ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    • กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) รับรับไฟเขียวให้ยกร่าง "กฎกระทรวง" เพื่อเป็นเครื่องมือและอำนาจในการควบคุมและป้องกันการกัดเซาะชายหายทั่วประเทศ จากเดิมที่กฎหมายกำกับ แต่มีช่องโหว่ทำให้กรมโยธาธิการฉวยโอกาสใช้วิธีการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นมากถึง 74 โครงการ

    • นั่นคือที่มาของมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อยับยั้งการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นยิบย่อยไปทั่วแทบทุกหาด โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย แต่กลับเกิดปัญหาการกัดเซาะมากขึ้นตามมา รวมทั้งกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่ง

    • โครงการเหล่านั้นไม่มีมาตรฐานทางวิชาการรองรับ เพราะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นแบบลวกๆ ซึ่ง ทช.รายงานต่อที่ประชุมในครั้งนี้ว่า “การก่อสร้างเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อเนื่อง ลุกลามไปเรื่อย เกิดการเสียสมดุลของระบบนิเวศ”

    • อย่างไรก็ตาม ภายใต้กฎกระทรวงที่จะออกมาหลังจากนี้จะกำหนดให้มีการศึกษาผลกระทบหรือ Environmental Checklist ซึ่งเป็นการศึกษาผลกระทบฉบับย่อที่ไม่เข้มข้นเท่าการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งคาดว่าจะมอบหมายให้คณะอนุกรรมการบูรณาการด้านการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งทะเลมีบทบาทที่ชัดเจนในการดำเนินการศึกษาความเหมาะสม

    • เนื่องอนุกรรมการชุดนี้ระบุถึงอำนาจหน้าที่ไว้อย่างครอบคลุม ดังนี้ 1) พิจารณาให้ข้อเสนอแนะ ข้ดคิดเห็นและคำปรึกษาด้านวิชาการ ด้านกฎ ระเบียบ และอื่นๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายละแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ และคณะกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัด

    • 2) พิจารณาให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น และให้คำปรึกษากับกรม ทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนชายฝั่งและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2558

    • 3) พิจารณาจัดทำยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติการและงบประมาณการจัดการป้องกันแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่งแบบบูรณาการ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการนโยบายละแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ พิจารณาให้ความเห็นชอบและให้หน่วยงานแปลงไปสู่การปฏิบัติต่อไป

    • 4) พิจารณากลั่นกรองและให้ข้อเสอนแนะ ข้อคิดเห็นต่อโครงการ มาตรการ ระเบียบหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติสำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่งในภาพรวมและเชิงพื้นที่

    • 5) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยในการปฏิบัติงานของคณะอนุกรรมการได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

    • 6) ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายละแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ

    • อย่างไรก็ดี ในทางวิชาการ อาจารย์ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง จากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นักวิชาการด้านชายฝั่งทะเลที่เกาะติดเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนานและอยู่ในอนุกรรมการบูรณาการฯ ด้วย ยืนยันว่าเขาไม่เห็นกับการกำแพงกันคลื่น โดยมี "เหตุผล 10 ประการของคนไม่เอากำแพงกันคลื่น" สนับสนุน ดังนี้

    • 1.โดยความเข้าใจพื้นฐานหรือสามัญสำนึกหาดทรายจะหายไปและกลับมาตามฤดูกาล ไม่ได้มีปัญหาการกัดเซาะ จึงไม่จำเป็นต้องสร้างกำแพงกันคลื่น กำแพงที่ถูกสร้างขึ้นจะเป้นปัจจัยเร่งให้เกิดการกัดเซาะฐานรากจนลึกและจะพังในที่สุด

    • 2. เมื่อสร้างกำแพงกันคลื่นซึ่งเป็นของแข็งไปสู้คลื่นจะรับแรงสะท้อนกลับเอาทรายออกไป กำแพงจึงเร่งการกัดเซาะชายฝั่งลึกลงไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้คลื่นมีพลังงานสูงมากขึ้น เพราะไม่มีทรายเป็นแรงเสียดทานตามหลักฟิสิกส์ และจะทำให้คลื่นยิ่งสูงกว่าเดิม 7 เท่าจากความสูงปกติ

    • 3. การสร้างกำแพงทำให้พื้นที่บริเวณใกล้เคียงกำแพง (ทั้งด้านซ้ายและขวา) ถูกกัดเซาะหนักกว่าเดิม และจะต้องมีโครงการมาซ่อมแซมไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด

    • 4. มักพูดกันว่าไม่มีวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องทรัพย์สินประชาชน หากราชการอ้างว่าไม่มีองค์ความรู้ก็ไม่ควรสร้างกำแพง แต่สามารถใช้วิธีการสร้างเขื่อนไม้ซึ่งเป็นวิธีการชั่วคราวและสามารถรื้อออกได้ แต่กำแพงเมื่อสร้างแล้วการจะรื้อทำได้ยากและสิ้นเปลืองงบประมาณ หรือไม่สามารถแก้ไขได้อีก แต่จะอยู่ไปชั่วนาตาปี แต่ราชการไม่ฟัง ไม่เชื่อ

    • 5. มีตัวอย่างความเสียหายจากการสร้างกำแพงกันคลื่นเกิดขึ้นหลายพื้นที่ อาทิ ชายหาดปราณบุรี อ่าวน้อย ฯลฯ จึงไม่ต้องนำโมเดลอื่น ๆ มาอ้างว่าจะทำให้ชายฝั่งถูกกัดเซาะเป็น 100 เมตร เพราะไม่เป็นจริง เช่น กรณีการสร้างกำแพงที่หาดม่วงงามก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะไม่ได้มีการกัดเซาะตามที่อ้าง

    • 6. คุณค่าของหาดทรายในเชิงระบบนิเวศหายไป เนื่องจากการหายไปของทรายทำให้หลายอย่างหายไปด้วย เช่น ปูลม จั๊กจั่น เต่าทะเล กุ้งเคย ฯลฯ กรณีกุ้งเคยเมื่อหายไปอาชีพชาวบ้านก็หายไปด้วย หรือกำแพงกันคลื่นที่ปราณบุรีสิ่งที่มาแทนที่คือสาหร่ายที่เขียวที่เหยียบแล้วลื่นมาก รวมถึงได้เพรียงและเปลือกหายนางรมมาแทนที่

    • 7. คุณค่าความเป็นแหล่งท่องเที่ยวหายไป เพราะกำแพงได้ทำให้คุณค่าหาดทรายหายไป ชายหาดคอนกรีตที่บอกว่ามีความรู้สึกเป็นชุมชนเมืองนั้นเป็นภูมิทัศน์ที่นำมาหลอกลวงกันทั้งนั้น

    • 8. สูญเสียงบประมาณของประเทศ มีการดำเนินโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นไปแล้วทั้งหมด 74 โครงการ วงเงิน 6,900 ล้านบาท และในปัจจุบันใช้งบฯ ก่อสร้างในแต่ละพื้นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากกองหิน 3 หมื่นกว่าบาท เพิ่มเป็นกิโลเมตรละ 200 ล้าน เช่น ที่หาดมหาราช กิโลเมตรละ 150 ล้านบาท อ่าวน้อยกิโลเมตรละ 110 ล้านบาท ขณะที่ปราณบุรีพังมาหลายรอบและใช้งบฯ ซ่อมแซมมาหลายรอบเช่นกัน

    • 9. มีทางเลือกอีกหลายวิธีที่ไม่จำเป็นต้องสร้างกำแพงกันคลื่น โดยมติ ครม. เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2561 ได้เห็นชอบให้เลือกใช้มาตรการสีขาว สีเขียว สำหรับสีขาวคือให้ถอยร่น ปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ไม่ให้สู้คลื่น หรือถ้ามีการกัดเซาะก็ให้กัดเซะอยู่แค่นั้น หากเป็นที่เอกชนให้เลือกใช้วิธีจ่ายค่าชดเชย หากเป็นพื้นที่ของรัฐก็ไม่มีปัญหาและไม่เคยมีที่ไหนกัดเซาะถึง 100 เมตร

    • มาตรการสีเขียว คือการฟื้นฟูโครงสร้างทางธรรมชาติ เช่น ป่าชายเลนหายไปก็เติมเข้าไป ป่าชายหาด เช่น ผักบุ้งทะเล หรือฟื้นฟูหาดทรายกลับมา อาทิ การเติมทราย โดยนำทรายที่ถูกพัดไปมาเติมจุดที่หายไป มติ ครม.ให้เลือกใช้ 2 มาตรการดังกล่าว

    • แต่มีมาตรการสีเทาโผล่ออกมาด้วย คือเรื่องโครงสร้าง เช่น กองหิน ซึ่งมาตรการนี้นานาชาติกำหนดขึ้นและควรนำมาใช้เป็นมาตรการสุดท้าย แต่มาตรการสีเขียวที่ว่าจะต้องทำ EIA ต่างจากกำแพงกันคลื่นบ้านเราที่ไม่ต้องทำ EIA (ยกเลิกปี 2556) นั่นเท่ากับกำแพงกันคลื่นที่ถูกเลือกใช้เป็นมาตรการที่ร้ายแรงที่สุด

    • 10. นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลและหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลทะเลบอกว่าไม่ควรก่อสร้างกำแพงกันคลื่น กับหน่วยอื่นที่ไม่รู้จักทะเล แต่ไปจ้างบริษัทที่ปรึกษามาสร้างมารับรองกันเองโดยไม่มีความรู้...คนไทยควรจะเชื่อใคร
    #saveหาดม่วงงาม #ปกป้องชายหาดสงขลา #ปกป้องชายหาดทั่วประเทศ
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    • ระหว่างปี 2489 และ 2501 สหรัฐอเมริกาทำการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนบนเกาะปะการังเอนีวีทอก (Enewetak Atoll) ของหมู่เกาะมาร์แชลในมหาสมุทรแปซิฟิก ในชื่อปฏิบัติการไอวี่ (Operation Ivy) ในยุคนั้นมนุษย์ยังไม่ตระหนักถึงการทำลายสิ่งแวดล้อมและไม่สนใจผลกระทบกัมมันตรังสีที่มีสิ่งมีชีวิตมากนัก
    FB_IMG_1590241660340.jpg
    • เกาะกลางมหาสมุทรอันสวยงามจึงมีบาดแผลจากการระเบิดครั้งใหญ่ แถมหลังจากนั้นสหรัฐอเมริกายังใช้หลุมที่เกิดจากการทดลองนิวเคลียร์บนเกาะรูนิต (Runit Island) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 40 เกาะของเกาะปะการังเอนีวีทอกเป็นที่ตั้งของคลังเก็บกากกัมมันตภาพรังสีจาการทดลอง ด้วยการสร้างโดมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 เมตรขึ้นครอบหลุมเก็บขยะอันตราย เรียกว่า โดมรูนิต (Runit Dome)

    • สหรัฐอเมริกาใช้แรงงานทหาร 4,000 คนในการเก็บกวาดขยะกัมมันตรังสีซึ่งเป็นหน้าดินที่ปนเปื้อน 73,000 คิวบิกเมตรจากเกาะต่างๆ ที่ถูกทดลองนิวคเลียร์และใช้เวลาสามปีสร้างหลุมฝังขยะกัมมันตรังสีเสร็จสมบูรณ์ แต่ปฏิบัติการนี้มีผู้คเราะห์ร้ายต้องเสียชีวิตไป 6 คน

    • การทดลองนิวคเลีย์ที่เกาะปะการังเอนีวีทอก เป็นหายะทางสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งทำให้ดินและลากูนมีกัมมันตภาพรังสีในระดับที่สูงมาก ส่งผลกระทบต่อประชากรท้องถิ่นและสภาพแวดล้อมทางทะเล สหรัฐพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการส่งทีมมาเก็บกวาดแล้วครั้งหนึ่งในทศวรรษที่ 70

    • แต่มันยังไม่จบแค่นั้น ปฏิบัติการเก็บกวาดคร่าชีวิตทหารอเมริกันเป็นจำนวนมาก Gary Pulis หนึ่งในทหารที่ร่วมเก็บกวาดเล่าว่า มีสมาชิกของกองทัพ 8,033 นายจากกองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ถูกส่งไปทำความสะอาดเกาะระหว่างปี 2520 และ 2523

    • แต่เมื่อถึงเดือน พ.ย. 2558 มีเพียง 239 นาย จาก 8,033 คนที่รอดชีวิต ส่วนที่เหลือเสียชีวิตจากโรคมะเร็งและโรคทางเดินหายใจที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสกัมมันตรังสี

    • และมันก็ยังไม่จบแค่นั้น หลังจากนั้นไม่นานเริ่มมีความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการเสื่อมสภาพของโดมเก็บขยะและการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ความกังวลนี้เริ่มหนักขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 2010 เป็นต้นมา เพราะปัญหาโลกร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นจนกัดเซาะโดมรูนิตทำให้น้ำทะเลรั่วไหลเข้าไปในคลังเก็บขยะกัมมันตรังสี

    • หมู่เกาะมาร์แชลสูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 6 เมตรแต่เกาะปะการังเอนีวีทอกอาจจะต่ำกว่านั้นโดยระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 7 มิลลิเมตรต่อปีตั้งแต่ปี 2536 ซึ่งหมายความจะจมน้ำทะเลก่อนใครเพื่อน และตอนนี้บางส่วนของเกาะปะการังยังถูกน้ำทะเลท่วมบ่อยครั้งมากขึ้นจนบางครั้งอยู่อาศัยไม่ได้แล้ว

    •ภายในปี 2573 ระดับน้ำทะเลแถบหมู่เกาะมาร์แชลล์จะเพิ่มขึ้นระหว่าง 3 ถึง 16 เซนติเมตรซึ่งส่งผลให้เกิดสตอร์ม เสิร์จ (แรงพายุยกระดับคลื่นเข้าท่วมแผ่นดิน) และการเกิดน้ำท่วมชายฝั่ง ภายในปี 2643โดมอาจจะจมอยู่ใต้น้ำ

    • แต่ในรายงานรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2556 เตือนว่าโดมอาจแตกเป็นเสี่ยงๆ เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นและพายุใหญ่อื่นๆ ที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หากโดมถูกทำลายขยะกัมมันตรังสีจำนวนมากจะไหลออกสู่น่านน้ำโดยรอบ ซึ่งความรุนแรงของพายุที่เพิ่มขึ้นก็อาจเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน

    • ตอนนี้มีการตรวจพบว่ามีพลูโทเนียมในระดับสูงในหอยมือเสือซึ่งเป็นอาหารอันโอชะในหมู่เกาะมาร์แชลล์ ทำให้เกิดความกลัวกันว่าน่านน้ำของแถบนี้อาจปนเปื้อนกัมมันตรังสีระดับสูงอีกครั้งจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าโดมรูนิตอาจจะเกิดการเสื่อมสภาพจนปลื่อยกัมมันตรังสีออกมาแล้ว?

    • นี่เป็นครั้งแรกที่ปัญหาโลกร้อนเชื่อมโยงโดยตรงกับการทดลองอาวุธทำลายล้างสูง Michael Gerrard ประธานสถาบัน Earth Institute ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์กที่ศึกษาเกาะปะการังเอนีวีทอกบอกกับ Global Citizen เกาะแห่งนี้คือการโคจรมาพบกันของปัญหาใหญ่แห่งศตวรรษ 2 ปัญหา คืออาวุธนิวเคลียร์และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นเพราะโลกร้อน

    • ทั้ง 2 ปัญหาถ้าแก้ไขไม่ทันการณ์ มนุษยชาติจะพบกับจุดจบเอาง่ายๆ

    ข้อมูลจาก:
    https://marshallislands.llnl.gov/enewetak.php
    https://www.civilbeat.org/2016/01/n...help-vets-who-cleaned-up-after-atomic-blasts/
    https://www.pri.org/stories/2018-02-19/seawater-infiltrating-nuclear-waste-dump-remote-pacific-atoll
    https://www.globalcitizen.org/en/content/enewetak-atoll-marshall-islands-nuclear-climate-ch/
    https://www.businessinsider.com/marshall-islands-nuclear-dome-radioactive-waste-11
    https://www.abc.net.au/news/2019-06...eignites-nuclear-contamination-fears/11181940
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    • ที่ประชุมคณะกรรมการระดับชาติด้านชายฝั่ง มีมติให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไปยกร่างกฎกระทรวงมาป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

    • นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผย igreen ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้มีมติเห็นชอบให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงกำหนดพื้นที่ใช้มาตรการในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งสำหรับการดำเนินโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันคลื่นริมชายหาดและเขื่อนป้องกันตลิ่ง

    • สาระสำคัญของกฎกระทรวงนี้จะพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ปัญหาและกำหนดไว้ชัดเจนว่าการดำเนินการก่อสร้างกำแพงป้องกันคลื่นริมชายหาดและเขื่อนป้องกันตลิ่งจะต้องมีการจัดทำ Environmental Checklist ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดทำวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมฉบับย่อของ EIA (เนื่องจากพื้นที่ชายฝั่งไม่เกิน 200 เมตรไม่ต้องจัดทำ EIA)

    • ต่อไปการจะก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นพื้นที่ใดจะต้องทำ Environmental Checklist และ ทช.จะมีหน้าที่ในการกำหนดพื้นที่ว่าพื้นที่ใดสามารถใช้ประโยชน์อะไรให้เกิดความเหมาะสมกับพื้นที่ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2538 มาตรา 21

    • ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้เห็นชอบระบบกลุ่มหาดในประเทศไทยซึ่งมี 3 ระบบ ซึ่งต่อไปนี้จะมีความชัดเจนว่าระบบหาดใดจะใช้ประโยชน์หรือดำเนินการอะไรได้และดำเนินการแล้วจะไม่เกิดผลกระทบ

    • รองอธิบดี ทช. ระบุว่า ตามขั้นคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลา 4-5 เดือน เพราะหลังการรับรองมติคณะกรรมการแล้วจะเร่งดำเนินการเพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและส่งต่อให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจอีกครั้ง สำหรับโครงการก่อสร้างที่กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการไปแล้วและเกิดปัญหาผลกระทบคงต้องไปแก้ปัญหาเฉพาะกรณีต่อไป

    • สำหรับมาตรา 21 ระบุไว้ว่า เพื่อป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ (คณะกรรมการระดับชาติที่รองนายกฯเป็นประธาน) มีอํานาจออกกฎกระทรวงเพื่อกําหนดเขตพื้นที่ที่จะใช้มาตรการในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง

    • การออกกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่ง ต้องมีแผนที่แสดงแนวเขตแนบท้ายกฎกระทรวงและต้องกําหนดมาตรการดังต่อไปนี้
    1) ห้ามดําเนินกิจกรรมหรือกระทําการใดๆ ที่อาจส่งผลหรือก่อให้เกิดปัญหาในการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มขึ้น

    • 2) กําหนดหลักเกณฑ์ในการดําเนินการกับสิ่งก่อสร้างหรือกิจกรรมที่ได้ดําเนินการภายในเขตพื้นที่ที่กําหนดก่อนที่จะมีการออกกฎกระทรวง โดยจะกําหนดให้สามารถดําเนินการต่อไปได้ หรือให้ระงับการดําเนินกิจกรรม หรือรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่ส่งผลกระทบต่อการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งโดยได้รับค่าชดเชยตามความเหมาะสม

    • 3) กําหนดหลักเกณฑ์ในการใช้ประโยชน์ในที่ดินที่อยู่ภายในแนวเขตพื้นที่ที่ประกาศกําหนด 4) กําหนดมาตรการอื่นใดตามที่เห็นสมควรเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง

    • ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเล จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะนี้ด้วย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวตอนหนึ่งว่า ทช.ได้รายงานข้อมูลต่อที่ประชุมว่า “การก่อสร้างเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อเนื่อง ลุกลามไปเรื่อย เกิดการเสียสมดุลของระบบนิเวศ ฯลฯ”

    • นอกจากนี้ ร่างประกาศกระทรวง กำหนดว่า...ให้พื้นที่ตั้งแต่แนวชายฝั่ง... เป็นเขตมาตรการป้องกันการกัดเซาะ ห้ามมิให้มีการดำเนินโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันคลื่น/เขื่อนป้องกันตลิ่ง เว้นแต่จัดทำมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม

    • มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมในที่นี้คือ Environmental Checklist จัดนำเสนอเพื่อขออนุญาตจากอธิบดี ทช.

    • หมายถึงว่า เรากำลังจะมีอะไรบางอย่างมาดูแลการก่อสร้างประเภทนี้ทั้งหมด ไม่ใช่ให้สร้างไปก่อน พอบางแห่งเกิดปัญหาก็มาวุ่นวาย เหมือนที่้เคยเกิดมาตลอดในช่วง 6-7 ปี และพอสร้างไปแล้วก็ยากต่อการแก้ไขหรือหยุดยั้งเพราะกฎหมายไม่เปิดช่อง หรือเปิดไว้ก็นิดเดียว ยากที่จะเกิดผลปฏิบัติได้

    • การวิ่งวุ่นไปทุกทิศทาง เป็นข่าวหาดนี้ ต่อไปหาดนั้นหาดโน้น มันมองไม่เห็นจุดจบ แต่ตอนนี้เรากำลังจะมีประกาศฉบับนั้น กำลังจะมีจุดจบ และยังมีอีกหลายกระบวนการ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่ต้องไปใช้เป็นแนวทาง ต่อเนื่องถึงสำนักงบประมาณ ฯลฯ

    • ที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าห้ามสร้าง แต่ก่อนสร้างต้องมีการพิจารณาว่าควรไหม โดยทำอย่างรอบคอบ และกรม ทช.มีอำนาจในการพิจารณา
    #saveชายหาดประเทศไทย #หยุดโรคระบาดชายหาด
    cr.ภาพ เพจ Thon Thamrongnavasawat

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20200523_205701.jpg

    (May 23) Q1 จีดีพีติดลบ-หนี้เสียพุ่ง สศช.ลุ้น “โควิด” จบ ลุยฟื้นฟูประเทศ : สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย เนื่องจากแต่ละประเทศต้องงัดมาตรการ “ล็อกดาวน์” มาใช้เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาด การประกอบธุรกิจและกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจโดยรวมหยุดชะงัก หรือทำได้ในวงจำกัด สถานการณ์ดังกล่าวบรรดาสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจต่าง ๆ ประเมินกันว่า จะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2563

    จีดีพีไทยหดตัวรอบ 6 ปี Q2 ดิ่งลึก

    สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกปี 2563 ปรับตัวลดลง -1.8% เทียบกับการขยายตัว 1.5% ในไตรมาสก่อน หรือหดตัวลงจากไตรมาส 4 ปี 2562 ที่ -2.2% ถือว่าเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2557

    นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า กลุ่มที่ฉุดการเติบโต GDP มากที่สุด ได้แก่ ที่พัก บริการ อาหาร และจำนวนนักท่องเที่ยวที่กระทบจากการล็อกดาวน์ หลังจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณที่มีความล่าช้า ส่งผลให้การลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐติดลบ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็ลดลง

    GDP ปี 2563 ทั้งปี สศช.ประมาณการว่าจะหดตัวช่วง -5 ถึง -6% โดยมีค่าเฉลี่ยที่ -5.5% เนื่องจาก 1) การปรับตัวลดลงรุนแรงของเศรษฐกิจและการค้าโลก คาดว่าส่งออกจะหดตัว -8% 2) การลดลงรุนแรงของจำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 3) เงื่อนไขและข้อจำกัดจากการระบาดของโควิดในประเทศ 4) ภัยแล้ง ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชนจะหดตัว -1.7% การลงทุนรวมหดตัว -2.1% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ -1.5 ถึง -0.5%

    โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไข 1) การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ในวงจำกัด และสถานการณ์ในไทยจบไม่เกินไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.) 2) มาตรการผ่อนคลายที่เริ่มต้นในไตรมาส 2 เข้าสู่ภาวะปกติไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) การเดินทางติดต่อธุรกิจ นักท่องเที่ยวจะกลับมาช่วงไตรมาส 4 (ต.ค.-ธ.ค.)

    “ถ้าสถานการณ์แปรผันไป ทั้งเศรษฐกิจโลก การส่งออก ท่องเที่ยว ราคาน้ำมัน รวมทั้งอัตราเบิกจ่ายงบประมาณ เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าที่ตั้งสมมุติฐานไว้ เศรษฐกิจทั้งปีนี้อาจจะไม่ได้อยู่ที่ -5.5% หากแย่กว่าที่คาดไว้ ก็อาจจะปรับลดลงมากกว่า -6%” นายทศพรกล่าว

    โควิดจบ Q3 จีดีพีทรุดน้อยกว่าปี’40
    นายทศพรกล่าวว่า หากเศรษฐกิจหดตัวในระดับที่ประมาณการไว้ ถือว่าน้อยกว่าวิกฤตปี 2540 ที่หดตัว -7.6% โดยไตรมาส 2 จะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจกระทบหนักที่สุด เนื่องจากทุกอย่างถูกล็อกดาวน์ทั้งสนามบิน การท่องเที่ยว ธุรกิจหยุดดำเนินการ อย่างไรก็ดี คาดว่าน่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีมาตรการผ่อนคลายธุรกิจต่าง ๆ เชื่อว่าจะสามารถประคองเศรษฐกิจได้

    นอกจากนี้ ปลายปี 2563 เมื่อเริ่มเข้าสู่ปีงบประมาณ 2564 จะมีแรงสนับสนุนจากการลงทุนและการใช้จ่ายของภาครัฐเข้ามาช่วยประคองเศรษฐกิจปี 2563 ให้เติบโตได้ดีขึ้น โดยการใช้จ่ายเงินตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จะเป็นตัวช่วยประคองเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 2 และ 3 และไตรมาส 4 จะมีเงินจากงบประมาณปี 2564 เข้ามาดูแลเศรษฐกิจต่อเนื่องไป

    ชู 6 นโยบายเศรษฐกิจต้องโฟกัส

    ทั้งนี้ สศช.ชี้ว่าการบริหารนโยบายเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2563 ควรให้ความสำคัญกับ

    1) การประสานนโยบายการเงินการคลัง ประคับประคองเศรษฐกิจ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

    2) ผ่อนคลายมาตรการปิดสถานที่และข้อจำกัดการเดินทาง ควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 และดำเนินมาตรการเพิ่มเติม

    3) ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนภาคส่งออกสินค้า โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มสินค้าที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกีดกันทางการค้า และได้รับประโยชน์จากการระบาดของโควิดในต่างประเทศ

    4) เบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ตามเป้า โดยเบิกจ่ายงบฯปีงบประมาณ 2563 ไม่ต่ำกว่า 90.2% เบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนไม่ต่ำกว่า 55%, งบประมาณเหลื่อมปีไม่ต่ำกว่า 90%, เบิกจ่ายงบฯลงทุนรัฐวิสาหกิจไม่ต่ำกว่า 75% และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบฯตาม พ.ร.ก.เงินกู้ วงเงิน 1 ล้านล้านบาท 5) ขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ ควบคู่ไปกับการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีและงบฯลงทุนรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง และ 6) เตรียมการรองรับความเสี่ยงสำคัญ ๆ ในช่วงที่เหลือของปี

    จับตาหนี้เสียครัวเรือนพุ่งต่อเนื่อง

    ขณะที่ นายธาริฑธิ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ไตรมาส 1 ปี 2563 ระบบธนาคารพาณิชย์มีภาพรวมคุณภาพสินเชื่อด้อยลง จากผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์จัดชั้นหนี้ตามมาตรการบัญชีใหม่ TFRS9 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 3.05% หรือ 4.96 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 2.98% ส่วนสินเชื่อที่ต้องติดตามเป็นพิเศษ (ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน) อยู่ที่ 7.70%

    ในส่วนของเอ็นพีแอลสินเชื่ออุปโภคบริโภคอยู่ที่ 3.23% เริ่มแซงหน้าสินเชื่อธุรกิจที่อยู่ที่ 2.97% โดยคุณภาพสินเชื่อด้อยลงในทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคชะลอตัวในทุกพอร์ตสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อบัตรเครดิต ส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตดีขึ้นจากความต้องการใช้สินเชื่อแทนการระดมทุนผ่านตราสารหนี้

    อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ไทยมีกันชนที่สามารถรองรับวิกฤตได้ดี ทั้งเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ที่อยู่ระดับสูงที่ 18.7% มีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญอยู่ที่ 7.19 แสนล้านบาท อัตราเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL coverage ratio) อยู่ที่ 143.3% และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤต (LCR) อยู่ที่ 185.7%

    “สถานการณ์ในประเทศตอนนี้ค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ระบบธนาคารพาณิชย์ยังคงต้องรักษากันชนเหล่านี้ต่อไป เพราะเราไม่รู้ว่าเหตุการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายเมื่อใด ดังนั้น สิ่งที่ธนาคารต้องให้ความสำคัญมีอยู่ 2 เรื่อง คือ การปรับโครงสร้างหนี้แบบมีกลยุทธ์เชิงรุก และการรักษาฐานะกันชนไว้” นายธาริฑธิ์กล่าว

    ขณะเดียวกัน ธปท.รายงานข้อมูลมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ณ 8 พ.ค. 2563 มีจำนวนลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือ 13 ล้านราย ยอดหนี้ 4.6 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่ดำเนินการแล้ว 89% ส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) มีลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือแล้ว 2.5 หมื่นราย ยอดหนี้ 4.3 หมื่นล้านบาท

    ทั้งหมดนี้ขึ้นกับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด ไม่เช่นนั้นคงยังไม่มีข่าวดีสำหรับประเทศไทย

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/finance/news-467339

    เพิ่มเติม
    - ข่าว ธปท. ฉบับที่ 26/2563 เรื่อง ผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 1 ปี 2563 https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/2020/Pages/n2663.aspx

    - รายงานภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1/2563 จากสภาพัฒน์
    https://www.nesdc.go.th/main.php?filename=QGDP_report
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สายการบินแห่งชาติของไทย ยังไม่ได้ส่งงบการเงินไตรมาสแรกปี 2563 ทำให้ยังไม่เห็นข้อมูลที่แท้จริงว่าสาหัสแค่ไหน
    ...

    การบินไทยขาดทุนมาตลอด ขณะที่สายการบินคู่แข่งต่างมีกำไร งบการเงินปี 2562 โชว์ตัวเลขขาดทุน 12,042 ล้านบาท และเลขหนี้สูงถึง 244,899.44 ล้านบาท แต่นี่ยังไม่ใช่สถานภาพจริงของการบินไทยในวันนี้

    เพราะสายการบินแห่งชาติของไทย ยังไม่ได้ส่งงบการเงินไตรมาสแรกปี 2563 ทำให้ยังไม่เห็นข้อมูลที่แท้จริงว่าสาหัสแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ คือ “การบินไทย” ไม่มีสภาพคล่องพอที่จะชำระหนี้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หลังจากที่ต้องหยุดบินในช่วงโควิด-19
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โครงการ “ลมลิกอร์” 10 MW และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ขนาด 1.88 เมกะวัตต์ชั่วโมง ของ บีซีพีจี

    ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามสัญญาเงินกู้ 616.1 ล้านบาทในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ลมลิกอร์” ของบีซีพีจี ขนาดกำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเป็นโครงการนำร่องภาคเอกชนรายแรกในประเทศไทยที่นำระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ขนาด 1.88 เมกะวัตต์ชั่วโมง มาใช้เพื่อทำให้ระบบโครงข่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น

    โครงการดังกล่าวเป็น 1 ใน 4 โครงการของบีซีพีจี ที่ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้เข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการด้านพลังงาน (ERC sandbox) เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับการนำระบบบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System) มาใช้กับพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานลมต่อไป

    สำหรับวงเงินกู้ประมาณ 616.1 ล้านบาท เป็นการสนับสนุนร่วมกันระหว่าง ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) ในวงเงินประมาณ 235.6 ล้านบาท กองทุนเพื่อเทคโนโลยีสะอาด (Clean Technology Fund) ซึ่งอยู่ภายใต้กองทุนเพื่อการลงทุนด้านภูมิอากาศ (Climate Investment Funds) ในวงเงินประมาณ 144.9 ล้านบาท และธนาคารกสิกรไทย ในวงเงินประมาณ 235.6 ล้านบาท ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนโครงการที่ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประยุกต์ใช้นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

    # ศูนย์ข่าวพลังงาน Energy News Center

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจ้าหนี้การบินไทย วอนนายกฯ อย่าเอาทหารมานั่งบอร์ด เพื่อประโยชน์ของชาติ
    เจ้าหนี้การบินไทยวอนนายกรัฐมนตรี ไม่ควรมี "ทหาร" นั่งบอร์ดต่อไป ขอให้เห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติ พร้อมชูชื่อคนที่ควรเป็นทั้ง ชุมพล ณ ลำเลียง วิชิต สุรพงษ์ชัย บัณฑูร ล่ำซำ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Michael DiFato

    สำหรับสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน ISWA Magnetosphere cygnets จะถูกนำออกก่อนและผ่านตลอดสุดสัปดาห์ (ผมเข้าว่าแปลว่าไม่แสดงผล) ข้อมูลจาก 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงจำนวนขั้วที่เพิ่มขึ้นและด้วยภาพที่บันทึกได้ข้อมูลที่เป็นพื้นฐานพื้นฐานที่ดีจากการอ่านสนามแม่เหล็ก ACE ทำให้บางคนสามารถรู้สึกถึงการระเบิดของแม่เหล็กในชีวิตประจำวัน
    เพื่ออ้างอิงเพื่อน [Z]
    "เราไปถึงจุดนั้นแล้ว"
    FB_IMG_1590242983064.jpg
    For the third week in a row, the ISWA Magnetosphere cygnets are taken down before and thru the weekend. The data from the past 3 weeks shows a number of Polarity Increases and with the captured images, data avilable a pretty good established base-line from ACE Magnetic Field readings some can still get a feel for the daily blasts of magnetons.
    TO quote a [Z] friend
    "we have reached that point".

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    May 23,2020 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา จัดเที่ยวบินพิเศษนำคนไทยในอินโดนีเซียกลับประเทศไทย
    .
    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตาได้ดำเนินการจัดเครื่องบินพิเศษ (charterd flight) นำคนไทยในอินโดนีเซีย 165 คนเดินทางกลับประเทศไทย โดยเที่ยวบินพิเศษของสายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบินที่ SL 117 ออกเดินทางจากกรุงจาการ์ตาเวลา 13:30 น. (เวลาท้องถิ่นอินโดนีเซีย) และกำหนดเดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมืองในวันเดียวกัน เวลา 17:30 น. (เวลาประเทศไทย) อันประกอบด้วยกลุ่มผู้มีปัญหาสุขภาพ เด็กและเยาวชน นักท่องเที่ยวตกค้าง นักเรียน/นักศึกษา คนตกงาน/ถูกเลิกจ้าง และพระสงฆ์ โดยได้มอบถุงยังชีพ และอาหารกล่องให้กับผู้เดินทางทุกคน
    .
    ในการเตรียมการ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานดำเนินการจัดหาโรงพยาบาลเพื่อส่งผู้เดินทางทุกคนไปตรวจโรค และให้ความช่วยเหลือด้านการเดินทางจากต่างเมือง ตลอดจนจัดหาที่พัก นายทรงพล สุขจันทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอขอบคุณกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย โรงพยาบาล Ciputra โรงพยาบาล Siloam สายการบิน Thai Lion Air และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการให้ความช่วยเหลือดำเนินการให้คนไทยในอินโดนีเซียสามารถเดินทางกลับได้โดยสวัสดิภาพ
    .
    นอกจากนี้ ในเดือนพ.ค.นี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับอนุมัติให้จัดเที่ยวบินพิเศษอีก 2 เที่ยวบินเพื่อนำคนไทยในอินโดนีเซียกลับไทย ในวันที่ 27 พ.ค. (สุราบายา-กรุงเทพฯ) และวันที่ 31 พ.ค. (จาการ์ตา-กรุงเทพฯ) และจะได้รับอนุมัติเที่ยวบินพิเศษในเดือนมิ.ย.นี้ด้วย โดยขอให้มั่นใจว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการนำคนไทยทุกคนในอินโดนีเซียที่ลงทะเบียนเดินทางกลับประเทศไทยได้

    #covid19 #โควิด19 #อินโดนีเซีย #misterban

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผบช.สตม.บินด่วนตามคดีทลายบ่อนพนันออนไลน์หนีโควิดจากเพื่อนบ้านปักหลักชายแดนแม่สาย จัดทีมงานกว่า 30 รับเซียนพนันเสี่ยงโชคผ่าน 8 เว็บไซต์ พบเงินหมุนเวียนนับร้อยล้าน
    .
    #MGROnline #บ่อนพนันออนไลน์ #แม่สาย
    .
    อีกช่องทางติดตาม MGROnline Live เพิ่มเติม
    Line : line.me/R/ti/p/%40zut9752t
    IG : https://instagram.com/mgronline
    Youtube : youtube.com/user/astvmanagervdo
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #สหรัฐสนใจทดลองนิวเคลียร์อีกครั้งในรอบ28ปี

    วันนี้สำนักข่าว Washington Post รายงานข่าวจากโต๊ะวงประชุมของทีมรัฐบาลของทรัมพ์ กับฝ่ายความมั่นคงว่าสหรัฐอาจพิจารณาแผนทดลองอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง!!

    และหากเป็นเช่นนั้นจริง นี่จะเป็นการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกของสหรัฐในรอบ 28 ปี นับจากปี 1992 เป็นต้นมา

    ไอเดียบรรเจิดของเรื่องนี้ เกิดจากข้อตกลง สนธิสัญญา New START หรือ New Strategic Arms Reduction Treaty ที่เป็นข้อตกลงร่วมระหว่าง สหรัฐ และรัสเซีย ในการจำกัดการถือครองหัวรบนิวเคลียร์ของทั้ง 2 ชาติ ที่จะต้องมีการทบทวน และเซ็นกันใหม่ทุกๆ 10 ปี

    และครั้งล่าสุดที่เซ็นไป ตอนสมัยอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 2011 ดังนั้น กุมภาพันธ์ ปี 2021 ต้องเซ็นฉบับใหม่แล้ว

    แต่ทว่า รัฐบาลของเสี่ยทรัมพ์ ณ ปัจจุบัน กับฝ่ายความมั่นคงมีความเห็นตรงกันว่า อาจจะไม่เซ็น

    เหตุผลก็คือว่า ข้อตกลงนี้ เป็นเพียงทวิภาคีร่วมกันแค่สหรัฐ และรัสเซีย แต่ตอนนี้สหรัฐมองว่าจีนเป็นภัยคุกคาม ที่อาจจะเหนือกว่ารัสเซียด้วยซ้ำไป และที่สำคัญคือ จีนมีอาวุธนิวเคลียร์ และ ขีปนาวุธพิสัยไกล

    และหากสหรัฐจะต้องเซ็นสนธิสัญญาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่ในปีหน้า ต้องมีจีนร่วมอยู่ในข้อตกลงด้วย เป็นไตรภาคี

    และในโต๊ะประชุมมีการเสนอไอเดียว่า สหรัฐอาจจำเป็นต้องประกาศทดลองนิวเคลียร์เพื่อบีบจีนเข้าสู่โต๊ะเจรจา

    ยังไม่ทันคุยกับเขาเลย คิดจะขู่เขาเสียแล้ว

    ถามว่า อยู่ดีๆประกาศจะทดลองนิวเคลียร์ ไม่ผิดกฏหมายนานาชาติเหรอ?

    อันที่จริงก็เคยมีความคิดที่จะทำข้อตกลงร่วมเรื่องการห้ามทดลองอาวุธนิวเคลียร์สากล หรือ Comprehensive Nuclear-Test–Ban Treaty (CTBT) ที่ตั้งใจจะหาข้อตกลงร่วมกันทั้งโลกว่าจะไม่มีการทดลองนิวเคลียร์อีกไม่ว่าที่ไหนในโลก

    แต่ข้อตกลงนี้ ยังไม่มีผล เพราะขาดการลงสัตยาบันร่วมกันใน 8 ประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ได้แก่ สหรัฐ จีน อิยิปต์ อิหร่าน อิสราเอล อินเดีย ปากีสถาน และ เกาหลีเหนือ

    ดังนั้น สหรัฐสามารถประกาศทดลองนิวเคลียร์เมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาขู่คว่ำบาตร

    แต่เดชะบุญที่ในโต๊ะประชุม มีฝ่ายที่คัดค้านไอเดียนี้อย่างรุนแรง จนทำให้ต้องพับแผนไปก่อน ยังหาข้อตกลงไม่ได้

    จากข้อมูลของสำนักข่าวต่างประเทศ ในช่วงปี 1945 - 1992 มีการทดลองนิวเคลียร์บนโลกกว่า 2000 ครั้ง เฉพาะสหรัฐอเมริกา ประเทศเดียว ก็ทดลองไปแล้วถึง 1,054 ครั้ง

    การทดลองนิวเคลียร์ครั้งสุดท้ายของสหรัฐ เกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปี 1992 ที่กลางทะเลทรายในเนวาด้า

    และหากสหรัฐตัดสินใจรื้อแผนทดลองนิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่หล่ะก็ โลกสะเทือนแน่นอน

    หลายคนฝากความหวังไว้ที่ผลเลือกตั้งเจ้าเมืองคนต่อไปว่าอาจมีผลต่อทิศทางข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ไม่มาก ก็น้อย แต่มุมมองของสหรัฐต่อจีนที่เห็นว่าเป็นภัยคุกคามนั้น ไม่น่าจะแตกต่างมากระหว่าง 2 พรรค และน่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆนับจากนี้ไป

    แต่ว่าในช่วงเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้งที่เข้มข้น และเสี่ยทรัมพ์ยังมีอำนาจเต็มอยู่ในมือ แกก็อาจจะมีมุขห่ามๆ ออกมาปลุกเร้าชาวอเมริกัน สร้างอารมณ์อกสั่นขวัญแขวนว่าประเทศเข้าสู่ภัยสงคราม ตามสูตรสำเร็จของการเลือกตั้งก็เป็นได้นะคะ

    แหล่งข้อมูล

    https://www.theguardian.com/world/2...eturn-to-nuclear-testing-after-28-year-hiatus

    https://www.washingtonpost.com/nati...05c904-9c5b-11ea-b60c-3be060a4f8e1_story.html

    https://en.m.wikipedia.org/wiki/Comprehensive_Nuclear-Test-Ban_Treaty

    https://www.bbc.com/news/world-us-canada-12348780

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เมื่อวานนี้มีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐได้ยื่นกฎหมายให้รัฐสภาพิจารณา เรื่องการตั้งฐานทัพในเขตประชาคมอาเซียน เพื่อต่อต้านจีนอย่างเต็มรูปแบบ

    ขอภาวนาว่า อย่าให้ผู้มีอำนาจของไทยในยุคปัจจุบัน อย่าได้ไปเออออห่อหมก กับรัฐบาลสหรัฐเลย เพราะช่วงสงครามเวียดนาม เราให้สหรัฐมาใช้พื้นที่ของประเทศเรา เป็นฐานทัพอากาศ ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดในเวียดนาม ลาว เขมร ซึ่งล้วนเป็นญาติ พี่น้อง ร่วมภูมิภาค โดยที่พวกเขาไม่ได้ทำผิดอะไร สหรัฐใช้เพียงคำว่าลัทธิ “คอมมิวนิสต์” เป็นข้ออ้างในการโจมตี และทำลายเวียดนาม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 1955 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 1975 (เป็นเวลา 19 ปี 5 เดือน 4 สัปดาห์ กับอีก 1 วัน)

    ในครั้งนั้น สหรัฐได้เกณฑ์ประเทศพันธมิตรต่างๆ เข้ามาช่วยสหรัฐโจมตีเวียดนามเหนือ แน่นอนทหารเวียดนามใต้ ก็ต้องเป็นตัวหลักในการรบกับเวียดนามเหนือ ส่วนชาติอื่นๆ ประกอบด้วยสหรัฐเป็นผู้นำ มีกำลังทหารสูงสุดเมื่อปี 1969 มีทหารอเมริกันในเวียดนามมากถึง 543,000 นาย เกาหลีใต้ 48,000 นาย ไทย 32,000 นาย ออสเตรเลีย 7,672 นาย นิวซีแลนด์ 552 นาย ฟิลิปปินส์ 2,061 นาย

    ตลอดเวลา 19 ปี 5 เดือน 4 สัปดาห์ กับ 1 วัน มีทหารที่เข้ามาทำการรบในนามพันธมิตรของสหรัฐหลายล้านนาย มีทหารพันธมิตรของสหรัฐเสียชีวิต ระหว่าง 333,620–392,364 นาย และบาดเจ็บรวมกว่า 1,340,000 นาย ส่วนทหารเวียดนามเหนือตายระหว่าง 667,130–951,895 นาย บาดเจ็บมากกว่า 604,200 นาย

    ที่สำคัญทำให้ประชาชนชาวเวียดนามต้องตายไปถึง 2,000,000 คน ประชาชนเขมรตาย 310,000 คน ประชาชนชาวลาวตายไป 62,000 คน
    สหรัฐใช้ลูกระเบิดทิ้งจากเครื่องบินลงไปบนแผ่นดินเวียดนามกว่า 7,500,000 ตัน โดยเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Boeing B-52 Stratofortress จากฐานทัพหลัก 2 แห่ง ประกอบด้วย อู่ตะเภา จังหวัดระยอง ประเทศไทย และ Andersen AFB, เกาะ Guam สหรัฐอเมริกา

    สำหรับฐานทัพอากาศต่างๆ ในประเทศไทย ที่สหรัฐ ใช้เครื่องบินออกไปโจมตีเวียดนามทุกวัน ประกอบด้วย ฐานทัพอากาศโคราช ฐานทัพอากาศตาคลี ฐานทัพอากาศนครพนม ฐานทัพอากาศอุบลราชธานี ฐานทัพอากาศอุดรธานี และฐานทัพอากาศอู่ตะเภา

    ในยุคนั้น ประเทศไทยของเราก็มีรถบรรทุก 10 ล้อ สำหรับขนส่งทางถนนมากมาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ระเบิดของกองทัพอากาศสหรัฐ ต้องใช้รถไฟขนส่งจากสถานีรถไฟแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา ไปยังสถานีวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานีอีกวันหลายขบวน โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อลำเลียงจากท่าเรือสัตหีบไปยังสถานีรถไฟแปดริ้ว และจากสถานีรถไฟวารินชำราบเข้าฐานทัพอากาศอุบลราชธานี

    ท่าเรือที่ใช้ขนถ่ายระเบิด และยุทธสัมภาระในครั้งนั้นคือท่าเรือสัตหีบ มีการสร้างท่าเรือเพิ่มขึ้นเป็นการเฉพาะกิจอีก 2 ท่า เพราะท่าเรือของกองทัพเรือของเราที่มีอยู่ไม่เพียงพอ มีการสร้างเส้นทางใหม่เป็นทางลัดจากสัตหีบไปยังโคราช คือทางหลวงแผ่นดิน 331 กับ 304 เพื่อใช้ในการลำเลียงยุทธสัมภาระจากท่าเรือสัตหีบไปยังฐานทัพต่างๆ ของสหรัฐในภาคอีสาน

    ด้วยจำนวนลูกระเบิดที่สหรัฐใช้ถล่มลงไปบนแผ่นดินเวียดนามมากถึง 7,500,000 ตัน โดยเครื่องบินส่วนใหญ่ออกไปจากฐานทัพอากาศในประเทศไทย บาดแผลนี้คงไม่ลบเลือนไปจากใจพี่น้องชาวอินโดจีนอย่างง่ายๆ แน่นอน จึงไม่อยากให้ผู้มีอำนาจในยุคนี้ เดินตามรอยของผู้ใหญ่ในยุคโบราณที่ยอมให้สหรัฐมาใช้ดินแดนของเราออกไปฆ่า และทำลายประเทศเพื่อนบ้านอีก

    ตอนนี้สหรัฐเขากำลังขออนุมัติรัฐสภา เพื่อดำเนินการสงครามแบบที่เขาเคยทำกับเวียดนามมาแล้ว แต่คราวนี้เขาจะทำต่อจีน แม้ว่าสงครามจะยังไม่มีการโจมตีกันในทันที แต่ฐานทัพของเขาก็จะต้องมาตั้งในพื้นที่ประเทศอาเซียนของพวกเรา และพื้นที่ต่างๆ ของฐานทัพในประเทศไทย ที่พวกเขาเคยใช้งานอยู่ ก็คงจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของพวกเขา

    วุฒิชัยย์ ไมตรีโสภณ
    23/05/2563

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม
    .
    เพจเฟซบุ๊ก Royal Thai Consulate-General, Hong Kong ของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ได้ประกาศเตือนคนไทยในฮ่องกงว่าให้เลี่ยงพื้นที่การชุมนุม หลังได้รับรายงานว่าอาจมีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วง ในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค. 63 เวลา 13.00 น. โดยผู้ชุมนุมจะเดินประท้วงจากห้างสรรพสินค้า SOGO (Causeway Bay) ไปยัง Southorn Playground (Wan Chai) เขต Hong Kong Island
    .
    ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอให้คนไทยในฮ่องกงและนักท่องเที่ยวไทยในฮ่องกงโปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางหรือเข้าใกล้สถานที่ที่มีการชุมนุมประท้วง และใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษหากมีการประท้วงในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งโปรดงดถ่ายภาพเหตุการณ์ประท้วง ผู้ประท้วง และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการกระทำอื่นๆ ในระยะใกล้ที่อาจเป็นการยั่วยุผู้ประท้วง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยทุกคน นอกจากนั้น โปรดเผื่อเวลาในการเดินทาง ทั้งทางรถยนต์และรถไฟ MTR
    .
    คนไทยในฮ่องกงสามารถติดตามข่าวสาร สถานการณ์ภาพรวมได้ที่ website สำนักงานตำรวจฮ่องกง ที่ https://www.police.gov.hk/ppp_en/index.htmlตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟ MTR ได้ที่ http://www.mtr.com.hk/en/customer/main/index.html
    .
    ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน (+852) 6821-1545 หรือ (+852) 6821-1546 และ Call Center กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (+66) 2-572-8442

    #ชุมนุม #ฮ่องกง #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เสี่ยงเกิดความผิดปกติ
    .
    วันนี้ (23 พฤษภาคม 2563) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การศึกษาจากสถาบันการแพทย์นอร์ธเวสเทิร์น เมดิซีน (Northwestern Medicine) ของสหรัฐฯ เปิดเผยผลทดสอบทางพยาธิวิทยาหลังการให้กำเนิดบุตรของหญิง 16 ราย ที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกขณะตั้งครรภ์ โดยพบหลักฐานบ่งชี้ว่า “รก” ได้รับความเสียหาย
    .
    หญิงทั้งหมดคลอดลูกที่โรงพยาบาลสตรีนอร์ธเวสเทิร์น เพรนทิส (Northwestern Medicine Prentice Women’s Hospital) โดยมี 4 ราย แสดงอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เป็นเวลา 3-5 สัปดาห์ ก่อนคลอดและมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก ส่วนที่เหลือมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก เมื่อเดินทางมาโรงพยาบาลเพื่อคลอดลูก โดยมี 5 ราย ที่ไม่แสดงอาการของโรค ขณะที่เหลือแสดงอาการระหว่างคลอดลูก
    .
    เอมิลี มิลเลอร์ (Emily Miller) ผู้เขียนร่วมของงานวิจัย ซึ่งมีตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ประจำวิทยาลัยแพทย์ไฟน์เบิร์ก มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น และสูติแพทย์จากสถาบันฯ กล่าวว่า “ทารกมีสุขภาพแข็งแรงดี คลอดตามกำหนด เป็นทารกปกติที่แสนจะน่ารัก แต่การค้นพบของเราพบว่าการไหลเวียนเลือดจำนวนมากถูกปิดกั้นและรกส่วนใหญ่เล็กกว่าที่ควรจะเป็น โดยปกติรกถูกสร้างขึ้นในปริมาณมาก ดังนั้น แม้มันจะทำงานเพียงครึ่งเดียวเด็กก็จะยังสมบูรณ์ดี แต่ถึงทารกส่วนใหญ่ร่างกายแข็งแรง ก็ยังมีความเสี่ยงเกิดความผิดปกติในการตั้งครรภ์บางกรณีได้”
    .
    รกในหญิงกลุ่มดังกล่าวปรากฏความผิดปกติ 2 รูปแบบที่พบได้บ่อย ได้แก่ การไหลเวียนเลือดจากแม่ไปสู่ทารกในครรภ์ไม่เพียงพอ เนื่องจากความผิดปกติของหลอดเลือดหรือภาวะหลอดเลือดของมารดาผิดปกติ (MVM) และภาวะลิ่มเลือดในรกอุดตัน (intervillous thrombi)
    .
    รกเป็นอวัยวะแรกของทารกในครรภ์ ทำหน้าที่เสมือนปอด ลำไส้ ไต และตับ อีกทั้งเป็นตัวรับออกซิเจนและสารอาหารจากกระแสเลือดของแม่และแลกเปลี่ยนของเสีย รกยังมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายในร่างกายของแม่ด้วย
    .
    “รกทำหน้าที่เหมือนเครื่องช่วยหายใจสำหรับทารกในครรภ์ หากรกได้รับความเสียหาย เด็กในครรภ์อาจเป็นอันตรายร้ายแรงได้ และในการศึกษาที่มีขอบเขตจำกัดครั้งนี้ การค้นพบทั้งหมดแสดงให้เห็นแล้วว่าเครื่องช่วยหายใจนั้น อาจทำงานได้ไม่ดีเท่าที่เราต้องการ หากผู้เป็นแม่ติดโรคโควิด-19” มิลเลอร์กล่าว
    .
    ด้านเจฟฟรีย์ โกลด์สตีน (Jeffrey Goldstein) ผู้เขียนอาวุโส ซึ่งมีตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านพยาธิวิทยาประจำวิทยาลัยฯ และนักพยาธิวิทยาจากสถาบันฯ เปิดเผยว่า “มีนักวิจัยเห็นพ้องต้องกันว่าผู้ป่วยโรคโควิด-19 ประสบปัญหาหลอดเลือดแข็งตัวและได้รับความเสียหาย นอกจากนั้น การค้นพบของเราสนับสนุนว่าโรคโควิด-19 อาจส่งผลให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนของบางสิ่งบางอย่าง และมันเกิดขึ้นในรก”
    .
    อนึ่ง สถาบันการแพทย์นอร์ธเวสเทิร์น เมดิซีน จัดตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างศูนย์สุขภาพ นอร์ธเวสเทิร์น เมโมเรียล (Northwestern Memorial Healthcare) และวิทยาลัยแพทย์ไฟน์เบิร์ก มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น คอยดำเนินการวิจัย การสอน และดูแลรักษาผู้ป่วย ส่วนการศึกษาครั้งนี้ถูกเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (22 พ.ค.) ในวารสารอเมริกัน เจอร์นัล ออฟ คลินิคอล พาโธโลจี (American Journal of Clinical Pathology)
    .
    #โควิด19 #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ไม่ปกปิดงบประมาณทหาร
    .
    จางเย่ซุ่ย โฆษกประจำการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน (CPPCC) ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 แถลงข่าวว่าจีนมีความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณด้านการทหาร และไม่มีการปกปิดงบประมาณทหารแต่อย่างใด โดยจีนได้ยื่นรายงานค่าใช้จ่ายทางทหารให้แก่สหประชาชาติ (UN) เป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 2007 ตั้งแต่ที่มาของเงินไปจนถึงรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณ เราได้อธิบายทั้งหมด
    .
    จาง เผยว่าการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศของจีนครองสัดส่วนราวร้อยละ 1.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) มาเป็นเวลาหลายปี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.6
    .
    นอกจากนี้ รายจ่ายทั้งหมดในด้านการป้องกันประเทศของจีนในปี 2019 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 1 ใน 4 ของประเทศที่ใช้จ่ายด้านการป้องกันมากที่สุดในโลก และการใช้งบประมาณดังกล่าวเฉลี่ยต่อหัวประชากรของจีนเมื่อเทียบกับประเทศข้างต้น ก็อยู่ที่ราว 1 ต่อ 17 เท่านั้น

    #งบประมาณ #ทหาร #จีน #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #เสือดาว แอบมาตอนกลางคืน เพื่อไปเยี่ยมแม่วัวที่เคยให้นมมันตอนเล็กๆ หลังจากแม่ของมันตาย !! ภาพถูกถ่ายด้วยกล้อง
    ที่ตั้งไว้ในหมู่บ้านเพื่อดูว่าสุนัขเห่าในช่วงกลางคืนทำไม ? ความสัมพันธ์ในวัยเด็ก เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอด และเป็นความผูกพันต่อชีวิต


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เกาหลีใต้ : ประกาศพบผู้ป่วยใหม่ 25 รายเมื่อวานนี้
    8 รายเป็นคนที่เดินทางจากต่างประเทศ 17 ราย เป็นผู้ป่วยติดภายในประเทศซึ่งเกี่ยวกับสถานบันเทิงในกรุงโซล

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หลังจากพวกเขาห่างหายการกอดมาเกือบ 2 เดือน
    ตอนนี้เขาได้กอด ได้แสดงออก กับคนที่พวกเขารัก
    และคิดถึง

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อิหร่าน : ตัวเลขผู้ติดเชื่อโควิด รายวันพุ่งอีกครั้ง
    หลังจากเปิดเมือง ตั้งแต่ต้นเดือนตัวเลขพุ่งขึ้นมาก หรือเป็นระรอกสองของการระบาด
    ยอดผู้ติดเชื้ออิหร่าน 133,521 ราย เสียชีวิต7,359 ราย

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    In # อินโดนีเซียช่วงเวลาที่พายุทอร์นาโดเข้าโจมตีจังหวัดบาวังลัมปุง ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้เกิดการทำลายที่อยู่อาศัยและมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตหลายคน # 21 พฤษภาคม2563

     

แชร์หน้านี้

Loading...