ติดตามสถานะการณ์

Jeerachart Jongsomchai


... “Brexit ทำสเปนปวดหัวกับดินแดนยิบรอลต้า ประตูสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน”


... “ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” นั้นเป็นแหล่งดินแดนยุทธศาสตร์ที่สำคัญขอเส้นทางการค้า การล่าและการสร้างอำนาจของมหาอำนาจในสมัยโบราณ ทั้งกรีก โรมัน อ๊อตโตมัน ใครอยากได้เป็นใหญ่ต้องครอบครองเส้นทางการเดินเรือตรงนี้ให้ได้ และเมื่อก่อนที่จะมีการเปิดเส้นทางคลองสุเอสในปี 1869 ที่อียิปต์ที่ทำให้ยุโรปไปล่าอาณานิคมในเอเชียได้โดยผ่านทะเลแดงนั้น “ประตูของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนก็คือดินแดนยิบรอลต้า” นี่เอง


... ถ้า ในวันที่ 29 มีนาคม 2019 ปีหน้านี้สหราชอาณาจักรออกจากอียูเป็นจริง จะกระทบกับดินแดนทั่วโลกที่ขึ้นตรงกับอังกฤษด้วย ที่มี14 แห่งและ 12 ส่วนนั้นเป็นเกาะ และหนึ่งในดินแดนเหล่านั้นที่กำลังมีปัญหาก็คือ “ยิบรอลต้า”


... “ยิบรอลต้า” เป็นดินแดนที่เหมือนติ่งเล็กๆปลายคาบสมุทรไอบีเรียน ที่เป็นที่ตั้งของประเทศโปรตุเกศและสเปนเป็นสำคัญที่ตรงข้ามกับประเทศโมร็อคโกในทวีปอาฟริกาทิศเหนือ ที่ตอนนี้เป็นดินแดนที่ขึ้นตรงกับ “อังกฤษ” แม้ว่าดินแดนนี้จะมีรัฐบาลเล็กๆดูแลปกครองตัวเอง แต่ก็ต้องขึ้นกับอังกฤษสองอย่างที่สำคัญคือ “ด้านการป้องกันตัวเองทางทหารและด้านนโยบายต่างประเทศ” ต้องขึ้นกับอังกฤษเท่านั้น คล้ายๆกับ สก็อตแลนด์ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ


... ปัจจุบันนี้ ประชาชนทั้งสองฝั่งประมาณ 13,000 คนได้เดินทางข้ามแดนระหว่างประเทศ “สเปน” และ “ยิบรอลต้า” ไปมาทำงานในทุกๆวัน และมีคนสเปนเข้ามาทำงานที่ยิบรอลต้า 8,000 คน เนื่องจากเป็นรัฐที่เล็กๆทำให้ยิบรอลต้าต้องพึ่งพาและมีปฏิสัมพันธ์กับสเปนมากมาย ทั้งวัสดุก่อสร้าง สินค้าบริการที่ต้องนำเข้าจากสเปนมากเป็นมูลค่า 500 ล้านยูโรต่อปี แต่ตอนนรี้ทำได้ง่ายเพราะว่าอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของอียู แต่ถ้าอังกฤษแยกออกมา การเข้าออกของผู้คนและสินค้า การเงินจะยากมากขึ้นทันที ต้องผ่านด่านตรวจการเข้าออก


... ในขณะที่ธุรกิจทำเงินของยิบรอลต้าปัจจุบันที่สำคัญก็คือ การพนันออนไลน์ การลงทุนทางการเงินนอกประเทศ และการขายสินค้าปลอดภาษี ที่แต่เดิม การนำเขาส่งออกสินค้าบริการ ต่างๆของทั้งสองฝั่งทำได้ง่ายภายใต้นโยบาย “ตลาดเดียวของยุโรป” แต่เมื่ออังกฤษและดินแดนบริวารออกจากยุโรปในปีหน้า 2019 นี้ จะทำให้การนำเข้าสินค้าบริการ ทั้งการพนันออนไลน์ การลงทุนทางการเงินระหว่างประเทศ สินค้าปลอดภาษี หรือแม้แต่การเข้าออกของผู้คนระหว่างยิบรอลต้ากับสเปนหรือประเทศในยุโรป จะทำได้ยากขึ้น ต้องมีการตรวจเอกสารที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือภาษีศุลกากรที่แตกต่างออกไป ที่คาดการณ์ว่าจะยุ่งยากซับซ้อนลำบากมากกว่าเดิมแน่นอน


... ตามรายละเอียดในข้อตกลงนั้นยุโรปหลักต้องตกลงในภาพรวมกับอังกฤษให้ได้ก่อน แต่แค่นั้นไม่เพียงพอ เพราะดินแดนทั่วโลกที่ขึ้นกับอังกฤษในแต่ละส่วน อย่าง “ยิบรอลต้า” เองก็ต้องมาทำข้อตกลงรายละเอียดปลีกย่อยกับยุโรปอีกเช่นกัน และก็เป็นยิบรอลต้าเอง ที่มีปัญหาที่สุด เพราะว่าเป็น “ประตูของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” ดินแดนสมรภูมิการค้า การเมืองที่สำคัญมากแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน


... ที่สำคัญนักการเมืองคนสำคัญ นาย “ฟาเบียน ปิคาร์โด” ที่เป็นหัวหน้าของรัฐมนตรียิบรอลต้า หัวหน้าพรรคแรงงานสังคมนิยมยิบรอลต้า ได้ออกมาบอกว่า “ยิบรอลต้าจะไม่ยอมกลับไปเป็นเมืองส่วนหนึ่งของสเปนไม่ว่าจะส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดโดยสมบูรณ์ และจะไม่เสียอธิปไตยเพื่อการตลาดอย่างเด็ดขาด”


... และอังกฤษนั้นฉลาดในการใช้ “พลังนุ่ม” ในการปกครองดินแดนนี้ โดนผู้ปกครองนักการเมืองชั้นนำยิบรอลต้าในอดีตนั้น มักจะได้ถูกส่งไปเรียนศึกษาต่อที่อังกฤษเมืองแม่ ทำให้มีความภักดีในการจะอยู่ภายใต้อำนาจอังกกฤษไปตลอด ( เหมือนที่ประเทศมหาอำนาจต้องการสร้างอิทธพลทางการทหาร ก็ให้ทุนนายทหารจากประเทศเล็กๆทั่วโลกไปเรียนต่อที่ประเทศมหาอำนาจ ทำให้เกิดความสัมพันธ์ในการซื้ออาวุธและนโยบายทางการทหารได้ )


... “ยิบรอลต้า” เป็นดินแดนเก่าแก่มาตั้งแต่โบราณ แม้จะเป็นดินแดนเล็กๆ แต่เป็นดินแดนที่มีวิวัฒนาการมานาน จากดินแดนแห่งการเคารพนับถือในการต่อสู้แย่งชิงและเป็นเมืองป้อมปราการทางทหารเก่าแก่แต่โบราณ จากนั้นก็เป็นเมืองใต้การปกครองของอาณาจักรโรมัน และหลังจากโรมันล่มสลายก็เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรวิสิก็อธ ที่เป็นคนเชื้อสายเยอรมันเผ่าหนึ่ง ในดินแดนคาบสมุทรไอบีเรี่ยน ระหว่างปี 418 – 711 และจากนั้นก็ตกเป็นดินแดนใต้อำนาจของอาณาจักรอิสลามของชาวมัวร์ ที่ถูกเรียกว่า “Jebel Tariq “ ที่ตอนหลังถูกเรียกว่า “ภูเขาแห่งทาริค” ที่ตอนหลังเรียกเพี้ยนเป็น “ยิบรอลต้า”


... จากนั้นฝ่ายคริสเตียนและอิสลามต่างก็แข่งขันแย่งชิงดินแดนยุทธศาสตร์กันในเสื้อคลุมนามสงครามศาสนา ปี 1309 ฝ่ายคริสได้ไป แต่ในปี 1333 ฝ่ายอิสลามมัวร์แย่งคืนมาได้ แต่ในปี 1462 ฝ่ายคริสต์แย่งกลับไปครอบครองได้อีกและปกครองมายาวนาน และเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสเปนจนถึงปี 1704 จนเมื่อเกิดสงครามแย่งชิงบัลลังค์ของสเปนทำให้สเปนต้องเสียดินแดนสำคัญป้อมทหารนี้ไปให้ “อังกฤษ” ในปี 1713 ตามข้อตกลงอูเทรท


... การเสียดินแดนนั้นหลายร้อยปี สเปนพยายามจะเอาดินแดนนี้คืนมาก แต่อังกฤษไม่ยอมปล่อยไปอย่างเด็ดขาดแม้ผ่านมานานหลายร้อยปี เพราะเป็นประตูของยุโรปใต้ ในยุคล่าอาณานิคม อังกฤษใช้ “ยิบรอลต้า” เป็นจุดแวะพักผู้คนและสินค้า ดูแลรักษาเรือ ในเส้นทางจากประเทศไปยังอินเดีย ดินแดนอาณานิคมสำคัญของตนในเอเชีย


... ... “สเปน” นั้นต้องการเอาดินแดนนี้กลับมาเป็นของตัวเองนานแล้วทั้งแบบสงครามและการทำประชามติ แต่ว่าในอดีตมีการประชามติของประชาชนยิบรอลต้าปรากฏว่าคนที่นั่นต้องการเป็นเมืองขึ้นของ “อังกฤษ” อยู่ต่อไป และที่ขัดแย้งคือในกรณีของ Brexit ล่าสุดนี้ ยิบรอลต้า กลับต้องการที่จะอยู่ภายใต้อียูเหมือนเดิม เพราะจะทำให้สะดวกสบายในการติดต่อนำเข้าสินค้าบริการและผู้คนจากสเปน จากการทำประชามติ 98% ของชาวยิบรอลต้าต้องการอยู่ในอียูต่อ


... ตอนนี้ “ความแต่งต่างระหว่างชาวยิบรอลต้าและชาวสเปน” โดยเฉพาะดินแดนอัลดาลูเซียที่เดิมเป็นดินแดนศาสนาอิสลามในสเปน นั้นมีมาก เพราะว่าคนฝั่งสเปนนั้นคนว่างงานสูงและ อัตราการลักลอบค้ายาเสพติดเช่นบุหรี่เข้ามาในสเปนโดยผ่านยิบรอบต้าก็มีมากกว่าเช่นกัน และนับวันจะเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าราคาขายบุหรี่ในสเปนจะแพงกว่าที่ยิบรอลต้ามาก เพราะขึ้นภาษีเยอะ รวมทั้งหลายบริษัททั้งๆมีกิจการในสเปนแต่กลับไปจดทะเบียนในยิบรอลต้าเพราะเสียภาษีน้อยกว่า เป็นการหลบเลี่ยงภาษีที่ทำให้สเปนไม่พอใจอย่างมาก


... ทำให้การเจรจาระหว่าง “สเปนและอังกฤษ” ยังต้องยุ่งยากและเป็นยกที่สองของเรื่องนี้อีกนาน และไม่จบง่ายๆ


( ... การเสียดินแดนบางครั้งมันง่าย แต่การเรียกเอากลับคืนมานั้นยากมาก เช่นเดียวกับที่ไทยเพิ่งจะเสียดินแดนหน้าบันไดทางขึ้นและบริเวณรอบๆที่เพื่อนบ้านเพิ่งทำทางขึ้น “เขาพระวิหาร” จากการชงของพรรคการเมืองแดง นาย นพโดน ที่ยื่นให้ฝ่ายกัมพูชาไปยื่นเป็นมรดกฝ่ายเดียว และตามมาด้วย นายมากสีฟ้า ส่งคุณสุวิทย์ไปศาลโลกแบบไม่จำเป็น คุณสุวิทย์ก็โทรบอกพี่มากฟ้าแล้วว่าอย่าเซนท์ แต่พี่มากฟ้ามาดนุ่ม คงอยากเสียดินแดนมาก ไม่รู้เพราะอะไรจึงต้องการยกดินแดนให้เพื่อนบ้าน ที่ก่อนนั้นกำนันนกหวีดได้บินไปหาฮุนเซน แล้วบอกว่าพื้นดินแค่แมวดิ้นตาย ที่หลายฝ่ายวิเคราห์ว่าเป็นเรื่องของสัมปทานทางทะเล ที่บริษัทน้ำมันต่างแดน ถ้าอยากได้สัมปทานในน่านน้ำเพื่อนบ้าน ต้องเอาดินแดนนี้มาให้เพื่อนบ้านก่อน เพราะว่าดินแดนนี้ที่หน้าเขาพระวิหารนี้ จะเป็นต้นทางในการปักปันเขตแดนทางบกและยาวไปเป็นน่านน้ำระหว่างไทยกับฮุนเซนประเทศ )


.


.


.

https://elpais.com/elpais/2018/11/30/inenglish/1543581262_378313.html

https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_Gibraltar

 

Gossipสาสุข


เลือกตั้งแพทยสภา "ไม่เลือกเขา เขาก็กลับมา"

•

•

จนถึงตอนนี้ บรรดาแพทย์ทั้งหลาย น่าจะได้บัตรลงคะแนนเลือกตั้ง กรรมการแพทยสภา วาระ 2562 – 2564 กันเรียบร้อยแล้ว

•

อย่างที่บอกก่อนหน้า เลือกตั้งแพทยสภาหนนี้ คึกคักเป็นพิเศษ มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งกว่า 117 คน ทั้งอาจารย์หมอ อดีตข้าราชการระดับสูง รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่

•

ส่วนหนึ่งก็เพราะแพทยสภา เพิ่งมีที่ทำการใหม่ใหญ่โต รวมถึงมีงบประมาณท้องพระคลัง อีกมากพอสมควร

•

เรียกได้ว่าเป็นสภาวิชาชีพ ที่หรูหรา อู้ฟู่ เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ สมฐานะวิชาชีพหมอ ที่สังคมให้ความนับถือ

•

จะบอกว่า แพทยสภา ล่ำซำก็คงไม่ถูกนัก เพราะกระเป๋าเงินตัวจริงคือ แพทยสมาคม เราจึงเห็นความเชื่อมโยงและความพิเศษของกรรมการแพทยสภา ที่ไม่เหมือนสภาวิชาชีพอื่นๆ

•

ความพิเศษของกรรมการแพทยสภา ก็คือ สามารถลงรับสมัครรับเลือกตั้งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่จำกัดวาระ ต่างจาก ทันตแพทยสภา สภาเภสัชกรรม หรือ สภาการพยาบาล

•

เราจึงได้เห็นคนหน้าเดิมๆทั้งจากแพทยสมาคม และขาใหญ่ ขาประจำ ผลัดเปลี่ยนดำรงตำแหน่งกันเสมอมา และหน้าตากรรมการแพทยสภา เลขาธิการแพทยสภา นายกแพทยสภา ก็มีแต่ชื่อ สมศักดิ์ โล่ห์เลขา, อำนาจ กุศลานันท์, อิทธพร คณะเจริญ, สัมพันธ์ คมฤทธิ์ ซึ่งอยู่ในทีมชมรมแพทย์เพื่อวิชาชีพแพทย์ (ชพพ.)

•

จะว่าไป ทีมนี้ ก็ทำหน้าที่ได้ดี ตามความคาดหวังของแพทย์ เพราะสามารถปกป้องผลประโยชน์ของหมอ และดูแลสิทธิของหมอตลอดมา

•

สังเกตได้จากการหยุดยั้ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายทางการแพทย์ ที่ ปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา พยายามเสนอต่อทุกรัฐบาลได้อย่างแข็งขัน

•

แต่ในอีกด้าน บรรดาเอ็นจีโอ และคนที่ไม่ใช่หมอ ทั้งหลาย กลับเรียกแพทยสภา ที่อยู่ภายใต้ หมอสมศักดิ์ และคณะ ว่าเป็น "สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลเอกชน"

•

จากผลงานการ "ปกป้อง" หมอ ที่อยู่ในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ได้ดี เช่นเดียวกับการเป็นปากเป็นเสียงแทนหมอทุกคน ที่ถูกฟ้อง และถูกตั้งคำถามในการปฏิบัติหน้าที่

•

อย่างไรก็ตาม หมอเด็กๆ และหมอในโรงพยาบาลรัฐ ทำงานหนักอย่างไร ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น

•

จะมีก็แต่เฉพาะช่วงเลือกตั้งกรรมการแพทยสภาชุดใหม่ ที่มักจะมีคนหาเสียงว่า จะผลักดันการจำกัด "ชั่วโมงการทำงาน" ของหมอโรงพยาบาลรัฐให้น้อยลง เท่านั้น

•

แต่สุดท้ายก็เป็นแบบเดิมเสมอมา นั่นคือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง..

•

ช่วงนี้ บรรดากรรมการชุดเดิม ก็เลยออกอาการ "แอคทีฟ" มากเป็นพิเศษ เพื่อให้มีชื่อตัวเองติดในข่าว เพื่อน้องๆ หมอจะรู้จักมากขึ้น และกาบัตรลงคะแนนให้บ้างเท่านั้น

•

อีกหนึ่งข้อสังเกตสำหรับทีม ชพพ.คือ ครั้งนี้ นพ.สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์มะเร็งสุราษฎร์ธานี และอดีตเลขาธิการแพทยสภาในวาระ 2560-2561 ที่ลาออกภายหลังจากถูกกดดันจากกรรมการแพทยสภาคนหน้าเดิม กรณีแพทยสภาถอนฟ้องปรียนันท์ ซึ่งทำให้ส้มหล่นไปอยู่ที่ หมอจ๊วด นพ.อิทธพร คณะเจริญ ได้รับเลือกขึ้นมาเป็นเลขาธิการแพทยสภาแทน เดิม หมอสุกิจ อยู่ทีมนี้ เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็อยู่ทีม ชพพ. แต่ในโบรชัวร์หาเสียง ชพพ.ปีนี้ไม่มีชื่อหมอสุกิจแล้ว

•

และหมอสุกิจก็อาจจะเป็นผู้สมัครอิสระรายเดียวของปีนี้

•

อีกความเปลี่ยนแปลงหนึ่งของแพทยสภา ก็คือ การถือกำเนิดของหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.) ซึ่งเกิดจากการผลักดันของแพทยสภา

•

โดยมี หมอจ๊วด พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา คนปัจจุบัน เป็นตัวตั้งตัวตี ไปจับมือกับ สถาบันพระปกเกล้า สร้างหลักสูตรเสริม "คอนเนคชัน" ของหมอ-นักธุรกิจ-ข้าราชการระดับสูง-นักการเมือง-สื่อมวลชน ให้รู้จักมักคุ้นกัน

•

ปัจจุบัน ปธพ.เปิดมาจนถึงรุ่นที่ 7 และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะ "หมอ" อยากมีสังคมที่กว้างขึ้น ไม่ใช่เดินไปเดินมา เจอแต่พวก "อาจารย์" ด้วยกัน

•

ด้วยเหตุนี้ ก็ทำเงินให้แพทยสภา มากขึ้นด้วย เพราะค่าเล่าเรียนต่อคน แม้จะไม่ใช่ถูกๆ แต่สำหรับบรรดาอาจารย์หมอแล้ว นี่คือการลงทุนที่ไม่แพงนัก และผลตอบรับก็ค่อนข้างคุ้มค่า

•

ประเมินกันว่าตั้งแต่เปิดหลักสูตร ปธพ. มา สามารถทำเงินเข้าแพทยสภา ได้หลายสิบล้านบาท

•

อย่างไรก็ตาม มีเสียงออกมาจากคนใน "สถาบันพระปกเกล้า" พาร์ทเนอร์ของแพทยสภา ออกมาเหมือนกันว่า ไม่ค่อยพอใจกับผลตอบรับของหลักสูตรนี้เท่าไหร่

•

ไม่ว่าจะเป็น คุณภาพงานวิชาการ หรือการดำเนินหลักสูตร ที่จะออกไปในแนวสร้างสายสัมพันธ์ และคอนเนคชัน มากกว่าที่จะสร้าง "ธรรมาภิบาล" กันจริงๆ

•

ซ้ำยังรู้สึกว่าเป็นการเอาชื่อ "สถาบันพระปกเกล้า" ไปพะยี่ห้อ เพื่อหาเงินหาทอง

•

แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะผู้ร่วมหลักสูตรทั้งหลาย "พอใจ" และที่พอใจมากกว่าใคร ก็เห็นจะเป็น หมอจ๊วด นั่นแล

•

คราวนี้ ใครอยากเลือก หมอจ๊วด อิทธพร หมอก็ลงสมัคร ในนาม "ชมรมแพทย์อาสา" โดยดึงเอา หมอเมธี วงศ์ศิริสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภาคนปัจจุบัน และ น.ท.นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภาอีกคน แยกตัว แยกทีม จากกลุ่ม "หมอสมศักดิ์" ซึ่งอยู่ชมรมแพทย์เพื่อวิชาชีพแพทย์ มาชัดเจน

•

ซ้ำยังชวนอาจารย์หมออย่าง หมอวิศิษฏ์ วามวาณิชย์ จากศิริราช หมอฉันชาย สิทธิพันธุ์, หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา จากจุฬาฯ รวมถึง หมอสุรเดช วลีอิทธิกุล รองปลัดกระทรวงแรงงาน มาร่วมทีมด้วย

•

และถ้าหากใครอยากเลือกกลุ่ม "แพทย์รุ่นใหม่" งานนี้ก็มีทีมของ นพ.สุธีร์ รัตนะมงคลกุล จากคณะแพทยศาสตร์ มศว มาให้เลือก ภายใต้ชื่อ "กลุ่มแพทย์เชื่อมสังคม" ที่ส่วนใหญ่เป็นหมอเด็กๆ อายุไม่ถึง 40 ปี เช่น นพ.นิธิวัชร์ แสงเรือง จากสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP), นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ อาจารย์หมอด้านนิติเวช จากรามาฯ หรือ นพ.ศุภชัย ครบตระกูลชัย ซึ่งอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราช บ้านดุง ก็กาทีมแพทย์เชื่อมสังคมได้

•

แต่งานนี้ ไม่ต้องเดาก็พอรู้ว่า ยังไงทีมหมอสมศักดิ์ก็กลับมาเป็นส่วนใหญ่ จะมีให้ลุ้นอยู่บ้างก็คือ บรรดาหน้าใหม่ๆ จะได้รับเลือก ติดโผเข้ามามากน้อยแค่ไหน เท่านั้นเอง


#แพทยสภา

 

Khaosod - ข่าวสด


รัฐบาลใจดี จ่อชงแจกซิมมือถือ ใช้ฟรีครึ่งปี หวังใช้แล้วประชาชนจะหายจน!!!


#ข่าวสด #บิ๊กตู่ #แจกซิมฟรี

 

8ความเสี่ยงหลักที่ภาคเอกชนต้องเผชิญ


Publisher : 1 December 2018

รายงานพิเศษ

เอกชนผวา!!!

ปัจจัยเสี่ยงปีหน้ายาวเป็นหางว่าว

เริ่มไม่หมูซ่ะแล้วสำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2562 เมื่อหลายสำนักด้านเศรษฐกิจ ออกมาพยากรณ์ล่วงหน้าแล้วว่า ปี 2562 การเติบโตของจีดีพี และการส่งออกจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2561 ด้วยเหตุจากหลายปัจจัยลบ รุมเร้ารอบด้านแบบชักแถวเรียงรายเข้ามา

สอดคล้องกับที่ก่อนหน้านี้ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยปีหน้า ในงานสัมมนาเศรษฐกิจประจำปี 2561 สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะสะท้อนการฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ยังต้องติดตาม 3 ปัจจัยเสี่ยง คือ มาตรการกีดกันทางการค้า ความผันผวนตลาดเงินตลาดทุนโลก และวัฏจักรดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้น

เพื่อเป็นการยืนยันว่าปีหน้าการทำธุรกิจไม่หมูจริง! ต้องมาฟังเสียงภาคเอกชนตัวจริง เสียงจริง สะท้อนมุมมองชัดเจนแค่ไหนฟังกันชัดๆ จากปากคนทำธุรกิจ ที่ส่วนใหญ่ฉายภาพไปในทิศทางเดียวกัน ถึงข้อกังวลหลายปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หลายปัจจัยก็อยู่นอกเหนือการควบคุม ล้วนเชื่อมโยงมาถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทั้งสิ้น โดยเฉพาะ8ความเสี่ยงหลัก(ดูกราฟฟิก)ที่ภาคเอกชนเป็นห่วง!!!




-เจอแน่จีนถล่มตลาดหลากสินค้า

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปี 2562 ยังมีความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นและกระทบต่อการค้าของไทย คือผลต่อเนื่องจากสงครามการค้าระหว่าง 2 ผู้นำทางเศรษฐกิจอย่างอเมริกาและจีน ที่จะสะเทือนมาถึงประเทศคู่ค้า จนไม่สามารถควบคุมได้ จะทำให้บรรยากาศการค้าโลกแย่ลง เชื่อมโยงมาสู่ผลกระทบทางอ้อม จะทำให้สินค้าที่อยู่ในซัพพลายเชนของจีนลดลง ที่สำคัญบรรดาสินค้าที่จีนส่งไปขายยังอเมริกาไม่ได้ จะไหลเข้ามายังตลาดเอเชีย รวมถึงเข้ามาตีตลาดในประเทศไทยด้วยสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น



ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในอเมริกาก็อยู่ในภาวะขาขึ้น สร้างแรงกดดันให้ไทยอาจตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายด้วย ก็จะส่งผลกระทบถึงผู้ประกอบการที่กู้เงินจะต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น รวมไปถึงการค้าขายเริ่มยากขึ้นเพราะหลายประเทศมีนโยบายกีดกันการค้ามากขึ้น ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการค้าขาย นอกจากนี้ภาคเอกชนยังต้องเฝ้าจับตาสถานการณ์การเมืองไทยทั้งก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง

-หลายปัจจัยลบทุบค้าโลกชะลอตัว

สอดคล้องกับที่ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด(มหาชน)หรือ SITHAI ฉายภาพให้เห็นถึงข้อกังวลว่า ปี 2562 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ สงครามการค้าระหว่างประเทศอเมริกาและจีน ซึ่งคงไม่จบเร็ว และมีผลกระทบไปทั่วโลก ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกันในสินค้าหลายๆประเภท เพราะถูกสหรัฐฯขึ้นภาษีขาเข้า เช่น แผงโซล่าร์เซลล์ เครืองซักผ้า เป็นต้น

ขณะเดียวกันก็ยังได้รับผลดีด้วย ในสินค้าบางประเภทจากสงครามการค้า เพราะไทยส่งออกไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ เช่น ยานพาหนะ และส่วนประกอบเคมีภัณฑ์ เหล็ก ผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรและส่วนประกอบ เป็นต้น




ส่วนผลดีในระยะยาว คือ ผู้ประกอบการหลายสัญชาติในจีน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และผู้ประกอบการชาวจีน ก็ย้ายฐานการผลิตมาไทยบางส่วน เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า เช่น ผลิตภัณฑ์จากยางพารา สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

“มองโดยรวม สิ่งที่จะเกิดขึ้นและต้องจับตาติดตามคือ ปีหน้าการค้าโลกจะชะลอตัวเนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น ผลกระทบจากสงครามการค้า การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในหลายประเทศ อันเกิดจากสภาพหนี้สินครัวเรือนสูง ทำให้กำลังซื้อหดหาย ผู้บริโภคพยายามชะลอการใช้จ่ายและการลงทุนใหม่ๆยังชะลอตัวอีกด้วย”

-รอดูทีมศก.รัฐบาลใหม่แก้ปัญหาปากท้อง

ด้านนายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา และนักธุรกิจที่ทำการค้าในประเทศไทยและประเทศเมียนมา กล่าวแสดงความเห็นถึงปัจจัยบวกและลบที่จะเกิดขึ้นในปี 2562 ว่ามีมุมมองจาก 2 ส่วนหลักคือ

1. ปัจจัยภายในประเทศ คือสัญญาณด้านบวก ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะทำให้ความเชื่อมั่นของต่างประเทศต่อรัฐบาลไทยมีมากขึ้น จะส่งผลต่อการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ที่เข้ามา การส่งออกก็จะดีขึ้น ด้านบริการหรือการท่องเที่ยวจะสร้างความเชื่อมั่นต่อต่างประเทศโดยเฉพาะจีน หากมีการเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ถี่ขึ้น ก็จะนำมาซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น



ส่วนสัญญาณด้านลบ หากผลทางการเมืองออกมาไม่เป็นดังที่คาดหวังของคนทั่วไป ก็อาจจะมีการย้อนกลับสู่วังวนเดิมๆ รวมถึงปัจจัยลบที่ควบคุมไม่ได้ อย่างอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน ซึ่งมาจากเหตุของปัจจัยภายนอก จะส่งผลต่อการค้าการส่งออก

“การแก้ปัญหาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ต้องดูจากผลของการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ หากได้คนที่มีฝีมือเข้ามาบริหารนโยบายการเงินการคลังที่ดี รวมถึงแก้ปัญหาปากท้องประชาชนได้ ก็จะช่วยได้มาก เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรที่อยู่ในภาวะที่ตกต่ำมาก หากรัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไขได้ถูกจุด ก็จะสามารถทำให้เลือดหยุดไหลได้”

2. ปัจจัยภายนอกประเทศ ถือเป็นความเสี่ยง โดยเฉพาะสงครามการค้าที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ กำลังทำให้เกิดผลทางด้านการเงินของโลก นำมาซึ่งความไม่แน่นอนของราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนในปีหน้านี้ หากการเตรียมรับมือได้ไม่ดี ก็จะเป็นผลเสียต่อประเทศได้ นอกจากนี้ปีหน้าไทยได้เป็นเจ้าภาพของกลุ่มสมาชิกอาเซียน จะต้องจับตาดูว่ารัฐบาลใหม่จะใช้บทบาทหน้าที่นี้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยได้อย่างไร

ฟังเสียงสะท้อนข้างต้นแล้วพาให้คิดว่าปี 2562 นี้ เราจะรักษาอัตราการส่งออกให้อยู่ในแดนบวกต่อไปเหมือนปี 2560 ที่การส่งออกมีอัตราการขยายตัวถึง 9.86% และปี 2561 เฉพาะ 10 เดือนแรก การส่งออกมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 8.19% และคาดว่าทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าที่ 8% เช่นเดียวกับการเติบโตของจีดีพี ที่ปีก่อนเติบโต 3.9% แต่ปีนี้หลายสำนักต่างคาดการณ์กันว่าจะเติบโตเกิน 4% แน่นอน ในปีหน้าจะรักษาอัตราการเติบโตให้อยู่ในแดนบวกหรือไม่ให้ร่วงลงจากปีนี้ได้อย่างไร

งานนี้คงต้องรอวัดฝีมือทีมเศรษฐกิจรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะสักแค่ไหน ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงปีหน้าที่ยาวเป็นหางว่าว!

http://m.thansettakij.com/content/355582

 

The Public Post


อิหร่านเปิดตัวเรือพิฆาตล่องหนลำใหม่ ผลิตเองในประเทศ เสริมศักยภาพกองทัพเรือ (วิดีโอ)

https://www.publicpostonline.net/20014

 

สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events


พระแม่โลกโอดครวญ? เมื่อ 11/11 !?


ปกติบริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยการเกิดแผ่นดินไหวแต่จู่ๆกลับสงบเงียบและตามมาด้วยคลื่นเสียงที่แปลก และไม่มีใครรู้ว่าทำไมโลกถึงกับดังเป็นเสียงคล้ายกับเตือน


จากนิวยอร์กโพสต์: "เหตุการณ์" ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร

อุกกาบาต?

ภูเขาไฟใต้น้ำ?

การทดสอบนิวเคลียร์?

https://nypost.com/2018/11/29/nobody-knows-why-the-earth-just-rang-like-a-bell/


ในฐานะผู้เชื่อในพระคัมภีร์จะรู้สึกว่าราวกับว่าเราใกล้ชิดกับเวลานั้น เวลาที่พระผู้ช่วยให้รอดจะเริ่มทำให้การปรากฏตัวของพระองค์เป็นที่รู้จักในรูปแบบที่ผิดปกติ เช่น คำพูด เสียงในแผ่นดินโลกเหมือนเสียงระฆัง ฯลฯ


"เรารู้อยู่ว่าบรรดาสรรพสิ่งที่ทรงสร้างนั้นกำลังคร่ำครวญ และผจญความทุกข์ยากด้วยกันมาจนทุกวันนี้ และไม่ใช่เท่านั้น แต่เราทั้งหลายเองด้วย ผู้ได้รับพระวิญญาณเป็นผลแรก ตัวเราเองก็ยังคร่ำครวญคอยการที่พระเจ้าทรงให้เป็นบุตร คือที่จะทรงให้กายของเราทั้งหลายรอดตาย"


-


"ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้เห็นอะไรแบบนี้" นักธรณี National Geographic กล่าว.

https://www.nationalgeographic.com/...ake-waves-rippled-around-world-earth-geology/

 

ละหมาดเสร็จก็ได้พบพระเจ้า

แนวร่วม BRN กลับใจ


ดาบนั้นคืนสนอง ถ้าจับตายไม่ได้คงมีการสร้างข่าวใส่ร้ายเจ้าหน้าที่อีก


แต่งตัวคล้ายกับทหารด้วย เพื่ออะไร! ต้องการใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ยิงชาวบ้านมุสลิมเท่านั้น หากจับตายไม่ได้แน่นอนลูกเมียเพื่อนบ้านไล่เจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่แน่

จับตายแนวร่วมฯ นายอาบะห์ ดีสะเอะ มือยิง นายดุลลาเต๊ะ ยายา กำนัน ต.ตาเน๊าะปูเต๊ เสียชีวิตหลังกลับละหมาด


30 พย.61 เมื่อเวลา 13.30 น. คนร้าย 2 คนขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟสีดำ เป็นยานพาหนะ ใช้อาวุธปืน ตามประกบยิง นายดุลลาเต๊ะ ยายา อายุ 49 ปี กำนัน ต.ตาเน๊าะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เข้าลำตัว 5 นัด เสียชีวิต เหตุเกิดขณะกลับจากละหมาด หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถ จยย. หลบหนีไปทาง บ้านตาเน๊าะปูเต๊ะ เจ้าหน้าที่ไล่ล่าติดตามจนวิสามัญคนร้ายได้

 

Strange Sounds


ดินถล่มขนาดใหญ่กลืนขึ้นบ้านและถนนในอินโดนีเซีย...


http://strangesounds.org/2018/11/landslide-swallows-homes-indonesia-video-pictures.html

 

Clima Extremo 24


สวีเดน



ปรากฎการณ์ในท้องฟ้าของVästeras Sweden เกี่ยวกับการสะท้อน แสง/ การหักเหของแสงของอนุภาคน้ำแข็งขนาดใหญ่ในเมฆ

 

มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน


MBS ผวาสั่งกองกำลังจากฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก เข้าอารักขาพระราชวัง


-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


MBS ห่วงหน้าพะวงหลัง ขณะที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ในบัวโนสไอเรสอาร์เจนตินา กลัวโดนปฎิวัติทำรัฐประหารยึดอำนาจเพื่อโค่นล้มเขาโดยราชวงศ์บางคน สั่งกองกำลังชายแดนเข้าเมืองหลวงรักษาพระราชวัง


เว็บไซต์ข่าวของ Emirati al-Khaleej Online รายงานว่ากองกำลังถูกย้ายจากจังหวัดทางตะวันออกและตะวันตกของประเทศเข้ายังเมืองหลวงริยาดโดยด่วนเพื่อรักษาพระราชวังในขณะที่ MBS อยู่ในอาร์เจนตินาในการประชุมสุดยอด G20


Khalid bin Farhan Al Saud ผู้ซึ่งพำนักอยู่ในประเทศเยอรมนีได้กล่าวว่าการรัฐประหารในราชวงศ์กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ และกลุ่มก่อการในครั้งนี้กำลังรวบรวมพลอยู่ซึ่งได้เป็นส่วนใหญ่แล้วเพื่อใช้ปลด MBS


Khalid bin Farhan Al Saud ให้สัมภาษณ์กับ al-Khaleej Online ว่ารูปแบบของรัฐบาล MBS คือ "ไม่ประสบการณ์ บริหารไม่เป็น และหลงทาง"

การตัดสินใจของราชวงศ์ซาอุดิอารเบียบางคนในการทำรัฐประหารต่อกษัตริย์ซัลมาล และMBS "มันคือคลื่นแห่งความรุนแรงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นจริงในอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ที่ปกครองโดยการใช้วิธีการที่ไร้ศีลธรรมและป่าเถื่อน"

"ฉันหวังว่าจะมีการรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่ป่าเถื่อน ขับไล่กษัตริย์ซัลมาล และMBS และเข้าควบคุมประเทศให้มีความปลอดภัย" เขากล่าวเสริม


นอกจากนี้นักกิจกรรมออนไลน์ชาวซาอุดิอาระเบียที่รู้จักกันดีชื่อดังของ @muttahidd บน Twitter ได้กล่าวกับ Al Khaleej Online ว่า "เจ้าชายอาเหม็ดได้ประกาศว่า ... การกำจัดกษัตริย์ซัลแมนและMBS ออกไปจากอำนาจซึ่งมีความเป็นไปได้ถึง 95% แล้วเพราะราชวงค์ทุกคนให้คำมั่นสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อเขา"


BY>>>>>Giant Khan<<<<<


http://217.218.67.231/Detail/2018/12/01/581647/Saudi-Arabia-bin-Salman

 

Sayan Rujiramora


ZeroHedge

This Is How The "Everything Bubble" Will End

Tyler Durden Friday 30, Nov


Fed ทำให้เกิดการลงทุนที่ผิดเพี้ยนไป จากการกดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำผิดธรรมชาติ ...มันไปทำให้ธุรกิจลงทุนในทรัพย์สินทุนมากเกินไป โดยใช้เงินกู้ที่ต้นทุนถูกมาก


นี่คือการจัดสรรการลงทุนที่ผิด เพราะในที่สุดอัตราดอกเบี้ยก็จะต้องขึ้นจนได้ ..การลงทุนเหล่านี้ก็ดูจะไม่คุ้ม


นอกจากนี้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ จะทำให้ประชาชนทั่วไปเริ่มเป็นหนี้ทั้งจากการจำนองและการเป็นหนี้ส่วนบุคคล ..ตราบใดที่อัตราดอกเบี้ยยังต่ำอยู่ พวกเขาก็ยังสามารถผ่อนจ่ายคืนหนี้อยู่ได้ และรักษาภาพลวงตาว่ายังคงเป็นลูกหนี้ดี


แต่เมื่ออัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนไป ดอกเบี้ยเงินกู้ปรับสูงขึ้น พวกเขาจะเริ่มหมดความสามารถชำระคืน ในที่สุดก็จะเป็นหนี้เสีย


ฟองสบู่จะโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเงินต้นทุนถูกๆไหลเข้าท่วมในทรัพย์สิน ...ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะให้ผลตรงข้าม มันจะทำให้ฟองสบู่ราคาระเบิดไปเลย


การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เกือบทุกครั้งคือการทำให้เกิดวิกฤติ มันมักจะเริ่มที่ต่างประเทศก่อน แล้วลามกลับมาที่ตลาดสหรัฐในที่สุด .....16 ใน 19 ครั้งของซี่รี่ส์การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ..จะต้องมีวิกฤติที่มาทุบตลาดหุ้นอย่างแรงตามมาด้วย คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ 84% ....(ตามชาร์ทแสดงให้เห็นถึงบางส่วน)


2018 ปีแห่ง "Everything Bubble"


อย่างที่เราเคยรู้ๆอยู่ Fed แก้ปัญหาวิกฤติการเงินปี 2008 ..โดยการเพิ่มเงินเข้าระบบด้วยจำนวนที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ..พิมพ์เงินนับเป็นล้านล้านดอลล่าร์ แต่ตั้งชื่อโครงการให้น่าฟังว่า การผ่อนคลายเชิงปริมาณ Quantitative Easing QE 1,2,และ 3


ขณะเดียวกัน Fed ก็กดให้อัตราดอกเบี้ยลงจนเหลือ 0% ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐเลย ..แล้วก็อ้างเองว่าเพื่อช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ความจริง มันกลับเป็นการบิดเบือน และทำให้การจัดสรรเงินทุนผิดเพี้ยนไปหมด ...เงินทั้งหมดนี้จะต้องถูกกวาดจนเกลี้ยงในที่สุด...


พูดอีกอย่างคือ Fed แก้ปัญหาวิกฤติ..โดยการสร้างวิกฤติที่ใหญ่กว่าขึ้นมา


เงินนับล้านล้านดอลล่าร์ที่ Fed "พิมพ์" ขึ้นมา ไม่ใช่แค่สร้างฟองสบู่ให้กับราคาบ้านและฟองสบู่เทคโนฯเท่านั้น แต่เป็นไปหมดทุกอย่าง ที่เรียกว่า ..everything bubble


Fed ใช้นโยบายดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2008 จนมาถึงเดือนธันวาคม 2015 เกือบๆ เจ็ดปี ....ราคาบ้านถูกปั่นเป็นฟองสบู่ก็เพราะดอกเบี้ยแค่ 1% อยู่ถึง 2 ปี ..ทำให้บอกไม่ถูกเลย..ว่าด้วยดอกเบี้ยต่ำขนาดนี้ เศรษฐกิจถูกบิดเบือนจนเพี้ยนไปแค่ไหนแล้ว


ตั้งแต่ธันวาคม 2015 Fed มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้วหลายครั้ง ประมาณ 0.25% ต่อไตรมาส ...ซึ่งในไม่ช้า วงจรการขึ้นดอกเบี้ยแบบนี้มันก็ต้องไปเจาะเอา everything bubble ให้ระเบิดจนได้ ..เราจะได้เห็นสัญญานเตือนต่างๆถึงเรื่องฟองสบู่ระเบิดที่จะเกิดแน่ๆ..ดังนี้


Warning Sign No.1 --Emerging Markets Are Flashing Red

สัญญานที่ 1 --กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่กำลังส่งสัญญานอันตราย


เมื่อตอนต้นปี ค่าเงินลีร่าของเตอรกีตกไปถึง 40% ..เงินเปโซของอาร์เจนติน่าก็เกิดอาการพอๆกัน .....วิกฤติค่าเงินแบบนี้เป็นตัวชี้ว่าวิกฤติคล้ายกันนี้จะต้องเข้ามาสู่สหรัฐจนได้ ก็เหมือนกับกรณีของวิกฤติการเงินในเอเซียที่ลามถึงรัสเซียจนต้องพักชำระหนี้เมื่อปลายช่วงปี 90s นั่นแหละ


Warning Sign No.2 --Unsustainable Economic Expansion

สัญญานที่ 2 --การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไร้เสถียรภาพ


เงินต้นทุนต่ำนับล้านล้านดอลล่าร์ ไปทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยาวนานมาก โดยวัดจาก GDP ..ซึ่งถ้ามันยาวนานได้ถึง กรกฎาคม 2019 แล้วล่ะก็ นี่จะเป็นครั้งที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐเลย


Warning Sign No.3 --The Longest Bull Market Yet

สัญญานที่ 3 --ตลาดกระทิงที่ยาวนานมาก


เมื่อตอนต้นปี ตลาดหุ้นสหรัฐทำลายสถิติตลาดกระทิง all-time longest ในประวัติศาสตร์ ตลาดพุ่งขึ้นสูงตลอดช่วงสิบปี โดยราคาไม่เคยตกเกิน 20% เลย ...และในเวลาเดียวกัน มูลค่าตลาดก็อยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์มาตลอด


CAPE ratio ..(p/e เฉลี่ย 10 ปี) ของหุ้น S&P 500 สูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ (p/e สูงหมายถึงหุ้นราคาแพง) สูงที่สุดเมื่อครั้งก่อนฟองสบู่ดอทคอมจะแตก


ทุกครั้งที่มูลค่าตลาดมาถึงระดับสูงขนาดนี้ ..มักจะต้องแครชทุกครั้ง


Preparing for the Pop .....เตรียมตัวรับการระเบิด


เศรษฐกิจและตลาดหุ้นของสหรัฐ เลยเวลาที่จะต้องพังไปนานแล้ว ถ้าคิดตามมาตรฐานจากประวัติศาสตร์ ..ไม่ว่า Fed จะทำหรือไม่ทำยังไงก็ตาม


นักลงทุนควรจะต้องเตรียมตัวกันได้แล้ว ทางหนึ่งก็คือเตรียมทำช้อร์ตไว้ได้เลย ลองคิดดู Fed ได้มีการลากยาวเศรษฐกิจของสหรัฐมาได้ยาวนานกว่าที่เคยทำไว้เมื่อยุค 1920s ..นานกว่ายุคดอทคอมหรือยุคฟองสบู่ตลาดบ้านเมื่อคราวซับไพร์ม หรือยุคใดๆในประวัติศาสตร์ ...การแครชครั้งต่อไปนี้ ย่อมต้องรุนแรงมากกว่าทุกครั้งแน่นอน.....


https://www.zerohedge.com/news/2018-11-30/how-everything-bubble-will-end

 

ราชสีห์ จิตอาสา


#ระทึกทั้งรัฐ! ดินไหว 7.0 แม็กนิจูด เขย่า "อลาสกา"

อาฟเตอร์ช็อกกว่า 40 ครั้ง ซัดต่อเนื่อง

( รวมรูปภาพและคลิป )


อลาสการะทึก “ดินไหว” – วันที่ 1 ธ.ค. เอ็นบีซีนิวส์ และ บีบีซี รายงานว่า เมื่อเวลา 08.29 น. ของวันที่ 30 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของ รัฐอลาสกา สำนักธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกาพบ แผ่นดินไหว ขนาด 7.0 แม็กนิจูด มีจุดศูนย์กลางราว 11 ก.ม. ทางตอนเหนือของ เมืองแองเคอเรจ และลึกลงไปใต้ดิน 40.9 ก.ม. เบื้องต้นยังไม่พบผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม หลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย ทั้งอาคารบ้านเรือน ร้านค้า และถนนใกล้สนามบินท้องถิ่นที่เกิดรอยแยกและทรุดตัวเป็นทางยาว


ศูนย์แผ่นดินไหวรัฐอลาสการะบุว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เมืองแองเคอเรจเผชิญกับอาฟเตอร์ช็อกอย่างน้อย 40 ครั้ง รวมถึงอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.7 แม็กนิจูดที่สั่นสะเทือนในไม่กี่นาทีต่อมา นอกจากนี้ยังมีอาฟเตอร์ช็อกสูงกว่า 5.0 แม็กนิจูดอีก 2 ครั้ง สูงกว่า 4.0 แม็กนิจูด 10 ครั้ง และแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกลถึงนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซ็ตส์ ซึ่งอยู่ห่างมากกว่า 7,300 ก.ม. พร้อมแถลงเตือนภัยสึนามิในบริเวณคุ๊กอินเล็ท และคาบสมุทรคีไน แต่ต่อมายกเลิก


ขณะที่ นายบิล วอล์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอลาสกา ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนน รวมทั้งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ เมืองแองเคอเรจเคยเผชิญกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วเมื่อปี 2507 ที่แรงสั่นสะเทือน 9.2 แม็กนิจูด ซึ่งรุนแรงเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์โลก


https://mobile.twitter.com/hashtag/...osod.co.th/around-the-world-news/news_1898127

 

ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี


วันที่ 1 ธ.ค.

ศูนย์ข้อมูลสาธารณภัย ปภ ติดตามสาธารณภัยน่าสนใจต่างประเทศ เหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.0 และ 5.9 บริเวณอลาสก้า


เบื้องต้น

/ บ้านเรือนเสียหาย 130 หลัง

ถนนทรุดตัว 2 เส้นทาง

/ มีผู้บาดเจ็บ 30 ราย

/ ไม่มีรายงานผู่เสียชีวิต

/ ห้อง 61 / กลุ่มไลน์ภาคพื้นแปซิฟิก /

สำนักข่าวต่างประเทศ

 

ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี


20:27 แผ่นดินไหวแมกนิจูด 6.3 ลึก 146 กม.พิกัด 128.74°E 7.47°S ทะเลบันดา อินโดนีเชีย

 

Shaun Kazuck


การปรับเปลี่ยนรอบสุดท้ายของจานแปซิฟิกเหนือได้เริ่มขึ้นแล้ว

 

เก็บตกตะวันออกกลาง


ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศของซีเรีย สามารถยิงสกัดและทำลายเครื่องบินรบและขีปนาวุธ4ลูกที่ยิงโดยรัฐเถื่อนอิสราเอล....


รายงานข่าว เผยว่า กองทัพซีเรีย ยิงเครื่องบินรบและขีปนาวุธ4ลูกที่ถูกยิงมาจากรัฐเถื่อน มุ่งเป้าโจมตีทางตอนใต้ของซีเรีย


“ระบบป้องภัยทางอากาศของเราสามารถยิงสกัดและทำลายเครื่องบินรบ1ลำและขีปนาวุธ4ลูก ก่อนที่ขีปนาวุธดังกล่าวจะถูกยิงถึงเป้าหมาย”

แหล่งข่าวทางด้านความมั่นคงเผยกับสำนักข่าวRIAของรัสเซีย เมื่อคืนวันพฤหัส ที่ผ่านมา


#เก็บตกตะวันออกกลาง!

#ซีเรีย

 

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม Islamic Information Center


ชัยค์ตะมีม บิน ฮะมัด อัษษานี ประมุขกาตาร์ชี้ถึงการสนับสนุนปาเลสไตน์ของกรุงโดฮาพร้อมกับย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องยุติการยึดดินแดนอาหรับโดยอิสราเอล....

 

เจนจิรา จันทรเสนา


ปารีสตอนนี้เลย..


◽️ อ่านเพิ่มเติม:

https://t.co/TfWk7jR4sU

◽️ ชมสด:

ยูทูป https://t.co/QLdCwqMmnD

◽️ บุพเพสันนิวาส

https://t.co/xJz8Ox9cAp

 

La nueva era de la tierra - respaldo


การแจ้งเตือนโลก



ปูตินประธานาธิบดีของรัสเซียบอกว่าสงครามจะต่อกับยูเครนปูตินไม่เคยทำแถลงการณ์นั้น นาทีต่อมามีการเคลื่อนไหวทางทหารมากมายใน odessa ยูเครน

 

La nueva era de la tierra - respaldo



สัตว์ที่สับสนถูกพบบนถนนของ anchorage alaska หลังจากแผ่นดินไหวเมื่อวาน

30.11.2018