ติดตามสถานะการณ์

ที' นะคับ-‎เตือนภัยพิบัติ (วิชาการ)


เชียงใหม่ เตรียมเจอชุดใหญ่ สายนี้เป็นต้นไป ....

 

สหรัฐฯเลื่อนทดสอบระบบเตือนภัยทางมือถือ ส่งตรงจากประธานาธิบดี
เผยแพร่: 18 ก.ย. 2561 01:03 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ -รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจเลื่อนแผนการทดสอบเตือนภัยที่ส่งตรงจากประธานาธิบดี ที่ไม่เคยใช้มาก่อน ออกไปอย่างน้อยๆจนถึงเดือนหน้า ขณะที่ระบบส่งข้อความเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือสหรัฐฯทุกเครื่องดังกล่าว มีเป้าหมายแจ้งเตือนสาธารณะทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหลาย ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันจันทร์(17ก.ย.)

เดิมทีการทดสอบส่งข้อความถูกกำหนดไว้ในเวลา 14.18 น.EDTของวันพฤหัสบดี(20ก.ย.) ตรงกับเมืองไทย 01.18น.ของวันศุกร์(21ก.ย.) แต่มันถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 3 ตุลาคม ในเวลาเดียวกัน สืบเนื่องจากปัจจุบันยังคงอยู่ในภารกิจรับมือภัยพิบัติพายุดีเปรสชันฟลอเรนซ์ ถ้อยแถลงของสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินรัฐบาลกลาง(FEMA)ระบุ

ฟลอเรนซ์ขึ้นฝังนอร์ทแคโรไลนา ในสถานะเฮอร์ริเคนเมื่อวันศุกร์(14ก.ย.) ก่อน้ำท่วมอย่างกว้างขวางในนอร์ทแคโรไลนาและเซาท์แคโรไลนา

เมื่อสัปดาห์ที่แลิว FEMA ข้อความแจ้งเตือนนั้นจะพาดหัวทึบว่า "ประกาศเตือนประธานาธิบดี(Presidential Alert)" โดยโทรศัพท์จะดังขึ้นในโทนเสียงหนึ่งและมีลักษณะสั่นพิเศษ

การทดสอบถูกกำหนดขึ้นเพื่อรับประกันว่าระบบเตือนภัยนี้จะใช้ได้ผลในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติขึ้นมาจริงๆ และผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสหรัฐฯจะไม่สามารถบล็อคข้อความดังกล่าวได้( opt out) โดยในข้อความจะเขียนว่า "นี่คือการทดสอบ ระบบเตือนสถานการณ์ฉุกเฉินไร้สายแห่งชาติ ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติ"

อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามในกฎหมายฉบับหนึ่งในปี 2016 กำหนดให้ FEMA สร้างระบบๆหนึ่งขึ้นมาเพื่อเปิดทางให้ประธานาธิบดีสามารถส่งคำเตือนทางโทรศัพท์ในเรื่องสถานการณ์ฉุกเฉินความปลอดภัยสาธารณะไปยังประชาชนโดยตรง

ระบบแจ้งเตือนฉุกเฉินไร้สายของประเทศเริ่มมาในปี 2012 และนับตั้งแต่นั้นได้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์ต่างๆมาแล้วกว่า 36,000 ครั้ง ในนั้นรวมถึงเด็กหาย, สภาพอากาศเลวร้ายและภัยพิบัติทางธรรมชาติ อย่างไรก็ตามยังไม่เคยมีครั้งไหนที่เป็นคำสั่งจากประธานาธิบดี และที่ผ่านมาผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถบล็อคข้อความ(opt out) การแจ้งเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติและเด็กสูญหาย

ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านข้อความทดสอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว FEMA บอกว่าระบบเตือนภัยส่งตรงจากประธานาธิบดี จะถูกใช้เพียงเฉพาะในกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิกระดับชาติและประธานาธิบดีจะเป็นผู้รับผิดชอบเพียงผู้เดียวสำหรับตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ควรใช้ประกาศแจ้งเตือนนี้

https://mgronline.com/around/detail/9610000093337

 

ยอดตายพายุฟลอเรนซ์พุ่งเป็น23ศพ แคโรไลนายังผจญภัยพิบัติน้ำท่วม
เผยแพร่: 18 ก.ย. 2561 02:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุฟลอเรนซ์เพิ่มเป็น 23 ศพในนอร์ทและเซาท์แคโรไลนาในวันจันทร์(17ก.ย.) ในขณะที่พื้นที่ชุมชนลุ่มต่ำยังคงจมอยู่ใต้น้ำและมีประกาศเตือนน้ำท่วมตามเขตอื่นๆ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

นอกจากนี้แล้วยังมีประกาศเตือนเฝ้าระวังทอร์นาโดลูกหนึ่ง ครอบคลุมหลายพื้นที่ของทั้งรัฐนอร์ทแคโรไลนาและเซาท์แคโรไลนา ในขณะที่เจ้าหน้าที่บริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินก็เตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เขื่อนจะแตกและเกิดดินถล่ม

"มหากาพย์ของพายุลูกนี้ยังคงเดินหน้าต่อไป" รอย คูเปอร์ ผู้ว่าการรัฐนอร์ทแคโรไลนาแถลงกับผู้สื่อข่าว "นี่คือภัยพิบัติครั้งใหญ่สำหรับรัฐของเรา"

คูเปอร์บอกว่ามีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับพายุฟลอเรนซ์ที่ได้รับการยืนยันแล้วภายในรัฐนอร์ทแคโลไลนา 17 คน หลังจาก ฟลอเรนซ์ ขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งแอตแลนติกของรัฐเมื่อวันศุกร์(14ก.ย.) ในสถานะเฮอร์ริเคนระดับ 1 "เราหวังว่าตัวเลขจะไม่มากไปกว่านี้"



ขณะเดียวกันก็มีตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนที่ได้รับคำยืนยันมาจากเซาท์แคโรไลนา รัฐเพื่อนบ้าน โดยรายล่าสุดเป็นชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งขับรถกระบะไปติดอยู่ท่ามกลางน้ำในเลซิงตัน เคาน์ตี

แม่น้ำหลายสิบสายทั่วนอร์ทแคโรไลนาอยู่ในขั้นก่ออุทกภัยใหญ่หรือเสี่ยงเพิ่มสูงสู่ระดับวิกฤตในวันจันทร์(17กน.) "ถนนหลายสายในรัฐของเรายังคงเสี่ยงน้ำท่วม" เขากล่าว พร้อมเตือนผู้อพยพอย่าเพิ่งด่วยกลับบ้านและไม่เดินทางไปไหนมาไหนถ้าไม่จำเป็น "กรุณาอย่าทำตัวให้เป็นภาระของหน่วยกู้ภัย"

เมืองวิลมิงตัน ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเคปเฟียร์ ในนอร์ทแคโรไลนา เกือบถูกตัดขาดจากการสัญจรทางบกโดยสิ้นเชิง แต่คณะทำงานของหน่วยบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินได้ลำเลียงอาหารและน้ำเข้าไปยังเมืองท่าแห่งนี้ที่มีประชากร 120,000 คน เมื่อคืนที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่จากกรมตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินบอกว่ารถบรรทุก 23 คันซึ่งบรรทุกอาหารพร้อมทานและลังน้ำขวดถูกส่งไปยังวิลมิงตันแล้ว "เรากำลังจัดการสถานการณ์ที่ยากลำบากยิ่ง ด้วยท้องถนนที่มุ่งสู่เมืองไวมิงตันนั้นแทบสัญจรผ่านไปไม่ได้" นายกรัฐมนตรีบิล ซาฟโฟเขียนบนทวิตเตอร์ "ถ้าน้ำลดระดับลง สิ่งต่างๆจะดีขึ้น เราจะไม่เป็นไร เราจะก้าวผ่านเรื่องนี้"




ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติเตือนว่าฟลอเรนซ์ ซึ่งลดระดับความรุนแรงลงเหยือพายุดีเปรสชัน จะยังคงกระหน่ำเทฝนลงมาเล่นงานพื้นที่ต่างๆของนอร์ทแคโรไลนาและทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเซาท์แคโรไลนา "น้ำท่วมฉับพลันยังคงเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่" และบอกว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดดินถล่มในนอร์ทแคโรไลนา

ประชาชนมากกว่า 5 แสนคนในทั้งสองรัฐยังคงต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ในวันจันทร์(17ก.ย.) ขณะที่เจ้าหน้าที่นอร์ทแคโรไลนา บอกว่ามีเหตุเขื่อนแตกเล็กๆแต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรง และพวกเขากำลังจับตาสิ่งปลูกสร้างอื่นๆอย่างใกล้ชิดด้วย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่ามีแผนลงพื้นที่ประสบภัยในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่แน่ชัด ในขณะที่ คูเปอร์ เรียกร้องว่า "เราจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลสำหรับการฟื้นฟู"

https://mgronline.com/around/detail/9610000093343

 

ฟิลิปปินส์ตายจาก 'มังคุด' เพิ่มขึ้นเป็น69 ฮ่องกงเริ่มทำงาน'ปกติ' แต่การเดินทางติดขัด-แออัด เผยแพร่: 17 ก.ย. 2561 22:45 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพยายามค้นหาผู้คนที่ติดอยู่ใต้กองดินโคลนถล่ม ซึ่งมีสาเหตุจากไต้ฝุ่น “มังคุด” ทำให้เกิดฝนตกกระหน่ำหนัก ในพื้นที่หมู่บ้าน ซึ่งอยู่ในเขตเมืองอิโตกอน จังหวัดเบงเกต ทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ เมื่อวันจันทร์ (17 ก.ย.)
เอเจนซีส์ – ฮ่องกงเจอปัญหาการจราจรแออัดติดขัดในวันจันทร์ (17 ก.ย.) เมื่อชาวเมืองพยายามเริ่มต้นใช้ชีวิตตามปกติ ขณะที่ถนนหนทางจำนวนมากยังอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้เต็มที่ และบริการขนส่งมวลชนก็ถูกระงับไปบางส่วน เนื่องจากฤทธิ์เดชของ “มังคุด” ซึ่งถล่มเกาะเมื่อวันอาทิตย์ (16) ซูเปอร์ไต้ฝุ่นลูกนี้ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 60 คนในฟิลิปปินส์และสูญหายอีกหลายสิบคน ขณะที่พื้นที่ทางใต้ของจีนสั่งอพยพประชาชนนับล้านเมื่อคืนวันอาทิตย์ และมีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 รายในกวางสี

ยอดผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์จากเหตุการณ์ที่ไต้ฝุ่นมังคุดหอบฝนหนักและลมแรงจัดถล่มเกาะลูซอนเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มเป็น 65 คนหลังจากหน่วยกู้ภัยพบศพเพิ่มในเมืองอิโตกอนที่เกิดเหตุดินโคลนถล่มครั้งใหญ่ฝังอาคาร 3 ชั้นซึ่งเป็นที่พักหลบภัยชั่วคราวของคนงานเหมืองแร่และครอบครัว

วิกโตริโอ ปาลังดัน นายกเทศมนตรีเมืองอิโตกอน เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (17) ว่า ยังไม่พบผู้รอดชีวิตจากใต้ซากปรักหักพัง ขณะที่เบนิโญ ดูรานา ผู้กำกับการตำรวจอาวุโสและโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ แถลงว่า มีผู้สูญหาย 43 คน และประชาชนอีกกว่า 150,000 คนยังอยู่ในศูนย์อพยพ

ไร่นาทางเหนือของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของแดนตากาล็อก และเป็นแหล่งผลิตข้าวและข้าวโพดสำคัญ จมน้ำเสียหายหมดก่อนถึงฤดูเก็บเกี่ยวเพียงเดือนเดียว

ทั้งนี้ หลังจากสร้างความเสียหายให้ลูซอน ฮ่องกง และมาเก๊า ไต้ฝุ่นมังคุดได้ขึ้นฝั่งบริเวณภาคใต้จีนที่มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) เมื่อเย็นวันอาทิตย์ รวมทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คนในเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงแห่งกว่างซี (กวางสี) โดยทางการจีนมีคำสั่งอพยพประชาชนหลายล้านคน รวมทั้งสั่งให้เรือประมงหลายพันลำกลับเข้าฝั่งก่อนที่มังคุดซึ่งสื่อท้องถิ่นขนานนามว่า “ราชาแห่งพายุ” จะเคลื่อนไปถึง

สำหรับฮ่องกงนั้น คณะบริหารแถลงว่า ได้รับความเสียหายรุนแรงและกว้างขวางจากมังคุด โดยมีประชาชนกว่า 300 คนได้รับบาดเจ็บ



สภาพความเสียหายของถนนหนทางในเขตเจิ้งกวนโอ ของฮ่องกง เมื่อวันจันทร์ (17 ก.ย.) จากฤทธิ์เดชของไต้ฝุ่น “มังคุด”



ซากหักพังซึ่งเกิดจากไต้ฝุ่น “มังคุด” ที่บริเวณด้านนอกโครงการที่พักอาศัยบริเวณริมทะเลในฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ (17 ก.ย.)

ในวันจันทร์ฮ่องกงระดมกำลังเก็บกวาดซากปรักหักพังและซากต้นไม้จากถนนหนทางและทางรถไฟซึ่งคาดว่า อาจต้องใช้เวลาหลายวันจึงจะแล้วเสร็จ ขณะที่ธุรกิจต่างๆ รวมถึงตลาดการเงินเริ่มเปิดดำเนินการตามปกติ ยกเว้นโรงเรียน

อย่างไรก็ตาม การสัญจรของผู้คนเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะในตอนเช้าวันจันทร์ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า “มังคุด” ทำให้ถนนมากกว่า 600 ช่วงในตลอดทั่วทั้งฮ่องกง อยู่ในสภาพติดขัดจากต้นไม้ที่โค่นล้มและกิ่งไม้ซึ่งหักลงมา ตลอดจนจากซากหักพังอื่นๆ

ขณะที่พวกบริษัทรถโดยสารประจำทางสายใหญ่ๆ ประกาศว่ายังจะระงับการให้บริการไปก่อนเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่บริษัทผู้ให้บริการเรือเฟอร์รีและรถไฟก็แจ้งว่า ยังไม่สามารถเปิดให้บริการอย่างเต็มที่ได้

บางพื้นที่บนเกาะแห่งนี้เกิดเหตุดินถล่มและน้ำท่วมรุนแรง ส่งผลให้ประชาชนกว่า 1,500 คนยังต้องพักในศูนย์หลบภัยเมื่อคืนวันอาทิตย์

รายงานระบุว่า มังคุดที่มีกำลังแรงกว่า 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้อาคารบ้านเรือนสั่น น้ำทะลักเข้าบ้านและห้างสรรพสินค้าหลายแห่งของฮ่องกง ถนนบางสายมีน้ำท่วมสูงถึงเอว

กระจกหน้าต่างตึกสูงหลายแห่งแตก ทุ่งหญ้าริมฝั่งในย่านเฮงฟาฉวนปกคลุมไปด้วยหินและกรวดที่ถูกคลื่นซัดจากทะเล เช่นเดียวกับหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ในที่ลุ่มที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักหลังน้ำทะเลทะลักขึ้นฝั่ง

ที่มาเก๊า สถานกาสิโนทั้ง 42 แห่งปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนที่มังคุดจะมาถึงและทำให้น้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ กระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำเรือและเจ็ตสกีไปรับประชาชนที่ติดค้างอยู่ในร้านค้าและบ้านเรือน

เช้าวันจันทร์ กาสิโนในมาเก๊าเปิดให้บริการตามปกติ ขณะที่ร้านค้าหลายแห่งเร่งล้างคราบโคลนหลังจากน้ำลด

สถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง (ซีซีทีวี) ของทางการจีน ประกาศเตือนในวันจันทร์ เรื่องน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำ 38 สายในกวางสี ขณะที่สถานีตรวจสอบชายฝั่ง 12 แห่งรายงานว่า เกิดคลื่นสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน และพื้นที่เกษตรกว่า 13,300 เฮกตาร์เสียหายจากพายุ

ทางด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนระบุว่า ไต้ฝุ่นมังคุดอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนและเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก โดยคาดว่า จะไปถึงมณฑลกุ้ยโจว มหานครฉงชิ่ง และมณฑลหยุนหนาน (ยูนนาน)ในวันจันทร์ และทำให้มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 100-160 มิลลิเมตร

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนยังบอกอีกว่า มังคุดซึ่งมีความเร็วลมประมาณ 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นพายุ 1 ใน 10 ลูกที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นทางใต้ของจีนนับจากปี 1949 ที่เริ่มเก็บข้อมูลด้านนี้



มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฟิลิปปินส์จำนวนมากในวันจันทร์ (17 ก.ย.) ช่วยกันขุดค้นหาเหยื่อซึ่งถูกฝังใต้กองดินโคลนถล่ม ที่หมู่บ้านในเขตเมืองอิโตกอน จังหวัดเบงเกต

https://mgronline.com/around/detail/9610000093323

 

จีนขู่ไม่เป็นฝ่ายตั้งรับสงครามการค้า พร้อมงัดอาวุธใหม่ตอบโต้ภาษีทรัมป์ เผยแพร่: 17 ก.ย. 2561 21:45 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ - หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ทรงอิทธิพลแดนมังกรเตือน จีนจะไม่เป็นฝ่ายตั้งรับในสงครามการค้ากับอเมริกา และจะยกเลิกการเจรจา หากทรัมป์ประกาศมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรระลอกใหม่กับสินค้าจีนอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ ที่คาดกันว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์ (17 ก.ย.) นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีนออกมาประกาศว่า ปักกิ่งอาจตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกเพื่อทำให้ห่วงโซ่อุปทานการผลิตของอเมริกาชะงักงัน

จนถึงขณะนี้ อเมริกาและจีนได้เรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นตอบโต้กัน จากสินค้าเข้าของอีกฝ่ายหนึ่งฝ่ายละ 50,000 ล้านดอลลาร์ และความขัดแย้งนี้สร้างความปั่นป่วนในตลาดการเงินโลกตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

สัปดาห์ที่แล้ว ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 1 และ 2ของโลก 2 รายนี้ ดูเหมือนมีความคืบหน้าที่ดี หลังจากรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ เชิญเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีน ซึ่งรวมถึงรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ หารือเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าในช่วงปลายเดือนนี้ แม้ผู้สังเกตการณ์มากมายไม่เชื่อว่า การเจรจาดังกล่าวจะประสบความสำเร็จก็ตาม

อย่างไรก็ดี ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อมวลชนหลายรายรายงานว่าได้รับการบอกกล่าวจากเจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะบริหารสหรัฐฯว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มประกาศมาตรการภาษีศุลกากรรอบใหม่อย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลฉบับวันอาทิตย์ (16) ยังรายงานโดยอ้างอิงคำพูดของเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีนว่า ปักกิ่งคงไม่ร่วมเจรจาโดยมีปืนจ่อหัวอยู่ ซึ่งหมายถึงการเจรจาการค้าตามที่อเมริกาเอ่ยปากชวนไว้ ถ้าทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรรอบใหม่




ต่อมาในวันจันทร์ บทบรรณาธิการของโกลบัล ไทมส์ แท็บลอยด์ในเครือของเหรินหมินรึเป้า ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า อเมริกาเล่นมุกเดิมคือโหมกระพือความตึงเครียดเพื่อสร้างความได้เปรียบในการเจรจา

“เรากำลังรอที่จะตอบโต้กลับอย่างสาสมยิ่งขึ้น และจะเดินหน้าทำให้อเมริกาเจ็บปวดมากขึ้น”

นอกจากการตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรแล้ว โหลว จี้เหว่ย อดีตรัฐมนตรีคลังจีนและปัจจุบันเป็นประธานสภาแห่งชาติด้านกองทุนประกันสังคม ยังประกาศในงานประชุมที่ปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ (16) ว่า จีนอาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานการผลิตของอเมริกาหยุดชะงัก ด้วยการจำกัดการส่งออกสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนหลักให้แก่อเมริกา

แหล่งข่าววงในทำเนียบขาวเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวของจีนจะเข้าทางเจ้าหน้าที่สายเหยี่ยวในรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้มีแนวโน้มที่ปักกิ่งจะถูกตอบโต้รุนแรงจากวอชิงตันที่ซุ่มศึกษาการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญให้จีนเช่นเดียวกัน

การแสดงความคิดเห็นของโหลวยังมีขึ้นขณะที่มีรายงานว่า ผู้คุมกฎในจีนกำลังบีบคั้นบริษัทอเมริกันในแดนมังกร ด้วยการชะลอการอนุมัติด้านศุลกากร และเพิ่มการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ

จีนนั้นประกาศมานานแล้วว่า จะตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ด้วยวิธีการเดียวกัน รวมถึงมาตรการเชิงคุณภาพซึ่งแม้ไม่ได้ระบุชัดเจน แต่เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปในประชคมธุรกิจอเมริกันว่า หมายถึงการเพิ่มการตรวจสอบทางศุลกากรและกฎระเบียบ

https://mgronline.com/around/detail/9610000093309

 

ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี อยู่ที่ แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2


อ.ปัว จังหวัดน่าน ผู้ที่เข้าพักไม่สามารถนำรถออกจากโรงแรมปรางทองไม่ได้เจอน้ำป่าทำให้สะพานขาด โดยมี1คันตกไปในช่วงที่สะพานขาด ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ/ราชสีห์

 

ช่วงเวลาที่น้ำทะเลเข้าสู่หุบเขาของ kubr ทางใต้ของ al - ais ซาอุดิอาระเบีย.. นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเพื่อนถึงออกจากชายฝั่ง

 

ศาลจีน จำคุกลูก 5 คน ทิ้งพ่อจนเสียชีวิตในบ้านเพียงลำพัง
Publish 2018-09-17 21:35:05
เฟซบุ๊กแฟนเพจ China Xinhua News รายงานว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา คุณทวดแซ่จางวัย 80 ปี ถูกพบเสียชีวิตอยู่ตามลำพังภายในบ้านพักอาศัยที่หมู่บ้านเซียนเฟิ่งชุน อำเภอผิงอู่ เมืองเหมียนหยาง มณฑลเสฉวน ศพของเขาถูกพบโดยคณะกรรมการหมู่บ้านซึ่งลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านเป็นประจำ

หลังจากหน่วยงานตำรวจเข้ามาสืบหาสาเหตุการเสียชีวิต พบว่าคุณทวดจางอาศัยอยู่ตัวคนเดียว ก่อนหน้านี้เคยเข้าโรงพยาบาลมาแล้วหลายครั้ง ทั้งหน่วยงานยุติธรรมและคณะกรรมการหมู่บ้านต่างพยายามติดต่อลูกสาวลูกชายทั้ง 5 คนของคุณทวดแล้ว แต่ลูกๆ ก็ไม่ได้เข้ามารับผิดชอบดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของคุณทวดแต่อย่างใด

หลังจากคุณทวดเสียชีวิต ตำรวจอำเภอผิงอู่จึงดำเนินการจับกุมตัวลูกสาวลูกชายทั้ง 5 คนของคุณทวดจาง เพื่อให้ศาลประจำอำเภอดำเนินคดีต่อไป

สืบเนื่องมาจนวานนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซ่างโหยวนิวส์ (上游新闻) พบประกาศบนเว็บไซต์คำพิพากษาของจีนระบุว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ศาลอำเภอผิงอู่มีคำพิพากษาให้ลูกชาย 1 คนและลูกสาว 4 คนของคุณทวดจางมีความผิดฐานทอดทิ้งบุพการี โดยลงโทษดังนี้


นายจาง ลูกชาย รับโทษจำคุก 2 ปี, นางจาง ลูกสาวคนที่ 2 รับโทษจำคุก 1 ปี รอลงอาญา 2 ปี, ส่วนลูกสาวคนโต ลูกสาวคนที่ 3 และลูกสาวคนที่ 4 รับโทษจำคุก 6 เดือน รอลงอาญา 2 ปี

ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นเมืองเหมียนหยางรายงานว่า นับแต่ตั้งปี 2010 เป็นต้นมา ลูกสาวคนที่ 2 เริ่มไม่ลงรอยกับพ่อ และเนื่องจากต้องทำงานอยู่ต่างตำบล ไม่มีคนเฝ้าบ้าน จึงรับเอาแม่ไปอยู่ด้วยกัน ส่วนคุณทวดจางก็เริ่มอาศัยอยู่ตามลำพังนับแต่นั้นมา

ตั้งแต่ปี 2010 ลูกๆ ของคุณทวดจางก็กลับมาเยี่ยมเขาบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือด้านชีวิตความเป็นอยู่ ไม่ได้ให้เงินค่าดำรงชีพ และไม่ได้ทำหน้าที่เลี้ยงดูบิดา

ปี 2014 คุณทวดจางสุขภาพไม่ดี สภาพแวดล้อมในบ้านก็ค่อยข้างย่ำแย่เพราะไม่มีคนมาดูแลเป็นเวลานาน ชาวบ้านหลายคนจึงมาพบคณะกรรมการหมู่บ้านเพื่อขอให้ประเมินเป็นบ้านที่ขาดรายได้ (ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล)



ตั้งแต่ปี 2016 คุณทวดจางเริ่มเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้งด้วยโรคต่างๆ และเริ่มดูแลตัวเองไม่ได้ ทางคณะกรรมการหมู่บ้านก็ให้ความช่วยเหลือและพยายามติดต่อลูกๆ ของคุณทวดจาง แต่ลูกทั้ง 5 คนต่างผลักความรับผิดชอบให้กันและกัน บางรายถึงกับบล็อกเบอร์โทรศัพท์

นายจูจื้อหัว เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำหมู่บ้านเซียนเฟิ่งชุน ระบุว่า ก่อนที่คุณทวดจางจะเสียชีวิต คณะกรรมการหมู่บ้านต่างผลัดกันไปคอยดูแลคุณทวดจาง และส่งคนไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอยู่วันเว้นวัน

วันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา จำเลยทั้ง 5 คน (ลูกชาย 1 ลูกสาว 4) มารับฟังคำพิพากษาที่ศาลกันอย่างพร้อมหน้า ทั้งหมดยอมรับความผิดโดยไม่ปิดบังใดๆ พร้อมทั้งเขียนหนังสือสำนึกผิดให้กับอัยการ


http://www.tnews.co.th/contents/dz/478523

 

พังพินาศ "ไต้ฝุ่นมังคุด" พายุอันสุดรุนเเรง ถล่ม "ฮ่องกง" คาดบริษัทประกัน ต้องจ่ายชดเชยความเสียหาย มหาศาล"1พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ" (คลิป) Publish 2018-09-17 22:45:15

จากอิทธิพลของ พายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดสร้างความเสียหายอย่างหนักบนเกาะฮ่องกง ด้วยความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากทางเหนือของฟิลิปปินส์ เกาะลูซอน เข้าฮ่องกงเมื่อช่วงเที่ยง 16 ก.ย. 61 ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งจัดเป็นพายุที่มีความรุนแรงในระดับ T10 หรือเทียบเท่ากับเฮอร์ริเคนระดับ 5 ในมหาสมุทรแอทแลนติก



สำหรับความรุนเเรงของ มังคุด นั้น มีการเปิดเผยจาก south china morning post ว่า เป็นพายุที่รุนเเรงที่สุดในประวัติศาสตร์ฮ่องกง สร้างความเสียหายมหาศาล โดยมียอดมีทางบริษัทประกันต้องจ่ายถึงกว่า 1พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งรุนเเรง เเละสร้างความเสียหาย มากกว่า พายุฮาโตะ เมื่อปีที่เเล้ว ที่ซัดถล่ม ฮ่องกง เเละจีน มาเก๊า








.



อย่างไรก็ตามสถานการณ์ล่าสุด โดยเมื่อช่วงบ่าย 17 กย. ที่ผ่านมา ศูนย์กลางพายุโซนร้อน "มังคุด" อยู่ที่พิกัด N24°00' E107°00' ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เเละได้อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชัน ความกดอากาศ 998 hPa แนวโน้มสลายตัว ซึ่งด้านทางประเทศฮ่องกง ได้ยกเลิกคำเตือนภัยพายุทั้งหมด เเละกลับสู่สภาพปกติแล้ว



ในส่วนของประเทศไทยนั้น นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุไต้ฝุ่นมังคุดส่งผลกระทบทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ หลังเมื่อวานนี้พายุไต้ฝุ่นมังคุดได้เคลื่อนไปที่เกาะฮ่องกง ขึ้นสู่ประเทศจีนที่มณฑลกวางตุ้ง และค่อยๆอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน จากการที่ขณะนี้ มังคุดอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน ซึ่งไทยจะได้รับอิทธิพลทางอ้อม ทำให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้แรงขึ้นเท่านั้น ยังคงปกคลุมประเทศไทยอยู่ ทำให้ประเทศไทยในหลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกหนัก แต่ไม่ใช่ฝนจากพายุดังกล่าว



https://www.scmp.com/news/hong-kong...Social&utm_source=Facebook#Echobox=1537194986


ขอบคุณ

WisdomNews

http://www.tnews.co.th/contents/dz/478527

 

หนุ่มภูซาง คับ ได้ถ่ายทอดสดใน เชียงคำโพสต์



เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมและช่วนเหลือน้องผู้สูญหายทางน้ำที่บ้านแฮะ ม.5 ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ (เมื่อกี้สัญญาณขาดครับ)

 

วิวทางอากาศของน้ำท่วมและความเสียหายที่เหลืออยู่โดย florence ในตอนเหนือของ carolina, สหรัฐอเมริกา
เจ้าหน้าที่รายงานว่าแม่น้ำแคโรไลน่าเหนือทั้งหมดจะยังคงเพิ่มระดับในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจึงมีความเป็นไปได้สูงของน้ำท่วม ภัยพิบัติสำหรับรัฐเนื่องจากพายหมุนเขตร้อนฟลอเรนซ์ (16 กันยายน 2018)

 

ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์

ผู้ปกครองอเมริกาตัวจริง:

ในสหรัฐอเมริกา มีกลุ่มทุนยิวควบคุมสื่อ ควบคุมกองทัพ ควบคุมหน่วยข่าวกรองและมีเงินมหาศาลในการล็อบบี้ผ่านหน่วยงาน AIPAC อเมริกาจึงตกเป็นทาสนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลอิสราเอลเป้าหมายของอิสราเอลคือบุกยึดดินแดนประเทศอาหรับที่อ่อนแอเพื่อขยายดินแดนอิสราเอลให้กว้างออกไป ตามเป้าหมาย Greater Israel

ครั้งหนึ่ง เนตันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลในปัจจุบันได้พลั้งปากกล่าวไว้ว่า 'อเมริกาจะไม่ขวางทางเรา เราจัดการอเมริกาให้หันซ้ายหันขวาได้อย่างง่ายดาย' (America won't get in our way..It's easily moved) ชมคลิปครับ

เห็นหรือยังครับ ประชาชนอเมริกันนั้นน่าสงสารขนาดไหน ถูกกลุ่มทุนยิวหรือรัฐบาลเงาควบคุมรัฐบาลอเมริกาและใช้ให้ทำชั่วสาระพัด ต้องทำสงครามตลอดเวลาและต้องสร้างกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียเพื่อประโยชน์ของอิสราเอล

ก็เพราะเนตันยาฮูทำได้ตามใจชอบ จึงมีคนแต่งภาพนี้ขึ้น อิสราเอลขณะนี้จะบุกยึดปาเลสไตน์ก็ได้ จะถล่มซีเรียก็ได้ จะปักปันดินแดนล้ำดินแดนเลบานอนก็ได้ โดยไม่มีใครกล้าตอแย เพราะถ้ามีชาติไหนตอแย อิสราเอลก็จะไปบีบให้อเมริกามาช่วยรบจนยืดเยื้อต่อไปอีก ใครจะเล่นงานอิสราเอลทางมนุษยธรรมหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน รัฐบาลอเมริกาก็จะบล็อคหรือคว่ำบาตร

นี่คือความปัญหาของรัฐบาลอิสราเอลขณะนี้

๑๘ กันยายน ๒๕๖๑
(ภาพประกอบจากกูเกิล)
หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ๓.โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตาม *หลักภาษาไทย* ด้วย ถ้าสะกดผิดจะลบออกทันที ๔.ข้อความวิจารณ์ที่ *หยาบ* และ *สะกดผิด* จะลบออกทุกครั้งที่เห็น ๕.ผู้ที่สะกดผิดบ่อยครั้งหรือใช้คำหยาบบ่อยครั้ง จะบล็อคอย่างถาวร ๖.คนที่ใหม่ต่อการเมืองระหว่างประเทศ ควรจะอ่านข่าวจากเพจนี้ย้อนหลังไป ๓ เดือนเป็นอย่างน้อยก่อนจะวิจารณ์ใดๆ ๗.ถ้าอยากติดตามข่าวต่างประเทศมากกว่าเพจนี้ ติดตามได้ที่ https://vk.com/bodhinandaแต่ว่าต้องระบุชื่อ นามสกุลจริง รูปจริงในโปรไฟล์ของสมาชิกด้วยครับ

 

ข่าวสารเมืองน่าน เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง ล้านนาถิ่นแดน มั่งมีศรีสุข แพร่ภาพสดในขณะนี้



สด ‼️ ดินถล่ม หลุมยุบ บ.ปรางค์ อ.ปัว จ.น่าน

 

Rada Grommaung
16 กันยายน เวลา 09:34 น.


แจ้งเตือน!!!!
พายุมังคุดมาถึงสตูลแล้วจ้า
ไปเห็นมากับตาที่ตลาดนัดฉลุง!!!
Way Tanแท๊กเจ้ตาล

 

Aree Plainpeng



ทำเนียบ ประตู 4

หยุดสัมปทานอัปยศ

 

https://today.line.me/TH/pc/article/momPlZ?utm_source=lineshare

 

ที่ฉันบอกว่าเรากำลังมีปัญหาอยู่ .. ปัญหามาก .. ฉันตกใจ

 

“หมอระวี” โวยทีโออาร์อัปยศประมูลบงกช-เอราวัณ จี้นายกฯ ชะลอเปลี่ยนเป็นสัญญาจ้าง เผยแพร่: 17 ก.ย. 2561 10:44 ปรับปรุง: 17 ก.ย. 2561 11:08 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นพ.ระวี มาศฉมาดล (แฟ้มภาพ)
“หมอระวี” โวยทีโออาร์อัปยศประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ จี้ “บิ๊กตู่” ชะลอการประมูลออกไปก่อน ย้ำต้องเปลี่ยนระบบทีโออาร์เป็นสัญญาจ้างผลิต พร้อมตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ เชื่อจะทำให้ประเทศได้รับผลประโยชน์สูงสุด

วันนี้ (17 ก.ย.) นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ แถลงข่าวคัดค้านทีโออาร์ที่จะใช้ในการประมูลแหล่งแหล่งบงกช-เอราวัณในอ่าวไทย ที่ก่อนหน้านี้เอกชนได้สัมปทานมานานกว่า 40 ปีแล้ว และจะหมดอายุสัมปทานในปี พ.ศ. 2565-2566 นี้ โดยที่ผ่านมาในระบบสัมปทานนั้นประเทศไทยได้รายได้เป็นค่าภาษีและค่าภาคหลวงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้ง 2 แหล่งนี้ผลิตปิโตรเลียมมูลค่า 2 แสนล้านบาทต่อปี สร้างรายได้ให้เอกชนจำนวนมหาศาล

นพ.ระวีกล่าวต่อว่า เดิมรัฐบาลแถลงว่าจะทำการประมูลในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยทีโออาร์เป็นระบบแบ่งปันผลผลิตแต่ปิโตรเลียมที่ได้ให้เอกชนเป็นผู้นำไปขายและมีระยะสัญญาใหม่ 36 ปี โดยมีเอกชน 5 บริษัทได้ยื่นความจำนงจะเข้าประมูล ปรากฏว่าขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังเร่งกำหนดการรับซองประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เร็วกว่ากำหนดถึง 2 เดือน และจะมีการเปิดซองประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้เลย โดยมีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าที่เร่งประมูล เพราะเรื่องผลประโยชน์หรือไม่

“ปัญหาคือ ทีโออาร์ของกระทรวงพลังงานที่จะใช้ในการประมูลครั้งนี้ไม่ใช่ทีโออาร์ที่จะทำให้ประเทศได้รับรายได้ที่สูงสุด สำหรับแหล่งปิโตรเลียมเมื่อครบอายุสัมปทานอุปกรณ์ทุกอย่างตกเป็นของประเทศ เพราะฉะนั้นจะต้องใช้ทีโออาร์ในระบบสัญญาจ้างผลิตที่ประเทศจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดประมาณ 90% จาก 2 แสนล้านต่อปี และปิโตรเลียมที่ได้รัฐจะต้องตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติที่รัฐถือหุ้น 100 % ขึ้นมาเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการ” นพ.ระวีกล่าว

นพ.ระวีกล่าวต่อว่า พรรคพลังธรรมใหม่จึงขอคัดค้านทีโออาร์อัปยศนี้และขอเรียกร้องให้รัฐบาลชะลอการประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้ออกไปก่อน และแก้ไขทีโออาร์ให้ใช้ระบบสัญญาจ้างผลิตและตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติที่รัฐถือหุ้นให้เรียบร้อยก่อนจึงจะทำการประมูล ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้จากทีโออาร์คนละแบบนี้อาจจะมีมูลค่าถึง 1 แสนล้านบาทต่อปี

https://mgronline.com/politics/detail/9610000092980

 

ระทึก!! น้ำป่าซัดดินทรุดรถยนต์ตกลงไปในลำน้ำอ.ปัว จ.น่าน!!