ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวภัยพิบัติ
    09/02/20
    ออสเตรเลียเปลี่ยนจากไฟป่าไปเป็นน้ำท่วมในเวลาไม่กี่วัน
    ฝนตก น้ำท่วม พายุ
    #AUSTRALIA #ExtremeWeather (ภาพถ่าย Ausgrid)
    #Watchers
     
  2. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #สังเกตพฤติกรรมสัตว์
    // ค้างคาวบุก ใน Ingham, Queensland, ออสเตรเลีย #Australia //
    (มกราคมและกุมภาพันธ์ 2020)
    07/02/20
    #ออสเตรเลีย: ‘Bat tornado’ บุกเมืองควีนส์แลนด์
    ค้างคาวนับร้อยนับพันได้บุกเข้าเมือง Ingham ในรัฐควีนส์แลนด์ออสเตรเลียและผู้ที่อยู่อาศัยแปลกประหลาดใจ
    ค้างคาวมีจำนวนมากกว่าผู้อยู่อาศัยในเมืองและชาวบ้านที่อารมณ์เสียได้ขอให้รัฐของพวกเขาทำอะไรกับมันสักอย่าง
    ปชช.บ่นเรื่องกลิ่น,ความสกปรกและเสียงรบกวน
    อย่างไรก็ตามค้างคาวเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายของรัฐ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่าพวกเขากำลังพยายาม "ชักชวน" ค้างคาวเพื่อย้ายกลับไปยังที่อยู่อาศัยของมัน คาดว่ามีนาคม
    CR: BBC UK, deZabedrosky

    #Watchers
     
  3. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวภัยพิบัติ
    #ดูสนุก 09/02/20
    ชาวบ้านท้องถิ่นใน Tuggerah ใช้ Jet Ski เพื่อไปยัง Maccas ... จากฝนตกหนัก น้ำท่วมออสเตรเลีย
    เครดิต @ 9NewsSyd
    #australia #flood #Watchers
     
  4. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวภัยพิบัติ
    #ทฤษฎีTheDayAfterTomorrow
    // พบกระแสน้ำที่หมุนวนในทุกมหาสมุทรไหลด้วยความเร่งเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน //
    09/02/20
    ผลการศึกษาล่าสุดของทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ นำโดย ดร. แจเน็ต สปรินทอลล์ นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสคริปส์เพื่อการศึกษาสมุทรศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานดิเอโก (UCSD) พบว่ากระแสน้ำที่หมุนวนในมหาสมุทรทั่วโลกกำลังเคลื่อนตัวด้วยอัตราที่เร่งเร็วขึ้นกว่าเมื่อสองทศวรรษก่อน โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นให้เห็นอย่างเด่นชัดในบริเวณเขตร้อน รวมทั้งใต้ท้องทะเลที่มีความลึกถึงระดับ 2,000 เมตร (สีส้มในภาพประกอบบทความคือไหลเร็วขึ้น สีฟ้าคือช้าลง)
    ทีมวิจัยอธิบายว่า ปกติกระแสน้ำในมหาสมุทรจะไหลเร็วขึ้นได้บ้างเล็กน้อย ตามอิทธิพลของกระแสลมที่พัดเร็วและรุนแรงขึ้นอยู่แล้ว แต่ที่เราพบล่าสุดนี้ ความเร่งของกระแสน้ำที่วัดได้กลับเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่เคยคาดไว้หลายเท่า เราคิดว่าน่าจะเป็นผลกมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
    ตามผลการศึกษาพบว่า พลังงานจลน์ของมหาสมุทรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติตั้งแต่ต้นปี 1990 โดยคำนวณการเร่งความเร็วออกมาได้ถึง 36% ของความเร็วเฉลี่ยในการไหลเวียนของมหาสมุทรตามปกติ แนวโน้มดังกล่าวจะสังเกตได้ชัดเจนในมหาสมุทรเขตร้อนทั่วโลกซึ่งมีความลึกหลายพันเมตร การเร่งความเร็วของการไหลเวียนของมหาสมุทรนั้นเป็นผลมาจากแรงลมของดาวเคราะห์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา กระแสลมที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นได้ถ่ายทอดพลังงานจลน์ให้กับส่วนบนของมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด ส่งผลให้กระแสน้ำในมหาสมุทรไหลเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมราว 5% ในทุก 10 ปี (จากอัตราเฉลี่ย 1.9% ในทุก 10 ปี)
    ตามผลวิจัยที่ลงตีพิมพ์นั้นบ่งบอกว่ามีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงเรื่องของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ก่อให้เกิดความไม่สมดุลของพลังงานโลกและภาวะโลกร้อนของมหาสมุทรอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าการไหลเวียนของมหาสมุทรขนาดใหญ่จะเป็นอย่างไรภายใต้ภูมิหลังของภาวะโลกร้อน
    อย่างไรก็ตาม ความเร่งกระแสน้ำในมหาสมุทรที่เพิ่มขึ้นนั้นก็ไม่ได้เป็นไปในทุกกระแส อย่างกระแสน้ำอุ่นคุโระชิโอะ (Kuroshio Current) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกก็ไม่ได้ไหลด้วยความเร่งต่างจากเดิม
    ทีมวิจัยอธิบายว่า กระแสน้ำเหล่านี้เป็นกลไกนำพาความร้อนเคลื่อนที่ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ความเปลี่ยนแปลงด้านความเร็ว อาจส่งผลต่อระบบนิเวศใต้ทะเล รวมทั้งอุณหภูมิและลักษณะอากาศประจำถิ่นได้ อีกทั้งความร้อนจากน้ำตื้นอาจค่อยๆแผ่ขยายลงสู่ระดับน้ำที่ลึกกว่า ก่อความเลี่ยนแปลงที่ยากจะคาดเดา ซึ่งทีมวิจัยยังคงต้องทำงานต่อเนื่องเพื่อให้ทราบที่มาและผลของสิ่งที่ค้นพบนี้ต่อไป
    ที่มา https://ucsdnews.ucsd.edu/pressrele...-of-global-mean-ocean-circulation-since-1990s
    ผลการศึกษาล่าสุดของทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ นำโดย ดร. แจเน็ต สปรินทอลล์ นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสคริปส์เพื่อการศึกษาสมุทรศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานดิเอโก (UCSD) พบว่ากระแสน้ำที่หมุนวนในมหาสมุทรทั่วโลกกำลังเคลื่อนตัวด้วยอัตราที่เร่งเร็วขึ้นกว่าเมื่อสองทศวรรษก่อน โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นให้เห็นอย่างเด่นชัดในบริเวณเขตร้อน รวมทั้งใต้ท้องทะเลที่มีความลึกถึงระดับ 2,000 เมตร (สีส้มในภาพประกอบบทความคือไหลเร็วขึ้น สีฟ้าคือช้าลง)
    ทีมวิจัยอธิบายว่า ปกติกระแสน้ำในมหาสมุทรจะไหลเร็วขึ้นได้บ้างเล็กน้อย ตามอิทธิพลของกระแสลมที่พัดเร็วและรุนแรงขึ้นอยู่แล้ว แต่ที่เราพบล่าสุดนี้ ความเร่งของกระแสน้ำที่วัดได้กลับเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่เคยคาดไว้หลายเท่า เราคิดว่าน่าจะเป็นผลกมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
    ตามผลการศึกษาพบว่า พลังงานจลน์ของมหาสมุทรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติตั้งแต่ต้นปี 1990 โดยคำนวณการเร่งความเร็วออกมาได้ถึง 36% ของความเร็วเฉลี่ยในการไหลเวียนของมหาสมุทรตามปกติ แนวโน้มดังกล่าวจะสังเกตได้ชัดเจนในมหาสมุทรเขตร้อนทั่วโลกซึ่งมีความลึกหลายพันเมตร การเร่งความเร็วของการไหลเวียนของมหาสมุทรนั้นเป็นผลมาจากแรงลมของดาวเคราะห์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา กระแสลมที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นได้ถ่ายทอดพลังงานจลน์ให้กับส่วนบนของมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด ส่งผลให้กระแสน้ำในมหาสมุทรไหลเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมราว 5% ในทุก 10 ปี (จากอัตราเฉลี่ย 1.9% ในทุก 10 ปี)
    ตามผลวิจัยที่ลงตีพิมพ์นั้นบ่งบอกว่ามีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงเรื่องของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ก่อให้เกิดความไม่สมดุลของพลังงานโลกและภาวะโลกร้อนของมหาสมุทรอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าการไหลเวียนของมหาสมุทรขนาดใหญ่จะเป็นอย่างไรภายใต้ภูมิหลังของภาวะโลกร้อน
    อย่างไรก็ตาม ความเร่งกระแสน้ำในมหาสมุทรที่เพิ่มขึ้นนั้นก็ไม่ได้เป็นไปในทุกกระแส อย่างกระแสน้ำอุ่นคุโระชิโอะ (Kuroshio Current) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกก็ไม่ได้ไหลด้วยความเร่งต่างจากเดิม
    ทีมวิจัยอธิบายว่า กระแสน้ำเหล่านี้เป็นกลไกนำพาความร้อนเคลื่อนที่ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ความเปลี่ยนแปลงด้านความเร็ว อาจส่งผลต่อระบบนิเวศใต้ทะเล รวมทั้งอุณหภูมิและลักษณะอากาศประจำถิ่นได้ อีกทั้งความร้อนจากน้ำตื้นอาจค่อยๆแผ่ขยายลงสู่ระดับน้ำที่ลึกกว่า ก่อความเลี่ยนแปลงที่ยากจะคาดเดา ซึ่งทีมวิจัยยังคงต้องทำงานต่อเนื่องเพื่อให้ทราบที่มาและผลของสิ่งที่ค้นพบนี้ต่อไป
    ที่มา https://ucsdnews.ucsd.edu/pressrele...-of-global-mean-ocean-circulation-since-1990s
    CR: stem.in.Th
    #Watchers
     
  5. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไวรัสอู่ฮั่นเอฟเฟ็กต์ ภูเก็ต พัทยาป่วนหนัก
    .
    แรงงานภาคท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวข้อง 7 ล้านคน ธุรกิจทัวร์-โรงแรม-ร้านค้าทยอยปิดตัว-ปลดคนลดต้นทุน พัทยาเงียบเหงา “ตลาดน้ำ 4 ภาค” เผยร้านค้าแห่เลิกสัญญาเช่า “ภูเก็ต” ป่วนทัวร์จีนแจ้งเลื่อนจ่ายหนี้ไม่มีกำหนด “รถทัวร์-สปีดโบ๊ต” อลหม่านไม่มีเงินจ่ายค่างวดแบงก์กสิกรฯ เผยโรงแรมขยับลดลูกจ้างชั่วคราว ประเมินพนักงานโรงแรมตกงาน 30% สทท.นัดถก “บิ๊กตู่” ยื่นขอมาตรการเยียวยาเพิ่ม กระทรวงท่องเที่ยวฯระดมหน่วยงานรัฐ-เอกชน 500 รายถกใหญ่ 13 ก.พ. “กู้วิกฤต” ท่องเที่ยวไทย แรงงาน 7 ล้านคนสะเทือน
     
  6. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สิงคโปร์ขับชาวต่างชาติ 4 คนออกจากประเทศภายใน 24 ชั่วโมง
    .
    โดยชาวต่างชาติเหล่านี้เป็นแรงงานต่างชาติที่ถูกทางการสั่งให้กับตัวอยู่กับบ้าน 14 วันเพื่อเฝ้าดูอาการว่าติดไวรัสโคโรน่าหรือไม่ แต่พวกเขาละเมิดการกักตัวโดยไปทำงาน ทำให้รัฐบาลถึงปู่ต่างขับไล่เขาออกจากประเทศภายใน 24 ชั่วโมงและแบนถาวรไม่ให้กลับมาทำงานยังสิงคโปร์อีก
    ส่วนนายจ้างของชาวต่างชาติดังกล่าว ถูกระงับการจ้างแรงงานต่างชาติเป็นเวลา 2 ปี และอาจมีการฟ้องแพ่งเพิ่มเติม
    ระบบการจัดการของประเทศสิงคโปร์นั้นไม่ได้มีการกักกันแบบรวมเฉพาะทุกคนด้วยเหตุผลด้านพื้นที่ บางคนที่ประเมินแล้วไม่รุนแรง แค่สงสัย ก็จะมีการกักตัวที่บ้าน โดยคนเหล่านี้ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลสิงคโปร์ให้ลางานและไม่ไปทำงานเพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อให้คนอื่น แต่ได้ละเมิดเนื่องจากนายจ้างเรียกร้องให้ไปทำงาน จึงทำให้เกิดการขับไล่ออกจากประเทศ และลงโทษนายจ้างที่ละเมิดระเบียบการกักตัว
     
  7. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขัดกับทฤษฎี คนที่ 10 เรืองนี้ มาจากหน่วยงาน...เซี่ยงไฮ้ "แพร่กระจายทางอากาศ" แต้ถ้ามีคนค้านตามใจ เพราะเป็นการเอาชีวิตบุคคลอื่นๆ มาเสี่ยง หารการ "แพร่กระจายทางอากาศ" เป็นเรื่องจริง แต่พยายามทำให้คนอื่นๆ เชื่อว่าไม่จริง
    1.
    #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แพร่เชื้อผ่านละอองฝอยเม็ดใหญ่ ไอจามตกไม่เกิน 1 เมตร
    ไม่ได้แพร่กระจายทางอากาศ!!
    การแพร่เชื้อทางอากาศต้องเป็นเชื้อที่แพร่ผ่านละอองฝอยขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน ถึงลอยตัวกลางอากาศ เช่น วัณโรค หัด สุกใส
    หรืออาจเกิดขึ้นได้กับเป็นกรณีป่วยไวรัสโคโรนารุนแรงใน รพ. ใส่ท่อช่วยหายใจ จึงต้องอยู่ห้องแยกโรค
    #Qol #MGROnline
    https://mgronline.com/qol/detail/9630000013595

    2.
    world war z and 10th person

    ผมเคยดูภาพยนตร์เรื่อง world war z แล้วก็คนหลายคนพูดถึงเรื่องนี้
    ซึ่งประเด็นที่ผมค้นหาคือคำว่า คนที่ 10 หรือทฤษฎีคนที่ 10
    เพราะตอนที่ดูรู้ว่าเป็นจุดสำคัญของเรื่องอีกจุดหนึ่ง
    เหตุตอนกลางเรื่อง และเกิดที่อิสราเอล (Israel) เป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ
    แล้วพบว่าคุณ fairywing ให้นิยามไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

    คิดว่าเรียกว่า ’10th Man’ – บุคคลที่สิบ น่าจะเหมาะกว่า
    “If nine agree to dismiss it, it is the duty of the tenth person to investigate further, even if it seems foolish”
    เค้าเล่าว่าทฤษฎีนี้มันถูกอ้างอิงมาจากที่เมื่อก่อนเวลามีลางบอกเหตุที่อาจจะเป็นภัยคุกคามต่อส่วนรวม จะมีผู้มีอำนาจในการตัดสินใจทั้งหมด 10 คนมาประชุมกัน แล้วถ้ามติที่ประชุม 9 คนเห็นว่าลางบอกเหตุนั้นเป็นไปไม่ได้หรือเชื่อถือไม่ได้ คนสุดท้ายที่ยังไม่ได้ลงมติมีตัวเลือกเดียวคือคัดค้านทั้ง 9 ความเห็นนั้น โดยมีสมมติฐานง่ายๆว่าสิ่งที่ 9 คนนั้นคิดมันผิด! (จริงๆในความเข้าใจของเราเอง คนที่สิบอาจจะคิดว่า impossible = possible หรืออาจจะเป็นสุภาษิตคนไทยเรา “ที่ไหนมีควัน ที่นั่นมีไฟ“)
    แต่ที่น่าจะหนักหน่อยก็ตรงที่ว่าหัวเดียวกระเทียมลีบนี่แหละค่ะ เพราะค้านคนตั้ง 9 คนเลยทีเดียว เม่าเป็นลม
    โดย fairywing 4 กรกฎาคม 2556 เวลา 11:53 น.
    Author: บุรินทร์ รุจจนพันธุ์
    I am the lecturer in faculty of Information Technology at Nation University. View all posts by บุรินทร์ รุจจนพันธุ์
    ภาพจาก youtube
    http://pantip.com/topic/30637893
    https://www.thaiall.com/blog/burin/5445/
     
  8. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [สุดแล้วแต่จะคิด แต่ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย]
    มีถามกันเข้ามามากว่า ข่าวที่มีการแชร์กันจำนวนมากในช่วงนี้ "ไวรัสโคโรนาชนิดใหม่สามารถแพร่ทางอากาศได้" เป็นข่าวจริงหรือไม่? อ้ายจงเลยขอเขียนโพสต์นี้สำหรับคำตอบครับ
    เอาแบบสรุปสั้นๆก่อน
    "ทางเซี่ยงไฮ้ออกมาให้ข้อมูลว่า สามารถแพร่ผ่านละอองขนาดเล็กในอากาศได้ สื่อต่างๆจึงเอามานำเสนอ แต่ภายหลังทางการจีนออกมาชี้แจงว่า
    ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าสามารถติดไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ผ่านการแพร่ทางอากาศหรือการแพร่กระจายผ่านละอองขนาดเล็กในอากาศ แต่ให้ป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน และป้องกันการพ่นละอองน้ำลายน้ำมูก เพราะเป็นรูปแบบหลักที่สามารถแพร่เชื้อได้ในตอนนี้"
    .
    มาอ่านแบบยาวๆ โดยมีการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลในจีนกันบ้าง
    .
    1. เริ่มต้นด้วย สื่อจีนหลายสื่อ ไม่ว่าจะ China Daily, Xinhua และ South China Morning Post (SCMP) นำเสนอว่า "โคโรนาชนิดใหม่แพร่ป่านละอองขนาดเล็กในอากาศได้"
    รายละเอียดของข่าวที่สื่อจีนนำเสนอ มีรายละเอียดประมาณนี้
    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ก.พ.63) ทางรัฐบาลท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โคโรนา ซึ่ง1ในไฮไลท์คือ ทาง Zeng Qun รองหัวหน้าหน่วยกิจการพลเรือนเซี่ยงไฮ้ เผยว่า ทางผู้เชี่ยวชาญยืนยัน "การแพร่กระจายผ่านฝอยละอองขนาดเล็กในอากาศ" เป็นหนึ่งในรูปแบบการแพร่กระจายเชื้อโคโรนาชนิดใหม่"
    โดยทางเซี่ยงไฮ้ยังเผยอีกว่า รูปแบบการแพร่ของไวรัสชนิดนี้ ยังมี
    -การแพร่กระจายโดยการสัมผัส
    -การแพร่กระจายทางตรง ที่รวมถึงการแพร่ผ่านทางละอองฝอยน้ำมูกน้ำลาย (respiratory droplets)
    (อ้างอิงจาก
    - Xinhua: http://www.xinhuanet.com/english/2020-02/08/c_138766344.htm
    - https://www.scmp.com/news/china/soc...hubei-province-reports-81-new-deaths-and-2841)
    .
    2. หลังจากที่ทางเซี่ยงไฮ้แถลง ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติจีนก็ออกแถลงผ่านทางเว็บไซต์ของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ว่า
    "จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสามารถติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ผ่านทางฝอยละอองขนาดเล็กในอากาศ ซึ่งขอยืนยันว่า การติดเชื้อในตอนนี้ยังคงเป็นสองรูปแบบหลัก คือ แบบสัมผัส และผ่านทางละอองฝอยน้ำมูกน้ำลาย
    โดยการแพร่กระจายผ่านฝอยละอองขนาดเล็กในอากาศ สามารถเกิดขึ้นได้ในเงื่อนไขพิเศษ หรือสภาพแวดล้อมเฉพาะ เช่น ขณะใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งตามปกติแล้วการรักษาพยาบาลก็จะมีการป้องกันเชื้อโรคอยู่แล้ว และโดยรวม สถานการณ์ทั่วๆไป การสวมหน้ากากอนามัย ก็สามารถป้องกันได้เพียงพอ"
    (อ้างอิงจาก 中国新闻网 : https://m.weibo.cn/1784473157/4470008291307333)
    .
    3. เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (9 ก.พ.63) ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติจีนแถลงข่าว โดย เฝิง ลู่จ้าว นักวิจัยของศูนย์ กล่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า
    "ยังไม่เป็นที่แน่ชัดสำหรับการติดเชื้อผ่านฝอยละอองขนาดเล็กในอากาศ ยังขอยืนยันถึงรูปแบบการแพร่ที่เจอ ณ ตอนนี้ ยังคงเป็นการแพร่แบบสัมผัส และการแพร่แบบละอองน้ำมูกน้ำลาย ซึ่งโดยปกติระยะห่างของการแพร่จากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง คือ 1-2เมตร และไวรัสไม่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นาน โดยขอแนะนำให้ใช้ทิชชูหรือผ้าเช็ดหน้าปิดปากปิดจมูกเวลาไอหรือจามเพื่อป้องกันการพ่นของละอองน้ำลายน้ำมูก"
    (อ้างอิงจาก中央新闻-CCTV: https://m.weibo.cn/2656274875/4470094077521123)
    .
    4. ล่าสุดช่วงค่ำวันนี้ (9 ก.พ.63) รองคณบดีคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยHuazhong University of Science and Technology แถลง
    "ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ถึงการติดเชื้อโคโรนาชนิดใหม่โดยการกระจายผ่านฝอยละอองขนาดเล็กในอากาศ และไวรัสไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในอากาศได้นาน ดังนั้นสวมหน้ากากอนามัยก็สามารถป้องกันได้แล้ว"
    (อ้างอิงจาก 人民日报 - People's Daily: https://m.weibo.cn/2803301701/4470165922530376)
    .
    สรุปอีกรอบ ก็คือ ทางจีนยังคงยืนยันว่า "ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าสามารถติดไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ผ่านการแพร่ทางอากาศหรือการแพร่กระจายผ่านละอองขนาดเล็กในอากาศ แต่ให้ป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน และป้องกันการพ่นละอองน้ำลายน้ำมูก เพราะเป็นรูปแบบหลักที่สามารถแพร่เชื้อได้ในตอนนี้"
    #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
     
  9. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นพ.พิเชฐ บัญญัติ แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
    ได้ให้แนวทางการรับข้อมูลข่าวสารของไวรัสอู่ฮั่นไว้อย่างน่าสนใจว่า
    .
    คอยกระตุกตัวเองให้กลับมา “ตั้งสติ” มาพินิจพิเคราะห์ข้อความข่าว ข้อเท็จจริง และหลักวิชาการทางการแพทย์ หลักคิด หลักการ (วิชา) และหลักปฏิบัติทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) ลดการใช้ “มโนศาสตร์” แต่ใช้ “ระบาดวิทยา” เป็นเครื่องมือสำคัญ
    แต่สิ่งแรกคือ ต้องเตือนตัวเองให้ “รับรู้อย่างตื่นตัวแต่อย่ากลัวจนตื่นตูม” จึงเขียนเป็นบทกลอนไว้ว่า…
    “รับรู้” ข่าวราวเรื่องด้วยเปรื่องปราด
    “อย่าง” สามารถมองคิดไร้มิจฉา
    “ตื่นตัว” ตามยามร้ายย่างกรายมา
    “แต่” ปัญญายืนอยู่อย่างรู้ทัน
    “อย่า” แต่งเติมเสริมต่อก่อวิตก
    “กลัว” ตระหนกหน่ายเพลียพาเสียขวัญ
    “จน” สติมิคงดำรงกัน
    “ตื่นตูม” พลันผลีผลามผิดความจริง
    https://www.salika.co/2020/02/02/coronavirus-epidemiological-information/
     
  10. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประชาชนไต้หวันแห่ซื้อแอลกอฮอล์ 95% จนขาดตลาด โรงงานในผิงตงเริ่มผลิตแอลกอฮอล์ 75% จำหน่ายแทน...#RtiFanpage
     
  11. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไต้หวันได้เข้าร่วมประชุม WHO ทางระบบออนไลน์ ปธน.ไช่อิงเหวินเผย จะพยายามต่อไปเพื่อให้ได้เข้าที่ประชุมจริง...#RtiFanpage
     
  12. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ออสเตรเลีย เจออากาศวิปริต ไซโคลน-ฝนกระหน่ำ ก่อนเจอไฟป่าซ้ำอุณหภูมิพุ่ง 42 องศา
     
  13. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน สหราชอาณาจักร, (SKY)- ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือเอ็นซีพี ถูกประกาศให้เป็นภัยคุกคามร้ายแรงและฉุกเฉิน
     
  14. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อวสานราชวงศ์หมิงของจีน ยุคสุดท้ายชาวฮั่นปกครองกันเอง ยุติที่เพียงจุดต้นไม้ท้ายวัง


    สุสานราชวงศ์หมิง ที่ฝังพระศพจักรพรรดิทั้ง 13 พระองค์ (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม กันยายน 2548)
    ที่มา ศิลปวัฒนธรรม กันยายน 2548
    ผู้เขียน ศานติ-นวรัตน์ ภักดีคำ
    เผยแพร่ วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563
    ใครที่ไปเที่ยว “กู้กง” หรือ “พระราชวังหลวง” ของจีน ที่กรุงปักกิ่ง จะสังเกตเห็นว่าด้านหลังพระราชวังหลวง จะมีเนินเขาอยู่ลูกหนึ่งและมี “ถะ” หรือ “พระเจดีย์จีน” อยู่บนยอดเขาแห่งนั้น เนินเขาแห่งนี้มีชื่อว่าเขา “จิ่งซาน”

    แท้จริงแล้วในสมัยโบราณภูเขาลูกนี้อยู่ภายในพระราชวังหลวง ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับพระราชวัง แต่มีสถานะเป็น “สวนหลวง” หรือ “พระราชอุทยานหลวง” แต่ปัจจุบันมีถนนตัดคั่นแยกส่วนกันกลายเป็นสวนสาธารณะ และหากใครต้องการเข้าไปก็ต้องเสียค่าเข้าชมแยกต่างหากจาก “กู้กง”

    เจดีย์จีนบนยอดเขาแห่งนี้มีประวัติว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยจักรพรรดิ “เฉียนหลง”…ด้านบนมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน แต่องค์พระเป็นของสร้างขึ้นใหม่เมื่อราว 20 ปีมานี้ แทนองค์เดิมที่ถูกทำลาย (ส่วนใหญ่จีนอ้างว่าถูกทำลายโดยชาติตะวันตกทั้ง 8 ประเทศที่เข้ามารุกรานในปลายราชวงศ์ชิง) แต่สิ่งที่ผู้เขียนจะนำเสนอในที่นี้ไม่ใช่พระเจดีย์จีนแต่ประการใด

    สิ่งที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ของเนินเขาแห่งนี้คือบริเวณต้นไม้เชิงเขาที่จักรพรรดิองค์สุดท้ายของ ราชวงศ์หมิง (เหม็ง) ทรงผูกพระศอปลงพระชนม์ ปิดฉากจักรพรรดิจีนชาติฮั่นองค์สุดท้าย ก่อนการเข้ามาของจักรพรรดิชาวแมนจูในอีกไม่กี่วันต่อมา

    แม้กระนั้น “จักรวรรดิ” ราชวงศ์หมิงก็มิใช่ถูกทําลายจากแมนจูแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแท้จริงแล้วเหตุที่จักรพรรดิองค์นี้ต้องทรงปลงพระชนม์ก็มาจากกบฏชาวฮั่นนั่นเอง กบฏกลุ่มนี้อยู่ภายใต้ การนําของ “หลี่จื้อเฉิง”

    เมื่อกองทัพของ “หลี่จื้อเฉิง” เคลื่อนพลเข้าปักกิ่ง ฮ่องเต้หมิงพระนาม “เฉิงจง” ได้เสด็จไปทอดพระเนตรกองทัพของหลี่จื้อเฉิงกําลังบุกเข้ามาในพระนครหลวง ปักกิ่ง พระองค์ทรงตกพระทัยที่ถูกขันทีหลอกลวงจึงเสด็จออกจากพระราชวังไปยังเนินเขาจิ่งซาน

    พระองค์โปรดให้พระมเหสีเสวยยาพิษ จากนั้นพระองค์ทรงฉีกฉลองพระองค์สีขาวซึ่งเป็นแพรออกมาชิ้นหนึ่ง แล้วทรงพระอักษรสารภาพดังที่ทวีป วรดิลก ได้แปลไว้ว่า

    “เรา, ผู้ต่ำต้อยต้อยคุณธรรม เป็นคนที่น่าเหยียดหยามที่สุดในบรรดาคนที่น่าเหยียดหยามทั้งหลาย เราคือผู้ที่เรียกร้องให้ซั่งตี้เทพเจ้าสูงสุดได้ระบายความพิโรธของพระองค์ลงมายังเศียรของเรา เสนาบดีหลอกลวงเรา เราเต็มไปด้วยความอัปยศอดสูเมื่อคิดว่าจะต้องไปเผชิญหน้ากับบรรพบุรุษ

    เราได้ถอดมงกุฎออกจากเศียรแล้ว เกศาของเราสยายลงมาปรกหน้า รอคอยอยู่แต่ว่าเมื่อไรพวกกบฎจะมาสับร่างเป็นชิ้นๆ ขออย่าให้พวกกบฎทําให้ราษฎรต้องเดือดร้อน เลย…”

    พระเจ้าเฉิงจงฮ่องเต้เสด็จหนีได้เพียงเนินเขาจิ่งซานท้ายพระราชวังเท่านั้น จะด้วยขัตติยมานะหรือไม่ก็ตาม และแล้วพระองค์ก็ทรงผูกพระศอปลงพระชนม์ที่ใต้ต้นสนเชิงเขาจิ่งซานนี้เอง

    สนต้นเดิมได้ตายไปแล้ว หากทางจีนได้นําต้นใหม่มาปลูกแทนในตําแหน่งเดิม และปักป้ายแนะนําสถานที่ไว้ด้วยว่าที่นี่ คือ “ที่ซึ่งพระเจ้าเฉิงจงฮ่องเต้ ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิงทรงผูกพระศอปลงพระชนม์หลังจากที่กองทัพหลี่จื้อเฉิงตีเมืองปักกิ่งได้”

    นี่คือ “จุดจบของราชวงศ์หมิง” ที่ชาวฮั่นปกครองชาวฮั่นด้วยกันเอง เป็นยุคสุดท้ายก่อนที่จะตกอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นแมนจู ไม่ใช่ฮั่น

    เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ เมื่อ 4 มกราคม พ.ศ. 2562

    https://www.silpa-mag.com/culture/article_25451
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บุคลากรทางการแพทย์ยื่นหนังสือร้องเรียน ให้อพยพเฉพาะชาวไต้หวันเท่านั้นกลับจากอู่ฮั่น
    • 10 February, 2020
    • กาญจน์ญาณ์ กฤษณ์ชญาคมน์


    บุคลากรทางการแพทย์ยื่นหนังสือร้องเรียน ให้อพยพเฉพาะชาวไต้หวันเท่านั้นกลับจากอู่ฮั่น

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เครื่องบินเช่าเหมาลำเที่ยวบินแรกที่อพยพประชาชน 247 คนจากอู่ฮั่นกลับสู่ไต้หวันปรากฏว่ามีผู้โดยสารกว่า 10 คน ที่ไม่ได้มีสัญชาติไต้หวัน และยังมีผู้โดยสาร 3 คนที่ไม่ได้มีรายชื่ออยู่ในรายการจัดลำดับความสำคัญ (Priority List) ของไต้หวันและไม่ใช่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในอู่ฮั่นด้วย ซึ่งหนึ่งในสามคนนี้ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่พลเมืองไต้หวันกว่า 900 คนยังคงในอู่ฮั่น รอคอยที่จะได้เดินทางกลับสู่ไต้หวัน เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ในไต้หวันต่อการจัดการของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ส่งคณะผู้โดยสารชุดแรกมาเช่นนี้จึงรวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียน โดยระบุว่าจะต้องป้องกันเป็นอันดับแรก ไต้หวันมีเตียงผู้ป่วยสำหรับกักกันโรคเพียง 1,100 เตียงเท่านั้น จึงต้องการให้พลเมืองไต้หวันเท่านั้นที่สามารถโดยสารเครื่องบินเที่ยวบินเช่าเหมาลำกลับมา และจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญโดยสารไปบนเครื่องบินด้วยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส และควรจำกัดจำนวนของเที่ยวบินเช่าเหมาลำ

    ด้านนายเฉินสือจง (陳時中) รมว.กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการป้องกันโรคติดต่อไต้หวัน ระบุว่า แน่นอนว่าเราต้องการที่จะช่วยทุกคน แต่ก็ไม่สามารถทำให้เรือของตนเองจมไปด้วย เราต้องมั่นใจว่าเรือจะไม่รั่ว จึงจะสามารถดูแลความปลอดภัยพวกเราได้ แล้วค่อยช่วยประชาชนไต้หวันในอู่ฮั่น ถึงจะมีเจตนาดี แต่ก็ต้องประเมินกำลังความสามารถที่มีด้วย

     
  16. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เพิ่มเติมครั้งที่ 56
    ประกาศเป็นสภาวะฉุกเฉิน ระดับนานาชาติ (ขั้นรุนแรง)
    ห้อง 62 ภาคพื้นแปซิฟิก ติดตาม สถานการณ์การโรคปอดอักเสบขั้นรุนแรงระบาด ในประเทศจีน ต่อเนื่อง
    /// เสียชีวิตแล้ว 906 ราย
    * ติดเชื้อขั้นรุนแรง 3500 ราย
    * จีนติดเชื้อ 45600 ราย
    / ใกล้ชิดคนป่วย 16200 ราย
    / เฝ้าระวังพิเศษ (มีไข้) 35000-45600 ราย
    //ทางการประกาศให้ ประชาชนที่อยุ่ในพื้นที่เสี่ยงอยุ่ในบ้าน 14 วัน
    ** ประเทศที่พบการติดเชื้อ 30 ประเทศ รวม 301 ราย (ไม่นับรวมผู้หายป่วยแล้ว) **
    ไทย 22 ราย (หาย 10 ราย)
    ญี่ปุ่น 86 ราย (หาย 1 ราย) กักตัว 3700
    เกาหลีใต้ 27 ราย สหรัฐ 11 ราย (หาย1)
    ออสเตรเลีย 13 ราย (หาย 2) ไต้หวัน 10 ราย
    มาเก๊า 10 ราย สิงคโปร์ 31ราย (หาย 2 )
    เวียดนาม 7 ราย (หาย 3)
    ฮ่องกง 21 ราย (เสีย1)
    ฝรั่งเศษ 6 ราย *เนปาล(หายหมด)
    มาเลเซีย 17 ราย(หาย 1) แคนนาดา 4 ราย
    รัสเซีย 2 ราย (หาย 5) กัมพูชา 1 ราย
    เยอรมัน 14 ราย ศรีลังกา (หาย)
    UAE 5 ราย ทิเบต 1 ราย ฟินแลนด์ (หาย) ยูเครน 1 ราย ไอเวอรีโคสต์ 1 ราย
    อินเดีย 3 ราย ฟิลิปินส์ 1 ราย (เสีย1)
    อิตาลี 2 ราย (กักตัว 6200) สวีเดน 1 ราย
    สเปน 2 ราย พม่า 1 ราย *เบลเยียม 1 ราย
    // แต่ละประเทศมีกักตัวเฝ้าระวังพิเศษรวมประมาน 8400 คน
    // จีนสั่งสร้าง รพ.พิเศษสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 1,000 เตียง สำหรับ #coronavirus โดยได้อ้างอิงตามรูปการจัดการกับ SARS ในปี 2003
    * เปิดใช้งานวันนี้ 3 ก.พ. 62 กำลังพล 1400 คน
    // สั่งสร้าง รพ.ขนาด 1300 เตียงเพิ่มอีก 1 แห่ง ให้เส็ดภายใน 10 วัน
    // มีการร้องขอเตียงสนามเร่งด่วนเพิ่มอีก 10000 เตียง
    // จีน สั่งอัพเกรด รพ.20 แห่ง ให้รองรับผู้ป่วยได้ 10000 คน
    // จีนเปิดใช้ระบบ 5 G เต็มรูปแบบให้ทีมแพทย์ เพื่อประสานการช่วยเหลือ รพ.ต่างๆ
    ** จีน ได้จัดตั้ง รพ.ที่พึ่งสร้างใหม่ เป็น ศ.การแพทย์ 1 ใน 2 แห่ง ขนาด 1600 เตียง
    * จัดตั้ง ศ.อพยพ 132 แห่ง รองรับได้ 12500 เตียง
    * ห้องปฎิบัติการเคมีBGI สามาถรับได้วันละ 10000 ราย
    ***ต่างประเทศ***
    ตอนนี้ มีเรือสำราญ 3 ลำ ที่มีการควบคุมโรคระบาด
    1 อิตาลี มีคนอยุ่บนเรือ 6200 คน ตรวจพบ 2 คน
    2. ญี่ปุ่น มีคนอยู่บนเรือราว 3,700 ราย ยืนยันติดเชื้อแล้ว 10 ราย
    3. ฮ่องกง ผู้โดยสาร 1800 คน
    ตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อ

    *** องค์การอนามัยโลก***
    ประชุมด่วน วันที่ 1 ก.พ63 ประกาศสภาวะฉุกเฉินโรคระบาดระดับนานาชาติ
    / cr ห้อง 62 ภาคพื้นแปซิฟิก / cr หน่วยวิจัยสถานการณ์ฉุกเฉินจีน
     
  17. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    # ด่วน
    [มาแนวเดียวจากจีน ตอนแรก โคโรน่า ก็ใช้คำว่าโรคลึกลับของจีน ตอนนี้ไนจีเรีย ก็โรคแปลกประหลาดยังไม่มีชื่อเรียก จะระบาดเหมือนโรคลึกลับของจีนไหม รอดูกัน]
    การแพร่ระบาดของโรคแปลก ๆ กำลังเกิดขึ้นในไนจีเรีย มีผู้เสียชีวิต 15 รายและผู้ติดเชื้อ 104 ราย
    ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการแพร่ระบาดของโรคนี้สามารถจบชีวิตของคุณได้ใน 2 วัน
     
  18. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #กราดยิงโคราช #ด่านักข่าวไร้จรรยาบรรณ
    #หยุดการกระทำที่ยัดเหยียดด้วยการด่าคนอื่นเพื่อทำให้ตัวเองดูดีและมีค่า
    ด่านักข่าวไร้จรรยาบรรณ “ยัดเยียด” คำว่า ไร้จรรยาบรรณให้นักข่าว !!! สุดท้ายเพจ “ดาม่า“ ต่างๆ ก็ยัดเยียดคำนี้ให้เรา เพื่อให้ประชาชนเข้ามาด่านักข่าว เพจดาม่า ก็ได้ยอดไลค์จากการยัดเยียด คำว่า ไร้จรรยาบรรณ ให้นักข่าวภาคสนาม รวมถึงตัวผมเองก็โดน !!!! อันนี้ไม่ว่ากันเราเป็นสื่อพร้อมให้ประชาชนวิจารณ์ได้
    นักข่าวภาคสนาม ต่างจากคุณตรงไหนรู้ไหม!!! พวกเขาลงพื้นที่จริง อยู่ในสถานการณ์จริง เราทราบดีว่าอันไหนรายงานได้ อันไหนไม่ได้ แน่นอนต่างจากคุณที่นั่งอยู่บ้านเฉยๆ ดูไลฟเฟซบุ๊ก ดูการถ่ายทอดสดนักข่าว แล้วกระดิกนิ้ว ยัดเยียด คำว่า ไร้จรรยาบรรณ ให้นักข่าว
    ผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าไปข้างในกับตำรวจ เพราะตำรวจร้องขอความช่วยเหลือให้เข้าไปบินโดรนในอาคาร เพื่อหาจุดซ่อนตัวของคนร้าย ถามว่ากลัวตายไหม!!! กลัวครับ พวกผมเองก็มีคนอยู่ข้างหลังเหมือนกัน ลูก เมีย พ่อ แม่ ไม่รู้ด้วยว่าเข้าไปข้างใน
    ทำไมถึงเข้าไปในนั้น !!! ซึ่งรู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน ขนาดตำรวจยังโดนมันยิงเสียชีวิต แล้วนักข่าวละ มันเห็นก็คงยิงตายเหมือนกัน ก็เพราะอยากให้ตำรวจจับคนร้ายได้เร็วๆ ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ โดรนของตำรวจถูกยิงพังเสียหายไปหลายลำ ตอนนั้นคิดว่าถ้าโดรนของผมโดนยิงพังก็ไม่เป็นไร ของส่วนตัวไม่เป็นไร ถ้าช่วยให้ตำรวจจับคนร้ายได้
    ผมเข้าไปเห็นเหตุการณ์ข้างในทุกอย่าง ท่านผบ.ตร รอง ผย.ตร ยืนอยู่แนวหน้าของน้องลูกตลอด เป็นขวัญกำลังใจให้ลูกน้อง ท่านสูญเสียลูกน้องของท่านไปถึง 2 คน ไม่อยากให้ลูกน้องคนอื่นๆ ต้องเสียขวัญนี้แหละผู้นำ ตอนนั้นผมอยากรายงานใจแทบขาด แต่นึกถึงว่าเราเข้ามาเพื่อเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เข้ามาเพื่อทำข่าว
    คนร้ายมันอยู่ในร้านฟู้ดแลนด์ ตำรวจยิงปะทะหลายครั้ง ที่พื้นมีแต่ลูกกระสุนเต็มไปหมด เหมือนกับในหนังเลย
    ตำรวจช่วยตัวประกันออกมาได้หลายคน สถานการณ์ข้างในมีแต่ความตึงเครียด
    บินโดรนจนรู้ว่าคนร้ายอยู่จุดไหน เมื่อตำรวจทราบพิกัดคนร้ายแล้ว ตำรวจจึงให้นักข่าวออกมาเพื่อความปลอดภัย ตอนนั้นผมรู้แล้วว่าคนร้ายถูกจับตายแน่นอน !!!
    หลังออกมาได้แล้ว ตอนนั้นตำรวจยังไม่ได้วิสามัญคนร้าย แต่ถ้านักข่าวอย่างพวกเรา ไร้จรรยาบรรณจริง กระหายข่าว อยากขายแต่ข่าวจริง ไร้จรรยาบรรณตามคำที่คุณยัดเยียดให้ กลับออกมาคงยืนรายงานข่าวก่อนนักข่าวคนอืนๆไปแล้ว เพื่อชิงพื้นที่ข่าวให้ได้เพราะตัวเองเข้าไปเห็นมากับตา
    แต่ตอนนั้นก็ได้รอจนกว่าตำรวจจะวิสามัญคนร้าย แล้วค่อยรายงานข่าว ตอนนั้นทำได้แค่รายงานข่าวในสิ่งที่พอพูดได้เท่านั้น
    หลังตำรวจวิสามัญคนร้ายแล้ว ผมถึงได้รายงานข่าวในสิ่งที่ตัวเองเข้าไปเห็นมากับตา ถ้าไร้จรรยาบรรณอย่างที่คุณยัดเยียดจริง คงรายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเรียกยอดไลค์ เพื่อเรียกเรตติ้ง ทำไมถึงไม่ทำแบบนั้นก็เพราะให้ความร่วมมือกับตำรวจ ตำรวจจะได้ทำงานง่าย และตัวประกันทุกคนปลอดภัย
    นักข่าวก็มีความรู้สึกเหมือนกัน หยุดยัดเยียด คำว่าไร้จรรยาบรรณให้คนอื่นเถอะครับ
    ฟังการรายงานข่าวของเขาให้จบสิ ฟังผ่านๆ.... ฟังให้จบแล้วค่อยด่า แบบนี้เค้าเรียกอะไรนะ ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด หรือเปล่าละครับ
    นักข่าวไม่ได้อยากได้ข่าวจนเกินเห็นความสำคัญของชีวิตคนอื่นหรอกนะ หยุดเถอะเพจดาม่า เอายอดไลค์จากการสร้างให้คนอื่นตกเป็นจำเลยของสังคม
    ตัวคุณเองมันยิ่งกว่าอะไรอีก มาทำข่าวด้วยตัวเองบ้างไหม อย่าดีแต่กระดิกนิ้วยัดเยียดความผิดให้คนอื่นเลยครับ “ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด”
     
  19. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปชช.ไต้หวันตื่นตัว 90% ใส่หน้ากากอนามัยขณะขึ้นรถไฟฟ้า แพทย์ชี้ ไม่จำเป็นต้องใส่...#RtiFanpage
     
  20. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บุคลากรทางการแพทย์ยื่นหนังสือร้องเรียน ให้อพยพเฉพาะชาวไต้หวันเท่านั้นกลับจากอู่ฮั่น...#RtiFanpage
     

แชร์หน้านี้