แล้วผู้ว่าฯ กทม.เองก็ไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ฟ้องคดีโดยการเปิด L/C ให้แก่บริษัทสไตเออร์ฯ ทันที แต่ผู้ว่าฯกทม.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาทบทวนรายละเอียดการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิงและอุปกรณ์ดังกล่าวอีกครั้ง จึงเห็นได้ว่าทั้งกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าฯ กทม.ไม่จำต้องปฏิบัติตามหนังสือของนายโภคิน และสามารถเจรจาต่อรองหรือขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาได้ หากเห็นว่าไม่ชอบธรรม

    ส่วนการที่ผู้ว่าฯ กทม ได้เปิด L/C ให้แก่บริษัท สไตเออร์ฯ เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2548 และกรุงเทพมหานคร ได้ชำระค่าสินค้าในงวดที่ 1-9 ให้แก่บริษัท สไตเออร์ฯ ตามข้อตกลงซื้อขาย ก็เนื่องจาก รมช.มท.ได้มีหนังสือลงวันที่ 16 ธ.ค. 47แจ้งให้ผู้ว่าฯ กทม.ดำเนินการเปิด L/C ให้แก่บริษัท สไตเออร์ฯ โดยทันที จึงเห็นได้ว่าการเปิด L/C ของผู้ว่าฯ กทม. มิได้เป็นผลโดยตรงมาจากการตอบหนังสือข้อหารือของนายโภคิน

    ดังนั้น ความเสียหายที่กรุงเทพมหานครได้รับจากการดำเนินการเปิด L/C ให้แก่บริษัท สไตเออร์ฯ จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นผลโดยตรงมาจากการที่นายโภคินละเลยต่อหน้าที่ในการกำกับดูแลกรุงเทพมหานคร เช่นกัน นายโภคินจึงไม่ได้กระทำละเมิดต่อกรุงเทพมหานครและไม่ต้องรับผิดจากการที่กรุงเทพมหานครต้องชำระราคารถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยในงวดที่ 1-9 รวมทั้งความเสียหายอื่นๆ เนื่องจากกรุงเทพมหนครได้รับรู้รับทราบและรับที่จะดำเนินการเองมาตั้งแต่ต้น และนายโภคินเองก็ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องในการทำสัญญาหรือตกลงในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งของสัญญา และเป็นเรื่องที่กรุงเทพมหานครต้องรับผิดตามสัญญาเป็นการเฉพาะ จึงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งที่ให้นายโภคินคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวนดังกล่าว โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว

    https://mgronline.com/politics/detail/9610000056580
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พม.ห่วงข่มขืน "เด็ก" รายวัน เร่งช่วยเหลือ ด.ญ.ออทิสติกถูกพ่อเลี้ยงขืนใจแล้ว เผยแพร่: 7 มิ.ย. 2561 13:51: โดย: MGR Online
    561000005897601.jpg

    พม.ห่วงข่มขืน "เด็ก" รายวัน ขอประชาชนร่วมจับตา เฝ้าระวังบุตรหลานใกล้ชิด พร้อมเร่งเยียวยาจิตใจ ด.ญ. 11 ขวบป่วยออทิสติกถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน และ ด.ญ. 5 ขวบถูกตาข่มขืน และช่วยเหลือครอบครัวเบื้องต้นแล้ว

    วันนี้ (7 มิ.ย.) นางไพรวรรณ พลวัน รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีพ่อเลี้ยงวัย 40 ปี ล่อลวงเด็กหญิงวัย 11 ปี ป่วยเป็นโรคออทิสติก ไปข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายร่างกาย จนบาดเจ็บอย่างรุนแรง ว่า ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร (พมจ.สมุทรสาคร) พร้อมทีม One Home เร่งลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กหญิงอย่างใกล้ชิดโดยด่วน เพื่อให้เด็กหญิงมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็งขึ้นและสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุขโดยเร็วที่สุด พร้อมดูแลช่วยเหลือในเรื่องของการตรวจสุขภาพและการรักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บของเด็กหญิงอย่างใกล้ชิด รวมทั้ง พม. มีบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

    นางไพรวรรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังให้ติดตามช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกผู้เป็นตาบังคับข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งผู้เป็นแม่วัย 29 ปี ป่วยพิการทางสมองที่จังหวัดน่านด้วย โดยทีม One Home ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจเด็กหญิงคนดังกล่าว อีกทั้งประสานทางศูนย์บริการคนพิการ เพื่อให้คำปรึกษาในเรื่องของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการของผู้เป็นแม่ เพื่อใช้เป็นทุนสำหรับการประกอบอาชีพในระยะยาว และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

    "ปัญหาเด็กถูกกระทำความรุนแรง และปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องรายวัน จึงขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง บุคคลใกล้ชิดในครอบครัว และทุกคนในสังคม ช่วยกันเฝ้าระวังและติดตามดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากประชาชนพบเห็นเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว หรือประสบปัญหาทางสังคม สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง พม. พร้อมประสาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป" นางไพรวรรณ กล่าว

    https://mgronline.com/qol/detail/9610000056581
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    TCAS แค่สะท้อนปัญหา จี้ ศธ.คุมหลักสูตรฟุ้งเฟ้อ-ยกเลิกรับตรง หลังเกิดดรามาที่นั่งว่างเพียบ เผยแพร่: 7 มิ.ย. 2561 12:37: ปรับปรุง: 7 มิ.ย. 2561 18:29: โดย: MGR Online
    561000005891401.jpg


    “อ.วีรชัย” ชี้ TCAS ไม่ใช่ปัญหาเดียวของระบบเข้ามหาวิทยาลัย จี้ ศธ. ปฏิรูปทั้งระบบ คุมหลักสูตรฟุ้งเฟ้อ ลดปัญหาที่นั่งมาก แย่งชิงตัวเด็ก มั่นใจ TCAS 5 รอบ ที่นั่งก็ยังว่าง เห็นด้วยยกเลิกการ “รับตรง” ใช้ระบบสอบร่วมกันแบบเก่า เชื่อรับตรงเพราะต้องการหารายได้มากกว่าตัวเด็ก

    จากปัญหาระบบ TCAS รอบ 3 หรือรอบรับตรงร่วมกัน ทำให้เกิดการกันที่นั่งจำนวนมากโดยนักเรียนที่มีคะแนนสูง และเห็นปัญหาได้ชัดเจนขึ้นหลังจากที่มีการยืนยันสิทธิ์รอบ 3/1 ซึ่งพบว่าแต่ละสาขาวิชาของแต่ละมหาวิทยาลัยเกิดที่นั่งว่างจำนวนมาก บางสาขาไม่มีคนยืนยันสิทธิ์เลย ซึ่งส่งผลกระทบทั้งนักเรียนที่อยากเข้าแต่เข้าไม่ได้ และมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้เด็กตามที่ต้องการ จนเกิดคำถามตามมาว่า สมควรที่จะยกเลิกระบบรับตรงร่วมกันนี้หรือไม่

    วันนี้ (7 มิ.ย.) รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ (CHES) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ประเด็นการรับตรงของสถาบันอุดมศึกษา เกิดขึ้นจากการที่มหาวิทยาลัยออกนอกระบบตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้เกิดการแข่งขันในการเลี้ยงดูตนเอง เนื่องจากรัฐจะให้งบประมาณแค่บางส่วน ดังนั้น สิ่งที่มหาวิทยาลัยทำได้คือการเปิดหลักสูตรเพิ่มขึ้น ทำให้ที่นั่งในมหาวิทยาลัยเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ จากสถิติ 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า มีที่นั่งเหลือเป็นหลักหมื่น ปี 2560 มีที่นั่งว่างเหลือ 30,000 ที่ เมื่อเกิดการแก่งแย่งเด็กแบบนี้ จึงเกิดการรีบรับสอบตรงก่อนเพื่อที่จะกั๊กเด็กไว้ ซึ่งตรงนี้สะท้อนถึงการคำนึงถึงรายได้เป็นหลัก มากกว่าเรื่องการศึกษา

    “ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยแต่ละที่จะรีบเปิดรับก่อน พอเด็กปิดเทอมก็มีโปรโมชัน ซึ่งอนาคตอาจต้องไปเคาะประตูบ้านเพื่อเรียกเด็กมาเรียนก็ได้ ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ก็ไม่ควบคุมการขยายการเปิดหลักสูตร ปล่อยให้เปิดอย่างอิสระ ไม่มีการคุมประเภทของมหาวิทยาลัย เช่น บางแห่งเป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะด้านก็มาเปิดนิติศาสตร์ ศิลปศาสตร์ เพราะหาเงินง่าย ไม่ต้องใช้ทรัพยากรอะไรมาก หรือมหาวิทยาลัยยักษ์ใหญ่ ก็มาเปิดหลักสูตรแข่งกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่ ซึ่งบางแห่งกำลังทำ ซึ่งพบว่าเมื่อปริมาณเยอะ คุณภาพก็ลดลง เรียกว่าตอนนี้มั่วและฟุ้งเฟ้อไปหมด และเมื่อปริมาณเยอะเด็กก็เล่นตัว มหาวิทยาลัยจึงต้องเปิดสอบหลายๆ รอบ อย่าง TCAS เอง ก็เปิด 5 รอบ เพราะว่ารอบแรกก็ไม่เต็ม รอบ 2 ก็ไม่เต็ม รอบ 3 ก็ไม่เต็ม จนกระทั่งรอบ 5 ก็เชื่อว่าอาจจะไม่เต็ม” รศ.ดร.วีรชัย กล่าว

    รศ.ดร.วีรชัย กล่าวว่า ปัญหาการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในขณะนี้ ตนไม่ได้มองว่าเกิดจาก TCAS เพียงอย่างเดียว เพียงแต่ TCAS วันนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็น เพราะคนที่ประท้วง TCAS ก็ไม่ใช่คนที่สอบไม่ได้ แต่เป็นพวกที่สอบได้แต่ไม่ได้ในคณะที่ตนเองต้องการ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า TCAS ช่วยลดปัญหาค่าใช้จ่ายผู้ปกครองได้ แต่ก็ยังต้องพัฒนาระบบต่อ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หรือรัฐบาลเองต้องอาศัยโอกาสนี้ที่มองเห็นปัญหาแล้วแก้ปัญหาให้ได้ ถึงจะเป็นการปฏิรูปที่แท้จริง ซึ่งตนมองว่าต้องปรับแก้ทั้งระบบ ทั้งเรื่องของหลักสูตรที่ฟุ้งเฟ้อจะต้องมีการกำจัดหรือลดหลักสูตรลง ซึ่งอยากรณรงค์ให้มหาวิทยาลัยลดหลักสูตรที่ไม่มีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ และ ศธ. ต้องไม่ให้อิสระในการเปิดหลักสูตรมากจนเกินไป ขณะที่วิธีการรับเด็กก็ต้องมาปรับใหม่ โดยอาจขอความร่วมมือหรือออกเป็นกฎไม่ให้มีการรับตรง แต่ใช้ระบบเหมือนสอบสมัยก่อนก็จบ เลือกเรียงลำดับตามคะแนน ก็จะได้ตามศักยภาพของเด็กที่เข้าไป และเมื่อสาขาไหนที่ไม่มีคนเรียนก็จะปิดอัตโนมัติ

    “ระบบ TCAS ปีนี้สปอยเด็กมากเกินไป จะทำให้ได้พลเมืองที่ไม่ยอมรับกติกา เพราะเมื่อสอบติดแล้วก็สละสิทธิ์ สอบติดแล้วก็ไม่เอา กั๊กที่คนอื่นกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้ที่ต้องการก็ประท้วง พอเปิดรอบ 3/2 ให้ เมื่อสอบติดก็สละสิทธิ์อีก เพราะไม่ได้ที่ต้องการ ทางพ่อแม่ก็กดดันเด็กเยอะ เวลาเรียนไป จบเป็นบัณฑิตออกมาสู่สังคมก็จะเกิดการผลิตรูปแบบเดิมๆ คือ ไม่ได้อะไรก็ประท้วง ไม่เคารพกติกาไม่จบไม่สิ้น จะเป็นพลเมืองในระบบนี้” รศ.ดร.วีรชัย กล่าว

    เมื่อถามว่า การที่มหาวิทยาลัยขอรับตรง เพราะจะได้เด็กตามเกณฑ์ที่ต้องการจริงๆ รศ.ดร.วีรชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแค่ข้ออ้าง ทำไมไม่รับพร้อมกัน อย่างสมัยก่อนเมื่อเด็กสอบติดแล้วกลัวสละสิทธิ์ก็บังคับจ่ายค่าเทอมก่อนเลย เพราะกลัวไปสมัครที่อื่น ถ้าอุดมการณ์จริง มีเจตนาดีจริง ก็ไม่ควรเก็บเงินก่อนที่เด็กจะรายงานตัว ซึ่งทุกแห่งทำเหมือนกันหมด แย่งเงินกัน ไม่ได้แย่งเด็ก ไม่ใชบริการการศึกษา กลายเป็นธุรกิจแบบเต็มๆ ทั้งที่เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ

    https://mgronline.com/qol/detail/9610000056528
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แม่ทัพน้อยลง “ปอเนาะญาลันนันบารู” รุดเคลียร์ปัญหาเอง เผย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมจัดงบหนุนต่อเนื่อง เผยแพร่: 7 มิ.ย. 2561 12:14: ปรับปรุง: 7 มิ.ย. 2561 12:33: โดย: MGR Online
    561000005890501.jpg

    ปัตตานี - แม่ทัพน้อยลงพื้นที่ “ปอเนาะญาลันนันบารู” รุดเคลียร์ปัญหาเอง ยืนยันทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงให้การสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับให้เป็นที่ยอมรับในคุณภาพมากยิ่งขึ้น

    วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการร้องความเป็นธรรม ของโต๊ะครูปอเนาะญาลันนันบารู กับทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต่อท่าที และการส่งเสริมสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องในการดำเนินกิจกรรมศาสนะบำบัดผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนที่ศูนย์ศาสนะบำบัดผู้ติดยาเสพติด หรือปอเนาะญาลันนันบารู หมู่ 3 บ้านเกาะแลหนัง ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น

    ล่าสุด พล.อ.เกื้อกูล อินนาจักร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หรือแม่ทัพน้อย พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่โต๊ะครูปอเนาะญาลันนันบารู ได้เรียกร้องขอความเป็นธรรม จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เกี่ยวกับท่าทีการสนับสนุนงบประมาณการดำเนินกิจกรรมของปอเนาะญาลันนันบารู ตามที่สื่อได้นำเสนอข่าว

    561000005890502.jpg


    นายอับบาส บินอิบรอฮีม โต๊ะครูปอเนาะญาลันนันบารู ระบุว่า ที่ผ่านมา มีหน่วยงานความมั่นคงได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมของปอเนาะญาลันนันบารู ว่า อาจเป็นแหล่งค้ายาเสพติด รวมทั้งเป็นแหล่งซ่องสุมขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ และอาจเป็นเป็นสาเหตุสำคัญที่จะนำไปสู่การตัดงบประมาณ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมของปอเนาะ และกระทบต่อผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเลิกยาเสพติด

    จากการเข้าพูดคุยกับโต๊ะครู และผู้บริหารปอเนาะญาลันบารู ของ พล.อ.เกื้อกูล อินนาจักร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่นำคณะได้เดินทางลงพื้นที่ปอเนาะญาลันนันบารู เพื่อรับทราบปัญหาข้อเท็จจริง พร้อมยืนยันว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย

    ขณะเดียวกัน ยังได้ถือโอกาสประชุมหารือกับโต๊ะครู และผู้ปฏิบัติงานประจำปอเนาะ เพื่อหาแนวทางในการพัฒนา และยกระดับสถาบันปอเนาะญาลันนันบารู ให้เป็นสถาบันที่มีคุณภาพอีกด้วย โดยเฉพาะด้านการฟื้นฟู และบำบัดรักษาผู้ป่วยที่ติดยาเสพติด
    561000005890503.jpg

    นายอับบาส บินอิบรอฮีม โต๊ะครูปอเนาะญาลันนันบารู ได้กล่าวขอบคุณทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ได้ส่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงมารับทราบปัญหา และข้อเท็จจริง พร้อมยืนยันว่า ต่อจากนี้ไป ปอเนาะญาลันนันบารู จะร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อสร้างความสงบสุขที่ยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างเต็มกำลังความสามารถ และจากการร่วมพูดคุยในวันนี้ ทำให้เข้าใจว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดจากการขาดการสื่อสารที่ชัดเจน และเข้าใจไม่ตรงกันในบางประเด็น ซึ่งสามารถหาทางออกได้หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกัน และจากนี้ไป ปอเนาะญาลันนันบารู จะทำงานตามปกติ หากมีปัญหาข้อขัดข้องก็จะประสานไปยังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยตรง และยืนยันว่าปอเนาะญาลันนันบารู จะเดินหน้าปฏิบัติภารกิจเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต่อไป

    ทั้งนี้ โครงการญาลันนันบารู เป็นโครงการที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน เน้นการป้องกันยาเสพติดให้แก่เยาวชน ทั้งใน และนอกสถานศึกษา รวมทั้งในสถาบันศึกษาปอเนาะ ต่อมา ได้มีแนวคิดป้องกันภัยยาเสพติดให้แก่เด็กๆ ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป เพิ่มจากกลุ่มเป้าหมายเดิม เรียกว่า ญาลันนันบารูจูเนียร์ รวมแล้วมีเยาวชนที่เป็นสมาชิกญาลันนันบารูแล้วกว่า 6 หมื่นคน และหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญของทุกปีเมื่อใกล้ถึงเดือนรอมฎอน เหล่าสมาชิกชาวญาลันนันบารู จะมารวมตัวกัน เพื่อแสดงพลังรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงพิษภัยยาเสพติด รวมทั้งการปฏิเสธความรุนแรงในทุกรูปแบบ

    https://mgronline.com/south/detail/9610000056514
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Pattarawadee Fuchs

    ศาลเวียดนามเปิดไต่สวนบิ๊กปิโตรเลียมทุจริต4,800ล้านบาท อุ้มจากเยอรมัน-โทษสูงถึงประหารชีวิต

    เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2561 ดอยเชอเวลเลอรายงานว่า ศาลเวียดนามเปิดการไต่สวน อดีตหัวหน้าผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจน้ำมันเวียดนามแล้ว โดยเป็นบุคคลที่ทางการเยอรมนีเชื่อว่าเวียดนามส่งสายลับมาลักพาตัวช่วงกลางวันแสกๆ จากสวนสาธารณะในกรุงเบอร์ลิน

    จำเลยดังกล่าวคือ นายจินญ์ ซวน ทานญ์ อดีตผู้บริหารของเปโตรเวียดนาม ถูกตั้งข้อหาทุจริต และยักยอกทรัพย์ จนทำให้รัฐเสียหายถึง 150 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณกว่า 4,800 ล้านบาท ตลอดจนทำให้รัฐวิสาหกิจแห่งประสบสภาวะขาดทุน หากศาลตัดสินมีความผิดทุกข้อหา นายจินญ์อาจต้องโทษสูงถึงประหารชีวิต

    ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหารายนี้เคยหนีไปยังประเทศเยอรมนีเมื่อปี 2559 และการไปอุ้มคืนมานั้นส่งผลกระทบถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยทางเยอรมนีได้ขับไล่เจ้าหน้าที่ทูตเวียดนามสองคนออกจากประเทศในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน ขณะที่เวียดนามยืนกรานว่า ผู้ต้องหาขอมอบตัวเอง

    การตัดสินคดีความมีขึ้นหลังจากทางการเวียดนามกวาดล้างคดีทุจริตอย่างหนัก จนทำให้มีผู้บริหารอีก 22 คน อีกทั้งมีอดีตสมาชิกโปลิตบูโร หรือ คณะกรรมาธิการการเมือง ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองระดับสูงของเวียดนาม อย่างนายดินญ์ ลา ถาง ที่อาจถูกโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี กับคดีผิดพลาดในการจัดการทางเศรษฐกิจ https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_698218

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149


    หาดูยาก !!!! วันรวมเทพ #ผู้ให้กำเนิด ดนตรี และท่าเต้น ทั่วโลก

    เฟสบุ๊ก โคตรเหี้ย Vs โหดสัส 20+
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บทเรียนจากขนมจีนน้ำปลา/ตรวจตู้คอนเทนเนอร์ไม่ทัน/การชิงโชคและการเสียภาษี วันที่ 11 มิถุนายน 2561 - 00:00 น.

    0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2-696x384.jpg
    บทเรียนจากขนมจีนน้ำปลา/ตรวจตู้คอนเทนเนอร์ไม่ทัน/การชิงโชคและการเสียภาษี
    บ.ก.ตอบจดหมาย

    เรียน บ.ก.ข่าวสด

    โครงการอาหารกลางวันเด็ก เมนูเด็ดขนมจีนกับน้ำปลา ฟางเส้นสุดท้ายที่กระตุ้นให้หน่วยเหนือและต้นสังกัดตื่นตัว มีการตรวจสอบระดับผู้บริหารโดยเฉพาะผู้อำนวยการโรงเรียน ที่กุมอำนาจเอาไว้ทุกอย่าง บางโรงผู้อำนวยการเข้ามาเล่นทุกเรื่อง ตั้งแต่เอาของมาขายในโรงอาหาร กระทั่งพิจารณาเลื่อนขั้นครูในโรงเรียน ขอเสนอแนะว่าเวลามีการร้องเรียนเรื่องความประพฤติไม่ว่าจะเป็นครูน้อย หรือครูใหญ่ หน่วยงานต้นสังกัดควรให้ความสนใจลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่าลูบหน้าปะจมูกกัน ขืนปล่อยก็เป็นหนองรอวันปะทุ นอกจากนี้ให้มีคณะกรรมการเป็นคนซื้อวัตถุดิบ โดยมีครูจัดเวรช่วยกันดูแล และทางที่ดีควรดึงผู้ปกครองเด็กที่มีจิตอาสาเข้ามาร่วมด้วย สิทธิพิเศษคือได้ทานอาหารกลางวันฟรีในวันที่มาช่วย สุดท้ายเป็นข้อสงสัยว่าแม่ครัวที่จ้างมาทำอาหารกลางวันนั้น ค่าจ้างใช้เงินในโครงการอาหารกลางวันหรือเป็นงบฯอื่น

    นับถือ
    ลูกเงาะ

    ตอบ ลูกเงาะ

    ตอนนี้เรื่องราวไม่ดีไม่งามที่โรงเรียนซึ่งเกิดเหตุขนมจีนน้ำปลา ก็มีปูดออกมาอีกมากมายหลายเรื่อง ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เข้าไปสอบสวนแล้ว ขอบคุณที่มีข้อเสนอแนะระบบการจัดซื้อในโรงเรียน หวังว่ากระทรวงศึกษาธิการจะรับไปพิจารณา
    • ตรวจตู้คอนเทนเนอร์ไม่ทัน
    เรียน บ.ก.

    ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่กระจายอยู่ตามโรงงานในพื้นที่ต่างๆ นั้น เข้ากันมาเป็นตู้คอนเทนเนอร์ รอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว ในแต่ละวันสินค้าขาเข้าทางพิธีการศุลากรมีมาก จะให้มาตรวจแต่ละตู้เป็นไปได้ยาก ที่สำคัญเจ้าหน้าที่มีน้อย ข้าพเจ้ามองว่าน่าจะมีการจ้างเอกชนเข้ามาตรวจ แต่ก็ต้องมีการคัดกรองบริษัทเอกชนที่จะทำหน้าตรวจสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่กรมศุลฯไปบ้าง

    นับถือ
    น้อยหน่า

    ตอบ น้อยหน่า

    กรมศุลกากรคงได้รับทราบข้อเสนอนี้ เพื่อพิจารณาต่อไป เพราะถ้าหากระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ยังทำได้ ไม่ละเอียด ด้วยขาดแคลนเจ้าหน้าที่ ก็จะส่งผลเหมือนกรณีขยะอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาชนคนไทย

    • การชิงโชคและการเสียภาษี
    เรียน บ.ก.ข่าวสด

    กรณีข่าวหนุ่มโชคดี ชิงโชคได้รางวัลมูลค่ากว่าสิบล้านบาทนั้น ไม่ทราบว่านั้นคือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี เชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่ทราบ เช่นตัดบัตรชิงโชคหรือทายรางวัล ไม่ว่ารางวัลมูลค่าเล็กหรือใหญ่นั้น ต้องเสียภาษีตามมูลค่าของเงินรางวัล ดังนั้นบริษัทห้างร้านที่จัดรางวัลชิงโชค ควรที่จะแนะนำเมื่อลูกค้าโชคดีถูกรางวัล เมื่อมารับรางวัลแล้ว นอกจากพนักงานของบริษัทเขียนใบหักภาษี ณ จ่ายให้ลูกค้าแล้ว ช่วยอธิบายให้ผู้รับรางวัลทราบด้วยว่า ต้องนำเงินรางวัลที่ได้นี้ ไปรวมกับเงินได้เวลาเสียภาษีประจำปีด้วย ไม่เช่นนั้นจะเหมือนหลายคนที่ถูกรางวัลแล้วไม่ทราบว่าต้องเสียภาษี

    ด้วยความเคารพ
    โชคดี

    ตอบ คุณโชคดี

    สำหรับหนังสือพิมพ์ข่าวสด มติชน ประชาชาติธุรกิจ ซึ่งกำลังจัดทายผลฟุตบอลโลก มีคูปองให้ผู้อ่านตัดมาชิงโชค ลุ้นรางวัลใหญ่มากมาย ได้บอกชัดเจนเรื่องการหักภาษีให้ได้รับทราบกันโดยถ้วนหน้าแล้ว ตอนนี้ผู้อ่านกำลังเร่งตัดคูปองเพื่อเตรียมทายผลกันยกใหญ่ โดยรู้รายละเอียดครบถ้วน ถือเป็นเรื่องจำเป็นดังที่คุณตั้งข้อสังเกตมาจริงๆ

    https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/letter-to-editors/news_1198838
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ฟ้าผ่าหลังคาไฟลุก ! ช็อกชาวบ้าน – 4คนในบ้านเผ่นหนี
    วันที่ 11 มิถุนายน 2561 - 04:23 น.

    lightning-flames1-696x340.jpg
    ฟ้าผ่าหลังคาไฟลุก ! ช็อกชาวบ้าน – 4คนในบ้านเผ่นหนี
    ฟ้าผ่าหลังคาไฟลุก – เดลีเมล์ รายงานเหตุการณ์ช็อกชาวบ้านในเมืองเลนซี สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร เมื่อฟ้าผ่ารุนแรงลงมายังหลังคาบ้านหลังหนึ่งจนเกิดไฟลุกไหม้ หลายคนถ่ายคลิปและโพสต์ในโซเชียลมีเดีย


    เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 9 มิ.ย. ตำรวจในท้องถิ่นยืนยันว่าไม่มีผู้บาดเจ็บ หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงรุดไปที่เกิดเหตุทันที บ้านหลังดังกล่าวมีสมาชิก 4 คน หนีออกมาทันทีเมื่อมีเพื่อนรีบไปเตือน

    lightning-flames2.jpg

    เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลเตือนว่า ช่วงนี้ฟ้าฝนรุนแรง จะมีทั้งฟ้าร้องฟ้าผ่า และฝนตกหนักทั้งในพื้นที่หลังจากเอดินเบอระและกลาสโกว์เกิดน้ำท่วมฉับพลัน

    https://www.khaosod.co.th/clips/news_1199060
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข่าวนี้เงียบไปเลย

    ตั้งบริษัทในสิงคโปร์ รับสินบน "โรลส์-รอยซ์" หลักฐานมัดปตท.

    Publisher : 29 March 2017

    วันที่ 29 มี.ค.60-หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3248 ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-1 เม.ย.2560 รายงานการสืบสวนสอบสวนคดีพนักงานปตท.และปตท.สผ.รับสินบน จากบริษัท โรลส์-รอยซ์ เอ็นเนอร์จี ซิสเต็ม อิงค์(RRESI) ที่เป็นบริษัทลูกของโรลส์-รอยซ์ มีความชัดเจนมากขึ้น โดยศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ตรวจสอบรายละเอียดที่พนักงานบริษัทโรลส์-รอยซ์ฯไปให้การต่อกระทรวงยุติ ธรรมสหรัฐฯพบมีการจ่ายเงินค่านายหน้าส่วนเกินหรือเงินสินบนหลายครั้งเพื่อล็อกสเปกทางเทคนิคโครงการให้โรลส์-รอยซ์

    ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะอนุกรรมการดำเนินงานเพื่อป้องกันปัญหาสินบนข้ามชาติ ที่มีนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นประธาน ได้มีการนำเสนอผลการตรวจสอบกรณีกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา ได้ตรวจสอบพบกรณีบริษัท โรลส์-รอยซ์ เอ็นเนอร์จี ซิสเต็ม อิงค์ (RRESI) ได้ติดสินบนผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) กว่า 11 ล้านดอลลาร์ หรือราว 385 ล้านบาท ในช่วงปี 2543-2556 เพื่อให้ซื้อเครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์ มาใช้ใน 6 โครงการ

    การตรวจสอบ พบว่าการจ่ายสินบนครั้งนี้ มีพนักงานปตท.เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดรายละเอียดทางเทคนิค ที่เกี่ยวกับคุณสมบัติเครื่องยนต์ที่จะนำไปติดตั้งในโครงการต่างๆในลักษณะที่เอื้อให้กับบริษัท โรลส์-รอยซ์ฯ ได้เปรียบบริษัทคู่แข่งรายอื่น แลกกับการที่โรลส์-รอยซ์ ยอมจ่ายค่านายหน้าให้กับเจ้าหน้าที่ปตท. มากกว่าข้อกำหนดนโยบายของบริษัทที่กำหนดให้จ่ายค่านายหน้าได้ไม่เกิน 5% แต่การขายเครื่องยนต์ให้กับบริษัทปตท.ฯ ทาง โรลส์-รอยซ์ได้จ่ายค่านายหน้าถึง 7.5%

    “เป็นที่รับรู้ว่าการจ่ายค่านายหน้าที่เกินปกตินี้ เพื่อนำเงินดังกล่าวไปติดสินบนเจ้าพนักงานของต่างประเทศนั่นคือ PTT และ PTTEP เพื่อให้ได้สิ่งตอบแทนกลับมาด้วยการได้รับสัญญาการซื้อ การจ้างที่สุดแล้ว โรลส์-รอยซ์ เอ็นเนอร์จี ซิสเต็ม อิงค์บริษัทลูกของโรลส์-รอยซ์ได้งานของ ปตท.ถึง 6 โครงการ” รายงานผลสอบสวนสินบนโรลส์-รอยซ์ ระบุ

    จากการตรวจสอบพบว่า ได้มีการจัดตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศกรรมขึ้นมาที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อรับค่านายหน้าเพิ่มอีก 2.5-3.5% ซึ่งประเด็นนี้ถูกระบุไว้ในรายงานการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯที่ระบุว่า ในความพยายามที่จะเอาชนะนโยบายใหม่ของบริษัทที่จำกัดค่านายหน้าในการขายที่ 5% โรลส์-รอยซ์ ผู้บริหาร พนักงาน 1 พนักงาน 3 และผู้อื่น ได้บิดเบือนการจ่ายค่านายหน้าที่ให้กับที่ปรึกษา รวมถึงคนกลาง 4 ด้วยการบันทึกบัญชีค่านายหน้าเหล่านี้ โดยแยกเป็นค่าตอบแทนด้านวิศวกรรม หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกัน ทั้งที่ไม่ได้มีการให้คำปรึกษาแต่อย่างใด แต่ด้วยการแยกจ่ายเงินเหล่านี้ออกเป็นคนละโครงการ ทำให้ค่านายหน้ารวมสูงกว่า 5%

    โดยการวางแผนการลับเกี่ยวกับการติดสินบนประเทศไทยนั้น เกิดขึ้นในช่วงปี 2543-2555 โรลส์-รอยซ์ และพนักงานบริษัท รวมถึงผู้บริหาร พนักงาน 1 พนักงาน 2 และพนักงาน 3 และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันแผนการลับเกี่ยวกับการติดสินบน โดยเตรียมการไว้ล่วงหน้า แก่ที่ปรึกษาทั้งหลายของโรลส์-รอยซ์ ตัวกลาง 4 ก่อนส่งผ่านเงินที่สูงกว่าค่าที่ปรึกษาไปให้แก่เจ้าหน้าที่ปตท. ผู้รับผิดชอบในการทำให้ได้อนุมัติงานของสัญญาโครงการต่างๆ

    ตัวอย่างเช่น ณ วันที่หรือใกล้เคียงกับวันที่ 8 เมษายน 2545 พนักงาน 2 ได้ส่งอี-เมล์ไปให้พนักงาน 1 และผู้อำนวยการของตัวกลาง 4 เกี่ยวกับกลยุทธ์ที่จะได้ชัยชนะ ในการได้รับอนุมัติสัญญาการก่อสร้างโรงงานแยกก๊าซ รู้จักกันในนามว่า โครงการ GSP-5 (โรงแยกก๊าซที่ 5) เพื่อโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่หลายคนของ ปตท. ผู้ซึ่งพนักงาน 2 อ้างถึงว่าเป็น “เพื่อนทั้งหลาย” เพื่อที่จะให้มีการกำหนดรายละเอียดทางเทคนิค คุณลักษณะ สำหรับโครงการไปในทางที่ให้เกิดความมั่นใจว่า โรลส์-รอยซ์ จะอยู่ในสถานะดีที่สุดที่จะเป็นบริษัทที่จะชนะได้รับอนุมัติสัญญา

    หลังจากนั้นโรลส์-รอยซ์ ประสบความสำเร็จ ด้วยการได้รับอนุมัติสัญญาสำหรับโครงการ GSP-5 ในเดือนมกราคม 2546 หลังจากที่โรลส์-รอยซ์ ได้จ่ายค่านายหน้าซึ่งเป็นค่าคอร์รัปชันให้กับคน กลาง 4 ตามที่ตกลงกันไว้แล้วล่วงหน้าที่ 7.5% ของราคาสัญญางาน

    P1-scoop-3248-1-328x503.jpg


    นอกจากนี้ยังพบว่าวันที่ 17 เมษายน 2546 พนักงาน 3 ได้ส่งอี-เมล์ถึงผู้ใหญ่ของบริษัทคนกลาง 4 และมีการสำเนาให้ถึงผู้บริหาร และพนักงาน 1 โดยอธิบายว่า ฉันรู้ว่าเราได้มาถึงระยะที่ตกลงกับท่านว่า ค่านายหน้าของคนกลาง 4 ซึ่งนอกเหนือไปจากค่าของโครงการนี้จะเป็น 6.5% แต่ว่าสิ่งนี้ไม่สามารถที่จะถูกจ่ายได้ภายใต้ข้อตกลงหนึ่งเดียวกับคนกลาง 4 เนื่องจากมันจะไม่ได้รับการอนุญาต โดยบริษัท โรลส์-รอยซ์ฯ ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำได้คือการแบ่งค่านายหน้าจำนวนดังกล่าวออกเป็น 2 ส่วน หนึ่งส่วนสำหรับค่านายหน้าปกติ ยกตัว อย่าง 4.5% และอีก 2% จะได้รับให้ครบภายใต้สัญญาที่แยกออกไปต่างหากสำหรับ “ความช่วยเหลือด้านวิศวกรรมภายในประเทศ”

    ต่อมาในวันที่ 9 กรกฎาคม 2546 พนักงาน 3 ได้ส่งอี-เมล์ให้กับผู้บริหาร โดยให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าพวกเขาจะบิดเบือนด้วยการแยกรายการจ่าย เงิน เพื่อให้ค่านายหน้ารวมทั้งหมดอาจจะสูงถึง 7.5% โดยได้ซ่อนเงินบางส่วนไว้ในโปรแกรมบัญชีของบริษัท ที่เรียกว่าค่าความร่วมมือด้านวิศวกรรม จากภายนอก

    แหล่งข่าวกล่าวว่า ผลจากการตรวจสอบพบว่าการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ปตท.ครั้งนี้เป็นการจ่ายผ่านบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีการโอนเงินจากสหรัฐฯมายังบัญชีธนาคารของคนกลาง 4 ในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งที่ประชุมอนุกรรมการมีความเห็นว่ากรณีดังกล่าว เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน โดยใช้วิธีการและหนทางของการสมรู้ร่วมคิดของ โรลส์-รอยซ์ ผ่านทางพนักงานของบริษัท และตัวแทนรวมถึงพนักปตท. ในการ ใช้วิธีพูดคุยสนทนาเป็นการส่วนตัว และผ่านทางวิธีการต่างๆ ทั้งการใช้อี-เมล์ การจ่ายเงินค่าสิน บนแก่เจ้าหน้าที่ของต่างประเทศเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ความได้เปรียบอย่างไม่ถูกต้องและได้มาและดำรงไว้ทางธุรกิจของ โรลส์-รอยซ์

    นอกจากนี้ ในการสมรู้ร่วมคิดของโรลส์-รอยซ์ มีผลให้มีการจ่ายค่านายหน้าเพื่อการคอร์รัปชัน ซึ่งกระทำโดย โรลส์-รอยซ์ ผ่านทางที่ปรึกษาทางการค้า ซึ่งรวมถึงคนกลาง 4 ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าการจ่ายค่านายหน้าเช่นนี้ หรือบางส่วนที่เป็นของเงินจำนวนนี้ จะเป็นการถูกใช้ไปเพื่อการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐของต่างประเทศ

    “การสมรู้ร่วมคิดของโรลส์-รอยซ์ครั้งนี้มีการใช้ ชื่อย่อ เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหน้าที่ปตท. และมีการจ่ายค่านายหน้าเพื่อการคอร์รัปชัน จากบัญชีธนาคารของ โรลส์-รอยซ์ ซึ่งตั้งอยู่ทางส่วนใต้ของรัฐโอไฮโอไปยังบัญชีธนาคารของคนกลาง”

    ป.ป.ท.ได้เสนอให้นำความร่วมมือด้านมาตรฐานการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน หรือ FATF ที่ไทยทำไว้กับสหรัฐฯมาใช้ในการสืบสวนและเพื่อขอความร่วมมือจากสหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินการขอข้อมูลจากธนาคารที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงินของ โรลส์-รอยซ์ ที่จ่ายให้กับพนักงานปตท.

    http://m.thansettakij.com/content/137519
     

แชร์หน้านี้

Loading...