<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 มกราคม 2549 20:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
ทักษิณไฟเขียวกระเช้าภูกระดึงคุมเข้มสิ่งแวดล้อม
ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 10 มกราคม 2006.
-
-
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หลากหลายความเห็นกับ "กระเช้าลอยฟ้าภูกระดึง" </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 มกราคม 2549 17:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=380 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=380> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผาหล่มสัก จุดชมวิวยอดนิยมของภูกระดึง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> “ทักษิณเอาจริง ไฟเขียวกระเช้าขึ้นภูกระดึง สั่งศึกษาผลกระทบ 4 เดือน ด้านเอกชน 4 จ.ภาคอีสาน หนุน อ้างส่งเสริม-พัฒนาการท่องเที่ยว”
พาดหัวข่าวใน “ผู้จัดการออนไลน์” เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2549 ที่ผ่านมา ทำเอาหลายๆ คนคิดเหมือนๆ กันว่า เห็นที...ที่สุดแล้วภูกระดึงก็คงไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงการสร้างกระเช้าลอยฟ้ายิงตรงจากพื้นราบขึ้นสู่หลังแปได้เป็นแน่แท้
เรื่องของการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงนี้เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาเป็นเวลานานแล้ว ความคิดเห็นแตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคัดค้านด้วยเหตุผลในเรื่องของความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม และรายได้ของผู้ประกอบอาชีพลูกหาบบนภูกระดึง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งเห็นด้วย หากการสร้างนั้นไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะจะทำให้ผู้ที่ไม่มีกำลังและความสามารถจะเดินขึ้นภูได้มีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศบนภูกระดึงบ้าง
วันนี้ หน้า “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ได้นำเอาข้อความส่วนหนึ่งจากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นเข้ามาต่อเรื่องการสร้างกระเช้า จากบทความ “ลูกหาบภูกระดึง: ฤาจะเหลือเพียงตำนาน”ซึ่งผู้ที่ไม่เห็นด้วยแสดงความคิดเห็นว่า
การเดินขึ้นภูกระดึงถึงยากเย็นแค่ไหนก็ยังอยากไปอีก มันเหมือนมี "มนต์เสน่ห์" ที่ทำให้มีสีสันในการท่องเที่ยวบนภู ที่นี่เป็นที่เดียวในประเทศไทยที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่มีการแบ่งแยกระหว่างคนรวยคนจน เพราะจะจนจะรวยก็ต้องเดินขึ้นเหมือนกัน นอกจากคุณจะมีฮอฯส่วนตัว พอมีกระเช้าอะไรก็สะดวกขึ้น คนขึ้นไปเยอะ ลูกหาบก็ตกงาน ขยะคงจะเยอะ รีสอร์ทต่างๆคงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทุกวันนี้ในแต่ละปีภูกระดึงก็โทรมจะแย่อยู่แล้ว
อยากให้สวรรค์บนดินยังคงสภาพเหมือนเดิมค่ะ
โดย : รักภูกระดึง ไปมาแล้ว 2 ครั้ง
สถานีต่อไป"ผาหล่มสัก".....Next station "Pha-Lom-Sak"
รถไฟฟ้าภูกระดึงขอขอบคุณทุกท่านที่ใช้บริการของเรา
โดย : สักวันคงจะมี
</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=380 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=380> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ชีวิตของเหล่าลูกหาบจะเป็นเช่นไร ถ้ามีการสร้างกระเช้าลอยฟ้า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ถ้าท่านทั้งหลายคิดว่า....
สังขารไม่อำนวย เดินไม่ไหว....ต้องขึ้นกระเช้า..
เป็นสิ่งที่ท่านเริ่มคิดผิด...หากจะเที่ยวภูกระดึง
เพราะเมื่อคุณขึ้นไปถึงภูกระดึงแล้ว
ใช่ว่าคุณจะพบกับภาพต่างๆ...ที่สวยงามเหมือนภาพที่ท่านได้เห็น
เพราะกว่าจะได้ภาพเหล่านั้น.....ท่านจะต้องเดิน อีกหลายสิบกิโลเมตรจากที่พัก เพื่อให้ได้เห็นภาพเหล่านั้น
ถ้าคิดว่า สังขารไม่อำนวย เดินไม่ไหว
ถึงจะนั่งกระเช้าขึ้นถึงยอดภูกระดึง
ท่านก็คงได้แต่นั่งอยู่ในที่พัก หรือไม่ก็เดินดูธรรมชาติรอบๆที่พัก
ยกตัวอย่างวิว ยอดฮิต...ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก
คุณต้องเดินด้วยเท้าไปกลับเกือบ 30 กิโล....คุณคิดว่าคุณจะเดินไหวหรือเปล่า...มันไม่มีกระเช้า หรือรถพาท่านไปแน่...คุณต้องเดิน...และเดิน....
ถ้าคุณคอยดูพระอาทิตย์ตก....คุณต้องเดินทางกลับที่พักในตอนกลางคืน ระยะเกือบ 15 กิโลเมตร...
เขาไม่มีกระเช้ารับส่งเหมือนตอนขึ้น
หากจะคิดว่า ขึ้นกระเช้า เพื่อเที่ยวภูกระดึง...
คุณคงได้แต่นอนเล่นอยู่ในเต็นท์...ถ้าคุณคิดว่าสังขารไม่อำนวย
ในการเดินขึ้นภูกระดึง 5 ครั้งของผม
ถึงแม้มันจะเหนื่อย...แต่มันก็คุ้ม
ขนาดขึ้นยากๆ....คนยังเยอะ บางครั้งจนไม่มีที่พัก
ถ้ามันขึ้นง่ายๆ.....ธรรมชาติคงแย่หนักไปกว่าเดิม..
โดย : มั้ง
ทำไมต้องสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ก็เพราะว่า เสน่ห์ของภูกระดึงอยู่ที่การที่คุณเดินขึ้นไป ไม่อย่างนั้นเขาจะมีคำว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิต ข้าคือผู้พิชิตภูกระดึง" เอาไว้ทำไม นี่คือจุดขายของภูกระดึงครับ
ตลอดสองข้างทางขึ้นภูกระดึง เป็นห้องสมุดธรรมชาติที่จะคอยสอนมนุษย์ให้รู้ถึงความแตกต่างของธรรมชาติได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นป่าเบญจพรรณ ป่าไผ่ เขายังทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอาไว้ด้วย
แต่จากการขึ้นภูกระดึง 15 ครั้งในเวลา 10 ปีของช่วงชีวิตของผม ผมว่า เพื่อนร่วมทางที่เดินขึ้นพร้อม ๆ กับผม ไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้เลย คุยไป ทิ้งขยะไป ซึ่งถ้าผมเห็น ผมจะเก็บไปทิ้งให้ดูต่อหน้าเลยด้วย
ส่วนจะอ้างว่า อากง อาม่า ซ้อ ทวด พ่อแม่ หรือคนแก่และคนพิการอยากจะขึ้น ข้างล่างมีลูกหาบที่บริการเสลี่ยงอยู่แล้วครับ ราคา 2000 บาท เป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว เขาก็มีทางเลือกให้อยู่นี่ครับ ใช่ว่าเขาบังคับให้คนแก่ หรือคนพิการเดินขึ้นอย่างเดียวซะเมื่อไหร่
ระยะทางกว่า 6 กม. กว่าจะถึงหลังแป มีร้านค้าอยู่ประมาณ 6 จุด ตั้งแต่ ซำแฮก ซำบอน ฯลฯ พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้คงตกงานสิครับ หรือไม่ก็คงกลับไปทำนาข้าวเหนียวเหมือนเดิม
ปีนึงพวกเขาจะค้าขายกับนักท่องเที่ยวได้แค่ 8 เดือนเท่านั้นนะครับ และก็ไม่ได้ขายดีทุกเดือนด้วย เดือน มีนาคม-เมษายน อากาศร้อนจัด คนก็น้อยลง อาจจะมีบ้างสำหรับคนอยากเข้าป่าปิด พอมิถุนายน ร้านค้าต่าง ๆ ก็จะถูกทิ้งร้างรอเวลาเดือน ตุลาคม จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง
นี่คือเสน่ห์ของภูกระดึงครับ
บ้านเรายังจนอยู่ อย่าเห่อเหิมทะเยอทะยานมากนัก เอาเวลาไปสร้างสถานศึกษาให้เด็กนักเรียนยังจะดีซะกว่า
โดย : ครูบ้านนอก
ประเด็นที่ว่า ทำเพื่อสิทธิของคนพิการ และคนชรา ไม่มีน้ำหนักพอ
เพราะ อย่างแรกเลย การเรียกร้องให้สร้างไม่ได้มาจากกลุ่มคนพิการ และคนชรา
ถ้าประเทศไทยคำนึงถึงสิทธิของคนชรา และคนพิการมากถึงขนาดลงทุนสร้างกระเช้า.....แล้วทำไม โรงหนัง รถเมล์ ตึกทั่วไปไม่ได้รองรับ เรื่องเหล่านี้ ?
ถ้าจะเห็นความสำคัญในสิทธิของ คนชรา และคนพิการจริง ทำไมต้องมาเริ่มต้นกันที่ภูกระดึง ?
แทนที่จะเริ่มในเมืองซึ่ง คนอยู่อาศัยมากกว่าแน่นอน และจะได้ประโยชน์จากการอำนวยความสะดวกให้มากกว่ากับที่จะเริ่มในสถานที่ธรรมชาติอันห่างไกล ?
ก็เพราะว่า เรื่องสิทธินี้ มันไม่ใช่ประเด็น ตั้งแต่แรกแล้ว
ก็เพราะว่า เรื่องสิทธินี้ มันไม่ใช่ประเด็น ตั้งแต่แรกแล้ว
ก็เพราะว่า เรื่องสิทธินี้ มันไม่ใช่ประเด็น ตั้งแต่แรกแล้ว
ก็เพราะว่า เรื่องสิทธินี้ มันไม่ใช่ประเด็น ตั้งแต่แรกแล้ว
ก็เพราะว่า เรื่องสิทธินี้ มันไม่ใช่ประเด็น ตั้งแต่แรกแล้ว
ก็เพราะว่า เรื่องสิทธินี้ มันไม่ใช่ประเด็น ตั้งแต่แรกแล้ว
ถ้าบอกว่าจะได้รายได้จากการเก็บค่าบริการ เพราะจะเรียกคนได้มากขึ้น
อันนี้ต้องดู สภาพธรรมชาติเป็นหลักมากกว่า ว่ามันรองรับคนได้มากแค่ไหน ระยะฟื้นฟูตัวเองของธรรมชาติกินเวลาเท่าไหร่เป็นที่ตั้งมากกว่า ซึ่งในเวลานี้ จำนวนนักท่องเที่ยว ก็เกินจะรับไหวแล้ว
นักท่องเที่ยวที่ไปมีมากอยู่แล้ว คนแก่และคนพิการ เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องลงทุนสร้างกระเช้า ไม่ได้ไม่เห็นความสำคัญนะ แต่คิดว่า นักท่องเที่ยวควรดูศักยภาพของตัวเองมากกว่า บางทีร่างกายก็เป็นข้อจำกัดที่ต้องยอมรับ
เพราะถ้าตาบอด ขึ้นไปก็คงไม่มีความหมาย
หรืออาจมีบริการนั่งเสลี่ยง ขึ้นไปแทน
โดย : .
อยากออกความเห็นว่า "ธรรมชาติสร้างดีที่สุดแล้ว" ใครที่ไม่เคยไปภูกระดึงจะไม่รู้หรอกว่าธรรมชาติที่ภูกระดึงสวยงามอย่างไร ผมไปมาหลายครั้งตั้งแต่ยังไม่มีร้านอาหาร ร้านใช้เช่าเต็นท์ บรรยากาศตอนนั้นสวยงามมากให้ความรู้สึกที่ดี มีความหลงใหลในเสน่ห์ของภูกระดึง
ใครที่เดินเท้าขึ้นภูกระดึงจะรู้สึกถึงความยากลำบากที่เราต้องพยายามเอาชนะใจตัวเองที่จะเดินให้ถึงยอดภู ในระหว่างเดินขึ้นเขาผ่านซำต่าง ๆ จะมีความรู้สึกท้อ ยากลำบากและเหนื่อยล้า แต่พอถึงหลังแป(ยอดภู) จะได้สัมผัสบรรยากาศที่ไม่เคยได้พบมาก่อนบนพื้นที่ราบ ได้กลิ่นโอโซนที่บริสุทธิ์ มีเมฆลอยต่ำเลียดหลังแป อากาศเย็นสดชื่น มองเห็นทุ่งหญ้า และป่าสนเรียงราย ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง มีแรงที่จะเดินทางต่อไปถึงที่พัก คืนแรกหุงหาอาหารกินเองเป็นมื้อที่อร่อยมาก ถึงแม้จะเป็นข้าวสามกษัตริย์ (แฉะ ไหม้ และดิบ) กับข้าวเป็นปลากระป๋อง และไข่เจียว ผู้คนกางเต็นท์ที่หอบหิ้วมาเอง มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ล้อมวงรอบกองไฟ ร้องเพลงเล่นกีตาร์ สนุกสนานกับบรรยากาศในค่ำคืน ได้เพื่อนใหม่ ๆ ได้มิตรที่ดี ๆ เป็นรูปแบบของการใช้ชีวิตในธรรมชาติจริง ๆ
หากเป็นไปได้ก็อยากให้คงอยู่ในสภาพเดิม ๆ เหมือนเมื่อ 20 ปีก่อน
โดย : รักภูกระดึง
</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>น้ำตกขุนพอง หนึ่งในน้ำตกบนภูกระดึง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนทางด้านผู้ที่เห็นด้วยกับการสร้างกระเช้า ให้ความเห็นว่า
ผมคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรง
เช่น เด็กเล็กหรือคนแก่ ได้มีโอกาสเที่ยวกับธรรมชาติบนภูกระดึงบ้าง ผมเองเคยไปเที่ยวก็แทบจะขึ้นไม่ถึงเหมือนกันแต่ว่ากำลังใจช่วยไปให้ถึง ถ้ามีกระเช้าไฟฟ้าคนที่อ่อนแอกว่าก็อาจจะใช้บริการได้ แต่ผู้ที่แข็งแรงดีก็สามารถเดินขึ้นได้นี่ครับ
โดย : ดำ
เห็นด้วยกับการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง
แต่ต้องทำลายธรรมชาติน้อยที่สุด
โปรดเห็นใจเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ คนชรา และคนพิการด้วยครับ
***ให้โอกาสพวกเขาได้เห็นความสวยงามของยอดภูบ้าง
โดย : AnS
ก็คิดได้สองแง่นะ บางคนที่อยากขึ้นภูแต่สังขารมันไม่อำนวย เช่น เป็นเด็ก คนชรา หรือคนพิการ ที่เค้าอยากจะสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้บ้าง เราน่าจะเห็นใจคนเหล่านี้บ้างนะ ทำไมไม่หาวิธีที่พบกันครึ่งทางได้ล่ะ เช่นกระเช้านี้ก็เปิดให้คนที่กล่าวมาได้ใช้ในราคาที่ถูกกว่า ส่วนคนทั่วไปก็เก็บในราคาที่แพงกว่าหน่อย แล้วเอาส่วนต่างตรงนี้ไปให้สมาคมลูกหาบเอาไปแบ่งกัน ส่วนคนที่อยากเดินก็เดินขึ้นต่อไป ไม่เห็นมีใครจะน่าว่าอะไร ใช่ว่าเรื่องนี้จะมีแต่ไม่ดีเมื่อไหร่
โดย : Stereotype
ดีใจที่จะมีกระเช้าขึ้นภูกระดึง เสียทีเพราะรอจนอายุจะ 50ปี แล้วไม่คิดจะเดินขึ้นหรอกรอให้มีกระเช้าก่อน ลูกหาบดูแล้วเหมือนทาส น่าจะมีงานอื่นแทนที่ดีกว่าการใช้แรงงานอย่างทารุณ พวกเขาคงเต็มใจที่จะเปลี่ยน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ไม่เห็นจะมีความสุขเลยที่เห็นภาพคนแบกของหนักเดินขึ้นเขาตั้งหลายกิโล แลกกับเงินเล็กน้อย แล้วมาบอกว่าเป็นเอกลักษณ์ ถามว่าให้คุณทำ จะทำไหมหล่ะ
โดย : s_waisoka@hotmail.com
นึกถึงคนแก่ที่ไม่เคยขึ้นเพราะมัวแต่ทำงานหาเงินส่งลูกเรียนหนังสือ แต่อยากขึ้นตอนนี้ก็ไม่มีแรงซะแล้ว
โอกาสของพวกเขากำลังจะมาถึงถ้ามีกระเช้าไฟฟ้า
โดย : น่าเห็นใจเหมือนกันนะ
ผมเห็นว่าควรสร้างครับ..เพราะคนที่เดินไม่ไหวก็จะได้ขึ้นกระเช้าไปเที่ยวบ้าง ส่วนคนที่ยังเดินไหวและไม่อยากเสียเงินก็เดินขึ้นไป...มันก็จะเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว...เหมือนดอยสุเทพไงครับ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร...ทุกอย่างมีทั้งข้อดีข้อเสีย...รัฐคงอยากเข้าไปแก้ไขปัญหาให้คนทุกคนได้มีโอกาสทางสังคมเท่าๆกัน เช่น คนพิการต่างๆที่ยังไม่มีโอกาส จะได้มีโอกาสขึ้นไปเที่ยวกันบ้าง ทุกอย่างถ้าพวกคุณมองมุมเดียวก็จะคิดว่าตัวเองคิดถูกแล้วคนอื่นผิดหมดไม่ได้...เพราะแผ่นดินนี้เป็นของทุกคนนะครับ...และรัฐจะต้องปกครองในทุกคนมีโอกาสเสมอกัน
จะให้คนกลุ่มเดียวนั้นมิได้
โดย : สมาคมคนพิการ
ผมขึ้นภูกระดึงมาแล้ว 15 ครั้ง ธรรมชาติสวยมาก ตอนนี้อายุมากแล้ว แต่ก็อยากขึ้นอีก คงขึ้นไม่ไหว ถ้าไม่มีกระเช้า ความจริงแล้วการมีกระเช้าไม่เลวร้ายทั้งหมด คนที่จะเดินขึ้นก็เดิน คนที่จะขี้นกระเช้าก็ขึ้น ให้ทางภูกระดึงจำกัดจำนวนคน สำหรับสัมภาระของคนขึ้นกระเช้าให้ลูกหาบแบกเหมือนเดิม ห้ามใส่กระเช้า ข้อดีของกระเช้ามีอีกอย่างคือ ให้ขนขยะลงจากภูกระดึง ตอนนี้ถ้าหากใครเคยเดินไปด้านหลังโรงอาหาร จะเห็นภูเขาขยะขนาดใหญ่พอสมควร (โชคดีพบช้างป่าคุ้ยขยะอีกต่างหาก) หากมีกระเช้าคงกำจัดขยะได้มาก ความสวยงามสมบูรณ์ของภูกระดึง คงจะอยู่ได้อีกนาน และผมคงจะขึ้นภูกระดึงได้อีกเป็นครั้งที่ 16
โดย : prapun93@thai.com
เห็นด้วยสุดๆ ให้สร้าง
เพื่อการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ
มีทางเลือกได้2ทาง
-ใครคัดค้านก็เดินขึ้นไปดิไม่มีใครห้ามนี่หว่าชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ
-ใครไม่อยากเหนื่อยก็ขึ้นกระเช้าไป
ผิดด้วยหรือ
อ้อมีทางเลือกที่3
ทำลานจอดhelicopterด้วยยิ่งแจ๋ว
จะได้ประหยัดเวลาไปอีกอื้อ
โดย : เสี่ยสั่งลุย
นี่ก็เป็นหลากหลายความคิดเห็นของสองขั้วความคิด ซึ่งเมื่อเฉลี่ยจำนวนของผู้คัดค้านกับผู้ที่เห็นด้วยในการสร้างกระเช้าที่แสดงความคิดเห็นเข้ามาในหน้าท่องเที่ยวผู้จัดการออนไลน์ ณ วันที่ 11 ม.ค. 49 จะอยู่ที่ คัดค้าน 85% : เห็นด้วย 15 %
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบทสรุปสุดท้ายจะเป็นเช่นไรนั้น อีกไม่นานคงจะได้ทราบคำตอบกัน
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทักษิณไฟเขียวกระเช้าภูกระดึงคุมเข้มสิ่งแวดล้อม
ลูกหาบภูกระดึง : ฤาจะเหลือเพียงตำนาน
ที่สุดแห่งภูกระดึง
“เก็บ”มิตรภาพที่ตกหล่น บน“ภูกระดึง”
เสน่ห์“ภูกระดึง” ถึงวันนี้ยังมีมนต์ขลัง
จาก“ภูกระดึง”ถึง“เก็บตะวัน”
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>