ทัพภาค3น้อมนำพระราชดำรัส'ในหลวง''เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา'ช่วยภัยหนาว

ทัพภาค3น้อมนำพระราชดำรัส'ในหลวง''เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา'ช่วยภัยหนาว



จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม เรื่อยมาจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมของทุกปี และต่อยาวไปจนช่วงต้นกุมภาพันธ์ของปีถัดไปนั้น ในช่วงระยะเวลา 4 เดือนดังกล่าว ก็ทำให้ประชาชนบนพื้นที่สูง และในถิ่นทุรกันดาร ประสบกับภัยพิบัติภัยหนาวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว และสิ่งอุปโภค บริโภคต่าง ๆ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีคนบนพื้นที่สูง หรือกลุ่มชาวเขาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และบางพื้นที่นั้นหลาย ๆ หน่วยงานของภาครัฐและเอกชนไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้ เนื่องจากขาดเรื่องของพาหนะ ที่จะขนส่งเข้าไป เพราะเป็นหมู่บ้านห่างไกลและพาหนะทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้

ดังนั้นจึงต้องพึ่งกำลังพลของทหาร ซึ่งในเขตพื้นที่ภาคเหนือผู้ดูแล และคอยให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มประชาชน ก็มีกองกำลังผาเมือง และหน่วยทหารพราน ที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ คอยให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พลเอกธีระวัฒน์ บุญยะประดับ รองผู้บัญชาการทหารบก และคณะได้เดินทางไปพบปะ และมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับราษฎร บ้านนาศิริ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จำนวน 600 ผืน โดยมี พลโทธงชัย เทพารักษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 พลตรีปราการ ชลยุทธ ผบ. กกล.ผาเมือง พร้อมคณะรวมถึงกลุ่มอาจารย์นักเรียน และชาวบ้านในหมู่บ้านนาศิริ ให้การต้อนรับ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้ก็เป็นหมู่บ้านห่างไกล และการเดินทางค่อนข้างลำบากเช่นกัน ซึ่งก็มีกลุ่มชาวเขาอาศัยในพื้นที่นี้เป็นจำนวนมาก

พลเอกธีระวัฒน์ เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้คนบนพื้นที่สูงประสบปัญหาอย่างต่อเนื่องเรื่องของสภาพร่างกาย และความเป็นอยู่ ที่ผ่านมานั้นทางภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอก ชน ก็ได้ออกให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ทั้งนี้ในบางพื้นที่ก็มีข้อจำกัดเรื่องของการเดินทางเพื่อที่จะนำสิ่งของเข้าไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยพิบัติภัยหนาว และล่าสุดทางจังหวัดเชียงใหม่ก็ประกาศออกมาแล้วทั้งหมด 14 พื้นที่ให้เป็นพื้นที่ประสบภัย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่หน่วยงานต่าง ๆ เดินทางเข้าไปไม่ถึงได้ เมื่อเกิดความคิดนั้นประกอบกับศักยภาพทางทหาร ที่มีพาหนะทั้งทางอากาศและทางบก ที่สามารถเข้าไปได้สะดวกกว่าหน่วยงานอื่น จึงได้เริ่มดำเนินการจัดหาผ้าห่มกันหนาวเพื่อนำมามอบให้กับราษฎรที่ประสบภัย สำหรับในพื้นที่ห่างไกลมาก และการเดินทางด้วยรถไม่สะดวก อย่างเช่นที่บ้านนาศิริ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แห่งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ ในการนำสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือประชาชน เพราะการเดินทางนั้นไกล และไม่สะดวกในเรื่องของพาหนะอื่นที่จะนำสิ่งของต่าง ๆ เข้าไปในพื้นที่ ดังนั้นจึงถือว่าเฮลิคอปเตอร์ ได้มีส่วนเข้ามาช่วยเหลือประชาชนได้เป็นอย่างดี ไม่ได้เอาไว้เพื่อการสู้รบอย่างเดียวเท่านั้น แต่หากประชาชนเดือดร้อนก็สามารถนำมาช่วยเหลือประชาชนได้ และถือเป็นภารกิจช่วยเหลือที่สำคัญไม่แพ้เรื่องของการป้องกันบ้านเมือง

ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ ที่เดินทางเข้าไปไม่ถึงด้วยรถยนต์นั้น ในภาคเหนือก็มีอยู่กว่า 100 หมู่บ้าน แต่กำลังทหารมีการเตรียมพร้อมคอยให้ความช่วยเหลือตลอด ถึงแม้จะเดินทางด้วยรถยนต์ไม่ได้ก็ใช้เฮลิคอปเตอร์ก็เตรียมพร้อมไว้จำนวน 6 ลำที่สามารถนำมาปฏิบัติการให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันที แต่ถ้าหากว่าพื้นที่เป้าหมายนั้น ไม่มีทั้งทาง บก และทางอากาศที่สามารถเข้าไปถึงได้ ก็จะตั้งจุดรับส่งสิ่งของตามจุดที่เฮลิคอป เตอร์สามารถลงจอดหรือรถเข้าถึงได้ จากนั้นก็จะใช้ล่อหรือฬ้อ ซึ่งเป็นสัตว์ที่อดทน และใช้เป็นพาหนะในการขนสิ่งของได้เป็นอย่างดี และทางทหารก็มีอยู่จำนวน 22 ตัวในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ที่จะทำการนำสัมภาระต่าง ๆ เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

อย่างไรก็ตาม ทางทหารเรามั่นใจว่ามีการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่เดือดร้อนได้เป็นอย่างดีและ มั่นใจว่าสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทุกพื้นที่อย่างแน่นอน ตามแนวทางที่จะมุ่งมั่นช่วยเหลือ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้กับพี่น้องประชาชน โดยการน้อมนำกระแสพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ซึ่งเป้าประสงค์ คือ การทำให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และมีความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน.

สนั่น เข็มราช / สราวุธ แสนวิชา


-----------
เดลินิวส์ออนไลน์
Daily News Online > หน้าภูมิภาค > ทัพภาค3น้อมนำพระราชดำรัส'ในหลวง''เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา'ช่วยภัยหนาว