ติดตามสถานะการณ์

Watchers

#โบอิ้ง737Max
// กล่องดำเผย นักบินสายการบินเอธิโอเปียตกดับยกลำ เจอปัญหาควบคุมเครื่อง //
14/03/19
CEO ของสายการบินเอธิโอเปีย เผยกล่องดำบันทึกเสียงในห้องนักบิน ไม่พบ มีปัจจัยภายนอกทำให้นักบินต้องขอบินกลับลงจอดฉุกเฉิน บอกแต่ว่ามีปัญหาควบคุมเครื่องบิน ก่อนโหม่งโลก ดับยกลำ 157 ชีวิต
เมื่อ 14 มี.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวคืบหน้า โศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 Max 8 ของสายการบิน เอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส สายการบินแห่งชาติของเอธิโอเปีย เที่ยวบิน ET 302 แอดดิส อาบาบา-ไนโรบี ประสบเหตุตกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค.62 หลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติโบลี ในกรุงแอดดิสอาบาบา เมืองหลวงเอธิโอเปีย ได้เพียง 6 นาที คร่าผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 157 ชีวิตนั้น

เว็บไซต์ เดอะ การ์เดียน เผย นายทีวอลดี กีบรีมาเรียม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอของสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส เปิดเผยกับนักข่าววอลล์ สตรีท เจอร์นัล ว่า จากการตรวจสอบเทปบันทึกเสียงในห้องนักบินเทปหนึ่งในกล่องดำ นักบินได้ขออนุญาต บินกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานในกรุงแอดดิส อาบาบา โดยนักบินได้แจ้งเจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินว่ากำลังประสบปัญหาการควบคุมเครื่องบิน และขอบินกลับฉุกเฉิน ไม่ได้บอกว่าประสบปัญหาอื่นๆ จากปัจจัยภายนอก รวมทั้งเครื่องบินชนนก แต่อย่างใด

ซีอีโอของสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส ยังกล่าวด้วยว่า ทางสายการบินกำลังจะส่งกล่องดำบันทึกข้อมูลการบินไปวิเคราะห์ตรวจสอบในยุโรป มากกว่าที่สหรัฐอเมริกา เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสารของสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์สตก ซึ่งนับเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max 8 ตกเป็นลำที่สองในรอบ 5 เดือน ต่อจากสายการบินไลอ้อน แอร์ในอินโดนีเซีย ที่ตกทะเลชวา หลังเพิ่งทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานในกรุงจาการ์ตา ดับยกลำ 189 ราย เมื่อเดือนตุลาคม 2561

วันเดียวกัน รอยเตอร์แจ้งว่า บราซิล นับเป็นประเทศใหญ่ชาติแรกในทวีปอเมริกาใต้ เมื่อสำนักงานการบินพลเรือนของบราซิลได้มีคำสั่งให้สายการบินในประเทศระงับการใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 รุ่น Max 8 แล้ว แต่ยังไม่ระงับโบอิ้ง 737 รุ่น Max 9 ในขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนของ เม็กซิโกและปานามา ได้สั่งระงับการใช้โบอิ้ง 737 ทั้งรุ่น Max 8 และ 9 ส่วนโคลอมเบีย ไม่อนุญาตให้เครื่องบินโบอิ้ง 737 รุ่น Max 8 บินเข้ามาในน่านฟ้าของโคลอมเบีย
ในขณะที่ รัฐมนตรีคมนาคมของแคนาดา ได้ประกาศเมื่อวันที่ 13 มี.ค.62 ห้ามไม่ให้เครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ ที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max บินเข้ามาในน่านฟ้าของแคนาดาแล้ว ส่วนสำนักงานการบินพลเรือนยุโรป ได้มีคำสั่งระงับการใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max แล้วเช่นเดียวกับ จีน ออสเตรเลีย อินเดีย และอีกหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยของเครื่องบินโบอิ้ง 737 รุ่น Max ก่อนต่อมา สำนักงานการบินพลเรือนสหรัฐฯ (FAA)ได้สั่งให้ทุกสายการบินในสหรัฐฯระงับการใช้737 Max เป็นการชั่วคราวในประเทศสหรัฐฯ รวมทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศ
Cr: thairath .

 

Watchers

#Earthquake
13/03/19
เวลา 23:49 น. ตามเวลาไทย
แผ่นดินไหว ขนาด 2.3
#YELLOWSTONE NAT. PARK, #WYOMING
พิกัด 44.16 N ; 110.22 W
ลึก 4 กม.
https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=750586

ที่จุดใกล้ๆกัน
วันที่ 14/03/19
เวลา 03:28 น. ตามเวลาไทย
แผ่นดินไหว ขนาด 2.0
ที่ Old Faithful Geyser, Wyoming
ใน #YELLOWSTONE NAT. PARK
พิกัด 44.166°N 110.223°W
ลึก 4.6 กม.
https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/uu60316217/executive#executive
#Watchers

 

บีอาร์เอ็น ออกแถลงการณ์ครบรอบ 59 ปี ขอให้องค์กรต่างประเทศเข้าร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้งจังหวัดชายแดนภาคใต้
ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี (บีอาร์เอ็น) ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ยูทูป เนื่องในวันครบรอบ 59 ปี บีอาร์เอ็น ในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีเนื่อหาสำคัญ ระบุว่า ปัญหาในปาตานีไม่ใช่ความขัดแย้งใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาการเจรจาที่รัฐไทยกำลังดำเนินอยู่เป็นเพียง "กระบวนการพูดคุยสันติสุข" ไม่ใช่ "กระบวนการเจรจาสันติภาพ" ซึ่งพิสูจน์ได้จากทุกครั้งที่มีข้อเรียกร้องให้ใช้กฎและกติกาการเจรจาตามบรรทัดฐานสากล ไทยมักจะปฏิเสธ ดังนั้น บีอาร์เอ็นและประชาชนปาตานียินดีต้อนรับและหวังไว้เสมอว่าองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขความขัดแย้งนี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่สั่งเฝ้าระวังเข้มข้น หลังการข่าวพบความเคลื่อนไหวผิดปกติในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตั้งด่านตรวจตรารถยนต์และบุคคลต้องสงสัยอย่างเข้มงวด หลังมีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังเหตุในช่วงเดือนมีนาคม โดยให้กำลังทุกหน่วยเตรียมพร้อมในการตอบโต้หากถูกซุ่มยิงโจมตี หรือรักษาฐานที่ตั้ง ด้วยการจัดเวรยาม ตั้งด่านในเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะใช้เดินทาง โดยเฉพาะ อ.จะแนะ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส อ.บันนังสตา จ.ยะลา เนื่องจากพบความเคลื่อนไหวผิดปกติในพื้นที่ หลังจากมีแกนนำผู้ก่อเหตุหลบหนีไปได้จากเหตุยึดฐานที่มั่นของกลุ่มผู้ก่อเหตุ หลังหมู่บ้านจือกอ ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา #บีอาร์เอ็น #ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้

 

สุดยื้อ...ผู้หญิงเหยื่อไฟใต้ เสียชีวิตอีก 1 คน จากเหตุลอบวางระเบิดทหารบริเวณริมถนนสาย 42 บ้านส้มป่อย หมู่ 4 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อเช้าวานนี้ (14 มี.ค.2562) โดยผู้ก่อเหตุได้ซุกซ่อนวัตถุระเบิดไว้ในกองไม้ริมถนน เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ทหารขับรถยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุกดชนวนระเบิด แต่รถยนต์เจ้าหน้าที่ได้ขับผ่านและไม่มีความเสียหายแต่อย่างใด ขณะที่ชาวบ้านรวม 5 คน กำลังร่วมวงทานข้าวยำอยู่บริเวณศาลาข้างทาง แรงระเบิดทำให้ท่อนไม้ขนาดใหญ่กระเด็น มาถูกนางเจ๊ะแมะ สนิ อายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา สำหรับบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวทุกๆเช้า จะมีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงมาร่วมจิบน้ำชา กินข้าวยำกันเป็นประจำ #พลเรือนต้องปลอดภัย #ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้

 

ลมฟ้าพยากรณ์

เมื่อเวลา 20.35 น. วันนี้ เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 3 ลึก 15 กิโลเมตรที่อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ยังไม่มีรายงานความเสียหาย
Cr. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา

 

อย.เรียกเก็บยารักษาความดันโลหิตสูง "ลอซาร์แทน"พบ8รุ่นที่ผลิตปนเปื้อนสารก่อมะเร็งในสัตว์

 

โดนรวบแล้ว...หนึ่งในมือปืนกราดยิงสุดโหดที่มัสยิดในไครสต์เชิร์ช ดับสลด 49 อีกทั้งยังไลฟ์สดนาทีสุดโหดลงเฟซฯ ชี้เป็นพวกคลั่งผิวขาว หัวขวาจัด

 

อิสราเอลอ้างว่า ปาเลสไตน์ยิงจรวดใส่เขา 2 ลูก และระบบ Iron Dome ของเขาสกัดไว้ได้ หลังจากนั้นอิสราเอลยิงถล่มฉนวนกาซ่าด้วยขีปนาวุธกว่า 100 ลูก
ศูนย์วัฒนธรรม กาซ่า ท่าเรือ เรือ พื้นที่การเกษตร และที่อยู่อาศัยของประชาชน คือพื้นที่ๆ อิสราเอลโจมตี เมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลอิสราเอลมีไว้สร้างความเดือดร้อนให้คนปาเลสไตน์แท้ๆ A Gaza Cultural center, ports, boats, agricultural lands and residential homes were all bombarded last night

 

หลอกเด็ก อาจหลอกได้หลายครั้ง การหลอกผู้นำประเทศที่ประสบการณ์ยาวนาน แค่ครั้งเดียวเขาก็จับได้แล้ว
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของ โดนัลด์ ทรัมป์ แล้วว่า การพบปะกันสองครั้งนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ใช้เขาเป็นเครื่องมือในการเรียกเก็บเงินค่าตั้งฐานทัพในเกาหลีใต้เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะญาติดีกับเกาหลีเหนืออย่างที่ประกาศไว้ เพราะท่าทีที่แสดงออกมาของรัฐมนตรีต่างประเทศ Mike Pompeo และของที่ปรึกษาความมั่นคง John Bolton นั้นแตกต่างจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ พูดแบบฝ่ามือ กับหลังมือเลย

 

เวเนซุเอล่า ระบบไฟฟ้าสามารถกู้กลับคืนมาเกือบ 100% แล้วถึงเช้าวันนี้ ศุกร์ที่ 15 มีนาคม ส่วนระบบ Water Supply น้ำประปาทั้งประเทศกู้กลับมาได้ 80% แล้ว เฉพาะกรุง Caragus กู้กลับมาได้ 70% (สงสัยแถวๆ บ้านนาย จวน ไกโด้ จะกู้ไม่ได้....555555555)

 

รัฐสภายุโรป กลัวคำขู่ของสหรัฐ เรียกร้องให้เยอรมันยุติโครงการท่อก๊าซธรรมชาติ รัสเซีย-เยอรมันนี Nord Stream 2 ด้วยถ้อยคำของสหรัฐคือ พึ่งพารัสเซียมากเกินไป
เยอรมันลงทุนไปมากแล้ว คงหยุดไม่อยู่แน่นอน ส่วนชาติยุโรปอื่นๆ จะไม่ใช้ก๊าซธรรมชาติทางท่อ Nord Stream 2 ที่มีราคาถูก จะไปใช้ก๊าซธรรมชาติแช่แข็ง LNG จากตะวันออกกลาง ที่ขนส่งมาทางเรือของสหรัฐ เยอรมันคงว่าอะไร ใครชอบอย่างไหน ก็เลือกอย่างนั้น ส่วนเยอรมันเลือกแล้วที่จะใช้ก๊าซธรรมชาติทางท่อจากรัสเซีย ที่เศรษฐกิจของเยอรมันจะเติบโตต่อเนื่อง เพราะมีราคาถูก และการส่งมอบแน่นอน

 

FAA หรือ Federation Aviation Administration หน่วยงานด้านการบินพลเรือนของสหรัฐ ถูกลูบคมเสียแล้ว
โดยปกติ FAA จะเป็นผู้นำประกาศในเรื่องความปลอดภัยทางการบิน เมื่อ FAA ประกาศแล้ว สถาบันการบินพลเรือนของภูมิภาคอื่นๆ ก็จะประกาศตาม ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ FAA ยังคงให้การรับรองเครื่องบิน Boeing 737 MAX แต่การบินพลเรือนของประเทศต่างๆ ประกาศห้ามสายการบินของตน นำเครื่องบิน Boeing 737 MAX มาทำการบิน รับ-ส่ง ผู้โดยสาร อันประกอบด้วย
สิงคโปร์ ออสเตรเลีย มาเลเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส ตุรกี เยอรมันนี อิตาลี ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ตามด้วยสหภาพยุโรป ประกาศห้าม Boeing 737 MAX บินเข้าน่านฟ้ายุโรป
เป็นครั้งแรกที่ FAA ของสหรัฐถูกหยามหมิ่นอย่างนี้ และคงจะมีเรื่องอื่นๆ ที่องค์กรต่างๆ ของสหรัฐเคยชี้นำโลกได้ แต่คราวนี้โลกจะนำสหรัฐบ้าง

 

จากการที่สหรัฐขู่ว่า หากเยอรมันยังคงใช้อุปกรณ์สถานีฐาน 5G ของหัวเหว่ย สหรัฐจะยุติโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองกับเยอรมัน
นายกรัฐมนตรีเยอรมันกล่าวตอบผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารว่า หากสหรัฐเขายุติการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง เยอรมันเราก็ต้องใช้ข้อมูลของเราฝ่ายเดียวในระบบข่าวกรอง

 

สหรัฐกำลังทำสงครามเศรษฐกิจกับคนครึ่งโลกแล้วตอนนี้
เริ่มแรก สั่งยุโรปห้ามขายสินค้าให้รัสเซีย ทำเอาเกษตรกรยุโรปต้องลดพื้นที่การเพาะปลูก
ต่อมาทำสงครามเศรษฐกิจกับจีน มีชาติยุโรปที่ส่งวัตถุดิบ เหล็กและอลูมิเนียมเข้าสหรัฐติดบ่วงร่วมกับจีนด้วย
ตอนนี้สหรัฐจะจัดการกับเยอรมัน ที่ซื้อก้าซธรรมชาติทางท่อจากรัสเซีย ซึ่งมีราคาถูกกว่า LNG ที่ขนส่งจากตะวันออกกลางของสหรัฐมาก สหรัฐข่มขู่เยอรมันมายาวนานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชาติยุโรปอื่นๆ แม้จะเกรงกลัวต่อสหรัฐ แต่ก็บอกว่า เศรษฐกิจยุโรปจะเติบโตต่อเนื่องไม่ได้ หากต้องซื้อก๊าซธรรมชาติในราคาแพงอย่าง LNG ของสหรัฐมาผลิตไฟฟ้า
ใหม่ล่าสุด ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ทวีตเตอร์ว่า แองเกล่า แมร์เคิล คุณหยุดซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียได้แล้ว

 

สหรัฐนี่ชักจะเอาใหญ่ซะแล้ว...
สำนักข่าวสปุตนิก รายงานโดยอ้างถึงรายงานของสำนักข่าว the Wall Street Journalว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำกรุงเบอร์ลิน Richard A. Grenell ได้ส่งจดหมายไปยังรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมัน ให้หลีกเลี่ยงใช้อุปกรณ์ 5G ของหัวเหว่ย มา Upgrade โครงการโทรศัพท์ของเยอรมัน ซึ่งทางเยอรมันขอให้สหรัฐนำหลักฐานที่เชื่อถือได้มาแสดงว่า อุปกรณ์ของหัวเหว่ยสามารถจารกรรมข้อมูลได้จริง แต่หากไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้มาแสดง เยอรมันก็จะค้าขายกับจีนไปตามปกติ
เมื่อวานนี้ก็ห้ามอิตาลี่ไม่ให้ร่วมมือกับจีนในโครงการ One Belt One Road วันนี้ก็ห้ามเยอรมัน ไม่ให้ใช้อุปกรณ์ 5G ของหัวเหว่ยอีก โลกน่าจะเข้าใกล้สงครามโลกครั้งที่ 3 มากขึ้นทุกที...

 

นี่เป็นการทดลองกับหนอนริบบิ้นจำนวน 22 สายพันธุ์ (และเทียบข้อมูลกับอีก 13 สายพันธุ์) และพบว่ามีอยู่ราวๆ 5 สายพันธุ์ ที่งอกหัวพร้อมกับสมองใหม่ได้

#เหมียวศรัทธา #CatDumb

 

เวเนซุเอลาในสื่อไทย : ดราม่า vs ความจริง โดยกานดา นาคน้อย วันที่ 26 สิงหาคม 2561 - 19:48 น. ผู้เขียน กานดา นาคน้อย


ฉันอ่านบทความจากสื่อออนไลน์เกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจในเวเนซุเอลา พบว่าบทความเล่าเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างและใส่สีสันดราม่า หลายบทความนำเวเนซุเอลามาเทียบกับไทยแบบจับแพะชนแกะ ดังนั้นฉันจึงรวบรวมดราม่ามาเปรียบเทียบความจริงในบทความนี้


ดราม่า 1 : เวเนซุเอลาเป็นประเทศสังคมนิยม


ความจริง 1 : เวเนซุเอลาเป็นประเทศผสมสังคมนิยมและทุนนิยม

รัฐบาลชาเวซ (พศ. 2542-2558) และรัฐบาลมาดุโร (พศ. 2558-ปัจจุบัน)ไม่ได้ยึดธุรกิจเอกชนทุกอย่างมาแปรรูปให้เป็นรัฐวิสาหกิจหมด ยึดเพียงบางธุรกิจ ขยายธุรกิจของรัฐวิสาหกิจเดิมและก่อตั้งรัฐวิสาหกิจใหม่ๆเพื่อลดความสำคัญของเอกชน เน้นรัฐวิสาหกิจผลิตน้ำมันและวัตถุดิบอุตสาหกรรม (อาทิ ซีเมนต์ เหล็ก) และรัฐวิสาหกิจในภาคบริการรวมทั้งสาธารณูปโภค การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและยานยนต์ยังเป็นกรรมสิทธิ์เอกชน บริษัทเอกชนขนาดใหญ่มีทั้งบริษัทของเศรษฐีเวเนซุเอลาและบริษัทร่วมทุนกับต่างชาติ ส่วนสินค้าทุนประเภทเครื่องจักรต้องนำเข้าจากต่างประเทศ การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและยานยนต์ก็ต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและอะไหล่


AFP PHOTO /

ความจำเป็นที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าทุนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นสังคมนิยม 100% ไม่ได้ ในทางทฤษฎีรัฐบาลตั้งรัฐวิสาหกิจนำเข้าเอง 100% เองก็ได้ แต่ในทางปฎิบัติประเทศทุนนิยมที่ส่งออกสินค้ามาเวเนซุเอลาก็จะคว่ำบาตรไม่ส่งสินค้าให้ ดังนั้นตราบใดที่เวเนซุเอลาไม่มีเทคโนโลยีผลิตสินค้าทุกอย่างที่ต้องการหรือนำเข้าจากประเทศสังคมนิยมเหมือนกันหมดทุกอย่างก็เป็นสังคมนิยม 100% ไม่ได้ แม้แต่รัฐวิสาหกิจน้ำมันซึ่งทำรายได้เกิน 90% ของรายได้ประเทศก็ต้องพึ่งพาการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อขุดเจาะและกลั่นน้ำมัน

ภาคบริการที่สำคัญอย่างกิจการธนาคารก็มีทั้งธนาคารรัฐและธนาคารเอกชน เวเนซุเอลายังมีตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร กิจการขนส่งก็มีทั้งของรัฐวิสาหกิจและเอกชน มีรัฐวิสาหกิจรถไฟฟ้าและสายการบิน แต่ก็มีแท็กซี่เอกชน มีบริษัทขนส่งและชิปปิ้งเอกชน สายการบินต่างชาติรวมทั้งสายการบินอเมริกันก็มีสำนักงานในเวเนซุเอลา

ภาคบริการขายปลีกก็มีทั้งของรัฐวิสาหกิจและเอกชน รัฐบาลชาเวซยึดซูเปอร์มาร์เก็ตเอกชนบางแห่งมาแปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจขายปลีก แม้ว่ารัฐบาลมาดุโรประกาศว่าขั้นต่อไปของการ“ปฏิวัติโบลิวาร์”ในอนาคตคือการให้รัฐวิสาหกิจขายปลีกผูกขาดการขายปลีกอาหารทั้งประเทศ ในทางปฎิบัติก็คงขาดทุนย่อยยับเหมือนรัฐวิสาหกิจหลายแห่งในปัจจุบัน (ฉันจะอธิบายประเด็นการขาดทุนของรัฐวิสาหกิจเวเนซุเอลาในภายหลังเมื่อกล่าวถึงดราม่าอื่นๆ)

เวลานิตยสารฟอร์บจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีพันล้าน(เหรียญสหรัฐฯ)ก็มีคนเวเนซุเอลาติดอันดับด้วย เช่น อภิมหาเศรษฐีธนาคาร (อันดับ 480) อภิมหาเศรษฐีสื่อสาร (อันดับ 1999) [1] ในแง่นี้ก็คล้ายไทยเพราะไทยก็มีอภิมหาเศรษฐีธนาคารและอภิมหาเศรษฐีสิ่อสารติดอันดับนิตยสารฟอร์บช่นกัน แต่ไทยมีความเป็นทุนนิยมมากกว่าเวเนซุเอลา ยกตัวอย่างกิจการขายปลีก ไทยไม่มีรัฐวิสาหกิจขายปลีกแบบเวเนซุเอลา แม้ว่าไทยมีโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐแต่กระทรวงพาณิชย์ไทยไม่ใช่เจ้าของร้านธงฟ้าประชารัฐ และเจ้าของร้านธงฟ้าประชารัฐไม่ใช่พนักงานรัฐวิสาหกิจ


ดราม่า 2 : เวเนซุเอลาตัดสัมพันธ์กับสหรัฐฯและหันไปพึ่งรัสเซียกับจีน


ความจริง 2 : เวเนซุเอลาตัดสัมพันธ์กับสหรัฐฯชั่วคราวเพียง 9 เดือน

ปัจจุบันมาตรการคว่ำบาตรโดยรัฐบาลทรัมป์ก็ไม่ได้ห้ามค้าขายหรือห้ามธุรกรรมทุกอย่าง ห้ามเพียงบางธุรกรรมเท่านั้น สถานทูตเวเนซุเอลาในกรุงวอชิงตันดีซีดำเนินการปกติและมีสถานกงศุลเวเนซุเอลา 7 แห่งตามเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ นอกจากค้าขายก็มีการลงทุนข้ามชาติ บริษัทอเมริกันเข้าไปลงทุนในเวเนซูเอลา เช่น ฟอร์ด พรอคเตอร์แอนด์แกมเบิล คิมเบอร์ลีคล้าค ฯลฯ รัฐวิสาหกิจน้ำมันเวเนซุเอลามีหุ้นใหญ่ในบริษัทน้ำมันซิทโก้ (Citgo) ที่สหรัฐฯมานานเกือบ 40 ปีแล้ว ผู้บริหารระดับสูงของซิทโก้ก็เป็นคนเวเนซุเอลา [2] รัฐบาลชาเวซและรัฐบาลมาดุโรตรึงค่าเงินสกุลโบลิวาร์กับดอลลาร์สหรัฐฯและออกพันธบัตรกู้เงินสกุลเงินดอลลาร์ เจ้าหนี้ของเวเนซุเอลาก็มีสัญชาติอเมริกันด้วย แต่รัฐบาลเวเนซุเอลาประกาศชักดาบไม่จ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืนเจ้าหนี้อเมริกัน (และชาติอื่นๆด้วย) ปัจจุบันกำลังต่อรองเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ [3]


ดราม่า 3 : รัฐบาลชาเวซและรัฐบาลมาดุโรใช้จ่ายโครงการสังคมสงเคราะห์มากเกินไป


ความจริง 3 : รัฐบาลชาเวซและรัฐบาลมาดุโรสงเคราะห์คนรวยและคนชั้นกลางมากเกินไป

รัฐบาลชาเวซส่งเคราะห์คนรวยและคนชั้นกลางอย่างมหาศาลด้วยเงินดอลลาร์ในตลาดเงินตราแบบ“เนียนๆ”โดยไม่ผ่านงบประมาณประจำปี การสงเคราะห์ดังกล่าวเลยดูไม่ชัดเจนแบบโครงการทางสังคม ยุครัฐบาลชาเวซเงินโบลิวาร์มี 2 อัตรา [4]

ก) อัตราแข็ง กำหนดให้ใช้นำเข้าสินค้าและใช้กับบุคคลทั่วไปที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินดอลลาร์ ธนาคารและบุคคลที่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินดอลลาร์ก็ได้อัตรานี้

ข) อัตราอ่อน เป็นอัตราเงินสดตามตลาดมืดซึ่งคือตลาดที่ไม่ผ่านธนาคารในประเทศ มีทั้งในรูปแบแลกเงินสดและผ่านธนาคารนอกประเทศ

ในทางเศรษฐศาสตร์อัตราตลาดมืดคือ“อัตราจริง”เพราะปรับตามความพึงพอใจของผู้ขายและผู้ซื้อ รัฐบาลชาเวซออกมาตรการต่างๆเพื่อกำจัดอัตรานี้แต่กำจัดไม่สำเร็จ ก่อนชาเวซเสียชีวิตมีการลดค่าเงินโบลิวาร์หลายครั้ง ยิ่งลดค่าเงินอัตราอ่อนในตลาดมืดยิ่งกลายเป็นอัตรามหาอ่อน พอรัฐบาลมาดุโรมารับช่วงต่อก็แก้ปัญหาโดยการลดค่าเงินต่อและแบ่งแยกเป็นอัตราดังต่อไปนี้

ก) อัตราอภิมหาแข็ง กำหนดให้ใช้อัตรานี้กับบริษัทนำเข้าสินค้าจำเป็น

ข) อัตรามหาแข็ง กำหนดให้ใช้อัตรานี้กับบริษัทนำเข้าสินค้า

ค) อัตราแข็ง กำหนดให้ใช้อัตรานี้กับบริษัทและบุคคลทั่วไปที่จำเป็นต้องใช้เงินดอลลาร์ และบัตรเครดิตของคนต่างชาติที่ใช้ในเวเนซุเอลาหรือบัตรเครดิตของคนเวเนซุเอลาที่ใช้ในต่างประเทศ แต่มีโควต้าจำกัดว่าจะใช้เงินดอลลาร์ผ่านบัตรเครดิตได้เท่าไร

การลดค่าเงินและการแบ่งแยกอัตราก็ไม่ได้กำจัดตลาดมืด อัตราจริงในตลาดมืดก็ปรับจากอัตรามหาอ่อนเป็นอภิมหาอ่อน

เพื่อให้เข้าใจว่ารัฐบาลชาเวซสงเคราะห์คนรวยและคนชั้นกลางอย่างไรลองสมมุติว่าแบงค์ชาติไทยใช้นโยบายเดียวกันจะเกิดอะไรขึ้น? สมมุติว่าแบงค์ชาติไทยขายเงินดอลลาร์ด้วยอัตรา 6 บาทต่อดอลลาร์โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ขอซื้อต้องพิสูจน์ความจำเป็นหรือต้องซื้อพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ (คือให้รัฐบาลกู้) และในตลาดมืด (เช่น ร้านขายปลีก คนอยากซื้อคอนโดที่ไมอามี คนอยากฝากเงินดอลลาร์ที่ธนาคารที่ปานามา คนมีหนี้สินที่ต้องจ่ายเจ้าหนี้ที่นิวยอร์ค ฯลฯ) มีอัตรา 30 บาทต่อดอลลาร์ และคุณมีเงินออมอยู่ 6 ล้านบาท คุณจะทำอย่างไร? สมมุติว่าคุณอยากแปลงเงินออมเป็นเงินดอลลาร์ทั้ง 6 ล้านบาท

ก) ถ้าคุณจดทะเบียนตั้งบริษัทนำเข้าเพื่อขอซื้อเงินดอลลาร์ 1 ล้านดอลลาร์และได้อนุมัติ แล้วเอา 1 ล้านดอลลาร์ไปขายที่ตลาดมืดก็จะได้ 30 ล้านบาท หลังจากนั้นเอาเงิน 30 ล้านบาทนี้ไปซื้อเงินดอลลาร์จากแบงค์ชาติอีกรอบก็จะได้มา 5 ล้านดอลลาร์ แบ่งเงิน 5 ล้านดอลลาร์เป็น 2 ส่วนคือส่วนหนึ่งใช้ซื้อสินค้านำเข้าจริงๆเผื่อแบงค์ชาติส่งพนักงานมาตรวจสอบภายหลังว่าคุณนำเข้าสินค้าจริงหรือไม่ อีกส่วนหนึ่งก็เป็น “ส่วนต่าง”ที่คุณเก็บเอาเข้ากระเป๋าตัวเองได้

ข) ถ้าคุณซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุ 1 ปี คุณต้องรอ 1 ปีกว่าจะได้เงิน 1 ล้านดอลลาร์ แต่คุณก็จะได้ดอกเบี้ยในสกุลดอลลาร์เป็นค่าเสียเวลาด้วย ถ้ารอไม่ไหวคุณก็เอาพันธบัตรที่ซื้อมาไปขายเป็นเงินสดในตลาดมืดก็ได้ [5]


REUTERS/Marco Bello

วิธีการ ก) ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่รัฐอนุมัติ ก็เป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่รัฐเรียกสินบนหรืออำนวยให้พวกพ้องซื้อเงินดอลลาร์มาค้ากำไรได้ รัฐบาลชาเวซจับกุมพนักงานที่รับสินบนเพื่อเขียนเสือให้วัวกลัวเป็นครั้งคราว ที่จริงแล้วการใช้อัตราเงินแข็งเป็นอัตราทางการเป็นวิธีการซื้อเสียงจากสถาบันการเงิน นักธุรกิจ คนรวย และคนชั้นกลางที่มีเงินออม ถ้าไม่อยากให้มีการซื้อขายเงินในตลาดมืดจริงๆก็ทำได้ คือกำหนดอัตราแบงค์ชาติให้เท่ากับอัตราจริง รัฐบาลชาเวซอำพรางปัญหาด้วยการลดค่าเงินโบลิวาร์เป็นครั้งคราวแต่ก็ไม่ได้เข้าใกล้อัตราจริง การปรับอัตราแลกเปลี่ยนในยุครัฐบาลมาดุโรก็ไม่ได้เท่าอัตราจริง [6]


รัฐบาลเวเนซุเอลาจะโดนบังคับให้เผชิญอัตราจริงก็ต่อเมื่อเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่แบงค์ชาติเหลือน้อยมากจนแบงค์ชาติขายเงินดอลลาร์ด้วยอัตราที่แข็งกว่าตลาดมืดไม่ได้แล้ว (โปรดรำลึกถึงยุควิกฤตต้มยำกุ้ง) และเมื่อนั้นก็มาถึงในยุครัฐบาลมาดุโร ที่จริงแล้วราคาน้ำมันปัจจุบันไม่ได้ต่ำเท่าตอนต้นยุครัฐบาลมาดุโร แต่รัฐวิสาหกิจน้ำมันที่เป็นตัวทำรายได้เงินทุนสำรองสกุลดอลลาร์ลดกำลังผลิตเพราะขาดทุนเรื้อรังจนไม่มีทุนมาบำรุงและซ่อมแซมเครื่องจักร ยิ่งขาดทุนวิศวกรก็ยิ่งลาออก(คาดว่าเพื่ออพยพไปอยู่ประเทศอื่น)


เมื่อเงินทุนสำรองลดน้อยลงมาก บริษัทที่นำเข้าวัตถุดิบและบริษัทรถยนต์ที่เคยซื้อเงินดอลลาร์จากรัฐง่ายๆก็ต้องรอเป็นเดือน ทำให้เกิดภาวะสินค้าอุปโภคบริโภคขาดแคลน รถยนต์ก็ขาดแคลนจนรถมือสองราคาแพงขึ้นเรื่อยๆจนแพงกว่าราคารถใหม่ในอดีต เมื่อเป็นเช่นนี้คนก็ยิ่งไม่อยากถือเงินโบลิวาร์อยากซื้อรถซื้อบ้านซื้อสินค้าที่เก็บได้นาน เป็นแบบนี้นานเข้าธุรกรรมในตลาดมืดก็ยิ่งเฟื่องฟู รัฐบาลพยายามปิดเว็บไซต์ https://dolartoday.com ที่รายงานอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดมืดแต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/DolarToday ของเว็บนี้มีคนติดตามมากกว่า 10% ของประชากรเวเนซุเอลา (มีทวิตเตอร์หรือเพจเฟซบุ๊คไทยที่มีคนติดตามเกิน 6.8 ล้านคนไหม?)


อีกวิธีหนึ่งที่รัฐบาลชาเวซและมาดุโรใช้เพื่อซื้อเสียงคนรวยคือให้นายพลระดับสูงเข้าไปบริหารรัฐวิสาหกิจรวมทั้งรัฐวิสาหกิจน้ำมัน [7][8] วิธีนี้ไม่ซับซ้อนและชัดเจน นอกจากนี้ทหารในยุครัฐบาลมาดุโรมีหน้าที่พิเศษคือควบคุมสินค้าจากโรงงาน(ทั้งโรงงานเอกชนและรัฐวิสาหกิจ)ให้ไปถึงปลายทาง รัฐบาลใช้มาตรการควบคุมราคาสินค้าที่ต่ำมาก ประกอบกับภาวะขาดแคลนสินค้า จึงเกิดการลักลอบขายสินค้าให้พ่อค้าในตลาดมืดที่นำไปขายต่อเพื่อหากำไรหลายเท่าตัว รัฐบาลจึงส่งทหารไปคุ้มกันสินค้า แต่ก็ยากที่จะตรวจสอบว่าทหารรับสินบนแล้วปล่อยให้คนขับรถขนส่งลักลอบขายสินค้าหรือไม่


ดราม่า 4 : รัฐบาลชาเวซเปลี่ยนเวเนซุเอลาจากประเทศเกษตรกรรมเป็นประเทศส่งออกน้ำมัน


ความจริง 4 : เวเนซุเอลาเป็นประเทศส่งออกน้ำมันมานานก่อนชาเวซเป็นประธานาธิบดี


เวเนซุเอลาเป็น 1 ใน 5 ของประเทศส่งออกน้ำมันที่ก่อตั้งองค์กรประเทศส่งออกน้ำมันหรือ“โอเปค”ก่อนชาเวซเป็นประธานาธิบดี 39 ปี นักคิดของเวเนซุเอลาในยุคนั้นเชื่อมั่นว่าถ้าประเทศส่งออกน้ำมันร่วมกันลดปริมาณการผลิตก็จะดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น แนวคิดนี้ไม่ประสบความสำเร็จนักด้วยหลายสาเหตุ สาเหตุสำคัญคือการคาดการณ์ปริมาณความต้องการน้ำมันในตลาดโลกไม่ใช่เรื่องง่าย และประเทศสมาชิกมีแรงจูงใจที่จะผลิตเกินโควต้าที่ตกลงกันในที่ประชุมโอเปค


ดราม่า 5 : ถ้ารัฐบาลชาเวซไม่ใช้นโยบายประชานิยมจะไม่มีวิกฤตเศรษฐกิจ


ความจริง 5 : ถึงไม่ใช้นโยบายประชานิยมก็มีวิกฤตเศรษฐกิจได้

วิกฤตครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเวเนซุเอลา เมื่อ 30 ปีที่แล้วชาเวซยังไม่ได้เป็นประธานาธิบดีและยังไม่มีนโยบายประชานิยม แต่ก็มีวิกฤตด้วยสาเหตุเดียวกันคือทุนสำรองเงินตราต่างประเทศน้อยและหนี้สาธารณะต่างชาติมากจนจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นไม่ได้ ในยุคนั้นรัฐวิสาหกิจน้ำมันก็รายได้ลดเพราะราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลงเช่นกัน และรัฐบาลก็ใช้จ่ายมาก งบกระทรวงกลาโหมก็มาก รัฐบาลชาเวซก็เพิ่มงบกลาโหมเช่นกัน ไม่ใช่ว่ารัฐบาลชาเวซเพิ่มงบให้โครงการทางสังคมเท่านั้น

เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ที่รัฐบาลชาเวซและรัฐบาลมาดุโรมีอำนาจควบคุมการใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของแบงค์ชาติเวเนซุเอลา ให้แบงค์ชาติอัดฉีดเงินกู้ให้รัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนเรื้อรังและกู้จากต่างชาติเพิ่มเติมด้วย ผลการขาดทุนของรัฐวิสาหกิจบางปีสูงกว่างบประมาณโครงการเพื่อสังคมด้วยซ้ำ เมื่อขาดทุนแล้วกู้ไปเรื่อยๆก็จบลงด้วยวิกฤต วิกฤตครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้วตรงที่ยุคนี้มีโซเชียลมีเดีย ทำให้“อัตราจริงในตลาดมืด”อยู่ในที่แจ้งยิ่งเร่งให้คนเข้าไปซื้อเงินดอลลาร์ในตลาดมืดมากยิ่งขึ้น และทำให้ทั่วโลกรับรู้วิกฤตครั้งนี้ได้รวดเร็วมากกว่าครั้งก่อน


AFP PHOTO / FEDERICO PARRA

ประเทศที่เป็นตัวอย่างให้เวเนซุเอลาได้คือเอกวาดอร์ เอกวาดอร์เป็นประเทศส่งออกน้ำมันและเป็นสมาชิกโอเปคตั้งแต่พศ. 2516 เคยประสบปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะ เอกวาดอร์เรียนรู้จากประสบการณ์และแก้ปัญหาตรงจุด ในเมื่อประชาชนอยากได้เงินดอลลาร์มากจนไม่อยากถือเงินแบงค์ชาติ รัฐบาลก็อนุญาตให้ประชาชนใช้เงินดอลลาร์ค้าขายและทำธุรกรรมควบคู่ไปกับเงินแบงค์ชาติ ปรับอัตราแลกเปลี่ยนที่สะท้อนค่าจริงในตลาดมืด และไม่พิมพ์เงินใหม่ก่อนมีรายได้ส่งออกที่เพิ่มเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ เอกวาดอร์มีระบบสวัสดิการสุขภาพครอบคลุมยิ่งกว่าของไทย เหมือนประเทศทุนนิยมยุโรป แคนาดา และญี่ปุ่น เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงตอนปี 2557 ก็ไม่ได้เกิดวิกฤตแบบเวเนซุเอลา


ดราม่า 6 : ถ้าไทยไม่ยกเลิกโครงการประชานิยมไทยจะเกิดวิกฤตแบบเวเนซุเอลา

ความจริง 6 : ถึงไม่มีโครงการประชานิยมไทยก็เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะมาแล้ว

ไทยเคยมีวิกฤตหนี้สาธารณะในยุครัฐบาลเปรม ทำให้กู้เงินจากไอเอ็มเอฟเป็นครั้งแรก วิกฤตหนี้สาธารณะ(ไม่ว่าประเทศไหน)เกิดจากการกู้โดยรัฐบาลจนเกินกำลังการใช้หนี้จนต้องประกาศว่าจะไม่จ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นแล้วเข้าสู่กระบวนการต่อรองเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ การยกเลิกโครงการประชานิยมไม่ได้รับประกันว่ารัฐบาลจะไม่เพิ่มงบประมาณใช้จ่ายโครงการอื่นๆ


บทสรุป

วิกฤตเวเนซุเอลาให้บทเรียนหลายอย่าง อาทิ

ก) ไม่ควรให้ผู้นำฝ่ายบริหารมีอำนาจควบคุมการใช้จ่ายทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ

ข) ไม่ควรให้ผู้นำฝ่ายบริหารกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ค) ไม่ควรใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบแบ่งแยกและอภิมหาแข็งกว่าอัตราจริง

ง) ไม่ควรอัดฉีดเงินรัฐบาลหรือแบงค์ชาติเพื่ออุ้มรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนเรื้อรัง

จ) ไม่ควรให้นายพลบริหารรัฐวิสาหกิจที่สำคัญต่อรายได้ประเทศและรายได้ส่งออก

ฉ) ไม่ควรพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติเพื่อผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเกือบทุกอย่าง

ผู้อ่านสามารถแลกเปลี่ยนทัศนะกับผู้เขียนได้ที่ https://twitter.com/kandainthai

หมายเหตุ

[1] Forbes Billionaire List 2018 (from Venezuela):

https://www.forbes.com/billionaires/list/#version:static_search:venezuela

[2] Venezuelan creditor eyeing Citgo assets face uphill battle:

https://www.reuters.com/article/us-...citgo-assets-face-uphill-battle-idUSKBN1E838E

[3] Venezuela’s creditors aim to avoid infighting call to unity:

https://www.reuters.com/article/us-...oid-infighting-in-call-to-unity-idUSKBN1JL1DZ

[4] Venezuela’s bizarre system of exchange rates

https://mises.org/library/venezuelas-bizarre-system-exchange-rates

[5] The silent creditor group in Venezuela’s debt crisis:

https://www.reuters.com/article/us-...ezuelas-debt-crisis-venezuelans-idUSKBN1E20K9

[6] Venezuela’s Currency Circus: https://www.nytimes.com/2015/03/07/...rothy-kronick-venezuelas-currency-circus.html

[7] Appointment of Army general to Venezuela oil company could mean more politics, less oil: http://www.latinamericanstudies.org/venezuela/lameda.htm

[8] Under military rule, Venezuela oil workers quit in a stampede:

https://www.reuters.com/article/us-...-oil-workers-quit-in-a-stampede-idUSKBN1HO0H9



https://www.matichon.co.th/article/news_1103888

 

ไม่เคยศึกษาอะไรเลย ผมเคยคุยกับลูกน้องโรงงานสิ่งทอโรงงานหนึ่งเมื่อปีกว่ามาแล้ว เขาบอกว่าทุกวันนี้ที่โรงงานยังเปิดอยู่ก็เพราะเลี้ยงลูกน้องไว้ และอีกไม่นานก็จะปรับค่าแรงขึ้นไม่รู้ว่า สามร้อยกี่บาท จำไม่ได้ครับ เขาว่าโรงงานอาจจะอยู่ไม่ได้ ต้องปิดตัวลง และยังมีอีกกิจการเขาบอกว่า เขาจ้างแรงงานต่างด้าว ตอนยิ่งลักษณ์ ให้ต่าแรงขั้นต่ำ 300 บรท เขาก็ต้องจ่ายค่าแรงขั้นต่ำให้ต่างด้าว 300 ด้วย ลองคิดดูเศรษฐกิจทุกวันนี้แย่ขนาดไหน ถ้าอยู่ดีไปเพิ่มต้นทุนจ้างลูกจ้างต่อคนไปเป็นเงิน 425 บาท กิจการต่างๆ จะอยู่กันได้ไหม ให้พลังประชารัฐ และบรรดาพรรคการเมืองที่เสนอปรับค่าจ้างโดยไม่สนใจสภาพความเป็นจริงกลับไปทำอาชีพอื่นเถอะ


"พลังประชารัฐ" แจงปรับค่าแรงขั้นต่ำ เป็น 425 บาท ไม่กระทบผู้ประกอบการ-ทำเงินเฝ้อ ย้ำศึกษาโครงสร้างรอบด้าน ยืนยันทำได้จริง

 

ก็แค่ฆาตกร ปัญหาการไม่อาบน้ำศพของ ผกร. ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับ จนท. ในการการบังคับใช้กฎหมายติดตามจับกุม นับว่าเป็นปัญหาส่วนหนึ่งที่ยังคงมีอยู่ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา การไม่อาบน้ำศพ แห่ศพมีการแชร์ต่อในสื่อสังคมออนไลน์ถ่ายทอดสถานะให้เป็นนักรบแห่งพระเจ้าผู้ปกป้องศาสนาอิสลาม ยอมพลีชีพ เป็น “ซาฮีด” ที่สมบรูณ์


ข้อมูล:https://is.gd/8zCGY2

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 15) รายงาน: เงินสกุลใดเสี่ยงสุดต่อการชะลอตัวของจีน ?ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน สกุลเงินจำนวนหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งสกุลเงินของประเทศที่ผลิตโภคภัณฑ์ จะมีความเปราะบางมากที่สุดต่อการชะลอตัวของจีน



ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเงินสองสกุลที่มีความเสี่ยงมากสุดต่อจีนคือดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์ เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของทั้งสองประเทศ โดยนิวซีแลนด์ส่งออกไปยังจีน 24.9% และออสเตรเลียส่งออกไปยังจีนประมาณหนึ่งในสาม



จีนซึ่งเป็นผู้บริโภคแร่เหล็กรายใหญ่สุดของโลก กำลังต้องการแร่เหล็กลดลง จึงมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกแร่เหล็กรายใหญ่สุดของโลก



รายงานของแคปิตอล อีโคโนมิคส์ คาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะอ่อนตัวลงมากสุดเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจจีน โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงชะลอตัวต่อไป และในกรณีของดอลลาร์ออสเตรเลีย ต้องพึ่งพาการส่งออกถ่านหินและแร่เหล็กแต่มองว่าโภคภัณฑ์เหล่านี้จะเลวร้ายสุดในปีนี้ ดังนั้นเงินทั้งสองสกุลนี้น่าจะอ่อนตัวต่อเนื่องทั้งปี



แคปิตอล อีโคโนมิคส์ คาดว่าการอ่อนตัวลงอีกของเศรษฐกิจจีนจะทำให้ดีมานด์โภคภัณฑ์ลดลง และทำให้ราคาโภคภัณฑ์ลดลงตาม นอกจากนี้ การเติบโตทั่วโลกที่ลดลงมากขึ้นจะทำให้ปริมาณการซื้อขายโภคภัณฑ์ลดลงไปด้วย



เมื่อราคาโภคภัณฑ์ลดลง จำนวนเงินที่จะจ่ายให้กับสินค้าส่งออกก็ลดลงเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้น ๆ อ่อนตัวลงไปด้วย



เศรษฐกิจจีนใหญ่เป็นอันดับสองของโลกแต่ได้โตเพียง 6.6% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการชะลอตัวที่มากที่สุดในรอบ 28 ปี จากที่โต 6.8% ในปี 2560



แม้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ จีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนอยู่ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลการค้าของจีนอ่อนแอมากกว่าที่คาดไว้มาก



เงินดอลลาร์แคนาดาก็เป็นอีกสกุลหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับโภคภัณฑ์ที่อาจจะได้รับแรงกดดันเช่นกัน



จามีล อะหมัด หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์เงินและฝ่ายวิจัยตลาดของบริษัทเอฟเอ็กซ์ทีเอ็ม กล่าวว่า สมมติว่าราคาน้ำมันร่วงเพราะกลัวว่าดีมานด์จากจีนจะลดลง สกุลเงินที่เกี่ยวกับโภคภัณฑ์สกุลอื่น ๆ ที่เสี่ยงจะได้รับแรงกดดันคือ ดอลลาร์แคนาดาและแม้แต่เงินรูเบิล รัสเซีย ส่วนสกุลเงินในเอเชียที่อาจจะอ่อนไหวต่อความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนได้แก่ เงินริงกิตมาเลเซีย รูเปียห์ อินโดนีเซีย และดอลลาร์สิงคโปร์



แคปิตอล อีโคโนมิคส์ ระบุว่า ทั้งดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์นิวซีแลนด์เป็นสกุลเงินที่อ่อนสุดในบรรดาสกุลเงินของกลุ่ม จี10 ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาโภคภัณฑ์ได้ลดลงอย่างรุนแรง แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาด เนื่องจากประเทศเหล่านี้พึ่งพาการส่งออกอาหาร พลังงานและโลหะต่าง ๆ



จามีล กล่าวว่า สกุลเงินเหล่านี้จะยังคงเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงทิศทางอย่างกะทันหันตราบเท่าที่แลนด์สเคปการเมืองในโลกยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน



เงินดอลลาร์ออสเตรเลียได้ถูกทุบอย่างหนักในปีนี้ เนื่องจากมีความกังวลต่อทั้งเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจออสเตรเลียเอง เงินดอลลาร์ออสเตรเลียได้อ่อนตัวลงอย่างไม่หยุดยั้งมาตั้งแต่ปี 2561 โดยจากที่สูงถึง 0.7918 ดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เหลือประมาณ 0.70 ดอลลาร์ ในสัปดาห์นี้



การอ่อนตัวของดอลลาร์ออสเตรเลียยิ่งรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีรายงานในเดือนกุมภาพันธ์ว่าจีนได้ห้ามนำเข้าถ่านหินออสเตรเลียที่ท่าเรือใหญ่แห่งหนึ่ง มีการคาดการณ์ในตลาดว่า รายงานที่จะออกมาในวันนี้ (14 มี.ค.) อาจจะสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดของความสัมพันธ์ทางการค้าและการเมืองระหว่างออสเตรเลียและจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้



เมื่อปีที่แล้ว ออสเตรเลียห้ามหัวเหว่ยและแซดทีอี ขายอุปกรณ์เทคโนโลยี 5 จี ในประเทศ โดยอ้างว่าเป็นกังวลเรื่องความมั่นคงของชาติ



แคปิตอล อีโคโนมิคส์ กล่าวว่า การอ่อนตัวลงของดอลลาร์ออสเตรเลียสะท้อนว่ามีความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของจีนและการปกป้องการค้าที่มีมากขึ้น



ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เท่านั้นที่สามารถช่วยให้สกุลเงินที่มีความเสี่ยงปลอดภัย ข้อตกลงการค้าของสองชาตินี้อาจทำให้ดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น แต่การแข็งค่าอาจเกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ และจะถูกบดบังโดยการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน


Source: ข่าวหุ้น

- These are the currencies most vulnerable to China's economic slowdown : https://www.cnbc.com/2019/03/13/aus...dollar-most-vulnerable-to-china-slowdown.html