ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว แจกเงินน้อย-แจกเงินช้า-เพราะเงินเหลือน้อย!!??? #คิดเห็นอย่างไร หลัง สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในประเด็นการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รอบใหม่ ว่า การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท มีการอนุมัติโครงการไปแล้ว 256 โครงการ เป็นวงเงิน 7.5 แสนล้านบาท เหลือเงินอีก 2.5 แสนล้านบาท

    สำหรับที่ สส.อภิปรายว่าทำไมไม่เร่งใช้เงินให้หมด มีแล้วก็ต้องใช้ให้หมดเร่งกระตุ้น สุพัฒนพงษ์กล่าวชี้แจงว่า เรื่องการระบาดของ COVID-19 มันก็ยังไม่แน่ใจว่าจะหมดจะจบสิ้นหรือไม่ มันยังมีความไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นต้องจำเป็นใช้เงินอย่างระมัดระวัง "วงเงินกู้เพื่อใช้ดูแลบุคลากรทางการแพทย์ และการซื้อวัคซีน เหลืออีก 2.5 หมื่นล้านบาท ท่านสบายใจได้ว่ามีเงินเหลือพอ"

    "สส.หลายท่านสงสัยว่าทำไมการเยียวยาต้องเป็นสิทธิ ไม่ได้เป็นเงินสด เพราะดูจากโครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่เป็นการร่วมจ่าย (โคเพย์) จะเห็นว่าประสบความสำเร็จ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเศรษฐกิจฐานรากขยายตัวได้ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าดีใจ เพราะเป็นเงินของคนที่ยังมีกำลังไปช่วยคนที่แย่กว่า ซึ่งเป็นเรื่องน่าดีใจที่ได้เห็นถึงผลสำเร็จตรงนี้"

    ** "ผมเข้าใจว่าเป็น สส. ฝ่ายค้าน มาที่สภาผู้แทนเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่านจะมาชื่นชมรัฐบาลไม่ได้ ผมเข้าใจ แต่ผมเรียนได้เลยว่าในความรู้สึกลึกๆ ของทุกๆ คน ของประชาชน หรืออย่างน้อยคนที่ได้รับสิทธิคนละครึ่ง 15 ล้านคน เขารู้ว่าได้รับประสบการณ์เขาได้แชร์ทำให้คนอื่นดีขึ้น และไม่ได้เป็นการเอื้อเจ้าสั้ว เป็นการช่วยเหลือตัวเล็ก และวิธีการนี้เป็นต้นแบบของๆทุกรัฐบาลต่อไปที่จะมาใช้ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องแจกเงินสด" สุพัฒนพงษ์ กล่าว.

     
  2. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาวพม่าเหยื่อกระสุนสลายการชุมนุมสิ้มลมแล้ว ขณะที่ต่างชาติเริ่มประกาศคว่ำบาตรนายพล
    .
    รอยเตอร์ 19 ก.พ. - หญิงสาวชาวพม่าวัย 20 ปี ที่เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหารและถูกยิงเข้าที่ศีรษะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะตำรวจสลายฝูงชนได้เสียชีวิตลงแล้วในวันนี้ (19) ตามการเปิดเผยของพี่ชาย ซึ่งถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของฝ่ายตรงข้ามการรัฐประหาร นับตั้งแต่พวกเขาเริ่มชุมนุมประท้วงเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
    .
    ข่าวการเสียชีวิตของหญิงสาวรายนี้เกิดขึ้นขณะตำรวจและทหารเข้าจับกุมผู้คนราว 50 คน ในเมืองมิตจีนา ตามการเปิดเผยของนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน หลังเข้าสลายขบวนผู้ชุมนุมที่ถือป้ายอองซาน ซูจี
    .
    มยา ตะเว ตะเว ไคง์ อายุ 20 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 9 ก.พ. และต้องใช้เครื่องพยุงชีพ หลังเธอได้รับบาดเจ็บจากสิ่งที่แพทย์กล่าวว่า เป็นกระสุนจริงในที่ชุมนุมประท้วงในกรุงเนปีดอ
    .
    “ผมเสียใจมากและไม่มีอะไรจะพูด” เย ตุ๊ต อ่อง พี่ชายของผู้เสียชีวิต กล่าวทางโทรศัพท์
    .
    การเสียชีวิตของมยา ตะเว ตะเว ไคง์ มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นประเด็นเรียกร้องของผู้ชุมนุมประท้วงที่รวมตัวกันบนถนนอีกครั้งในวันนี้
    .
    “ผมภูมิใจในตัวเธอและผมจะออกมาจนกว่าเราจะบรรลุเป้าหมายของเธอ ผมไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยของผม” เน ลิน เต๊ต ผู้ชุมนุมอายุ 24 ปี กล่าวกับรอยเตอร์ จากพื้นที่ชุมนุมในนครย่างกุ้ง
    .
    วันนี้ถือเป็นการชุมนุมประท้วงรายวันติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจของทหารและการจับกุมอองซาน ซูจี แม้การชุมนุมประท้วงในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศจะดำเนินไปอย่างสงบ แต่ตำรวจได้ยิงกระสุนยางหลายครั้งเข้าสลายกลุ่มฝูงชน ขณะที่ฝ่ายกองทัพ กล่าวว่า มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย จากการบาดเจ็บในที่ชุมนุมประท้วง
    .
    ตำรวจในนครย่างกุ้งได้ปิดล้อมสถานที่ชุมนุมหลักของเมืองใกล้เจดีย์สุเล โดยตั้งเครื่องกีดขวางบนถนนที่จะเข้าไปยังสี่แยกที่ผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนรวมตัวกันในสัปดาห์นี้
    .
    พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า มีผู้ชุมนุมหลายร้อยคนรวมตัวกันที่เครื่องกีดขวาง ขณะที่อีกหลายพันคนรวมตัวกันอีกสถานที่หนึ่งใกล้มหาวิทยาลัย
    .
    นอกเหนือจากการชุมนุมประท้วงรายวันแล้ว การรณรงค์อารยะขัดขืนยังทำให้ธุรกิจของรัฐบาลส่วนมากเป็นอัมพาต และทหารกำลังถูกกดดันจากนานาชาติ
    .
    อังกฤษและแคนาดาได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรเมื่อวันพฤหัสฯ (18) ส่วนญี่ปุ่นระบุว่าเห็นพ้องกับอินเดีย สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ถึงความจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูประชาธิปไตยโดยเร็ว
    .
    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทหารพม่าไม่ได้ตอบสนองต่อมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ และเมื่อวันอังคาร โฆษกกองทัพได้กล่าวแถลงข่าวว่าการคว่ำบาตรเป็นเรื่องที่ถูกคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว
    .
    มีประวัติเพียงเล็กน้อยที่นายพลพม่ายอมจำนนต่อแรงกดดันจากต่างชาติ และพวกเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนและรัสเซีย ที่ใช้แนวทางที่นุ่มนวลกว่าชาติตะวันตก
    .
    ทั้งนี้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรจากประเทศตะวันตกอยู่ก่อนแล้ว จากการปราบปรามชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาในปี 2560
    .
    “การคว่ำบาตรผู้นำทหาร ส่วนใหญ่เป็นสัญลักษณ์ แต่ความเคลื่อนไหวคว่ำบาตรบริษัทของทหารจะส่งผลมากกว่า” มาร์ค ฟาร์มาเนอร์ ผู้อำนวยการ Burma Campaign UK องค์กรเรียกร้องสิทธิมนุษยชนในพม่าที่มีสำนักงานในอังกฤษ กล่าว
    .
    อย่างไรก็ตาม ตินซา ชุนเลย ยี่ ผู้นำเยาวชนและนักเคลื่อนไหว ชื่นชมการดำเนินการของอังกฤษในการอายัดทรัพย์และห้ามการเดินทางกับนายพล 3 นาย รวมทั้งขั้นตอนที่จะหยุดให้ความช่วยเหลือทหารและป้องกันธุรกิจของอังกฤษทำงานร่วมกับกองทัพ ส่วนแคนาดากล่าวว่า จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ทหาร 9 นาย
    .
    หลังอยู่ใต้การปกครองของทหารนานหลายทศวรรษ ธุรกิจที่เชื่อมโยงกับกองทัพมีส่วนอยู่ทั่วเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีผลประโยชน์ตั้งแต่ธนาคาร ไปจนถึงธุรกิจเบียร์ โทรคมนาคม และการขนส่ง
    .
    กองทัพยึดอำนาจคืนหลังกล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งหยุดชะงักกระบวนการเปลี่ยนแปลงสู่ประชาธิปไตยที่เริ่มต้นในปี 2554 และควบคุมตัวซูจี และคนอื่นๆ อีกหลายร้อยคน
    .
    สมาชิกช่วยเหลือนักโทษการเมืองของพม่าระบุว่า จนถึงวันพฤหัสฯ มีผู้ถูกควบคุมตัว 521 คน และจากจำนวนดังกล่าว ได้รับการปล่อยตัวเพียง 44 คน
    .
    ผู้ชุมนุมประท้วงได้เรียกร้องให้ยอมรับการเลือกตั้งปีก่อน และปล่อยตัวอองซานซูจี และผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ
    .
    ซูจี วัย 75 ปี ถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายการจัดการภัยพิบัติ รวมทั้งข้อหานำเข้าวิทยุสื่อสารวอล์กกี้-ทอล์กกี้อย่างผิดกฎหมาย โดยซูจีมีกำหนดขึ้นศาลครั้งถัดไปในวันที่ 1 มี.ค.
     
  3. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อวานนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ม็อบต่อต้านการรัฐประหาร มีการใช้กลยุทธ “แกล้งรถเสีย เปิดฝากระโปรงรถ และปิดถนน” โดยถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการอารยะขัดขืน
    .
    และในวันเดียวกันนั้นก็ได้มี ม็อบชาตินิยมที่สนับสนุนรัฐบาลทหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและมีพระสงฆ์รวมอยู่ด้วย ได้ออกมาปรากฏตัวบนถนนในกรุงย่างกุ้งด้วยเช่นกัน
    .
    ผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ได้รวมกลุ่มกันเพื่อไล่ทุบรถยนต์และทำร้ายผู้คน ที่เข้าร่วมการอารยะขัดขืนผ่านการปิดถนน หลังจากนั้นจึงพากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในวัดแห่งหนึ่ง
    .
    ต่อมาฝั่งม็อบต้านรัฐประหารจึงเข้าล้อมวัดดังกล่าว และเรียกร้องให้ม็อบหนุนรัฐบาลทหารออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำในครั้งนี้
    .
    ในขณะเดียวกัน วัดดังกล่าวก็มีกองกำลังของตำรวจคอยคุ้มกันอยู่หน้าวัด เพื่อไม่ให้ฝั่งม็อบต้านรัฐประหารสามารถบุกเข้าไปภายในได้
    .
    สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้นับเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายหนุนรัฐบาลทหาร เปิดฉากทำร้ายม็อบฝ่ายที่เห็นต่าง ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มดังกล่าวเคลื่อนไหวเพียงแค่การเคลื่อนขบวนด้วยรถยนต์และโบกธงชาติเมียนมา เพื่อแสดงการสนับสนุนรัฐบาลทหารในการทำรัฐประหารครั้งนี้เพียงเท่านั้น
    .
    เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ Thailand State กด Like เพจและตั้งค่า See First ⭐️ เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
    .
    Source : t.ly/4SvS
    .
    t.ly/WCYc
    .
    #ThailandState #ThailandStateUpdate

     
  4. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หมู่บ้านโบราณถงหลี่ (同里古镇 ) เป็นชื่อหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ในเขตอู๋เจียง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซูของจีน มีพื้นที่เพียง 63 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น แต่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงในด้านโบราณสถานอันดับต้น ๆ ของจีน และด้วยการที่หมู่บ้านโบราณถูกโอบล้อมไปด้วยน้ำทั้ง 4 ทิศ อีกทั้งยังถูกผ่ากลางด้วยลำคลอง 15 สาย แบ่งหมู่บ้านแห่งนี้ ออกเป็น 7 ส่วน ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านกลางน้ำ ที่ได้รับฉายาว่า “เวนิสน้อยแห่งตะวันตก” อีกทั้งยังมีสถานที่ ที่ได้รับการรับรองขึ้นเป็นมรดกโลก คือ “สวนหวนคำนึง” (退思园) ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายยุคราชวงศ์ชิง
    .
    กิจกรรมในหมู่บ้านแห่งนี้ คงหนีไม่พ้นการล่องเรือชมพื้นที่ต่าง ๆ ของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ รวมถึงความเชื่อในการเดินข้ามสะพานทั้ง 3 คือ สะพานสันติสุข (太平桥), สะพานโชคดี (吉利桥) และสะพานเฉลิมฉลอง (长庆桥)
    ซึ่งแต่ละสะพานมีความเชื่อต่างกันคือ
    1. หากข้าม สะพานสันติสุข (太平桥) จะทำให้มีร่างกายแข็งแรงตลอดปี
    2. หากข้ามสะพานโชคดี (吉利桥) ธุรกิจจะทำมาค้าขึ้น หรือ ได้ตำแหน่งงานที่สูงขึ้นไป
    3. หากข้ามสะพานเฉลิมฉลอง (长庆桥) จะทำให้มีอายุยืน
    .
    สำหรับการเดินทางมายังหมู่บ้านแห่งนี้ ก็ไม่ยากครับ จากเมืองซูโจวมายังถงหลี่ มีรถออกทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 40 นาทีเท่านั้น ส่วนค่าเข้าชมก็มีหลากหลายราคาแบ่งตามฤดูกาล คือ ราคา 40 หยวนในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว และ 50 หยวนในช่วงฤดูท่องเที่ยว
    #ChinaStory #เวนิสน้อยแห่งตะวันตก #ถงหลี่ #เที่ยวเมืองจีน #เที่ยวทั่วจีน #เรื่องจีนจีน #เล่าเรื่องจีน #สถานที่ท่องเที่ยวจีน

     
  5. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กัมพูชาปฏิเสธคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตตามแบบจีน
    .
    พนมเปญ 19 ก.พ. – กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า รัฐบาลจงใจใช้กฎหมายใหม่ตั้งเกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติ เพื่อนำไปสู่การสอดส่องและปิดกั้นข้อมูลตามแบบจีน และยังระบุว่าจะร่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในเร็ว ๆ นี้ด้วย
    .
    กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชาระบุในแถลงการณ์ว่า ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการตั้งเกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติไม่มีมูลความจริง มีแรงจูงใจทางการเมือง ไม่เป็นความจริง และขัดแย้งกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายรอง กระทรวงขอยืนยันว่า ไม่มีบทบัญญัติใดในกฎหมายรองที่อนุญาตให้จัดเก็บข้อมูลของผู้บริโภคและจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิด
    .
    ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดเสียงคัดค้านการออกพระราชกฤษฎีกาฉบับย่อยในสัปดาห์นี้ที่กำหนดให้การรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตทั้งหมดต้องผ่านเกตเวย์แห่งชาติ
    .
    ขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายให้ความเห็นว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชาที่ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศมายาวนานอาจใช้กฎหมายดังกล่าวเพื่อทำตามมาตรการควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดของจีน ซึ่งปิดกั้นการเข้าถึงแอปพลิเคชันของชาติตะวันตก เช่น ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และยูทูบ รวมถึงการเซ็นเซอร์เนื้อหาที่อาจบ่อนทำลายพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน
    .
    ในขณะเดียวกัน รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ระบุว่า ประเทศส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีการใช้เกตเวย์อินเทอร์เน็ต และการออกกฎหมายใหม่ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญและผู้ให้บริการโทรคมนาคมส่วนตัวแล้ว
    .
    การตั้งเกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลของนายฮุนเซนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศเกี่ยวกับการปราบปรามที่มุ่งทำลายกลุุ่มประชาสังคมและฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เพื่อให้พรรครัฐบาลผูกขาดอำนาจการปกครองประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลกัมพูชายังตั้งข้อหาทางอาญาและสั่งจำคุกศัตรูทางการเมืองอีกหลายรายด้วย.

     
  6. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บริษัทสิงคโปร์ตัดความสัมพันธ์ระงับการทำธุรกิจในอนาคตกับเมียนมา
    .
    สิงคโปร์ 19 ก.พ. – บริษัทของสิงคโปร์ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่อต้านโดรนให้กับตำรวจเมียนมา กำลังระงับยับยั้งการทำธุรกิจในอนาคตกับเมียนมาและยกเลิกข้อตกลงในการทำธุรกิจกับสนามบินหลักของเมียนมารหลังจากทีเกิดรัฐประหารในเมียนมา
    .
    แซม ออง กรรมการผู้จัดการของทีอาร์ดี คอนซัลติง กล่าวทางอีเมล์ว่า ทางบริษัทไม่มีแผนการที่จะส่งมอบผลิตภะณฑ์ต่อต้านโดรนให้เมียนมาจนกว่าสังคมที่ถูกต้องตามกฎหมายในเมียนมาจะกลับคืนมา โดยทางบริษัทจะทบทวนการขายสินค้าให้เมียนมาในอนาคตตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
    .
    เขากล่าวด้วยว่า ทีอาร์ดี คอนซัลติง กำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่อต้านโดรนให้กับสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง แต่ยกเลิกข้อตกลงนี้แล้ว
    .
    เขากล่าวอัีกว่า บริษัทจะไม่จำหน่ายอุปกรณ์ให้กับกองทัพเมียนมาด้วย ทีอาร์ดี คอนซัลติง เป็นหนึ่งในหลายสิบบริษัทในสิงคโปร์ที่ตกเป็นเป้าหมายของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ในฐานะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจในเมียนมา
    .
    ในขณะที่สิงคโปร์เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในเมียนมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและควบคุมตัวผู้เห็นต่างหลายร้อยคน รวมถึงนางอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง
    .
    ซึ่งทำให้นานาชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรและมีการประท้วงกันในเมียนมา ทีอาร์ดี จำหน่ายเครื่องรบกวนสัญญาณโดรน “โอไรออน-7” ให้กับตำรวจเมียนมา ซึ่งอุปกรณ์นี้สามารถรบกวนสัญญาณสื่อสารของโดรนและทำให้โดรนต้องลงจอด.

     
  7. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หัวเว่ย บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม และผู้จำหน่ายสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดของจีน ประกาศข่าวเซอร์ไพรส์วงการอีกครั้ง
    .
    เมื่อมีแผนจะเปิดตัวโครงการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับใช้ในฟาร์มหมูเพื่อมองหารายได้แหล่งอื่นๆ หลังยอดขายสมาร์ตโฟนลดลงภายใต้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐฯ
    .
    รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศระบุว่า เหตุที่หัวเว่ยประเทศจีนมีอุตสาหกรรมฟาร์มหมูที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหมูในประเทศจีนคิดเป็นถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนหมูทั้งโลก
    .
    หัวเว่ยจึงหันมาผลิตเทคโนโลยีเพื่อช่วยปรับปรุงฟาร์มหมูให้ทันสมัย เช่น การนำ AI มาใช้ในการตรวจหาโรค ติดตาม และจดจำใบหน้าหมู
    .
    รวมถึงการตรวจสอบน้ำหนัก อาหาร และการออกกำลังกาย นอกจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สำหรับผู้เลี้ยงหมูแล้ว หัวเว่ยยังทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินอีกด้วย
    .
    โดยเหริน เจิ้งเฟย ประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ย ได้ประกาศเปิดตัวห้องปฏิบัติการนวัตกรรมการขุดอัจฉริยะในไท่หยวนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมถ่านหิน
    .
    ทั้งนี้ ยอดขายสมาร์ตโฟนของหัวเว่ยลดลง 42% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 ท่ามกลางปัญหาไมโครชิปที่มีอยู่อย่างจำกัด
    .
    นอกจากนี้ยังถูกปิดกั้นการพัฒนา 5G ในหลายประเทศรวมถึงสหราชอาณาจักรท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ อีกทั้งยังมีรายงานว่าหัวเว่ยจะลดการผลิตสมาร์ตโฟนลงถึง 60% ในปีนี้
    .
    หัวเว่ยจึงต้องมองหาแหล่งรายได้อื่นโดยหันไปสู่บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง ยานพาหนะอัจฉริยะ และเทคโนโลยีสวมใส่ ตลอดจนมีแผนที่จะสร้างรถยนต์อัจฉริยะด้วย
    .
    โดยเหริน เจิ้งเฟย กล่าวว่าหัวเว่ยยังสามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการจำหน่ายสมาร์ตโฟน ขณะที่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น
    .
    เจดีดอทคอม เน็ตอีส และอาลีบาบา ก็กำลังพยายามที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าสู่อุตสาหกรรมฟาร์มหมูเช่นเดียวกัน

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.scmp.com/tech/big-tech/...arming-chinese-tech-giant-explores-new-growth

    https://www.businessinsider.com/huawei-has-moved-into-ai-tech-for-pig-farmers-reports-2021-2

    https://www.posttoday.com/world/645814

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  8. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดนีเซีย : ชวาตะวันออก วาฬนำร่องเกยตื้น 49 ตัว ช่วยได้ 3 ตัว 46 ตัวตาย
    วาฬหลายสิบตัวเกยตื้นบนชายฝั่งหมู่บ้านปาเทอร์แมนเขตโมดุงบังกาลอร์ช่องแคบ มาดูรา วันพฤหัสบดี (18/2) ชาวบ้านพยายามช่วยเหลือจนถึงเช้า 19 ก.พ. ช่วยได้เพียง 3 ตัวที่เหลือตายทั้งหมด จากสภาพอากาศ และ น้ำหนักของวาฬ ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างลำบาก

    คลิป


     
  9. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฟิลิปปินส์ : พายุ AuringPH กำลังขึ้นฝั่ง ตลอดทั้งวันอพยพประชาชนตามจุดเสี่ยง
    19.00 น.แนวชายฝั่งได้รับผลกระทบจากแรงลม
    ความเร็วลม 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมงลมกระโชก 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกที่ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    #เวียดนาม : เตือนประชาชนชาวประมงให้ระวังพายุลูกแรกปี 2021 อาจมีแรงลมและคลื่นสูง ในทะเลจีนใต้ ส่วนชายฝั่งอาจได้รับผลกระทบจากแรงลม พายุอาจจะสลายตัวก่อนขึ้นฝั่ง

     
  10. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 กลายเป็นภัยประจำฤดูกาลมาเป็นเวลาหลายปี อย่างน้อยๆ คนจังหวัดภาคเหนือก็อยู่กับหมอกควันมาร่วม 15 ปี ฉะนั้นทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา จะชี้นิ้วโทษคนอื่นยกเว้นตัวเองก็คงไม่ได้ เพราะทุกคนก็ล้วนมีส่วนในการสร้างอากาศพิษ
    .
    หลักคิดก็คือเมื่อฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาสาธารณะควรแก้จากสิ่งที่ตัวเราเองทำได้ ครอบครัวเราทำได้ หรือแก้จากย่านจากชุมชนออกไปหาเมือง ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้องให้คนอื่นทำหรือรอแต่จะให้ภาครัฐมาแก้ไขให้อย่างเดียว
    .
    แน่นอนว่าตลอดระยะที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐที่มีส่วนรับผิดชอบได้พยายามแก้ไขปัญหานี้อยู่ มากบ้างน้อยบ้าง ได้ผลบ้าง ล้มเหลวบ้าง แต่ผลสะท้อนที่ออกมาได้คำตอบค่อนข้างชัดว่ารัฐกำลังจนปัญญาต่อสถานการณ์ปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ที่กลายเป็นปัญหาเรื้อรังและเกิดซ้ำขึ้นทุกปี
    .
    เวทีพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายแบบมีส่วนร่วมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ในส่วนภาคเอกชนและประชาสังคม ซึ่งจัดขึ้นโดย สช. และ สสส. เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ได้เชิญสำนักข่าว IGreen และตัวแทนภาคเอกชน ภาคประชาสังคมอื่นๆ เข้าร่วมเสนอแนะข้อคิดเห็น
    .
    ในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพสื่อและรับผิดชอบการผลิตเนื้อหาด้านสิ่งแวดล้อมของสำนักข่าว IGreen ได้เสนอแนะให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้มากขึ้นโดยเฉพาะการแก้ปัญหาในระดับพื้นที่เพื่อจะได้ทราบสาเหตุของปัญหา ตลอดจนเพิ่มช่องการสื่อสารและวิธีการสื่อสารที่มีความเชื่อมโยงกับสาเหตุของปัญหาให้มากขึ้น ฯลฯ
    .
    ตัวแทนภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ยังได้สะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ เช่น ความเข้าใจต่อปัญหาของภาครัฐอาจจะไม่มากพอเมื่อเทียบกับระดับความรุนแรงของ PM2.5 โดยเฉพาะต่อสิทธิของประชาชนในการได้รับอากาศบริสุทธิ์ ประชาชนรับรู้ถึงพิษภัยของฝุ่น PM2.5 แต่ก็ยังมองเป็นเรื่องไกลตัวในแง่โรคภัยที่จะเกิดขึ้นเพราะไม่ป่วยเฉียบพลัน ยกเว้นกลุ่มเปราะบาง
    .
    ขณะเดียวกันประชาชนส่วนหนึ่งพร้อมปรับตัว แต่ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก เช่น ทางเลือกการใช้เชื้อเพลิงพลังงานสะอาด ระบบขนส่งสาธารณะ การเปลี่ยนแปลงอาชีพ ฯลฯ ซึ่งมีข้อเสนอว่าเราต้องสร้างเมืองหรือชุมชนที่สามารถอยู่กับฝุ่นให้ได้ เพราะฝุ่นคงไม่หมดไปในเร็ววัน
    .
    สำหรับการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายประจำปีนี้ สช.จะจัดเวที 4 ภาค 6 แห่ง เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา อุดรธานี สระบุรี สงขลา ก่อนจะสังเคราะห์ออกมาเป็นข้อแสนอแนะและกำหนดออกมาเป็นนโยบายสาธารณะระดับชาติ ซึ่งจะผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.)และเสนอตรงให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป
    .
    การกำหนดนโยบายสาธารณะประเด็นมลพิษทางอากาศในครั้งนี้คงไม่ใช่แค่การจัดทำสมุดปกขาว แต่จะเป็นการชี้ชัดทางออกเพื่อใช้เป็นกลไกและมาตรการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการแก้ไข รวมทั้งพลเมืองเองคงต้องช่วยกันผลักดัน ขับเคลื่อน เพื่อส่งเสียงดังๆ ให้มากพอที่จะทำให้เราทุกคนหลุดพ้นจากสังคมรมควันพิษจากอากาศเปื้อนฝุ่น
    .
    เป็นต้นว่า นโยบายที่จะออกมานำไปสู่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเชิงอำนาจ มีการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง มีการเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต ปรับใช้เชื้อเพลิงที่มีมาตรฐานยูโรในทันที เพื่อนำไปประเทศไทยออกจากอันดับเมืองที่มีฝุ่น PM2.5 ติดอันดับโลก ไม่ว่าเชียงใหม่ หรือกรุงเทพฯ ก็ตาม

     
  11. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 กลายเป็นภัยประจำฤดูกาลมาเป็นเวลาหลายปี อย่างน้อยๆ คนจังหวัดภาคเหนือก็อยู่กับหมอกควันมาร่วม 15 ปี ฉะนั้นทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา จะชี้นิ้วโทษคนอื่นยกเว้นตัวเองก็คงไม่ได้ เพราะทุกคนก็ล้วนมีส่วนในการสร้างอากาศพิษ
    .
    หลักคิดก็คือเมื่อฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาสาธารณะควรแก้จากสิ่งที่ตัวเราเองทำได้ ครอบครัวเราทำได้ หรือแก้จากย่านจากชุมชนออกไปหาเมือง ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้องให้คนอื่นทำหรือรอแต่จะให้ภาครัฐมาแก้ไขให้อย่างเดียว
    .
    แน่นอนว่าตลอดระยะที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐที่มีส่วนรับผิดชอบได้พยายามแก้ไขปัญหานี้อยู่ มากบ้างน้อยบ้าง ได้ผลบ้าง ล้มเหลวบ้าง แต่ผลสะท้อนที่ออกมาได้คำตอบค่อนข้างชัดว่ารัฐกำลังจนปัญญาต่อสถานการณ์ปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ที่กลายเป็นปัญหาเรื้อรังและเกิดซ้ำขึ้นทุกปี
    .
    เวทีพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายแบบมีส่วนร่วมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ในส่วนภาคเอกชนและประชาสังคม ซึ่งจัดขึ้นโดย สช. และ สสส. เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ได้เชิญสำนักข่าว IGreen และตัวแทนภาคเอกชน ภาคประชาสังคมอื่นๆ เข้าร่วมเสนอแนะข้อคิดเห็น
    .
    ในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพสื่อและรับผิดชอบการผลิตเนื้อหาด้านสิ่งแวดล้อมของสำนักข่าว IGreen ได้เสนอแนะให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้มากขึ้นโดยเฉพาะการแก้ปัญหาในระดับพื้นที่เพื่อจะได้ทราบสาเหตุของปัญหา ตลอดจนเพิ่มช่องการสื่อสารและวิธีการสื่อสารที่มีความเชื่อมโยงกับสาเหตุของปัญหาให้มากขึ้น ฯลฯ
    .
    ตัวแทนภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ยังได้สะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ เช่น ความเข้าใจต่อปัญหาของภาครัฐอาจจะไม่มากพอเมื่อเทียบกับระดับความรุนแรงของ PM2.5 โดยเฉพาะต่อสิทธิของประชาชนในการได้รับอากาศบริสุทธิ์ ประชาชนรับรู้ถึงพิษภัยของฝุ่น PM2.5 แต่ก็ยังมองเป็นเรื่องไกลตัวในแง่โรคภัยที่จะเกิดขึ้นเพราะไม่ป่วยเฉียบพลัน ยกเว้นกลุ่มเปราะบาง
    .
    ขณะเดียวกันประชาชนส่วนหนึ่งพร้อมปรับตัว แต่ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก เช่น ทางเลือกการใช้เชื้อเพลิงพลังงานสะอาด ระบบขนส่งสาธารณะ การเปลี่ยนแปลงอาชีพ ฯลฯ ซึ่งมีข้อเสนอว่าเราต้องสร้างเมืองหรือชุมชนที่สามารถอยู่กับฝุ่นให้ได้ เพราะฝุ่นคงไม่หมดไปในเร็ววัน
    .
    สำหรับการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายประจำปีนี้ สช.จะจัดเวที 4 ภาค 6 แห่ง เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา อุดรธานี สระบุรี สงขลา ก่อนจะสังเคราะห์ออกมาเป็นข้อแสนอแนะและกำหนดออกมาเป็นนโยบายสาธารณะระดับชาติ ซึ่งจะผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.)และเสนอตรงให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป
    .
    การกำหนดนโยบายสาธารณะประเด็นมลพิษทางอากาศในครั้งนี้คงไม่ใช่แค่การจัดทำสมุดปกขาว แต่จะเป็นการชี้ชัดทางออกเพื่อใช้เป็นกลไกและมาตรการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการแก้ไข รวมทั้งพลเมืองเองคงต้องช่วยกันผลักดัน ขับเคลื่อน เพื่อส่งเสียงดังๆ ให้มากพอที่จะทำให้เราทุกคนหลุดพ้นจากสังคมรมควันพิษจากอากาศเปื้อนฝุ่น
    .
    เป็นต้นว่า นโยบายที่จะออกมานำไปสู่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเชิงอำนาจ มีการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง มีการเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต ปรับใช้เชื้อเพลิงที่มีมาตรฐานยูโรในทันที เพื่อนำไปประเทศไทยออกจากอันดับเมืองที่มีฝุ่น PM2.5 ติดอันดับโลก ไม่ว่าเชียงใหม่ หรือกรุงเทพฯ ก็ตาม



     
  12. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกเราเคลื่อนที่ข้างหน้าเร็วกว่าที่คำนวนไว้เดิมถึง ๑๖,๐๐๐ ไมล์ต่อชั่วโมง
    โลกเราเคลื่นเข้าหาหลุมดำเร็วขึ้น ห่างจากหลุมดำเพียง ๒,๐๐๐ ปีแสง
    ในขนาดที้โลกหมุนรอบตัวเองเร็วขึ้นด้วย

    ให้ตระหนักไม่ตระหนก
    ท้องฟ้าใสๆไฟฟ้าบ้านผมดับอีกครับ
    ลุงแก้วแชร์โพสฟ้าผ่าฟ้าร้องกลางหิมะอีก

    คิดๆๆๆๆๆนะครับ

    https://bigthink.com/surprising-sci...e-16000-mph-faster?rebelltitem=3#rebelltitem3

     
  13. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ประมวลข่าว (19 ก.พ.) วันนี้มีข่าวความเคลื่อนไหวโควิดเยอะเหมือนกันค่ะ
    #วัคซีนโควิด
    (1) ญี่ปุ่นเพิ่มวัคซีนโควิดในระบบชดเชยเงิน



    กรณีฉีดแล้วเสียชีวิตจ่าย 44.2 ล้านเยน + ค่าทำศพ 209,000 เยน
    กรณีพิการระดับ 1 (ต้องมีคนดูแล) จ่าย 5,056,800 เยน/ปี
    วัคซีนชนิดอื่นที่อยู่ภายใต้ระบบนี้เช่น ไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น / BCG / หัด / หัดเยอรมัน เป็นต้น
    เพิ่มเติม เผื่อคนอยากทราบ ระบบนี้ชื่อ “予防接種健康被害救済制度”
    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼
    (2) ยอดจำนวนสะสมผู้ได้รับฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในญี่ปุ่นตอนนี้ (3 วัน)
    - 68 สถานพยาบาล/ที่ฉีด
    - ได้รับวัคซีนแล้ว 5,039 คน (ทุกคนเป็นวัคซีนครั้งแรก)
    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼
    #โควิด
    (3) ยอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มวันนี้:



    ยอดเพิ่มวันนี้ +1,537 ราย รวมสะสม 422,036 ราย
    เสียชีวิตเพิ่ม +76 ราย รวมสะสม 7,299 ราย
    คนอาการหนัก 564 ราย (-43)
    หายแล้วสะสม 393,494 ราย
    จังหวัดที่เกินร้อย
    โตเกียว 445 ราย
    ไซตามะ 210 ราย
    ชิบะ 149 ราย
    คานางาวะ 142 ราย
    ฟุกุโอกะ 101 ราย
    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼
    (4) “อัตราการลดลง” (R) ของการติดเชื้อโควิดในญี่ปุ่นเริ่มนิ่งใน 10 จังหวัด ทำให้นักวิเคราะห์เป็นห่วง



    (5) จ. โอซาก้าเตรียมขอประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินตอนสิ้นเดือนนี้



    เครดิต:
    NHK https://www3.nhk.or.jp/news/special/coronavirus/data/
    https://news.yahoo.co.jp/pickup/6385586
    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น
     
  14. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดนีเซีย : จาการ์ตา น้ำท่วม
    ปริมาณน้ำฝนที่สูง มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้บางส่วนของกรุงจาการ์ตา น้ำท่วมสูง50-150 ซ.ม. ในเช้าวันนี้
    MI/SUSANTO
    Media indonesia








     
  15. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปีนี้ ปักกิ่งจะเพิ่มพื้นที่ป่าในเมือง เป็น 44.6%
    .
    1/ ปักกิ่งวางแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียวในปี 2021 ด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 66,000 ไร่ เพิ่มพื้นที่ป่าในเมืองเป็น 44.6%
    .
    2/ หากทำได้สำเร็จ พื้นที่สีเขียวต่อหัวจะเพิ่มขึ้นเป็น 16.6 ตารางเมตร
    .
    3/ นอกจากพื้นที่สีเขียว ทางการกรุงปักกิ่งเตรียมฟื้นฟูและสร้างพื้นที่ชุ่มน้ำเพิ่มอีก 6,250 ไร่ รวมถึงก่อสร้างสวนสาธารณะเพิ่มเติม ที่กำลังดำเนินการอยู่คือ สวนป่าโอลิมปิกฤดูหนาวในเขตสือจิ่งซาน
    .
    4/ แผนการเพิ่มพื้นที่สีเขียวนั้น ปักกิ่งดำเนินเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2016 / สิ้นสุดปี 2020 ปักกิ่งปลูกต้นไม้ไปแล้วบนพื้นที่ 480,000 ไร่ สร้างและฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำไปแล้ว 68,750 ไร่
    .
    ที่มา: www.china.org.cn/china/2021-02/12/content_77212320.htm
    .
     
  16. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทูตจีนในเมียนมา ให้สัมภาษณ์ครั้งแรก เคลียร์ทุกประเด็น
    .
    1/ นายเฉิน ไห่ เอกอัครราชทูตจีนประจำเมืองย่างกุ้ง ให้สัมภาษณ์ครั้งแรก เคลียร์ทุกประเด็นกับสื่อท้องถิ่นในเมียนมาถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น
    .
    2/ เอกอัครราชทูตจีนยืนยัน จีน‘ไม่เคยทราบมาก่อน’ว่ากองทัพเมียนมาจะดำเนินการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา
    .
    3/ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นภาวะที่จีนไม่เคยประสงค์อยากให้เกิดขึ้น ในทางตรงกันข้ามจีนหวังถึงความราบรื่นมากกว่าการขาดเสถียรภาพและบานปลาย จนกลายเป็นความวุ่นวาย
    .
    4/ “แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อุปสรรคมากมายมีขึ้น รัฐบาลจีนเชื่อว่า เมียนมาจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดี” ทูตเฉิน ไห่ กล่าว
    .
    5/ สำหรับกระแสข่าวเกี่ยวกับเที่ยวบินจากจีน ลำเลียงทหารของกองทัพจีน และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี พร้อมเครื่องมือทันสมัยในห้วงเวลาเกิดการเปลี่ยนแปลงในเมียนมานั้น เอกอัครราชทูตจีนยืนยัน ข่าวนี้ ‘ไม่เป็นความจริง’
    .
    6/ เที่ยวบินจากจีนเดินทางเข้าและออกเมียนมาตามกำหนดการปกติ เพื่อลำเลียงสินค้าเกษตรและอาหารทะเลตามข้อตกลงซื้อขายสินค้าเท่านั้น
    .
    7/ รัฐบาลจีนยืนยันว่า ที่ผ่านมา จีนเป็นมิตรที่ดีกับทั้งกองทัพ นำโดย พล.อ.มิน อ่อง หล่าย และอดีตรัฐบาลพลเรือน นำโดย นางออง ซาน ซูจี
    .
    8/ รัฐบาลจีนรับทราบเพียงปัญหาความขัดแย้งอันเนื่องมาจากการเลือกตั้งทั่วไป และยืนยัน ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนทางการเมืองในเมียนมา 'แบบนี้’
    .
    9/ รัฐบาลจีนมีจุดยืนเดียวกันกับประชาคมโลกในแถลงการณ์ร่วมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่มีมติเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี และผู้ที่ถูกควบคุมตัวด้วยเหตุผลทางการเมืองทุกคน เพื่อให้เกิดการปรองดองสมานฉันท์ในเมียนมา
    .
    10/ รัฐบาลจีนขอเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งทางการเมือง ร่วมกันคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นโดยสันติวิธี และจีนขอปฏิเสธทุกกระแสข่าวที่เชื่อมโยงรัฐบาลจีนกับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเมียนมา
    .
    อ้างอิงจาก...http://www.mmtimes.com/.../china-addresses-rumours-urges...
    .
    ขอบคุณ ภาพ จาก...http://www.straitstimes.com/.../chinas-ambassador-to...
    .
     
  17. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวจีนพร้อมใจ ปฏิบัติตามรัฐบาล งดเดินทางช่วงตรุษจีน
    .
    1/ ช่วงหยุดยาวตรุษจีน 11-17 ก.พ. ชาวจีนส่วนใหญ่ไม่ได้กลับบ้าน เพราะรัฐบาลรณรงค์ให้งดการเดินทาง ลดความเสี่ยงเลี่ยงโควิด ชาวจีนจึงหันไปดูหนังในโรงภาพยนตร์มากเป็นประวัติการณ์
    .
    2/ รายได้จากการจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ของจีนในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีนทำสถิติใหม่ แตะ 3 หมื่น 5 พันล้านบาท
    .
    3/ โดยเฉพาะในวันที่ 12 ก.พ. (วันตรุษจีน) เพียงวันเดียว โรงภาพยนตร์ทั่วจีนแผ่นดินใหญ่จำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ได้ราว 34 ล้านใบ สร้างรายได้ 7 พัน 8 ร้อยล้านบาท ทำลายสถิติทั้งจำนวนตั๋วและรายได้ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ตลาดภาพยนตร์จีน
    .
    4/ จริงๆแล้ว ชาวจีนก็นิยมออกมาดูหนังกันอยู่แล้วในช่วงหยุดยาวตรุษจีน แต่ปีนี้ดูหนังกันมากเป็นพิเศษ เพราะชาวจีนเลี่ยงการเดินทาง พร้อมใจกันปฏิบัติตามข้อแนะนำของรัฐบาล
    .
    5/ บวกกับ มีการแจกบัตรชมภาพยนตร์เพื่อจูงใจให้ประชาชนงดการเดินทางกลับบ้าน เช่นที่เซี่ยงไฮ้
    .
    6/ การดูหนังในยุคโควิด แม้จะต้องใส่หน้ากากอนามัย แต่ก็สบายตรงที่ไม่ต้องนั่งเบียดเสียด เพราะจำนวนที่นั่งลดลงไปครึ่งๆเพื่อเว้นระยะห่าง ลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
    .
    7/ เมื่อจำนวนที่นั่งน้อยลง ทำให้ราคาตั๋วเพิ่มขึ้น จากเดิมราคาตั๋วเฉลี่ยอยู่ที่ 50 หยวน ราวๆ 200 บาท ก็ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 150 หยวน ราวๆ 750 บาทในบางพื้นที่
    .
    อ้างอิงจาก...
    -http://www.channelnewsasia.com/.../china-movies-box...
    -www.globaltimes.cn/page/202102/1215565.shtml
    .
     
  18. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FOOD: แมลงไทยโกอินเตอร์ มกอช.เผย เม็กซิโกอนุญาตนำเข้า ผลิตภัณฑ์จิ้งหรีดจากไทย! โปรตีนทางเลือก ลดโลกร้อน ยั่งยืน อาจขยายไปสหรัฐฯ-แคนาดาต่อ
    .
    เม็กซิโกอนุญาตนำเข้า ผลิตภัณฑ์จิ้งหรีดจากฟาร์มไทยแล้ว
    .
    สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เดินหน้า สหรัฐอเมริกา และแคนาดาต่อ
    .
    สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และกรมปศุสัตว์ได้ร่วมกันเปิดตลาดจิ้งหรีดเม็กซิโก เพื่อจับเคลื่อนการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าจิ้งหรีดหลักของโลก
    .
    โดยนายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการ มกอช. เผยว่าได้ร่วมจัดทำข้อมูลทางเทคนิค และเจรจากับสำนักงานแห่งชาติด้านสุขอนามัยความปลอดภัยและคุณภาพของการเกษตรและอาหาร ของเม็กซิโก จนทำให้เม็กซิโกมีความเชื่อมั่นและให้การยอมรับระบบการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของการผลิตจิ้งหรีด ตั้งแต่ระดับฟาร์มจนถึงโรงงาน รวมทั้งมาตรการด้านสุขอนามัยและกระบวนการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนการส่งออกของประเทศไทย
    .
    และล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางเม็กซิโกได้ประกาศอนุญาตการนำเข้าผลิตภัณฑ์จิ้งหรีดจากประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยสายพันธุ์ที่อนุญาตคือจิ้งหรีดทองแดงลาย หรือ สะดิ้ง ในลักษณะผลิตภัณฑ์ผงแป้งจิ้งหรีด โดยมีเงื่อนไขให้จิ้งหรีดต้องเลี้ยงในฟาร์มที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP ไม่ปนเปื้อนโปรตีนจากสัตว์เคี้ยวเอื้อง และได้ใบรับรองสุขอนามัยจากกรมปศุสัตว์ประกอบการส่งออก
    .
    การเปิดตลาดจิ้งหรีดไปเม็กซิโกได้สำเร็จ เป็นการเปิดประตูสู่ภูมิภาคละตินอเมริกาที่มีการยอมรับบริโภคสินค้ากลุ่มแมลงกินได้ในระดับสูง และอาจนำไปสู่การขยายตลาดในภูมิภาคอเมริกาเหนือในอนาคต
    .
    สำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่สนใจจะส่งออกจิ้งหรีดไปเม็กซิโก สามารถขอการรับรองมาตรฐานฟาร์มและขอใบรับรองสุขอนามัย ได้ที่สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดได้
    .
    ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษจิกายนที่ผ่านมา Novel Foods สหภาพยุโรป ได้เพิ่มรายชื่อประเทศไทย เข้าสู่รายชื่อที่สามารถส่งออกแมลงเพื่อบริโภคโดยมนุษย์ เข้าสหภาพฯ ได้แล้ว
    .
    แมลงเป็นหนึ่งในโปรตีนทางเลือกที่สามารถช่วยลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ซึ่งส่งผลกระทบให้เกิดโลกร้อนและช่วยสร้างความยั่งยืนได้ นอกจากนี้ UN ระบุว่า การทำฟาร์มแมลงใช้พื้นที่และทรัพยากรน้ำน้อยกว่าการทำฟาร์มปศุสัตว์ทั่วไปมาก
    .
    โดยผลิตภัณฑ์แปรรูป Powder ผงโปรตีนจิ้งหรีด แบบ Organic เป็นท่ีต้องการมากขึ้นมาแรงอย่างมากในยุคนี้ เป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกยอดฮิต เนื่องจากจิ้งหรีดช่วยให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้เพิ่มขึ้น ลดอาการอักเสบของร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแม้จะทานเข้าไปมากก็ตาม
    .
    หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคสนใจสินค้าแมลงมากขึ้นคือวิกฤตขาดแคลนอาหารที่จะมีมากขึ้นในอนาคต จึงต้องมีนวัตกรรมทดแทน โดยหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมคือ การสกัดโปรตจีนจากแมลง โดยมันขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดอาหารแห่งโปรตีน มีไขมัน คาร์โบไอเดรต ที่สามารถนำมาเป็นอาหารทดแทนได้ด้วย
    .
    ประเทศไทยมีแมลงอย่างจิ้งหรีดที่เป็นที่ตองการจากทั่วโลก เป็นแมลงเศรษฐกิจที่มีศักยภาพโตสูง ยังรวมถึงตั๊กแตน หนอน ดักแด้ และด้วงอีกด้วยเช่นกัน โดยเรามีความได้เปรียบในหลากหลายด้านในการผลิต
    .
    สิ่งที่สำคัญในการส่งออกก็คือ การได้ผ่านมาตรฐานรับรองจากหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเช่นการเลี้ยง ผลิต ควบคุม รวมถึงการตรวจสอบจากหน่วยงานอาหารและยาในประเทศนั้นๆ และได้รับการรับรองในระดับสากล

    Source: https://news.thaipbs.or.th/content/301595...

    https://m.facebook.com/iACFS/


    https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/3217313488397076/?d=n

    http://www.khao-online.com/?p=3683...
     
  19. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไฟเซอร์อยู่ในอันดับที่สามที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์จากมูลค่าการระงับคดียาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    Pfizer comes in third place at $2.3 billion dollars for the largest ever pharma lawsuit settlement amount in history.

     
  20. สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,768
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายณฏฐพล วุฒิพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ (NCTC) ภายใต้ สวทช. ได้จัดตั้งห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบด้านกัญชา กัญชง สารสกัดและผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง (Cannabis Analytical Testing Center) หรือ CATC เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
    .
    นอกจากนี้ ทำให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการกำหนดมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า สนับสนุนการทำวิจัยและพัฒนาสินค้ามูลค่าสูงให้กับทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบดำเนินงานภายใต้ระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการ ISO/IEC17025 มาตรฐานสากล ในการให้บริการวิเคราะห์ทดสอบอย่างครบวงจรเกี่ยวกับกัญชา กัญชง สารสกัดและผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง ทั้งในเชิงคุณภาพ เชิงปริมาณและตรวจสอบความปลอดภัย
    .
    เช่น การหาปริมาณโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง ตัวทำละลายตกค้าง สารพิษจากเชื้อรา เชื้อจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อน รวมถึงการหาปริมาณกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ให้ได้ค่ามาตรฐาน ทำให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์และกำหนดราคาสินค้าได้ตามมาตรฐานที่กำหนด
    .
    ผอ.ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. กล่าวอีกว่า การลงนามกับวิสาหกิจชุมชนศูนย์กลางการพัฒนาสมุนไพรเพลาเพลินเพื่อชุมชน จ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก ให้ผ่านการวิเคราะห์ทดสอบที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ ส่งเสริมความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลกของผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ให้สามารถจำหน่ายและควบคุมคุณภาพได้เทียบเท่าหรือในระดับเดียวกับผลิตภัณฑ์สากล
    .
    อีกทั้งยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ช่วยให้กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และภาคอุตสาหกรรม สามารถเข้าถึงการวิเคราะห์ทดสอบที่มีคุณภาพภายในประเทศ ตลอดจนควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์และกำหนดราคาสินค้าได้อย่างชัดเจนและเป็นมาตรฐาน ส่งผลให้ประชาชนในประเทศไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาเหมาะสม ปลอดภัย และได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานในระดับสากล
    .
    รวมถึงได้ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีขั้นสูงในการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชง ในด้านต่างๆ อาทิ การกระจายตัวของสารสำคัญ การหาชนิดและปริมาณสารสำคัญที่ส่วนต่างๆ ของพืชกัญชาและกัญชง เป็นต้น
    .
    ด้าน นางศศิการ ล้อจิโรภาส ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์กลางการพัฒนาสมุนไพรเพลาเพลินเพื่อชุมชน จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การลงนามร่วมกันครั้งนี้ เพื่อเป็นศูนย์กลางรับส่งวัตถุดิบกัญชาในการนำไปวิเคราะห์และทดสอบประสิทธิภาพ หาปริมาณกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ให้ได้ค่ามาตรฐาน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทกัญชาให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
    .
    อีกทั้งสนับสนุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าแก่ชุมชน ซึ่งจะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อภาคต้นน้ำการปลูก และภาคการเกษตร เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านการเกษตรของไทยให้สูงขึ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้
    .
    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. ได้ลงนามการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการวิเคราะห์ทดสอบกัญชา เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถวิสาหกิจชุมชน ระหว่างวิสาหกิจชุมชนศูนย์กลางการพัฒนาสมุนไพรเพลาเพลินเพื่อชุมชน (วพพ.) จ.บุรีรัมย์ กับศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. หรือ NCTC ในการทดสอบหาปริมาณกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ให้ได้มาตรฐานสากล ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
     

แชร์หน้านี้