Clima Extremo 24
ญี่ปุ่น
คำสั่งให้อพยพประชาชนมากกว่า 800,000 คนใน 3 เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เนื่องจากฝนตกหนัก น้ำท่วม และอันตรายจากแผ่นดินถล่ม โดยเฉพาะเกาะคิวชู ฝนตก ฝนหนึ่งเมตร, มีอีกมากมายที่จะมา
ติดตามสถานะการณ์
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.
หน้า 2864 ของ 11171
-
-
Clima Extremo 24
อิตาลี
ภาพภูเขาไฟ Stromboli ที่เริ่มต้นด้วยการระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้นักปีนเขาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม
การระเบิดที่รุนแรงที่สุดสองครั้งที่เคยบันทึกไว้ตั้งแต่ระบบเฝ้าระวังภูเขาไฟทำงาน นักปีนเขาคนหนึ่งคน เสียชีวิตแล้ว และอีกคนบาดเจ็บ ภาพที่น่าทึ่งได้รับการยืนยันโดยนายกเทศมนตรีของ Lipari
-
Clima Extremo 24
อิตาลี
ภูเขาไฟ Stromboli อยู่ในการปะทุครั้งยิ่งใหญ่หลังจากเกิดการระเบิดหลายครั้ง ในวันนี้ 3 กรกฎาคม
อิตาลี เกิดภูเขาไฟปะทุขึ้นอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ที่ภูเขาไฟสตรอมโบลี ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการแพร่กระจายของเสาลาวาขนาดเล็ก ที่แสดงให้เห็นถึงกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ชั่วโมงต่อมาเกิดการปะทุอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 400 คน และเหนือสิ่งอื่นใดนักท่องเที่ยวนับสิบที่อยู่บนเกาะทางตอนเหนือของเกาะซิซิลี
-
Clima Extremo 24
อิตาลี
มีรายงานการรปะทุครั้งใหญ่จากภูเขาไฟ Stromboli วันนี้ 3 กรกฎาคม
-
Clima Extremo 24
จีน
ภาพที่น่าตกใจของพายุทอร์นาโดทำลายเส้นทางในมณฑลเหลียวหนิงมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คนกว่า 190 คนได้รับบาดเจ็บ หลังจากพายุทอร์นาโดผ่านเมืองในไคยลาละ บ่ายวันที่ 3 กรกฎาคม
-
Clima Extremo 24
จีน
พายุทอร์นาโดที่น่ากลัวมากกว่าปกติ ซึ่งเกิดขึ้นในเมือง Kaiyuan ในมณฑลเหลียวหนิง ของจีนรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนและบาดเจ็บ 190 คน ในวันพุธที่ 3 กรกฎาคมนี้
-
Clima Extremo 24
ยุโรป
มีผู้เสียชีวิต ประมาณ 150 คนในโปแลนด์และลิทัวเนียด้วยคลื่นความร้อน
ประมาณ 150 คนจมน้ำตายในช่วงเดือนมิถุนายนในแม่น้ำ ทะเลสาบ และทะเลในเดือนมิถุนายนในโปแลนด์และลิทัวเนีย ที่อุณหภูมิทำลายสถิติของความร้อน เจ้าหน้าที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ในประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองนี้
ในโปแลนด์ ตามศูนย์รักษาความปลอดภัย (RCB), 113 คนจมน้ำตาย ในเดือนมิถุนายน รวมทั้ง 10 ราย ในวันอาทิตย์ในประเทศนี้ ซึ่งมีประชากร 38 ล้านคน
เผชิญคลื่นความร้อนที่ต่อเนื่อง เราไม่ได้มีวันเดียวในเดือนมิถุนายน โดยไม่มีคนจมน้ำ "Bozena Wysocka โฆษก RCB กล่าวในวันจันทร์กล่าวเสริมว่า 90% ของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นผู้ชาย
การบริโภคแอลกอฮอล์และความประมาทเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุเหล่านี้
ในลิทัวเนียมี 32 คน เป็นชาย 26 คนที่จมน้ำตายในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นยอดสูงสุดของห้าปีที่ผ่านมาสำหรับเดือนนั้น ...
โปแลนด์มีปีนี้อุณหภูมิสูงสุดที่บันทึกไว้เป็นเวลาเดือนมิถุนายนกับ 38,2º c
ในลิทัวเนียอุณหภูมิมาในเดือนมิถุนายนถึง 35,7º c ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดโรงเรียนและคุกคามพืชผล
ที่มา: LaJornada
-
Clima Extremo 24
โรมาเนีย
ช่วงเวลาที่ลมแรงและฝนตก ได้ยกหลังคาตึกใน bacău, วันที่ 3 กรกฎาคม
-
Clima Extremo 24
โรมาเนีย
พายุรุนแรงใน bacău วันที่ 3 กรกฏาคม
-
Clima Extremo 24
อิตาลี
การปะทุของภูเขาไฟ Etna จากปล่องภูเขาไฟ ในวันที่ 3 กรกฎาคม
-
Clima Extremo 24
อิตาลี
พายุลูกเห็บใน vigo di fassa วันที่ 3 กรกฎาคม
-
ทางจักรยานวิกฤต ถล่มเพิ่มอีก 50 เมตร เจอจุดเสี่ยงเพิ่มอีกหนึ่ง ผวจ.ฯ เรียกประชุมด่วน โยธาเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุและความเสียหาย
04 ก.ค. 2562ทวี อภิสกุลชาติ
นครพนม – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางดึกของวันที่ 1 กรกฎาคม 62 เป็นเหตุให้ดินริมตลิ่งแม่น้ำโขงทรุดตัว ส่งผลให้ลานจุดพักทางจักรยาน ซึ่งเป็นจุดชมวิวบริเวณริมแม่น้ำโขง เยื้องหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมหลังเก่า ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ที่สร้างอ้อมด้านหลังบ้านเรือนของประชาชน ไปโผล่ถนนสุนทรวิจิตรอีกครั้ง บริเวณหน้าโบสถ์นักบุญอันนา(โบสถ์คริสต์) หนองแสง ระยะทางประมาณ 500 เมตร พังถล่มลงมาราว 20 เมตร และดินตะกอนยังคงสไลด์ลงอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเย็นของวันที่ 3 กรกฎาคม 62 ขณะที่ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ส่งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ นำโดยนายสุมล เกรียงแก้ว วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง กรุงทพมหานคร นำผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุและความเสียหาย พร้อมหาแนวทางป้องกันและแก้ไขให้สถานที่กลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งเรื่องดังกล่าว นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มีความห่วงใยปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะอาจจะกระทบภาพลักษณ์ต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากจังหวัดนครพนมมีความโดดเด่นเรื่องการสนับสนุนให้ประชาชนออกกำลังกาย ประกอบกับตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก จึงมีกิจกรรมการปั่นจักรยานทั้งระดับจังหวัดถึงระดับโลก ดังนั้น ผวจ.นครพนม จึงกล่าวกับตัวแทนกรมโยธาธิการ เพื่อขอความมั่นใจให้แก่ประชาชน ว่าเส้นทางจักรยานดังกล่าวมีความปลอดภัย
ซึ่งในวันเดียวกันคณะผู้เชี่ยวชาญได้พบจุดเสี่ยง ว่าทางจักรยานอาจจะพังถล่มเพิ่ม โดยสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า คือราวสะพานที่ต่อจากจุดชมวิวพังทลายลงมา มีการยุบตัวจนราวเหล็กแอ่นตัว หากยังมีฝนตกต่อเนื่องมีสิทธิ์ถล่มลงมาเหมือนจุดชมวิว
กระทั่งเวลา 21.00 น. บริเวณที่เกรงว่าจะถล่มก็เกิดการทรุดตัวของตอม่อ และพังครืนลงมา เป็นระยะทางประมาณ 50 เมตร ทำให้ทางจักรยานหลักขาดออกจากกัน นอกจากนี้ยังมีจุดวิกฤติบริเวณแพเรือสถานีตำรวจน้ำ เพราะมีดินสไลด์ลงต่อเนื่อง จนเห็นเสาเข็มโผล่ขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ขับรถประจำตำแหน่งด้วยตนเอง เพื่อมาตรวจจุดที่พังถล่มลงมา และเรียกโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนม เข้าประชุมด่วนที่ศาลากลางจังหวัดฯ เพื่อเร่งหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด
ด้าน นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) กล่าวว่า ทางกรมฯ ได้ว่าจ้าง ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ประยงค์นครพนม ก่อสร้างโครงการพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนหอนาฬิกาอินโดจีน Classic City บริเวณริมแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งประกอบด้วยทางจักรยานพร้อมทางเดินเท้า ความยาวทั้งหมด 482 เมตร เริ่มก่อสร้างวันที่ 24 พฤษภาคม2561 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 และเมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 เกิดเหตุลานจุดพักทางจักรยาน ซึ่งเป็นจุดชมวิวบริเวณริมแม่น้ำโขง ทรุดตัวพังถล่มลงมา โดยมีพื้นที่ความเสียหาย 252 ตารางเมตร ความยาวประมาณ 40 เมตร ซึ่งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ซึ่งทางกรมฯ ได้ส่งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุข้อเท็จจริงและความเสียหาย สาเหตุเบื้องต้นพบว่า ดินริมตลิ่งที่อุ้มน้ำเนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ได้เกิดการอ่อนตัวและทรุดลงฉุดรั้งโครงสร้างลานพักจักรยานซึ่งอยู่ด้านหน้าทางจักรยานไปทางแม่น้ำยุบตัวลง โดยเกิดความเสียหายจำนวน 2 จุดรวมความยาว 40 เมตร ซึ่งในเบื้องต้นกรมฯ ได้ให้ผู้รับจ้างเสริมความมั่งคงแข็งแรงของดินริมตลิ่งเดิม ที่เกิดการทรุดตัวรวมถึงจุดอื่นๆ ตลอดความยาวโครงการ 482 เมตร โดยการตอกเข็ม และกรมฯ จะได้ดำเนินการหาแนวทางแก้ไขให้มีความมั่งคงแข็งแรงในระยะยาวต่อไป
https://www.77kaoded.com/content/62...AtCISed_yEC7g9ZdzCI2f8ZFBvLVga3P7dTtbUASz02QE -
แผ่นดินไหว ขนาด 6.1
ภูมิภาค หมู่เกาะ QUEEN CHARLOTTE
วันที่เวลา 2019-07-04 เวลา 11: 30: 45.4 น. ตามเวลาประเทศไทย
ตำแหน่ง 51.38 N; 130.33 W
ความลึก 15 กม
Magnitude Mw 6.1
Region QUEEN CHARLOTTE ISLANDS REGION
Date time 2019-07-04 04:30:45.4 UTC
Location 51.38 N ; 130.33 W
Depth 15 km
Distances 565 km NW of Vancouver, Canada / pop: 1,838,000 / local time: 21:30:45.4 2019-07-03
450 km S of Ketchikan, United States / pop: 8,100 / local time: 20:30:45.4 2019-07-03
318 km S of Kitimat, Canada / pop: 9,000 / local time: 21:30:45.4 2019-07-03
https://www.emsc-csem.org/Earthquake/earthquake.php?id=774911 -
THE STANDARD
UPDATE: ญี่ปุ่นสั่งอพยพกว่า 1 ล้านคน บนเกาะคิวชู หลังฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ เสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม
ทางการญี่ปุ่นสั่งอพยพประชาชน 1.09 ล้านคนใน 2 จังหวัดของเกาะคิวชูเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) หลังมีแนวโน้มว่าจะเกิดฝนตกหนักในวันเดียว คิดเป็นปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเกือบ 1 เดือนในวันนี้ โดยจังหวัดที่เผชิญอิทธิพลมรสุมหนักสุดคือ จังหวัดคาโกชิมะ ซึ่งมีการสั่งอพยพประชาชนทั้งหมดใน 3 เมือง เนื่องจากมีความวิตกว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในบางพื้นที่
.
รายงานระบุว่า เมืองซัตสึมะเซนได จังหวัดคาโกชิมะ มีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 755.5 มิลลิเมตร เมื่อวานนี้ ขณะที่เมืองคาโกชิมะในจังหวัดเดียวกันมีปริมาณน้ำฝนสูงเป็นประวัติการณ์ โดยวัดได้ถึง 460 มิลลิเมตรใน 24 ชั่วโมง ส่วนเมืองคาโนยะวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 81 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เตือนว่า หลายพื้นที่ในจังหวัดดังกล่าว ซึ่งมีประชากรจำนวน 1.6 ล้านคน อาจเสี่ยงเผชิญกับอุทกภัยและดินถล่ม
.
ส่วนในวันนี้ เกาะคิวชูซึ่งมีประชากรอาศัย 13.3 ล้านคน มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสูงกว่า 300 มิลลิเมตรในหลายพื้นที่ ซึ่งเกือบเท่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดทั้งเดือนกรกฎาคมที่ 319 มิลลิเมตร
.
มิตาโซโนะ ซาโตชิ ผู้ว่าการจังหวัดคาโกชิมะ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางจังหวัดได้ตัดสินใจขอให้กองกำลังป้องกันตนเองส่งทหารมาช่วยผู้ประสบภัย เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภัยพิบัติขั้นรุนแรง
.
โดยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีอาเบะ ชินโซ ได้ทวีตข้อความแจ้งว่า กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่ 14,000 คน ไปให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว
.
ทั้งนี้ ทางการระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย จากเหตุดินถล่มในเมืองคาโกชิมะเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่เสี่ยง แต่จนถึงขณะนี้มีการประมาณการว่า มีประชาชนเพียง 1,700 คน จากกว่า 1 ล้านคน ที่อพยพไปยังที่ปลอดภัยตามคำแนะนำของทางการ
.
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 200 ราย จากภัยพิบัติน้ำท่วมและดินถล่ม ซึ่งนับเป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในปี 2011
.
อ้างอิง:
- https://www.japantimes.co.jp/news/2...cfNXrrvxKa9z-H4wW1ZJSbMF1Wtp20Wc#.XR1SMpMzYUs
- https://edition.cnn.com/2019/07/03/...2RPe81dHfKTPuBBtkbgO6mp5oUQyZuTVoPF-7qpMvZOGw
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#News #TheStandardCo
ญี่ปุ่น:
ไทย: https://www.tmd.go.th/list_warning.php
-
THE STANDARD
UPDATE: ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดรอบ 21 เดือน หวั่นสงครามการค้า การเมืองไทยไม่นิ่ง เตรียมรัดเข็มขัดรับความไม่แน่นอน
.
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมิถุนายน ปี 2562 พบว่า ทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือนนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2560 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในอนาคต นอกจากนี้ยังกังวลเรื่องเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า กำลังซื้อในประเทศที่ยังไม่สดใสนัก รวมทั้งปัจจัยภายนอกประเทศจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน
.
ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 63.4 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมอยู่ที่ 72.2 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 93.5 ทั้งสามรายการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้พบว่า ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติที่ระดับ 100 สะท้อนว่า ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตมากนัก จึงน่าจะรัดเข็มขัดมากขึ้นอีกในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
.
จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ 76.4 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก นอกจากนี้ยังกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า สถานการณ์ทางการเมืองของไทย ตลอดจนสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบันและในอนาคต ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ กระทบกับภาคการบริโภคอย่างชัดเจน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวลงเช่นเดียวกัน มาอยู่ที่ระดับ 87.4 สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นในอนาคต หากไม่มีปัจจัยลบเพิ่มเติมมากไปกว่าปัจจุบัน
.
อ้างอิง: ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#News #TheStandardCo
-
THE STANDARD
UPDATE: อย.-ป.ป.ส. พอใจ โครงการปลูกกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม ทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐาน
.
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำโดย ภญ.กรพินธุ์ ณ ระนอง รองผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นำโดย เพิ่มพงษ์ เชาวลิต ที่ปรึกษาสำนักงาน ป.ป.ส. ได้เดินทางตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามโครงการเพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม โดยมี ดร.ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชม
.
ดร.ภญ.นันทกาญจน์ กล่าวว่า วันนี้คณะเจ้าหน้าที่จาก อย. และ ป.ป.ส. ได้เดินทางเข้ามาตรวจเยี่ยมเรื่องการจัดระบบการเพาะปลูกและระบบความปลอดภัยในโครงการเพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม ระยะที่ 1 ตามที่องค์การฯ ได้ขออนุญาตไว้ ซึ่งการมาของทั้ง 2 หน่วยงาน เป็นการติดตามความก้าวหน้าของโครงการ รวมทั้งมีการตรวจสอบสถานที่ว่าองค์การฯ ได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
.
สำหรับมาตรการการกำกับดูแลการเพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์นั้น องค์การฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล โดยมีหน้าที่ตรวจรับและเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์และผลผลิตกัญชาทางการแพทย์ ตามแนวทางของหลักเกณฑ์มาตรฐานการปฏิบัติความปลอดภัยที่ดี GSP (Good Security Practice) ตลอดทั้งกระบวนการอย่างเคร่งครัด อาทิ การจัดทำบัญชีรายละเอียดแสดงสถานะการเพาะปลูกและผลผลิตกัญชาทางการแพทย์ การเก็บรักษากุญแจสถานที่เก็บเมล็ดพันธุ์และผลผลิตกัญชาทางการแพทย์ การจัดทำรายงานประจำเดือนและประจำปีส่งให้ อย. การเก็บรักษา การจำหน่าย และการทำลาย หรือเพื่อการอื่นใดในโครงการ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมหรือผู้แทนก่อน แล้วแต่กรณี ด้านความปลอดภัย ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรับผิดชอบตรวจตราพื้นที่รอบอาคารตลอด 24 ชั่วโมง และดูแลการเข้า-ออกของเจ้าหน้าที่บริหาร เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และบุคคลภายนอก บุคคภายนอกที่ต้องการเข้าพื้นที่เพาะปลูกกัญชาต้องแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อน กรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องปฏิบัติตามแผนกรณีฉุกเฉินอย่างเคร่งครัด
.
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนากล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการตามโครงการนั้น ขณะนี้องค์การฯ ได้มีการเก็บเกี่ยวดอกกัญชาที่มีการเติบโตและมีสารสำคัญสมบูรณ์เต็มที่ไปแล้ว 2 รอบ และมีแผนจะเก็บเกี่ยวอีกในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ และได้นำกัญชาที่เก็บมาแล้วไปผึ่งให้แห้ง และดำเนินการตามมาตรฐานขององค์การฯ เพื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้น คาดว่าปลายเดือนกรกฎาคมนี้จะได้ผลผลิตประมาณ 2,500 ขวด กระจายสู่ระบบของโรงพยาบาลผ่านกรมการแพทย์ เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยในโครงการวิจัยต่างๆ รวมถึงใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้สารสกัดกัญชาต่อไป และจากนี้ก็จะดำเนินการโครงการในระยะที่ 2 เป็นการดำเนินการในระดับกึ่งอุตสาหกรรม โดยจะขยายพื้นที่ปลูกเป็นแบบ Indoor และแบบ Greenhouse พร้อมดำเนินการปรับปรุงสายพันธุ์ทั้งพันธุ์ไทยและพันธุ์ลูกผสมให้ได้สารสำคัญที่เหมาะสม และสามารถปลูกในสภาพอากาศของไทยได้ ซึ่งจะสามารถเพิ่มผลผลิตเป็น 150,000-200,000 ขวด ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการปลูกได้ในต้นปี 2563
.
ภญ.กรพินธุ์ กล่าวว่า จากการเข้ามาตรวจเยี่ยมในวันนี้ก็เพื่อที่จะเข้ามาตรวจสอบสถานที่ที่ขอรับใบอนุญาตผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามที่องค์การฯ ได้มีการขออนุญาตไว้หรือไม่ ซึ่งพบว่า องค์การฯ มีความพร้อมและดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนดไว้ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เช่น มีระบบกล้องวงจรปิด ตรวจสอบการเข้า-ออก 24 ชั่วโมง มีการจำกัดบุคลคลเข้าสถานที่ มีระบบการสแกนนิ้วมือด้วยเครื่อง Finger Scan โดยตั้งรหัสผ่านให้เฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้อง และมีการติดป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกก่อนได้รับอนุญาต มีการตรวจสอบบุคคลเข้า-ออก เพื่อป้องกันการลักลอบนำกัญชาออกนอกระบบ รวมถึงได้มีการจัดทำระบบออนไลน์กล้องวงจรปิดพร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ตลอดเวลา และในกระบวนการปลูกดังกล่าว องค์การฯ มีระบบการควบคุมที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งองค์การฯ เป็นต้นแบบของการดำเนินการและปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
.
ด้านเพิ่มพงษ์กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมีภารกิจควบคุมไม่ให้มีการนำกัญชาไปใช้ในทางที่ผิด และจากการมาตรวจเยี่ยมพื้นที่การปลูกกัญชาทางการแพทย์ขององค์การฯ ในวันนี้พบว่า องค์การฯ ได้มีมาตรการควบคุมความปลอดภัยเป็นอย่างดี มีการพัฒนา และมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก โดยนำแนวทางการปลูกมาจากการศึกษาที่ต่างประเทศ รวมถึงยึดหลักวิชาการที่เป็นไปตามมาตรฐานกำหนดมาใช้กับโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามที่ ป.ป.ส. ได้กำหนดไว้ และองค์การฯ เป็นต้นแบบที่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ อีกทั้งองค์การฯ เป็นส่วนสำคัญในการวางแผน ทั้งเรื่องการปลูก การวิจัย ตามมาตรฐานเมดิคัลเกรด เพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปแนวทางทางเดียวกันและสอดคล้องกัน
.
และในโอกาสต่อไป ทาง ป.ป.ส. จะทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม เพื่อจัดทำทุกอย่างให้เป็นระบบ และร่วมกันสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในการที่จะดำเนินการให้ถูกต้อง ทั้งในเรื่องของการปลูกและการนำไปใช้ต่อไป
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#News #TheStandardCo
-
THE STANDARD
UPDATE: งานวิจัยระบุ ยาฆ่าแมลงสาบอาจใช้ไม่ได้ผล หลังพบแมลงสาบดื้อยา-สร้างภูมิต้านทานอย่างรวดเร็ว
.
ทีมนักวิจัยจาก Purdue University ในรัฐอินเดียนาของสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาเกี่ยวกับการกำจัดแมลงภายในบ้าน โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก United States Housing Department และตีพิมพ์งานวิจัยลงใน Scientific Reports เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า ยาฆ่าแมลงอาจจะใช้กำจัดแมลงสาบไม่ได้อีกต่อไปในอนาคตอันใกล้ หลังแมลงสาบเรียนรู้ที่จะปรับตัวและสร้างภูมิต้านทานดื้อยาอย่างรวดเร็ว
.
โดยทีมนักวิจัยได้ศึกษาแมลงสาบสายพันธ์ุ German Cockroaches (Blattella germanica L.) หนึ่งในแมลงสาบที่สามารถพบได้แพร่หลายที่สุดตามบ้านเรือนทั่วสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรป โดยได้ศึกษาทดลองในที่พักอาศัย 3 แห่งในรัฐอิลลินอยส์และอินเดียนา พร้อมทั้งมีการใช้ยาฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพแตกต่างกัน 3 ระดับ สถานที่หนึ่งฉีดยาฆ่าแมลงชนิดเดิมซ้ำๆ ตลอด 1 เดือน และเวียนชนิดไปเรื่อยๆ จนครบ 6 เดือน อีกแห่งหนึ่งฉีดยาฆ่าแมลง 2 ชนิดผสมกันเป็นประจำทุกเดือนและอีกแห่งหนึ่งใช้สารกำจัดแมลง Abamectin
.
ผลปรากฏว่า จากทั้ง 3 วิธี มีเพียงที่พักที่ใช้สารกำจัดแมลง Abamectin เท่านั้นที่สามารถลดจำนวนประชากรของแมลงสาบลงได้ ในขณะที่อีก 2 แห่ง มีแมลงสาบราว 10% เริ่มสร้างภูมิต้านทานดื้อยาฆ่าแมลงและมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น
.
โดย ไมเคิล ชาร์ฟ หนึ่งในทีมวิจัยระบุว่า แมลงสาบเรียนรู้ที่จะสร้างภูมิต้านทานอย่างรวดเร็ว เราจะสามารถเห็นการปรับตัวนี้ได้ราว 4-6 ครั้ง ใน 1 รุ่น ซึ่งแมลงสาบสายพันธ์ุ German 1 ตัว สามารถเพิ่มจำนวนประชากรได้ราว 50 ตัว ภายในระยะเวลา 3 เดือน และอาจจะขยายลูกหลานเพิ่มขึ้นอีกถึง 4 รุ่น หรือราว 10 ล้านตัว ภายในระยะเวลา 12 เดือน
.
อาจหมายความว่า การสลับสับเปลี่ยนยาฆ่าแมลงเพื่อใช้ในการกำจัดแมลงสาบอาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปในอนาคตอันใกล้ ทีมนักวิจัยแนะนำให้ทุกคนใช้วิธีกำจัดแมลงหลากหลายรูปแบบ รักษาความสะอาดของที่พักอาศัย รวมถึงใช้เครื่องดักแมลง เพื่อช่วยลดจำนวนประชากรแมลงสาบภายในบ้านอีกทางหนึ่ง
.
ภาพ: Dejawu / Shutterstock
.
อ้างอิง:
- https://www.theguardian.com/environment/2019/jul/03/cockroaches-could-soon-be-almost-impossible-to-kill-with-pesticides
- https://www.nature.com/articles/s41598-019-44296-y?_ga=2.267313803.46422805.1562118047-614017950.1562118047
- https://www.purdue.edu/newsroom/releases/2019/Q2/rapid-cross-resistance-bringing-cockroaches-closer-to-invincibility.html
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#News #TheStandardCo
-
หนทางรักษาอยู่ใกล้แค่เอื้อม นักวิทย์สหรัฐฯ พบ ‘จุดอ่อนของมะเร็ง’ แล้ว
4 กรกฎาคม 2019
(แฟ้มภาพ) การวิจัยโรคมะเร็ง โดยนักวิจัยจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯ ด้านภูมิคุ้มกันบำบัดสำหรับโรคมะเร็ง HPV (Photo by SAUL LOEB / AFP)
ทีมวิจัยคณะนักวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ ค้นพบวิถีปฏิกิริยาใหม่ จุดอ่อนจุดใหม่ของมะเร็ง ซึ่งสามารถทำให้เซลล์เนื้องอกได้รับแรงกระตุ้นเกินขีดจำกัดและทำลายตัวเองไปในที่สุด
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 62 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า คณะนักวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ค้นพบจุดอ่อนจุดใหม่ของมะเร็ง ซึ่งสามารถทำให้เซลล์เนื้องอกได้รับแรงกระตุ้นเกินขีดจำกัดและทำลายตัวเองไปในที่สุด
มะเร็ง คือกลุ่มเซลล์ผิดปกติที่ก่อตัวเป็นก้อนและโตขึ้น โดยสามารถเกิดขึ้นที่ส่วนใดก็ได้ในร่างกาย ขณะที่ผู้ป่วยจะหายจากโรคมะเร็งได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการโตและขนาดของเนื้องอก รวมถึงบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากเซลล์มะเร็ง
นักวิทยาศาสตร์พยายามมาเป็นเวลาหลายปีในการมุ่งศึกษายีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เอ็มวายซี (MYC) ซึ่งเป็นยีนที่กระตุ้นการเติบโตของเนื้องอกในมะเร็งหลายประเภท ในระหว่างที่เนื้องอกกลายพันธุ์หรือมีการแสดงออกที่เพิ่มสูงขึ้น (over-expressed)
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงในวารสารเนเจอร์ เซลล์ ไบโอโลจี (Nature Cell Biology) เผยว่า คณะนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ค้นพบวิถีปฏิกิริยาใหม่ (pathway) ซึ่งสามารถทำงานคู่ไปกับยีน MYC และอาจเป็นจุดอ่อนของยีน MYC เอง
วิถีปฏิกิริยาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับโปรตีนที่เรียกว่า เอทีเอฟ4 (ATF4) โดยหากยับยั้งโปรตีนชนิดนี้ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นเนื้องอกได้ก็จะสามารถกำจัดเนื้องอกได้เช่นกัน
“สิ่งที่เราได้เรียนรู้นั่นคือเราต้องศึกษาต่อไปเพื่อจำกัดการเติบโตของเนื้องอกให้เป็นไปในทางที่เซลล์มะเร็งไม่อาจจะหลีกหนีได้ง่ายๆ และการศึกษาของเราก็มีเพียงเป้าหมายนี้เท่านั้น” ศาสตราจารย์คอนสแตนติโนส คูเมนิส (Constantinos Koumenis) ผู้เขียนวิจัยร่วมอาวุโส กล่าว
คณะนักวิจัย พบว่า เมื่อพวกเขากำจัด ATF4 ในเซลล์หรือในหนูทดลอง เซลล์เนื้องอกจะเริ่มสร้าง ATF4 เพิ่ม และสลายไปเองในที่สุด เนื่องจากได้รับแรงกระตุ้นเกินขีดจำกัด การทดลองนี้จึงเป็นการยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกในหนูทดลองที่เป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งลำไส้ได้สำเร็จ และเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า การทดลองนี้อาจนำไปสู่วิธีการรักษาที่อาจได้ผลกับมนุษย์ด้วย
“ขณะนี้พวกเรากำลังศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่าวิธีนี้จะไม่ส่งผลผิดพลาดรุนแรงใดๆ” ดร.เฟเวน เทไมร์ (Feven Tameire) ผู้นำงานวิจัย ระบุ
คณะนักวิจัย กล่าวว่า การวิจัยต่างๆ ในอนาคตจะเน้นศึกษาว่าด้วยเหตุใด ATF4 จึงทำงานในลักษณะนั้น ซึ่งอาจช่วยให้เข้าใจว่ายังมีเป้าหมายที่เป็นไปได้อื่นใดหรือไม่ในกระบวนการดังกล่าว
https://workpointnews.com/2019/07/0...XEltRmGdqYfTAnnq0kVZ5m_dezhk4xemCzyPxauhDDI2A -
อิหร่านอ้าง ซาอุฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันอิหร่าน “เรียกค่าไถ่”
โดย กองบรรณาธิการ - 4 กรกฎาคม 2019
เรือบรรทุกน้ำมันอิหร่านที่ชื่อ “Happiness I”
เจ้าหน้าที่อิหร่านเตือนซาอุดิอาระเบียไม่ให้ใช้เรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติอิหร่านเป็น “ตัวประกัน” ซึ่งเตหะรานอธิบายว่าเป็น “การจับกุมที่ผิดกฎหมาย” และเป็น “การแสวงหาค่าไถ่” เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากอิหร่าน
ตามรายงานของ เพรสทีวี สื่ออิหร่าน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ซาอุดิอาระเบียได้ให้หน่วยยามฝั่งของตนเข้าช่วยเหลือเรือบรรทุกน้ำมันอิหร่านที่ชื่อ “Happiness I” ซึ่งมีเรือ 26 คนที่ท่าเรือทะเลแดง เมืองเจดดาห์ หลังจากประสบปัญหา “เครื่องยนต์ขัดข้องและสูญเสียการควบคุม”
สองเดือนต่อมาแม้ว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไข แต่ซาอุฯ ก็ไม่ยอมปล่อยเรือออกไป และในขณะเดียวกันก็สั่งเก็บเงินจากอิหร่าน 200,000 ดอลลาร์ต่อวันสำหรับการดูแลเรือลำนี้ซึ่งจอดอยู่ในท่าเรือเจดดาห์
“รัฐบาลซาอุแสดงพฤติกรรมที่ดีเป็นครั้งแรก ในการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคแก่เรือที่เสียหาย และให้อาหารแก่ลูกเรือ แต่ก็ได้ปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือใดๆ ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้” จาลาล มิร์ซาอี สมาชิกสภานิติบัญญัติอิหร่านกล่าวเมื่อวันพุธ (3 ก.ค.)
ด้าน โมฮัมหมัด จาวาด จามาลี โนบอนเดกานี รองประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงและนโยบายการต่างประเทศของรัฐสภาอิหร่านเชื่อว่า รัฐบาลซาอุดิอาระเบียพยายามใช้เรือบรรทุกน้ำมันเป็น “ตัวประกัน”
“ซาอุดิอาระเบียปฏิเสธที่จะปล่อยให้เรืออิหร่านออกจากประเทศของตน นี่คือรูปแบบของการเรียกค่าไถ่และจับตัวประกัน ผมคิดว่าซาอุดิอาระเบียต้องการใช้สถานการณ์นี้เพื่อแก้แค้นให้กับความเสียหายที่พวกเขาได้รับในเยเมน ” เขาตั้งข้อสังเกต
อย่างไรก็ตามเขากล่าวเสริมว่า นี่เป็น “เกมที่โง่และไร้สาระ ซึ่งในที่สุดจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อริยาดเอง”
ส่วน จาลาล ราฮีมี จาาฮันนาบาดี สมาชิกสภานิติบัญญัติอีกคนของอิหร่าน ทั้งอยู่ในคณะกรรมาธิการด้านกฎหมายของรัฐสภา ได้เรียกร้องให้รัฐบาลอิหร่านฟ้องซาอุดิอาระเบียที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ
ในขณะเดียวกันนายบิจาน นัมดาร์ ซันกาเนะห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของอิหร่านกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธว่า เจ้าหน้าที่ของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอิหร่านกำลังติดตามชะตากรรมของเรือ และปัญหาจะได้รับการแก้ไขในไม่ช้า
“ปัญหานี้มีต้นทุนทางการเงินสำหรับอิหร่าน แต่เรามีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาค” เขากล่าว
เจ้าหน้าที่ชาวอิหร่านกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 30 เมษายน ขณะที่เรืออิหร่านกำลังมุ่งหน้าไปยังคลองสุเอซและเกิดน้ำไหลลงสู่ห้องเครื่องของเรือบรรทุกน้ำมันลำนี้
รายงานระบุว่า ลูกเรือทั้งหมด 26 คน เป็นชาวอิหร่าน 24 คนและบังคลาเทศสองคนมีความปลอดภัยดี และมีการใช้มาตรการป้องกันที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
รายงานไม่ได้ระบุตำแหน่งปัจจุบันของลูกเรือ และไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าน้ำมันรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมันหรือไม่
แต่ บริษัทเรือบรรทุกน้ำมันแห่งชาติอิหร่านซึ่งเป็นของรัฐ กล่าวว่า นำ้มันจากเรือไม่มีการรั่วไหลลงสู่นทะเลแดง ตามรายงานจาก SHANA สำนักข่าวของกระทรวงน้ำมันของอิหร่าน
กลุ่มตรวจสอบ TankerTrackers ประมาณการว่า เรือลำนี้บรรทุกน้ำมันดิบได้ถึง 1.22 ล้านบาร์เรล
https://www.publicpostonline.net/27...wCyTjgFnXh7QwouqjiooKS7bMtFpsoHV-LvCrX56u4nOU -
Epoch Asia
19 มิถุนายน เวลา 04:00 น. ·
การเต้นนกพิราบกับนักแสดงข้างถนน!
เครดิต: ViralHog
หน้า 2864 ของ 11171