ติดตามสถานะการณ์

เลขาฯยูเอ็นเรียกร้องให้คืนปุ๋ยโปแตชจากรัสเซียและเบลารุสสู่ตลาดโลกแลกกับการเปิดทางให้เรือบรรทุกธัญพืชจากยูเครน

 

ในอดีต 25 กันยายน 2537 ภัยธรรมชาติสุดแสนโหด น้ำป่าไหลหลาก น้ำตกวังตะไคร้ จ.นครนายก คร่าชีวิตนักท่องเที่ยง 21 ราย

เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก บริเวณน้ำตกวังตะไคร้ จังหวัดนครนายก ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นเร็วมากโดยไม่มีใครตั้งตัวได้ทัน ภัยน้ำป่าไหลหลากในครั้งนั้นถือว่าเป็นภัยธรรมชาติสุดโหดที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประเทศไทย
ในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงปลายฝนที่มักมีฝนตกหนาแน่น มักมีการเตือนถึงนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำที่น้ำตกต่างๆ ย้อนกลับไปช่วงบ่ายของวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2537 ที่อุทยานแห่งชาติวังตะไคร้ จังหวัดนครนายก เป็นวันที่อากาศแจ่มใส นักท่องเที่ยวจำนวนมากมายเดินทางเข้ามาเที่ยวและลงเล่นน้ำเย็นช่ำ และสายน้ำที่ใสสะอาด ไม่ว่าจะเป็น เด็ก ผู้ใหญ่ ที่กำลังสนุกสนานในวันหยุดกับครอบครัว ซึ่งพวกเขาไม่รู้เลยว่าอีกไม่ถึงชั่วโมง คลื่นน้ำป่ากำลังตรงไปหาพวกเขา
ทางเจ้าหน้าที่ได้รับการติดต่อจากฝ่ายต้นน้ำวังตะไคร้บริเวณเขาใหญ่ว่า มีมวลน้ำป่าขนาดใหญ่กำลังตรงไปทางจุดเล่นน้ำตกวังตะไคร้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการเป่านกหวีดและเรียกให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งบางคนต่างงงว่าเกิดอะไรขึ้นฉับพลันจากน้ำที่ใสเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขุ่น และน้ำเริ่มไหลเร็ว จนกระทั่งมวลน้ำป่าก้อนใหญ่เข้าปะทะกลุ่มนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว กวาดกลุ่มคนให้ไปติดอยู่ที่ต้นไม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยต่างเร่งช่วยเหลือผู้รอดชีวิต หลังเหตุการณ์สงบลงมีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 21 คน
จากการตรวจสอบพบว่าต้นตอของการเกิดเหตุน้ำป่าที่วังตะไคร้ มาจากแอ่งน้ำบริเวณเขาใหญ่ ซึ่งมีปริมาณน้ำมาก ทำให้เกิดการพังทลายและเกิดเป็นน้ำป่าขึ้น นับว่าเป็นเหตุการณ์น้ำป่าครั้งร้ายแรงครั้งหนึ่งในประเทศไทย

 

การกดเงินเฟ้อ ต้องหยุดการลงทุน หยุดการใช้จ่าย

ในทางเศรษฐศาสตร์ ก็คือ เพิ่มดอกเบี้ย ดูดเงินออกจากระบบ

ในทางสังคม คือ ปล่อยเชื้อโควิดบังคับให้อยู่บ้าน ก่อการร้าย ไล่ยิงคนในเมือง

เหตผลที่ไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยมากเกินไป เพราะ...

1) หนี้เก่าบาน
2) ขาดดุลแฝด คือ ขาดดุลการค้า ไม่มีรายได้ ขาดดุลการคลัง ใช้จ่ายมาก ต้องกู้หนี้ทุกเดือน ดอกเบี้ยสูง หนี้จะยิ่งบาน

ทำไมสหรัฐ ไม่กดดอลล่าอ่อน จะได้นำเข้าน้อยลง และประหยัด...GDP สหรัฐพึ่งพาการบริโภคถึง 80% ถ้า GDP ลด นักการเมืองจะพัง

การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน จะยิ่งเพิ่มเงินเฟ้อ

สหรัฐเหลือทางเลือก แค่ 2 วิธี คือ สงคราม กับ ปล่อยเชื้อโรค

 

ต้องทำสงครามเท่านั้น

1) เครื่องยนต์ GDP จะดับหมดแล้ว
2) ต้องมีข่าวประกาศชัยชนะให้คนอเมริกันเห็นบ้าง เพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจ ตัวใหญ่สู้ไม่ไหว ไปจ่มเหงคนตัวเล็กๆละกัน

ถ้าเข้าใจบทวิเคราะห์ เราก็จะเห็นการดิ้นของสหรัฐ

ไบเดนต้องเปลี่ยนจุดยืน ถ้าไม่อยากหลุดตำแหน่ง

 

เกิดแผลทั้งตัวหลังฉีดวัคซีน?!

คุณปุ้ย อายุ 35 ปี จ.กาญจนบุรี เป็นแม่ค้าส้มตำ

"เกิดแผลพุพองขึ้นทั่วตัว เจ็บปวดอย่างมาก"

แผลมีน้ำเหลืองไหลออกมาตลอดเวลา นอนบนที่นอนปกติไม่ได้ ต้องนอนบนใบตอง

ก่อนหน้านี้มีหน่วยงานมาเกณฑ์ชาวบ้านไปฉีดวัคซีนยี่ห้อหนึ่งฟรี และให้เงินอีก 1,000 บาท หลังฉีดเสร็จ

แล้วก็จะให้เงินอีก 6 ครั้ง ครั้งละ 1,000 บาท เวลาไปตรวจสุขภาพ รวมได้เงินคนละ 7,000 บาท จึงได้ไปฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ด้วย เป็นวัคซีนเข็ม 3

ไปฉีดมาเมื่อ 18 ม.ค. 65 สองวันแรกเป็นไข้ หลังจาก 3 เดือน เริ่มเกิดมีผื่น และตุ่มใสๆ ขึ้นตามตัว ผื่นลามขึ้นเรื่อยๆ จนเยอะแทบทั้งตัว

1 เม.ย. 65 ไปหาหมอที่ รพ. หมอบอกว่า "ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองและให้กลับบ้านไปรักษาตัวต่อที่บ้าน"

คุณปุ้ยทนกับความเจ็บปวดไม่ไหว จึงโพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือ สิ่งของจำเป็น

ขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พาไปรักษา และเชื่อว่าที่กลายเป็นแบบนี้เพราะเป็นผลจากการฉีดวัคซีนแน่นอน เพราะก่อนหน้าก็สุขภาพเเข็งแรงดี

https://ch3plus.com/news/social/ch3onlinenews/291524

 

ความเชื่อ ปักตะไคร้ไล่ฝน

“ใครจะปักตะไคร้ดี” นี่คือคำพูดยอดฮิตติดปากของคนไทย ทุกครั้งที่เราจะจัดกิจกรรมสำคัญอะไรกลางแจ้ง นับตั้งแต่ชาวบ้านในชนบท จนถึงคนเมืองในออฟฟิศกรุงเทพฯ ก็ยังมีความเชื่อเรื่องนี้อยู่ แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าความคิดเรื่องที่ว่า “การให้สาวพรหมจรรย์มาปักตะไคร้ แล้วจะทำให้ฝนไม่ตก” มาจากไหนกัน

เรื่องนี้มาจากความเชื่อโบราณของไทยที่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องดินฟ้าอากาศ อาจเป็นเพราะว่าในสมัยก่อน คนไทยทำเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก เรื่องของฝนตกฝนแล้งจึงเกี่ยวข้องกับการทำมาหากิน และนำมาสู่พิธีกรรมต่างๆ ในการเรียกฝน และไล่ฝน ซึ่งมีมากมายหลายวิธี

หนึ่งในพิธีไล่ฝนที่ฮิตมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็คือ “การปักตะไคร้” ซึ่งเป็นความเชื่อมาแต่โบราณ ยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่ามาจากไหน แต่พิธีกรรมโบราณหลายอย่างมักจะเป็นการกระทำที่ “ฝืนธรรมชาติ” เพราะมีความเชื่อว่าต้องการให้เทวดาเบื้องบนโกรธที่มนุษย์ทำผิดธรรมเนียม อย่างเช่นพิธีขอฝนด้วยการแห่นางแมว ที่นำแมวมาใส่ไว้ในกรงและสาดน้ำใส่ ทั้งที่แมวเป็นสัตว์ที่กลัวน้ำอยู่แล้ว เป็นต้น

พิธีปักตะไคร้ก็คล้ายๆ กันคือการนำปลายตะไคร้ปักลงดิน ให้โคนชี้ฟ้า แทนที่จะปักโคนตะไคร้ลงดินตามการปลูกปกติ เมื่อเทพยดาเบื้องบนรู้เข้าก็ไม่พอใจ สั่งฝนให้หยุดตก คล้ายๆ กับพิธีขึดของชาวล้านนา (ขึดคือความเชื่อที่เป็นข้อห้าม การกระทำในสิ่งที่เป็นอาถรรพ์ เสนียดจัญไร อัปมงคล)

ส่วนที่มีความเชื่อว่าผู้ปักตะไคร้ต้องเป็นหญิงสาวพรหมจรรย์หรือสาวบริสุทธิ์ก็เพราะตามความเชื่อของคนโบราณ ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว รักษาพรหมจรรย์จนถึงวันที่แต่งงาน บ้างก็บอกว่าการจะประกอบพิธีบวงสรวงเทวดาฟ้าดิน ก็ควรเกิดขึ้นจากหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้มลทิน นี่เป็นกุศโลบายของคนไทยโบราณที่ต้องการให้บุตรหลานรักนวลสงวนตัว ซึ่งอันที่จริงแล้ว การปักตะไคร้ไล่ฝนในบางพื้นที่ก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นสาวพรหมจรรย์ อาจเป็นแม่หม้ายก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมพื้นถิ่น

ดังนั้นต่อไปนี้เราจะได้รู้แล้วว่าเหตุผลในการเลือกเฉพาะสาวพรหมจรรย์มาปักตะไคร้นั้น มีมากกว่าเพียงแค่การไล่ฝนแต่เพียงอย่างเดียว เพราะได้มีเรื่องราวของกุศโลบายของคนไทยในอดีตที่แอบแฝงอยู่

ที่มาGQThailand

 

นักบินเห็นหลวงปู่แหวนบนก้อนเมฆ

ข่าวนี้ นาย Charles Browne เป็นผู้เขียนลงนิตยสาร Asia Magazine (3 ส.ค. 2523)ชื่อเรื่อง "เจ้าคิดว่าเราเป็นนกหรือ" เป็นเรื่องที่นักบินคนหนึ่งของกองทัพอากาศมาตามหาพระสงฆ์ไทยที่เค้าเจอบนฟ้า เค้าเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครรู้จัก เค้าจึงกางแผนที่สำรวจบริเวณนั้นพบว่าอยู่ตรงดอยแม่ปั๋ง
เขาจึงได้เดินทางไปสอบถามชาวบ้าน ชาวบ้านบอกว่านั่นคือหลวงปู่แหวน(ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง)อยู่วัดดอยแม่ปั๋ง หลังจากนั้นเรื่องก็เริ่มเป็นที่โจษขาน ยิ่งนายชาร์ล บราวน์นำเรื่องนี้มาลงนสพ. หลวงปู่แหวนจึงเป็นที่รู้จักและเป็นที่ร่ำลือว่าท่านสำเร็จอรหันต์แล้ว

หลวงปู่แหวน ท่านท่องเที่ยวธุดงค์อยู่ตามป่าเขา
ลำเนาไพรอยู่นานกว่า ๕๐ ปี ประชาชนทั่วไป
จึงไม่รู้จักท่าน เพิ่งจะมาได้ข่าวคราวและรู้จักหลวงปู่
ก็ประมาณปลายปี ๒๕๑๖ เมื่อหนังสือพิมพ์นำประวัติ
และเรื่องราวอภินิหารต่างๆ ของหลวงปู่มาเผยแพร่

ในหนังสือ พระธาตุปาฎิหาริย์ ของนิตยสารโลกทิพย์
ได้นำลงเรื่องคำบอกเล่าของ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
จังหวัดอุทัยธานี เกี่ยวกับเรื่องราวของหลวงปู่แหวน
ตอนที่ท่านเริ่มดัง

" หลวงพ่อฤาษี เล่าว่า มีทหารอากาศ ขับเครื่องบิน
เหาะข้ามวัดดอยแม่ปั๋งไป นักบิน คนนั้นตกใจจน
หูตาเหลือก เพราะพบหลวงปู่ผู้เฒ่านั่งอยู่บนก้อนเมฆ
ขวางทางบินอยู่ ต้องรีบบังคับเครื่องหลบตาลีตาเหลือก ขาบินกลับก็พบหลวงปู่องค์เดิมอยู่บนก้อนเมฆอีก

เมื่อนำเครื่องบินร่อนลงสนามแล้ว นักบินนายนั้นได้ไปกราบนมัสการ เจ้าคณะเชียงใหม่ เรียนถามว่า ที่เชียงใหม่มีพระองค์ไหนดีบ้าง ที่มีปาฎิหาริย์พิเศษ
เจ้าคณะจังหวัดบอกว่า เห็นมีอยู่องค์หนึ่ง คือหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง หรือดอยสีม่วง (ปั๋ง ภาษาเหนือแปลว่า สีม่วง) เพื่อที่จะพิสูจน์ดูให้เห็นกับตา เมื่อไปถึงวัดก็พบว่า มีผู้คนมากมายจากทั่วสารทิศมารอพบหลวงปู่แหวนเต็มวัดไปหมด

ปกติหลวงปู่แหวนไม่ยอมออกมาพบปะผู้ใดง่ายๆ แม้แต่งานฉลองอายุครบรอบของท่านที่คณะศิษย์ยานุศิษย์ตลอดจนผู้ที่เคารพเลื่อมใสจากทั่วทุกสารทิศ หลั่งไหลไปจัดงานขึ้น ผู้คนแน่นวัด มืดฟ้ามัวดิน รถราจอดเต็มดอยไปหมด หลวงปู่แหวนก็ไม่ยอมออกมาจากห้องให้สรงน้ำ หรือให้กราบสักการะ แจกของชำร่วย อย่างงานวันเกิดของพระเถระอื่นๆ

หลวงปู่แหวนยังคงเก็บตัวอยู่แต่ในห้องและหนีคนตาม อุปนิสัยแต่เดิมของท่าน ท่านจะออกมาจากห้องเป็นปกติ ก็เฉพาะเวลาฉันจังหันเช้า และเจริญพระพุทธมนต์ค่ำเท่านั้น

ทหารอากาศนายคนนี้ไปตอนเช้า พอได้เวลาหลวงปู่แหวนออกจากห้องมาฉันอาหารเช้า ก็จ้องมองด้วยความตะลึง จำได้ทันทีว่า พระผู้เฒ่าองค์นี้จริงๆ ที่เขาพบบนก้อนเมฆ ขณะขับเครื่องบินผ่านดอยแม่ปั๋งไป

เขาจึงแหวกผู้คนเช้าไปกราบนมัสการแทบเท้าหลวงปู่แหวนด้วยความเคารพเลื่อมใสอย่างสูงสุด น้ำตาไหล ปลาบปลื้มใจ ตื้นตันใจ ที่ตนได้มีบุญได้พบเห็นตัวจริงของหลวงปู่แหวน "

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพและที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้
http://palungjit.org/

 

ตุรกี ไม่สามารถพูดว่า "Yes" เพื่อไฟเขียวให้ ฟินแลนด์ และ สวีเดน เข้าเป็นสมาชิกใหม่ใน NATO ได้ ขอย้ำว่า "มันเป็นไปไม่ได้"

..ปธน. เออร์โดกัน แห่งตุรกี

ตามกฏบัตรของนาโต้...การเข้าเป็นสมาชิก ต้องไม่มีคนค้าน

ตุรกี ทะเลาะกับสหรัฐ เพราะสหรัฐสนับสนุนฝ่ายค้านให้รัฐประหารเออร์โดกัน แต่ไม่สำเร็จ เพราะปูตินกระซิบบอกล่วงหน้า ฝ่ายค้านก็เลยซวย โดนกวาดเรียบ

ตอนนี้ ตุรกีก็เลยจะเอาคืน ใช้สวีเดน ฟินแลนด์ต่อรองผลประโยชน์ เพราะเวรกรรมที่สหรัฐทำไว้

ที่แสบกว่านั้น คือ เอาญาติทหารในโรงเหล็กมาแถลงข่าว ประจานสหรัฐ ยุโรป โหดเหี้ยมปล่อยให้ทหารตาย แต่สหรัฐ ช่วยไม่ได้ เพราะประวัติของทหารกลุ่มนี้ ทำรุนแรง จะกลายเป็นสหรัฐใช้ให้ทำ

โดนด่าทั้งขึ้นทั้งร่อง

เออร์โดกันมันแสบ

 

ทำไมไบเกนต้องส่งทหารไปโซมาเลีย

โซมาเลียเจอคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธในโซมาเลีย ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์รุนแรง เหตุการณ์มักจะลุกลามบานปลายเข้าไปในเคนยา ซึ่งจีนเข้าไปลงทุนไว้มาก

 

India: ผลสำรวจรอบใหม่ของรัฐบาลอินเดีย พบว่า อัตราส่วนเพศชาย-หญิง มีจำนวนใกล้เคียงกันมากขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ชาวอินเดียส่วนใหญ่ยังต้องการมีลูกชายและมากกว่าลูกสาว

ผลการสำรวจสุขภาพครอบครัวแห่งชาติ หรือ NFHS-5 ซึ่งเป็นรายงานการสำรวจข้อมูลประชากรที่ครอบคลุมมากที่สุดของรัฐบาลอินเดีย ช่วงปี 2562-2564 พบว่า สัดส่วนผู้หญิงกับผู้ชาย มีจำนวนใกล้เคียงกัน และผู้หญิงมีจำนวนมากกว่าผู้ชาย เป็นครั้งแรก

โดยมีผู้หญิง 1,020 คน ต่อผู้ชาย 1,000 คน หลังจากการสำรวจกว่า 100 ปีที่ผ่านมา พบผู้ชายมีจำนวนมากกว่าผู้หญิงมาตลอด ผลสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 พบมีผู้หญิง 940 คนต่อผู้ชาย1,000 คน และ พบเด็กผู้หญิงมี 918 คนต่อเด็กผู้ชาย 1,000 คน

แต่ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เกือบ 80% ระบุว่า ต้องการมีลูกชายอย่างน้อย 1 คนในชั่วชีวิตหนึ่ง โดยเป็นค่านิยมเก่าที่ฝังรากลึกในสังคมชาวอินเดีย ที่เชื่อว่า ลูกชายจะสืบสกุลและดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่า ส่วนลูกสาว เมื่อแต่งงานแล้วจะออกเรือน และทำให้พ่อแม่เสียค่าดองหรือสินสมรส จนนำไปสู่เรื่องเศร้ามีการทำแท้งหรือทำลายเด็กอ่อนเพศหญิงตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ซึ่งรัฐบาลอินเดียพยายามหาทางแก้ไขเรื่องนี้มาตลอด

ด้านกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เตือนให้ตรวจสอบข้อมูลอัตราส่วนผู้หญิง-ผู้ชายดังกล่าวนี้อย่างระมัดระวัง เพราะเป็นการสำรวจข้อมูลในครัวเรือนเพียงประมาณ 6.3 แสนครัวเรือน จากครัวเรือนในอินเดียทั้งหมด 3 ร้อยล้านครัวเรือน เมื่อมีสำรวจสำมะโนประชากรทั้งประเทศจึงจะเห็นภาพจริง
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #อินเดีย
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Somalia: ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ อนุมัติให้ส่งทหารกลับเข้าไปประจำการณ์ในโซมาเลีย อีกครั้งแล้ว หลังมีการถอนทหารอเมริกันจากโซมาเลียในยุครัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า การอนุมัติดังกล่าวเป็นไปตามการร้องขอของกระทรวงกลาโหม หรือเพนตากอน เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการต่อสู้ปราบปรามกลุ่มอัล-เชบับ ที่ยังคงมีอิทธิพลและก่อเหตุโจมตีในกรุงโมกาดิชูบ่อยครั้ง ตลอดช่วงหลายปีปัจจุบัน

การส่งทหารอเมริกันกลับเข้าไปในโซมาเลีย ในทวีปแอฟริกาตะวันออกรอบใหม่นี้ จะมีจำนวนไม่เกิน 500 นาย น้อยกว่า 700 นาย ตอนที่ถอนกำลังออกมาในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐฯ เมื่อปี 2020 และมีขึ้นขณะโซมาเลียเพิ่งมีการเลือกตั้งได้ประธานาธิบดีคนใหม่ คือ นายฮัสซัน ชีค โมฮัมหมัด อดีตนักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ โดยเขาประกาศจะทำงานร่วมมือกับหุ้นส่วนนานาชาติอย่างใกล้ชิด

นอกจากทหารอเมริกันแล้ว โซมาเลีย ยังกำลังพึ่งพากองกำลังรักษาสันติภาพมากกว่า 19,000 นาย จากกลุ่มสหภาพแอฟริกา หรือ เอยู เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพในประเทศ
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สหรัฐฯ #โซมาเลีย
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Photo Gallery: ‘ทหารยูเครนผลักดันรัสเซียออกจากคาร์คิฟ’

กองทหารยูเครนที่ตอบโต้กองกำลังรัสเซียทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ จนทำให้กองกำลังรัสเซียถอยจากเมืองคาร์คิฟ และรุกล้ำไปไกลถึงชายแดนรัสเซีย

ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า ผมขอบคุณคุณนักรบของเราทุกคน ที่ยืนหยัดต่อสู้ และแสดงพลังเหนือมนุษย์ เพื่อขับไล่กองทัพรุกราน ที่เคยเป็นกองทัพทรงพลังอันดับ 2 ของโลก
—————
ภาพ: Reuters
#TNNWorldNews #PhotoGallery #ยูเครน #รัสเซีย
#เจาะลึกรอบโลก
————
อัพเดทข่าวและบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://page.line.me/tnnworld

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Turkey: ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ยืนยันยังคงคัดค้านไม่ให้ฟินแลนด์และสวีเดน เข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เนื่องจากไม่พอใจจุดยืนของทั้งสองประเทศ ที่สนับสนุนกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ด ซึ่งตุรกีมองว่า เป็นกลุ่มก่อการร้ายทางตอนใต้ของประเทศที่มีพรมแดนติดซีเรีย

ประธานาธิบดีแอร์โดอาน กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (16 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของนาโต ยังคงคัดค้านไม่ให้ฟินแลนด์และสวีเดนเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกของนาโต เนื่องจากทั้งสองประเทศให้การสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ด ซึ่งตุรกีมองว่า เป็นกลุ่มก่อการร้าย และไม่ยอมแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้

แอร์โดอาน ยังระบุว่า สวีเดนและฟินแลนด์ไม่จำเป็นต้องส่งตัวแทนมายังกรุงอังการา เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ตุรกีเห็นด้วยกับการเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกของนาโต เพราะเขาจะไม่เปลี่ยนจุดยืนแน่นอน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ออกมาระบุล่าสุดว่า การที่สวีเดนกับฟินแลนด์สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต ซึ่งมีสมาชิก 30 ประเทศ ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียโดยตรง แต่เน้นย้ำว่ารัสเซียพร้อมตอบโต้ในทันที หากมีการขยายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารที่อาจเป็นปัญหาต่อรัสเซีย

ทั้งนี้ หากฟินแลนด์และสวีเดนต้องการเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกของนาโต จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกทั้งหมด 30 ประเทศ และรัฐสภาของทั้ง 30 ประเทศต้องให้สัตยาบันรับรอง ดังนั้น ทั้งสองประเทศจึงต้องการเสียงสนับสนุนจากตุรกีด้วยเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ตุรกีเคยกล่าวหาสวีเดนกับฟินแลนด์ว่า ให้ที่พักพิงแก่สมาชิกของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถานที่ตุรกีมองว่า เป็นกลุ่มก่อการร้าย รวมถึงคณะผู้ติดตามของ เฟตุลเลาะห์ กุเลน นักเทศน์และผู้นำทางศาสนาชาวตุรกี วัย 81 ปี ที่ตุรกีอ้างว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทหารที่พยายามก่อรัฐประหารในปี 2016
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #ตุรกี #สวีเดน #ฟินแลนด์
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

France: ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส มีคำสั่งแต่งตั้ง เอลิซาเบธ บอร์น ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของฝรั่งเศสในรอบกว่า 30 ปี

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศแต่งตั้ง เอลิซาเบธ บอร์น ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนฌ็อง กัสเต็กซ์ ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางสำหรับการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หลังมาครงชนะการเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน เมื่อปลายเดือนที่แล้ว

ทั้งนี้ บอร์น วัย 61 ปี ซึ่งร่วมงานกับมาครงตั้งแต่ยุครัฐบาลสมัยแรก ผ่านมาแล้วหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคมนาคม, รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีแรงงาน สร้างประวัติศาสตร์เป็นสตรีคนที่สองเท่านั้น ในประวัติศาสตร์การเมืองของฝรั่งเศส และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในรอบกว่า 30 ปี ต่อจาก เอดิธ เครสซง ซึ่งดำรงตำแหน่งช่วงสั้น ๆ ระหว่างปี 1991-1992 สมัยอดีตประธานาธิบดีฟรังซัวส์ มิตแตร์รอง

ขณะที่ ผู้สันทัดกรณีคาดการณ์ว่า ผู้นำฝรั่งเศสน่าจะตั้งความหวังไว้ค่อนข้างสูงกับบอร์น ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกพรรคสังคมนิยม ในการซื้อใจกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายจัด และลดแรงปะทะกับกลุ่มการเมืองขวาจัด เพื่อรักษาฐานเสียงเดิมของกลุ่มสายกลาง และขยายฐานเสียงเพิ่ม ก่อนถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-19 มิถุนายนนี้

นอกจากนี้ การแต่งตั้งบอร์นเป็นสัญญาณบ่งชี้การสานต่อนโยบายด้านแรงงาน ที่ดำเนินการสำเร็จมาแล้ว ด้วยการอัตราว่างงานของกลุ่มคนหนุ่มสาวในฝรั่งเศสลดลงต่ำสุดในรอบ 40 ปี และอัตราว่างงานโดยรวมทั้งประเทศลดต่ำที่สุดในรอบ 15 ปี ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่บอร์นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแรงงานตั้งแต่ปี 2020
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #ฝรั่งเศส #นายกรัฐมนตรี
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

America: เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า มือปืนที่ก่อเหตุยิงในโบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 5 คน วางแผนก่อเหตุ เพราะเครียดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน พร้อมเปิดการสอบสวนในฐานะคดีที่เกิดจากความเกลียดชัง เหตุพบข้อมูลมือปืนไม่ชอบคนไต้หวัน

เจ้าหน้าที่เทศมณฑลออเรนจ์แถลงว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนได้เปิดการสอบสวนในฐานะคดีที่เกิดจากความเกลียดชัง เพราะพบว่าผู้ก่อเหตุมีความไม่พอใจเรื่องความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนกับไต้หวัน ตามที่พบบันทึกในรถของเขาเขียนเป็นภาษาจีนกลาง แสดงถึงความหมกมุ่นเรื่องไต้หวันและความไม่ชอบคนไต้หวัน

เจ้าหน้าที่เผยว่า นายเดวิด โจว วัย 68 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองอเมริกันที่เกิดในจีนและพักอยู้ในลาสเวกัส ขับรถมายังเขตเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียเมื่อวันเสาร์ (14 พฤษภาคม) แล้วมาก่อเหตุที่โบสถ์เจนีวาเพรสไบทีเรียน ในเมืองลากูนา วูดส์ในเช้าวันอาทิตย์ (15 พฤษภาคม)

เขาใช้โซ่ล่ามประตูและทากาวปิดตัวล็อกประตู จากนั้นเข้าไปเปิดฉากยิงภายในโบสถ์ขณะที่คริสตชนของโบสถ์ไต้หวันเพรสไบทีเรียนประมาณ 30-40 คนกำลังรับประทานมื้อเที่ยงกันอยู่

จอห์น เช็ง นายแพทย์วัย 52 ปี พยายามเข้าไปขัดขวางมือปืนจนถูกยิงเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 5 คนอายุตั้งแต่ 66-92 ปี ก่อนที่คริสตชนในโบสถ์จะช่วยกันจับเขามัดไว้ รอเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว

เจ้าหน้าที่เผยว่า พบกระเป๋า 3 ใบถูกวางไว้รอบโบสถ์ ข้างในมีเครื่องกระสุนและอุปกรณ์คล้ายระเบิดขวด เขาจะถูกตั้งข้อหาในวันนี้ คาดว่าจะถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย 1 กระทง พยายามฆ่า 5 กระทง และครอบครองวัตถุระเบิด 4 กระทง
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สหรัฐฯ #กราดยิง #ไต้หวัน
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะเปิดทำเนียบขาวต้อนรับการมาเยือนของนายกรัฐมนตรีสวีเดนและประธานาธิบดีฟินแลนด์ในวันพฤหัสบดี(19พ.ค.) ในการแสดงจุดยืนสนับสนุนครั้งสำคัญ ไม่กี่วันหลังจากทั้งสองประเทศประกาศว่าจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต้)

คาดหมายว่าบรรดาผู้นำจะหารือกันเกี่ยวกับการสมัครเป็นสมาชิกนาโต้ของฟินแลนด์และสวีเดน รวมถึงประเด็นความมั่นคงของยุโรปและการให้การสนับสนุนยูเครน ท่ามกลางการรุกรานของรัสเซีย จากการเปิดเผยของ คารีน ฌอง ปิแอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว

ทั้ง 2 ประกาศกำลังหาทางเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทหารที่นำโดยสหรัฐฯ หลังการโจมตียูเครนของรัสเซีย โหมกระพือความกังวลด้านความมั่นคงรอบใหม่ไปทั่วภูมิภาค การสมัครครั้งประวัติศาสตร์ของสวีเดนและฟินแลนด์ จะเป็นตัวแทนของวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในด้านภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของยุโรป

สหรัฐฯและบรรดาผู้นำนาโต้คนอื่นๆ ต่างสนับสนุนการเข้าร่วมพันธมิตรทหารของฟินแลนด์และสวีเดน โดย แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาบอกว่าสหรัฐฯ "จะสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อการสมัครเข้าร่วมนาโต้ของพวกเขา"

ทั้ง ฟินแลนด์ และ สวีเดน สามารถทำได้ตามข้อกำหนดต่างๆนานามากมายอยู่ก่อนแล้วสำหรับการเป็นสมาชิกนาโต้ ในนั้นรวมถึงการมีระบอบการเมืองประชาธิปไตยบนพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจแบบตลาด ปฏิบัติกับพลเมืองชนกลุ่มน้อยอย่างยุติธรรม มีความมุ่งมั่นคลี่คลายความขัดแย้งด้วยสันติวิธี มีศักยภาพและความตั้งใจให้การสนับสนุนทางทหารต่อปฏิบัติการต่างๆของนาโต้ และให้คำมั่นต่อรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างพลเรือน-ทหารและสถาบันต่างๆ ตามระบอบประชาธิปไตย"

อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวนี้ต้องเผชิญการต่อต้านจากรัสเซียและตุรกี โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียระบุในวันจันทร์(16พ.ค.) ว่าการเข้าร่วมนาโต้ของฟินแลนด์และสวีเดน จะไม่ก่อภัยคุกคามกับรัสเซีย แต่การขยายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในดินแดนหน้านี้ จะกระตุ้นให้ทางมอสโกต้องตอบโต้

ประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี ระบุในสัปดาห์นี้ว่าเขาจะไม่เห็นชอบการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ของสวีเดนและฟินแลนด์ กล่าวหาทั้ง 2 ประเทศ ว่าล้มเหลวแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในการต่อต้านก่อการร้าย ให้แหล่งกบดานของพวกก่อการร้าย ในนั้นรวมถึงกลุ่มนอกกฎหมายนักรบเคิร์ด ซึ่งอยู่ในบัญชีดำของทั้งอังการา อียู และสหรัฐฯ

การสมัครเข้าเป็นสมาชิกใดๆ จำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จาก 30 ชาติสมาชิกปัจจุบันของนาโต้ "ทั้ง 2 ประเทศไม่ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเลยในการต่อต้านองค์กรก่อการร้าย" แอร์โดอันกล่าว

(ที่มา:ซีเอ็นเอ็น/เอเอฟพี)

 

‘ทำเนียบขาว’ตอก ‘บิ๊กแอมะซอน’ขวางผลประโยชน์ชนชั้นกลาง หลัง‘เบโซส’จวก‘ไบเดน’หลงทางขึ้นภาษีบริษัทรวยแก้เงินเฟ้อ

ทำเนียบขาว ซัดกลับแรงๆ กล่าวหา “เบโซส” เจ้าพ่อแอมะซอน ต้องการขัดขวางนโยบายเศรษฐกิจเพื่อชนชั้นกลาง หลังอภิมหาเศรษฐีระดับร่ำรวยที่สุดรายหนึ่งของโลกผู้นี้ ทวิตวิจารณ์ไอเดียของ “ไบเดน” ในการขึ้นภาษีนิติบุคคลซึ่งเก็บจากบริษัทรวยๆ เพื่อมาช่วยต่อสู้ภาวะเงินเฟ้อในอเมริกา

แอนดริว เบตส์ รองโฆษกทำเนียบขาว แถลงเมื่อวันจันทร์ (16 พ.ค.) ว่า ไม่ต้องทำอะไรมากก็รู้ได้แล้วว่า ทำไมหนึ่งในอภิมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกจึงคัดค้านนโยบายเศรษฐกิจสำหรับชนชั้นกลาง อีกทั้งไม่น่าแปลกใจที่ทวิตดังกล่าวของ เจฟฟ์ เบซอส ออกมาหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พบปะกับพวกผู้นำแรงงาน ซึ่งรวมถึงพนักงานของแอมะซอน

ทั้งนี้ เบตส์พาดพิงถึงการพบปะเมื่อเร็วๆ นี้ที่ทำเนียบขาวระหว่าง ไบเดน กับ คริสเตียน สมอลส์ ประธานสหภาพแรงงานแอมะซอน ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานแห่งแรกในอเมริกาของบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่แห่งนี้ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ทำเนียบขาวยังเผยแพร่วิดีโอการพบกันดังกล่าว ที่มีภาพไบเดนสวมกอดสมอลส์ที่สวมแจ็คเก็ตติดโลโก้ “Eat the rich" ซึ่งเป็นสโลแกนทางการเมืองที่มีความหมายว่า เมื่อไม่มีอะไรจะกินอีกต่อไป คนจนจะหันไปกินคนรวย

ไบเดนบอกกับสมอลส์ว่า “คุณเป็นตัวป่วนสร้างปัญหาที่ถูกใจผมจริงๆ”

เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันศุกร์ (13) ที่ไบเดนทวิตว่า “อยากดึงอัตราเงินเฟ้อลงใช่ไหม งั้นมาดูให้แน่ใจดีกว่าว่า บริษัทที่ร่ำรวยที่สุดจ่ายภาษีเหมาะสมหรือไม่”

ที่ผ่านมา ไบเดนกล่าวหาแอมะซอนบ่อยๆ ว่า ไม่ได้จ่ายภาษีเท่าที่ควรจะต้องจ่าย เช่น ในปี 2017 และ 2018 แอมะซอนไม่ได้จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลเลย ทั้งที่ฟันกำไรหลายพันล้านดอลลาร์ และหลังจากนั้นมายักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซแห่งนี้ก็ยังคงจ่ายภาษีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน ก็กลายเป็นเศรษฐีแสนล้านดอลลาร์คนล่าสุด ถัดจาก อีลอน มัสก์ ที่เปิดฉากการต่อสู้ทางการเมือง ด้วยการทวิตวิจารณ์ไบเดนรัวๆ เกี่ยวกับแนวคิดในการขึ้นภาษีนิติบุคคลซึ่งเก็บจากพวกบริษัทรวยๆ เพื่อเป็นวิธีต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อในอเมริกาที่กำลังพุ่งพล่าน

มหาเศรษฐีเจ้าของแอมะซอนทวิตว่า ทั้งการขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และการสกัดเงินเฟ้อ ต่างเป็นเรื่องที่ควรนำมาพิจารณาหารือกัน แต่การเอาสองเรื่องนี้มาขยี้รวมกันนั้นเป็นการหลงประเด็นและบิดเบือนข้อมูล

เบโซสยังวิจารณ์ร่างกฎหมายการใช้จ่ายโครงการด้านสังคมเพื่อฟื้นฟูอเมริกาของไบเดน ที่ใช้ชื่อว่า “Build Back Better” ซึ่งเวลานี้ยังติดแหง็กอยู่ในรัฐสภาว่า คณะบริหารไบเดนยังคงพยายามอย่างหนักที่จะอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจซึ่งร้อนแรงเกินไปแล้วและมีปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงอยู่แล้ว

ล่าสุดนายใหญ่แอมะซอนยังตอบโต้ทำเนียบขาวว่า คณะบริหารของไบเดนจะทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อรุนแรงขึ้นไปอีก จากขณะนี้ที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีอยู่แล้ว ถ้าร่างกฎหมายการใช้จ่ายทางเศรษฐกิจและสังคม “Build Back Better” บังคับใช้เป็นกฎหมาย

การโต้แย้งเช่นนี้ ถือว่าขัดกับจุดยืนตลอดเวลาที่ผ่านมาของเบโซส ที่พยายามหลีกเลี่ยงการโต้เถียงทางการเมืองอย่างโจ่งแจ้งต่อสาธารณชน

ทั้งนี้ เบโซสเวลานี้เป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกอันดับ 2 โดยมีสินทรัพย์มูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์ รองจากอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทรถไฟฟ้าเทสลา ที่มีสินทรัพย์ 268,000 ล้านดอลลาร์

(ที่มา: เอเอฟพี, เอพี)

 

นักรบยูเครนที่รง.เหล็กอาซอฟสตัลกว่า 260 คน‘ยอมจำนน’ ยังไม่รู้ชะตากรรมพวกที่ยังเหลืออยู่ ขณะรัสเซียยังตั้งท่า‘จัดหนัก’ผู้ที่เป็น‘นีโอนาซี’

รัสเซียแถลงในวันอังคาร (17 พ.ค.) ว่าทหารยูเครนจำนวน 265 คนในโรงงานเหล็กกล้าอาซอฟสตัล ที่เมืองมาริอูโปล ได้วางอาวุธยอมแพ้แล้ว ทางด้านกรุงเคียฟรีบออกมาเรียกร้องให้มีการแลกเปลี่ยนเชลยศึกกัน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงในวันอังคาร (17 พ.ค.) ว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีนักรบยูเครนซึ่งยังคงอยู่ภายในโรงงานเหล็กกล้าอาซอฟสตัล ที่เมืองมาริอูโปล จำนวน 265 นายได้วางอาวุธและยอมจำนน ซึ่งรวมถึงนักรบ 51 นายที่ได้รับบาดเจ็บและได้รับการส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลในเมืองโนโวซอฟสก์ทางตะวันออกของยูเครนซึ่งรัสเซียควบคุมอยู่

ทางกระทรวงยังเผยแพร่วิดีโอและภาพถ่าย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกทหารที่ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่บนเปลสนาม กำลังถูกลำเลียงออกมา และมีทหารบางคนกำลังถูกฝ่ายรัสเซียตรวจค้นร่างกาย แล้วยังมีหลายคนกำลังถูกนำตัวขึ้นรถโดยสารหลายคัน

ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันนั้น ฝ่ายยูเครน ระบุว่า นักรบ 264 คนจากอาซอฟสตัลถูกนำไปยังเมืองโอเลนิฟกา ที่ควบคุมโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย และโดยที่รองนายกรัฐมนตรีแอนนา มัลยาร์ของยูเครนอ้างว่า นักรบที่อพยพทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ข้อตกลงแลกเปลี่ยนเชลยศึกที่อาจทำกับรัสเซีย

อย่างไรก็ดี เห็นได้ชัดว่านี่น่าจะเป็นเพียงการกล่าวอ้างของเธอ โดยที่กระทรวงกลาโหมยูเครนเอง เพียงแถลงแสดงความหวังว่า จะมีการดำเนิน “กระบวนการแลกเปลี่ยน ... เพื่อนำเอาวีรบุรุษชาวยูเครนเหล่านี้กลับบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

คำแถลงบอกด้วยว่า สำหรับพวกที่ยังคงอยู่ในโรงงานอาซอฟสตัล ทางกระทรวงกำลังทำ “ทุกสิ่งทุอย่างที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดของพวกเขา” ถึงแม้กระทรวงกลาโหมยูเครนยอมรับว่า การที่ตนจะเข้าแทรกแซงทางการทหารเพื่อช่วยเหลือนักรบเหล่านี้นั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ชะตากรรมของทหารเหล่านี้ยังไม่มีความชัดเจน และน่าที่จะกลายเป็นข้อกังวลสนใจกันในยูเครน

ทั้งนี้ ยูเครนกล่าวหารัสเซียเรื่อยมาว่ามีพฤติการณ์ก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน ขณะที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ ในนครเจนีวา ก็มีการตอบสนองอีกขั้นหนึ่ง โดยแถลงในวันอังคาร (17) ว่า กำลังจัดส่งทีมงานภาคสนามคณะใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดขึ้นไป เพื่อเดินทางไปปฏิบัติงานในยูเครน โดยทีมงานนี้ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน, ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช, และเจ้าหน้าที่สนับสนุนรวม 42 คน

ส่วนในกรุงมอสโก ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกเครมลินไม่ตอบคำถามใดๆ ของพวกผู้สื่อข่าว ซึ่งต้องการทราบว่าทหารจากอาซอฟสตัลจะได้รับการปฏิบัติในหน้าที่เป็นอาชญากร หรือเป็นเชลยศึก

เปสคอฟ ตอบเพียงว่า เประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน “ให้คำรับประกันว่าพวกเขาจะได้รับการปฏิบัติอย่างสอดคล้องตามกฎหมายระหว่างประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง”

ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง วยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาล่างของรัฐสภารัสเซีย แถลงว่า “พวกอาชญากรนาซีไม่สมควรถูกนำไปเป็นเชลยแลกเปลี่ยน”

เขาไม่ได้เอ่ยถึงนักรบจากอาซอฟสตัลเป็นการเฉพาะ แต่ที่ผ่านมามอสโกกล่าวอยู่หลายครั้งหลายหนว่า มีพวกสมาชิกของกรมทหารอาซอฟ ซึ่งทางการรัสเซียมองว่าเป็นพวกนาซีใหม่ อยู่ในพวกนักรบซึ่งติดอยู่ในโรงงานเหล็กกล้าในมาริอูโปลแห่งนั้น

ทางฝ่ายกรุงเคียฟ คำแถลงของกองทัพยูเครนระบุว่า ถือว่าทหารในมาริอูโปลได้ปฏิบัติหน้าที่ในการสู้รบลุล่วงแล้ว และเป้าหมายสำคัญขณะนี้คือการรักษาชีวิตทหาร พร้อมยกย่องนักรบผู้ปกป้องมาริอูโปลเป็นวีรบุรุษ

คำแถลงอธิบายว่า การปักหลักต่อสู้ในโรงงานเหล็กกล้าอาซอฟสตัลของนักรบเหล่านี้ ยังช่วยขัดขวางไม่ให้กองกำลังรัสเซียเข้ายึดเมืองซาโปริซเซีย ทางตอนใต้ได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับสถานการณ์การสู้รบโดยรวมในยูเครนนั้น ช่วงหลายวันที่ผ่านมาฝ่ายยูเครนอ้างว่านักรบฝ่ายตนสามารถขับไล่กองกำลังรัสเซียออกจากพื้นที่ใกล้คาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศ

กระนั้น ยังคงมีการสู้รบดุเดือดทั่วพื้นที่ทางด้านตะวันออก สำนักงานประธานาธิบดียูเครนแถลงเมื่อวันอังคารว่า แนวรบทั้งหมดรอบโดเนตสก์ถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่อย่างหนักหน่วง ขณะที่แคว้นเชอร์นิฮีฟ ทางด้านเหนือถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ ทำให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายจำนวนหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ทหารของยูเครนยังเผยว่า กองทัพรัสเซียระดมกำลังเพิ่มและเตรียมพร้อมโจมตีรอบใหม่ใกล้ๆ เมืองสโลวีแยนสก์และเมืองโดรบีชีฟ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองอิซุม

เช่นเดียวกับพื้นที่รอบเมืองหลวงเคียฟ และเมืองลวีฟ เมืองสำคัญทางภาคตะวันตกของยูเครนซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนโปแลนด์ ที่ยังถูกรัสเซียถล่มไม่หยุดหย่อน

ขณะเดียวกัน ฝ่ายรัสเซียรายงานว่า หมู่บ้านในแคว้นเคิร์สก์ทางตะวันตกของรัสเซียที่อยู่ติดกับชายแดนยูเครน ถูกยูเครนโจมตีเมื่อวันอังคาร ทำให้บ้าน 3 หลังและโรงเรียน 1 แห่งได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ และโรมัน สตาโรวอยต์ ผู้ว่าการแคว้น เผยว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยชายแดนกลับมายิงสกัดการโจมตีของยูเครนแล้ว

นอกจากนี้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน มีกำหนดหารือกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนี และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสในวันอังคาร

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)

 

ศรีลังกาได้นายกฯคนใหม่ “รานิล วิกรมสิงเห” ประกาศต้องการด่วน 75 ล้านดอลลาร์ซื้อสินค้าจำเป็น เล็งขายสายการบิน พิมพ์เงินเพิ่มจ่ายเงินเดือนลูกจ้างรัฐ
.
.
.
.
เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีศรีลังกาคนใหม่ รานิล วิกรมสิงเห เมื่อวานนี้(16 พ.ค)แถลงต้องการเงิน 75 ล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่วันเพื่อซื้อสินค้าจำเป็นรวมยารักษาโรคจากต่างประเทศ ยอมรับแผนขายบริษัทสายการบินเพื่อยุติการขาดทุนและสั่งให้พิมพ์ธนบัตรเพื่อจ่ายเงินเดือนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ
.
NDTV ของอินเดียรายงานวันนี้(17 พ.ค)ว่า ในการแถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศคืนวานนี้(16) ผู้นำศรีลังกาคนใหม่ รานิล วิกรมสิงเห (Ranil Wickremesinghe) เปิดเผยแผนที่จะกู้วิกฤตเศรษฐกิจแดนสิงหลครั้งร้ายแรงว่า เขามีแผนที่จะขายบริษัทสายการบินศรีลังกาแอร์ไลน์สออกไป โดยชี้ว่าบริษัทสายการบินขาดทุนร่วม 45 พันล้านรูปีหรือราว 124 ล้านบาทภายในสิ้นเดือนมีนาคมปี 2021 เขากล่าวไม่กี่วันก่อนที่ศรีลังกาจะต้องผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศอย่างเป็นทางการ
.
“มันไม่สมควรให้การขาดทุนนี้ต้องเป็นภาระแก่กลุ่มคนที่ยากไร้ที่ไม่เคยแม้กระทั่งย่างเท้าขึ้นเครื่องบิน” เขากล่าว
.
วิกรมสิงเหซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งได้ไม่ถึงสัปดาห์ประกาศว่า เขาถูกบังคับให้ต้องสั่งพิมพ์ธนบัตรใหม่เพิ่มเพื่อจ่ายเป็นเงินเดือนให้กับบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งจะกลายเป็นแรงกดดันต่อค่าสกุลเงินของประเทศ
.
ทั้งนี้ทั่วทั้งศรีลังกามีน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือในสต็อกเพียงแค่ 1 วันเท่านั้นและรัฐบาลโคลัมโบกำลังทำงานเพื่อที่จะหาเงินดอลลาร์เพิ่มในตลาดเปิดเพื่อจ่ายการขนส่งเชื้อเพลิง 3 ออร์เดอร์ที่รวมไปถึงน้ำมันดิบและน้ำมันเตาซึ่งในเวลานี้เรือสินค้ากำลังทอดสมอรออยู่ในน่านน้ำศรีลังกา นายกรัฐมนตรีวิกรมสิงเหกล่าว
.
รอยเตอร์รายงานว่า ในแถลงการณ์คืนวันจันทร์(16)วิกรมสิงเหกล่าวกับประชาชนทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า ศรีลังกาต้องการเงิน 75 ล้านดอลลาร์ในรูปเงินตราต่างประเทศอีกภายไม่กี่วันเพื่อซื้อสินค้าจำเป็นพื้นฐานเข้าประเทศจากการที่โคลัมโบประสบปัญหาขาดแคลนอย่างหนักทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและยารักษาโรค
.
“ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของพวกเรา พวกเราต้องเตรียมพร้อมเพื่อยอมเสียสละบางประการและเผชิญหน้าต่อความท้าทายในเวลาเช่นนี้”
.
รอยเตอร์รายงานว่า ในการแถลงเขายังชี้ให้ประชาชนว่า เงินทุนสำรองระหว่างประเทศเข้าใกล้ศูนย์จากแต่เดิมที่มีอยู่จำนวน 7.5 พันล้านดอลลาร์เมื่อพฤศจิกายนปี 2019 ส่งผลทำให้ทั้งประเทศจำเป็นต้องมี 75 พันล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่วันข้างหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจศรีลังกายังคงเดินหน้าต่อไปได้ ยาหลักสำคัญที่ต้องนำเข้ากำลังจะหมดลง
.
ทั้งนี้เวลานี้ศรีลังกาขาดแคลนยาจำเป็นจำนวน 14 ประเภทด้วยกัน
.
การตัดกระแสไฟฟ้าในศรีลังกาสามารถเกิดขึ้นยาวนานถึง 15 ชั่วโมงต่อวันเนื่องมาจากปัญหาการขาดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องนำเข้ามาเกือบทั้งหมด
.
NDTV รายงานว่าวิกรมสิงเหประกาศงบประมาณเยียวยามาแทนที่งบประมาณพัฒนาของประธานาธิบดีศรีลังกา โกตาบายา ราชปักษา ที่ยิ่งจะส่งให้สถานการณ์เงินเฟ้อของศรีลังกาอยู่ในขั้นสาหัสมากขึ้น โดยคณะครม.ของเขาจะเสนอต่อรัฐสภาศรีลังกาที่ได้กลับมาเปิดการประชุมอีกครั้งในวันนี้(17)ให้ออกพันธบัตรการคลังจำกัดที่ 4 ล้านล้านรูปีจากเดิม 3 ล้านล้านรูปี คาดการณ์งบประมาณขาดดุล 13% ของตัวเลขจีดีพีของสิ้นเดือนธันวาคมปี 2022

 

FBI เตือนอย่าหลงจ้างสปายแฮกเกอร์เกาหลีเหนือสกิลสูงแฝงตัวหาเงินให้ “คิม จองอึน”
.
.
.
.
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – FBI สหรัฐฯออกคำเตือนภาคเอกชนต่างๆระวังอย่างตกเป็นเหยื่อหลงจ้างสปายแฮกเกอร์เกาหลีเหนือที่แฝงตัวในรูปพนักงานไอทีฟรีแลนซ์สกิลสูงอาศัยประโยชน์การทำงานนอกออฟฟิศทำให้เกิดความเสี่ยงภัยหลากหลายต่อธุรกิจและเป็นการช่วยเหลือโครงการอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือนำภัยสู่สหรัฐฯถือเป็นการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรจากสหประชาชาติและสหรัฐฯในอีกทาง
.
รอยเตอร์รายงานวันนี้(17 พ.ค)ว่า ในคำแนะนำที่ออกมาจากสำนักงาน FBI กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯและกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวว่า ระบุว่ามีความพยายามจากเกาหลีเหนือเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรที่ออกโดยสหประชาชาติและสหรัฐฯและนำเงินกลับเข้าเกาหลีเหนือเพื่อป้อนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และจรวดมิสไซล์ของประธานาธิบดี คิม จองอุน
.
โดยในคำแนะนำที่ออกไปให้กับภาคธุรกิจสหรัฐฯมีเนื้อหาว่า “มีแรงงานไอทีเกาหลีเหนือจำนวนหลายพันคนที่ทำงานจากทั้งในต่างแดนและภายในเกาหลีเหนือเพื่อต้องการรวบรวมรายได้ส่งกลับเข้าไปให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ”
.
และในคำแนะนำยังชี้ว่า “ผู้เชี่ยวชาญไอทีเหล่านี้อาศัยประโยชน์จากความต้องการที่มีอยู่สำหรับความเชี่ยวชาญในด้านไอทีเป็นต้นว่า ซอฟท์แวร์และการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับโทรศัพท์มือถือเพื่อให้ได้รับสัญญาจ้างานแบบฟรีแลนซ์จากลูกค้าทั่วโลกรวมถึงใน อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียตะวันออก”
.
รอยเตอร์ชี้ว่า คำแนะนำระบุว่าพนักงานไอทีฟรีแลนซ์สกิลสูงเกาหลีเหนือเหล่านี้ส่วนใหญ่มีฐานอยู่ในจีนและรัสเซีย และมีจำนวนน้อยกว่าปฎิบัติการมาจากแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยส่วนใหญ่จะอ้างตัวกับนายจ้างว่ามาจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือประเทศในแถบเอเชีย โดยเงินที่ได้มาส่วนใหญ่จะถูกส่งเข้าไปให้กับรัฐบาลเปียงยาง
.
FBI สหรัฐฯได้ชี้ถึงความผิดปกติที่อาจบ่งชี้ว่ากำลังจ้างสปายไอทีแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่บรรดานายจ้างทั้งหลายควรระวังได้แก่ ปฎิเสธที่จะร่วมวิดีโอคอลและเรียกร้องให้จ่ายเงินเดือนในรูปสกุลเงินดิจิทัลคริปโต
.
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่าความเสี่ยงต่อธุรกิจต่างๆที่หลงจ้างเอเจนต์เกาหลีเหนือเหล่านี้ยังรวมถึงเสี่ยงต่อทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทอาจถูกขโมย รวมถึงข้อมูลและเงินทุนและชื่อเสียงของบริษัทที่อาจได้รับผลกระทบและอาจต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายตามมาหลังจากนั้นซึ่งรวมไปถึงการละเมิดต่อการคว่ำบาตรของสหรัฐฯและสหประชาชาติ