ทรนงประจิมในฐานะ 5 สุดยอดฝีมือ

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย piyaa, 11 ตุลาคม 2010.

  1. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>
    </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> ยังมีเรื่องราวแห่งความเศร้าที่เกิดมาเป็นเอี้ยก้วยอยู่อีกนิดที่น่าพูดต่อ...ที่จะทำให้เขาเป็นฮีโร่ที่ชวนรันทดเอามากๆ

    เอี้ยก้วยนั้นเริ่มสตาร์ทความเศร้าจากชาติกำเนิด จากการที่มีพ่อเป็นคนขายชาติ กราบศัตรูเป็นพ่อ และเข่นฆ่าพี่น้อง ตามมาด้วยการถูกคนที่เรียกว่าเป็นอาจารย์รังแก ทั้งอึ้งย้ง ทั้งเตียจี้เก่ง แถมคนที่เขารู้สึกผูกพันด้วยอย่างยายเฒ่าซุนก็ตายภายใต้ฝ่ามือของนักพรตชวน จินก่าเสียอีก ที่หนักกว่านั้นในเชิงสังคมที่ถือว่า อาจารย์เหมือนเป็นพ่อและเป็นอาจารย์หนึ่งวันเท่ากับเป็นอาจารย์ทั้งชีวิตก็ เป็นปมที่ทำให้เอี้ยก้วยเข้าขั้นคนโฉด เพราะการประกาศยกเลิกเป็นลูกศิษย์กับสำนักช่วนจิน แถมยังประกาศว่าอยากจะฆ่าอาจารย์ตัวเองต่อหน้าบรรดาจอมยุทธทั้งหลายในป้อม ตระกูลเล็กก็ยิ่งจะโดนก้วยเจ๋งตบเอา

    พูดถึงปมแบบนี้...จะมีที่คล้ายคลึงเอี้ยก้วยมากๆ แถมยังได้ใจวัยรุ่นอย่างผมมากเลยก็คือ ซีคุนหลุน ‘เหลียงเซียว’ ในภูผามหานที ผลงานของเฟิ่งเกอ ที่เลือกที่จะไปเข้าร่วมกับมองโกลเพื่อเอาเลือดล้างความแค้นที่เข่นฆ่าคนที่ เขารักด้วยความเข้าใจผิด จนเข่นฆ่าพวกซ้องกระเจิง แต่ดูไปดูมาผมก็ยังชอบเอี้ยก้วยมากกว่าครับ...และที่ชอบมากกว่าอาจจะเป็นผล ที่เอี้ยก้วยแสดงออกในเรื่องหัวใจของเขานั่นเอง

    เพราะกว่าซีคุณหลุนเหลียงเซียวจะเลือกนางในใจอย่างฮั่วเสี่ยวซวง...เขาดู คล้าย ‘เตียบ่อกี้’ ในดาบมังกรหยกมากกว่า มิได้มั่นคงกับรักแรกและรักสุดท้ายแบบที่เอี้ยก้วยมีต่อเซียว เล้งนึ้ง..ทั้งๆที่แต่ละนางที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขานั้น ระดับนางงามทั้งสิ้น แต่เอี้ยก้วยก็เลือกที่จะปฏิบัติและยกให้เป็นน้องสาวทุกๆ ราย

    ก็ไม่แปลกหรอกครับ ปมความรักในใจของเด็กที่ไม่มีใครรักนี้จะซาบซึ้งตราตรึงอยู่กับคนที่เขา เรียกว่าท่านอาบ้าง อาจารย์บ้าง...และนั่นเป็นเรื่องน่าเศร้าประการที่สองในชีวิตของเอี้ยก้วย เพราะ รักของเขานั้นเป็นรักที่ต้องห้าม...และคนรอบๆ ตัวเขาต่างก็รังแกเขาในเรื่องนี้อีกแล้ว

    กิมย้งเลือกที่จะใช้ประโยคที่ว่า “ถามขอถามชาวโลก รักเป็นฉันใด จึงยามเป็นยามตาย ยอมอยู่คู่กัน” เพื่อเป็นตัวในคำว่าความรัก...และเอี้ยก้วยกับเซี่ยวเล้งนึ้งคือ ที่สุดแห่งการทดสอบของคำถามที่ว่ารักเป็นฉันใด

    เพราะในยุคสมัยนั้นความรักกับญาติผู้ใหญ่ที่ตัวเองนับถือ ถือเป็นเรื่องพิสดาร แล้วการรักกับอาจารย์ตัวเองยิ่งเป็นสิ่งที่ชาวโลกต้องประนาม ต่อให้อาจารย์คนนั้นดูเด็กกว่าก็ต้องประนาม ที่สำคัญเอี้ยก้วยที่สังคมยังถือว่าเขายังมีญาติผู้ใหญ่อยู่อย่างก้วยเจ๋ง และอึ้งย้ง การประกาศว่าจะอยู่กินกับใครแต่งงานกับใครโดยไม่ให้ผู้ใหญ่เป็นคนอนุญาติ หรือสู่ขอถือเป็นเรื่องที่ยิ่งผิดธรรมเนียมเข้าไปใหญ่

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ดูเหมือนในแผ่นดินแห่งมังกรหยกนั้นจะมีคนเดียวที่เข้าใจต่อเอี้ย ก้วยอย่างถ่องแท้...นั่นคือ อึ้งเอี๊ยะซือ (Huang Yaoshi) ผู้เป็นเจ้าของนาม “มารบูรพา” ผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง

    มีคำถามขึ้นมามายถึงพฤติกรรมประหลาดของมารเฒ่าอัจฉริยะผู้นี้ในฐานะที่ตัว เองทำอะไรต่อมิอะไรตามอำเภอใจและรังเกียจต่อแนวทางและประเพณีอันคร่ำครึของ คนในยุคนั้นเสมอมา...สิ่งที่อึ้งเอ๊ยะซือเป็นน่าจะเป็นสิ่งที่คนในยุค ปัจจุบันเรียกันว่า “ติสต์ “ ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

    อันนี้ต้องขอนอกเรื่องซักนิด เพราะเหตุที่อึ้งเอ๊ยะซือ ‘เข้าใจ’ ‘เห็นใจ’และ ‘ให้กำลังใจ’ เอี้ยก้วยนั้น ส่วนหนึ่งมาจากปูมหลังแห่งความรักของเขาที่มีต่อเหมยเชาฟง (บ้วยเทียวฮวง) ลูกศิษย์ของตัวเองเสียด้วย!!

    ท่านผู้อ่านไม่ได้ตาฝาดหรอกครับ เพราะ ในฉบับแก้ไขครั้งที่สามในเรื่อง มังกรหยก ที่กิมย้งทำเมื่อปี 2004 อ้างอิงจาก wuxiapedia.com กิมย้งแจกแจงในรายละเอียดเกี่ยวกับ เขา และลูกศิษย์คือ เหมยเชาฟง ว่ามันคือความรักข้างเดียวที่ไม่สมหวัง

    รักของอึ้งเอี๊ยะซือนั้น เป็นรักที่ประหลาดที่สุด แม้แต่ตัวเขาก็ไม่อาจจะข้ามพ้น กิมย้งบอกไว้ด้วยว่า เขาไถ่ตัวเหมยเชาฟงมาจากบ้านตระกูลเศรษฐีหลังจากเธอกำลังจะโดนลวนลาม ก่อนจะพาไปเลี้ยงดู ฝึกสอน และกลายเป็นความรักที่ตัวเขาเองก็ไม่กล้าเอ่ยปาก แม้เขาจะเก่งพอที่จะแยกแยะได้ว่าจริยแบบไหนที่ควรทำหรือไม่ควรทำ แต่กับเรื่องอาจารย์รักศิษย์ตัวเองนี่มารบูรพาไม่อาจจะก้าวข้ามพ้น

    ในฉบับแก้ไขครั้งที่ 3 นั้น กิมย้งบอกว่า ความรักของอึ้งเอี๊ยะซือนั้นอยู่ในใจและไม่ต้องการให้ใครรู้ สำหรับเหมยเชาฟง อึ้งเอี๊ยะซือยืนยันให้เธอจะต้องอยู่ข้างกายอาจารย์เพื่อรับใช้และไม่ไปจาก เกาะดอกท้อตลอดไป ต่อมาเมื่อความรักของเธอกับศิษย์พี่ตั้งเฮียงฮวง (Chen Xuanfeng) เกิดขึ้น และความทราบไปถึง เค็กเล้งฮวง (Qu Lingfeng ) พี่ใหญ่ซึ่งตอนนั้นมีอายุ 30 เป็นม่ายและมีลูกสาวคนเดียวคือ ส่าโกว (Sha Gu) ทั้งหมดก็เลยลงมือต่อสู้กันเพราะเค็กเล้งฮวงรู้สึกว่าศิษย์น้องทั้งคู่ทรยศ อาจารย์ ครั้นอึ้งเอี๊ยะซือทราบเหตุแห่งการวิวาทนี้ขึ้นก็โกรธเค็กเล้งฮวงที่มารู้ ความในใจที่เขาอยากเก็บไว้ นั่นทำให้เขาถึงกับหักขาศิษย์คนนี้แล้วไล่ออกจากเกาะ หลังจากเหตุการณ์หักขาศิษย์คนโตนั้นอีกหลายเดือนทีเดียว เขาก็พาผู้หญิงอีกคนกลับมา โดยประกาศว่านี่คือภรรยา (ผู้หญิงคนนี้คือ แม่ของอึ้งย้งนั่นเอง) ในการดื่มเหล้าวันขึ้นปีใหม่อึ้งเอี๊ยะซือถึงกับประกาศไว้ว่า ถึงขนาดนี้ยังจะมีใครกล้าบอกว่า เขารักลูกศิษย์ตัวเองอีกหรือไม่ แถมบอกด้วยว่าเค็กเล้งฮวงเหลวไหล แต่ให้อภัยแล้วให้คนไปเรียกกลับมา?

    (ต้นฉบับภาษาอังกฤษเขียนดังนี้... Once at a certain Chinese festival, Huang Yaoshi drank a few more cups of wine and muttered:"Who dares to say that old East Heretic is in love with his female pupil! Lingfeng was spouting nonsense! Where is he now, I forgive him. Tell him to come back!")

    ส่วนเหมยเชาฟงกับศิษย์พี่ต้องอยู่บนเกาะต่อ แต่อึ้งเอี๊ยะซือไม่สอนวิชาให้...พอได้ยินว่าอาจารย์จะเรียกศิษย์พี่ใหญ่ กลับมาก็นึกกลัว ทำให้ทั้งสองขโมยคัมภีร์เก้าอิมภาคหลังแล้วออกไปจากเกาะในเวลาต่อมาแล้วกลาย เป็นสองมารลมมหากาฬในที่สุด

    เอี้ยก้วยจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่มารบูรพาต้องยกย่อง เพราะเขาก้าวข้ามพ้นสิ่งที่ตัวเองไม่กล้าก้าว ถึงขนาดเสนอให้เอี้ยก้วยออกจากสำนักสุสานโบราณจะได้แต่งงานกับเซียวเล้งนึ้ง ได้สมใจ แต่เอี้ยก้วยกลับประกาศว่า เขาจะเป็นทั้งคนรักและเป็นลูกศิษย์...ใครจะทำไม!!

    ความทรนงนี้เองที่ทำให้เอี้ยก้วยต้องพบกับความรันทดมาตลอด แต่ที่เลวร้ายที่สุดก็คือ การที่เขาโดนตัดแขนจากก้วยพู้ลูกของก้วยเจ๋ง ...และก้วยพู้คนนี้ยังเอาเข็มพิษปักใส่เซี้ยวเล้งนึ้งจนเป็นเหตุให้ทั้งคู่ ต้องพลัดพรากกันอีกเป็นเวลาถึง 16 ปี...ถามว่าใครเจอแบบนี้แล้วยังทนได้แบบเอี้ยก้วยบ้าง

    สำหรับผมที่ชวนรันทดสุดๆ ก็คือ การให้อภัยของเอี้ยก้วยต่อทุกคนที่รังแกเขาทั้งทางตรงและทางอ้อม...แต่มัน ไม่ได้ดึงให้เขากลายเป็นบุคคลที่อยู่บนเส้นทางแห่งมารเหมือนพ่อบุญธรรมที่ ชื่ออาวเอี้ยงฮง หรือเปิดฉากระบายแค้นกับคนที่ทำให้ความรักของเขาไม่สมหวัง หรือแม้กระทั่งล้างแค้นต่อคนที่ตัดแขนของเขาจนเหลือข้างเดียว คำว่าความแค้นไม่มีความหมายต่อคนๆนี้แม้แต่น้อย มีแต่คำว่ารักเท่านั้นที่เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตของเขา

    ฉายาทรนงประจิมในฐานะ 5 สุดยอดฝีมือจึงได้มาด้วยประการฉะนี้</td></tr></tbody></table>
     
  2. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    เอี้ยก้วยที่คนไทยน่าจะรู้จักมากที่สุดและคงจะจำไว้เป็นเอี้ยก้วยในใจของ คุณ ผมคิดว่าคงไม่แคล้วจะเป็น หลิวเต๋อหัว (ฉบับปี 1983) กับ กู่เทียนเล่อ จะว่าไปการที่ HK TVB คัดสองคนนี้มาแสดงก็ต้องไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะใครก็ตามที่จะมาแสดงเป็นเอี้ยก้วยต้องหล่อ ตาโต คิ้วเค้ม และมีรอยยิ้มที่ชวนให้สนิทสนม...แต่ขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายแห่งความคลั่ง บางอย่างที่พร้อมจะระเบิดออกมา

    สำหรับผมถ้าเอาตามนวนิยายที่กิมย้งบอกจริงๆ กู่เทียนเล่อน่าจะได้เปรียบมากกว่าหลิวเต๋อหัว เพราะ น้าหลิวแกดูไม่ค่อยเหี้ยมเท่าไหร่ ผมรู้สึกไม่ค่อยแค้นโลกเท่าที่ควร แต่บทจะเล่นเป็นคนคนที่อยู่ในอาการน้อยใจผมว่าแกทำได้น่ารักดี แต่กู่เทียนเล่อทำตรงนี้ได้ดีกว่า เสียแต่ว่าหน้าตาแกไม่ค่อยจะเข้าเค้าที่กิมย้งอธิบายไว้ ยิ่งเยิ่นเสียนฉีที่มารับบทเอี้ยก้วยของไต้หวัน...คนนี้ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะ กิมย้งไม่เคยบรรยายว่าเอี้ยก้วยดูเหมือนลิง หล่อเล่อหลินเอี้ยก้วยตัวแรกที่เคยให้คนไทยยลก็ดูแล้วแปลกๆ หน้าเหี้ยมเกิน

    จะว่าไปหวงเสี่ยวหมิงที่มารับบทเป็นเอี้ยก้วยฉบับปี 2006 ที่จีนแดงสร้างกลับดูเหมือนเอาคนทั้งคู่มาหารสอง เขาดูมีหลายมุมที่ดูเหมือนหลิวเต๋อหัวแล้วก็ดูมีหลายมุมที่ดูเหมือนกู่เทียน เล่อ ที่สำคัญจางจี้จงเลือกหวงเสี่ยวหมิงมาเล่นทีแรกก่อนหน้าที่จะแคสต์ตัวนางเอก เสียอีก...สำหรับผมหวงเสี่ยวหมิงแกทำได้ดีนะครับ ทั้งความแค้น ความสงสัยต่อโลก ความรักต่ออาจารย์ภรรยา โดยเฉพาะไอ้ท่าทางเย่อหยิ่งยะโสนี่แกก็ใช้ได้ แถมยังเป็นเด็กขี้โวยวายกึ่งๆจะขี้อ้อนและโหวกเหวกในตอนแรกๆนั้น หวงเสี่ยวหมิงลงตัวเลย เพราะ ในหนังสือนั้นเอี้ยก้วยค่อนข้างที่จะมีลักษณะแบบนั้น...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังได้เปรียบ และอยู่ในสถานการณ์ที่เขารู้ว่า มีคนที่เข้าข้างเขาอยู่ เขาจะแสดงอาการแบบที่ว่าออกมาทันที…ถ้าเป็นศัพท์วัยรุ่นสมัยนี้อาจจะใช้คำ ว่าเกรียนได้เหมือนกัน

    อาจจะมีบางคนบอกว่าแกหน้าแก่กว่าเซี่ยวเล้งนึ้งก็ต้องบอกตามเหตุผลที่ผมให้ ไว้ก็คือ หน้าของทั้งคู่นั้นดูเท่ากันตั้งแต่ตอนอยู่ในสุสานโบราณแล้ว ยิ่งออกมาที่ป้อมตระกูลเล็ก คนในสังคมก็เห็นว่าเอี้ยก้วยนั้นดูมีอายุมากกว่านางเอกของเราเสียอีก ส่วนเรื่องที่แกดูมีพุงนั้น ผมเห็นใจแกครับ เพราะ เมืองจีนนั้นหนาว ยิ่งแกไปถ่ายตามสถานที่จริง ถ้าใส่เสื้อแบบจอมยุทธปรกติมีหวังปอดบวมแน่ๆ

    แต่ไม่ว่ายังไงเอี้ยก้วยถือเป็นหนึ่งในตัวละครที่ถ้าเผื่อท่านมีอายุเยาว์ หน่อยจะรู้สึกว่าเขาเป็นฮีโร่...พูดให้ชัดกว่านั้นเป็นฮีโร่สำหรับวัยรุ่น ด้วยซ้ำไป เพราะแนวคิดและวัตรปฏิบัติของเอี้ยก้วยนั้นแกเป็นกบถต่อสังคมมาตั้งแต่ต้น ซึ่งแตกต่างจากเซี่ยวเล้งนึ้ง เพราะคนหลังนี่ดูแปลกแยกจากสังคม เพราะ เธอไม่เคยมีสังคม มิใช่ตั้งใจปฏิเสธสังคมโดยเฉพาะ

    กฏของสังคมที่เอี้ยก้วยปฏิเสธและพยายามต่อต้าน คือสังคมที่ยึดถือกฏแห่งขงจื้อที่ว่าเด็กต้องนับถือผู้ใหญ่ ลูกต้องนับถือพ่อ ศิษย์ต้องนับถืออาจารย์ แต่สำหรับเอี้ยก้วยถ้าอาจารย์เลว พ่อเลว และผู้ใหญ่กว่าเลว...เราก็ไม่ควรจะนับถือมัน แต่แม้นเอี้ยก้วยจะเป็นปฏิปักษ์ต่อสังคม แต่แกก็ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ต่อ ‘มโนธรรมในใจ’ ของแก อาทิช่วยคนอ่อนแอ เห็นใจคนอื่นที่มีชะตาใกล้เคียงกับตัวเอง...ซึ่งคนแบบนี้แหล่ะครับที่เป็น เสน่ห์จนเป็นขวัญใจวัยรุ่นและที่สำคัญเป็นขวัญใจสตรีที่มีโอกาสได้พานพบ

    อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เอี้ยก้วยเป็นฮีโร่สำหรับวัยรุ่นก็คือ ชะตากรรมที่อาภัพและฟ้ากำหนดให้ชีวิตเขามีแต่อุปสรรค จนน่าจะพูดได้ว่า ในจักรวาลแห่งนิยายกำลังภายในของจีนที่คนไทยคุ้นเคยนั้น ตัวละครที่ชื่อเอี้ยอ้วย หรือ ชื่อจีนกลางที่เป็นสากลคือ หยางกั๋ว (Yang Guo) น่าจะเป็นตัวละครที่ถูกทดสอบจากฟ้าดินและคนรอบข้างมากที่สุดแล้ว

    พูดถึงตรงนี้หน่อยนึงว่า เราต้องเข้าใจว่าทำไมเอี้ยคังถึงเป็นที่รังเกียจของเพื่อนร่วมสังคมซ้อง เพราะเอี้ยที่เป็นนามสกุลนั้นแท้จริงคือ ตระกูลหยาง (เอี้ยอ่านแบบแต้จิ๋ว แต่หยางอ่านแบบจีนกลาง) ...คนไทยคุ้นชื่อของวีรบุรุษตระกูลหยางกันมา ในฐานะที่เป็นกลุ่มนักรบที่สู้กับศัตรูคือพวกเหลียวหรือพวกซิตันจนตายหมู่ไป มาก แต่หลายปีหลังจากนั้นหยางคนที่เหลือก็ปราบซิตันได้สำเร็จ เพราะฉะนั้นคนแซ่หยางก็คือ ตัวแทนของคนรักชาติซ้องจนกลายเป็นตำนานเลย

    เพลงทวนตระกูลเอี้ยที่ เอี้ยทิซิม (หยางเถี่ยซิน Yang Tiexin) ปู่ของเอี้ยก้วยใช้ตอนปะทะนักพรตคูชู่กีในเล่มแรกของมังกรหยกก็สืบสายมาจาก เพลงทวนตระกูลหยางอันลือลั่นนั่นแหล่ะครับ คูชู่กีวิจารณ์ว่ามันเป็นเพลงทวนสำหรับสู้ในสมรภูมิจึงช่วยติวและแก้ไขให้ มันเป็นเพลงทวนที่สู้ในยุทธจักรได้ (มังกรหยก ว.ณ เมืองลุง หน้า 28)

    ยุคปลายของราชวงศ์ซ้อง ชนเผ่าต่างชาติเข้ามารุกรานกันมาก ถึงขนาดต้องย้ายเมืองหลวงกันลงไปใต้ทีเดียว และศัตรูตัวฉกาจในช่วงปลายๆนี้ก็คือพวกกิม (พวกนี้คือบรรพบุรุษของพวกแมนจูในสมัยราชวงศ์ชิง) ยุคซ้องปลายๆนี้การทหารค่อนข้างอ่อนแอ การปกครองก็อ่อนแอ ฮ่องเต้ยิ่งอ่อนแอ ข้าราชการก็เฮงซวย แต่กระนั้นลูกหลานตระกูลหยางก็ยังเป็นทหารภายใต้ร่มธงของงักฮุย (เยี่ยเฟย Yue Fei ) ซึ่งเป็นแม่ทัพเทพยดาต่อสู้กับพวกกิมเสียอีก ขุนศึกคู่บารมีของงักฮุยที่ว่าก็คือ เอี้ยไจ้เฮง (หยางเจี๋ยซิน Yang Zaixin) ซึ่งเป็นปู่ของเอี้ยทิซิม

    ถึงบางอ้อหรือยังครับ ว่าทำไม ‘เอี้ยคัง’ หรือ ‘หยางกัง’ ที่ถูกเลี้ยงมาโดยองค์ชายราชวงศ์กิมแถมยังเรียกอ้วนง้วนหงเลียกเป็นพ่อจึง กลายเป็นคนบาปของแผ่นดินไปโดยปริยายเหมือนอย่างที่ก๋วยเจ๋งบอกเอี้ยก้วย ว่า...พ่อของเขาทรยศชาติ กราบโจรเป็นพ่อ เข่นฆ่าพี่น้องร่วมชาติตัวเอง เรื่องของเอี้ยคังกับกิมและก๋วยเจ๋งกับมองโกลนั้น คนซ้องให้ความรู้สึกต่างกัน ก๋วยเจ๋งนั้นแม้จะคบมองโกลและโตมาที่มองโกล แต่ก็ไม่ได้ถูกต่อต้านเท่าไหร่ เพราะ ตอนนั้นซ้องจับมือมองโกลเพื่อล้มชาติกิม และมองโกลทำสำเร็จ แต่หลังจากนั้นมองโกลก็หันดาบมาใส่ซ้องต่อทันทีกลายเป็นการชักศึกเข้าบ้านไป โดยปริยาย และซ้องก็ต้องมาสู้กับมองโกลต่อและสู้ไม่ได้ในที่สุดจนโดนล้มไปและมองโกลก็ สถาปณาราชวงหยวนในที่สุดในเรื่องดาบมังกรหยกไงครับ

    เพราะฉะนั้นเมื่อเอี้ยก้วยเป็นลูกคนบาปอย่างเอี้ยคัง ปฏิกิริยาต่อต้านเขาจึงมีมาก ทั้งโดยตรงแบบอึ้งย้งที่ไม่ยอมสอนวิชาต่อสู้ให้เขาเพราะรังเกียจว่าลูกจะ ชั่วเหมือนพ่อ นักพรตคูชู่กีซึ่งรับว่าจะอบรมเอี้ยก้วยไม่ให้เป็นอย่างพ่อ จึงเข้มงวดเขากว่าเด็กทั่วไปก็เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นคนขายชาติแบบเอี้ยคัง แต่ที่แย่กว่านั้นแกกลับไม่สอนเองดันส่งไปให้เตียจี้เก่งที่เป็นลูกศิษย์รับ หน้าที่อบรมอีกต่อหนึ่งเสียอีก...ซึ่งเตียจี้เก่งก็ดันไม่ชอบหน้าเอี้ยก้วย เพราะมากับก๊วยเจ๋งจนเกิดความเข้าใจผิด ตามมาด้วยไม่ชอบคำถามที่อุกอาจ (ถามว่าทำไมวิทยายุทธช่วนจินก้าดีจริงหรือ ทั้งๆที่สู้ก๋วยเจ๋งก็ไม่ได้) และท่าทีแบบที่ไร้การอบรมของเอี้ยก้วยก็ยิ่งไปกันใหญ่

    สำหรับเด็กอย่างเอี้ยก้วยนั้น ด้วยอุปนิสัยก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะอยู่ในยีนจากเอี้ยคัง ผมหมายถึงว่าทั้งช่วงที่อยู่กับมกเนี่ยมชื้อซึ่งเป็นแม่และตายไป เอี้ยก้วยก็กลายเป็นเด็กเร่ร่อน การขาดการอบรมก็ย่อมเกิด ยิ่งสมัยนั้นไม่มีครูยุ่นครูหยุยด้วยแล้วมันก็ยิ่งทำให้เอี้ยก้วยเพาะนิสัย ไม่กลัวฟ้ากลัวดินขึ้นมา กว่าที่ก้วยเจ๋งกับอึ้งย้งจะพาไปอยู่เกาะดอกท้อ เอี้ยก้วยก็เพาะธาตุแบบนี้ในตัวมาตั้ง 10 ปีแล้ว การหักดิบของก้วยเจ๋งที่ส่งเขามาอยู่สำนักโคตรระเบียบจัดในแนวทางที่เอี้ย ก้วยไม่ชอบจึงเป็นเรื่องทำร้ายเขาโดยปริยาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...