ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bus Stops สู่ Bee Stops สหราชอาณาจักรเตรียมขยาย ป้ายรถเมล์รักษ์ผึ้ง Bee bus stops มากกว่า 1,000 แห่ง ปลูกดอกไม้-พืชพื้นเมืองบนหลังคา ดึงดูดนักผสมเกสร หวังช่วยแมลงเติบโต-เก็บฝนคลายร้อน
    .
    ผึ้งเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่มีความสำคัญอย่างมากต่อโลก โดยผึ้งและนักผสมเกสรอื่นๆอย่าง ผีเสื้อ และ hummingbirds ทำหน้าที่แพร่กระจายเกสรพืช ผสมละอองเกสรให้พืชต่างๆที่สำคัญต่อสิ่งมีชีวิต พวกเขาเป็นพื้นฐานสำคัญในระบบนิเวศ โดย 90% ของพืชดอกป่า และ 75% ของพืชอาหาร ขึ้นอยู่กับการมีอยู่ของสัตว์เหล่านี้ในการช่วยผสมเกสร ซึ่งสร้างความมั่นคงทางอาหาร และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยผึ้งสามารถบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้
    .
    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประชากรผึ้งทั่วโลกกำลังลดลงอย่างมาก จากการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลงต่างๆในการเกษตร การตัดไม้ทำลายป่า การหายไปของพื้นที่ธรรมชาติโดยเฉพาะในเขตเมือง สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผึ้ง และพืชต่างๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งปวง
    .
    เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เมือง Utrecht ในเนเธอร์แลนด์ ได้ริเริ่มปลูกพืช และดอกไม้ที่เป็นที่โปรดปรานของแมลงต่างๆ บนหลังคาป้ายรถเมล์หลายแห่ง ที่ช่วยดักฝุ่น เก็บฝนคลายร้อน และเป็นทั้งที่พักมนุษย์ และที่พักผึ้งและแมลงต่างๆในเวลาเดียวกัน เพื่อต่อสู้กับการลดลงของผึ้ง และทำให้พื้นที่เหล่านี้สร้างประโยชน์ รวมทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้คนอีกด้วย
    .
    หลังจากนั้นหลายๆเมืองก็ได้เริ่มดำเนินการแบบเดียวกันนี้ ไม่ว่าจะเป็นใน ยุโรป แคนาดา ออสเตรเลีย สำหรับในสหราชอาณาจักรก็มีป้ายรถบัสรักผึ้งหลากหลายแห่ง และกำลังมีแผนขยายสร้าง bee bus stops กว่า 1,000 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร โดยจะมีการคำนึงถึงพืชพื้นถิ่นที่หลากหลาย เพื่อดึงดูดให้แมลงสิ่งมีชีวิตนักผสมเกสรเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นผึ้ง หรือผีเสื้อ ซึ่งหลังคาแบบรักษ์ผึ้งนี้ยังช่วยดักฝุ่น เก็บฝนคลายร้อนในพื้นที่เมืองอีกด้วย
    .
    ถือเป็นไอเดียดีดีที่ทำให้เมืองเป็นมิตรต่อทั้งผู้คน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆด้วยเช่นกัน

    ที่มา

    https://www.theguardian.com/.../bus-shelter-roofs-turned...

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2097854950342941&id=1523107561151019&mibextid=NwfEIn

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3832432170218535&id=1523107561151019&mibextid=NwfEIn

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=4820668948061514&id=1523107561151019&mibextid=NwfEIn

    https://www.clearchannel.co.uk/.../bee-bus-stops...
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    SPACE: 26 กันยายน 2565 นี้ NASA เตรียมเริ่มทดสอบภารกิจ DART นำยานพุ่งชนดาวบริวารของดาวเคราะห์น้อย เพื่อทดสอบการเบี่ยงเบนวิถีโคจร ซึ่งถือเป็นการทดสอบระบบปกป้องโลกจากอันตรายภายนอกเป็นครั้งแรก หวังช่วยโลกจากวัตถุที่จะพุ่งชนโลกได้ในอนาคต
    .
    ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิการยน 2564 ที่ผ่านมา NASA ได้ปล่อยตัวยานในภารกิจ The Double Asteroid Redirection Test หรือ DART ที่จะทำการทดลองเบี่ยงเบนวิถีโคจรของดาวเคราะห์น้อยคู่
    .
    ดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส (65803 Didymos) จัดเป็นดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก (near-Earth asteroid) มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 780 เมตร โดยมีคู่แฝดของมันเป็นบริวารขนาดเล็กหรือจะเรียกว่าเป็นดวงจันทร์ของดาวเคราห์น้อยดีดิมอสก็ได้ เรียกว่า Dimorphos มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 160 เมตร
    .
    ซึ่งภารกิจทดสอบของ NASA ดังกล่าวมีหินอวกาศ Dimorphos เป็นเป้าหมายของโครงการ โดยมีภารกิจหลักคือการทดสอบเทคโนโลยีที่จะใช้ป้องกันโลกจากการพุ่งชนของวัตถุนอกโลก
    .
    จริง ๆ แล้วดีดิมอสไม่ใช่วัตถุที่จะพุ่งชนหรือเฉียดโลกเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นเป้าหมายที่เหมาะสมในการทดสอบเทคโนโลยีมากที่สุด กล่าวคือ เป็นการทดสอบเบี่ยงเบนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย ด้วยวิธี “Kinetic Impact” หรือการใช้ยานพุ่งชนเป้าหมายด้วยอัตราเร็วสูง โดยเป้าหมายคือการเปลี่ยนวงโคจรของดวงจันทร์ดีมอร์ฟอส ที่กำลังโคจรรอบดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส
    .
    โดย NASA ได้ส่งยานอวกาศขึ้นไปกับ SpaceX Falcon 9 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 หลังจากนั้นเจ้ายานอวกาศภารกิจ DART ได้แยกตัวและท่องอวกาศราวหนึ่งปี
    .
    ล่าสุดทาง NASA ได้เตรียมพร้อมการทดสอบภารกิจดังกล่าวในขั้นสุดท้าย โดยในวันที่ 26 กันยายน 2565 จะเล็งเป้าหมาย ก่อนที่จะให้ยานพุ่งเข้าไปชนกับดาวบริวารของดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส ในความเร็วสูง 24,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    .
    การพุ่งชนของยาน DART จะลดอัตราเร็วในการโคจรของดีมอร์ฟอส และจะมีการเฝ้าสังเกตการณ์จากกล้องโทรทรรศน์บนโลก เพื่อศึกษาว่าดาวเคราะห์น้อยทั้ง 2 ดวงมีการตอบสนองต่อการพุ่งชนครั้งนี้อย่างไร นอกจากนี้ยังมียานขนาดเล็กชื่อว่า “LICIACube” ที่จะแยกตัวออกมาก่อนการพุ่งชน ทำหน้าที่ในการบันทึกการพุ่งชนของ DART อีกด้วย
    .
    NASA หวังว่าการทดสอบครั้งนี้จะทำให้สังเกตุเห็นได้ว่าการโคจรของหินดาวบริวารดังกล่าวได้เบี่ยงเบนไปเพียงเล็กน้อย จากเทคนิคการชนเคลื่อนไหวดังกล่าว เพื่อศึกษาไว้เป็นทางเลือกสำหรับใช้ป้องกันดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็ก ที่อาจส่งผลกระทบต่อโลกในอนาคต
    .
    ขอบคุณข้อมูลบางส่วน สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
    .
    ที่มา

    https://edition.cnn.com/.../nasa-dart-mission.../index.html

    https://www.nasa.gov/.../dart-sets-sights-on-asteroid-target

    https://www.nasa.gov/.../dart-s-small-satellite-companion...

    https://www.theguardian.com/.../nasa-to-crash-spacecraft...

    https://www.space.com/dart-planetary-defense-asteroids...

    https://learningenglish.voanews.com/.../nasa.../6749300.html

    https://www.nasa.gov/specials/pdco/index.html#dart

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=4256594864468928&id=1523107561151019&mibextid=NwfEIn
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จับวัยรุ่นหลอกเอาข้อมูลบัตรเครดิต ไปซื้อไอโฟน

    วัยรุ่น 4 คน อายุระหว่าง 14-16 ปี ถูกจับในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกง โดยหลอกลวงเหยื่อหลายรายสูญเงินประมาณ 230,000 เหรียญฮ่องกง

    ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 ราย ถูกควบคุมตัวในข้อหาได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยการหลอกลวง และพยายามได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยการหลอกลวง ซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี

    ตามรายงานเผยว่าผู้บงการอายุ 15 ปี ได้สร้างเว็บไซต์ไปรษณีย์ปลอม เพื่อล่อให้เหยื่อป้อนข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลบัตรเครดิต

    จากนั้นพวกเขาก็ใช้รายละเอียดบัตรเครดิตที่ถูกขโมยมา เพื่อทำการซื้อออนไลน์กับ Apple สำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงโทรศัพท์ iPhone

    Source : https://www.thestandard.com.hk/.../Kids-caught-committing...?

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    1f468_200d_1f3eb.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png วันที่ 26 ก.ย. 65 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มวลความกดอากาศเย็นปกคลุมภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลให้ร่องมรสุมกำลังแรงเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น มีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก !!!

    1f514.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png ภาคเหนือ : ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ !!!

    1f514.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร
    อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี !!!

    1f514.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png ภาคกลาง : ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี
    กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร !!!

    1f514.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png ภาคตะวันออก : ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด

    1f326.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png ภาคใต้ฝั่งตะวันออก : ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่บริเวณจังหวัดเพชรบุรี
    ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร !!!

    1f514.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png ภาคใต้ฝั่งตะวันตก : ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณกว่า 2 เมตร !!!

    1f514.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png กรุงเทพมหานครและปริมณฑล :
    ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง !!!

    1f300.png 1f534.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png 26c8.png พายุไต้ฝุ่น "โนรู"
    เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (26 ก.ย. 2565) เคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางแล้ว ศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 15.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 119.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 ก.ย. 65 โดยพายุจะอ่อนกำลังลงเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเหนือบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี มุกดาหาร วันที่ 29 ก.ย. 65 ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ #ภาคเหนือ #ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ #ภาคกลาง #กรุงเทพมหานครและปริมณฑล #ภาคตะวันออก #ภาคใต้ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งมีลมแรงในช่วงวันที่ 28 กันยายน - 1 ตุลาคม 2565 !!!

    26c8.png 26c8.png 26c8.png 1f6a3_200d_2640.png ขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ฝนที่ตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มต่ำ ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง !!!

    มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
    26 ก.ย.65
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Guatemala: เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ 2 แห่ง กลางถนนในเมืองทางตอนใต้ของกัวเตมาลา โดยมีรายงานผู้สูญหาย 2 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน

    ภาพหลุมยุบขนาดใหญ่ 2 แห่ง ที่เกิดขึ้นใกล้ ๆ กัน กลางถนนที่อยู่ในเมือง “วิลลานูเอวา” ห่างจากกรุงกัวเตมาลาซิตี้ ของกัวเตมาลาไปทางตอนใต้ราว 20 กิโลเมตร โดยหนึ่งในหลุมยุบที่เกิดขึ้น มีความยาวประมาณ 15 เมตร และมีรถยนต์ตกลงไปด้านใน 1 คัน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถเครนยกรถยนต์คันดังกล่าวขึ้นมาจากหลุม

    มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ 3 คน ทั้งหมดเป็นคนขับและผู้โดยสารที่อยู่ในรถคันที่ตกลงไปในหลุม นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้สูญหายอีก 2 คน

    หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นบริเวณรอบ ๆ ที่เกิดเหตุ พร้อมกับเร่งค้นหาผู้สูญหาย รวมถึงตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบ และประเมินความเสี่ยงเพื่อตัดสินใจว่า จำเป็นต้องอพยพผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือไม่

    อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลว่า กัวเตมาลามักจะมีเหตุหลุมยุบเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีหลายครั้งที่ก่อให้เกิดการสูญเสียขึ้น โดยเมื่อปี 2007 เคยเกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ที่ทำให้บ้านและรถบรรทุกตกลงไปในหลุม และทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย รวมถึงเมื่อปี 2010 ก็เคยเกิดหลุมยุบที่ทำให้อาคารสูง 3 ชั้น หายวับไปกับตา
    ————
    ภาพ: Johan ORDONEZ / AFP

    #TNNWorldNews #กัวเตมาลา #หลุม #หลุมยุบ
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
    ————
    1f4f2.png อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Sep 26, 2022 จับมือถอน! โตโยต้าสั่งปิดโรงงาน มาสด้าจ่อถอนกิจการออกจากรัสเซีย
    .
    โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้ตัดสินใจยุติการดำเนินกิจการและโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าในประเทศรัสเซีย สาเหตุสำคัญมาจากการผลิตรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาซัพพลายชิ้นส่วนรถยนต์สะดุดหยุดลงบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้ โตโยต้ายกเลิกการผลิตจากโรงงานในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมถึงยุติการนำเข้ารถยนต์โตโยต้าจากประเทศญี่ปุ่นมายังรัสเซีย
    .
    ในช่วงเวลา 6 เดือนหลังจากเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ถึงแม้โตโยต้าจะมีการอบรมทักษะการทำงานของพนักงานด้วยความหวังว่าปัญหาต่างๆจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น แต่โตโยต้าไม่สามารถกลับไปเปิดการผลิตรถยนต์ให้เกิดความต่อเนื่องได้ ที่สำคัญ ไม่เห็นสัญญาณใดๆในทางบวกที่จะกลับไปดำเนินกิจการได้อีกในอนาคตสำหรับรัสเซีย
    .
    สื่อรัสเซียน คอมเมอร์แซนท์ ชื่อดังในประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า โรงงานโตโยต้าในรัสเซียมีกำลังผลิตปีละ 100,000 คัน และผลิตรุ่นแคมรี่ และราฟโฟร์นั้น อาจจะถูกขายโรงงานให้กับทุนในท้องถิ่น
    .
    มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปเรชั่น ที่ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เตรียมพิจารณายุติการผลิตรถยนต์มาสด้าในประเทศรัสเซียกับบริษัทร่วมลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์มาสด้าที่เมืองวลาดิวอสตอก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย ในปีที่ผ่านมา มาสด้าขายรถยนต์ได้ 30,000 คันในรัสเซีย

    #มาสด้า #โตโยต้า #รัสเซีย #สงครามรัสเซียยูเครน #สงคราม #ผลิตรถยนต์ #BTimes
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Sep 26, 2022 ช็อคเกินคาด! แม็คโดนัลด์ประกาศขึ้นราคา 60% มิสเตอร์โดนัทขึ้นกว่า 7% ในญี่ปุ่น
    .
    แม็คโดนัลด์ เครือข่ายร้านอาหารฟาสฟู้ดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศปรับขึ้นราคาขายสูงถึง 60% โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 กันยายนนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาขายบิ๊กแม็คจะเพิ่มขึ้นเป็นชิ้นละ 410 เยน หรือ 2.85 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 107 บาท จากเดิมที่ขายในราคา 390 เยน หรือ 101 บาท นอกจากนี้ ราคาขายปลีกที่ปรับขึ้นจะมีเฉลี่ยระหว่าง 10-30 เยนในแต่ละประเภทเมนู
    .
    สาเหตุจากต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตทุกเมนูของแม็คโดนัลด์พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินเยนญี่ปุ่นเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างมากในรอบกว่า 24 ปีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนพุ่งสูงถึงกว่า 60%
    .
    นอกจากนี้ บริษัทดัสกิ้น ซึ่งเป็นเจ้าของมิสเตอร์โดนัท เครือข่ายร้านขายโดนัดชื่อดังระดับโลก ที่ประเทศญี่ปุ่น ประกาศปรับเพิ่มราคาขายปลีกอีก 7.4% มีผลตั้งแค่วันที่ 25 พฤศจิกายนี้เป็นต้นไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก 1f449.png https://bit.ly/3r4nYNE
    .
    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
    ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
    ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
    .
    #แม็คโดนัลด์ #มิสเตอร์โดนัท #แฮมเบอร์เกอร์ #โดนัท #ขึ้นราคา #ราคาแพง #เงินเฟ้อ #เงินเยน #เศรษฐกิจ #เอเชีย #ญี่ปุ่น #BTimes
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Sep 26, 2022 สมัครลืม! กทพ. เล็งเก็บค่ารักษาบัญชีผู้ใช้บัตร “อีซี่พาส” ที่ไม่ใช้งานเกิน 1 ปี 25 บาท/เดือน พบมีกว่า 5 แสนบัตรที่ไม่มีความเคลื่อนไหว แนะใช้ทางด่วนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งเลี่ยงค่าบริการนี้
    .
    การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งถึงการเก็บเงินค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass ที่ไม่เคลื่อนไหว ที่จะเริ่มเก็บตั้งแต่เดือน ต.ค.66 ว่า จากข้อมูลวันที่ 24 ก.ย.65 พบว่า มีบัตร Easy Pass ที่ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือใช้งานเป็นระยะเวลาเกิน 1 ปี มี 546,000 บัตร คิดเป็น 25% ของผู้ใช้ Easy Pass ทั้งหมดที่มีมากกว่า 2.15 ล้านบัตร และในบัตร 546,000 ที่ไม่เคลื่อนไหวมีถึง 441,556 บัตร ที่ไม่เคลื่อนไหวมากกว่า 2 ปี สูงถึง 81% ซึ่งการที่ผู้ใช้บริการไม่นำบัตรไปใช้ และไม่ติดต่อเพื่อยกเลิกการใช้งานบัตร ส่งผลให้ กทพ. มีต้นทุนในการจัดหาบัตรเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งเกิดค่าใช้จ่ายในการจัดการ และดูแลรักษาบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass ที่ไม่เคลื่อนไหว
    .
    กทพ. ได้เปิดให้บริการระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ และส่งมอบบัตร Easy Pass พร้อมอุปกรณ์ให้ผู้ใช้บริการ โดยไม่มีการเรียกเก็บเงินค่าประกันบัตรในการสมัครใช้บริการ โดย กทพ. รับภาระต้นทุนค่าอุปกรณ์บัตร Easy Pass มาตั้งแต่ ปี 55 และได้คืนค่าประกันให้ผู้ใช้ Easy Pass ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่มีผู้ใช้บริการจำนวนหนึ่งที่ไม่นำบัตร Easy Pass ไปใช้ผ่านทางพิเศษ และทำให้ กทพ. มีต้นทุน และค่าใช้จ่าย กทพ. จึงมีความจำเป็นต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass โดยผู้ใช้บริการระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติที่ไม่มีการใช้งานเกิน 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศ กทพ. ใช้บังคับ (1 ต.ค.65) ต้องชำระค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass ในอัตราเดือนละ 25 บาท หรือไม่เกินมูลค่าคงเหลือในบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass

    กทพ. จะทำการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass โดยหักเงินในบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass ทุกเดือน โดยเมื่อจำนวนเงินในบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass ของผู้ใช้บริการถูกหักค่าธรรมเนียมจนไม่มีจำนวนเงินคงเหลือในบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass บัญชีดังกล่าวของผู้ใช้บริการจะถูกปิด และยุติการใช้งานบัตร Easy Pass ทันที (โดยมีจำนวนผู้ใช้ Easy Pass ที่มียอดเงินต่ำกว่า 300 บาท จำนวน 398,716 บัตร คิดเป็น 73 % ของกลุ่มที่ไม่เคลื่อนไหวมากกว่า 1 ปี)
    .
    มาตรการดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) มากยิ่งขึ้นด้วย ทั้งนี้ กทพ. แนะนำให้ผู้ใช้บัตร Easy Pass ขึ้นใช้ทางพิเศษ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียค่าดูแลบัญชี และขอเชิญชวนผู้ใช้ทางพิเศษอัพเดตบัตร Easy Pass เดิม ให้เป็น Easy Pass Plus (+) เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งระบบ M -Flow และ Easy Pass ได้ อีกทั้งยังได้ลุ้นโอกาสขึ้นทางด่วนฟรี 3 ปี อีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ EXAT Call Center โทร. 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก 1f449.png https://bit.ly/3LPXAAI
    .
    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
    ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
    ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
    .
    #อีซี่พาส #ค่ารักษาบัญชีอีซี่พาส #EasyPass #การทางพิเศษ #BTimes
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Sep 26, 2022 เตือนหนึ่งต่อหนึ่ง! ธนาคารยักษ์ชั้นนำระดับโลกชี้เงินปอนด์อาจเกิดวิกฤตเหลือเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐในสิ้นปีนี้
    .
    ธนาคารซิตี้กรุ๊ป อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า แรงกดดันที่มีต่อค่าเงินปอนด์สเตอริงเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐจะมีมากขึ้นหลังจากค่าเงินปอนด์สเตอริงในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ร่วงระนาวอย่างหนักมาทำสถิติอ่อนเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 1.0382 ต่อดอลลาร์สหรัฐ
    .
    นักวิเคราะห์ธนาคารดังกล่าว เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่าค่าเงินปอนด์สเตอริงจะร่วงอ่อนค่าลงระหว่าง 1.05-1.10 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลา 1-3 เดือนจากนี้ แต่ปรากฎว่าค่าเงินปอนด์สเตอริงในตลาดเอเชียเช้านี้กลับร่วงอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงและเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
    .
    นักวิเคราะห์จากธนาคารไอเอ็นจี เนเธอแลนด์ กล่าวว่ามีโอกาสเพิ่มจากเดิมที่ 6% มาเป็น 17% ที่ค่าเงินปอนด์สเตอริงจะร่วงลงมาเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1 ต่อ 1 ภายในสิ้นปีนี้

    ตลาดซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศในเอเชีย กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น วันนี้ 26 กันยายน 2565 เมื่อเวลา 9.15 น. ตามเวลาไทย รายงานว่า ค่าเงินปอนด์สเตองริงเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงหนักมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.0382 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติอ่อนค่าต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์
    .
    สาเหตุจากนายกรัฐมนตรีหญิงอังกฤษทรัสส์ประกาศนโยบายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอังกฤษด้วยการตัดลดภาษี คาดว่ามูลค่าการตัดลดภาษีจะมีสูงถึง 45,000 ล้านปอนด์สเตอริง หรือเสียรายได้จากภาษีถึง 1.85 ล้านล้านบาทในช่วงปี 2026-2027 นายพอล จอห์นสัน ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษานโยการคลัง สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า นับเป็นการปรับขนาดการลดอัตราภาษีที่มากที่สุดในรอบกว่า 50 ปีผ่านมา
    .
    นอกจากนี้ธนาคารกลางอังกฤษ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 เศรษฐกิจอังกฤษชะลอตัว -0.1% หลังจากปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 0.50% ในสัปดาห์ผ่านไป
    .
    ก่อนหน้านี้ ค่าเงินปอนด์สเตองริงเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงหนักมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.103 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 37 ปี
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก 1f449.png https://bit.ly/3BMuf5j
    .
    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
    ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
    ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
    .
    #เงินปอนด์ #ปอนด์สเตอริง #ภาษี #อังกฤษ #สหราชอณาจักร #เศรษฐกิจ #ข่าวด่วน #ดอลลาร์สหรัฐ #ดอลลาร์ #BTimes
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: อนุทิน เตรียมชง ครม. อนุมัติค่าตอบแทน อสม. และ อสส. 1.05 ล้านคน คนละ 2,000 บาท ขอบคุณที่ร่วมต่อสู้โควิดจนสำเร็จ
    .
    วันนี้ (26 กันยายน) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (27 กันยายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,100.61 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน 10,577 คน รวม 1,050,306 คน ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2565 รวม 4 เดือน ในอัตรา 500 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 2,000 บาทต่อคน
    .
    ทั้งนี้ เงินดังกล่าวเป็นค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย เสี่ยงภัย และสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของ อสม. และ อสส. ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิดในชุมชน ในช่วงระยะเวลาที่โควิดยังคงเป็นโรคติดต่ออันตราย
    .
    “รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณเพื่อจ่ายค่าตอบแทนแก่ อสม. และ อสส. ตามนโยบายที่ รมว.สาธารณสุขได้ให้ไว้ว่า จะดูแล อสม. และ อสส. ไปจนกว่าโควิดจะหมดไป เนื่องจากช่วงโควิดแพร่ระบาด อาสาสมัครมีภารกิจมากขึ้น ซึ่งจะต้องไม่เป็นภาระที่อาสาสมัครต้องจ่ายเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมันรถส่งยา ค่าวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ค่าเดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วย และเก็บข้อมูลสุขภาพประชาชน ซึ่งหาก ครม. อนุมัติงบประมาณในครั้งนี้ จะเป็นการสนับสนุน อสม. และ อสส. รวมแล้วเป็นเวลา 30 เดือน หรือ 2 ปีครึ่ง ตั้งแต่มีนาคม 2563 - กันยายน 2565 ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณอาสาสมัครทุกคนที่ได้ร่วมกันทำงานต่อสู้กับโควิดจนสำเร็จ” ไตรศุลีกล่าว
    .
    ไตรศุลีกล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศไทย อสม. และ อสส. นับเป็นกลไกสำคัญที่สนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ จนประเทศไทยสามารถต่อสู้กับโรคระบาดได้สำเร็จ และตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป โควิดได้ลดระดับจากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ทั้ง อสม. และ อสส. จะยังคงเป็นกำลังสำคัญในการเตรียมความพร้อมประเทศเข้าสู่ระยะ Post-Pandemic เช่น การปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ การดำเนินงานตามมาตรการของชุมชน เพื่อให้ชุมชนปลอดภัย
    .
    #TheStandardNews

    ______________________________________

    1f4cc.png
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Cuba: พายุโซนร้อน “เอียน” ได้ทวีกำลังแรงขึ้น และจะยกระดับเป็นเฮอริเคน ขณะมุ่งหน้าสู่พื้นที่ทางตะวันตกของคิวบาในวันนี้ ก่อนจะมุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ ในช่วงกลางสัปดาห์

    ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ ออกมาประกาศเตือนภัย เรื่องที่พายุโซนร้อนเอียน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นและจะยกระดับเป็นเฮอริเคน ขณะที่มุ่งหน้าสู่พื้นที่ทางตะวันตกของคิวบาในวันนี้

    ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวต้องเผชิญกับฝนตกหนักและลมกระโชกแรง จากนั้น พายุเอียน จะมุ่งหน้าสู่รัฐฟลอริดา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ในช่วงกลางสัปดาห์

    ด้านรัฐบาลเม็กซิโกประกาศเตือนภัยเฮอริเคน ใน 3 จังหวัดทางตะวันตกของประเทศ ได้แก่ จังหวัดอิสลาเดลา ฮูเบนตุด, จังหวัดปินาร์เดลริโอ และจังหวัดอาร์เตมิซา

    พร้อมระบุให้ประชาชนเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง รวมถึงเหตุน้ำท่วมและดินถล่มที่เกิดจากอิทธิพลของพายุเอียนในวันนี้
    ————
    ภาพ: Reuters

    #TNNWorldNews #คิวบา #เอียน #พายุโซนร้อน
    #เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
    ————
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    (Sep 26) "ตรึงเงินบาท" ทำไมเป็นสิ่งที่แบงก์ชาติไม่ควรทำ? นักเศรษฐศาสตร์เผยแนวทาง "แก้บาทอ่อน" : ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยผ่านทาง Blockdit ชื่อ Pipat Luengnaruemitchai เปิดเผยถึงเหตุผลที่แบงก์ชาติไม่ควรตรึงค่าเงินบาท โดยระบุว่า
    ระยะหลังเราเห็นแนวโน้ม ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงไปค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดหลุดไปเกิน 37 บาทต่อดอลลาร์แล้ว อ่อนที่สุดตั้งแต่ปี 2006
    จนมีข้อเสนอให้แบงก์ชาติกลับไป ตรึงค่าเงิน ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์ เพราะกลัวว่าค่าเงินจะไหลไปเกิน 50 บาทเหมือนยุคต้มยำกุ้ง ข้อเสนอดังกล่าวค่อนข้างน่าเป็นห่วง ถ้ามีแรงกดดันจากฝ่ายการเมืองแบบนั้นจริง ๆ
    ลองมาไล่กันนิดนึงว่านโยบายแบบนั้นทำได้จริงหรือไม่?
    อัตราแลกเปลี่ยนคือ ราคาเปรียบเทียบของเงินสกุลหนึ่งเทียบกับเงินอีกสกุลหนึ่ง และเป็นเครื่องมือสำคัญในการรองรับ shock ที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ การไปพยายามตรึงค่าเงินจึงเป็นการสะสมความไม่สมดุล และอาจจะนำไปสู่การปรับครั้งใหญ่ คล้าย ๆ ที่เกิดกับวิกฤตต้มยำกุ้งได้
    ค่าของเงินถูกกำหนดโดย demand และ supply ของเงินสกุลนั้น
    เช่น demand เงินบาทก็คือความต้องการซื้อเงินบาท เช่น การส่งออกสินค้าและบริการ หรือ เงินทุนเข้าประเทศ ที่อาจจะเข้ามาลงทุนหรือเก็งกำไร
    ส่วน supply ก็คือความต้องการเอาเงินบาทออก เช่น การนำเข้าสินค้าและบริการ หรือ เงินทุนไหลออก
    ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนตามตลาดอยู่ที่ 37 แปลว่า demand และ supply ตกลงราคากันอยู่แถวนั้น การตรึงค่าเงินที่แข็งกว่าที่ตลาด (เช่น 35) คือให้แบงก์ชาติไปตั้งโต๊ะเงินซื้อบาท ในราคาที่แพงกว่าตลาดอยากจะขาย (หรือ ขายดอลลาร์ในราคาถูกกว่าที่ตลาดอยากจะซื้อ)
    แน่นอนก็คงตรึงอัตราแลกเปลี่ยนได้ในระยะสั้น แต่ถ้าปัจจัยพื้นไม่เปลี่ยน คงมีคนเอาเงินบาทมายกให้ แลกกับดอลลาร์ จน reserves หมดหน้าตักได้กันง่าย ๆ
    ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อค่าเงินบาทก็เช่น ดุลบัญชีเดินสะพัด ที่สะท้อนดุลการค้าสินค้าและบริการ (รวมถึงการท่องเที่ยว) และดุลบัญชีทุน ที่สะท้อนความน่าสนใจของต่างชาติมาลงทุนในไทย และคนไทยไปลงทุนต่างประเทศ (ทั้งลงทุนทางตรง เงินกู้ ลงทุนในหุ้นและพันธบัตร)
    ซึ่งแม้จะมีคนบอกว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน แต่ทั้งในทฤษฎีและปฏิบัติก็ต้องยอมรับว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยมีความสำคัญต่ออัตราแลกเปลี่ยนแน่ ๆ โดยเฉพาะถ้าส่วนต่างนั้นใหญ่และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
    นึกภาพว่าวันนี้ ใครเอาเงินไปฝากสามเดือนดอลลาร์ได้เกิน 3% แล้ว ฝากเงินบาทได้ 0.55% แม้จะมีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ถ้าไม่คิดว่าบาทจะแข็ง เอาเงินไปฝากดอลลาร์น่าสนใจมาก ถ้าคนเอาออกเยอะ ๆ บาทก็อ่อน ยิ่งส่วนต่างตรงนี้ใหญ่ขึ้น ยิ่งทำให้ทางเลือกนี้เย้ายวนขึ้นไปอีก
    ถ้าถามว่าเราตรึงค่าเงินให้นิ่งนาน ๆ ได้ไหม คำตอบก็คือได้ แต่แบงก์ชาติคงต้อง แทรกแซงค่าเงิน กันมากกว่านี้ และเราต้องยอมเห็นทุนสำรองระหว่างประเทศขึ้นลงตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพตลาดและปัจจัยพื้นฐาน
    ในประเทศที่ตรึงค่าเงินไว้กับเงินสกุลใดสกุลหนึ่ง ก็ต้องยอมสละอัตราดอกเบี้ยให้ขยับตามดอกเบี้ยของประเทศนั้น เช่น ถ้าจะยึดค่าเงินไว้กับดอลลาร์สหรัฐ ในสถานการณ์ปัจจุบันก็ต้องเห็นอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นไปตาม Fed จะมานั่งคิดนั่งเลือกคงไม่ได้
    ดังนั้น ถ้าวันนี้เราอยากเห็นค่าเงินแข็งขึ้น เราก็คงต้องลุ้นให้การท่องเที่ยวกลับมาเยอะ ๆ เร็ว ๆ เร่งเสริมสร้างการแข่งขันของประเทศ ทำประเทศให้น่าสนใจ น่าลงทุน หรืออาจจะต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นไม่ให้ส่วนต่างใหญ่ขนาดนี้
    การแทรกแซงค่าเงินทำได้แค่ชะลอ หรือลดความผันผวนระยะสั้นเท่านั้น แต่จะยืนท้าลมแรง ๆ นาน ๆ คงไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าปัจจัยพื้นฐานไม่สอดคล้องกัน
    นี่คือหลัก impossible trinity เลย
    หรือไม่งั้นก็ต้องใช้ capital control ปิดประเทศกันไปเลย แต่ต้นทุนคงใหญ่มหาศาลทีเดียว และไม่ work ในระยะยาวอยู่ดี

    เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี นโยบายทุกอย่างมีต้นทุนเสมอ
    Source: การเงินธนาคารออนไลน์
    www.moneyandbanking.co.th%2Fuploads%2Farticle%2F1663992991.jpg&fb_obo=1&utld=co.th&stp=c0.5000x0.jpg


    https://www.moneyandbanking.co.th/a...CXICjJhUcvaHlLuHpBM4AyXvlbPkGEFW7lrYG9Lj6xc60
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เวตาลคือใคร

    เป็นอมนุษย์จำพวกหนึ่ง คล้ายค้างคาวผี ในปรัมปราคติของ ฮินดู ดำรงอยู่เป็นภูตที่อาศัยในซากศพผู้อื่นในตอนกลางวัน ศพเหล่านี้อาจใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการเดินทาง เพราะขณะที่เวตาลอาศัยอยู่นั้น ซากศพจะไม่เน่า แต่เวตาลอาจออกจากศพเพื่อหากินในตอนกลางคืน ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 กล่าวไว้ว่า "เวตาล คือ ผีจำพวกหนึ่ง ชอบสิงอยู่ในป่าช้า"

    ตามตำนานของชาวฮินดู กล่าวว่าเวลานั้นเป็นวิญญาณร้ายที่วนเวียนอยู่ตามสุสาน และคอยเข้าสิงอยู่ในซากศพต่างๆ มันจะทำร้ายมนุษย์ที่เข้าไปรบกวน เหยื่อของเวตาลจะถูกเข้าสิง ทำให้มือและเท้าหันไปข้างหลังเสมอ เวตาลยังทำให้ผู้คนเป็นบ้า ฆ่าเด็ก และแท้งลูก แต่เวตาลยังมีข้อดี คือมันจะคอยดูแลหมู่บ้านของมันเอง

    เวตาลนั้นเป็นวิญญาณร้าย คอยทำร้ายบุคคลที่ลูกหลานไม่ยอมทำพิธีศพให้พ่อแม่ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงถูกกักอยู่ในแดนสนธยา ระหว่างการดำรงอยู่ด้วยชีวิต และการดำรงอยู่หลังมีชีวิต (หลังความตาย) ปิศาจเหล่านี้อาจได้รับอามิสด้วยเครื่องเซ่นหรือถูกขับให้ตกใจด้วยมนตร์ เวตาลอาจหลุดพ้นจากสภาพปิศาจได้หากการทำพิธีศพของตน แต่เมื่อเป็นปิศาจแล้ว ก็ไม่สามารถพ้นจากกฎแห่งเวลาและเทศะ พวกมันจะความรู้ประหลาดเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคต และหยั่งรู้สึกถึงใจตน ดังนั้นหมอผีจำนวนมากจึงพยายามดั้นด้นเสาะหาเวตาล และควบคุมเอาไว้ใช้เป็นทาส

    มีตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งหมอผีกราบทูลให้พระเจ้าวิกรมาทิตย์ไปจับเวตาล ซึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้ในใจกลางสุสาน วิธีเดียวที่จะจับเวตาลได้ก็คือ ต้องทำอย่างเงียบๆ และห้ามปริปากพูดสิ่งใด มิฉะนั้นเวตาลจะหนีกลับไปได้

    อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่พระเจ้าวิกรมาทิตย์จับเวตาลได้ มันจะหลอกล่อพระองค์โดยเล่านิทานให้ฟังเรื่องหนึ่ง ซึ่งจะจบด้วยคำถาม และพระองค์ก็อดรนทนไม่ได้ ต้องตอบคำถามนั้นทุกครั้งไป ทำให้เวตาลหนีกลับไปยังต้นไม้ได้ดังเดิม เรื่องราวเกี่ยวกับเวตาลนั้นรวบรวมไว้เรียกว่า "เวตาลปัญจวิงศติ" (หรือ นิทานเวตาล 25 เรื่อง) รวมอยู่ใน หนังสือกถาสริตสาคร ของนักปราชญ์อินเดียชื่อโสมเทวะ
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #โจร์จา_เมโลนี_ว่าที่นายกฯหญิงคนใหม่ของอิตาลี
    #กับการกลับมาของระบอบระบอบฟาสซิสต์

    การเมืองในอิตาลีทำเอาชาว EU หัวจะปวดอีกครั้ง เมื่อผล Exit Poll ของการเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาพบว่า ชาวอิตาลีส่วนใหญ่ เทใจไปให้กับพรรคที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นที่ถกเถียงมากที่สุด นั่นคือ พรรค Brothers of Italy ที่มีผู้นำคือ โจร์จา เมโลนี นักการเมืองหญิง อายุเพียง 45 ปี ที่กำลังขึ้นแท่นเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิตาลี

    การที่อิตาลี อาจได้ผู้นำเป็นผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นตกใจอะไรในยุคสมัยนี้อีกแล้ว แต่สิ่งที่ชาว EU กำลังแปลกใจว่า Hey! ชาวอิตาลี ยูว์จะเอาแบบนี้จริงดิ!

    นั่นเพราะว่า Brothers of Italy เป็นพรรคการเมืองสายขวา ที่ไม่ใช่แค่ขวาธรรมดา แต่เป็นขวาจัดปลัดบอก ขวาตกขอบ เข้าข่ายระบอบ นีโอ-ฟาสซิสต์ และหากผลการเลือกตั้งที่ยืนยัน 100% ไม่มีอะไรพลิกโผ เท่ากับว่า อิตาลีจะได้รัฐบาลขวาจัดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทีเดียว

    หลังจากที่ มาริโอ ดรากี อดีตนายกรัฐมนตรีเจ้าของฉายา "Super Mario" จำใจต้องลาออก เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง Five Star Movement เล่นการเมืองขอถอนตัวจากการลงมติสนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจนสภาเจ๊ง ต้องยุบสภามาเลือกตั้งกันใหม่ โดย นาย จูเซปเป้ คองเต้ หัวหน้าพรรค Five Star Movement ก็หมายมั่นปั้นมือว่าคราวนี้แหล่ะ จะขอกลับมาทวงบัลลังก์นายกรัฐมนตรีคืนให้จงได้

    แต่กลับกลายเป็นว่า ชาวอิตาลีเกิดอารมณ์เบื่อขี้หน้ารัฐบาลชุดเก่าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เลยไปเทคะแนนให้พรรค Brothers of Italy ที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน ที่มีอุดมการณ์ขวาจัด ตรงกันข้ามกับรัฐบาลอิตาลีชุดเก่าที่เคยมีมาอย่างสิ้นเชิง เหมือนเลือกกึ่งประชดว่าไม่อยากให้คนหน้าเก่าชนะ ก็ไปเลือกอีกฝั่งเสียซะเลย ผล Exit Poll เลยออกมาเป็นดังนี้

    ซึ่งความขึ้นชื่อลือชาของพรรค Brothers of Italy ก็ไม่ธรรมดา เพราะตั้งขึ้นจากอุดมการณ์รากเหง้าของขบวนการขวาจัด Italian Social Movement ซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มผู้สนับสนุน เบนิโต มุสโสลินี ผู้นำระบอบฟาสซิสต์ในสมัยสงครามโลก

    ทั้งสโลแกนของพรรค Brothers of Italy คือ God, family, fatherland ก็เป็นคำขวัญเดียวกับพรรคฟาสซิสต์ของมุสโสลินี เคยใช้ รวมถึงสัญลักษณ์ประจำพรรคที่เป็นเปลวไฟ 3 สี ที่ก็เป็นสัญลักษณ์ของลัทธิขวาจัด แม้แต่หลาน และ เหลนแท้ๆของ มุสโสลินี อยาง ราเคเล มุสโสลินี และ ไซโอ กุยลิโอ เคสซาเร มุสโสลินี ก็ยังสังกัดพรรคนี้

    ส่วนนโยบายของพรรคก็ตามสไตล์พรรคขวาจัดอื่นๆ คือไม่ขอรับผู้อพยพต่างชาติ ต่อต้านการทำแท้ง หรือการุณยฆาต ทุกรูปแบบ ไม่สนับสนุนการสมรสเพศเดียวกัน และไม่เอาแนวคิดแบบสหภาพยุโรป

    ส่วน โจร์จา เมโลนี ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค Brothers of Italy ก็มีประวัติไม่ธรรมดาเหมือนกัน

    เธอเกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม ปี 1977 ปัจจุบันอายุ 45 ปี เธอมาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่ครอบครัวหย่าร้างตั้งแต่เธอเพิ่งเกิด และพ่อก็ทิ้งครอบครัวไป ปล่อยให้แม่เป็นคนเลี้ยงเดี่ยวมาตลอด

    จน โจร์จา อายุ 15 ปี เธอตัดสินใจเข้าร่วมขบวนการ Youth Front ที่เป็นเหมือนสโมสรเยาวชนของ Italian Social Movement ที่ยึดมั่นอุดมการณ์ของ อดีตผู้นำมุสโสลินี พออายุ 20 ปี โจร์จา เมโลนี ก็กระโจนเข้าสู่สนามเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ด้านประวัติการศึกษาของ โจร์จา เมโลนี ก็เป็นข้อถกเถียงกันพอสมควรว่าเธอจบวุฒิการศึกษาสูงสุดระดับใดกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือ เธอไม่มีโอกาสได้เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย และต้องรับจ้างทำงานทุกอย่าง ทั้งทำความสะอาด พี่เลี้ยงเด็ก พนักงานเสิร์ฟ บาร์เทนเดอร์ เพื่อหาเลี้ยงชีพร่วมกับทำงานการเมืองระดับเยาวชน จนสามารถก้าวสู่สภาระดับชาติได้สำเร็จในปี 2006 และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีด้านเด็กและเยาวชนครั้งแรกในปี 2008 นับเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของอิตาลี

    ในปี 2012 เธอออกมาร่วมก่อตั้งพรรค Brothers of Italy ที่ชูนโยบายของฝ่ายขวา แม้ว่าการลงสนามเลือกตั้งครั้งแรกของ Brothers of Italy จะเคยได้คะแนนเสียงเพียง 2% แต่ฐานคะแนนเสียงของพรรคกลับเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในทุกสนามเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อๆมา จนมาครั้งล่าสุด ที่มีโอกาสสูงมากที่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้

    สื่อตะวันตกได้เคยลองถามชาวอิตาลีด้วยความสงสัยจริงๆว่า การเมืองอิตาลี เดินมาไกลจากมุสโสลินีมาหลายสิบปีแล้ว แต่ทำไมวันนี้ถึงตัดสินใจกลับไปเลือก โจร์จา เมโลนี และ Brothers of Italy อีก

    ซึ่งชาวอิตาลีบางส่วนก็ตอบว่า ประทับใจในความถามตรง ตอบตรง ของ โจร์จา เมโลนี ที่พูดจาตรงประเด็นโดนใจชาวอิตาลี โดยเฉพาะปัญหาเรื่องชาวต่างด้าวเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย ที่เธอสัญญาว่าอิตาลีจะไม่ยอมทนอีกต่อไป และจะลดการรับคนต่างด้าวลงให้ได้

    และอีกเหตุผลที่สำคัญคือ พวกเขาเคยลองให้โอกาสพรรคฝ่ายเสรีนิยมมาหลายสิบปีแล้ว แต่ก็ยังแก้ปัญหาปากท้องไม่ได้ ก็ลองให้พรรคการเมืองอีกขั้วมาลองทำงานดูบ้าง ก็ไม่เสียหายอะไร

    ซึ่งการตัดสินใจของชาวอิตาลีครั้งนี้ ทำให้ชาว EU ต้องมาตาปริบๆ ห่างๆ อย่างห่วงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอิตาลีหลังจากนี้ จะเหมือนตอนที่สหรัฐ ได้ โดนัลด์ ทรัมพ์ มาเป็นประธานาธิบดีหรือไม่

    และแม้ว่า โจร์จา เมโลนี จะเคยออกมายืนยันว่า พรรคของฉันไม่ได้ขวาขนาดนั้น แค่อนุรักษ์นิยมนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่โจร์จาก็เคยแสดงความคิดเห็นหลายอย่างที่ ไม่น่าเป็นแค่ "อนุรักษ์นิยมสายกลาง" มั้ง

    เช่นเคยยกย่อง เบนิโต มุสโสลินี เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่อิตาลีเคยมี หรือครอบครัวในอุดมคติ ควรเป็นครอบครัวที่มี พ่อ - แม่ - ลูกๆ และไม่ค่อยสนับสนุน คู่ครองเพศเดียวกันที่จะขอรับอุปการะเลี้ยงดูเด็ก

    แต่ถ้าเป็นการตัดสินใจของชาวอิตาลีส่วนใหญ่แล้ว ก็ต้องเป็นไปตามมติมหาชนชาวอิตาลี ชาว EU ก็ควรดูอยู่ห่างๆ ถ้าเข้าไปวุ่นวายมากๆ ระวัง โจร์จา เมโลนี จะอยู่ยาวนาจ๊า

    ****************
    ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
    Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
    Tiktok - @HunsaraByJeans
    และ Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
    แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
    ****************

    แหล่งข้อมูล

    https://www.bbc.com/news/world-europe-63029909

    https://www.maltatoday.com.mt/news/...erland_will_italy_go_black_today#.YzFVZXZBzIU

    https://www.wionews.com/world/who-i...-to-become-first-female-prime-minister-500815

    https://www.aa.com.tr/en/europe/gio...-know-about-far-right-leader-in-italy/2693538

    https://www.aa.com.tr/en/europe/far...-victory-in-italy-s-general-elections/2694474

    https://en.wikipedia.org/wiki/Brothers_of_Italy

    https://en.wikipedia.org/wiki/Giorgia_Meloni

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เงินกู้จาก IMF ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
    เผยมีอีก 5 ชาติเสี่ยงล้มละลาย
    อียิปต์ และอาร์เจนตินา ติดโผ
    .
    เงินกู้ยืมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งให้แก่ประเทศที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ ได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในฐานะผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดของโลก และกำลังส่งผลผลักดันให้มีอย่างน้อย 5 ประเทศที่ผิดนัดชําระหนี้ และยังมีอีกหลายประเทศเจริญรอยตามมากขึ้นในไม่ช้า
    .
    โรคระบาดใหญ่ สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายสิบประเทศต้องขอความช่วยเหลือจาก IMF
    .
    การวิเคราะห์ข้อมูล IMF ของ Financial Times สำนักข่าวการเงินระดับโลกแสดงให้เห็นว่า ณ สิ้นเดือนสิงหาคมปริมาณเงินกู้ที่เบิกจ่ายโดยกองทุนฯ มีจำนวน 140,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 5.29 ล้านล้านบาท ใน 44 โครงการ
    .
    ตัวเลขมูลนี้คาดว่าจะเพิ่มต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมพุ่งสูงขึ้นนั้น สูงกว่ายอดคงค้างสินเชื่อ ณ สิ้นปี 2020 และ 2021 ก้าวสู่ระดับถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ประจำปี
    .
    ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยขนาดใหญ่โดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ จะผลักดันต้นทุนการกู้ยืมทั่วโลกและเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดภาวะถดถอยอย่างรุนแรง นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าความสามารถในการปล่อยสินเชื่อของ IMF อาจขยายไปถึงขีดจํากัดในไม่ช้า เนื่องจากประเทศยากจนที่ถูกล็อคออกจากตลาดตราสารหนี้ระหว่างประเทศ และถูกบังคับให้หันไปหากองทุนเพื่อขอความช่วยเหลือ
    .
    ซึ่งภาระผูกพันทั้งหมดของ IMF รวมถึงเงินกู้ที่ตกลงกันไว้ แต่ยังไม่ได้เบิกจ่ายอยู่ที่มากกว่า 268,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 10.1 ล้านล้านบาทแล้ว
    .
    เควิน กัลลาเกอร์ จากศูนย์นโยบายการพัฒนาโลกของมหาวิทยาลัยบอสตันเตือนว่า มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่จะได้รับการสนับสนุนจาก IMF โดยไม่ต้องหักงบดุล IMF
    .
    กัลลาเกอร์ ยังเขียนเพิ่มเติมในรายงานของสัปดาห์นี้เพื่อเตือนว่า มี 55 ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกต้องเผชิญกับการชําระหนี้มูลค่า 436,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 16.5 ล้านล้านบาท ระหว่างปี 2022 - 2028 โดยลดลงประมาณ 61,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.3 ล้านล้านบาท ในปีนี้ และในปี 2023 และเกือบ 70,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.6 ล้านล้านบาท ในปี 2024
    .
    แซมเบียและศรีลังกาซึ่งทั้งคู่ผิดนัดชำระหนี้พร้อมกับเลบานอน รัสเซีย และซูรินาเม ก็กําลังเจรจากับ IMF ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับโครงสร้างหนี้ของพวกเขา ขณะที่กานา อียิปต์ และตูนิเซียอยู่ในการเจรจาในช่วงต้นสำหรับการขอรับการสนับสนุนที่คล้ายกัน
    .
    IMF อนุมัติเงินประกันตัว 1,100 ล้านดอลลาร์ 41,635 ล้านล้านบาท สำหรับปากีสถานเมื่อปลายเดือนสิงหาคม อาร์เจนตินามีกำหนดจะได้รับเงิน 3,900 ล้านดอลลาร์ หรือ 147,615 ล้านล้านบาท ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการกู้ยืมมูลค่า 41,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.5 ล้านล้านบาท
    .
    ภายใต้กฎของ IMF ประเทศสมาชิกมักจะได้รับการสนับสนุนเท่ากับ 145% ของโควต้า IMF หรือการถือหุ้นซึ่งสอดคล้องกับส่วนแบ่งของเศรษฐกิจโลกของแต่ละประเทศ
    .
    แต่ส่วนใหญ่แล้วมูลค่ามักจะเกินจากขีดจํากัด โครงการสนับสนุนของอาร์เจนตินาซึ่งได้รับการอนุมัติในเดือนมีนาคมว่า เป็นการปรับโครงสร้างหนี้จากการประกันตัว IMF มูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.8 ล้านล้านบาท ในปี 2018 ซึ่งเท่ากับมากกว่า 10 เท่าของโควต้า นักวิเคราะห์ที่ Goldman Sachs คาดว่าในไม่ช้าอียิปต์จะได้รับโครงการมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 567,750 ล้านล้านบาท ซึ่งเท่ากับเกือบ 6 เท่าของโควต้า
    .
    ความน่ากังวลคือ ประเทศที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินเรื้อรัง มักไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ และจะต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาโปะหนี้เก่าพร้อมดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญอยู่นั้น ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ประเทศที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามรอบการจ่าย และนำไปสู่การผิดนัดชำระฯ เสียเครดิต และทำให้การกู้ในรอบต่อไปยากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะการขาดแคลนเงินทุนสำรองเพื่อใช้ในการหมุนเวียนภายในและการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคสำคัญ รวมทั้งการจัดหาพลังงาน ซึ่งจะนำไปสู่การล้มละลายในที่สุดเช่นเดียวกับประเทศศรีลังกา
    .
    ╔═══════════╗
    ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจเป็นรายการโปรด โดยคลิกที่จุด [...] ด้านบนมุมขวาบนของเพจ เลือก "การตั้งค่าการติดตาม" และกดเลือกให้เป็น "#Favourites" หรือ “#รายการโปรด” ไว้จะได้ไม่พลาดเรื่องราวจากเพจเรา
    ╚═══════════╝

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ยูเครน ทนอีกนิด! ระดมเกณฑ์ทหารกว่าห้าล้านคน ห้ามผู้ชายออกนอกประเทศ
    ......นาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย แถลงการณ์ต่อสมาชิกนานาชาติ ในการประชุม สหประชาชาติ (UN) ว่า "รัสเซียจะปกป้องความปลอดภัยของประชาชนและดินแดนที่ผนวกเข้ากับอาณาเขตของเรา จะอยู่ภายใต้การคุ้มครองเต็มรูปแบบตามรัฐธรรมนูญรัสเซีย" แสดงเจตนาเปิดเผยต่อนานาชาติสากล , ส่วนนาย Alexei Arestovich ที่ปรึกษาประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน ผู้ออกมาแถลงข่าวในนามทำเนียบประธานาธิบดีระบุว่า "ขณะนี้ยูเครนกำลังระดมพลครั้งใหญ่ของประเทศราว 5.5 ล้านคน รวมถึงนักเรียนชายที่เรียนในมหาวิทยาลัย ห้ามไม่ให้ออกนอกประเทศ"
    ......รายละเอียดต่อไปนี้จะทำให้ทราบว่าแท้จริงแล้วประเทศใดมีสิทธิเสรีภาพมากกว่ากัน? คนมากมายถึง 5.5 ล้านคน ถูกบังคับไปเป็นทหาร นักศึกษาก็ไม่เว้น และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทำไมเรื่องนี้สื่อตะวันตกและสื่อไทยเงียบสนิท เพราะอะไร ?

    อ่านรายละเอียดต่อที่

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เอสโตเนีย ใกล้ชนะแล้ว! หวั่นรัสเซีย ตัดกระแสไฟฟ้าดับมืด 3 ประเทศทะเลบอลติก
    ......นายกรัฐมนตรี กาจา คัลลาส แห่งเอสโตเนีย ที่รัฐบาลผสมเก่าเพิ่งล้ม ตั้งรัฐบาลใหม่แต่ได้ผู้นำคนเดิม เตือนว่ารัสเซียอาจเตรียมที่จะยกเลิกการเชื่อมต่อกริดไฟฟ้าจากเครือข่ายไฟฟ้าของทั้ง 3 ประเทศย่านบอลติก คือ เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย ซึ่งจะนำไปสู่ไฟฟ้าดับช่วงฤดูหนาว ท่ามกลางราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนประหยัดพลังงาน โดยขณะที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ บนโต๊ะทำงานของเธอพบ "ฮีตเตอร์เครื่องทำความร้อนไฟฟ้า"
    ......รายละเอียดต่อไปนี้จะทำให้ทราบว่า ธุรกิจที่เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ชื่นชมนายกรัฐมนตรีกาจา คัลลาส ว่าเป็น "เซลล์ขายเครื่องทำความร้อนไฟฟ้าที่เก่งมาก" และ "ถุงพลาสติกสำหรับเก็บอุจจาระ , เทปกาว" เขาเตรียมไว้ฤดูหนาวเพื่ออะไร ?

    อ่านรายละเอียดต่อที่

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Europe is in big financial trouble with Russian natural gas turned off as a retaliation from the sanctions. Armstrong explains, “In Europe, I believe they are actually deliberately doing this, and this is Klaus Schwab’s ‘Great Reset.’ They know they have a serious problem. They lowered rates to below 0% in 2014. They just started raising interest rates. Meanwhile, you ordered all the pension funds throughout Europe to have more than 70% in government bonds. Then they took it negative. All the pension funds are insolvent. Europe is fiscal mismanagement on a grand scale. There is no way it can sustain itself, and we are looking at Europe breaking apart.”

    ยุโรปกำลังมีปัญหาทางการเงินอย่างสาหัส
    มาร์ตินคิดว่าเขาจงใจทำให้มันตึงเครียดขึ้น เพื่อให้ถึง Great Reset
    ยุโรปลดดอกเบี้ยต่ำกว่า 0% ตั้งแต่ปี 2014
    พวกเขาบังคับให้กองทุนบำเหน็จบำนาญซื้อพันธบัตรดอกเบี้ยติดลบเหล่านั้นกว่า 70% ของพอร์ต
    ดังนั้นกองทุนเหล่านี้ ผลจากการถือพันธบัตรดอกเบี้ยติดลบมานานเกือบสิบปี จึงไม่มั่นคง
    ยุโรปกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

    So, could Europe suck the rest of the world down the tubes? Armstrong says, “Oh, absolutely. Europe is the problem. . . . The crisis in banking will start in Europe. . . . The debt is collapsing. They have no way to sustain themselves. The debt market over there is undermining the stability of all the banks. You have to understand that reserves are tied to government debt, and this is the perfect storm. Yes, the (U.S.) stock market will go down short term. We are not facing a 1929 event or a 90% fall here. . . . Europeans, probably by January of 2023, as this crisis in Ukraine escalates, anybody with half a brain is going to take whatever money they have and get it over here.”
    วิกฤติในยุโรปย จะดึงเศรษฐกิจโลกดิ่งลงไปด้วย โดยเริ่มที่ภาคธนาคารของยุโรป ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่เหลือทางรอดแล้ว หนี้กำลังท่วม
    ต้องเข้าใจว่า ทุนสำรองของยุโรปผูกพันกับหนี้ภาครัฐของยุโรป และนี่จะทำให้วิกฤติมันใหญ่มหาศาล (เพราะรัฐบาลจะล้มลงตามไปด้วย)
    ในระยะสั้นตลาดหุ้นสหรัฐจะลง (ทองด้วย)
    แต่เราจะไม่ได้เห็นการลงไปในระดับ 90% แบบที่เคยเกิดในปี 1929 หรอก
    Target date คือ มกรา 2023
    ซึ่งเป็น target สำหรับสงครามในยูเครนด้วย

    “Stocks are like gold, it is on the same side of the table and is opposite government debt. People are not going to be buying government debt. They are going to be looking at anything in the private sector. . . . People are buying whatever they can to get off the grid.”
    เงินจะไหลเข้าหุ้น(สหรัฐ) และ ทองคำ
    เพราะอยู่ฝั่งเดียวกัน ฝังตรงข้ามกับพันธบัตรรัฐบาล
    คนจะแตกตืนหนีตายจากการถือพันธบัตรรัฐบาล
    เข้าทรัพย์สินฝั่งตรงกันข้าม

    Armstrong says governments are borrowing and spend huge amounts of money. The Fed will keep raising interest rates to fight inflation, but Armstrong says, “Raising interest rates will only make things worse. We have supply shortages, and raising rates will not fill the gaps.”
    รัฐบาลนานาชาติกำลังกู้เงิน และ ใช้จ่ายเงินอย่างบ้าคลั่ง
    ในขณะที่ FED จะยังขึ้นดอกเบี้ยต่อไป อ้างว่าเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ
    ซึ่งมาร์ตินบอกว่าจะไม่ทำให้เงินเฟ้อลด เพราะเงินเฟ้อเกิดจากฝังอุปทาน

    Armstrong has never been more positive on buying gold. Why? Armstrong explains, “We are looking at a sovereign debt default. This is what’s going on. This is why Biden will spend whatever he wants because he knows he doesn’t have to pay it back. Eventually, this is what’s going to happen. This is Schwab’s agenda.”
    ไม่เคยมีครั้งไหนเลย ที่มาร์ติน มีมุมมองเป็น "บวก" ต่อทองคำเท่าครั้งนี้
    เพราะ
    เรากำลังมองไปที่ การดีฟอลท์ของพันธบัตรรัฐบาล (ยุโรป)
    และนี่เป็นสาเหตุที่ไบเดนใช้จ่ายแบบไม่ยั้ง
    เพราะเขาเชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้ว จะมีการล้างหนี้ผ่าน Great Reset

    Armstrong has predicted “2023 will be the year from Hell.” Armstrong says, “Civil unrest will only get worse” this year, and he is predicting we will have full blown war next year. Armstrong contends Democrats are desperate and will do things like granting illegal aliens citizenship so they can vote in the mid-term elections.
    ปี 2023 จะเป็นปีจากนรก
    การจลาจลของประชาชนจะหนักหนาสาหัสขึ้นไปอีก
    และจะมีสงครามเต็มรูปแบบในปีหน้า

    “Something is going to spark a collapse in government again. It’s going to be something, I think, in Europe where they do something drastic because they have no other choice. . . . They need war as the excuse for the defaults of all the government debt.”
    จะมีบางอย่างเกิดขึ้น ที่จะจุดประกายให้มีรัฐบาลล้ม
    มาร์ตินคิดว่า ในยุโรป อาจมีเรื่องร้ายบางอย่าง เพราะเขาไม่มีทางออกอื่น
    เขาต้องการสงคราม เพื่อเป็นข้ออ้างสำหรับการ default ของหนี้ยุโรปที่จะเกิดขึ้น

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กำเนิด “โรงรับจำนำ” ยุคแรกสมัยรัชกาลที่ 4 เผยเทคนิค “จีนฮง” ทำกิจการรุ่งเรืองได้อย่างไร?
    การรับจำนำในสมัยนั้นยังมิได้ตั้งเป็นโรงหรือสถานที่สำหรับการรับจำนำโดยเฉพาะ คงจะกระทำกันตามบ้านเรือนหรือสถานที่นัดพบกันเท่านั้น ในยุคต่อมาจึงคิดตั้งโรงรับจำนำขึ้นเป็นการเฉพาะ
    โรงรับจํานําที่ตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะนั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2409 ในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยคนจีนชื่อว่า “เจ๊กฮง” หรือ “จีนฮง” ตั้งโรงรับจำนำขึ้นเป็นแห่งแรกบริเวณประตูผี หรือสี่แยกสำราญราษฎร์ในปัจจุบัน มีชื่อว่าโรงรับจำนำ “ย่องเซี้ยง”
    ในช่วงแรกที่เปิดโรงรับจำนำ มีผู้ไปจำนำของอยู่เพียงไม่กี่คน แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดและมีหัวในทางค้าขายของจีนฮง เขาจึงคิดใช้วิธีกำหนดดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าทั่วไปครึ่งหนึ่ง และล่อใจด้วยการรับจำนำของในราคาสูง แม้บางครั้งของที่รับจำนำจะเป็นของที่ไม่ค่อยจะดีหรือไม่ค่อยมีราคา แต่หากเห็นว่าพอจะมีกำไรบ้างเล็กน้อย จีนฮงก็จะรับจำนำไว้ ไม่ให้ผู้ที่มาจำนำต้องผิดหวังกลับไป ด้วยการบริการที่ดี ดอกเบี้ยถูกกว่าเจ้าอื่น สถานที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง ไม่ต้องไปจำนำกันเองตามบ้านเรือนอีกต่อไป นี่จึงทำให้กิจการโรงรับจำนำของจีนฮงรุ่งเรืองและเป็นที่นิยมมาก
    จีนฮงยังได้คิดทำบัญชีเล่มหนึ่งขึ้นที่มีชื่อ “ตึ๊งโผว” สำหรับจดวันที่รับจำนำและรายละเอียดสิ่งของที่จำนำ พร้อมทั้งมีตั๋วประทับตรายี่ห้อให้ไว้แก่ผู้จำนำด้วย เพื่อจะได้เป็นหลักฐานแก่ทั้งสองฝ่าย ป้องกันการหลงลืมและการคดโกง ส่วนอัตราดอกเบี้ยก็กำหนดลงไว้ในตั๋วที่ให้แก่ผู้จำนำไป โดยมีข้อสัญญาชัดเจน ดังปรากฏในตั๋วว่า “ถ้าผู้ใดไม่ส่งดอกเบี้ยในเดือนไหน ของผู้นั้นก็เป็นหลุด จะขายเสียเมื่อไหร่ก็ได้”
    หลังจากกิจการจีนฮงประสบความสำเร็จ จนอาจสร้างผลประโยชน์มหาศาล ทำให้มีการตั้งโรงรับจำนำผุดขึ้นมากมายเอาอย่างจีนฮงบ้าง เพราะการตั้งโรงรับจำนำในสมัยนั้นยังไม่มีกฎหมายควบคุม ใครอยากตั้งก็ตั้งได้ ไม่ต้องมีการขออนุญาต และยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม
    อย่างไรก็ตาม เจ้าของโรงรับจำนำโดยส่วนมากแล้วเป็นคนจีน มีทั้งคนจีนที่มีฐานะดี หรือหากมีฐานะปานกลางก็จะรวบรวมกันเป็นกลุ่มเอาเงินมารวมกันตั้งโรงรับจำนำ แล้วเพราะเหตุใด คนไทยถึงไม่นิยมตั้งโรงรับจำนำ? เรื่องนี้มีอธิบายไว้ในหนังสือ วชิรญาณวิเศษ เล่ม 6 เดือนมีนาคม ร.ศ. 109 ความว่า
    “เหตุใดคนไทยเราก็ย่อมทราบอยู่ด้วยกันแล้วว่า เกิดผลมากในการรับจำนำ ทำไมไม่คิดออกตั้งเป็นโรงรับจำนำขึ้นบ้างเล่า ขอชี้แจงให้เห็นการรับจำนำนี้มีประโยชน์มากจริงอยู่ แต่ทว่าคนไทยจะคิดตั้งขึ้นแล้ว เกรงว่าจะตั้งอยู่ไม่ได้นาน เพราะเหตุที่เป็นข้าศึกแก่คนไทย ในเรื่องรับจำนำมีหลายอย่าง จะชี้ตัวอย่างที่พอเห็นความจริงด้วยกันได้ว่า วิไสยคนไทยเราเกรงความร้อนใจเป็นประมาณทั่วกันทั้งนั้น เรื่องรับจำนำนี้ มีแต่ความร้อนใจเป็นเบื้องต้นประเดี๋ยวต้องว่าความแทนคนนั้นด้วยเรื่องนั้น แทนคนนี้ด้วยเรื่องนี้ ตั้งแต่เสียเงินเสียทองเป็นเบื้องปลาย ไหนจะมีเรื่องอะไรต่ออะไรอีก ต้องตกเป็นผู้รับความร้อนใจอยู่อย่างนี้ร่ำไป แม้ถึงเห็นผลมีจริงก็ต้องเห็นโทษอยู่อย่างนี้ด้วยกัน จึงไม่สามารถตั้งโรงรับจำนำขึ้นได้เพราะเหตุนี้”
    กิจการโรงรับจำนำรุ่งเรืองขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ในราว พ.ศ. 2433 ปรากฏว่ามีโรงรับจำนำในกรุงเทพฯ กว่า 200 โรง รัชกาลที่ 5 ทรงเห็นว่ากิจการโรงรับจำนำมีทั้งคุณและโทษ ส่วนที่มีคุณ คือ ชาวบ้านที่ขัดสนเงินทุนที่จะนำมาหากินเลี้ยงชีพ ย่อมเอาทรัพย์สินไปจำนำเพื่อนำเงินไปทำทุนโดยง่าย แต่ส่วนที่มีโทษ คือ ชาวบ้านผู้มีสันดานทุจริตไม่ได้ทำมาหากินเลี้ยงชีพโดยชอบธรรม ทำการปล้นชิงวิ่งราวเอาทรัพย์สินผู้อื่นมาแล้วนำไปจำนำได้เงินมาโดยสะดวก จึงเป็นช่องทางให้โจรผู้ร้ายก่อการกำเริบ แต่จะเลิกหรือห้ามตั้งโรงรับจำนำนั้นก็จะเป็นการเดือดร้อนแก่ชาวบ้านที่หากินเลี้ยงชีพโดยสุจริต ด้วยเหตุนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ ร.ศ. 114 ตรงกับ พ.ศ. 2438
    กระทั่งในปีต่อมา นายเล็ก โทณะวณิก ได้ขออนุญาตตั้งโรงรับจำนำที่มีชื่อว่า “ฮั่วเส็ง” ขึ้น โดยตั้งที่ตำบลบ้านหม้อ ถนนพาหุรัด ดังนั้น โรงรับจำนำฮั่วเส็งจึงถือว่าเป็นโรงรับจำนำที่ถูกกฎหมายแห่งแรกของประเทศ โดยเปิดกิจการเรื่อยมานับแต่นั้น กระทั่งเลิกกิจการไปเมื่อถูกลูกระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2หลังจากตั้งโรงรับจำนำฮั่วเส็งขึ้นมานั้น จึงเริ่มมีคนจีนขออนุญาตจัดตั้งโรงรับจำนำเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จึงได้มีการปรับปรุงพระราชบัญญัติโรงรับจำนำเพื่อให้เหมาะแก่กาลสมัย โดยได้มีการตราพระราชบัญญัติโรงรับจำนำขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ. 2480 มีสาระสำคัญ คือ การอนุญาตให้ตั้งโรงรับจำนำจะต้องทำโดยการประมูล กำหนดระยะดำเนินงานคราวละ 5 ปี และกำหนดอัตราดอกเบี้ยเสียใหม่
    อย่างไรก็ตาม โรงรับจำนำมีเฉพาะในกรุงเทพฯ (ธนบุรีและพระนคร) เท่านั้น รัฐยังไม่อนุญาตให้ตั้งในต่างจังหวัด เนื่องจากจังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคนั้น การตรวจตราควบคุมโรงรับจำนำ และสิ่งของที่นำมาจำนำทำได้ยาก ไม่รวดเร็ว เป็นช่องให้คนร้ายนำสิ่งของที่ขโมยนำไปจำนำได้สะดวก เพราะไกลหูไกลตาเจ้าหน้าที่ ดังนั้น การตั้งโรงรับจำนำขึ้นตามต่างจังหวัดจะมีผลร้ายมากกว่าผลดี ด้วยเหตุนี้ พระราชบัญญัติโรงรับจำนำฉบับ ร.ศ. 114 และฉบับ พ.ศ. 2480 จึงอนุญาตให้ตั้งโรงรับจำนำขึ้นแต่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น
    ใน พ.ศ. 2498 มีโรงรับจำนำเฉพาะในกรุงเทพฯ ทั้งสิ้น 69 โรง แต่วงเงินที่นำออกบริการรับจำนำมีอยู่อย่างจำกัด ไม่สอดคล้องกับความต้องการของชาวบ้านที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี มิหนำซ้ำโรงรับจำนำบางแห่งยังเลี่ยงกฎหมาย คิดค่าบริการเพิ่มเติมซึ่งสร้างภาระให้กับชาวบ้านมากขึ้น ดังนั้น ในปีดังกล่าว รัฐบาลจึงได้ตั้ง “โรงรับจำนำของรัฐ” ขึ้นเป็นครั้งแรกพร้อมกัน 2 โรง คือ ที่บริเวณเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าฯ โรงหนึ่ง และต้นถนนเทอดไทยอีกโรงหนึ่ง
    ต่อมา พ.ศ. 2500 ได้เปลี่ยนชื่อ “โรงรับจำนำของรัฐ” มาเป็น “สถานธนานุเคราะห์” เพื่อให้แตกต่างจากโรงรับจำนำของเอกชน ถึง พ.ศ. 2503 รัฐบาลได้อนุญาตให้เทศบาลสามารถตั้งโรงรับจำนำขึ้นได้ โดยมีชื่อว่า “สถานธนานุบาล”
    ที่มา https://www.silpa-mag.com/history/article_69428
    ___________________________
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ร้านสะดวกซื้อของชาวบ้านทั่วไป ในยุคที่ยังไม่มีร้านสะดวกซื้อเหมือนในปัจจุบัน..
    ตู้โชว์ไม้คลาสสิครุ่นเก่า วางขายสินค้า ยา ฯลฯ ในตู้ที่พอเห็นชัด ๆ ก็ยาทันใจ ( ต่อมาเปลี่ยนเป็น ทัมใจ เพราะทางการห้าม บอกว่าเป็นการโฆษณาเกินจริง ) ยาโยคี ด้านล่างมองไม่ชัด น่าจะเป็น น้ำปลาตราโบแดงหรือเปล่า ? มีปฏิทินรูปล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ ของซิงเกอร์ในปี 2507 ด้วย
    ..คุณผู้หญิงเจ้าของ แต่งตัวอยู่บ้านสบาย ๆ จักรเย็บผ้าซิงเกอร์รุ่นในภาพ งาม คลาสสิคมาก จักรซิงเกอร์ มีชื่อเสียงในไทยมายาวนาน และ ยุคหลัง ๆ สามารถซื้อเป็นเงินผ่อนได้ด้วย ยามขัดสน ยกหัวจักรเข้าโรงจำนำได้ อาเฮีย ร้อง ฮ่อ ..ปายพิมพ์มู...
    สถานที่ จังหวัดมหาสารคาม ภาพในปี 2507 ปีมะโรง

    เครดิตภาพ E.Janes Keyes

     

แชร์หน้านี้

Loading...