ติดตามสถานะการณ์

La nueva era de la tierra - respaldo



พายุที่น่าอัศจรรย์ใน Rio Branco ประเทศบราซิลที่มีลมแรงเกิน 100 กม. / ชม.

2018/12/11

 

La nueva era de la tierra - respaldo



ยูเครนยังคงเคลื่อนย้ายรถถังสงครามไปยังชายแดนที่ติดกับรัสเซีย

10.12.2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo





พายุที่มีกำลังแรงขนาดพายุเฮอร์ริเคน กระทบคอร์โดบา ประเทศอาร์เจนตินา

2018/12/11

 

Clima Extremo 24

บราซิล



พายุรุนแรงกับลมแรงทำให้เกิดความเสียหายใน Porto Seguro, Bahia, Brazil

 

Clima Extremo 24


ชิลี



ไฟไหม้ป่าใน melipilla ชิลี ได้ทำลายป่าไปมากกว่าร้อยเฮคเตอร์

 

Clima Extremo 24


สหรัฐอเมริการัฐ



สำนักงานใหญ่ของ facebook ใน menlo park แคลิฟอร์เนียได้รับการอพยพเนื่องจากภัยระเบิดในคืนนี้ตำรวจกำลังสืบสวน

 

Clima Extremo 24


ตะวันออกกลาง



ทะเลทรายอาหรับเบ่งบานไปด้วยบุปผากับพืชที่เป็นอาหารสัตว์สีเขียวและมีหุบเขาใหม่ในความอุดมสมบูรณ์

 

Clima Extremo 24


อาร์เจนตินา



พายุร้ายที่เกิดจากลูกเห็บรุกเข้าสู่Córdoba, อาร์เจนตินาช่วงบ่ายนี้

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 13) เทเรซา เมย์ รอดมติไม่ไว้วางใจ ส่งผลนั่งเก้าอี้นายกฯอังกฤษ-หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมต่อไป: นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สามารถผ่านพ้นการลงมติไม่ไว้วางใจจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้นางเมย์ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมต่อไป


นายเกรแฮม แบรดี สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งรับผิดชอบในการลงมติครั้งนี้ เปิดเผยว่า นางเมย์ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมในสภาสามัญชน ด้วยคะแนนเสียง 200 ต่อ 117 เสียง ให้ดำรงตำแหน่งต่อไป


การลงมติดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่นางเมย์กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง จากการที่สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมจำนวนมากพากันคัดค้านร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่นางเมย์ทำไว้กับสหภาพยุโรป (EU) จนทำให้รัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดลงมติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากวิตกว่าจะไม่ได้รับการอนุมัติจากสภา


นอกจากนี้ ผู้นำของ EU ก็ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะไม่มีการเจรจาต่อรองครั้งใหม่ต่อข้อตกลง Brexit ดังกล่าว


Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช


https://www.cnbc.com/2018/12/12/uk-prime-minister-theresa-may-wins-confidence-vote.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 12) สมาชิกสภาคองเกรสถามซีอีโอ Google ทำไมพิมพ์ idiot ในช่องค้นหาแล้วเจอแต่รูปโดนัลด์ ทรัมป์ : คำถามน่าสนใจที่ Sundar Pichai ซีอีโอ Google ตอบข้อสงสัยต่อหน้าสภาคองเกรสคือ Zoe Lofgren ส.ส.พรรคเดโมแครตถาม Pichai ว่าทำไมเวลาพิมพ์คำว่า idiot ในช่องค้นหาแล้วผลการค้นหาแสดงรูปโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร


Pichai ตอบว่า Google คำนวณลำดับการค้นหาจากหลายปัจจัย ทั้ง ความเกี่ยวข้อง, ความสดใหม่, ความนิยม, และการใช้งานของผู้ใช้คนอื่นๆ ดังนั้นในแต่ละช่วงเวลาการแสดงผลจึงให้ลำดับต่างกันไป


สาเหตุที่มีคำถามนี้ผุดขึ้นมาเพราะ ประเด็นที่สมาชิกสภาคองเกรสสนใจใน Google คือ ผลการแสดงการค้นหาที่โน้มเอียง กดเสียงอนุรักษ์นิยมเอาไว้ และ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยโพสต์ Twitter วิจารณ์ Google ว่าแสดงแต่ข่าวที่ไม่ดีและข่าวปลอมเกี่ยวกับเขาด้วย


Source: Blognone.com

https://www.blognone.com/node/106962


*********

(Dec 12) กูเกิ้ลขึ้นให้การต่อ House Judiciary Committee: นาย Sundar Pichai, Google Chief Executive ขึ้นให้การต่อ House Judiciary Committee ถึงประเด็นเรื่องความโปร่งใส่และความน่าเชื่อถือของการให้บริการสืบค้นข้อมูล โดยสมาชิกพรรค Republican หลายท่าน อาทิ นาย Louie Gohmert, U.S. Representative Texas เห็นว่า การสืบค้นมักให้ผลที่มีความเห็นสนับสนุนพรรคฝั่งขวามากกว่า


นอกจากนี้ บริษัทมีแนวโน้มให้การสนับสนุนในการเลือกตั้ง แก่ผู้สมัครที่ให้การสนับสนุนค่าโฆษณามากกว่าผู้สมัครท่านอื่น


อย่างไรก็ดี นาย Pichai ปฎิเสธทุกคำกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่า Google ไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนคำกล่าวหาดังกล่าว ขณะที่ผลการสืบค้นขึ้นอยู่กับ algorithms ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมุมมองทางการเมือง


ทั้งนี้ นาย Pichai หลีกเลี่ยงการตอบคำถามในส่วนของการพัฒนาระบบสืบค้นข้อมูลเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของรัฐบาลจีน โดยระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีแผนเปิดตัวระบบสืบค้นสำหรับผู้ใช้ในประเทศจีนแต่อย่างใด


Source: BOTSS


- Google's Sundar Pichai was grilled on privacy, data collection, and China during congressional hearing : https://www.cnbc.com/2018/12/11/goo...estifies-before-congress-on-bias-privacy.html


- Google รับข้อผิดพลาดใน Google+ ส่งผลกระทบผู้ใช้ 52.5 ล้านคน: https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000122770

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 12) ปัจจัยเสี่ยงรุมฉุดศก.อาเซียนโตชะลอปีหน้า - นักวิเคราะห์เตือนหลายปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจ 5 ชาติอาเซียน ชะลอตัวลง 0.2% ปีหน้า

แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ คาดการณ์ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เศรษฐกิจจีนชะลอตัว และทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจ 5 ชาติอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ชะลอตัวลง 0.2% มาอยู่ที่ 4.8% ในปี 2562 ลดลงจากการขยายตัว 5% ในปี 2561

ทั้งนี้ จีดีพีเฉลี่ยของ 5 ชาติอาเซียน ขยายตัวเพียง 4.5% ในไตรมาส 3 ของปีนี้ ลดลงจากการขยายตัว 5.5% ของไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากสงครามการค้าส่งผลกระทบต่อการส่งออก

"ปัจจัยเสี่ยงของอาเซียนมากเกินกว่าจะพูดถึงได้" นายโมฮัมเหม็ด ฟาอิซ นากูธา นักเศรษฐศาสตร์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว โดยระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงหลักๆ ได้แก่ ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เศรษฐกิจจีนที่จะขยายตัวช้าลง และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนคาดการณ์

ขณะที่ นางเซเลนา ลิง หัวหน้าฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์การคลังของธนาคารโอซีบีซีในสิงคโปร์ กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่อันตรายที่สุดสำหรับชาติอาเซียนคือการกีดกันทางการค้า เนื่องจากความขัดแย้งในประเด็นต่างๆ เช่น นโยบาย "เมด อิน ไชน่า 2025" ของปักกิ่ง และการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงระหว่างสหรัฐและจีน จะยังไม่สิ้นสุดภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ แม้สหรัฐและจีนจะตกลงพักรบสงครามการค้าชั่วคราว 90 วัน

ทั้งนี้ โอซีบีซีคาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจมาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนามในปี 2562 จะชะลอตัวเช่นกัน แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขชัดเจน

อย่างไรก็ดี นายจอห์น วูดส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนประจำเอเชีย-แปซิฟิก ของธนาคารเครดิต สวิส คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นของชาติตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในปีหน้า เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีคาดว่าจะเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง หลังผลประกอบการของเอกชนสหรัฐมีแนวโน้มลดลง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อาจอ่อนค่า ทำให้นักลงทุนมองหาตลาดใหม่ๆ สำหรับการลงทุน

นอกจากนี้ เครดิต สวิส เตือนว่า การเมืองยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของบางชาติ เช่น ไทย ซึ่งมีกำหนดเลือกตั้งในปีหน้า เช่นเดียวกับอินโดนีเซีย ซึ่งจะจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน เม.ย.ปีหน้า โดยเครดิต สวิส และแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ คาดการณ์ว่า นายโจโก วิโดโด จะรั้งเก้าอี้ผู้นำอินโดนีเซียอีกสมัย

Source: Posttoday

-Southeast Asia faces 'long list' of risks in 2019, banks say

https://asia.nikkei.com/Economy/Southeast-Asia-faces-long-list-of-risks-in-2019-banks-say

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 12) คาด'เฟด'จะชะลอหรือหยุดขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า - เทรดเดอร์ตราสารล่วงหน้ากำลังเดิมพันว่าเฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าเฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม จากเดิมคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปีหน้า



มีการมองกันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงร้อนแรงและเศรษฐกิจดีกว่าแนวโน้มแม้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่เป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ดี สองเดือนที่เกิดความผันผวนในตลาดการเงินและสัญญาณที่มีการชะลอตัวลงในต่างประเทศได้ทำให้เกิดความสงสัยว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้าตามที่ได้คาดการณ์ไว้หรือไม่



ภาวะการเงินที่ตึงตัวอย่างรุนแรงในขณะนี้ได้สร้างความมั่นใจให้แก่หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ในขณะนี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐน่าจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมก่อนที่จะขึ้นต่ออีก 3 ครั้งในช่วงปลายปีหน้า จากเดิมที่โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีหน้า ซึ่งมากกว่าที่ตลาดการเงินได้ชี้ไว้



แจน แอตซิอุส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมนได้ตั้งข้อสังเกตว่า ความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมได้ลดลงเหลือต่ำกว่า 50% เล็กน้อย แต่มองว่าเฟดจะกลับมาขึ้นดอกเบี้ยรายไตรมาสในเดือนมิถุนายนจนถึงปลายปีหน้า



เทรดเดอร์ ตราสารดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมดในปีหน้า และอาจถึงขนาดลดดอกเบี้ยด้วยซ้ำ



สัญญาตราสารที่ผูกกับดอกเบี้ยเป้าหมายของเฟดปรับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ ซึ่งสะท้อนว่ามีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของสหรัฐท่ามกลางการชะลอตัวลงทั่วโลก และมีความสงสัยเกี่ยวกับความราบรื่นในการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เลื่อนการลงมติข้อตกลง Brexit ในสภาอย่างกะทันหัน



สัญญาณที่ว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อกำลังลดลง และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐมีความรุนแรงมากขึ้นก็ยิ่งเพิ่มความกังวล และปัจจัยทั้งหมดนี้ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา



ทิม ดาย ศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยโอเรกอน กล่าวว่า สถานการณ์ในวอลล์สตรีทไม่น่ายินดีและกำลังทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายเงินในปี 2562



เมื่อดูจากราคาตราสารดอกเบี้ยเฟด ฟันด์ ในขณะนี้เทรดเดอร์มองว่ามีโอกาส 73% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า และมีโอกาสเพียง 49% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มภายในปลายปีหน้า สัญญาตราสารที่หมดอายุในเดือนมิถุนายน 2563 กำลังมีราคาสูงกว่าสัญญาที่หมดอายุหนึ่งปีก่อนหน้า ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์กำลังเริ่มที่จะเดิมพันว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย



การคาดการณ์ที่เปลี่ยนไปนี้ ทำให้มีการจับตามองการคาดการณ์ของเฟดเอง ซึ่งเฟดจะอัปเดตสถานการณ์ในวันพุธหน้า โดยคาดว่าเฟดจะประกาศขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ของปีนี้


Source: ข่าวหุ้น


- Goldman cuts 2019 Fed rate-hike forecast to three

https://www.reuters.com/article/us-...fed-rate-hike-forecast-to-three-idUSKBN1O91VD

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 12) แนะรัฐเพิ่มสิทธิประโยชน์ภาษีจูงใจคนจนออมเงิน ชี้การเครดิตภาษี LTF กระทบคนออม RMF น้อยลง : นักวิชาการจากจุฬาฯ เผยงานวิจัยคนรวยใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี LTF กระจุกตัว แนะรัฐเพิ่มสิทธิประโยชน์ภาษีจูงใจผู้มีรายได้น้อยออมเพื่อเกษียณ

นายอธิภัทร มุทิตาเจริญ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยงานวิจัยการเปลี่ยนนโยบาย LTF กระทบผู้เสียภาษีอย่างไร ในงาน PIER Reserach Brief ว่า จากการศึกษาข้อมูลผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2555 พบว่า คนที่ซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( LTF ) กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้สูงประมาณร้อยละ 30 ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางซื้อ LTF น้อยกว่าร้อยละ 10 เพราะไม่กล้ารับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น จึงมีการซื้อประกันชีวิตค่อนข้างมาก ส่วนวงเงินใน LTF ที่คนนิยมซื้อมาก คือ เกิน 100,000 บาทต่อปี เป็นจำนวนร้อยละ 38 หรือคิดเป็นร้อยละ 73 ของผู้เสียภาษีที่ซื้อ LTF ทั้งหมด นอกจากนี้ พบว่าคนนิยมซื้อ LTF มากกว่ากองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF เนื่องจากเงื่อนไขระยะเวลาการลงทุน LTF สั้นกว่า คือ ประมาณ 7 ปี

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าการให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี LTF ไม่เป็นธรรม เพราะเอื้อประโยชน์ต่อคนรวยนั้น จากผลการศึกษาพบว่าคนรวยได้ประโยชน์มากกว่าผู้มีรายได้น้อย รายได้ปานกลางจริง โดยคนรวยใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีร้อยละ 24 เนื่องจากมีฐานภาษีสูงกว่า ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยได้ส่วนลดภาษีประมาณร้อยละ 11

ส่วนกรณีที่สิทธิ์ลดหย่อน ภาษี LTF กำหลังจะหมดอายุลงสิ้นปี 2562 ย่อมมีผลกระทบต่อผู้มีรายได้สูง ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้เครื่องมือการลดหย่อนภาษีตัวอื่น เช่น ประกันชีวิต หรือกองทุน RMF บ้าง โดยพบว่าประมาณร้อยละ 70 ของผู้ซื้อ LTF ที่มีรายได้น้อยและปานกลาง และร้อยละ 49 ของผู้ซื้อ LTF ที่มีรายได้สูงจะมีสิทธิลดหย่อน RMF เหลือพอที่จะนำมาแทนที่ LTF ได้ทั้งหมด

ส่วนการเปลี่ยนรูปแบบการให้สิทธิ์ลดหย่อน LTF เป็นการเครดิตเงินคืนร้อยละ 20 ของจำนวนเงินที่ซื้อกองทุนตามข้อเสนอของสภาธุรกิจตลาดทุนไทยนั้น อาจจะมีผลข้างเคียงต่อแรงจูงใจต่อการซื้อ RMF ของผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากจะได้ส่วนลดภาษีจาก RMF เพียงเเค่ร้อยละ 5 ซึ่งต่ำกว่า LTF ที่จะเครดิตเงินคืนได้ร้อยละ 20 เป็นอย่างมาก ดังนั้น รัฐบาลจะต้องกำหนดนโยบายส่งเสริมการออมให้ชัดเจน หากเน้นการออมเพื่อการเกษียณอายุ ก็จะต้องออกแบบสิทธิประโยชน์ภาษีให้เหมาะสมกับการออมระยะยาว และหากต้องการเน้นให้คนมีรายได้น้อยถึงปานกลางเข้ามาออม ก็จะต้องกำหนดสิทธิประโยชน์ให้มีแรงจูงใจกับผู้มีรายได้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาสิทธิประโยชน์ภาษีจากการลงทุนใน LTF กระจุกตัวในกลุ่มคนรวย

ทั้งนี้ กองทุน LTF มียอดลงทุนรวมประมาณ 390,000 ล้านบาท ณ เดือน กันยายน 2561.

Source: สำนักข่าวไทย

- อ่านงานวิจัย เรื่อง การเปลี่ยนนโยบาย LTF กระทบผู้เสียภาษีอย่างไร
https://www.pier.or.th/?post_type=abridged&p=6299

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง


ทหารสองโสม:ทหารเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ตรวจสอบการรื้อถอนด่านป้องกันในเขตปลอดทหาร/กรุงโซลระบุ หลังจากการข้ามชายแดนเข้าสู่อาณาเขตของอีกฝ่ายอย่างสันติเป็นครั้งแรก/การรื้อถอนด่าน20แห่งตามแนวชายแดนที่มีการป้องกันอย่างหนาแน่น เป็นหนึ่งในมาตรการที่มีการตกลงกับที่ประชุมซัมมิทระหว่างประธานาธิบดีมูน แจอินของเกาหลีใต้และผู้นำคิม จองอึนของเกาหลีเหนือเมื่อเดือนก.ย.ในกรุงเปียงยาง ส่วนหนึ่งของการพยามยามเร่งกระชับมิตรบนคาบสมุทรเกาหลี../...

----------------------

ยินดีกับเกาหลีใต้ ที่เดินมาถูกทางหลังจากถูกสหรัฐปั่นมานาน เพื่อหลอกให้เอาทหารกว่า25,000นายมาอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้มากว่า70ปี เป้าของสหรัฐคือบล็อคจีนไม่ใช่หวังดีอะไรมากมายกับเกาหลีใต้/ส่วนเกาหลีเหนือที่ก้าวร้าวที่ผ่านมาถือเป็นเรื่องปกติ เพราะศัตรู(สหรัฐ)ขนทหารมาตั้งฐานทัพติดกำแพงบ้านเกือบสามหมื่นนายและยังมีเครื่องบินรบ,เครื่องบินทิ้งระเบิดบินมาโฉบสอดแนมเกาหลีเหนืออยู่เรื่อยๆจากฐานทัพที่เกาะกวม./.จะให้เกาหลีเหนือทำไงนอนรอความตายนอนรอให้รองเท้าสหรัฐมาเหยียบหัวเล่นหรือจะสู้ ดังนั้นเกาหลีเหนือจักต้องป้องกันตัวทุกรูปแบบเพราะในอดีตเกาหลีเหนือก็เป็นหนึ่งในตองอูเหมือนกันฝีมือไม่ธรรมดา สามารถรุกรบไล่ทหารสหรัฐเกือบตกทะเลที่เมืองปูซานเกาหลีใต้ ถึงขั้นนายพลคนดังสหรัฐขอเสนอใช้เครื่องทุ่นแรงขออนุมัติใช้"ระเบิดนิวเคลียร์"ต่อเกาหลีเหนือ..ดีที่กองกำลังสหประชาชาติ(UN)มาช่วยรบช่วยสหรัฐให้ต้านกองทัพเกาหลีเหนือไว้ได้และรุกรบไล่เกาหลีเหนือเกือบสุดชายแดน แต่ท่านเหมาก็นำกองทัพจีนมาช่วยเกาหลีเหนือไว้จนขับไล่ทหารสหรัฐ+กองกำลังUNมาจนถึงเส้นขนานที่38จึงเจรจาหยุดยิงนับแต่นั้นมาจนถึงบัดนี้/ดังนั้นเขตทหารที่สองเกาหลีทำลายป้อมด่านทหารทั้ง20แห่งถือว่าสำคัญมากในยุทธศาสตร์/

 

Thanong Fanclub


ชาวแคนาดาคนที่2ถูกทางการจีนอุ้ม


ชาวแคนาดาคนที่2ได้หายตัวในจีน หลังจากที่เขาพยายามที่จะติดต่อกับGlobal Affairs Canada ว่าเขากำลังถูกเจ้าหน้าที่จีนสอบสวน


Chrystia Freeland รมวต่างประเทศแคนาดาออกมาเปิดเผยการหายตัวของชาวแคนาดาคนที่ 2 และแสดงความกังวลใจที่เขาถูกจับตัวไป


การหายตัวของชาวแคนาดาคนที่ 2เกิดขึ้นหลังจากที่นายMichael Kovrig หรือฉายา James Bond 007 แห่งแคนาดา ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของจีนจับกุมตัวไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา


ไม่ต้องอ้อมแอ้มกันอีกต่อไป ที่ทางจีนกำลังเล่นงานแคนาดากลับ หลังจากที่แคนาดาร่วมมือกับสหรัฐในการลักพาตัวเจ้าหญิงหัวเหว่ยเพื่อเรียกค่าไถ่หัวเหว่ย5G


รมว ฟรีแลนด์ยังไม่ยอมเปิดเผยว่าชาวแคนาดาคนที่ 2ที่ถูกทางการจีนอุ้มตัวไปมีชื่ออะไร หรือทำงานอะไรในจีน แต่ได้มีการติดต่อทางครอบครัวของเขาให้ทราบเรื่องแล้ว


จีนขู่กลับแล้วว่าให้แคนาดาปล่อยตัวเจ้าหญิงหัวเหว่ยอย่างไม่มีเงื่อนไข มิเช่นนั้นจะเจอกับผลที่ตามมาอย่างรุนแรง แต่แคนาดาไม่เชื่อ กลับอ้างความเป็นอิสระของศาล ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่แคนาดาจับเจ้าหญิงหัวเหว่ยขังคุก11วันตามคำสั่งของเฒ่าหนวดเฟิ้ม ก่อนที่ศาลจะให้ประกันตัวด้วยเม็ดเงิน$10ล้าน และเงื่อนไขของการกักขังตัวต่อไปในรูปแบบhouse arrest


จีนเอาคืนด้วยการอุ้มJames Bond 007 และอุ้มชาวแคนาดาคนที่2ไปขัง


James Bond 007ทำงานให้International Crisis Groupของนายจอร์จ โซรออส ทำให้ตกอยู่ในการเฝ้าระหว่างของเจ้าหน้าที่จีนตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะว่าเขาเดินทางไปธิเบต และซินเจียงเพื่อสัมภาษณ์ชนกลุ่มน้อยและพวกที่มีความคิดต่อต้านรัฐบาลจีน เพื่อเก็บข้อมูลเอามาเขียนรายงานสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เพื่อว่าต่อไปพวกต้านรัฐบาลจีนจะได้การสนับสนุนจากภายนอกทั้งการเงิน และความช่วยเหลือทางการเมือง


โทษบ่อนทำลายความมั่นคงของจีนหนักนะ จะบอกให้

https://www.nsnews.com/second-canad...uestioning-by-authorities-freeland-1.23532894

 

Sayan Rujiramora


The Falsification of History

The Rothschilds and the Romanovs

ร้อธไชลด์และราชวงศ์โรมาน้อฟ

By John August 1, 2017


ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ตระกูลร้อธไชลด์ เริ่มก่อตั้งเครือข่ายการข่าวของตนเอง ซึ่งทำหน้าที่ข่าวกรองไปด้วย คนรับส่งข่าวของพวกเขาที่เรียกว่าม้าเร็วสามารถผ่านเข้าเขตของการสู้รบของประเทศคู่สงครามได้อย่างอิสระไม่มีการสกัดกั้น นั่นทำให้พวกเขาสามารถรับรู้ข่าวสารได้ก่อน และทำกำไรอย่างมหาศาลจากข่าวสารล่วงหน้านั้น


ถึงแม้ว่าผลแพ้ชนะของสงครามจะถูกกำหนดไว้ก่อนแล้วก็ตาม พวกนักการธนาคารก็ยังไม่อยากเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ดังนั้น นาธาน ร้อธไชลด์จึงก่อตั้งสำนักรายงานข่าวชื่อ Rothworth ที่รายงานข่าวจากสนามรบวอเตอร์ลูที่ทำให้เขาได้รู้ข่าวก่อนจากระยะไกลที่ปลอดภัย ..เมื่อตอนที่ผลการรบว่าเวลลิงตันได้ชัยชนะ ข่าวมาถึงร้อธไชลด์หนึ่งวันก่อนผู้ส่งข่าวที่เป็นทางการของเวลลิงตันซะอีก


ร้อธไชลด์เคลื่อนไหวเร็วมากในวันนั้น เขาให้คำสั่งกับสต้าฟให้เริ่มขายหุ้นและพันธบัตรทันที เมื่อพวกเทรดเดอร์อื่นๆเห็นเข้า รู้ดีว่าร้อธไชลด์มีการข่าวที่เร็วกว่า จึงรีบเทขายหุ้นของตนตาม เกิด panic คิดว่าอังกฤษเป็นฝ่ายพ่ายแพ้นโปเลียน นั่นทำให้ตลาดหุ้นและพันธบัตรพังลงอย่างรวดเร็ว ...ร้อธไชลด์กลับลำทันที สั่งทรัสตีของตนเข้าซื้อพันธบัตรมากเท่าที่จะซื้อไว้ได้


เมื่อข่าวที่ว่านโปเลียนเป็นฝ่ายแพ้การรบที่วอเตอร์ลูมาถึง ซึ่งเป็นการยุติสงครามอย่างสิ้นเชิง ...ราคาหุ้นและพันธบัตรก็กลับสูงขึ้นไปนับหลายเด้ง นาธาน เมเออร์ ร้อธไชลด์ก็ทำกำไรมากกว่าเดิมไปแล้วประมาณ 20 เท่า


นาธาน ร้อธไชลด์คุยอวดว่า ในช่วงที่เขาอยู่ที่อังกฤษ เขาทำกำไร 2,500 เท่าจากเงินทุนที่พ่อให้ไว้ 20,000 ปอนด์ เป็น 50,000,000 ปอนด์ เขายังพูดอีกว่า


"ผมไม่สนว่าหุ่นเชิดตัวไหนจะถูกวางบนบัลลังก์ของอังกฤษ เพื่อมาปกครองจักรวรรดิ์ที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ..คนที่คุมปริมาณเงิน money supply ของบริเตนต่างหากที่จะคุมจักรวรรดิ์บริติช ..และผมนี่แหละคุม money supply อยู่"


ปี 1915 New York Times มีบทความเรื่องของหลานชายของนาธาน ร้อธไชลด์ ได้มีความพยายามที่จะให้ศาลออกคำสั่งให้ระงับการขายหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องการเทรดหุ้นแบบอินไซเดอร์ แต่ไม่สำเร็จเพราะศาลยกคำร้อง


การปั่นหุ้นกลายมาเป็นวิธีปฏิบัติของเหล่านักการธนาคารสายร้อธไชลด์ พวกเขาไม่เพียงแต่คุมเศรษฐกิจของอังกฤษเท่านั้น แต่ระบบทุนทั่วทั้งโลกเลย ...พวกเขาใช้ความได้เปรียบนี้แทรกซึมเข้าใน Bank of England ..หนุนให้ BoE ยุติการส่งทองคำออกทั่วโลก โดยใช้แบ้งค์ยุโรปของตนเริ่มระบบของการตราเอกสารเครดิตแทน ซึ่งเป็นระบบเดียวกับในปัจจุบันที่เป็นดิจิตัล


ในปี 1815 เช่นกัน ในระหว่างการประชุมที่เวียนนา พวกร้อธไชลด์เริ่มส่งผ่านความคิดเรื่องของรัฐบาลแห่งโลก โดยใช้ทุนจากเงินกู้ของชาติต่างๆในยุโรป ..แผนทั้งหมดล้มเหลว .....แต่อย่างน้อยพวกเขาได้ทำให้มีประกาศออกมาว่าสวิสเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีอธิปไตยเป็นกลางถาวรในสงครามที่จะเกิดในอนาคต เพื่อที่ว่าสามารถจะให้ทุนการทำสงครามแก่คู่ขัดแย้งได้โดยไม่มีผู้ขัดขวาง หรือเอาผิดภายหลังได้ ในตอนนั้นก็ได้เห็นแววการสะสมเงินนับล้านปอนด์และดอลล่าร์ เตรียมการไว้แล้วสำหรับสงครามที่ยังไม่เกิดขึ้นเลย


ที่จริงแผนเรื่องรัฐบาลเดียวของโลกล้มเหลวเพราะ Tsar Alexander I ของรัสเซียรู้เท่าทันแผนร้ายที่จะทำให้คนทั้งโลกต้องเป็นทาสไม่ใช่เฉพาะรัสเซีย นี่ทำให้นาธาน ร้อธไชลด์สาบานว่า วันหนึ่งข้างหน้า เขาหรือลูกหลานจะต้องทำลายตระกูลของชาร์หรือลูกหลานลงให้ได้ ..และเหมือนจะเป็นการทำนายที่ถูกเป๊ะ แค่ศตวรรษต่อมาเท่านั้นในปี 1917 Czar Nicholas II, ราชินี Alexandra ราชโอรส ราชธิดา ถูกลอบปลงพระชนม์หมดทั้งตระกูลโดยพวกคอมมูนิสต์บอลเชวิคที่รับจ้างมาในช่วงที่เรียกกันเองว่าปฏิวัติรัสเซีย พวกนี้ก็ไม่ใช่อะไรนอกจากกลุ่มคนที่กระหายอำนาจแต่อ้างประชาชน


ในปี 1869 Albert Pike ทำนายว่าจะต้องมีสงครามโลกเกิดขึ้นสามครั้ง เพื่อบรรลุผลของพวกนายธนาคาร/อิลลูมินาติ ของแผนที่เรียกว่า New World Order ...อีเว้นท์หลากหลายจะต้องถูกสร้างให้เป็นลูกโซ่ ประกอบกันเป็นฉากให้มีการตายแบบไร้ความจำเป็นหรือการทำลายล้างที่ตามๆกันมา


ในเดือนมิถุนายน 1914 ฉากแรกถูกเปิดขึ้นหลังจากรอมานานในการเริ่มสงครามโลกโดยใช้พวก Serbian Nationalists มันคือองค์กรลับของ NWO ในชื่อ 'Black Hand' ทำงานร่วมเข้าขากับพวก 'Young Turks' ...ตามพล็อตก็คือต้องสังหาร Archduke Franz Ferdinand แห่ง Austro-Hungary ..Serbia ตอนนั้นเป็นรัฐอิสระนับถือคริสเตียน ออโธด๊อก อยู่ความคุ้มครองของ Csar แห่งรัสเซีย แต่ก็มี Serbian บางกลุ่มอยู่กับ Austro-Hungarian ในบอสเนีย แทนที่จะอยู่กับรัสเซีย ..นี่คือความขัดแย้ง


Franz Ferdinand (1863-1914) เป็นรัชทายาทในตระกูล Hapsburg ของ Austro-Hungary ..ระหว่างการเดินทางเยือนบอสเนีย ที่เมืองซาราเจโวพร้อมกับชายาโซฟี่ ถูกลอบสังหารบนท้องถนน


พอถึง 29 มิถุนายน 1914 ก็เกิดจราจลต่อต้านพวกเซอร์เบียในซาราเจโวหรือบอสเนียปัจจุบัน แน่นอนว่ามันเกิดจากพวกรับจ้างป่วนให้มีการนองเลือด เพื่อโอกาสสร้างผลกำไรภายหลัง ...พวกนายธนาคารที่กำลังพยายามเปลี่ยนแผนที่ในยุโรป โดยต้องทำลายประเทศอย่างเยอรมันและรัสเซีย และเพื่อทำให้คำสาบานของร้อธไชลด์เมื่อร้อยปีก่อนสำเร็จลง ในการทำลายล้างตระกูลของ Czars แห่งราชวงศ์โรมาน้อฟ


วันที่ 7 เดือนกรกฎาคม 1914 Austro-Hungary มีการประชุมสภาเกี่ยวกับสถานการณ์เซอร์เบียที่ตอนนี้ควบคุมไม่ได้แล้ว พอถึงปลายเดือน สื่อมวลชนฝ่ายนายธนาคารไซออนิสต์ ก็ประกาศโฆษณาชวนเชื่อยุยงเติมเชื้อไฟให้มีการแอนตี้เซอร์เบียหนักขึ้น มีการใช้ข่าวลวงเข้าด้วย ......Kaiser Wilhelm II แห่งเยอรมันพยายามให้พันธมิตร Austro-Hungary ใช้วิธีทางการทูต


แต่ก็มีพวกรักชาติหูหนวกตาบอดเชื่อในโฆษณาชวนเชื่อจนได้ เมิ่อวันที่ 28 กรกฎาคม ก็มีการประกาศสงครามกับเซอร์เบีย ...วันรุ่งขึ้นรัสเซียก็เคลือนพลเข้าร่วมกับพันธมิตรเซอร์เบีย ...หลังจากนั้นก็เป็นไปตามแผน มีผู้โดดเข้าร่วมทีละหนึ่งประเทศ โดมิโน่ยักษ์เริ่มเข้ากินเรียบไปทั่วยุโรป สัญญาถูกฉีกทิ้งเรียบ


เพียง 5 สัปดาห์ หลังจาก Franz Ferdinand สิ้นพระชนม์ โลกถูกป่วนเป็นไปตามเกมที่วางไว้อย่างเชี่ยวชาญ ...สมใจพวกแบ้งเกอร์


ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 17 กรกฎาคม 1918 สมาชิกราชวงศ์โรมาน้อฟถูกปลุก สั่งให้แต่งตัวและถูกต้อนไปยังห้องเล็กๆแห่งหนึ่ง จากนั้น ยิวนักฆ่าคอมมูนิสต์รับจ้างระดมยิงทั้งราชตระกูล รวมทั้งหมอและคนรับใช้ 3 คนอย่างเลือดเย็น ราชธิดาบางองค์ถูกแทงด้วยมีดซ้ำเพราะยังไม่ตายทันที ข่าวฆาตกรรมโหดนี้ช้อคไปทั่วรัสเซียและเหล่าคริสเตียนในยุโรป


หลังการปฏิวัติในรัสเซีย มีการก่อตั้งองค์การคอมมูนิสต์สากลในมอสโคว์ เปิดตัวที่จะต้องสู้ ในทุกวิถีทางต่อพวกกฎุมภี ชนชั้นนายทุนที่เอาเปรียบมาตลอด

 

มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน


ไฟไหม้สำนักงาน Google ในกรุงปักกิ่ง


-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


ไฟไหม้ส่งควันพวยพุ่งผ่านหลังคาของสำนักงาน Google ในกรุงปักกิ่ง และทำให้เกิดการอพยพผู้คนจำนวนมากออกมาจากสำนักงานของ Google ในเขตเทคโนโลยี Zhongguancun ของกรุงปักกิ่ง หรือที่เรียกว่า Silicon Valley ในประเทศจีน


BY>>>>>Giant Khan<<<<<


https://www.rt.com/usa/446272-google-china-office-fire/

 

สิทธิที่เขาเรียกร้องคงจะเป็นเอกราชของปาตานี ถ้าโดนกดขี่ คงไม่ได้มายืนถือป้ายสบายแบบนี้หรอก

เกรียน BRN


มาอีกแล้ว ช่วงเรียกร้องสิทธิในการกำหนดชะตาตัวเอง หรือ Right to self determination จัดทุกปีเลย ไม่รู้เอาตังจากที่ไหนมาจัดรวยจริงๆ

ปล.ใครไปกดขี่สิทธิเขารือ?

 

สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events


แผนสันติภาพของทรัมป์เพื่อตะวันออกกลางคาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวในอีกสองถึงสามเดือนข้างหน้า!

http://www.maannews.com/Content.asp...cmsPpwzY2scNg_NUiabPoFzSk-fUllEkVR9appV6bELwg


* เมื่อพวกเขากล่าวกันว่าปลอดภัยดีแล้วฉับพลันการทำลายก็เกิดขึ้น!!


ถ้าพระคัมภีร์ไบเบิ้ลหมายถึงภายหลังทรัมป์ประกาศแผนสันติภาพฯและมีเหตุการณ์วินาศฯเกิดขึ้นแล้ว เหตุการณ์ย่อมได้เริ่มปะทุกรุ่นๆตั้งแต่ตอนนี้?


ตรวจสอบ..

- ที่สหรัฐนอกจากการต่อสู้ (หน้าฉาก) ระหว่างทรัมป์/รัฐลึก ที่อาจกลายเป็นสงครามกลางเมืองและประเทศอาจกลับสู่ยุคมืดตาม DHS ปล่อยคำเตือนก่อการร้ายเตรียมที่จะถล่มด้วย EMP ? พร้อมคำแนะนำประชาชนเตรียมพร้อม!


ในตะวันออกกลาง อาจจะมีเหตุการณ์ปลอมธงเพื่อเริ่มสงคราม..


ที่ชายแดนรัสเซียตอนนี้ยูเครนกำลังเร่งกลองสงคราม

ก่อน 14 ธันวาฯ ทุกอย่างต้องพร้อม:

ยูเครนเตรียมความพร้อม 90 โรงพยาบาล สำหรับการเข้ารับการรักษา / การเตรียมความพร้อมของกองทหารขนาดใหญก่อน 14 ธันวาฯ ในภูมิภาค Donbass!

https://deutsch.rt.com/europa/80870-ukraine-verlegt-tausende-soldaten-und/


https://dan-news.info/en/society/uk...n-scenario-of-chemical-attack-in-donbass.html


ความวุ่นวายในยูเครนเป็นที่หนักใจรัสเซีย (ในฐานะรัฐบาลเป็นหุ่นของตะวันตก)


หรือบางทีเริ่มต้นในน่านน้ำจีน...

https://www.express.co.uk/news/worl...uth-china-sea-us-navy-donald-trump-Xi-Jinping

 

Thairath


#ข่าวหน้า1 ม็อบต้านโรงไฟฟ้าขยะสลายตัวแล้ว “ศรีวราห์” เจรจาแกนนำเครียด พบพิรุธเอกสารหลายอย่างในการยื่นขออนุญาตสร้างโรงไฟฟ้าเป็นเอกสารปลอม ผู้ชุมนุมทราบเรื่องต่างดีใจรีบสลายตัว แกนนำถูกออกหมายจับ 6 คน และได้ประกันตัวหมด