ทหารเรือ ผู้ไม่มีวาสนา จากหนังสือรวมเรื่องเล่าหลวงตาวัดป่าบ้านตาด เล่ม 1

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 12 มิถุนายน 2009.

  1. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ทหารเรือ ผู้ไม่มีวาสนา
    จากหนังสือรวมเรื่องเล่าหลวงตาวัดป่าบ้านตาด เล่ม 1

    ขอขอบคุณที่มาครับ


     
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    แล้วส่วนมากผมก็จะไปเรื่อยเปื่อยตามประสาของผม เช่น ไปหา หลวงปู่ดุลย์ ท่านอาจารย์จันทร หลวงพ่อคำพอง ไปถวายสังฆทานบ้าง ไปรอบ ๆ เกือบทุกที่บริเวณนั้น แต่ผมก็ไม่เคยเข้าไปที่วัดป่าบ้านตาด เป็นเรื่องแปลกนะ จนกระทั่ง ลูกศิษย์ของผมทนไม่ได้ เข้ามาอ้อนวอนว่า “ครู...ไปหากราบท่านอาจารย์หลวงตามหาบัวเถอะ” ผมก็คิด เอ๊ะ...บัวไหนไม่รู้จัก จนลูกศิษย์ผมก็เข้ามาอ้อนวอน บ่อย ๆ ครั้งเข้า ผลสุดท้าย ลูกศิษย์บอก “ครู ผมกราบครูแล้วนะครับ ขอให้ครูไปสักครั้งเถอะ” ผมก็รู้สึกรำคาญแล้วตอนนั้น พอดีท่านหลวงตาตอนนั้นไม่ได้อยู่ที่อุดรธานี ท่านมาอยู่ที่สวนแสงธรรม ผมก็ไม่รู้จักจึงให้เขาพามากราบ พอตอนเย็นผมจึงมาดูสถานที่ก่อน ว่าที่ตรงไหนบ้างได้อยู่ตรงไหนและใช้ทำอะไรบ้าง เวลาเท่าไร วันรุ่งเช้าผมก็มาเลย มายืนเข้าแถวใส่บาตรตามอย่างคนอื่น ซึ่งมีคนมากันมากในวันนั้น ผมจำได้ หลวงตาท่านเดินนำหน้าออกมาจากวัด หลวงพ่อเพียรเดินตามหลัง ท่านดิกส์เดินตามมา พอผมเห็นทันใดนั้นก็เกิดความศรัทธาขึ้นมา เพราะท่านจะเดินลำตัวตรง ดูสง่างาม น่ากลัว จึงคิดในใจว่า พระองค์นี้ไม่ใช่พระธรรมดาแน่ ลักษณะที่ท่านเดินไม่ใช่พระธรรมดาเขาเดินกัน ท่านเดินเหมือนกษัตริย์ จะเดินนิ่ง ๆ เหมือนตัวท่านลอยอยู่ ท่านก็เดินรับบาตรมาเรื่อย ๆ จนมาถึงผม ปรากฏว่าท่านปิดฝาบาตรทันทีเลย แล้วถามว่า “อยู่ที่ไหน ทำงานอะไร” ผมก็กราบเรียนท่าน ท่านถามมาอีกว่า “แล้วมัวไปตกนรกขุมไหนอยู่ ทำไมถึงเพิ่งมา” แล้วท่านก็เปิดฝาบาตรให้ผมใส่ ก่อนผมจะใส่บาตรความรู้สึกในใจคิดสวนทางขึ้นมาทันทีว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะมาหาท่านไม่ให้ขาด” ซึ่งผมไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดตอบท่านนะ แต่ใจมันพาคิดไปเอง แล้วผมก็ใส่บาตร ท่านก็มองหน้าผมแล้วก็เดินต่อไป นับตั้งแต่วันนั้นมาผมก็ได้มาหาท่านไม่เคยขาดเลยเกือบระยะเวลานาน 20 ปี มาแล้ว
     
  3. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    พอวันรุ่งขึ้นจากวันนั้นมา ผมไม่ได้ใส่บาตรแล้ว ถือกระป๋องแทน เพื่อที่จะคอยเดินรับของที่ใส่บาตรให้ท่าน พอของเต็มบาตรแล้วจึงคอยรับของจากบาตรท่าน และเทใส่กระป๋อง เดินตามหลังท่านต้อย ๆ ทำแบบนี้ทุกวัน ๆ แล้วจึง ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นไปรับบาตร พอท่านเทเสร็จแล้ว ขากลับก็จะมีคนถือบาตร สมัยนั้นจะมีผู้กำกับสารวัตรกับคุณเกรียงชัย

    ตั้งแต่ที่ผมได้มาอยู่ รับใช้ท่าน ท่านจะเมตตาผมมาตลอด ไม่เคยถูกท่านว่ากล่าว จนกระทั่งวันที่ได้ใกล้ชิดท่านมากที่สุด คือ วันที่ได้มีโอกาสประเคนอาหารให้ท่าน เพราะคุณหลวงไม่ได้มา ท่านก็ถามผม “รู้จักคุณหลวงไหม” ผมก็มองหน้าท่านไม่ตอบ ท่านถามต่ออีก “อ้วน ๆ หัวล้าน ๆ น่ะ รู้จักไหม” ผมยกมือไหว้แล้วตอบท่านไป “รู้จักครับ” ท่านก็ไม่พูดต่อ แล้วปัจจุบันผมกับคุณหลวงก็ได้รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467

    มีอยู่วันหนึ่ง ผมขับรถยี่ห้อเฟียส128 สีขาวคันเล็ก ๆ สภาพเก่า ๆ จะไปที่สวนแสงธรรม ซึ่งรถคันนี้ชอบมาเสียกลางทางประจำ ช่วงนั้นผมเล่นดนตรีที่ โรงแรมรีเจนท์ ผมก็คิดว่าเงินเดือนจะออกให้แต่ไม่ออกในวันนั้น น้ำมันไม่มีเติมรถ พอขับ ๆ ไปในใจคิดระแวงกลัวน้ำมันจะหมดกลางทาง พอขับมาถึงพาต้าน้ำมันก็เริ่มจะหมดแล้ว เพราะรถมันสบัดคลื่ด ๆ ผมก็รู้ว่าน้ำมันหมดแล้วแน่ ๆ ผมก็พูดในรถว่า “หลวงปู่ครับช่วยให้ถึงวัดนะครับ ผมไม่มีเงินเติมน้ำมันนะครับ” ผมก็พูดของผมเสียงดังอย่างนี้ในรถ ขับไปรถมันเริ่มจะคร่อกแคร่ก ๆ พอมาถึงประตูวัดยังไม่ทันได้เข้าไป รถเกิดดับน้ำมันหมดแน่ ๆ เลยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สบายใจแล้ว เพราะถึงวัดแล้ว ผมจอดรถไว้ข้างนอก เดินเข้าไปในวัด เห็นท่านยืนอยู่หน้าศาลา ใส่อังสะ ผมจึงเดินเข้าไปกราบเท้าท่าน ท่านก็เรียก “หวัด ๆ เอาเงินให้ทหารเรือ 1,000 บาท ที” ด้วยความตกใจ ผมบอก “ไม่ ๆๆ ครับ” ท่านทุบหลังผมดังตุ๊บเลย แล้วท่านบอก “เอาไปเติมน้ำมัน” แล้วท่านก็เดินขึ้นกุฏิไป ความรู้สึกของผมในตอนนั้นเป็นแบบว่า ใจถึงใจเลยทีเดียว
     
  5. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    เวลาที่ท่านมากรุงเทพฯ ผมจะไม่กินเหล้าเลย จะเป็นคนดี คอยรับใช้ท่านทุกอย่างไม่มีไปไหน แต่พอท่านเดินทางกลับเมื่อไหร่นะ วันนั้นผมจะกินเหล้ากินเบียร์ ซึ่งผมจะกระทำแบบนี้เป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่ง ผมขึ้นบันไดกุฏิท่าน ก็โผล่หน้าไป ท่านพูดออกมาลอย ๆ ว่า “อ้าว สะแตกเข้าไปนะเหล้า ๆ” คนในกุฏิก็หันมองกันสิ คิดว่า ท่านได้ว่าใครกัน ผมเลยหลบ ๆ ท่านเงียบไม่พูดอะไรต่อ พอผมโผล่หน้าไปอีกที ท่านชี้หน้าแล้วพูด “เอ้า แดกเข้าไปสิเหล้า แดกเข้าไปสิเหล้า” พอท่านพูดจบเท่านั้นแหละ คนในกุฏิหันมามองที่ผมคนเดียวเลย ขณะนั้นใจผมมันตั้งสวนขึ้นมาทันทีว่า แปลกเหมือนกันนะ เป็นบุญของเราที่จะเลิกกินเหล้าได้ เลิกเด็ดขาดไม่แตะต้องอีก หลังจากนั้นมาผมจึงเลิกกินเหล้าและอบายมุขได้ ชีวิตผมก็ดีขึ้น
     
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    เวลาที่บุญจะส่ง ท่านก็มีเมตตาผม มีอยู่วันหนึ่ง รถของผมคันเดิม เฟียส128 ได้จอดอยู่ พอตอนบ่ายท่านเดินลงมาจากกุฏิ เข้ามาที่ผม ถามว่า “รู้จักมูลนิธิหลวงปู่มั่นไหม” ผมตอบรู้จักครับ แล้วท่านก็เดินขึ้นไปนั่งรถของผมเลย ผมพูดว่า “อู๊ย...หลวงปู่ครับรถผมไม่มีแอร์นะครับ” ท่านบอก “เกิดมาก็ไม่ได้เอาแอร์มาด้วย” หลวงพ่อเพียรนั่งหลัง ส่วนหลวงปู่นั่งหน้า ผมก็เปิดกระจกออก พอขับ ๆ ไปผมก็ระวังไปด้วย ลมพัดจีวรปลิวเลย นี่คือความเมตตาของท่านที่ท่านได้ให้ผม
     
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    แล้วรถคันนี้ซึ่งปรากฏว่า ผมได้มาวัดสายในวันนั้น ซึ่งผมจะทำหน้าที่ประเคนของให้ท่าน ก็รีบด้วย มาถึงก็รีบจอดรถไม่ได้ใส่เกียร์ จอดไว้ข้างสระน้ำใหญ่ ขณะที่ผมกำลังประเคนของอยู่ รถเกิดไหลลงน้ำ มีคนเห็นเข้าจึงร้องตะโกนว่า “รถตกน้ำ ๆ” อย่างตกใจ ผมได้ยินจึงหันไปมอง นี่รถเราเอง สีขาว ๆ คันเล็ก ๆกำลังจมลงน้ำแล้ว ผมก็เฉย ๆ นึกในใจ เราไม่มีเงิน มีอยู่ 1,000 กว่าบาท ผมยังเฉยอยู่ ก็ประเคนของ ช่วยงานอย่างอื่นบนศาลาจนเสร็จเรียบร้อย แล้วท่านก็มายืนดูถามว่า “รถของใคร” ผมบอกว่า “รถของผมครับ” ด้วยความเมตตาของท่าน ปรากฏว่า คนในสวนแสงธรรมได้มาช่วยกัน พี่ปุกก็ถือซองถุงก๊อปแก๊ปเข้ามาเรี่ยไร บอกให้ช่วยคุณชาญณรงค์หน่อย ช่วยกันคนละนิดละหน่อย และมีป้าอยู่คนหนึ่งเข้ามาบอกว่า “คุณชาญณรงค์ขา...ป้าไม่มีเงินเลยนะคะ มีอยู่ 50 บาท คุณชาญณรงค์เอาไปเลยนะคะ” ตอนนั้นทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งมาก บางคนก็ไปตามหน่วยบรรเทาสาธารณภัยมา ยกรถขึ้น รถเสียหายมาก เอาไปซ่อมโดยต้องเสียเงินเลย เพราะมีบางคนเขารับอาสานำไปซ่อมเพื่อทำบุญถวายท่าน ได้เงินที่รับบริจาคมาอีก 30,000 กว่าบาท เพราะความเมตตาของท่าน หลังจากซ่อมรถเสร็จ รถอยู่ในสภาพที่แย่มากแล้ว จึงนำรถไปขาย ได้ราคา 25,000 บาทนำไปรวมกับอีก 30,000 กว่า ตอนนั้นผมมีเงินอยู่ 60,000 บาท บังเอิญน้องชายของภรรยาเขาขายรถมาสด้า 323 ให้ผม 180,000 บาท มีเงินอยู่ 60,000 บาท มีคน ๆ หนึ่งเขารู้ว่าผมไม่มีเงิน ซึ่งเขาไม่ให้เอ่ยชื่อของเขา เป็นพระคุณกับผมมาก เขาเรียกให้ผมไปที่บ้านเขาให้ไปเอาเงินมาซื้อรถ ผมก็รวมเงินมาซื้อรถได้ พอถึงตอนเย็นผมไปรับใช้ท่าน คอยไล่ยุงให้ท่าน ท่านเทศน์ให้ฟัง “คนไหนที่เขามีบุญคุณให้เงิน ให้ทองมา โดยที่เขาไม่ได้คิดดอกเบี้ยหรือคิดอะไรเลยกับเรานี่นะ ถ้าเรามีน่ะเราให้คืน ควรจะตอบแทนบุญคุณเขา” ท่านเทศน์ให้เราฟังลึกซึ้งมาก ในใจผมก็นึก ผมจะปฏิบัติตามที่ท่านสอน ถ้าผมมีเงินผมก็จะใช้คืนให้เพื่อทำตามที่ท่านเทศน์สอนผม
     
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    หลังจากที่ซื้อรถมา พอรุ่งเช้าเลิกงานผมเอารถมาขับ ผมก็ไปรับคนมีพระคุณก่อนเลยที่ให้เงินผม บอกพี่มานั่งปฐมฤกษ์ก่อนที ผมให้พี่นั่งคนแรกเลยนะ ขับมาจอดที่สวนแสงธรรม ท่านเดินรับบาตรผมเดินตามท่าน ท่านก้มรถดูท้ายรถผม ผมบอก “รถผมครับ” แล้วท่านก็เดินรับบาตรไปจนถึงสุดทางของท่าน ขากลับผมก็อุ้มบาตรท่านมา พอเดินมาถึงรถผม ปรากฏว่าท่านก็หยุดดูอีก ผมบอก “รถผมครับ” ท่านเฉยไม่ได้พูดอะไรเลยนะ แล้วท่านก็เดินเข้าวัด แต่มีคนเห็นว่าท่านได้มองรถผม 2 เที่ยวไปกลับ ท่านมองที่ทะเบียนรถผม ทุกคนในวัดคอยสังเกตท่านอยู่ตลอดเวลา เอาเลขทะเบียนของผมไปซื้อล็อตเตอรี่กันเกือบทั้งศาลา วันรุ่งขึ้นผมขับรถเข้ามาในสวนแสงธรรมตามปกติ ทุกคนปรบมือให้เกียรติผม ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับทักทายด้วยความยินดีว่า “คุณชาญณรงค์รวยแล้ว” แต่เปล่าเลย ผมไม่ได้คิดว่าล็อตเตอรี่จะออกตามเลขทะเบียนรถ ซื้อเล่น ๆ เพียงไม่กี่บาท คนอื่นเกือบทั้งวัดถูกกันทั้งศาลา พอถึงกลางคืนท่านเทศน์เรื่อง “ผู้ไม่มีวาสนา” ผมได้แต่ก้มหน้ารับฟังเทศน์ของท่านด้วยความเลื่อมใสในชะตาชีวิตของผมไม่มี วาสนา
     
  9. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ผมได้ดีเพราะคำสอนของท่านนั้นสำคัญมากที่สุด ท่านเคยเรียกผมเข้าไปนั่งใกล้ ๆ แล้วท่านก็สอนผมว่า “เลิกซะนะ อย่าทำนะ เลิกซะนะ” ท่านทำให้ผมคิดว่าต้องเลิกทำในสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายนั้นให้ได้ ท่านรู้ถึงความในใจของผมตลอด ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของผมก็เริ่มดีขึ้น ๆ มา
     
  10. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    มีสามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นคนดีมาก ซึ่งเป็นเพื่อนของผมและเป็นแฟนเพลง เวลาที่ผมไปเล่นคอนเสริตที่เสรีเซ็นเตอร์พวกเขาก็จะไปนั่งฟังผมเล่นดนตรี ตลอด พอผมเล่นดนตรีเสร็จก็นัดกันว่าอีก 2-3 วันจะมานั่งกินข้าวด้วยกัน คุยกันเหมือนครอบครัว พอถึงเวลาผมก็โทรศัพท์ไปหาพวกเขา ปรากฏว่าพวกเขามาทานข้าวไม่ได้เสียแล้ว เพราะว่าลูกสาวของพวกเขาได้ถูกรถสิบล้อมันปีนเกาะข้างถนนขึ้นมาชนแถวหน้า บ้าน ซอยลาดพร้าว ปกติเขาต้องไปส่งลูกสาวเขาทุกวัน แต่วันนั้น ตอนตี 5 ครึ่งไม่ได้ไปส่ง ลูกออกมายืนรอรถเมถ์ รถสิบล้อมันเบรคแตกปีนเกาะมาชนตู้โทรศัพท์พังแล้วก็มาชนลูกสาวเขาเข้า ล้มหัวฟาดถนนกระโหลกร้าว ต้องเข้าโรงพยาบาลลาดพร้าว ผ่าตัดสมอง เมื่อผมได้ทราบจึงเอ่ยปากถามด้วยความตกใจไปว่า ลูกสาวชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ พักอยู่ห้องไหน แล้วผมก็บอกเดี๋ยวจะกราบเรียนท่านอาจารย์ให้ เขาก็บอกกลับมาว่า คุณชาญณรงค์ช่วยหน่อยครับ ๆ ช่วยกราบเรียนพระให้หน่อย เขาคงคิดว่าผมต้องไปกราบเรียนท่านที่วัดป่าบ้านตาดจริง ๆ แต่เปล่าเลยผมเข้าห้องพระ ในความที่จิตผมปรารถนาจะช่วยเขา ก็จุดธูปกราบเรียนท่าน ขอให้เมตตาช่วยลูกสาวของพี่คนนี้ ชื่อนี้ นามสกุลนี้ พักอยู่ที่ห้องนี้ ที่โรงพยาบาลลาดพร้าว แม่ชื่อเล็ก พ่อชื่ออนุชิตและลูกสาวชื่ออรัญญา เกิดความอัศจรรย์ว่า ตอนกลางคืนแม่นั่งเฝ้าลูกอยู่ ก็เห็นพระองค์หนึ่งเดินเปิดประตูเข้ามาในห้อง ห่มจีวรสีคล้ำ ๆ เหมือน พระป่า ผมขาว ๆ เดินตัวตรง ๆ เข้ามา เดินวนรอบเตียงลูกสาวเขาลูกเขาก็ยังไม่ได้สติ เดินวนดูนู่นดูนี่ เขาก็นั่งพนมมือ พระมาเยี่ยม ไม่ได้พูดอะไรมองท่าน แล้วท่านก็เดินออกไป เขาก็คิดว่าพระที่อยู่ห้องตรงข้ามมาเยี่ยม เพราะห้องตรงข้ามจะมีพระป่วยอยู่องค์หนึ่ง เขาจึงคิดว่าพระองค์นั้นมาเยี่ยม เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะนำอาหารไปถวายให้ท่านฉัน จึงโทรศัพท์สั่งให้สามีเตรียมอาหารพรุ่งนี้จะเอาไปถวายพระ หลังจากท่านเดินออกไปสักครู่หนึ่งลูกสาวได้ฟื้นขึ้นมา บ่นบอกมาว่า อยากทานโจ๊ก แม่ก็โทรศัพท์หาพ่อเขาทันที ให้ต้มโจ๊กมาเดี๋ยวนี้มาในคืนนี้เลย เพราะลูกฟื้นแล้วบ่นอยากทานโจ๊ก พอถึงตอนเช้าเขาก็นำอาหารไปถวายพระองค์นั้น ปรากฏว่าพระองค์นั้นผอมดำ กำลังให้อ๊อกซิเย่น ก็คิด ไม่ใช่องค์ที่เห็นเมื่อคืนนี้เลย จึงไม่รู้ว่าเป็นพระองค์ไหน ตั้งแต่ตอนที่ลูกบ่นว่าอยากทานโจ๊ก อาการของลูกก็ดีขึ้น ๆ มาเรื่อย ๆ จนหายเป็นปกติ พวกเขาก็มาฟังดนตรีผมอีก แล้วบอกว่า ลูกสาวได้หายป่วยแล้ว ขอบใจอาจารย์นะที่อุตส่าห์ไปกราบเรียนท่านให้ช่วยเหลือลูกสาวผม ผมขอฝากเงินไปถวายท่านหลวงตามหาบัวให้ด้วยสิ ผมจึงบอกให้เขาเขียนจดหมายไปหาท่านเอง จ่าหน้าซองถึงพระอาจารย์หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด อำเภอบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ส่งถึงอยู่แล้ว แล้วเขาบอก อาจารย์ผมขอรูปท่านสักใบได้ไหม ผมบอกได้ ๆ ไม่มีปัญหา แล้วพรุ่งนี้มาเอาที่เสรีเซ็นเตอร์ผมจะไปเล่นดนตรีที่นั่น วันนั้นเขาก็มา ผมก็เอารูปหลวงตาให้เขา ในระหว่างที่คนดูกำลังเยอะ ๆ ตอนนั้น พอเขาได้เห็นรูป เขาก็บอก “องค์นี้แหละใช่แล้ว ๆ องค์ที่ได้มาหาในห้องคืนนั้น” เขายืนยันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงว่า เป็นองค์เดียวกันกับที่อยู่ในรูป ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่ท่านไปได้อย่างไร ปัจจุบันครอบครัวนี้ได้เป็นลูกศิษย์ท่านมาตลอด
     
  11. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ผมได้ไปกราบท่านความรู้สึกของผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ท่านมีความเมตตาต่อผมมาตลอด และสังขารของท่านชราลงไป แต่ความเข้มข้นของท่านยังเหมือนเดิม ใจดีถ้าเราไม่ได้ทำผิดท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ตั้งแต่ที่ผมได้อยู่กับท่านมา ผมถูกท่านดุแค่ 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกผมถูกท่านดุด้วยวาจามีแม่ชีมาฝากหนังสือหลวงปู่หลุยส์ไว้จะให้ท่าน แจกให้ เผอิญท่านขึ้นกุฏิไปแล้ว ผมก็เอาหนังสือวางไว้ก่อน ยังไม่ได้ถวายให้ท่าน แล้วผมได้ออกไปข้างนอกวัด ท่านถามท่านดิกส์ว่า “หนังสือของใคร” ท่านดิกส์ได้บอกว่าเป็นของผม ท่านสั่งท่านดิกส์ไว้ ถ้าผมกลับมาแล้วให้ขึ้นไปพบท่าน พอไปพบท่านใจผมแว๊บเลย ท่านถาม “หนังสือพวกนี้มาจากไหน” ใจผมมันตุ๊บ ๆ ผมตอบ “แม่ชีฝากมาถวายหลวงปู่ให้แจกให้” ท่านบอกกลับมาว่า “ท่านรู้ไหมมันใช้เรา” เราไปรับไว้ได้ยังไงสุ่มสี่สุ่มห้า ลูกศิษย์ใช้อาจารย์ ท่านเป็นผู้ที่ละเอียดรอบคอบจริง ๆ ท่านให้เอาหนังสือไปคืน แล้วไม่ได้ว่าอะไรอีก สอนผมว่าทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมนะ และครั้งที่ 2 ท่านดุด้วยกริยา สมัยก่อนอาสนะข้างบนที่ฉันอาหารเวลาท่านฉันเสร็จแล้วจะไม่มีพระเข้าไปยุ่ง มีแต่ฆราวาส มีผมกับคุณหลวงที่คอยทำหน้าที่เก็บกระโถน เก็บอาหาร ทำความสะอาดเช็ดถูให้เรียบร้อย ยาคูลท์ท่านก็วางไว้ คนข้างล่างเห็นเข้าจึงพูดว่า “ คุณชาญณรงค์ขา ขอยาคูลท์ขวดค่ะ” ผมก็หยิบส่งให้ ท่านก็มองผมอยู่แล้ว พอคนอื่นเห็นอีกทีก็ขอ “คุณชาญณรงค์ขา ขอยาคูลท์อีกขวดค่ะ” พอผมจะเอื้อมมือหยิบส่งให้ ท่านก็เอามือตีมือผม พั๊ว แล้วบอกว่า “เราทำได้คนอื่นก็ต้องทำได้อย่างเราเหมือนกัน” ผมก็รู้ขึ้นมาเลยว่าเราทำไม่เหมาะสม เรามีหน้าที่ตรงนี้ เราทำอย่างนี้ได้คนอื่นเขาก็อยากจะทำอย่างเราได้เหมือนกัน ไม่ใช่หน้าที่เรา เวลาท่านฉันเสร็จก็จะบอกเองว่า เอ้า มาเอาไปแจกกัน ถ้าท่านสั่งเองแบบนี้เราถึงจะทำได้ ไม่รู้จักการควรหรือไม่ควร ผมจึงถูกดุถึง 2 ครั้ง และอีกครั้งหนึ่งท่านดุด้วยสายตาคือ การวางกระโถนหมากให้ท่านต้องระวังอย่าวางให้มีเสียงดัง ผมก็ฝึกวิธีการวางอยู่หลายวัน พอผมวางกระโถนมีเสียงดังโป๊กท่านก็จะมองหน้า ทีหลังพอผมวางเงียบท่านก็ไม่เคยมองอีกเลย ท่านจะฝึกสติแล้วสอนด้วยสติ จะทำการอะไรต้องมีสติ อย่าทำด้วยความคุ้นเคย และมีอีกเรื่องหนึ่งคือ ท่านจะมีมีดอยู่อันหนึ่งไว้เฉือนหมากของท่านเอง สมัยก่อนหมากจะเป็นลูก ๆ ท่านก็ให้ผมหยิบมีดให้ ผมก็หยิบมีดแล้วส่งทางปลายมีดให้ท่าน ท่านก็ไม่รับ มองหน้าผม ผมจึงคิดได้ว่า เอ๊ะ ทำไมท่านถึงไม่รับมีดที่เราส่งให้ เป็นเพราะผมได้ส่งผิดทาง ส่งปลายมีดให้ท่าน ดังนั้นผมจึงเปลี่ยนวิธีส่งให้ใหม่ คือหันทางด้ามส่งให้แทน ท่านถึงจะรับ ทำให้เรารู้ว่าการส่งมีดให้ผู้ใหญ่ต้องส่งอย่างไร ท่านจะมีวิธีการสอนที่แตกต่างกัน จากการสังเกตของผมถ้าใครเป็นลูกศิษย์ของหลวงตาจริง ๆ มักจะเป็นผู้ให้ตามที่ท่านปฏิบัติ การเป็นผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของทุกคน
     
  12. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    มีอยู่วันหนึ่งคุณหลวงแต่งชุดซาฟารีสีน้ำเงิน จะเดินทางไปลำปาง วันนั้นก็ใกล้วันเกิดของคุณหลวง เนื่องจากผมกับคุณหลวงก็รักใคร่นับถือกันมานาน ผมจึงให้เหรียญหลวงปู่มั่นโดยมีรูปของหลวงตานั่งสมาธิอยู่ข้างหลัง ซึ่งรูปนี้คุณหลวงได้เป็นคนทำ โดยนำมาจากหน้าปกวีดีโอ และพี่ศิริได้ทำเป็นรูปเล็กมาแจกในวันเกิดหลวงตา ผมได้มารูปหนึ่งก็เอามาตัดปรับเข้ากับรูปเหรียญและตัดแปะเข้าไว้ แล้วนำไปเลี่ยมทองมอบให้ในวันเกิดของคุณหลวง แล้วคุณหลวงได้ใส่ไว้ในกระเป๋าและมากราบลาหลวงตาเพื่อที่จะเดินทางไป จังหวัดลำปาง ในวันรุ่งขึ้น จุ๋มโทรมาบอกว่า “คุณหลวงถูกรถชนที่นครสวรรค์” ผมจึงไปกราบเรียนหลวงตา ท่านก็เดินออกจากห้องมา แล้วบอกท่านไปว่า “หลวงปู่ครับ คุณหลวงถูกรถชนครับ ที่นครสวรรค์ครับ อาการยังไม่ทราบเป็นอย่างไรครับ” ท่านหยุดนิดหนึ่งแล้วพูดว่า “เราไม่คิดว่าจะกลับมา” แล้วท่านก็เดินเข้าไปในกุฏิปิดประตูเงียบเลย และท่านออกมาตอนค่ำ ๆ แล้วบอกว่า “ไม่เป็นไร” พอวันรุ่งขึ้นคุณหลวงก็เดินโผเผก้มกราบเท้าหลวงตาด้วยน้ำตา ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาชีวิตคุณหลวงเหมือนตายไปแล้วแต่ที่ ไม่ตายเพราะบารมีของหลวงตาคุ้มครองอยู่ตลอดเวลาช่วยจนกระทั่งคุณหลวงได้ฟื้น ขึ้น เพราะสาเหตุนี้คุณหลวงจึงทำล็อคเก็ตเป็นครั้งแรก
     
  13. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ผมกับคุณหลวงก็ได้ปรึกษาหารือว่าจะทำล็อคเก็ตกัน และให้สันติเป็น คนทำ ได้ทำขึ้น 2 แบบ คือ ขนาดเล็กกับขนาดใหญ่เป็นของผู้ชายกับผู้หญิง ผมกับคุณหลวงก็ขึ้นไปหาท่าน และคุณอภิชาติ คุณหลวงขึ้นไปกราบเรียนท่าน พูดถึงผมแล้วหยิบเหรียญองค์นั้นมาให้ท่านดูเล่าถึงความเป็นมาว่าได้รอดตาย มาเพราะมีรูปท่านอยู่ข้างหลัง ก็ขออนุญาตจะทำล็อคเก็ตเพื่อนำไปป้องกันอันตราย ท่านบอก “อย่าพูดอย่างนั้นสิ” ท่านเตือน มันไม่ใช่อย่างนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไป คุณหลวงได้กราบเรียนว่า ไว้ให้ลูกศิษย์ได้กราบไว้บูชา ท่านบอกว่า “ไหนเอามานี่ซิ” แล้วท่านก็พิจารณาเมตตาทำให้อย่างดี ผมจำได้ว่า ท่านจะเอามือเคล้าไปมา พอเสร็จแล้วท่านก็ให้ผมมา อุ้มลงมาพอเห็นท่านน้อย ท่านน้อยบอก “เอามานี่แบ่งกันบ้าง” ผู้กำกับโชคดีมาพอดีได้ไปด้วย นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้ทำล็อคเก็ตแจก
     
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    พิธีงานบุญประทายข้าวเปลือก

    มีอยู่ว่า ชาวนาเอาข้าวเปลือกส่วนหนึ่งมาถวายท่านอีกส่วนหนึ่งจะนำไปหว่านเพาะต้นกล้า เพื่อที่จะปลูก ขอให้ท่านทำน้ำมนต์ท่านก็เมตตาทำน้ำมนต์ให้แล้วพรมข้าวเปลือกที่จะเอาไป หว่าน หลังจากนั้นชาวนาก็เอาไปหว่านกัน ปรากฏว่า ต้นกล้าเจริญงอกงามดีไม่มีแมลงมารบกวน ชาวนาก็เกิดความศรัทธาจึงนำข้าวเปลือกมาถวายกันทุกปี ๆ มากขึ้น ๆ จนกลายเป็นงานใหญ่ขึ้นมา พอถึงวันงานบุญจะมีชาวนาเอาข้าวเปลือกมาถวาย แล้วท่านก็จะเอาเข้าโรงสี สีข้าวออกมาเป็นข้าวสารเพื่อแจกจ่ายให้ตามโรงพยาบาล คนยากจนต่าง ๆ ที่เดือดร้อน ส่วนพิธีคือ เช้าขึ้นมาท่านก็จะทำน้ำมนต์ระหว่างนั้นพระจะสวดแล้วนำน้ำมนต์ไปประพรมข้าว สาร ในงานของท่านจะมีโรงทานมาเปิดกันมากมายจะมีผู้คนมากินกันมากด้วย ผมเองก็ได้ร่วมเปิดโรงทานด้วยเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2009
  15. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    งานสามแดนโลกธาตุ

    ท่านจะเอาวันที่โยมแม่ท่านเสีย ท่านจะต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้โยมแม่ของท่านในวันนั้น และอัฐิของโยมแม่ท่านจะนำไปไว้ที่ต้นโพธิ์ถือว่าเป็นศูนย์กลางของวัด ท่านได้เล่าให้ฟังว่า “ในวันนั้นทำไมถึงเรียกว่างานสามแดนโลกธาตุหมายความว่า เมื่อเขาอุทิศบุญให้แล้ว พวกที่ควรจะรับบุญก็จะมาคอยรับกุศล ถ้าญาติที่มาในงานนั้นหรือญาติที่อยู่ส่วนไหนก็แล้วแต่อุทิศบุญอนุโมทนาให้ เขาก็จะชื่นใจที่ได้รับกุศลนั้นไป แต่มีญาติบางพวกที่ไม่มีญาติมาอุทิศบุญให้เขาก็กลับไปด้วยความสลดใจ พวกที่รู้ก็รีบมากันอย่างตื่นเต้นดีใจ เมื่อญาติไม่ได้มาอุทิศกุศลให้ท่านจึงเกิดความเมตตาสงสาร จุดนี้จึงเป็นเหตุทำให้เกิดทำการสามแดนโลกธาตุเพื่อที่ให้ญาติทั้งหลายได้ รับบุญกุศลนั้นอย่างถ้วนหน้ากัน จุดมุ่งหมายของท่านคือ ให้ลูกศิษย์ทั้งหลายมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติทั้งหลายที่ตายไปแล้ว ให้ระลึกถึงบรรพบุรุษที่ได้ล่วงลับไปแล้ว
     
  16. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    สิ่งต่าง ๆ ที่ท่านทำทั้งหมด ท่านไม่ได้ทำเพื่อตัวของท่านเอง ถ้าเราคิดให้ดีแล้ว เมื่อเราเอาสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปถวายท่าน ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเงินทองทั้งหลายท่านไม่ได้รับแต่เราต่างหากที่เป็นผู้ ได้รับแทนและยังจะออกไปสู่มวลชนต่าง ๆ ด้วย สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นที่ท่านได้รับบริจาคมา ท่านจะเมตตาให้แด่สัตว์โลกที่มีความเดือดร้อน เช่น กรมราชทัณฑ์ ประเทศลาว และทุกที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ
     
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    สิ่งที่ผมประทับใจหลวงตา ตอนนี้ท่านอายุ 95 ปีชราภาพลงมากแล้วแต่ท่านต้องทรมานสังขาร ความเป็นอยู่ในห้องนอนของท่านจะมีผ้าปูอยู่ 1 ผืน, หมอนขอน 1 ใบ, กาน้ำ 1 ใบ, โจกและกระโถน 1 ใบ มีอยู่แค่นี้แล้วไม่มีอย่างอื่นอีกเลย แต่ท่านพูดเลยว่าท่านมีเงินเป็นหมื่น ๆ ล้านมหาศาลแต่ท่านนอนอยู่แค่นี้ไม่มีอะไรเลย สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมประทับใจจากความมัธยัสถ์ ความไม่เห็นแก่ตัวของท่าน และความเมตตาต่อสัตว์เล็กสัตว์น้อย ตอนนั้นผมอยู่ที่สวนแสงธรรม ท่านนอนนวดผมเป็นคนปัดยุงให้ท่าน ปรากฏว่ามีแมลงบินเข้าหูท่าน ท่านก็ให้พระเอาน้ำมากรอกหูท่านแล้วเอียงหูให้แมลงออกมา มันยังไม่ตายท่านบอก “เขี่ยขึ้นมา ๆ ชีวิตเท่ากัน ๆ” คือมันมีชีวิตหัวใจ มีความต้องการเหมือนเราทุกอย่าง แต่มีคุณธรรมเท่านั้นที่มันต่างกัน คืนนั้นได้ทำให้ผมรู้สึกว่าความเมตตาของท่านมันมหาศาลจริง ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมเห็นว่าท่านจะมีความเมตตาอย่างนี้มาตลอดไม่เคย เปลี่ยน เวลาท่านดุท่านจะไม่ดุด้วยความเกลียด โกรธ แต่ท่านจะดุกิเลส ความทะเยอทะยานของเรา และคำสอนของท่านจะสอนกินใจ สอนแล้วเอาไปใช้ได้เลยใช้ได้ตรง ๆ
     
  18. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467

    มีอยู่คืนหนึ่งผมได้ขึ้นไปไล่ยุงให้ท่าน ซึ่งคืนนั้นท่านเรียกผมอย่างไพเราะเลยนะท่านเรียกผมว่า “คุณชาญณรงค์ แล้วบอกต่อว่าพรุ่งนี้เช้าไปนับรถที่จอดอยู่ในสวนแสงธรรมว่ามีกี่คัน” ผมรับปากท่าน พอรุ่งเช้าผมได้ไปนับรถตามที่ท่านสั่ง ผมนับได้ 191 คัน พอถึงตอนเย็นท่านลงมาจากศาลาผมกราบเรียนท่าน แล้วถามว่า “นับได้กี่คันล่ะ” ผมตอบท่าน “นับได้ 191 คันครับ” ท่านบอก “เอ๊ะ ไม่ใช่ 192 คันเหรอ” ผมก็เถียงท่านไม่ใช่ครับ ผมจึงหยิบกระดาษที่จดจำนวนรถมาแสดงให้ท่านดู ท่านเห็นก็เฉยไม่พูดอะไรต่อ พอเช้าขึ้นมาอีกวันหนึ่งปรากฏว่า ล็อตเตอรี่ได้ออกเลข 192 ที่หลวงตาท่านบอกว่ามีรถทั้งหมด 192 คันจริง ในใจผมก็นึกดูถูกท่านนะว่าท่านรู้ได้อย่างไรผมนับแต่ท่านไม่ได้ไปนับ จึงคิดขึ้นได้ ว่าท่านเมตตาเราซึ่งช่วงนั้นผมกำลังยากจนมากอยู่พอดี แต่บุญของเราไม่มี
     
  19. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ผมมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่ง มีฐานะดีมีความสุขอยู่กับกิเลส ตัณหา เหมือนคนอื่น ๆ ทั่วไป ที่อุดมไปด้วยทรัพย์สินเงินทองและสุดท้ายลงเอยด้วยผู้หญิง ลึกซึ้งถึงขนาดได้สาวมาเชยชมสมใจ ควงไปไหน ๆต่อไหนด้วยความลำพองว่าแน่ ยังมีกำลังวังชาพอที่จะมีกุ๊กกิ๊กได้ เป็นที่อิจฉาของเพื่อน ๆ วัยเดียวกัน ที่ไม่อาจเทียบฝีมือและอาวุธได้ วันหนึ่งเพื่อนผู้สูงวัยมีความจำเป็นต้องมาวัด พร้อมทั้งกิ๊กคู่ใจ ก้าวขึ้นบนศาลาด้วยความมั่นใจ เอากิ๊กไว้ให้อยู่ใต้ศาลา พบหลวงตาก้มลงกราบ หลวงตามองดูเพื่อนด้วยสายตาแหลมคมพร้อมทั้งกล่าวว่า “เลิกซะนะ เลิกซะ” ได้ยินไม่ถนัดเอียงหน้าเข้าใกล้หลวงตาอีกนิด “ไหนครับ” ถามกลับไปที่หลวงตาเพื่อความแน่ใจว่าหลวงตาพูดถึงใครเมื่อกี้นี้ หลวงตากล่าวขึ้นเหมือนเดิม “เลิกซะ เลิกซะนะ” ใจหายลงตาตุ่ม หน้าซีดเหมือนไก่ต้ม เหงื่อแตกท่วมตัวกราบลงตรงหน้าหลวงตา รีบลงจากศาลา ผมติดตามลงมาติด ๆ ใต้ศาลา เพื่อตรงเข้าพบกับ “กิ๊กสาว” พร้อมทั้งกล่าวกับเธอว่า “เราเห็นจะต้องเลิกกันแล้ว หลวงตารู้แล้วล่ะ” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อนผมเข้าวัดอย่างสม่ำเสมอ
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    พูดถึงถ้ำสาริกา จะมีรูปหล่อหลวงปู่มั่นอยู่ ท่านไปดูแล้วบอกว่า “เหมือนมาก” สมัยก่อนนั้นจะมีต้นไม้ใหญ่อยู่มากมายและปรากฏว่าตอนนี้ไม่มีอยู่อีกแล้ว พระบ้านขึ้นไปอยู่แทนไม่ใช่พระกรรมฐาน ท่านจะไปกราบและสมัยก่อนจะมีถ้ำเล็ก ๆ อยู่ถ้ำหนึ่งลึกมากแต่ตอนนี้เขาเอาปูนเททับไปหมดแล้วและจะมีพระพุทธรูปมา ตั้งแทน ท่านจะเล่าให้ฟัง และเวลาลิงมันคุยกัน ท่านจะนั่งกำหนดจิตดูแล้วท่านก็รู้ แปลภาษาลิงออกมา ได้เขียนไว้ในหนังสือประวัติหลวงปู่มั่น ปัจจุบันนี้ท่านก็ได้ไปที่ถ้ำสาริกาอยู่เรื่อย ๆ เมตตาเอาเงินไปให้ เอาของใช้ข้าวสารอาหารแห้งไปแจกครอบครัวของพวกอนุรักษ์สัตว์ป่า เงินแต่ละครอบครัวจะได้ 1,000 บาท เพราะด้วยความสงสารพวกเขาท่านเรียกการให้ทานเหล่านี้ว่า “การสงเคราะห์โลก”
     

แชร์หน้านี้

Loading...