ติดตามสถานะการณ์

⚠️ ด่วนนนนน ⚠️ BP บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลกออกมายอมรับแล้วว่า #อุตสาหกรรมน้ำมันโลกกำลังเปลี่ยนไป ได้ออกมาหั่นคาดการณ์ราคาน้ำมันจากแผนธุรกิจระยะ 30 ปีข้างหน้าลง 30% ! และมูลค่าของบริษัท BP จะหดไปถึง 1.75 หมื่นล้านเหรียญ !

อาทิตย์ที่แล้วทางเพจเพิ่งได้รายงานไปว่า BP ประกาศปลดพนักงานออก 10,000 รายหรือ 14% ของบริษัทเลยทีเดียวเพื่อเป็นการลดต้นทุนและปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ (รายละเอียดแนบไว้ให้ในคอมเม้นท์ครับ) และในวันนี้ทาง BP ก็ได้ออกมาประกาศสิ่งที่น่าใจหายอีกครั้ง

BP ปรับลดมุมมองราคาน้ำมันดิบในแผนธุรกิจระยะยาว

จากที่เคยมองว่าราคาน้ำมันดิบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 75 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงปี 2021 ถึง 2050 นั้น ทาง BP ได้ออกมาหั่นราคาครั้งใหญ่ ปรับราคาลดลงมาเหลือ 55 เหรียญเท่านั้น โดยปกตินั้นการปรับขึ้นลงของมุมมองราคาระยะสั้นหรือราคาระหว่างปีนั้นเกิดขึ้นได้บ่อยๆ แต่การปรับราคาใน #แผนธุรกิจระยะยาว 30 ปีนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆแน่นอน

การปรับลดราคาครั้งใหญ่และปลดพนักงานออกนั้น เรียกได้ว่าทาง BP ได้ยอมรับแล้วว่าทิศทางอุตสาหกรรมน้ำมันโลกกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริงๆ

การปรับแผนธุรกิจครั้งนี้จะทำให้ทาง BP มีมูลค่าน้อยลงไป 1.75 หมื่นล้านเหรียญ

เนื่องจากว่าสินทรัพย์ (Asset) ของ BP หลักๆนั้นคือหลุมน้ำมัน การปรับลดราคาคาดการณ์ครั้งนี้หากมีการปรับมูลค่าสินทรัพย์ลงตามแผนธุรกิจไปด้วยนั้นจะทำให้บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์น้อยลงไป 1.75 หมื่นล้านเหรียญโดยทันที

#ไม่ใช่ว่ามูลค่าของบริษัทจะหายไปในช่วงข้ามคืนนะครับ แค่เปรียบเทียบกับแผนธุรกิจครั้งก่อน ซึ่งตลาดนั้นจะมีมุมมองของราคาน้ำมันที่แตกต่างกันอยู่แล้วขึ้นอยู่กับการประเมินค่า (Valuation) จากนักลงทุนแต่ละคนเลย ไม่ใช่ทุกคนจะมองตามแผนของบริษัทนั้นๆ

CEO ของ BP นาย Bernard Looney ก็ได้ออกมาประกาศสิ่งที่น่าสนใจอีกครั้ง

"BP จะหันไปเน้นการลงทุนในพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนต่างๆมากขึ้น โดยเราตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 30 ปีข้างหน้านี้เราจะต้องไม่ปล่อยมลพิษก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เลย กลายเป็น Zero-Emissions Company เรากำลังดำเนินการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของบริษัทเราครั้งใหญ่" Looney กล่าว

ไม่ใช่แค่ BP แต่บริษัทน้ำมันชั้นนำต่างๆของโลกก็กำลังทำการเปลี่ยนแผนธุรกิจครั้งใหญ่

ไม่ว่าจะเป็น Shell และ Chevron อีกสองบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ TOP 5 ของโลกก็มีข่าวที่จะลดจำนวนพนักงานและเปลี่ยนโครงสร้างครั้งใหญ่มาเป็นพลังงานทดแทนเช่นเดียวกัน และเหตุผลหลักๆนั้นจะเป็นเพราะว่าอะไรไปไม่ได้นอกจาก...

⚠️ #Tesla และ #Elon #Musk ครับ

อย่างที่เราได้เขียนมาตลอดว่าบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลกนั้นแทบจะไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะมาถึงได้เร็วอย่างนี้

ย้อนกลับไป 10 ปีก่อนตั้งแต่เกิด Shale Oil Boom หรือการค้นพบเทคโนโลยีของการลดต้นทุนน้ำมันเชลล์ออยในสหรัฐครั้งใหญ่ บริษัทน้ำมันเหล่านี้กลับเชื่อสนิทใจว่าเราจะได้ใช้น้ำมันไปอีกนานและยาวแน่ๆ เพราะเรากำลังมีอุปทานอย่างเหลือล้น

แต่เนื่องจากกระแสพลังงานสะอาดและการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆทุกวัน และยังมีบริษัท Tesla ที่ตั้งใจเข้ามา Disrupt จากใช้พลังงานน้ำมันครั้งใหญ่เข้ามาอีกทำให้เวลาที่ไม่คาดคิดนั้นอาจขยับขึ้นมาเร็วขึ้น

ซึ่งทุกวันนี้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ Tesla คิดค้นได้นั้นเรียกว่านำหน้าสิ่งที่บริษัทน้ำมันเหล่านี้คาดการณ์ไว้หลายเท่านัก #จนทำให้บริษัทน้ำมันต่างๆต้องยอมรับแล้วว่า คงหนีไม่ได้ที่จะยอมรับความจริงว่าเราคงจะไม่ได้ใช้น้ำมันจนหมดโลกเรา

#แต่มนุษย์คงจะต้องหยุดใช้น้ำมันก่อนที่น้ำมันจะหมดโลก อย่างคำพูดที่ว่า

"The Stone Age didn't end for lack of stone, and the oil age will end long before the world runs out of oil."

หรือยุคหินไม่ได้จบลงเพราะหินหมดไป และยุคน้ำมันก็กำลังจะเป็นเช่นนั้นเพราะมีเทคโนโลยีอื่นๆที่กำลังเข้ามาแทนที่

ท่านใดสนใจบทความของเราเรื่อง "#เปิดโปงแผน Disruption ที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ที่อธิบายถึงแผนการอันยิ่งใหญ่ของ Elon Musk ที่จะเข้ามากลืนตลาดของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ลองอ่านดูได้ในคอมเม้นท์ที่เราแนบไว้ให้นะครับ บทความนี้ได้รับความสนใจเยอะและรับรองว่าน่าสนใจมากๆ

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวในตลาดน้ำมันโลกไปกับเพจเราได้ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

#ทันโลกกับTraderKP

 

แบ่งปันจาก MisterBan

Jun 16 , 2020 กพท.ได้ข้อสรุปเบื้องต้นหารือกลุ่มแอร์ไลน์ สามารถขายตั๋วได้ทุกที่นั่ง แต่ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา พร้อมคาดยอดผู้โดยสารปีนี้จะหายไป 70% ส่วนการบินระหว่างประเทศคาดว่าจะกลับมาได้ช่วงก.ย.นี้
.
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการสายการบินของไทยและต่างประเทศ ผู้ประกอบการสนามบิน ผู้แทนจาก สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA)และผู้แทนจากคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินประเทศไทย (AOC)ว่า ได้หารือทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อเตรียมความพร้อม หากกลับมาเริ่มเปิดให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ
.
โดยประเด็นที่หารือประกอบไปด้วย มาตรการตั้งแต่การคัดกรองโรคก่อนออกประเทศ ทั้งประเทศต้นทางอื่น ๆ และประเทศไทย การ Check-in Boarding การปฏิบัติตัวทั้งของผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบิน และมาตรการเมื่อถึงสนามบินปลายทางทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งได้ข้อสรุปเบื้องต้น ดังนี้
.
1.สายการบินจะสามารถจำหน่ายบัตรโดยสารได้เต็มตามจำนวนที่นั่งทั้งหมดได้ โดยไม่ต้องเว้นที่นั่งเนื่องจากระบบอากาศหมุนเวียนในเครื่องบินได้มีการรับรองแล้วว่ามีมาตรฐาน แต่ผู้โดยสารยังต้องรับผิดชอบสวมใส่หน้ากากปิดปากและจมูก ส่วนลูกเรือจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
.
2.ด้านการให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ระยะเวลาของเที่ยวบินต้องเกิน 2 ชั่วโมงจึงจะอนุญาตให้มีบริการอาหารและเครื่องดื่มได้ และต้องมีมาตรการลดการสัมผัสระหว่างลูกเรือกับผู้โดยสารมากที่สุด
.
3.การจัดที่นั่งพิเศษ 3 แถวหลัง เพื่อแยกผู้โดยสารที่มีอาการน่าสงสัยระหว่างเที่ยวบิน จะมีการพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสมตามระดับความเสี่ยงของพื้นที่ที่จะให้บริการ และระยะเวลาในการบิน
.
อย่างไรก็ตามทางกพท.จะนำข้อเสนอแนะจากการหารือที่ได้จากสายการบินและสนามบินในวันนี้ ไปพิจารณาปรับปรุงร่างประกาศ ฯ และนำไปหารือร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในด้านอื่นๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ และ ศบค. ต่อไป
.
แต่การหารือวันนี้สายการบินต่างๆยังไม่มีการส่งสัญญาณว่าจะเริ่มกลับมาบินเส้นทางระหว่างประเทศ เนื่องจากข้อกำหนดการปิดน่านฟ้าของกพท.มีผลบังคับใช้ถึง 30 มิ.ย.นี้
.
นอกจากนี้จากข้อมูลของ IATA ที่ทำการสำรวจข้อมูลจาก 122 สายการบินทั่วโลก พบว่าการทำการบินแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารบนเครื่องบินไม่น้อยกว่า 77% จึงจะคุ้มทุน หากจำนวนผู้โดยสารต่ำกว่านั้น อาจเสี่ยงกับการขาดทุนได้ ซึ่งปีนี้จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางทางอากาศในส่วนของประเทศไทยจะหายไปถึง 70% และเหลือเดินทาง 30% เท่านั้น เกือบทั้งหมดเป็นเส้นทางภายในประเทศ โดยคาดว่าการบินในเส้นทางระหว่างประเทศจะเริ่มกลับมาได้ในช่วงเดือนก.ย. 2563
.
#กพท #สายการบิน #IATA #Misterban

 

แบ่งปันจาก MisterBan

Jun 16 , 2020 ครม. เห็นชอบขยายราคาซื้อขาย-วงเงินกู้โครงการบ้านล้านหลัง เป็น 1.2 ล้านบาท จากเดิม 1 ล้านบาท
.
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี หรือครม. มีมติเห็นชอบปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือโครงการบ้านล้านหลัง สำหรับลูกค้ารายย่อยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. โดยปรับเพิ่มราคาซื้อขายไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อหน่วย และวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จากเดิมที่กำหนดราคาซื้อขายและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกำหนดราคาที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
.
รวมถึงสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถมีที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานเป็นของตนเอง สนับสนุนผู้มีรายได้น้อยให้มีทางเลือก ทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อมชุมชนและระดับราคา สำหรับสามารถมีที่อยู่อาศัยได้ตรงความต้องการ รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ช่วยกระตุ้นการลงทุนในกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย
.
พร้อมปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้สอดคล้องกับประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนฯ ที่แก้ไขเพิ่มเติมบัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุนโดยกำหนดให้กิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยได้รับสิทธิประโยชน์เฉพาะการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ กรณีที่อยู่อาศัยที่ขอรับการส่งเสริมตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ต้องจำหน่ายราคาต่อหน่วยไม่เกิน 1.2 ล้านบาท (รวมค่าที่ดิน) ส่วนกรณีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอื่นต้องจำหน่ายราคาหน่วยละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยที่อยู่อาศัยดังกล่าวจะต้องจำหน่ายให้แก่บุคคลธรรมดาเท่านั้น
.
#ธอส #บ้านล้านหลัง #โครงการ #Misterban

 

ยังคิดว่าเผื่ออีกหรือถ้าคิดว่าจะเกิดก็ไม่รวรรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ฐานะการเงินและสภาพเศรษฐกิจของไทยไม่พร้อมกับการระบาดรอบ2 แล้ว รอบ2 ก็ถังแตกน่ะจ่ะ จะเอาเงินจากไหนมาแจกเยียวยาได้อีก

แบ่งปันจาก MisterBan

Jun 16 , 2020 กทม.เตรียมพร้อมหากมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่
.
นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) ได้หารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากภายหลังการผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดหลายประการ
.
ทั้งนี้หากเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ขึ้นจริง อาจสร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนมากกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดรอบที่ผ่านมา จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายประสานการทำงานและเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ดังกล่าว โดยในส่วนของกรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์
.
นอกจากนี้ได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตือนให้ประชาชนดูแลสุขอนามัย ปรับการดำเนินชีวิตแบบ New Normal ซึ่งจะส่งผลให้การควบคุมการแพร่ระบาดเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ลดการขยายวงการแพร่ระบาดได้ทันท่วงที รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจแนะนำสถานประกอบการ ห้างร้าน รวมถึงประชาชนที่ประกอบกิจกรรมในสถานที่สาธารณะต่างๆ ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้นและทั่วถึง และขอให้หมั่นตรวจซ้ำสถานที่ดังกล่าวข้างต้นเพื่อให้คำแนะนำและกระตุ้นเตือนผู้ประกอบการและประชาชน โดยเฉพาะในตลาดสด ตลาดนัด และตลาดน้ำด้วย
.
อย่างไรก็ดีการทำงานของทีมสอบสวนโรคเร่งด่วน (SSRT) เป็นอีกปัจจัยที่จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีทีมสอบสวนโรคเร่งด่วน รวมทั้งสิ้น 71 ทีม ทีมสอบสวนโรคเร่งด่วน ประจำศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 68 แห่ง รวม 68 ทีม และทีมสอบสวนโรคเร่งด่วนของสำนักอนามัย จำนวน 3 ทีม จึงขอให้โรงพยาบาลในสังกัดพิจารณาจัดตั้งทีมสอบสวนโรคเร่งด่วนเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างทันต่อเหตุการณ์ซึ่งจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโรคได้อย่างรวดเร็วต่อไป
.
#กทม #ไวรัสโควิด #โรคระบาด #ระลอก2 #Misterban

 

แบ่งปันจาก MisterBan

Jun 16 , 2020 นายกฯยืนยันจะไม่ลงนาม CPTPP หากไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ - ประชาชน
.
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันนี้ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP โดยเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมการค้า การบริการ และการลงทุนเพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก ทั้งในด้านทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม
.
พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะเข้าเจรจาเพื่อผลประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ และประชาชน หากพบว่าการเจรจาไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศสูงสุด รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ร่วมลงนามในข้อตกลงดังกล่าว
.
โดยได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เร่งพิจารณาผ่อนคลาย เงื่อนไขข้อกฎหมาย เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้คล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากพบว่าที่ผ่านมายังมีผู้ประกอบการจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โดยเฉพาะจากมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
.
#CPTPP #นายกรัฐมนตรี #รัฐบาล #misterban

 

แบ่งปันจาก MisterBan

Jun 16 , 2020 ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 64 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท
.
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท เพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป
.
โดยงบประมาณจำแนกเป็นกลุ่มงบประมาณ ได้แต่ งบกลาง 614,616.2 ล้านบาท รายจ่ายหน่วยรับงบประมาณ 1,135 ล้านบาท รายจ่ายบูรณาการ 2.57 แสนล้านบาท รายจ่ายบุคลากร 776,887 ล้านบาท ทุนหมุนเวียน 221,981 ล้านบาท รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ 293,454 ล้านบาท
.
พร้อมเห็นชอบให้เสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญทั้งหมด 64 คน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงการคลัง เป็นสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี ที่จะต้องมีได้ไม่เกิน 16 คน ขณะที่สัดส่วนจากพรรคการเมืองที่เหลือ 48 คน แบ่งเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 27 คน และ ส.ส.ฝ่ายค้าน 21 คน ซึ่งจะเสนอภายหลังจากที่สภาฯ ได้ลงมติรับหลักการไปแล้ว
.
#ล้านล้านบาท #งบประมาณ #ปี2564 #ครม #misterban

 

แบ่งปันจาก MisterBan

Jun 16, 2020 ทั่วโลกเลิกใช้น้ำมันดิบกว่าวันละ 8 ล้านบาร์เรล ทรุดเป็นประวัติศาสตร์ ผลพวงโควิด-19 ระบาดทั่วโลก
.
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA เปิดเผยว่า ความต้องการใช้หรือบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้จะทรุดต่ำลงถึง 8.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งทำสถิติดำดิ่งลงครั้งประวัติศาสตร์ สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลกที่สร้างความเสียหายกับเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรงในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกจะฟื้นตัวในปี 2021 โดยเพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดใน 1 ปี ตั้งแต่เคยมีมา
.
ด้านการประเมินความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้ จะอยู่ที่ 91.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเกือบวันละ 500,000 บาร์เรลจากเดิมที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านไป สาเหตุจากการเร่งขนส่งน้ำมันดิบในช่วงมาตรการปิดประเทศท่ามกลางโรคระบาดโควิด-19
.
#ทั่วโลก #เลิกใช้ #น้ำมันดิบ #Misterban

 

แบ่งปันจาก MisterBan

Jun 16 , 2020 เกาหลีเหนือระเบิดศูนย์ประสานงานสองเกาหลี พร้อมส่งกองกำลังทหารเข้าไปยังเขตปลอดทหารใกล้พรมแดนเกาหลีใต้
.
ภายหลังจากผู้นำกองทัพเกาหลีเหนือได้ออกคำขู่ต่อทางการเกาหลีใต้ในวันนี้ว่า อาจส่งกองกำลังทหารเข้าไปยังเขตปลอดทหารใกล้พรมแดนเกาหลีใต้ เพื่อตอบโต้กรณีที่รัฐบาลโซลไม่อาจจัดการกับกลุ่มนักเคลื่อนไหว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ ทำการโปรยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อโจมตีผู้นำคิมจองอึนข้ามพรมแดนมายังฝั่งเหนือ
.
โดยเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นางสาวคิมโยจอง น้องสาวของผู้นำคิมจองอึนได้ออกมาขู่ในลักษณะเดียวกัน ว่าจะสั่งให้กองทัพลงมือจัดการกับเกาหลีใต้
.
ล่าสุดกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ฝั่งเกาหลีเหนือได้ปิดศูนย์ประสานงานสองเกาหลีซึ่งเป็นอาคารสูง 4 ชั้นที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง โดยเมื่อเวลา 14.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น และมีรายงานเสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับกลุ่มควันพวยพุ่งจากบริเวณดังกล่าว โดยไม่กี่นาทีหลังเกิดกลุ่มควันและเสียงระเบิด สำนักข่าวกลางKCNA สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยางยืนยันว่า ศูนย์ประสานงานดังกล่าวถูกทำลายทิ้งราบเป็นหน้ากลองแล้ว
.
ท่าทีของเกาหลีเหนือชัดเจนและทวีความรุนแรงขึ้นตลอดช่วงสองเดือนที่ผ่าน นับตั้งแต่มีรายงานข่าวการป่วยหนักของผู้นำคิมจองอึน มาจนถึงกรณีกลุ่มนักเคลื่อนไหวฝั่งใต้ปล่อยบอลลูนใบปลิวข้ามไปฝั่งเหนือ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ออกมาแสดงท่าทีอันแข็งกร้าวไม่ใช่ตัวผู้นำคิม แต่กลับนางสาวคิมโยจอง น้องสาวของผู้นำคิม ซึ่งเธอได้ถูกจับตามองเป็นพิเศษในฐานะผู้สืบทอดอำนาจต่อจากพี่ชาย
.
#เกาหลีเหนือ #เกาหลีใต้ #ระเบิด #Misterban

 

แบ่งปันจาก MisterBan

Jun 16 , 2020 คลังเตรียมขายบอนด์หน่วยละ 1 บาท ผ่านระบบบล็อกเชน กำหนดซื้อขั้นต่ำ 100 บาท ประเดิมทดลองโครงการแรก 200 ล้านบาท
.
นางแพรตริเซีย มงคลวณิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สบน. เปิดเผยว่า เตรียมเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์รูปแบบใหม่ โดยจะขายผ่านระบบบล็อกเชน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เปิดขายผ่านนวัตกรรมทางการเงินแบบใหม่ โดยจะร่วมมือกับ ธนาคารกรุงไทย ในการซื้อขายผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า อีวอลเล็ต
.
จากปกติการซื้อขายพันธบัตรออมทรัพย์ จะเปิดให้ซื้อขายผ่านระบบของสถาบันการเงิน เช่น ผ่านตู้เอทีเอ็ม หรือสาขาธนาคารพาณิชย์ แต่ครั้งนี้ ได้พัฒนาให้สามารถซื้อขายผ่านโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอปพลิเคชันและมีบัญชีกระเป๋าเงินอีวอลเล็ตของธนาคารกรุงไทย ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการซื้อขาย
.
ที่สำคัญการซื้อขายพันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าว ยังสามารถซื้อขายได้ในราคาต่อหน่วยที่น้อยลง จากปกติจะเสนอขายหน่วยละ 1 พันบาท แต่ครั้งนี้เราจะเสนอขายหน่วยละ 1 บาท โดยต้องซื้อขั้นต่ำที่ 100 บาท เพื่อให้ประชาชนรายย่อยได้เข้าถึงหรือสามารถออมเงินผ่านพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาลได้มากขึ้น
.
นอกจากนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลเคยออกโครงการชิมช้อปใช้ โดยใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า “เป๋าตัง”มาแล้ว ซึ่งการซื้อขายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านระบบบล็อกเชนครั้งนี้ ก็จะมีลักษณะคล้ายกันหรือผ่านแอพ“เป๋าตัง”
.
ดังนั้น จึงเชื่อว่า ประชาชนที่สนใจจะสามารถใช้ระบบบล็อกเชนดังกล่าวได้ไม่ยากสำหรับวงเงินที่เปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ครั้งนี้ จะอยู่ที่ 200 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนที่ไม่มาก เพราะเป็นการทดลองนวัตกรรม โดยผู้ที่สามารถเข้าซื้อได้จะต้องมีบัญชีของธนาคารกรุงไทยและสมัครบริการใช้อีวอลเล็ต
.
ทั้งนี้ช่วงระยะหลายเดือนที่ผ่านมา สบน.ได้ทยอยออกพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อเสนอขายแก่ประชาชนทั้งรายย่อยและนักลงทุนทั่วไป โดยอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับอายุของพันธบัตร อาทิ รุ่นอายุ 1-5 ปี อัตราดอกเบี้ยจะเฉลี่ยที่ 1.7- 2% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปีจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ 4%ต่อปี
.
#พันธบัตร #บอนด์ #หน่วยละ #1บาท #Misterban

 

แบ่งปันจาก MisterBan

Jun 16 , 2020 ครม.เคาะจ่ายเยียวยากลุ่มเปราะบางเดือนละ 1,000 บาท นาน 3 เดือน
.
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรีหรือ ครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบช่วยเหลือ "เยียวยากลุ่มเปราะบาง" จำนวน 6.7 ล้านคน ตามที่ครม.อนุมัติหลักการไปแล้วก่อนหน้านี้
.
โดยการจ่ายเยียวยากลุ่มเปราะบาง แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. เด็กแรกเกิด ถึงอายุ 6 ปี ที่อยู่ในครอบครัวมีฐานะยากจน มีจำนวน 1.3 ล้านคน
2. ผู้สูงอายุ อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4 ล้านคน
3. ผู้พิการ จำนวน 1.3 ล้านคน
.
โดยเงินจะโอนเข้าเดือนมิ.ย. จำนวน 2 งวด รวม 2,000 บาท และเดือนกรกฎาคม 1 งวด อีกจำนวน 1,000 บาท รวมต้องใช้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท
.
นอกจากนี้ยังเห็นชอบอีก 3 โครงการ โดยโครงการแรก เป็นโครงการช่วยเหลือเยียวประชาชนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่ได้รับช่วยเหลือจากโครงการของภาครัฐ มีจำนวน 1,164,222 คน เดือนละ 1,000 บาท 3 เดือน ตั้งแต่พ.ค.- ก.ค. โดยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ต้องมีการลงทะเบียนเพิ่มเติม รวมวงเงิน 3,492 ล้านบาท

.
โครงการที่สอง เป็นการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนโครงการเราไม่ทิ้งกันไม่สำเร็จตาม โดยมีจำนวน 302,160 คน ที่ตรวจสอบความซ้ำซ้อนแล้ว ยังไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย จากโครงการของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 กรอบวงเงินงบประมาณ ไม่เกิน 906 ล้านบาท โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังไปพิจารณากำหนดกลุ่มเป้าหมายและกลไกการความช่วยเหลือให้ชัดเจน และส่งให้คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯ พิจารณาใน 1 เดือน
.
โครงการที่สี่ ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ โดยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายเกษตรกร รวมถึงเกษตรกรที่ด้อยโอกาสและยังไม่สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตร จำนวน 137,093 ราย ซึ่งต้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 และผ่านการตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการของกรมบัญชีกลางและระบบประกันสังคมของสำนักงานประกันสังคม รวมทั้งมาตรการอื่นใดของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการเยียวยา เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวเป็นไปอย่างเท่าเทียม โดยการดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบวงเงินและจำนวนเกษตรกลุ่มเป้าหมายไม่เกิน 10 ล้านราย ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563
.
#ครม #เยียวยา #กลุ่มเปราะบาง #ไวรัสโควิด #Misterban

 

‘ทรัมป์’ ขู่ลดทหารใน ‘เยอรมนี’ เหลือ 25,000 นาย
เคืองไม่อุดหนุนงบ ‘นาโต’

รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศจะลดจำนวนทหารอเมริกันที่ประจำการในเยอรมนีเหลือ 25,000 นาย โดยกล่าวโทษชาติพันธมิตรรายนี้ว่าไม่จ่ายงบป้องกันประเทศอย่างเพียงพอตามเป้าหมายของสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และยังมีพฤติกรรมเอาเปรียบสหรัฐฯ ในด้านการค้า

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000062131

#nato #นาโต้ #สนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ #ยุโรป #เยอรมนี #สหรัฐฯ

 

กลืนลำบาก-กลืนเจ็บ ปวดหู ระวัง "มะเร็งโคนลิ้น"
.

https://mgronline.com/qol/detail/96...mxB9yQR3fwQccIRF1bb6KQCoRWEzZ275VIeoaw7xDls_s
.
#mgronline #mgrinfographic #มะเร็งโคนลิ้น #สุขภาพ

 

สื่อท้องถิ่น เป่ยจิง ยูธ เดลี่ (Beijing Youth Daily) เผย (16 มิ.ย.) ขณะนี้เขตต่างๆในนครหลวงปักกิ่ง 4 เขต ได้แก่ เขตเฉาหยัง เขตเฟิงไถ เขตเหมินโถวโกว และเขตต้าซิง ประกาศ “ภาวะสงคราม” จัดกลไกแบบยามเกิดศึกสงคราม เพื่อสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19

อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000062201
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

สถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงไคโร "ประเทศอียิปต์ " เปิดกำหนดการ 6 เที่ยวบินพิเศษกรุงไคโร – กรุงเทพฯ และกรุงคาร์ทูม – กรุงเทพฯ ระหว่าง 23 มิ.ย. 63 ถึง 24 ก.ค. 63 นี้ ย้ำอยู่ในระหว่างการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งทุกขั้นตอนการลงทะเบียนเที่ยวบินพิเศษ ให้ชุมชนไทยทราบในโอกาสแรก หลังนักศึกษา-แรงงาน ร้องให้รัฐบาลไทยช่วยเหลือพากลับบ้าน

อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000062273
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

แบ่งปันจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

เกาหลีเหนือ : ระเบิดศูนย์ประสานงานร่วมเกาหลีใต้ทิ้ง หลังไม่พอใจเกาหลีใต้เรื่อง
ต้นมิถุนายน สหรัฐติดตั้งระบบ THAAD ป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีใต้เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากขีปนาวุธเกาหลีเหนือ และมีการซ้อมรบร่วมสหรัฐรวมถึงซ้อมระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ได้รับมอบ
คิม โย จอง น้องสาวคิมจองอึน แถลงเตือนก่อนหน้า
ไม่กี่วันเรื่องตัดความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ พร้อมใช้กำลังทางทหาร รวมทั้งรื้อศูนย์ประสานงานร่วม2เกาหลีทิ้ง และมีระเบิดจริงในวันนี้

# โควิดใกล้จบสงครามเริ่มมา เมื่อวานตรุกีใช้ บ.รบ ถล่มเคิร์ดตอนเหนืออิรักอีกคู่
# จีน- อินเดีย ชายแดนกำลังร้อน ทหารอินเดียตาย 3 ในคืนที่ผ่านมา

 

เกาหลีเหนือระเบิดทิ้งสำนักงานประสานงานเกาหลีเหนือและใต้ หลัง คิมโยจอง ส่งสัญญาณขู่ “อีกไม่นาน เราจะได้เห็นฉากที่น่าเศร้าของสำนักงานประสานงานอันไร้ประโยชน์ ถล่มลงมาอย่างราบคาบ”

 

แบ่งปันจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

จีน - อินเดีย : ชายแดนลาดักห์ หรือ ทิเบตน้อย
อินเดีย : ทหารอินเดีย 3 นาย โดนสังหารในคืนวันจันทร์ (ยศพันเอก1 คน) การปะทะกันของทหาร2ฝ่าย ใช้เพียงก้อนหิน และ เหล็กเท่านั้น
ทหารอินเดียเสียชีวิตทำให้สถาณการณ์ชายแดนตึงเครียด เจ้าหน้าที่จีนส่งทหารชั้นผู้ใหญ่เข้าเจรจาตอนนี้
# ข่าวจากสื่ออินเดีย เผยว่าทหารจีนสร้างบังเกอร์
ล้ำเข้ามาในเขตอินเดีย ทหารอินเดียได้เข้าเจรจาและปะทะจนเป็นเหตุทำให้ทหารฝั่งอินเดียเสียชีวิต 3 นาย

 

แบ่งปันจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

ฝรั่งเศส : ปารีส ม็อบเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมสีผิว ต่อต้านความรุนแรง วันนี้ยังมีปะทะกับเจ้าหน้าที่ในกรุงปารีส

 

เกิดเสียงระเบิดในพื้นที่แนวชายแดนฝั่งเกาหลีเหนือ คาดว่าเป็นการระเบิดทำลายสำนักงานเจ้าหน้าที่ติดต่อระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ที่ แคซอง เป็นไปตามการประกาศของฝั่งเกาหลีเหนือ เมื่อสองวันก่อน
...
กระทรวงรวมชาติเกาหลี ของเกาหลีใต้ได้แถลงการณ์ยืนยันแล้วว่าเกาหลีเหนือระเบิดทำลายสำนักงานติดต่อระหว่างสองเกาหลีที่เมืองแคซอง เป็นที่เรียบร้อยตามคำประกาศเตือนครั้งสุดท้าย จากคิมโยจอง น้องสาวผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
.
สำนักงานดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันหลังมีการพบปะกันที่ปันมุนจอมในปี 2018 โดยประธานาธิบดีมูน แจ อินของเกาหลีใต้หวังจะให้ที่นี่ เป็นทั้งสถานที่และสัญลักษณ์ในการติดต่อปฏิสัมพันธ์ลดความขัดแย้งและคุกคามระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้
.
Cheong Seong-chang ผู้อำนวยการศูนย์เกาหลีเหนือศึกษา สถาบัน Sejong วิเคราะห์ว่าเกาหลีเหนือมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะยุติ ปิดฉากความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ และทำให้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแคซอง กลายเป็นพื้นที่ทางทหาร
.
ก็เป็นไปตามที่เราเกริ่นไป ตั้งแต่อาทิตย์แล้วและเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาครับว่า ปฏิบัติการครั้งนี้น่าจับตา และก็ได้เกิดขึ้นแล้วจริง หลังจากนี้คงต้องดูว่าเกาหลีเหนือจะหยุดสร้างวิกฤตการณ์เพียงแค่นี้หรือไม่ และเกาหลีใต้จะยอมแลกสันติภาพและความสงบ กับงบช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้กับเกาหลีเหนือหรือเปล่า
.
ทั้งนี้ทั้งนั้น เกาหลีเหนือไม่ได้ต้องการสงครามขนาดใหญ่ ต้องการการโจมตีหรืออย่างมากแค่สงครามจำกัดเขต เพื่อกดดันให้ได้สิ่งต้องการ ฉะนั้นเกาหลีเหนือจึงประกาศการโจมตีที่ชัดเจน ว่าจะทำอะไร ที่ไหน เพื่อให้เกาหลีใต้เตรียมการเตรียมตัว ลดผลกระทบได้ทัน ไม่เสียหายและขยายผลเป็นสงครามได้
.
เกาหลีเหนือทำเหมือนที่อิหร่านทำตอนล้างแค้นให้ กัสเซ็ม โซเลมานี่ นั่นแหละ คือประกาศหรือ Hint ชัดเจนว่าจะทำอะไรตรงไหน ทำให้สหรัฐ เตรียมการเอาทหารลงหลุมหลบภัยได้ก่อนเป็นชั่วโมง ทำให้ผลความเสียหายออกมาน้อย ไม่พอที่จะลุกลามตอบโต้เป็นสงคราม อิหร่านก็ได้ทำสิ่งที่อยากทำ
.
เพราะฉะนั้น การให้คิมโยจอง น้องสาวออกหน้าแทนก็น่าจะเป็นส่วนนึงเพื่อลดความสำคัญหรือลดขนาดของปฏิบัติการลง ไม่ให้ใหญ่โตจนกลายเป็นสงครามจริงๆขึ้นมา และก็เป็นโอกาสให้น้องสาวแสดงฝีมือก่อนขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญๆต่อไปในอนาคต

https://www.bloomberg.com/news/arti...ars-to-destroy-inter-korea-office-yonhap-says

https://www.nknews.org/2020/06/expl...korean-liaison-office-in-kaesong-local-press/

 

อัพเดทข้อมูลที่เข้ามาล่าสุดนะครับ ตอนนี้ตัวเลขผู้บาดเจ็บของฝั่งอินเดียยังไม่มีรายงาน ส่วนของจีนทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บยังไม่มีรายงานออกมา (ฝั่งอินเดียบอกว่าน่าจะเสียชีวิต 3-4 คน)

แต่จากข้อมูลคือการปะทะกันเมื่อคืนไม่มีการใช้อาวุธปืนนะครับ เป็นการออกหมัด รัดคอ ชกกัน แบบใช้กำลังกายล้วนๆ

โอ้โห ต้องลงมือกันขนาดไหนถึงมีคนตาย

-----------------------------
จีน-อินเดียปะทะเดือด ทหารอินเดียเสียชีวิตแล้ว 3 นาย
.
หลังจากที่เกิดการเผชิญหน้าและตึงเครียดตามแนวพรมแดนระหว่างจีน-อินเดียติดต่อกันมาเป็นเวลาร่วมเดือน การเผชิญหน้าและปะทะกันระหว่างทหารสองฝ่ายส่วนใหญ่ไม่มีการใช้อาวุธ
.
ทั้งสองชาติเห็นพ้องต้องกันว่าจะใช้แนวทางการเจรจาทางการทูตและการทหารในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อลดความตึงเครียดตามแนวพรมแดนซึ่งเป็นปัญหาระหว่างกันมายาวนาน
.
ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งจีนและอินเดียมีการพูดคุยกันระหว่างนายทหารและนักการทูตระดับสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อคลี่คลายความไม่ลงรอยและความเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับแนวพรมแดนที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปด้วยดีมากตลอดมา เพราะไม่มีข่าวการปะทะกันอีกเลย
.
ในสัปดาห์นี้เองก็มีการพูดคุยและเจรจากันในบริเวณพื้นที่พิพาท ซึ่งทหารทั้งสองฝ่ายได้ลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อสำรวจแนวเขตแดนที่ยังคงมีความเห็นไม่ตรงกัน
.
แต่ล่าสุดตามการรายงานของหลายสำนักข่าวพบว่าเกิดการปะทะกันระหว่างทหารอินเดียและจีนเมื่อช่วงดึกของวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทหารของอินเดียเสียชีวิต 3 นาย ในจำนวนนี้มีระดับนายพันเอกเสียชีวิตด้วย (ไม่มีการใช้อาวุธปืน)
.
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังมีทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่ยังไม่มีการยืนยันจำนวนตัวเลขออกมาด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นเหตุปะทะครั้งรุนแรงในรอบหลายทศวรรษที่เป็นเหตุให้มีทหารเสียชีวิต (ครั้งล่าสุดคือปี 1975)
.
ตามคำแถลงการณ์ของกองทัพอินเดียระบุว่า "ในระหว่างกระบวนการลดกำลังพลในหุบเขากัลวาน มีการเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงเกิดขึ้น เมื่อคืนวานนี้ (คืนวันจันทร์) ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายทั้งสองฝ่าย"
.
ในขณะนี้ผู้บัญชาการทางทหารของทั้งอินเดียและจีนกำลังหารือกันอย่างเร่งด่วนในบริเวณพื้นที่ที่เกิดการปะทะ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และค้นหาสาเหตุของปัญหาที่นำไปสู่ความรุนแรงร่วมกัน
.
ทั้งนี้สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า ทางการจึนระบุว่าเหตุปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นจากการโจมตีและข้ามพรมแดนเข้ามาในฝั่งจีนของอินเดีย
.
ในขณะที่คำแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้อินเดีย "หยุดการกระทำที่เป็นการดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่ได้มีการหารือร่วมกัน"
.
ถือว่าสถานการณ์ค่อนข้างร้อนมาก ๆ เลยครับตอนนี้ และหวังว่าทั้งสองประเทศจะสามารถเจรจากันได้อย่างสันติ และไม่นำสู่การโจมตีกันไปมาที่รุนแรงมากกว่านี้
.
ที่มา บีบีซี/โกลบอลไทม์/ อินเดียทูเดย์/ อินเดียเอ็กเพรส
.
อัพเดทข้อมูลที่เข้ามาล่าสุดนะครับ ตอนนี้ตัวเลขผู้บาดเจ็บของฝั่งอินเดียยังไม่มีรายงาน ส่วนของจีนทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บยังไม่มีรายงานออกมา (ฝั่งอินเดียบอกว่าน่าจะเสียชีวิต 3-4 คน)
.
แต่จากข้อมูลคือการปะทะกันเมื่อคืนไม่มีการใช้อาวุธปืนนะครับ เป็นการออกหมัด รัดคอ ชกกัน แบบใช้กำลังกายล้วนๆ
.
โอ้โห ต้องลงมือกันขนาดไหนถึงมีคนตาย
.
#กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #จีน #ปะทะ #สงคราม #ทหาร #กองทัพ