เรื่องเด่น ถ้าคุณเห็นจุดเเสงลักษณะนี้ ขณะทำสมาธิ นั่นหมายความว่าจิต ของคุณเริ่มจะมีกำลัง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 19 กันยายน 2018.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,731
    ถ้าคุณเห็นจุดเเสงลักษณะนี้ ขณะทำสมาธิ นั่นหมายความว่าจิต ของคุณเริ่มจะมีกำลัง

    %E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2.png

    ความลึกลับของจิตนี้ เป็นของที่ละเอียด ปราณีต เเละยากที่จะพิสูจณ์ทราบให้เห็นโดยทั่วกัน หนึ่งในความลึกลับของ จิตที่น่าสนใจคือ ธรรมชาติภายในจิตมักจะประกอบไปด้วยรูปทรงเรขาคณิต โดยผู้ปฏิบัติ ทุกชาติ ทุกศาสนา จะประสบพบเจอในลักษณะที่คล้ายๆกัน ยกตัวอย่างการทำสมาธิในเเถบอินเดียด้วยโยคะ จะมีการเข้าถึงจักรกระ ซึ่งรูปตัวจักรกระ ที่ผู้ปฏิบัติจะได้เห็น จะมีลักษณะคล้ายดอกบัว หรือรูปเหลี่ยม ที่มีกลีบเเละมีเเสงสว่างภายในตัวมันเอง

    Ep92tQH.jpg

    โครงสร้างภายในนี้ คือกุญเเจเข้าสู่ความเป็นธรรมชาติ..ตั้งเเต่เริ่มกำเนิด เเต่ทั้งหมดนี้ก็ยังอยู่ในรูปเเบบเเผนของธรรมชาติ.. เเตกต่างจากสภาวะนิพพาน.. ที่ไม่มีรูปเเบบหลงเหลือ เเละไร้ซึ่งสิ่งที่ยกมาเป็นคำพูดได้

    N80JkSI.jpg

    เเต่ถ้าคุณเห็น ลัญลักษณ์เหล่านั้น.. มันอาจจะเป็นสัญญาณที่กำลังลังบอกว่า..

    -ตาที่ 3 หรือ การรับรูปทางมิติอื่น เริ่มมีการตื่นตัว

    ช่วงเเรก อาจจะเป็นการสัมผัสรับรู้ สิ่งที่ “เเวบ” เข้ามาในใจ เเละพลังงานต่างๆ

    -ความปราณีตของจิตกำลังพัฒนา เเละถูกฟอกด้วยเเสงสว่าง

    -คุณจะเริ่มรู้สึกว่า การทำสมาธิเหมือนการเดินทาง ท่องเที่ยวไปในจิตภายในเเละดูน่าค้นหา

    -จนถึงขั้นหนึ่งในสภาวะที่สงบมากๆ จะมีสภาวะ เสียงภายใน (inner voice) เป็นความคิดที่ตกตะกอน เเต่ออกมาในรูปเเบบของเสียง เเต่ไม่ใช่ความคิดเเบบทั่วไป โดยลักษณะที่สังเกตุได้คือ การรู้สึกบังคับ หรือ ตัวเจตนาน้อยลง เเละเสียงก็เหมือนปรากฏขึ้นมาเอง ดังก้องอยู่ในจิต

    -หากทำถึงขั้น (inner voice) ก็จะพัฒนาขึ้นขั้นที่ร่างกายเเข็งเป็นหิน หรือ ไม่รู้สึกถึงร่างกายเลยก็ได้

    jHlJ1hW.jpg

    ……….เเละจุดสีที่เราเห็นนั้น ก็มีความหมายในตัวของมันเองด้วย ซึ่งเเต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนสีฟ้าหรือม่วงเข้ม หรือถ้าคนที่มีความฉลาดทางด้านภายใน จะเห็นรูปมิติซ้อนๆกันหลายชั้น เเละอาจจะนำจิตเข้าไปสู่ใจกลางของจุดสีเหล่านั้นได้

    ผู้เขียน -จีร :



    --------------
    ขอบคุณที่มา
    https://koidoo.com/2018/09/18/ถ้าคุณเห็นจุดเเสงลักษณ/
     
  2. coffee cake

    coffee cake สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +2
    ถูกต้องจริงๆ
     
  3. หมอกขาวมาวหลวง

    หมอกขาวมาวหลวง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +174
    ใช่ค่ะเราเคยเห็น เหมือนภาพกราฟฟิค เป็นจุดแล้วค่อยแตกเป็นดอกเป็นดวง เปลี่ยนหลายสี มีสีฟ้า สีชมพู สีม่วง
    แล้วก็นิ่ง สงบค่ะ
     
  4. นะ จัง งัง

    นะ จัง งัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +178
    เห้อ เสียดายไม่ค่อยได้ทำสมาธิเลยจิตไม่ค่อยนิ่ง ถ้าทำจริงๆจังๆก็มีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะเลย
     
  5. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    จิตเริ่มทำงานได้ครับ
    ไม่ได้มีกำลังสมาธิหรือกำลังจิต
    อะไรหรอกครับ เจอหมอผีหมอธรรม
    ก็เดี๋ยงแล้วครับ. เพียงแต่มันไปได้เรื่อง
    การรับรู้ทางนามธรรมด้านพลังงาน
    และมักทำให้เราไปสนใจอต่เรื่องที่ออกนอกกาย เรื่องไกลตัว
    มันเป็นแขนงหนึ่ง
    ของสายวิชาพลังงานจักรวาล
    ไม่ใช่พุทธศาสนานะครับ
    เพราะพุทธศาสนาจะสอน
    เข้ามาที่กายตนเอง

    และหากว่า ไม่ได้เจริญสติเละเดินปัญญามาก่อน ตลอดจนมีภูมิต้านทานทางจิต
    และกายที่ดี. หากเข้าไปเกี่ยวข้อง
    มักตะถูกแทรกจากภูมิที่พอมีฤทธิ์
    เป็นภูมิอสูรกายครับ
    เพราะเค้าบำเพ็ญบารมีทางด้านนี้
    นิ่งถ้าเป็นประเภท คนที่อยากมีอะไรพิเศษ
    แบบทางลัด ยิ่งเข้าทางพวกนี้ครับ
    เพราะถ้าได้เข้าไป จะกลับตัวยาก
    จะคิดว่าตนเองเก่งกว่าใคร
    เป็นผู้วิเศษ มีหน้าที่สำคัญ
    ลงมาเกิด และจะ ติดการสรรเสริญ
    ติดลาภ ติดยศ ได้แบบถอยตัวไม่ขึ้น



    การที่เห็นแบบนั้นได้
    ไม่ต้องฝึกอะไรมาก็เห็นได้ครับ
    ไม่ใช่เรื่องวิเศษ เรื่องแปลกอะไร
    เพียงแต่ มนุษย์ชอบไปสร้างให้มันดู
    วิเศษ ทำให้หลงตัวเองเล่นไปกันเองครับ

    จิตนั้นปกติจะทำงานได้เมื่อมีเส้นสายนำ
    หรือมีแสงนำครับ
    ถ้าทำงานได้พร้อมกันเราจะจะเห็นเป็น
    รูปร่างและมีสี มันเป็นเรื่องปกติ

    พวกจักระ พวกภาพสามเหลี่ยม
    หรือดวงตาแห่งรา เส้นสายแปลกๆ
    เกี่ยวกับเรื่องพลังงานต่างๆนั้น
    เป็นวิถีหนึ่ง ที่ไม่ใช่พุทธศาสนา
    เพราะไม่สามารถทำให้ใครหลุดพ้นได้
    ต่อให้คุณจะเก่งขนาดพลิกจักรวาลได้
    ก็ไม่หลุดพ้นครับ

    แต่ถ้าวิถีชีวิตเราต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง
    ต้องดูว่า เรามีกำลังสติทางธรรมที่จะ
    เข้าใจกิริยาต่างๆของทันได้ไหม
    เดินปัญญามาเพียงพอที่จะไม่ยึด
    นามธรรมต่างๆพวกนี้ได้ไหม
    เคยทำสมาธิ จนมีภูมิต้านทาน
    ของร่างกายเพียงพอกับเรื่องพวกนี้ไหม
    จิตมีกำลังจิตพอ ที่จะต้าน
    กะแสภายนอกที่มาแหย่ได้ไหม
    พวกสัมผัสภายในมันใช้ต้าน
    กะแสแหย่ภายนอกไม่ได้หรอก
    ครับ
    มีแต่จะไปยึดดึงมาเป็น
    อัตตาตัวตนครับ

    ปล แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     
  7. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    ดวงตาเเห่งรา คืออะไรหรอครับ
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ดวงตาแห่งราทั่วไปที่เห็นง่ายๆ คือ ดวงตาที่อยู่บนปลายยอดปิรามิด
    ที่มีดวงตาดวงเดียวนั่นหละครับ

    ในทางปฏิบัติ
    สามารถปรากฏให้เห็นเป็นนิมิตได้ปกติ
    ในกรณี ที่ดวงจิตดวงใดก็ตาม สามารถรวมพลังงาน
    ที่สร้างจากจิตตัวเองได้ ไม่ว่าจากกรรมฐานอะไร
    ให้สามารถไปรวมกับพลังงานภายนอกต่างๆได้...
    ในว่าจะเป็นการ เพิ่ม รวม ดึง ดูด ส่ง อะไรประมาณนี้........
    ซึ่งมันจะส่งผลในเรื่องสายตาที่ สัมพันธ์กับพลังงานต่างๆได้
    ไม่ว่า การรับรู้ การเห็น การแปรเปลี่ยน การสร้างต้นกำเนิดพลังงานใหม่
    การรวมพลังงานเข้ามาแบบไม่ต้องอิงอาศัยใช้พื้นที่และเหนือกาลเหนือเวลา
    เพราะมันไม่ใช้พื้นที่เลยไม่มีระยะทางเลยไม่ขึ้นกับเวลา
    ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากภายนอกและพลังงานที่สร้างจากภายในตนเอง
    ซึ่งในวิถีการเล่นกับพลังงานแบบนี้ มันมีบางส่วน
    ที่ต้องมีการรวมคล้ายๆฐานปิรามิด
    และฝึกการส่งพลังงานออกไป
    ซึ่งดูคล้ายๆยอดปิรามิด เท่านั้นเอง

    ไม่ใช่ว่าเห็นได้แล้ววิเศษวิโส
    เหมือนที่บางสายการปฏิบัติชอบเอามาอ้าง
    ไว้หลอกให้คนยึดติดในเรื่องพลังงานนะครับ
    หรือหลอกว่า คนนั้นมีอะไรพิเศษนะครับ
    คือ เค้าอาจเห็นได้เหมือนกัน แต่คนละเจตนา...
    ในการโน้มให้เข้าใจ...
    และไม่ใช่ทางพุทธศาสนานะครับ
    เป็นแขนงหนึ่งของสายวิชาพลังงานจักรวาลเท่านั้น


    จริงๆมันแค่เป็นตัวฟ้อง การทำได้ของจิตดวงนั้นๆเท่านั้นเอง
    ไม่ได้เป็นผู้วิเศษ หรือ มีคุณธรรมอะไร หรือเป็นคนพิเศษอะไร
    เรื่องปกติธรรมดาของจิต แบบที่เล่าให้ฟังข้างบนนั่นเอง


    ปล.เล่าให้ฟังเฉยๆนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...