-> ตีแผ่ --> สมเด็จวังหน้า + สมเด็จวัดพระแก้ว + สมเด็จพระธาตุพนม

ดูข้อมูลต่อครับ วัดพระแก้ว

ตำนานวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)แขวงบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
กรุงเทพ ร.๑ ทรงสถาปนาขึ้นเป็นพุทธาวาส(ไม่มีพระสงฆ์อยู่)ตามราชประเพณี
โบราณที่ต้องมีพุทธาวาสในพระบรมมหาราชวัง เพื่อเสด็จออกในพีธีราชกุศล
ทรงสร้างพร้อมทั้งพระอุโบสถ พระเจดีย์ และศาลาราย ให้ขุดสระทำหอไตรกลาง สระน้ำใว้ตู้พระไตรปิฏก แล้วพระราชทานนามว่า "หอพระมณเฑียรธรรม"
โปรดให้อัญเชิญพระเทพบพิตร (พระบรมรูปพระเจ้าอู่ทอง) มาประดิษฐาน
ฌ หอ พระเทพบิดร สร้างวัดพระแก้วเสร็จในปีมะโรง ฉศก จุล ๑๑๔๖ (พ.ศ.
๒๓๒๗ ) จึงโปรดให้อัญเชิญ พระแก้วมรกต จากโรงพระแก้วในพระราชวังเดิม
(ของพระเจ้ากรุงธนฯ) มาประดิษฐาน เมื่อวันจันทร์ เดือน ๔ แรม ๑๔ ค่ำ
ส่วนพระเครื่องวัดพระแก้วนั้นเป็น พระเครื่องฯ ของหลวงพระราชทานเช่นเดียว
กับพระมฤคทายวัน ซึ่ง ร.๖ ได้โปรดให้พระคณาจารย์ทั้งหลายสร้างขึ้นเป็น
พิธีหลวง ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระนคร ใน พ.ศ.๒๔๖๐
เมื่อใกล้จะประกาศพระราชสงคราม เพื่อแจกทหารอาสา อีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับ
พิธีสร้างธงชัยเฉลิมพลประดิษฐาน พระยอดธงในบรรณศาลาของยอดด้ามธง
และธงนั้นลงอักขระขอมเป็นพระชัยมงคลคาถา (พาหุง)
     ทรรศนียะ  เป็นพระแบบนาคปรก ซึ่งหมายถึงวันราชสมภพ คือวันเสาร์
กรอบสี่เหลี่ยม เนื้อปูนปั้น วรรณะขาวนวล  องค์พระปฏิมาประทับนั่งปางสมาธิ
ขัดราบ บนขนดนาคบัลลังก์ ๓ ชั้น และภายใต้เศียรพญานาคราช ๕ เศียร เลิก
๕ เศียรเลิกพังพาน งดงามมาก กรอบสี่เหลี่ยมป้าน มุมบนทั้งสองประดับลาย
ดอกพิกุลมุมละดอก กรอบกระจก สัณฐานมิติ  ๓.๓๐ x ๒.๓๐ x .๔๐
     
เครดิตข้อมูลนี้ของ ปรมาจารย์ใหญ่ ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
 ข้อมูลยกมาจาก หนังสือ พระสมเด็จฯ ตำราพิจารณาพระสมเด็จเล่มแรก
ของประเทศไทย   พ.อ.ประจน  กิติประวัติ นายทหารสังกัดกรมการรักษาดินแดน  หรือ "ตรียัมปวาย" ปรมาจารย์ผู้บัญญัติคำว่า ฯเบ็ญจภาคีแห่งพระเครื่อง  หน้า ๕๐๑
เรียบเรียงโดย พันตำราจโท สรารักษ์  กิติประวัติ
พิมพ์ครั้งที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๔๖  สำนักพิมพ์ไทยภูมิ   

 

ขออนุญาตตอบโต้กระทู้ของท่านหน่อยนะ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาเดียวในโลกที่สอนเรื่องจิตเป็นหลัก การที่เราเอาพระเครื่องมาพิจารณาในเชิงวัตถุอย่างเดียว ก็ออกจะไม่ใกล้พระพุทธศาสนาสักเท่าไรครับ ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบมีอยู่ ทั้งในหมู่นักบวชและผู้นุ่งขาวหม่ขาว ถ้าท่านอยากรู้ว่าการจับรัศมีองค์พระมีจริงหรือไม่ ท่านต้องลงมือปฎิบัติเองเพื่อให้เห็นจริง ดังคำว่า ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติฯ แปลว่า ธรรมของพระพุทธองค์เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน ดังนั้นพระพุทธองค์ท่านจึงทรงห้ามมิให้นักบวชในศาสนานี้ อวดตน คือนำสิ่งที่ตนเห็นแล้วคนอื่นไม่เห็นมาพูดมาคุย ยกเว้นในหมู่ผู้ปฎิบัติด้วยกันเท่านั้น นั่นคือสิ่งหนึ่งที่ผมยอมรับว่าบางสิ่งบางอย่างไม่สามารถหาหลักฐานทางโลกมาตอบโจทย์ท่านได้ แต่สิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริง ในหมู่คนเล่น สมเด็จฯ วังหน้า วังหลัง วัดพระแก้ว พระธาตุพนม เค้าก็มีหลักเกณท์ในการพิจารณาละเอียดละออไม่แพ้การพิจารณา พระสมเด็จฯวัดระฆัง วัดใหม่อมตรส วัดเกศไชโย เช่นกันครับ และบางองค์มีการเช่าบูชากันเป็นหลักสิบล้านเหมือนกัน อย่าดูแคลงครับ

 

แล้วแบบนั้นมันจะมีข้อยุติยังไงล่ะครับ ใครคนนั้นสามารถจับพลังได้จริงๆ อย่างผมมีพระ ผมบอกว่าของผมจับพลังแล้วนะ 100 เมตรเลยองค์นี้ เชื่อผมผมจับแล้วจริงๆ แล้วแบบนี้คนฟังเขาจะคิดยังไงครับ เชื่อเลยเหรอ?? ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า หรือท่านอาจบอกว่ามีอาจารย์คนนี้คนนั้นจับพลังได้ แล้วผมจะเชื่อได้อย่าไรว่าเขาจับพลังได้จริงๆ ความเชื่อใจเขาไม่นับเป็นหลักฐานครับ

 

ข้อมูลมีหลักฐานระบุพิมพ์พระและวันเวลาสถานที่บุคคล
พอจะสรุปได้ว่าพระสมเด็จวังหน้า และวัดพระแก้วนั้นมีจริงครับ 
แต่จะมีใครบ้างที่เก็บใว้และใครจะยอมรับหรือไม่เท่านั้นครับ

 

เรื่องจับพลัง สำหรับผม ก็พูดเหมือนเดิม ถ้าไม่ใช่พระเกจิ ระดับ กสิน ผมไม่เชื่อครับ ส่วนมากที่จับผมกลัวจะ คิดไปเอง ลุงที่ผมคุย เขาก็จับ แต่แกบอกผมให้ใช้ตา ดู ครับ คือให้ดูว่าพระแท้หรือเปล่า แล้วค่อยมาจับครับ ถ้าเกิดจับๆ มั่วๆ แท้ป่าวก็ไม่รู้ ละโดน 5555

 

กรุวัดพระแก้ว ผมก็ว่ามี แต่ พิมพ์ ไม่มีสมเด็จครับ อย่างที่ผมบอกว่า ลุงแกไปทุกกรุ ที่มี ก็ได้แต่โคนสมอครับ สมเด็จแกไม่เคยเห็น และก็ไม่แนะนำให้ผมเล่น ก็คงแล้วแต่พี่ละกันครับ เพราะลุง แก สะสมพระมานาน หน้าพระ แก ดูง่ายทุกองค์

http://palungjit.org/threads/สมเด็จกรุวัดพระแก้วแท้ๆ-ครับ-ลองมาชมกัน.148947/

ผมเหนื่อยละครับ ไม่พูดดีกว่า ใครอยากสะสมอะไรก็ตามสะดวก พอดีผมฟังจากคนไปที่กรุมาเอง ก็ต้องบอกแบบที่บอก
ต้องต้อสุ้กับพระปลอมแล้ว ยังพวกกรุวังหน้า พระสมเด็จ?? และพระสมเด็จจากหนังสือ บุญ อีก ปวดหัว

 

คงต้องใช้ตัวนี้จับพลังเพื่อเป็นบรรทัดฐานสากลแล้วครับ
แต่หาซื้อที่ไหนล่ะ

 

นำมาให้ชมอีกองค์ครับมีทองคำแท้โรยอยู่เต็มทั้งหน้าองค์พระและด้านหลังครับ

 

ขอบคุณครับก็เข้ามาศึกษาดูเท่านั้นครับได้หลากหลายความรู้ดีครับ

 

แว้ก หลุดมาจากดราก้อนบอลเลย พี่เป็นชาวไซย่า หรือป่าวครับ
ล้อเล่นนะครับ เห็นกำลังเครียดกันใหญ่ 555+

 

ไม่แน่ว่ามาจากอินเดียจริง เพราะแถวพุทธคยา มีการเอาดินอินเดียมาปั๊มพระขายเป็นที่ระลึกแก่ชาวพุทธที่มาจาริกแสวงบุญครับ ไม่ก็หลวงตาเหมาจากตลาดพระแล้วไปปลุกเสกที่อินเดียจริง แล้วกลับมาแจกญา่ติโยม

 

ตัวผมก็มีพลังงานครับ..แต่จับไม่ได้ชักที แต่ใช้ได้นะ เพราะผมกินข้าวไม่ได้กิน... ขำขำครับท่าน

 

สงสัยจะลืมไปว่าใครเป็นคนบูรณะวัดพระแก้ว เหนื่อยจัง

สมเด็จพระเทพทรงบูรณะวัดพระแก้วตอนปี 2525 และพระองค์ทรงเสด็จคุมงานเองเกือบทุกวัน

พระนะครับ ถ้ามีคนมาให้ ไม่ว่าใครก็รับไว้ก่อนเสมอ (รวมถึงคนถวายทั้งเจ้านาย หรือ พระสงฆ์) ท่านไม่ปฏิเสธหรอกครับ แต่ใครจะคิดว่าการที่รับของไว้ แล้วคนที่ให้จะมานำเป็นจุดโฆษณาตัวเอง

 

ดีครับสำหรับความเห็นที่หลากหลาย ประชาชนจะเป็นผู้พิจารณากันเองนะครับ หลักฐานเรื่องกรุวัดพระแก้ว เอามาให้ดูไม่ได้จริงๆครับ ไม่กล้าโชว์สมุดบันทึกได้แต่ดูอย่างเดียว พูดมากก็ไม่ได้กลัวคุกเหมือนกัน พระสมเด็จวังหน้าองค์นี้ ขออนุญาตจากท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ฉายภาพครับ

 

5555555555555555555555555555555555555

 

ต่อให้ยืมมาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งก็ เก๊ เหมือนเดิม
ของเก๊ก็ยังคงเป็นของเก๊อยู่วันยังค่ำ

เคยศึกษาประวัติศาสตร์วงการโหรหรือไม่ ว่าคำว่า ลัคนา (เจ้าเรือนเกิด)
ที่วงการโหรใช้ลงในดวงชะตานั้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ - ๕ นั้น
ใช้ตัวย่อของอักษรอะไร ใช้ ล ลิงที่เป็นอักษรขอมครับ
ไม่ใช่ ล หรือ สั แบบปัจจุบัน ซึ่งการใช้ ล หรือ สั นั้น
มีมาในยุคหลังช่วงที่การพิมพ์เฟื่องฟูแล้ว และรัชกาลที่ ๖
ประกาศให้งดการเรียนการสอนตัวอักษรขอม และอักษรพื้นเมือง
สนับสนุนให้ใช้ตัวอักษรไทยในโรงเรียนทั้งของวัด และ รัฐบาล
ดังนั้น โหรในยุคหลัง ๆ จึงใช้ ล และ สั ของไทยในการเขียน
ลัคนาในดวงโหร

และในภาพด้านหลังพระสมเด็จที่นำมาโชว์นั้น
จะเห็นในดวงชะตาที่มี ล ปรากฏอยู่กลับเป็นอักษรไทย ไม่ใช่อักษรขอม
ใครตาดีช่วยดูหน่อยเถิดว่าเป็นตัวพิมพ์หรือตัวเขียน front อะไร
แล้วอย่างนี้จะให้บอกว่า แท้ ได้อย่างไร เมื่อผิดยุคผิดสมัยอย่างนี้
คนทำก็ช่างกระไรเลย พลาดจุดเล็กจุดน้อยไปได้
นี่แหละหนา ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น
รู้จุดบอดแล้วนี่ เอาไปแก้ให้ถูกต้องซะนะ 555+

ปล.ภาพที่นำมาให้ดูคือการใช้ ล (ลัคนา)แบบโบราณในการเขียนดวงนะจ๊ะ

 

องค์นี้หลวงตาบอกแกะจากต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้คับเห็นบอกว่าเป็นพิมพ์พุทธเมตตา ปลุกเสกป่าวไม่รู้อะคับ แต่โดยส่วนตัวนึกเอาเองว่าพระพุทธเจ้าคงปลุกเสกให้แร้วแระคับ เพราะพระองค์ประทับนั่งใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ตั้งหลายวัน แฮะๆไปบอกหลวงตาว่าพระหลวงตาในตลาดตึมเรย ท่านเรยใจดีบอกเอาองค์ไม้แกะนี่ไปเรย:cool::cool::cool:

 

พระมาแนวเดียวกับ ดร นัท ครับผม

พระกริ่งปวเรศ พระเครื่อง สมเด็จโต พ.ศ.2382 - พ.ศ.2434: 160. เบญจภาคีเนื้อทองคำ

อีกองค์ หลัง ร5 เห้อ สมเด็จโต ท่าน มรณะภาพ ตอน ร5 ท่าน 15 พรรษาเองนะครับ

พระปลอมมี จุดให้จับเยอะครับ วิเคราะห์ เอาละกันครับ ระดับพี่ ศนิวาร ศึกษาอักขระขอมมา ผมก็ยังหนาวเลย

ส่วนที่บอกว่าทำด้วยทอง ผมว่าไม่น่าสนใจครับ เพราะพระ สมัยปัจจุบัน ก็มีทำปลอมด้วยทอง ก็มี ผมขอไม่เอ่ยนะครับ

 

ตามไปอ่านมาครับ ช่างกล้าบอกว่าเป็นฝีมือช่างสิบหมู่ แต่ดูแล้วทำออกมาเลอะเทอะไปหมดไม่มีความสวยงามปรานีตแม้แต่น้อย อย่างกับเด็กอนุบาลปั้นดินน้ำมัน