เห็นด้วยกับคุณ busagarin
รอรายงานอยู่ว่าเป็นอย่างไร แต่คงรอเก้อ อิอิ
ทริปเดินทางไปเชียงราย ในวันที่ 2-5 มีนาคม 50
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 22 กุมภาพันธ์ 2007.
หน้า 16 ของ 19
-
-
พวกเราก็ออกเดินทางจากเวียงป่าเป้า ย้อนกลับทางตัวเชียงใหม่ เพื่อมุ่งไปถ้ำเชียงดาว เนื่องจากมีเขาที่คดเคี้ยวน้อยกว่า
รถที่ร่วมสมทบไปกับพวกเรามีรถของคุณZZ และคุณนันทิยา ส่วนครอบครัวคุณ Mead ขอไปรวมกับรถคันอื่น
สำหรับเรื่องที่พัก ที่เชียงดาว คุณสุเชษฐ์ได้เมตตาอาสา จะพาไปที่พักที่สัปปายะ กับพวกเรา โดยได้แนะนำให้ พวกเราไปพักที่วัดปากเปียง ตรงจุดนี้ผมจึงได้ขออนุญาตให้คุณสุเชษฐ์ ให้คุณสุเชษฐ์ได้รับช่วงต่อดูแลตรงจุดนี้ต่อไป
พวกเราเดินทางเข้าไปจนถึงอาณาบริเวณของเขาเชียงดาว อันประกอบไปด้วย วัดที่อยู่ไม่ห่างกันนัก
ได้แก่
วัดถ้ำเชียงดาว ที่มีพระครูโสภณธรรมนิมิต ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่
วัดถ้ำผาปล่อง ของหลวงปู่สิม
และวัดปากเปียง ที่เราจะไปอาศัยพักในค่ำคืนนี้ -
ทางคณะของคุณนันทิยา คุณMead และ คุณZZ หลังจากเที่ยวชมถ้ำแล้วขอแยกกลับไปเนื่องจากภาระกิจของแต่ละท่าน แต่ละคณะ
ส่วนชุดของรถตู้ ออกไปส่งโดยทั้งหมด ตั้งใจว่า จะแวะเที่ยวที่ถ้ำเชียงดาวกันก่อน ส่วนพี่คลิกขออยู่ปฏิบัติคนเดียวในถ้ำที่วัดปากเปียง
เมื่อถึงถ้ำเชียงดาว การเที่ยวถ้ำแบ่งเป็นคณะละห้าคนมีไกด์พาไปเป็นชุดๆ ทำให้สภาพของถ้ำเชียงดาวในปัจจุบันอยู่ในสภาพของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว การสัมผัสของความเป็นทิพย์ น้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ยังปรากฏดวงเทพพรหมเทวา ที่ท่านเมตตามาให้เห็นได้ในรูปที่หลายท่านได้มา หลังจากออกมาจากถ้ำ (ปรากฏว่าเป็นทริปที่คนกรุงเทพ มาพาคนเชียงใหม่ไปเที่ยว) ผมได้นำซีดี ธรรมมะ คาถาเงินล้านและซีดี ฟังก่อนบวชไปฝากถวายท่านเจ้าอาวาส วัดถ้ำเชียงดาว เนื่องจากท่านมีกิจนิมนต์ข้างนอก
ผู้ที่มีภาระกิจก็แยกกันไป หลังจากนั้น ทุกท่านในคณะรถตู้ ก็ได้ออกไปทานอาหารเย็น ที่คุณสุเชษฐ์เป็นผู้แนะนำ และทุกๆท่านในคณะต้องขอกราบขอบพระคุณท่านผู้เลี้ยงอาหารมื้ออร่อยมื้อนี้ด้วยเป็นอย่างสูงครับ หลังทานอาหารเสร็จ พวกเราก็ต่างเดินทางกลับไปยังวัดปากเปียง หลัง อาบน้ำเป็นที่เรียบร้อย
ทุกท่านก็ต่างมารวมตัวกันในถ้ำปากเปียง -
ทางภาคเหนือมีถ้ำตามธรรมชาติ ที่สมบูรณ์หลายจุดและสามารถใช้การได้ดีครับ..
"วัดถ้ำปากเปียง" อากาศถ่ายเทดีมากๆ มีลมเย็นๆปะทะออกมาตลอดเวลาราวกับติดแอร์..สถานที่นี้เหมาะจริงๆ แต่เล็กไปนิดครับ น่าจะจุคนได้สัก 30-50 คนที่นี่ แต่อาจมีช่องทางเชื่อมต่อไปห้องโถงอื่นๆอีกก็ได้ พวกเราที่มานอนที่ถ้ำนี้ เห็นช่องทางในหลืบอื่นๆอีกไหมครับ?..เพราะดูแล้วเขาลูกนี้มีอีกหลายถ้ำ..
"ถ้ำเชียงดาว"(จุดท่องเที่ยว) ภายในกว้างใหญ่โต จุคนได้กว่าร้อยๆคน แต่คนนำทางใช้ตะเกียงน้ำมัน ทำให้มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไป ถ้าอาศัยอยู่หลายๆคนอาจหายใจลำบากขึ้นอีก อากาศเบาบางมาก
อุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างอื่นๆในแต่ละจุด เช่นพวกเสบียงอาหาร คงต้องเพิ่มเสริมเข้าไปอีก เพื่อให้ดำรงอยู่ได้นานขึ้นก่อนถึงช่วงเวลาที่จำเป็น..ใครมีอะไรเสริมเพิ่มเติมได้เลยครับ เรื่องสถานที่ในถ้ำดูแล้วคงต้องดัดแปลงตรงปากถ้ำจุดเดียวก็น่าจะเพียงพอ..(กันฝุ่นกัมมันตภาพรังสี)..เพราะส่วนอื่นๆธรรมชาติจัดสรรไว้พร้อมหมดแล้ว -
ย้อนกลับไปที่ดอยหลวงนิดนะครับ...
ที่ดอยหลวง...นั้นใช้น้ำจากธารน้ำธรรมชาติ...ต่อท่อมายังโรงเรียน ที่เรียกกันว่า...."ประปาภูเขา"...นั่นแหละ
น้ำใสเย็น... ชาวบ้านใช้ดื่มกิน... หากเรามีเครื่องกรองน้ำแบบใส้เซรามิค ก็สามารถกรองน้ำเพื่อดื่มได้ทันที หรือหากจะต้มด้วย...ก็จะดีที่สุด
ได้รับแจ้งว่ามีน้ำตลอดปี... ไม่มีอด... ส่วนบ่อน้ำในบริเวณใกล้เคียง... ที่คุณชิณสิทธิ์กล่าวถึง....ก็มีน้ำตลอดปีเช่นกัน
ชาวบ้านมีอาชีพ เลี้ยงวัว ปลูกชา ปลูกลิ้นจี่ เท่าที่เห็นยังไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง...พบเครื่องปั่นไฟแบบใช้น้ำมันเบนซิน 1 เครื่อง เอาไว้ใช้กับเครื่องขยายเสียงของโรงเรียน และพบเครื่องตัดหญ้าขนาดเล็กอีก 1 เครื่อง ใช้น้ำมันเบนซินเช่นกัน
อันตรายอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ "ไฟป่า" ที่อาจลามมาใกล้หมู่บ้าน และที่พัก ตรงนี้สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก หากจะพักกันแบบถาวรหรือกึ่งถาวร โดยต้องขุดแนวกันไฟป่า และตัดไม้ให้เป้นแนวกันไฟป่าเอาไว้....ก็จะช่วยได้อีกทาง
สำหรับระบบสื่อสารพบว่า บริเวณดอยหลวงนี้ไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ แต่หากเราตั้งระบบ Repeater สำหรับวิทยุสื่อสาร...ก็น่าที่จะไม่ปัญหาแต่อย่างใด เพราะพื้นที่บริเวณโรงเรียนนั้นสูงถึง 1000 เมตรเศษ ทำให้สามารถสื่อสารกันระหว่างยอดดอยและตีนดอยได้สบายๆ เผลอๆ ไปได้ไกลถึงตัวอำเภอเสียด้วย
อีกอย่างนึงก็คือ...เมื่อถึงเวลาวิกฤต...เราควรมีเครื่องมือการเกษตรและเครื่องยนต์เพื่อการเกษตร ไว้บ้าง....เพื่อการสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร และเพื่อใช้ปลูกผักปลูกข้าว...ตามสมควร -
ที่ถ้ำปากเปียง แค่หน้าปากถ้ำทุกคนก็ต่างสามารถสัมผัสได้ถึงพลังความเย็นที่แผ่ออกมา จากภายในถ้ำ ไม่ใช่ลมที่พัด แต่เป็นกระแสที่รู้สึกได้ทั้งทางกายและทางใจ
พี่คลิกยึดชัยภูมิ หน้าปากถ้ำโดยมี คุณเปี๊ยกเกียร์ คุณหนูBnbk คุณแต้ว นั่งฟังธรรมมะที่พี่คลิกเมตตาถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง ที่ยากนักที่พี่คลิกจะเปิดใจเล่าให้ใครฟังแบบนี้
ส่วนท่านที่เหลือ เข้าไปรวมกันในถ้ำ
เป็นเรื่องแปลกที่พอทุกคน เข้าไปอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ไม่ต้องมีใครพูด ไม่ต้องมีใครบอก ทุกคนก็ต่างเข้าสมาธิกันโดยไม่ต้องนัดหมายกันในทันที ต่างคนต่างสัมผัสสิ่งที่เป็นสิ่งที่รับรู้ได้เฉพาะตน หลายคน เจ้าถ้ำมาปรากฏให้เห็นในนิมิตร บางท่านมีคนพาไปเที่ยว ไปดูสมบัติในถ้ำ ผมขออนุญาต ไม่เล่าให้ฟัง ให้เป็นวิจารณะญาณของท่านผู้ประสบเอง เพราะหากศรัทธาไม่เสมอกัน กำลังใจในการปฏิบัติไม่เท่ากัน จะเกิดการปรามาส เป็นโทษต่อผู้ปรามาสเสียเปล่าๆ
หลังจากทำสมาธิจนสมควรแก่เวลา พวกเราทุกคนในถ้ำก็ร่วมใจกันสวดมนต์ ทำวัตร จากนั้นก็เป็นการฝึกสมาธิ ที่ทุกคนได้อานาปาณสติจนค่อนข้างคล่องตัวแล้ว ไล่ไปเป็นกสิณ ฌาน อรูปฌาน จนสุดอารมณ์นิพพาน โดยการพิจารณาตัดสังโยชน์สิบ
" น่าชื่นใจที่ทุกคน ในยามปรกติก็ต่างสนุกสนาน เฮฮา กัน แต่ครั้นเมื่อถึงเวลาปฏิบัติก็ต่าง ตั้งใจปฏิบัติกันอย่างเต็มที่ ไม่มีใครที่ทำเป็นเล่นหรืออิดออด ต่างมีศีลห้าที่บริสุทธิ์กันทุกคน พรหมวิหารสี่ทรงตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เปลือกภายนอก เราแสดงอาการเป็นปรกติ เป็นคนธรรมดา แต่การปฏิบัติเราปฏิบัติที่ใจ รักษาใจของเราให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ ไม่ไปเพ่งโทษ ตำหนิติเตียนผู้อื่น ให้ดูแต่ใจเรา ลมหายใจของเรา ไม่ต้องไปแสดงว่า ฉันนี้เคร่ง ฉันนี้เก่ง เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็น มานะ บ้าง มายาสาไถยบ้าง อันเป็นอุปกิเลสที่เป็นกิเลสตัวละเอียด "
การทำสมาธิและการฝึกสมาธิในถ้ำของทุกท่านทำได้ดีกว่า ทุกครั้งที่เคยทำได้ ตรงจุดนี้ต้องขอกราบโมทนาบุญในความก้าวหน้าในธรรมของทุกๆท่านด้วย และที่ขาดไม่ไม่ได้คือความเมตตาของพี่สุเชษฐ์ที่รู้จักและทราบว่าที่นี่ เป็นสถานที่ ที่ถูกกำหนดมา มีวาระ เหตุ ปัจจัย ที่ต้องมากันในที่แห่งนี้ และได้พาทุกคนมาจนได้พบกับความเจริญในธรรม
พวกเราทุกคนต้องขอกราบขอบพระคุณพี่สุเชษฐ์เป็นอย่างสูงด้วยครับ -
ครับผมช่วยกันสรุปแบบเก็บเล็กประสมน้อย เพราะรายละเอียดในทริปมีมากครับผม
ผมสรุปภาพรวมเป็นการรายงานข่าวก่อน แล้วจะสรุปเนื้องานที่ได้ทีหลังครับ
เห็นพี่คลิกบอกให้รวมเรื่องราวเอาไว้ครับ ต่อไปจะมีความสำคัญ -
มีข้อมูลจากพี่สุเชษฐ์คือ
-
มีข้อมูลจากพี่สุเชษฐ์คือ ในถ้ำแห่งนี้ เป็นที่ปฏิบัติของพระกรรมฐานสำคัญๆ
-
สายหลวงปู่มั่น ที่ทุกองค์ล้วนมาทำกรรมฐานกันที่นี่ เป็นส่วนใหญ่
ท่านเจ้าถ้ำเป็นผู้มีบารมีสูง ดุ ใครมาปฏิบัติเหยาะแหยะ เป็นโดน ดี
สอดคล้องกับหนังสือ ที่น้องเอ็กซ์เช้าใหม่มีใครดลใจให้ไปพบเข้าเรื่องที่เชียงดาว ว่าแถบนี้เป็น ที่ๆ หลวงปู่ ครูบาอาจารย์ท่าน มาทำกรรมฐานกันและต่างบอกต่างทราบในหมู่ผู้ปฏิบัติทางสายพระป่า
พอมาสัมผัสเข้าจริงๆ ที่ได้เคยอ่านพบในหนังสือ ว่าเข้าสมาธิแล้วจิตสว่างลอยนิ่งอยู่ เต็มพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ ไม่รู้ง่วง รู้เหนื่อยนั้น เป็นเช่นไร และทำให้เข้าใจได้ว่าจะปฏิบัติธรรมที่สถานแห่งไหนก็เหมือนกันนั้น ก็มีส่วนถูก แต่ไม่ถูกทั้งหมด ต้องขอบอกว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่งของทางชาวเหนือที่มีที่สัปปายะในการปฏิบัติที่เยี่ยมขนาดนี้
หลังจากนั้น ทุกคนก็เข้านอน ที่จริงวัดมีที่พักที่ดีมากๆครับ แต่น่าแปลกที่ทุกคน(ยกเว้นคนขับ ที่เราอยากให้เขานอนอิ่ม นอนสบายที่สุด) เลือกที่จะนอนกันในถ้ำบ้าง นอกถ้ำบ้าง
ช่วงกลางคืนมีเหตุการ ประหลาดเกิดขึ้น เพราะมีน้องหมาตัวหนึ่ง คาบใบไม้แห้ง มามอบให้กับทุกๆคน ซึ่งผมอยู่ในเหตุการณ์กับตาด้วย ก็เลยคิดแบบหมาดูเล่นๆว่ามันคิดอย่างไร
มันเห็นว่า " เรามาดี มีใจเมตตา ไม่ได้คิดร้ายกับใคร มันไม่มีอะไรจะให้ ก็เลย คาบใบไม้แห้งมาให้กับทุกคน จะโมทนาบุญก็ทำไม่เป็น เลยแสดงอาการแบบนี้ให้ปรากฏ" โดยเฉพาะพี่คลิก ดูหมาจะรักพี่คลิกมากกว่าใคร และผมเชื่อว่าทุกๆคนในทริปก็ไม่แปลกใจในความดีในข้อนี้ของพี่คลิก
พอรุ่งเช้าทุกคนก็ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น ไปร่วมถวายภัตรเช้าพระสงฆ์ จากนั้นก็ไปถ่ายรูปร่วมกันที่โบสถ์เชิงเขา พระพุทธรูปที่นั่นงดงามมาก
จากนั้นทุกคนก็ทานอาหารเช้า โดยฝีมือคุณตู่ ฆราวาสในเพสพระ ที่ทำอาหารเลี้ยงพวกเราทุกคน
พอทานกันเสร็จ พวกเรารวบรวมปัจจัย เพื่อถวายเพื่อร่วมทำบุญทุกอย่างรวมทั้งการสร้างวัดนี้ โดยถวายฝากไว้ที่คุณตู่ โดยมีพี่สุเชษฐ์ เป็นผู้ให้เกียรติมอบปัจจัยก้อนนี้ นอกจากนั้น พี่สุเชษฐ์ยังได้มอบเงินให้คุณตู่ไว้ใช้ส่วนตัวอีกหนึ่งพันบาทด้วย ในยามที่คุณตู่กล่าวโมทนาบุญกับคณะของพวกเรา ทั้งใจ และน้ำเสียงคุณตู่กลายเป็นพระไปแบหลายคนรู้สึกได้ และตัวผมเองต้องเอ่ยปากทัก คุณตู่เองก็ได้แต่ยิ้มๆรับ
พอทุกคนพร้อมออกเดินทางกลับ
ก็มีเรื่องน่าตกใจเกิดขึ้น
ทุกคนโหลดของขึ้นรถเสร็จ
ขามา มา 13 คน พอขากลับ กลายเป็น 17 คน อัดในรถตู้
เจ้าของรถตู้(ป้ายแดงด้วย) มีกำลังใจที่เข้มแข็งมาก ไม่บ่น ไม่ว่าซักคำ เพราะสิ่งที่ปรากฏคือรถตู้ยางแบนแบบเห็นได้ชัดเจน จนผมและหลายๆคน ห่วงกำลังใจของคนขับ ว่าจะรู้สึกอย่างไร แต่แกก็เข้าใจในงานที่พวกเราได้ทำกัน ว่าเรามาทำไม เพื่ออะไร แกจึงไม่ว่า แถมยังบอกว่าถ้าไปที่ไหนอีกให้ใช้บริการของแกได้ และแกมีรถกะบะด้วย ไปไหนไปกัน คนขับที่ใจเย็น ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ นี่หายาก ตลอดทริปการเดินทาง แกขุ่นใจครั้งเดียว ตอนมีรถกะบะปาดหน้าแบบไม่เปิดไฟเลี้ยว ตำรวจเรียกแกก็เฉยไปหมด หายากจริงๆ
พอครบถ้วน เหล่าสมาชิกในทริป เราก็ออกเดินทางกลับโดยแวะส่งน้องนิ่มกันที่ลำพูนกันก่อน คราวนี้ถึงตา คนเหนือพาคนกรุงเทพเที่ยวแล้ว
น้องนิ่มพาพวกเราไปกราบอนุสาวรีย์เจ้าแม่จามเทวี ที่หลายๆคนเคยมีวาระเกี่ยวพันเป็นลูกเป็นหลานของท่านมา
จากนั้น คุณนิ่มพาพวกเราไปพบ คุณลุงสินธพ ที่ท่านมีเรื่องเล่ามากมาย แต่เป็นความด้อยวาสนาของพวกเราเองที่เวลามีน้อย ต้องรีบตีรถกลับกรุงเทพกันให้ทันเวลาคืนรถ และห่วงท่านที่ต้องต่อรถไประยองอีกด้วยจึงต้องรีบลากลับ ส่งคุณน้องนิ่มผู้น่ารักเสร็จ พวกเราก็ตีรถตรงไปนครสวรรค์กันเลยโดยต้องทานข้าวกลางวันกันในรถเป็นซาละเปาลำพูน แต่มีคน ทานข้าวเหนียวทุเรียนในรถ โดยคาดว่าเป็นการลดน้ำหนักแบบหนึ่ง คุณพระช่วยที่ไม่ปรากฏกลิ่นทุเรียนให้ปรากฏในรถตู้เลยแม้แต่น้อย -
เพิ่มเติมข้อมูล อีกนิด
ครูบาอาจารย์ที่เคยมาบำเพ็ญที่พอจำได้ ก็คือ หลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่สิม พระอาจารย์เปลี่ยน และอีกหลายพระองค์ ในยุคเก่า ๆ
และเขาว่า พวกเราที่ได้ไปและไม่ได้ไป ก็เคยเกิดและบำเพ็ญธรรมในสถานที่นั้น ๆ หลาย ๆ วาระ เมื่อพวกเราไปอีกครั้งจึงได้รับการต้อนรับจากพ่อทุก ๆ พระองค์ กุศลเก่าในอดีตก็ทำให้พวกเราเจริญในธรรม นอกจากนั้นเราก็ยังได้ยิบยื่นความดีที่เรามีให้แก่ขบวนญาติของเราที่ยังตกค้าง ให้ได้มีความสุขขึ้นตามเหตุปัจจัย ในช่วงหมาหอนที่ทำให้ Toutou ขนลุก ตาสว่างเชียว... นี่เพียงน้อยนิดที่พวกเราทั้งหลายที่ได้ไปก็ดีไม่ได้ไปด้วยก็ดี ได้สร้างกุศล ในการไปครั้งนี้
ขอพวกเราที่ได้ไปก็ดี ไม่ได้ไปก็ดี ของจงเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เงินทองไหลเข้าสองกรไม่ขาดตกและบกพร่อง -
สาธุ....สาธุ....สาธุ....
สมพรปากครับพี่... -
สาธุสำหรับพรอันประเสริฐของพี่ชายมาดเข้มของพวกเราทุกคนครับ
ไปเก็บของเตรียมไปทริปพรุ่งนี้มา
มาต่อกันครับ
เกือบ ห้าโมงเย็น พวกเราก็มากันถึงร้านซุ้มบอล ซึ่งมีเซอร์ไพซ์บางอย่างสำหรับพวกเรา กลุ่ม"พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ"
พอไปถึงซุ้มบอลมีรูปหมู่ของพวกเราที่ถ่ายไว้ตอนขาไป ปิดอยู่หน้าร้านปนกับรูปดาราและคนดังต่างๆที่มาเยือนที่นี่ นับว่าพี่"เคลื่อนพล"ได้ให้เกียรติกับพวกเราอย่างมากจริงๆ
ที่สำคัญพี่เขาได้จัดอาหารไว้ต้อนรับคณะพวกเรา เป็นอย่างดีเสมอในทุกๆครั้งที่ได้มาเยือน
พวกเราทานอาหาร กันในยามเย็นที่ซุ้มบอล จนเรียบร้อย พี่คลิกก็ได้ให้เรียกทุกคนมารวมกัน เพื่อเชื้อเชิญให้พวกเราทุกคนมาพักกันที่นี่ ในทริปวันที่ 10มีนา งานประจำปีวัดท่าซุง
จากนั้นพี่เคลื่อนพลก็ได้กล่าวเปิดใจกับพวกเราชาวเวบไซท์พลังจิตว่า
"ผมกับพี่คลิก เป็นเหมือนคน ๆ เดียวกัน สิ่งที่พี่คลิกได้ตัดสินใจและกล่าวออกไป ก็ขอให้เหมือนผมได้อนุญาตเช่นกัน ผมก็ได้ความดีในทางธรรมจากพี่คลิกนี่แหละ " ที่สำคัญพี่เคลื่อนพล ได้เคยกล่าวอนุญาตให้ใช้สถานที่ คือที่ "ซุ้มบอล" แห่งนี้ เป็น จุดพักในการเดินทางในช่วงการอพยพ ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติก็ดี หรือสำหรับทีม เซอร์เวย์จะใช้เป็นจุดแวะเพื่อพักผ่อนหรือพักแรมก็ได้
ผมจึงได้ขออนุญาตกล่าวขอบคุณแทนพวกเราทุกๆคนไปว่า
"นอกเหนือจากน้ำใจที่ ที่นี่มีให้อย่างเปี่ยมล้น โดยเข้าใจในการทำงานและเป้าหมายของพวกเราอย่างแท้จริงแล้ว สิ่งที่พี่ชายทั้งสองได้สอนให้พวกเราทุกคน ได้รู้จักและเรียนรู้ก็คือ มิตรภาพที่งดงามที่พี่ๆแสดงออกทางการกระทำ ให้พวกเราได้สัมผัสได้กันทางความรู้สึกทุกคน ว่ามิตรภาพที่แท้จริงเป็นอย่างไร"
ก็ต้องขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของทั้งพี่คลิกและพี่เคลื่อนพลอีกครั้งครับ
เมื่อสมควรแก่เวลา พวกเราก็เดินทางเข้าสู่กรุงเทพโดยสวัสดิภาพกันทุกคน
สาธุ รายงานข่าวจบแล้ว -
-
ขอบคุณทุกท่าน ที่เหนื่อยแล้วยังอุตส่าห์มาอัพเดทเพื่อให้คนที่ไม่ได้ไปทราบ เหมือนกับได้ไปเองเลย _/\_
-
เก็บตก
ไม่ไหวแล้วหนูขอหลับสมาธิก่อนไฟล์ที่แนบมา:
-
-
มาสรุปงานที่พวกเราทุกคนได้ ร่วมแรงร่วมใจกันลงมือทำในทริปนี้ ทั้งที่เป็นรูปธรรม และงานในส่วนที่เป็นนามธรรมครับ
1.งานเผยแพร่ธรรมมะปฏิบัติ เพื่อการเพิ่มจำนวนคนดีและระดับจริยธรรมในสังคม โดย ได้นำไปให้ไว้ยัง
-บ้านคุณรัตนาพรที่บังเอิญกำลังทำงานเผยแพร่แจกซีดีธรรมมะอยู่พอดี
-วัดโขงขาว
-วัดถ้ำเชียงดาว
2.พวกเราได้ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระอุโบสถวัดโขงขาวและร่วมสร้างวัดถ้ำปากเปียงกัน
3.มีงานด้านการประสานงานทำความรู้จัก คุ้นเคยกันกับทางสายเชียงใหม่ โดยได้รับความเมตตาจากแม่คุณรัตนาพรมากๆ ความตั้งใจกระตือรือร้นของคุณนิ่ม และทุกๆคนมีคุณนันทิยาแลน้องสาว คุณหนมผิงกับคุณแม่
4.เราได้สำรวจสถานที่ตามจุดต่างๆหลายแห่งที่เป็นที่ปลอดภัยในยามเกิดภัยพิบัติ เช่นที่ดอยหลวง ของคุณชิณสิทธิ์ ซึ่งพบว่า อาจไกลในการเดินทางในยามฉุกฉินเหมาะกับการเตรียมการอยู่ล่วงหน้า
"ซุ้มบอล"เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป้นจุดพักและกระจายผู้ที่อพยพไปยังจุดต่างๆในโซนภาคเหนือ โดยต้องประสานกับทางคุณZZ มาช่วยวางระบบสื่อสารที่นี่
เชียงดาว จุดที่ปลอดภัยเป็นบริเวณเทือกเขาโซนนั้นทั้งเทือกที่กินอาณาบริเวณกว้างมาก มีบ่อน้ำหน้าถ้ำใหญ่ที่เป็นบ่อน้ำทิพย์ ยามเกิดนิวเคลียร์สามารถหลบเข้าภายในถ้ำได้ รวมทั้งอยู่เลยจากแนวเคลื่อนเปลือกโลกพอควร
สำหรับทางเหนือ นั้นมีที่ปลอดภัยจุดอื่นๆอีกหลายที่ มากๆ พวกเรามีเวลา น้อย ไปกันมาก จึงไม่อาจสำรวจได้มาก หรืกครบทุกจุด
แต่ได้ประสานกับทางเชียงใหม่ มีคุณนิ่มแล้วว่า ทางเชียงใหม่เอง ที่อยู่ในพื้นที่ จะช่วยเซอร์เวย์ ให้ ตามความเหมาะสม (เนื่องจากคุณนิ่มขับรถเองไม่ได้) แต่พอจะทราบแนวทางและวัตถุประสงค์ในการทำงานกันแล้ว
5.เรื่องงานเสบียงอาหาร ผมได้นำซีดี วิธีการใช้เครื่องปั่นต่างๆมาให้คุณนิ่มแล้ว รวมทั้งได้ พูดคุย กับคุณนันทิยาเรื่องการสั่งผลิตอาหารแห้งจากโรงงาน และการสั่งซื้ออาหารตกเกรดเช่นแตกหัก มาร่วมเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหาร ซึ่งจะช่วยเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเมื่อเกิดภัยพิบัติ เป็นโชคดีมากที่ๆลำพูนมีนิคมอุตสาหกรรมอาหารที่สำคัญจุดหนึ่งของไทย
ส่วนงานด้านนามธรรม ที่ผมเองให้ความสำคัญและคุณค่าสูงกว่าคือ
1.ทุกคนที่ไปในทริปได้ความสมัคสมานกลมเกลียวกัน หลายคนรู้สึกเหมือนได้เคยพบกันมาก่อนทั้งๆที่ได้พบกันเป้นครั้งแรก
2.ทุกคนในทริปต่างนับถือกันในความดี คุณธรรม ความบริสุทธิ์ของใจโดยไม่โดนภาพลักษณ์ภายนอกมาบังตา บังใจ
3.สมาธิของทุกคนในทริปล้วนก้าวหน้ากันขึ้น โดยเฉพาะการไปฝึกสมาธิที่ถ้ำปากเปียง
คราวนี้มาว่าประโยชน์ของผู้ไม่มีกายเนื้อบ้าง
4.พี่คลิกได้ช่วยอธิฐานแผ่เมตตาจิต ขอบารมีพระท่านช่วยปลดปล่อยและยกระดับภพภูมิให้ดวงจิตทั้งหลายตลอดเส้นทาง รวมทั้งที่อธิฐานให้ในแต่ละสถานที่ที่พวกเราได้ไปพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ถ้ำปากเปียง พี่คลิกว่ามีมากมายมหาศาล ประโยชน์ตรงนี้ จะทำให้สถานที่แห่งนั้น ๆ เบาจากแรงเจ้ากรรมนายเวร ทำให้คนที่อยู่สัมผัสได้ว่าปลอดโปร่งขึ้น คล่องตัวขึ้น เป็นการคลียร์สถานที่จากพลังงานทางด้านลบให้เบาลง จากนั้นจึงขอบารมีให้ความดีกุศลแทนที่ในจิตใจและในสถานที่นั้นๆ
งานตรงจุดนี้มีผู้ทำได้น้อยมาก คุณโมเยก็เป็นผู้หนึ่งที่มีหน้าที่และมีความเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี และได้มีการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดงานด้านนี้กับพี่คลิกเรียบร้อยแล้ว
5.มีเรื่องราว และงานอีกมาก ที่หลายๆท่านได้ช่วยด้วยความเป็นทิพย์ของจิต ขออนุญาตให้สัมผัสกันด้วยใจกันตามอัธยาสัยครับ
ขอกราบโมทนากับทุกงาน ทุกหน้าที่ ของทุกคนทุกท่านที่พระท่านได้จัดสรรมา เป็นวาระ เป็นจังหวะ ที่แต่ละบุคคลย่อมทราบได้ด้วยตนเองครับ ทุกอย่างล้วนมีเหตุผลที่ปรากฏทั้งสิ้น ค่อยๆสาวไปจะพบเหตุผลครับ -
นุ๊กได้เทวดามาเพียบเลยค่ะ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แซวตัวเอง
ความมหัศจรรย์อีกอย่าง ผมนั่ง time machine ไปเที่ยวครับ
แฟนผมบอกว่า ตอนแก่คงอย่างนี้นั่นแหล่ะ ไม่ต้องคอยดูอีกนานไฟล์ที่แนบมา:
-
-
หลับสมาธิของจริง
ไฟล์ที่แนบมา:
-
หน้า 16 ของ 19