ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เศรษฐินี ฉายา ‘สาวแมว’ ล้มละลาย จากสินทรัพย์หลายพันล้าน เหลือเงิน 0 บาทในบัญชี!

    หญิงรายนี้เคยมีอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 16.39 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 540 ล้านบาท) แต่ติดหนี้ทนาย และสำนักทนายความ รวมมูลค่ากว่า 300,000 ดอลลาร์ และติดหนี้อพาร์ตเมนต์ 4.6 ล้านดอลลาร์ รวมเป็นเงิน 4.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 161 ล้านบาท)

    เมื่อปีพ.ศ. 2542 จอซลีนได้รับเงินหย่า 75 พันล้านบาท (ประมาณ 2,250 พันล้านบาท) และเคยเล่าว่า เธอกับสามีเก่าใช้เงินเดือนละ 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 30 ล้านบาท) จากเสื้อผ้าหรู 350,000 ดอลลาร์ และเครื่องเพชร 10 ล้านดอลลาร์ เฉลี่ยเป็นเงินไทย ประมาณ บาท 330 ล้านบาท อีกทั้งเธอจ่ายเงินค่าโทรศัพท์เดือนละ 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 165,000 บาท)

    จอซลีนอ้างว่าการสูญเสียเงิน เกิดขึ้นโดยสินเชื่อจากการหย่าที่ภาพศิลปะที่มี กลายเป็นของปลอม นอกจากนี้ เธอยังถูกฟ้องร้องเรื่องคู่หมั้น ซึ่งทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกัน

    จอซลีน อยู่ในกระแสข่าวตลอดจากการศัลยกรรมให้มีใบหน้าคล้ายแมว เธอกล่าวทิ้งท้ายว่า “ฉันไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ ฉันไม่แคร์”

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

    กรมเจ้าท่า 'ฉาวโฉ่' ถึงญี่ปุ่น ขย่มไทยสอบรับสินบน

    - - ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ - -

    นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.) เปิดเผยกรณีบริษัทเอกชนญี่ปุ่นออกมา ระบุว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานในท่าเรือทางใต้ของไทยเรียกร้องสินบนสำหรับการเปิดทางให้เรือดำเนินการขนถ่ายอุปกรณ์โรงไฟฟ้าว่า ยอมรับว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยส่งหนังสือมาถึงกรมเจ้าท่าขอข้อมูลเรื่องนี้เกี่ยวกับการเข้าและออกท่าเรือเอกชนแห่งหนึ่ง ใน จ.นครศรี ธรรมราช ซึ่งกรมฯได้ให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. ไปแล้ว ต้องรอผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช.ให้แล้วเสร็จก่อน หากผลสรุปชี้มูลว่า มีเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าเข้าไปเกี่ยวข้องและมีการ กระทำความผิด หรือมีการรับสินบนจริงกรมเจ้าท่าจะดำเนินการลงโทษทางวินัยขั้นร้ายแรงให้ถึงที่สุด

    อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวต่อว่า ปัจจุบันท่าเรือดังกล่าวเป็นของเอกชน แต่กรมฯมีหน้าที่ พิจารณาออกใบอนุญาตบริการท่าเรือ รวมทั้งกำกับดูแลการเข้า-ออกของเรือให้เป็นไปตามมาตรฐานการขนส่งทางน้ำ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ ที่มีการกล่าวอ้างดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงปี 56-57 ทางกรมเจ้าท่าได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่าเรือเอกชนใน จ.นครศรีธรรมราช สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะบริเวณโรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช โดยได้รับอนุญาตจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่กำกับดูแลพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้สร้างขึ้นเป็นท่าเรือชั่วคราว ซึ่งตามหลักเกณฑ์การอนุญาตก่อสร้างท่าเรือแล้วไม่มีระบุไว้ในระเบียบของกรมเจ้าท่าเรื่องการสร้างท่าเรือชั่วคราว อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ ป.ป.ช. ที่ดำเนินการสอบสวนเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์มาหลายปีแล้ว และทางป.ป.ช.เคยแจ้งว่าจะพิจารณา ให้แล้วเสร็จตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ

    จึงเป็นที่มาให้สื่อ ญี่ปุ่นออกมาตีแผ่เปิดโปงปัญหาการทุจริตรับสินบนของประเทศไทยในครั้งนี้เนื่องจากไทยได้ก่อสร้างท่าเรือชั่วคราวขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับขนถ่ายอุปกรณ์โรงไฟฟ้า ซึ่งบริษัทจากญี่ปุ่นเป็นผู้นำเข้าอุปกรณ์โรงไฟฟ้าได้อ้างกับสำนักงานสืบสวนพิเศษของอัยการเขตโตเกียว ที่เข้ามาสอบสวนบริษัทญี่ปุ่นที่จ่ายสินบนซึ่งถือว่าผิดกฎหมายของญี่ปุ่นว่าถูกเจ้าหน้าที่ไทยประจำท่าเรือ เรียกรับสินบน จึงมีการตีแผ่ข้อมูลในครั้งนี้ เพื่อกดดันไทยให้เร่งสอบสวน ซึ่งนอกจากกระทรวงคมนาคมแล้วยังมีผลกระทบกับอีกหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้า

    #ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง #ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

    Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
    Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw
    Follow IG: http://bit.ly/2yeu3hy
    WebSite : http://www.anticorruption.in.th

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Pat Hemasuk
    FB_IMG_1531996918329.jpg
    ธนาคารออมสินประกาศจะเล่นงาน ให้ฝ่ายกฎหมายเร่งรัดคดีแล้วครับ คงได้เห็นครูโดนยึดทรัพย์เอามาขายทอดตลาดชำระหนี้ และโดนฟ้องล้มละลายแล้วต้องออกจากราชการกันก็งานนี้แหละครับ โดยทางธนาคารเร่งรัดให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ ยกเลิกสัญญาและฟ้องคดี ให้จบภายในเดือน กรกฎาคมและสิงหาคม นี้


    นับว่าเป็นความซวยที่สมควรจะได้รับของกลุ่มลูกหนี้ครูที่ไม่มีวินัยการเงินแล้วยังเรียกร้องแบบโง่ๆ ที่ทางธนาคารออมสินเริ่มใช้ไม้แข็งหลังจากใช้ไม่อ่อนมานานแล้ว เพราะจุดประสงค์เดิมของสินเชื่อ ชคพ. นั้นต้องการให้ครูได้เอาเงินกู้จากออมสินไปปลดหนี้นอกระบบและหนี้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยแพงให้มาจ่ายดอกเบี้ยราคาถูกกับธนาคารออมสินแทน และเป็นการป้องกันไม่ให้ครูต้องโดนทวงหนี้นอกระบบแบบโหดจนไม่เป็นอันต้องสอนหนังสืออีกด้วย รัฐช่วยขนาดนี้แล้วยังเรื่องมากก็สมควรโดนธนาคารไล่กระทืบแล้วครับ


    และอีกอย่างคือโครงการนี้ครูสามารถกู้ได้มากกว่าปกติโดยไม่ต้องมีอะไรมาค้ำประกันนอกจากคนค้ำเพียงคนเดียวและประกันชีวิต ซึ่งส่วนมากก็ค้ำไขว้กันไปกันมาในกลุ่มผู้กู้ ซึ่งครูส่วนใหญ่ก็มีวินัยผ่อนกันไปดีกว่าไปเจอดอกเบี้ยงแพงของบัตรเครดิตและหนี้นอกระบบ แต่มีครูจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีวินัย และส่วนมากในกลุ่มที่ไม่มีวินัยนี้เอาเงินไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่สมควรเป็นหนี้ เช่นซื้อรถคันใหม่ ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ ไปเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ จนเงินหมดในเวลาอันรวดเร็ว แล้วไม่มีเงินผ่อนจ่ายในภายหลัง


    สิ่งที่ธนาคารช่วยเหลือซ้ำซากกับครูกลุ่มนี้คือจัดการประนอมหนี้ ปรับโครงสร้งหนี้ ลดเงินผ่อนรายเดือน ซึ่งบางคนจ่ายเพียงดอกเบี้ยเท่านั้นก็มี และสิ่งที่ต้องยอมรับนั่นก็คือดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่ผิดนัดชำระ ซึ่งในสัญญากู้ก็มีอยู่แล้วว่าถ้าผิดนัดชำระเมื่อไรก็จะไม่ได้ดอกเบี้ยราคาถูกอีกต่อไป และไม่มีใครจับมือหรือเอาปืนจี้หัวให้เซ็นต์ชื่อตอนกู้ด้วย จะอ้างว่าไม่รู้หรือไม่ได้อ่านไม่ได้ เพราะคนที่มีวินัยจ่ายตรงเวลาก็ยังคงได้สิทธิในดอกเบี้ยถูกอยู่ ไม่มีใครเดือดร้อนในเรื่องนี้


    สาเหตุที่ธนาคารประนอมหนี้ให้จ่ายแต่ดอกเบี้ยก็เพราะว่าครูกลุ่มนี้อ้างว่าไม่มีปัญญาจะจ่ายเงินต้น ซึ่งแน่นอนว่าทุกธนาคารก็ต้องทำแบบเดียวกันคือจ่ายแต่ดอกเบี้ยก็ยังดีกว่าหนี้สูญ ซึ่งครูกลุ่มนี้ก็เอาแบบนั้น เพราะจ่ายต่อเดือนน้อยลงกว่าตามสัญญา แต่การที่มาอ้างว่าจ่ายเงินทุกเดือนแต่ต้นไม่ลดนั้นไม่ถูกต้อง เพราะเวลาไปประนอมหนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าเต็มใจที่จะจ่ายแต่เพียงดอกเบี้ยแล้วต้นจะลดได้อย่างไร


    ข้าราชการอื่นๆ เขาอิจฉาครูที่มีเงินกู้จากธนาคารได้แบบนี้ ทั้งวงเงินสูง ไม่ต้องมีทรัพย์ไปค้ำประกัน ดอกเบี้ยต่ำ แต่ครูกลุ่มนี้ที่ไม่มีวินัยทางการเงินก็ยังสร้างเรื่องอีกจนได้ สมควรแล้วที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายให้หมดอนาคตกันไป และเป็นการสร้างบุญกุศลให้เด็กๆ ในอนาคตอีกด้วยที่ไม่ต้องมีครูเลวๆ พวกนี้มาสอนเด็กให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีอีกต่อไป

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปิดฉากลงไปแล้ว กับการประชุมหารือร่วมกัน ณ กรุงเฮลเซงกิ ประเทศฟินแลนด์ ระหว่างนายวลาดิเมียร์ ปูติน นายโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะผู้ติดตามของทั้ง 2 ฝ่าย โดยประธานาธิบดีทั้ง 2 ต่างให้แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน ที่แสดงถึงความพึงพอใจในการประชุมครั้งนี้
    .
    แต่ในการแถลงข่าว ยังมีประเด็นอื้อฉาวอีกประเด็นหนึ่ง ที่สื่อกระแสหลักส่วนใหญ่ไม่ค่อยพูดถึงเท่าไหร่นัก นั่นก็คือประเด็นที่ปูตินแฉในที่แถลงข่าวว่า ฮิลลารี คลินตัน รับเงินบริจาค 400 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จากนายบิล บราวเดอร์ (Bill Browder) เพื่อใช้ในการสู้ศึกการเลือกตั้ง เมื่อปี ค.ศ. 2016
    .
    นายบิล บราวเดอร์ คือประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทการเงินและการลงทุนยักษ์ใหญ่ ที่มีชื่อว่า Hermitage Capital Management ซึ่งสถานะของนายบราวเดอร์ในขณะนี้ คือนักโทษหลบหนีคดีที่ถูกศาลรัสเซียตัดสินจำคุก 9 ปี ในข้อหาหลบเลี่ยงภาษีมูลค่า 230 ล้านดอลล่าร์
    .
    ทางด้านประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวกับสื่อมวลชนอีกว่า นายบราวเดอร์และพรรคพวกฝ่าฝืนกฎหมายการเงินของรัสเซีย จนสามารถกอบโกยกำไรในรัสเซียไปได้ถึง 1,500 ล้านดอลล่าร์ ก่อนที่จะโอนเงินบริจาคให้กับนางคลินตัน 400 ล้านดอลล่าร์ สำหรับใช้สู้ศึกการเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
    .
    นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดนางคลินตันจึงสามารถรับเงิน 400 ล้านดอลล่าร์จากนายบราวเดอร์ ทั้งๆที่นายบราวเดอร์เลี่ยงภาษีธุรกิจ ทั้งในสหรัฐฯและในรัสเซีย และมีการตั้งข้อสันนิฐานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ มีส่วนร่วมในการปกปิดแหล่งที่มาของเงินสีเทานี้หรือไม่?
    .
    อย่างไรก็ตาม ประเด็นการทุจริตคอรัปชั่นในที่นี้ ยังไม่มีการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเด็นการโอนเงินสีเทามูลค่า 400 ล้านดอลล่าร์ ก็มีความเป็นไปได้ ที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากนายบิล บราวเดอร์ มีประวัติการเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน ส่วนนางฮิลลารี คลินตัน เองก็เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น เป็นอันดับต้นๆในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

    .....

    *อย่าลืมกดติดตามเพจ「GEN」เพื่อไม่ให้พลาด บทความ ข่าวสาร และสาระดีๆ

    .

    GEN

    ที่มา :

    http://thewashingtonstandard.com/pu...eled-400-million-to-hillary-clinton-campaign/

    https://theantimedia.com/putin-us-intelligence-funneled-400-million-clinton-campaign/
    .

    #ฮิลลารี #คลินตัน #เงินบริจาค #เลี่ยงภาษี #ปูติน

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บิ๊กเกรียน
    FB_IMG_1532008344245.jpg FB_IMG_1532008347928.jpg FB_IMG_1532008351330.jpg FB_IMG_1532008355418.jpg
    #โอ้โฮ...อู้ฮู
    กองทัพขี้กะเดือน(ไส้เดือน)
    หนีน้ำมากันเป็นแสน

    ขี้กะเดือนหนีนำท่วม
    ที่บ้านดงติ้ว จ.นครพนม.
    .
    .
    @อีหล่าคำแพง

    #ขอบคุณภาพ : ตามฮอยอีสาน
    #บิ๊กเกรียน

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “ร.10” ทรงออกแบบหนังสือสวดมนต์ ในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศล 21 ก.ค.

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พนักงานหลายหมื่นคนของบริษัทอเมซอน ที่ทำงานอยู่ที่คลังสินค้าหลายแห่งในยุโรป ได้พร้อมใจกันหยุดงาน เพื่อประท้วงและเรียกร้องไปยังบริษัทอเมซอน ให้เพิ่มสิทธิประโยชน์ เพิ่มสวัสดิการ และเพิ่มค่าจ้างสำหรับแรงงานในบริษัททุกคน
    .
    หลังจากที่พนักงานอเมซอนหลายหมื่นคนเริ่มประท้วง ทำให้ลูกค้าอเมซอนบางรายกังวลว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่บริษัทอเมซอนมีโปรโมชั่น Prime Day เช่นนี้ ทางบริษัทจะยังสามารถประกอบการได้ตามปกติหรือไม่
    .
    โดยทางบริษัทอเมซอนได้แถลงการณ์ว่า การหยุดงานเพื่อประท้วงของพนักงานอเมซอนหลายหมื่นคนในยุโรป จะไม่ส่งผลกระทบต่อกิจการของอเมซอนอย่างแน่นอน
    .
    ถึงอย่างไรก็ตาม มีรายงานในสเปนว่า ลูกจ้างของอเมซอนเกือบ 2,000 คน หยุดงาน 3 วันเพื่อประท้วง ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันพุธ ทางด้านสหภาพแรงงานสเปนระบุว่า ศูนย์กระจายสินค้าหลักของอเมซอน มีลูกจ้างที่ไม่มาทำงานเกือบถึง 80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
    .
    ในขณะที่ลูกจ้างอเมซอนในโปแลนด์นั้น ยังคงมาทำงานตามปกติ แต่จะประท้วงด้วยการทำงานน้อยลงกว่าเดิม ในส่วนของศูนย์กระจายสินค้าอเมซอน 6 แห่งในเยอรมัน มีลูกจ้างประมาณ 12,000 คน ที่ประท้วงด้วยการไม่มาทำงาน 1 วัน โดยกลุ่มสหภาพแรงงานด้านการบริการ Verdi คือแกนนำหลักของการประท้วงบริษัทอเมซอนในเยอรมัน
    .
    ซึ่งสหภาพฯ Verdi เคยยื่นข้อเสนอการขึ้นค่าจ้างให้กับลูกจ้างอเมซอนทั้งหมด 16,000 คน เมื่อปี พ.ศ. 2556 แต่ทางบริษัทอเมซอนปฏิเสธข้อเสนอของสหภาพฯ Verdi
    .
    แต่ท่าทีของบริษัทอเมซอนที่มีต่อลูกจ้างนั้น กลับสวนทางกับยอดรวมทรัพย์สินมูลค่ากว่า 150,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.9 ล้านล้านบาท ของอภิมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก อย่างนายเจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัทอเมซอน
    .
    นอกจากนั้นแล้ว บริษัทอเมซอนยังมีมูลค่าการตลาดมากถึง 888,000 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 29 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการตลาดที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ในขณะที่บริษัทแอปเปิ้ล มีมูลค่าการตลาดสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก มูลค่า 940,000 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 34 ล้านล้านบาท

    .....

    *อย่าลืมกดติดตามเพจ「GEN」เพื่อไม่ให้พลาด บทความ ข่าวสาร และสาระดีๆ

    GEN

    .

    ที่มา :

    https://www.aljazeera.com/news/2018/07/amazon-workers-europe-strike-prime-day-180717145119633.html

    https://www.reuters.com/article/us-...ning-action-in-spain-and-poland-idUSKBN1K61OY

    .

    #อเมซอน #ยุโรป #ลูกจ้าง #แรงงาน #สิทธิแรงงาน

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กรมเจ้าท่าตั้ง กก.สอบสินบน 20 ล้านเอกชนญี่ปุ่นจ่ายสร้างท่าเรือชั่วคราวโรงไฟฟ้าขนอม ลั่น 7 วันรู้ผล เผยแพร่: 19 ก.ค. 2561 17:57 ปรับปรุง: 19 ก.ค. 2561 19:31 โดย: MGR Online
    561000007508701.JPEG
    กรมเจ้าท่า ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่รัฐรับสินบน 20 ล้านบริษัทญี่ปุ่น ก่อสร้างท่าเรือชั่วคราวโครงการโรงไฟฟ้าขนอม คาด 7 วันรู้ผล หากมีมูลตั้งสอบวินัยร้ายแรง ยันเอาผิดย้อนหลังได้ ขณะที่ “ไพรินทร์” ลั่นห้ามมีทุจริต ใครทำผิดจะต้องรับผิดชอบ

    นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีข่าวสำนักงานสืบสวนพิเศษของอัยการกรุงโตเกียว สืบสวนพบว่าบริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ ประเทศญี่ปุ่น (MHPS) ได้จ่ายสินบน ให้เจ้าหน้าที่รัฐของไทย 20 ล้านบาท โดยเกี่ยวข้องกับก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม เมื่อปี 2556 ว่ากระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่ชัดเจน ว่าจะมีการทุจริตไม่ได้ และหากใครทำจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ กรณีเงินสินบนเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าขนอมนั้นเป็นเรื่องที่เอกชนขอสร้างท่าเรือชั่วคราวขึ้นมาและหลังจากเสร็จโครงการ ได้ถอนท่าเรือชั่วคราวออกเป็นกรณีเฉพาะ โดยหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการดำเนินงานที่ไม่ถูกต้อง ต้องลงโทษแน่นอน

    “จะเห็นได้ว่าเมื่อมีการใช้อำนาจรัฐ แต่ไม่ได้ใช้โดยถูกต้อง ทำให้เกิดช่องว่าง เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งโรงไฟฟ้าไม่ได้มีการสร้างกันตลอดเวลา อย่างประเทศญี่ปุ่นจะมีกฎหมายคล้ายๆ กับอังกฤษ สำหรับบริษัทที่ปฏิบัติไม่ชอบในต่างประเทศ หากตรวจพบและมีการยอมความกันกับรัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้กฎหมายญี่ปุ่นจะลงโทษเฉพาะทางแพ่ง ยกเว้นโทษวินัย โดยจะต้องส่งข้อมูลด้านทุจริตให้กับประเทศนั้นๆ ซึ่งจะมีข้อตกลงระหว่างหน่วยงานที่จะต้องมีการส่งข้อมูลกัน ดังนั้น หากเรื่องทุจริตนี้ส่งมาที่เราจะต้องตรวจสอบและลงโทษตามระเบียบ เชื่อว่าในอนาคตจะไม่กล้าทุจริตแล้ว เพราะจะมีการเปิดเผยข้อมูลจากหลายฝ่าย”

    ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ในวันนี้ (19 ก.ค.) กรมเจ้าท่าได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบ 7 วัน จะทราบผลว่ามีประเด็นใดที่เจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และหากพบว่ามีมูล หรือเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าไปเกี่ยวข้องอย่างไรจะตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยซึ่งจะมีการลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง แม้จะเป็นเหตุเมื่อปี 2556 แต่สามารถเอาผิดย้อนหลังได้

    “ป.ป.ช.ได้ขอข้อมูลจากกรมฯ แต่เป็นเรื่องทั่วไป เรื่องอำนาจหน้าที่ ขณะนี้ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบ ยังไม่ทราบผลซึ่งเป็นเรื่องทางอาญา ส่วนกรรมการที่กรมเจ้าท่าตั้งจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและวินัย ทั้งนี้ กรณีนี้เป็นโครงการใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับหลายส่วน ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด โดยกรมเจ้าท่าจะต้องดูว่ามีส่วนที่เกี่ยวข้องตรงไหน เช่น เรือที่เข้าเทียบท่า ตรวจสอบจำนวนเที่ยว การแจ้งเข้าออกว่าดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายกำหนดหรือไม่, ตัวท่าเรือชั่วคราวมีการอนุญาตตามระเบียบข้อบังคับหรือไม่”

    ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เคยขอข้อมูลจากกรมเจ้าท่าแล้ว เช่น กรณีท่าเทียบเรือ เรือที่เข้าเทียบท่าโดยกรมเจ้าท่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายให้ข้อมูลเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของกรมเจ้าท่าในการอนุญาตเรือว่าตรงไหนเป็นอำนาจของกรมเจ้าท่า ตรงไหนเป็นอำนาจของจังหวัด แต่ยังไม่มีการเรียกเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าไปสอบ

    “ไพรินทร์” สั่งกรมเจ้าท่าทบทวนกฎหมาย ปรับแก้ภารกิจให้ทันสมัย

    อย่างไรก็ตาม นายไพรินทร์ได้ติดตามงานของกรมเจ้าท่า โดยได้หารือถึงภารกิจ ระเบียบ ข้อกฎหมายของกรมเจ้าท่า ซึ่งพบว่ายังมีความล้าสมัยและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งมีหลายเหตุการณ์ที่ ยังดำเนินการไม่ได้ตามที่สังคมคาดหวัง ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า ทบทวนภารกิจ และกำหนดกรอบ หลักการและเหตุผล ขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่ต้องปรับปรุงแก้ไขหรือเพิ่มเติม โดยให้เร่งสรุปประเด็นต่างๆ ให้ชัดเจนเพื่อนำเสนอรัฐบาลต่อไป เป้าหมายจะต้องปรับปรุงการทำงานของกรมเจ้าท่าให้ทันสมัย เป็นเจ้าท่า 4.0

    “กรมเจ้าท่าเป็น Regulator ด้านการขนส่งทางน้ำ แต่ภารกิจตามกฎหมายอาจยังไม่เป็นไปตามที่สังคมคาดหวัง ให้ไปดูว่าประเด็นใดที่อำนาจหน้าที่ทางกฎหมายมีและเหมาะสมแล้ว ประเด็นใดที่ยังไม่ได้กำหนดในอำนาจหน้าที่บ้าง เช่น ในอดีตไม่มีประเด็นเรื่องเทคโนโลยี ไม่มีระบบเรดาร์ติดตามกองเรือแบบเรียลไทม์ แต่วันนี้เทคโนโลยีมีมากมาย หรือการบริหารจัดการน่านน้ำที่ 12 ไมล์ทะเลจะเพิ่มหรือไม่ รวมถึงอำนาจในการการกำหนดเรือเข้าออกจากท่า กรมเจ้าท่ามีอำนาจสั่งห้ามหรือไม่ เพราะตอนนี้ยังไม่มีข้อยุติว่ากรมเจ้าท่าสั่งได้หรือไม่ อย่างกรณีเรือล่มที่ภูเก็ตจะต้องกำหนดกฎหมายให้ชัดเจน และเสนอนโยบายว่าจะปรับปรุง เพิ่มหรือลดอำนาจอะไรบ้างเพื่อให้สอดคล้อง ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนกฎหมาย และงบประมาณด้วย” นายไพรินทร์กล่าว

    https://mgronline.com/business/detail/9610000072065
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ชาวบ้านสุโขทัยชูป้ายไล่กลางเวที ‘ไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล’ ขู่บุกทำเนียบร้องบิ๊กตู่ วันพุธ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561, 22.22 น.
    352499.jpg
    18 ก.ค.61 ที่วัดวังลึก หมู่ 2 ต.วังลึก อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย มีการเปิดเวทีให้ความรู้และรับฟังความคิดเห็นของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ในพื้นที่หมู่ 6 ต.วังลึก ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้รวมตัวต่อต้านมาโดยตลอด เพราะกลัวผลกระทบที่จะมีตามมา

    ผลปรากฏว่าการเปิดเวทีล่าสุดได้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นอีก หลังจากชาวบ้านนับร้อยคนที่มานั่งฟังได้พากันลุกฮือจากเก้าอี้ และชูป้ายข้อความ “ไม่เอา” พร้อมส่งเสียงตะโกนโห่ไล่ ขณะที่ตัวแทนบริษัทฯก่อสร้างโรงไฟฟ้ากำลังพูดบรรยายชี้แจง ทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ต้องพยายามควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย และขอให้เวทียุติทันที

    นายอำพร ภู่บุญ อายุ 63 ปี อดีตกำนัน ต.วังลึก กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านหมดความอดทน จนต้องตะโกนโห่ไล่ เพราะต้องเสียเวลาทำมาหากิน เพื่อมาฟังคำชี้แจงกันหลายรอบแล้ว และชาวบ้านก็แสดงจุดยืนชัดเจนแล้วว่าไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล แต่ยังมีการเรียกชาวบ้านให้มานั่งฟังเรื่องเดิมๆซ้ำอีก

    “การแสดงพลังของชาวบ้านในวันนี้ ที่ไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล มันชัดเจนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาคุยอะไรกันอีก เพราะคุยกันมาหลายรอบหลายครั้งแล้ว จะมาคุยกันเพื่ออะไรอีก ถ้าคุณไม่หยุด เราชาววังลึกก็จะรวมตัวกันไปร้องเรียนกับนายกฯประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างแน่นอน และพวกเราก็พร้อมจะสู้จนถึงที่สุด เพื่ออนาคตลูกหลานของเรา” นายอำพร กล่าว

    รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเวทีในครั้งนี้ ซึ่งชาวบ้านได้มีการรวมพลังคัดค้าน และเตรียมยกระดับการต่อต้านไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล ทำให้นายรัตน์ แก้วนาค กำนัน ต.วังลึก ต้องออกมาแสดงจุดยืนร่วมต่อสู้กับชาวบ้านด้วย พร้อมประกาศผ่านไมโครโฟน บอกว่า “ในเมื่อพี่น้องชาววังลึกไม่เอา ผมก็ไม่เอาครับ” ก่อนจะชูป้ายคัดค้านแสดงพลังร่วมกับชาวบ้าน จนเรียกเสียงโห่ร้องยินดีอย่างกึกก้อง

    http://www.naewna.com/local/352499
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Visudhi Punya

    น้ำท่วมกรุงปักกิ่ง
    ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
    หนักที่สุดในรอบ 20 ปี
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กบง. หาเงินอุ้มแอลพีจีถึงสิ้นปี กองทุนน้ำมันฯ ลดเงินชดเชยดีเซลเหลือ 13 สตางค์/ลิตร
    วันที่ 19 กรกฎาคม 2561 - 21:13 น.

    0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B8%B5-696x392.jpg
    นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) หรือก๊าซหุงต้มในขณะนี้ที่มีความผันผวนมาก ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2561 เห็นชอบปรับลดอัตราเงินชดเชยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก 50 สตางค์ต่อลิตร เป็น 13 สตางค์ต่อลิตร โดยยืนยันไม่มีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าการตลาดยังอยู่ในระดับสูง

    %E0%B8%96%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%87-300x170.jpg


    ทั้งนี้ ส่งผลให้ภาพรวมกองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีรายจ่าย 1,040 บาทต่อเดือน เป็นมีรายจ่ายเหลือ 315 ล้านบาทต่อเดือน จากปัจจุบันสถานภาพเงินกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 15 ก.ค. 2561 บัญชีน้ำมัน มีฐานะเป็นบวกสุทธิ 29,673 ล้านบาท เพื่อสามารถมีเงินนำมารักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันและก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในประเทศได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้

    โดยจากสถานการณ์ด้านราคาก๊าซแอลพีจี ตลาดโลกขณะนี้มีความผันผวนมาก ที่ประชุม กบง. ยังมีมติให้กำหนดบัญชีแอลพีจี ของกองทุนน้ำมันฯ สามารถติดลบได้ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท เพื่อการบริหารจัดการสถานการณ์แอลพีจี ให้เกิดเสถียรภาพในการรักษาระดับราคาแอลพีจีขายปลีกขนาดถัง 15 กิโลกรัม ให้คงอยู่ที่ 363 บาทต่อถัง ซึ่งต้องใช้เงินอุดหนุน 560 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อรักษาระดับราคาให้อยู่ในระดับนี้ได้เป็นระยะเวลา 6 เดือน

    https://www.khaosod.co.th/economics/news_1358286
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หนังกลางแปลง 800 จอ กระหึ่มทั่วปท. แก้บน 13 ชีวิตหมูป่า พ้นถ้ำหลวง #Khaosod #ข่าวสด #ทุกทิศที่วไทย #13ชีวิตหมูป่า #ถ้าหลวงขุนน้ำนางนอน

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แอดขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ! พาไปชมพิธีอุปสมบทหมู่ ทหาร 9 นาย ขออุทิศกุศลให้ "จ่าแซม"

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บิ๊กเกรียน

    #เพจดังตามล่าครูระยำ
    ล่วงละเมิดทางเพศเด็กนาน 3 ปีขอยุติคดีด้วยการเลี้ยงหมูกระทะ แสบสุดตำรวจ สน.ท่าเรือ มีแนวโน้มเป่าคดีต้องร้องเพจดัง พ่อแม่หมดความอดทน ต้องหวานอมขมกลืนเพราะเป็นเพียง จนท.เล็กๆของโรงเรียนเกิดเหตุวันนี้ลุกสู้เพราะทนความอยุติธรรมต่อไปไม่ไหว

    #ครูอีกเเล้ว ข่มขืนเด็กอายุ 16 ปี ในโรงเรียน
    และอนาจารเด็กประถมอีก 16 คน ทุกคนคือลูกศิษย์

    แชร์ไปค่ะ !! เหตุการณ์ที่ครูทำอนาจาร กับเหตุการณ์ที่ครูข่มขืนนั้น มีความเชื่อมโยงกันค่ะ ซึ่งน้องผู้ร้องเรียนเพียงคนเดียว โดนทั้งอนาจาร และข่มขืน เพียงแต่ต่างวาระกัน แอดมินจะเล่าให้ฟังอย่างนี้ค่ะ ครอบครัวของน้องอาศัยอยู่ในโรงเรียนที่เกิดเหตุนั้น เพราะพ่อกับแม่เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนค่ะ น้องเรียนที่นั่นตั้งแต่ ป. 1 จนถึง ป.6 เหตุการณ์ครูทำอนาจารเกิดขึ้นตอนที่น้องอยู่ชั้น ป. 6 หลังเลิกเรียน น้องเป็นลูกของเจ้าหน้าที่ในโรงเรียน บ้านก็อยู่ในโรงเรียน ถูกครูเรียกใช้ให้ไปช่วยทำความสะอาดในห้องเรียน เมื่อน้องไปถึงก็นั่งทำความสะอาด ระหว่างนั้นครูก็ผลักน้องตกจากเก้าอี้ ลงไปนอนกับพื้น ครูขึ้นคร่อม ถลกเสื้อนักเรียนน้องขึ้นจนถึงหน้าอก แต่น้องดิ้น หนีสุดชีวิต จนขาไปแตะเข้าที่เป้ากางเกงของครูจนจุก หนีมาได้ หลังจากนั้นเด็กไม่เข้าใกล้ครูคนนี้อีก และเมื่อพบหน้าก็แสดงอาการรังเกียจอย่างชัดเจน เธอมาเล่าให้แม่ฟัง แต่แม่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งเล็กๆ ในโรงเรียน

    จนวันหนึ่งหลังเลิกเรียนใหม่ๆ น้องกำลังจะไปตามเพื่อน ซึ่งกำลังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ในห้องเรียน ภาพที่น้องเห็นคือ ครูคนเดิม เดินเข้ามาทางข้างหลังของเพื่อน แล้วโอบกอดจูบปากเพื่อนนักเรียนของเธอ เธอรีบเข้าไปและดึงตัวเพื่อนออกมา เรื่องนี้ถึงหูของผู้ปกครองน้องคนนั้น และมีการเอาเรื่องเอาราวกันอยู่

    เรื่องการทำอนาจารของครูคนเดิมกับน้องผู้ร้องเรียนและเพื่อนนั้น ถูกแจ้งยังผู้อำนวยการโรงเรียน มีการตั้งกรรมการจากหน่วยงานภายนอกมาสอบสวนข้อเท็จจริง แอดมินถามน้องว่า มีเพื่อนๆ ที่โดนกระทำแบบเราอีกกี่คน น้องบอกว่า 16 คนรวมทั้งน้องด้วย ถามต่อว่าน้องทราบได้อย่างไรว่า 16 คน น้องบอกว่าจากใยรายชื่อที่มีการเซ็นชื่อในวันที่ครูเรียกสอบปากคำ ถามแม่น้องต่อว่าแล้วในครั้งนั้น มีการเอาผิดหรือลงโทษครูอย่างไรทราบหรือไม่ แม่เล่าว่า แม่เป็นเจ้าหน้าที่น้อยๆ ในโรงเรียนไม่มีโอกาสทราบ หรือเห็นเอกสารการสรุปข้อเท็จจริงอะไร แต่มีครูในโรงเรียนคนหนึ่งบอก ผลออกมาว่าผิดวินัยร้ายแรง แต่โทษแค่ปรับไม่พิจารณาขั้นเงินเดือน 2 ครั้งเท่านั้น และคุณครูยังได้สอนตามเดิม ยังได้เผชิญหน้าอยู่กับเด็กๆ ซึ่งเป็นคู่กรณี

    อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว สังคมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง เอาผิดครู หรือการลงโทษครู หรือการยังต้องให้เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ที่เป็นผู้ถูกกระทำอนาจารจากครู ต้องกล้ำกลืนเผชิญหน้ากันอยู่ ไม่มีการแนะนำให้เด็กๆ แจ้งความดำเนิคดีกับครู ไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ ตามกระบวนการกฎหมายที่ถูกต้อง เรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ #มันเป็นกระบวนการที่เลวสิ้นดี และเรื่องราวมันไม่จบเท่านั้น มีความเชื่อมโยงมาถึงเหตุการณ์ข่มขืนแบบนี้ค่ะ

    น้องผู้ร้องเรียนจบการศึกษาชั้น ป.6 แม้ต้องไปเรียนต่อที่โรงเรียนอื่น แต่ก็ต้องกลับมาพักอาศัยที่โรงเรียนเดิมค่ะ จนผ่านไป 3 ปี น้องเรียนจบชั้น ม.3 อยู่ระหว่างหาที่เรียนต่อ แม่ของน้องเล่าว่า แม่เป็นคนเคลียร์จดหมายทุกฉบับที่ส่งมาถึงโรงเรียน และมีจดหมายราชการมาถึงแม่ เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ครูคนเดิมพยายามมาพูดคุยและสอบถามถึงจดหมายฉบับนั้น และพยายามขอเจรจาพูดคุย แม่ก็ไม่ได้สนใจพูดคุยด้วย เพราะไม่อยากจะคุยกับคนที่กระทำลูกสาวตัวเองอีก แค่ยังต้องกล้ำกลืนเห็นหน้ากันตลอด 3 ปีที่ผ่านมาก็สุดจะทน มันขมขื่นในใจเกินพอ

    เมื่อเจรจากับแม่ไม่รู้เรื่อง ครูหันไปเจรจากับน้องผู้ร้องเรียนค่ะ เรื่องจดหมายฉบับนั้น ที่แม่และน้องเองก็ยังไม่รู้เรื่อง แต่เหมือนครูจะรู้ดีถึงชะตาชีวิตที่ไม่ดีนักของตัวเองแล้ว

    วันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ระหว่างที่น้องกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ระเบียงห้องมุขของโรงเรียน ครูเข้ามาพูดคุย และบอกว่ามีเรื่องต้องเคลียร์กัน จำได้ไหม เรื่องเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อยากให้ช่วยกลับคำให้การหน่อย แล้วครูจะเลี้ยงหมูกะทะ น้องบอกว่าคงไม่ได้ เพราะต้องถามแม่ แต่ครูก็บอกว่า คืนนี้นัดเจอเพื่อนๆ ทุกคนมาแล้ว เดี๋ยวคุยพร้อมกันทุกคน น่าจะดีกว่า และครูจะเลี้ยงข้าว ครูนัดเวลา 4 ทุ่มครึ่งในวันนั้น ให้น้องกลับมาเจอที่โรงเรียนอีกครั้ง

    เมื่อถึงเวลานัดหมาย น้องเห็นว่าครูกำลังยืนคุยอยู่กับญาติของเธอ ซึ่งอาศัยอยู่ในโรงเรียนเช่นกัน แต่มันไกล เธอไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกัน เมื่อครูเดินมาหา เธอถามหาเพื่อนๆ แต่ครูบอกว่าไม่มาแล้ว และเธอก็ไม่รู้จะติดต่อยังไง เมื่อจบ ป.6 ก็ต่างแยกย้ายกันไป ครูบอกว่าขออนุญาตแม่และญาติของเธอแล้วเมื่อกี้นี้ที่ยืนคุยกัน ซึ่งเธอก็เห็นภาพนั้นจึงเชื่อ และขณะที่เธอออกจากโรงเรียนไปกับครูก็มีคนเห็นว่าออกไปด้วยกัน

    ครูพาไปร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งนั่งกินข้าว ครูเริ่มดื่มเบียร์ ดื่มไปทั้งหมด 4 ขวด และชวนให้เธอดื่มด้วย แต่เธอปฏิเสธ ครุเริ่มพูดคุยเรื่องจดหมายฉบับเดิมซึ่งเธอก็ยืนยันว่า ไม่รู้ไม่เห็น รวมทั้งขอให้ ให้การช่วยครู เรื่องการทำอนาจารเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งเธอปฏิเสธช่วยเหลือ จนการสนทนาไปต่อไม่ได้แล้ว จึงตัดสินใจกลับตอนประมาณเที่ยงคืน

    นั่งรถมอเอตร์ไซค์รับจ้างกลับมาคนละคัน มาลงที่หน้าเซเว่น เดินเข้าไปซื้อของ ครูบอกว่าให้เธอเดินไปที่โรงเรียนก่อน ช่วยไปเปิดห้องลูกเสือที่อยู่ชั้น 3 ของอาคาร ให้เปิดไฟและเปิดแอร์ไว้ให้ แล้วครูจะตามขึ้นไป เด็กก็ทำตามนั้น สักพักครูก็เดินขึ้นมา และให้เด้กนั่งคุยกันก่อน ก็ยังคุยเรื่องเดิม เรื่องจดหมายฉบับนั้น แต่เด้กไม่อยากคุยด้วย ปฏิเสธขอกลับ
    ขณะที่เด็กไม่ตั้งตัว ครูผลักเธอล้มไปพร้อมกับเก้าอี้ นอนลงที่พื้น แล้วเหตุการณ์แบบเดิมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คือ ครูขึ้นคร่อมร่าง แต่ครั้งนี้เธอไม่สามารถที่จะดิ้นรนขัดขืนได้อีก เพราะครูเอาเข่าทั้ง 2 ข้างกดที่หน้าขา และที่แขนทั้ง 2 ข้าง ครูเอานิ้วโป้งกดไปที่กล้ามเนื้อแขน แล้วลงมือถอดเสื้อผ้าข่มขืนเธอ

    เราถามน้องซึ่งอยู่ต่อหน้าแม่ว่า ในเมื่อครูใช้มือทั้งสอง และขาทั้งสองกดตัวน้องไว้ แล้วครูเอามือที่ไหนถอดเสื้อผ้าน้อง น้องบอกว่า ครูกดเธอไว้แบบนั้นและเธอพยายามดิ้นรนอยู่ประมาณ 20 นาที จนกล้ามเนื้อเหมือนโดนเจาะยาง มันเจ็บและล้าไปหมด จนวันรุ่งขึ้นถึงเห็นรอยฟกช้ำที่แขนขา จนเธออ่อนแรงแล้ว ครูถึงถอดเสื้อผ้าและลงมือข่มขืน

    ถามน้องว่าได้ร้องขอ อ้อนวอน ตะโกนขอความช่วยเหลือจากใครหรือไม่ เธอบอกเธอร้องจนสุดเสียง แต่ไม่มีใครได้ยิน และเธอก็ไม่กล้าร้องต่อ เพราะกลัวว่าครูจะทำร้ายและฆ่า เพราะครูน่ากลัวมากในตอนนั้น เธอได้แต่ร้องไห้

    ถามน้องต่อว่า ครูข่มขืนน้องอยู่นานไหม เธอบอกว่า นานประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งเธอทั้งเจ็บและทรมาน

    ถามน้องว่า ครูได้สอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปไหม เธอพยักหน้า

    ถามน้องต่อว่า ครูได้ใส่ถุงยางอนามัยไหม เธอบอกเธอไม่ทราบ เพราะเอหลับตาร้องไห้ ไม่อยากเห็นภาพอะไรเลย

    เหล่านี้เป็นคำถามที่เราไม่อยากรื้อฟื้นความทรงจำเลวร้ายของน้อง แต่ก็ต้องอธิบายให้น้องและแม่เข้าใจว่ามันจำเป็น เพราะมีผลต่อคดี และการประเมินเคสของเรา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้วย

    ถามน้องต่อว่าหลังจากนั้น หนีออกมาได้อย่างไร เธอเล่าว่า หลังจากที่ครูข่มขืนเธอเสร็จ ครูกอดเธอไว้แน่น และพยายามปลอบประโลม บอกว่าไม่ตั้งใจ อย่าโกรธ อย่าบอกใครเรื่องนี้ เธอก็ยอมเชื่อครู เพื่อจะเอาตัวเองให้หลุดมาจากอ้อมดอกที่น่าขยะแขยงนั้น จนครูตายใจ และให้เงินเธอ 100 บาทให้ไปซื้อข้าวที่เซเว่นให้ เธอรับปาก และขอให้ครูรอ

    เธอรีบคว้าเสื้อผ้า ใส่แต่บ็อกเซอร์ ไม่ทันใส่สเตย์รัดอก ใส่เพียงเสื้อ และถือกางเกงกับโทรศัพท์วิ่งออกมา หลายคนอ่านถึงเครื่องแต่งกายของน้องคงสงสัย ใช่ค่ะ น้องเป็นทอมบอย รูปลักาณ์ภายนอกน้องคือเด็กผู้ชาย รวมทั้งจิตใจของน้องด้วย

    น้องหนีลงมาเข้าห้องน้ำที่ชั้น 1 ของตึก ปิดไฟห้องน้ำ พยายามล้างเนื้อล้างตัว เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ล้างไปถึงอวัยวะเพศของเธอด้วย แล้วโทรตามให้คนมาช่วย
    พ่อ แม่ พี่ชาย และเพื่อนพี่ชายมาถึงในเวลาไม่กี่นาที รวมทั้งเจ้าหน้าที่เวรของโรงเรียนอีก 2 คน และตำรวจ สน.ท่าเรืออีก 2 คน พยายามตามหาตัวครูคนนั้นอยู่นาน จนพบว่าปีนหน้าต่างของตึกไปห้อยตัวอยู่ที่ลูกกรงเหล็กของหน้าต่างอีกมุมหนึ่งของตึกชั้น 3 ก็เอาตัวครูลงมา

    พอเกิดเรื่อง เเม่เลยมานึกถึงจดหมายฉบับนั้น มันคือจดหมายที่ เรียกให้น้องไปสอบปากคำเป็นพยาน เรื่องที่ครูทำอนาจารเพื่อนนั่นเอง แต่แม่ก็สงสัยว่า ทำไมน้องก็เป็นผุ้ถูกกระทำเหมือนกัน ถึงไม่มีจดหมายเรียกตัวมา และทำไม เรื่องผ่านมาถึง 3 ปีแล้ว เพิ่งมีการเรียก

    แต่ตำรวจบอกว่าจะแจ้งข้อหาข่มขืนกับครูทันทีคงไม่ได้ เพราะไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ก็ส่งตัวน้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจในทันทีหลังจากที่เกิดเหตุ คือเช้ามืดของวันนั้น ผ่านไปหนึ่งเดือน ผลการตรวจร่างกายของน้องออกแล้ว

    ตำรวจ สน.ท่าเรือ อ่านผลการตรวจร่างกายให้แม่ของน้องฟังว่า ที่ช่องคลอดมีบาดแผลฉีกขาดจากการพยายามสอดใส่อวัยวะเพศชาย มีแผลขนาดเท่าไหร่ เยื่อพรหมจารีฉีกขาดหายไปบางส่วน ตำรวจบอกว่าแจ้งข้อหากับครูว่าครูข่มขืนไม่ได้หรอก จะถูกครูฟ้องกลับด้วยซ้ำ ชาวบ้านที่ไม่รู้กฎหมาย และต่ำต้อย หัวใจเขาหล่นหายไปเลยค่ะ

    นั้นคือข้อความการสื่อสารของตำรวจค่ะ แต่เราสอบถามนิติกรผู้เชี่ยวชาญ ของส่วนการสอบสวนคดีอาญา กรมการปกครองแล้ว อธิบายง่ายๆ แบบบ้านๆ ค่ะว่า การแค่เอาสิ่งของ หรืออะไรก็ตามแต่ สอดใส่ล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศเพียงน้อยนิด แล้วฝ่ายผู้กระทำมีอารมณ์ทางเพศ ในทางการต่อสู้ทางคดี นั่นคือการข่มขืนแล้ว และหากตำรวจ สน.ท่าเรือ ไม่สามารถทำคดีนี้ได้ คงต้องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทยอีกแห่ง

    พรุ่งนี้ 9 โมงเช้า พบกันที่ สน.ท่าเรือค่ะ
    เพื่อแจ้งความเอาผิดกับครูในข้อหา
    1. พรากผู้เยาว์
    2. ข่มขืนกระทำชำเรา
    3. อนาจาร
    4. ทำร้ายร่างกาย
    เบาๆ ตามนี้ไปก่อนค่ะคุณครู เดี๋ยวเรื่องที่ต้องตามต่อคือ สำนังงานเขตการศึกษาเขตคลองเตย จะมีคำตอบกับเรื่องนี้ว่าอย่างไร เรื่องการเอาคนมาสอบ แบบดูหมิ่นศักดิ์ศรี ใช้คำพูดเหยียดหยามกับเด็กด้วย

    เรียน ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสะพาน ท่านต้องออกโรงปกป้องเด็กผู้ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งเป็นลูกของผู้ใต้บังคับบัญชา ทำงานในโรงเรียนให้ท่าน ด้วยความกระตือรือร้น อย่างความเป็นเจ้าบ้านมากกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยไหลตามระบบที่เชื่องช้า จนท่านเกษียรเเล้วเรื่องพ้นตัว จริงใจกันหน่อย

    ครูในโรงเรียนหลายคน ส่วนใหญ่ เข้ามาให้กำลังใจ ทุกคนทราบเรื่องนี้ มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ตำหนิ ดูถูกเหยียดหยาม เด็กสร้างเรื่องโกหก ทอมบอยขนาดนี้ ใครจะเอาลง

    ครูบางคนที่ว่า เป็นครูมาได้ยังไง ไม่มีความรู้จิตวิทยาเลยหรือ คนที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็ก ถามว่า เด็กต้องสวยไหม ต้องมีนม มีสะโพกยั่วยวนไหม เด็ก 4 ขวบถูกข่มขืน ถามว่าเด็กมีอะไรน่าดึงดูดอาชญากรบ้าง ครูคะ ครูควรเปลี่ยนความคิด ไม่งั้นครูไม่ควรเป็นครู ที่สอน หรือทำงานกับเด็กนะคะ ผลตรวจร่างกายก็ออกเเล้ว

    ลืมเล่า ครูที่ก่อเหตุ สอนวิชาพละศึกษาเเละวิชาภาษาอังกฤษ

    เล่าเท่านี้ก่อนนะคะ คืนนี้ ประมาณ 3-4 ทุ่ม live คุยกันค่ะ

    มีผู้ปกครอง หรือน้องนักเรียนคนไหนอยู่โรงเรียนนี้ จำหน้าคุณครูคนนี้ได้ เคยถูกครูคนนี้ลวนลาม หอมแก้ม จูบปาก ลูบคลำ พูดจาลวนลามเชิงชู้สาว inbox มาบอกพี่นะคะ เรื่องยาวหน่อย แต่พยายามเขียนให้เข้าใจง่าย อ่านไม่จบแชร์เก็บไว้นะคะ แล้วคืนนี้จะ live เล่าให้ฟังอีกที

    แอดมิน

    #โรงเรียนวัดสะพาน
    #สำนักงานเขตคลองเตย
    #สถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ
    #กระทรวงศึกษาธิการ

    กดติด ⭐️ เพจ
    เพื่อไม่พลาดทุกการสื่อสารของเรา
    #ล่าร้องเรียน #เพจล่า
    #ล่าทุกเรื่องราวที่ไม่เป็นธรรม

    #ขอบคุณภาพ : เพจล่า
    #บิ๊กเกรียน

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บิ๊กเกรียน

    #ตำหนักจากนิมิต
    มูลค่า 80 ล้านหนามแทงใจคนพิษณุโลกใกล้ถึงจุดจบ
    หลังนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร แสดงท่าทียอมรับข้อเสนอแนะจากกลุ่มประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหว
    แต่สิ่งที่ควรพูดคุยกันต่อไปคือโครงการดังกล่าวซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศประชาชนมีส่วนร่วมด้วยมากน้อยแค่ไหน เกิดขึ้นถูกต้องตามกระบวนการประชาพิจารณ์หรือเปล่า อีกทั้ง มีการตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่างๆอย่างรัดกุม โปร่งใสหรือไม่เพราะเงิน 80 ล้านส่วนหนึ่งประชาชนร่วมกันบริจาค ส่วนที่เหลือคืองบประมาณแผ่นดิน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องมีผู้รับผิดชอบ หรือปล่อยให้มันผ่านไป

    พิษณุโลก - เปิดบันทึก “พระตำหนักพระองค์ดำ (ใหม่)” ตำหนักจากนิมิต มูลค่ากว่า 80 ล้าน แก้แบบไม่หยุด-กว่า 3 ปีสร้างไม่เสร็จ กลายเป็นทัศนอุจาดเขตโบราณสถาน “พระราชวังจันทน์” กระแสต้านลาม-รอวันรื้อย้ายใหม่
    เรื่องราวการก่อสร้าง “พระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวังจันทน์” ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าบดบัง “ศาลสมเด็จพระองค์ดำ (เดิม)” ที่ผู้คนจากทั่วสารทิศเคารพสักการะ อีกทั้งการก่อสร้างยังคาราคาซังจนกลายเป็นทัศนอุจาด และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น

    แกะรอยตำหนักแห่งนิมิตค่ากว่า 80 ล้านกลางวังจันทน์
    จากเอกสารโครงการฯ ระบุไว้ว่า แนวคิดการก่อสร้างโครงการนี้มาจากพระเถระรูปหนึ่งในวัดชื่อดังของเมืองพิษณุโลกนิมิตเห็น แล้วนำปรึกษากับ พลเอก สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ในสมัยนั้น ว่าศาลเดิมดูแล้วไม่สมพระเกียรติ เหมือนศาล จึงมีแนวความคิดจะสร้างพระตำหนัก

    จากนั้นได้มีการจัดสร้างวัตถุมงคล “รุ่นอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังจันทน์” เพื่อหาทุนมาก่อสร้าง โดยมีทุนยืมจากพระวัดใหญ่จำนวน 6 ล้านบาท และเงินบริจาครายอื่นๆ รวมเป็น 1.43 ล้านบาท คาดว่าถ้าจำหน่ายวัตถุมงคลหมดจะได้ยอดเงิน 84 ล้านบาท ส่วนรายจ่ายนั้นเป็นค่าวัตถุมงคล 29 ล้านบาท, ค่าพุทธาภิเษก 1.6 ล้าน, ค่าเช่าสถาน ฯลฯ รวม 54 ล้านบาทเศษ ซึ่งจะมีกำไรนำไปดำเนินการก่อสร้างใน 13 แผนงาน มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท

    3 ปีสร้างไม่เสร็จ-แก้แบบไม่หยุด จนเกิดทัศนอุจาด
    การวางเสาเอกก่อสร้างตำหนักพระองค์ดำ (ใหม่) เริ่มเมื่อ 3 ต.ค. 58 โดยงบประมาณ 43 ล้านบาท แบ่งเป็นงบบริจาคหรือบูชาพระ 23 ล้านบาท ที่ใช้ก่อสร้างโครงสร้างเหล็กเป็นหลัก ซึ่งทหารกองทัพภาคที่ 3 ได้งานไปดำเนินการจนแล้วเสร็จ ส่วนงบประมาณอีก 43.7 ล้านบาท เป็นงบประมาณกลุ่มจังหวัด ซึ่งยังไม่ได้เบิกจ่ายตามงวด โดยมีสำนักศิลปากรที่ 6 เป็นผู้ควบคุมดูแล บริษัทเอกชนที่ได้ประมูลงานและทำสัญญาไปแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างแก้ไขปรับปรุงแบบรอการตกแต่งก่อสร้างภายใน

    แต่ตลอดการก่อสร้างตำหนักพระองค์ดำ (ใหม่) กลับมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบกันต่อเนื่องถึง 6 แบบ และด้วยระยะเวลาก่อสร้างรวมทั้งสิ้นนับจากวางศิลาฤกษ์จนถึงปัจจุบันกว่า 3 ปี ทำให้คนที่ไปสักการะศาลสมเด็จพระองค์ดำแคลงใจ เมื่อเห็นสิ่งปลูกสร้างใหม่ ที่สร้างไม่เสร็จบดบังศาลเดิม จนเกิดกระแสต่อต้านขึ้น

    โดยภาคประชาชน และศิษย์เก่า พ.พ. รวมถึงคนพิษณุโลก ในนามกลุ่มเรารักศาลสมเด็จพระนเรศวร ประกาศไม่เอาตำหนักใหม่ ต้องการฟื้นฟูกลับสภาพเดิม ตระเวนยื่นหนังสือต่อกองทัพภาคที่ 3 คนใหม่, ผู้ว่าฯ และอธิบดีกรมศิลปกร เรียกร้องให้รื้อ-ทุบ-ย้ายตำหนักหลังใหม่ออกไป

    ครั้งนั้นนางสาวดวงกมล ยุทธเสรี ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย บอกเพียงว่า กรมศิลป์ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้ว แต่สุดท้ายมีบริษัทเอกชนได้ประมูลงานตกแต่งภายในอาคารพระตำหนักหลังใหม่ไป เพียงแต่ยังไม่ได้เบิกจ่ายสักงวดเนื่องจากรอแก้ไขแบบ

    พลโทวิจักฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 , นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก , นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้เปิดประชุมด่วน หาทางออกปัญหาตำแหน่งใหม่พระองค์ดำ
    พลโทวิจักฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 , นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก , นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้เปิดประชุมด่วน หาทางออกปัญหาตำแหน่งใหม่พระองค์ดำ

    พ.อ.เชาว์ เกตุดี ประธานชมรมศิษย์เก่า พ.พ.14-16 และประธานกลุ่มอนุรักษ์ฯ และนายมนตรี ศรีภิรมย์ เลขานุการชมรมเรารักศาลสมเด็จฯ รวมทั้งศิษย์เก่าโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม (โรงเรียนชาย) ที่ได้รวมตัวบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเรียกร้องให้ทบทวนการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ที่บดบังทัศนียภาพศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต่างยืนยันให้อนุรักษ์ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชหลังเดิม

    กลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยระบุว่า สิ่งปลูกสร้างใหม่ใช้คำว่า “พระตำหนัก” นั้นไปลบล้างคำว่า ศาลฯ เดิมที่มีความหมายถูกต้อง และปรากฏในพระบรมราโชวาท รัฐพิธีเสด็จฯ ทรงเปิดศาลฯ 25 มกราคม พ.ศ. 2505 อีกทั้งสร้างทับบนโบราณสถานอันเป็นการละเมิด พ.ร.บ.โบราณสถาน 2504 และบดบังเบื้องหน้า ก่อให้เกิดปัญหาทัศนอุจาดต่อพระบรมราชานุสาวรีย์ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กระทบกระเทือนจิตใจประชาชนที่เคารพนับถือกันมายาวนานกว่า 56 ปี และการออกแบบพระปรางค์บริเวณเครื่องบน น่าจะถอดแบบมาจากวัดใหญ่ แต่ไม่ใช่ศิลปะของอยุธยา

    “ไม่เห็นด้วยที่จะมีการก่อสร้างศาลหรือพระตำหนักพระนเรศวรหลังใหม่ เนื่องจากศาลพระนเรศวรหลังเก่าอยู่คู่กับเมืองพิษณุโลกมากว่า 55 ปี ที่สำคัญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดศาลด้วย ส่วนหลังใหม่จะรื้อ หรือย้ายไปไว้ตรงไหนก็ไม่ขัดข้อง แต่ต้องไม่บังศาลเก่า”
    ตำหนักใหม่..รอวันรื้อย้ายอีกรอบ
    วันที่ 25 พ.ค. 61 นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก, นางสาวดวงกมล ยุทธเสรี ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 6 พร้อมตัวแทนหน่วยงานราชการ ภาคประชาชน เช่น อ.ขวัญทอง สอนสิริ ฯลฯ ร่วมหาทางออก ก่อนรวบรวมข้อเสนอแนะให้รื้อสิ่งปลูกสร้างใหม่ นำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และให้ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 6 นำเสนออธิบดีกรมศิลปากร ว่าชาวพิษณุโลกเห็นควรรื้อและย้ายสิ่งก่อสร้างใหม่ (ตำหนักใหม่)

    ล่าสุด 13 ก.ค.ที่ผ่านมา พลโท วิจักฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3, นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก, นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้เปิดประชุมด่วน ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 อีกครั้ง แต่ไม่ได้แจ้งสื่อมวลชน ก่อนลงดูพื้นที่จริง และเดินทางไปกราบนมัสการพระธรรมเสนานุวัตร เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ / รองเจ้าคณะภาค 5

    แหล่งข่าวระดับสูงระบุแนวทางแก้ปัญหาวางไว้เบื้องต้น 3 แนวทาง คือ 1) รื้อ ทุบทิ้ง 2) รื้อ ย้าย วางไว้เป็นรูปเกือกม้ารอบศาลเดิม 3) เลื่อน เคลื่อนย้ายตำหนักใหม่ไปไว้หลังศาลสมเด็จพระนเรศวร แต่ทางแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าฯ พิษณุโลก และอธิบดีกรมศิลปากร เห็นพ้องเลือกแนวทางการรื้อ ย้ายสิ่งปลูกสร้างใหม่ โดยนำไปไว้ด้านข้างและหลังศาลฯ (เดิม) ในลักษณะเป็นรูปเกือกม้า ส่วนงบประมาณงบตกแต่งภายในยังต้องคงไว้ แต่งบประมาณค่ารื้อ-ย้ายนั้นกรมศิลปากรและกองทัพภาคที่ 3 กำลังดำเนินการ
    แนะขึ้นทะเบียนศาลสมเด็จฯ เป็นโบราณสถาน
    ปราชญ์ชาวพิษณุโลกคนหนึ่งให้ความเห็นว่า ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสร้างมากว่า 56 ปีแล้ว แต่กรมศิลปากรไม่ได้ขึ้นทะเบียนอาคารศาลสมเด็จฯ เป็นโบราณสถาน แม้อยู่ใจกลางพระราชวังจันทน์ ดังนั้นกรมศิลปากรก็ควรขึ้นทะเบียนให้เรียบร้อยเหมือนกับพระราชวังจันทน์ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำขึ้นอีก

    “แม้ว่าอาคารศาลสมเด็จฯ อายุไม่ถึง 100 ปี แต่เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ที่มีความสำคัญต่อบ้านเมืองมากว่าครึ่งศตวรรษ พร้อมกับควรตั้งงบมาจัดถวายด้วยการบูรณะตัวอาคารศาลฯ ทั้งภายในและภายนอกให้สมพระเกียรติ”

    ส่วนจังหวัดฯ และ อบจ.พิษณุโลกที่รับถ่ายโอนดูแลพระราชวังจันทน์ พร้อมกับมูลนิธิเย็นศิระพระบริบาล ก็ควรลงมาดูแลรายละเอียด พร้อมกับตั้งงบบูรณะศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตามแบบที่ผ่านความเห็นชอบด้านศิลปกรรมจากกรมศิลปากรไปพร้อมๆ กันด้วย

    #ขอบคุณภาพ : MGR Online
    #บิ๊กเกรียน

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เก็บตกตะวันออกกลาง

    เยเมนส่งโดรน “ซอมาด 2” ถล่มโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท Aramco ในริยาด

    หน่วยอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ของกองทัพเยเมนประกาศว่า ได้กำหนดเป้าหมายการโจมตีไปที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัท Aramco ในเมืองหลวงของซาอุดิอาระเบียโดยใช้เครื่องบินไร้คนขับระยะไกล "ซอมาด 2"

    หน่วยอากาศยานไร้คนขับของกองทัพและคณะกรรมการประชาชนของเยเมนได้รายงานเกี่ยวกับการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในกรุงริยาดเมืองหลวงของซาอุดิอาระเบียโดยเครื่องบินไร้คนขับ (โดรน) ของเยเมน

    โทรทัศน์อัล-มะซีเราะฮ์ของเยเมนได้รายงานเมื่อวันพุธ (18 กรกฎาคม 2561) โดยอ้างแหล่งข่าวจากหน่วยอากาศยานไร้คนขับว่า กองทัพเยเมนได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทอารามโกของซาอุดิอาระเบียในกรุงริยาดโดยใช้โดรน "ซอมาด 2" ซึ่งเป็นโดรนที่มีระยะการบินได้ไกล

    โทรทัศน์อัล-มะซีเราะฮ์ได้รายงานว่า บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดิอาระเบียได้ออกมายอมรับว่า เกิดเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นในกรุงริยาด

    บริษัทซาอุดี-อารามโก กรุงริยาด ก็ได้รายงานว่า เกิดเพลิงไหม้ที่คลังน้ำมันในโรงกลั่นน้ำมันของตน

    #เก็บตกตะวันออกกลาง!

    http://fa.alalam.ir/news/‬

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เก็บตกตะวันออกกลาง

    #สถานการณ์เยเมน

    กองกำลังทหารกองทัพเยเมนและอาสาสมัครประชาชนเยเมนประกาศว่า ได้ปฏิบัติการยิงขีปนาวุธพิสัยไกล บะดัร 1เข้าใส่ยังสนามบินเมืองญาซานของซาอุดีอาระเบีย

    ก่อนหน้านี้ เมื่อวานนี้ กองกำลังเยเมนได้พุ่งเป้ายังโรงกลั่นน้ำมันอารัมโกของซาอุดีอาระเบีย

    #เพจเก็บตกตะวันออกกลาง

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: อีลอน มัสก์ ขอโทษนักดำน้ำถ้ำชาวอังกฤษแล้ว ยอมรับเป็นความผิดของตนคนเดียว
    .
    อีลอน มัสก์ ได้ออกมากล่าวขอโทษ เวิร์น อันสเวิร์ธ นักดำน้ำถ้ำชาวอังกฤษ และหนึ่งในทีมกู้ภัยที่ช่วยเหลือสมาชิกนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวงแล้ว หลังก่อนหน้านี้ได้ใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมตอบโต้ทางทวิตเตอร์
    .
    ผู้บริหารบริษัท Tesla, SpaceX และผู้ก่อตั้งบริษัท The Boring Company ได้ออกมากล่าวคำขอโทษอันสเวิร์ธผ่านช่องทางทวิตเตอร์ หลังก่อนหน้านี้ทั้งสองได้มีข้อพิพาทผิดใจกันจากกรณีการช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต
    .
    มัสก์ได้ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุโจมตีใส่อันสเวิร์ธ โดยเรียกเขาว่า ‘Pedo Guy’ ซึ่งมีความหมายว่าเฒ่าหัวงูรักเด็ก ก่อนที่จะลบทวีตข้อความดังกล่าวในเวลาต่อมา
    .
    “ตามที่บทความได้เขียนไว้ว่าคำพูดของผมที่สื่อสารออกไปอยู่ในอารมณ์โมโหล้วนๆ หลังจากที่คุณอันสเวิร์ธพูดหลายครั้งว่าไม่เชื่อมั่นในอุปกรณ์ของผม และได้แนะนำให้ผมไปมีเพศสัมพันธ์กับยานลำจิ๋ว (มัสก์ได้ประดิษฐ์ยานกู้ภัยเพื่อใช้ในการช่วยเหลือหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต) ซึ่งทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากเจตนาดีและตามคำแนะนำของหัวหน้าทีมนักดำน้ำ
    .
    “ถึงอย่างนั้นก็ดี การกระทำของเขาที่มีต่อผมเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่ผมทำกับเขา ผมต้องขอโทษคุณอันสเวิร์ธและบริษัทของผมในฐานะที่เป็นผู้นำ ความผิดที่เกิดขึ้นนี้มาจากตัวผมเองคนเดียวเท่านั้น”
    .
    เชื่อกันว่าสาเหตุหลักๆ ท่ีทำให้มัสก์ต้องออกมาขอโทษฮีโร่นักดำน้ำวัย 63 ปีเป็นเพราะการถูกกดดันจากรอบทิศ โดยเฉพาะบรรดานักลงทุนของบริษัทที่เขาเป็นผู้บริหาร ไม่ว่าจะ Tesla, SpaceX หรือ The Boring Company เนื่องจากหุ้นของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาตกลงไปพอสมควร
    .
    อ้างอิง:
    - https://www.bloomberg.com/news/arti...ologizes-to-u-k-diver-he-labeled-as-pedophile
    - https://www.bbc.co.uk/news/world-as...al&ns_source=twitter&ns_campaign=bbc_breaking
    - https://www.investopedia.com/news/e...erm=fb-capture&utm_content=/#ec|rss-bloomberg
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
    #News #TheStandardCo #TheStandardTH #StandUpForThePeople

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “หมอภาคย์” ข้ามฝั่งไปเมียนมาเข้ากราบขอพร “พระครูบาบุญชุ่ม”

    • เพจเฟซบุ๊ก พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความระบุ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ เข้ากราบขอพร พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ณ วัดพระธาตุสายเมือง จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.)

    ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คดีข่มขืนในอินเดียมากกว่า 1 แสนราย ระหว่างปี 2014-2016 ซึ่งหมายถึงมีการข่มขืนเกือบ 100 รายต่อวัน ตลอดระยะ 3 ปีนี้
    http://www.publicpostonline.net/17558

     

แชร์หน้านี้

Loading...