ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo



    ก่อนเกิดพายุทอร์นาโด ใน antalya ตุรกี สัตว์หลายชนิด มีพฤติกรรมที่ยุ่งเหยิง

    2019/01/26
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    صفحة الاحداث واحوال الطقس في العالم 2019



    น้ำท่วมท่วมถนนของเมือง Duba และชายฝั่ง Tabuk วันนี้ 27_1_2019 # _ ซาอุดิอาระเบีย
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหว ขนาด 5.1
    ภูมิภาค FIJI
    วันที่ 27 มกราคม 2562 เวลา 08:51:11.0 น. (ไทย)
    สถานที่ 18.12 S ; 177.88 W
    ความลึก 600 กม
    99F47945-A8B9-45E4-8127-982CF9E80312-614-00000042B14A6335.png EC0CD7D8-BAF5-48B4-B6C5-F4009D327ECD-614-00000042B59E63B9.png IMG_8443.PNG
    Magnitude 5.1
    Region FIJI REGION
    Date time 2019-01-27 01:51:11.0 UTC
    Location 18.12 S ; 177.88 W
    Depth 600 km
    Distances
    389 km E of Suva, Fiji / pop: 77,400 / local time: 13:51:11.0 2019-01-27

    347 km SE of Lambasa, Fiji / pop: 24,200 / local time: 13:51:11.0 2019-01-27

    https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=741090
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    งามหน้า! สื่อฮ่องกงตีแผ่ซื้อขายพาสปอร์ต ช่องทางเศรษฐีหนีคดี ยกตัวอย่าง “ยิ่งลักษณ์” สาวแขมร์!
    เผยแพร่: 26 ม.ค. 2562 20:59 ปรับปรุง: 26 ม.ค. 2562 21:36 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000945501.jpg

    น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

    “เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์” สื่อในฮ่องกง แฉกระบวนการซื้อขายพาสปอร์ต ช่องทางที่ทำให้เศรษฐีคนมีเงินที่ต้องการหลบหนีคดี หรือ หลีกเลี่ยงภาษี สามารถเดินทางไปประเทศต่างๆ ได้ พร้อมยกตัวอย่าง กรณี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือพาสปอร์ตกัมพูชา และ “โจ โลว์” ผู้ต้องหาหลบหนีคดี 1MDB ชาวมาเลย์ ที่ถือพาสปอร์ตเซนต์คิตส์แอนด์เนวิส

    วันนี้ (26 ม.ค.) เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ได้เผยแพร่รายงานพิเศษเปิดเผยกระบวนการซื้อขายหนังสือเดินทางในประเทศต่างๆ โดยนำกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่ถือพาสปอร์ตของกัมพูชา และ นายโจ โลว์ (Jho Low) ผู้ต้องหาหนีคดีทุจริตกองทุน 1MDB ในมาเลเซีย ที่ถือพาสปอร์ตของเซนต์คิตส์แอนด์เนวิส ประเทศเล็กๆ ในทะเลแคริบเบียน มาเป็นตัวอย่างขึ้นพาดหัวข่าว พร้อมระบุว่า การจะมีพาสปอร์ตของบางประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการหลบหนีคดี หรือ หลีกเลี่ยงภาษีนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก ขอให้มีเงินสัก 1 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไป และสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อพาสปอร์ตของประเทศไหนจึงจคุ้มเงินที่สุด

    เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า ไม่มีใครคาดคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย จะใช้พาสปอร์ตของราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นเอกสารที่แสดงต่อเจ้าหน้าที่ ตม. เวลาเดินทางไปประเทศต่างๆ นั่นเพราะหนังสือเดินทางกัมพูชานั้น ถูกจัดอยู่ในกลุ่มหนังสือเดินทางที่ทรงพลังน้อยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ Henley Passport Index โดยอยู่ในลำดับที่ 84 จาก 104 ประเทศ

    562000000945502.jpg

    ภาพปกหนังสือเดินทางกัมพูชา

    อย่างไรก็ตาม คนที่มีเงินสัก 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็สามารถถือหนังสือเดินทางอย่างเป็นทางการของกัมพูชาได้ ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ว่าจะต้องลงทุนในประเทศตามจำนวนดังกล่าว

    น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งหลบหนีออกนอกประเทศตั้งแต่ปี 2560 ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะอ่านคำพิพากษาให้จำคุก 5 ปี ฐานปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ได้ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชาขอจดทะเบียนเป็นกรรมการเพียงคนเดียวของบริษัทในฮ่องกง ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ตามที่เอกสารจดทะเบียนบริษัทระบุ ซึ่ง “เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์” นำมาเปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้ และช่วยตอกย้ำข้อสันนิษฐานที่ว่าเธอหลบหนีออกจากประเทศไทยโดยผ่านกัมพูชา

    ขณะเดียวกัน กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชา ทำให้ประเด็นการซื้อขายพาสปอร์ตเป็นที่สนใจขึ้นมาทันที เพราะเดี๋ยวนี้เป็นเรื่องง่ายที่พวกเศรษฐีที่ไม่อยากอยู่ในประเทศของตัวเองจะได้พาสปอร์ต หรือ ที่พำนักอาศัยในประเทศใหม่ ขอแค่เพียงจ่ายเงินซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1 แสน-2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยบางกรณีการหาพาสปอร์ตง่ายพอๆ กับการซื้อของออนไลน์ด้วยซ้ำ โดยผู้ที่ยื่นขอไม่ได้ต้องแสดงตัวเลย ขณะที่บางคนก็ได้พาสปอร์ตโดยการติดสินบนเจ้าหน้าที่

    นิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ รายงานเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ระบุถึงตัวเลขการซื้อขายพาสปอร์ต ว่า มีหลายพันเล่มต่อปี และการจ่ายเงินเพื่อให้ได้รับการอนุญาตให้คนต่างชาติอยู่อาศัยถาวรในประเทศต่างๆ มีหลายแสนราย

    พาสปอร์ตที่ขายถูกที่สุดในโลก ซึ่งมีราคาอยู่ที่เล่มละ 1 แสนดอลลาร์นั้น จะอยู่ในประเทศแถบแคริบเบียน ได้แก่ สาธารณรัฐโดมินิกัน แอนติกัวแอนด์บาร์บูดา และ เกรนาดา

    ส่วนที่ราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อย คือ 150,000 ดอลลาร์ และต้องตอบคำถามไม่กี่คำถาม ได้แก่ ประเทศเซนต์คิตส์แอนด์เนวิส ซึ่งอยู่ในแคริบเบียนเหมือนกัน โดยจะใช้เวลาออกให้ภายใน 90 วัน

    ทั้งนี้ นโยบายด้านพาสปอร์ตซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ เป็นที่นิยมของเศรษฐีคนมีเงินจากทั่วโลก ยกตัวอย่าง นักธุรกิจชาวมาเลย์ ที่ชื่อ โลว์ เต็ก โจ (Low Taek Jho) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โจ โลว์ (Jho Low) ซึ่งถูกทางการมาเลเซียตามล่าตัว เนื่องจากเกี่ยวพันกับคดีทุจริตกองทุน 1MDB และถูกยกเลิกพาสปอร์ตมาเลย์ไปแล้ว แต่ยังสามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้ด้วยพาสปอร์ตของประเทศเซนต์คิตส์แอนด์เนวิส

    562000000945504.jpg

    นายโจ โลว์ ผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตกองทุน 1MDB ของมาเลเซีย ซึ่งหันไปถือหนังสือเดินทางของเซนต์คิตส์แอนด์เนวิส หลังจากหนังสือเดินทางมาเลย์ถูกยกเลิก

    ขณะที่ในกลุ่มสหภาพยุโรป 28 ประเทศนั้น ก็มีประมาณ 20 ประเทศ ที่มีนโยบายจะให้ถิ่นพำนักหรือความเป็นพลเมืองแก่ชาวต่างชาติเพื่อแลกกับเงินลงทุนจำนวนมาก

    อย่าง มอลตา ถ้าบริจาคเงิน 850,000 ดอลลาร์ ก็สามารถถือพาสปอร์ตของประเทศนี้ได้ ส่วนไซปรัสนั้น ต้องลงทุน 2.26 ล้านดอลลาร์ และไม่มีเงื่อนไขว่าต้องพำนักอาศัยในประเทศนี้

    นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการมีพาสปอร์ตจึงทำให้สถานะพลเมืองของหลายประเทศกลายเป็นของมีค่า รวมทั้งเป็นสินค้าที่ถูกเสาะแสวงหา โดยคนกระเป๋าหนักแต่ต้องเร่ร่อนด้วยเหตุผลต่างๆ และพวกเขาก็มีกองทัพผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย การเงิน และการบัญชี คอยให้คำปรึกษา

    แอนดรูว์ เฮนเดอร์สัน ผู้ก่อตั้ง Nomad Capitalist ซึ่งอดีตเคยเป็นคนสัญชาติอเมริกัน ได้ให้คำแนะนำแก่บรรดาเศรษฐีทั้งหลาย ว่า ควรจะหาประเทศอยู่ใหม่ เพื่อจ่ายภาษีน้อยลง รวมทั้งแนะนำให้ถือพาสปอร์ตหลายประเทศ และตัวเขาเองก็มีถึง 4 เล่ม

    ทั้งนี้ แอนดรูว์ ได้ขอยกเลิกพาสปอร์ตอเมริกันของเขาเอง เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของเขาต่อรัฐบาลสหรัฐฯ และบอกว่าในแต่ละปีเขาใช้ชีวิตอยู่ใน 15-20 ประเทศ

    เขาไม่ยอมเปิดเผยว่า เขาถือพาสปอร์ตประเทศไหนบ้าง โดยบอกว่า แต่ละประเทศคงไม่อยากให้พลเมืองของตัวเองไปถือพาสปอร์ตของประเทศอื่น

    “ประโยชน์ของการถือพาสปอร์ตหลายประเทศ คือ มันทำให้เราเดินทางสะดวก ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และสามารถเลือกใช้พาสปอร์ตที่เหมาะกับแต่ละสถานการณ์

    “สำหรับเพื่อนผมที่เป็นลูกครึ่งอิสราเอล-โปแลนด์ การถือพาสปอร์ตหลายประเทศทำให้เขาสามารถเข้าไปทำธุรกิจในอ่าวอาหรับได้ และสำหรับผม มันก็ทำให้ผมได้มีมุมสงบๆ ในประเทศเล็กๆ ที่ไม่มีใครมารบกวน”

    ทั้งนี้ จากการจัดอันดับพาสปอร์ตที่ทรงพลังที่สุดของ Henley Passport Index ซึ่งวัดจากจากการได้ฟรีวีซ่าในการผ่านแดน พบว่า พาสปอร์ตญี่ปุ่นอยู่อันดับ 1 เนื่องจากสามารถใช้ผ่านแดนโดยไม่ต้องขอวีซ่าใน 190 ประเทศ อันดับ 2 คือ สิงคโปร์ และ เกาหลีใต้ ใช้ผ่านแดนโดยไม่ต้องขอวีซ่าใน 189 ประเทศ โดย 10 อันดับพาสปอร์ต ที่ทรงพลังส่วนใหญ่เป็นของประเทศในยุโรป ส่วนฮ่องกงอยู่อันดับ 19 จีน 69 และประเทศที่รั้งท้ายสุด คือ อัฟกานิสถาน และ อิรัก

    อย่างไรก็ตาม บรรดาคนมีเงินที่ต้องการได้พาสปอร์ตของประเทศใหม่นั้น เขาต้องการอย่างอื่นมากกว่าการได้ฟรีวีซ่า เขาอาจจะต้องการจ่ายภาษีน้อยลง และสนุกกับการได้เสรีภาพที่จะไปที่ไหนก็ได้

    เช่นเดียวกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ โจ โลว์ ซึ่งต้องการจะหลบเลี่ยงกฎหมาย รวมทั้ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มหาเศรษฐีพี่ชายของเธอที่หนีออกจากประเทศ ว่ากันกันว่า เขาได้ถือพาสปอร์ตของหลายประเทศ

    เซี่ยว เจียนหวา (Xiao Jianhua) เศรษฐีชาวจีนซึ่งหายตัวออกไปจากฮ่องกงตั้งแต่ปี 2560 และเชื่อกันว่า ถูกหมายจับจากทางการจีน ฐานต้องสงสัยปั่นหุ้นและติดสินบนเจ้าหน้าที่ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ถือพาสปอร์ตแคนาดา และพาสปอร์ตทูตของแอนติกัวแอนด์บาร์บูดา ด้วย

    562000000945503.jpg

    นายเซี่ยว เจียนหวา นักธุรกิจชาวจีน ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหยีคดีปั่นหุ้นและติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ โดยใช้หนังสือเดินทางของแอนติกัวแอนด์บาร์บูดา ในการเดินทางไปประเทศต่างๆ

    เฮนเดอร์สัน แห่ง Nomad Capitalist เชื่อว่า พาสปอร์ตสิงคโปร์ ซึ่งได้คะแนนสูงจาก Henley index นั้น อาจไม่คุ้มกับความยุ่งยากในการได้มา เนื่องจากนโยบายการให้สัญชาติโดยแลกกับเงินลงทุนนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และในการยื่นขอนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยึดกฎระเบียบทุกตัวอักษร

    “การขอพาสปอร์ตในเอเชียนั้นยุ่งยาก เราอาจจะมีพาสปอร์ตสิงคโปร์ได้ แต่ต้องทำตามกฎทุกตัวอักษร และพวกเขาต้องการจะให้เป็นครอบครัวที่มีเด็กอยู่กับผู้ใหญ่มากกว่า เอเชียจึงเป็นภูมิภาคที่ไม่เหมาะกับการหาพาสปอร์ตใหม่จริงๆ”

    สิงคโปร์มีนโยบายการดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกโดยชาวต่างชาติมีสิทธิที่จะอยู่อาศัยอย่างถาวรหากลงทุนอย่างน้อย 2.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในการเริ่มธุรกิจใหม่หรือขยายการลงทุนจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้วในสิงคโปร์

    เฮนเดอร์สัน ยังบอกอีกว่า สำหรับเกาหลีใต้ที่มีเงื่อนไขว่าต้องลงทุน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จึงจะได้สิทธิอยู่อาศัยถาวรนั้น ไม่เพียงแต่มีเงื่อนไขว่าคุณต้องใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเท่านั้น แต่ภาษีก็ยังสูงอีกด้วย

    เขาจึงจัดอันดับประเทศที่เหมาะแก่การมีพาสปอร์ตขึ้นมาเอง โดยดูทั้งความสะดวก ภาษี ชื่อเสียงของประเทศ อิสระภาพในการถือพาสปอร์ตได้หลายเล่ม และเสรีภาพส่วนบุคคลด้วย ซึ่งในปี 2018 อันดับ 1 คือ สวีเดน และใน 10 อันดับแรก เป็นยุโรปทั้งหมด ส่วนสหรัฐฯ ไม่ติดอยู่ใน 30 อันดับแรก นั่นเพราะภาษีสูง และกฎระเบียบต่างๆ ก็ผลักไสให้คนอเมริกันสละความเป็นพลเมืองของตนเอง
    562000000945505.jpg

    พาสปอร์ตของนาย เซี่ยว เจียนหวา นักธุรกิจชาวจีนที่หันไปถือสัญชาติแอนติกัวแอนด์บาร์บูดา เพื่อหลบหนีคดีปั่นหุ้น

    อย่างไรก็ตาม Cheung แห่งบริษัทที่ปรึกษาด้านการเข้าเมือง โกลด์แม็กซ์ (Goldmax Immigration Consulting) ในฮ่องกงกล่าวว่า ขณะนี้ ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้เข้มงวดนโยบายการให้สิทธิเข้าเมืองเพื่อแลกกับการลงทุนมากขึ้น

    “ทุกวันนี้ หลายประเทศเขาไม่ได้มองหาแต่เงินอย่างเดียว ตัวเงินมันส่งผลต่อเศรษฐกิจน้อยมาก แต่ละประเทศเขาต้องการคนที่มีการศึกษาดี มีอายุการทำงาน เขาต้องการนักลงทุนที่สามารถลงทุนในท้องถิ่นและจ้างคนงานในท้องถิ่น”

    แม้แต่ฮ่องกงก็ได้ยกเลิกนโยบายการดึงเงินลงทุนแบบนี้ไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน เมื่อระบบเศรษฐกิจเราต้องการมากกว่าแค่ตัวเงิน ซึ่งพวกเศรษฐีเหล่านั้นต้องการจะได้พาสปอร์ตยุโรปมากกว่าเอเชีย เนื่องจากประเทศเหล่านั้นให้ถือสองสัญชาติได้

    ขณะที่ องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ และ โกลบอล วิทเนส (Transparency International and Global Witness) คาดหมายว่า ประเทศในยุโรป เช่น สเปน ฮังการี ลัตเวีย โปรตุเกส และอังกฤษ แต่ละประเทศได้ให้ “วีซ่าทอง” หรือสิทธิการอยู่อาศัยถาวรแลกกับเงินลงทุนจากชาวต่างชาติปีละมากกว่า 10,000 ราย ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

    โดย มอลตา ไซปรัส และ บัลแกเรีย เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู)ที่ขายสิทธิการได้เป็นพลเมืองในราคาระหว่าง 1.1-2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง 3 ประเทศนี้ และอีก 20 ประเทศสมาชิกอียู ได้ขายสิทธิการอยู่อาศัยถาวรด้วย

    ขณะที่มีรายงานอีกด้านว่า ด้วยนโยบายเหล่านี้ สมาชิกอียูสามารถดึงเงินลงทุนเข้าประเทศได้ประมาณ 28,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม มีรายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สหภาพยุโรปเริ่มส่งสัญญาณเตือนว่านโยบายการให้สถานะพลเมืองแลกกับเงินลงทุนนั้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อียูจะเป็นที่แทรกซึมของกลุ่มอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ฟอกเงิน พวกคอร์รัปชันและหลบเลี่ยงภาษี

    ความเสี่ยงดังกล่าวเนื่องจากประเทศเหล่านั้นไม่ได้ตรวจสอบที่มาของความร่ำรวยของผู้ที่มาขอสถานะพลเมืองและสิทธิอยู่อาศัยถาวร และด้วยพาสปอร์ตของประเทศเดียวผู้ถือก็สามารถเดินทางไปได้ทั้ง 28 ประเทศสมาชิก

    ทั้งนี้ รัฐบาลบัลแกเรีย เพิ่งประกาศหยุดนโยบายการขายพาสปอร์ต โดยรัฐมนตรียุติธรรมบอกว่า ตั้งแต่ปี 2556 มีชาวต่างชาติเพียง 50 คน จากรัสเซีย อียิปต์ อิสราเอล และปากีสถาน ที่ได้พาสปอร์ตแลกกับการนำเงินมาลงทุน

    อย่างไรก็ตาม เฮนเดอร์สัน แห่ง Nomad Capitalist กล่าวว่า บางประเทศก็กังวลกับเรื่องเหล่านี้เกินจริง เพราะประเทศส่วนใหญ่ก็มีการคัดกรองคำขอในระดับเดียวกับที่อังกฤษและสหรัฐฯ ทำ และหลายคำขอก็ถูกปฏิเสธ

    “ความคิดที่ว่า อาชญากรจะเล็ดลอดผ่านการตรวจสอบนั้น มันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อของคนจำนวนน้อยมากกว่า เพราะคนพวกนั้นไม่อยากให้คนรวยมา “แซงคิว” และว่า เขาจะไม่อดทนกับคนที่มาถกเถียงเรื่องจริยธรรมในการซื้อขายพาสปอร์ตและสิทธิอยู่อาศัย

    “ผมจะบอกว่า ใครสนล่ะ คนมีเงินเขาจะทำประโยชน์ให้ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในประเทศที่ยังมีหนี้อย่างเซนต์คิตส์แอนด์เนวิส พร้อมจะต้อนรับตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะประเทศเหล่านั้นต้องการเงิน”

    สำหรับในทวีปเอเชีย หลายประเทศห้ามประชาชนถือหลายสัญชาติ เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินเดีย และ จีน

    แต่กัมพูชาเป็นข้อยกเว้น ที่ปรึกษาด้านการลงทุนและการเข้าเมืองซึ่งมีฐานที่เฉินเจิ้น ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวของเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ที่โทรศัพท์ไปสอบถามในฐานะลูกค้า ว่า

    “เราประสบความสำเร็จถึง 95 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเร็วๆ นี้ เขาปรับขั้นตอนให้มันเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่”

    ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวคิดค่าใช้จ่าย 180,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับบริการด้านการด้านหนังสือเดินทาง และจ่ายเงินคืนเต็มจำนวนหากขอไม่ผ่าน ขณะที่ข้อมูลในโบรชัวร์ของบริษัทอ้างว่า บริษัทมีสายสัมพันธ์กับกองทัพและนักการเมืองระดับสูงของกัมพูชา

    ที่ปรึกษาคนนี้ กล่าวว่า แม้รัฐบาลจีนจะไม่อนุญาตให้ประชาชนถือสองสัญชาติ แต่การถือพาสปอร์ตของจีนและกัมพูชาพร้อมกันนั้น ก็ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่เจ้าหน้าที่ไม่ทำการตรวจสอบ “มันไม่ง่ายที่เรื่องนี้จะถูกตรวจพบ”

    ส่วนที่ปรึกษาด้านตรวจคนเข้าเมืองของบริษัทระหว่างประเทศรายหนึ่ง กล่าวว่า “เราสามารถขอพาสปอร์ตกัมพูชาผ่าน “ช่องทางพิเศษ” ได้ ซึ่งนั่นก็คือ การติดสินบนเจ้าหน้าที่” ซึ่งหลังจากรู้ว่ากำลังคุยกับผู้สื่อข่าวแล้ว ที่ปรึกษาคนดังกล่าวก็ไม่ให้ข้อมูลอีก

    เจ้าหน้าที่กัมพูชา เพิ่งออกมาปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่เคยออกหนังสือเดินทางให้ชาวต่างชาติ แต่หนังสือพิมพ์ Khmer Times เคยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่คนเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ว่า ในช่วงปี 2557-2560 มีชาวต่างชาติ ได้รับอนุมัติให้ถือสัญชาติกัมพูชา 1,518 คน ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าในจำนวนนี้เป็นคนจีนกี่คน หลังจากที่พบว่ามีคนจีนหลั่งไหลเข้าไปยังประเทศนี้จำนวนมากทั้งในฐานะนักลงทุนและนักท่องเที่ยวในช่วงปีกี่ปีที่ผ่านมา

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000009126
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2019
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี


    เพิ่มเติมครั้งที่ 1 กลุ่ม 61 สาธารณภัย ปภ ติดตามเหตุอากาศหนาวเย็น ต่างประเทศ

    มีรายงานอาทิตย์หน้า แคนาดา สหรัฐ อาจเจอมวลอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบ 20 ปี

    สหรัฐอเมริกาตะวันตกตอนกลางกำลังเผชิญกับความเย็นจัด แต่คาดว่าจะมีความหนาวเย็นที่รุนแรงขึ้นและอันตรายยิ่งขึ้นในวันสุดท้ายของเดือนมกราคมเนื่องจากกระแสน้ำวนขั้วโลกพุ่งลงมาทางใต้

    ในช่วงปลายสัปดาห์หน้ามันจะเป็นช่วงเวลาที่หนาวเหน็บมากและมีพลังงานสูงจากที่ราบถึงชายฝั่งตะวันออก” อุณหภูมิสามารถจัดได้ 20 ถึง 40 องศาฟาเรนไฮต์ที่ต่ำกว่าปกติในบริเวณมิดเวสต์ส่วนใหญ่รอบกลางสัปดาห์"

    // อ้างอิงจากนักอุตุนิยมวิทยาอาวุโสของ Brett Anderson / ห้อง.61


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี


    เพิ่มเติมครั้งที่ 2 ศูนย์ข้อมูลสาธารณภัย ปภ ติดตามเหตุน่าสนใจ ต่างประเทศ

    เหตุฝนตกหนัก ดินโคลนถล่ม วันที่ 22- 27 มค.62 เกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนิเซีย

    เบื้องต้น


    ระดับน้ำสูง 30 -1 ม.

    106 หมู่บ้าน 61 ตำบล 13 อำเภอ / เมืองในสุลาเวสีใต้

    // เสียชีวิต 68 ราย สูญหาย 30 ราย บาดเจ็บ 47 ราย

    // อพยพ 6760 คน

    // บ้านเรือนเสียหายกว่า 5200 หลัง

    อยู่ระหว่างการช่วยเหลือ / ห้อง 61 / หน่วย SAS บาซานาส /BPBD / กลุ่มภาคพื้นแปซิฟิก ///


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    38B03F80-3AD7-4B2F-A642-1D4D47E41B4B.jpeg
    (Jan 27)บราซิลเตือนเขื่อนอีกแห่งใกล้แตกในพื้นที่เดียวกัน : บริษัทผู้ประกอบการและทีมดับเพลิงบราซิลประกาศเตือนอันตรายว่าเขื่อนเก็บหางแร่อีกแห่งในเมืองบรูมาดิญโญใกล้แตกในเช้าตรู่วันอาทิตย์ หลังจากมีเขื่อนแตกในพื้นที่เดียวกันไปก่อนนี้ มีผู้เสียชีวิต 34 คน และสูญหายราว 300 คน


    ประกาศเตือนภัยมีขึ้นช่วง 05.30 น.วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น (14.30 น.ในไทย) โดยบริษัทวาเลผู้ประกอบการธุรกิจเหมืองแร่เตือนอันตรายจากระดับน้ำสูงมากในเขื่อนซึ่งกักเก็บหางแร่ ภายหลังจากเขื่อนเก็บหางแร่อีกแห่งในแหล่งเดียวกันแตกไปเมื่อวันศุกร์ ส่งผลให้น้ำโคลนนับล้านตันปะปนกับหางแร่กวาดกลืนทุกอย่างตามทางฝังกลบอาคารบ้านเรือนและผู้คนที่อยู่ในทางน้ำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้คนในชุมชนใกล้เคียงแล้ว


    Source: สำนักข่าวไทย


    - Fresh warning at Brazil mining site where dam collapsed: https://www.theguardian.com/world/2...ing-at-brazil-mining-site-where-dam-collapsed


    เรื่องเดิม

    - ปธน.บราซิล นำทีมกู้ภัยค้นหาผู้สูญหาย 300 คน หลังเขื่อนแตก: https://news.thaipbs.or.th/content/277278


    - ยอดดับเขื่อนบราซิลแตกพุ่ง 34 สูญหายอีกเกือบ 300 “ปธน.โบลโซนารู” ขึ้นบินสำรวจความเสียหาย: https://mgronline.com/around/detail/9620000009209
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_8450.JPG

    (Jan 27) ไดสันเลือก'สิงคโปร์' ย้ำน่าลงทุนช่วงโลกป่วน: "สิงคโปร์" อาจเป็นเพียงประเทศขนาดเล็ก และมีประชากรเพียง 5.6 ล้านคน แต่นับเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านการเงินของเอเชีย และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านการค้าของโลก โดยการตัดสินใจล่าสุดของ "ไดสัน" (Dyson)ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าจากอังกฤษ ที่จะย้ายสำนักงานใหญ่จากอังกฤษมายังสิงคโปร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ยิ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้เห็นว่าสิงคโปร์ยังคงเป็นแหล่งน่าดึงดูดสำหรับธุรกิจท่ามกลางความปั่นป่วนทั่วโลก

    ไดสัน ระบุว่า บริษัทจะย้ายสำนักงานใหญ่มายังสิงคโปร์เพื่อให้ความสำคัญกับเอเชีย ภูมิภาคที่สร้างรายได้หลักให้กับ ไดสัน พร้อมระบุว่าจะให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนามากขึ้น และลงทุนอีกหลายร้อยล้านปอนด์ในด้านหุ่นยนต์ รวมถึงบุกธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) อย่างจริงจัง หลังประกาศตั้งโรงงานผลิตอีวีแห่งแรกของบริษัทในสิงคโปร์ เมื่อเดือน ต.ค.

    ซงเซงวุน นักเศรษฐศาสตร์ของ ซีไอเอ็มบี ไพรเวทแบงกิ้ง ในสิงคโปร์ กล่าวว่า สิงคโปร์ยังดึงดูดธุรกิจทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่องแม้ต้นทุนแพง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองทั่วโลกที่กำลังเพิ่มมากขึ้น ขณะที่บลูมเบิร์ก รายงานว่า สิงคโปร์มีหลากหลายปัจจัยที่เอื้อต่อธุรกิจ ซึ่งเริ่มปรากฏชัดขึ้นในช่วงเศรษฐกิจทั่วโลกเสี่ยงเข้าภาวะขาลง

    อย่างไรก็ดี สงครามการค้าที่ฉุดเศรษฐกิจทั่วโลกก็ส่งผลกระทบถึงสิงคโปร์เช่นกัน เนื่องจากเป็นหนึ่งในชาติที่พึ่งพาการส่งออกมากที่สุดในโลก โดยเศรษฐกิจสิงคโปร์ในปี 2018 ขยายตัว 3.3% ลดลงมาจากการขยายตัวที่ 3.6% ในปี 2017 เช่นเดียวกับยอดส่งออกที่ลดลง 8.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นการลดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบมากกว่า 2 ปี อีกทั้งสิงคโปร์ยังต้องเผชิญความท้าทายเรื่องประชากรสูงวัย การขาดแคลนแรงงาน ค่าครองชีพสูง และกฎหมายต่อต้านเกย์

    ภาษี-เอฟทีเอ เอื้อธุรกิจ

    มาตรการ "ภาษี" ของสิงคโปร์นับเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบที่มีความโดดเด่นกว่าชาติอื่น โดยบริษัทตรวจสอบบัญชี เคพีเอ็มจี เปิดเผยว่า อัตราภาษีนิติบุคคลของสิงคโปร์อยู่ที่ 17% และภาษีเงินได้อยู่ที่ 22% นับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นมิตรต่อธุรกิจมากที่สุดในโลก ส่วนอังกฤษ ที่ตั้งสำนักงานใหญ่เดิมของ ไดสัน เพิ่งปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลมาอยู่ที่ 19% ในเดือน เม.ย. 2017 และจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 17% ในปี 2020

    นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงแผนลดภาษีเพิ่มสำหรับบริษัทที่ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา และยังคงมีขีดความสามารถแข่งขันในระดับโลก แม้ว่ารัฐบาลสิงคโปร์กำลังปรับขึ้นภาษีเพื่อรับมือกับประชากรสูงวัยก็ตาม

    ความสัมพันธ์ทางการค้าก็เป็นอีกข้อได้เปรียบของสิงคโปร์ โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ระบุว่า สิงคโปร์อยู่ในข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ทั้งหมด 22 ฉบับ ในปี 2017 และยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ชาติที่มีเอฟทีเอกับ 2 ชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง สหรัฐและจีน เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป (อียู) นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังอยู่ในข้อตกลงความครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) หรือทีพีพีใหม่ ที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้สิงคโปร์ได้สิทธิเข้าถึงตลาดญี่ปุ่น แคนาดา และเม็กซิโก

    ขณะเดียวกัน บรรยากาศในการทำธุรกิจของสิงคโปร์ก็อยู่อันดับต้นๆ ของโลก เห็นได้จากการติดอันดับต้นๆ ในการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) โดยเฉพาะการครองอันดับ 1 ในด้านการปฏิบัติตามสัญญา และอันดับ 3 ในด้านการเริ่มต้นประกอบธุรกิจ

    นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังติด 10 อันดับแรกในดัชนีนวัตกรรมบลูมเบิร์ก 2019 ซึ่งวัดจาก 7 เกณฑ์ รวมถึงงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนา ความสามารถในด้านการผลิต และการให้ความสำคัญกับบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง

    การเมืองในประเทศนิ่ง

    นายกรัฐมนตรี ลีเซียนลูง แห่งสิงคโปร์ เคยส่งสัญญาณว่าอาจจัดการเลือกตั้งทั่วไปภายในปีนี้ ก่อนกำหนดเดิมในปี 2021 และเมื่อไม่นานมานี้ ตันเชงบ็อค อดีตสมาชิกพรรคพีเอพี และอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2011 ได้หวนคืนสู่เวทีการเมืองอีกครั้งด้วยการตั้งพรรคสิงคโปร์ก้าวหน้า (Progress Singapore Party) ซึ่งคาดว่าอาจช่วยฝ่ายค้านได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป อีกทั้งยังได้รับเสียงสนับสนุนจาก ลีเซียนหยาง น้องชายของลีเซียนลูงอีกด้วย

    อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งอาจไม่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนมากนัก ต่างกับการเลือกตั้งของชาติอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากพรรคกิจประชาชน (พีเอพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลมาตลอดตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 1965 มีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไป

    พรรคพีเอพีได้เปิดตัว เฮงสวีเกียตรัฐมนตรีคลัง ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการพรรคคนที่ 1 เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นการปูทางไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปแทนที่ ลีเซียนลูง ในอนาคต และอยู่ภายใต้กลุ่มผู้นำ 4จี หรือกลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ของพรรคพีเอพี


    Source: Posttoday
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_8451.JPG
    (Jan 27) คอลัมน์ Big Data Analysis: ส่องมนุษย์ยุคดิจิทัล เทคโนฯทำนายอารมณ์มาแรง : ไมเคิล บียอน หัวหน้างานฝ่ายวิจัย ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ผลสำรวจผู้บริโภคฯของอีริคสัน กล่าวถึงแนวโน้มพฤติกรรม 10 อย่างของผู้บริโภค ยุคดิจิทัลปี 2562 คาดการณ์ตัวเลขผู้ใช้งานเทคโนโลยีใหม่เร็วขึ้นถึง 34 ล้านรายทั่วโลก



    ผลสำรวจล่าสุดจากรายงานประจำปี ได้วิเคราะห์ และประเมินเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้บริโภค และ คาดการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีในอนาคต รวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ), เทคโนโลยีเสมือน (วีอาร์), 5 จีและระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ผลจากรายงานบ่งชี้ว่า เทคโนโลยีอิสระ และการทำนายอารมณ์จะเป็น เทคโนโลยีที่มาแรงและจะมีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์ในอนาคตอันใกล้ยังคาดการณ์ว่า ผู้ใช้งาน 5จีจะสูงถึง 40% ของจำนวนประชากรโลก คือ 7,920 ล้านราย และจำนวนผู้สมัครใช้งาน อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่จะแตะถึง 1,500 ล้านรายภายในปี 2567 ทำให้ 5จีเป็นเทคโนโลยีที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในระดับโลก



    สำหรับในอาเซียน ดับบลิวซีดีเอ็มเอและเอชเอสพีเอหรือ 3จี ยังคงเป็นเทคโนโลยีหลักราว 48% แต่เชื่อว่า 4จี ยังคงเติบโตขึ้นถึง 70% ภายในปี 2561 ถือสัดส่วนอยู่ที่ 26% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 คาดว่า 4จีจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 63% ของผู้ใช้งานทั้งหมดในภูมิภาคนี้ ในส่วนของ ปริมาณการใช้ข้อมูลต่อสมาร์ทโฟนจะมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างมากจาก 3.8 กิกะไบต์ต่อเดือน เป็น 19 กิกะไบต์ต่อเดือนภายในปี 2567


    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    DA2769A5-3B1C-4F7E-88BC-D170BB7BE320.jpeg
    (Jan 27) วิกฤติเวเนซุเอลาศึกแฝงสองชาติ'สหรัฐ-รัสเซีย': เวเนซุเอลา วิกฤติหนักแบ่งโลกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายพันธมิตรสหรัฐ หนุนประธานาธิบดีเฉพาะกาล และฝ่ายพันธมิตรรัสเซีย หนุนประธานาธิบดีมารูโด ด้านนักการทูตสหรัฐพร้อมครอบครัวทยอยออกจากกรุงการากัส ขณะราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวขึ้น เหตุตลาดกังวลที่สหรัฐขู่คว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนฯ ว่าจะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกตึงตัว



    ภาวะวิกฤติทางการเมืองในเวเนซุเอลาที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆถูกจับตามองอย่าง ใกล้ชิดจากบรรดานักลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตลาดน้ำมัน ในฐานะที่เวเนซุเอลา เป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตน้ำมันป้อนตลาดโลก ล่าสุดรัสเซีย และอีกหลายประเทศ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐ ที่ให้การสนับสนุนผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลาขึ้นเป็นประธานาธิบดี



    รัสเซีย จีน ตุรกี และซีเรีย รุมวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐที่ประกาศสนับสนุนนายฮวน กุยโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา ให้ขึ้นเป็นประธานาธิบดี โดยประเทศเหล่านี้แสดงจุดยืนชัดเจนในการสนับสนุนประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา เช่นเดียวกันกับเม็กซิโก โบลิเวีย และคิวบา



    ขณะที่ หลายประเทศ อย่างบราซิล โคลอมเบีย ชิลี เปรู เอกวาดอร์ อาร์เจนตินา ปารากวัย สเปน สหราชอาณาจักร คอสตาริกา และแคนาดา ให้การสนับสนุนนายกุยโดเหมือนกับสหรัฐ



    ด้านประธานาธิบดีมาดูโร ประกาศว่า จะปิดสถานทูตและสถานกงสุลเวเนซุเอลาทั้งหมดที่อยู่ในสหรัฐ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตอบโต้สหรัฐด้วยการประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูต และสั่งให้นักการทูตสหรัฐเดินทางออกจากเวเนซุเอลาภายใน 72 ชั่วโมง แต่ก็ยอมรับข้อเรียกร้อง ของเม็กซิโกและอุรุกวัย ที่อยากให้มีการเจรจากันระหว่างฝ่ายรัฐบาลเวเนซุเอลากับฝ่ายค้าน เพื่อยุติวิกฤติทางการเมืองในประเทศ



    ขณะที่ สหรัฐ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐ จะพยายามหาทางตัดช่องทางเงินทุนสนับสนุนของประธานาธิบดีมาดูโร โดยคำกล่าวของสหรัฐมีขึ้น 1 วันหลังจากที่ประธานาธิบดีมาดูโร ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐ เพราะไม่พอใจที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ สนับสนุนให้นายกุยโดขึ้นเป็นประธานาธิบดี



    นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) จัดการประชุมเพื่อหารือเรื่องนี้ในวันเสาร์(26ม.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น



    วิกฤติทางการเมืองของเวเนซุเอลาครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในประเทศที่ต่อต้านประธานาธิบดีมาดูโร เพราะไม่พอใจที่เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำมาหลายปี ซึ่งภาวะเงินเฟ้อ การตัดกระแสไฟฟ้า และภาวะขาดแคลนปัจจัย พื้นฐาน เป็นสาเหตุให้ชาวเวเนซุเอลาหลายล้านคนต้องหลบหนีออกจากประเทศ ขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงหลายวันที่ผ่านมานี้เพิ่มขึ้นเป็น 26 รายแล้ว



    ขณะนี้ เศรษฐกิจของเวเนซุเอลาทรุดตัวอย่างหนัก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งแตะ 1 ล้านเปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันที่ขายในประเทศแทบจะไม่เคยเปลี่ยนแปลง



    ปัจจุบันน้ำมัน 1 ลิตร ราคา 1 โบลิวาร์ (0.00013 บาท) ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดมืดอยู่ที่ 4 ล้าน โบลิวาร์ ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แปลว่า เงินเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 33 บาท) คนในเวเนซุเอลาสามารถเติมน้ำมันเต็มถังรถยนต์ขนาดกลางได้ถึง 720 ครั้ง



    ดังนั้นการลักลอบนำน้ำมันไปขาย ในประเทศเพื่อนบ้านที่ราคาน้ำมันสูงกว่าจึงเป็นธุรกิจใหญ่ ตัวเลขจากรัฐบาล เวเนซุเอลาบ่งชี้ว่ารัฐต้องสูญรายรับในส่วนนี้ให้กับพวกลักลอบไปถึงปีละ 18,000 ล้านดอลลาร์



    นักการทูตสหรัฐทยอยออกจากเวเนฯ



    นายกุยโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา ที่ตั้งตัวเองเป็นรักษาการประธานาธิบดีเมื่อไม่กี่วันก่อน เรียกร้องให้นักการทูตสหรัฐปักหลักอยู่ในเวเนซูเอล่าต่อไป หลังจากที่ประธานาธิบดีตัวจริงอย่างมาดูโร ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐ และให้เวลาบรรดานักการทูตสหรัฐทั้งหมดจนถึงวันอาทิตย์ในการเดินทางออกไปจากประเทศ



    นายกุยโด บอกว่านักการทูตสหรัฐสามารถอยู่ในเวเนซุเอลาได้ตามคำสั่งของรัฐสภาที่อยู่ในอำนาจที่พึงจะกระทำได้ นอกจากนั้น เขายังเปิดเผยว่าสหรัฐและประเทศอื่นๆ จะส่งความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมมาให้เวเนซุเอลาด้วย



    อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ (25 ม.ค.) เจ้าหน้าที่สถานทูตบางส่วนพร้อมครอบครัว ได้เดินทางออกจากเวเนซุเอลาเพื่อกลับสหรัฐ โดยทางสถานทูตได้ทำหนังสือถึงตำรวจเวนซุเอลา เพื่อขอกำลังคุ้มกันขบวนรถของนักการทูตและครอบครัวจำนวน 10 คันรถในการเดินทางจากสถานทูตไปยังสนามบิน



    ผู้นำเม็กซิโกเสนอช่วยไกล่เกลี่ย



    นายแอนเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งทางการเมืองในเวเนซุเอลา หากประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร และนายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา เห็นชอบต่อข้อเสนอดังกล่าว



    "ถ้าพวกเขาต้องการเจรจากันจริงๆเพื่อหาทางออกโดยสันติวิธี เราก็จะเป็นคนกลาง เหมือนกับที่เคยทำมาในประเด็นเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ" นายโลเปซ โอบราดอร์กล่าว



    นอกจากเม็กซิโกแล้ว รัสเซียก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างนายมาดูโรและนายกุยโด



    ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวขึ้น



    สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันศุกร์ (25ม.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้นท่ามกลางความกังวลต่อการที่สหรัฐขู่ที่จะคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกตึงตัว แต่ช่วงบวกในตลาดถูกจำกัดจากการที่นักลงทุนวิตกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการเพิ่มการผลิตน้ำมันของสหรัฐ



    สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ราคา 53.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ราคา 61.70 ดอลลาร์/บาร์เรล



    นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐยังคงห่างเป็นไมล์ๆจากการบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนและว่าสหรัฐและจีนมีประเด็นมากมายที่จะต้องเจรจากัน ซึ่งรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องปฏิรูปโครงสร้าง และกำหนดบทลงโทษ เพื่อให้มีการเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนอีกครั้ง



    ขณะที่ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการเมืองกับสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้การยอมรับนายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ในฐานะประธานาธิบดีชั่วคราวของเวเนซุเอลา



    นอกจากนี้ นายมาดูโร ยังสั่งให้เจ้าหน้าที่ทูตและฝ่ายกงสุลของสหรัฐทุกคนออกจากประเทศภายในเวลา 72 ชั่วโมง พร้อมกล่าวโทษรัฐบาลสหรัฐว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการดังกล่าวเพื่อสร้างรัฐบาลหุ่นเชิดในเวเนซุเอลา


    Source: กรุงเทพธุรกิจ


    ความคืบหน้า

    - Venezuela crisis: Diplomat to US defects from Maduro:
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chainarong Setthachua


    เขื่อนบราซิลแตก เสียชีวิตเพิ่มเป็น 40 ราย


    ABC News รายงานเมื่อ 3 ชม.ที่ผ่านมาว่า พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 40 ราย จากเหตุการณ์เขื่อนของเหมืองแร่เหล็กบริษัท Vale SA ในบราซิลแตกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (คืนวันเสาร์ประเทศไทย) ขณะที่ยังสูญหายอีก 256 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องขุดโคลนหาร่างของผู้รอดชีวิต โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างคนงานเหมืองซึ่งเสียชีวิตและสูญหายด้วยกำลังรับประทานอาหารกลางวัน


    ขอบคุณภาพจาก ABC News


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The People


    จอห์น กูดอีนัฟ อดีตเด็กอ่านหนังสือไม่ออก ผู้ให้กำเนิดแบตเตอรี ลิเธียมไอออน

    .

    เด็กมิลเลเนียลที่คุ้นเคยกับมือถือเล็กๆ บางๆ อย่างไอโฟน หรือซัมซุงกาแล็กซี คงนึกภาพไม่ออกเลยว่า ครั้งหนึ่งโทรศัพท์แบบพกพานั้นต้อง "หิ้ว" หรือสะพายแทนที่จะเก็บใส่กระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าถือ เพราะโทรศัพท์แบบพกพายุคแรกๆ มันใหญ่มาก เกินกว่าที่จะเรียกว่า "มือถือ" ได้ด้วยซ้ำ

    .

    และคนที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้โทรศัพท์แบบพกพามีขนาดเล็กและบางลงได้อย่างที่เราให้ในทุกวันนี้ก็คือคุณปู่ที่ชื่อว่า "จอห์น กูดอีนัฟ" (John Goodenough) ตำนานที่ยังมีชีวิตแห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส

    .

    จากข้อมูลของ Quartz กูดอีนัฟโตมาในย่านนิวฮาเวน รัฐคอนเนตทิคัต ตอนเด็กๆ เขาไม่ได้รับความอบอุ่นจากแม่สักเท่าไหร่ เพราะแม่ไม่ได้อยากจะมีเขา แต่พ่อเขายืนยันที่จะให้เก็บเขาไว้ เมื่ออายุได้ 12 ปี เขาถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำในแมสซาชูเซตส์แม่ของเขาเคยเขียนจดหมายมาหาแค่ครั้งเดียว ในอัตชีวประวัติของเขา เขาได้กล่าวถึงบุคคลที่มีอิทธิพลต่อตัวเขาไว้มากมายทั้งพี่น้อง สุนัขเลี้ยง คนดูแลประจำครอบครัว หรือเพื่อนบ้าน แต่เขาแทบไม่ได้กล่าวถึงพ่อแม่เลย

    .

    นอกจากนี้แล้ว กูดอีนัฟยังเป็นโรค "ดิสเล็กเซีย" (dyslexia) หรือความบกพร่องในการอ่านเขียนสะกดคำ ซึ่งสมัยนั้นคนยังเข้าใจปัญหาของโรคนี้น้อยและไม่รู้วิธีการแก้ไขบำบัด ทำให้ตอนเด็กๆ กูดอีนัฟอ่านเขียนไม่ได้เรียนตามเพื่อนไม่ทัน ชอบเอาเวลาไปวิ่งเล่นในป่ามากกว่า แต่ก็ยังอุตส่าห์พัฒนาตัวเองจนได้เข้าเรียนต่อสาขาคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเยลและสามารถเรียนจบได้ด้วยผลการเรียนระดับเกียรตินิยม

    .

    เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 กูดอีนัฟก็ต้องรับใช้ชาติเช่นชาติฉกรรจ์ถูกส่งไปประจำการในหมู่เกาะแห่งหนึ่งใกล้กับโปรตุเกส เมื่อสงครามจบลงเขาก็โชคดีได้ทุนเรียนต่อด้านฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยชิคาโกจนจบดอกเตอร์ด้วยวัย 30 ปี เมื่อปี 1952 และได้ไปเป็นนักวิจัยอยู่ที่ MIT

    .

    เบื้องต้นงานของเขาอยู่ที่การพัฒนาระบบความจำของคอมพิวเตอร์ จนกระทั่งเกิดปัญหาวิกฤตราคาน้ำมันในยุค 70s เขาจึงอยากหาคำตอบให้กับปัญหาพลังงานมากกว่า แต่สถาบันเดิมไม่ให้การสนับสนุน เขาจึงย้ายค่ายไปทำงานที่ออกซ์ฟอร์ดในประเทศอังกฤษ

    .

    ระหว่างที่อยู่ออกซ์ฟอร์ดนี่เอง สแตน วิตติงแฮม (Stan Whittingham) นักเคมีชาวบริติชก็ได้ประกาศว่าเขาและคณะจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้ค้นพบวิธีการเก็บประจุลิเธียมไอออนภายในแผ่นไทเทเนียมซัลไฟด์ ซึ่งลิเธียมไอออนสามารถเคลื่อนที่จากอิเล็กโทรดขั้วหนึ่งไปอีกขั้วหนึ่งทำให้แบตเตอรีแบบนี้สามารถชาร์จไฟซ้ำได้

    .

    แบตเตอรีตามไอเดียของวิตติงแฮมมีข้อได้เปรียบคือมันมีขนาดเล็กมากและยังให้พลังงานสูงเมื่อเทียบกับแบตเตอรีแบบตะกั่ว-กรดที่ใช้ในรถยนต์ หรือแบตเตอรีแบบนิกเกิล-แคดเมียมที่มีใช้ในตลาดขณะนั้น อย่างไรก็ดี แบตเตอรีลิเธียมไอออนต้นแบบของวิตติงแฮมมีข้อเสียสำคัญคือมันระเบิดง่ายมาก แค่ชาร์จไฟเกินก็อาจระเบิดแล้ว และมันยังเสื่อมสภาพเร็วมาก

    .

    แต่กูดอีนัฟเชื่อว่าเขาสามารถหาทางออกให้กับข้อบกพร่องดังกล่าวได้ และสามารถทำให้แบตเตอรีลิเธียมไอออนของเขาให้พลังงานที่สูงกว่าได้แบตของวิตติงแฮม ด้วยความที่เมื่อเขาทำงานอยู่กับ MIT เขาคุ้นเคยกับสารประกอบจำพวกเหล็กออกไซด์ซึ่งสามารถเก็บและปล่อยประจุได้ดีกว่าและยังมีความแปรปรวนน้อยกว่า และเขาก็พบว่า โคบอลต์ออกไซด์คือคำตอบที่ดีที่สุด

    .

    งานทดลองของเขาสำเร็จในปี 1980 แบตเตอรีของเขาเหนือกว่าแบตเตอรีที่สามารถชาร์จซ้ำได้สำหรับใช้งานในอุณหภูมิห้องแบบอื่นๆ ในตลาดหลายเท่าด้วยขนาดที่เล็กกว่าแต่ให้พลังงานมากกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า แต่ตอนนั้นเขาและออกซ์ฟอร์ดไม่ได้คิดอะไรมากกับสิ่งที่พวกเขาค้นพบ ทางออกซ์ฟอร์ดจึงไม่ได้คิดจะจดสิทธิบัตรเอาไว้ จากนั้นในปี 1986 กูดอีนัฟจึงได้กลับไปสอนหนังสือที่สหรัฐฯ กับมหาวิทยาลัยเท็กซัส

    .

    ต่อมา “โซนี่” จึงได้เอางานของกูดอีนัฟไปประยุกต์ใช้เชิงพาณิชย์ในปี 1991 จนประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม แบตเตอรีลิเธียมไอออนของกูดอีนัฟช่วยตอบโจทก์สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาที่โซนี่พยายามผลักดันโดยเฉพาะกล้องวิดีโอมือถือ ทำให้มีมันขนาดเล็กพกพาสะดวกจนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จากนั้นแบตเตอรีแบบลิเธียมไอออนของกูดอีนัฟก็ถูกกอปปีก็นำไปใช้กับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายหลายยี่ห้อ เช่นในคอมพิวเตอร์โนตบุก หรือโทรศัพท์มือถือ

    .

    ความสำเร็จครั้งนั้นทำให้กูดอีนัฟได้รับรางวัลมากมาย ยังขาดไปก็แต่รางวัลใหญ่ที่สุดอย่างรางวัลโนเบล (ซึ่งเขาเองก็ถูกเสนอชื่ออยู่หลายครั้ง) และแม้ว่าเขาจะมีอายุเกือบจะร้อยปีเข้าไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่หยุดการวิจัยเขาเชื่อว่าตัวเองยังพัฒนาแบตเตอรีให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ขึ้นไปได้อีก โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการแก้ปัญหาและป้องกันวิกฤตการณ์ด้านพลังงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

    .

    ล่าสุดเขาและทีมงานได้คิดค้นแบตเตอรีชนิดใหม่ขึ้นโดยใช้ตัวนำไฟฟ้าเป็นกระจกที่มีความสามารถในการนำไฟฟ้าสูงหรือ lithium-glass electrolyte ซึ่งโดยทฤษฎีแล้วมันจะกลายเป็นแบตเตอรีที่ปลอดภัยกว่า และชาร์จได้เร็วกว่าแบตเตอรีลิเธียมแบบเดิม ที่สำคัญมันไม่จำเป็นต้องใช้โคบอลต์แร่หายากที่กำลังจะหมดไป ทั้งยังสามารถชาร์จซ้ำได้กว่า 23,000 ครั้งมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

    .

    "ผมต้องการแก้ปัญหาของรถยนต์ ผมอยากขจัดรถยนต์ที่ปล่อยก๊าซเสียออกไปจากถนนทั่วโลก ผมหวังว่าจะได้เห็นวันนั้นก่อนวันตายของผมจะมาถึง ตอนนี้ผมอายุ 96 ปี มันยังพอมีเวลา" กูดอีนัฟกล่าวเมื่อปี 2018 (The Economist)

    .

    เรื่อง: อดิเทพ พันธ์ทอง

    .

    อ่าน "จอห์น กูดอีนัฟ อดีตเด็กอ่านหนังสือไม่ออก ผู้ให้กำเนิดแบตเตอรี ลิเธียมไอออน" ในแบบเว็บไซต์: https://thepeople.co/john-goodenough-lithium-cobalt-oxide-inventor/


    #ThePeople #History #วิทยาศาสตร์ #วิทยาการ #ลิเธียมไอออน


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Candy Bella


    ..... ผีโป่ง.....


    เล่าโดย : คุณธกร คนชอบเล่า


    ดินโป่งกับผีโป่ง เป็นเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ตั้งแต่ครั้งสมัยปู่ย่าตายาย เกี่ยวกับเรื่องการหากินของสัตว์ป่า ไม่ว่าจะไปกินน้ำ ดินโป่ง หรือว่าลูกไม้ก็ตาม สมัยนั้นเชื่อกันว่าสัตว์ป่าแต่ละฝูง จะมีผู้ซึ่งคอยดูแลอยู่ หรือที่เรียกกันว่า เจ้าของสัตว์ป่า


    ซึ่งจะคอยควบคุมสัตว์ป่าแต่ละตัวให้อยู่ในกฏ ตัวไหนที่เกเร นิสัยไม่ดี ก็มักจะถูกคัดออก การคัดออกในที่นี้ ก็หมายถึงให้กลายไปเป็นเหยื่อของพราน ซึ่งพรานป่าในสมัยก่อนนั้น มักจะอธิษฐานขอสัตว์ป่าที่เกเร ก่อนที่จะเข้าไปล่าสัตว์


    ดังมีเรื่องเล่ากันว่า ครั้งหนึ่ง มีชายคนนึงได้เข้าไปนั่งห้างล่าสัตว์ในดงดิบทึบแห่งนึง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมาก ในระหว่างที่รอสัตว์มากินลูกไม้อยู่นั้น มีลมพัดมาวูบหนึ่ง หลังจากนั้นก็เห็นคนๆนึง ซึ่งใส่กางเกงแบบโจงกระเบนสีแดง ไม่ใส่เสื้อ มีผ้าสีแดงโพกที่ศีรษะ ยืนอยู่สักพักนึง แล้วก็เดินหายไป


    สักครู่ก็มีฝูงหมูป่าออกมากินลูกไม้ ชายคนนั้นเห็นจึงรีบยกปืนขึ้นพนมมือ และอธิษฐานว่า ขอสัตว์ป่าที่เกเรเสียหนึ่งตัวด้วยเถิด สักพักสัตว์ป่าก็เริ่มทยอยเดินหายเข้าไปในป่าลึก แต่ยังเหลืออีกตัวนึง ซึ่งไม่ยอมกลับไปไหน ยังคงมุ่งหน้ากินลูกไม้แบบไม่หยุดหย่อน


    เขาจึงยกปืนขึ่้นเล็งลำกล้องไปยังหมูป่าตัวนั้น แล้วก็ลั่นไกออกไป "ปั้ง!!" เสียงปืนดังสนั่นป่า พร้อมกับเสียงร้องของหมูป่าตัวนั้น มันล้มลงแล้วดิ้นอยู่บนใบไม้แห้ง สักพักก็หยุดแน่นิ่ง ชายผู้นั้นรีบบรรจุกระสุนปืน แล้วนอนเฝ้าหมูตัวนั้นอยู่บนห้าง จนกระทั่งถึงเช้าจึงลงมาเอาหมูกลับบ้าน


    ดินโป่งถือเป็นอาหารโปรดของสัตว์ป่านาๆชนิด ซึ่งแต่ละแห่งจะแตกต่างกันออกไป บางแห่งก็มีสัตว์ป่าออกมากินอย่างชุกชุม แต่บางแห่งก็แทบไม่มีสัตว์ตัวใดเข้ามากิน มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับดินโป่งแห่งนึง ซึ่งชื่อว่าโป่งเขาแหลม ดินโป่งแห่งนี้มีสัตว์ป่ามากินกันอย่างชุกชุม ทำให้พรานป่าต่างมานั่งห้างกันเป็นประจำ


    แต่ทว่า แต่ละรายนั้น ก็เจอกับเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดต่างกันออกไป บางคนก็ได้ยินเสียงของสัตว์ป่ามากินดินโป่งกันเป็นฝูง แต่เมื่อเวลาเปิดไฟฉายส่องดูแล้ว กลับไม่เห็นวี่แววของสัตว์แม้สักตัวเดียว บางคนเมื่อเห็นสัตว์ป่าเต็มที่แล้ว แต่พอจะยิง มันก็อันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตา


    จนทำให้โป่งนี้กลายเป็นโป่งอาถรรพ์ เพราะต่างก็ว่ามีผีโป่งสิงสถิตอยู่ แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานมากแล้ว แต่โป่งแห่งนี้ก็ยังมีร่องรอยของสัตว์ป่ามากินโป่งกันอย่างชุกชุมเช่นเดิม แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามานั่งห้างที่นี่อีก


    จนกระทั่งมีบุคคลคนนึง ซึ่งไม่ใช่คนในหมู่บ้านแถบนี้ ซึ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ ได้ไปเที่ยวป่า และได้ไปพบกับโป่งแห่งนี้เข้า เค้าจึงได้มานั่งที่โป่งนี้ และก็ได้พบกับเหตุการณ์เช่นเดียวกับที่คนอื่นๆเคยพานพบมา


    และจากประสบการณ์การเที่ยวป่าของเค้านั้น ทำให้เค้ารู้ได้ว่าในโป่งแห่งนี้ ยังคงมีวิญญาณของสัตว์นาๆชนิด ที่ยังคงวนเวียนอยู่ ไม่ได้ไปผุดไปเกิด เค้าจึงได้ทำพิธีปิดโป่ง โดยการนำปลอกของลูกปืนที่เคยยิงสัตว์ มาฝังไว้ที่โป่งแห่งนี้ เพื่อเป็นการปลดปล่อยวิญญาณของสัตว์เหล่านั้นออกไป ไม่นาน โป่งแห่งนั้นก็กลายเป็นโป่งร้าง ไม่มีแม้แต่สัตว์ตัวใดเข้าไปกิน แต่เรื่องราวของโป่งแห่งนั้นก็ยังเล่าสืบต่อกันมา


    ส่วนเรื่องของผีโป่งดินดำ วิญญาณของสัตว์ที่ถูกฆ่าตายตามโป่ง มันมักจะผูกอาฆาตพยาบาท เมื่อมีโอกาศ มันจะใส่ยาลงไปในตัวคน ตามป่าทั่วไปนั้น เราจะพบสัตว์ป่าที่มากินดินโป่ง ซึ่งเป็นดินที่มีธาตุอาหารพิเศษ บำรุงให้สัตว์สมบูรณ์ตามธรรมชาติ


    ไม่ว่าจะสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ จะต้องกินดินโป่งหรือง้วนดินเสริมพลังงานให้ตน ดินโป่งในแต่ละที่จะมีความแตกต่างกันออกไปบ้าง ตามความเข้มข้นของธาตุอาหาร ในขณะเดียวกัน ธาตุอาหารเหล่านั้น บางครั้งก็มีพิษต่อคนบางคนเช่นกัน ที่มีความต้านทานไม่เพียงพอ


    หากเดินเข้าไปใกล้หรือว่าได้ลงไปในดินโป่ง ก็อาจจะเกิดอาการที่เรียกว่า ผีโป่งใส่ยา อันคำว่าผีโป่งดินดำนั้น ก็อย่างที่บอกว่า มันคือวิญญาณของสัตว์ที่อาฆาตพยาบาท ซึ่งมักจะถูกฆ่าที่โป่งแแห่งนั้น และวิญญาณก็มักจะถูกจองจำอยู่ตรงนั้น เฝ้าอยู่ตรงนั้น วนเวียนอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน


    บางครั้ง หากมันสบโอกาส เมื่อเห็นคนหลายๆคนกำลังจะส่องสัตว์กัน มันก็อาจจะจำแลงแปลงกายเป็นสัตว์ เข้าไปบดบังคนใดคนนึงในกลุ่ม เพื่อที่จะทำให้คนอื่นมองเห็นคนนั้นว่าเป็นสัตว์ป่า หลงเข้าใจผิด จึงได้ยิงร่างของผีสัตว์ที่กำบังกายของคนนั้นไว้


    ปรากฏว่าเมื่อสิ้นเสียงปืน กลับเกิดเสียงร้องโอดโอยครวญคราง กลายเป็นว่าพรานล่าสัตว์ยิงพรานด้วยกันเอง ดังที่มีข่าวให้เห็น สุดท้ายก็กลายเป็นผีเฝ้าโป่ง อยู่กับวิญญาณของสัตว์ที่ตนเองล่าต่อไป ตามเวรตามกรรม


    บางครั้งวิญญาณของผีโป่งก็จะใส่ยา หรือง้วนพิษโป่ง ลงไปในตัวคนที่เดินตามล่าสัตว์ตามโป่ง จนมีอาการหัวเข่าบวมเป่ง เรียกกันว่าโรคโป่ง และหากรักษาไม่ถูกทาง เนื้อตอนหัวเข่าก็จะเปื่อยยุ่ย กระดูกภายในเข่าจะผิดปกติ เกิดอาการเจ็บปวดทรมาน เหมือนว่าเป็นคนขากุดขาด้วน


    แต่หากบางคนไปรักษาได้ถูกทาง ก็เพียงแต่อาการบวมจะยุบตัวลง แต่ถึงว่าหายแล้ว ก็ยังเดินกระโผลกกระเผลก ไม่สมประกอบตามปกติที่เคยเป็น ผีโป่งดำถือว่าเป็นความเชื่อที่มีมานานกับชนชาวเหนือ และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด


    เครดิตเรื่องราวจาก:

    เพจคนอ่านผี


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รอบโลก รอบเรา by รสสุคนธ์ ปราโมทย์


    มินดาเนาแยกตัวเสร็จปุ๊บ มีระเบิดโบสถ์คริสต์เลยจ้า !! เบื้องต้นยังไม่มีใครออกมาประกาศความรับผิดชอบ แต่เป็นถิ่นของสมุนไอเอส


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Resonance Schumann วันนี้

    26 มกราคม 2562
    CF0BCDB1-303E-4C76-973D-83522876CDDD-1174-0000006634A9C8B4.jpg F998D648-EF67-4E6D-A9BC-1DD585A551C4-1174-00000067B08D4B1E.png

    * วันแห่งความสงบยกเว้นกิจกรรมเล็ก ๆ ตั้งแต่ 14 ถึง 15 UTC โดยมียอดสูงสุด 20 Hz


    * เราเพิ่มแผนภูมิใหม่ด้านล่างเราจะพยายามโพสต์ทุกวันเพื่อแสดงยอดจริงที่สูงกว่า 40 Hz

    * ความถี่หมายถึงจำนวนรอบคลื่นที่เกิดขึ้นในหนึ่งวินาที

    1 เฮิร์ตซ์ หมายถึง 1 รอบต่อวินาที

    40 Hz หมายถึง 40 รอบต่อวินาที

    แอมพลิจูดคือขนาดของการสั่นสะเทือนคลื่นใหญ่แค่ไหนแผนภูมิแสดงการเปลี่ยนแปลงความถี่ในเฮิร์ตซ์และแอมพลิจูดที่ใช้สีขาว


    https://www.disclosurenews.it/en/schumann-resonance-today-update/
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk


    วันที่ 27 มกราคม 2562 โลกได้ผ่านการรบกวนอย่างรุนแรงไปยังสนามแม่เหล็กของเราอีกครั้งในวันนี้ด้วยความเร็วลมสูงสุดรอบ 2202 กม. / วินาที ที่เวลา 08:22:25 น. (ไทย) (01:22:25 UTC)


    นี่เป็นความเร็วที่มากกว่าความเร็วของลมสุริยะ 4 เท่า


    ความเร็วลมสุริยะอยู่ที่ 450 กิโลเมตรต่อวินาที


    ทำให้เกิด 23 กิจกรรมใน 24 วันที่ผ่านมา


    ความเร็วลมเกิน 1,000 km / s เวลา 07:15:05 น(ไทย) เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2562 (เวลา 00:15:05 UTC เมื่อ 1/27/2019) ด้วยความเร็ว 1335 km / s และอยู่เหนือความเรุ 1,000 km / s ประมาณ 70 นาที


    แม้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที แต่ก็มีความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง สนามแม่เหล็กของโลกบิดเบี้ยวและโค้งงอระหว่างเหตุการณ์นี้


    สุดขั้วทั้งด้านมืดและด้านสว่าง(ในและนอกเวลากลางคืน) และความกดดันรอบ ๆ โลกยังดำเนินต่อไป


    ความต่อเนื่องของการหยุดชะงักของสนามแม่เหล็ก


    ลมสุริยะที่สอง


    Mark Elkin เขียนว่า "การรบกวนทางแม่เหล็กใด ๆ ที่เกิดจากการบีบอัด (จะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ) อนุภาคที่ถูกชาร์จมีปฏิสัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กของเราซึ่งทำให้เกิดอาการปวดหัว / ใจสั่นหัวใจ / อาการชัก ฯลฯ


    ยิ่งมีการรบกวนของสนามแม่เหล็กมากเท่าใดก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก


    ปลาวาฬ / โลมา / นกใช้สนามแม่เหล็กของโลกเพื่อการนำทาง ดังนั้นเมื่อสนามแม่เหล็กของเราหยุดชะงัก ดังนั้นการนำทางของมันก็คือ นี่คือเหตุผลที่เราเห็นการเพิ่มขึ้นของวาฬ / โลมาในชายฝั่งและนกที่ตกลงมาจากท้องฟ้าเป็นระยะ "


    อัปเดตวิดีโอโดย Robert Dunn ของเหตุการณ์นี้บน YouTube

    ลิงก์:



    ข้อมูลจาก ISWA: https://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov/IswaSystemWebApp/

    IMG_8457.JPG IMG_8458.JPG IMG_8459.JPG IMG_8460.JPG IMG_8461.JPG IMG_8462.JPG IMG_8463.JPG IMG_8464.JPG IMG_8465.JPG

    January 27, 2019. The Earth undergoes another extreme disturbance to our magnetic field early today with a record speed of winds around Earth of 2202 km/s at 01:22:25 UTC.


    This over 4 times the speed of the Sun.


    Solar winds peaked at 450 km/s.


    This makes 23 events in the last 24 days.


    Wind speeds broke from 1000 km/s at 00:15:05 UTC on 1/27/2019 with a speed of 1335 km/s and stayed above 1000 km/s for approximately 70 minutes.


    Although the whole of the event lasted approximately 90 minutes there is a constant instability. Earth's magnetopause distorted and buckled during this event.


    Extreme on and off night side and surrounding pressure to Earth continue.


    Continuation of the magnetic disruption.


    Second solar wind.


    Mark Elkin writes, " Any magnetic disturbance caused compressions ( will cause ill health effects ). Charged particles interact with our magnetic field which causes headaches/heart palpitations/seizures etc


    The stronger the magnetic disturbance, the more effects it has on all living creatures on Earth.


    Whales/dolphins/birds use earths magnetic field for navigation so when our magnetic field is disrupted, so is their navigation. This is why we see an increase in whales/dolphins washing up on shores and birds falling out of the sky sporadically."


    A video update by Robert Dunn of this event on YouTube.

    Link:



    Data from ISWA : https://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov/IswaSystemWebApp/


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปรากฎการณ์บนท้องฟ้า เกิดมาแล้ว 5 ครั้ง

    ครั้งที่1-4 จากฟลอริดา ฮาวายสหราชอาณาจักร และอินเดียนา
    IMG_8466.JPG IMG_8467.JPG IMG_8468.JPG IMG_8469.JPG

    และครั้งที่ 5 ที่ปานามาซิตี้, ปานามา วันที่ 26 มกราคม 2562
    IMG_8470.JPG



    มาลาคี 4 :1-3

    วันแห่งพระเจ้าที่จะมาถึง

    1“พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า นี่แน่ะ วันนั้นจะมาถึง คือวันที่จะเผาผลาญเหมือนเตาอบ เมื่อคนที่เย่อหยิ่งทั้งสิ้น และคนที่ประกอบการอธรรมทั้งหมดจะเป็นเหมือนตอข้าว วันที่จะมานั้นจะไหม้เขาหมด จนไม่มีรากหรือกิ่งเหลืออยู่เลย

    2 แต่สำหรับคนเหล่านั้นที่ยำเกรงนามของเรา ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรมซึ่งมีปีกรักษาโรคภัยได้ จะปรากฏขึ้น แล้วเจ้าจะกระโดดโลดเต้นออกไปเหมือนลูกวัวออกไปจากคอก

    3 และพวกเจ้าจะเหยียบย่ำคนอธรรม เพราะว่าพวกเขาจะเป็นเหมือนขี้เถ้าที่ใต้ฝ่าเท้าของเจ้า ในวันนั้นเมื่อเราประกอบกิจ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ


    อ้างอิงข้อมูลและภาพของคุณ John Traczyk

    ---------------------

    January 26, 2019. Panama City, Panama.


    For behold, the day is coming, burning like an oven, when all the arrogant and all evildoers will be stubble. The day that is coming shall set them ablaze, says the Lord of hosts, so that it will leave them neither root nor branch.


    But for you who fear my name, the sun of righteousness shall rise with healing in its wings. You shall go out leaping like calves from the stall.


    And you shall tread down the wicked, for they will be ashes under the soles of your feet, on the day when I act, says the Lord of hosts.


    Malachi 4:1-3
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง


    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UNSC)ได้จัดประชุมด่วน: เพื่อหารือถึงสถานการณ์ในประเทศเวเนซูเอลา/วิกฤตการเมืองในเวเนฯได้ปะทุขึ้นหลัง"นายกุยโด"ผู้นำพรรคฝ่ายค้านประกาศตัวเป็นประธานาธิบดี/ในที่ประชุมของUNSCสหรัฐและพันธมิตรอ้างว่า"นายจอร์จ อาร์เรียซ่า"รมต.ต่างประเทศของเวเนฯต้องการพิสูจน์เรื่องโกงการเลือกตั้ง เขายังกล่าวซ้ำๆว่าประธานาธิบดี"นิโคลัส มาดูโร"เป็นผู้นำที่ถูกต้องตามกฏหมายของเวเนฯเขายังตั้งคำถามต่อ"ตรรกะ"ในการยื่นคำขาดของประเทศในยุโรปอย่างเยอรมนี,สหราชอาณาจักร,ฝรั่งเศส,และสเปน พร้อมกล่าวว่าเวเนฯเรียกร้องให้มีการเคารพกฏหมายสากลและกฏบัตรUNด้วย ไม่มีใครกำหนดเส้นตายหรือบอกเราว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ รมต.ต่างประเทศเวเนฯกล่าว แล้วคุณมายื่นคำขาดต่อรัฐบาลของประเทศเวเนฯได้อย่างไร รัฐบาลเวเนฯหวังว่าUNจะจัดการประชุมมากกว่านี้ เพื่อหาว่าใครคือ"คนต้นคิดการพยายามรัฐประหาร"ในเวเนซูเอลา ผมหวังว่าคณะมนตรีความมั่นคงฯจะจัดการประชุมเพื่อประเมินว่าใครอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารนี้ และลงโทษพวกเขาพวกเขาไม่ได้ใช้สติปัญญามากนัก เพราะมีหลักฐานชัดเจนมากมาย รมต.ต่างประเทศของเวเนซูเอลากล่าว....

    โดนัลด์ ทรัมป์ คือผู้ที่ข่มขู่การใช้กองกำลังทหารเข้าจัดการโดยตรงต่อสาธารณรัฐโบลีวาแห่งเวเนซูเอลา เป็นไปได้อย่างไรที่เขาถูกท้าทายหรือตั้งคำถามจากองค์การระหว่างประเทศ..

    ในส่วนสรุปของ"นานจอร์จ อาร์เรียซา"รมต.ต่างประเทศเวเนฯย้ำว่า สันติภาพและความมั่นคงจะมีขึ้นในเวเนซูเอลา แม้บางประเทศจะพยายามให้เกิด"สงคราม"ก็ตาม ในตอนท้ายเขาได้อ่านเนื้อหาบางส่วนของ"รัฐธรรมนูญเวเนซูเอลา"ซึ่งการประกาศตนเป็นประธานาธิบดี ไม่เป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญของประเทศ....


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ในหนัง independent day สหรัฐอเมริกาเป็นวีรบุรุษกู้โลก จากเอเลี่ยน ที่เดินทางไปยังดาวเคราะห์เพื่อสูบทรัพยากร จนเสื่อมสลาย และไปยังดาวเคราะห์อื่นๆ ต่อไปเรื่อยๆ แต่ในความเป็นจริง สหรัฐอเมริกา กลับเป็น เอเลี่ยนเสียเอง


    สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง


    บ่อน้ำมันข้าใครอย่าแตะ: สหรัฐส่งขบวนคอนวอยเทรเลอร์บรรทุกอาวุธและกระสุนนับร้อยคันจากฝั่งอิรัค ข้ามมาส่งกำลังบำรุงให้ทหารสหรัฐและกลุ่มชาวเคิร์ดในซีเรีย ด้านตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส เพื่อป้องกันการโจมตีจากหน่วยรบพิเศษของกองทัพซีเรียที่มีข่าวว่าจะเข้าโจมตีและยึดด้านฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส/....

    -----------------------------

    ดินแดนที่ชาวเคิร์ดครอบครองเป็นแหล่งบ่อน้ำมันใหญ่ที่สุดในซีเรีย ดังนั้นสหรัฐจึงทุ่มกำลังทุกอย่างเพื่อจะปกป้องรางข้าวอันนี้ไว้สุดติ่ง ใครก็อย่าได้หวังเข้ามาใกล้รางข้าวได้ ถ้าไม่มีบ่อน้ำมันป่านนี้สหรัฐปล่อยให้เคิร์ดถูกกระตื้บไปแล้วเรื่องอะไรจะไปช่วยให้เสียเงินเสียทอง/ส่วนชาวเคิร์ดก็คือ เป็นกลุ่มชาวเคิร์ดที่ไม่มีแผ่นดินเป็นของตัวเองแต่มีเขตอิทธพลครอบครองทั้งในซีเรีย,ตุรกี,และอิรัก,ดังนั้นสหรัฐจึงสนับสนุนให้ชาวเคิร์ดแบ่งแยกดินแดนในซีเรียเพื่อเป็นฐานที่มั่นก่อนโดยสหรัฐสนับสนุนทุกอย่าง,เงิน,อาวุธ,เสบียง,ครูฝึกทหาร,สหรัฐจัดให้ ที่สหรัฐทำใช่ว่าจะรักพิศวาสเคิร์ด แต่ดินแดนที่เคิร์ดครอบครองล้วนดกไปด้วยบ่อแก๊สบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าสหรัฐจะไม่ประสบผลสำเร็จง่ายดายนัก เพราะแข้งอ่อนๆจากของตุรกีที่ระแวงชาวเคิร์ดในตุรกีจะแบ่งแยกดินแดนเลยเอาหน้าแข้งมาขวางไว้อยู่ แถมสถานการณ์ในซีเรียหลังจากซีเรียร้องขอให้รัสเซียและอิหร่านช่วยเอาหน้าแข้งมาช่วยขวาง ดังนั้นจึงยังไม่สมใจบางลำภูสหรัฐมากนัก ทำได้แต่หวงรางไว้ไม่ใครมาแย่งเท่านั้น/เจริญพวง.


     

แชร์หน้านี้

Loading...