ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช
ตัวอิจฉาเริ่มออกอาการหงุดหงิดหลังตุรกีและรัสเซียคืนดีกัน: กลาโหมของสหรัฐประกาศบอกบุคคลากรในกองทัพสหรัฐไม่ควรไปทัวร์เป็นกลุ่มในประเทศตุรกี อ้างความไม่ปลอดภัยหลังเกิดเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมที่สนามบินในอิสตันบูล นั่นแหละมิตรแท้แบบอเมริกันในยามที่เพื่อนต้องการความช่วยเหลือ



----------
คราวนี้มาดูท่าทีของสหรัฐหลังจากที่รัสเซียและตุรกีกำลังจะคืนดีกันบ้างนะครับ วันที่ 30 มิ.ย.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "หลังการโจมตีที่อิสตันบูล เพนตากอน (ขู่ว่า) อาจจะต้องห้ามไม่ให้มีการพาคนอื่นไปด้วยนการไปเที่ยวในตุรกี" (After Istanbul Attack, Pentagon May Require 'Unaccompanied' Tours in Turkey)
Sputnik news ขยายความเพิ่มว่า เนื่องจากมีความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยในประเทศตุรกี ทางกองทัพของสหรัฐกำลังดำเนินขั้นตอนต่างๆ เพื่อห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่พลเรือนและครอบครัวของทหารเดินทางร่วมกันไปยังประเทศตุรกี [กรรม! กลิ่นตุๆ คล้ายกลิ่นนังอิจฉาในละครน้ำเน่าหลังข่าวในทีวีของไทยเริ่มโชยมาแต่ไกลเชียว - ผู้แปล]
รายงานข่าวบอกว่าในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายดาอิชนั้น สหรัฐได้พึ่งพอฐานทัพอากาศ Incirlik ในภาคใต้ของตุรกี เนื่องจากตุรกีกลายเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลโอบามาได้ก็มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยเพิ่มขึ้นเช่นกัน
[ขี้แมวนี่! กลัวว่าการที่ตุรกีกลับไปขอคืนดีกับรัสเซียจะทำให้ทั้งสองประเทศเข้มแข็งขึ้นต่างหาก จากนั้นสหรัฐจะเป็นหมาหัวเน่า เพราะว่าอียูก็จะตั้งกองทัพร่วมกันของตนเองขึ้นมาด้วย - ผู้แปล]
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพนตากอนได้เริ่มมีคำสั่งให้ครอบครัวของกองทัพสหรัฐและบุคคลากรทางการทูตออกจากฐานทัพอากาศแห่งนั้น หลังการโจมตีที่สนามบิน Ataturk ในอิสตันบูลเมื่อวันอังคารนี้ สหรัฐก็อาจจะดำเนินการอีกก้าวหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐที่ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า เพนตากอนกำลังวางแผนที่จะสั่งให้บุคคลากรทั้งหมดของตนเองที่ประจำการอยู่ในตุรกีไม่ให้ออกทัวร์ด้วยกัน
แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเสื่อมทรามของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่กำลังเกิดขึ้นทั่วประเทศตุรกี"
ปัจจุบันนี้สหรัฐมีบุคคลากรของตนเองราว 2,200 คนที่ประจำการอยู่ในตุรกี และมีประมาณ 1,500 คนอยู่ที่ฐานทัพอากาศ Incirlik
รายงานข่าวบอกอีกว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ซึ่งจะต้องสรุปโดยกระทรวงกลาโหม อาจจะลดระยะเวลาในการประจำการในตุรกีลงจากสองปีเป็นหนึ่งปี
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐยังได้เตือนพลเรือนของสหรัฐไม่ให้เดินทางไปยังประเทศตุรกีอีกด้วย โดยอ้างภัยคุกคามจากการโจมตีที่กำลังเพิ่มขึ้น
"ยอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นจากการโจมตีด้วยการก่อการร้ายขณะนี้อยู่ที่ 43 คน เป็นชาวต่างชาติ 19 คน มีการระบุอัตลักษณ์ของผู้ก่อการร้ายแล้วหนึ่งคน และได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยในข้อหามีส่วนร่วมในการก่อวินาศกรรมอีก 13 คน ในจำนวนนั้นเป็นชาวตุรกี 9 คน" Efkan Ala รมว.มหาดไทยของตุรกีกล่าวในสภาเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ "ขณะนี้หลักฐานที่เก็บรวบรวมมาได้ชี้ไปที่ไอซิส (ดาอิช)"
[เป็นไงเล่ามหามิตรอย่างอเมริกา รีบประกาศทันทีเลยว่าตุรกีไม่ปลอดภัย (ซึ่งก็ไม่ปลอดภัยจริงๆ นั่นแหละ) หลังจากเกิดเหตุการก่อการร้ายที่อิสตันบูล แต่วันนี้ปูตินกลับกล้าที่จะออกพระราชกฤษฎีกายกเลิกการห้ามไม่ให้ประชาชนของตนเองเดินทางไปเที่ยวตุรกีเฉยเลย ไม่ใช่ว่าปูตินไม่ห่วงประชาชนของตนเอง หรือพยายามจะส่งประชาชนของตนเองให้ไปเป็นเหยื่อของผู้ก่อการร้ายในตุรกีหรอกนะ
แต่มันเป็นเรื่องของ "ใจ" ที่แสดงออกถึงความจริงใจว่าต้องการจะเป็นเพื่อนกันจริงๆ และก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในยามที่เพื่อนต้องการเสมอ ซึ่งต่างกับสหรัฐที่อวดเบ่งไปทั่วโลกว่าข้านี่แหละคือเจ้าโลก พอเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมากลับหัวหดเป็นไอ้ลูกเต่าซะงั้น ทั้งหลายทั้งมวลนี้ไม่มีอะไรมาก สหรัฐแค่ต้องการจะส่งสัญญาณไปแอร์โดกันว่า อย่าได้แตกแถวหรือหันหลังให้สหรัฐเพื่อไปคบกับรัสเซียอีกเป็นอันขาด ไม่งั้นเราจะไม่ส่งนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันไปเที่ยวประเทศคุณนะ
ฮ่าๆๆ... นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ขนเงินไปเทไว้ในตุรกีนั่นส่วนมากก็คือนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียนะครับ ไม่ใช่อเมริกัน เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่รัสเซียแซงชั่นด้านการท่องเที่ยวตุรกี ปรากฏว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของตุรกีทรุดทันที ไหนหละนักท่องเที่ยวอเมริกันที่จะไปช่วยกู้เศรษฐกิจให้ด้านการท่องเที่ยวให้กับตุรกีแทนรัสเซียหนะ? ไหนหละนักท่องเที่ยวจากอิสราเอล? ไหนหละนักท่องเที่ยวจากซาอุดิอาระเบีย? ไหนหละนักท่องเที่ยวจากอียู? ไม่มีซักราย มีบ้าง เป็นหย่อมๆ ไม่พอที่จะช่วยกู้วิกฤตได้เลย
ถ้าไม่มีจีนกับรัสเซียช่วย ตายแหง๋มๆ แอร์โดกันเอ๋ย คราวนี้รู้แล้วสินะว่าคบกับใครถึงจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน หรือจะคบกับพวกไอซิสและกบฏหัวรุนแรงซีเรียต่อไปก็เชิญ ถนนทุกสายในกรุงอังการาและในอิสตันบูลจะได้มีแต่พวกหัวรุนแรงและผู้ก่อการร้ายเดินชนกันเป็นว่าเล่น นั่นแหละนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ของตุรกี ชอบแบบนั้นก็เอา ตามสบายครับท่าน - ผู้แปล]
+ ทางการตุรกีจับตัวผู้ชักใยการก่อเหตุวินาศกรรมที่อิสตันบูล ประวัติสุดชั่ว!
----------
รายงานล่าสุด RT news บอกว่าหนึ่งในหนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังของการก่อวินาศกรรมที่สนามบิน Ataturk เมืองอิสตันบูลนั้นชื่อ Ahmed Chataev เป็นชาวเชเช่น (/เช็ชเนีย - Chechen) มีหมายจับที่รัสเซียแต่หลบหนีออกนอกประเทศและได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยที่ประเทศออสเตรีย ซึ่งช่วยเป็นเกราะป้องกันไม่ให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีเกี่ยวกับการก่อการร้ายที่รัสเซีย ทางการรัสเซียแจ้งว่านายคนนี้มีบทบาทเป็นผู้นำในการฝึกกลุ่มหัวรุนแรงที่พร้อมจะก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายทั้งในรัสเซียและยุโรปตะวันตก ประวัติของเขาเคยเข้าร่วมกับกองกำลังติดอาวุธชาวอิสลามแบ่งแยกดินแดนในการต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลรัสเซียในสงครามรอบที่สองในเชเชนระหว่างปี 1999 และ 2000 ซึ่งทำให้เขาเสียแขนไปข้างหนึ่งต่อมาได้เป็นตัวแทนของนาย Dokka Umarov ซึ่งครั้งหนึ่งถูกพิจารณาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายหมายเลขหนึ่งทั้งในรัสเซียและยุโรปตะวันตก
Chataev อ้างว่าได้สูญเสียแขนเนื่องเนื่องจากถูกทรมานอย่างหนักในคุกในรัสเซียและถูกทางการของรัสเซียรังแก ในปี 2008 ถูกคุมขังพร้อมกับบางคนที่เป็นชาวเชเชนในเมือง Trelleborg ประเทศสวีเดน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนภายในรถยนต์ของเขา ทำให้เขาติดคุกที่สวีเดนปีกว่า
ในปี 2010 ถูกจับกุมในประเทศยูเครน พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือซึ่งมีไฟล์ต่างๆ ที่มีคำแนะนำและรูปภาพเกี่ยวกับเทคนิคในการประกอบวัตถุระเบิดเพื่อสังหารประชาชนจำนวนมาก รัสเซียได้ร้องขอให้มีการส่งตัวกลับไปดำเนินคดีเนื่องจากมีข้อหาเกี่ยวกับขบวนการก่อการร้าย แต่ศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรป ได้มีคำสั่งให้ยูเครนไม่ให้ส่งตัวเขาไปให้รัสเซีย และองค์กรนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International - ลูกกระเป๋งอีกข้างของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือโจรโดยเฉพาะ) ยังได้เรียกร้องให้ทางการของยูเครนระงับการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปให้รัสเซียด้วย เนื่องจากนายด้วน Chataev อาจจะเผชิญกับการไตร่สวนที่ไม่ยุติธรรม และอาจจะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกทรมานและได้รับการปฏิบัติที่โหดร้ายอื่นๆ ด้วย
เมื่อปีที่แล้วถูกจับอีกครั้งในขณะที่กำลังข้าชายแดนตุรกีและบัลแกเรีย แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ เพราะว่า (พ่อมันเส้นใหญ่นั่งดูดกัญชาอยู่ที่ทำเนียบไร้สีโน่น) ถือว่าการแทรกแซงขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้เน้นย้ำว่านาย Chataev มีสถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรีย และดังนั้นจึงไม่สามารถส่งตัวไปให้กับรัสเซียได้
รายงานข่าวบอกว่า ระหว่างปี 2012-2015 นาย Chataev อาศัยอยู่ในประเทศจอร์เจีย ซึ่งได้เข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย และถูกลงโทษจำคุกในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้าย
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2015 Chataev ออกจากจอร์เจียเพื่อไปยังซีเรีย และได้เข้าร่วมกับขบวนการก่อการร้ายไอซิส ต่อมาก็ได้รับตำแหน่งสูงในกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ในเดือนตุลาคม 2015 กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐได้เพิ่มนาย Chataev ลงในรายชื่อผู้ก่อการร้าย เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดหาสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่ง
เป็นไงหละเด็กดีของแอมเนสตี้ เด็กดีขององค์กรสิทธิมนุษยชนสากลทั้งหลาย พวกนี้มันเป็นองค์กรเลี้ยงโจรปกป้องโจรทั้งนั้นเส้นใหญ่จะตายไป ถูกจับได้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และในหลายประเทศก็ยังหลุดได้เฉยเลย เอาเหอะ ถ้าแอร์โดกันกับโอบามาอยากจะเลี้ยงไอ้เศษมนุษย์รายนี้เอาไว้ก็ตามใจ ผลที่ตามมาก็จะเป็นแบบที่เกิดขึ้นที่สนามบินอิสตัสบูลนั่นแหละ
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
01/07/2559
----------
After Istanbul Attack, Pentagon May Require 'Unaccompanied' Tours in Turkey
https://www.rt.com/news/349063-istanbul-attack-mastermind-asylum/

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/uA7P7bz6RO8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เปิดเผยผู้ก่อการร้ายไอซิสมือระเบิดฆ่าตัวตายที่ก่อเหตุโจมตีสนามบิน Ataturk ในอิสตันบูล คนหนึ่งเป็นชาวรัสเซีย, คนที่สองเป็นชาวอุซเบกิสถาน และคนที่สามเป็นชาวคีร์กิสถาน (30 มิ.ย.59)
-------------
https://www.youtube.com/watch?v=uA7P7bz6RO8

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/oS-SQolQnbs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

คลิปกองทัพซีเรียปฏิบัติโจมตีกลุ่มก่อการร้ายไอซิสที่ฟาร์ม Al-Mallah จังหวัด Aleppo ทางภาคเหนือของซีเรีย รายงานข่าวบอกว่ากองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียสามารถยึดพื้นที่แห่งนี้ได้แล้วประมาณ 90% (30 มิ.ย.59)
------------
https://www.youtube.com/watch?v=oS-SQolQnbs

 

S&Pปรับลดความน่าเชื่อถือEUหลังอังกฤษลงประชามติแยกตัว
โดย MGR Online 1 กรกฎาคม 2559 04:30 น.



เอเอฟพี - สถาบันสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหภาพยุโรปลง 1 ขั้นในวันพฤหัสบดี(30มิ.ย.) ระบุการเติบโตของกลุ่มตกอยู่ในความไม่แน่นอนมากขึ้น ตามหลังผลโหวตแยกตัวของอังกฤษ

"หลังการตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงอังกฤษที่ประสงค์ออกจากอียู จากผลลัพธ์ประชามติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เราได้ประเมินข้อคิดเห็นต่อความเป็นปึกแผ่นภายในอียูใหม่ ซึ่งตอนนี้เรามองมันเป็นเพียงปัจจัยกลางๆไม่ใช่ปัจจัยบวกอีกต่อไปแล้ว" เอสแอนด์พีระบุในถ้อยแถลง

ถ้อยแถลงของเอสแอนด์พี ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจาก AA+ เหลือ AA ยังคงอยู่ในอันดับสูงสุดลำดับ 3 พร้อมกับให้แนวโน้มทรงตัว ซึ่งหมายความว่าสถาบันแห่งนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มเติมในระยะกลาง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์(30มิ.ย.) ทั้งเอสแอนด์พีและฟิตช์ ต่างปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษ โดยอ้างถึงผลประชามติแยกตัวจากอียูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเอสแอนด์พีปรับลดจาก AAA เหลือ AA ส่วนฟิตช์ ปรับลดจาก AA+ เหฃือ AA

ในปี 2016 เยอรมนี, ฝรั่งเศส และอังกฤษ สนับสนุนงบประมาณโดยรวมของอียู คิดเป็น 21 เปอร์เซ็นต์, 16 เปอร์เซ็นต์ และ 13 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

S&P

 

Jeerachart Jongsomchai



... "มุสลิมรัสเซียโจมตีสนามบินตุรกี และ ซีไอเอ โจมตีสถานทูตตัวเองในมอสโกว์ ? ... สงครามข่าวสารหลอกคนทั่วโลก เพื่ออเมริกาจะผ่านกฏหมายไปรบในซีเรีย"
... ขณะที่มีข่าวออกมาจากทางการ "ตุรกี" ว่า มีการจับผู้ต้องสงสัยในการระเบิดสนามบินตุรกีจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 44 คนแล้ว โดยบอกว่าเป็นผู้ก่อการร้ายชาว รัสเซีย อุสเบคและคีร์กีซ โดยพยายามจะบอกว่าเป็น "อิสลาม" และ "รัสเซีย"
... จะสังเกตว่า ข่าวลักษณะนี้มีการสรุปง่ายๆภายในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งจะต่างจากเรื่องราวในอดีต ที่บอกว่าเราว่า นานๆไป ความจริงที่แท้จริงจะถูกเปิดเผยในภายหลังว่า ใครอยู่เบื้องหลังอีกทีหนึ่ง
... จะสังเกตว่า ข่าวนี้จะทำให้ "คนตุรกีและชาวมุสลิมที่เอียงข้าง" ไม่พอใจ "รัสเซีย" ขึ้นมาทันที ( ยุให้ตุรกีและรัสเซียแตกแยกกัน ย้ำอีกหมัดซ้ำจากกรณียิงเครื่องบินรัสเซียตกริมชายแดนซีเรีย ) รวมทั้งคนยุโรปที่ไม่ชอบมุสลิมอยู่แล้ว ยิ่งจะไม่ชอบมุสลิมมากขึ้นกว่าเดิม เรียกว่า "ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว" คนทั่วโลกทั่วยุโรป จะโกรธเกลียด ทั้ง "มุสลิม" และ "รัสเซีย" ไปพร้อมๆกัน ทั้งๆที่การตรวจสอบหลักฐานหรือชันสูตรก็ยังไม่เรียบร้อย แม้ทางการตุรกีเองยังไม่กล้าระบุอะไร แต่เหมือนมีธงตั้งไว้แล้วว่ามี "ไอซิส" คือแพะ โดยบอกว่านักรบเหล่านั้นข้ามดินแดนผ่านตุรกี เข้าไปใน "อิรักและซีเรีย" ซึ่งทางการข่าว "รัสเซีย" ก็บอกว่า ตุรกีเองที่หนุนการเงินและการค้ากับไอซิสเช่นการลับลอบค้าน้ำมันเถื่ิอน โดยมี "อิสราเอล" คอยหาตลาดและประสานการขนส่งให้
... ที่น่าสงสัยคือ สื่อที่เข้าข้างรัฐบาลตุรกีอย่าง Yeni Safak นั้นบอกว่า มือวางระเบิดนั้นมาจากเมือง Dagestan ที่เป็นดินแดนแถว "เชชเนีย" ดินแดนที่ออกข่าวทั่วโลกว่าเป็นดินแดนอิสลามในรัสเซีย แต่ที่ทั่วโลกยังไม่รู้ก็คือว่า ซีไอเอ จาก "อเมริกา" นั้นเองที่ส่งเสริมทั้งทางการเงินและการฝึกทหารให้มุสลิมเชชเนีย เพื่อจะเอาไว้เป็นหอกข้างแคร่กับ "รัสเซีย" ในยามที่อ่อนแอช่วงการระเบิดของอดีต "โซเวียตรัสเซีย" ใหม่ๆ และเพื่อจะยึดดินแดนเอาเป็นทางเดินท่อแก๊สจากทะเลสาปแคสเปียนมาส่งต่อขายให้ยุโรปต่อไป
... ขณะที่อีกสื่อใหญ่ตุรกีอย่าง Hurriyet ก็กล้าระบุชื่อเลยว่าเป็นนาย Osman Vadinov ที่กำลังปฏิบัติการในซีเรีย ที่ทางการ "รัสเซีย" ก็มีปฏิกิริยาแบบทันควันว่า บอกว่ากำลังขอตรวจข้อมูลกับทางตุรกีก่อนว่ามาอย่างไร ขณะที่โฆษกของหน่วยราชการลับของคีร์กีซสถาน บอกว่ากำลังสืบสวนข้อมูลอยู่ ขณะที่ อุซเบกิสถาน ไม่ได้มีปฎิกิริยาใดๆ กับข่าวนั้น
... ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกเขารู้แล้วว่า ซีไอเอ หนุน กลุ่ม "โบโกฮารัมและอัลชาบับ" กลุ่มทหารรับจ้างที่อเมริกาบอกว่าต้องติดป้ายอิสลามด้วย เพื่อจะใส่ร้ายอิสลาม และสกัดอิทธิพลจีนที่ไปลงทุนมากมายในอาฟริกา
... แต่กรณีศึกษาใน 9/ 11 นั้นสอนให้เรารู้ว่าอย่าเพิ่งเชื่ออะไรง่ายๆ ตามหลัก "กาลามะสูตร" และใครกันแน่ที่เป็นคนเขียนบทเรื่องราวร้ายแรงเหล่านั้นในท้ายที่สุด
... และล่าสุดทางข่าว "รัสเซีย" บอกว่า ซีไอเอ ของ "อเมริกา" เองที่โจมตีสถานทูตตัวเองที่เป็นซีไอเอในคราบนักการทูตทำร้ายเจ้าหน้าที่รัสเซียเองก่อน ... เป็นการ แก้ข่าวจากฝ่ายอเมริกาก่อนหน้านี่ ที่ทางวอชิงตันโพสต์ออกข่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตชาวรัสเซียหน้าสถานทูตได้ทำร้ายนักการทูตอเมริกา
... โดยโฆษกรัฐมนตรีรัฐเซียบอกว่า ทางชาว "อเมริกา" คนนั้นที่ทางรัสเซียบอกว่าเป็น ซีไอเอ เป็นคนโจมตีเจ้าหน้าที่การ์ดที่หน้าสถานทูต "อเมริกา" ในกรุงมองโกว์เอง ในขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามจะตรวจสอบบัตรประจำตัวของชายคนนั้น ขณะที่เขาใส่หมวกและลงจากรถกำลังเร่งเดินผ่านจะเข้าไปในสถานทูตอเมริกา เมื่อเจ้าหน้าที่สกัด ก็โดนชายคนนั้นทำร้ายศอกใส่แล้ววิ่งหนีเข้าไปในสถานทูต โดยทางการรัสเซียบอกว่าชายคนนั้นเป็น "ซีไอเอ" ที่ทำงานปกปิดในคราบนักการทูตอเมริกัน
... It was later revealed that the man who attacked the officer was in fact a CIA agent, who worked in Russia under diplomatic cover
... ประเด็นคือ ตอนนี้คือช่วง "สงครามข่าวสาร" เพื่อผลลัพท์อะไรบางอย่าง ที่เราเป็นฝ่ายรับข่าว ต้องคอยไตร่ตรองรับฟังแบบคอยตรวจสอบตลอดเวลา ไม่เลือกที่รักมักที่ชัก เพราะทั้งฝ่ายอเมริกาและรัสเซียอาจจะ สร้างข่าวขึ้นมาก็ได้
... "ผลลัพท์" ที่น่าสงสัยคือ กำลังจะมีการออก "กฏหมาย H.R.4731" ในสภาคองเกรซของ "อเมริกา" ให้ผ่านการอนุมัติให้ อเมริกาส่งทหารไปรบในซีเรียให้ได้ ในปีหน้านี้ เพราะยิ่งกระแสคนโกรธเกลียด ไอซิส มากเท่าไหร่ โอกาศที่กฏหมายจะผ่านก็ยิ่งมีมากเท่านั้น
.
https://www.rt.com/news/349058-cia-us-embassy-moscow/
Istanbul airport bombers were Russian, Uzbek, Kyrgyz: Turkish official | Reuters

 

Ple Wongchana Pinkaew

ชาวเบร็กซิทเสียใจอยากกลับไปโหวตใหม่เลือกอยู่ต่อ? A Brexit Re-Vote? People are already regretting voting to leave the EU! ที่มา : KOMCHADLUEK.NET



อียูจี้อังกฤษส่งจดหมายหย่าทันทีหลังลงประชามติขอแยกทาง เบร็กซิทบางคนสำนึกเสียใจ ไม่น่าโหวตออก นึกไม่ถึงเสียงตัวเองจะมีความหมาย บ้างโบ้ยถูกหลอกข้อมูล
ความคืบหน้าหลังจากที่สหราชอาณาจักร (ยูเค) ตัดสินใจเลือกอนาคตใหม่ ด้วยการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ผ่านการลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน ที่ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีของนายเดวิด คาเมรอน ลาออกจากตำแหน่ง กระทบตลาดหุ้นตลาดเงินทั่วโลก ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ความสัมพันธ์ระหว่างอียูกับยูเคย่ำแย่ลงชั่วข้ามคืน เมื่อแกนนำยุโรปพากันออกมากดดันให้อังกฤษเริ่มกระบวนการแยกทางซึ่งเป็นการแปรพักตร์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เกือบ 60 ปีโดยเร็ว
นายคาเมรอน ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนตุลาคม และให้ผู้ที่มารับตำแหน่งแทน เป็นผู้นำเจรจาพาอังกฤษออกจากอียู ตามมาตรา 50 สนธิสัญญาลิสบอน ที่วางกรอบเวลาสำหรับการออกจากเป็นสมาชิกไว้ 2 ปี ทันทีที่ประกาศใช้มาตรานี้
แต่นายฌอง คล็อด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ให้สัมภาษณ์สื่อเยอรมันว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดรัฐบาลอังกฤษต้องรอถึงตุลาคมจึงค่อยตัดสินใจส่งจดหมายหย่าไปยังบรัสเซลส์ และต้องการให้เกิดขึ้นทันที
อีกด้านหนึ่ง รัฐมนตรีต่างประเทศ 6 ประเทศสมาชิกอียูดั้งเดิม ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ เบลเยียมและลักเซมเบิร์ก ประชุมร่วมกันที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นการประชุมฉุกเฉินเวทีแรกของการประชุมต่อเนื่องอีกหลายระดับและหลายเวทีในสัปดาห์หน้า เพื่อรับมือสถานการณ์หลังอังกฤษ ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองรองจากเยอรมนีและใหญ่อันดับสามของอียูในแง่ประชากร ต้องการออกจากการเป็นสมาชิก
นายฟรังค์ วาลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี กล่าวก่อนร่วมประชุมว่า ไม่อาจยอมให้อียูจมสู่ความซึมเศร้าและเฉื่อยชาหลังการประชามติครั้งนี้ได้ และมั่นใจว่าทั้ง 6 ประเทศจะสามารถส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้ใครมาพรากยุโรปไปจากเรา
รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีกล่าวด้วยว่า สหภาพยุโรปเป็นโครงการสันติภาพและเสถียรภาพที่ประสบความสำเร็จ และมีความปรารถนาแรงกล้าภายในกลุ่มที่จะปกป้องกันและเสริมความเข้มแข็ง
ขณะที่ นายฌอง มาร์ค เอโรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสกับเยอรมนี กลไกหลักขับเคลื่อนการบูรณการอียู กลุ่มประเทศที่ถือกำเนิดจากความมุ่งมั่นผลักดันสันติภาพยั่งยืนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง จะเสนอแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม เพื่อทำให้อียูมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้อังกฤษเริ่มกระบวนการถอนตัวโดยเร็ว
ทั้งนี้ หลังประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศในวันเสาร์แล้ว อียูจะจัดประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันอังคารที่ 29 มิถุนายน ซึ่งนายมาร์ค เอโรต์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ จะต้องเจอแรงกดดันมหาศาลในที่ประชุมว่าต้องเร่งกระบวนการเจรจาออกจากอียู
ส่วนที่อังกฤษ สื่อหลายสำนักรายงานว่า ไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากผลการลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ออกมาว่า สหราชอาณาจักรตัดสินใจเลือก “เบร็กซิท” หรือออกจากการเป็นสมาชิกอียู ปรากฏว่ามีคนที่ออกเสียงกาเลือกช่อง Leave หรือออกจากอียู กลับรู้สึกเสียใจกันหลายคน โดยมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่ให้เหตุผลว่า คิดไม่ถึงว่าเสียงของเขาจะมีความหมาย
โดยในระหว่างให้สัมภาษณ์ต่อวิคทอเรีย ไลฟ์ พิธีกรของบีบีซี “อดัม” ที่โหวตออกจากอียู กล่าวว่า ไม่คิดว่าคะแนนเสียงของตนจะกลายเป็นเรื่องขนาดนี้ เพราะคิดว่าฝ่ายอยู่กับอียูจะชนะ
อดัม ที่เชื่อว่าฝ่ายอยู่กับอียูชนะแต่โหวตตรงข้าม กล่าวด้วยว่า ช่วงเวลาไม่แน่นอนที่กำลังจะต้องเผชิญในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เริ่มขยายชัดแล้วตอนนี้ และรู้สึกกังวลมาก
นับจากเผยความรู้สึกออกไปผ่านสื่อ ชาวสื่อสังคมออนไลน์พากันวิจารณ์เซ็งแซ่กับความคิดที่ว่า คะแนนเสียงของตัวเองไม่มีความหมาย และโหวตเลือกฝ่ายที่ไม่ได้สนับสนุนอย่างแท้จริง แต่ปรากฏว่า อดัมมีเพื่อนที่คิดแบบเดียวกันอีกหลายคน เช่น แมนดี ซูที นักศึกษาที่ให้สัมภาษณ์ต่อ ดิ อีฟนิง สแตนดาร์ด กล่าวว่า หากทำได้ก็อยากกลับไปยังคูหาอีกครั้ง และเปลี่ยนไปกา Remain อยู่กับอียูต่อไป
ต่อมายังให้สัมภาษณ์ต่อไอทีวีว่า เธอ พี่สาวสองคน และพ่อแม่ เสียใจ เมื่อเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และอยากจะโหวตอีกแบบหากได้โอกาสหนสอง ช็อกที่สุดสำหรับเธอคือ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีประกาศลาออก ซึ่งครอบครัวของเธอไม่คาดคิดว่าจะเป็นแบบนี้
คาดว่าจะมีคนในสหราชอาณาจักรมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เสียใจที่โหวตออกจากอียู โดยจากสื่อสังคมออนไลน์มีบางคนอ้างว่าถูกฝ่ายรณรงค์ให้ออก หลอกด้วยเหตุผลชี้นำผิดๆ บ้างก็เสียใจที่เห็นผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ตามมา
@ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งทวิตว่า โหวตออก เพราเชื่อในคำโกหก
ทวิตนี้มีขึ้นหลังจากนายไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรคยูเค อินดิเพนเดนซ์ (ยูคิบ) แกนนำหาเสียงออกจากอียู ยอมรับในรายการ กู๊ด มอร์นิง บริเทน ว่า ข้อมูลที่ฝ่าย Leave ใช้หาเสียงว่า ยูเคต้องจ่ายเงินสมทบ 350 ล้านปอนด์แก่อียูทุกสัปดาห์ แทนที่จะนำไปให้แก่สำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติ เป็นข้อมูลผิดพลาด
นอกจากนี้ มีผู้สนับสนุนให้อยู่ต่อในสหภาพยุโรปกว่า 8 แสนคน ร่วมลงชื่อคำร้องออนไลน์ไปยังเว็บไซต์รัฐสภาเพื่อขอลงประชามติครั้งที่สอง จนเว็บไซต์ล่ม ในคำร้องเสนอให้ตั้งกฎว่าหากฝ่าย Leave หรือ Remain ได้คะแนนไม่ถึง 60% จากจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียง 75% ควรจัดให้ลงคะแนนอีกรอบหนึ่ง ซึ่งจากรายชื่อในคำร้องบ่งว่าส่วนมากมาจากเมืองใหญ่ในอังกฤษ โดยเฉพาะจากลอนดอน ซึ่งเป็นเขตที่มีคะแนนหนุนอยู่ต่อในอังกฤษหนาแน่นที่สุด
นอกจากนี้ยังมีคนร่วมลงชื่อเกือบ 1 แสนในคำร้องที่ขอให้นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอน ประกาศให้ลอนดอน ซึ่งเป็นเมืองนานาชาติ เป็นเอกเทศจากยูเค และสมัครเป็นสมาชิกอียู
คณะกรรมการรับคำร้องที่กำกับดูแลระบบนี้ จะพิจารณาว่าคำร้องใดมีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 1 แสนคน ควรนำเข้าหารือในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคณะกรรมการมีกำหนดประชุมในวันอังคารนี้
news and photo ชาวเบร็กซิทเสียใจอยากกลับไปโหวตใหม่เลือกอยู่ต่อ  
http://media1.s-nbcnews.com/j/newsc...9493e5134982482796e0.nbcnews-ux-2880-1000.jpg

 

ข้าราชการทุจริต"ล็อต4" กว่า"90ชื่อ"ถึงมือ"บิ๊กตู่"แล้ว +โพสต์เมื่อวันที่ : 29 มิ.ย. 2559 ทีมงานครูบ้านนอก เตรียมรับชะตากรรมที่ก่อไว้!

ศอตช. ชงรายชื่อข้าราชการพัวพันทุจริตล็อต 4 ให้นายกฯใช้มาตรา 44 โยกจากตำแหน่งแล้ว รายงานระบุอึ้ง มีกว่า 90 รายชื่อ ด้านไฟประดับ กทม.อยู่ระหว่างตรวจสอบ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) กล่าวว่า ศอตช.ได้เสนอรายชื่อข้าราชการล็อตที่ 4 ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต เพื่อให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 โยกย้ายออกจากตำแหน่งแล้ว โดยย้ำว่าตนไม่ทราบจำนวนว่ามีรายชื่อข้าราชการเท่าใด และเป็นบุคคลใดบ้าง เพราะเชื่อมั่นในการทำงานของหน่วยตรวจสอบที่เกี่ยวข้อง 4-5 หน่วยงานว่าต้องมีหลักฐานชัดเจน ส่วนเรื่องที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ตรวจสอบทุจริตโครงการไฟประดับของกทม.นั้น ตนยังไม่เห็นเรื่อง คาดว่าอาจอยู่ระหว่างขั้นตอนการทำงานของเลขานุการศอตช. รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับรายชื่อข้าราชการเกี่ยวข้องกับการทุจริตล็อตที่ 4 มีประมาณ 90 รายชื่อ ส่วนการตรวจสอบไฟประดับของกทม. ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการทำงานของสตง. ที่มา เดลินิวส์ วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2559 เวลา 17.12 น.

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ :

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jul 1) ธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์แจงไม่มีมาตรการลดค่าเงินหยวนเพื่อฉวยประโยชน์การค้า: ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยผ่านแถลงการณ์ออนไลน์ว่า จีนมิได้มีความตั้งใจที่จะลดค่าเงินหยวน เพื่อฉวยประโยชน์ทางการค้าโลก และไม่มีมาตรการลดค่าเงินในระยะยาว
ทั้งนี้ เงินหยวนยังคงมีเสถียรภาพ แม้ว่า เศรษฐกิจโลกจะผันผวนจากการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นภายหลังที่สื่อได้รายงานเกี่ยวกับการปรับตัวลงอย่างรุนแรงของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนในช่วงสิ้นปี
PBOC ออกมาแถลงว่า "รายงานหลายแหล่งก่อให้เกิดการเข้าใจผิดและส่งผลลบต่อตลาด รวมไปถึงการเก็งกำไรค่าเงิน เราขอประณามการกระทำซึ่งไร้ความรับผิดชอบและขัดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ"
นอกจากนี้ PBOC ยังเพิ่มเติมว่า ค่าเงินหยวนมีแนวโน้มที่จะยังคงเสถียรภาพในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของจีนนั้นแข็งแกร่ง
เศรษฐกิจจีนจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องและดุลการชำระเงินยังคงมีกำไร เนื่องจากความสมบูรณ์ของทุนสำรองในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสากล (Forex) เงื่อนไขทางการเงินอันมั่นคง และระบบการเงินที่เสถียร
ประเทศจีนจะปฏิรูปตลาด Forex และปล่อยให้ตลาดมีบทบาทในการชี้ขาดค่าเงินต่อไป
นับเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ที่ PBOC ได้ออกมาตอกหน้ารายงานอันบิดเบือนจากสื่อบางสำนัก รวมถึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์รายงานของสำนักข่าวต่างชาติเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยของจีนด้วย
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มลฑา ชัยธำรงค์กูล/สุนิตา

http://news.xinhuanet.com/english/2016-06/30/c_135479144.htm

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jul 1) วุฒิสภาสหรัฐไฟเขียวร่างกฎหมายอุ้มเปอร์โตริโกแก้ไขปัญหาหนี้ ก่อนส่งต่อโอบามาลงนาม: วุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติร่างกฎหมายให้ความช่วยเหลือเปอร์โตริโกในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประเทศ ในการลงคะแนนรอบ 2 ด้วยคะแนนเสียง 68-30 เสียงเมื่อวานนี้ เพียง 2 วันก่อนที่เปอร์โตริโกอาจผิดนัดชำระหนี้เกือบ 2 พันล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียง 297-127 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยืนยันว่าจะลงนามรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมขอบคุณสภาคองเกรสที่ได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้
ทั้งนี้ เปอร์โตริโกเป็นเกาะที่อยู่ภายใต้อาณัติการปกครองของสหรัฐ และพลเรือนได้รับสัญชาติอเมริกัน แต่เปอร์โตริโกไม่ได้มีสถานะเดียวกันกับรัฐอื่นๆของสหรัฐ ซึ่งทำให้เปอร์โตริโกไม่สามารถยื่นขอรับการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลายตามมาตรา 9 เหมือนกับที่เมืองดีทรอยต์ และรัฐมิชิแกนดำเนินการในปี 2013
ขณะนี้ เปอร์โตริโกมีหนี้สาธารณะราว 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ไม่สามารถชำระคืนแก่เจ้าหนี้ และมีกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ก.ค.ที่จะต้องชำระหนี้ 1.9 พันล้านดอลลาร์
ร่างกฎหมายที่ผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฉบับนี้ จะกำหนดให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อทำการปรับโครงสร้างหนี้วงเงิน 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ของเปอร์โตริโก
เปอร์โตริโกมีอัตราความยากจนสูงถึง 45% ท่ามกลางปัญหาอัตราว่างงานที่พุ่งสูง ขณะที่ประชาชนจำนวนมากพากันทิ้งประเทศ และไปอาศัยอยู่ในสหรัฐ
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
ความคืบหน้าล่าสุด Puerto Rico set to register largest default to date

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jun 30) ปอนด์ดีดตัวรับข่าวบอริส จอห์นสันประกาศถอนตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม
0.4% แตะระดับ 1.3473 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันนี้ หลังมีข่าวว่า นายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ประกาศถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม
นายจอห์นสันเป็นผู้รณรงค์คนสำคัญที่ให้อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรปในการลงประชามติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ปอนด์ทรุดตัวลงต่ำสุดในรอบ 31 ปี
การประกาศถอนตัวของนายจอห์นสัน หมายความว่าเขาจะไม่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ แทนนายเดวิด คาเมรอน ที่ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งก่อนหน้านี้
"หลังจากที่ได้ปรึกษาสมาชิกพรรค และจากการพิจารณาสถานการณ์ในรัฐสภาขณะนี้ ผมก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค" เขากล่าว
อย่างไรก็ดี นายจอห์นสันกล่าวว่า เขาจะให้การสนับสนุนรัฐบาลของพรรคอนุรักษ์นิยมชุดต่อไปในทุกวิถีทาง
การประกาศถอนตัวของนายจอห์นสัน ส่งผลให้ขณะนี้ นางเทเรซา เมย์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของสหราชอาณาจักร และนายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรียุติธรรม เป็น 2 ตัวเก็งในการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งผู้ชนะมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษ
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
Ex-London mayor halts bid to be UK prime minister, upends race | Reuters

 

China Xinhua News

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/nm5-3Mc5XRI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ปูตินแสดงความเสียใจต่อเหยื่อ ในเหตุโจมตีสนามบินอิสตันบูล
ภายหลังการประชุมกับบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียก็ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหยื่อผู้สูญเสียจากเหตุระเบิดและกราดยิงในสนามบินอิสตันบูล เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในสนามบินอตาเติร์ก ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี และได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 41 ราย

 

รบ.ฝรั่งเศสทำลาย “คลังระเบิดดาวกระจาย” เสร็จสิ้นก่อนกำหนด 2 ปี
โดย MGR Online 1 กรกฎาคม 2559 12:06 น.ล



เอเอฟพี - ฝรั่งเศสได้นำระเบิดดาวกระจาย (cluster bombs) ที่มีอยู่ในคลังแสงออกไปทำลายจนเสร็จสิ้นก่อนกำหนดถึง 2 ปี พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติยุติการสะสมอาวุธร้ายแรงชนิดนี้เช่นกัน

การทำลายระเบิดดาวกระจายซึ่งมีทั้งที่เป็นจรวดหลายลำกล้องและลูกระเบิด “เสร็จสิ้นก่อนครบกำหนดเส้นตายที่ระบุไว้ในอนุสัญญาออสโลถึง 2 ปี” กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.)

ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในร้อยกว่าประเทศที่ได้ร่วมลงนามในอนุสัญญาห้ามใช้ระเบิดดาวกระจาย เมื่อปี 2008 ซึ่งกำหนดให้รัฐภาคีห้ามใช้ ผลิต ส่งต่อ หรือสะสมอาวุธชนิดนี้

กองทัพฝรั่งเศสใช้ระเบิดดาวกระจายครั้งสุดท้ายในสงครามอ่าวเปอร์เซียเมื่อปี 1991 และได้ยุติการผลิตระเบิดชนิดนี้ในปี 2002

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ระเบิดดาวกระจายเป็นต้นเหตุให้มีคนเสียชีวิตหรือพิการทั่วโลกหลายแสนคน

ระเบิดดาวกระจายสามารถทิ้งลงมาจากเครื่องบินหรือยิงจากปืนใหญ่ก็ได้ เมื่อยิงออกไปแล้วจะแตกออกเป็นระเบิดลูกเล็กๆ กระจายตัวเป็นวงกว้าง

ระเบิดบางลูกที่ไม่ทำงานจะตกค้างอยู่ในดิน เป็นภัยต่อชาวบ้านที่อาจเดินไปเหยียบจนถึงแก่ความตาย หรือไม่ก็พิการ และสร้างความลำบากแก่ภาครัฐในการเก็บกู้กับระเบิดเหล่านี้

ลูกระเบิดส่วนใหญ่ยังมีสีสันสดใส ทำให้เด็กๆ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ตกเป็นเหยื่อเมื่อเข้าไปหยิบมันมาเล่น

“รัฐบาลฝรั่งเศสขอประณามอย่างรุนแรงต่อใครก็ตามที่ใช้ระเบิดประเภทนี้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อพลเรือนทั้งระหว่าสงคราม และหลังจากนั้น”

“(ฝรั่งเศส) ขอให้ทุกประเทศที่ยังไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาห้ามใช้ระเบิดดาวกระจาย โปรดเข้าร่วมเป็นภาคี และปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ในอนุสัญญาอย่างเคร่งครัด”

ชาติมหาอำนาจเช่น จีน รัสเซีย และสหรัฐฯ ยังไม่ได้ร่วมเป็นภาคีอนุสัญญานี้ รวมไปถึงอิสราเอล

เมื่อปี 2013 สมาคมผู้พิการสากล (Handicap International) ได้แถลงประณามรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ที่มีการนำระเบิดดาวกระจายออกมาใช้เพิ่มมากขึ้น


ú.

 

“โดนัลด์ ทรัมป์” เล็งส่ง “ทหารนาโต” บดขยี้ไอเอส ลืมสนิทที่เคยด่าว่า “ล้าสมัย”
โดย MGR Online 1 กรกฎาคม 2559 13:02 น.



รอยเตอร์ - มหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะพิจารณาส่งกองกำลังนาโตไปบดขยี้กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) หากได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ ซึ่งถือเป็นการมอบหมายภารกิจแก่กลุ่มพันธมิตรทางทหารที่เขาเองเคยติเตียนว่า “ล้าสมัย” (obsolete)

ทรัมป์ ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน ได้เสนอแนวคิดนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอบีซีนิวส์

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้ตั้งคำถามเรื่อง “ความคุ้มค่า” ของเงินทุนที่สหรัฐฯ ทุ่มเทให้กับนาโต และชี้ว่านาโตจำเป็นต้องปฏิรูปบทบาทเพื่อให้สอดคล้องกับภัยคุกคามในยุคปัจจุบัน

“ผมเห็นด้วยกับการส่งกองกำลังนาโต รวมถึงทหารจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าไปขุดรากถอนโคนพวกไอเอส ยังไงก็ต้องกวาดล้างพวกเขาให้ได้” ทรัมป์ กล่าว

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ยังจำกัดบทบาทของสหรัฐฯ เพียงแค่การโจมตีทางอากาศในซีเรียและอิรักเท่านั้น โดยปฏิเสธที่จะเข้าไปทำสงครามภาคพื้นดิน ขณะที่ฝ่ายรีพับลิกันวิจารณ์ว่านโยบายเช่นนี้อ่อนแอเกินไป และไม่สามารถหยุดยั้งกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงได้

ทรัมป์ ชี้ว่า การมอบหมายภารกิจให้ นาโต ร่วมกันรับผิดชอบ จะช่วยผ่อนภาระแก่กองทัพอเมริกัน

“ผมไม่ต้องการให้ทหารของเราเข้าไปมีส่วนในสงครามครั้งนี้มากเกินไป แต่ควรจะเป็นภารกิจของนาโตมากกว่า... สหรัฐฯ ทุ่มเทงบประมาณมหาศาลให้นาโต เราช่วยคุ้มครองดูแลประเทศอื่นๆ ซึ่งถ้าจะว่ากันตามจริง พวกเขาก็ควรจะดูแลตัวเองในเรื่องของงบประมาณ”

คำแถลงของ ทรัมป์ มีขึ้น พร้อมๆ กับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน เดินทางไปพบกับ โลเร็ตตา ลีนช์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ทั้งที่ ฮิลลารี คลินตัน ภรรยาของเขา กำลังถูกสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ตรวจสอบเรื่องการใช้อีเมลส่วนตัวขณะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ

การพบปะแบบเป็นส่วนตัวนี้เกิดขึ้นบนเครื่องบินของ ลีนช์ หลังจากที่เธอเดินทางไปถึงสนามบินเมืองฟีนิกซ์เมื่อค่ำวันจันทร์ (27 มิ.ย.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ บิล คลินตัน กำลังจะเดินทางออกจากสนามบิน หลังจากที่ไปช่วยภรรยาหาเสียงในวันนั้น

ทรัมป์ ระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานยืนยันคำพูดของเขาที่ว่า ระบบการเมืองสหรัฐฯ กำลังถูกบั่นทอนโดยพวกนักการเมืองอภิสิทธิ์ชน

“เรื่องแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน... คุณถูกตรวจสอบเรื่องอีเมลอยู่แท้ๆ แต่สามีกลับดอดไปคุยกับรัฐมนตรียุติธรรม” ทรัมป์ กล่าวกับเอบีซีนิวส์

คลินตัน ซึ่งเป็นว่าที่ผู้แทนพรรคเดโมแครตที่จะลงชิงชัยกับ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีนี้ กำลังถูกเอฟบีไอซักฟอกเรื่องที่เธอใช้อีเมลส่วนตัวรับส่งข้อมูลขณะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลโอบามาหนึ่ง ซึ่งถือว่าผิดกฎของรัฐบาล และเป็นคดีอื้อฉาวที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเธอมัวหมองไปมาก

ลีนช์ ยืนยันว่า เธอกับ คลินตัน ไม่ได้คุยเรื่องการสอบสวนของเอฟบีไอ หรือภารกิจอื่นๆ ที่กระทรวงยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่

“ดิฉันได้พบกับประธานาธิบดีคลินตันจริง ท่านได้เข้ามาคุยกับดิฉันและสามีบนเครื่องบิน... เราคุยกันเรื่องหลานๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็เรื่องสังคม เรื่องการเดินทาง... แต่ไม่ได้พูดถึงภารกิจของกระทรวง หรือประเด็นอื่นๆ ที่หน่วยงานอื่นกำลังดำเนินการอยู่”

 

ปอกเปลือก ทรราช
ไต้หวันยิงขีปนาวุธซุปเปอร์โซนิก Hsiung Feng III ต่อต้านเรือรบหันหัวรบไปทางจีน แต่กลับจมเรือประมงของตนเองซะงั้น กัปตันเรือเสียชีวิต กรรม!



----------
วันที่ 1 ก.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "ไต้หวันยิงขีปนาวุธซุปเปอร์โซนิกไปทางจีน แต่พลาดไปโดนเรือประมงของตนเอง" (Taiwan misfires supersonic missile in China’s direction, kills own fisherman)
รายงานข่าวบอกว่า ได้มีการยิงขีปนาวุธต่อต้านเรือรบจากเรือลาดตระเวนของไต้หวันไปทางแผ่นดินใหญ่ของจีน ด้วยความผิดพลาด ขีปนาวุธดังกล่าวจึงพุ่งชนเรือประมงของไต้หวันที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร กองทัพจีนไม่ได้ทำการตอบโต้แต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ในระหว่างการจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ปีที่ 95 - 1 ก.ค.59)
ขีปนาวุธ Hsiung Feng III (HF-3) ถูกยิงออกจากเรือลาดตระเวน Chinchiang ขนาด 500 ตัน ซึ่งขณะนั้นกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่ฐานทัพเรือแห่งหนึ่ง ได้เดินทางในระยะ 40 ไมล์ทะเล (75 กม.) (จากชายฝั่ง) และทำให้เรือประมงลำหนึ่งของไต้หวันจมลงสู่ใต้ท้องทะเล
รายงานข่าวบอกว่า แม้ว่าขีปนาวุธดังกล่าวจะไม่ได้ระเบิด ก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ความแรงของขีปนาวุธได้เจาะทะลุเรือประมง สังหารกัปตันเรือ และทำให้ลูกเรืออีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ กระทรวงกลาโหมของไต้หวันรายงาน [ถ้าเป็นสหรัฐก็อาจจะบอกว่าจีนหรือเกาหลีเหนือจมเรือประมงของไต้หวันประมาณนั้นแหละ - ผู้แปล]
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในน่านน้ำนอกชายฝั่งของหมู่เกาะ Penghu ของไต้หวันซึ่งตั้งอยู่ระหว่างช่องแคบที่แยกไต้หวันออกจากแผ่นดินใหญ่ สำนักข่าว Central News Agency (CNA) ของทางการจีนรายงาน CNA กล่่าวว่าดูเหมือนว่าการยิงที่ผิดพลาดในครั้งนี้เกิดจากความล้มเหลวในขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้อง
รายงานข่าวบอกอีกว่ากำลังมีการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว และทางกองทัพได้เริ่มปฏิบัติการเพื่อกู้ขีปนาวุธจากก้นทะเลแล้ว [รวมทั้งกู้ซากเรือประมงด้วย - ผู้แปล]
"เรื่องนี้มีแรงจูงใจจากทางการเมือง หรือเพื่อสร้างวิกฤตในสถานการณ์ที่กำลังรายล้อม นั่นไม่ใช่ประเด็น" รอยเตอร์สอ้างคำพูดของ Сhen Chung-chi โฆษกลาโหมของไต้หวัน ทางกระทรวงกลาโหมของไต้หวันกล่าวว่าไม่ตรวจพบว่าเหตุการณ์นี้นำมาซึ่งการเคลื่อนไหวที่ผิดปรกติจากทางกองทัพจีนในทันทีหลังจากที่เกิดเหตุ
[อึ่มมมม จีนก็คงจะหัวเราะชอบใจอยู่อะนะ ไม่มีเป้านิ่งหรือเป้าเคลื่อนที่อย่างอื่นจะยิง หรือไม่มีอะไรจะยิง แม่มก็ยิงใส่เรือประมงพลเรือนของตัวเองซะงั้น ฝ่ายที่ยิงก็เป็นกองทัพไต้หวัน คนที่ตายและได้รับบาดเจ็บก็เป็นคนไต้หวัน แล้วจะให้จีนแสดงท่าทีอะไรหละ? จีนกับงงอยู่ว่าปธน.หญิงคนใหม่ของไต้หวันกำลังเล่นเกมอะไรของหล่อนโดยเอาชีวิตพลเรือนของตัวเองเป็นเป้านิ่งทดลองขีปนาวุธของตัวเอง - ผู้แปล]
ป.ล. ขีปนาวุธ Hsiung Feng III (HF-3) เป็นขีปาวุธต่อต้านเรือรบ (Anti-ship missile) มีทั้งยิงจากภาคพื้นดินและจากเรือรบ เป็นขีปนาวุธนำวิถี (guided missile) พิสัยทำการ 150-200 กม. (93-124 ไมล์บก หรือ 81-108 ไมล์ทะเล) พิกัดความสูงของการบินอยู่ที่ 125-250 กม. มีความเร็วที่ 2,300 กม./ชม. (ประมาณ 2 มัค) ความยาว 6.096 เมตร น้ำหนัก 3,000 - 3,300 ปอนด์ (1,360.77 - 1,496.85 กก.) ติดตั้งระบบนำวิถีด้วยเรดาร์ภายใน มีการพัฒนาขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2007 จำนวน 250 ลูก ราคาอยู่ที่ลูกละประมาณ 3 ล้านกว่าเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 106 ล้านบาทขึ้นไป HF-3 เป็นรุ่นล่าสุดในตระกูลนี้ของไต้หวัน) มีความแม่นยำมากสำหรับเป้าหมายที่เป็นเรือประมงของพลเรือน ทางการไต้หวันไม่ได้กล่าว คริๆ
อันนี้มโนเล่นๆ นะครัช... เนื่องจาก HF-3 เป็นขีปนาวุธนำวิถีชนิดหนึ่ง ล็อกเป้า กดปุ่มยิง ไม่พลาดแน่ แต่สวรรค์ไม่เข้าข้าง ทำให้จรวดด้าน ระเบิดไม่ทำงาน จึงมีลูกเรือที่ได้รับบาดเจ็บอีกสามคนรอดชีวิตมาเป็นพยานได้ ถ้าเกิดระเบิดทำงาน ก็จะไม่เหลือหลักฐานใดๆ ที่จะชี้ไปว่าเป็นฝีของกองทัพเรือไต้หวันเอง คราวนี้การที่จะโวยวายว่าเป็นฝีมือของจีนก็ย่อมทำได้ไม่ยากใช่ไหม? มุกนี้อังกฤษและตะวันตกบางประเทศเคยใช้กล่าวหาเรือดำน้ำรัสเซียมาหลายครั้งแล้ว
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
02/07/2559
----------
https://www.rt.com/news/349138-taiwan-misfires-supersonic-missile/
Xi: China to contribute wisdom to global governance - China - Chinadaily.com.cn
Taiwan mistakenly fires supersonic missile killing one - BBC News
Taiwan patrol boat accidently fires anti-ship missile
Taiwan Navy accidentally fires anti-ship missile at Chinese mainland | Naval Today
Hsiung Feng III
https://www.washingtonpost.com/worl...cbccd6-3f55-11e6-9e16-4cf01a41decb_story.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Hsiung_Feng_III
https://en.wikipedia.org/wiki/Anti-ship_missile

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข่าวด่วน! ไอซิสอาละวาดในเมืองหลวงบังคลาเทศ มือปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 คนมีประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน และถูกจับเป็นตัวประกันอีกราว 20-40 คน



-----------
1 ก.ค.59 RT news พาดหัวข่าวว่า "วิกฤตจับตัวประกันที่บังคลาเทศ: อย่างน้อยมีผู้เสียชีวิต 1 คน ได้รับบาดเจ็บ 35 คน เนื่องจากมือปืนกราดยิงในย่านสถานทูตในเมืองหลวง" (Bangladesh hostage crisis: At least 1 killed, 35 injured as gunmen storm capital's diplomatic quarte) ส่วน Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "มีประชาชนถูกสังหารอย่างน้อย 2 คน ถูกจับเป็นตัวประกันอีกหลายสิบคนในบังคลาเทศ" (At Least Two People Killed, Dozens of Hostages Taken in Bangladesh)
รายงานข่าวบอกว่า มือปืน (/ผู้ก่อการร้าย) ได้ทำการโจมตีภัตตาคารแห่งหนึ่งในย่านสถานทูตในกรุง Dhaka เมืองหลวงของบังคลาเทศเมื่อวันศุกร์นี้ จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพยาน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายถูกยิงเสียชีวิต และมีประชาชนอีกหลายสิบคนถูกจับเป็นตัวประกัน
ส่วนสถานทูตของสหรัฐในบังคลาเทศส่งทวีตเตอร์แจ้งว่า "มีรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การยิงกันและจับตัวประกันที่ Gulshan 2 กรุง Dhaka กรุณาหาที่หลบภัยและคอยติดตามข่าว" (Reports of shooting and hostage situation in Gulshan 2, Dhaka. Please shelter in place and monitor news. 1 ก.ค.59 เวลา 11.54 PM ตามเวลาท้องถิ่น เกือบเที่ยงคืน)
มีการยิงปืนตอบโต้กันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มชายติดอาวุธที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติในกรุง Dhaka รอยเตอร์สรายงาน
มีประชาชนอย่างน้อย 20 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติถูกจับเป็นตัวประกัน สื่อฯท้องถิ่นรายงานโดยอ้างจากพยานในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายได้รับบาดเจ็บ หนึ่งในนั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงจากตำรวจนครบาลกรุงดากา (DMP) ยืนยัน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิสกล่าวอ้างว่าเป็นฝีมือของตน โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ Amaq ของกลุ่มก่อการร้าย เว็บไซต์ดังกล่าวอ้างว่ายอดความสูญเสียมีมามากกว่า 20 คน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
สำนักข่าว Times of India รายงานว่า ทางการของบังคลาเทศกำลังพยายามคลี่คลายเกลี้ยมกล่อมให้ผู้โจมตีปล่อยตัวประกัน
"พวกเราได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดหลายครั้ง... ตอนนี้มันเงียบแล้ว" พยานคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากภัตตาคารแห่งนั้นประมาณ 1 กม.กล่าวกับสำนักข่าว RT
รายงานข่าวจากสื่อท้องถิ่นบอกอีกว่าการก่อเหตุดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มชาย (ติดอาวุธ) อย่างน้อย 9 คน ซึ่งเดินเข้าไปภายในภัตตาคารประมาณ 21.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น และมีรายงานข่าวว่าได้เปิดฉากยิงปืนและจุดชนวนระเบิด
ลูกจ้างในร้านอาหารแห่งนั้นกล่าวกับ RT ว่าหนึ่งในผู้ร้ายเหล่านั้นมีดาบเป็นอาวุธ และคนอื่นๆ ถือปืน คาดว่ามีการจับประชาชนประมาณ 30 คนเป็นตัวประกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุเอาไว้แล้ว และขณะนี้กำลังวางแผนปฏิบัติการกู้ภัย ผู้บังคับบัญชาตำรวจกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
02/07/2559
----------
At Least Two People Killed, Dozens of Hostages Taken in Bangladesh
https://www.rt.com/news/349188-shooting-bangladesh-hostage-reports/
Dhaka cafe standoff: At least 13 hostages rescued - CNN.com

 

ปอกเปลือก ทรราช



จากมีอีเมล์ที่รั่วไหลออกมาพบว่านาโต้กำลังกดดันให้รัฐบาลโอบามาใช้กำลังเพื่อต่อต้านรัสเซีย สองข่าวนี้ดูเหมือนว่าเพนตากอนกำลังงัดกับทำเนียบขาว ในขณะเดียวกันก.ต่างประเทศของสหรัฐก็เรียกร้องให้ทำเนียบขาวส่งกองทัพเข้าไปในซีเรียอ้างว่าเพื่อปราบปรามไอซิส แต่ทำเนียบขาวปฏิเสธ การเล่นไพ่สองมือแบบ good cop - bad cop เป็นปรกติของรัฐบาลสหรัฐอยู่แล้ว
ภาพจาก © AFP 2016/ FRANCISCO LEONG
-----------
Hacked Emails Reveal NATO Pushed Obama Administration to be Tough on Russia

 

ปอกเปลือก ทรราช



โอบาม่าเปิดเผยตัวเลขการสูญเสียชีวิตของพลเรือนจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศด้วยโดรนสังหารของกองทัพสหรัฐในประเทศปากีสถาน ลิเบีย เยเมน โซมาเลีย และแอฟริกาเหนือ ตั้งแต่ปี 2009 จำนวนทั้งสิ้น 116 ราย แต่องค์กรด้านการตรวจสอบของสื่อมวลชน (Bureau of Investigative Journalism) บอกว่ามีผู้คนราว 3,000 คน ซึ่งรวมทั้งพลเรือน 500 กว่าคนถูกสังหารภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลโอบามา
--------------
Obama Releases Numbers on Civilian Casualties Caused by US Drones
https://www.rt.com/usa/349194-civilians-killed-drone-number/

 

ปอกเปลือก ทรราช



ซีไอเอของสหรัฐจับชายชาวอัฟกันขังคุกลับตั้งแต่ปี 2004 แม้จะรู้ว่าจับผิดตัวและผู้ต้องขังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้ายก็ตาม และจะยังขังต่อไปอีก 4 เดือน เป็นไงเล่าการส่งเสริมด้านสิทธิมนุษยชนของสหรัฐ มิน่าหละก.ต่างประเทศของสหรัฐถึงได้ให้คะแนนตัวเองเป็น Tier 1
-------------
CIA Held Man at Afghan Black Site, Despite Knowing They Had Wrong Person

 

ปอกเปลือก ทรราช
บทเรียนของการใช้อาวุธเพียงค่ายเดียวจากตะวันตก: อิตาลีระงับการจัดส่งอะไหล่ F-16 ให้อียิปต์ อ้างเนื่องจากการเสียชีวิตของนักศึกษาชาวอิตาเลียนในกรุงไคโร



-----------
ข่าวนี้น่าสนใจและควรจะใช้เป็นกรณีศึกษาได้ดีสำหรับพวกโปรอเมริกาหรือโปรตะวันตกที่ชอบเชียร์ให้ใช้อาวุธจากค่ายตะวันตกเท่านั้นโดยไม่มีการถ่วงดุลอำนาจกัน พอเข้าตาจนมาก็จะถูกบีบไข่แบบอียิปต์นี่แหละ
วันที่ 30 มิ.ย.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "แสนยานุภาพของกองทัพอากาศอียิปต์ 'กำลังถูกคุกคาม' หลังจากการตัดสินใจของวุฒิสภาอิตาลี" (Might of Egyptian Air Force ‘Under Threat’ After Italian Senate’s Decision)
เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาวุฒิสภาอิตาลีได้ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับภารกิจของกองทัพฉบับแก้ไข ซึ่งอาจจะนำไปสู่การระงับการส่งมอบอะไหล่เครื่องบินรบ F-16s ไปให้อียิปต์ก็ได้ [ตุรกีฟังแล้วรู้สึกเย็นวูบสะท้านทรวงบ้างหรือเปล่า? ใครแตกแถว หรือเริ่มปันใจให้รัสเซีย โดน! - ผู้แปล]
นี่เป็นก้าวแรกที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งของรัฐสภาอิตาลีที่มีต่อประเทศอียิปต์ หลังเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมนาย Giulio Regeni นักศึกษาปริญญาเอกชาวอิตาลีในกรุงไคโรเมื่อเดือนมกราคมปีนี้
พล.อ. Abdel Rafe Darwish อดีตนายทหารปลดเกษียณจากกองทัพบกของอียิปต์กล่าวกับสำนักข่าว Sputnik ในการให้สัมภาษณ์ว่า การตัดสินใจดังกล่าวสามารถที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่ออียิปต์ก็ได้ (…the decision can be “dangerous for Egypt.”)
"เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจที่อันตรายมากทีเดียวสำหรับอียิปต์ ซึ่งได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแสนยานุภาพทางกองทัพของการบินทางทหาร เนื่องจากอะไหล่บางอย่างหมดอายุการใช้งาน ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีการจัดส่งอะไหล่เหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับประกันว่าเครื่องบินรบ F-16 จะสามารถทำงานได้ตามปรกติ" นายพลกล่าว
พล.อ. Abdel Rafe Darwish ได้กล่าวต่ออีกว่า เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงวิกฤตต่างๆ เช่นนั้น พวกเจ้าหน้าที่ของอียิปต์จะต้องช่วยกันขยันเรียกร้องให้รัฐบาลของตนเองจัดซื้ออาวุธจากแหล่งอื่นๆ บ้าง เนื่องจากการขาดความหลากหลายในตลาดค้าอาวุธของกองทัพอียิปต์ บางประเทศจึงฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบอียิปต์ [ใครหรือครับท่านนายพล? ก็ "มหามิตร" ตัวดีเจ้าของ F-16s นั่นแหละ ท่านนายพลฯ ไม่ได้กล่าว - ผู้แปล]
"หากว่าพวกเรามีอาวุธจากหลายประเทศ พวกเราก็จะไม่ขึ้นตรงต่อเพียงประเทศเดียวในเรื่องของอาวุธและอะไหล่อีกต่อไป" นายพลอียิปต์กล่าว
รายงานข่าวบอกว่าความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นเมื่อร่างของนาย Giulio Regeni อายุ 28 ปีซึ่งกำลังทำปริญญาเอกอยู่ที่เคมบริดจ์ถูกพบในคูน้ำแห่งหนึ่งนอกเมืองไคโร เป็นเวลา 9 วันหลังจากที่หายตัวไปในวันที่ 25 มกราคม
Giulio Regeni เป็นนักวิจัยเชิงวิชาการ สำนักข่าว Ansa ของอิตาลีรายงานว่า Giulio Regeni เขียนงานของเขาเกี่ยวกับสหภาพแรงงานของอียิปต์ให้กับหนังสือพิมพ์ Il Manifesto ค่ายคอมมิวนิสต์อิตาลีด้วย สำนักข่าว Ansa รายงานอีกว่านาย Giulio Regeni ใช้นามแฝงเพราะว่าเขามีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของตนเอง
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าพบร่องรอยการถูกทรมานตามร่างกายของเขาด้วย การเสียชีวิตของเขาส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการทูตระหว่างอิตาลีและอียิปต์ เพราะว่าฝั่งอิตาลีอ้างว่าไม่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนมากพอเกี่ยวกับการทรมานและการฆาตกรรมนักศึกษาชาวอิตาเลียนคนนี้ จบข่าว
[นั่นคือเรื่องการเมืองระหว่างประเทศระหว่างอิตาลีกับอียิปต์ ไม่รู้ว่าทางการอียิปต์หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายผ่านกระบวนการยุติธรรมได้หรือยัง ฉากนอกนั้นอิตาลีพยายามแสดงให้เห็นว่านี่คือมาตรการที่จะกดดันรัฐบาลอียิปต์เกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน สาเหตุมันมีเพียงแค่นั้นจริงๆ หรือ?
ก่อนอื่นมาดูแสนยานุภาพทางกองทัพอากาศของอียิปต์ในปัจจุบันนี้ก่อนกนะครับ ข้อมูลจากวิกิพีเดียบอกว่าอียิปต์ใช้เครื่องบินรบจากหลายประเทศด้วยกัน แต่ที่ค่อนข้างใหม่และทันสมัยนั้นก็มี F-16 ของสหรัฐ มีทั้งสิ้น 240 ลำ ประจำการ 220 ลำ แสดงว่าอีก 20 ลำป่วย/ขาดอะไหล่ และ Dassault Rafale ของฝรั่งเศสอีก 24 ลำ ประจำการ 6 ลำ ที่เหลือก็น่าจะป่วยเช่นกัน มี MiG-21 รุ่นคุณปู่จากโซเวียต 490 กว่าลำ ใช้การได้ประมาณ 33 ลำ ที่เหลือโคม่าไม่มีงบผ่าตัด อ้อมี Chengdu J-7 สมัยคุณปู่ของจีนอีก 150 ลำ ใช้การได้ 60 ที่เหลือป่วยหรือลาพักร้อน เป็นต้น
F-16 เป็นของสหรัฐ และสหรัฐก็น่าจะร่วมทุนผลิตอะไหล่ของบางส่วนของ F-16 ด้วย ถ้าเรื่องนี้ (เรื่องการระงับการขายอะไหล่ F-16 ให้อียิปต์) สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังก็แปลกหละ
แล้วทำไมจะต้องเอาเรื่องเครื่องบินรบมาขู่กันด้วย? อย่าลืมว่าหลังจากที่สหรัฐและนาโต้ปลุกกระแสอาหรับสปริงขึ้นมาแล้ว หลังจากที่โค่นกัดดาฟี่และนำประชาธิปไตยไปแจกในลิเบียจนฝุ่นตลบรบกันทั่วประเทศก็ยังไม่เลิกจนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในเป้าหมายที่นาโต้หมายตาเอาไว้ก็คืออียิปต์นี่แหละ แต่ท่านพล.อ.Sisi ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นประธานาธิบดีของอียิปต์ได้ทำการปฏิวัติยึดอำนาจจากรัฐบาลก่อนซะก่อนที่จะเกิดสงครามกลางเมือง ก็มีการสู้รบสูญเสียชีวิตไปหลายคนจากการก่อจลาจลภายในประเทศอียิปต์เหมือนกัน (ก่อนการยึดอำนาจ)
ต่อมา Sisi ก็ทำให้บ้านเมืองสงบและจัดเลือกตั้ง ตัวเองก็ลงเลือกตั้งด้วย และก็ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี (อันนี้ไม่รู้ว่าพวกลูกกระเป๋งทักแม้วและสหรัฐจะบอกว่าท่านซิซีสืบทอดอำนาจหรือเปล่านะ) แต่ผลก็คือมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองในอียิปต์ แต่ไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลโอบามาต้องการ เพื่อรักษาหน้าตัวเองสหรัฐก็แกล้งทำเป็นสนับสนุนรัฐบาลของปธน.Sisi บ้างด้วยการขายฮ.โจมตี Apache ให้แถมเงินให้อีกหลายพันล้าน แต่กว่าจะจัดส่งได้แต่ละลำนั้นยากยิ่งกว่าเข็ญครกขึ้นภูเขาหรือดึงหางเต่าซะอีก ไม่รู้ว่าจนป่านนี้ส่งมอบครบหมดหรือยัง
สุดท้ายปธน.Sisi ก็หันมาคบกับปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย ตกลงซื้อขายอาวุธกันล็อตใหญ่ ในจำนวนนั้นก็มี MiG-29 จำนวน 50 ลำรวมอยู่ในออร์เดอร์ด้วย งานเข้าหละสิโอบามา เตะหมูเข้าปากหมีซะแล้ว เสร็จปูตินอีกจนได้ นี่ยังไม่รวมฮ.โจมตี Ka-52 รุ่นใหม่ล่าสุดที่จะไปประจำการบนเรือ Mistral สองลำที่ซื้อมาจากฝรั่งเศสเนื่องจากสหรัฐไม่ยอมให้ฝรั่งเศสขายให้รัสเซียตามที่รัสเซียสั่งต่อเอาไว้อีกนะ
ถ้าอียิปต์ยังกินน้ำใต้ศอกของสหรัฐต่อไป กล่าวคือใช้แต่อาวุธค่ายตะวันตกเพียงอย่างเดียว สุดท้ายก็จะตกอยู่ในสถานการณ์จะบีบก็ตายจะคายก็รอด เขาเรียกร้องอะไรก็ต้องจัดให้เขาหมด ไม่มีทางเลือก ไม่งั้นเขาก็จะขู่ว่าจะไม่ขายอะไหล่และอาวุธต่างๆ ให้ ทั้งๆ ที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ของอียิปต์ก็ซื่อสัตย์ต่อสหรัฐและตะวันตกโดยไม่ซื้อเครื่องบินรบรุ่นใหม่ของรัสเซียไปใช้เลยแท้ๆ สุดท้ายก็ถูกโค่นอำนาจจนได้ ไม่ใช่เพื่อน (ไอ้) กันเขาไม่ทำกันแบบนี้นะนี่
แต่พอท่าน Sisi เข้ามาเป็นผู้นำประเทศก็ได้เปลี่ยนนโยบายต่างประเทศทันทีด้วยการหามิตรเพิ่มดีกว่า คบกับรัสเซียไว้เพื่อถ่วงดุลฝ่ายตะวันตก ซึ่งก็ได้ผล แม้ว่าจะถูกหาเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม ส่วนซาอุดิอาระเบียที่คบกับสหรัฐตะวันตกและอิสราเอลโดยไม่ถ่วงดุลของมหาอำนาจให้ดีคิดว่าจะรอดหรือ ระวังให้ดีว่าวันหนึ่งสหรัฐจะเอาประชาธิปไตยไปแจกแบบลิเบียนะครัช - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
02/07/2559
----------
Might of Egyptian Air Force ‘Under Threat’ After Italian Senate’s Decision
https://en.wikipedia.org/wiki/Egyptian_Air_Force
Report: 50 MiG-29s Headed to Africa
Russia said set to sell its top fighter jets to Egypt | The Times of Israel
Mega Sale: Russian Cutting-Edge Fighter Jets Going Global

 

ปอกเปลือก ทรราช

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/Psn2p_45kLA?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เดชไอ้ด้วน (Akhmed Chatayev) จอมบงการผู้ชักใยเบื้องหลังการก่อการร้ายที่สนามบิน Ataturk ในอิสตันบูล ตุรกีเป็นชาวเชเชนที่ทางการของรัสเซียต้องการตัว ประวัติการก่อเหตุยาวเหยียด ถูกจับได้ทีไรก็จะมีองค์กรแอมเนสตี้ของสหรัฐและศาลด้านสิทธิมนุษยชนของอียูคอยปกป้องในฐานะเป็นผู้ลี้ภัย สหรัฐและทางการของตุรกีจะไม่รู้เชียวหรือว่าไอ้หมอนี่เข้าไปอยู่ในตุรกีกำลังวางแผนก่อเหตุตั้งแต่เมื่อไร? เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ เพราะว่ารายนี้ก็คือเด็กของสหรัฐและอียูนั่นเอง เผลอๆ อาจจะเป็นเด็กของแอร์โดกันเองด้วยก็ได้ เมื่อถูกจับตัวได้ที่ตุรกีแล้ว ดูซิว่าครั้งนี้แอร์โดกันจะปล่อยตัวหมอนี่ให้ไปก่อเหตุอีกไหม? (1 ก.ค.59)
---------------
https://www.youtube.com/watch?v=Psn2p_45kLA