ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เตือนภัยพายุหิมะถล่มภาคอีสานสหรัฐ

    [​IMG]

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ เตือนภัยพายุหิมะที่จะกระหน่ำในหลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ตั้งแต่เดลาแวร์ไปจนถึงเมน ในวันจันทร์นี้
    วันจันทร์ 26 มกราคม 2558 เวลา 04:15 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ว่า สำนักงานบริการด้านภูมิอากาศแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ออกประกาศเตือนภัยหิมะตกหนัก ลมกรรโชกแรง และอาจยกระดับเป็นพายุหิมะ ในวันจันทร์นี้ ครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ คาดว่าจะมีพายุหิมะพัดถล่ม ในพื้นที่เกาะลองไอแลนด์ของรัฐนิวยอร์กและชายฝั่งรัฐแมสซาชูเซตส์ ขณะที่พายุฤดูหนาวอาจเกิดขึ้นในวงกว้างตั้งแต่รัฐเดลาแวร์ไล่ขึ้นจนถึงรัฐเมนที่อยู่เหนือสุด และอาจมีหิมะสะสมหนา 60 - 90 เซนติเมตร ในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐนิวเจอร์ซีย์ไปจนถึงตอนใต้ของรัฐคอนเน็กติกัต ส่วนเมืองบอสตันของแมสซาชูเซตส์คาดว่าจะอยู่ที่ 45 - 60 เซนติเมตร ขณะที่เมืองฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิลเวเนียน่าจะอยู่ที่ 35 - 45 เซนติเมตร
    เวเธอร์ ชาแนล หน่วยงานให้ข้อมูลด้านสภาพอากาศของสหรัฐ ชี้ว่า อาจเป็นภัยหนาวที่รุนแรงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาจส่งผบกระทบต่อการเดินทาง เช่นการล่าช้าและยกเลิกเที่ยวบิน หรืออาจรุนแรงถึงขั้นสนามบินระงับการให้บริการชั่วคราว ในช่วงเวลาเย็นวันจันทร์ถึงวันอังคาร ขณะที่นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เผยว่า นี่อาจจะเป็นพายุหิมะครั้งที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในเมืองนี้นับตั้งแต่ปี 2415 โดยสำนักข่าวยูเอสเอทูเดย์รายงานว่า มีการเตรียมความพร้อมมือกับสภาพอากาศรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในหลายเมือง ไม่ว่าจะเป็นบอสตัน นิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย และวอชิงตัน โดยก่อนหน้านี้ นายมาร์ตี วอลช์ นายกเทศมนตรีเมืองบอสตันแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ เรียกร้องให้ชาวเมืองช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลกันและกันโดยเฉพาะกับเพื่อนบ้านใกล้เคียง.
    ขอบคุณภาพจาก Emergency Preparedness - Survival Gear - Homesteading | Living Ready Online
    http://www.dailynews.co.th/…/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0…
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กู้ศพเหยื่อหิมะถล่มฝรั่งเศส6ราย

    [​IMG]

    ทีมกู้ภัยฝรั่งเศสพบศพนักเล่นสกี 6 ราย ที่สูญหายจากเหตุหิมะถล่มบนเทือกเขาแอลป์ในจังหวัดโอตซาลป์เมื่อบ่ายวันเสาร์
    วันจันทร์ 26 มกราคม 2558 เวลา 04:08 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเกรโนเบิล ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายแบร์นาร์ด แกซเนิฟ รมว.กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส แถลงเมื่อวันอาทิตย์ เรื่องปฏิบัติค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุหิมะถล่มบนภูเขาเกย์ราส ในเมืองเซแยค อยู่ห่างจากเมืองนีซขึ้นไปทางเหนือราว 200 กิโลเมตร ในจังหวัดโอตซาลป์ แนวเทือกเขาแอลป์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น พบผู้เสียชีวิตเป็นนักเล่นสกี 6 ราย เป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คน ทั้งหมดมีอายุระหว่าง 50 - 70 ปี
    ทีมค้นหาประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย 18 คน สุนัขดมกลิ่น 2 ตัว และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ ในช่วงก่อนรุ่งสางเช้าวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น พบร่างผู้เสียชีวิต 3 ราย บริเวณชายขอบพื้นที่ถล่มในหุบเขาที่ความสูง 2,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ก่อนสภาพอากาศจะเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาจึงต้องระงับชั่วคราว จากนั้นจึงเริ่มค้นหาต่อและพบศพเหยื่ออีก 3 ราย
    ในแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตจากเหตุหิมะถล่มในฝรั่งเศสราว 30 คน สำนักงานศึกษาเหตุการณ์หิมะถล่ม เผยว่า ในช่วงฤดูหนาวปี 2557 - 2558 นี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย.
    http://www.dailynews.co.th/…/%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0…
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิกฤติตัวประกันมีความหมายกับญี่ปุ่นอย่างไร

    [​IMG]

    แม้ไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญแรงกดดันจากวิกฤติตัวประกันในเงื้อมือของกลุ่มหัวรุนแรง แต่สถานการณ์ครั้งนี้แตกต่างจากหลายครั้งที่ผ่านมา เพราะคือ "เดิมพันราคาแพง" เรียกเสียงสนับสนุนจากประชาชนเพื่อปรับแก้นโยบายด้านความมั่นคงในอนาคต
    วันจันทร์ 26 มกราคม 2558 เวลา 09:39 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ว่าประชาคมโลกโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น กำลังอยู่ในภาวะตกตะลึงแม้เป็นสถานการณ์ที่พอจะคาดการณ์ผลลัพธ์ได้ จากการที่เว็บไซต์ของกลุ่มนักรบจีฮัดเผยแพร่ภาพนิ่งและคลิปเมื่อคืนวันเสาร์ ที่เป็นของ 1 ใน 2 ตัวประกันชาวญี่ปุ่น ถือภาพเพื่อตัวประกันที่เสียชีวิตจากการถูกฆ่าตัดศีรษะ โดยภาพดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกมา 1 วันหลังครบกำหนดเส้นตาย 72 ชั่วโมง ที่กลุ่มไอเอสประกาศเมื่อวันอังคารที่ 20 ม.ค. ขีดเส้นให้รัฐบาลโตเกียวนำเงินสด 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6,600 ล้านบาท ) มาจ่ายภายในวันศุกร์ที่ 23 ม.ค. เพื่อเป็นค่าไถ่ชีวิตของตัวประกันทั้งสองคน
    รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นนั้นระบุประเด็นสันติภาพและการเลี่ยงเข้าสู่ภาวะสงครามชัดเจน แต่กลุ่มไอเอสตราหน้าให้ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งใน “ศัตรู” จากการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ และกำลังแสดงท่าทีชัดเจนมากขึ้น ว่าให้ความสนใจกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยล่าสุดนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ประกาศระหว่างการเดินสายเยือนอิสราเอล จอร์แดน และอียิปต์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องการบริจาคเงิน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้ากองทุนนานาชาติเพื่อร่วมต่อต้านกลุ่มไอเอส ซึ่งกลุ่มหัวรุนแรงนำเงินจำนวนดังกล่าวมาเป็นเงื่อนไขกับรัฐบาลญี่ปุ่นในอีกไม่กี่วันต่อมา
    ไม่ว่าในความเป็นจริงกลุ่มไอเอสจะคิดอย่างไรกับญี่ปุ่น แต่หลังผ่านพ้นยุค 9/11 หรือเหตุวินาศกรรม 11 ก.ย. 2544 ในสหรัฐ รัฐบาลญี่ปุ่นตกเป็น “เหยื่อ” และ “เป้าหมาย” ของกลุ่มหัวรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการยิงสังหารนักการทูตญี่ปุ่น 2 คนในอิรัก เมื่อปี 2546 การสังหารผู้สื่อข่าวหญิงชาวญี่ปุ่นในซีเรีย เมื่อปี 2555 และล่าสุดกับเหตุการณ์ที่กลุ่มอัล-กออิดะห์ในแอฟริกาเหนือจับตัวประกันภายในโรงงานก๊าซธรรมชาติในแอลจีเรีย เมื่อปี 2556 ซึ่งมีตัวประกันเสียชีวิต 37 ศพ ในจำนวนนี้เป็นชาวญี่ปุ่น 9 ศพ
    อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตัวประกันครั้งล่าสุดในซีเรีย ที่มีผู้เคราะห์ร้าย 2 คน คือนายเคนจิ โกโต และนายฮารูนะ ยูกาวา สร้างความรู้สึกแตกต่างให้กับชาวญี่ปุ่นพอสมควร เมื่อเทียบกับสถานการณ์ในอดีต เนื่องจากกลุ่มไอเอส ประกาศ “กติกา” อย่างชัดเจน คือต้องการเงิน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลา 72 ชั่วโมง และจุดประสงค์ในการเดินทางเข้าไปในซีเรียของโกโต ที่ในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อการทำข่าว แต่เพื่อตามหาและช่วยชีวิตเพื่อนซึ่งก็คือยูกาวา และสุดท้ายทั้งคู่ตกเป็นตัวประกันในเงื้อมือของกลุ่มไอเอสด้วยกัน
    แม้กระแสสังคมอีกด้านหนึ่งจะตั้งข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใดรัฐบาลญี่ปุ่นจึงเคลื่อนไหวช้านัก ทั้งที่กลุ่มไอเอสจับตัวโกโตและยูกาวาเอาไว้นานแล้ว และกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า ทั้งคู่ควร “รับผิดชอบ” ชะตากรรมของตัวเอง เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นและชาวซีเรียที่เป็นไกด์นำทางต่างเตือนเรื่องอันตรายที่มีแนวโน้มสูงว่าจะเกิดขึ้น หากเดินทางเข้าไปทางภาคเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส แต่หากมองในประเด็นการเมืองระดับประเทศ เหตุการณ์นี้มีผลต่อความพยายามของญี่ปุ่น ที่กำลังเดินหน้าปฏิรูปนโยบายความมั่นคง เพื่อเพิ่มบทบาทให้กับกองกำลังป้องกันตนเอง ที่จะช่วยส่งเสริมอิทธิพลและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลโตเกียว ต่อกรณีพิพาทเรื่องดินแดนกับจีนและเกาหลีใต้บนเวทีโลกด้วย
    การเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดของญี่ปุ่นเพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่สู้ดีนัก จึงยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า รัฐบาลของอาเบะจะเพิ่มการจัดสรรงบประมาณด้านความมั่นคงเป็นพิเศษอีกหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด สืบเนื่องจากสถานการณ์ตัวประกันในครั้งนี้ นอกเหนือจากต้องเพิ่มการให้ความสำคัญกับกลุ่มไอเอส ว่าไม่ใช่ภัยก่อการร้ายที่ไกลตัวอีกต่อไป แต่ไม่ว่าอาเบะจะนำพาประเทศให้ผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายครั้งนี้ไปด้วยวิธีใด การตัดสินใจของรัฐบาลโตเกียวมีผลต่อนโยบายความมั่นคงในอนาคต และความเชื่อมั่นของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อรัฐบาล ว่าพร้อมป้องกันและคุ้มครองประเทศจากภัยร้ายได้ดีเพียงใด
    http://www.dailynews.co.th/…/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0…
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลเลือกตั้งกรีซฉุดเงินยูโรอ่อนค่าสุดในรอบ 11 ปีครั้งใหม่

    [​IMG]

    เงินยูโรทำสถิติอ่อนค่าสุดเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในรอบ 11 ปีครั้งใหม่ หลังพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจของอียูชนะการเลือกตั้งทั่วไปของกรีซ
    วันจันทร์ 26 มกราคม 2558 เวลา 09:15 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ว่าสกุลเงินยูโรยังคงตกต่ำอย่างเตือเนื่องเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยทำสถิติอ่อนค่าที่สุดในรอบ 11 ปี หรือตั้งแต่เดือนก.ย. 2546 ครั้งใหม่ โดยเปิดตลาดในกรุงโตเกียวด้วยอัตรา 1.1088 ยูโร ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ทำลายสถิติของตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ ซึ่งปิดตลาดที่ 1.1115 ยูโร ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1 วันหลังธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในกลุ่มยูโรโซน ด้วยการอัดฉีดเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร ( ราว 41.8 ล้านล้านบาท ) เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นเวลา 19 เดือน เริ่มมี.ค.นี้เป็นต้นไป
    ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรจะเป็นเช่นนี้ไปอีกระยะหนึ่ง หลังพรรคซีริซาของนายอเล็กซิส ซีปราส ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรป ( อียู ) และต้องการยุติมาตรการรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งของกรีซเมื่อวันอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการถอนตัวออกจากอียูและยูโรโซน ภายใต้การนำของรัฐบาลเอเธนส์ชุดใหม่ยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากนักวิเคราะห์เชื่อว่า กรีซและบรรดาเจ้าหนี้จะปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกันได้
    http://www.dailynews.co.th/…/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0…
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อังกฤษเตือนหน่วยงานรัฐระวังโทรศัพท์ลวง

    [​IMG]

    รัฐบาลอังกฤษแจ้งเตือนกระทรวงทุกแห่งให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังมีผู้เล่นพิเรนทร์สามารถโทรศัพท์หานายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน อ้างเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรอง
    วันจันทร์ 26 มกราคม 2558 เวลา 08:39 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ว่าทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ เรื่องการทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างละเอียด หลังบ้านเลขที่ 10 ได้รับโทรศัพท์ลวงเมื่อวันอาทิตย์ โดยเสียงในสายอ้างชื่อนายโรเบิร์ต เฮนนิแกน ผู้อำนวยการกองบัญชาการใหญ่การสื่อสารแห่งรัฐบาล ( จีซีเอชคิว ) หรือหน่วยข่าวกรองของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ไหวตัวทันและวางสายทันที ข้อมูลสำคัญทางราชการจึงไม่ได้รับการเผยแพร่ออกไป
    ทั้งนี้ ก่อนหน้าการโทรศัพท์เข้ามายังบ้านเลขที่ 10 มีผู้โทรศัพท์เข้าไปที่จีซีเอชคิวและสามารถได้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของเฮนนิแกน ซึ่งจีซีเอชคิวยืนยันในเวลาต่อมาว่า เฮนนิแกนไม่เคยใช้หมายเลขนั้นในการติดต่องาน แต่ยังไม่มีการยืนยันว่า เจ้าของการโทรศัพท์ทั้งสองครั้งเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่
    ขณะที่บ้านเลขที่ 10 ส่งจดหมายข่าวแจ้งไปยังกระทรวงทุกแห่งให้ตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัย และเพิ่มความระมัดระวังโทรศัพท์ลวงแล้ว
    http://www.dailynews.co.th/…/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0…
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankit ได้แชร์รูปภาพของ CreativeMOVE
    ‘HydroPack’ นวัตกรรมแสนง่ายทำน้ำสะอาดในพื้นที่ขาดแคลน
    3.6.2013| CREATIVE |


    [​IMG]

    สหประชาชาติคาดการณ์ไว้ว่าภายในปี พ.ศ. 2568 หรือ ค.ศ. 2025 สองในสามของประชากรโลกจะอยู่ในสภาวะขาดแคลนน้ำสะอาด แล้วยิ่งปัจจุบันที่ความแปรปรวนของธรรมชาติแบบคาดไม่ถึงซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่นำไปสู่การปนเปื้อนของแหล่งน้ำธรรมชาติแบบนี้แล้วด้วย มันก็ยิ่งเพิ่มอุปสรรคในการหาน้ำสะอาดมาบริโภคกันเข้าไปอีก

    <iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/LUyRgOICgss" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ในหลายๆ ประเทศที่เจอปัญหาดังกล่าวอยู่แล้วก็มีวิธีทำน้ำสะอาดแตกต่างกันไป เช่น การนำน้ำไปฆ่าเชื้อโรคด้วยการใช้ความร้อนจากแสงแดด หรือ ใช้กรรมวิธีแบบ Reverse Osmosis (RO) วิธียอดฮิตที่ง่ายและสะดวกในการทำน้ำให้สะอาดพอสำหรับการบริโภค โดยสามารถเปลี่ยนน้ำสกปรก หรือน้ำที่มีสัดส่วนของเกลือในปริมาณสูงให้กลายเป็นน้ำจืดที่สามารถดื่มกินได้โดยไม่เป็นอันตราย แต่ด้วยต้นทุนของกระบวนการดังกล่าวที่ค่อนข้างสูงและเป็นภาระที่หนักพอดูสำหรับประเทศยากจนทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาประเทศในแถบแอฟริกา งานนี้ HTI หรือ Hydration Technology Innovation บริษัทพัฒนาระบบกรองน้ำในอเมริกาเลยนำนวัตกรรม Forward Osmosis มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ชื่อ HydroPack ชิ้นนี้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
    HydroPack มีลักษณะเป็นถุงขนาด 4×6 นิ้ว ด้านหนึ่งเป็นเมมเบรนเซลลูโลสแอซีเตต ซึ่งเป็นเยื่อบางๆ ที่มีหน้าที่ดูดเฉพาะโมเลกุลของน้ำผ่านกระบวนการ Forward Osmosis ภายในถุงจะบรรจุเกลือแร่และสารอาหารต่างๆ รวมถึงสารอิเลคโทรไลต์ หรือสารประกอบในสารละลายที่ใช้เป็นตัวนำไฟฟ้าโดยจะแตกตัวเป็นไอออนเพื่อใช้ในการเปลี่ยนน้ำสกปรก มีสารปนเปื้อน หรือน้ำเค็มให้สะอาดและสามารถดื่มได้ วิธีใช้ก็ไม่ได้ยากเย็น แค่ทิ้งเจ้า HydroPack ถุงนี้ลงในแหล่งน้ำที่ไหนก็ได้ (จะสกปรกแค่ไหนก็ได้) จากนั้นก็รอ 10-12 ชั่วโมง กระบวนการ Forward Osmosis ก็จะทำหน้าที่ของมันจนได้น้ำปริมาณ 6.4 อ๊อนซ์มาใช้ดื่มได้แล้ว นอกจากสีสัน รสชาติและสารอาหารที่มีให้ผู้บริโภคแล้ว HydroPack ยังบล็อคพวกแบคทีเรีย ไวรัสและเชื้อโรคอื่นๆ ที่จะเข้ามาปนเปื้อนในน้ำได้ด้วย
    นอกจาก HydroPack จะถูกส่งไปช่วยเหลือในเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งในเฮติ และประเทศขาดแคลนน้ำสะอาดอย่างเคนย่าแล้ว ตอนนี้ทาง HTI ได้ร่วมมือกับ Design Forum/PDX, Eastman Chemical และ International Relief and Development (IRD) จัดตั้งแคมเปญที่ชื่อว่า Ready Set Drop (Ready Set Drop | Hydration for a World in Need) เพื่อสร้างความตระหนักและระดมทุนเพื่อนำ HydroPack ไปแจกจ่ายตามพื้นที่ขาดแคลนน้ำสะอาดทั่วโลก ใครสนใจร่วมบริจาค ลองแวะไปดูรายละเอียดกันได้
    จากจุดเริ่มต้นที่มุ่งไปที่การทดลองและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการค้า ได้นำไปสู่การสร้างเครือข่ายความช่วยเหลือระหว่างกันของคนจากทั่วโลกแบบไร้พรมแดนของ HydroPack ที่เกิดขึ้น ได้เปลี่ยนมุมมองเรื่อง ‘โลกใบนี้ไม่น่าอยู่’ ที่เราเคยรู้สึกดูน่าอยู่ขึ้นเป็นกองเลยล่ะ

    [​IMG]

    Read more: http://www.creativemove.com/creative/hydropack/…
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankit ผ่าน Cesar Rodriguez
    สภาพเศรษฐกิจอเมริกาย่ำแย่ ตรงข้ามกับที่รัฐบาลประกาศว่า เศรษฐกิจกำลังขาขึ้น
    ดูได้จากบรรดาร้านที่มีสาขาทั่วประเทศ (chain stores) ถึง 34 บริษัทยักษ์ใหญ่ ประกาศแผนกลยุทธ์การปิดร้าน (store closing) และแผนการลดขนาดองค์กร (downsizing) ในปี 2015 และยาวไปอีกหลายปี เช่น
    - office depot/ office max ปิด 400 ร้านภายใน 2016
    - ร้าน Staples เครื่องเขียน ปิด 225 ร้าน
    - ร้านหนังสือ Barnes & Noble ปิด 223 ภายในปี 2023
    - ร้าน Radio Shack ปิด 200 ร้านภายใน 2017
    - ร้านขายเสื้อผ้า Abercrombie & Fitch ปิด 180 ร้าน
    ยังมีร้าน Guess, Coach, Express, Sears, Walmart และอื่นๆ ที่ประกาศการปิดร้านที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2014 แล้ว
    หุ หุ ... ทยอยปิดตัวแบบนี้ ... จะบอกว่าเศรษฐกิจดี คงจะเชื่อยากแล้ว
    2015 Store Closing Roundup - Office Depot, Radio Shack, Barnes & Noble
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong
    กรมน้ำบาดาลเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง
    นายประณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า จากที่มีการคาดการณ์กันว่าสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้จะเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง 31 จังหวัด ดังนั้น กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้ง โดยเฉพาะการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 โดยการเตรียมบุคคลากรและเครื่องจักรอุปกรณ์อย่างพร้อมเพรียง จัดหน่วยปฎิบัติการพิเศษ 87 ชุด โดยดำเนินการพื้นที่เป้าหมาย 1,321 หมู่บ้าน การจัดโครงการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค น้ำเพื่อเกษตรกรรม และน้ำดื่มในโรงเรียน รวมทั้งมีการตั้งศูนย์อำนวยการติดตามแก้ไขปัญหาภัยแล้งทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค 13 ศูนย์ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึง
    นอกจากการเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งแล้ว สิ่งสำคัญจะทำให้การแก้ปัญหาภัยแล้งประสบผลสำเร็จได้ ประชาชนจะต้องใช้น้ำอย่างประหยัดรู้คุณค่า และให้ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้จัดเตรียมภาชนะบรรจุน้ำสะอาดสำรองไว้ใช้ รวมทั้งขอให้ระมัดระวังโรคระบาดในหน้าแล้ง
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx…
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ผ่าน เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend

    [​IMG]

    (รายงาน) กปภ.ลุ้นผันน้ำป้อน3จังหวัดอันดามัน ด้านชะอำห่วงปัญหาน้ำประปาไม่เพียงพอ
    การเติบโตทางเศรษฐกิจของสุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และภูเก็ต ส่งผลให้แหล่งน้ำดิบที่ใช้เพื่ออุปโภคบริโภคไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จึงมีแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำดิบสำหรับอุปโภค-บริโภคในระยะยาวให้ภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง ทั้งยังต้องการสร้างความมั่นคงด้านแหล่งน้ำในพื้นที่ 4 จังหวัดข้างต้น จึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ทำการศึกษาความเหมาะสมในการลงทุน วางท่อส่งน้ำจากเขื่อนรัชชประภา (สุราษฎร์ธานี) หรือแหล่งน้ำบริเวณใกล้เคียง ไปยังภูเก็ต เพื่อใช้ในกิจการประปา ภาคการเกษตรและอื่นๆ
    นายจำเนียร เมืองจันทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรน้ำ กปภ. กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการสรุปผลการศึกษา ทางกปภ.ได้ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาได้ดำเนินกิจกรรมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อนำเสนอข้อมูล และความก้าวหน้าการศึกษาความเหมาะสมโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดทำรายงานผลการศึกษา นำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความเห็นชอบ
    ในการดำเนินโครงการจัดหาแหล่งน้ำดิบ เพื่อการอุปโภค-บริโภค ให้กับจังหวัดในฝั่งอันดามันคือ กระบี่ ภูเก็ต และพังงานั้น กปภ. ได้จัดวางงบประมาณ 30 ล้านบาท ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา 2 ราย คือ บริษัท แอสดีคอน คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท โปรเกรส เทคโนโลยี คอนซัลแท็นส์ จำกัด เข้ามาทำการศึกษาความเหมาะสมถึงการวางท่อส่งน้ำจากเขื่อนรัชชประภา อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี หรือบริเวณใกล้เคียงไปเกาะภูเก็ต เพื่อใช้ในกิจการประปาและอื่นๆ ให้เพียงพอในระยะ 20 ปีข้างหน้า ครอบคลุมความต้องการใช้น้ำของชุมชนตามแนวท่อส่งน้ำในอนาคตที่อาจมีขึ้น โดยเริ่มศึกษาตั้งแต่ 24 มิ.ย. 2556 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา รวม 420 วัน
    รูปแบบของโครงการคือ การวางท่อส่งน้ำดิบขนาด 1.80 เมตร จากเขื่อนรัชชประภาไป ภูเก็ต ระยะทางรวม 400 กิโลเมตร งบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งตามเส้นทางของการวางท่อ จะผ่านกระบี่ พังงา เข้าสู่ภูเก็ต โดยจะเป็นการวางท่อไปตามแนวถนนทางหลวงหมายเลข 415 (สุราษฎร์ธานี-พังงา) ทางหลวง หมายเลข 4 (อ.เมืองพังงา และ อ.ตะกั่วทุ่ง) และทางหลวงหมายเลข 402 (พังงา-ภูเก็ต)
    ส่วนการวางท่อ ส่งน้ำดิบมี 3 แนวทาง ได้แก่ 1. วางท่อส่งน้ำดิบจากเขื่อนรัชชประภาไปภูเก็ตสำหรับกิจการประปา การเกษตรและอื่นๆ 2. จัดทำระบบผลิตประปาและวางท่อส่งน้ำประปา จากเขื่อนรัชชประภาไปยังภูเก็ต สำหรับการประปาส่วนภูมิภาค 3.วางท่อส่งน้ำดิบจากเขื่อนรัชชประภาไปพังงา และจัดทำระบบผลิตน้ำประปาและวางท่อส่งน้ำประปาจากพังงาไปเกาะภูเก็ต
    ขณะที่แผนงานสนับสนุนส่วนอื่นคือ จัดทำสถานีสูบน้ำดิบบริเวณเขื่อนรัชชประภา สูบน้ำโดยท่อส่งน้ำขนาด 1,800 มิลลิเมตร ระยะทาง 15 กิโลเมตร 2.สถานีสูบน้ำดิบบริเวณคลองพุมดวง (สุราษฎร์ธานี) ตั้งอยู่จุดบรรจบคลองพระแสงกับคลองสก สูบน้ำจากท่อขนาด 2,200 มิลลิเมตร จำนวน 2 ท่อ ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ไปยังสระเก็บกักน้ำดิบ สามารถสูบน้ำได้ตลอดทั้งปี แต่ต้องกำหนดเวลาสูบน้ำเพื่อประหยัดพลังงาน
    3.สระเก็บกักน้ำดิบ ตั้งอยู่ใกล้สถานีสูบน้ำดิบคลองพุมดวง บริเวณ ต.ต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ความจุเก็บกัก .5 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้พื้นที่ 125 ไร่ 4.สถานีสูบน้ำดิบเพื่อการเกษตรพื้นที่เกษตรกรรม อ.บ้านตาขุน 5.ระบบผลิตน้ำประปา กำลังการผลิต 22,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ใช้พื้นที่ 150 ไร่ สร้างใกล้กับบริเวณสระเก็บกักน้ำดิบ 6.สถานีสูบน้ำประปา ส่งผ่านท่อส่งน้ำขนาด 2,250 มิลลิเมตร ระยะทาง 28 กิโลเมตร ขนาด 2,000 มิลลิเมตร ระยะทาง 24 กิโลเมตร และขนาด 1,800 มิลลิเมตร ระยะทาง 73 กิโลเมตร 7.สถานีเพิ่มแรงดันน้ำ อยู่ห่างจากระบบผลิตประมาณ 94 กิโลเมตร 8.ถังน้ำใส จ.ภูเก็ต ความจุประมาณ 60,000 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง ใช้พื้นที่ 20 ไร่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเก็ต
    อย่างไรก็ดี นายไพโรจน์ จันทร์แสงกุล รองนายกเทศมนตรีตำบลพนม อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี กลับไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของโครงการนี้ เพราะกลัวว่าน้ำในเขื่อนรัชชประภา จะไม่พอต่อการใช้เพื่อการเกษตร และที่สำคัญการกับเก็บน้ำในเขื่อนรัชชประภาไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการผันน้ำไปยังจังหวัดทางฝั่งอันดามัน
    "อยากให้กปภ.ไปทบทวนใหม่ ประเด็นที่ต้องพิจารณา 1 ต้นทุนที่สูงเพราะระยะทางการวางท่อ จากเขื่อนรัชชประภาไป ภูเก็ต ผ่าน พังงา กระบี่ ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ซึ่งจะเกิดปัญหาในเรื่องทำลายสิ่งแวดล้อมได้ และอนาคตเชื่อว่าอาจเกิดปัญหากับระบบชลประทานได้ หากโครงการนี้เกิดขึ้น คำถามก็คือ มั่นใจได้อย่างไรว่าปริมาณน้ำในเขื่อน เพียงพอหล่อเลี้ยงเกษตรกรในสุราษฎร์ธานี และใกล้เคียง นอกเหนือจากการสำรองผลิตกระแสไฟฟ้า ที่สำคัญเขื่อนรัชชประภาถูกออกแบบมา เพื่อผันน้ำให้กับระบบชลประทานในลุ่มน้ำใกล้เคียงเท่านั้น ไม่ใช่การผันข้ามลุ่มน้ำ"นายไพโรจน์ กล่าว
    ......................
    ชะอำห่วงปัญหาน้ำประปาไม่เพียงพอ
    นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันเขตเทศบาลเมืองชะอำ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางทางเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเจริญ ขยายตัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน จะเห็นว่ามีการก่อสร้างโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท รวมทั้งที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียม เทศบาลเมืองชะอำ จึงให้ความสำคัญกับการวางแผนรองรับด้านสาธารณูปโภคโดยเฉพาะน้ำประปา
    ที่ผ่านเทศบาลเมืองชะอำได้ใช้งบประมาณ รวม 55 ล้านบาท ขยายสระน้ำดิบ และระบบการผลิตน้ำประปา พร้อมวางท่อประปาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เขตเทศบาล ปัจจุบันการประปาของเทศบาลเมืองชะอำ มีผู้ใช้น้ำประปาจำนวน 10,000 รายเศษ มีโรงผลิตอยู่ 3 แห่ง สามารถผลิตน้ำประปาได้สูงถึง 2,250 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งตามแผนจะสามารถรับการขยายตัวของผู้ใช้น้ำประปาได้นานถึง 10 ปี
    แต่การที่เมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว ทางเทศบาลจึงมีแผนที่จะศึกษาการใช้น้ำประปา และวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปาให้เพียงพอ และเพิ่มท่อแจกจ่ายน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วเขตเทศบาล เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้
    "จะเห็นว่าปัจจุบันมีการขออนุญาตก่อสร้างที่พักอาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมสูงถึง 10,000 ยูนิต ซึ่งบางแห่งก่อสร้างเสร็จแล้ว และบางแห่งกำลังก่อสร้างจะทยอยเสร็จในปี 2558 -2559 และคาดว่าจะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในเมืองชะอำในเรื่องที่อยู่อาศัย และที่พักผ่อนอีกมากมายอีกมากมาย เทศบาลเมืองชะอำ จึงต้องวางแผนรองรับการเติบโตของเมือง โดยเฉพาะในเรื่องของสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน" นายนุกูล กล่าว
    http://www.bangkokbiznews.com/…/¡»À.Å%C…
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวอเมริกันเร่งตุนอาหาร รับมือพายุหิมะระลอกใหญ่
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มกราคม 2558 10:46 น.
    ผู้คนในแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ เตรียมพร้อมรับมือกับพายุหิมะที่อาจจะมีความรุนแรงมากเป็นประวัติการณ์
    นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เตือนประชาชนให้พร้อมรับมือกับพายุฤดูร้อนระลอกใหญ่ ที่อาจจะสร้างความเสียหายอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะที่ตามร้านค้าต่างๆ เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่มาเข้าแถวซื้ออาหาร น้ำดื่ม และกระดาษชำระ เพื่อเตรียมรับมือในช่วงที่มีพายุหิมะ ซึ่งอาจตกลงมาหนาถึง 61 เซนติเมตร หรือราว 2 ฟุต
    ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ ประกาศเตือนผู้คนตั้งแต่รัฐเมน ถึงรัฐอินดีแอนา ซึ่งมีประชากรกว่า 60 ล้านคน ให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุหิมะ
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx…
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิกฤตพลังงานทำ “ญี่ปุ่น” ขาดดุลการค้ามโหฬาร $109,000 ล้าน ในปี 2014
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มกราคม 2558 10:57 น.

    [​IMG]
    ---
    @นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น
    ---
    เอเอฟพี – รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานตัวเลขขาดดุลการค้าในปี 2014 สูงถึง 109,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการพึ่งพาพลังงานนำเข้าหลังเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ราคาน้ำมันที่ตกต่ำลงกว่าครึ่งจะช่วยให้ยอดขาดดุลการค้าของแดนปลาดิบลดลง
    ข้อมูลจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ระบุว่า มูลค่าการขาดดุลที่สูงถึง 12.78 ล้านล้านเยนเพิ่มขึ้นจากสถิติปี 2013 ราว 11.4% และสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1979
    ญี่ปุ่นจำเป็นต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนสัดส่วนพลังงานที่ขาดหายไปจากผลพวงของอุบัติภัยนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะเมื่อปี 2011 ซึ่งทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เคยตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าในญี่ปุ่นถึง 2 ใน 3 ต้องถูกปิดตัวลง
    ภาวะเงินเยนอ่อนค่ายิ่งทำให้โตเกียวต้องจ่ายเงินสูงขึ้นในการซื้อพลังงานผ่านสกุลเงินตราต่างประเทศ
    อย่างไรก็ดี ยอดขาดดุลการค้าเฉพาะเดือนธันวาคมที่ผ่านมาลดลงเกือบครึ่งจากเมื่อ 1 ปีก่อน เหลือเพียง 660,700 แสนล้านเยนตามทิศทางของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกยังขยายตัวดีเกินคาดถึง 12.9%
    สถาบัน แคปปิตอล อีโคโนมิกส์ ให้ความเห็นว่า ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่น “มีแนวโน้มลดลงอีก เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงยังไม่ได้สะท้อนราคาพลังงานที่ถูกลง”
    “ราคาพลังงานที่ถูกลงอาจช่วยให้ญี่ปุ่นกลับมาได้ดุลการค้าระยะสั้นๆ ในอีกไม่กี่เดือนนี้ ก่อนที่ภาวะค่าเงินเยนอ่อนและราคาน้ำมันที่กระเตื้องขึ้นจะฉุดให้ญี่ปุ่นขาดดุลอีกครั้ง”
    ราคาน้ำมันดิบโลกตกต่ำลงกว่าครึ่งตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เหลือไม่ถึง 50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
    ข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า มูลค่าการนำเข้าสินค้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 5.7% มาอยู่ที่ 85.89 ล้านล้านเยนในปี 2014 ในขณะที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 73.11 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 4.8% จากปีก่อนหน้า
    มูลค่าการส่งออกสินค้าญี่ปุ่นไปยังสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 8.3% ในปี 2014 ส่วนสหรัฐฯ และจีนเพิ่มขึ้น 5.6% และ 6.0% ตามลำดับ
    “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อุปสงค์จากภายนอกจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น” ฮิโรชิ วาตานาเบะ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน เอสเอ็มบีซี นิกโก ซีเคียวริตีส์ ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
    เศรษฐกิจญี่ปุ่นกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ประกาศขึ้นภาษีการขายจาก 5% เป็น 8% เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว และทำให้หลายฝ่ายเริ่มกังขาว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ “อาเบะโนมิกส์” จะได้ผลชะงัดอย่างที่มีกระแสฮือฮาในช่วงแรกๆ หรือไม่
    นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจต้องยอมขยายมาตรการรับซื้อสินทรัพย์ ซึ่งไม่ต่างจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ใช้
    สัปดาห์ที่แล้ว บีโอเจได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อ แต่ยังไม่มีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินออกมาเพิ่มเติม โดยระบุว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดฯ ยังกู้ส่วนลำตัว “แอร์เอเชีย 8501” ไม่สำเร็จ เผยสลิงขาดตอนถึงผิวน้ำ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มกราคม 2558 19:30 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ปฏิบัติการของอินโดนีเซียในการเก็บกู้ชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบิน ของแอร์เอเชีย 8501 จากใต้ทะเลยังไม่ประสบความสำเร็จในวันอาทิตย์ (25 ม.ค.) หลังจากที่นำขึ้นมาถึงผิวน้ำได้แล้ว แต่สลิงเกิดขาดเสียก่อนที่จะเก็บกู้สำเร็จ
    ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ทีมเก็บกู้ได้ใช้ถุงลมขนาดใหญ่มาช่วยในการนำชิ้นส่วนลำตัวของเครื่องบินขึ้นจากใต้ทะเล ที่ระดับความลึกประมาณ 30 เมตร ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตทำได้ง่ายขึ้น
    เจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือที่ดูแลภารกิจค้นหาและกู้ภัย บอกกับเอเอฟพีว่า ในวันอาทิตย์ (25 ม.ค.) พวกเขาได้นำชิ้นส่วนลำตัวของเครื่องบินขึ้นมาถึงบริเวณผิวน้ำได้แค่ประมาณ 2 นาที แล้วสลิงก็ขาด
    “เราทำให้มันลอยขึ้นมา แล้วก็กำลังจะขนไปที่เรือโยง แต่แล้วสลิงก็เกิดขาดเพราะเจอการเปลี่ยนแปลงกระทันหันของอุณหภูมิ” พล.ร.ต.วิโดโดบอกกับเอเอฟพี
    ทั้งนี้ มีศพลอยออกมา 1 ศพ ก่อนที่ชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบินจะจมลงไปอยู่ใต้ทะเลอีกครั้ง ทำให้จำนวนรวมของศพที่เก็บกู้ได้มีทั้งสิ้น 70 ศพ ส่วนทางด้านกล่องดำของเที่ยวบินลำนี้กำลังถูกวิเคราะห์โดยเจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซีย
    เที่ยวบิน QZ8501 ตกลงไปในทะเลชวาเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย ระหว่างที่กำลังเดินทางออกจากเมืองสุราบายามุ่งหน้าไปสู่สิงคโปร์ โดยมีทั้งหมด 162 ชีวิตบนเครื่องบินลำนั้น
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิสราเอล เปิดแสดง คัมภีร์เตารอต “โทราห์” ที่ถูกขโมยจากอิรัก
    ตะวันออกกลางไลฟ์สไตล์by อิบรอฮีม อาแว - ม.ค. 25, 2015 415

    [​IMG]

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทางกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลได้ประกาศว่า คัมภีร์เตารอต(โทราห์)ฉบับโบราณของอิรัก ที่กองทัพสหรัฐได้พบในอิรักเมื่อปี 2003 ได้ไปถึงกรุงเทลอาวีฟแล้ว
    กระทรวงต่างประเทศอิสราเอลเผยว่า ต้นฉบับโบราณของคัมภีร์เตารอต(โทราห์)ได้ใช้เวลาประมาน 7 เดือน ในการบูรณะซ่อมแซม และจะนำไปใช้ในพิธีทางศาสนาเป็นประจำทุกวันในกรุงเยรูซาเล็ม
    กระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลและนักบวชแรบไบ ชาวยิว ได้จัดงานเฉลิมฉลองการได้รับ ต้นฉบับโบราณของคัมภีร์เตารอต(โทราห์) ที่ขโมยไปจากอิรักตั้งแต่ปี 2003 ถึงยังกรุงเทลอาวีฟเรียบร้อยแล้ว
    อนึ่ง เดิมทีในปี 2010 กระทรวงวัฒนธรรมอิรักได้รายงานเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างอิรักและอเมริกา ที่จะมอบคืนข้อมูลเก่าของชาวยิวในอิรัก รวมทั้งเอกสารอื่นอีกจำนวนหลายล้านชิ้น รวมทั้งเอกสารเฉพาะเกี่ยวกับอดีตพรรค “บาธ” ที่ถูกนำออกไปจากอิรักโดยกองทัพสหรัฐในปี 2003
    Islam Times
    http://www.abnewstoday.com/…/อิส%E…/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อำนาจใหม่แห่งราชอาณาจักรซาอุดี้อารเบีย
    ตะวันออกกลางby อิบรอฮีม อาแว - ม.ค. 25, 2015 345
    เปิดประวัติกษัตริย์องค์ใหม่ของซาอุฯ

    [​IMG]
    ---
    @กษัตริย์ ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส อาลีซาอูด เป็นกษัตริย์พระองค์ที่เจ็ด ขึ้นครองราชบัลลังก์แห่งราชวงศ์ซาอูด เป็นโอรสองค์ที่ 25 ของกษัตริย์ อับดุลอาซิส บิน
    อับดุลรอฮ์มาน อัลไฟศอล อาลีซาอูด
    ----
    กษัตริย์ ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส อาลีซาอูด กำเนิดในวันที่ 31 ธันวาคม ปี 1935 เป็นน้องชายต่างมารดาของอดีตกษัตริย์ อับดุลลอฮ์ (ที่เพิ่งสวรรคต) เป็นน้องชายร่วมมารดากับอดีตกษัตริย์ ฟาฮัด นาเยฟ และสุลฏอน ซึ่งเป็นมกุฎราชกุมารองค์ก่อนหน้าเจ้าชายซัลมาน ดังนั้น กษัตริย์ซัลมานบิน อับดุลอาซิส จึงเป็นหนึ่งในทายาทของ “7 สุดัยรีย์” (ชื่อของตระกูลฝ่ายมารดา)
    เส้นทางทางการเมืองของกษัตริย์ ซัลมาน บินอับดุลอาซิส เป็นที่ปรึกษาเฉพาะของอดีตกษัตริย์อับดุลลอฮ์ มีบทบาทพิเศษในการบริหารกิจการภายในประเทศ ซึ่งท่านถูกนับเป็นบุคคลสำคัญอันดับสามในราชวงศ์ซาอูด รองจาก อดีตกษัตริย์ อับดุลอลฮ์ และเจ้าชายนาเยฟ บิน อับดุลอาซิส (เสียชีวิตแล้ว) และหลังจากการเสียชีวิตของเจ้าชาย ซุลฏอน บิน อับดุลอาซิส ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
    ภายหลังจากที่เจ้าชาย นาเยฟ บิน อับดุลอาซิส เสียชีวิต ในวันที่ 16 มิถุนายน ปี 2012 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมกุฎราชกุมารองค์ที่สามของกษัตริย์ อับดุลลอฮ์ บิน อับดุลอาซิส
    กษัตริย์ซัลมาน เคยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองกรุงริยาดสามสมัย
    กษัตริย์ซัลมาน เริ่มกิจกรรมทางการเมืองในปี 1954 ด้วยการทำหน้าที่เป็นเจ้าเมืองกรุงริยาด แทนเจ้าชาย นาเยฟ บิน อับดุลอาซิส พี่ชายของท่าน และในเดือน เมษายน ปี 1955 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองกรุงริยาด หนึ่งปีหลังจากที่ลาออกจากตำแหน่ง อดีตกษัตริย์อับดุลลอฮ์ บิน อับดุลอาซิส ได้ทรงประกาศแต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าเมืองกรุงริยาดอีกครั้งในปี 1960 และ ปี 1963
    ภายหลังการเสียชีวิตของเจ้าชาย นาเยฟ บิน อับดุลอาซิส มกุฎราชกุมาร และ รองนายกรัฐรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและการบินของซาอุดิอาระเบีย ในเดือนมิถุนายน ปี 2012 อดีตกษัตริย์ อับดุลลอฮ์ บิน อับดุลอาซิส ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็น มกุฎราชกุมาร และ รองนายกรัฐรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและการบินของซาอุดิอาระเบีย
    ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส ถือเป็นมกุฎราชกุมารองค์แรก ของราชวงศ์ซาอูด ที่ได้รับการเลือกให้เป็นรัชทายาทลำดับต้น ต่อมาในปลายเดือนมีนาคม ปี 2014 อดีตกษัตริย์อับดุลลอฮ์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ เจ้าชาย ม็อคเรน บิน อับดุลอาซิส เป็นมกุฎราชกุมาร และผลตามราชโองการดังกล่าว ม็อคเรน บิน อับดุลอาซิส จึงเป็นมกุฎราชกุมาร และได้ให้การสัตยาบันกับรัชทายาทกษัตริย์องค์ต่อไป คือ เจ้าชาย ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส
    ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส จึงเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญของราชวงศ์ซาอูด เป็นผู้ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์มาโดยตลอด
    ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส ได้แต่งงานมาแล้วสามครั้ง ซึ่งมีบุตรทั้งสิ้น 13 คน
    เจ้าชายซัลมาน มีพระชนมายุ 79 พรรษาแล้วในปีนี้(2558) และมีพระพลานามัยที่ไม่ดีนัก เพราะท่านมีอาการเส้นโลหิตในสมองตีบ จนทำให้พระพาหาซ้ายเป็นอัมพฤกษ์มาจนถึงทุกวันนี้
    การให้คำมั่นสานต่อนโยบายในวันแรก หลังขึ้นเป็นกษัตริย์
    ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส กษัตริย์องค์ใหม่ของซาอุดิอาระเบีย ได้ยืนยันเรื่องการดำเนินนโยบายเดิมของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ และยังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศในอาหรับและตะวันออกกลางอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี เพื่อเสถียรภาพที่มั่นคงและสันติสุขในภูมิภาค
    ในคำแถลงถึงประชาชนครั้งแรกในฐานะผู้ปกครองคนใหม่ กษัตริย์ซัลมาน ประกาศนำพาประเทศอยู่บนเส้นทางแห่งความมั่นคงและเรียกร้องความรักความสามัคคีในหมู่ชาวมุสลิม รวมถึงจะอุทิศพระวรกายเพื่อปกป้องประเทศอีกด้วย
    6 กษัตริย์องค์แรกของสายตระกูล อับดุลอาซิสแห่งราชวงศ์ซาอูด
    อับดุลอาซิส บิน อับดุลรอฮ์มาน บิน ไฟศอล 19023- 1953
    ซาอูด บิน อับดุลอาซิส 1953- 1964
    ไฟศอล บิน อับดุลอาซิส 1964 -1975
    คอลิด บิน อับดุลอาซิส 1975 -1982
    ฟาฮัด บิน อับดุลอาซิส 1982 -2005
    อับดุลลอฮ์ บิน อับดุลอาซิส 2005 -2015
    ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส 2015 – ……………..
    ม็อคเรน มกุฎราชกุมารองค์ใหม่แห่งราชวงศ์ซาอูด
    เจ้าชาย ม็อดเรน บิน อับดุลอาซิส อาลีซาอูด เป็นลูกหลานของอดีตกษัตริย์อับดุลอาซิส คนที่ 35 และเป็นคนสุดท้อง กำเนิดในเดือนตุลาคม ปี 1954 เริ่มต้นการศึกษาจากสถาบันดีเด่นแห่งชาติในกรุงริยาด จากนั้นเข้าสู่กองทัพอากาศซาอุดิอาระเบีย และวันนี้ได้ปลดเกษียณมาแล้ว
    เจ้าชาย ม็อคเรน บิน อับดุลอาซิส อาลีซาอูด จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษาค้นคว้าเรื่องการบินทางทหาร ด้วยเหตุนี้ จึงเข้าสู่กองกำลังของกองทัพอากาศ ในปี 1986 สำเร็จการศึกษาด้านการบินจากประเทศอังกฤษ จากนั้นในปี 1974 เข้าศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการบิน และ หัวหน้าฝ่ายวางแผนและการปฏิบัติการทางอากาศของซาอุดิอาระเบีย
    หลังจากที่ปลดเกษียณ เจ้าชาย ม็อคเรน บิน อับดุลอาซิส อาลีซาอูด ในปี 1980-2000 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง ฮายิล และหลังจากนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองมะดีนะห์ จนถึงปี 2005 หลังจากที่อดีตกษัตริย์อับดุลลอฮ์ บิน อับดุลอาซิส ได้ขึ้นครองราชย์ เจ้าชาย ม็อดเรน บิน อับดุลอาซิส อาลีซาอูด เริ่มเข้าไปมีบทบาทอย่างสูงในราชวงศ์ซาอูด จากนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่ยสืบราชการลับของซาอุฯ และดำรงตำแหน่งเป็นตัวแทนของเจ้าชาย “นาวาฟ บิน อับดุลอาซิส”
    ในวันที่ 19 กรกฎาคม ปี 2012 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของอดีตกษัตริย์อับดุลลอฮ์ บิน อับดุลอาซิส และเป็นตัวแทนพิเศษของกษัตริย์อับดุลลอฮ์
    วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2013 ถูกแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี
    การแต่งตั้งและการถอดถอนครั้งแรก หลังเจ้าชาย ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส ขึ้นครองบัลลังก์
    หลังจากขึ้นครองราชย์ ทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน พระราชโอรส ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าองคมนตรีและที่ปรึกษาพิเศษ แทน คนเก่า “ คอลิด อัลตุวัยญีรีย์”
    และแต่งตั้งให้เจ้าชาย มุฮัมมัด บิน นาเยฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเป็นรัชทายาทอันดับ 2 ต่อจากเจ้าชาย ม็อดเรน มกุฎราชกุมาร
    และแต่งตั้งให้ ฮัมด์ บิน อับดุลอาซิส อัลสุวัยลีม เป็นประธานสำนักพระราชวัง
    อีกทั้งแต่งตั้งให้ ฮัมด์ อัล ฮุวัยฮาลี เป็นหัวหน้าฝ่ายการักษาความปลอดภัยส่วนพระองค์

    [​IMG]
    نخستین عزل و نصب های پادشاه جدید عربستان
    وزیر دفاع جدید عربستان کیست ؟
    ---
    @เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน พระราชโอรสของซัลมาน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่
    ---
    เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของซาอุดิอาระเบีย วัย 39 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขานิติศาสตร์จากมหาลัย คิงส์ซาอูด กรุงริยาด หลังจากสำเร็จการศึกษาและก่อนเข้าสู่การเมือง ได้สร้างบริษัทธุรกิจจำนวนหลายแห่ง
    ในปี 2009 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ที่ปรึกษาพิเศษ ของ “ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส (บิดา)” สมัยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองริยาด
    ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าการขึ้นครองบัลลังก์ของเจ้าชายซัลมาน บิน อับดุลอาซิส จะเป็นไปอย่างราบรื่นแต่ก็ไม่ได้การันตีว่าราชบัลลังก์แห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียจะมีเสถียรภาพเสมอ ไป เพราะกษัตริย์องค์ใหม่ซึ่งมีอายุ 79 ปี ก็หาได้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงมากนัก ส่วนรัชทายาท เจ้าชายม็อคเรน ก็มีอายุ 69 ปี ทำให้มีความไม่แน่นอนว่าจะทรงมีอายุอยู่จนได้ขึ้นครองราชย์ หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไปกัน ว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหรือไม่อย่างไร………
    شبکه خبری العالم |
    اخبار ايران و جهان |خبرگزاري فارس| Fars News Agency
    شیعه نیوز .:: SHIA NEWS ::.
    http://www.abnewstoday.com/…/อำน%E…/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ธนาคารปลอม’ ในจีน หลอกดูดเงินพันล้านบ.
    by Sathit M.26 มกราคม 2558 เวลา 10:48 น.

    [​IMG]

    สหกรณ์ในเมืองนานกิงขึ้นป้ายเป็นธนาคาร เสนอดอกเบี้ยสูงล่อใจ นักธุรกิจหลงเชื่อฝากเงินกว่า 200 ราย ยอดกว่า 1,000 ล้านบาท สุดท้ายกลายเป็นเรื่องต้มตุ๋น ฝากได้แต่ถอนไม่ได้
    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหกรณ์ชนบทแห่งหนึ่งในนานกิง เมืองเอกของมณฑลเจียงซู หลอกลวงประชาชนด้วยการตกแต่งอาคารสถานที่เป็นธนาคาร เสนอจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารทั่วไป ทำให้มีคนหลงเชื่อนำเงินไปฝากประมาณ 200 ราย มูลค่ารวม 200 ล้านหยวน ในรอบปีที่ผ่านมา
    เรื่องเกิดแดงขึ้นเมื่อลูกค้าคนหนึ่งไปขอถอนเงินฝากแล้วถูกปฏิเสธ จึงไปแจ้งความกับตำรวจ เจ้าหน้าที่เผยว่า สหกรณ์แห่งนี้ตกแต่งเหมือนธนาคาร มีจอแอลซีดี เครื่องจัดลำดับคิว และพนักงานในเครื่องแบบ และยังทำปลอมเอกสาร ระบุว่าเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาต
    ตำรวจเมืองนานกิงได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่นิติกรของสหกรณ์กับผู้จัดการ เพราะสงสัยว่าคนเหล่านี้อาจล่อลวงประชาชน ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากมณฑลเจ้อเจียงซึ่งอยู่ใกล้เคียง ตำรวจกำลังรวบรวมผู้เสียหายในคดีนี้.
    Source: Xinhua
    Photo: CRIenglish.com
    ‘ธนาคารปลอม’ ในจีน หลอกดูดเงินพันล้านบ. - VoiceTV
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ เตรียมรับมือ “พายุฤดูหนาวจูโน่” หวั่นเกิดไฟดับครั้งใหญ่
    วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 09:40:42 น.

    [​IMG]

    สำนักงานบริการด้านภูมิอากาศแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ให้เตรียมรับมือกับ “พายุฤดูหนาวจูโน่” ที่อาจทำให้เกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ และปัญหาในการเดินทางด้วยเครื่องบิน
    นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ค ระบุว่า พายุหิมะลูกนี้อาจเป็นลูกที่ใหญ่ที่สุดใจประวัติศาสตร์เมืองนิวยอร์ค พร้อมทั้งยังประกาศให้ชาวเมืองเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจต้องเผชิญด้วย ซึ่งสำนักงานบริการด้านภูมิอากาศคาดว่า หิมะที่ตกในเมืองดังกล่าวอาจหนาถึง 60 เซนติเมตร ภายในวันอังคารนี้
    ขณะที่สายการบินในสหรัฐฯ จำนวนมาก อนุญาตให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางผ่านหรือไปยังบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการเดินทางได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งสนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งเอง อาทิ ท่าอากาศยานนานาชาติ จอห์น เอฟ. เคนเนดี, ฟิลาเดเฟีย, บอสตัน, และสนามบินอื่นๆในนิวอิงแลนด์ ต่างคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุหิมะด้วย

    [​IMG]

    http://www.matichon.co.th/news_detail.php…
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนแคระในอียิปต์โบราณ โดย ณัฐพล เดชขจร ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน 25 ม.ค. 2558 05:01

    [​IMG]

    โดยปกติแล้วชาวไอยคุปต์มักจะมีแบบแผนการสลักภาพบุคคลได้ออกมาเหมือนกันอย่างกับแกะ.
    เมื่อได้ลองเพ่งพินิจพิจารณาภาพ “คน” ที่ถูกแสดงเอาไว้ในศิลปะของชาวอียิปต์โบราณไม่ว่าจะบนผนังวิหารหรือแม้แต่ผนังสุสานแล้วเราแทบจะมองไม่เห็นความแตกต่างของบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพเลยแม้แต่น้อย เสมือนประหนึ่งว่าพวกเขาถูกโคลนนิ่งออกมาเป็นโหลๆยังไงยังงั้น ด้วยลักษณะท่าทางการยืนที่ดูแล้วเหมือนกันไปหมด ศีรษะมองเห็นจากด้านข้าง ลำตัวมองเห็นจากด้านหน้า แขนขามองเห็นจากด้านข้าง ฯลฯ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของศิลปะไอยคุปต์ล่ะนะครับ แต่ถึงกระนั้นเมื่อได้ลองเพ่งมองผนังสุสานของชาวอียิปต์โบราณให้ถ้วนทั่วแล้วก็จะพบว่ามีภาพบุคคลที่ดูแปลกแตกต่างออกไปจาก “มาตรฐาน” ที่พวกเขามักจะสลักเอาไว้บนผนังอยู่เช่นกัน พวกเขาเหล่านั้นคือ “คนแคระ” (Dwarf) ครับ!!
    จะว่าไปแล้วคงไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่จะมี “คนแคระ” อยู่ในอารยธรรมอียิปต์โบราณด้วยล่ะนะครับ เพราะแท้ที่จริงแล้วคนแคระ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของร่างกายบางอย่างนั้นมีปรากฏอยู่ทั่วโลกทุกยุคทุกสมัยเลยครับ สิ่งที่น่าสนใจก็คือสำหรับชาวไอยคุปต์แล้ว พวกเขามอง “คนแคระ” กลุ่มนี้อย่างไร จะเหมือนหรือแตกต่างจากมุมมองของพวกเราแค่ไหน ล้อมวงเข้ามาฟังกันเลยครับ
    สิ่งหนึ่งที่นักอียิปต์วิทยาค่อนข้างมั่นใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับ “คนแคระ” ก็คือชาวไอยคุปต์ไม่ถือว่าเหล่าคนแคระเป็นคนที่มีความผิดปกติแต่อย่างใดครับ ด้วยเราทราบดีว่าชาวไอยคุปต์มีตำราปาปิรัสทางการแพทย์มากมายหลายม้วน ไม่ว่าจะเป็นปาปิรัสเอ็ดวินสมิธ (Edwin Smith Papyrus) ซึ่งพูดถึงการผ่าตัดและศัลยกรรม หรือจะเป็นปาปิรัสอีเบอร์ส (Ebers Papyrus) ที่บรรจุสูตรยาขนานต่างๆเอาไว้ แต่ไม่มีปาปิรัสทางการแพทย์ม้วนใดที่พูดถึงอาการของคนแคระเลย นั่นแปลว่าพวกเขาถือว่าคนแคระก็คือคนปกติธรรมดาสามัญ เพียงแค่ว่ามีรูปร่างที่เล็กกว่าชาวไอยคุปต์ทั่วไปเท่านั้นเองล่ะครับ
    ถ้าว่ากันในด้านภาษาอียิปต์โบราณหรือที่เรียกกันว่าอักษรเฮียโร กลิฟฟิคแล้วนั้น ชาวไอยคุปต์เรียกคนแคระว่า “เดเนก” (dng) หรือไม่ก็ “เนมู” (nmw) อีกคำหนึ่งที่ใช้ได้เช่นกันก็คือ “ฮู” (hw) โดยจะมีอักษรภาพทำหน้าที่กำกับความหมาย (Determinative) เป็นภาพของคนแคระที่มีแขนขาสั้นแต่มีลำตัวเท่ากับชาวไอยคุปต์ปกติทั่วไปปรากฏอยู่ด้านท้ายของคำด้วย
    สำหรับการแสดงออกทางศิลปะสำหรับคนแคระนั้น ชาวไอยคุปต์มักจะสลักให้พวกเขามีศีรษะที่ค่อนข้างใหญ่กว่าปกติ มีลำตัวยาวกว่าปกติ ส่วนแขนและขาก็สั้นกว่าปกติ ที่สำคัญก็คือชาวไอยคุปต์จะสลักให้คนแคระมีขาที่โก่งโค้งงอเล็กๆด้วยครับ
    ในสังคมของชาวไอยคุปต์นั้น พวกเขาแบ่งคนแคระออกเป็นสองประเภทหลักๆครับ ประเภทแรกคือคนแคระที่เป็นชาวอียิปต์โบราณแท้ๆ ส่วนอีกประเภทหนึ่งเรียกด้วยภาษาสมัยใหม่ว่า “ปิกมี่” (Pygmy) ซึ่งเป็นกลุ่มคนตัวเล็กที่อาศัยอยู่ทางตอนในของทวีปแอฟริกา และที่สำคัญก็คือบ่อยครั้งที่ฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณส่งคณะสำรวจออกไปยังดินแดนเหล่านี้ก็มักจะมีการนำเอา “ปิกมี่” กลับมาด้วยโดยมีวัตถุประสงค์หลักก็คือนำมาสร้างความรื่นเริงให้กับราชสำนักในบทบาทของ “นักเต้นรำ” นั่นเองครับ
    หนึ่งในหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดที่แสดงให้เห็นว่าชาวไอยคุปต์เคยนำพาปิกมี่กลับมายังดินแดนของพวกเขาด้วยต้องย้อนกลับไปอ่านบันทึกในรัชสมัยของฟาโรห์เปปิที่ 2 (Pepi II) แห่งราชวงศ์ที่ 6 ในสมัยราชอาณาจักรเก่าซึ่งครองราชย์อยู่เมื่อราว 2,200 ปีก่อนคริสตกาลครับ ครั้งนั้นข้าราชสำนักนามว่าฮาร์คุฟ (Harkhuf) พร้อมคณะสำรวจถูกส่งออกไปยังตอนในของแอฟริกา เป็นไปได้ว่าพวกเขาเดินทางไปถึงดินแดนแห่งพันท์ (Punt) ซึ่งเป็นนครปริศนาที่ยังไม่มีใครทราบว่าอยู่ที่ใด แต่น่าจะอยู่ในบริเวณประเทศโซมาเลีย (Somalia) โดยบันทึกที่ว่านี้อยู่ในสุสานของฮาร์คุฟคนนี้ล่ะครับ เขาได้จารึกเอาไว้ว่า ครั้งหนึ่งเขาได้เดินทางเข้าไปถึงตอนในของแอฟริกาและได้นำพา “เดเนก แห่งการเต้นรำของพระเจ้า” (dng of the God’s dances) กลับมาด้วย หลังจากนั้นฟาโรห์เปปิที่ 2 ก็ได้ตอบกลับไปโดยมีใจความสำคัญว่า...
    “ขอให้เจ้า (ฮาร์คุฟ) เร่งขึ้นเหนือมาโดยไว และจงนำเอาปิกมี่มากับเจ้าด้วย เพื่อเต้นรำถวายแด่เทพเจ้าและสร้างความสำราญใจให้กับกษัตริย์แห่งอียิปต์บนและอียิปต์ล่าง ‘เนเฟอร์คาเร’ (Neferkare) (พระนามของเปปิที่ 2) เมื่อปิกมี่ลงเรือมากับเจ้า ให้แต่งตั้งคนที่เชื่อใจได้คอยดูแลปิกมี่เหล่านั้นทั้งสองข้างของเรือ ดูแลไม่ให้พวกเขาตกลงไปในน้ำ ถ้าเจ้านำพาปิกมี่มาได้โดยปลอดภัย ข้าจะตกรางวัลให้กับเจ้าอย่างงามเสียยิ่งกว่าที่เคยเกิดขึ้นในรัชสมัยของฟาโรห์องค์ก่อนเสียอีก”
    ข้อความโต้ตอบระหว่างฟาโรห์เปปิที่ 2 กับฮาร์คุฟแสดงให้เห็นว่าคนแคระหรือปิกมี่นั้นส่วนหนึ่งมีบทบาทหลักในฐานะนักเต้นรำซึ่งสร้างความสำราญใจให้ทั้งกษัตริย์และเทพเจ้าของชาวไอยคุปต์ ว่าแต่ถ้าเราวิเคราะห์จากหลักฐานอื่นๆบ้างล่ะ เราจะพบเห็นบทบาทใหม่ของคนแคระในอารยธรรมอียิปต์โบราณอีกหรือไม่ คงต้องมาดูที่การแสดงออกทางศิลปะของพวกเขาครับ
    ส่วนใหญ่แล้ว หลักฐานเกี่ยวกับคนแคระในอียิปต์โบราณนั้นมักจะปรากฏให้เห็นในศิลปะสมัยราชอาณาจักรเก่ามากกว่าสมัยอื่นๆครับ ไม่ว่าจะเป็นจากภาพสลักบนผนังก็ดี หรือรูปสลักแบบลอยตัวต่างๆก็ดี ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทนอกเหนือจากการเป็น “นักเต้นรำของพระเจ้า” ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลด้านผ้าลินินหรือแม้แต่ช่างทำเครื่องประดับ แสดงให้เห็นว่าความแปลกประหลาดทางร่างกายของพวกเขาแทบจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานเลยครับ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนแคระอีกมากมายที่ได้รับตำแหน่งเป็นถึงขุนนางชั้นสูง อีกทั้งยังมีบทบาทที่น่าสนใจในราชสำนักอียิปต์โบราณอีกด้วย
    คนแคระชั้นสูงท่านแรกที่อยากแนะนำให้รู้จักมาจากสมัยฟาโรห์คูฟู (Khufu) เจ้าของพีระมิดองค์มหึมาที่สุดในอียิปต์โบราณที่นครสุสานกิซ่า คนแคระท่านนี้ชื่อ “เซเนบ” (Seneb) ครับ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้จักเซเนบเป็นอย่างดีก็คือรูปสลักที่ค้นพบจากสุสานของเขาในช่วงปี ค.ศ. 1925 ที่กิซ่า ปัจจุบันเก็บรักษาเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ณ กรุงไคโร รูปสลักชิ้นนี้นอกจากจะแสดงให้เห็นภาพของคนแคระแล้ว ยังแฝงไปด้วยความอบอุ่นของครอบครัวของเขาอีกด้วยครับ
    คนแคระท่านที่สองที่อยากนำพาไปทำความรู้จักก็คือ “เพเรนิอังค์” (Pereniankh) ครับ คนแคระท่านนี้เรียกได้ว่ามีความพิเศษมากกว่าคนแคระท่านอื่นๆ ก็ด้วยว่าในสุสานของเขามี “มัมมี่” ที่ช่วยยืนยันความเป็นคนแคระของเขาอยู่ด้วยนั่นเองครับ!!
    เพเรนิอังค์มีชีวิตอยู่ในช่วงราชอาณาจักรเก่าเช่นเดียวกับคนแคระเซเนบ เป็นไปได้ว่าเขารับใช้อยู่ในรัชสมัยของฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่ 5 หรือ 6 สุสานของเพเรนิอังค์ตั้งอยู่ที่กิซ่า ใกล้เคียงกับสุสานของเซเนบนั่นทำให้นักอียิปต์วิทยาบางท่านเสนอว่าบางทีเซเนบและเพเรนิอังค์อาจจะเป็นญาติทางสายเลือดของกันและกันก็เป็นได้ครับ
    มัมมี่ของเพเรนิอังค์ทำให้ทราบว่าเขาสิ้นลมเมื่ออายุราว 40 ปี กระดูกของเพเรนิอังค์แสดงให้เห็นว่าเขามีแขนขาที่สั้นผิดปกติจริง ซึ่งก็สอดคล้องกับรูปสลักของเขาทุกอย่าง นี่จึงถือเป็นความน่าทึ่งอย่างหนึ่งของศิลปะอียิปต์โบราณเลยก็ว่าได้ครับที่ช่างศิลป์ได้ทำการถ่ายทอดร่างกายที่แท้จริงของเพเรนิอังค์ออกมาไว้ที่รูปสลักได้อย่างชัดเจน
    หลายๆท่านอาจจะอยากยกมือถามว่า นอกจากคนแคระในสมัยราชอาณาจักรเก่าอย่างเซเนบและเพเรนิอังค์แล้ว ช่วงสมัยอื่นๆของอียิปต์โบราณมีภาพคนแคระปรากฏอยู่อีกหรือไม่ คำตอบอยู่ที่บุรุษนามว่า “ดเจโฮ” (Djeho) ซึ่งเป็นคนรับใช้อยู่ในบ้านของชนชั้นสูงท่านหนึ่งครับ
    ดเจโฮมีชีวิตอยู่ในช่วงราชวงศ์ที่ 30 รัชสมัยของฟาโรห์เนคทาเนโบที่ 2 (Nectanebo II) ซึ่งครองราชย์อยู่ในช่วงประมาณ 360 ปีก่อนคริสตกาล ภาพสลักของดเจโฮความสูงราว 120 เซนติเมตรในลักษณะหันข้าง แขนและขาของเขาสั้นและตันผิดปกติ ตามแบบฉบับของคนแคระปรากฏให้เห็นชัดเจนบนฝาโลงศพของเขาเอง นักอียิปต์วิทยาเสนอว่าความสูงนี้เป็นขนาด “เท่าตัวจริง” ของดเจโฮด้วยครับ
    นอกจากชนชั้นสูงแล้ว ชาวไอยคุปต์ยังมีเทพเจ้าที่อยู่ในร่างของคนแคระด้วยนะครับ ซึ่งเทพเจ้าที่เชื่อว่าหลายๆท่านอาจจะรู้จักกันดีองค์หนึ่งก็คือเทพเจ้า “เบส” (Bes) ครับ เบสเป็นเทพคนแคระที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องของการคลอดบุตร คอยช่วยดูแลบ้าน ดูแลเด็กทารก อาจจะมีหน้าตาที่น่ากลัวสักหน่อย แต่ก็เพื่อใช้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายต่างๆให้ออกไปจากชาวไอย–คุปต์นั่นเองครับ
    อีกหนึ่งเทพเจ้าคนแคระเช่นกันแต่อาจจะรู้จักกันน้อยกว่าก็คือเทพ “พทาห์” (Ptah) ครับ เทพพทาห์คือเทพเจ้าแห่งงานช่างเป็นเทพเจ้าอุปถัมภ์แห่งนครเมมฟิส (Memphis) บ่อยครั้งเรามักจะพบเทพเจ้าพทาห์ในร่างของบุรุษหัวโล้นในชุดผ้าพันมัมมี่ยืนขาชิดถือคทา แต่บางครั้งเทพเจ้าพทาห์ก็จะได้รับการแสดงออกในร่างของคนแคระเช่นกันครับ (แต่ค่อนข้างน้อยครั้งมากๆเมื่อเทียบกับร่างบุรุษมัมมี่) พทาห์ในร่างคนแคระมักจะเปลือยกาย มีแขนขาสั้น ศีรษะใหญ่ บางครั้งมีปอยผมข้างเดียว (Sidelock of Youth) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นเด็กด้วย ส่วนใหญ่แล้วเทพเจ้าพทาห์ในร่างคนแคระนั้นมักจะปรากฏในรูปของเครื่องรางให้ชาวไอยคุปต์ได้พกติดตัวไปไหนมาไหนได้โดยสะดวก
    พูดถึงคนแคระที่เป็นบุรุษมามากแล้ว หลายๆท่านอาจจะเริ่มสงสัยว่าแล้วอียิปต์โบราณมีคนแคระที่เป็น “สตรี” บ้างหรือไม่ ซึ่งก็แน่นอนครับว่ามี แต่หลักฐานอาจจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนแคระที่เป็นบุรุษ หนึ่งในหลักฐานของคนแคระสตรีอยู่ในร่างของมัมมี่ซึ่งนางเสียชีวิตจากการคลอดบุตร โดยที่ยังมีร่างของเด็กทารกปรากฏอยู่ให้เห็นเป็นหลักฐาน ส่วนบทบาทในสังคมของคนแคระหญิงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนแคระชายเท่าใดนักครับ เราทราบว่าคนแคระหญิงเหล่านี้บ้างก็ทำหน้าที่เป็นพยาบาลคอยดูแลเด็กๆ บ้างก็เป็นหมอตำแย (Midwife) บ้างก็เป็นนักเต้นรำที่คอยสร้างความสุนทรีย์ให้กับชาวไอยคุปต์ไม่ต่างจากคนแคระที่เป็นบุรุษเลยครับ
    นอกจากนั้นแล้วชาวไอยคุปต์ยังให้เกียรติกับคนแคระมากๆอีกด้วยครับดังที่ปรากฏในงานเขียนของพวกเขาว่า “จงอย่าเย้ยหยันคนตาบอด อย่ายั่วเย้าคนแคระหรือขัดขาคนพิการ” นั่นแสดงให้เห็นว่าสำหรับชาวไอยคุปต์แล้ว พวกเขาไม่ได้มองว่าคนแคระคือตัวประหลาดแต่อย่างใด มิหนำซ้ำคนแคระยังได้รับการนับถืออย่างสมเกียรติด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่มีเซเนบ เพเรนิอังค์ ดเจโฮ หรือแม้แต่เทพเจ้าเบสและพทาห์ในร่างของคนแคระหรอก จริงไหมล่ะครับ?
    โดย : ณัฐพล เดชขจร
    ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน
    คนแคระในอียิปต์โบราณ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เผย20ภาพมลพิษช็อคโลกในประเทศจีน
    25 มกราคม 2558 เวลา 14:42 น. |
    เว็บนอกเผย 20 ภาพมลพิษช็อคโลกที่เกิดขึ้นในประเทศจีน
    อาจเป็นภาพชุดที่แสดงวิกฤตปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ชัดเจนจนน่ากลัวที่สุดในขณะนี้ก็เป็นได้ สำหรับ 20 ภาพมลพิษที่ถูกบันทึกจากภูมิภาคต่างๆ ในทั่วทั้งประเทศจีน
    ภาพเหล่านี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งจากปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจีน โดยผู้นำในประเทศจีนก็ได้ประกาศแล้วว่าจะแก้ปัญหามลพิษในอากาศอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามคงเป็นเรื่องยากที่แก้ไขได้ เนื่องจากปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่มากมายนับไม่ถ้วนในประเทศจีน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/…/%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A220%E0…
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 26 ม.ค.58 ทหารยูเครน ที่ไม่ยอมแพ้เสียชีวิตจำนวนมาก
    สถานการณ์สู้รบในยูเครน หลังการต่อสู้ที่ดุเดือด แน่ชัดแล้วว่าฝ่ายนักรบนิยมรัสเซีย มีชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่หลายสนามรบในเขตปกครองตนเองโดเนสต์ จากการสำรวจสนามบินโดเนสต์ พบซากศพทหาร "ในชุด NATO" เป็นกองทหารรับจ้าง อยู่ใต้ซากปรักหักฟังของตัวอาคารสนามบิน
    พร้อมกับพบอาวุธสงครามที่ผลิตจากอเมริกาหลายต่อชิ้น ปืน M16-A5 หรือ ปืนครก รวมไปถึงอุปกรณ์สื่อสาร และ นิตยสารหลายๆ อย่างปะปนอยู่กับวารสารด้านศาสนาเขียนเป็นภาษายุโรป จากรายงานลับ พบว่าทหารยูเครนและนักรบรับจ้างตายไปไม่ต่ำกว่า 550 คน (ไม่ได้น้อยอย่างที่ยูเครนแถลง) นักรบรับจ้างที่ NATO แอบส่งมานี้เป็น Sniper ชาวดัชท์ และชาติในยุโรป
    ข่าวกรองรัสเซีย KGB นัั้นเขาไม่ได้ด้อยกว่า CIA และ NATO แต่เขาไม่เคยคุยโม้ออกสื่อ เขาจึงส่ง Sniper มือดีกว่า แม่นกว่า และทหารปืนใหญ่ มาเป็น " นักรบอาสาสมัคร" ที่ไปช่วยฝ่ายนักรบ โดยให้ทหารรัสเซียลาพักร้อนได้ยาวๆ โดยได้รับเงินเดือน และสวัสดิการทุกอย่างจากกองทัพหมีขาว แล้วมาช่วยนักรบนิยมรัสเซีย จัดการกับทหารยูเครนและนักรบรับจ้างจาก NATO
    ดังนั้นมือ Sniper ของสองเชื้อชาติ จึงเล่นซ่อนแอบเจาะหัวกระโหลกกันมาได้กว่าครึ่งเดือนแล้ว ผลคือ Sniper จาก NATO สู้ไม่ได้ เพราะขาดความชำนาญภูมิประเทศ และทางนักรบนิยมรัสเซีย ยังประเคนจรวด 40 ลำกล้อง และปืนใหญ่ ใส่อาคารเป้าหมายที่คาดว่า Sniper และทหารยูเครน จะหลบซ่อนอยู่ แบบโงหัวไม่ขึ้น
    ในภาพคือกลุ่มนักรบนิยมรัสเซีย พร้อมพี่เลี้ยงซานต้าใจดี เคลื่อนทัพบุกเดินหน้าไปที่ Gorlovgi ระหว่างทางต้องพาบาทหลวงไปหลวงไปด้วย เพราะศพทหารยูเครนที่ไม่ยอมแพ้ถูกยิงตายกองระเกะทิ้งไว้ข้างถนนอย่างที่เห็น และพวกเขาแบ่งปันอาหารการกินให้กับประชาชนไปตลอดทาง
    โทษของการไม่ยอมแพ้ คือ ความตาย แต่หากยอมสวามิภักดิ์ คือ รอดชีวิต และได้รับการดูแลอย่างดี
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    โอบามาจะพิจารณามาตรการเพิ่มเพื่อหยุดรัสเซีย
    โอบามาพูดในวันอาทิตย์ว่ารัสเซียเป็นต้นเหตุให้การหยุดยิงในยูเครนล้มเหลวลง และสหรัฐฯจะพิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อหยุดรัสเซียให้ได้
    เขาย้ำว่ามาตรการนั้นจะไม่มีการทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง
    ไม่รู้ใครโกหกกันแน่ระหว่างโอบามาและปูติน เพราะว่าฝ่ายรัสเซียบอกว่าเคียฟละเมิดสัญญาหยุดยิงMinsk Agreement โดยโจมตีพวกแบ่งแยกดินแดนที่ทางตะวันออกของยูเครนอย่างหนัก ส่วนฝ่ายตะวันตกบอกว่ารัสเซียให้การสนับสนุนทางทหารกับพวกแบ่งแยกดินแดน
    สถานการณ์ที่ยูเครนยังคงตรึงเครียด และที่สำคัญยังไม่มีวี่แววว่าโอบามาและปูตินจะตกลงกันได้ในเรื่องสันติภาพ
    thanong
    26/1/2015
    Obama: US will consider more steps to stop Russia
     

แชร์หน้านี้

Loading...