ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Watchers

    #Alert #Earthquake ⚠️
    13/05/19
    เวลา 07:43 น. ตามเวลาไทย
    แผ่นดินไหว East of Severnaya Zemlya
    มหาสมุทรอาร์คติก (ขั้วโลก)
    พิกัด 79.408°N 123.897°E
    ขนาด 5.4 ลึก 10 กม.
    จุดนี้ไม่เห็นได้บ่อยๆนะ

    USGS: https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us70003k5r/executive
    EMSC : https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=765226
    #Watchers

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ควง อภัยวงศ์ เล่าเหตุการณ์ต้นตระกูลอพยพกลับสยาม หลังปกครองพระตะบองนาน 5 แผ่นดิน กว่า 112 ปี

    นายควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรี 4 สมัยของไทย บุตรชายของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์) ผู้เป็นเจ้าเมืองพระตะบองคนสุดท้าย เล่าเหตุการณ์ขณะที่ครอบครัวของท่านกำลังถอยออกมา และสยามยอมสละดินแดนประเทศราชที่สยามหวงแหนที่สุดให้คนอื่นไป

    “เรา (หมายถึงบรรพชนของท่าน) ได้ช่วยกันรักษาพระราชอาณาจักรให้ตลอดรอดฝั่งมาจนกระทั่งตอนหลังเขมรก็กลายเป็นประเทศในอารักขาของฝรั่งเศส ฝรั่งเศสก็พยายามที่จะเอาแผ่นดินเหล่านี้กลับคืน จึงขอตั้งกงสุลขึ้นที่จังหวัดพระตะบอง แล้วก็หาเรื่องหาราวต่างๆ ตระกูลของผมก็ช่วยกันผ่อนหนักผ่อนเบาตลอดมา ภายหลังสัญญาปี 1904 ฝ่ายเราเจรจากันจนฝรั่งเศสยอมถอนทหารออกจากจันทบุรี แต่ดันไปยึดตราดไว้แทน และขอเจรจาเรื่องมณฑลบูรพา (เขมรส่วนใน) ต่อไป ทางไทยเราก็ไม่มีหนทางที่จะทำอย่างอื่น ต้องเอากุ้งฝอยแลกปลากะพง

    ตามที่ผู้ใหญ่เล่าให้ผมฟังนั้น ได้มีพระบรมราชโองการเรียกเจ้าคุณพ่อของผมลงมากรุงเทพฯ และทรงรับสั่งถามความเห็น คุณพ่อของผมก็กราบบังคมทูลว่า เราควรจะเอาจังหวัดที่เป็นของไทยไว้ ส่วนที่เป็นจังหวัดเขมรถ้าจำเป็นจะต้องเสีย ก็ควรยอมเสียจังหวัดที่เป็นเขมร รักษาจังหวัดไทยไว้ดีกว่า ก็เป็นอันตกลงทำสัญญาคืนมณฑลบูรพาให้แก่เขมรไป ในการเจรจาขั้นต่อไปฝรั่งเศสได้บอกว่า สำหรับเจ้าคุณพ่อผมนั้นจะอยู่ที่พระตะบองต่อไปก็ได้ เขาขอร้องให้อยู่ ส่วนเกียรติยศเกียรติศักดิ์เคยมีมาอย่างไรก็จะขอให้อย่างนั้น

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ก็ทรงรับสั่งเรียกเข้ามาถามว่า ว่ายังไงจะอยู่ทางโน้นหรือจะคิดอย่างไร แต่เจ้าคุณพ่อของผมได้กราบบังคมทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้ามีนายแต่เพียงคนเดียว ขอกลับบ้านเดิม และเราก็อพยพมาในเวลานั้น…แน่ละการที่เราไปอยู่เมืองเขมรมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนกระทั่งปลายรัชกาลที่ 5 นั้น การปะปนระหว่างเขมรกับพวกผมนี่มีมากมาย ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร คราวนี้ท่านก็พิจารณาเอาเองเถิดว่าผมจะเป็นเขมรหรือเป็นไทย”

    คัดบางส่วนจาก บทความเรื่อง วารสาร “นักล่าอาณานิคม” ตีแผ่สัญญารัชกาลที่ 5 ทำไมสยามสละ “นครวัด”

    ที่มา :https://www.silpa-mag.com/quotes-in-history/article_31765

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Candy Bella

    #ผู้หญิงที่โหดที่สุดในโลก
    อลิซาเบธ บาโธรี่

    ... สำหรับ เอลิซาเบธ บาโธรี่ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเธอ เธอปรากฏในการ์ตูนหลายเรื่องมาก และเป็นผู้เชื่อมคีย์เวิร์ดคำว่า "เลือด" เข้ากับ "ความงาม" ส่วนพฤติกรรมนั้นโหดเหี้ยมไม่ต่างพวกผีดูดเลือดทั้งหลาย จนเธอได้รับฉายาว่าเคานท์สาวกระหายเลือด และได้บันทึกเป็นสถิตว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าเหยื่อมากที่สุดในโลกจนยากที่ไม่มีใครจะกล้าทำลายสถิตของเธอ

    สถิตคือเธอฆ่าสาวพรหมจารีไปแล้วกว่า 605 ศพ!

    เคาท์เตส อลิซาเบธ บาโธรี่ (Countess Elizabeth Báthory) เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1560 ในเมือง Nyírbátor ประเทศฮังการี เป็นคนในตระกูล บาโธรี่ ซึ่งมีความเกี่ยวดองกับกษัตริย์ฮังการีในสมัยนั้น

    อลิซาเบธ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1614 (54 ปี) ในเมือง Čachtice ประเทศสโลวาเกีย

    เคาท์เตส อลิซาเบธ บาโธรี่ เป็นหญิงสาวที่มีความเชื่อในเรื่องชีวิตที่เป็นอมตะ และต้องการคงร่างของตนเองให้คงดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ จึงมีความคิดที่ว่า หากได้อาบเลือดของหญิงสาวบริสุทธิ์แล้ว จะทำให้ตนเองดูอ่อนเยาว์ได้ตลอดไป เธอจึงสั่งให้คนรับใช้ไปเอาร่างของหญิงสาวบริสุทธิ์ มากรีดเอาเลือดใส่อ่างด้วยเครื่อง ไอรอน เมเดน (Iron maiden) แล้ว อาบต่างน้ำ โดยมีเหยื่อที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับเธอไปไม่น้อยกว่า 600 คน กว่าที่เธอจะถูกคนจับไปขังในคุกมืดจนตาย เธอได้รับสมญานามว่า The Blood Countess และ Countess Dracula

    เอลิซาเบธ เกิดในปราสาทเชิงเขาคาร์เทียนใกล้ๆ กับแคว้นทรานซิลวาเนีย ซึ่งเป็นของตระกูลบาโธรี่อันเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงของฮังการี่และสืบสายมา จากตระกูลแฮบสเบิร์กอันเก่าแก่ของยุโรป ตระกูลบาโธรี่จึงเป็นตระกูลที่เก่าแก่ร่ำรวย มีอำนาจล้นหลาม เป็นที่น่ายำเกรงของประชาชนทั่วไป และปกครองแคว้นทรานซิลวาเนียมาหลายต่อหลายยุคสมัย

    ความจริงแล้ว เอลิซาเบธไม่ใช่เด็กหญิงที่สวยงาม เธอออกจะขี้เหร่ด้วยซ้ำแต่ด้วยความที่เป็นลูกผู้ดีมีตระกูล จนจักรพรรดิมาร์คมิชิเลียนที่ 2 เคยมาขอดูตัวด้วยซ้ำ เอลิซาเบธจึงมีทั้งความสวยทั้งหน้าตา รูปร่าง(เธอคิดเอาเอง) และชาติตระกูลสูงส่ง แต่มันเหมือนนรกจับยัดมาเกิด เพราะเธอกลับมีอาการบกพร่องทางจิตอย่างรุนแรง

    เป็นเรื่องธรรมดาของตระกูลเก่าแก่ที่มีการแต่งงานกันเองในหมู่ญาติเพื่อ รักษาทรัพย์สมบัติและอำนาจเอาไว้ ทำให้ผู้สืบสายเลือดตระกูลนี้จำนวนมากมีอาการบกพร่องทางจิตอันเนื่องมาจาก ลักษณะทางพันธุกรรม เป็นต้นว่าโรคฮิสทีเรีย พฤติกรรมรักร่วมเพศ หรือแม้แต่การสืบทอดของสาวกลัทธิบูชาปีศาจ ผู้มักมากในกาม ฯลฯ เอลิซาเบธ ก็เช่นเดียวกัน

    นิสัยเพี้ยนของเอลิซาเบธ ปรากฏตั้งยังเล็กๆ อยู่นั่นแหละ เอลิซาเบธนั้นแทนที่จะพอใจกับเกียรติยศที่ผู้คนเตรียมใส่พานทองมาประเคนให้ แต่เธอกลับใฝ่ต่ำ ทำท่าเบื่อหน่ายพวกพี่เลี้ยง ครูอาจารย์ที่มาอบรมสั่งสอน เธอกลับเกเรหนีเรียน แอบไปเที่ยวเล่นกับลูกชาวนา ชาวไร่ที่เป็นทาสติดที่ดิน เธอชอบเล่นสัปดนเสียจนท้องเมื่ออายุเพียง 13

    ข่าวที่น่าอับอายถูกส่งไปบอกผู้เป็นมารดาอย่างเร่งด่วน และก่อนที่จะมีผู้ใดระแคะระคาย เธอก็ถูกส่งตัวไปไว้ในปราสาทแห่งหนึ่งของตระกลูบาโธรี่ที่ห่างไกลสายตาผู้คน ท่านแม่ของเธออ้างว่าลูกสาวไม่สบายต้องการอยู่ในที่สงบเพื่อรักษาตัว และเมื่อทารกเกิดมาก็อาจถูกฆ่าทิ้งหรือไม่ก็ถูกส่งไปที่ลับหูลับไม่ให้มีใคร รู้เด็ดขาดเลยว่าเจ้าสาวเคยมีลูกกับพวกไพร่ แต่ใครไม่รู้ว่า ทารกลูกคนแรกของเอลิซาเบธหลังจากลืมตามายังโลก สุดท้ายแล้วซะตากรรมเป็นเช่นใด

    เมื่อเธอโตขึ้น เอลิซาเบธ เริ่มมีอาการป่วยเป็นโรคปวดหัวเรื้อรังจนตลอดชีวิตของเธอ มีหมอหลายคนทำการรักษาแต่ก็ไม่หาย จนกระทั่ง.........

    มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยเด็กที่เธอเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง จนกัดเนื้อไหล่ของสาวใช้ที่เข้ามาพยาบาล หลุดออกมา สาวใช้ร้องลั่น เอลิซาเบธได้ยินเสียงกรีดร้องของสาวใช้นั่นเอง น่าแปลกที่อาการปวดหัวของเธอกลับหายเป็นปลิดทิ้ง นับแต่นั้นมา เกิดอาการปวดหัว เธอก็จะทรมานสาวใช้เพื่อให้เสียงร้องเหล่านั้นเป็นยาระงับอาการของเธอ

    ปี 1575 เมื่อเอลิซาเบธ อายุ 15 ปี เธอก็แต่งงานกับท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ซึ่ง เป็นลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่า 11 ปี (หลังจากแต่งงานแล้ว เอลิซาเบธ ก็ยังคงใช้ชื่อตระกูลเดิม) ทั้งสองย้ายที่อยู่ไปยังปราสาทเซติซ ปราสาทกว้างใหญ่แต่มืดทะมึนดูน่าสยดสยองกลางป่าลึกบนภูเขาคาร์ลปาเชีย ในสโลวาเกีย เพื่อจะอบรมเตรียมรับตำแหน่งเคาน์เตส นายหญิงแห่งอาณาจักรอันไพศาล

    ท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ ไม่ใช่คนดีมากนัก ออกจะจิตวิตถารเช่นเดียวกับอลิซาเบธเสียด้วยซ้ำ สองสามีภรรยามักสนุกตื่นเต้น สนุกสนาน อยู่ด้วยกันเสมอกับการได้ทรมานบ่าวไพร่ ซึ่งเคาน์ฟีเรนซ์ มักจะเล่าให้อลิซาเบธฟังถึงการที่เขาเคยทรมานทรกรรมเชลยชาวเติร์กอย่างโหด เหี้ยม และอลิซาเบธเองก็สนองคิดค้นหาวิธีสยดสยองต่างๆนาๆมาทดลองใช้กับคนของตัวบ้าง

    ทั้งสองมีความสุขกับรสนิยมที่ต้องกันอย่างนี้มากล้นจนมีบุตรธิดาด้วยกันถึง 4 คน

    แต่ฟีเรนซ์มักจะไปออกรบตามที่ต่างๆจนไม่ค่อยอยู่ติดปราสาท ชีวิตสมรสของเอลิซาเบธ จึงไม่หวานชื่นเท่าใดนัก อาการปวดหัวของเธอกำเริบถี่ขึ้นและการทรมานสาวใช้ก็ค่อยๆหนักข้อขึ้นทุกที เป็นต้นว่า การแทงเข็มเข้าที่ปลายนิ้วของสาวใช้ หรือจับสาวใช้มาทาน้ำผึ้งทั่วตัวแล้วโยนลงไปในห้องใต้ดินที่เต็มไปด้วยมด

    แต่นี่ก็ยังไม่นับเป็นการเปิดฉากตำนานเลือดของเธอเลยด้วยซ้ำ
    อลิซาเบธ เริ่มหางานอดิเรกใหม่มาทดแทนชีวิตอันน่าเบื่อ ซึ่งก็คือมนต์ดำที่คนรับใช้เป็นผู้แนะนำนั่นเอง เธอมักจะลงไปหมกตัวอยู่ในห้องใต้ดินและประกอบพิธีกรรมประหลาดกับคนรับใช้ บ่อยครั้ง และในไม่ช้าเอลิซาเบธ ก็เริ่มมีชู้ ฟีเรนซ์รับรู้เรื่องนี้แต่ใจกว้างพอที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หากไม่นานนักแม่ของฟีเรนซ์ก็ย้ายมาอยู่ด้วย จึงเป็นการเปิดสงครามเย็นระหว่างแม่สามีลูกสะใภ้ในที่สุด

    เอลิซาเบธมักประพฤติตัวเป็นภรรยาผู้เรียบร้อยต่อหน้าสามี แต่พอลับหลัง เธอก็ทำกระทั่งการจับสาวใช้ของแม่สามีมาทรมานจนตาย

    จะอย่างไรก็ตาม เอลิซาเบธมีลูก 4 คน จึงทำให้สภาพครอบครัวยังไม่ถึงกับพังทลายลงในทีเดียว ชีวิตฆาตกรของเธอเริ่มต้นขึ้นหลังจากการตายของสามีเสียมากกว่า

    ปี 1600 ในฤดูหนาว เอลิซาเบธอายุได้ 40 ปี ฟีเรนซ์สามีคู่ชีวิตซาดิสต์ได้เสียชีวิตลงในขณะอายุ เพียง 51 ปี ทิ้งสมบัติและอำนาจทุกอย่างไว้ในมือของภรรยา และแทบจะในวันเดียวกันนั้นเอง แม่ก็จากโลกนี้ตามลูกชายไปอีกคน มีข่าวลือภายหลังว่าเป็นการวางยาพิษ

    ทีนี้ก็ไม่มีใครจะมาขวางทางเอลิซาเบธได้อีก เธอกลายเป็นราชินีในอาณาจักรของเธอ ชีวิตประชาชนก็เหมือนกับลูกไก่ในกำมือ จะบีบจะคลายก็ขึ้นอยู่กับใจเธออย่างเดียว จะมีก็แต่อย่างหนึ่งที่ไม่เป็นไปดังใจคิด เอลิซาเบธมีความภูมิใจในรูปโฉมของตัวเองมาก แต่ตัวเธอก็ไม่สามารถเอาชนะกาลเวลาได้ นับวันร่างกายเหี่ยวยานตามกาลเวลา เธอต้องการความสวย ความสวยที่เป็นอมตะตลอดกาล

    มีการสั่งให้แม่มดหมอผีที่คุ้นเคยทำยาคืนความสาวมาใช้หลายขนาน แต่ไม่ว่าอันไหนก็ไม่ค่อยเห็นผลเท่าใดนัก

    จนกระทั่ง.........

    เช้าวันหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาล้างหน้าล้างตาแต่งองค์ทรงเครื่อง ทันใดนั้นขณะที่เธอส่องดูเงาตัวเองในกระจกเธอก็ต้องชะงักเพ่งมองแล้วมองอีก นี่ความชราย่างกรายเข้ามาทำร้ายตัวเธอแล้วหรือจริงซินะ.....เธอนึกได้ว่า อายุเธอปาเข้าไปตั้ง 45 แล้วนี่นา เอลิซาเบธใจหายวาบถึงจะไม่สวยแต่เธอก็ไม่อยากแก่และกลัวอย่างที่สุด เธอรู้สึกเหมือนความแก่เฒ่านั้นมันมีตัวตน เอาปากครีมมาหนีบดึงถึ้งเนื้อที่เต่งตึงผุดผ่องของเธอทีละชิ้นๆ เมื่อเธอหงุดหงิด ขัดข้องก็ยิ่งต้องหาเรื่องระบายอารมณ์และความบันเทิงใดเล่า จะเท่ากับการลากคนมาทรมาน

    ขณะที่สาวใช้กำลังสางผมให้กับเอลิซาเบธ คงเพราะเกร็งไปหน่อยจึงออกแรงมากไป ดึงผมหลุดติดหวีมาหลายเส้น เอลิซาเบธระเบิดอารมณ์ทันที เธอใช้เชิงเทียนที่อยู่ใกล้มือทุบเด็กสาวอย่างไม่ยั้งมือ แล้วลงมือหวดแส้หนังผูกปมโลหะใส่เนื้อหนังมังสาของทาสชะตาขาดนั้นอย่างเมามัน ความรุนแรงของเธอทำเอาแส้ตวัดเกี่ยวหนังของผู้เคราะห์ร้ายหลุดกระเต็นออกมา เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หยาดเลือดสาดกระเซ็นเป็นฝอยมาติดตามตัวของเธอ การโบยหฤโหดจบลงพร้อมๆ กับชีวิตของทาสที่เละเป็นหมูบะช่อแต่ทว่าเรื่องที่ร้ายที่สุดกำลังจะเกิด ขึ้นเคาน์เตส หอบเหนื่อยเกือบหมดแรงแต่ก็สนุกสมใจไม่น้อยเลย

    ความอัจฉริยะบังเกิดขึ้นอีกแล้ว เอลิซาเบธตาวาวโรจน์เปี่ยมสุขขึ้นมาทันใด คราวนี้เธอค้นพบสูตรใหม่แห่งยาอายุวัฒนะ เธอนั่งลงและเห็นหยาดเลือดทาสที่กระเด็นมา จึงให้สาวใช้ต้นห้องเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้า และแล้วความโหดเหี้ยมแปรเปลี่ยนเป็นความพิศวง เมื่อเคาน์เตสพบว่าใต้รอยเลือดนั้นผิวของเธอกลับนุ่มนวลผุดผ่องเป็นยองใยราว สาวแรกรุ่นอ่อนนุ่ม ละมุนละไม ผิดกับผิวเนื้อตรงอื่นอย่างเหลือเชื่อ เธอคิดได้ว่าเลือดสด ๆ มีคุณสมบัติพิเศษที่จะบันดาลให้เธอเป็นสาวอมตะได้ตลอดกาล เลือดนั้นจะต้องเป็นของสาวแรกรุ่นซินะ มันถึงจะได้ฤทธิ์ของน้ำแห้งชีวิตอย่างเต็มที่

    และด้วยเหตุนี้เองโศกนาฏกรรมการฆ่าสังหารเด็กสาวกว่า 600 คนเพื่อประทังความงามของเอลิซาเบธ บาโธรี่จึงเริ่มต้นขึ้น

    เหยื่อของเอริซาเบทส่วนใหญ่จะเป็นคนเลือกเหยื่อด้วยตนเองเธอต้องการเลือดของ เด็กสาวบริสุทธิ์ โดยเฉพาะสาวแรกรุ่นที่แสนสวยมีอกอวบอิ่ม

    เธอสั่งให้เชือดและชำแหละเพื่อรีดเลือดทุกหยดออกมาให้ได้มากที่สุด เด็กหญิงคนแล้วคนเล่าต้องตายอย่างทุกทรมาน บางคนถูกกรีดร่างจนเป็นริ้วลึกถึงกระดูก ตัดเส้นเลือดทุกเส้นในร่างที่งดงาม หลายคนถูกแหวะอก ผ่าท้องกรีดหัวใจเลือดพุ่งไหลเป็นสายน้ำ แล้วให้เธออาบร่างนั้นอย่างมีความสุข
    เมื่อลูกทาสของคนรับใช้และทาสในที่ดินตายหมดแล้ว เอริซาเบทก็ให้ลูกน้องบริวารไปล่อลวงหลอกเอาสาวชาวบ้านตามชนบทเข้ามา

    เอลิซาเบทเริ่มทำการรวบรวมเด็กสาวจากที่ต่างๆในดินแดนของตน ชาวบ้านที่ยากจนต่างก็ยินดีที่จะส่งลูกสาวออกมาทำงานในปราสาทเพียงเพื่อแลก กับเสื้อผ้าไม่กี่ชุด เหล่าเด็กสาวพากันลอดประตูปราสาทเข้ามาด้วยใบหน้าร่าเริงราวกับจะไปปิกนิค แต่ไม่มีใครที่รอดกลับมาได้ พวกเธอถูกคั้นเลือดออกมาจนหยดสุดท้ายแล้วถูกฝังไว้ในสวนหลังปราสาทโดยที่พ่อ แม่พี่น้องก็ไม่มีโอกาสจะทราบข่าวถึง

    วิธีการทรมานของเอลิซาเบธ ยิ่งยกระดับเสียยิ่งกว่าเก่า มีทั้งการใช้เหล็กร้อนเผาลำคอ ใช้เครื่องทรมานบีบหน้าอก บางครั้งเธอก็ใช้มือทั้งสองของตัวเองล้วงเข้าไปในปากและฉีกร่างของเหยื่อออก เป็นสองซีก เด็กสาวบางคนที่พยายามจะหนีก็ถูกตัดเท้าทิ้ง

    มีบันทึกกล่าวถึงงานฉลองที่เอลิซาเบธ จัดขึ้น เธอได้รวบรวมเด็กสาวหน้าตาดีจำนวน 60 คนมาจัดงานเลี้ยง คนแคระพากันเต้นรำ แม่มดก็พ่นไฟ เมื่องานเลี้ยงดำเนินมาถึงจุดสูงสุดนั่นเอง ประตูถูกปิดตาย และทหารก็กรูกันเข้ามา เด็กสาวที่พากันหนีลนลานบ้างก็ถูกข่มขืนแล้วแทงด้วยมีดที่กลางอก บ้างก็ถูกตัดหัว บ้างก็ถูกตัดแขนตัดขาและเสียเลือดมากจนสิ้นลม

    ศพและชิ้นส่วนต่างๆถูกรวบรวมมากรองเลือดใส่อ่าง และเอลิซาเบธก็เปลื้องผ้าลงแช่ในอ่างเลือด แต่การรอให้เลือดเต็มอ่างก็ยังไม่ทันใจเธออยู่ดี เอลิซาเบธจึงทดลองวิธีที่เร็วกว่าด้วยการปาดคอเด็กสาวให้เลือดกระฉูดออกมา ใส่ตนเองเหมือนฝักบัวเลือด แต่เนื่องจากเหยื่อกรีดร้องน่ารำคาญ เด็กสาวคนที่สองจึงถูกเย็บปากเพื่อรักษาสุขภาพหูของเอลิซาเบธ

    อีกสิ่งหนึ่งที่เอลิซาเบธทิ้งไว้ในประวัติศาสตร์โลกก็คือ เครื่องมือทรมานที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่ง Iron Maiden นั่นเอง ช่างทำนาฬิกาถูกเรียกตัวมาจากเยอรมันเพื่อการนี้โดยเฉพาะ มีการบรรยายเกี่ยวกับสุภาพสตรีเหล็กตัวแรกสุดไว้ดังนี้

    "ตุ๊กตาเหล็กนี้มีรูปร่างเป็นร่างเปลือยทาสีเนื้อ ส่วนใบหน้ามีการแต้มเครื่องสำอาง เมื่อกลไกขยับปาก ก็จะปรากฏรอยยิ้มอันเลื่อนลอยและเหี้ยมโหดขึ้นบนใบหน้า ที่อกมีพลอยประดับอยู่เป็นปุ่ม เมื่อกดปุ่ม ตุ๊กตาก็จะค่อยๆยกแขนขึ้น จากนั้นแขนก็จะเคลื่อนมาเป็นกอดอกซึ่งคนที่อยู่ในระยะรัศมีก็จะถูกแขนของ ตุ๊กตากอดไว้ พร้อมกันนั้น ส่วนตัวด้านหน้าก็จะเปิดออกเป็นบานประตู ภายในเป็นช่องกลวงและด้านหลังบานประตูมีเข็มแหลมยาวงอกอยู่ 5 เล่ม ผู้ที่ถูกตุ๊กตากอดไว้จะถูกขังอยู่ภายในตัวตุ๊กตาและถูกเข็มเหล่านี้แทง คั้นเลือดออกมาจนเสียชีวิต"

    อย่างไรก็ตาม เครื่องทรมานดังกล่าวนี้ไม่ได้ถูกใช้งานจริงมากเท่าที่เข้าใจกัน เนื่องจากเข็มพากันทื่อเสียหมดเพราะเป็นสนิมจากเลือด เอลิซาเบธ จึงออกคำสั่งใหม่ให้สร้างกรงเหล็กขนาดใหญ่ซึ่งมีเข็มแหลมอยู่ภายใน กรงดังกล่าวจะถูกเฟืองโซ่ยกขึ้นสูงจากพื้นโดยมีเด็กสาวอยู่ข้างใน และเมื่อเขย่ากรง เลือดก็จะกระจายลงมาสู่เอลิซาเบธ ที่อยู่เบื้องล่างราวกับเป็นฝนเลือด

    จนเวลาผ่านไปเกือบห้าปี ลูกสาวชาวไร่ชาวนาหายสาบสูญไปจนหมดสิ้น ความผิดพลาดเอลิซาเบธเกิดขึ้นเมื่อเธอไปเที่ยวที่เมืองวีน เหตุการณ์สยองจึงเริ่มเกิดต่อสาธารณชนรับรู้ครั้งแรก เมื่อมีผู้ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องดังออกจากห้องพักของเอลิซาเบธ

    เอลิซาเบทหันไปหาพวกธิดาของพวกผู้ดีมีตระกูล บางรายเป็นลูกของเพื่อนๆผู้สูงศักดิ์ของเธอด้วยซ้ำ ถึงตอนนี้บ่าวไพร่หมดปัญญาจะเอาศพไปทิ้งไม่ให้ใครเห็นเพราะมีเหยื่อมากมาย ก่ายกองจนต้องโยนออกมาในตอนกลางคืนเพื่อให้ฝูงหมาป่ารุมกินเป็นความเอร็ด อร่อยยามดึก แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อฝูงหมาป่าก็กินไม่หมด คราวนี้ละพวกญาติๆที่มาตามหาสาวน้อยของพวกเขาก็ได้เห็นภาพอันสยองขวัญ ตอนแรกมีชาวบ้านมาพบกองซากศพที่ซีดเผือกไม่มีเลือดอยู่เหลือเลยแม้แต่หยด เดียว เลยเกิดล่ำลือไปว่าในป่านี้มีผีดิบดูดเลือดอยู่คนเลี้ยงสัตว์ของเอลิซาเบธจึงรีบไปตรวจดูและพบว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของ นัก ร้องสาวของสมาคมแห่งหนึ่งในเมืองนั้น ภาพที่เห็น หญิงสาวถูกตัดมือ ตัดเท้า และเสียชีวิต ตายตรงหน้าเอลิซาเบธ เธอบอกกับคนเลี้ยงสัตว์ของเธอว่า นักร้องผู้นี้ทำความผิด จึงมีโทษต้องตาย และนี่คือความผิดพลาดของเอลิซาเบธเพราะคนเลี้ยงสัตว์คนนี้ก็ปากเปราะเสีย ด้วยสิ

    ว่าแล้วกิตติศัพท์นี้ย่อมต้องกลายเป็นที่เลื่องลือในไม่ช้า ประชาชนก็เริ่มร้องเรียนเรื่องไปยังราชสำนักถึงเรื่องคนหาย และมีญาติของเด็กหลายรายยืนยันว่าเด็กสาวที่ตายกันเป็นกองๆใกล้ปราสาทของเอ ลิซาเบธ อยู่นั้นล้วนแล้วแต่ถูกล่อลวงให้มาที่ปราสาทเธอ

    และแล้วพระเจ้าแมทเทียสที่ 2 ก็ทรงเข้ามาจัดการกับคดีนี้ด้วยพระองค์เอง .....เดือน ธันวาคมปี 1610 เมื่อมาร์ควิสเธอร์โซซึ่งเป็นญาติของเอลิซาเบธ ไปยังห้องใต้ดินของปราสาทเซติช เขาก็ต้องผงะกับสิ่งที่ตัวเองพบ เครื่องทรมานจำนวนนับไม่ถ้วน รอยเลือดที่ชโลมอยู่แทบทุกที่และศพที่กองเป็นภูเขา บางศพถูกตัดทรวงอก บางศพถูกเฉือนเนื้อ บางศพก็ศีรษะถูกทุบจนแหลก และบางศพก็เต็มไปรู กลิ่นเลือดตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง มีเด็กสาวบางคนถูกช่วยออกมาได้ แต่ก็เกือบไม่รอดเหมือนกันเพราะพวกเขาพบเธอในขณะที่นอนหายใจรวยรินยังไม่ เสียชีวิต เธอเล่าว่าเธอถูกจับมาพร้อมเพื่อนสาวอีกเป็นจำนวนมากโดยมีสาวใช้สองคนของเอ ลิซาเบธคือ นางดอลค์และนางรีโอน่า เป็นคนสังหารนำเลือดมาให้ผู้เป็นนายชโลมผิว เพราะเชื่อว่าเลือดคือยาอายุวัฒนะ แต่ก็ยากที่บอกว่าพวกเธอปลอดภัยดี เพราะหลายคนถูกบังคับให้กินเนื้อจากศพของเด็กสาวคนอื่น จนบางคนกลายเป็นคนวิกลจริตด้วยซ้ำ เอลิซาเบธ บาโธรี่ ถูกสอบสวนในปี ค.ศ. 1610 อย่าว่าแต่พวกชาวไร่ชาวนาเลย บรรดาผู้ดีมีตระกูลทั้งหลายต่างอาฆาตแค้น และญาติสนิทของเธอเองก็โกรธเคืองอย่างหนักว่าเธอซาดิสต์ขนาดนี้ วงส์ตระกลูบาโธรี่เสื่อมเสียกันหมด ไม่มีอำนาจใดๆที่จะช่วยให้นางฟ้าหรือผีห่าซาตานตนนี้พ้นผิดไปได้แล้ว ลูกมือของเคาน์เตสเปิดปากสารภาพเล่าวิธีการ และบอกถึงรายนามเหยื่อเท่าที่พวกเขาจำได้เฉพาะที่จำได้ก็ปาเข้าไปตั้ง 160 ศพ เดือนมกราคมปี 1611 การตัดสินคดีของเอลิซาเบธถูกจัดขึ้นที่พิซเซ่ เอลิซาเบธได้รับอนุญาตให้ไม่ต้องมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง และเนื่องจากฎีกาของตระกูลบาโธรี่ เธอก็รอดพ้นจากโทษประหารในขณะที่ผู้มีส่วนร่วมในการสังหารทุกคนต่างก็ถูก ตัดสินโทษเผาทั้งเป็น โดยผู้มีส่วนร่วมเป็นสาวใช้สองคนที่ทำหน้าที่ค้นหาและจับผู้หญิงสาวเคราะห์ ร้ายมาสังเวยแก่เธอถึง 605 คน

    หลังการไต่สวนสมุนเอกของเคาน์เตสถูกลงโทษโดยการเผาทั้งเป็นในที่สาธารณะ เธอ ถูกลากกลับไปที่ปราสาทเซติซ ของเธอเอง ที่นั้นเธอถูกรุนเข้าไปอยู่ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองก็ก่ออิฐปิดหน้าต่างและประตูทั้งหมด เหลือไว้เพียงชองเล็กนิดเดียวที่พอจะสอดอาหารและน้ำส่งให้เธอได้ ลองโดนขังไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันขนาดนี้ เป็นคนอื่นล่ะตายไปนานแล้วแต่บาปหนาของเธอทำให้เธอยังมีชีวิตอยู่รู้รสความ ทรมานที่แสนสาหัสนานถึง 4 ปี

    การตัดสินโทษของเอลิซาเบธ ถูกโอนให้เป็นอำนาจของตระกูลบาโธรี่ และโดยผลการประชุมของตระกูล เอลิซาเบธ ก็ถูกตัดสินให้ถูกจองจำอยู่ในปราสาทเซติชไปจนตลอดชีวิตในห้องขังอันมืดมิด ซึ่งประตูถูกโบกปูนปิดตายตลอดชิวิต ไม่ให้หลุดมาทำอันตรายใครได้อีก

    21 สิงหาคม 1614 ก็เป็นวันที่ปราศจากสัญญาณชีวิตจาก เอลิซาเบธ บาโธรี่ ช่องเล็กๆ เพียงช่องเดียวก็ได้ถูกอิฐก่อปิดสนิทลง แต่มีบางตำนานกล่าวว่าเธอหนีออกไปได้และกลายเป็นผีร้ายอยู่ในป่าของฮังการี่ ทุกวันนี้ ปราสาทเซติซ บนภูเขาคาร์ลปาเชีย ในสโลวาเกีย ที่ซึ่งในอดีตเป็นสถานที่สังหารเหยื่อของเอลิซาเบธ ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ที่นั่น แม้จะเหลือแต่ซากปรักหักพังแล้ว แต่มันก็ยังน่าสะพรึงกลัวอยู่เช่นเดิม

    ที่มา :https://www.sanook.com/women/10383/

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Candy Bella

    ฌ้อปาอ๋อง สิ้นนางสิ้นแผ่นดิน

    ... บรรยากาศยามค่ำคืนนี้เงียบสงัด ชายหนุ่มวัยสามสิบท่วงท่าสง่างามในเครื่องแต่งกายชุดจอมทัพ ยืนอยู่หน้ากระโจมหลังใหญ่กลางค่ายทหารแคว้นฉู่ เขาแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า พลางถอนหายใจ ขณะนั้นเองเสียงเพลงในท่วงทำนองคุ้นหูหากฟังดูเศร้าสร้อย ก็ดังมาจากทั่วสารทิศ เหล่าทหารภายในค่าย ต่างผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจที่ได้ยินเสียงเพลงพื้นบ้านของแคว้นตน แต่มินานทำนองที่เศร้าสร้อยของเพลงก็ทำให้หัวใจของเหล่านักรบทั้งนายแลไพร่พล บังเกิดความหดหู่ บ้างห่วงบิดามารดรที่อยู่เบื้องหลัง บ้างกังวลถึงเมียรักแลลูกน้อยที่คอยอยู่

    เซี่ยงหยี่ ถือกำเนิดขึ้นใน ปีที่ 232 ก่อน ค.ศ. ตระกูลของเขาเกี่ยวเนื่องกับเชื้อพระวงศ์ของแคว้นฉู่ บรรพชนหลายรุ่นเคยรับราชการในตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ จนกระทั่งเมื่อแคว้นฉู่ล่มสลาย แม่ทัพใหญ่เซี่ยงเยี่ยน ปู่ของเขาฆ่าตัวตายหลังจากรบแพ้กองทัพฉิน คนอื่นๆ ในตระกูลบ้างตาย บ้างก็หายสาปสูญ สำหรับเซี่ยงหยี่เองนั้น กำพร้าบิดามารดาโดยได้เซี่ยงเหลียงผู้เป็นอาเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่

    210 ปี ก่อนคริสตกาล ฉินซีฮ่องเต้เสด็จสวรรคต ประชาชนที่ทนการกดขี่ของราชวงศ์ฉินไม่ไหว ต่างพากันก่อกบฏไปทั่วแผ่นดิน ในเวลานั้น เซี่ยงเหลียงได้ชูธงก่อกบฏขึ้นที่แคว้นฉู่ทางภาคใต้ และได้อัญเชิญเชื้อสายเดิมของราชวงศ์แคว้นฉู่ ขึ้นเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า ฉู่ไหวหวาง และรวบรวมผู้คนทำศึกกับราชวงศ์ฉิน ในการก่อกบฎต่อราชวงศ์ฉินครั้งนี้ เซี่ยงหยี่ หลานชายของเซี่ยงเหลียงได้เป็นกำลังสำคัญของผู้เป็นอา ในฐานะขุนพลมือหนึ่งของกองทัพ เซี่ยงหยี่เป็นชายหนุ่มรูปงาม กำลังมหาศาล สติปัญญาเฉลียวฉลาด นิสัยเด็ดเดี่ยวดุดัน เจ้าอารมณ์ ทั้งยังเชื่อมั่นในตัวเองเป็นอย่างสูง

    ครั้งหนึ่ง เซี่ยงหยี่ ได้ยินว่ามีคนพบเห็นม้าดำลักษณะดีแต่ดุร้ายจนไม่มีใครจับได้มาปรากฏตัวอยู่ที่ชายป่านอกเมือง เซี่ยงหยี่จึงออกไปจับม้าตัวนั้นไว้ได้ เศรษฐีใหญ่ผู้หนึ่งได้เห็นเซี่ยงหยี่กำราบม้าร้ายได้นึกชอบใจลักษณะของชายหนุ่มจึงยกบุตรสาวนาม หยูจี ซึ่งเป็นหญิงงามลือชื่อให้ ทั้งนี้นับแต่เซี่ยงหยีได้นางหยูจีมาเป็นภรรยา เขาก็รักนางมากและไม่มีหญิงอื่นใดอีก ในขณะที่บ้านเมืองกำลังระส่ำระส่ายนั้น ยังมีชายผู้หนึ่ง นามว่า หลิวปัง เขาเกิดเมื่อปีที่ 256 ก่อน ค.ศ. ในครอบครัวชาวนา หลิวปังเรียนหนังสือมาน้อยเนื่องจากครอบครัวยากจน แต่เขาเป็นคนใจกว้าง นิสัยสนุกสนานเฮฮา จึงมีเพื่อนฝูงมาก เมื่อโตเป็นหนุ่ม หลิวปังได้รับราชการเป็นหัวหน้ามือปราบของตำบลเล็กๆแห่งหนึ่ง เขาได้รับราชการมาจนล่วงเข้าวัยกลางคน จนกระทั่งครั้งหนึ่ง หลิวปังได้รับคำสั่งให้นำขบวนนักโทษเดินทางไปยังกรุงเสียนหยางซึ่งเป็นเมืองหลวง แต่ระหว่างทางมีนักโทษหลบหนีไปเป็นจำนวนมาก จนหลิวปังเห็นว่าหากไปถึงเมืองหลวงเมื่อใด ตนเองคงไม่แคล้วต้องโดนประหาร เนื่องจากกฏหมายฉินรุนแรงนัก หากผู้คุมนำนักโทษไปถึงล่าช้าหรือไม่ครบตามจำนวน จะต้องรับโทษถึงตาย หลิวปังจึงตัดสินใจปล่อยนักโทษไปทั้งหมด พวกนักโทษพากันซาบซึ้งน้ำใจจึงยกให้หลิวปังขึ้นเป็นหัวหน้า

    หลิวปังพาพรรคพวกหลบหนีทหารของทางการขึ้นไปบนภูเขา ระหว่างทางเจองูตัวใหญ่เลื้อยมาขวางหน้า พรรคพวกที่ตามมา ต่างหวาดกลัวงูตัวนั้นเพราะเชื่อว่าเป็นงูเทพเจ้า หากแต่หลิวปังไม่กลัวและตรงเข้าไปสู้กับงูตัวนั้นก่อนจะใช้ดาบสังหารมัน พรรคพวกที่ตามมา จึงพากันร่ำลือว่า หลิวปังเป็นผู้มีบุญ จึงสามารถสังหารงูเทพเจ้าได้ ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นในละแวกนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์จลาตจลทั่วแผ่นดิน หลิวปังได้นำพรคพวกเข้ายึดอำเภอเพ่ย โดยได้รับความช่วยเหลือจากพวกชาวบ้านที่ต้องการปลดแอกตัวเองจากการปกครองของราชวงศ์ฉิน หลังจากยึดอำเภอเพ่ยได้ หลิวปังจึงตั้งตนเป็นหัวหน้ากบฎ ใช้ฉายาว่า เพ่ยกง

    ในยามนั้น กองทัพกบฏของแคว้นฉู่มีกำลังเข้มแข็งที่สุด บรรดาหัวหน้ากบฏของแคว้นต่างๆ จึงพากันอ่อนน้อม ยอมให้แคว้นฉู่ผู้นำ หลิวปังจึงนำกองกำลังของเขามาร่วมกับกองทัพกบฏของแคว้นฉู่ด้วย ทางด้านเซี่ยงหยี่ หลังจากเซี่ยงเหลียง อาของเขาก่อกบฎต่อราชวงศ์ฉินแล้ว ก็ได้นำกองทัพเข้าทำสงครามกับทัพฉินหลายครั้ง จนกระทั่งเสียทีให้กับข้าศึกและถูกสังหารในสนามรบ ฉู่ไหวหวางได้ตั้งขุนพลซ่งอี้ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ของทัพกบฏแห่งแคว้นฉู่แทนเซี่ยงเหลียง

    ปีที่ 207 ก่อน ค.ศ. ฉู่ไหวหวางมีพระบัญชาให้ซ่งอี้นำทัพสองหมื่นเข้ายึดเมืองจวี้ลู่เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นสำหรับเคลื่อนทัพบุกเมืองเสียนหยาง ทว่าซ่งอี้ทราบมาว่า ฝ่ายฉินระดมทหารเกือบสองแสนคนมาเตรียมรับศึกที่จวี้ลู่ จึงเกิดความหวาดกลัวและออกคำสั่งไม่ให้เคลื่อนพล เซี่ยงหยี่ซึ่งเป็นรองแม่ทัพ ไม่พอใจมากจึงได้ไปทะเลาะกับซ่งอี้และสังหารซ่งอี้ลงเสีย จากนั้นก็ยึดอำนาจทหารมาเป็นของตน โดยหลังจากได้เป็นผู้บัญชาการทัพแล้ว เซี่ยงหยี่ก็ออกคำสั่งให้เคลื่อนพลข้ามฟาก ครั้นเมื่อกองทัพข้ามมาแล้ว เขาก็สั่งให้เผาเรือทั้งหมดและประกาศให้ทหารสู้ตาย เมื่อรู้ว่า หมดหนทางถอย ทหารฉู่จึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องสู้ให้สุดกำลังเท่านั้น ในขณะที่ทางฝ่ายทัพฉินซึ่งรักษาที่มั่นในจวี้ลู่นั้น ยังคงตั้งอยู่ในความประมาท เนื่องจากเห็นว่าอีกฝ่ายมีกำลังทหารน้อยกว่าพวกตนมาก ดังนั้นเมื่อทั้งสองฝ่ายเกิดศึกกัน ทัพฉินจึงถูกกองทัพฉู่เข้าโจมตีจนแตกพ่ายยับเยิน

    ปีที่ 206 ก่อน ค.ศ. ฉู่ไหวหวางก็ทรงมีพระบัญชาให้เซี่ยงหยี่และหลิวปังรวมทั้งแม่ทัพของกองกำลังกบฏอื่นๆ เคลื่อนพลเข้าตีดินแดนของราชวงศ์ฉิน โดยประกาศว่า หากกองทัพของผู้ใดเข้ายึดนครเสียงหยางได้ก่อน จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าแคว้นปกครองดินแดนเดิมของฉินทั้งหมด เซี่ยงหยี่นำทัพรุกเข้าแดนศัตรูอย่างเข้มแข็ง ทว่าเส้นทางที่เซี่ยงหยี่เลือกใช้นั้น ค่อนข้างไกล ทั้งยังมีทัพหลวงของราชวงศ์ฉินตั้งมั่นอยู่ ทำให้การคืบหน้าเป็นไปได้ช้า ขณะที่ฝ่ายของหลิวปังนั้นเลือกเส้นทางลัดจึงเคลื่อนทัพได้เร็วกว่ากองทัพสายอื่นๆ

    กองทัพของเซี่ยงหยี่ Xiang Yu รุกคืบหน้าจนถึงจี้หยวนและพบกับกองทัพฉินที่มีกำลังพลกว่าสามแสนนายที่บัญชาการโดยจางหาน แม่ทัพใหญ่ราชวงศ์ฉิน หลังจากการรบอันดุเดือดผ่านไป ในที่สุดจางหานก็ยอมจำนนพร้อมไพร่พลที่เหลืออีกเกือบสองแสนนาย เซี่ยงหยี่ยอมรับจางหานพร้อมกับรองแม่ทัพฉินอีกสองคนไว้เป็นพวก แต่เขาได้ออกคำสั่งให้ฝังทั้งเป็นทหารฉินสองแสนคนเพื่อเป็นการข่มขวัญข้าศึกที่เหลือ ฝ่ายหลิวปังได้หลีกเลี่ยงการปะทะที่ไม่จำเป็นและเร่งนำทัพคืบหน้า จนเข้าถึงเสียนหยางได้ก่อนกองทัพอื่นๆ กษัตริย์ฉินจื่ออิง ราชนัดดาของฉินซี ได้ยอมจำนนและมอบตราแผ่นดินให้ หลิวปังสั่งทหารห้ามเผาบ้านเรือนทำร้ายราษฎรทำให้ได้รับการสรรเสริญจากผู้คน จากนั้นก็ส่งทหารส่วนหนึ่งไปคอยสกัดทัพเซี่ยงหยี่ที่ด่านหานกู่

    เมื่อเซี่ยงหยี่ Xiang Yu ทราบเรื่องก็โกรธมากจึงนำทัพเข้าตีด่านหานกู่แตกและไปตั้งค่ายที่หงเหมิน จากนั้นได้จัดงานเลี้ยงเชิญหลิวปังมาเพื่อหยั่งท่าที ฟ่านเจิง ที่ปรึกษาและบิดาบุญธรรมของเซี่ยงหยี่เสนอให้ใช้โอกาสนี้กำจัดหลิวปังเสีย แต่เซี่ยงหยี่ทะนงตนเกินไปและมองไม่เห็นว่าหลิวปังจะเป็นภัยแก่ตนจึงปฏิเสธที่จะทำตาม ข้างฝ่ายหลิวปังนั้นรู้ดีว่า ยามนี้กำลังของตนมีน้อยกว่าจึงยอมประณีประนอมกับเซี่ยงหยี่และถอนทัพออกจากเสียนหยาง ครั้นพอทัพเซี่ยงหยี่เข้าเมืองแล้ว เซี่ยงหยี่ได้ชำระแค้นที่ตนมีกับราชวงศ์ฉิน โดยสั่งให้ประหารเชื้อสายราชวงศ์ฉินจนหมดสิ้นและปล่อยให้ทหารปล้นสะดมเข่นฆ่าผู้คนตามอำเภอใจ ทั้งยังส่งทหารหนึ่งแสนคนไปทำลายสุสานฉินซีที่ตีนเขาหลีซานและเผาพระราชวังอาฝางกงอันตระการตาของราชวงศ์ฉิน

    หลังจากทรงทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ฉู่ไหวหวางได้ทรงมีพระบัญชาให้เซี่ยงหยี่ทำตามข้อตกลง โดยให้ยกหลิวปังขึ้นเป็นอ๋องฉิน แต่เซี่ยงหยี่ไม่ยินยอม จนเกิดความขัดแย้งกับพระองค์ สุดท้ายจึงลงมือสังหารฉู่ไหวหวางลงเสีย จากนั้นจึงตั้งตนเป็น ซีฉู่ป้าหวาง หรือที่เรียกในพงศาวดารไซฮั่นว่า ฌ้อปาอ๋อง ปกครองแคว้นฉู่และขึ้นเป็นประมุขของเจ้าแคว้นทั้งปวง โดยให้หลิวปังเป็นฮั่นหวางไปปกครองแคว้นสู่ฮั่น (มณฑลเสฉวนในปัจจุบัน) โดยเซี่ยงหยี่ได้แต่งตั้งให้จางหานและรองแม่ทัพอีกสองคนเป็นเจ้าแคว้นปกครองดินแดนเดิมของราชวงศ์ฉินเพื่อให้ทั้งสามคอยควบคุมหลิวปังไว้

    ทว่าการที่ฌ้อปาอ๋องได้กระทำการฮึกเหิมสังหารนายเก่า ทำให้เจ้าแคว้นหลายแคว้นไม่พอใจ จึงมีบางแคว้นได้ก่อการกระด้างกระเดื่อง เซี่ยงหยี่จึงต้องยกทัพไปปราบปรามแคว้นเหล่านั้น ระหว่างนั้นเอง หลิวปังที่อยู่เสฉวนได้ซ่องสุมกำลังจนเข้มแข็งและถือโอกาสตอนฌ้อปาอ๋องไปปราบกบฎที่แคว้นฉี ยกกองทัพเข้ายึดดินแดนเดิมของราชวงศ์ฉินจากจางหานและพวก จากนั้นก็รวบรวมกองทัพของเจ้าแคว้นต่างๆ เคลื่อนพลบุกเข้าตีเผิงเฉิงเมืองหลวงของแคว้นฉู่แตก ทหารองครักษ์ได้คุ้มครองหยูจีและครอบครัวของเซี่ยงหยี่หนีออกไปได้ก่อนทัพหลิวปังเข้าเมือง ครั้นเมื่อเซี่ยงหยี่ทราบข่าวก็ทั้งตกใจและทั้งโกรธจึงเร่งนำทัพกลับมาโจมตีกองทัพหลิวปังจนแตกพ่ายยับเยิน สังหารไพร่พลหลายแสนคนแทบหมดกองทัพ หลิวปังเองต้องปลอมตัวเพื่อหนีกลับไปเสฉวน

    จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฌ้อปาอ๋องนำนางหยูจีผู้เป็นชายาติดตามไปด้วยทุกแห่ง และจากนั้นสงครามใหญ่ระหว่างฉู่และฮั่นก็เริ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายผลัดแพ้ผลัดชนะหลายครั้ง ทว่าเนื่องจากการที่เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ฌ้อปาอ๋องจึงมักไม่ฟังความเห็นของผู้อื่น ต่อมา เกิดขัดแย้งรุนแรงกับฟ่านเจิง ทำให้อีกฝ่ายโกรธจัดจนล้มป่วยและเสียชีวิตลง การตายของฟ่านเจิงซึ่งเป็นทั้งที่ปรึกษาใหญ่และบิดาบุญธรรมของเซี่ยงหยี่ ได้ทำให้เหล่าขุนพลและที่ปรึกษาจำนวนมากเริ่มแปรพักตร์หันไปเข้ากับฝ่ายของหลิวปัง ฌ้อปาอ๋องเซี่ยงหยี่ กับฮั่นอ๋องหลิวปังทำศึกกันหลายปี แม้จะชิงแผ่นดินได้มากกว่าแต่เซี่ยงหยี่ก็ไม่อาจเอาชนะหลิวปังได้ จนท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายจึงตกลงทำสัญญาสงบศึกและแบ่งแผ่นดินกันโดยใช้คลองหงโกวเป็นเส้นแบ่ง ดินแดนทางตะวันตกเป็นของฮั่น ทางตะวันออกเป็นของฉู่

    หลังจากทำสัญญาสงบศึกแล้ว ทัพฉู่ก็ถอนกำลังกลับ แต่เซียวเหอและจางเหลียงที่ปรึกษาของหลิวปังได้เสนอให้หลิวปังใช้โอกาสที่ทัพฉู่กำลังถอยทัพระดมกำลังไล่ตามตี หลิวปังเห็นด้วย จึงส่งสาส์นไปแจ้งให้หานซิ่นซึ่งยามนั้นยังคุมเชิงอยู่ทางเหนือส่งกองทัพลงมาช่วย จากนั้นฝ่ายฮั่นได้ระดมกำลังเกือบห้าแสนเข้าตีตลบหลังทัพฉู่ซึ่งมีกำลังเพียงหนึ่งแสน จนท้ายที่สุด กองทัพของฌ้อปาอ๋องก็ถูกปิดล้อมในหุบเขาที่ไกเซี่ย (อยู่ในมณฑลอันฮุย) ในยามนั้น จางเหลียง เสนาธิการของฝ่ายทัพฮั่นได้ออกอุบายให้ทหารขับร้องเพลงพื้นบ้านของแคว้นเมืองฉู่เพื่อทำลายขวัญทหารของข้าศึกและเมื่อเหล่าทหารฉู่ได้ยินเพลงพื้นบ้านของตน ก็เกิดความหดหู่และสิ้นหวังจึงพากันหนีทัพไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งคืน..

    ก่อนรุ่งเช้า เมื่อฌ้อปาอ๋องตื่นขึ้นมา ก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าไพร่พลได้หนีทัพจนเหลือทหารอยู่เพียงพันกว่าคนเท่านั้น เขาคิดจะตีฝ่าแต่ก็เป็นห่วงหญิงคนรัก ดังนั้นเพื่อไม่ให้สามีเป็นกังวล นางหยูจีจึงฆ่าตัวตายก่อนเช้าวันนั้นเอง ฌ้อปาอ๋องเศร้าเสียใจมากและตัดสินใจนำทัพสู้ตายกับกองทัพฮั่น ท้ายสุด ฌ้อปาอ๋องถอยมาจนถึงฝั่งแม่น้ำอู่เจียง พร้อมม้าคู่ใจและทหารไม่ถึงยี่สิบคน เบื้องหน้าเป็นแม่น้ำกว้าง เบื้องหลังเล่ากองทัพฮั่นนับแสนกำลังไล่ตามมา ฌ้อปาอ๋องยืนอยู่กับเหล่าทหารคู่ใจ ทุกคนเลือดโทรมกายเสื้อเกราะฉีกขาด ก่อนที่ทัพฮั่นจะมาถึง พลันปรากฏเรือแจวหนึ่งลำอาสาพาปาอ๋องข้ามฟาก

    “ท่านอ๋อง แม้วันนี้ฝ่ายเราจะพ่ายแพ้แต่แผ่นดินก็ยังอยู่ ขอท่านกลับถึงแคว้นฉู่ วันหน้าก็ยังมีความหวังที่จะกลับมาชิงแผ่นดินคืน”

    เหล่าทหารอ้อนวอนผู้เป็นจอมทัพ แต่ฌ้อปาอ๋องเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูงความพ่ายแพ้ครั้งนี้ใหญ่หลวงทำลายความภาคภูมิใจของเขาจนหมดสิ้นอีกทั้งยามนี้ หญิงอันเป็นที่รักก็ได้ตายไปแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็หมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อไป 200 ปีก่อนคริสตกาล ฌ้อปาอ๋องเซี่ยงหยี่ได้ฆ่าตัวตายในวงล้อมของกองทัพฮั่นที่ริมแม่น้ำอู่เจียง ด้วยวัยเพียง 33 ปี หลังจากนั้นหลิวปังได้ขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์

    ที่มา :http://www.komkid.com/ประวัติศาสตร์สังคม/ฌ้อปาอ๋อง-xiang-yu/

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #ตาก โชคร้าย !!! ฟ้าผ่าลงกระท่อม เจ็บยกครัว 5 คน
    #77ข่าวเด็ด #อุบัติเหตุ #ฟ้าผ่า
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    การระบาดที่น่ากลัวของ #แมลงที่รุกราน #ฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา #วิดีโอ


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Maitreesophone

    ปากีสถานออกมายืนกางแขน ขอร้องทั้งสหรัฐ และอิหร่านให้ยับยั้งชั่งใจ พวกเราล้วนมีความเกี่ยวข้องกัน ขอให้ใจเย็นๆ เห็นแก่ความสงบสุขของภูมิภาค


    หลังจากทำเนียบขาว สหรัฐ ออกคำสั่งแรกให้เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Abraham Lincoln และหมู่เรือ Lincoln Strike Group เดินทางไปยังอ่าวเปอร์เซีย ตามด้วยเครื่องทิ้งระเบิด B-52 Stratofortress อีก 4 ลำ เดินทางไปยัง Al Udeid Air Base ในกาตาร์ ตามที่ได้รายงานเพื่อนๆ ไปแล้วนั้น


    ในคำสั่งต่อมา กลาโหมสหรัฐได้สั่งให้ USS Arlington เรือบรรทุกยานหุ้มเกราะสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ชั้น Antanio Class ตามเข้าไปที่อ่าวเปอร์เซีย พร้อมทั้งส่ง MIM-104 Patriot Missile Defence System เข้าไปคุ้มกันศูนย์บัญชาการ CENTCOM ที่ Al Udeid Air Base ในกาตาร์


    ซึ่งจากกำลังที่ส่งเข้าไปแสดงถึงความพร้อมในการโจมตีทางอากาศด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 Stratofortress และยกพลขึ้นบกด้วยยานรบหุ้มเกราะแบบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก นอกเหนือจากเครื่องบินรบที่มีอยู่แล้วทั้งใน กาตาร์-ซาอุดิอาระเบีย-คูเวต-อิรัก รวมทั้งขุนพลอยพยัคฆ์อย่างอิสราเอล


    ด้วยความตึงเครียดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน จึงได้ออกมาห้ามทัพ ขอร้องทั้งสองฝ่ายให้เห็นแก่ความสงบสุขของภูมิภาค


    ซึ่งก็น่าจะห้ามได้ ทางด้านการเมืองภายในสหรัฐ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้แสดงความเด็ดขาดให้ชาวอเมริกันเห็นว่า เมื่อถึงเวลาเด็ดขาด เขาก็เด็ดขาดไม่แพ้ George W.Bush ไม่ได้แหยแบบไม่รู้จะทำอย่างไรแบบที่เวเนซุเอล่า ส่วนอิหร่านเมื่อวานก็ได้วินาศกรรมเรือน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ชำระแค้นสะใจแฟนๆ ไปแล้ว จากนี้ก็มานั่งคุยต่อรองกันทางการเมืองดีกว่าทำสงคราม มีความเป็นไปได้ครับ...


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Maitreesophone

    เป็นข่าวที่ค่อนข้างดี สำหรับคนที่มีจิตใจยุติธรรม......

    สวีเดนยื่นศาลอังกฤษขอให้ส่ง Julian Assange ผู้ก่อตั้ง WikiLeaks ให้สวีเดน เพื่อไต่สวนที่เขาหนีประกันเรื่องคดีข่มขืนในสวีเดน เพื่อดำเนินคดีต่อจากที่ได้สอบสวนค้างไว้ เพราะ Julian Assange หนีประกันจากสวีเดนมาขอลี้ภัยอยู่ในสถานทูต เอกวาดอร์ ประจำกรุงลอนดอนกว่า 7 ปี จากปี 2012

    คือสำหรับผม มองว่าถ้าส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปสวีเดนในคดีทางเพศ มันย่อมดีกว่าถูกส่งไปสหรัฐ เพราะต้องเจอกับคุกลับที่สุดทรมาณแน่นอน เพราะเขาเปิดเผยความระยำตำบอนของรัฐบาลสหรัฐออกมาให้คนทั้งโลกเห็น เป็นแสนๆ เรื่อง เขาตายแน่ถ้าไปสหรัฐ เพราะฉะนั้นถ้าต้องส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปสวีเดนก่อนย่อมมีเวลาเพิ่มขึ้นในการเตรียมการเรื่องราวต่างๆ ได้อีกเป็นปี เพราะโทษการหลบหนีประกันสวีเดนมีโทษคุมขัง 50 สัปดาห์ 350 วันแล้ว

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kike Santillana

    มีรายงานผู้บาดเจ็บ 6 รายหลังจากแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ใน chiriqui panama

    12.06.2019


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kike Santillana

    น่ากลัว

    สังเกตปริมาณตั๊กแตน สายพันธุ์ langostas ที่น่ากลัว ที่ยังคงบุกซาอุดีอาระเบีย

    12.05.2019

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kike Santillana

    น่ากลัว

    มีรายงานรอยแตกในทรายของชายหาดในคอสตาริกา หลังจากแผ่นดินไหวของขนาด 6.1 กับศูนย์กลางในปานามา
    12.05.2019

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kike Santillana

    มีรายงานความเสียหายในปานามา หลังจากแผ่นดินไหวที่รุนแรง ขนาด 6.1 ใกล้ชายแดนกับคอสตาริก้า
    12.05.2019

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kike Santillana

    ภาพแรกหลังเกิดแผ่นดินไหวในปานามาระหว่างชายแดนกับคอสตาริกา

    การสั่นสะเทือนขนาด


    คาดว่าจะเกิดความเสียหายในพื้นที่ของศูนย์กลางของแผ่นดินไหว


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    MEXICO

    เพื่อนบ้านของ Venta del Astillero สังเกตเห็นไฟป่าที่อยู่เหนือการควบคุม เมื่อคืนที่ผ่านมาในป่า La Primaver ใน Zapopan, Jalisco

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    พายุทรายในซาอุดิอาระเบีย ในวันที่ 12 พฤษภาคม


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    สหรัฐอเมริกา

    ฝนที่ตกลงมาในเวลาอันสั้น ฝนตกหลายนิ้วในวันอาทิตย์นี้ในตอนเช้าในนิวออร์ลีนส์, หลุยเซียน่า

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    สหรัฐอเมริกา

    น้ำท่วมในนิวออร์ลีนส์, หลุยเซียน่าประมาณ 7:30 โมงเช้า ม., 12 พฤษภาคม

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    เวเนซุเอลา

    ลูกไฟเคลื่อนผ่านสายเคเบิลจากสายไฟเมื่อเช้าวานนี้ในซานฟรานซิสโก, เอโดะซูเลีย, มาราไกโบ, เวเนซุเอลา

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    พม่า
    เมื่อเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินโดยไม่มีล้อหน้าผู้โดยสารจะออกจากเครื่องบินในไม่ช้าหลังจากวันที่ 12 พฤษภาคม

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,999
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24


    อิตาลี

    พายุลูกเห็บใน pisticci mt, basilicata, อิตาลีใต้, วันที่ 12 พฤษภาคม


     

แชร์หน้านี้

Loading...