ติดตามสถานะการณ์

สำนักข่าวอาเซี่ยน

ผู้นำญี่ปุ่นให้คำมั่นเรื่องมาตรการป้องกันไวรัสก่อนแข่งโตเกียวโอลิมปิก
.
โตเกียว 4 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นกล่าววันนี้ให้คำมั่นสัญญาว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านไปแล้วมากกว่า 360 คน จะไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อการแข่งขันโตเกียว โอลิมปิกและพาราลิมปิก ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้
.
นายอาเบะ กล่าวว่า เขาจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่นานาชาติ ซึ่งรวมถึงองค์การอนามัยโลก เพื่อให้มั่นใจว่า การเตรียมการสำหรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกจะดำเนินไปอย่างราบรื่น
.
นายอาเบะ กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันนี้ว่า การประสานความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะทำให้ญี่ปุ่นสามารถดำเนินการได้อย่างเหมาะสม เพี่อให้การเตรียมการต่างๆ ในการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาสำคัญครั้งนี้สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
.
รัฐมนตรีโอลิมปิกของญี่ปุ่น กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ด้านกีฬาของญี่ปุ่นและเจ้าหน้าที่โอลิมปิก จะประชุมร่วมกันในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสและความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการป้องกันการระบาด
.
ในขณะที่ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ก็ให้คำมั่นว่า จะใช้มาตรการเข้มงวดในการรับมือกับการระบาดในครั้งนี้.

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในจีนออกจากโรงพยาบาลแล้ว 475 ราย
.
สำนักข่าวซินหัว 4 ก.พ.- สื่อทางการจีนรายงานวานนี้ (3 ก.พ.) หน่วยงานด้านสุขภาพจีนประกาศสถิติจนถึงสิ้นวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่หายจากอาการป่วยและออกจากโรงพยาบาลแล้วทั้งหมด 475 ราย
.
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ระบุในรายงานประจำวันว่าในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 ก.พ.) มีผู้ที่หายจากอาการป่วยและได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลรวม 147 ราย (ในมณฑลหูเป่ย 80 ราย)
.
สถิติ ณ สิ้นวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ระบุว่ามีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาในภูมิภาคระดับมณฑล 31 แห่งแล้วทั้งหมด 17,205 ราย เสียชีวิตแล้ว 361 ราย.

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

ญี่ปุ่นกักเรือสำราญ 3,700 คน ผลตรวจยันผู้โดยสารเก่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา
.
รอยเตอร์ 4 ก.พ.- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยวานนี้ (3ก.พ.) ว่าจะดำเนินการกักเรือสำราญลำหนึ่งซึ่งมีกำหนดมุ่งหน้าสู่เมืองโยโกฮามา หลังชาวฮ่องกงคนหนึ่งที่เคยขึ้นเรือเมื่อเดือนที่แล้ว มีผลตรวจโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก
.
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่าชายวัย 80 ปีคนหนึ่งบินมายังญี่ปุ่นและขึ้นไปบนเรือ "ไดมอนด์ ปรินเซส" ของบริษัทคาร์นิวัล เจแปน อิงค์ ในโยโกฮามา เมื่อวันที่ 20 มกราคม และลงจากเรือในวันที่ 25 มกราคม
.
เขามีอาการไอหนึ่งวันหลังจากลงเรือ แต่กว่าจะมีอาการไข้ก็ล่วงเลยจนถึงวันที่ 30 มกราคม และหนึ่งวันต่อมาเขาก็ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ในฮ่องกงว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
.
คาร์นิวัล เจแปน อิงค์ระบุว่าได้มีการทบทวนมาตรฐานระเบียบปฏิบัติต่างๆของลูกเรือและผู้โดยสารที่กำลังขึ้นเรือ หลังจากนักท่องเที่ยวรายนี้มีผลตรวจออกมาเป็นบวก
.
โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (3ก.พ.) ว่าเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นจะกักกันเรือสำราญลำนี้ ขณะที่ทางบริษัทบอกว่าเที่ยวกลับของเรือถูกเลื่อนออกไป 24 ชั่วโมง เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจสอบสุขภาพแขกและลูกเรือทุกคนบนเรือ
.
เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสาร 2,666 คนและลูกเรือ 1,045 คน
.
เวลานี้ญี่ปุ่นยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 20 คน ในนั้น 17 คนเคยพักอาศัยอยู่ในอู่ฮั่น เมืองที่เป็นแก่นกลางการแพร่ระบาดของไวรัส.

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

เวียดนามพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 8 คน ให้ นศ.หยุดวันตรุษต่ออีก 1 สัปดาห์
.
เวียดนาม 3 ก.พ.- เวียดนามพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเป็น 8 คน และเวียดนามประกาศให้การระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และสั่งระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่บินระหว่างเวียดนามกับจีน พร้อมให้นักศึกษากว่า 60 มหาวิยาลัยหยุดวันตรุษต่ออีกสัปดาห์
.
กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม แถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 3 คน ทำให้ขณะนี้เวียดนามมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 8 คน ใน 4 จังหวัดของประเทศ
.
ผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นผู้ที่โดยสารเครื่องบินลำเดียวกันมาจากเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของเชื้อมาที่เวียดนาม และเป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบเมื่อวันที่ 30 มกราคม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเวียดนามได้ประกาศให้การระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และสั่งระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่บินระหว่างเวียดนามกับจีน
.
มหาวิทยาลัยกว่า 60 แห่งในประเทศได้ขอให้นักศึกษาพักอยู่ที่บ้านอีกหนึ่งสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 3-9 ก.พ.เพื่อป้องกันตนเอง รวมถึงอาจารย์และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา
.
เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 304 คนในจีน และมีผู้ติดเชื้อเกือบ 15,000 คนทั่วโลก ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน นับตั้งแต่ไวรัสแพร่ระบาดในนครอู่ฮั่นเมื่อเดือน ธ.ค.2562.

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

เกาหลีใต้จะตรวจทุกคนที่แสดงอาการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
.
โซล 3 ก.พ.- เกาหลีใต้เปิดเผยว่าจะเริ่มตรวจทุกคนที่แสดงอาการของการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยไม่จำกัดวงเฉพาะผู้ที่เพิ่งกลับจากจีน เลื่อนการฝึกกำลังสำรองประจำปีเนื่องจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
.
กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า กฎใหม่ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในทันทีที่ชุดตรวจพร้อม โดยแพทย์ที่คลินิก 532 แห่งทั่วประเทศจะทำการตรวจผู้ที่มีอาการว่าอาจติดไวรัสอย่างละเอียด ที่ผ่านมาการตรวจในเกาหลีใต้จะมุ่งเน้นไปที่ผู้ที่มีอาการคล้ายโรคปอดอักเสบที่เคยไปเมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยมาก่อนเท่านั้น
.
โดยอาการทั่วไปของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้แก่ มีไข้ ไอ หายใจถี่และลำบาก รวมถึงปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ส่วนในกรณีที่รุนแรงกว่า อาจทำให้ปอดอักเสบ มีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน และอาจทำให้เสียชีวิตได้
.
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ยังมีแผนจะเริ่มการตรวจคัดกรองทุกคนที่เคยไปประเทศจีนในช่วง 14 วันที่ผ่านมาที่ไม่แสดงอาการป่วยด้วย เนื่องจากผู้ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อแก่ผู้อื่นได้แม้จะยังไม่มีอาการ และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ผู้ที่เคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อจะต้องกักตัวเองเป็นเวลาสองสัปดาห์ โดยหากไม่ปฏิบัติตาม จะมีโทษปรับ
.
ด้านกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ประกาศเลื่อนการฝึกกำลังสำรองประจำปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
.
แต่เดิมเกาหลีใต้มีกำหนดจะเริ่มการฝึกกำลังสำรอง 2.75 ล้านคนทั่วประเทศในวันที่ 2 มีนาคม แต่กระทรวงกลาโหมเห็นควรให้เลื่อนออกไปเป็นหลังวันที่ 17 เมษายน
.
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยังประกาศห้ามครอบครัวของทหารใหม่เข้าร่วมในพิธีเข้ากรมด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่กระจายเข้าสู่ค่ายทหาร ขณะเดียวกันก็ให้กักตัวบุคลากรของกระทรวงที่เพิ่งกลับจากจีน ฮ่องกง และมาเก๊า จนกว่าจะพ้นระยะฟักตัวของเชื้อไวรัส 14 วัน
.
จนถึงเช้าวันจันทร์ เกาหลีใต้ยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากเมืองอู่ฮั่น ทางตอนกลางของจีนแล้ว 15 ราย แต่ยังไม่มีรายงานว่าพบการติดเชื้อในหมู่ทหาร โดยปกติกำลังสำรองของเกาหลีใต้ จะต้องเข้ารับการฝึกปีละครั้ง ครั้งละ 1-3 วัน.

 

แล้วแต่เคราะห์กรรมของสรรพสัตว์


https://www.xinhuathai.com/high/ผู้เชี่ยวชาญจีนเผย-ยาโ_20200203?fbclid=IwAR0FI8lVQEhPDmlvl4-KUJnAxPN-Z2hAlQGk5mFBwDiu7MOTB31AyaabHU4

 

ผู้นำจีนยอมรับการตอบสนองเริ่มต้นไม่เพียงพอ
# # เอเชียจีน # Coronavirus
7 ชั่วโมงที่แล้ว

ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวว่าพวกเขาจำเป็นต้องปรับปรุงระบบการจัดการวิกฤตของประเทศเรียนรู้บทเรียนจากการจัดการกับการแพร่ระบาดของโรค coronavirus ในเบื้องต้น

สำนักข่าวซินหัวของรัฐรายงานว่าประธานาธิบดี Xi Jinping จัดการประชุมคณะกรรมการประจำ Politburo เมื่อวันจันทร์

Xiแสดงความเคารพต่อคนงานทางการแพทย์และคนอื่น ๆ ที่กำลังต่อสู้กับแนวหน้าของการต่อสู้กับไวรัส เขายังแสดงความเห็นใจต่อผู้ป่วยและครอบครัว

นายXi กล่าวว่าคณะกรรมการพรรคและรัฐบาลทุกระดับ ควรพยายาม (ผมแก้น่ะ เพราะผมว่า นาย Xi คงไม่พูดว่าshould spare no effort to prevent the spread of the contagion แน่นอน)ในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อ

หัวหน้าพรรคกล่าวว่าพวกเขาจะสนับสนุนระบบการดูแลสุขภาพในมณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด

สำนักข่าวกล่าวว่าที่ประชุมได้เน้นถึงความจำเป็นในการปรับปรุงระบบการจัดการวิกฤตของประเทศและสนับสนุนความสามารถในการรับมือกับเหตุฉุกเฉินเรียนรู้บทเรียนจากการตอบสนองที่ไม่เพียงพอต่อการระบาดของโรค

ไม่มีการเอ่ยถึงที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เพียงพอในวิธีการเริ่มต้นของรัฐบาล


Chinese leaders admit initial response inadequate

China's Communist Party leaders say they need to improve the country's crisis management system, learning lessons from the government's initial mishandling of the coronavirus outbreak.

State-run Xinhua News Agency reports that President Xi Jinping held a meeting of the Politburo Standing Committee on Monday.

Xi expressed respect for medical workers and others who are fighting on the frontline of the battle against the virus. He also expressed sympathy for patients and their families.

Xi said party committees and governments at all levels should spare no effort to prevent the spread of the contagion.

The party leaders said they will bolster health care systems in Hubei Province, where the situation is most serious.

The news agency says the meeting stressed the need to improve the nation's crisis management system and bolster its ability to tackle emergencies, learning lessons from the inadequate response to the outbreak.

There was no specific mention about what was inadequate in the government's initial approach.

https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/...OikYoq8tOm5Aw_gfzKthjjW70peMwIXMk6nWhJ_5YWBWM

 

ภาษีที่ดินฯ ไทยบิดเบือนจากหลักสากลตรงไหน
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย 4 ก.พ. 2563 |





ตั้งแต่มีข่าวฮือฮาที่ดิน 20 ไร่แถวรัชดาภิเษก ห้วยขวาง มูลค่า 6,000 ล้านบาทไม่ต้องเสียภาษีสักบาท แต่ชาวบ้านต้องเสียภาษีแล้ว ทำให้ชาวบ้านฮือฮากันใหญ่ว่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของไทย ช่วยเหลือคนรวย ในหลักสากล ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเขาทำกันอย่างไร

ผู้เขียนในฐานะที่เคยพารัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี ฯลฯ ในส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปดูงานภาษีทรัพย์สินทั้งในแคนาดา นิวซีแลนด์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและอื่นๆ ได้เห็นกันชัดเจนว่าภาษีทรัพย์สินเขาจัดเก็บกันอย่างไร แต่หลังจากพาไปดูงานแทบทุกปีผ่านมาสิบปี นับสิบๆ หน กลับปรากฏว่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของไทย กลับบิดเบือนผิดรูปไปจากหลักสากลทั่วไป กลายเป็นการเอื้อคนรวย คนซวยคือประชาชน

อย่างกรณีที่ดินเปล่าที่ทิ้งรกร้างไว้แถวถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง ไม่เสียภาษีมาหลายสิบปี พอมีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ก็เริ่มปลูกมะนาว คนร่างกฎหมาย ก็ร่างว่าถ้าทำการเกษตรก็เสียภาษีร้อยละ 0.01%-0.1% แต่ใน 3 ปีแรกไม่ต้องเสีย ตกลงที่ดินราคา 6,000 ล้านบาท ไม่เสียภาษีแม้สักบาทเดียว แต่ชาวบ้านที่มีบ้านหลังที่ 2 ต้องเสียภาษีล้านละ 200 บาท โดยในตอนแรกกำหนดให้บ้านหลังที่ 2 ที่ปล่อยเช่าต้องเสียภาษีในเชิงพาณิชย์ที่ 0.2% หรือล้านละ 2,000 บาท ซึ่งไม่เป็นธรรมเป็นอย่างยิ่งในสังคม พอผู้เขียนและหลายท่านช่วยกัน “โวย” ปลัดกระทรวงการคลังก็เลยออกมาประกาศใหม่ว่าบ้านหลังที่ 2 ที่ปล่อยเช่าก็เก็บในอัตราเดียวกัน

ในเมืองนอกเขาไม่ปล่อยให้มีการร่างกฎหมายเอาใจคนรวยแบบนี้ นี่ถ้าเป็นในยุคประชาธิปไตย มี ส.ส.มาร่าง ก็อาจโยนความผิดไปในเชิงว่า ส.ส.ทำเพื่อตัวเอง แต่นี่กฎหมายนี้เกิดในยุคนี้ เราก็กลับทำเพื่อคนรวย ผู้เขียนได้พบกับผู้ประเมินค่าทรัพย์สินชาวฝรั่งเศส ชาวญี่ปุ่น เขาบอกว่า การเล่นเล่ห์ประเภทแสร้งปลูกต้นไม้เพื่อเลี่ยงภาษีนั้นทำไม่ได้ อย่างในอังกฤษ ชาวบ้านโวยว่าพระราชวังบักกิงแฮมกลับเสียภาษี Council Tax ต่ำกว่าชาวบ้านรอบข้าง

ตามหลักกฎหมายภาษีทรัพย์สินนั้น ผู้ที่มีทรัพย์สินราคาสูง ก็ต้องเสียภาษีสูง ผู้มีทรัพย์สินมูลค่าต่ำกว่าก็เสียภาษีน้อยกว่า การเสียภาษีก็เพื่อนำมาดูแลบำรุงรักษาทรัพย์สินของเรา อันที่จริง เราก็มีการเก็บสิ่งที่คล้ายภาษีนี้เช่นการเก็บค่าส่วนกลาง เพื่อมาบำรุงรักษา ในชุมชนใดมีการดูแลรักษาดี มูลค่าทรัพย์สินก็เพิ่ม ในชุมชนใดดูแลไม่ดี มูลค่าทรัพย์สินก็ตกหรือไม่เพิ่มขึ้น การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจึงเป็นความจำเป็นๆ อย่างยิ่ง

ในสหรัฐอเมริกาจัดเก็บภาษีในอัตราประมาณ 1-3% ของมูลค่าตามราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาด แต่ของไทยจัดเก็บในอัตราที่ต่ำมากๆ เราควรให้การศึกษากับประชาชนให้ชัดเจนว่าภาษีนี้ “ยิ่งให้ ยิ่งได้” อย่าไปกลัวกับการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปีละ 0.5% เป็นอย่างสูง เพราะในแต่ละปี มูลค่าของทรัพย์สินของเราก็เพิ่มขึ้นมาประมาณ 3-5% อยู่แล้ว ยิ่งในหลายๆ ทำเลที่อยู่ในใจกลางเมือง หรือมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน ราคาที่ดินก็อาจเพิ่มสูงถึง 10% ต่อปีเลยทีเดียว การเสียภาษีแค่ 0.5% จึงไม่พึงเสียดาย ทุกวันนี้ผู้ที่มีจักรยานยนต์เก่าๆ สักคัน ก็เสียภาษีและค่าประกันต่างๆ รวมกันเกือบ 500 บาท หรือราว 1% ของมูลค่าจักรยานอยู่แล้ว

เรากลับพยายามหาช่องทางในการเลี่ยงภาษีกันอย่างสุดชีวิต อาชีพนักกฎหมายภาษีทรัพย์สินก็เลย “รวย รวย รวย” กันใหญ่ เพราะเจ้าของทรัพย์แต่ละคนต่างถูกทำให้กลัวกันจนลนลาน พยายามที่จะหาช่องทางเลี่ยงกฎหมายอย่างสุดชีวิต การแสร้งทำการเกษตรเป็นทางออกหนึ่ง การให้ราชการใช้ที่ดินของเราเป็นที่จอดรถ สนามกีฬา สวนพักผ่อนในขณะที่เรายังไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็เป็นการเลี่ยงกฎหมายขั้นเทพอีกทางหนึ่ง

การมีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ดี จะให้มีการใช้ที่ดินที่มีประสิทธิภาพ ไมใช่ปล่อยที่ดินไว้ใจกลางเมืองที่มีรถไฟฟ้า ทางด่วนผ่านเพียงรอวันยกให้ทายาทโดยไม่เสียภาษี แต่ขณะเดียวกันชาวบ้านต้องเสีย ชาวคอนโดนต้องเสียค่าส่วนกลาง อย่างนี้เป็นอาชญากรรมชัดๆ ถ้ามีการเก็บภาษี พวกเจ้าของที่ดินก็จะคายที่ดินออกมาในราคาตลาด เมืองก็จะมีการพัฒนาอย่างหนาแน่น (High Density) แต่ทุกวันนี้ที่ดินเปล่าใจกลางเมืองมีมาก ไม่ยอมขาย การพัฒนาที่ดินก็จำเป็นต้องใช้ที่ดิน จึงต้องพัฒนาออกไปนอกเมืองไปเรื่อยๆ ทำให้ไฟฟ้า ประปา และสาธารณูปโภคอื่นต้องตามออกไปไม่สิ้นสุด ทำให้ผลประโยชน์ของส่วนรวมเสียหาย

ปกติในประเทศไทย ท้องถิ่นจัดเก็บภาษีได้เพียง10% ที่เหลือส่วนกลางอุดหนุนส่งมาให้ พอส่วนกลางส่งมา ชาวบ้านก็ไม่รู้สึกเป็นเจ้าของ ผู้บริหารท้องถิ่นก็อาจเกิดอาการ “วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง” แต่ถ้าภาษีท้องถิ่นเก็บได้มากตามหลักสากล ก็จะทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าเป็นเจ้าของภาษี ทำให้คอย “จ้อง” ไม่ให้ใครโกง ภาษีก็จะได้รับการใช้สอยอย่างมีประสิทธิภาพ อีกอย่างหนึ่ง การที่ภาษีถูกส่งมาจากรัฐบาลส่วนกลาง ก็จะทำให้ส่วนกลางควบคุม สั่ง “ซ้ายหัน-ขวาหัน” ท้องถิ่นก็จะถูกครอบงำ ระบอบประชาธิปไตยก็จะไม่หยั่งรากลึก ในสหรัฐอเมริกาเขาจัดเก็บภาษีได้ถึง 68% ของงบประมาณรายจ่ายของเทศบาล

เล่ห์กลอีกอย่างหนึ่งในประเทศไทยก็คือ การประเมินค่าทรัพย์สิน อย่างราคาที่ดินที่แพงที่สุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแถวสยาม ชิดลม เพลินจิต นานา มีราคาสูงถึง 3 ล้านบาทต่อตารางวา แต่ราคาประเมินราชการก็ยังประเมินแค่ 1 ล้านบาทต่อตารางวา ทำให้มหาเศรษฐีในย่านนั้นเสียภาษีน้อยมาก เพราะราคาประเมินต่ำ แต่ในนานาอารยประเทศ มีระบบการประเมินค่าทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถประเมินค่าให้ใกล้เคียงราคาตลาดและมีการปรับปรุงให้ทันสมัยโดยใช้งบประมาณไม่มาก ซึ่งต่างจากกรณีประเทศไทย

ต่อไปพอไทยเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้น้อย ก็เป็นข้ออ้างในการขอขึ้นภาษี VAT ซึ่งชาวบ้านทุกคนคือผู้บริโภคที่ไปเบิกอะไรกับใครไม่ได้ ก็เดือดร้อนในขณะที่ผู้มีทรัพย์สินมากมายกลับเล็ดรอดไปได้เพราะ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้จัดทำเพื่อเปิดช่องทาง (ไม่ใช่ช่องโหว่เพราะจงใจเปิดให้) ที่ถูกต้องตามกฎหมายให้สามารถ “ดราม่า” ปลูกมะนาวแล้วไม่เสียภาษีได้

เราควรมีองค์กรควบคุมที่มีประสิทธิภาพ ใครอ้างว่าไม่มีปัญญาเสียภาษี ก็ต้องนำมาขายตามราคาตลาดแล้วนำเงินมาเสียภาษีและเก็บเงินที่ได้จาการขายไปใช้สอยทางอื่น รัฐก็จะได้ที่ดินมาขายต่อในภายหลังตามกลไกตลาด เป็นหนทางในการหาเงินเข้ารัฐได้อีกทางหนึ่ง ถือเป็นทางออกที่ win win ต่อทุกฝ่าย

เราควรจับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมนี้มาลงโทษ

อ้างอิง

1. รัฐควรขอโทษประชาชนเรื่องภาษีที่ดิน AREA แถลง ฉบับที่ 660/2562 วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2562 https://bit.ly/2t7jlYb
2. The Queen's £1,375 council tax bill (that's £400 cheaper than her neighbours in the next borough). The MailOnline. July 6, 2009. https://dailym.ai/37FUuK1
3. ประเมินเพื่อการจัดเก็บภาษีทรัพย์สินในอเมริกา แบบอย่าง อปท. ไทย. ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 29 กันยายน 2548 หน้า 32 https://bit.ly/2rZNokr

https://www.tcijthai.com/news/2020/2/article/9840

 

MGROnline Live

“มิตรยามยาก”สะกดเป็นมั้ย ? “จีน”จวกสหรัฐฯ ตัวอย่างไม่ดี ถอนนักการทูต-แบนผู้เดินทางจากจีน กระพือความตื่นกลัวไวรัสโคโรนา

>>> เพิ่งเล่นงานจีนด้วย “สงครามการค้า”จนเศรษฐกิจจีนออกอาการร่อแร่ มาหยกๆ นึกไม่ถึงว่า เมื่อเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศที่อวดอ้างว่าเป็นมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลก จะแสดงความไร้น้ำใจ ฉวยโอกาสกระทืบซ้ำ ...

ทันทีที่มีการประกาศการระบาดของเชื้อชนิดนี้ที่เมืองอู่ฮั่น "สหรัฐอเมริกา" เป็นประเทศแรกๆ ที่เร่งอพยพนักการทูตและพลเมืองของตัวเองออกมา ซึ่งแน่นอนว่าย่อมจะสร้างความกดดันให้กับทางการจีน เพราะนอกจากต้องเร่งรีบรับมือกับการระบาดของเชื้อโรคแล้ว ยังต้องมาพะวงกับการจัดการให้ต่างชาตินำเครื่องบินเข้าไปรับคนของตัวเอง แทนที่จะให้ทางจีนพิจารณาตามความเหมาะสม ว่าจะให้ประเทศไหนเข้าไปรับคนของตัวเองตามเงื่อนไขความเร่งรีบ และจำเป็น

...มิหนำซ้ำ เมื่ออพยพคนของตัวเองออกมาแล้ว สหรัฐอเมริกาก็เป็นชาติแรกๆ ที่ประกาศ"สถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแห่งชาติ" และห้ามชาวต่างชาติที่เคยไปเยือนจีน ในช่วง 14 วันก่อนหน้าเดินทางเข้าประเทศ ...

เมื่อวานที่ผ่านมา (3 ก.พ.) "หัว ชุนอิง" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน จึงต้องออกมาแถลงตำหนิสหรัฐฯ ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่สหรัฐฯ ทำมีแต่สร้างและเผยแพร่ความกลัว ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ มีทั้งศักยภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกในการป้องกันโรคระบาดอย่างเต็มที่ กลับกลายเป็นผู้นำในการออกข้อจำกัดต่างๆ ที่เกินกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. WHOได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศทั้งหลายทั่วโลก "ยกระดับเฝ้าระวัง" การเตรียมความพร้อมรับมือ และมาตรการต่างๆ สำหรับควบคุมการแพร่ระบาด แต่ WHO ได้เน้นย้ำว่า “ไม่มีเหตุผล”ที่จะกำหนดข้อจำกัดด้านการเดินทาง หรือการค้ากับจีน ต่อการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อห้ามคนที่เคยเดินทางไปจีนเข้าประเทศเรียบร้อย "โดนัลด์ ทรัมป์" ก็ให้สัมภาษณ์ทีวีอย่างสบายใจ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ว่า ไม่กังวลเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐอเมริกาแล้ว แม้จะยังมีการระบาดในจีน และอีก 20 กว่าประเทศทั่วโลก พร้อมอวดอ้างว่า “เราสกัดมันไว้อยู่หมัดแล้ว”

เรื่องความแสบของอเมริกันยังไม่หมด ย้อนไปก่อนหน้านั้น วันที่ 30 ม.ค. "วิลเบอร์ รอสส์" รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ บอกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ที่โหมกระพือความกังวลด้านสาธารณสุขทั่วโลก อาจช่วยสร้างงานใหม่ในเศรษฐกิจอเมริกา “ผมคิดว่ามันจะช่วยเร่งให้

งานหวนคืนสู่อเมริกาเหนือ บางส่วนกลับมายังอเมริกา บางส่วนอาจไปเม็กซิโกเช่นกัน” ซึ่งแน่นอน การให้ทรรศนะแบบนี้ เรียกก้อนอิฐได้จากทั่วสารทิศตามระเบียบ

ย้อนกลับมาที่เมืองไทย ซึ่งในระดับรัฐต่อรัฐนั้น เหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้ทางการจีนได้เห็นว่าใครกันแน่คือ “มิตรยามยาก”อย่างแท้จริง ไทยไม่ใช่ชาติแรกๆ ที่เร่งอพยพคนออกมาจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งก็ทำให้จีนไม่รู้สึกกดดัน แต่ก็มีการติดต่อสื่อสารกันตลอด ทั้งในระดับสถานทูตและสถานกงสุลไทยประจำประเทศจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุน และร่วมกันดูแลชาวไทยในอู่ฮั่น และเมืองอื่นๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้สถานทูตจีน"แสดงความขอบคุณต่อประเทศไทย" เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา

ในระดับประชาชน โดยภาพรวมคนไทยส่วนใหญ่ต่างส่งกำลังใจในรูปแบบต่างๆ ไปให้เจ้าหน้าที่ทางการจีนต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนาเพื่อให้หยุดการระบาดได้โดยเร็ว แต่ก็มีบางส่วนที่สร้างกระแสรังเกียจชาวจีน จนต้องมีการ ออกมาเตือนสติกันบ้าง ...“กรณ์ จาติกวณิช”ที่เพิ่งลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเตรียมตั้งพรรคใหม่ เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเห็นใจชาวจีน พร้อมเสนอแบบคิดบวกว่า เราต้องมีมาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันคนไทย เราเป็นประเทศที่ต้อนรับคนจีนมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ดังนั้นการเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ที่ยังอาจจะเลวร้ายลงเป็นเรื่องจำเป็น “การเป็นมิตรยามยาก เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาล ลองนึกเขานึกเรา แล้วแสดงออกแบบที่เราคงอยากให้ผู้อื่นแสดงออกกับเราหากสถานการณ์กลับกัน”

กระนั้น ก็ยังมีนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่เอาแต่จะเล่นการเมืองไม่หยุดหย่อน อย่าง"นายชุมสาย ศรียาภัย" รองโฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างว่า ตั้งแต่รัฐบาล คสช. เรื่อยมาจนถึงรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ในปัจจุบันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลดำเนินนโยบายเอื้อประโยชน์ให้สาธารณรัฐประชาชนจีนหลายกรณี และมีความสัมพันธ์แนบแน่นในหลายๆ มิติ แต่ในความพิเศษดังกล่าว ทำไมรัฐบาลไทยจึงไม่สามารถขอร้องต่อรัฐบาลจีนแบบพิเศษเพื่อเอาคนไทยในอู่ฮั่นกลับมาให้ได้สักที โดยรัฐบาลมีข้ออ้างสารพัดว่า ติดขัดเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่บอกว่าจะไปวันนั้นวันนี้ก็เลื่อน

นี่ก็เป็นการ”เล่นการเมืองเแบบไม่ฟังเหตุผล” ไม่ลืมหูลืมตาดูว่าการช่วยเหลือคนไทยนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาลจีน อยู่เหนืออำนาจรัฐบาลไทย และในความเป็นจริงก็มีการประสานงานดูแลคนไทยในนครอู่ฮั่นอยู่ตลอด จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรัดนำคนไทยออกมาให้ทางการจีนต้องรู้สึกถูกกดดันในสภาวะที่ต้องรับมือกับโรคระบาด คนที่เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาโหนกระแสท่าเดียว จะเป็นการเล่นเกมการเมืองแบบเห็นแก่ได้เกินไปหรือเปล่า

สุดท้ายก็อยากจะให้ย้อนไปดูคำพูดของ "กรณ์ จาติกวณิช" ที่บอกว่า “มิตรยามยาก มีคุณค่ามหาศาล”เผื่อจะได้มีความเป็นมนุษย์ขึ้นมาบ้าง

#mgronline #ไวรัสโคโรนา

 

หลงจีน - 中国迷

ท่ามกลางสถานการณ์โคโรนาไวรัส นี่คือสิ่งที่ผู้โดยสารจากอู่ฮั่นต้องเจอเป็นด่านแรก เมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน Batam ใน อินโดนีเซีย

ที่มา เว็บไชต์ Shanghaiist

#โคโรนาไวรัส #อู่ฮั่น #อินโดนีเซีย #หลงจีน

 

MGR Quality Of Life

ออกเดินทางแล้ว ส่งเครื่องบินรับคนไทย 144 ชีวิต ออกจากอู่ฮั่น โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย

ออกเดินทางจากดอนเมือง 07.10 น. ถึง สนามบินอู่ฮั่น 11.35 น.

เดินทางออกจากอู่ฮั่น 16:30 น. และถึงสนามบินอู่ตะเภา เวลาประมาณ 19:35 น.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เดินทางส่งทีมแพทย์และบุคลากรด้วยตนเอง แต่ไม่ได้เดินทางไปด้วย แต่จะเดินทางมารับในช่วงค่ำวันนี้

สำหรับคนไทยที่จะเดินทางกลับเบื้องต้นสุขภาพดี

#Qol #MGROnline

https://mgronline.com/qol/detail/9630000011369

 

ธุรกิจญี่ปุ่นในจีนระงับการผลิต ผู้บริโภคเตรียมแบกรับสินค้าแพง
เผยแพร่: 4 ก.พ. 2563 07:49 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บรรดาบริษัทของญี่ปุ่นได้เลื่อนกำหนดการเปิดดำเนินการของโรงงานในประเทศจีนหลังวันหยุดตรุษจีน ผลกระทบจากไวรัสโคโรนาต่อฐานการผลิตใหญ่ในจีนส่งผลให้ราคาสินค้าส่อแพงขึ้นทั่วโลก

ทางการจีนได้เรียกร้องให้บริษัททั้งของจีนและต่างชาติขยายวันหยุดเทศกาลตรุษจีน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่


โตโยต้า มอเตอร์ ระบุว่าจะเลื่อนการเปิดทำการอีกครั้งของโรงงาน 4 แห่งในจีน จากต้นเดือนกุมภาพันธ์ ไปเป็นวันที่ 10 กุมภาพันธ์ หรือหลังจากนั้น

ฮอนด้า มอเตอร์ ขยายช่วงวันหยุดของโรงงานที่เมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการแพร่ระบาด จากวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ไปเป็นวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และยังระงับการดำเนินการของโรงงานแห่งอื่น ๆ ในจีน ไปจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์

มาสด้า มอเตอร์ และมิตซูบิชิ มอเตอร์ ก็ระงับการดำเนินการของโรงงานในจีนไปจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์

ส่วนพานาโซนิกและฮิตาชิ ก็เลื่อนการกลับมาดำเนินการของโรงงานของตนในประเทศจีนเช่นกัน


ขณะนี้มีบริษัทญี่ปุ่นเพียงไม่กี่รายเท่านั้น ที่ยังคงดำเนินการผลิตอยู่ เช่น เมจิ ผู้ผลิตนม ขนม และอาหาร ที่มีโรงงานอยู่ที่เมืองซูโจว ทางบริษัทระบุว่า จำเป็นต้องคงการผลิตสินค้าที่จำเป็นสำหรับการบริโภคไว้ และจะใช้สินค้าคงคลังเพื่อเติมการผลิตที่ขาดหายไป

จีนเป็นฐานการผลิตใหญ่ในภูมิภาค มีบริษัทของญี่ปุ่นจำนวนมากเข้าไปตั้งโรงงานตั้งแต่รถยนต์ อาหาร เสื้อผ้า ของใช้ในชีวิตประจำวัน แม้แต่หน้ากากอนามัย ซึ่งกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ก็มีฐานการผลิตใหญ่ ที่มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนา

การระงับการผลิตในประเทศจีน ทำให้สินค้าต่าง ๆ เริ่มขาดแคลน และมีราคาสูงขึ้น หากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนายังยืดเยื้อออกไป ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค แต่จะกระทบต่อการผลิตในที่อื่น ๆ เช่น ประเทศไทย เวียดนาม และอาเซียนด้วยเช่นกัน เนื่องจากต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทาน จากประเทศจีน.



https://mgronline.com/japan/detail/...BlavDIJNxQEq56SAgLZjNlNhnE-YtXh7ZC3hZQfRgPbEU

 

MGR Infographics

พิษ “โคโรนา” ทำท่องเที่ยวซบ ตกงานเพียบ
#mgronline #โคโรนา #ท่องเที่ยว #ตกงาน

 

รัสเซียงัดแผนเข้มอาจเนรเทศชาวต่างชาติผู้ติดเชื้อ รับมือวิกฤตไวรัสโคโรนา เผยแพร่: 4 ก.พ. 2563 03:35 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - รัสเซียระบุในวันจันทร์(3ก.พ.) ว่าอาจเนรเทศชาวต่างชาติที่มีผลตรวจโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก ในขณะเดียวกันก็ได้ฤกษ์ส่งเครื่องบินทหารไปอพยพพลเมืองออกมาจากอู่ฮั่น ดินแดนซึ่งเป็นแกนกลางการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 361 ศพ

รัสเซียซึ่งมีพรมแดนทางภาคพื้นติดอยู่กับรัสเซียเป็นระยะทาง 4,300 กิโลเมตร รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทั้งสองเป็นชาวจีน

สำนักข่าวอาร์ไอเอรายงานว่ารัสเซียระงับขบวนรถไฟโดยสารที่มุ่งหน้าสู่จีนในตอนค่ำวันอาทิตย์(2ก.พ.) และเที่ยวสุดท้ายที่มาจากกรุงปักกิ่ง แล่นเข้าสู่รัสเซียในสภาพที่ว่างเปล่า หลังผู้โดยสาร 136 คน ทั้งหมดเป็นคนจีน ถูกนำตัวรถจากขบวนรถไฟบริเวณแนวชายแดน

ก่อนหน้านี้รัสเซียได้จำกัดเที่ยวบินที่บินตรงไปยังประเทศจีน คู่หูการค้ารายใหญ่ที่สุดของพวกเขา ส่วนเที่ยวบินต่างๆที่เหลืออยู่ก็จำเป็นต้องส่งผู้โดยสารไปลงยังอาคารผู้โดยสารแห่งหนึ่งซึ่งถูกแยกเอาไว้เป็นการเฉพพาะ ณ ท่าอากาศยานเชเรเมเตียโว ในกรุงมอสโก

"ตอนนี้เรายังไม่หวาดกลัว แต่หากคณะแพทย์วิจัยฉัยพบผู้ติดเชื้อ(ไวรัสโคโรนา)ในมอสโก เมื่อนั้น แน่นอนว่าเราจะเกิดความตื่นตระหนก" เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรายหนึ่งกล่าว ในขณะที่เขาสวมหน้ากากยืนประจำการอยู่บริเวณจุดตรวจ ณ อาคารผู้โดยสารที่จัดเตรียมไว้รองรับเที่ยวบินจากจีนโดยเฉพาะ

ในแผนการที่จะเริ่มตั้งแต่วันอังคาร(4ก.พ.) เป็นต้นไป สนามบินเชเรเมเตียโว จะเป็นจุดเดียวที่ผู้โดยสารต่างชาติซึ่งเดินทางมาจากจีนจะเข้าสู่รัสเซียได้

มิคฮาอิล มิซูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซียบอกกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ว่ามอสโกให้คำจำกัดความโคโรนาไวรัสอย่างเป็นทางการว่า "โรคติดเชื้อที่อันตรายอย่างมาก" และอนุมัติเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ในการต่อสู้กับเชื้อโรคร้ายนี้

นอกจากนี้แล้ว มิซูสติน ยังเสนอเลื่อนเวทีประชุมสัมมนาทางเศรษฐกิจประจำปีของรัสเซียออกไป จากเดิมที่กำหนดจัดขึ้นที่เมืองโซชิ ดินแดนตากอากาศริมทะเลกำ ในวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์

เครื่องบินทหารมีกำหนด พาตัวพลเมืองชาวรัสเซีย 130 คนเดินทางกลับมาจากมณฑลหูเป่ยของจีนในวันจันทร์(3ก.พ.) หลังจากก่อนหน้านี้มีพลเมือง 58 คนเดินทางกลับจากจีนผ่านชายแดนทางตะวันออกไกลของรัสเซียตั้งแต่เมื่อเสาร์แล้ว(1ก.พ.)

ในดินแดนปรีมอร์สกี ได้มีการเปิดศูนย์กักกันโรคสำหรับคนจีนที่เดินทางมายังรัสเซีย โดยพวกเขาจะถูกกักกันตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยไม่สนว่าพวกเขาจะไม่ผลตรวจไวรัสออกมาเป็นบวกหรือไม่

อีกด้านหนึ่งใน บราซิล ประเทศในแถบละตินอเมริกา ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับต้อนรับการกลับสู่มาตุภูมิของพลเมืองบราซิลซึ่งไปติดอยู่ในแก่นกลางของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาในจีน

โดยทางกระทรวงสาธารณสุขจะขออำนาจจากสภาในการกักกันพลเมืองที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีจาอีร์ โบลโซนาโร บอกเมื่อวันอาทิตย์(2ก.พ.) ว่ารัฐบาลจะอพยพพลเมืองบราซิลทุกคนออกจากอู่ฮั่น และทั้งหมดจะถูกกักกันโรคในระยะเวลาหนึ่ง แต่ในวันจันทร์(3ก.พ.) รัฐมนตรีสาธารณสุขบอกว่ามีพลเมือบราซิลที่ต้องการเดินทางออกมาราวๆ 40 คน

เจ้าหน้าที่บราซิลเผยว่ากำลังเฝ้าระวังผู้ที่มีอาการคล้ายโคโรนาไวรัสราวๆ 500 คน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ยืนยันว่ามีเคสติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด

ทั้งนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะช่วยรับประกันว่ารัฐบาลจะสามารถเข้าถึงเงินทุนสำหรับจัดการวิกฤตด้านสาธารณสุขครั้งนี้

https://mgronline.com/around/detail...0yEm9OPBmaM3ZpuflTx5Pn2UCRlva8TRLxJaDM_vuaE6M

 

ไวรัสโคโรนาพ่นพิษผวาทุเรียนราคาตก
04 Feb 2020

ชาวสวนจันทร์ระส่ำ หลังจีนปิดเมืองอู่ฮั่น หวั่นลามทั้งประเทศ ผวากระทบทุเรียนราคาดิ่งเหว เผยปีที่แล้วพ่อค้าคึกวิ่งไล่ซื้อแล้ว แต่ปีนี้เงียบมาก




นายหาญ ลิตลา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสามพี่น้อง จันทบุรี และชาวสวนทุเรีนน เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ทุเรียนปีนี้ว่าน่าเป็นห่วงว่าจะราคาตก เนื่องจากประเทศจีนสั่งปิดประเทศถึงเดือนมีนาคม โดยปกติช่วงเดือนมีนาคมทุเรียนเริ่มออกแล้ว แต่ปีนี้เงียบมาก ปกติล้งจีนและพ่อค้าจะต้องมาแล้ว มีการประเมินแล้วว่าทุเรียนปีนี้น่าจะถูกลงจากปีที่แล้วขายหน้าสวนกิโลกรัมกว่า 100 บาท แต่ปีนี้ยังคาดเดาไม่ได้


https://www.thansettakij.com/conten...GIyIIGZkexzpKjGdE7-dRCjYP7KIle8h62ujdSVyEx_LA

 

จำข่าวนี้ได้ไหมครับ ต่อให้ทุเรียนราคาดิ่งเหว พ่อค้่าทุเรียนก็ไม่กระเทือนหรอก ทั้งพ่อและลูก ก็เรื่องขำหมด แถมหลายสำนักข่าวยังไปร่วมมือด้วย รวยถึงขนาดไหน ราคาทุเรียนตก ก็ไม่ทระทบกับฐานะที่ร่ำรวยมากหรอกครับ

เสี่ยล้งทุเรียน หาลูกเขย ควักแถม 10 ล้าน ลงโพสต์ "เฟซบุ๊ก"
ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 4 มี.ค. 2562 04:25 น.


สหรัฐฯ-ฝรั่งเศส เตรียมขนทูต-พลเมืองออกจากอู่ฮั่น หนีไวรัสโคโรน่า
เสี่ยเจ้าของล้งซื้อทุเรียนส่งออกสร้างความฮือฮาให้บรรดาชายหนุ่ม ประกาศหาเขยให้ลูกสาว ดีกรีเกียรตินิยมเอแบค และจบปริญญาโท ตั้งเงื่อนไขมีความขยันขันแข็งมีความสามารถสืบทอดกิจการล้งได้ ระหว่างลองงานต้องเอาชนะใจลูกสาวได้ ไม่สนฐานะและวุฒิการศึกษา ขณะที่ลูกสาวเผยตอนแรกนึกว่าแค่ “เรื่องขำขำ” แต่พอเอาจริงก็ยอมรับการตัดสินใจของพ่อ เผยโพสต์ดังกล่าวสุดฮือฮาคนกดไลค์กดแชร์รวมกันกว่าเกือบแสน ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงเมนต์ถาม “ไม่รับสมัครเมียด้วยเหรอ”


เสี่ยเจ้าของล้งรับซื้อทุเรียนประกาศรับสมัครลูกเขย เตรียมเงินขวัญนับ 10 ล้านบาทรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าวไปที่ล้งรับซื้อทุเรียนส่งออกชื่อ “ป๋านนท์@ป้าอร” บริเวณตลาดอวยชัย 3 หมู่ 4 ถนนเอเชีย 41 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อานนท์ รถทอง” โพสต์หาลูกเขยว่า “ใครมีความสามารถซื้อทุเรียนได้ คัดทุเรียนได้ เข้าสวนเหมาได้ เชิญมารับลูกสาวข้าพเจ้าไปได้เลย สินสอดไม่เอาซักบาทแถมเงินสดให้ 10 ล้านบาท รถยนต์ 10 คัน บ้านหนึ่งหลัง ล้งทุเรียน สองล้ง พร้อมโอนลูกสาวจบปริญญาตรีเอแบคเกียรตินิยม ปริญญาโทมหาวิทยาลัยศูนย์ยะเซนต์ ประเทศจีน

ปรากฏว่าเมื่อนายอานนท์ รถทอง อายุ 59 ปี เจ้าของล้งดังกล่าว ทราบวัตถุประสงค์ก็ยอมรับว่า เป็นผู้โพสต์ข้อความจริง เพราะต้องการหาลูกเขยมาให้กับ “น้องกาญจน์” น.ส.กาญจน์สิตา รถทอง อายุ 26 ปี ลูกสาวจริงๆ เพราะอยู่มาจนป่านนี้แล้วยังไม่มีคู่สักที ตนก็อายุมากแล้วอยากมอบอาชีพรับซื้อทุเรียนให้กับลูกสาวและลูกเขยไปสานต่อ แต่ผู้ชายที่จะเดินเข้ามานั้น ต้องเป็นคนดีไม่ติดการพนันและที่สำคัญคือต้องขยัน รักลูกสาวของตนอย่างจริงใจ

นายอานนท์กล่าวว่า ตนค้าทุเรียนทั้งขายในประเทศและส่งออกต่างประเทศนานกว่า 20 ปี ตอนนี้ธุรกิจไปได้ดี อยากให้โอกาสคนดีคนที่เก่ง ไม่จำเป็นต้องเรียนสูงไม่จำเป็นต้องพ่อแม่รวย เอาแค่ขยันทำกินก็พอ เงื่อนไขไม่มีอะไรมากเพียงเข้ามาลองทำงานที่ล้งทุเรียนดูว่าทำกินเป็นไหม ตนจะได้ดูนิสัย ถ้าดีจริงเป็นไปตามที่ตนต้องการก็เป็นลูกเขยตนได้ แต่ถ้าไม่ใช่มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น เพราะตนเริ่มต้นมาจากศูนย์ อยากเปิดโอกาสให้คนดี คนขยัน แต่ไม่มีเงินมีทอง จะได้มีโอกาสในการสร้างครอบครัว

เจ้าของล้งทุเรียนกล่าวต่อว่า ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากัน มีคนหนุ่มนับพันนับหมื่นหากไม่กล้ามาลองพิสูจน์ก็หมดโอกาส แต่หากคนไหนกล้ามาทดสอบก็เชิญ และตลอดการทดสอบก็ต้องพิชิตใจน้องกาญจน์ให้ได้ด้วย ตอนนี้ลูกสาวอายุเริ่มมากแล้ว ตนกลัวจะ ขึ้นคานไม่มีลูกเขยมาช่วยทำงาน อยากจะให้ลูกสาวสืบทอดธุรกิจนี้แทน ส่วนตนเองก็จะหันไปสู่วงการพระเครื่องที่ตนชอบ ซึ่งก็สร้างรายได้ให้กับตนได้ดีไม่แพ้ซื้อขายทุเรียน

น.ส.กาญจน์สิตา รถทอง ลูกสาว กล่าวถึงชายที่จะมาเป็นคู่ว่า อยากให้เป็นคนดีรักครอบครัวก็พอแล้ว ไม่ต้องรวย ตนไม่ได้มองที่ฐานะ ขอให้เป็นคนดีขยันทุกอย่างเข้ากันได้แน่นอน และที่สำคัญต้องเป็นเหมือนที่พ่อตั้งเงื่อนไขไว้ ส่วนเรื่องที่มีคนมาคอมเมนต์ในทางไม่ดี ตนเฉยๆ เพราะเป็นธรรมดาที่มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ที่สำคัญนิสัยพ่อเป็นคนชอบหยอก ชอบสนุกและในบางครั้งก็จริงจัง

“ตอนแรกตนก็นึกแค่ขำๆแต่ปรากฏว่าพ่อตนไม่ขำเพราะต้องการหาลูกเขยที่จริงๆ” น.ส.กาญจน์สิตากล่าวต่อว่า ตนและพี่น้องทุกคนเคารพในการตัดสินใจของพ่อ ดังนั้นผู้ชายที่จะมาเป็นเขยของครอบครัวสกุล “รถทอง” ต้องทำตามเกณฑ์ที่พ่อตั้งไว้เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายอานนท์ได้โพสต์ประกาศหาลูกเขยเมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่มวันที่ 2 มี.ค. สร้างความฮือฮาเรียกเสียงวิพากษ์ให้ชาวชุมพรเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ขณะที่ความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียล มีหนุ่มๆเข้าไปกดไลค์กว่า 50,000 ไลค์ กดแชร์กว่า 30,000 แชร์ และลงความเห็นเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงยังคอมเมนต์ถามว่า “ไม่รับสมัครเมียอีกคนด้วยเหรอ”

https://www.thairath.co.th/news/local/south/1510146

 

จีนไฟเขียวสหรัฐฯ ส่งผู้เชี่ยวชาญช่วยสู้ ‘ไวรัสโคโรนา’ หลังประณามวอชิงตัน ‘สร้างความหวาดกลัว’ เผยแพร่: 4 ก.พ. 2563 10:05 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - จีนประกาศพร้อมรับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ในการต่อสู้วิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดวันนี้ (4 ก.พ.) เพียง 1 วันหลังจากที่โฆษกหญิงคนหนึ่งออกมาวิจารณ์สหรัฐฯ ว่า “สร้างความหวาดกลัว” ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะพุ่งทะลุหลักสองหมื่น และพบผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 400 คน

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ระบุวันนี้ (4) ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มจากวันก่อนหน้า 64 รายมาอยู่ที่ 425 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้เสียชีวิตในมณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะเดียวกันก็มีการพบผู้ป่วยใหม่อีก 3,235 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศพุ่งสูงถึง 20,438 ราย

รัฐบาลจีนออกมาประณามสหรัฐฯ ว่ากระพือความตื่นกลัวไวรัสโคโรนา หลังจากที่วอชิงตันประกาศห้ามชาวต่างชาติที่เคยเดินทางไปจีนในช่วง 14 วันเดินทางเข้าประเทศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (31 ม.ค.)

ล่าสุด โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงอีกครั้งในวันนี้ (4) โดยเรียกร้องให้สหรัฐฯ “แสดงออกซึ่งทัศนคติที่ถูกต้อง เป็นธรรม ใจเย็น และมีเหตุมีผล” และ “อย่าตอบสนองเกินความจำเป็น”

“จีนรับทราบว่าสหรัฐฯ แสดงความเต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือหลายครั้ง และหวังว่าความช่วยเหลือดังกล่าวคงจะมีมาในเร็ววัน” โฆษก หัว ชุนอิง ระบุในถ้อยแถลงผ่านเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศจีน

ทำเนียบขาวระบุวานนี้ (3) ว่า รัฐบาลจีนยอมรับข้อเสนอของอเมริกาที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมไปกับทีมขององค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อช่วยศึกษาและต่อสู้การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

โรงพยาบาลขนาด 1,000 เตียงที่จีนใช้เวลาสร้างเพียง 8 วันเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเริ่มเปิดรับผู้ป่วยกลุ่มแรกในวันจันทร์ (3) ส่วนโรงพยาบาลแห่งที่สองซึ่งมีขนาด 1,600 เตียงก็คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในสัปดาห์นี้

WHO ประกาศให้การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก แม้ผู้เชี่ยวชาญจะยังไม่ทราบข้อมูลมากนักเกี่ยวกับไวรัสชนิดนี้

ดร. แนนซี เมสสันเนียร์ ผู้อำนวยการศูนย์สร้างภูมิคุ้มกันและโรคติดต่อทางเดินหายใจแห่งชาติ (National Center for Immunization and Respiratory Diseases) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า “เราคาดว่าจะยังพบการติดเชื้อระหว่างคนสู่คนเพิ่มขึ้นอีก”

CDC ยืนยันการพบผู้ป่วยใหม่ในสหรัฐฯ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ 11 ราย หนึ่งในนั้นเป็นชาวแคลิฟอร์เนียซึ่งติดเชื้อจากการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เพิ่งเดินทางกลับจากจีน นับเป็นการแพร่เชื้อจากคนสู่คนกรณีที่ 2 ในสหรัฐฯ หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อลักษณะเดียวกันรายแรกที่รัฐอิลลินอยส์

จีนได้สั่งปิดเมืองอู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวดเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัส ขณะที่สายการบินทั่วโลกก็ประกาศงดเที่ยวบินไป-กลับบางภูมิภาคของจีน

วิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้ยังส่อแววกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ล่าสุดมีรายงานว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และพันธมิตรกำลังพิจารณาปรับลดกำลังผลิตลงอีก 500,000 บาร์เรลต่อวันเพื่อพยุงราคาเนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดการณ์ว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ทำให้จีนต้องสั่งปิดเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง 0.2-0.3%




https://mgronline.com/around/detail...gg7jZSjoSNI2svFW0SB_ebZB-IO5g4LwdEDbFenUllL2g

 

ข่าวฮ่องกง

Breaking news!
ฮ่องกงยืนยัน มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่า 1 ราย

สาธารณสุขฮ่องกงออกมายืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่า 1 ราย เป็นชายชาวฮ่องกงวัย 39 ปี ที่พักอาศัยอยู่ที่ Whampoa Garden เขาได้เคยเดินทางไปอู่ฮั่นและใช้เวลาที่นั่น 2 วัน

เบื้องต้นชายคนดังกล่าวมีโรคประจำตัวป่วยอยู่แล้ว รายละเอียดต่างๆ จะถูกแถลงอีกครั้ง

Source : https://www.facebook.com/715486135226112/posts/3190725427702158/?d=n

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

ฟันธง! ระยองน้ำเหลือใช้ไม่ถึง100 วัน
03 Feb 2020

ส.อ.ท.เฝ้าระวังน้ำเหลือใช้ ไม่ถึง 100 วัน เข้าแดนเสี่ยงสูง เผยถ้าฝนไม่ตก และการเดินแผนผันน้ำไม่ทันโรงงานผลิตสดุดแน่

นายสงวน แสงวงศ์กิจ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้หลายภาคส่วนมีความกังวลถึงวิกฤติภัยแล้งโดยเฉพาะการใช้น้ำจากภาคเอกชน ซึ่งเมื่อปลายฝนปี2562 ทางส.อ.ท. ยืนยันชัดเจนว่าปีนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเหตุการณ์ที่มีน้ำใช้ไม่เพียงพอ และเมื่อไปสำรวจนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลัก 2 แห่งคืออ่างเก็บน้ำหนองปลาทไหลและอ่างเก็บน้ำดอกกรายยิ่งเกิดความกังวัลเพราะปริมาณน้ำลดลงไปมาก



เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอตัวเลขระดับน้ำที่เหลือ ยกตัวอย่าง ระดับน้ำที่อ่างเก็บน้ำดอกกราย ณ 29 มกราคม 2563 มีน้ำใช้การได้เหลือเพียง 27.59 ล้านลบ.ม. อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล มีน้ำใช้การได้ 25.81 ล้านลบ.ม. อ่างเก็บน้ำประแสร์ มีน้ำใช้การได้ 84.37 ล้านลบ.ม. อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ มีน้ำใช้การได้ 5.44 ล้านลบ.ม. ทั้ง4 อ่างเก็บน้ำนี้โดยรวมจะมีน้ำใช้การได้ทั้งสิ้นราว 143.214 ล้านลบ.ม. แต่ระยองมีการใช้น้ำต่อวัน 1.55 ล้านลบ.ม. (รวมใช้โดยภาคอุตสาหกรรม เกษตร อุปโภค-บริโภครวมถึงที่ส่งน้ำจากระยองไปยังชลบุรี)ถ้าเรานำปริมาณน้ำรวม 4 อ่างเก็บน้ำ มาหารกับปริมาณน้ำใช้ เราจะสามารถใช้น้ำได้ในระยะยเวลา 92 วันเท่านั้น กรณีที่ไม่มีฝน หรือใช้ได้ถึงเดือนเมษายน 2563 ซึ่งช่วงนั้นยังไม่มีฝน และฝนจะมาในปลายเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน หรือช้ากว่านั้น ถ้าไม่มีฝนลงมาถือว่ามีความเสี่ยงสูง หากฝนไม่ตก หรือตกช้า และการผันน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผันไม่ทัน เชื่อว่าจะกระทบต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรม



อ่างเก็บน้ำดอกกราย

“ล่าสุดกรมชลประทานเจรจากับลุ่มน้ำวังโตนด จังหวัดจันทบุรี ขอผันน้ำจำนวน 10 ล้านลบ.ม.มาลงไว้ในอ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ แล้วผันต่อมายังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำดอกกราย ก็เป็นอีกส่วนที่สำรอง ไว้”



อ่างเก็บนำ้หนองปลาไหล

https://www.thansettakij.com/conten...4xwPFRa-QL7_ZPgBnyDVAsHsJfgUc9zx0Ek9tSH-JX6gc

 

รีสอร์ทดังหัวหิน ส่งจดหมายถึงพนักงาน ประกาศปิดกิจการ เซ่นเศรษฐกิจซบเซา 31 ม.ค. 2020 - 18:15 น.

วันที่ 31 มกราคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก BizpromptinfoFanpage ได้ออกมาเผยเอกสารประกาศเลิกกิจการ และเลิกจ้างพนักงานของ บันยัน เดอะ รีสอร์ท รีสอร์ทชื่อดัง ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเอกสารได้ระบุข้อความไว้ว่า



เรียนพนักงานบริษัท เรดทิวลิปโฮลดิ้งส์ จำกัด (บันยัน เดอะรีสอร์ท) เรื่อง ประกาศปิดกิจการรีสอร์ทและเลิกจ้างพนักงาน บริษัทมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ท่านทราบว่า บริษัทฯมีความจำเป็นที่จะต้องปิดกิจการ บันยัน เดอะรีสอร์ทหัวหิน และเลิกจ้างพนักงานในส่วนของกิจการโรงแรมและภัตตาคารของบริษัทฯในส่วนที่ไม่มีตำแหน่งงานอื่นเหมาะสมรองรับ



เหตุผลและความจำเป็นของการเลิกจ้างครั้งนี้มาจากแวดล้อมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งอยู่ในภาวะซบเซา และผลการดำเนินงานของบริษัทประสบปัญหาขาดทุนสะสมมาเป็นเวลาหลายปี บริษัทฯพยายามหาทางออกเพื่อความอยู่รอดของกิจการมาโดยตลอด และพยามหลีกเลี่ยงการปิดกิจการและการเลิกจ้างแต่ผลการดำเนินงานไม่ดีขึ้น



ด้วยเหตุดังกล่าวบริษัทจึงมีความจำเป็นต้องปิดกิจการบันยันฯ โดยบริษัทขอยึดถือวันที่ติดประกาศในวันที่ 28 มกราคม 2563 เป็นวันแรกที่แจ้งให้พนักงานทราบล่วงหน้า และให้การเลิกจ้างมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป บริษัทฯหวังว่าพนักงานทุกท่านจะเข้าใจความจำเป็นนี้ ภายใต้กฎหมายสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและตามกฎระเบียบของบริษัทฯพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับผลประโยชน์ตามที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้



อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง “เพลินวาน” เป็นจุดเช็กอินสำคัญของเมืองหัวหิน ได้แจ้งผู้เช่าเรื่องบอกเลิกสัญญาเนื่องจากเตรียมปิดกิจการหลังเปิดมานานถึง 12 ปี



https://www.springnews.co.th/thailand/west/609960