ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ๐ปากว้าจ่างสายกงเป่าเถียน(ตอนที่1)๐

    ปากว้าจ่าง สาย กงเป่าเถียน(宫宝田) ที่ในภาพยนตร์The Grand Master(ยิปมันเวอร์ชั่นหว่องกาไว)ไปนำเสนอว่าเป็นปากว้าสายตระกูลกง ซึ่งแน่นอนว่าก็แปลงประวัติจนไม่เหลือเค้าเดิม เหมือนที่แปลงประวัติยิปมัน

    กงเป่าเถียน เป็นศิษย์อิ่นฝู(ศิษย์คนโตของปรมาจารย์ตงไห่ชวน ผู้คิดค้นวิชาปากว้าจ่าง) ตำแหน่งสุดท้ายของท่านคือ เป็นองครักษ์ในวังหลวงรุ่นสุดท้ายก่อนราชวงศ์ชิงจะแตก ได้ใช้ชีวิตในยุคสาธารณรัฐอยู่ระยะหนึ่งจึงกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ซานตง

    กงเป่าเถียนมีศิษย์สืบทอดไม่มากนัก แต่ทุกท่านมักได้หลักสำคัญมาเสมอ เช่น ผู้แสดงในคลิปนี้ที่ยังรักษาเอกลักษณ์ของปากว้าจ่างสายกงเป่าเถียนได้อย่างดี เช่น มือลิ้นวัวแบบเดียวกับสายอิ่นฝู และการมีบรรยากาศของมวยเส้าหลินติดมาในชุดรำวงกลม

    หนึ่งในจำนวนผู้ที่เผยแผ่สายนี้ออกไปมากที่สุดในยุคนี้ คือ เหอจิ้งหานแห่งเกาะไต้หวัน ซึ่งเรียนมาจากลูกพี่ลูกน้องของกงเป่าเถียนชื่อ กงเป่าไจ ที่ได้หลักการมาค่อนข้างครบ

    หลิวหยุนเฉียว ศิษย์คนสุดท้ายของหลี่ซูเหวิน ครูฝึกหน่วยองครักษ์บุคคลระดับสูงแห่งเกาะไต้หวัน มีโอกาสเรียนกับกงเป่าเถียนที่เอียนไถ มณฑลซานตง ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และได้นำหลักวิชาปากว้าจ่าง มาใส่ไว้ในปาจี๋เฉวียนและพีกว้าจ่าง ในการสอนยุคปลายชีวิตของท่าน

    ในส่วนของปากว้าจ่างสายหลิวหยุนเฉียว ได้มีการหยิบยืมบันทึกส่วนตัว 1 ใน 2 เล่ม จากอาจารย์กงเป่าไจ มารื้อฟื้นวิชาขึ้นมาใหม่ จีงเป็นเหตุให้ปากว้าจ่างสายหลิวหยุนเฉียวมีความแตกต่างไปจากสายกงเป่าเถียนดั้งเดิมทั้งบรรยากาศและชื่อท่า โดยในภายหลังศิษย์ของหลิวหยุนเฉียวบางท่านก็ได้มีโอกาสกลับแผ่นดินใหญ่มาเรียนชุดรำนี้กลับไปถ่ายทอดต่อกันภายในเช่นกัน

    ผู้แสดงในคลิปนี้คือ อาจารย์ซุนอวี้หย่ง ครูมวยปากว้าจ่าง เมืองเอี้ยนไถ มณฑลซานตง แสดงชุดรำ ฝ่ามือแปรเปลี่ยน(变化掌) เป็นชุดรำปากว้าก่อนกำเนิด เพื่อสร้างแรงภายใน

    ติดตามอ่านตอนที่ 2


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ๐ปากว้าจ่างสายกงเป่าเถียน(ตอนที่ 2)๐

    คนจำนวนมากเห็นปากว้าจ่างมีการรำช้า วาดมือเป็นวงกลมเหมือนร่ายรำไปมาก็นึกว่า มวยนี้ใช้การหลบเลื้อยหลีกเข้าโจมตีฝ่ายตรงข้ามเป็นหลัก บ้างก็แสดงการเลือยนี้ให้กับศิษย์ใช้ป้องกันตัว ซึ่งก็มักจะใช้ได้ดีเวลาอยู่กันเองในสำนัก ทั้งที่มวยรำช้าชุดนั้นเป็นเพียงชุดรำเน่ยกงเสริมกำลังภายใน หรือที่เรียกว่า ปากว้าก่อนกำเนิด(先天八卦-เซียนเทียนปากว้า) หมายความถึงการปรับร่างกายให้สู่สภาวะก่อนกำเนิด คือสภาวะธรรมชาติ ระบบฝึกนี้หากเทียบกับมวยไท่จี๋ก็คือชุดรำช้า ที่การรำช้าไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อฝึกการใช้ในสถานการณ์จริง ไท่จี๋จึงมีมวยเร็วบ้าง ฉางเฉวียนบ้าง เอาไว้ประกอบการฝึกใช้จริง

    ระบบฝึกของปากว้าเองก็มีชุดฝึกท่ามวยเพื่อการโจมตีตรงและหนักเหมือนมวยทั่วไป บางสายเรียก ปากว้าหลังกำเนิด(后天八卦-โฮ่วเทียนปากว้า) บางสายเรียกชุด 64 ฝ่ามือ(六十四掌-ลิ่วสือซื่อจ่าง)

    สายกงเป่าเถียนเองชุดก็มีชุด 64 ฝ่ามือ แต่ชุดที่สำแดงพลังแข็งได้ดีก็คือ เผ้าฉุย(炮捶-มวยปืนใหญ่) ที่ได้รับอิทธิพลมาจากมวยอรหันต์เส้าหลิน วิชาเดิมของท่าน ที่คนในครอบครัวสกุลกง หรือคนที่จะเรียนปากว้าจ่างสายนี้ จะเริ่มจากเผ้าฉุย เพื่อสร้างพละกำลังก่อน จากนั้นจึงฝึกอ่อน(ชุดเดินรำวงกลม)แล้วค่อยนำอ่อนมาประสานแข็ง

    ผู้แสดงในคลิปนี้เป็นทายาทสกุลกงแห่งเอียนไถมณฑลซานตง ชื่อ กงอิงขุย(宫英奎)

    รำอ่อนก็มี รำแข็งก็มี แล้วสองสิ่งจะนำมาผสมผสานกันได้ไหม? ติดตามตอนต่อไป

    ตอนที่ 1


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โจวซิงฉือ อุ้ยเสี่ยวป้อในใจ กิมย้ง

    ท่านกิมย้งเขียนนวนิยายกำลังภายในจำนวน 15 เรื่อง โดยทั้งหมดที่ท่านกิมย้งเขียนล้วนเป็นนวนิยายกำลังภายใน เป็นเรื่องยาว 12 เรื่อง เรื่องขนาดกลาง 2 เรื่อง และ เรื่องสั้น 1 เรื่อง เรื่องแรกของท่านคือ จอมใจจอมยุทธ หรือ ตำนานอักษรกระบี่ - 書劍恩仇錄 - Book and Sword: Gratitude and Revenge (พ.ศ. 2498) และเรื่องสุดท้ายคือ อุ้ยเสี่ยวป้อ - 鹿鼎记 - Deer and the Cauldron (พ.ศ. 2512-2515)

    อุ้ยเสี่ยวป้อ (เหวยเสียวเป่า) นับว่าเป็นผลงานลำดับสุดท้ายของท่านกิมย้ง แม้จะเขียนก่อน กระบี่นางพญา แต่จบทีหลัง อุ้ยเสี่ยวป้อ เริ่มนำลงในหนังสือพิมพ์หมิงเป้า เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ.1969 จวบกระทั่ง วันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 1972 ค่อยนำลงจบเรื่อง ใช้เวลานำลงสองปีกับอีกสิบเอ็ดเดือน เป็นนิยายเรื่องสุดท้ายของท่านกิมย้ง ซึ่ง เหง่ยคัง(สหายสนิทของท่านกิมย้ง/นักเขียน) ถือว่าเรื่องนี้เป็นสุดยอดพัฒนาการทางการประพันธ์ของท่านกิมย้ง และเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงฝีมือท่านกิมย้งว่า " ไม่มีใครเป็นคู่แข่งได้ "

    ความเป็นยอดของนวนิยายเรื่องนี้อยู่ที่เป็นนิยายกำลังภายในที่ไม่ใช่นิยายกำลังภายใน นิยายกำลังภายในโดยทั่วไปมีขนบในการแต่งที่เห็นได้ง่ายอยู่สองประการคือ ตัวเอกต้องเป็นจอมยุทธหรืออย่างน้อยต้องมีวิทยายุทธ และตัวเอกต้องเป็นคนดีในแง่ของคุณธรรม แต่อุ้ยเสี่ยวป้อในเรื่องนี้มีลักษณะตรงข้ามกับขนบดังกล่าวทุกประการ ลักษณะดังกล่าวไม่เคยปรากฏในนิยายกำลังภายในเรื่องใดมาก่อน และเหง่ยคังว่าไม่มีเรื่องอื่นอีกต่อไป

    ในช่วงยุคต้นๆของทั้งชอว์บราเดอร์ ทีวีบี เมื่อนำบทประพันธ์ชิ้นใดของท่านกิมย้ง มาสร้างล้วนจะต้องสอบถามท่านกิมย้งเกี่ยวกับนักแสดงที่เหมาะสมเสียก่อน ซึ่งหลายครั้งท่านกิมย้งจะออกความคิดเห็น เกี่ยวกับนักแสดงบ้าง อย่าง องเหม่ยหลิง ผู้ที่เป็นอึ้งย้งที่โด่งดังที่สุด

    ในปี 1983 ทางบริษัท ทีวีบี ได้ประกาศหาผู้สมัครรับบทอึ้งย้ง ในโครงการ "อึ้งย้งในอุดมคติ" กันอย่างเปิดเผย และเธอต้องฝ่าด่านผู้สมัครรับบทอึ้งย้ง นี้ถึง 3,000 คน ทีวีบีได้คัดจนเหลือ 60 คนทันที และในที่สุดก็เหลือเพียงแค่ 4 คนสุดท้ายและเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น

    คะแนนทั้ง 4 คนสูสีกันมาก ทำให้ผู้กำกับและฝ่ายโปรดิวเซอร์ของละครชุดนี้ ลำบากใจในการเลือก ดังนั้นจึงมอบหมายให้ กิมย้ง ผู้แต่งนวนิยานเรื่องนี้ เป็นคนตัดสินใจเลือก ครั้งแรกที่กิมย้ง พบ องเหม่ยหลิง ก็สะดุดในความน่ารักบนใบหน้าของเธอทันที โดยเฉพาะดวงตาที่กลมโตของเธอ ซึ่งส่อแววความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก กิมย้งให้ นักแสดง 4 คนสุดท้ายร่ายรำกระบี่ให้เขาดู ทันทีที่เขาเห็น องเหม่ยหลิง ร่ายรำกระบี่ เขาพูดกับผู้กำกับว่า นี่คือ อึ้งย้งที่เขาหามานาน ด้วยบุคลิกที่ร่าเริง คล่องแคล่ว เหมือน อึ้งย้งในนิยาย ในที่สุดทั้ง กิมย้ง ผู้กำกับและฝ่ายโปรดิวเซอร์ของกองละคร ก็ได้ตัดสินใจเลือกเธอ เป็นอึ้งย้ง คนใหม่หลังจากที่บริษัท (TVB) ได้ประกาศสร้างละครฟอร์มใหญ่เรื่อง มังกรหยก ภาค1 ซึ่งมีความยาวถึง 60 ตอน

    สำหรับการสร้างอุ้ยเสี่ยวป้อในรูปแบบภาพยนตร์ก็เช่นกัน ในช่วงต้นยุค 90s จากความสำเร็จของเดชคัมภีร์เทวดา 2 (The Swordsman 2 / 1992) ของฉีเคอะ ทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างจับจ้องบทประพันธ์ของท่านกิมย้งเพื่อดัดแปลงเป็นภาพยนตร์

    ในปี 1992 ทาง Win's Movie Productions ของหวังจิงได้มีการพูดคุยกับทาง Golden Harvest ของ เรย์มอน เชา ว่าจะสร้าง อุ้ยเสี่ยวป้อในรูปแบบภาพยนตร์ ซึ่งทั้ง เรย์มอน เชา และ หวังจิง ล้วนเคยทำงานกับทางชอว์ บราเดอร์ และ ทีวีบีมาก่อน ดังนั้นทั้งสองล้วนถือธรรมเนียมปฏิบัติที่จะขอความคิดเห็น จาก เจ้าของบทประพันธ์อย่างท่านกิมย้ง

    ท่านกิมย้ง เมื่อทราบว่าทาง Golden Harvest และ หวังจิงจะสร้างอุ้ยเสี่ยวป้อในรูปแบบภาพยนตร์และจะให้โจวซิงฉือรับบทนี้ ท่านจึงเขียนคำเพียง 6 คำ และส่งแฟ๊กซ์มาให้ทางหวังจิง

    “不做第二人想” “ไม่ต้องมีคนที่สอง” แปลความว่าไม่จำเป็นต้องหาตัวเลือกที่สองมาให้ผมเลือกอีก

    ปัญหาดั้งเดิมในการเลือกบทประพันธ์อุ้ยเสี่ยวป้อมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เนื่องจากนวนิยายของท่านกิมย้งนี้มีรายละเอียดและตัวละครจำนวนมาก การดัดแปลงภาพยนตร์นั้นในหลายรายละเอียดของตัวละครย่อมถูกลดลง อีกทั้ง “อุ้ยเสี่ยวป้อ” ฉบับทีวีบี ปี 1984 ที่ นำแสดงโดย เหลียงเฉาเหว่ย และ หลิวเต๋อหัว นั้น ประสบความสำเร็จอย่างสูง เมื่อเวลาจะผ่านไปหลายปีคนยังพูดถึงและประทับใจ ดังนั้นย่อมต้องมีการเปรียบเทียบแน่นอน

    การคัดเลือกตัวละครอุ้ยเสี่ยวป้อเมื่อได้ โจวซิงฉือมารับบท ย่อมเป็นที่คลายใจต่อทีมงานผู้สร้าง ส่วนบทคังซีฮ่องเต้ หวังจิง เลือก เวินเจ้าหลุน พระเอกอันดับต้นๆทางจอแก้วของทีวีบีมารับบทนี้ ส่วนบทบาทที่ถูกจับตามองไม่แพ้กันคือ บรรดาภรรยาของ อุ้ยเสี่ยวป้อในเรื่อง ซึ่งหวังจิงก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง ในภาคแรก หวังจิง ให้ จางเหมี่ยนรับบท หลงเอ๋อที่ปลอมตัวเป็นไทเฮา ซิวซู่เจิน รับบท องค์หญิงเจี้ยนหนิง เฉินเต๋อหยง กับ หยวนเจี๊ยอิน คู่แฝดซวงเอ๋อ และ อาเค่อ รับบทโดย หลีเจียซิน ส่วนในภาคสอง หวังจิงได้หลินชิงเสียมาแสดง ด้วยความโด่งดังของหลินชิงเสียจากเดชคัมภีร์เทวดา 2 หวังจิงถึงกลับเปลี่ยนตัวละครหลงเอ๋อ ที่ภาคแรกแสดงโดยจางเหมี่ยน เป็นหลินชิงเสียในภาคสอง

    สำหรับอุ้ยเสี่ยวป้อเวอร์ชั่นปี 1992 นี้ เล่าเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้ออยู่ในหอนางโลมกับพี่สาว(อู๋จวินหรู ดาราสาวเพียงคนเดียวที่เคยแสดงอุ้ยเสี่ยวป้อในเวอร์ชั่นปี 1984 ของทีวีบี) วันหนึ่งเขาได้มีโอกาสช่วยชีวิตของ เฉินเจิ้นหนาน(หลิวสงเหยิน) หัวหน้าพรรคฟ้าดินจน เฉินเจิ้นหนานต้องการตอบแทนบุญคุณรับเป็นศิษยืและแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าสาขามรกตพร้อมมอบหมายภารกิจให้เข้าวังไปลอบสังหาร ฮ่องเต้ คังซี (เวินเจ้าหลุน)

    เมื่อเข้าไปในวัง อุ้ยเสี่ยวป้อก็ถูก ไห่ต้าฟู่(อู๋ม่งต๊ะ) หัวหน้าขันทีให้ปลอมตัวเป็นขันทีไปขโมย คัมภีร์ 42 บท ทำให้เขากลายเป็นสหายกับคังซีโดยไม่รู้ตัวซ้ำยังตกเป็นที่รักขององค์หญิงเจี้ยนหนิง(ซิวซู่เจิน)อีก

    คังซีวางแผนให้อุ้ยเสี่ยวป้อจัดการเอ๋าไป๋ (เอลวิส ฉี) เหตุการณ์สลับซับซ้อนเกี่ยวกับคัมภีร์ 42 บท ที่ไทเฮาปลอม โดยหลงเอ๋อ(จางเหมี่ยน) ก็ต้องการรวบรวมเพื่อนำไปสู่ขุมสมบัติ แต่อุ้ยเสี่ยวป้อก็เอาตัวรอดมาได้ และทำลายแผนการของหลงเอ๋อ ที่หมายกลับมาล้างแค้นอุ้ยเสี่ยวป้อ โดยเปิดเผยโฉมหน้าแท้จริงของตนเองว่าคือ ซูเฉวียน ประมุขพรรคมังกรทอง(หลินชิงเสีย) (แบบนี้ก็ได้หรือ?)

    ในภาคสอง คังซียกย่องความดีของอุ้ยเสี่ยวป้อที่กำจัดเอ๋าไป่ และคลี่คลายคดีคัมภีร์ 42 บท จะตั้งแต่ให้อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นเสนาบดีใหญ่ และถูกส่งตัวไปหาทางปราบอู๋ซานกุ้ย เจ้าเมืองผิงซี (ฉินเพ่ย) ที่กำลังคิดก่อการกบฏ ระหว่างทางอุ้ยเสี่ยวป้อได้พบกับบุตรชายของอู๋ซานกุ้ยและมีเรื่องกัน ทั้งได้พบกับแม่ชีแขนเดียว เกาลั้งซึ่งเป็นราชธิดาองค์ใหญ่ของฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงกับอาเคอ (หลี่เจียซิน) ที่ต้องการทำลายคังซี รวมถึงการกลับมาล้างแค้นของ ซูเฉวียน ประมุขพรรคมังกรทอง(หลินชิงเสีย)

    อุ้ยเสี่ยวป้อในฉบับนี้ ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในภาคแรก ทำรายได้ในฮ่องกงสูงถึง 40 ล้านเหรียญ ส่วนภาคสองที่ฉายในปีเดียวกันทำรายได้สูงถึง 36 ล้านเหรียญ สองภาครวมกันเกือบ 80 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

    สำหรับความสำเร็จของอุ้ยเสี่ยวป้อเวอร์ชั่นนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับโจวซิงฉือ และ หวังจิง ผู้กำกับ ที่สร้างความตลกขบขันอย่างลงตัว และไม่หลุดโลกมากเกินไป(อาจจะยังเกรงใจท่านกิมย้งอยู่บ้าง) ส่วนตัวละครคังซีของเวินเจ้าหลุนนั้นถูกลดบทบาทลงอย่างเห็นได้ชัดในภาคสอง แตกต่างจากตอนที่หลิวเต๋อหัวเคยแสดงไว้ในเวอร์ชั่นโทรทัศน์

    เนื่องจากเนื้อหาที่ยาว จึงมีการแบ่งเป็นสองภาค การเก็บรายละเอียดในภาคแรกและภาคสองนั้นมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ด้วยความตลกเนื้อหาที่ยั่วล้อความโด่งดังของ เดชคัมภีร์เทวดา 2 ซึ่งภาคสองนี้ยังได้หลินชิงเสียมาร่วมแสดง หวังจิงถึงกลับตัดใจตัด จางเหมี่ยนออกจากภาพยนตร์ เพราะไม่สามารถหาบทบาทอื่นที่โดดเด่นให้หลินชิงเสียแสดงได้

    การมาแสดงภาพยนตร์ชุดอุ้ยเสี่ยวป้อของหลินชิงเสียนี้ ส่งผลกระทบแก่สองนักแสดงสาว คนแรกคือจางเหมี่ยน ที่ต้องถูกยกบทนี้ให้หลินชิงเสีย ส่วนคนที่สองคน หลี่เจียซิน ที่แสดงเป็นอาเค่อ ซึ่งในนวนิยายตัวละครอาเคอนี้มีบทบาทมาก แต่ต้องถูกลดบทบาทลงเพื่อให้ตัวละครหลินชิงเสียโดดเด่น ซึ่งหลินชิงเสีย ยังคงแสดงออกมาคาแรกเตอร์ เดิมที่แสดงไว้ใน เดชคัมภีร์เทวดา 2 และ เดชคัมภีร์แดนพยัคฆ์ ที่คงความงดงามและสูงสง่าจนแทบจะกลบรัศมีดาราหญิงอื่นในเรื่องให้ด้อยลงไป ยกเว้น ซิวซู่เจิน ในบทองค์หญิงเจี้ยนหนิง ที่แสดงออกมาได้น่ารักน่ากัดสักคำและหอมสักฟอด

    นอกจากเนื้อหาความตลกในจังหวะที่ยอดเยี่ยมของโจวซิงฉือแล้ว ตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้ยอดผู้กำกับไตรภาคโปเยโปโลเย และเดชคัมภีร์เทวดา 2 อย่าง เฉินเสี่ยวตง มากำกับคิวบู๊ให้ สร้างความโดดเด่นในตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

    ท่านกิมย้งเคยกล่าวในบทสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์รายการหนึ่งว่า ว่า ตัวละครของท่านนั้น นับตั้งแต่ ตั้งแกลก ก๊วยเจ๋ง เอี้ยก่วย เหล็งฮู้ชง จวบจนถึง อุ้ยเสี่ยวป้อที่ไม่มีเค้าของวีรบุรุษหลงเหลืออยู่เลย ตัวละครของท่านกิมย้งดูเหมือนจากสมบูรณ์แบบสู่แง่มุมตัวละครไปทางลบเรื่อยๆ ท่านกิมย้งบอกว่า นั่นเพราะข้าพเจ้าเข้าใจมนุษย์มากขึ้น อายุมากขึ้น การมองโลกก็เปลี่ยนไป ภาพลักษณ์วีรบุรุษที่เคยมองในวัยหนุ่ม ก็ดูคลุมเครือ ในวัยนั้นคิดว่าวีรบุรุษ คือ คนดีที่แท้จริง แต่พอเวลาผ่าน เบื้องหลังวีรบุรุษนั้นยังมีความชั่วช้าอยู่ในตัวที่ให้ผู้อื่นรับรู้ วีรบุรุษในงานเขียนยุคแรกนั้นแบ่งขาวและดำออกอย่างชัดเจน ไม่มีความซับซ้อน ซึ่งความจริงแล้วมนุษย์คือสิ่งซับซ้อน

    ในบรรดาตัวละครของท่านกิมย้ง ทั้ง ก๊วยเจ๋ง ที่เป็นตัวแทนจริยธรรมแบบขงจื้อ เอี้ยก่วยเป็นผู้คล้อยวิถีตามธรรมชาติแบบเต๋า เตี่ยบ่อกี้ จะเป็นภาพลักษณ์ของพุทธศาสนา โอ้วฮุยนับเป็นแนวมนุษย์นิยม(เจ็บปวดแทนความเจ็บปวดของผู้อื่น) เหล่งฮู้ชงเป็นแก่นแห่งเซน

    อุ้ยเสี่ยวป้อ ย่อมนับเป็นตัวแทนแห่ง สุขนิยม คือ การเอาความสุข เป็นตัวตั้ง แล้วตอบโจทย์การกระทำตามสิ่งที่ตัวเองปรารถนา มีความคิดแบบเข้าข้างตัวเองบ้างในบางครั้ง ไม่คิดบวก ไม่คิดลบ ไม่คิดร้าย เราคิดอะไรก็ได้ เท่าที่เรามีความสุข และสนุกกับความคิดได้ของเรา

    อุ้ยเสี่ยวป้อ เด็กหนุ่มจอมกะล่อน เติบโตอยู่ในหอคณิกาเมืองเอี้ยงจิว มารดาอุ้ยซุนฮวย บิดาผู้ใดกำเนิดเป็นผู้ใดมารดายังมิทราบ อุ้ยเสี่ยวป้อนับว่าชาติกำเนิดต่ำต้อยที่สุดในบรรดาตัวละครเอกของท่านกิมย้ง พฤติการณ์ยิ่งแปลกแยกกว่าตัวละครเอกตัวอื่นๆที่ท่านเคยเขียนถึง

    การได้โจวซิงฉือมาแสดงเป็นอุ้ยเสี่ยวป้อนั้นประสบความสำเร็จอย่างสูง หลังจากนั้นท่านกิมย้งก็ไม่เคยเลือกหรือออกความเห็นกับนักแสดงคนใดให้มารับบทอุ้ยเสี่ยวป้ออีกเลย หากแต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่วิจารณญาณของผู้สร้างนั้นๆไป

    จุดเริ่มต้นงานเขียนของท่านกิมย้งนั้นเริ่มต้นมาด้วยปณิธานความสูงส่ง ขนบธรรมเนียม ความสมบูรณ์พร้อม ในตำนานอักษรกระบี่ แต่ในเรื่องสุดท้ายท่านเขียนมาในช่วงเวลาเดิม(ราชวงศ์ชิง) แต่กลับเขียนถึง อุ้ยเสี่ยวป้อ ในมุมมองที่แตกต่าง มีมิติ ความคมชัด จัดเจนขึ้น และสะท้อนความจริงมากกว่าภาพฝันนวนิยายของท่าน ผู้อ่านจึงสามารถแตะต้องสัมผัสได้ถึงความคิดมิติตัวละครได้มากขึ้น คล้ายภาพฝันนั้นค่อยคมชัดสู่ความจริงยิ่งขึ้นนั่นเอง ดังนั้นสำหรับนักเขียนหลายท่านล้วนยกย่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ นั้นนับเป็นวรรรกรรมอันดับหนึ่งของท่านกิมย้ง

    ข้อมูลบางส่วนจาก https://hatal7le73248.pixnet.net/blog/post/349109290

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #ฉบับ7 ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
    "พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) (SINLAKU)"
    ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 02 สิงหาคม 2563
    เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (2 ส.ค. 63) พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองทันหวา ทางตอนใต้ของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 19.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน ซินลากู) ในวันนี้ จากนั้นจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาว และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ (พายุระดับ 1) ในระยะต่อไป
    อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
    พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้
    ในช่วงวันที่ 2-3 สิงหาคม 2563
    ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และตาก
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ
    ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
    ภาคตะวันออก: ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

    วันที่ 4 สิงหาคม 2563
    ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร ตาก และเพชรบูรณ์
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์
    ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี และราชบุรี
    ภาคตะวันออก: ระยอง จันทบุรี และตราด
    ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

    ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดออกจากฝั่ง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563
    สำหรับพายุระดับ 3 (โซนร้อน ฮากูปิต) บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเกาะไต้หวันและเมืองเซียงไฮ้ ประเทศจีนในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค. 63 ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
    จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

    ประกาศ ณ วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11.00 น.
    กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.00 น.

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ฟิลิปปินส์เครียดขึ้นทุกที พ่ายศึก #โควิด19 เจอผู้ติดเชื้อรายใหม่ วันเดียวเกือบ 5 พัน ขณะที่กลุ่มแพทย์พยาบาลออกมาเรียกร้องรัฐบาลล็อดาวน์กรุงมะนิลา

    #ข่าวต่างประเทศ #ไทยรัฐออนไลน์

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แกนนำแรงงานเขมรคนดังโดนรวบข้อหาปลุกปั่นความไม่สงบ หลังจ้อสื่อประเด็นรุกล้ำดินแดน
    .
    เอพี.2 ส.ค. - แกนนำสหภาพแรงงานกัมพูชาชื่อดังที่เป็นนักวิจารณ์รัฐบาลมายาวนาน ถูกจับกุมตัวในข้อหาปลุกปั่นความไม่สงบในสังคม เนื่องจากความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองเรื่องพรมแดนของประเทศ
    .
    รง ชุน ประธานสหพันธ์แรงงานกัมพูชา ถูกจับกุมตัวในคืนวันศุกร์ (31) ที่บ้านพักของเขาและถูกนำตัวขึ้นศาลแขวงกรุงพนมเปญในวันเสาร์ (1) ที่เขาถูกตั้งข้อหา “ยั่วยุปลุกปั่นให้กระทำผิดทางอาญา” สำหรับความคิดเห็นของเขาที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการปลุกปั่น หากศาลพิจารณาคดีและพบว่ามีความผิดจริง เขาจะเผชิญต่อโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี
    .
    รง ชุน ยังดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติของพรรคกู้ชาติกัมพูชา ก่อนที่พรรคจะถูกศาลสูงสั่งยุบพรรคในเดือน พ.ย.2560 ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2561 การกระทำของศาลที่ถูกมองว่ามีเป้าหมายที่จะรับประกันชัยชนะให้แก่พรรคประชาชนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน
    .
    เมื่อวันพุธ (29) รง ชุน ได้นำแรงงานหลายสิบคนไปยื่นคำร้องที่บ้านพักของฮุนเซน เพื่อขอให้ฮุนเซนช่วยเหลือเกี่ยวกับสวัสดิการของแรงงานเหล่านี้ หลังโรงงานของพวกเขาถูกปิดลงเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
    .
    นอกจากนี้ รง ชุน ยังได้ให้สัมภาษณ์กับเรดิโอ ฟรี เอเชีย ซึ่งเขาได้พูดถึงการพบปะกับเกษตรกรในภาคตะวันออกของประเทศที่ร้องเรียนเรื่องที่ดินของพวกเขาว่าถูกเวียดนามรุกล้ำ
    .
    ปัญหาเวียดนามรุกล้ำดินแดนของกัมพูชาถือเป็นประเด็นอ่อนไหวมากประเด็นหนึ่ง และมีความสำคัญทางการเมืองภายในประเทศในกัมพูชา เพราะความเป็นศัตรูกันทางประวัติศาสตร์ แต่ด้วยความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลของฮุนเซนและเวียดนาม ทำให้คู่แข่งทางการเมืองของฮุนเซนหยิบยกประเด็นนี้โจมตีกล่าวหาเขาว่าล้มเหลวที่จะปกป้องดินแดนกัมพูชา
    .
    ฝ่ายค้านชื่อดังหลายคนถูกดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ ในช่วงหลายปีมานี้จากการกล่าวหาในประเด็นดังกล่าว โฆษกตำรวจกล่าวว่า รง ชุน ถูกจับกุมตามคำร้องของศาลแขวงกรุงพนมเปญเนื่องจากเขาให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับประเด็นเรื่องพรมแดนกับเวียดนาม
    .
    ในวันศุกร์ (31) คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาในรายการของเรดิโอ ฟรี เอเชีย ว่าเวียดนามรุกล้ำดินแดนของกัมพูชาที่ปรากฏ
    .
    ด้านพรรคกู้ชาติกัมพูชาได้ออกคำแถลงเช่นกัน โดยระบุว่า การจับกุมที่เกิดขึ้นขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งเสรีภาพในการแสดงออกและกิจกรรมทางการเมืองที่ได้รับการรับรองภายใต้รัฐธรรมนูญของกัมพูชา นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัว รง ชุน และร้องขอให้ประชาคมโลกช่วยให้เขาได้รับเสรีภาพ.

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อินเดีย : ขี้เมากินเจลล้างมือ เจลฆ่าเชื้อ แทนเหล้าตายรวม 86 คนในเดือนเดียว อาทิตย์ที่ผ่านมาตาย 62 คนใน 2 รัฐ
    # รัฐอานธรประเทศวานนี้พบอีก 11 ราย เป็นชาวบ้านที่เจอล็อคดาวน์ ร้านเหล้าปิดพวกเขากินแอลกอฮอล์ล้างมือแทนเหล้า ทำให้เสียชีวิต
    # รัฐปัญจาบพบ 10 รายล่าสุด ดื่มเหล้าพิษมีส่วนผลมแอลกอฮอลล์เช่นกัน เหล้าดังกล่าวเป็นเหล้าเถื่อน ผสมขึ้นเอง กลั่นเอง สาเหตุหลักๆคือร้านเหล้าปิดเพราะโควิด แต่ความต้องการดื่มยังมีอยู่จำนวนมาก พ่อค้าหัวใสผสมเองแล้วขาย
    คลิปร้านเหล้าก่อนปิดล็อคดาวน์


    Cr : TOIindia

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เวียดนาม : ดานัง ประกาศเช้า 4 + เย็น 30 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ กระจาย 6 จังหวัดหลักๆจุดระบาดใหญ่ยังเป็นเมืองดานัง เหตุการณ์สำคัญวันนีั
    1.พบวิศวกร เกาหลี กลับจากไฮฟอง บินไปเกาหลีตรวจพบเชื้อโควิด ชายคนดังกล่าวกักตัวในเวียดนามครบ14 วัน และทำงานในไฮฟอง แล้วบินกลับเกาหลีกักที่สนามบิน ตรวจพบเชื้อ และเขาไม่เคยไปดานัง
    2.ฮานอย แจ้งให้จัดหา นำเข้าชุดตรวจเพิ่มอีก 20,000 ชุด เร่งด่วน
    3. ดานังเร่งติดตั้ง รพ.สำรอง 300 เตียงตามภาพ
    4. หลายเมืองเวียดนาม รวมทั้งดาหลัด กำลังวิตก ผู้ป่วยแต่ละรายไปหลายสถานที่ ก่อนตรวจพบเชื้อ อาทิที่ชุมนุมชน งานแต่ง ห้าง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ขึ้นเครื่องบิน โรงแรม โรงพยาบาล ทำให้ภาครัฐประกาศตามหาตัวคนเคยไปสถานที่เหล่านั้น และตามปิดสถานที่ กักตัวคนคนใกล้ชิด
    มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 5 ราย

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เยอรมนี : เบอร์ลิน
    ผู้คนหลายพัน ออกมาประท้วงใจกลางกรุงให้หยุดจำกัดพื้นที่ หยุดใส่หน้ากากอนามัย ต่อต้านการใส่หน้ากาก สิ้นสุดเรื่องโควิดได้แล้ว
    # ทางการยังหวั่นระบาดรอบสอง
    ตัวเลขผู้ติดเชื้อเยอรมนี 211,077 รายเสียชีวิต 9,226 ราย // ใน 24 ชม.มีติดเชื้อรายใหม่ 416 รายเสียชีวิต 2 ราย

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อะไรเอ่ย ไทยก็มีญี่ปุ่นก็มี ?
    เผยแพร่: 2 ส.ค. 2563 09:09 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    563000008116501.jpg

    ภาพจาก http://quiestla-meshi.seesaa.net/



    คอลัมน์ “เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น” โดย “ซาระซัง”

    สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านที่รักทุกท่าน มีใครเคยเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ได้รู้ว่าสิ่งที่เคยคิดว่าเป็น “ของไทย” หรือเป็น “วัฒนธรรมไทย” นั้น แท้จริงแล้วก็เป็นสิ่งที่ประเทศอื่นก็มีเหมือนกันเปี๊ยบหรือคล้ายกันมากจนชวนให้ประหลาดใจเล่นบ้างไหมคะ ไทยกับญี่ปุ่นเองก็มีสิ่งเหล่านั้นเช่นเดียวกัน เพื่อนผู้อ่านลองคิดดูกันเล่น ๆ สักนิดว่ามีอะไรบ้าง แล้วค่อยอ่านกันต่อนะคะ

    มอญซ่อนผ้า
    มีใครรู้บ้างเอ่ยว่าญี่ปุ่นก็มีมอญซ่อนผ้าเหมือนกันนะ หากคิดจะเอาการละเล่นชนิดนี้ไปโชว์ “วัฒนธรรมไทย” ให้ญี่ปุ่นดูละก็ อาจจะหน้าแตกเหมือนฉันและเพื่อน ๆ ได้ค่ะ และนี่ก็เป็นเหตุให้ฉันได้ทราบว่าการละเล่นชนิดนี้ไม่ใช่ลิขสิทธิ์ของไทยแต่เพียงผู้เดียว

    ครั้งหนึ่งตอนจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทยกับญี่ปุ่น มีกฎให้แต่ละฝ่ายสาธิตการละเล่นพื้นเมืองของตนแล้วเล่นด้วยกัน ฝ่ายไทยเลือกมอญซ่อนผ้า ตอนเล่นกันก็เห็นแต่คนไทยสนุกสนานกันใหญ่ ส่วนคนญี่ปุ่นดูเฉย ๆ พอลองสอบถามดูจึงได้ความว่าญี่ปุ่นก็มี เขาเรียกว่า “ฮังกาจิโอะโตฉิ” ハンカチ落し แปลว่า “หย่อนผ้าเช็ดหน้า” วิธีเล่นแบบเดียวกัน แต่ดูเหมือนบางทีก็ให้คนที่นั่งในวงเอามือไขว้หลังไว้ บางทีก็ให้ปิดตา

    563000008116502.jpg

    ภาพจาก http://ehonno-mori.blogspot.com/

    ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่นเท่านั้นนะคะที่มี “มอญซ่อนผ้า” แต่การละเล่นแบบนี้ยังพบได้ทั้งในแถบเอเชียใต้ แอฟริกา ยุโรป และอเมริกาอีกด้วย เพียงแต่อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันไป และเรียกชื่อต่างกันไป ดังนั้นการละเล่นชนิดนี้จริง ๆ แล้วอาจจะเรียกได้ว่าเป็น “การละเล่นพื้นเมืองสากล” มากกว่าเป็นของประเทศใดประเทศหนึ่ง

    เป่ายิ้งฉุบ
    ข้อนี้หลายคนอาจเดาได้ ญี่ปุ่นเรียกเป่ายิ้งฉุบว่า “จัง-เก็ม-ปง” ちゃんけんぽん หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “จัง-เก็น” และนับจังหวะแบบเดียวกับไทย คือตอนที่ไทยพูดว่า “เป่ายิ้ง” ญี่ปุ่นจะพูดว่า “จังเก็น” แล้วยกมือขึ้น พอไทยจะพูด “ฉุบ” ญี่ปุ่นจะพูดว่า “ปง” แล้วออกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างกระดาษ ค้อน กรรไกร

    563000008116503.jpg

    ภาพจาก https://kvillage.jp/column/13667

    ได้ยินบางตำราบอกว่าการละเล่นชนิดนี้เริ่มมาจากจีน ก่อนจะไปญี่ปุ่น แล้วแพร่ไปยังประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย และประเทศตะวันตก

    แต่น่าแปลกที่ญี่ปุ่นไม่มี “โอน้อยออก” แล้วทีนี้เวลาจะแบ่งกลุ่มออกเป็นสองกลุ่มล่ะจะทำอย่างไร เท่าที่ฉันเคยเห็นมาเขาจะใช้วิธีให้เลือกออกได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างสองอย่าง เช่น ให้ออกเฉพาะกระดาษกับค้อน แทนการหงายมือและคว่ำมือแบบโอน้อยออกของไทย

    พูดประโยคที่มีคำเสียงคล้ายเร็ว ๆ
    การพูดประโยคที่มีคำเสียงคล้ายกันในภาษาญี่ปุ่นมีอยู่หลายแบบ ที่นิยมและรู้จักกันดีคงจะเป็น “นามะมุหงิ นามะโกะเมะ นามะทามาโหงะ” 生麦生米生卵 - แปลว่า “ข้าวสาลี ข้าวสาร ไข่ดิบ”

    สมัยก่อนพอมีคนญี่ปุ่นรู้ว่าฉันพูดญี่ปุ่นได้ ก็จะให้ฉันลองพูดประโยคนี้เร็ว ๆ เพื่อจะดูว่าพูดได้โดยไม่ผิดไหม ซึ่งเท่าที่เห็นมาส่วนใหญ่คนไทยจะพูดประโยคนี้ได้ต่อเนื่องโดยไม่ค่อยพลาด

    563000008116504.jpg

    ภาพจาก http://joy-music.jp/blog/2020/03/06/post-1112/

    วันหนึ่งสามีฉันท้าแข่งพูดประโยคนี้เร็ว ๆ คงกะว่าฉันจะพูดผิดบ้าง แต่ก็ไม่ผิดสักตัว ฉันก็เลยให้เขาลองพูดประโยคของไทยดูบ้าง

    “ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก ยักษ์เล็กไล่ยักษ์ใหญ่”
    “ยะ ยะ ยะ ยะ ยะ ยะ” (มั่ว)

    “ยังมีอีกนะ...ชามเขียวคว่ำเช้า ชามขาวคว่ำค่ำ”

    สามีนิ่งเงียบไป ก่อนจะยิ้มแหยบอกว่า
    “ผมผิดไปแล้วคร้าบบบ”

    อันที่จริงแล้วของประโยคของญี่ปุ่นข้างต้นไม่ใช่แค่ “นามะมุหงิ นามะโกะเมะ นามะทามาโหงะ” แล้วจบ แต่ยังมีต่ออีก 3 ท่อน รวมแล้วคือ

    “นามะมุหงิ นามะโกะเมะ นามะทามาโหงะ
    ยาคิมุหงิ ยาคิโกะเมะ ยาคิทามาโหงะ
    มุชิมุหงิ มุชิโกะเมะ มุชิทามาโหงะ
    หยุเดะมุงิ หยุเดะโกะเมะ หยุเดะทามาโหงะ”
    生麦生米生卵 焼麦焼米焼卵 蒸麦蒸米蒸卵 茹麦茹米茹卵
    ยาวกว่าของไทยอีก!

    ขีดเส้นนับจำนวนทีละ 5 หน่วย

    ฉันค้นพบโดยบังเอิญค่ะว่าญี่ปุ่นก็มีแบบนี้ แต่จากที่ไหนก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน อย่างของไทยนั้น สมมติเราจะนับอะไรทีละอันไปเรื่อย ๆ จะใช้วิธีขีดเส้นตรงแนวตั้งทีละเส้น พอครบ 4 เส้นแล้ว เส้นที่ 5 จะขีดทแยงทับ 4 เส้นแรก แล้วถ้าจะนับต่อก็ต้องเริ่มใหม่ด้วยวิธีเดียวกัน

    563000008116505.jpg


    ส่วนของญี่ปุ่นก็มีวิธีนับทีละ 5 หน่วยด้วยการขีดเส้นเหมือนกัน แต่ขีดคนละแบบ คือจะใช้วิธีเขียนเป็นตัวอักษรคันจิที่มี 5 ขีดพอดี คือตัว 正 โดยเริ่มจากการขีดเส้นแรกไปเรื่อย ๆ แบบนี้ค่ะ

    563000008116506.jpg


    ปิ่นโต
    ฉันไปถาม “อะไรเอ่ยไทยก็มีญี่ปุ่นก็มี” กับอาจารย์ที่เคยสอนภาษาญี่ปุ่นให้ตอนเด็ก ๆ ท่านก็ตอบมาหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ “ปิ่นโต-เบ็นโต” ได้ยินแล้วอยากตบเข่าฉาดว่า จริงด้วย…! ลืมนึกไปได้อย่างไรกัน ชื่อก็ออกจะคล้ายกันเพียงนั้น

    เชื่อกันว่าคำว่า “ปิ่นโต” น่าจะมาจาก “เบ็นโต” 弁当 ในภาษาญี่ปุ่น แต่ “เบ็นโต” หมายถึงอาหารที่พกไปรับประทานข้างนอก เช่น ระหว่างการเดินทางหรือในที่ทำงาน ไม่จำเป็นต้องใส่กล่องซ้อนกันเป็นเถาหลายชั้นแบบ “ปิ่นโต”

    ดังนั้น การพกอาหารจากบ้านไปรับประทานเป็นอาหารกลางวันที่ทำงาน ไม่ว่าจะใส่ภาชนะแบบใดก็น่าจะเรียกว่าเป็น “เบ็นโต”ได้หมด แต่ถ้าจะเรียกว่า “ปิ่นโต” ก็คงต้องเอาอาหารใส่ในปิ่นโตเท่านั้น

    563000008116507.jpg

    ภาพจาก https://macaro-ni.jp/

    ฉันเคยเห็นปิ่นโตสเตนเลสของไทยวางขายในห้างที่ญี่ปุ่นตามแผนกของกระจุกกระจิกด้วยค่ะ แน่นอนราคาแพงกว่าที่ไทยหลายเท่า เห็นแล้วก็คิดถึงปิ่นโตที่เคยใช้สมัยเด็ก ๆ อยากจะเอามาใช้ใส่อาหารเป็น “เบ็นโต” อยู่เหมือนกัน เสียแต่ว่าเอาเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟทั้งอย่างนั้นไม่ได้

    คนไทยดูเหมือนจะคุ้นกับการเรียกปิ่นโตญี่ปุ่นว่า “เบ็นโตะ” จริง ๆ แล้วในภาษาญี่ปุ่นเรียก “เบ็นโต” หรือพูดให้เพราะหน่อยว่า “โอะเบ็นโต” (お弁当(ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก จาก “เบนโตะ” ของญี่ปุ่น ถึง “ปิ่นโต” ของไทย อาหารกับการเดินทาง - ถ้าอยากรู้เรื่อง “เบ็นโต” มากขึ้น ลองอ่านจากที่นี่ดูนะคะ สนุกดี )

    ลอยกระทง
    ไทยมี “ลอยกระทง” ส่วนญี่ปุ่นก็มี “ลอยโคม” จุดเทียนตรงกลางแล้วลอยในแม่น้ำเหมือนกัน แต่ความหมายของการลอยแตกต่างกัน คือของไทยลอยในวันเพ็ญเดือนสิบสองเพื่อขอบคุณพระแม่คงคา มีการจัดงานลอยกระทงอย่างสนุกสนาน แต่ญี่ปุ่นลอยโคมเพื่อรำลึกถึงผู้ล่วงลับไปแล้ว ปัจจุบันมักลอยโคมกันในช่วงโอบ้งหรือเชงเม้งญี่ปุ่น แต่ก็มีบางภูมิภาคที่ลอยในช่วงอื่นด้วยเช่นกัน

    บางท้องถิ่นมีการเก็บโคมที่ปากแม่น้ำเพื่อไม่ให้ไหลลงทะเล แต่ก็ทำได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้นเพราะการเก็บโคมมีค่าใช้จ่ายสูง ในขณะที่บางท้องถิ่นห้ามไม่ให้ลอยโดยเด็ดขาดเพราะไม่อยากให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ

    ฉันเคยไปร่วมลอยโคมมาครั้งหนึ่งด้วยค่ะ ตอนนั้นไปเยี่ยมเพื่อนที่ฮิโรชิมะในฤดูร้อนพอดี พอถึงวันที่ 6 สิงหาคมซึ่งเป็นวันครบรอบการทิ้งระเบิดปรมาณูลงฮิโรชิมะ เพื่อนจึงพาฉันไปสวนสันติภาพ (สวนสาธารณะเฮวะโคเอ็น) เพื่อร่วมลอยโคมที่แม่น้ำรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์วันนั้นด้วย บนโคมกระดาษสามารถเขียนข้อความได้ ซึ่งมักเขียนในเชิงแสวงหาสันติภาพ

    563000008116508.jpg

    การลอยโคมในวันครบรอบการทิ้งระเบิดปรมาณูจังหวัดฮิโรชิมะ ภาพจาก https://tabi-mag.jp/hiroshima-tourounagashi/

    แม้ว่าแสงไฟจากโคมกระดาษที่วางเรียงรายประดับบนพื้นสวนและในแม่น้ำยามค่ำคืนจะสวยงาม แต่บรรยากาศก็สงบเงียบ คงเพราะนอกจากจะเป็นวันรำลึกถึงสงครามอันโหดร้ายแล้ว ยังถือเป็นมารยาทที่จะต้องสำรวมเวลาลอยโคมด้วยเพราะเป็นการรำลึกถึงผู้ตาย

    ฝอยทอง
    ข้อนี้น่าจะมีหลายคนพอทราบกันอยู่บ้างนะคะ ฝอยทองญี่ปุ่นนั้นหน้าตาเหมือนฝอยทองไทยมากทีเดียว เป็นเพราะต้นฉบับขนมชนิดนี้มาจากโปรตุเกส และชาวโปรตุเกสก็เข้าไปทั้งไทย(สมัยอยุธยา)และญี่ปุ่น(สมัยอาสึจิโมโมยามะ ตรงกับ พ.ศ. 2116 - 2416)

    ญี่ปุ่นเรียกฝอยทองว่า “เครังโซเม็น” 鶏卵素麺 แปลตรงตัวว่า ‘เส้นหมี่ไข่ไก่’ เวลาคนไทยรับประทานฝอยทองมักจะรับประทานจากทั้งแพ ของญี่ปุ่นดูจะนิยมตัดให้สั้นก่อนเพื่อให้รับประทานง่ายเป็นคำ ๆ ไป

    563000008116509.jpg

    เครันโซเม็น ภาพจาก https://www.hachi8.me/knowledge-of-chicken-egg-noodles/

    หมายเหตุ: “เครันโซเม็น” เป็นคนละอย่างกับ “รัมเม็น” หรือ “ทามาโหงะเม็น” 卵麺 ซึ่งเขียนคล้ายกันและแปลว่า “เส้นไข่” หรือ “บะหมี่ไข่” จะหมายถึงบะหมี่ที่ใช้ทำอาหาร

    ฝอยทองอาจจะไม่ได้แพร่หลายมากในญี่ปุ่นเท่ากับที่เมืองไทย ในขณะที่ไทยอาจจะยกย่องให้ขนมโปรตุเกสตระกูล “ทอง” ทั้งหลายเป็นขนมไทยและพบเห็นได้ทั่วไป แต่คนญี่ปุ่นบางคนก็ไม่รู้จัก “เครังโซเม็น” อีกทั้งยังหาซื้อค่อนข้างยาก ร้านที่ขายมักอยู่ในภูมิภาคคิวชู ซึ่งเป็นที่ตั้งของจังหวัดนางาซากิอันเป็นสถานที่ที่อดีตโปรตุเกสเคยเข้ามาค้าขายแลกเปลี่ยนกับญี่ปุ่น

    ที่จริงก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่ไทยและญี่ปุ่นมีคล้ายกัน แต่เนื้อที่หมดเสียก่อน เอาไว้ถ้าเจอเกร็ดน่ารู้เล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้อีกจะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมนะคะ

    แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีค่ะ.

    https://mgronline.com/japan/detail/9630000078713
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2020
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียประกาศภาวะภัยพิบัติทั่วรัฐ และห้ามประชาชนในเมลเบิร์นออกจากบ้านยามวิกาล หลังพบ “เคสลึกลับ” หลายร้อยคนที่ติดเชื้อโควิด-19 และไม่สามารถติดตามได้

    อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000078938
    ...........................................

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทรัมป์ขู่ การฟ้องศาลจะทำให้การเลือกตั้งไม่จบง่ายๆ และลากยาวออกไปนานหลายปี หลังพยายามขายฝันความคิด “เลื่อนเลือกตั้ง” แต่ไม่มีฝ่ายใดเห็นด้วย แม้แต่พรรคเดียวกัน ขณะที่คะแนนนิยมเจ้าตัวยังดิ่งต่อเนื่อง หลังเปิดตัวเลขจีดีพีไตรมาส2 เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวหนักสุดรอบ 70 ปี

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    TikTok เจรจาขายกิจการให้ Microsoft ดึงดูดด้วยผู้ใช้กว่า 100 ล้านราย หนทางหนีตายการโดนแบนในอเมริกา
    .
    หลังจากมีข่าวออกมาว่าทางสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์มีคำสั่งแบน TikTok แอปโซเชียลชื่อดังสัญชาติจีน สำหรับให้บริการในอเมริกา ก็มีข่าวออกมาอย่างหนาหูในทุกสื่อทั่วโลกในประเด็น TikTok กำลังตั้งโต๊ะเจรจาขายกิจการในสหรัฐแก่ Microsoft เพื่อให้มีอำนาจต่อรองกับทางรัฐบาลสหรัฐ เป็นการรักษากิจการ TikTok ในอเมริกาเอาไว้ ซึ่งยังไม่ได้มีการเปิดเผยจำนวนเงินในการซื้อขายครั้งนี้ แต่นักลงทุนมีการประเมินมูลค่าธุรกิจของ TikTok ที่ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมากกว่ารายรับในปี 2020 ราว 50 เท่า
    .
    ถ้ามองดูเผินๆ ในเชิงกลยุทธ์ มันอาจไม่สมเหตุสมผลนักหาก Microsoft ตกลงซื้อ TikTok เพราะทราบกันดีว่าบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ภายใต้การนำของซีอีโอ Satya Nadella มุ่งเน้นไปที่ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรซึ่งมีมูลค่าตลาดมากกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    แต่ถ้ามองการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ TikTok ในตลาดอเมริกา ที่ตอนนี้มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านราย มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรปล่อยผ่านไป เพราะตอนนี้แอป Video ชื่อดังรายนี้ เริ่มสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากคลิปสั้นและโฆษณาภายในแอป โดยเฉพาะเจาะกลุ่มไปที่กลุ่มเด็ก ซึ่งเติบโตได้ไกลกว่าการโฆษณาแบบเดิม เช่น ทีวี
    .
    โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทาง TikTok แถลงท่ามกลางข่าวการแบนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่า พวกเขามั่นใจในการเติบโตที่ยังไปได้อีกไกลและยั่งยืนของ TikTok เพราะตอนนี้แพลตฟอร์มของพวกเขา ถือเป็นแหล่งสร้างความบันเทิงและสร้างศิลปินหน้าใหม่ให้แจ้งเกิดได้ในทุกวัน ซึ่งมีแนวโน้มได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
    .
    อ้างอิงจาก:

    https://www.cnbc.com/2020/07/31/mic...-not-be-strategic-but-a-good-deal-anyway.html

    https://www.reuters.com/article/us-...billion-in-takeover-bid-sources-idUSKCN24U1M9
    ภาพจาก:
    https://bit.ly/3k35nwG

    #OnUFO #TikTok #Microsoft #USA

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปธ.สอบข้อเท็จจริงคดีทายาทกระทิงแดง บอก 30 วันเพียงพอไขความกระจ่างต่อสังคมเชื่อกระบวนการตรวจสอบ ยันทำงานอย่างรอบคอบ ลั่นถึงเวลาแล้วต้องเอาจริงจังกับระบบกระบวนการยุติธรรมไทย

    อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000078931
    ...........................................

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์เรือข้ามฝากล่มขณะเดินทางไปท่าเรือดอนสัก ลูกเรือและผู้โดยสาร16 คน ลอยคอช่วยได้ 11 คน เสียชีวิต 1 คน และยังตามหาอีก 4 สัญญาจะทำการค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มที่

    อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000078926
    ...........................................

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จมบาดาล ! น้ำป่าทะลักท่วมสูง "เมืองเลย"

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อิทธิพลพายุ "ซินลากู" ส่งผลกระทบเรือโดยสารในพื้นที่ จ.ตราด หลังเกิดฝนตกหนัก คลื่นลมแรง เรือโดยสารซึ่งนำนักท่องเที่ยว 300 ชีวิต เดินทางออกจากเกาะกูด ต้องวิ่งฝ่าคลื่นแรงด้วยใจระทึก หลายรายผวาซ้ำเกิดอาการเมาเรือจนต้องช่วยกันแบบทุลักทุเล

    อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000078864
    ...........................................


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผบ.ตร.สั่งทุกหน่วยระดมกำลังสนับสนุนภารกิจค้นหา 7 ผู้สูญหายจากเหตุเรือเฟอร์รี่ล่มที่เกาะสมุย จัดพนักงานสอบสวนเข้าร่วมสอบสวน

    อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000078843
    ...........................................

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หลายอำเภอ จ.เลยถูกน้ำป่าหลากทะลักเข้าท่วมหลายหมู่บ้าน
    หลายจุดเกิดดินสไลด์-ต้นไม้ใหญ่หักโค่นปิดเส้นทางสัญจร ขณะที่น้ำป่าทะลักท่วมบ้านสูบ อ.เมืองท่วมบ้านกว่า 400 หลังคา ล่าสุดระดับน้ำยังทรงตัว นายอำเภอเมืองสั่งระดมกำลังให้ความช่วยเหลือด่วน

    อ่านต่อ > https://news1live.com/detail/9630000078836
    ...........................................

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อเมริกา ทุ่มงบ 500 ล้านดอลลาร์สำหรับการพัฒนาระบบขีปนาวุธอิสราเอล

    รายงานเปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาได้จัดสรรเงินช่วยเหลือจำนวน $ 500 ล้านสำหรับการพัฒนาระบบขีปนาวุธระยะสั้นของกองทัพอิสราเอล

    หนังสือพิมพ์ภาษาฮิบรู Ma'ariu เขียนว่า เงินจำนวนมากจะถูกใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของระบบที่เรียกว่า "โดมเหล็ก", David Darts และระบบป้องกันขีปนาวุธ Arrow

    รายงานระบุว่า เงินราว 47.5 ล้านดอลลาร์จะได้รับการจัดสรรสำหรับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างเทลอาวีฟและวอชิงตันเพื่อสร้างอุโมงค์ที่ชายแดนในอาณาเขตที่ถูกยึดครอง

    ข่าวโลกที่3

    http://www.isna.ir/news/99051208218/کمک-۵۰۰-میلیون-دلاری-آمریکا-برای-توسعه-سامانه-های-موشکی-رژیم

    https://www.farsnews.ir/news/139905...دلاری-واشنگتن-از-تل‌آویو-در-حوزه-پدافند-موشکی

     

แชร์หน้านี้

Loading...