ติดตามสถานะการณ์

เกิดเหตุระเบิดที่กรุงเบรุตเมืองหลวงของเลบานอนซึ่งเป็นระเบิดขนาดใหญ่ โดยเสียงระเบิดดังไกลไปถึง 200 กิโลเมตรจนไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาะไซปรัส ล่าสุดรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ 78 คน ผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 4,000 คนและโรงพยาบาลในประเทศตอนนี้รับไม่ไหวแล้ว
หลายฝ่ายเชื่อว่าระเบิดเกิดจากคลังอาวุธ ที่อยู่บริเวณท่าเรือซึ่งอาวุธเหล่านั้นมีแอมโมเนียมไนเตรตทำให้เกิดความสีแดง โดยการระเบิดเป็นการระเบิดขนาดใหญ่ขนาดระเบิดมีลักษณะเหมือนกับควันแบบลูกเห็ด
ยังไม่แน่ชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น การก่อการร้ายหรือไม่แต่รัฐบาลเลบานอนออกมาประกาศให้วันนี้เป็นวันหยุดและจะนำผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้มาลงโทษ โดยประเทศเพื่อนบ้านที่มีความขัดแย้งอย่างอิสราเอลประกาศว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าวนี้

 

วันนี้ ที่รัฐสภา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ในโอกาสที่ผู้บริหาร บริษัทนกแอร์ได้มาอวยพรวันคล้ายวันเกิดให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และได้พูดคุยถึงสถานะทางการเงินของบริษัทนกแอร์ ซึ่งเป็นที่ทราบว่า บริษัทได้ยื่นศาลล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟูกิจการแล้ว
.
ซึ่งเมื่อเดือน มิ.ย.2563 ทางบริษัทนกแอร์ได้ทำหนังสือเรื่องการติดตามยอดค้างชำระค่าตั๋วโดยสาร กรณีไม่เดินทางของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มียอดค้างชำระของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2555-2556 ซึ่งเป็นช่วงท้ายของสภาฯในสมัยที่แล้ว โดยเป็นกรณีที่จองตั๋วโดยสารแล้วไม่เดินทาง เพราะหากเดินทางก็จะสามารถเบิกเป็นค่าใช้จ่ายได้
.
"มี ส.ส.และ อดีตส.ส.ที่เป็นหนี้ของบริษัททั้งสิ้น 113 ราย ยอดหนี้รวม 3,522,419.53บาท โดยมีบางคนเป็นหนี้ถึง 270,000บาท และมีคนเป็นหนี้หลักแสนถึง 5 ราย ส่วนที่ติดหนี้ต่ำสุด 2,900 บาท ดูจากรายชื่อแล้ว เห็นว่า เป็นบุคคลซึ่งมีฐานะ มีชื่อเสียงที่สามารถชำระหนี้ได้ ทั้งนี้ นายชวน แนะนำว่า การเป็นหนี้สินนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางสภาไม่มีสิทธิ์ไปทวงถาม แต่แนะนำให้ทำหนังสือแจ้งไปยังส.ส. รายนั้นๆที่เป็นลูกหนี้โดยตรง เพราะถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคน เมื่อจองตั๋วโดยสารเครื่องบินแล้วไม่เดินทางก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม” นายสมบูรณ์ กล่าว

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.naewna.com/politic/509658

https://www.posttoday.com/economy/news/604555
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลชั่วข้ามคืน สำหรับยิงกันในบ่อนการพนันย่านพระราม 3 จนมีผู้เสียชีวิต 4 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นนายตำรวจยศ “พ.ต.ต.” ซึ่งคดีนี้นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งสอบเรื่องนี้เป็นการด่วน โดยระบุว่า งานนี้ใครมีเอี่ยวกับคดีบ่อน ต้องถูกลงโทษ โดยไม่มีข้อละเว้น
.
ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย และอดีตเจ้าของธุรกิจสถานบันเทิง ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวโดยมีเนื้อหาดังนี้
...

บ่อนเฮียตี้ 4 ศพ

เหตุการณ์ยิงตายคาบ่อนเมื่อคืน เป็นบ่อนของ “เฮียตี้” นี่แหละ ทำมาหากินเปิดบ่อนมายาวนาน ใครๆ ก็รู้จัก โดยเฉพาะคนในวงการ ย่านพระราม 3 บ่อนนี้ผมเคยพูดไปแล้วหลายครั้ง จอดรถที่ซาวน่า แล้วทะลุเข้าบ่อนได้เลย
.
สังคมไทยรับรู้อยู่เต็มอกว่า มีบ่อน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเอาจริงๆ บ่อนอยู่ไหนก็สร้างความเจริญให้กับท้องที่ตำรวจ มีเงินจุนเจือเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้วิ่งเอาตำแหน่งรอบหน้า หรือเข้ากองกลางไปจับโจรผู้ร้ายขายยา เพราะเรื่องบ่อนไม่ได้ถือว่าผิดกฎหมายร้ายแรง
.
บ่อนจึงไม่เคยห่างหายไปได้นาน ปิดสักพัก พอเคลียร์จบ ก็เปิดใหม่
.
แต่เที่ยวนี้เกิดเหตุเมื่อคืน ดันมายิงกันในบ่อน ตายโหงถึง 4 ศพ จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก แม้ว่าตำรวจอยากให้เล็ก เพราะ
.
1. บ่อนการพนันเปิดกันทั่วก็จริง แต่ยังคงผิดกฎหมายประเทศไทย

2. ยิงกันตายในบ่อนถึง 4 ศพอย่างกับยุค 2499 อันธพาลครองเมือง ยังไงอย่างงั้น

3. แถมหนึ่งในคนตาย ดันเป็นตำรวจระดับสารวัตรท้องที่แสมดำโน่น ก็คงไปเล่น แล้วทวงหนี้กัน จึงเอาชีวิตไปทิ้งในบ่อน
.
คิดดูเอาแล้วกัน มันประหลาดที่เรื่องเกิดในยุคนี้
.
เมื่อสมัย 30 กว่าปีก่อนที่ผมอยู่เยาวราช ก็เคยมี “ซิตี๋” มือขวาเจ้าพ่อคนดัง แคล้ว ธนิกุล ถูกยิงตายคาบ่อนแถวซอยมังกร เป็นข่าวโด่งดัง เรื่องของเรื่องคือ เล่นได้เอา เล่นเสียไม่จ่าย พอเสียมากๆ ขอเครดิตไม่ได้ เลยโวยวาย จนเจ้าของบ่อนลอดลายมังกรนาม “ก่งก๊ง” ไม่ยอมเสียฟอร์ม ให้มือปืนสอยร่วงคาบ่อน
.
หลังๆ รุ่นเก่าหมดไป แต่ไฉนมาโผล่เอายุคสมัยนี้

ในบ่อน หากเล่นเสีย อารมณ์มันเสีย หนี้เก่าไม่จ่าย พูดจากวนตีน ยิ่งพกปืนมาด้วย เลยตายกันหลายศพ เพราะในบ่อน มีปืนอยู่คนเดียวเสียที่ไหน ?

สังเวยไป 4 ศพ บ่อนแตกกระเจิง

ที่อ้างว่าไม่ใช่บ่อน มีโต๊ะการพนันแค่โต๊ะเดียว ก็พูดไป

กล้องวงจรปิดไม่มี อื้อหือ ให้มันได้อย่างนี้สิ
.
บ่อนนี้ในวงการใครก็รู้จัก คนพาเหรดเข้าออกเป็นร้อย ตามรูปให้ดูสภาพในบ่อนแค่โซนเดียว แต่โดยรวมมีถึง 30 โต๊ะ แบ่งโซนวีไอพี กระเป๋าหนัก แทงได้เสียบาคาร่ากันเป็นแสน เป็นล้าน ยิ่งช่วงหลังโควิดระบาดออกไปบ่อนต่างประเทศไม่ได้ ปอยเปต มาเก๊า ไร้นักพนันไทย เลยเฮโลบ่อนในประเทศรุ่งเรือง

วันนี้ บ่อนอื่นก็เตรียมตัวซวย ถูกสั่งปิดชั่วคราวเป็นทิวแถว เพราะข่าวยิงกันในบ่อน

หากตำรวจจะแถลง รับไปเลยว่ามีบ่อน และยิงกันตาย ตำรวจที่ตายชอบเล่น ไปเจอเจ้าหนี้ทวงกันไปมาเลยของขึ้น ควักปืนยิงล้างหนี้ อย่างนี้จะเหมาะกว่าไปอ้อมแอ้ม
.
คิดๆ แล้ว เปิดถูกกฎหมายให้รู้เรื่องรู้ราวกันไปเลย หมดเรื่องยิงกันตาย
-------------------------------
แหล่งข่าว
https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

หลายประเทศในแถบเอเชีย ที่มีประกาศปลดล็อกดาวน์แล้วแต่ไม่นานก็ต้องกลับมาล็อกกันใหม่อีกรอบ เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ได้ประกาศคำสั่งล็อกดาวร์กรุงมะนิลา เมืองหลวงบนเกาะลูซอน และ4 จังหวัดใกล้เคียงโดยรอบ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมากว่า 5,032 คน โดยผู้ติดเชื้อกว่า 2,737 หรือครึ่ง ถูกค้นพบในเขตเมโทรมะนิลา
.
ซึ่งในขณะนี้ประเทศฟิลิปปินส์กำลังเผชิญวิกฤตการณ์ระบาดจองเชื้อโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากกว่าขึ้น โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดทะลุสูงกว่า 100,000 รายแล้ว จนทำให้องค์กรเครือข่ายแพทย์นับ 80 องค์กรได้ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต รีบออกคำสั่งประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
.
สำหรับมาตรการล็อกดาวน์ในกรุงมะนิลา และหลายจังหวัดโดยรอบนั้น ทางการฟิลิปปินส์ไม่อนุญาตให้ประชาชนออกจากอาคารบ้านพัก ยกเว้นต้องไปซื้อของที่จำเป็น หรือออกกำลังกายกลางแจ้งเท่านั้น ขณะที่ทางการได้ระงับการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ รวมทั้งเที่ยวบินภายในประเทศ ส่วนร้านอาหารก็ไม่อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน ต้องซื้อกลับไปกินที่อาคารที่พักเท่านั้น
.
โดยให้เวลาประชาชนเตรียมตัวในเรื่องต่างๆ แค่เพียง 24 ชม.เท่านั้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องตกค้างอยู่ในเมืองหลวง เพราะไม่มีรถโดยสารที่จะเดินทางกลับไปบ้านเกิด นอกจากนั้น ประชาชนในหลายพื้นที่ของกรุงมะนิลาได้พากันออกไปซื้ออาหารของใช้ที่จำเป็น ก่อนมาตรการล็อกดาวน์จะมีผลบังคับใช้

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://apnews.com/6dfc124b9752dde086562b74f11dd113
https://www.theguardian.com/world/2...s-duterte-loses-control-of-coronavirus-spread

https://www.benarnews.org/english/news/philippine/another-lockdown-08032020122847.html
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1903377
https://www.bangkokbiznews.com/news...medium=internal_referral&utm_campaign=foreign
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

บราซิลป่วน
จนท.รัฐถลุงงบช่วยโควิด
ซำเติมวิกฤตยิ่งเลวร้าย
•
•
จนถึงตอนนี้ บราซิลถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ “อันตราย” ที่สุดในโลก ด้วยอัตราผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศ มากเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีผู้ติดเชื้อคนสำคัญอย่าง ฌาอีร์ โบโซลนารู ประธานาธิบดีบราซิล ผู้ที่เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ว่าโคโรนาไวรัส 2019 เป็นเพียง “ไข้หวัดเล็กน้อย” รวมถึงปฏิเสธการใส่หน้ากาก - การ “ล็อคดาวน์” มาโดยตลอด
.
ผลของการแทงหวยผิดข้าง ทำให้ ณ ขณะนี้ บราซิลมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 8 หมื่นคน และยังไม่มีแนวโน้มที่จะ Flatten the Curve หรือลดความชันทั้งผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตลงได้สำเร็จ ซ้ำยังมีทีท่าจะเลวร้ายลง เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีมาตรการ “ล็อคดาวน์” ระดับประเทศ โดยรัฐบาลกลาง ปล่อยให้รัฐบาลท้องถิ่น เป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะใช้มาตรการใด
.
ขณะเดียวกัน หลายเมืองทั่วประเทศก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยปัญหาทางการเมืองรอบใหม่ เมื่อผู้สนับสนุนประธานาธิบดีประท้วงต่อต้านการล็อคดาวน์ ปะทะกับรัฐบาลท้องถิ่น ที่ประกาศให้อยู่บ้าน ให้ล็อคดาวน์ ทั่วประเทศ ส่วนจำนวนเทสต์ก็อยู่ในขั้นย่ำแย่ บราซิลเพิ่งเทสต์ไปได้แค่ 7.5 เทสต์ ต่อประชากร 1,000 คน น้อยกว่าสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีจำนวนเทสต์อันดับ 1 กว่า 10 เท่า
.
และเมื่อระบบสาธารณสุขไม่ได้ดีมากนักอยู่แล้ว ก็ทำให้ทั้งโรงพยาบาล - โรงพยาบาลสนาม เต็มไปด้วยคนไข้อย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนถูกปล่อยทิ้งขว้าง รอการรักษาอยู่ที่บ้าน อย่างไม่มีจุดจบ ตัวเลขจากองค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Médecins Sans Frontières) พบว่าชาวบราซิลในชนบทที่ต้องรักษาตัวในไอซียูนั้น เสียชีวิตเกือบ 100% เพราะจำนวนแพทย์ – เครื่องมือแพทย์ ไม่เพียงพอกับจำนวนคนไข้
.
อย่างไรก็ตาม ปัญหาในบราซิลไม่ได้มีแค่นั้น อีกเรื่องใหญ่ที่ผุดขึ้นมาก็คือการ “คอร์รัปชัน” งบประมาณฉุกเฉินในการจัดการโควิด – 19 ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา มี “ผู้ว่าการรัฐ” 3 รัฐ ที่ถูกกล่าวหาว่าโกงงบภัยพิบัติ นอกจากนี้ ยังมีอีกกว่า 1,500 คดีทุจริตงบประมาณช่วยเหลือโควิด – 19 ที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ไล่ไปตั้งแต่เรื่องการใช้เงินผิดประเภท, การตั้งงบประมาณซื้อของเกินราคา และการฟอกเงิน
.
สำนักข่าว CNN รายงานว่า จากจำนวน 26 รัฐ ทั่วบราซิล ณ ขณะนี้ มากกว่า 11 รัฐ ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณฉุกเฉิน ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงกว่า 7 คน ถูก “ปลด” หรือ “ลาออก” จากตำแหน่งไปแล้ว เพราะเข้าไปพัวพันกับงบประมาณเหล่านี้
.
ยกตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 2 คน ของ ริโอ เดอจาเนโร เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของบราซิลนั้น ถูกจับภายใต้ “ปฏิบัติการกระชากหน้ากากพ่อค้าความโกลาหล” หลังจากยักยอกเงินหลายล้านเหรียญ จากสัญญาจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งไม่มีอยู่จริง และไม่เคยจัดส่งถึงโรงพยาบาล
.
ขณะที่ เซา เปาโล เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของบราซิล อัยการเขตอยู่ระหว่างสอบสวนสัญญาจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจเช่นกัน รอบนี้ รัฐบาลท้องถิ่นของมลรัฐจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจกว่า 3,000 เครื่องจากจีน โดยสัญญาจัดซื้อ ระบุมูลค่าของเครื่องสูงสุดไว้ที่เครื่องละ 4 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.27 ล้านบาท) และต่ำสุด อยู่ที่เครื่องละ 2 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6.35 แสนบาท) แต่รัฐอื่นๆ จัดซื้อเครื่องดังกล่าว ในราคาเฉลี่ยเพียงเครื่องละ 1.6 หมื่นเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5 แสนบาท) เท่านั้น
.
แม้ว่ารัฐบาลท้องถิ่นเซา เปาโล จะยืนยันว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามกฎหมายทุกอย่าง แต่เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ยกเลิกสัญญาจัดซื้อดังกล่าวกลางคัน หลังจากได้รับเครื่องช่วยหายใจเพียงไม่กี่เครื่องเท่านั้น นอกจากนี้ รัฐบาลท้องถิ่น ยังได้ยื่นฟ้องบริษัทนายหน้า พร้อมกับเรียกค่าเสียหาย และเรียกค่าปรับจากบริษัทดังกล่าว ทั้งหมดนี้ ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาครั้งใหญ่ของชาวเซา เปาโล ต่อรัฐบาลท้องถิ่น หลังเกิดคดีความเรียก “เงินทอน” และ “ส่วนต่าง” ตามที่เป็นข่าวอื้อฉาว
.
กุยเอิร์ม ฟรองซ์ นักวิจัยจากหน่วยงานความโปร่งใสแห่งชาติบราซิล ให้สัมภาษณ์ CNN ระบุว่า แม้ในช่วงวิกฤต จะมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเครื่องมือ – อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยิ่งรัฐบาลท้องถิ่นจัดซื้อจัดจ้างในราคาสูงเท่าไหร่ ก็หมายความว่าพวกเขา “ล้มเหลว” ในการป้องกันการคอร์รัปชันมากเท่านั้น
.
ขณะเดียวกัน ยังเกิดเรื่องอื้อฉาวอื่นๆ พร้อมกันหลายรัฐทั่วประเทศ ไม่เว้นแม้แต่ในทางเขตห่างไกลตอนเหนือของประเทศ ไปจนกระทั่งรัฐในเขตอเมซอน ช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา วิลสัน ริมา ผู้ว่าการรัฐอเมซอนา ถูกสอบสวนในข้อหาจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจโดย “ล็อกสเปก” ให้กับผู้ประมูลเพียงรายเดียว ขณะที่ในรัฐพาร่า เฮลเดอร์ บาบัลโฮ ผู้ว่าการรัฐ ก็ถูกสอบสวน หลังจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจโดยไม่มี “แบตเตอรี” ภายในเครื่อง ซึ่งหมายความว่าเครื่องจะดับทันที หากไฟดับ หรือไฟกระตุก
.
ส่วนในริโอ เดอ จาเนโร ผู้ว่าการรัฐ วิลสัน วิตเซล ถูกรัฐยึดมือถือและคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบ หลังจากถูกดำเนินคดีในข้อหาทุจริตงบประมาณสาธารณสุขฉุกเฉิน โดยกินส่วนต่างจากค่าก่อสร้างโรงพยาบาลสนาม และส่วนต่างจากค่าเครื่องช่วยหายใจ CNN ยังรายงานอีกด้วยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่รัฐระดับกลางจำนวนมาก ตัดสินใจ “ลาออก” จากตำแหน่ง เพราะไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีสกปรกแบบนี้
.
เรื่องยังซับซ้อนกว่านั้นเข้าไปอีก เพราะผู้ว่าการรัฐ - นักการเมืองส่วนใหญ่ ที่ถูกตั้งข้อหาจำนวนหนึ่ง คือ “ฝ่ายตรงข้าม” ของประธานาธิบดี โบโซลนาลู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประธานาธิบดี สามารถจัดการกับ “คู่แข่งทางการเมือง” และสามารถกลบข่าวความล้มเหลวการจัดการโควิด – 19 ได้ไปในทีเดียว
.
การคอร์รัปชัน ยิ่งทำให้วิกฤตเศรษฐกิจในบราซิล มีแนวโน้มจะหนักหนาสาหัสมากขึ้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินว่าจีดีพีของบราซิลจะหดตัวลง 9.1% และมีทีท่าจะหดมากขึ้น หากไม่สามารถจัดการกับโรคระบาด และไม่สามารถจัดการกับการคอร์รัปชันเม็ดเงินในการจัดการกับโรคระบาดได้
.
ผลที่ตามมาของการคอร์รัปชันเครื่องช่วยหายใจก็คือ ณ ขณะนี้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ต้องขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ทำงานกันหนักหนากว่าเดิม พร้อมค่าตอบแทนที่ไม่เพียงพอ หมอหลายคนบอกว่ารัฐติดค้างเงินเดือนกว่าหลายล้านดอลลาร์แล้ว เนื่องจากภาวะวิกฤต ทำให้รัฐเบิกจ่ายงบประมาณได้ล่าช้า
.
ทั้งหมดนี้ ยิ่งทำให้เห็นว่า ในประเทศ “กำลังพัฒนา” หากรัฐบาลไม่โปร่งใส กลไกการตรวจสอบทำงานไม่ได้ เต็มไปด้วยการคอร์รัปชันนั้น เมื่อเกิดวิกฤตเมื่อไหร่ จะมีผู้ “ได้ประโยชน์” และร่ำรวยขึ้น จากทุกวิกฤตเสมอ...

#COVID19 #โควิด19 #บราซิล

อ้างอิงจาก

https://www.msf.org/coronavirus-covid-19-nightmare-continues-brazil

https://edition.cnn.com/2020/07/08/americas/brazil-coronavirus-corruption-intl/index.html

 

ผ่อนปรนการเดินทาง “ล่ม”
หลัง Second Wave ถล่ม
ธุรกิจท่องเที่ยวเตรียมซบยาว
.
.
เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association หรือ IATA) ประเมินการเดินทางทางอากาศ ที่ต้อง “หยุดนิ่ง” หลังการมาถึงของโรคโควิด – 19 ด้วย 2 สมมติฐาน อันแรกคือ ไตรมาส 3 ของปีนี้ คือเดือน ก.ค. - ต.ค. เริ่มบินได้ปกติมากขึ้น จากสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสที่น้อยลง และสมมติฐานที่ 2 คือ “ซึมยาว” กว่าจะบินได้ตามปกติก็ไตรมาสที่ 4 ของปี
.
หากเป็นไปตามสมมติฐานแรก สายการบินที่สายป่านยาว จะยังพอเลี้ยงตัวได้ แต่หากเป็นไปตามซีนาริโอที่สอง สายการบินจะล้มหายตายจากไปจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ด้วยการจำกัดการเดินทางแบบนี้ “ดีมานด์” ของธุรกิจการบิน จะไม่เป็นปกติ ไปจนถึงปี 2022
.
ในช่วงเดือน มิ.ย. นั้น หลายประเทศเริ่ม “หายใจหายคอ” ได้ ในยุโรป ผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มน้อยลง โรงพยาบาลเริ่มพอรับมือได้ จนหลายประเทศ เริ่มเปิดชายแดนให้ไปมาหาสู่กัน เริ่มมีความหวังจะทำ Travel Bubble จับคู่ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อน้อย เพื่อให้บางประเทศข้ามไปหากันได้ เช่น สิงคโปร์ – จีน, ออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์ หรือ ญี่ปุ่น – เวียดนาม, ญี่ปุ่น - ไทย
.
อย่างไรก็ตาม พอล่วงเข้าสู่เดือน ก.ค. สถานการณ์ก็กลับมาอึมครึมอีกครั้ง หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทั้งในจีน เกาหลี เยอรมนี รวมถึงล่าสุดคือ “เวียดนาม” หลังผ่านร้อยวัน ก็กลับพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ขึ้นอีกในดานัง ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศซบเซารอบที่สอง จากการต้องอพยพผู้คนออกจากเมืองท่องเที่ยว ที่มีประชากรหลักล้านคน แน่นอน ทำให้ Travel Bubble กลายเป็นหมันทันที
.
อีกหลายแห่ง ดูเหมือนว่าคลื่นระลอกที่ 2 จะหนักกว่าเดิม ไม่ว่าจะในออสเตรเลีย ฮ่องกง ซึ่งผู้ติดเชื้อรายวัน สูงกว่าหลักร้อยเข้าไปแล้ว ซึ่งทั้ง 2 ที่ ตามมาด้วยการปิดร้านอาหาร ปิดโรงเรียน ปิดบางธุรกิจที่ไม่จำเป็นอีกครั้ง ขณะที่ในสเปนนั้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เริ่มสูงขึ้นรอบใหม่ ทำให้รัฐบาลอังกฤษออกคำเตือนให้ผู้ที่เดินทางมาจากสเปน ต้องกักตัว 2 อาทิตย์ต่อไป พร้อมกับขอให้เลี่ยงการเดินทางไปยังสเปน หากไม่มีเหตุจำเป็น
.
เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน บอกว่า การตัดสินใจของอังกฤษนั้นเป็น “ข้อผิดพลาด” พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์ในสเปน ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น ซ้ำตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ ยังต่ำกว่าการติดเชื้อภายในอังกฤษด้วยซ้ำ
.
ท่าทีของทั้ง 2 ประเทศ ทำให้ แผนการที่จะเปิดยุโรป ให้การท่องเที่ยวช่วง “หน้าร้อน” กลับมาคึกคักอีกครั้ง กลายเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะยังมีความไม่ไว้ใจในมาตรการของแต่ละประเทศสูง ทั้งนี้ เศรษฐกิจสเปน ต้องพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวไม่น้อย และสเปนเอง ก็ “ได้ดุล” จากนักท่องเที่ยวจากอังกฤษค่อนข้างมาก ปี 2019 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากอังกฤษติดท็อป 5 ที่มาเที่ยวสเปน
.
ทั้งหมดนี้ ยังไม่นับรวมสถานการณ์การระบาดในสหรัฐอเมริกา ในอินเดีย ละตินอเมริกา แอฟริกา หรือในอาเซียนอย่าง อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่เวฟแรกยังไม่จบ ผู้ป่วยรายวันแข่งกันทำสถิติใหม่ จนทำให้สตอรี่ของโควิด – 19 ยืดยาวออกไป
.
จึงเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ธุรกิจการบิน และธุรกิจท่องเที่ยวที่ต้องพึ่งพาการติดต่อกับต่างประเทศนั้น จะไม่มีวันหายใจหายคอได้ อย่างน้อยๆ ก็ภายในปีนี้ เพราะไม่ว่าจะจับคู่ประเทศ หรือพยายามเปิดการบินระหว่างประเทศ เพื่อให้ธุรกิจการบินได้หายใจหายคอ ให้กลับมาเป็นปกติได้บ้าง ก็ยังติดล็อคสำคัญ คือ 14 วัน แห่งการกักตัวในสถานกักตัวของรัฐ ที่ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติคนไหน อยากเข้ามาง่ายๆ
.
เพราะแม้จะให้นักท่องเที่ยวแต่ละคน “เทสต์” ตั้งแต่ก่อนออกนอกประเทศต้นทาง ให้เทสต์หลังจากเข้าประเทศแล้ว หรือจ่ายค่าชุดตรวจให้ แบบที่สายการบินเอมิเรตส์ ของ UAE ทำ แต่ล็อคสำคัญก็ยังอยู่ที่ “ระยะฟักตัว” ที่ไม่ว่าจะมีชุดตรวจที่แม่นขนาดไหน แต่หากไม่ถึง 14 วัน ก็ยัง “ไว้ใจไม่ได้” อยู่ดี กลายเป็นความหวาดระแวงที่ยังปกคลุมไปทั่วโลก
.
จากเดิม การบินไทย มีกำหนดการจะเปิดการบินระหว่างประเทศอีกครั้งในเดือน ส.ค. ก็ถูกเลื่อนออกไปถึง เดือน ต.ค. ซึ่งยังไม่ชัวร์ว่าสามารถจะบินได้จริงหรือไม่ และแม้ประเทศในยุโรปหลายประเทศจะเปิดให้คนไทยเข้าประเทศได้แล้ว ไม่ว่าจะอังกฤษ หรือเยอรมัน ก็ยังไม่มีเที่ยวบินจากไทยบินไปอยู่ดี..
.
ล่าสุด ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการด้านสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ออกคำแนะนำว่าการปิดประเทศ อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องนักในระยะยาว และเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย หากทุกประเทศจะปิดตัวเองอีกหลายเดือน หรือเป็นปี จนกว่าจะมี “วัคซีน” เพราะนั่นหมายความว่าเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนจะพังพาบหมด
.
“สิ่งที่อาจต้องพิจารณามากกว่าการปิดประเทศ ก็คือการให้คนที่เข้ามาใหม่ สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ปิด ที่ไวรัสมีโอกาสแพร่กระจายได้ง่าย” ไรอันระบุ
.
แม้คำเตือนจาก “องค์การอนามัยโลก” จะตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง แต่ในสถานะที่ความน่าเชื่อถือขององค์กรนี้หดหายตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวิกฤต ก็ทำให้หลายประเทศเลือกที่จะไม่เชื่อ ตั้งการ์ดสูงด้วยตัวเอง เพราะกลัวว่า WHO จะพลาดเหมือนเรื่องสวมหน้ากากอนามัย หรือเรื่องการ “ไม่เห็นด้วย” กับการแบนนักท่องเที่ยวจีน ตั้งแต่เริ่มแรก
.
ชัดเจนว่า หลังจากนี้ ภาคท่องเที่ยว ภาคบริการของไทย ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ จะ “จมดิ่ง” ลงไปเรื่อยๆ ถนนข้าวสาร ภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย จะยังร้างไปอีกนาน หากสถานการณ์โลกยังเป็นแบบนี้ และรัฐบาลไทยยังคงตั้งการ์ดแบบนี้
.
เพราะฉะนั้น ทางเลือกสำคัญ จึงมีเพียงการยอม “ปล่อย” ให้มีการเดินทางเข้ามาบ้างในบางประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไม่มากนัก เช่น จีน เกาหลี เข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน โดยให้สวมหน้ากาก และปิดสถานที่เสี่ยง หรือให้เดินทาง จำกัด 14 วัน ในพื้นที่ “เกาะ” เพื่อรักษาเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยว ให้ไม่ดำดิ่งไปกว่าเดิม อย่างที่หลายคนเสนอ
.
หรือการเลือก “ปิด” ต่อไป จนกว่าจะมีวัคซีน และต้องให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามาต้องฉีดวัคซีนเท่านั้น จึงจะเข้ามาได้ ซึ่งอาจต้องรอนานอีก 1 – 2 ปี กว่าจะเปิดได้สมบูรณ์แบบ
.
เมื่อถึงเวลานั้น ภาคท่องเที่ยว น่าจะล้มหายตายจากกันเกือบหมดไปเรียบร้อยแล้ว...

#COVID19 #โควิด19 #ท่องเที่ยว # TravelBubble

อ้างอิงจาก

https://www.reuters.com/article/us-...w-travel-curbs-around-the-globe-idUSKCN24S0HH

https://www.bbc.co.uk/news/uk-53562603

 

ข้อเสนอที่ไม่อาจปฎิเสธ! ทรัมป์ ว่า รัฐบาลฯ ต้องการ "ส่วนแบ่ง" จากการขายหุ้น TikTok

บีบีซีรายงาน (4 ส.ค.) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ถ้าบริษัทอเมริกันซื้อหุ้นกิจการของ TikTok รัฐบาลควรได้รับส่วนแบ่งจากการขายหุ้น

รายงานข่าวเผยคำพูดทางโทรศัพท์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กล่าวกับผู้บริหารไมโครซอฟต์ ว่าเขาต้องการ "ส่วนแบ่งสำคัญ" นอกจากนี้เขายังเตือนว่า เขาจะสั่งห้ามแอปพลิเคชั่น ของบริษัทจีน ByteDance นี้ ในวันที่ 15 กันยายน หากไม่ตกลงตามนี้

ByteDance อยู่ภายใต้แรงกดดันในการขายธุรกิจในสหรัฐฯ หลังจากนายทรัมป์ขู่ว่าจะปราบปรามบริษัทเทคโนโลยีจีน

ผู้บริหารทรัมป์กล่าวหาว่า TikTok และ กิจการรายอื่น ๆ ให้ข้อมูลกับรัฐบาลจีน ซึ่งเรื่องนี้ปักกิ่งและ TikTok ได้ปฏิเสธ

“ สหรัฐฯ ควรได้รับส่วนแบ่งจากการซื้อขายที่สูงมาก เพราะเราทำให้แอปพลิเคชั่นนี้แจ้งเกิดทำมาหากินได้” นายทรัมป์กล่าว

ชาร์ลอตต์ จี นักข่าวจาก MIT Technology Review นิตยสารในเครือสถาบันเทคโนโลยี Massachusetts Institute of Technology กล่าวว่าความเห็นของนายทรัมป์นั้นค่อนข้างน่าประหลาดใจ

เธอกล่าวกับบีบีซีว่า "ฉันเกลียดที่จะพูดแบบนี้ แต่มันเป็นพฤติกรรมที่คล้ายมาเฟีย"

....
ข่าว -

 

เกิดเหตุระเบิดใหญ่ ในกรุงเบรุต เลบานอน ตาย-เจ็บ 4,000 คน
.
รอยเตอร์ 5 ส.ค.- เกิดเหตุระเบิดใหญ่บริเวณท่าเรือใกล้กรุงเบรุต ของประเทศเลบานอน เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) โดยแรงระเบิดได้ก่อเกิดคลื่นช็อกเวฟทำกระจกหน้าต่างแตกกระจาย พื้นดินสั่นสะเทือนทั่วเมืองหลวง และอาคารบ้านเรือนพังเสียหายยับเยินเป็นวงกว้าง เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 78 ศพ บาดเจ็บอีกร่วม 4,000 คน
.
เจ้าหน้าที่เลบานอนคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะพุ่งสูงขึ้นอีก ในขณะที่หน่วยกู้ภัยยังคงค้นหาตามซากปรักหักพังเพื่อช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิตและเก็บกู้ศพ
.
เหตุระเบิดคราวนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปีสำหรับกรุงเบรุต ซึ่งกำลังเผชิญทั้งวิกฤตเศรษฐกิจและตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พุ่งสูงขึ้น
.
ประธานาธิบดี มิเชล อูน แห่งเลบานอน ระบุว่า สารแอมโมเนียมไนเตรตราว 2,750 ตันถูกเก็บเอาไว้ที่ท่าเรือแห่งนี้มานาน 6 ปี โดยปราศจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเห็นว่า “รับไม่ได้” พร้อมสั่งเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นการด่วนในวันนี้ (5) และเตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 2 สัปดาห์
.
จอร์จ เก็ตตานี ประธานสภากาชาดเลบานอน ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็น “หายนะรุนแรง และมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายอยู่ทุกหนแห่ง”
.
หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นเมื่อเวลาหลัง 18.00 น. เล็กน้อย ไฟได้ลุกไหม้บริเวณท่าเรือต่อมาอีกหลายชั่วโมง ขณะที่เสียงเฮลิคอปเตอร์และไซเรนรถพยาบาลดังสนั่นทั่วทั้งเมือง
.
โรงพยาบาลในกรุงเบรุตเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บจากแรงระเบิด โดยเจ้าหน้าที่การแพทย์หญิงคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า แผนกฉุกเฉินในโรงพยาบาลของเธอมีคนบาดเจ็บถูกส่งมารักษา 200-300 คน ซึ่งเป็นสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่เธอ “ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน”
.
นายกรัฐมนตรี ฮัสซัน ดิอาบ ยืนยันผ่านสื่อโทรทัศน์ว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นกับโกดังสินค้าอันตราย “จะต้องมีคนรับผิดชอบ” พร้อมประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศในวันนี้ (5) ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเบรุตแถลงเตือนเรื่องก๊าซพิษจากการระเบิด พร้อมเตือนให้ประชาชนเก็บตัวอยู่ในอาคารและสวมใส่หน้ากากหากสามารถทำได้
.
จากคลิปเหตุการณ์ซึ่งถูกแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือท่าเรือ ตามหลังการระเบิดซึ่งก่อให้เกิดลูกไฟขนาดใหญ่และกลุ่มเมฆสีขาว ผู้ที่ถ่ายคลิปจากบนอาคารสูงซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 2 กิโลเมตรระบุว่าพวกเขาโดนแรงอัดจากคลื่นช็อกเวฟจนหงายหลังเลยทีเดียว
.
เจ้าหน้าที่เลบานอนยังไม่ระบุสาเหตุที่แน่ชัดของการระเบิดครั้งนี้ แต่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเผยกับสื่อท้องถิ่นว่าขณะเกิดเหตุมีคนงานกำลังเชื่อมโลหะอยู่ที่โกดังดังกล่าว
.
โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 3 วันก่อนที่ศาลพิเศษของสหประชาชาติจะนัดอ่านคำพิพากษาในคดีผู้ต้องหากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ 4 คนซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อปี 2005 ซึ่งทำให้อดีตนายกรัฐมนตรี ราฟิก อัล-ฮาริรี และเหยื่ออีก 21 คนเสียชีวิต.

 

วัดฮินดูในพื้นที่พิพาทกำลังจะสร้างขึ้น

นายนรินทร โมดิ นายกรัฐมนตรีของอินเดีย กล่าวว่ามีแผนจะวางศิลาฤกษ์ โดยพินิจเงินน้ำหนัก 40 กิโลกรัม เพื่อก่อสร้างวัดฮินดูอันศักดิ์สิทธิ์บนพื้นที่พิพาทระหว่างมุสลิมและฮินดูในเมืองอโยธยา รัฐอุตตรประเทศ
โดยพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นมัสยิดชื่อว่ามัสยิดBabri โดยตัวมัสยิดสร้างทับพื้นที่ที่เชื่อว่าเป็น ที่กำเนิดของพระราม หลังอินเดียได้เอกราชมัสยิดแห่งนี้กลายเป็นแห่งปะทะของชาวมุสลิมและชาวฮินดูเสมอมา
ตัวมัสยิดตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 16 และอีก 400 ปีต่อมาในปี 1992 มันก็ได้ถูกชาวฮินดูเข้าไปทำลายโดยกล่าวว่าตัวมาซิสร้างโบสถ์วิหารศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู หลังจากเกิดข้อพิพาทเป็นเวลายาวนานว่าพื้นที่แห่งนี้ควรกลับไปเป็นมัสยิดหรือวัดฮินดูในที่สุดก็ได้มีการตัดสินจากรัฐบาลของนายโมดิให้เป็นวัดฮินดู ซึ่งจะมีการวางศิลาฤกษ์เพื่อสร้างวัดฮินดูแห่งใหม่ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นอย่างไรก็ดีเนื่องจากมันเป็นพื้นที่พิพาทจะมีผู้ร่วมงานวางศิลาฤกษ์ไม่เกิน 120 คน

https://edition.cnn.com/2020/08/04/...utm_content=2020-08-04T10:12:04&utm_term=link

 

ศรีลังกาเร่งล่าตัว 'แมวขนยา' แหกคุก
.
หนังสือพิมพ์อารูนาของศรีลังกา รายงานอ้างเจ้าหน้าที่เรือนจำเวลิกาดา ในกรุงโคลัมโบ เมื่อวันจันทร์ (3 ส.ค.) ว่า แมวตัวหนึ่งซึ่งถูกคุมขังโทษฐานขนยาเสพติดเข้าสู่เรือนจำ ได้หลบหนีออกจากห้องขังที่มีเจ้าหน้าที่เฝ้ายามอย่างแน่นหนา หลังจากถูกจับกุมได้เพียงไม่กี่วัน
รายงานระบุว่า เมื่อวันเสาร์ (1 ส.ค.) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรือนจำฯ ตรวจพบว่าแมวตัวนี้มีถุงพลาสติกขนาดเล็กผูกอยู่รอบลำคอ ซึ่งภายในบรรจุเฮโรอีนเกือบ 2 กรัม ซิมการ์ด 2 ใบ และชิพหน่วยความจำ โดยผลการสืบสวนพบว่า แมวตัวนี้ลักลอบนำยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามเข้าสู่เรือนจำเวลิกาดา
เดิมนั้น เจ้าหน้าที่ตั้งใจว่าจะคุมขังแมวตัวดังกล่าวในเรือนจำฯ เพื่อสืบสวนสอบสวนหาเจ้าของต่อไป แต่สุดท้ายมันกลับหลบหนีออกมาได้ในวันอาทิตย์ (2 ส.ค.) ทางการท้องถิ่นจึงเริ่มภารกิจไล่ล่าเพื่อตามจับมันกลับมา
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเชื่อว่า แมวตัวนี้ถูกใช้เป็นผู้ลักลอบขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายเป็นประจำ
=AT3JjAc_gXR_inWHRRz2oz11ckjCQTqyoUzCig0zd5UqOSsuYmh06KMXd3u_ZpBmdTOh7ED14TKaYgshB9n0_-Xzp6bFNGF5tze8S0_c-BlgMo54ukl9vaxXXjgQce-gwcOtzjHsCpJI2LItP_9zIV5eLcsX5dr5k5J4tbZMKLc-PfNBnRqhDjrDx8zWsoGkjCNghZcfaBGSZ1jlNuu2aCQygkt4sHiSZ176MwxDruVDZYyAeA8Q5SA0YkuTLMYPpBCAs1UR_oTBehI2yscBdsQeTJNmcIxz5pvOWheAMQ']

https://www.bangkokbiznews.com/news...0ojnkMwtZTiXl7npKy_klcNLFw5AhoyP6Q4r7qxv0ZQwg

 

“ทนง” ชี้โควิดส่งผลราคาทองพุ่ง-“ทรัมป์” ส่อแพ้เลือกตั้ง
เผยแพร่: 5 ส.ค. 2563 01:16 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ทนง” ชี้โควิด-19 ส่งผลราคาทองพุ่ง เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯทรุด ความเชื่อมั่นดอลลาร์ต่ำลง คนจึงหันมาถือทองคำ ส่วนเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา ถ้ายังหยุดโรคไม่ได้ “ทรัมป์” ส่อแววแพ้เลือกตั้งแน่

วันที่ 5 ส.ค. 63 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ และ ผอ.สื่อสาร บลจ.บัวหลวง ร่วมสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “จากทองนิวไฮ ถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ”

โดย นายทนง กล่าวว่า ราคาทองคำพุ่งเป็นประวัติการณ์ สาเหตุจากนักลงทุนหันมาให้ความสนใจทองคำ เพราะไม่มั่นใจค่าเงินดอลลาร์ ว่า จะรักษาสถานภาพการเป็นเงินสกุลหลักของโลกได้หรือไม่ หรือในอีกแง่ ดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ราคาทองคำก็จะสูงขึ้น ตัวทองคำถือว่าเป็นมาตรฐานที่แท้จริง ที่วัดเงินสกุลต่างๆ แต่ระยะหลังปี 1971 ที่ผ่านมา อเมริกาพยายามสร้างดอลลาร์สแตนดาร์ดขึ้นมา เพื่อให้เงินทุกสกุลหรือสินค้าทุกอย่างต้องวัดกันที่ดอลลาร์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ใช้ทองคำ

แต่ตอนนี้ความมั่นใจนี้เริ่มสั่นคลอนลง เพราะแนวโน้มดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง จากวิกฤตเศรษฐกิจของอเมริกาเอง ที่ทำให้ธนาคารกลางอเมริกาต้องพิมพ์เงินออกมามากมาย ทั้งนโยบายการเงิน การคลัง ไม่เคยเห็นในประวัติศาสตร์อเมริกา ที่จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายสุดๆ การคลังใช้เงินแบบสุดๆ นี่คือ สาเหตุที่นักลงทุนกังวลใจว่าเงินเฟ้อจะตามมา

นายทนง กล่าวอีกว่า ส่วนการเลือกตั้งอเมริกาครั้งนี้ น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง อาจจะเกิดเหตุวุ่นวายก็ได้ เพราะทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่า หากผลออกมาแพ้ เขาอาจยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ได้ ทำให้เกิดเสียงวิารณ์ทั่วโลก ว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้น โดยทรัมป์บอกว่ามีโอสสูงที่เขาจะถูกโกง ซึ่งเป็นผลมาจากการโหวตผ่านทางไปรษณีย์ จากสถานการณ์โควิด

ทรมป์ขอให้เลื่อนเลือกตั้ง แต่คงเป็นไปไม่ได้ แล้วหากทรัมป์ไม่ยอมออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ กำหนดว่าสามารถอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 4 ปี พอถึงวันจะสิ้นสภาพทันที ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม ไม่เหมือนบ้านเราที่นายกฯ รักษาการต่อ แต่ของอเมริกาต้องให้คนอื่นมารักษาการแทน ซึ่งทรัมป์เห็นแล้วว่าอาจแพ้ เลยขอเลื่อนเลือกตั้ง

นายทนง กล่าวต่ออีกว่า โควิดหนุนราคาทองคำ การชัตดาวน์ ประเทศต่างๆ ใช้งบด้านการคลังมากขึ้น ก่อหนี้มากขึ้น ทำให้ค่าเงินเสื่อม คนไม่มั่นใจ จึงเลือกที่จะถือทองคำ

แล้วโควิดก็อาจส่งผลต่อการเลือกตั้งอเมริกาด้วย รัฐฟลอริด้า กับเทกซัส ผู้ป่วยโควิดยังเพิ่มสูง ซึ่ง 2 รัฐนี้ เป็นรัฐชี้ชะตาการเลือกตั้งประธานาธิบดี เป็นฐานเสียงพรรคริพับลิกัน ถ้าโควิดยืดเยื้อ คนตกงานนาน เศรษฐกิจเสียหายนาน ความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำของทรัมป์ก็จะลดลง ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ โจ ไบเดน ชนะเลือกตั้ง

https://mgronline.com/onlinesection...nOSJ5x2KwpcViZ0jhvoLkgBorl4QFGWbizNgWOrHER8ZU

 

สถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวรอบกรุงเบรุต สามารถจับ seismic wave หรือคลื่นไหวสะเทือน เทียบเท่ากับแผ่นดินไหวขนาด 3.3 ต้องบันทึกไว้ว่า เป็นแผ่นดินไหวที่เกิดจากมนุษย์!!!

ขอแสดงความเสียใจไปยังพลเมืองกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

 

ประวัติศาสตร์คลื่นความร้อนล้างตะวันออกกลาง

เมื่อการเฉลิมฉลองของชาวมุสลิมรู้จักกันในชื่อว่า El Eid al-Fitr ซึ่งสิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ตะวันออกกลางถูกคลื่นความร้อนท่วมท้น

ภูมิภาคนี้ซึ่งมีประชากรชาวมุสลิม 20% ของโลกอาศัยอยู่ ได้รับความร้อนแรงเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ จากรายงานของ Weather Weather Gang ระบุว่าเลบานอนมีอุณหภูมิสูงสุดในวันอังคารที่ 45.6 องศาเซลเซียส ดามัสกัสเมืองหลวงของซีเรีย ได้ถึง 46.1 องศาเซลเซียสในวันพุธ โดยคาดว่าจะมีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นในอิรักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอุณหภูมิของแบกแดดเพิ่มขึ้นสูงกว่า 51.7 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดในเมืองที่เคยบันทึกไว้และบาสรา พุ่งสูงขึ้น 53 องศาเซลเซียสในวันจันทร์ ใกล้เคียงกับสถิติอุณหภูมิโลกที่สูงที่สุดในปีนี้ที่ Death Valley รัฐแคลิฟอร์เนีย


ภาพ: Twitter @ ScottDuncanWX

แต่คลื่นความร้อนในตะวันออกกลางครอบคลุมเมืองที่แออัด และพวกเขาไม่ได้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ของความร้อน; อุณหภูมิในภูมิภาคยังคงสูงเกือบข้ามคืนทำให้ผู้คนหลายล้านต้องประสบกับสภาพที่ทำให้หายใจไม่ออก โชคดีที่ความร้อนที่รุนแรงที่สุดกำลังลดลง คาดว่าอุณหภูมิจะสูงถึงระดับ 43.3 องศาเซลเซียสในไม่กี่วันข้างหน้า

อุณหภูมิที่เหลือเชื่อเหล่านี้เชื่อมโยงกับโดมความร้อนหรือพื้นที่ที่มีความดันบรรยากาศสูงเหนือทะเลแดงที่เคลื่อนตัวไปทางตะวันตก โดมไม่เพียง แต่ติดกับอากาศร้อนที่อยู่ด้านล่างเท่านั้น แต่ยังเอาเมฆปกคลุมที่มีสีออกมาเล็กน้อย ปรากฏการณ์เดียวกันคือสิ่งที่ทำให้เกิดความร้อนบันทึกใน Death Valley เมื่อเดือนที่แล้วและได้ก่อให้เกิดความร้อนที่รุนแรงในส่วนที่เหลือของสหรัฐอเมริกาแม้ว่าจะไม่รุนแรงเท่าที่ตะวันออกกลางประสบใน วันนี้.

ความร้อนสูงเป็นหนึ่งในลักษณะของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งกำลังเพิ่มอุณหภูมิพื้นหลังและทำให้คลื่นความร้อนทั่วไปและรุนแรงจากไซบีเรียไปยังซีเรีย แม้ว่ามันอาจจะดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าภัยพิบัติอื่น ๆ เช่นพายุเฮอริเคนหรือพายุทอร์นาโด แต่มันก็เป็นสภาพอากาศที่รุนแรงที่สุดในโลก

และในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้ต่อสู้กับความร้อนโดยการอยู่ในที่โล่ง โดยการเปิดเครื่องปรับอากาศ สำหรับหลาย ๆ คนทั่วทั้งภูมิภาคนั่นไม่ใช่ตัวเลือก ยกตัวอย่างเช่นในอิรักความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากสงครามการก่อการร้ายที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีวันจบสิ้น ได้ทำลายระบบไฟฟ้า



ความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามากเกินไปและทำให้เกิดไฟดับบ่อยครั้ง ชาวอิรักบางคนได้รับไฟฟ้าเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน บางครั้งเครื่องปั่นไฟส่วนตัวมีให้บริการ แต่มีราคาแพงเกินไปและให้พลังงาน จำกัด

ในกรุงแบกแดดผู้ประท้วงได้พาไปที่ถนนส่วนหนึ่งเนื่องจากการขาดการเข้าถึงไฟฟ้าท่ามกลางอุณหภูมิที่เลวร้ายเหล่านี้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังความมั่นคงสังหารผู้ประท้วงสองคนและบาดเจ็บอีกเกือบหนึ่งโหล

ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลวลง ตะวันออกกลางมีแนวโน้มที่จะมีฤดูร้อนที่ร้อนแรง ในช่วงกลางศตวรรษนี้บางส่วนของภูมิภาครวมถึงแอฟริกา อาจร้อนจัดจนมนุษย์ไม่สามารถอยู่รอดได้ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่าความร้อนสูงและเหตุการณ์สภาพอากาศอื่น ๆ อาจทำให้ความรุนแรงรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเกิดความขัดแย้งมากขึ้น


รูปภาพ: BBC / EPA
คลื่นความร้อนนี้แสดงหลักฐานเพิ่มเติมว่าเราจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและกำจัดเชื้อเพลิงฟอสซิลแม้ว่ารัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่บางแห่งกำลังปิดตาและหูของพวกเขาสู่ความเป็นจริง เนื่องจากความขัดแย้งหลายอย่างในตะวันออกกลางเกิดขึ้นมากกว่าการสำรองน้ำมันซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในท้ายที่สุด

เราเป็น World Extreme

ด้วยข้อมูลจาก Gizmodo


Ola de calor histórica arrasa Medio Oriente.
A medida que la celebración musulmana conocida como El Eid al-Fitr (Fiesta de la ruptura del ayuno) concluyó el 31 de julio, Medio Oriente quedó atrapado en una ola de calor avasallante.


La región, donde vive el 20 por ciento de la población musulmana del mundo, ha experimentado un calor récord esta semana. Según Capital Weather Gang, Líbano registró su temperatura más alta el martes a 45.6 grados Celsius. Damasco, la capital de Siria, alcanzó los 46.1 grados Celsius el miércoles, empatando con su temperatura más alta registrada. Y aún más sorprendentemente, en Irak el martes pasado, las temperaturas de Bagdad subieron por encima de los 51.7 grados Celsius, la temperatura más alta de la ciudad jamás registrada, y Basra se disparó por encima de 53 grados Celsius el lunes y martes. Muy cercano al registro de la temperatura más alta de la Tierra registrada este año en el Valle de la Muerte, en California.


Imagen: Twitter@ScottDuncanWX
Pero esta onda de calor en el Medio Oriente cubrió ciudades muy pobladas. Y no son breves períodos de calor; las temperaturas en la región se han mantenido casi tan altas durante la noche, lo que ha obligado a millones a sufrir condiciones sofocantes. Afortunadamente, el calor más extremo está disminuyendo. Se pronostica que las temperaturas alcanzarán un nivel más cómodo de 43.3 Celsius en los próximos días.


Estas temperaturas alucinantes están vinculadas a un domo de calor, o un área de alta presión atmosférica, sobre el Mar Rojo que se ha estado moviendo hacia el oeste. El domo no solo atrapó aire caliente debajo de él, sino que también eliminó la cobertura de nubes que ofrecen un poco de sombra. El mismo fenómeno es el que provocó un calor récord en el Valle de la Muerte el mes pasado y ha provocado un calor intenso generalizado en el resto de los EE. UU., aunque que no tan intenso como lo que el Medio Oriente ha enfrentado en estos días.


Foto: BBC/EPA
El calor extremo es una de las características del cambio climático, que está elevando las temperaturas de fondo y haciendo que las olas de calor sean más comunes e intensas desde Siberia hasta Siria. Si bien puede no parecer tan dramático como otros desastres como huracanes o tornados, es la forma más mortal de clima extremo en el planeta.


Y aunque los expertos en salud recomiendan combatir el calor permaneciendo en interiores con aire acondicionado encendido, para muchos en toda la región, esa no es una opción. En Irak, por ejemplo, el conflicto a raíz de la aparentemente interminable guerra de Estados Unidos contra el terrorismo ha devastado la red eléctrica.



El aumento de la demanda de energía electrica ha sobrecargado los generadores y ha llevado a apagones frecuentes. Algunos iraquíes solo reciben unas pocas horas de electricidad por día. Los generadores privados a veces están disponibles, pero son demasiado caros y proporcionan energía limitada.

En Bagdad, los manifestantes han salido a las calles en parte por la falta de acceso a la electricidad en medio de estas temperaturas infernales. A principios de esta semana, las fuerzas de seguridad mataron a dos manifestantes e hirieron a casi una docena más.

A medida que el cambio climático empeora, es probable que Medio Oriente tenga veranos más calurosos. A mediados de este siglo, algunas partes de la región, así como África, podrían estar tan calientes que los humanos no podrán sobrevivir allí. También hay evidencia de que el calor extremo y otros eventos climáticos pueden exacerbar la violencia, lo que podría empeorar aún más la situación en zonas afectadas por conflictos.


Foto: BBC/EPA.
Esta ola de calor proporciona aún más evidencia de que necesitamos reducir las emisiones de gases de efecto invernadero y deshacernos de los combustibles fósiles, a pesar de que algunos gobiernos y grandes corporativos cierren los ojos y los oídos a la realidad. Dado que muchos conflictos en Medio Oriente surgen por las reservas de petróleo, eso sería, al final un beneficio para todos.

Somos Extremo Mundial.

Con información de Gizmodo.

https://extremomundial.com/2020/08/...SaU-9ROaRev1EmHH_CDLospZRD0fN_TL4Ukl5VGm3DDgo

 

#เตือนภัย (สีเหลือง) บ้านหล่ายลาว ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 04:50:57 น. แจ้ง เตือนภัย ด้วยระดับน้ำ #ระดับน้ำสูง สถานีบ้านหล่ายลาว ตำบล ป่าอ้อดอนชัย อำเภอ เมืองเชียงราย จังหวัด เชียงราย ฝนเล็กน้อย (Slight rain)



#หมู่บ้านครอบคลุม
1. บ้านห้วยบง ตำบลท่าสาย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
2. บ้านท่าสาย ตำบลท่าสาย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
3. บ้านป่ากล้วยเหนือ ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
4. บ้านป่าย้าง ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
5. บ้านร่องก้อ ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
6. บ้านโป่งสลี ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
7. บ้านสันทรายน้อย ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
8. บ้านสันทรายหลวง ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
และหมู่บ้านใกล้เคียง หรือบริเวณใกล้เคียง

ข้อมูลตรวจวัด มีฝนตกสะสม 12 ชั่วโมง 5.0 มิลลิเมตร ฝนตกสะสม 24 ชั่วโมง 6.5 มิลลิเมตร ฝนตกสะสม 48 ชั่วโมง 6.5 มิลลิเมตร ระดับน้ำ 4.57 เมตร อุณหภูมิ 28.7 องศาเซลเซียส
ตำแหน่งสถานที่ปลอดภัย เดินทางไปยังตำแหน่งที่กำหนด ที่ได้ฝึกซ้อมไว้ เช่น วัด โรงเรียน หรือ ศาลากลางบ้าน บ้านห้วยลึก

 

นิกรชัย ภพลือชัย
5 สิงหาคม 2563 เวลา 08.00 น.

เตือนภัยชุมชนข้างแม่น้ำลาว จังหวัดเชียงราย !!!
ปริมาณน้ำในแม่น้ำลาว ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ที่สถานี G.8 (บ้านต้นยาง อ.แม่ลาว) มีระดับน้ำ 4.07 เมตร อัตราการไหล 191.3 ลบ.ม./ว ซึ่งจะทำให้น้ำล้นตลิ่งแม่น้ำลาวในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.แม่ลาว และ อ.เมือง ได้ และจะมีปริมาณน้ำสูงขึ้นไปจนถึงช่วงค่ำวันนี้ แล้วจึงจะค่อยลดระดับลง

 

.ภูฏานประเทศที่อาจจะกล่าวได้ว่าสะอาดที่สุดในโลกและไม่ปล่อยมลพิษเลย ว่ากันตามจริงอัตราการปล่อยออกซิเจนของประเทศนี้ทำให้ค่าบริหารจิตที่เขาปล่อยติดลบด้วยซ้ำ พวกเขากำลังประสบภาวะปัญหาสภาพแวดล้อมจากโลกร้อนซึ่งเกิดจากชาติอื่นกระทำ
โดยสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นได้ส่งผลต่อธารน้ำแข็งในประเทศภูฏาน โดย
ธารน้ำแข็งบางแห่ง มีขนาดลดลงสูงถึง 35 เมตร ส่งผลให้มีมวลน้ำมหาศาลไหลลงสู่ทะเลสาบโดยรอบ เป็นความเสี่ยงที่ถูกสะสมให้ทะเลสาบเหล่านี้พังทลายลง เมื่อถึงจุดที่ไม่สามารถแบกรับมวลน้ำไว้ได้
“ ด้วยภาวะโลกร้อน ทำให้ธารน้ำแข็งกำลังละลายและระดับน้ำในแหล่งน้ำก็กำลังเพิ่มขึ้นเร็วมาก และอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์ “tsunami in the sky” ได้ตลอดเวลา” คาร์มา ทูพู ผู้อำนวยการศูนย์อุทกวิทยาและอุตุนิยมวิทยาของประเทศ (NCHM) กล่าว
สิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งมันจะมีผลกระทบอย่างมากเพราะการตั้งถิ่นฐานของชาวภูฏานกว่าร้อยละ 70 ตั้งอยู่ในหุบเขาใกล้แม่น้ำ ไม่เพียงแต่ยังเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจแต่อาจทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตด้วย

 

ก็บอกว่ากล้องไม่มีกล้องไม่มีไง
.
กล้องวงจรปิดรอบบ่อน"เฮียตี้" เกือบ 20 ตัว หายปริศนา เหลือเพียงสายไฟ-ฐานกล้องขณะที่โต๊ะบาคาร่าเปื้อนเลือด หายวับเช่นกัน @TNAMCOT

 

ทำร้ายตำรวจ ที่เตือนให้สวมหน้ากากอนามัย
.
นายกฯ สก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ระบุ ชาวออสเตรเลียที่ปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัย เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ หลังจากมีรายงานข่าวว่า ตำรวจนายหนึ่งในรัฐวิคตอเรียถูกทำร้าย จากผู้หญิงที่ปฏิเสธการสวมหน้ากาก หลังจากทางการรัฐวิคตอเรียกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัย เมื่อออกนอกบ้าน

 

Cricket India ยังต้องการ Vivo
.
หลายท่านคงทราบความขัดแย้งระหว่างอินเดียและจีนในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนชายแดนแล้วเรื่องนี้ทำให้อินเดียเดือดหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นการลบแอปจีนหรืออื่นๆและหนึ่งในนั้นที่มันเป็นปัญหาคือ คริกเก็ต กีฬายอดฮิตของอินเดีย ซึ่งมีการจัดลีกแข่งขันเรียกว่า The Indian Premier League ซึ่งถือเป็นลีกCricketที่มีคนดูมากที่สุดในโลกน่าจะเป็นลีกที่ร่ำรวยมาก และพวกเขามี Vivo เป็นผู้สนับสนุนหลัก
Vivo เป็นผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และมือถือรายใหญ่และเป็นผู้สนับสนุนหลักของ The Indian Premier League พวกเขาได้รับแรงต้านจากคนอินเดียที่มองปัญหาเรื่องการเมืองระหว่างประเทศและอยากให้แบน Vivo จัดการเป็นผู้สนับสนุนของลีก ซึ่ง Vivo ได้จ่ายเงินสนับสนุนไปแล้วและจะหมดสัญญาในปี 2565
ทาง The Indian Premier League ไม่ได้ทำอะไรมากนักตอบกับสื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างกีฬาและการเมืองเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และยังไม่ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับ Vivo เลย หลายคนเชื่อว่าหาก The Indian Premier League ยกเลิกสัญญากับ Vivo พวกเขาต้องจ่ายค่าปรับมหาศาลและหากท่านรู้นิสัยแบบอินเดียจะทราบว่านี่เป็นเรื่องที่เขาจะไม่ยอมเสียเด็ดขาด

 

ปากีสถานต้องการเปลี่ยนตั๊กแตนเป็นปุ๋ย
.
ปากีสถานกำลังประสบภาวะปัญหาใหญ่นั่นคือการระบาดของตั๊กแตนที่เข้ามาทำลายพืชผลในปากีสถาน การระบาดโดยการระบาดของตั๊กแตนครั้งนี้รุนแรงมากที่สุดในรอบ 30 ปี รัฐบาลพยายามเสนอโครงการต่างๆตั้งแต่ให้ประชาชนทานมัน นำมาทำเป็นอาหารสัตว์ แต่ด้วยความที่มันเยอะมากวิธีการต่างๆไม่อาจลดปัญหาของการระบาดนี้ได้
แล้วเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนพวกเขาได้เสนอการจัดการโดยใช้สารเคมีให้น้อยที่สุดเพื่อให้เป็นมิตรกับธรรมชาติและยั่งยืนโดยหนึ่งในพิธีการที่เขาที่เป็นที่โดยหนึ่งในวิธีที่กำลังจะนำมาใช้คือการนำซากของแมลงเหล่านั้นมาบดเป็นผงแล้วนำไปทำเป็นปุ๋ย โดยมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนจากศัตรูพืชมาเป็นอาหารของพืช