ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 28) น้ำมัน-เกษตรยังอ่อนแรง โลกป่วนกดตลาดซึมยาว : ปี 2018 นับเป็นปีที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เผชิญความผันผวนอย่างหนัก โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานไปแตะ 80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เมื่อเดือน พ.ค. แล้วก็ร่วงลงอย่างหนักในช่วงปลายปีลงมาอยู่ที่ราวๆ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล

เฉพาะเมื่อวานนี้เพียงวันเดียว ตลาดน้ำมันได้กลับมาพุ่งทะยานอีกครั้งตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสทะยานขึ้น 8.7% ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์การปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2016 ไปอยู่ที่ 46.22 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อวันพุธ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเบรนต์ที่พุ่งขึ้น 8% ไปอยู่ที่ 54.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี หากพิจารณากันที่ตัวราคาแล้ว ยังนับว่าห่างไกลจากระดับปิดสูงสุดที่ประมาณ 80 ดอลลาร์อยู่ไม่น้อย

สำหรับในปี 2019 ตลาดน้ำมันและสินค้าเกษตรอื่นๆ มีแนวโน้มต้องเจอความผันผวนอีกมากที่ยังรออยู่ ซึ่ง

หลักๆ มาจากความวิตกเศรษฐกิจโลกโตชะลอจนไปกดดันดีมานด์ ขณะที่ตัวแปรหลักที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด คือเรื่องการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ (โอเปก) และกลุ่มนอกโอเปกนำโดยรัสเซีย รวมถึงสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ ข่าวดีสำหรับตลาดน้ำมันคือการที่กลุ่มโอเปกและนอกโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงลดผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน นับตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีหน้า โดยกลุ่มโอเปกจะลดการผลิตลง 8 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งซาอุดิอาระเบียจะแบกสัดส่วนดังกล่าวมากที่สุด และกลุ่มนอกโอเปกให้คำมั่นปรับลดสัดส่วนลง 4 แสนบาร์เรล/วัน

ทว่าความไม่มั่นใจว่าดีลดังกล่าวอาจยังไม่พอสร้างสมดุลระหว่างปริมาณน้ำมันกับดีมานด์ ขณะที่ซัพพลายยังอยู่ในระดับสูงอยู่

ท่ามกลางความเสี่ยงเรื่องการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกกดดันให้ราคาน้ำมันยังร่วงลงราว 12% นับตั้งแต่กลุ่มโอเปกและนอกโอเปกบรรลุดีลกันไปเมื่อต้นเดือน ธ.ค.

"ความผันผวนยังคงเป็นปัจจัยหลักในตลาดและราคาน้ำมันที่ร่วงลงไปต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ บ่งชี้ถึงความกลัวอย่างแท้จริงว่าเศรษฐกิจโลกโตชะลอจะส่งผลกระทบต่อดีมานด์" ยีน แมคกิลเลียน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดที่บริษัท พลังงาน ทราดิชั่น อีเนอร์จี กล่าว

ก่อนหน้านี้ไม่นาน สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกซบเซา อาจส่งผลให้ดีมานด์น้ำมันในปี 2019 ลดลงราว 1 แสนบาร์เรล/วัน ไปอยู่ที่ 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ด้านโอเปกเอง คาดการณ์ว่าการปรับตัวขึ้นของดีมานด์น้ำมันปีหน้าจะอยู่ที่ 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ เจพี มอร์แกน มีมุมมองลบกว่าหลายสำนัก โดยมองว่าดีมานด์น้ำมันโลกจะอยู่ที่เพียง 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน

ขณะที่กลุ่ม "เชลออยล์" หรือกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมา กับโอเปกมาโดยตลอด มีแนวโน้มผลิตน้ำมันลดลงในปีหน้า เนื่องจากราคาน้ำมันร่วงหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ที่ปรับลงแตะกรอบ 46-50 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่งผลให้เชลออยล์หลายแห่งประสบปัญหาทางการเงิน โดยรอยเตอร์ส รายงานว่าเชลออยล์หลายแห่ง เช่น เซนเทนเนียล รีซอร์ส ดีเวลอปเมนต์ ยกเลิกแผนเพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมัน 2.5 ล้านแท่น ตามหลังไดมอนด์แบค อีเนอร์จี และพาร์สลีย์ อีเนอร์จี บริษัทคู่แข่งที่ยกเลิกการเพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันใน ปีหน้า

สอดคล้องกับรายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ปรับลงมาแล้ว 3 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยรอยเตอร์สรายงานอ้างนักวิเคราะห์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐคาดว่าจะปรับลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ธ.ค.

จากแนวโน้มที่เชลออยล์ไม่น่าจะคัมแบ็กในปี 2019 กุญแจหลักงัดราคาน้ำมันขึ้นในปีหน้าจึงอยู่ที่กลุ่มโอเปกและนอกโอเปก

"หากโอเปกทำได้ตามดีลหั่นผลิต ราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 50-60 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนเบรนต์ มีแนวโน้มพุ่งแตะ 58-70 ดอลลาร์/บาร์เรล" ชิมฮเยจิน นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก ซัมซุง ซิเคียวริตี้ส์ กล่าว ด้านธนาคารยูบีเอสและโกลด์แมนแซคส์มองบวกยิ่งกว่านั้น โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะพุ่งไปอยู่ที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำหรับ "สินค้าเกษตร" นั้นได้รับผลกระทบไปด้วยจากความปั่นป่วนในตลาดน้ำมัน ซึ่งฉุดให้ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ของบลูมเบิร์ก ปรับลงแล้ว 6.55% ในปีนี้

ตลอดปีนี้ขาลงของสินค้าเกษตรเป็นผลมาจากศึกการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเป็นหลัก โดยช่วงเดือน ก.ค. จีนตอบโต้สหรัฐด้วยการตั้งภาษี 25% กับสินค้าเกษตรหลายชนิด เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด เนื้อวัว เนื้อหมูและผลิตภัณฑ์นม ซึ่งกำแพงภาษีดังกล่าวส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2018 สหรัฐส่งออกถั่วเหลืองไปจีนลดลงถึง 62% อยู่ที่ 8.2 ล้านตัน จาก 21.4 ล้านตัน เมื่อปีก่อนหน้านี้

แม้มีรายงานว่าจีนจะกลับมานำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐอีกครั้งอยู่ที่ 5 แสนตัน หลังสองฝ่ายทำข้อตกลงสงบศึกการค้า 90 วัน แต่ปริมาณการนำเข้า ดังกล่าวนับว่ายังไม่เพียงพอ และต้องรอดูทิศทางการเจรจาระหว่างสองฝ่ายกันต่อไป โดยล่าสุดนั้นบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวว่าคณะผู้แทนเจรจาการค้าของสหรัฐจะเดินทางไปถกประเด็นการค้ากับจีนในวันที่ 7 ม.ค.นี้

ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจจีนอ่อนแรงลงก็น่าเป็นห่วงไม่น้อย เพราะเสี่ยงกดดันดีมานด์สินค้าเกษตร โดยจีนมีบทบาทอย่างมากต่อทิศทางตลาด เนื่องจากเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก

ด้วยเหตุนี้ในปีหน้าตลาดสินค้าเกษตรคาดว่าจะได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากสงครามการค้าและเศรษฐกิจจีนชะลอตัว โดยศูนย์ข้อมูลน้ำมันและธัญพืชของจีนคาดการณ์ว่าจีนจะนำเข้าถั่วเหลืองลดลง 9 ล้านตัน เมื่อเทียบรายปีมาอยู่ที่ 86 ล้านตัน ในปี 2019 ซึ่งในปี 2018 จีนนำเข้าถั่วเหลืองลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2004 อยู่ที่ราว 88-89 ล้านตัน ปรับตัวลงประมาณ 6% จากปี 2017

ปี2019 จึงน่าจะเป็นอีกปีที่เหนื่อยยากไม่น้อยสำหรับตลาดน้ำมันและสินค้าเกษตร ท่ามกลางความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลก

โดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์

Source: Posttoday

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 29) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 76.42 จุด วิตกเศรษฐกิจ-การเมืองสหรัฐ: ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนในสหรัฐ ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สงครามการค้าสหรัฐ-จีน และที่สำคัญคือวิกฤตชัตดาวน์


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 76.42 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 23,062.40 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 3.09 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 2,485.74 จุด ดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 5.03 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 6,584.52 จุด


หุ้นเทสลาทะยาน 5.6% หลังจากที่บริษัทได้แต่งตั้งแลร์รี เอลลิสัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ออราเคิล คอร์ป และแคธลีน วิลสัน ทอมสัน ผู้บริหารบริษัท วอลกรีนส์ บู๊ทส์ อลิอันซ์ ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการบริหารบริษัทเทสลา


สำหรับสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 2.8% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.9% ดัชนี Nasdaq ทะยาน 4% นับว่าเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์


ในสัปดาห์นี้ หุ้นอเมซอนทะยาน 7.3% หุ้นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น 6.6% หุ้นอัลฟาเบทเพิ่มขึ้น 5.6% หุ้นเน็ตฟลิกซ์บวก 3.9% และหุ้นแอปเปิลบวก 3.6%


นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ที่หน่วยงานสหรัฐถูกปิดดำเนินงานเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการประชุมพิจารณางบประมาณชั่วคราวออกไปเป็นวันจันทร์ที่ 31 ธ.ค. หลังจากที่การประชุมยังไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามคำเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


ปธน.ทรัมป์ได้ยื่นของบประมาณสำหรับก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นแคมเปญหาเสียงหลักของปธน.ทรัมป์ในปี 2559 แต่ทางฝั่งพรรคเดโมแครตยอมอนุมัติงบประมาณเพียง 1.3 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น โดยระบุว่า การสร้างกำแพงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการยกระดับการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน


ปธน.ทรัมป์ได้ระบุข้อความขู่ผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ว่า ตนพร้อมสั่งปิดชายแดนทิศใต้ของสหรัฐ หากสภาคองเกรสยังไม่ยอมอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกตามที่เสนอไว้


ข้อความบนทวิตเตอร์ ระบุว่า "เราจะจำเป็นต้องสั่งปิดชายแดนทิศใต้ทั้งหมด หากพวกเดโมแครตที่ดีแต่ขัดขวางไม่ยอมให้เงินสร้างกำแพงให้เสร็จ" พร้อมกับขู่ว่า "ถ้าไม่สร้างกำแพงก็ปิดชายแดนไปเลย"


สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจนั้น สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 0.7% แตะระดับ 101.4 ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งลดลงจากระดับ 102.1 เมื่อเดือนต.ค.


เมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 7.7% ในเดือนพ.ย. โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 11


นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากมีรายงานว่า คณะผู้แทนสหรัฐจะเดินทางไปยังประเทศจีนในวันที่ 7 ม.ค.ปีหน้า เพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่ของจีน


นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันในเวลาต่อมาว่า จีนและสหรัฐมีแผนที่จะเจรจาการค้าในเดือนม.ค.ปีหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมเจรจากันแบบหน้าต่อหน้าครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตกลงที่จะสงบศึกการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเป็นเวลา 90 วันเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา


Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข

- https://www.bloomberg.com/news/arti...ate-u-s-bounce-markets-wrap?srnd=premium-asia


เพิ่มเติม

- ชาวอเมริกันโทษทรัมป์เป็นต้นเหตุของการชัตดาวน์: https://www.dailynews.co.th/foreign/684969


- ทรัมป์ขู่ปิดพรมแดนกับเม็กซิโกถ้าไม่ได้งบสร้างกำแพง : https://www.dailynews.co.th/foreign/685047


- “ทรัมป์”เตรียมประกาศวาระแห่งชาติแบน“หัวเว่ย”ปีหน้า: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/822606

 

โพสต์ทูเดย์
สื่ออ้าง จีนอาจเทคโอเวอร์ท่าเรือใหญ่สุดในเคนยา หากผิดนัดชำระหนี้เงินกู้สร้างทางรถไฟ

 

ช่างศุภวิชญ์ เขต จูเปรมปรี

12:07 PTWC ออกเอกสารฉบับที่ 3 ยกเลิกการเตือนสึนามิจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในฟิลิปปินส์
11:20 หน่วยงานเฝ้าระวังภูเขาไฟ-แผ่นดินไหว-สึนามิ PHIVOLCS ของประเทศฟิลิปปินส์ ออกประกาศเตือนประชาชนตามเมืองชายฝั่งของเกาะต่างๆในประเทศให้ออกห่างฝั่ง
11:10 PTWC ออกเอกสารฉบับที่ 2 ระบุอาจเกิดคลื่นสึนามิขนาด 30 ซ.ม. ตามฝั่งทะเลของประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเชีย และเกาะปาเลา
10:45 PTWC ออกเอกสารฉบับที่ 1 เตือนสึนามิจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ใกล้เกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์
10:39 #แผ่นดินไหวขนาด 7.0 ลึก 10 กม. พิกัด 126.80°E 5.88°N นอกชายฝั่งทางใต้ของเกาะมินดาเนา ปประเทศฟิลิปปินส์

 

สาวตกเป็นเหยื่อ! ถูกแฮกเงินผ่าน “หักบัญชีอัตโนมัติ” จากบัญชีกสิกรไทย-เข้า “ทรูวอลเล็ท” จนเกลี้ยง
เผยแพร่: 29 ธ.ค. 2561 11:50 ปรับปรุง: 29 ธ.ค. 2561 14:27 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พบสาวรายหนึ่งตกเป็นเหยื่อถูกคนร้ายแฮกบัญชีกสิกรไทย โดยใช้วิธีสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติผ่านแอปฯ True Money Wallet สูญเงินนับหมื่นบาท พบช่องโหว่สมัครบริการใช้แค่เลขที่บัญชี เบอร์มือถือ และเลขที่บัตรประชาชนเท่านั้น เจ้าของเรื่องเผยเอะใจตั้งแต่ประกาศขายโทรศัพท์ มีคนสนใจซื้อขอเลขที่บัญชีแล้วไม่โอนเงิน ก่อนจะเจอดี ฝากเป็นอุทาหรณ์

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ni-sa View ใช้แอปพลิเคชั่น K PLUS ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ถูกแฮกบัญชีไปอย่างง่ายดายโดยที่ธนาคารไม่มีข้อความอะไรส่งมาแจ้งเตือนก่อนเลยในโทรศัพท์ มารู้ตัวอีกที มีข้อความแจ้งมาว่าบัญชีของตนได้ไปสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติกับแอปพลิเคชันทรูมันนี่วอลเลท (True Money Wallet) แล้วถูกคนร้ายหักบัญชีอัตโนมัติไปจนหมด ได้รับความเสียหายกว่า 13,540 บาท ที่น่าสงสัยก็คือ ตนให้เพื่อนลองโอนเงินเข้าบัญชีให้ กลับพบว่าเงินหายไปจากบัญชีในเวลาไม่ถึงนาที

เมื่อสอบถามธนาคารกลับให้คำตอบว่าเงินถูกหักผ่านบัญชีอัตโตมัติไปยังแอปพลิเคชัน True Money Wallet หลังไปยื่นเรื่องกับทางธนาคาร เจ้าหน้าที่ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น และบอกว่า “กรณีของน้องคือเล็กน้อยมาก เพราะมีคนที่โดนไปมากกว่านี้” สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือรอทางทรูมันนี่ดำเนินเรื่อง ซึ่งส่งอีเมลไปแล้วต้อรอประมาณ 15 วันทำการ ขณะนี้ตัดสินใจลบแอปฯ ทิ้งแล้วกลับไปทำธุรกรรมการเงินทุกอย่างด้วยตัวเองที่ธนาคาร โดยได้แจ้งความเอาไว้ที่ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา


ผู้สื่อข่าว MGR Online ตรวจสอบพบว่า คนร้ายใช้บริการทรูมันนี่ วอลเล็ท ซึ่งพบว่าสามารถเชื่อมบัญชีธนาคารเพื่อเติมเงินเข้าบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ทได้ โดยในส่วนของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) พบว่าสามารถสมัครบริการ Online Direct Debit ได้ โดยลูกค้าต้องมีบริการ KPLUS พร้อมทั้งอัปเดตแอปฯ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรองรับฟีด (Feed) ยืนยันการสมัครบริการ Online Direct Debit โดยคนร้ายใช้เพียงเบอร์มือถือที่ใช้บริการ K PLUS เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ เลขที่หนังสือเดินทาง และหมายเลขบัญชีเท่านั้น ส่วนอีเมลสามารถมั่วเอาได้ และรหัสย่อผู้สมัครจะขึ้นต้นด้วยเบอร์มือถือ 9 หลักสุดท้าย และอักษรยืนยัน 3 ตัว



คนร้ายใช้ช่องโหว่ Online Direct Debit ผ่านแอปฯ True Wallet คนร้ายใช้เพียงแค่เลขที่บัตรประชาชน เบอร์มือถือที่สมัคร K PLUS และเลขที่บัญชีของเหยื่อเท่านั้น

เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบรหัสย่อผู้สมัครบริการ Online Direct Debit คือ 650671130MC0 พบว่าเป็นของหมายเลข 065-067-1130 และเมื่อผู้สื่อข่าวทำการทดสอบโดยโอนเงินทรูมันนี่ พบว่าชื่อผู้รับเงินคือ “อรกมล ชื่นจิตต์”



ตรวจสอบรหัสย่อผู้สมัคร แล้วทดสอบโดยการโอนเงิน พบว่าเป็นของบุคคใช้ชื่อว่า อรกมล ชื่นจิตต์



ยอดเงินหายไปอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ถูกคนร้ายสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติ เมื่อให้เพื่อนโอนเงิน คนร้ายก็หักบัญชีอัตโนมัติซ้ำไปอีก

ผู้สื่อข่าว MGR Online สอบถามเพิ่มเติมไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กคนดังกล่าว (ไม่ประสงค์ออกนาม) ระบุว่า เมื่อวันก่อนตนได้ลงประกาศขายโทรศัพท์มือถือ แล้วมีคนติดต่อเข้ามา โดยขอเลขที่บัญชีเพื่อโอนเงิน ตนจึงส่งเลขที่บัญชีไป ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่โอนเงินเข้ามา กระทั่งมีข้อความแจ้งเตือนอัตโนมัติจากแอปฯ K PLUS ซึ่งมีข้อความยาวมาก จึงได้กดยืนยันโดยไม่ได้เอะใจ แต่พบว่าเงินในบัญชีได้หายไปอย่างต่อเนื่องในเวลาอันรวดเร็ว

เมื่อให้เพื่อนลองโอนเงินให้แล้วรีบไปกดเงินก็พบว่าหายไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้กดเงินด้วยซ้ำ และเมื่อสอบถามทางธนาคารกสิกรไทย ก็กล่าวว่ามีกรณีอย่างนี้นับร้อยครั้ง ธนาคารสามารถตรวจสอบได้ว่าเงินหายไปจากรายการหักบัญชีอัตโนมัติเท่านั้น ขณะที่ทางทรูมันนี่ได้รับเรื่องเรียบร้อยแล้ว และจะประสานงานอย่างเร่งด่วน กรณีที่เกิดขึ้นจึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้คนอื่นมาเกิดเรื่องแบบนี้เช่นเดียวกับตนอีก

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000129087

 

บริษัทยาลดราคาลงถึง 90% เมื่อรัฐบาลจีนเตรียมตั้งตัวเป็นผู้จัดหายาโดยตรงให้ รพ.
Fri, 2018-12-28 10:46 -- hfocus

ดุเดือด! บริษัทยาลดราคายาสูงถึง 90เปอร์เซ็นต์ เมื่อรัฐบาลจีนเตรียมตั้งตัวเป็นผู้จัดหายาโดยตรงให้โรงพยาบาล รัฐบาลจีนเริ่มเดินหน้าโครงการนายหน้าจัดหาและจัดซื้อยาสามัญ (Generic drugs) ให้กับโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่าง ๆ ในประเทศโดยตรง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาที่ถูกและมีประสิทธิภาพรวมถึงปรับปรุงคุณภาพยาในท้องตลาดให้ดีขึ้น โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการนำร่องใน 11 เมืองใหญ่ทั่วประเทศในสิ้นเดือนธันวาคมนี้



ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศเริ่มโครงการนายหน้าจัดหายาสามัญภายในสิ้นเดือนนี้ โดยจะเริ่มที่เซี่ยงไฮ้ก่อนจากนั้นตามด้วยปักกิ่งและอีก 9 เมืองใหญ่ โดยความพยายามในครั้งนี้เกิดขึ้นจากหน่วยงาน State Medical Insurance Administration ที่ต้องการปรับเปลี่ยนให้โรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่าง ๆ นั้นซื้อยาจากรัฐบาลจีนโดยตรง อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลซื้อยาเป็นจำนวนมหาศาลส่งผลให้ได้ยาราคาที่ถูกลง หมายความว่า บริษัทยาจำนวนมากจำเป็นจะต้องเสนอราคายาให้ต่ำที่สุดสำหรับการประมูลราคา

โดยสำนักข่าวสัญชาติจีนอย่าง CGTN เผยว่า ล่าสุดมีบริษัทยาที่ผ่านการประมูลสำเร็จและได้เข้าร่วมโครงการนี้แล้วทั้งหมด 25 บริษัทซึ่งแทบทั้งหมดต่างต้องลดราคายาลงมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เช่น บริษัท Jiangsu Hengrui Medicine ผู้จัดจำหน่าย Irbesartan ยาสำหรับโรคความดันโลหิตสูงต้องลดราคายาลงถึง 60 เปอร์เซ็นต์หรืออย่างบริษัท Sino Biopharmaceutical ซึ่งจัดจำหน่าย Entecavir ยาสำหรับผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบีที่ลดราคาลงถึง 90 เปอร์เซ็นต์

ด้านสำนักข่าว Bloomberg กล่าวถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่าเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งยังเป็นการลดราคายาในตลาดต่ำที่สุดในประเทศจีนนับตั้งแต่ปี 2009 อย่างไรก็ดี ฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ดูแลโครงการดังกล่าวกลับมองว่า บริษัทยาต่าง ๆ ยังคงหากำไรอย่างสมเหตุสมผลได้อยู่ดี แม้จะถูกตัดราคามากกว่าครึ่งก็ตาม

“แต่การลดราคา 90 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ Sino Biopharmaceutical ซึ่งมีหุ้น 40 เปอร์เซ็นต์ในเซี่ยงไฮ้และไหนจะส่วนแบ่งอีก 30 เปอร์เซ็นต์จากการประมูลราคาก็ไม่สามารถชดเชยความสูญเสียอันเนื่องมาจากการลดราคาได้” นาตาลี ชูว (Natalie Chiu) นักวิเคราะห์จาก CCB International ภายใต้ธนาคารสัญชาติจีน China Construction Bank กล่าวทิ้งท้ายกับสำนักข่าว South China Morning Post

ที่มา:

1.Chinese pharmaceutical stocks plunge on bigger than expected price cuts of generic drugs on compulsory bulk tendering: South China Morning Post

2.Buying in bulk cuts drug prices by more than half in China : CGTN

3.China's Drugmakers Plunge Most Since 2009 on Price Concerns: Bloomberg

https://www.hfocus.org/content/2018/12/16689

 

SiamPublic

#สยามพับลิคนิวส์ รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศว่า
ยะห์ยา อัซซะรีอ์ โฆษกของกองทัพ #เยเมน แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในภาคสนามจากจังหวัด #อัลฮุดัยดาห์ ว่า
กลุ่มพันธมิตรของซาอุดิอาระเบียได้ละเมิด #ข้อตกลงการหยุดยิง 158 ครั้ง ในตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

 

PPTV HD 36
เพื่อน “ประวิตร” เสียชีวิตต้นปี 2560 แต่นาฬิกาเริ่มวางขายต้นปีเดียวกัน
#PPTVHD36 #PPTVNews #นาฬิกาเพื่อน #แหวนแม่ #ประวิตรวงษ์สุวรรณ #รองนายกรัฐมนตรี #คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ #CSILA

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง

ไทยใหญ่เหนือ-ไทยใหญ่ใต้: ยังสู้รบกันเองอย่างต่อเนื่อง/ส่วนคนที่ลำบากหนีตายกันคือชาวบ้านไทยใหญ่/แผ่นดินรัฐฉานเต็มไปด้วย"กองกำลัง"ยากที่จะสงบในเร็ววันถ้าระดับผู้นำของแต่ละเมืองยังไม่บรรลุข้อตกลงกัน

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 29) สื่อรายงานบริษัทในดัชนีตลาดหลักทรัพย์ S&P 500 เข้าซื้อหุ้นคืนรวมมูลค่ากว่า 583 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2018: สำนักพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่าบริษัทในดัชนีตลาดหลักทรัพย์ S&P 500 เข้าซื้อหุ้นคืนรวมมูลค่ากว่า 583 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2018 คิดเป็นมูลค่าการซื้อคืนที่ปรับเพิ่มจากปีก่อนหน้ากว่าร้อยละ 52.6 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจการคลังซึ่งเอื้อประโยชน์ด้านภาษีให้แก่บริษัทต่างๆ โดยบริษัทส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า การซื้อหุ้นคืนถือเป็นการคืนเงินทุนส่วนเกินให้แก่ผู้ถือหุ้น ขณะที่มูลค่าของหุ้นก็สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ตามราคาหุ้นในตลาด
อย่างไรก็ดี การปรับลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทขนาดใหญ่หลายราย เช่น Apple Inc., Wells Fargo & Co., และ Citigroup Inc. ซื้อหุ้นคืนในราคาที่สูงเชิงเปรียบเทียบ และเกิดข้อกังขาต่อแนวทางการใช้เงินทุนส่วนเกิน อาทิ การลงทุนในทรัพยากรและบุคลากรขององค์กรอาจก่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาวมากกว่าการซื้อหุ้นคืน
อนึ่ง Apple ซื้อหุ้นคืนที่ราคาเฉลี่ย 222.7 ดอลลาร์สรอ. ต่อหุ้น ขณะที่ราคา ณ สิ้นวันที่ 26 ธ.ค. อยู่ที่ 157.17 ดอลลาร์สรอ. ต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าของหุ้นที่ซื้อคืนปรับลดลงกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในขณะเดียวกันมูลค่าของหุ้นที่ซื้อคืนโดยบริษัท Wells Fargo และ Citigroup ปรับลดลง 2.7 และ 2.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามลำดับ
Source : BOTSS
- The Investment That Cost Apple $9 Billion in 2018:
https://www.wsj.com/articles/the-investment-that-cost-apple-9-billion-in-2018-11545925184

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 29) Wells Fargo ยินยอมที่จะจ่ายเงินค่าชดเชยจำนวน 575 ล้านดอลาร์ให้กับลูกค้ากรณีการสร้างบัญชีปลอม: ธนาคาร Wells Fargo ยินยอมที่จะจ่ายเงินค่าชดเชยจำนวน 575 ล้านดอลาร์ สรอ. ให้กับลูกค้าในทั้ง 50 รัฐ รวมถึง District of Columbia ในกรณีการสร้างบัญชีปลอมในส่วนของธุรกิจ retail การเก็บค่าธรรมเนียมลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอัตราที่ไม่เหมาะสม และการเสนอขายสินเชื่อรถยนต์ที่ไม่จำเป็นแก่ลูกค้า
ทั้งนี้ การจ่ายค่าชดเชยยังต้องรอผ่านการเห็นจากศาลในบางรัฐ โดยนาย Timothy Sloan, Wells Fargo CEO กล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า Wells Fargo มีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และปรับปรุงการดำเนินงานของธนาคารให้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี แม้การจ่ายค่าชดเชยข้างต้นจะเป็นความคืบหน้าในการแก้ไขในส่วนของธุรกิจ consumer lending ธนาคาร Wells Fargo ยังต้องเผชิญกับการสอบสวนจากหน่วยงานรัฐบาล ได้แก่ Justice Department และ Securities and Exchange Commission เกี่ยวกับธุรกิจด้าน wealth management และ foreign-exchange ต่อไป ท่ามกลางการอยู่ภายใต้ข้อกำหนดด้านเพดานมูลค่าสินทรัพย์จากธนาคารกลางสหรัฐฯ
Source: BOTSS
- Wells Fargo to pay $575 million in settlement with US states
: https://www.cnbc.com/2018/12/28/wel...500-million-in-settlement-with-us-states.html

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง
ทหารซีเรียเข้าสู่เมือง"มันบิจ"ใกล้ชายแดนตุรกี: ตามคำร้องขอของ"ชาวเคิร์ด"ที่ขอให้รัฐบาลซีเรียเข้าควบคุมเมืองมันบิจ(หลังถูกสหรัฐทอดทิ้งอย่างไม่เหลือใย)ท่ามกลางประธานาธิบดี"ตุรกี"แอร์โดกันประกาศพร้อมที่จะบุกลุยเมืองมันบิจเพื่อกวาดล้างชาวเคิร์ด ซึ่งเป็นหอกข้างแคร่ตุรกีมานาน...
---------------------
สถานการณ์เมืองมันบิจซักจะยุ่ง หลังสหรัฐถอนทหารออกไปอย่างไม่บอกลา โดยปล่อยให้ชาวเคิร์ดลอยคออยู่ท่ามกลางจรเข้อย่างตุรกีและฉลามซีเรีย/สุดท้ายชาวเคิร์ดจึงขอร้องขอให้รัฐบาลซีเรียมาคุ้มครองในการจะถูกตุรกีบดขยี้ในครั้งนี้(เพราะสหรัฐบรรลุข้อตกลงกับตุรกีและหักหลังชาวเคิร์ดอย่างรุนแรง)และตอนนี้ทหารซีเรียเข้ามาควบคุมเมืองมันบิจเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งชัก"ธงชาติซีเรีย"ขึ้นสู่ยอดเสาหลังจากไม่เห็นมาหลายปีเพราะมีแต่ธงของพวกชาวเคิร์ดที่สหรัฐ(ยุคโอบามา)สนับสนุนให้แยกดินแดนก่อตั้งเป็นประเทศใหม่ โดยจะแยกตัวจากซีเรียหากบาซาร์อัลอัดซาดล้มลง แต่สถานการณ์ไม่เป็นไปดังหวัง แถมเข้าสู่ยุคทรัมป์ยังสั่งถอนทหารกลับสหรัฐสะอีก ดังนั้นพวกชาวเคิร์ดจึงกลับเข้าสู่จุดเดิมคืออยู่ภายใต้รัฐบาลซีเรียดังเดิม เพื่อความอยู่รอดจากการถูกดวาดล้างจากตุรกี/(นี่แหละสหรัฐของจริง พอหมดประโยชน์ก็ทิ้งขว้างแบบไม่สนใจ แถมยังปล่อยให้ชาวเคิร์ดเป็นเหยื่ออันโอชะของตุรกีอีกต่างหาก)

 

La nueva era de la tierra - respaldo

แผ่นดินไหวในฟิลิปปินส์ 29 ธันวาคม 2561
Asi se sintio el terremoto en filipinas
29.12.2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo

รายงานกิจกรรมของกลุ่มภูเขาไฟ nevados de Chillán ใน Coihueco ประเทศ Coihueco ที่ปกคลุมด้วยหิมะในChillánเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
2018/12/29

 

La nueva era de la tierra - respaldo

การอพยพหลังจากเกิดแผ่นดินไหว 7.1 ใน ฟิลิปปินส์ 29 ธันวาคม 2561

 

La nueva era de la tierra - respaldo

แผ่นดินไหวที่รุนแรงในฟิลิปปินส์
ขนาด 7.2 คุกคามโดนสึนาม ิในพื้นที่เพียง 300 กิโลเมตรถึงศูนย์กลางของศูนย์กลางแผ่นดินไหว
•ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นใกล้กับศูนย์กลางของแผ่นดินไหว

 

La nueva era de la tierra - respaldo

ภาพแห่งวัน ภูเขาไฟ Etna ในอิตาลีในช่วงเวลาสุดท้าย
กิจกรรมในภูเขาไฟยังคงดำเนินต่อไป

 

La nueva era de la tierra - respaldo
#ULTIMA #HORA
บันทึกแสงที่แปลกตาในสหรัฐอเมริกา
ไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
ข้อมูลในการพัฒนา ...
27 ธันวาคม 2561

 

La nueva era de la tierra - respaldo
หิมะตกหนักในปาเลสไตน์ 27 ธันวาคม 2561