ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “นพ.มนูญ” แนะ เว้นระยะห่างคนใกล้ชิด จี้ รัฐบังคับสวมหน้ากาก แจกแอลกอฮอล์เจลฟรี

    นพ.มนูญ แนะ เว้นระยะห่างคนใกล้ชิด

    นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ ผู้ได้รางวัลแพทย์ดีเด่นจากแพทย์สภา ประจำปี 2561 โพสต์ภาพข้อความผ่านเพจเฟซบู๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC เผย ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 รายใหม่ของไทยในระยะหลัง ติดเชื้อจากผู้ป่วยรายเดิมซึ่งเป็นคนร่วมบ้านเดียวกันเพิ่มขึ้นทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด แนะนอกจากการเว้นระยะห่างกับคนนอกบ้านแล้ว ควรเว้นระยะห่างระหว่างคนภายในบ้านด้วย ระบุใจความว่า

    ปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกาหลังจากที่มีการทบทวนข้อมูลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 พบว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายให้ผู้อื่นได้ทางการพูด การหายใจ โดยไม่จำเป็นต้องไอ หรือ จาม จากคนป่วยที่ไม่มีอาการและคนที่อยู่ในระยะฟักตัว ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แนะนำให้ทุกคนใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกไปในที่สาธารณะ และต้องเว้นระยะห่าง 2 เมตร จากคนอื่น รวมทั้งล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล อย่าเอามือที่ยังไม่ได้ล้างมาจับหน้า ตา จมูก ปาก

    ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในจังหวะเวลาที่การระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มพุ่งสูงขึ้น ต่อด้วยเคอร์ฟิวช่วงกลางคืน เพื่อหยุดความเคลื่อนไหวออกนอกบ้านของประชาชน งดกิจกรรมทางสังคม ให้ทำงานจากบ้าน ออกนอกบ้านให้น้อยที่สุด มาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ลดโอกาสแพร่กระจายไวรัสจากคนสู่คน

    การวิเคราะห์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 รายใหม่ของไทยในระยะหลัง พบติดเชื้อจากผู้ป่วยรายเดิมซึ่งเป็นคนร่วมบ้านเดียวกันเพิ่มขึ้นทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด

    ดังนั้น นอกจากการเว้นระยะห่างกับคนนอกบ้านแล้ว ควรเว้นระยะห่างระหว่างคนภายในบ้านด้วย งดใกล้ชิด สัมผัส กอดคนสูงอายุ และเด็กๆ ในบ้าน ทุกคนยกเว้นเด็กเล็กเวลาอยู่รวมกันในบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัย เมื่อกลับถึงบ้านสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ล้างมือ เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ คอยเช็ดทำความสะอาดโต๊ะ ลูกบิดประตู ตลอดจนอุปกรณ์ที่คนในบ้านสัมผัสร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ควรแยกรับประทานอาหาร ใช้จาน ชาม ช้อน แก้วของตัวเอง ควรเปิดหน้าต่างหรือประตูให้อากาศถ่ายเท

    ในอนาคตอันใกล้เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดีขึ้น และรัฐผ่อนผันให้ประชาชนออกนอกบ้านได้ รัฐต้องบังคับให้คนไทยทุกคนใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้านอยู่ร่วมกับผู้อื่น ถ้าอยู่ในบ้านควรขอความร่วมมือให้ใส่หน้ากากอนามัยด้วย ถ้าอยู่คนเดียวไม่ต้องใส่ ทุกคนหมั่นล้างมือบ่อยๆ และยังต้องรักษาระยะห่าง 2 เมตร

    รัฐต้องมีงบซื้อหน้ากากอนามัย อาจเป็นหน้ากากผ้าก็ได้ถ้าไม่มี surgical mask และแอลกอฮอล์เจล แจกฟรีให้ประชาชน สอนวิธีใช้ให้ถูกต้อง งบแจกหน้ากาก และแอลกอฮอล์เจล น้อยนิด เมื่อเทียบกับความสูญเสียที่ต้องปิดเมืองอีกด้วย

    The post “นพ.มนูญ” แนะ เว้นระยะห่างคนใกล้ชิด จี้ รัฐบังคับสวมหน้ากาก แจกแอลกอฮอล์เจลฟรี appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุดสลดทั่วโลกตายพุ่ง 8.2 หมื่นศพ โควิดคุมไม่อยู่ ภูเก็ต ป่วยทะลุ 140 ราย
    อัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันที่ 8 เม.ย. มีผู้ติดเชื้อแล้ว 1,431,375 ราย รักษาหาย 301,417 รายคน เสียชีวิต 82,145 ศพ
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ทรัมพ์ขู่ตัดเงินบริจาคWHO
    #วันนอยด์ๆของเสี่ยอ่าง

    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เวลาสหรัฐ เสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ ของเราออกอาการเหวี่ยงหนัก ถึงกับประกาศขู่ว่าเขาจะใช้อำนาจที่มี สั่งตัดเงินบริจาคองค์การอนามัยโลก WHO โทษฐานเข้าข้างจีนในช่วงวิกฤติไวรัส เลยทำให้โรคระบาดลุกลามใหญ่โต และทำให้คนสหรัฐตายนับหมื่นคนเพราะ Covid-19

    ซึ่งทรัมพ์กล่าวโทษว่า เป็นเพราะ WHO ประกาศเรื่องนี้ช้าไป แล้วยังคัดค้านเรื่องมาตรการแบนนักท่องเที่ยวจีนไม่ให้เข้าประเทศอีก มันไม่เข้าท่าเลย แต่โชคดีที่เราไม่เชื่อ แล้วก็สั่งปิดพรมแดน แบนนักท่องเที่ยวจีนเสียก่อน ถ้าเขาทำเรื่องผิดพลาด เราก็ต้องทำให้เขารู้ (ด้วยการตัดเงินบริจาค??)

    นักข่าวก็งงหนัก ว่าวันนี้เสี่ยอ่างไปกินรังแตนที่ไหนมา จึงถามย้ำให้ชัดว่า ท่านเสี่ยคิดดีแล้วหรือ ที่สหรัฐจะตัดเงินบริจาคให้กับ WHO ในช่วงเวลาที่กำลังน่าสิ่ว หน้าขวานเช่นนี้ และหลายประเทศกำลังเดือดร้อน

    เสี่ยแกคงนึกขึ้นได้ เลยตอบอ้อมแอ้มว่า "ผมไม่ได้บอกว่าจะทำตอนนี้ แค่กำลังคิดว่าเราน่าจะทำอยู่"

    นักข่าวไม่รอช้า ตามขยี้ซ้ำ "อ้าว! แต่เมื่อสักครู่ท่านบอกว่าท่านจะทำ"

    "เปล่า ผมไม่ได้บอกว่าจะทำตอนนี้ เรากำลังพิจารณา สอบสวนอยู่"

    ก็เลยเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตขึ้นมา เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของ WHO จริงๆ ด้วยงบบริจาค 122.6 ล้านเหรียญ และมีการชงเรื่องตัดงบเงินบริจาคจริงๆ เหลือเพียง 58 ล้านเหรียญ

    แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นแค่นโยบายที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา

    และตอนนี้เสี่ยอ่างแกก็กำลังนอยด์หนัก เพราะเรื่องไวรัสโคโรน่า ยอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 12,000 พันคน กับผู้ติดเชื้อเกือบ 4 แสนแล้วในวันนี้ แกเลยโดนชาวอเมริกัน และ ฝ่ายเดโมแครตวิจารณ์หนักมาก แกก็ต้องโทษใครสักคน มารับหน้าเสื่อแทนแกหน่อย

    เป้าหมายแรกคือจีน แก..ไอ้ Chinese Virus เผลอไม่ได้เป็นต้องลั่นออกสื่อ

    เป้าหมายที่สองก็ WHO นี่เอง

    ซึ่งถามว่าเรื่องที่เสี่ยอ่างกล่าวโทษ WHO ก็มีบางส่วนที่จริง เพราะ WHO ค่อนข้าง take action ช้ามากในช่วงแรก กว่าจะประกาศเตือนภัยเรื่องไวรัสโคโรน่าอย่างจริงจัง ก็ปาเข้าไปเกือบสิ้นเดือนมกราคมแล้ว

    และกว่าจะประกาศว่า Covid-19 เป็น Pandemic หรือวาระโรคระบาดระดับสากล ก็เมื่อไหร่นะ? อ่อ 11 มีนาคม ที่ผ่านมานี่เอง

    ส่วนเรื่องที่ WHO ไม่เห็นด้วยเรื่องการแบนนักเดินทางจากจีนในช่วงแรก ก็เป็นเรื่องจริง แล้วก็เรื่องหน้ากากอนามัย เดี๋ยวก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องใส่ ใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ จนตอนนี้กลับมาบอกว่าควรใส่ บางทีก็งงๆกับ WHO เหมือนกันนะคะ WHO? Are you OK?

    แต่ทั้งนี้ เสี่ยอ่างก็บอกเองว่า สหรัฐไม่สนใจคำแนะนำของ WHO ประกาศแบนนักท่องเที่ยวจีนไปแล้วตั้งแต่ช่วงมกราคม ตอนที่ WHO ประกาศเตือนภัยไวรัสโคโรน่า เสี่ยแกก็ยังชิลล์อยู่ตั้งนาน บอกว่าไวรัสจิ๊บๆ ยังไงก็เอาอยู่ เพิ่งจะเห็นแก หน้าซีด แตกตื่น เอาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าตัวเลขมันขึ้นจนฉุดไม่อยู่ และเสียชีวิตกันเป็นใบไม้ร่วงนี่เอง

    แต่ในเมื่อปัญหามันเกิดขึ้นแล้ว โทษใครไป ปัญหาก็ไม่ได้ลดลงนะเสี่ย ยังไงก็ใจเย็นนี้ดนึง ค่อยๆพิจารณา ค่อยๆแก้ปัญหาไปดีกว่านะคะ เหวี่ยงมาก ระวังความดันขึ้นนะคะ เสี่ยขา

    ถึงแม้ว่าตอนนี้ สหรัฐยังไม่ได้ตัดเงินบริจาค WHO เสี่ยแกกำลังพิจารณาอยู่ แต่ถ้าเกิดสหรัฐตัดงบของ WHO จริงๆ ก็ไม่โทษกัน เพราะสหรัฐก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการเยียวยาชาวอเมริกันเหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ในนาทีนี้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ดีที่สุด

    และในขณะที่เสี่ยอ่าง กำลังเขียน Twitter อย่างเมามันส์อยู่นั้น ก็มีข่าวว่า Jack Dorsey CEO ของ Twitter ประกาศว่าจะบริจาคทรัพย์สินส่วนตัวมูลค่าถึง 1 พันล้านเหรียญเพื่อสมทบทุน บรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติไวรัสโคโรน่าครั้งนี้ด้วย ก็อนุโมทนาสาธุด้วยนะค้า ขอให้หล่อ ให้รวย มียอดผู้ใช้เยอะๆนะค้า

    แหล่งข้อมูล

    https://www.theguardian.com/us-news/2020/apr/07/trump-coronavirus-who-funding-deaths-briefing
    https://www.france24.com/en/2020040...-funds-from-who-says-un-body-is-china-centric
    https://www.who.int/westernpacific/about/partnerships/donors
    https://www.nytimes.com/2020/04/07/technology/jack-dorsey-donate-1-billion-coronavirus.html
    https://www.france24.com/en/2020040...dges-1-billion-for-coronavirus-relief-efforts

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำไมการระบาดของ #โควิด19 ในอินเดียจึงน่ากลัว?
    .
    วันนี้ผมได้มีโอกาสอ่านบทความในวารสารForeign Affairs ซึ่งเขียนวิเคราะห์เกี่ยวกับความพร้อมทางด้านสาธารณสุขของประเทศอินเดียในชื่อ “Coronavirus threatens Catastrophe in India A Vulnerable Population Braces for the Pandemic”โดย คุณ Vidya Krishnan บทความนี้ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 คือหลังอินเดียประกาศปิดเมืองไปแล้ว 1 วัน
    .
    ถึงบทความนี้จะมีอายุกว่า 2 สัปดาห์แล้ว แต่เนื้อสาระข้างในนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจนถึงปัจจุบันครับ เพราะว่าบทความเน้นวิเคราะห์ความพร้อมทางด้านสาธารณสุขของอินเดียในการรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่2019 ที่ผู้เขียนมองว่าเป็นภัยพิบัติใหญ่ที่กำลังคุกคามอินเดีย
    .
    ทั้งนี้ผมจะพยายามหยิบประเด็นและตัวเลขที่น่าสนใจมาอธิบายให้เห็นว่าทำไมการระบาดของโควิด19 ในอินเดียนั้นจึงเป็นที่น่ากลัวและน่ากังวล ซึ่งบทความนี้ก็แตะในหลายประเด็น แต่เน้นหนักที่สุดก็คือความไม่พร้อมของระบบสาธารณสุขและระบบการรักษาพยาบาลภายในประเทศ รวมถึงลักษณะเฉพาะบางอย่างของคนอินเดีย
    .
    เริ่มอย่างนี้ครับ สถานการณ์การระบาดของโควิด19 ในอินเดียนั้น ตอนนี้จัดได้ว่าเป็นการระบาดในลักษณะที่ติดกันเองภายในประเทศแล้ว จากก่อนหน้าส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศ ทำให้โอกาสการแพร่ระบาดมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น และความพิเศษของโรคนี้คือมุ่งทำลายผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว
    .
    อินเดียเป็นประเทศเบอร์ต้น ๆ ของโรคที่มีผู้ป่วยโรคเรื้อรังจำนวนมาก ประชากรกว่า 50 ล้านคนเป็นโรคเบาหวาน ในขณะที่อีกกว่า 54 ล้านคนเป็นโรคหัวใจ ยิ่งไปกว่านั้น อินเดียยังเป็นประเทศที่มีคนเป็นวัณโรคเยอะที่สุดในโลกด้วยนั่นคือ 2.8 ล้านคนจาก 10.2 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารชั้นดีสำหรับโควิด19 ในการพรากชีวิต
    .
    นอกจากเรื่องโรคประจำตัวที่เพิ่มความเสี่ยงให้อินเดียแล้ว ความแพนิค หรือวิตกกังวลในกลุ่มคนอินเดียนั้นก็เกิดขึ้นได้ค่อนข้างง่ายจากปัญหาข่าวปลอม หรือการรับรู้ข้อมูลที่ไม่ทั่วถึง มีรายงานการฆ่าตัวของผู้ป่วยโควิด19ในอินเดีย มีการรุมประชาทัณฑ์คนบางส่วนที่มีอาการไอในบางเมือง ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือมีการแสดงออกถึงความรังเกียจบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลเพราะเข้าใจว่านำเชื้อกลับบ้าน
    .
    ยิ่งไปกว่านั้นคนอินเดียเองพึ่งพาระบบสาธารณสุขของตัวเองได้ยาก เพราะต้องเข้าใจก่อนครับว่า นับตั้งแต่อินเดียได้รับเอกราชในปี 1947 ระบบสาธารณสุขของประเทศถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลปฏิรูปไม่สำเร็จ และลงทุนเงินไปกับด้านนี้น้อยมาก ระบบสาธารณสุขของอินเดียจึงตกไปอยู่ในมือภาคเอกชน มากกว่าภาครัฐ ซึ่งทุกวันนี้กินส่วนแบ่งการรักษาพยาบาลในประเทศมากถึงร้อยละ 74
    .
    ในขณะเดียวกันเตียงผู้ป่วยที่มีอยู่ทั่วประเทศในอินเดียนั้น ร้อยละ 40 อยู่ในมือของสถานพยาบาลเอกชน ซึ่งประมาณ 1 ใน 10 ของประชากรที่ยากจนที่สุดในอินเดีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของประชากรในประเทศเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงประกันสุขภาพของภาครัฐหรือเอกชน
    .
    ฉะนั้นการที่ระบบสาธารณสุขในอินเดียส่วนใหญ่อยู่ในภาคเอกชนส่งผลให้ราคาของการรักษาพยาบาลในอินเดียค่อนข้างสูง และการเข้าถึงการรักษาเป็นไปได้ยาก ไม่มีกี่รัฐในอินเดียเท่านั้นที่มีศักยภาพในการรักษาพยาบาลของภาครัฐ (รัฐเกรละ) ข้อจำกัดทางด้านงบประมาณส่งผลให้การรักษาและตรวจโรคทำได้จำกัด
    .
    ยกตัวอย่างเช่นรัฐฉัตรีครซึ่งมีประชากรราว 32 ล้านคน แต่โรงพยาบาลของรัฐมีเครื่องช่วยหายใจเพียง 150 เครื่อง ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เชี่ยวชาญเพียง 25 คนเท่านั้นที่จะสามารถวินิจฉัยโรคอย่างโควิด19ได้
    .
    ความขาดแคลนทั้งในเรื่องงบประมาณ อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันตัว รวมถึงเตียงผู้ป่วยทำให้แม้ในเวลาปกติ ทุก ๆ วันจะมีคนอินเดียเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1,400 คน ซึ่งสถานการณ์จะต่างออกไปมากหากมีการระบาดของโควิด19 ร่วมด้วย
    .
    แน่นอนว่าในสถานการณ์การระบาดของโควิด19 ปัญหาใหญ่ที่อินเดียเผชิญในตอนนี้คือข้อจำกัดในการตรวจหาเชื้อซึ่งในปัจจุบันยังคงทำได้ค่อนข้างล่าช้าและมีข้อจำกัดในการตรวจหาเชื้อได้ในแต่ละวัน เช่น การทราบผลการตรวจหาเชื้อต้องกินเวลามากถึง 2-3 วัน
    .
    โดยจนถึงตอนนี้อินเดียตรวจไปได้ประมาณ 1 แสนกว่าเคสเท่านั้น (คิดเป็น 0.02 คน ต่อ 1000 คน) ในขณะที่ศักยภาพในการตรวจหาเชื้อในแต่ละวันของอินเดียทำได้เพียงวันละไม่ถึง 10,000 คน ซึ่งเทียบกับประชากร 1.3 พันล้านคนนั้น ยังถือว่าน้อยมาก
    .
    ดังนั้นการติดเชื้อจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในประเทศอินเดีย อาจไม่ได้เกิดขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อจริงที่น้อย แต่เป็นผลมาจากศักยภาพในการตรวจหาเชื้อที่ยังคงมีข้อจำกัดอยู่ในปัจจุบันก็เป็นได้
    .
    ยิ่งไปกว่านั้นจากการประมาณการของผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุขของอินเดียพบว่าจนถึงวันอินเดียอาจจะมีเตียงผู้ป่วย ICU อยู่ที่ราวๆ 70,000 – 100,000 เตียงเท่านั้น ซึ่งหากการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ก็เป็นการยากที่เตียงเหล่านี้จะเพียงพอในการรับผู้ป่วยอาการหนักในอนาคต
    .
    ด้วยโครงสร้างทางด้านระบบสาธารณสุข รวมถึงระบบสุขอนามัยในอินเดียดังที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลให้อินเดียกลายเป็นพื้นประสบภัยใหญ่ของโลกจากการระบาดของเชื้อโควิด19
    .
    #กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #โรคระบาด #สาธารณสุข #ความไม่พร้อม

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “แมนเชสเตอร์” เปลี่ยนศูนย์ประชุมให้เป็นรพ.สนาม รองรับโควิด 19

    ข่าวโควิดล่าสุด เมืองแมนเชสเตอร์ของสหราชอาณาจักรปรับเปลี่ยนศูนย์ประชุมกลางแมนเชสเตอร์ให้เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ภายใต้ชื่อ NHS Nightingale Hospital North West ที่มีเตียงผู้ป่วยสูงถึง 750 เตียง

    ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศเสียชีวิตรวม 6,159 ราย เมื่อนับถึงบ่ายวันจันทร์ (6 เม.ย.) โดยเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 786 ราย

    Cr.xinhuathai.com

    The post “แมนเชสเตอร์” เปลี่ยนศูนย์ประชุมให้เป็นรพ.สนาม รองรับโควิด 19 appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวด่วน #ข่าวสั้น (8 เมษา) โตเกียววันนี้ติดเชื้อเพิ่ม 144 ราย ทุบสถิติเดิม / คานางาวะก็เช่นกัน / ฮอกไกโด second wave?

    นอกจากโตเกียวจะนิวไฮแล้ว คานางาวะก็เพิ่ม 43 รายในวันนี้ นิวไฮของจังหวัดเช่นกัน

    ด้านฮอกไกโด วันนี้เจอทีเดียว 10 ราย หลายฝ่ายกำลังหวั่นเกรง second wave

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
    #เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

    ภาพ : Every

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “สหรัฐ” ทดสอบวัคซีนต้านโควิด 19 กับมนุษย์ คาด 1 ปีรู้ผล

    วัคซีนต้านโควิด-19 8 เม.ย.63 สื่อต่างประเทศ รายงานอ้างข้อมูลจากบริษัท อิโนวิโอ ฟาร์มาซูติคัล ว่า ในขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) ได้อนุมัติการใช้ยาใหม่ชื่อ “INO-4800” ซึ่งเป็นดีเอ็นเอวัคซีนที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยเฉพาะ โดยทางบริษัทได้เริ่มทำการทดสอบยาดังกล่าวในระยะแรกกับมนุษย์ โดยมีอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี เข้าร่วมทดสอบในสัปดาห์นี้

    การทดสอบระยะแรก จะใช้อาสาสมัครผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีถึง 40 คนในเมืองฟิลาเดลเฟียและแคนซัสซิตี้ โดยผู้ร่วมทดสอบแต่ละคนจะได้รับวัคซีน INO-4800 จำนวน 2 โดส และเว้นระยะห่างกัน 4 สัปดาห์

    หลังจากนั้น จะศึกษาผลการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน และเก็บข้อมูลความปลอดภัยเบื้องต้น ขั้นตอนแรกนี้จะดูว่า วัคซีนมีความปลอดภัยเพียงพอ สำหรับการทดสอบการป้องกันโรคในกลุ่มขนาดใหญ่กว่านี้หรือไม่ ซึ่งกระบวนการศึกษาเหล่านี้คาดว่า อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี

    บริษัทอิโนวิโอ ฟาร์มาซูติคัล ถือเป็นบริษัทในสหรัฐ ได้เริ่มต้นทดสอบการใช้วัคซีนในคนเป็นครั้งที่สอง โดยการทดลองครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยในห้องทดลองของสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของสหรัฐ ได้ ทำการทดสอบล่วงหน้าไปแล้ว โดยวัคซีนตัวแรกมีชื่อว่า mRNA-1273

    The post “สหรัฐ” ทดสอบวัคซีนต้านโควิด 19 กับมนุษย์ คาด 1 ปีรู้ผล appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บรรยากาศในพื้นที่ตำบลป่าตอง

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ขู่ตัดเงินอุดหนุนองค์การอนามัยโลก (WHO) โทษฐานลำเอียงให้ความสำคัญกับจีนมากเกินไป และยังให้คำแนะนำที่ไร้ประสิทธิภาพจนทำให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดรุนแรงทั่วโลก ขณะที่จีนเริ่มอนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่นได้แล้วในวันนี้ (8) หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000036138
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ผอ.สศค.”เผย ส่งทีมตรวจสอบสาวที่โพสต์ข้อความบนโลกออนไลน์ ได้เงินเยียวยาว่างงานจากโควิด-15 เดือนละ 5 พันบาทมาอย่างฟลุ๊กๆ พร้อมเตรียมเรียกเงินคืน และส่งกระทรวงดิจิทัลฯ เข้าดำเนินการเอาผิดกรณีผู้ที่โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ โดยระบุตนเองได้รับเงิน ทั้งที่ไม่ได้รับเงินจริง

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000036427
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โซเชียลโวย! สาวโปรไฟล์หรู “อวดเงิน 5,000” โพสต์ดูถูก “แค่เศษเงิน”

    โซเชียลเดือด! ผลการลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันเริ่มจ่ายเงิน 5,000 บาท วันแรกส่อดราม่าเมื่อสาวโปรไฟล์รวย มีรถขับ ไลฟ์สไตล์หรู ที่ไม่ได้มีชีวิตลำบากโพสต์อวดได้รับเงินเยียวยา แถมดูถูกว่าแค่เศษเงินหลังตู้เย็น

    8 เม.ย. 2563 แฮชแท็ก #เราไม่ทิ้งกัน ลุกเป็นไฟเมื่อชาวเน็ตแชร์ภาพสาวสวยโปรไฟล์รวยโพสต์ได้รับเงิน 5,000 บาท จากมาตรการเยียวยาโควิดที่รัฐให้ลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัhttp://xn--q3c.com/ พบไลฟ์สไตล์หญิงสาวสุดหรู มีรถขับ เงินเป็นฟ่อน แถมข้อความดูถูกเงินช่วยเหลือว่าแค่เศษเงินอีกด้วย

    ทั้งนี้นอกจากความไม่ชาวเน็ตไม่พอใจในตัวหญิงสาวของชาวเน็ตแล้วยังลุกลามไปถึงมาตรการคัดกรองผู้ผ่านเกณฑ์รับเงินเยียวยา ซึ่งเคสนี้แสดงให้เห็นว่าเงิน 5,000 บาท ไม่ได้ไปถึงมือประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆแต่อย่างใด

    The post โซเชียลโวย! สาวโปรไฟล์หรู “อวดเงิน 5,000” โพสต์ดูถูก “แค่เศษเงิน” appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พายุผ่านพ้นไป ปลอดภัยกันนะทุกคน ⛈️️
    #ขออนุญาตเจ้าของภาพทุกๆท่านด้วยนะครับ
    #กระบุรีต้องรอด
    #พ่อหลวงจันทร์คุ้มครอง
    #ลูกเห็บยังมา

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลสำรวจหนึ่งจากบริษัทวิจัยเอกชนชี้ว่ามีบริษัท 42 แห่งในญี่ปุ่นที่ได้ยื่นล้มละลายหรือปิดกิจการเพราะยอดขายที่ตกลงอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

    เทโคกุ ดาต้าแบงก์ บริษัทวิจัยเครดิต ระบุว่า นับจนถึงช่วงเที่ยงวันของวันพุธที่ 8 เมษายน บริษัท 19 แห่งได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะผู้ล้มละลาย ด้วยหนี้สินมูลกว่า 10 ล้านเยน

    นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า บริษัท 23 แห่ง ได้ปิดกิจการและเริ่มปรึกษากับทนายคดีการล้มละลายเพื่อนำบริษัทไปขายทอดตลาดตามกฎหมาย

    หากแบ่งตามประเภทอุตสาหกรรม บริษัท 18 แห่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรมและสถานพักผ่อน ที่ได้รับผลกระทบจากการที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยกเลิกการจองเป็นจำนวนมาก

    บริษัท 13 แห่งอยู่ในอุตสากรรมร้านอาหาร ซึ่งมียอดขายลดลงเนื่องจากผู้คนหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน

    https://www3.nhk.or.jp/news/html/20200408/k10012375101000.html

    ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
    https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชวนแหงนฟ้ามองดู Super Pink Moon! พระจันทร์เต็มดวงใกล้โลกมากที่สุด ส่งภาพมาอวดกันหน่อย!

    #สัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่ อยู่บ้านเตรียมพร้อมถ่างตา พุธที่ 8 เมษายนนี้ชม Super Pink Moon ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกสุดในรอบปี! สัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่

    วันพุธที่ 8 เมษายน 2563 ปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี” หรือ ซูเปอร์ฟูลมูน (Super Full Moon)

    ห่างจากโลก 357,022 กิโลเมตร หากเปรียบเทียบกับดวงจันทร์เต็มดวงช่วงเวลาปกติ จะมีขนาดใหญ่กว่า 7% และสว่างกว่า 16%

    สังเกตได้ด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 17:52 น. เป็นต้นไป จนถึงรุ่งเช้า ผู้สนใจสามารถรอชมและเก็บภาพความสวยงามของดวงจันทร์ได้ในคืนดังกล่าว

    “Super Moon” เป็นเหตุการณ์ที่ดวงจันทร์เข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “Perigee”

    ดวงจันทร์มีวงโคจรเป็นวงรี ทำให้ระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ไม่เท่ากัน บางครั้งอยู่ใกล้บางครั้งอยู่ไกล ซึ่งเหตุการณ์ที่ดวงจันทร์ไกลโลกมากที่สุดจะเรียกว่า “Apogee”

    หากนำเอาภาพดวงจันทร์ในวันที่ 8 เมษายน ไปเปรียบเทียบกับภาพดวงจันทร์ในวันที่ 31 ตุลาคม ในปีเดียวกันนี้ เราก็จะได้ภาพดวงจันทร์ที่เห็นขนาดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน (ต้องถ่ายด้วยอุปกรณ์เดียวกัน) ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกมากที่สุด (Micro Full Moon) โดยในปีนี้ Micro Full Moon จะเกิดขึ้นตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม 2563

    ที่พิเศษไปกว่านั้นพระจันทร์เต็มดวงในเดือนเมษานั้นถูกเรียกว่า Pink Moon เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงใกล้โลกในเดือนเมษายน มองเห็นได้ทุกที่ เรียกว่า 'Pink Moon' หรือ 'พระจันทร์สีชมพู' ประกอบรวมกันจึงเป็นชื่อ Super Pink Moon

    อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นสีชมพู แต่ตั้งชื่อตามช่วงที่ดอกไม้ป่าสีชมพูชื่อ "กราวด์ ฟล็อกซ์” จะเบ่งบาน ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ นั่นเอง

    ที่มา
    http://www.narit.or.th/index.php/astro-photo-article/887-8
    https://news.thaipbs.or.th/content/279393
    ร่มธรรม ขำนุรักษ์
    เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
    environman
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ทะเลสดใส พบฝูงโลมารวมกลุ่มเริงร่าในทะเลภูเก็ต”
    วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๓ กรม ทช. โดยศูนย์วิจัย ทช. ทะเลอันดามันตอนบน ร่วมกับสำนักงาน ทช.ที่๖ (พังงา) นำเรือ ทช.๓๐๘ สำรวจสัตว์ทะเลหายากบริเวณเกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต ด้วยอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ร่วมกับการใช้กล้องถ่ายภาพ DSLR เพื่อศึกษาจำนวนประชากร การแพร่กระจาย ศึกษาสุขภาพ และอัตลักษณ์ของโลมาปากขวดแต่ละตัว พบโลมาปากขวด ๑ ฝูง จำนวน ๑๕ ตัว มีลูก ๒ ตัว กำลังหาอาหาร และพบพฤติกรรมการผสมพันธุ์จำนวน ๑ คู่ นอกจากนั้นพบโลมา ๑ ตัว มีแผลเป็นเกิดจากวัสดุเส้นใยขนาดยาวรัดกลางลำตัว บาดแผลดังกล่าวสมานหายดีเป็นปกติแล้ว ทั้งนี้ยังมีแผนออกสำรวจและติดตามจำนวนประชากรโลมาปากขวด ซึ่งเป็นกลุ่มโลมาปากขวดประจำถิ่น ต่อไป
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สัดส่วนการตรวจโควิด-19 ในไทย
    -คิดเป็น 2.88 % ตรวจ71,860 ตัวอย่าง
    -พบติดเชื้อ 2,067 คน จากประชากร 66.6 ล้านคน
    -ยืนยันไม่มีปิดบังซ่อนตัวเลข เพราะผลเสียมาก

    FB_IMG_1586354614733.jpg

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สนามบินภูเก็ต
    ในอดีตที่ไม่เคยหลับไหล
    แต่วันนี้เหลือแค่ความว่างเปล่า
    #SavePhuket

    Cr. จิรภัทร ทวีวงศ์สุนทร

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เทศบาลตำบลวิชิต เปิดรับลงทะเบียนเพื่อขอรับถุงยังชีพ สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคCOVID-19

    เตรียมเอกสารดังนี้
    1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
    2. สำเนาทะเบียนบ้าน
    3. แบบลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ
    4. หนังสือรับรองการพักอาศัยหรือการประกอบอาชีพ
    5. หนังสือสัญญาการเช่าบ้านหรือหนังสือยืนยันการว่างงาน (ถ้ามี)

    https://forms.gle/EvvwFHrE21iYrYx58

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ... "สงครามโลกครั้งที่2, คนอังกฤษขาดแคลนอาหารเสื้อผ้าอย่างหนัก ชีวิตลำบาก"

    ... ตอนนี้เรากำลังเห็น "การแย่งชิงทรัพยากรทั้งอาหารและยา" ระหว่างประเทศอย่างช้าๆแล้ว และเมื่อวิกฤติขยายวงกว้างและลึกขึ้น อาจจะซ้ำรอยเหมือนในอดีต

    ... ก่อน "สงครามโลกครั้งที่2" จะเริ่ม, อังกฤษต้องนำเข้าอาหารจากต่างประเทศประมาณ55ล้านตันต่อปี, เยอรมันนีต้องการสกัดเส้นทางขนส่งเสบียงนี้ให้ได้ทุกวิถีทาง,

    ... วิธีการหลักก็คือ การใช้เรือรบและเรือดำน้ำเยอรมันยิงทำลายเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ ทำให้อังกฤษขาดเสบียงทั้งกระทบต่อภาคพลเรือนด้วย, เมื่อเจอวิกฤติอาหารนำเข้าได้น้อยลง อังกฤษต้องแก้ปัญหาโดยใช้วิธี "การจัดสรรปันส่วนอาหารสินค้า" ตามจำเป็น

    ... เช่น แต่ละครอบครัวต้องมาลงทะเบียนต่อร้านขายของ แล้วเจ้าของร้านจะมีการกำหนดว่าแต่ละครอบครัวจะได้ส่วนแบ่งในการซื้อสินค้าอาหารเท่าไหร่

    ... ในเดือนมกราคม 1940 เบคอน เนยและน้ำตาลได้เริ่มระบบ "การปันส่วน" ตามมาคือเนื้อสัตว์ ปลา ชา แยม บิสกิต ซีเรียล อาหารเช้า ชีส ไข่ นมและผลไม้กระป๋อง "การปันส่วน" ได้รับความนิยมจากประชาชนและ Gallup โพลล์ แสดงให้เห็นว่าประชาชนมากกว่าร้อยละ 60 สนับสนุนระบบนี้

    ... อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านค้าขนาดเล็กจำนวนมากบ่นเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่ผู้ตรวจการอาหารใช้ในการจ้างคนตรวจสอบ, ทำให้เกิดการกระตุ้นให้มีการฝ่าฝืนกฎหมาย ในเดือนธันวาคมปี 1940 Isabella Tompsett ถูกจ้างในย่าน Stepney เพื่อไปที่ร้านขายเนื้อและพยายามซื้อเนื้อโดยไม่ต้องมีคูปอง ผลที่ตามมาคนขายเนื้อสามคนในถนนสายหนึ่งถูกปรับหนักสำหรับความผิดนี้ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านนี้อย่างลับๆเหล่านี้ ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าทำหน้าที่ไม่ดี เป็นการก่อกวนมากกว่าการควบคุม

    ... เช่น "ผู้ตรวจการอาหาร" ในเฮนดอนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการใช้ทีมงานผู้หญิงที่พยายามหลอกให้ผู้ช่วยเจ้าของร้าน เพื่อจะซื้อสินค้าโดยไม่ใช้คูปอง , เช่นลูกค้าที่มอบหนังสือปันส่วนและขอซื้อชาสองออนซ์ เมื่อผู้ช่วยร้านค้าเกือบจะให้บริการเธอเสร็จลูกค้าที่เป็นสายสืบก็เปลี่ยนใจและขอเพิ่มเป็นสี่ออนซ์ หากผู้ช่วยร้านค้าลืมที่จะออกคูปองสองออนซ์ชุดที่สองที่เพิ่มมาพวกเขาจะถูกดำเนินคดีเรียกเก็บเงินเป็นค่าปรับกับการฝ่าฝืนข้อจำกัด "การปันส่วน" ในช่วงเวลาสั้น ๆ ร้าน59 แห่ง เจ้าของร้านแถวเฮ็นตันถูกดำเนินคดีในข้อหาความผิดนี้

    ... มีการประกาศว่าในเดือนมีนาคม 1941, ภายใต้กฏหมาย "คำสั่งควบคุมอาหารระบบการปันส่วน" มีการฟ้องร้องมากถึง 2,141 คดีและมีการลงโทษ 1,994 คดี, มีอัตราความสำเร็จ 93.1% ในเดือนต่อไปมีการฟ้องร้องเพิ่มขึ้นเป็น 2,300 คดีและการลงโทษอีก 2,199 ครั้ง (ร้อยละ 95.6) เลขาธิการสมัชชาสมาคมแห่งชาติผู้ค้าขายบ่นว่าพ่อค้ารายย่อยกลายเป็น "ชนชั้นที่ถูกรังแกมากที่สุดในประเทศอังกฤษ"

    ... ในฤดูร้อนของปี 1940, รัฐบาลจัดตั้ง "คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ" เพื่อให้คำแนะนำแก่คณะรัฐมนตรีในเรื่องนโยบายอาหาร คณะกรรมการออกรายงานโดยอ้างว่าพลเมืองแต่ละคนสามารถอยู่รอดได้ในสิบสองออนซ์ของขนมปังปอนด์, หนึ่งออนซ์ของมันฝรั่ง, สองออนซ์ของข้าวโอ๊ตบด, หนึ่งออนซ์ของไขมัน, หกออนซ์ของผัก, นมหกจากสิบส่วนของไพนท์ต่อวัน, " วินสตันเชอร์ชิลล์" เป็นกังวลกับข้อเสนอนี้และคำแนะนำนี้ไม่ได้รับการเผยแพร่และบังคับใช้

    ... บางคนคิดว่า "การปันส่วน" อาหารไม่เป็นธรรมในการบังคับใช้ คนสามารถรับไข่เนยและเนื้อสัตว์ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมีคูปองในพื้นที่ชนบท, ในฤดูร้อนของปี 1941, ผู้ขายพืชผักผลไม้สดได้นำรถบรรทุกเข้าไปในชนบทเพื่อซื้อผักโดยตรงจากเกษตรกร

    ... ในเดือนสิงหาคม1940, รัฐบาลได้ออกกฎหมาย "การกินเหลือเศษอาหารเป็นความผิด" ที่ต้องโทษจำคุก หนึ่งในคนแรกที่ถูกดำเนินคดีคือ J. Lyons Ltd ซึ่งถูกปรับ ที่ปล่อยให้หนูกินอาหารในห้องครัว

    ... มันก็เป็นความผิดเช่นกันที่ร้านอาหาร "ให้บริการปลาและเนื้อสัตว์กับลูกค้าที่มาคนเดียว" เมื่อโอเดียนเธียเตอร์ในสตรีทแฮมถูกตัดสินว่ามีความผิดในเรื่องนี้ผู้จัดการและพนักงานเสิร์ฟสองคนของเธอถูกปรับเพราะ "ช่วยเหลือและสนับสนุนในการเสิร์ฟอาหารเนื้อสัตว์และปลาให้กับเจ้าหน้าที่บังคับใช้ผู้ช่วย" ( สายลับสุ่มตรวจ) ที่มาทานคนเดียว

    ... รัฐบาลประกาศในเดือนกันยายน 1939, "น้ำมันถูกปันส่วน" ด้วยเช่นกัน, ในช่วงฤดูร้อนปี 1942 กฏหมายนี้ก็ถูกยกเลิกหลังจากกองทัพญี่ปุ่นยึดครองแหลมมลายูและความสำเร็จของการโจมตีเรือดำน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติก

    ... สินค้าอื่น ๆ เช่น" บุหรี่และแอลกอฮอล์" ไม่เคยเข้ากฏหมายการปันส่วนอย่างเป็นทางการ แต่มักขาดตลาด เพราะเจ้าของร้านบางคนเก็บส่วนที่มีจำกัด ไว้สำหรับลูกค้าประจำ สิ่งนี้สร้างความรู้สึกไม่ดีสำหรับคนอื่นอย่างมากและเจ้าของร้านจะต้องถูกรายงานต่อกระทรวงอาหาร

    ... "เด็กได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากผู้ใหญ่" และมีสิทธิได้รับอาหารพิเศษที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต เช่นนมและน้ำส้ม โครงการนมแห่งชาติจัดหานมหนึ่งไพน์สำหรับเด็กทุกคนที่มีอายุต่ำกว่าห้าปี สตรีมีครรภ์และเด็กเล็กมีสิทธิ์ได้รับนมฟรีหากรายได้รวมของผู้ปกครองน้อยกว่า 40 ชิลลิงต่อสัปดาห์

    ...ช่วงสงคราม, "เสื้อผ้า" ได้รับการปันส่วนด้วยเช่นกัน, ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 1941 ระบบการให้คะแนนอนุญาตให้คน "ซื้อเครื่องแต่งกายใหม่ได้แค่หนึ่งชุดต่อปี" เพื่อประหยัดผ้า, "กางเกงของผู้ชาย" ห้ามพับปลายขาขึ้นมาเย็บเพื่อประหยัดผ้า, ขณะที่ "กระโปรงของผู้หญิง" นั้นต้องสั้นและตรง, "จีบ" ในชุดชั้นในสตรีถูกห้ามผลิต

    ... นิตยสารผู้หญิงอัดแน่นไปด้วยคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีการ เช่นผ้าม่านเก่าอาจถูกนำมาตัดขึ้นเพื่อทำชุด , "ถุงน่อง" ขาดตลาด ดังนั้นเด็กผู้หญิงจึงระบายสีขาด้วยน้ำเกรวี่ บางครั้งเพื่อนก็ช่วยวาดด้วยปากกาเขียนคิ้วที่ด้านหลังของพวกเขาเพื่อให้ดูเหมือนตะเข็บถุงน่อง

    ... ในเดือนพฤษภาคมปี 1943 ค่าใช้จ่ายคูปองเสื้อผ้าประจำปีถูกตัดจาก 48 เป็น 36 ต่อผู้ใหญ่ หนึ่งคน, ต่อมาจำนวนคูปองนี้ลดลงเหลือ 20 เมื่อมีการพิจารณาว่าเสื้อโค้ทต้องการคูปอง 18 ใบการลดนี้ทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงสำหรับผู้คน

    ... "ระหว่างวิกฤติหรือสงครามใหญ่" ... ถ้าวิกฤติโดมิโนลามไปเป็นวิกฤติการเงิน เศรษฐกิจ เราต้องกู้เงินต่างชาติ ทั้งหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนพุ่ง วันนั้นเงินเก็บร่อยหรอ เราต้องประหยัดเพื่อลดหนี้ครัวเรือนด้วย และเรื่องแบบนี้น่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง การใช้ชีวิต การใช้ทรัพยากร ในชีวิตประจำวันจะไม่เหมือนยามปรกติ คนปรับตัวได้ก่อนจะอยู่รอด รัฐบาลต้องมองไกลและวางแผนไว้แต่เนิ่นๆ มิฉะนั้น ...

    .

    ...
    https://spartacus-educational.com/2WWrationing.htm

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แค่เศษเงิน!!
    สาวโพสต์หลังรับเยียวยา 5 พัน
    บอกแค่เศษเงินหลังตู้เย็น!

    กำลังเป็นกระแสในสังคมออนไลน์อยู่ในตอนนี้ภายหลังจากที่หญิงเจ้าของเฟซบุ๊คชื่อ NaNa Kochaporn ได้มีการโพสต์ข้อความหลังได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลจำนวน 5 พันบาทโดยระบุว่าเงินดังกล่าวเป็นเพียงแค่เศษเงินหลังตู้เย็น!

    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000036142

    #เราไม่ทิ้งกัน #เงินเยียวยาผู้รับได้รับผลกระทบโควิด #กระทรวงการคลัง #รัฐบาล

     

แชร์หน้านี้

Loading...